คนสร้างสุข

กรมการนำเอกสาร ภาพถ่าย บัญชีต่างๆในโครงการ มารวมกันทำรายงานงวด และรายงานฉบับสมบูรณ์

กรรมการ 5 คนร่วมกันบันทึกทำรายงานกิจกรรมและสรุปประเด็นสำคัญ สรุป ได้ดังนี้ 1. ด้านการเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนของครัวเรือน มีเพียงร้อยละ 70 เนื่องจากเป็นสังคมเมืองที่เร่งรีบ อาชีพค้าขาย ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการเขาร่วมกิจกรรม การใช้กลยุท์จิตอาสาที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันทำกิจกรรมจึงเป็นที่ยอมรับ และแก้ปัญหาของชุมชนได้ 2เกิดกลุ่มอาสาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นชุมชน จำนวน 15 คน และในโรงเรียนนาควารี จำนวน 15 คน
3.การเบิกจ่ายงบประมาณโครงการ ได้รับการตรวจสอบจากกลุ่มอื่นๆในชุมชน ส่งผลให้การบริหารงบประมารเป้นธรรม โปร่งใส
4. เกิดความร่วมมือกับชุมชนคงคาสวัสดิ์ ซึ่งได้ร่วมกันจัดทำข้อบัญญัติชุมชนในการใช้สวนหย่อมคนเมือง ภายใต้ชื่อ สวนหย่อมคงคา-วารีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ชุมชนคงคาสวัสดิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ท่าลงแพขนานยนต์ที่ใช้ทำสวนหย่อมคนเมือง ส่วน แรงกาย งบประมาณ โครงการ จากสสสเพียง 6000 บาท เท่านั้น นอกจากนั้นได้รับสนับสนุนจากคนในชุมชน และเทศบาลเมืองปากพนัง ได้แก่ อ.นิเวศ วนคุณากร และ อ.พิณ สงนุ้ย และนายเลือดไทย ไหมนวล นายเฉลียว ไสยรัตน์ และทีมผู้บริหารเทศบาลเมืองปากพนัง โดยนายกพิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ และรอง ณัฐนันทร์ จันทราทิพย์ ซึ่งมาเป็นประธาน และสนับสนุนโดยมอบให้ กองช่างมามีส่วนร่วม จัดทำแผนผัง แปลน สวนหย่อม และการดุแลปรับปรุง บริเวณป้อมยามเก่า และนอกจากนั้นมีพี่เลี้ยงโครงการ คุณปาลีรัตน์ แก้วประดิษฐ์ เป็นที่ปรึกษา และบริจาคหนังสือเก่าไว้ในชั้นอ่านหนีงสือสวนหย่อม จำนวน 150 เล่ม และต้นไม้ดั้งเดิมของปากพนัง ที่เริ่มลดน้อยลงได้ แก่ เรียนน้ำ ต้นจิก ลำแพง ก้มีการบริจาคมาปลูกให้ความร่มรื่นด้วย ให้ประโยชน์แก่คนในชุมชน ซึ่งรวมมูลค่าและงบประมาณ ทั้งสิ้น จำนวน 45,000 บาท 5.จากการถอดบทเรียนร่วมกับชุมชนนาควารี ได้รับฟัง วิธีการดีๆของแต่ละโครงการ เกิดการจัดการความรู้นำไปประยุกต์ใช้ในชุมชนต่อไป และเกิดการสนับสนุนคนในชุมชนให้เกิดความตระหนักในแนวคิดร่วมสร้างพื้นที่สีเขียว และแนวคิดการลดปริมาณขยะในครัวเรือนโดยนำขยะมาทำวัสดุกระถางอุปกรณ์ปลูกต้นไม้ ได้แก่ ตะกร้อนำมาปลูกเคราฤาษี หมาจาก มาปลูกคุนนายตื่นสาย กะลา นำมาปลูกพลูด่าง แขวน ถังดองปลา มาปลูกไม้ใหญ่ ยางรถยนต์ มาปลูกไม้ดอก ผักสวนครัว สอบปุ๋ย มาปลูกพริกแกง มะเขีย ผักสมุนไพร นานาชนิด จากผลดังกล่าวให้ทีมงานร่วมกันเขียนรายงานสมบูรณ์ (ส.3) และรวบรวมเอกสารส่งสสส.ต่อไป

กรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ

ไมมี

ไ่ม่มี

ไม่มี

ประเมินคุนค่าโครงการและข้อเด่น ข้อด้อย สิ่งดีๆ ความเปลี่ยนแปลงในชุมชนที่ดี โดยการใช้แบบฟอร์มประเมินคุณค่าโครงการ ให้กรรมการบันทึก จากนั้นสรุปประเด็นสำคัญ และมีข้อมูลตรงกัน โดยการให้บันทึกลงในกระดาษแล้วเอาผลสรุป พี่เลี้ยงประเมินและบันทึกการติดตามครั้งที่ 2 พร้อมประเมินคุณค่าโครงการตามแบบประเมินนำไปรายงานในผลลัพธ์ คุณค่าที่ได้จากโครงการ

ประเมินคุนค่าโครงการและข้อเด่น ข้อด้อย สิ่งดีๆ ความเปลี่ยนแปลงในชุมชนที่ดี โดยการใช้แบบฟอร์มประเมินคุณค่าโครงการ ให้กรรมการบันทึก จากนั้นสรุปประเด็นสำคัญ และมีข้อมูลตรงกัน นำไปรายงานในผลลัพธ์ คุณค่าที่ได้จากโครงการ สรุป ได้ดังนี้ 1. ด้านการเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนของครัวเรือน มีเพียงร้อยละ 70 เนื่องจากเป็นสังคมเมืองที่เร่งรับ อาชีพค้าขาย ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการเขาร่วมกิจกรรม การใช้กลยุท์จิตอาสาที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันทำกิจกรรมจึงเป็นที่ยอมรับ และแก้ปัญหาของชุมชนได้ โดยเกิดกลุ่มอาสาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นชุมชน จำนวน 15 คน และในโรงเรียน จำนวน 15 คน ร่วมกิจกรรมชุมชนต่อไป 2. กรรมการชุมชนในชุมชนเมืองมีการสื่อสารกันตลอดเวลา ทำให้การดำเนินโครงการ ความก้าวหน้าของโครงการ ตลอดจนการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการ ได้รับการตรวจสอบจากกลุ่มอื่นๆในชุมชน ส่งผลให้การบริหารงบประมารเป้นธรรม โปร่งใส 3. เกิดความร่วมมือกับชุมชนใกล้เคียง โดยเฉพาะชุมชนคงคาสวัสดิ์ ซึ่งได้ร่วมกันจัดทำข้อบัญญัติชุมชนในการใช้สวนหย่อมคนเมือง ภายใต้ชื่อ สวนหย่อมคงคา-วารีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ชุมชนคงคาสวัสดิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ท่าลงแพขนานยนต์ที่ใช้ทำสวนหย่อมคนเมือง ส่วน แรงกาย งบประมาณ โครงการ จากสสสเพียง 6000 บาท เท่านั้น นอกจากนั้นได้รับสนับสนุนจากคนในชุมชน และเทศบาลเมืองปากพนัง ได้แก่ อ.นิเวศ วนคุณากร และ อ.พิณ  สงนุ้ย และนายเลือดไทย  ไหมนวล นายเฉลียว ไสยรัตน์ และทีมผู้บริหารเทศบาลเมืองปากพนัง โดยนายกพิเชษฐ์  กล้าสุคนธ์ และรอง ณัฐนันทร์ จันทราทิพย์ ซึ่งมาเป็นประธาน และสนับสนุนโดยมอบให้ กองช่างมามีส่วนร่วม จัดทำแผนผัง แปลน สวนหย่อม และการดุแลปรับปรุง บริเวณป้อมยามเก่า  และนอกจากนั้นมีพี่เลี้ยงโครงการ คุณปาลีรัตน์  แก้วประดิษฐ์ เป็นที่ปรึกษา และบริจาคหนังสือเก่าไว้ในชั้นอ่านหนีงสือสวนหย่อม จำนวน 150 เล่ม และต้นไม้ดั้งเดิมของปากพนัง ที่เริ่มลดน้อยลงได้ แก่ เรียนน้ำ ต้นจิก ลำแพง ก้มีการบริจาคมาปลูกให้ความร่มรื่นด้วย ให้ประโยชน์แก่คนในชุมชน ซึ่งรวมมูลค่าและงบประมาณ ทั้งสิ้น จำนวน 45,000 บาท 4. เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างชุมชนที่ร่วมโครงการสสส.ด้วยกันในเขตเทศบาล โดยการ นัดประชุม กรรมการ และถอดบทเรียนร่วมกัน ได้รับฟัง วิธีการดีๆของแต่ละโครงการ เกิดการจัดการความรู้นำไปประยุกต์ใช้ในชุมชนต่อไป 5.เกิดการสนับสนุนคนในชุมชนให้เกิดความตระหนักในแนวคิดร่วมสร้างพื้นที่สีเขียว และแนวคิดการลดปริมาณขยะในครัวเรือนโดยนำขยะมาทำวัสดุกระถางอุปกรณ์ปลูกต้นไม้ ได้แก่ ตะกร้อนำมาปลูกเคราฤาษี หมาจาก มาปลูกคุนนายตื่นสาย กะลา นำมาปลูกพลูด่าง แขวน ถังดองปลา มาปลูกไม้ใหญ่  ยางรถยนต์ มาปลูกไม้ดอก ผักสวนครัว สอบปุ๋ย มาปลูกพริกแกง มะเขีย ผักสมุนไพร นานาชนิด จากผลดังกล่าวให้ทีมงานร่วมกันเขียนรายงานสมบูรณ์ (ส.3) และรวบรวมเอกสารส่งสสส.ต่อไป

กรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ

ยังมีความต้องการพัฒนาต่อยอดด้านแนวคิดการจัดการชุมชนเมืองต่อไป

เห็นควรสนับสนุนการพัฒนาต่อยอด

ไม่มี

กรรมการโครงการ พี่เลี้ยงโครงการ จำนวน 5 คน รวบรวมเอกสารจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ โดยมีพี่เลี้ยงโครงการคุณปาลีรัตน์  แก้วประดิษฐ์ ให้คำแนะนำและความช่วยเหลือในการจัดทำรายงานแต่ละประเภท โดยนางดวงกมล ทำหน้าที่รวบรวมรายงานบันทึกกิจกรรม ครูพิณ ตรวจสอบรายงานเบิกจ่ายงบโครงการและแบบบัญชีรับจ่าบ ร่วมกับพี่เลี้ยง นางทัศนีย์  และพรพิชญ์ เหรัญญิก ช่วยกันรวบรวมและตราวจสอบรายการเบิกจ่าย และการทำบัญชีโครงการ และหลักฐานการเงิน จากนั้นแยกเป้นชุดๆเตรียมรับการตรวจสอบ

จากการนัดมารับการติดตามและตรวจสอบเอกสารโครงการพบว่า 1. รายงานส.3 เป็นรายงานเล่มฉบับสมบูรณ์ ต้องใช้ความคิดและการเขียนที่สละสลวย ซึ่งพี่เลี้ยงโครงการมีส่วนช่วยแนะนำมากที่สุด 2. รายงานความก้าวหน้าของโครงการมรูปถ่ายประกอบแล้ว 3. รายงาน การเงิน ง1 ง1 งวด 2  รวมดอกเบี้ย งวด 1 จำนวน 67.52  งวดที่ 2 เท่ากับ 89.10 บาทเบิกจ่ายบัญชีเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่31 กค.5 เหลือยอดในบัญชี 4.62 บาท 4. พิมเอกสารรายงาน ส 1 ส2 ส3 ง 1 และรวบรวมรายงานการประชุม

กรรมการโครงการ พี่เลี้ยงโครงการ จำนวน 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ทีมงานช่วยกันรวบรวมรายงานดังนี้ 1. เจ้าหน้าที่การเงินโครงการตรวจสอบบัญชีตั้งแต่เริ่มโครงการจนปัจจุบัน ให้ตรงกับหลักฐาน 2.เลขานุการตรวจสอบรายงานบันทึกกิจกรรม ให้ตรงกับปฎิทินและ ค่าใช้จ่ายแยกตามหมวด 3. ประธานและผู้รับผิดชอบ เขียนรายงานผลลัพธ์โครงการและคุณค่า 6 ประการ ร่วมกับพี่เลี้ยง โดยนำรายงานผลการถอดบทเรียน มาเรียบเรียง 4. พี่เลี้ยงช่วยจัดทำรายงานการเงืน งวด 1-2 และ ส 2

ทีมงานช่วยกันรวบรวมรายงานดังนี้ 1. เจ้าหน้าที่การเงิน  พรพิชญ์  เนียมศิริ ตรวจสอบบัญชีตั้งแต่เริ่มโครงการจนปัจจุบัน ให้ตรงกับหลักฐาน พบว่าไม่มีปัญหา 2.เลขานุการตรวจสอบรายงานบันทึกกิจกรรม ให้ตรงกับปฎิทินและ ค่าใช้จ่ายแยกตามหมวด พบว่า ยังเจอรายการที่ไม่ตรงกัน ให้ช่วยกันปรับแก้ และ จัดหาภาพถ่ายประกอบ 3. ประธานและผู้รับผิดชอบ เขียนรายงานผลลัพธ์โครงการและคุณค่า 6 ประการ ร่วมกับพี่เลี้ยง โดยนำรายงานผลการถอดบทเรียน มาเรียบเรียง 4. พี่เลี้ยงช่วยเหลือและตรวจสอบรายงาน และ แจ้งให้นำส่งก่อน 15 สค .57

ผู้รับผิดชอบโครงการ 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดกิจกรรมถอดบทเรียน โดยอ.นิเวส และพี่เลี้ยงโครงการ มาเป็นผู้ดำเนินการ โดยมีสท.ในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมคอยสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จากนั้น บันทึกข้อเด่น ผลผลิต ตัวชี้วัดผลลัพธ์โครงการเชิงปริมาณ คุณภาพ เป็นต้น

จากการถอดบทเรียน  พบว่าเกิดผลดังนี้ 1 ตัวชี้วัดตามโครงการ เชิงปริมาณได้ผล ร้อยละ 70 เช่นคนเข้าร่วม กลุ่มจิตอาสา มีกิจกรรมต่อเนื่อง เกิดสวนหย่อมคนเมือง เกิดกติกาข้อบัญญัติชุมชนคงคาและวารีสวัสดิ์ กรรมการมีการประชุมต่อเนื่องทุกเดือน เกิดนวตกรรมในการปลูกต้นไม้ในกระถาง สวนผักคนเมิอง เช่น กะลาปลูกต้นไม้ กระถางจากถังดองปลา กาบมะพร้าว 2.คนมีความตรหนักเพิ่มขึ้น ในการร่วมกันเก็บขยะทำความสะอาดในบ้าน และสวนหย่อม ในแม่น้ำ คนมีส่วนร่วมในการเป็นจิตอาสา 30 คนโดยผลัดเปลี่ยนกันช่วยดูแล คนมีการปลูกต้นไม้ และช่วยกันดูแล ใส่ปุ๋ยรดน้ำต้นไม้ในชุมชน คนมีจิตใจร่วมด้วยช่วยกันโดยนำกระถาง ต้นไม้ ตนเอง มาแชรฺกับโครงการ มีการบริจาคต้นไม้ หนังสือ ลงในสวนหย่อม เพื่อไว้ให้คนในชุมชนได้แบ่งปัน 3. สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัด คือ มีกระถางและต้นไม้ประดับ ผัก สมุนไพร ในสองข้างถนน ตลอดแนวชุมชน ทั้ง สี่โซน และ เกิดสวนหย่อมคนเมือง ที่มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างชุมชนวารีสวัสดิ์และใกล้เคียง เกิดข้อบัญญัติในการร่วมกันใช้พี้นที่สาธารณะ  เกิดผ่อนคลาย ความเครียด สร้างสุข เพิ่มปอดในเมือง 4.ความประทับใจ คนช่วยกันเป็นจิตอาสา พี่เลี้ยงดูแลใกล้ชิด มีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน เช่น รร.นาควารี เทศบาลเมืองปากพนัง  ส่วนเอกชน อาจารย์ ข้าราชการบำนาญ

ผู้เข้าร่วมโครงการ กรรมการ พี่เลี้ยง เทศบาลเมืองปากพนัง

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เชิญปราชญ์ชุม น อ.นิเวส วนคุณากร อดีตผอ.รร.เทศบาลวัดนาควารี มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แนวทางการปลูกดูแลต้นไม่ชุมชนเมอง ตามความรู้และประสบการณ์ และให้ชุมชนที่ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนกันเพื่อบันทึกเป็นองค์ความรู้ หลักการ วิธีการของชุมชนวารีสวัสดิ์ในการร่วมกันดุแลต้นไม่ใชุมชน

เกิดแนวทาง องค์ความรู้วิธีการดูแลต้นไม่ การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพตามแนวของชุมชน การปรับปรุงวัสดุมาใช้ประโยชน์เป็นต้น และการรวมกลุ่มจิตอาสาใน การให้ความสำคัญและคุณค่าแก่คนที่เก่งและมีความรู้ในชุมชนคือ  นายกเทศมนตรี  หัวหน้ากองช่าง และนายช่างกองช่าง เทศบาลเมืองปากพนัง ในการเขียนแบบแปลนสวนหย่อม  รวมทั้ง สท.ในพื้นที่ ได้แก่ นายเฉลียว  ไสยรัตน์ และ สท.ขนุน มาร่วมทุกกิจกรรม อ.นิเวศ วนคุณากร ที่เป็นอดีตอาจารย์บำนาญ มาเป็นผู้ดำเนินการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อ.มณฑล และ อ.โสพล จากโรงเรียนนาควารี ที่นำนักเรียนกลุ่มจิตอาสามาช่วยในกิจกรรมรักสิ่งแวดล้อม และพี่เลี้ยงโครงการที่เป็นที่ปรึกษาทุกด้าน

ชาววารีสวัสดิ์ และกรรมการโครงการ วิทยากรแลกเปลี่ยน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดงานแสดงผลผลิตโครงการ โดยการติดตามถ่ายรูปครัวเรือนที่ปลูกต้นไม้ และทำกระถางประดิษฐ์ด้วยวัสดุต่างๆ มาแสดงแสดง และประกวดให้รางวัล พร้อมให้ของที่ระลึกผู้มาร่วมโครงการ แบ่งเป็นประเภทสวยงาม ความคิดสร้างสรรค์ ประหยัด มีพิธีเปิดสวนหย่อมคนเมือง ของชุมชนวารีสวัสดิ์ โดยผู้บริหารท้องถิ่น จากนั้น ในช่วงบ่ายจัดกิจกรรมถอดบทเรียน ประเมินผลโครงการ 

มีคนมาร่วมกิจกรรมจำนวน 70 คน ได้แก่ น ายก รองนายก และทีมกองสาสุข และกองช่าง ทีมครู อาจารย์ นักเรียน รร.นาควารี และตัวแทนชุมชนคงคาสวัสดิ์ ร่วมกิจกรรม พิธีเปิดสวนหย่อม ร่วมรับประทานอาหาร และ ถอดบทเรียน ร่วมกับพี่เลี้ยงโครงการในตอนบ่าย บรรยากาศดี เป็นกันเอง มีส่วนร่วม ภาคีเครือข่าย ร่วมกิจกรรมให้กำลังใจแก่กลุ่มจิจอาสาที่ช่วยกันสร้างสวนหย่อมคนเมือง  จนสามารถเปิดบริการประชาชนในชุมชนฝั่งตะวันตกได้ และนับเป็นผลผลิตชิ้นสำคัญที่มีคุณค่ามากในชุมชน

จากนั้น อ.นิเวส วนคุณาการ ได้ร่วมเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมพี่เลี้ยงโครงการ อ.โสพล ผอ.ร.นาควารี และ จนท.จากเทศบาลเมืองปากพนัง มีผู้ร่วมประกวดต้นไม้และกระถาง โดยการประดิษฐ์ได้รับรางวัล ได้แก่ นางดวงกมล ประเภทนวตกรรม ใช้หมาจากปลูกคุนนายตื่นสาย ประเภทความคิดสร้างสรรคใช้วัสดุเก่า ได้แก่ เคราฤาษีในลูกตะกร้อ และ ประเภทสวยงาม ได้แก่ กะลาขัดปลูกพลูด่าง และกล้วยไม้ เป็นต้น นอกจากนั้นประธานชุมชน ก็เป็นต้นแบบด้านการปลูกต้นไม้สวยงามในบริเวณบ้าน สำหรับอ.นิเวสซึงเป็นวิทยากรเอง นั้นเป็นต้นแบบมานานแล้วด้านการปลูกต้นไม้ นับว่าเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าคนนึง

กรรมการ ตัวแทนโครงการ ชาววารรีสดิ์ ภาคีเครือข่าย

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

กรรมการร่วมกันนำเอกสารการเงิน บันทึกกิจกรรม ตรวจสอบความถุกต้อง และจัดทำรายงาน ส1 ส2 ส 3 ส4

แก้ไข บันทึกกิจกรรม ตรวจสอบรายงาน การเงิน กัสมุดบัญชีธนาคาร ผลสรุปดังนี้ 1. รายงาน ง1 ยังไม่ถุกต้อง ให้เจ้าหน้าการเงืนตรวจสอบกับพี่เลี้ยง 2. รายงาน ส2 พี่เลี้ยงดำเนินการให้ 3. จัดทำเอกสารรายกืจกรรมแยกงบอื่นๆออกจากงบโครงการเพื่อตรวจสอบหมวดงบประมาณ 4. จัดทำรายงาน ง3 โดยนำผลการถอดบทเรียนจากวันที่ 27 มาเติม

กรรมการโครงการ

มีเรื่องงบประมาณไม่เพียงพอ แก้ไขโดยการปรับจำนวนกลุ่มเป้าหมายให้สอดคล้องกับงบประมาณที่เหลือ

ขอใช้จ่ายงบประมาณในหมวดอื่นๆที่สสส.สนับสนุน ในส่วนกิจกรรมโครงการในการจัดทำรายงาน ป้าย ตามเหมาะสม

ไม่มี

ร่วมพัฒนาการเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์  ส 3 l 4 ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และ ถอดบทเรียน ระดับจังหวัดนครศรีธรรมราช แก้ไขปัญหาอุปสรรคโครงการร่วมกัน เรื่องรายงานการเงิน และการแก้ปัญหาการปิดงวด

ผู้รับผิดชอบโครงการ เลขานุการ และเจ้าหน้าที่การเงิน ร่วมประชุมรับการพัฒนาจากพี่เลี้ยงโครงการร่วมกันทั้งจังหวัด ได้ผลสรุปดังนี้ 1. รับการฝึกการเขียนรายงานปิดงวด สอง และรายงานฉบับสมบูรณ์ 2. กิจกรรมดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน20 สคใ57 3. กรณีงบประมาณที่ได้รับ ไม่ตรงตาม TOR แจ้งสสส.แล้วและไม่  .มีปัญหาใดๆในการดำเนินการต่อเนื่อง 4. งบสบัยสนุนจาก สสส.จำนวน 13000 ให้แยกประเภทและบันทึกรายงานให้ครบถ้วน กรณีเงินเหลือต้องคืนสสส

ผู้รับผิดชอบโครงการ จนท.การเงิน เลขานุการ พี่เลี้ยง

การได้งบประมาณสนับสนุนไม่ตรงกับ TOR รายกิจกรรม แก้ไขโดยการแจ้งสสส.เพื่อปรับลดงบประมาณรายกิจกรรมให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ

ไม่มี

ไม่มี

ประธานชวนผูรับผิดชอบประชุมปรึกษาหารือการเตรียมงานประกวดต้นไม้ กระถาง

ผลสรุปดังนี้ 1. กรรมการมาร่วมประชุม 10 คน 2. พี่เลี้ยงพื้นที่เข้าร่วมประชุม 3. มติจัดกิจกรรมที่ 26 กรกฎาคม เวลา 09.00-16.00 โดยเชิญประธานชุมชนกล่าวรายงานและนายกเทศมนตรีมาเปิดงาน เชิญอ.นิเวศน์ วณคุณากร มาเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 4. เชืญสท.ขนุน แก้วปลายคลองมาร่วมแลกเปลี่ยน 5. มีกิจกรรมประกวด 4 ประเภท พร้อมรางวัล 6. จัดกิจกรรมถอดบทเรียน เลี้ยงอาหารกลางวันในช่วงบ่าย 

กรรมการโครงการ 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

รวมพลังจิตอาสารักษาสิ่งแวดล้อมโดยการโดยสลับสับเปลี่ยนผลัดเปลี่ยนกันเก็บขยะในแม่น้ำ ริมน้ำ เดือนละ 2-3 ครั้ง สัปดาห์ละ 5-10 คน ช่วยกันเก็บขยะในแม่น้ำดูแลความสะอาดและดูแลรักษาแม่น้ำปากพนัง โดยประธานชุมชนประสานผ่านเทศบาลเมืองปากพนังขอเรือมาล่องเก็บขยะริมน้ำ ร่วมกับกลุ่มจิตอาสา คราวละ 5-10 คน 

ผลสรุปการร่วมกันจัดการขยะเชิงอนุรักษ์แม่น้ำปากพนังได้ข้อสรุปดังนี้ 1. กลุ่มจิตอาสาร่วมกันเก็บขยะ เดือนละ 2 ครั้ง
2. ประกาศให้ทุกคนร่วมกันไม่ทิ้งขยะลงในแม่น้ำ 3. สนับสนุนแนวคิดการเชิดชูผู้ทำความดีของชุมชน 4. การจัดเก็บขยะในกิจกรรมครั้งนี้ ทำจำนวน 2 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ครั้งละ 10-15 คน เนื่องจากมีเรือเก็บขยะเพียงลำเดียว ได้ขยะจำนวน 4 ถุงดำ

กลุ่มเยาวชน และชาวบ้านริมแม้น้ำ จำนวน 30 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

กลุ่มจิตอาสาแบ่งกลุ่มกันช่วยกันนำำปุ๋ยหมัก รดต้นไม้ จุดละ 6-7 คน ได้แก่ กลุ่มทำปุ๋ยหมัก กลุ่มนำปุ๋ยตระเวณใส่ต้นไม้ และกลุ่มจัดทำสวนหย่อม

ได้ผลเชิงคุณภาพและเป้าหมายตามแผนดังนี้ 1. ได้ผลผลิตน้ำหมักชีวิภาพจำนวน 3 ถัง 2. การติดป้ายสวนหย่อม การร่วมกันทำตู้หนังสือ และชั้นวางหนังสือในสวนหย่อมคนเมืองโดยกลุ่มช่างไม้และชาวบ้านริมน้ำ 3. กลุ่มนำน้ำหมัก ปุ๋ย และซ่อมแซมปลูกต้นไม้ทดแทนในชุมชน บรรยากาศในการทำกิจกรรม พบว่าต้องทำเป็นกลุ่มย่อยๆ เนื่องจาก พื้นที่ทำกิจกรรมคนละจุด และได้แบ่งคนออกเป้นกลุ่มๆตามที่อาสาและความถนัด
ผลเชิงปริมาณ พบว่า สวนหย่อมมีความก้าวหน้า 70 % ยังขาดป้ายชื่อสวนหย่อม ที่วางแผนทำในสัปดาห์ต่อไป

เด็กนักเรียน 3 คน ชาวชุมชน 10 คน

แก้ปัญหาคนเมืองไม่ว่างจากภาวะอาชีพค้าขาย โดยการแบ่งกลุ่มกันทำงาน ตามความถนัดและจิตอาสา

ไม่มี

ไม่มี

นำข้อตกลงและมติจากการประชุมวารีสวัสดิ์สัมพัน์มาดำเนินการในพื้นที่ ดังนี้ กลุ่มจิตอาสาร่วมกันบำรุงดูแลต้นไม้ จัดเวรใส่ปุ๋ยรดน้ำ วันละ 2 ครั้ง ร่วมกันเป็นหูเป็นตา โดยตัวแทนครัวเรือนละแวกใกล้เคียง ติดป้ายข้อตกลงการใช้สวนหย่อมชุมชน เพื่อรับรู้แนวทางปฏิบัติและเพื่อความเรียบร้อย

นำข้อตกลงและมติจากการประชุมวารีสวัสดิ์สัมพัน์มาดำเนินการในพื้นที่ ดังนี้ กลุ่มจิตอาสาร่วมกันบำรุงดูแลต้นไม้ มีจำนวน 30 คน วันละ 2 คน สลับกันเดือนละสองครั้งต่อคนมาจัดเวรใส่ปุ๋ยรดน้ำ วันละ 2 ครั้ง

ร่วมกันเป็นหูเป็นตา โดยตัวแทนครัวเรือนละแวกใกล้เคียง โดยมีตัวแทนจำนวน 5 คน และกองดับเพลิง ช่วยกันดูแลความสะอาด ติดป้ายข้อตกลงการใช้สวนหย่อมชุมชน เพื่อรับรู้แนวทางปฏิบัติและเพื่อความเรียบร้อย จัดทำต้ ชั้น วางหนังสือในบริเวณป้อมยาม ที่สวนหย่อม

จิตอาสาโครงการ 7 คน คนในชุมชน 7 คน

ปรับลดงบประมาณและกลุ่มเป้าหมายให้สอดคล้องกับงบประมาณ

ไม่มี

ไม่มี

1.กรรมการโครงการ 10 คน ร่วมกิจกรรมประชุมกับกลุ่มอสม.วารีสวัสดิ์ จำนวน 20 คน โดยแทรกวาระการประชุม เรื่องกิจกรรมเปิดสวนหย่อมคนเมือง ในกิจกรรมเปิดศสมช.ของชุมชน 2. ประธานโครงการได้ประชาสัมพันธ์เรื่องกิจกรรมที่ดำเนินไปแล้ว และกิจกรรมที่รอดำเนินการเพื่อการรับรู้ร่วมกัน
3. นางณัฐนันท์ จันทราทิพย์ รับปากช่วยสานต่อโครงการ และช่วยประานเรื่องสถานที่ การัดการต่อเนือ่ง

1.ร่วมกิจกรรมประชุมกับกลุ่มอสม.วารีสวัสดิ์ โดยแทรกวาระการประชุม เรื่องกิจกรรมเปิดสวนหย่อมคนเมือง 2. ประชาสัมพันธ์เรื่องกิจกรรมที่ดำเนินไปแล้ว และกิจกรรมที่รอดำเนินการเพื่อการรับรู้ร่วมกัน
3. ประธานกลุ่มอสม. ให้ความร่วมมือและประสานต่อกลุ่มอสม.ให้ทราบทั่วกัน

อสม.ชุมชน 10 คนกรรมการ 15 คน และกลุ่มคนทั่วไปในชุมชนวารีสวัสดิ์ และคงคาสวัสดิ์ 5 คน

กังวลเรื่องการร่วมกันดูแลสวนหย่อม และหนังสือที่จัดวาง แก้ไขโดยการให้ครัวเรือนที่อยู่ใกล้ช่วยกันดูแลเป็นหุเป็นตา

ไม่มี

ไม่มี

1 กรรมการโครงการ และกรรมการชุมชน และจิตอาสาโครงการในพื้นที่ ร่วมกันทำกิจกรรม 2 นำท่อซีเมนต์ และถังพลาสติกสูงเหลือใช้ มาทาสีตกแต่ง โลโกสสส. จากนั้น ให้ช่างเทศบาลมาช่วยดูแลแบบและความเหมาะสมในการจัดวาง 3.กิจกรรมที่ทำได้แก่ ยกท่อซีเมนต์มาวางในพื้นที่ แล้วลงดิน ปุ๋ยคอกที่ผสมไว้ โอนต้นไม้ในพื้นที่ที่จัดมาได้แก่ ต้นจิก 6 ต้น ไม้เฟื่องฟ้า และไม้ประดับเตี้ย ในบริเวณ 4 รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน

มีผลสรุปกิจกรรมวารีสัมพันธ์ดังน้ 1.มีการประสานงานที่ดีระหว่างชุมชนที่ดำเนินการกับชุมชนใกล้เคียง โดยมีเทศบาลปากพนังและหัวหน้าศูนย์สุขภาพชุมชนปากพนังประสานงาน 2.มีรูปแบบการพบปะที่ไม่เป็นทางการ เน้นความสะดวก จุดนัดพบพูดคุยได้แก่ ร้านกาแฟ บ้านประธานโครงการ จุดทำงานที่สวนหย่อมเป็นต้น เพื่อลดปัญหาและอุปสรรคเวลาเร่งรีบของคนชุมชนเมือง 3. เกิดข้อตกลงและกติการร่วมกันระหว่างชุมชนในการใช้พื้นที่สาธารณะแจ้งให้ชุมชนและผู้ใช้สวนหย่อมทั่วไปทราบโดยการจัดทำป้ายข้อตกลง ติดประกาศเพื่อการปฏิบัติแนวทางเดียวกัน 4. มีภาคีเครือข่ายในพื้นที่มาร่วมมากขึ้น และมีส่วนร่วมกับกลุ่มอื่นๆในพื้นที่มากขึ้น เช่นกลุ่มเอสเอ๊มแอล กลุ่ม อสม.

จิตอาสา5 คน และกรรมการโครงการ 5 คน ภาคีเครือข่ายจากชุมชนคนคาสวัสดิ์ 5 คน

คนมาร่วมกิจกรรมภาครวมค่อนข้างน้อย แก้ปัญหาโดยการทำกิจกรรม สองครั้งเพื่อให้ได้ปริมาณงานและคุณภาพเป็นไปตามแผนที่กำหนด

ไม่มี

ไม่มี

เยาวชนและจิตอาสาร่วมกับชุมชนใกล้เคียง ร่วมกันนำต้นไม้มาปลูกในบริเวณสวนหย่อมโดยใช่ปล่องซีเมน 6 ใบ ปลูกต้นจิกบ้าน เนื่องจากเป็นต้นไม้ยืนต้น หายาก และช่วยกันจัดวาง ตกแต่ง

สวนหย่อมเป็นรูปเป็นร่าง ตามแผนที่วางไว้ มีต้นไม้ยืนต้นให้ความร่มรื่นกับพื้นที่เวลาคนมาคอยเรือ ยังคงเหลือกิจกรรมการรับบริจาคหนังสือ และติดป้ายกติกาชุมชนและการใช้พื้นที่สาธารณะที่ชุมชนกำลังจัดทำ

กลุ่มจิตอาสา 7 คน กรรมการโครงการ 7 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

มีการประชุมเกี่ยวกับ 1. ความก้าวหน้าโครงการ ประธานแจ้งเรื่องเจ้าหน้าที่การเงินโครงการยังคงเดิม และกิจกรรมยังช้ากว่าแผนที่กำหนด ให้เร่งดำเนินการภายในกรกฎาคม
2. กิจกรรมที่ยังไม่ดำเนินการ ได้แก่ 1 สวนหย่อมคนเมือง งบ 6000 บาท ประสานเทศบาลแล้ว ดำเนินการตามแผนได้เลย
3. กิจกรรมสวนหย่อมคนเมือง กำหนดวันที่ 15 มิย57 โดยนำทีมเลือกหาต้นไม้ ในพื้นที่ ได้แก่ ต้นจิก เรียนน้ำ  และไม้ประดับสวนหย่อม ปรึกาานายช่างเทศบาล ร่วมมาดูแล 4. การเก็บรักษาเงินโครงการ กำหนดให้ ประธานเบิกจ่ายเงิน และเหรัญยิก เจ้าหน้าที่การเงินตรวจสอบบัญชี เช่นเดิม
5.  เรื่องแจ้งจากพี่เลี้ยงโครงการ แจ้งเรื่อง การดำเนินการโครงการทุกกิจกรรมให้แล้วเสร็จก่อนสิงหา โดยงบประมาณที่ สสสโอนให้ งวด 2 นั้นให้ดำเนินการให้โครงการแล้วเสร็จโดยสำรองจ่ายงบปะมาณงวด 3 ไปก่อน

ที่ประชุมรับทราบและ ร่วมกันดำเนินกิจกรรมตามแผน ดังนี้ วันที่ 15 มิย.57 จัดหาต้นไม้และลงมือทำสวนหย่อม วันที่ 10 มิย.57 ทำปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพ ครั้งที่ 2 วันที่ 18 มิย.57 ตกแต่งสวนหย่อมจัดทำป้ายกติกาชุมชนนำมาติดในที่สวนหย่อม ทำความสะอาดป้อมยาม จัดหาหนังสือมาบริจาค

กรรมการโครงการ 15 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ทีมจิตอาสาวารีสวัสดิ์ ช่วยกันแบ่งคน ทีมละ 5 คน ไปสำรวจต้นไม้พันธ์ไม้ในชุมชนเพื่อนำมาลงในสวนหย่อม 1 กลุ่ม และ ร่วมกันจัดหาขี้วัว ดิน สำหรับลงในสวนหย่อม  1 ทีม อีกทีม ช่วยกันจัดทำน้ำหมักชีวภาพ เพื่อนำมาแบ่งให้ชุมชนช่วยกันนำไปใส่ในต้นไม้ที่ปลูกไว้

ทีมจิตอาสาวารีสวัสดิ์ ช่วยกันแบ่งคน ทีมละ 5-6 คน ไปสำรวจต้นไม้พันธ์ไม้ในชุมชนเพื่อนำมาลงในสวนหย่อม 1 กลุ่ม และ ร่วมกันจัดหาขี้วัว ดิน สำหรับลงในสวนหย่อม  1 ทีม อีกทีม ช่วยกันจัดทำน้ำหมักชีวภาพ เพื่อนำมาแบ่งให้ชุมชนช่วยกันนำไปใส่ในต้นไม้ที่ปลูกไว้

ผลการจัดกิจกรรม มีบรรยากาศที่ต่างคนต่างร่วมด้วยช่วยกัน ทำในงานที่ตนถนัด และมีเวลาว่างเอื้ออำนวย การรับประทานอาหารกรรมการกลุ่มจัดข้าวกล่องให่แต่ละกลุ่มแบ่งไปรับประทาน

กลุ่มจิตอาสา 5 คน ชาวบ้าน 5 คน กรรมการ 5 คน

ไม่มี

ปรับลดกลุ่มเป็าหมายจิตอาสาเป็นครั้งละ 10 คน เพื่อให้สอดคล้องกับงบที่ได้รับอนุมัติ

ไม่มี

พี่เลี้ยงช่วยตรวจสอบเอกสารโครงการ จากนั้นนำส่งเอกสารให้เจ้าหน้าโครงการสสส.ตรวจสอบ

ผลสรุปการตรวจสอบเอกสาร พบว่า 1. เอกสารบันทึกกิจกรรมส่วนใหญ่ถูกต้อง ไม่ล่าช้า 2. เอกสารการเงิน ใบเสร็จรับเงินยังไม่ถูกต้อง ให้นำมาแก้ไขตามคำแนะนำ 3. ให้ผู้รับผิดชอบลงบันทึกกิจกรรมให้เป็นปัจจุบัน 4. กรรมการโครงการตรวจพบว่ากิจกรรมจามสัญญามีงบประมาณรวมจำนวน 174975 บาท แต่ได้รับอนุมัติงบจากสสสเพียง 151975 บาท ซึ่งมีผลต่างจากที่กำหนด จำนวน 23000 บาท ส่งผลให้การกำหนดงบประมาณในกิจกรรมต่างๆไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด จึงลงความเห้นและหามติในที่ประชุม ให้ลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นลงดังนี้ 1. ค่าวัสดุในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จำนวน 2400 บาท 2. ค่าอาหารในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามที่คนมาร่วมจริง จำนวน 72 คน เป็นเงิน 8640 บาท จาก งบ 12000 บาท 3. ค่าอาหารกลางวันกลุ่มจิตอาสา จำนวน 10 ครั้ง ครั้งละ 3600 บาท ตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม 57 ให้ปรับลดจำนวนจิตอาสาเหลือครั้งละ 10 คน โดยใช้งบเพียง 1200 บาทต่อครั้ง จำนวน  3 ครั้ง 4. ค่าวัสดุทำปุ๋ยหมัก ครั้งละ 1500 บาท จำนวน 4 ครั้ง ปรับลด เหลือเพียง 2 ครั้ง ลดจำนวน ได้ 3000 บาท 5. รวมจำนวนงบที่ปรับลดในกิจรรมทั้งสิ้น 23160 บาท

ผู้รับผิดชอบโครงการ 3 คน

ปรับแก้รายการกิจกรรมให้สสส.ตรวจสอบทางเวบไชค?อีกรอบ

ขอปรับลดกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณในกิจกรรมต่างๆ ตาม ผลสรุปกิจกรรม ดังนี้ 1. ค่าอาหารกลางวันและอาหารว่างแก่จิตอาสา จำนวนในแผน 10 ครั้ง เบิกตามแผน ครั้งละ 3600 จำนวน 5 ครั้ง รวม 18000 บาท ส่วนในครั้งที่ 6  ตั้งแต่เดือน25/พค/57 ,ลงเหลือเพียง 1200 บาท จำนวน 5 ครั้ง รวม 6000 บาท รวมทั้งสิ้นทั้งโครงการ 24,000 บาท ลดลง 12000 บาท 2. ปรับลดค่าวัสดุปุ๋ย น้ำหมัก ครั้งละ 1500 บาท จากจำนวน 4 ครั้ง รวม 6,000 บาท เหลือเพียง 2 ครั้ง รวม 3,000 บาท 3. ปรับลดค่าอาหารว่างและอาหารกลางวันในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จากตั้งไว้ 100 คน 12,000 บาท และค่าวัสดุ จำนวน 2400 บาท รวม 14400 ปรับ เหลือ 9,000  บาท รวมลดลง 5,400 บาท 4. ปรับลดงบประมาณในวันที่ 14 กพ57 ในการปลูกต้นไม้เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายมาน้อยกว่า จากที่ตั้งไว้ 12,000 บาท ปรับลดเหลือ 9,400 บาท ลดลง 2600 บาท รวมทั้งสิ้น 4 กิจกรรมปรับงบประมาณลดลง 23,000 เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณ

ไม่มี

นำเอกสารการเงิน รายงานความก้่าวหน้ารวบรวม บันทึกรายงานกิจกรรมบนเวบส่งให้สสส.ตรวจสอบ

นำเอกสารการเงิน รายงานความก้่าวหน้ารวบรวม บันทึกรายงานกิจกรรมบนเวบส่งให้สสส.ตรวจสอบ พบว่า เอกสารหลักฐานบางอย่างยังไม่เรียบร้อย เช่นไม่น่าเชื่อถือ  ขาดผู้เซนต์ชื่อรับเงิน และ ผู้จ่ายเงินเป็นต้น แนะนำโดยการแจ้งให้เก็บเอกสารหลักฐานตามระเบียบการเงินที่กำหนด และรายงานที่ทำมาแล้วให้ปรับแก้ให้ถุกต้องและจัดส่งให้จนท.การเงินบัญชี และพี่เลี้ยงติดตามอีกครั้ง จากการติดตามในพื้นที่ พี่เลี้ยงพื้นที่ได้ลงดำเนินการแนะนำและตรวจสอบให้ ทั้งด้านรายงานที่ยังไม่สมบูรณ์ จนเอกสารครบถ้วนเรียบร้อยและเก็บรวบรวมไว้ สสส.ตรวจสองต่อไป

ผู้รับผิดชอบโครงการ 3 คน พี่เลี้ยงพื้นที่1คน และทีมจนท.ตรวจสองโครงการบัญชีจากสสส.5คน

ด้านการดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องตามแผน

ไม่มี

เร่งดำเนินกิจกรรมและเบิกจ่ายงบประมาณภายในกรกฏาคม และนัดกลุ่มมาถอดบทเรียนพร้อมกับชุมชนใกล้เคียงสิ้นเดือนกรกฏาคม

พี่เลี้ยงร่วมกับคณะทำงานร่วมกันรวบรวมเอกสารรายงาน ตรวจสอบความถูกต้อง และจัดพิมพ์รายงานส่งให้สสส.

พี่เลี้ยงร่วมกับคณะทำงานร่วมกันรวบรวมเอกสารรายงาน ตรวจสอบความถูกต้อง และจัดพิมพ์รายงานส่งให้สสส.ประกอบด้วย รายงานการเงินงวด 1 รายงานความก้าวหน้า รายงานพี่เลี้ยงิดตามโครงการ รายงานส 2 โดยใช้งบประมาณในงวดที่ 1 เกินกว่าที่กำหนดไว้ในแผน สสส.แจ้งให้ตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง

ผู้รับผิดชอบโครงการ และพี่เลี้ยงโครงการ 7 คน

ปรับปรุงรายงานและกิจกรรมให้สอดคล้อและเป็นไปตามจริง พร้อมรวบรวมเอกสาร

ไม่มี

ไม่มี

จัดประชุมพูดคุยกระชับสัมพันธ์ และเพื่อสนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างชุมชนสีเขียวโดยเน้นให้แกนนำชุมชน ร่วมกันพูดคุยปรึกษา โดยในเดือนพค เน้นการปรึกษาระหว่างชุมชนใกล้เคียงเรื่องสถานที่ทำสวนหย่อมคนเมือง 

จัดประชุมพูดคุยกระชับสัมพันธ์ และเพื่อสนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างชุมชนสีเขียวโดยเน้นให้แกนนำชุมชน ร่วมกันพูดคุยปรึกษากองช่างเทศบาลเมืองปกาพนัง ประธานชุมชนคงคาสวัวดิ์ ประธานชุมชนหูล่อง โดยในเดือนพค เน้นการปรึกษาระหว่างชุมชนใกล้เคียงเรื่องสถานที่ทำสวนหย่อมคนเมือง ระหว่างศาลาลงแพ ขนานยนต์ และ ริมป้อมตำรวจสี่แยกวงเวียน ข้อสรุป นัดประชุมเดือนหน้าหลังประสานกับเทศบาลและผู้เกี่ยวข้อง

กองช่างเทศบาลเมืองปกาพนัง ประธานชุมชนคงคาสวัวดิ์ ประธานชุมชนหูล่อง

ชุมชนวารีสวัสดิ์ ไม่มีพื้นที่ในการจัดกิจกรรมหรือจัดทำสวนหย่อมที่เหมาะสม แก้ไขโดยจัดทำในเขตพื้นที่สาธารณะของเทศบาล เพื่อให้คนส่วนใหญ่ในชุมชนได้ใช้ประโยชน์

ไม่มี

ไม่มี

ประชุมหารือ แนวทาง เรื่องการจัดกิจกรรม เยาวชนและจิตอาสา หาต้นไม้พันธุ์ไม้ เพื่อไปปลูกบริเวณส่วนหย่อม และ ร่วมกันหาหนังสือเก่า ช่วยกันบริจาคตั้งไว้เป็นมุมหนังสือให้กับคนที่รอลงเรือได้อ่าน เพิ้มความรู้ แล้วก็มีต้นไม้หลาย ๆ อย่าง ให้คนที่รอเรือได้เห็นความเรียบร้อยความสวยงามของต้นไม้ที่ได้ร่วมกันปลูก รวมถึง ได้สร้างความสามัคคีกับคนในชุมชนและชุมชนใกล้เคียงได้มีความสัมพันธ์กันมากขึ้น

ข้อตกลงในที่ประชุม ให้จัดกิจกรรมดังนี้ เยาวชนและจิตอาสา หาต้นไม้พันธุ์ไม้ เพื่อไปปลูกบริเวณส่วนหย่อม และ ร่วมกันหาหนังสือเก่า ช่วยกันบริจาคตั้งไว้เป็นมุมหนังสือให้กับคนที่รอลงเรือได้อ่าน เพิ้มความรู้ แล้วก็มีต้นไม้หลาย ๆ อย่าง ให้คนที่รอเรือได้เห็นความเรียบร้อยความสวยงามของต้นไม้ที่ได้ร่วมกันปลูก รวมถึง ได้สร้างความสามัคคีกับคนในชุมชนและชุมชนใกล้เคียงได้มีความสัมพันธ์กันมากขึ้น

กรรมการ 10 คน ตัวแทนกลุ่มจิตอาสา 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดประชุมพูดคุยกระชับสัมพันธ์ในคณะทำงานโครงการ ร่วมกับกลุ่มจิตอาสา และภาคีภาคส่วนต่างๆที่มีส่วนร่วมผลักดันโครงการ

กลุ่มจิตอาสาและคณะทำงานโครงการ ร่วมกับทีมกรรมการชุมชน ได้แก่ ทีมรับผิดชอบหมู่บ้าน เอส เอ็ม แอล กลุ่มอสม. ร่วมกันพูดคุยแผนการดำเนินกิจกรรมในชุมชน และรับประทานอาหารร่วมกัน โดยตกลงข้อกำหนด กติกาการประชุมร่วมกันทุกเดือน นำโดยประธานชุมชน นายพิณ  สงนุ้ย  ประธาน อสม. นางสุภาภรณ์ และประธานกลุ่ม เอสเอ็ม แอล
ในการประชุมครั้งนี้ ได้ร่วมกันกำหนดกติกาชุมชนวารีสวัสดิ์ ดังนี้ 1. มีการประชุมกรรมการชุมชนทุกเดือนในวันก่อนกิจกรรมเอส เอ็มแอล 1วัน 2. แต่ละกลุ่มนำงบอาหารว่างมาแชร์กัน และรับประทานอาหารร่วมกัน 3. ผู้นำการประชุมคือประธานชุมชน และนำวาระของแต่ละกลุ่มมาเป็นวาระร่วมกันขับเคลื่อน และผู้เสนอจากประธาน เลขา แต่ละกลุ่ม 4. การประชุมที่เป็นมติถือเป็นที่สุด หากเปลี่ยนแปลงให้ตกลงในที่ประชุม 5. ประสานชุมชนนำกติกากรรมการชุมชนสื่อสารให้ทั่วถึงและให้ชุมชนมีส่วนร่วมตั้งกติกาชุมชน

จิตอาสาและกรรมการ คณะทำงาน รวม 30 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดหา คัดเลือก รับสร้างทีมจิตอาสาเด็กวารีรักสิ่งแวดล้อม ไม่ทิ้งขยะ ร่วมกันเก็บขยะตามสถานที่ ตามวัด ตามสถานที่สำคัญ เด็กวารีร่วมกันวาดภาพระบายสีตามผนังอาคารเพื่อให้เกิดภาพที่สวยงาม สะอาด เพื่อส่งเสรืมเด็กให้มีนิสัยรักความสะอาด มีความเป็นระเบียบของคนในชุมชนวารีสวัสดิ์ 

เกิดกลุ่มจิตอาสาพิทักสิ่งแว้ดล้อมสำรวจขยะและร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนและริ่มฝั่งน้ำโดยกิจกรรมสร้างสำนึกดี เด็กวารีสวัสดิ์สิ่งแวดล้อมส่งเสริมไม่ให้ทิ้งขยะ และน้ำเสียสู่สายน้ำเดือนละครั้ง หรือ ในวันเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันสิ่งแวดล้อมโลก วันแม่ วันพ่อชุมชนวารีสวัสดิ์มีพื้นที่ปลอดจากขยะ เด็กวารีมีจิตสำนึกที่จะไม่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ คนในชุมชนเกิดความสามัคคี คนในชุมชนรักษาความสะอาดของบ้านเรือน และ นอกบ้านเรือน

กรรมการโครงการ

-

ไม่มี

-

กลุ่มจิตอาสาร่วมกิจกรรมดูแลต้นไม้ต่อเนื่องและ สนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างชุมชนสีเขียว โดยจัดกิจกรรมการทำปุ่ยหมักจากมูลสัตว์ และ ช่วยนำปุ่ญผสมดินใส่กะถางต้นไม้ที่จัดวางในชุมชนวารีสวัสดิ์

กลุ่มจิตอาสาร่วมกิจกรรมดูแลต้นไม้ต่อเนื่องและ สนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างชุมชนสีเขียว โดยจัดกิจกรรมการทำปุ่ยหมักจากมูลสัตว์ โดยการนำขี้วัวแห้งที่ซื้อมาจากในชุมชนใกล้เคียง กระสอบละ 30 บาท และซื้อเดิน และ ช่วยนำปุ่ญผสมดินใส่กะถางต้นไม้ที่จัดวางในชุมชนวารีสวัสดิ์กระสอบละ 30 บาท มาผสมคลุกรวมกัน จากนั้นนำกระจายช่วยใส่ตามจุดต่างๆ

กลุ่มจิตอาสาและแกนนำ สท. ครูรร.นาควารี 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

กลุ่มจิตอาสาร่วมกิจกรรมดูแลต้นไม้ต่อเนื่องและ สนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างชุมชนสีเขียว โดยจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในชุมชนและรณรงค์ชุมชนวารีปลอดขยะโดยการ 1. ช่วยประชาสัมพันธ์กติกาชุมชนวารีสวัสดิ์ 2. รณรงค์เก็บขยะเศษอาหารตามบ้านรวบรวมทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ในชุมชน 3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำปุ๋ย น้ำหมักชนิดต่างๆ

กลุ่มจิตอาสาร่วมกิจกรรมดูแลต้นไม้ต่อเนื่องและ สนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างชุมชนสีเขียว โดยจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในชุมชนและรณรงค์ชุมชนวารีปลอดขยะโดยการ 1. ช่วยประชาสัมพันธ์กติกาชุมชนวารีสวัสดิ์ จำนวน 5 ข้อ ได้แก่ 1.ชาววารีสำนึกดีทิ้งขยะถูกที่ 2. ชาววารีรู้รัก สามัคคี แบบพี่น้อง 3. ชาววารีใส่ใจร่วมอนุรักษ์โดยการไม่ทิ้งขยะในแม่น้ำปากพนัง4.ชาววารีช่วยกันปลูกต้นไม้เพ่มพื่นี่สีเขียว5. ชาววารีมีสัมพันธ์ ร่วมประชุมกันต่อเนื่อง 2. รณรงค์เก็บขยะเศษอาหารตามบ้านรวบรวมทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ในชุมชน 3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำปุ๋ย น้ำหมักชนิดต่างๆ

แกนนำ 15 คน จิตอาสา 19 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดูแลต้นไม้พันธ์ไม้ และการบำรุงต้นไม้ ให้อยู่ยั่งยืน แล้วก็ได้เพิ่มต้นไม้ในชุมชน ครัวเรือนละ 1 ต้นต่อเดือน ร่วมกิจกรรมพัฒนาชุมชนเมืองกับเทศบาลเมืองปากพนังโดยนำแนวคิดการสร้างชุมชนน่าอยู่ ด้านการจัดการชุมชนให้เกิดพื้นที่สีเขียวและการเนินการดูแลสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัดร่วมเดิขบวนกับชุมชนอื่นๆในเทศบาล

คนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมแรกเปลี่ยนเรียนรู้ การปลูก การดูแล การรักษาได้ถูกต้อง การร่วมกิจกรรมพัฒนาชุมชนเมืองร่วมกับเทศบาลเมืองปากพนังโดยนำแนวคิดการสร้างชุมชนน่าอยู่ ด้านการจัดการชุมชนให้เกิดพื้นที่สีเขียวและการเนินการดูแลสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัดร่วมเดินขบวนกับชุมชนอื่นๆในเทศบาล ทเป็นการให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์โครงการกับบชุมชนอื่นๆทำให้ชุมชนใกล้เคียง มีความต้องการพัฒนาชุมชน

ชาววารีสวัสดิ์และแกนนำจำนวน 50 คน นักเรียน จำนวน 10 คน อสม เทศบาลเมืองปากพนัง 12 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ร่วมประชุมปรึกษาเรื่องกิจกรรมชุมชนในวันวารีสวัสดิ์สัมพันธ์ที่จัดให้มีทุก 2 เดือน หาข้อตกลงร่วมกันระหว่างชุมชน และชุมชนใกล้เคียง สร้างความสัมพันธ์อันดี

ร่วมประชุมปรึกษาเรื่องกิจกรรมชุมชนในวันวารีสวัสดิ์สัมพันธ์ที่จัดให้มีทุก 2 เดือน ได้ข้อสรุปว่า จัดทุกกลางเดือน และร่วมประชุมกับกลุ่มเอาเอ็มแอลโดยมีประธานชุมชนเข้าร่วม หาข้อตกลงร่วมกันระหว่างชุมชน และชุมชนใกล้เคียง เกี่ยวกับสถานที่จัดสวนหย่อมคนเมือง
สร้างความสัมพันธ์อันดี เพื่อได้เปิดโอกาสสร้างเวทีในการพูดคุยและทำความเข้าใจ เรื่องกติกาชุมชน

กรรมการโครงการ 15 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดกิจกรรม วารีสวัสดิ์สัมพันธ์ ทุก 2 เดือน โดยจัดประชุมแกนนำร่วมกับตัวแทนครัวเรือน จำนวน 15 คน รวม 30 คนเพื่อสื่อสาร หาข้อสรุป มติ เพื่อผลักดัน ขับเคลื่อนสภาผู้นำสู่ชุมชนวารีสวัสดิ์น่าอยู่

แกนนำ 15 ชุมชนจิตอาสา 14คน  และสท.ในพื้นที่ จำนวน 2 คน ร่วมกันหาลือวางแนวทางทีมแกนนำชุมชนและคณะทำงาน รวมผู้ร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น จำนวน 36 คน ร่วมทำกิจกกรมชุมชนน่าอยู่โดยการไปดูกล้าไม้ พันธ์ไม้ ที่มีอยู่ตามบ้านของคนในชุมชน เพื่อที่จะได้ดำเนินการปลูกในชุมชนเพื่อที่จะได้มีชุมชนที่น่าดูและอากาศที่ดี

แกนนำชุมชน 15 คน สมาชิกในชุมชน 21 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เยาวชนและสมาชิกที่มีจิตอาสาในชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้โดยหาพันธ์ไม้ไม้ดอกไม้ประดับของแต่ละคนมาร่วมกันปลูกตามกระถางที่ทางแกนนำได้วางไว้เป็นจุดในชุมมีส่วนร่วมช่วยกันปลูกไว้แล้วโดยการหาดินมาใส่กันเองซึ่งเยาวชนในชุมชนมีจิตอาสาร่วมกันปลูกอย่างมีความสุขคนละ1ต้นและได้มีกลุ่มเด็กอาสาของท.3วันนาควาีได้เข้าร่วมปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ด้วยรวมทั้งคุรครูของท.3ที่มีจิตอาสาก็ขอเขาร่วมด้วยทำให้ในการปลูกต้นในครั้งนี้คนใชุมชนได้มีจิตสำนึกถึงการช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นในชุมชนมีอากาศที่ดีมีสิ่งแวดล้อมที่ดีโดยมีคนในชุมชนร่วมสร้างกันขึ้นมา

เยาวชนและสมาชิกที่มีจิตอาสาในชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้โดยหาพันธ์ไม้ไม้ดอกไม้ประดับของแต่ละคนมาร่วมกันปลูกตามกระถางที่ทางแกนนำได้วางไว้เป็นจุดในชุมมีส่วนร่วมช่วยกันปลูกไว้แล้วโดยการหาดินมาใส่กันเองซึ่งเยาวชนในชุมชนมีจิตอาสาร่วมกันปลูกอย่างมีความสุขคนละ1ต้นและได้มีกลุ่มเด็กอาสาของท.3วันนาควาีได้เข้าร่วมปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ด้วยรวมทั้งคุรครูของท.3ที่มีจิตอาสาก็ขอเขาร่วมด้วยทำให้ในการปลูกต้นในครั้งนี้คนใชุมชนได้มีจิตสำนึกถึงการช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นในชุมชนมีอากาศที่ดีมีสิ่งแวดล้อมที่ดีโดยมีคนในชุมชนร่วมสร้างกันขึ้นมา

นักเรียนรร.นาควารี 46คน และผู้เข้าร่วมโครงการ 28 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดกิจกรรมรณรงค์ปลูกต้นไม้ในวันสำคัญ เช่นวันพ่อ 1 วัน วันปีใหม่ วันสิ่งแวดล้อมโลก อย่างน้อย 3 วันเพื่อกระตุ้นให้มีการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นโดยมุ่งเน้นการปลูกพันตุ์ต้นไม้ ที่หายากอย่างน้อย 10 ชนิด เพื่อนสงวนพันธ์พืชท้องถิ่งไว้ในชุมชนและปลูกไม้ประดับ ผักสวนครัวและพืซสมุนไหร ในกระถางบริเวณบ้าน ต้นไม้ กล้าไม้ บางส่วนจากการซื้อ และขอรับบริจาคจากหน่วยงาน และ บ้านเรือน

จำนวนต้นไม้ในชุมชนเพิ่มอย่างน้อย 1 ต้นต่อเดือน ขึ้นจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กรรมวิธีบำรุงรักษาดูแลต้นไม้อย่างยั่งยืนและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยจัดกิจกรรมเรียนรู้"เสวนา ชุมชนวารีสวัสดิ์สีเขียว"

ครัวเรือนเป้าหมายจำนวน 25 คน นักเรียนที่อยู่ในชุมชน 6 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1.ประชุมวางแผนเรื่องการจัดการปลูกต้นไม้ลงกระถาง 2.ปรึกษาการแจ้งงบที่ใช้ไปงดที่1ที่ใช้ไปมีงบอยู่ทั้งหมด 61,375.52 ใช้จ่ายในการทำกิจกรรมงวดที่1 61,090.00 คงเหลืองบที่เหลือ 267.52 3.ได้พูดถึงการทำน้ำหมักในชุมชนไว้เพื่อลดต้นไม้เป็นการลดต้นทุนในการซื้อปุ๋ยและช่วยให้เกิดสามัคคีของคนในชุมชนที่เข้ารวมกล่มช่วยกันทำน้ำหมักในครั้งนี้ 4.ร่วมกันปรึกษาในการหาต้นไม้หาไม้เพื่อไว้เตรียมไว้ปลูกลงกระถางต้นไม้ 

1.ประชุมวางแผนเรื่องการจัดการปลูกต้นไม้ลงกระถาง 2.ปรึกษาการแจ้งงบที่ใช้ไปงดที่1ที่ใช้ไปมีงบอยู่ทั้งหมด 61,375.52 ใช้จ่ายในการทำกิจกรรมงวดที่1 61,090.00 คงเหลืองบที่เหลือ 267.52 3.ได้พูดถึงการทำน้ำหมักในชุมชนไว้เพื่อลดต้นไม้เป็นการลดต้นทุนในการซื้อปุ๋ยและช่วยให้เกิดสามัคคีของคนในชุมชนที่เข้ารวมกล่มช่วยกันทำน้ำหมักในครั้งนี้ 4.ร่วมกันปรึกษาในการหาต้นไม้หาไม้เพื่อไว้เตรียมไว้ปลูกลงกระถางต้นไม้
5.ในกลุ่มทีม15คนร่วมประชุมทุกเดือนเพื่อวางแผนสรุปประเมินและติดตามโครงการทุกๆเดือนจำนวน10ครั้ง 6.จัดกิจกรรมเรี*นรู้สร้างชุมชนสีเขียวได้แก่จัดบอดนิศการเกี่ยวกับสวนผักคนเมืองเพิ่มพื้นที่สีเขียวการจัดการขยะแบบชุมชนมีส่วนร่วม 7.กำหนดนโยบายสาธาณเพื่อปรับทัศณคติวิธีคิดสำนึกรักสิ่งแวดล้อม

กรรมการโครงการ 15 คน

ไม่มี

คนในชุมชนไม่ค่อยมีเวลามาร่วมได้มากเท่าไหรเพราะต้องทำมาหากิน

ต้องการให้พี่เลี้ยงเข้ามาช่วยให้มากกว่านี้เพราะเราไม่ค่อยเข้าใจ

ผู้รับผิดชอบโครงการเข้าประชุมรับการติดตามจากพี่เลี้ยงและร่วมกันสรุปโครงการ

ผู้รับผิดชอบโครงการเข้าประชุมรับการติดตามจากพี่เลี้ยงและร่วมกันสรุปโครงการและจัดรวบรวมเอกสารตรวจสอบความถูกต้องและจัดเก็บเป็นชุด พร้อมจัดทำรายงานบนเวบคนใต้สร้างสุขให้เป็นปัจจุบัน

ผู้รับผิดชอบโครงการ 5 คน พี่เลี้ยงจังหวัด 1

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ร่วมประชุมปรึกษาเรื่องความก้าวหน้าโครงการ และรายการใช้จ่ายงบประมาณ และแจ้งกรรมการเรื่องที่รับทราบในการเข้าประชุมกับสจรส.

ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งที่ประชุมเรื่องความก้าวหน้าโครงการ ซึ่งตอนนี้ทาสีกระถางเสร็จพร้อมพ่นสีโลโก สสส.โดยกลุ่มเยาวชนจิตอาสา ร่วมกับแกนนำโครงการและผู้เข้าร่วมโครงการ จัดทำในเดือน ธันวาคม และมกราคม แล้วเสร็จ และกำลังรวบรวมรายงานหลักฐานเพื่อให้พี่เลี้ยงตรวจสอบ

กรรมการโครงการจำนวน 15 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ร่วมรับฟังคำชี้แจงจากสรจส.เกี่ยวกับระเบียบการลงข้อมูลบนเวบและฝึกการทำรายงานเอกสาร การเงิน และส่งเอกสารหลักฐานตรวจสอบความถูกต้อง

ผู้รับผิดชอบโครงการ และจนท.การเงินพร้อมเหรัญยิก เข้าร่วมประชุมรับฟัง เข้าใจและสามารถจัดทำเอกสารรายงาน หลักฐาน และการเงินได้

ผู้รับผิดชอบโครงการ 3 คน

หลักฐานบางรายการไม่ถูกต้อง ผู้ตรวจสอบแนะนำให้รวบรวมหลักฐานให้ถูกต้อง ผู้รับผิดชอบรับคำและนำมาปรับปรุง

ไม่มี

ไม่มี

พี่เลี้ยงพื้นที่เข้าสังเกตการณ์การจัดกิจกรรมรวมพลังจัดทำถางปูน เพื่อประเมินความก้าวหน้าโครงการ ความมีส่วนร่วม อุปสรรคปัญหาเพื่อ่วยเหลือและสนับสนุน

ชาววารีสวัสดิ์ร่วมกันจัดทำกระถางปูนต่อเนื่องจากกิจกรรมรวมพลังหล่อกระถางปูนเนื่องจากยังทำไม่เสร็จจากปัญหาภาวะน้ำท่วมและคนมาร่วมกิจกรรมเพียง 50 คน โดยมีแกนนำร่วมกิจกรรม 20 คน และ กลุ่มตัวแทนและจิตอาสา 30 คน ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมาย 100 คน โดยจัดทำกิจกรรมซ่อมตามคำแนะนำพี่เลี้ยงจำนวน 3 วัน กิจกรรมที่เกิดขึ้นได้แก่ กลุ่มเยาวชนจิตอาสารร.นาควารี จำนวน 30ราย และอาจารย์ผู้ควบคุม ร่วมกันทาสีกระถางปูน ในบริเวณโรงเรียน จากการสอบถามครูและนักเรียนที่ร่วมกิจกรรม พบว่า มีความร่วมมือและประสานงานผ่านผู้อำนวยการโรงเรียน และบรรจุกิจกรรมนี้เข้าเนื้อหาวิชา สปช.ของนักเรียนในบางกิจกรมที่สอดคล้องกับแผนการสอนของครูประจำวิชา มีและจากการสัเกตเห็นบรรยากาศการร่วมือกันทำงานของคนในชุมชและกลุ่มจิตอาสา อย่างสมัครสมานสามัคคี ส่วนตัวแทนจากชุมชนรัวเรือนจากการสอบถามนางทัศนีย์ ทองศรีเกตุ พบว่า จะสลับกันมาวันละ 50 คน จำนวน 3 วัน โดยใช้ในเดือนจากงบประมาณค่าอาหารจากกิจกรรมจัดทำกระถางปูน สัมภาษณ์นางดวงกมล เลขาโครงการ ได้ข้อมูลว่า ชาวบ้านทำอาชีพค้าขายส่วนใหญ่ ไม่สามารถทำกิจกรรมต่อเนื่องได้หลายวัน จึงกำหนดจำนวนคนต่อวันให้แบ่งกันมาช่วยวันละ 50 คน และเพิ่มจำนวนวันเป็น 6วัน จากเดิมที่กำหนด 3 วัน วันละ 100 คน โดยแบ่งค่าอาหารมาจัดการ และ ได้ผลดีและพอใจทั้งสองฝ่ย คือ โครงการได้งานต่อเนื่อง และเสร็จตามที่กำหนด และคนทำไม่เหนื่อย และมีส่วนร่วมกันทุกคน สำหรับนายพิณ  สงนุ้ย ให้ความเห็นว่า ทำอย่างนี้แก้ไขปัญหาคนมาน้อยได้ดี กลุ่มอาสาก็ได้ผลัดเปลี่ยนกันทำกิจกรรมหลากหลายและสนุกสนาน และสามารถใช้งบได้ตามที่กำหนด จากการประเมินเชิงคุณภาพ พบว่า ชุมชนร่วมกันแก้ปัญหาได้เอง มีการประสานงานที่ดีและได้รับความร่วมมือจากเทศบาลเมืองปากพนังในการจัดกิจกรรมในพื้นที่เขตสาธารณะโดยไม่มีปัญหาและได้รับความร่วมมือจากภาคีรร.นาควารี แสดงให้เห็นว่าผู้นำมีทักษะและความสามารถเป็นที่ยอมรับนับถือ และมีการประสานงานที่ดีจากเลขาโครงการ ส่วนเจ้าหน้าที่การเงินมีความรู้ด้านบัญชีการเงิน  ซึ่งช่วยกันขับเคลื่อนกิจกรรมชุมชนได้

การใช้งบประมาณไม่ตรงตามสัญญาแต่แก้ไขโดยการเพิ่มจำนวนวันและงบประมาณตรงตามแผน

ไม่มี

จัดทำกิจกรรมต่อไปถ้าปรับแผนให้แจ้งสสส.หรือพี่เลี้ยงล่วงหน้า 

ชาววารีและแกนนำโครงการและกลุ่ทจิตอาสาจากนักเรียนรร.วัดนาควารีร่วมกิจกรรมชุมชนวารีสวัสดิ์รวมพลังทาสีกระถางปูน ซึ่งขนมาจากโรงปูนในกิจกรรมที่ผ่านมาจำนวน 100 ถาง แกนนำ และชาวชุมชนสลับกันมาช่วย ตั้งแต่ 10-11 ธค โดยผลัดกันมาวันละ 40-50 คน เนื่องจากภาวะน้ำท่สมพื้นที่ชุมชน คนจึงทาร่วมน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ทีมเยาวชนอาสารร.นาควารี จำนวน 50 ราย และครูอาจารย์ 3 คน มาช่วยกันทาสีจนเสร็จและเตรียมขนไปวางในจุดริมทางเดินในชุมชนต่อไป บรรยากาศ สนุกสนาน มีส่วนร่วม และมีกิจกรรมกันตลอดวัน

จากกิจกรรมดังกล่าวพบว่ามีอุปสรรคในกิจกรรมร่วมทำกระถางปูนในเดือนพย.56 เนื่องจากภาวะน้ำท่วมมากต้องย้ายที่ทำกระถางจากในชุมชน ไปยังพื้นที่อื่นใกล้เคียง และคนมาร่วมน้อยกว่าที่ตั้งไว้เนื่องจากภาวะไม่สะดวกจากน้ำท่วม และขออนุญาตปรับงบประมาณบางส่วน ซึ่งสามารถทำได้ในกิจกรรมเดียวกันและปรึกษาพี่เลี้ยงโครงการแนะนำให้ทำกิจกรรมเสริมชดเชย เนื่องจากคนมาร่วมกิจกรรมร่วมกันจัดทำถางปูนมีจำนวนน้อยกว่าที่ตั้งไว้ เพียงร้อยละ50  จึงจัดทำกิจกรรมเสริม 3 วัน ในวันที่ 10-12เดือนธันวาคม และกิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคีรร.นาควารีโดยผอ.รร.นายโสพล เส้งเสน คอยช่อวยเหลือในด้านสถานที่ และการมีส่วนร่วมมาก และเกิดความรู้ในการทำถางปูนใช้เองในชุมชนและเทคนิคในการประสานงานเพิ่มขึน

กรรมการโครงการจำนวน 10 คน กรรมการชุมชนจำนวน 10 คน ภาคีเครือข่ายนักเรียนรร.นาควารี 30  คน

อุปสรรคเนื่องจากภาวะน้ำท่วมมากต้องย้ายที่ทำกระถางจากในชุมชน ไปยังพื้นที่อื่นใกล้เคียง และคนมาร่วมน้อยกว่าที่ตั้งไว้เนื่องจากภาวะไม่สะดวกจากน้ำท่วม และขออนุญาตปรับงบประมาณบางส่วน ซึ่งสามารถทำได้ในกิจกรรมเดียวกัน

แนะนำให้ชุมชนจัดกิจกรรมเสริมในครั้งต่อไปเพิ่มและกรณีค่าวัสดุที่เกินงบประมาณพิจารณาใช้งบส่วนเหลือจากกิจกรรมอื่นๆ

ขอทำกิจกรรมเสริมในเดือน ธค.56 จำนวน 30 วัน มีผู้เข้าร่วมประมาณ 50 ราย เพื่อชดเชยกิจกรรม 14-16 พย.56 ที่คนมาร่วมน้อยกว่าเป้าหมาย

1.กลุ่มจิตอาสา 20 คน ร่วมกันทาสีกระถางปูน 2. แกนนำโครงการ ร่วมกับตัวแทนครัวเรือน30 ร่วมกิจกรรม 3.จัดทำโลโกสสส.พ่นติดกระถางปูน

1.กลุ่มจิตอาสา 20 คน ร่วมกันทาสีกระถางปูน ต่อ 2. แกนนำโครงการ ร่วมกับตัวแทนครัวเรือน10 ร่วมกิจกรรม 1. กลุ่มตัวแทนครัวเรือน แกนนำ และจิตอาสาร่วมกับกลุ่มจิตอาสา ร่วมกันทาสีดระถางปูนต่อ

กรรมการโครงการจำนวน 10 คน กรรมการชุมชนจำนวน 10 คน ภาคีเครือข่ายนักเรียนรร.นาควารี 30  คน

เนื่องจากหน้าฝน กระถางแห้งช้า ทาสีได้ช้า แก้ไขโดยการรื้อกระถางนำมาตากแดดไว้เพื่อความคงทนหลังทาสี

ผู้รับผิดชอบโครงการทำกิจกรรมเสริม 3 วันเนื่องจากในกิจกรรมก่อนคนมาร่วมน้อย ใช้จ่ายค่าอาหารจากแผนกิจกรรมวันที่ 14-16 พย.56

ขอความเห็นพี่เลี้ยงเรื่องปรับกิจกรรม

ประชุมตกลงและปรับเปลี่ยนแผนการทำถางปูนในพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากน้ำท่วม จึงย้ายไปร่วมกันทำทีร้านชัยมงคลที่ตำบลใกล้เคียง ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยเพื่อสามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ตามระยะเวลาที่ระบุในแผน

ทีมงานจำนวน 50 คน ต่อวัน ร่วมพลังไปจัดทำกระถางปูนที่ร้นชัยมงคลไปกลับ จำนวน 3 วันโดยไปพร้อมกันที่ร้านหัวมุม

กรรมการโครงการจำนวน 15 คน

มีปัญหาเรื่องการเดินทาง และระยะทางขนคน และของไปกลับ แก้ไขโดยขอปรับงบค่าจ้างรถขนกระถางกลับชุมชน

แก้ไขโดยขอปรับงบค่าจ้างรถขนกระถางกลับชุมชน 

ขออนุญาตปรับงบประมาณจากค่าอาหารบางส่วนเป็นค่าจ้างขนวัสดุ

โดยมีการรวมตัวกันตั้งแต่ 08.30 น. เพื่อนที่ว่าจะได้สถานที่เราได้เช้าแบบทำไว้มีแบบทั้งหมด 11 พิมพ์  ดำเนินการ 3 วัน ตั้งแต่ 14 พย-16 พย.56รวมจำนวนที่ตั้งไว้ 100 ใบ เพื่อนำมาจัดวางในชุมชน

คนไปร่วมมีน้อยกว่าที่กำหนดเนื่องจากน้ำท่วมในพื้นที่แต่ทุกคนก็ได้สลับกันไปช่วยกันทำงานประมาณ70-80คนบรรยากาศสนุกสนานมีการห่อข้าวมากินและร่วมวงกินข้าวเมื่อกินข้าวเสร็จก็ร่วมกันทำกระถ่างต่อจนเสร็จทั้งสามวัน หลังจากนั้นก็ช่วยกันขนกระถางกลับมาไว้ที่ชุมชนเพื่อนำไปตากไว้เพื่อจะได้ทาสีในครั้งต่อไป

กรรมการโครงการจำนวน 10 คน กรรมการชุมชนจำนวน 10 คน ภาคีเครือข่ายนักเรียนรร.นาควารี 30  คน

ได้นำกระถางมาตากไว้ที่โรงเรียนวัดนาควารีและได้ตวามร่วมมือจากผอและครูของโรงเรียนและขอความร่วมมือให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการทางสีกระถางในครั้งต่อไป

ไม่มี

คนมาร่วมน้อยเนื่องจากน้ำท่วมจึงนัดทำกิจกรรมเพิ่มในเดือนธันวาคมอีก3วันเพื่อให้กิจกรรมบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ช้ี้แจงระเบียบการเงินและการบันทึกสมุดบัญชีความเข้าใจกรรมการโครงการรับทุนอ.ปากพนัง ปฐมนิเทศและฝึกปฏิบัติการบันทึกข้อมูลรายงานในเอกสารและบนเวบ

1.เลขานุการสามารถรวบรวมเอกสาร และเข้าใจขั้นตอนการทำกิจกรรมและประสานวานกับทีมงานได้ 2. เจ้าหน้าที่การเงิน สามารถทำบันทึกสมุดเงินสด และรายงานการเงินได้ 3. แกนนำมีความกระตือรือร้นในการขับเคลิ่อนโครงการ

ผู้รับผิดชอบ 3 คน พี่เลี้ยง 2 คน

ปัญหาด้านการบันทึกรายการค่าใช้จ่ายไม่ตรงกับรายงาน แนะนำการบันทึกตามช่วงเวลาที่จ่ายจริง

แกนนำส่วนใหญ่ใช้คอมไม่เป็น จึงขอเพิ่มกรรมการผช.เลขาที่มีความชำนาญมาทำการแทนคนเก่า

ไม่ม่

ที่ประชุมร่วนปรึกษาได้ข้อสรุปว่าให้กลุ่มจิตอาสาเป็นเยาวชนที่ว่างและเด็กนักเรียนร่วมกิจกรรมในวันหยุดหรือใครก็ได้ที่มีใจอาสา และจัดทำปฎิทินจิตอาสา แยกเป็นแผนกิจกรรมตั้งแต่เดือนพย.56- ตค.57ซึ่งกลุ่มมนี้อาจตายตัวหรือมาช่วยแต่ละครั้ง ทั้งหมด 10 ครั้งโดยโครงการจ่ายค่าอาหารให้ 30 คน

ในวันประชุม 9 พย.56เรื่องมีบัญชีรายชื่อกลุ่มจิตอาสาชุมชนวารีสวัสดิ์ ตามรายละเอียด ร่วมทบทวนกติกาชุมชน เดิมวารีสวัสดิ์ไม่มีกติกาใดๆอยู่เลย ทำให้การสร้างกติกาเป็รื่องที่ชุมชนไม่ค่อยยอมรับจึงต้องให้ชาววารีร่วมคิดทุกขั้นตอนเพ่อให้เกิดส่วนร่วม ร่วมทำปฏิทินโครงการบนเวบ

กรรมการโครงการจำนวน 15 คน กรรมการชุมชนจำนวน 15 คน พี่เลี้ยงโครงการ

การบันทึกสมุดดำเนินกิจกรรมยังไม่ชัดเจน

พี่เลี้ยงสสส.ช่วยแนะนำการจัดทำรายงานบัญชี และหลักฐานการจ่ายเงินแต่ละกิจกรรม

การประชุมเรื่องการจัดทำรายงาน

กรรมการโครงการชีแจงผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 80 คน ที่ร้านหัวมุม เกี่ยวกับขั้นตอน งบ กิจกรรมและผู้รับผิดชอบแต่ละโซน และมติที่ประชุมเรืองการนัดวันประชุมกรรมการโครงการในทุกวันที่ 9 ทุกเดือน และขออาสาเยาวชนพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าร่วมโครงการ จำนวน 30 คน ต่อครั้ง รวมกิจกรรมตามแผน 10 ครั้ง และให้ผู้มีจิตอาสาในชุมชนเข้าร่วมประชุม งวดละ 1 ครั้ง ที่ประชุมตกลง และมีกรรมการชุมชน จำนวน 5 ท่าน ที่ร่วมเป็นแกนนำชุมชนทำหน้าที่ตรวจสอบโครงการกิจกรรมและงบประมาณเพื่อประเมินความคุ้มค่า ประหยัด และโปร่งใสโดยทีมอาจารย์เฉลิมพร แก้วมณี 

สรุปผลที่เกิดขึ้นจริงดังนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น จำนวน 80 คนที่ประชุมมีข้อตกลงดังนี้ 1.ใช้สถานที่ประชุมและทำการที่ร้านหัวมุม และนายสมชาย  แก้วดี เจ้าของร้าน เสียสละพื้นที่ให้จัดประชุมได้ และได้แจ้งเกี่ยวกับขั้นตอน งบ กิจกรรมและผู้รับผิดชอบแต่ละโซน
2.มติที่ประชุมเรืองการนัดวันประชุมกรรมการโครงการในทุกวันที่ 9 ทุกเดือน
3.รับกลุ่มอาสาเยาวชนพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าร่วมโครงการ จำนวน 30 คน ต่อครั้ง รวมกิจกรรมตามแผน 10 ครั้ง และให้ผู้มีจิตอาสาในชุมชนเข้าร่วมประชุม งวดละ 1 ครั้ง ที่ประชุมตกลงและให้ผู้รับผิดชอบโซนช่วยกันหา และแจ้ง

กรรมการโครงการจำนวน 15 คน กรรมการชุมชนจำนวน 15 คน ภาคีเครือข่ายในชุมชน 5 คน ชาวชุมชนวารีสวัสดิ์ 45 คน

ไม่มี นัดร่วมกิจกรรมทำกระถางปูนในชุมชนในวันที่ 14-16 พย.56

ไม่มี

อยากให้พี่เลี้ยงเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง

แบ่งโซนให้กับชุมชน5โซน มีผู้รับผิดชอบเป็นแกนนำชุมชนและจิตอาสาโซนละ 3-4 คน มีหน้าที่ ประสานงานและประชาสัมพันธ์ครัวเรือนในโซนให้เข้าร่วมกิจกรรม และช่วยติดตามดูแลต้นไม้ใน หน้าบ้าน

โซนที่1จากท่าเรือฝั่นซ้ายมีผู้รับผิดชอบคือ1.นาย สมชาย แก้วดี 2.นาย เจมส์ ลิ่มสกุล 3.น.ส.บุญยดี รุจิระยรรยง โซนที่2จากวงเวียงไปหอนาฬิกาฝั่งขวามีผู้รัยผิดชอบคือ1.นาย สมชาย แก้วดี 2.นาย เจมส์ ลิ่มสกุล 3.น.ส.บุญยดี รุจิระยรรยง โซนที่3วงเวียน-ท่าลงแพ่ฝั่งขวามีผู้รับผิดชอบคือ1.นาง ดวงกมล บุญธรรมวิโรจน์ 2.นาง ทัศนีย์ ทองศรีเกตุ 3.นาย ไสว หาญณรงค์ โซนที่4 วงเวียน-ท่าลงแพ่ฝั่งซ้ายผู้รับผิดชอบคือ 1.นาย พิณ ส่งนุ้ย 2.นางสาว พรพิชญ์ เนียมศริ 3.นางสาว นพรัตน์ ทิพยุทธ โซนที่5ถนนหลัง ธ.ก.ส. และ สุนอนันด้านหน้าถนนทั้งสองฝั่งมีผู้รับผิดชอบ 1.นางวาสนา พัฒนทอง 2.นางสวาท ศรีเจริญ 3.นายอดิศักธิ์ ทิพยมาศ 4.นาง จริยา เขมวงศ์ 5.นาง พวงเพ็ญ ปานมี 6.จุฑาศ ไสยรัตน์ 7.อำไพ โปณะทอง 8.นาง รสริน นาสิน

กรรมการโครงการจำนวน 15 คน กรรมการชุมชนจำนวน 15 คน ภาคีเครือข่ายในชุมชน 5 คน

1.นัดวันร่วมจัดทำกระถางปูนในเดือนพฤศจิกายน 14-16 2.ทำปฏิทินประชุมกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ตามวันเทศกาล

ไม่มี

ให้พี่เลี้ยงช่วยแนะนำการจัดทำเอกสารและรายงานและการทำงานบนเว็บ

ประธานและเลขาฯชี้แจงรายละเอียดโครงการ และงบประมาณ แบ่ง มอบหมายงานให้กรรมการร่วมรับผิดชอบ

กรรมการจำนวน 15 คน รับทราบรายละเอียดโครงการ และงบประมาณและร่วมเป็นกรรมการโครงการ (รายละเอียดตามบันทึกการประชุม วันที่ 9 /10/56

กรรมการโครงการจำนวน 15 คน

นัดประชุมปฐมนิเทศโครงการร่วมกับพี่เลี้ยงโครงการ วันที่ 13 ตค.56

ไม่มี

ไม่มี