เพื่อติดตามความก้าวหน้าและสรุปปิดกิจกรรมตามโครงการ
1.คณะทำงานสรุปผลการดำเนินงาน
2.ตรววจสอบเอกสารทางการเงิน
3.สรุปผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดและวัตถุประสงค์
4.การจัดทำรายงาน ง.1 ง.2 ส.2 ส.3 และ ส.4
1.คณะทำงานสรุปผลการดำเนินงานแต่ละกิจกรรมในงวดท่ี่ 2
2.ได้ตรวจสอบเอกสารทางการเงิน ถูกต้อง
3.การจัดทำรายงาน ปัญหาที่พบคือ ไม่ได้ระบุหัวข้อให้ตรงกับแบบฟอร์มออนไลน์ ทำให้พบปัญหาเรื่องการสรุปรายงานการเงินไม่ได้
4.แนะนำแนวทางการจัดทำรายงาน ตามเอกสารที่ สสส.กำหนด
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงานสรุปปิดโครงการ 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและติดตามความก้าวหน้าของกิจกรรม
พี่เลี้ยง สจรส.มอ.และพี่เลี้ยง นครศรีฯ พร้อมพี่เลี้ยงโครงการ ร่วมกันสรุปแนวทางการประเมินโครงการและปิดโครงการ
พี่เลี้ยง สจรส.มอ.และพี่เลี้ยง นครศรีฯ พร้อมพี่เลี้ยงโครงการ ร่วมกันสรุปแนวทางการประเมินโครงการและปิดโครงการ เอกสารที่ต้องส่ง ประกอบ ส.2 ส.3 ส.4 ง.1 งวดที่2 และง.2ปิดโครงการ พร้อมทั้งส่งภาพประกอบดำเนินงานด้วย
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและความก้าวหน้าโครงการ
พี่เลี้ยงนครศรีฯ พร้อมพี่เลี้ยงโครงการ ร่วมกันสรุปแนวทางการประเมินโครงการและปิดโครงการ
1.ทีมงานร่วมกันสรุปผลการดำเนินงานและรายงานความก้าวหน้าตามโครงการ 2.ตรวจการบันทึกข้อมูลออนไลน์ตามโปรแกรม 3.จัดทำสรุปรายงน ส.1 ส.2 และส.3 พร้อมทั้ง ส่ง ส.4 2.ค่าใช้จ่ายมี 2 รายการคือ ค่าจัดทำรายงาน 2000 บาท และให้ดำเนินการเบิกถอนค่าเปิดสมุดบัญชี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จัดกิจกรรมถอดบทเรียน ให้ชาวบ้านสรุปความรู้ที่ได้จากโครงการมาแลกเปลี่ยนและสรุปร่วมกันและหาปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขและดำเนินต่อไปในอนาคต
วันนนีคณะทำงานได้จัดกิจกรรมถอดบทเรียนโดยนายยงยุทธ สุขพิทักษ์ พี่เลี้ยงโครงการดอนโรงสร้างสุข วิถีเกษตรพอเพียง
มาเปิดประชุมเพื่อให้ชาวบ้านถอดบทเรียนเกี่ยวกับโครงการที่ทำมาและให้ชาวบ้านสรุปให้ฟังเกี่ยวกับสิ่งที่นำมาเกี่ยวกับโครงการนี้ที่ทำมาว่าเป็นอย่างไรบ้างมีอะไรบ้าง เกิดขึ้นกับโครงการบ้างและใครทำอะไรเกี่ยวกับโครงการนี้
สิ่งที่เกิดขึ้น -ทำโครงการนี้ เพราะนำประโยชน์มาใช้ในครัวเรือนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เราต้องพึ่งตัวเองก่อนที่จะพึ่งคนอื่น
-ลดค่าใช้จ่าย ให้ชาวบ้านมีการใช้สารเคมี มีการปลุกผักไว้กินเอง -ลดการใช้สารเคมี
-ความสามัคคีของชาวบ้าน ความเสียสละ การตรงต่อเวลา
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
(1)ทีมคณะทำงาน 10 คน (2)กลุ่มเป้าหมายที่สนใจ 100 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาฐานเรียนรู้ชุมชน
1.ถอดบทเรียนในการเรียนรู้ทั้ง 4 ฐาน 2.รวบรวมองค์ความรู้ทีเกิดจากกการดำเนินงาน
วันนี้กลุ่มเป้าหมายได้มานั่งพูดคุยเกี่ยวกับน้ำหมักชีวภาพ และประโยชน์
น้ำหมักชีวภาพบ้านดอนโรง เป็นการนำเอาผักและผลไม้มาหมักกับกากน้ำตาล ทำให้เกิดจุลินทรียเกิดการย่อยสลาย ทำให้ได้แร่ธาตุอาหารต่างๆ ที่อยู่ในพืช มีคุณค่า นอกจากนั้นยังใช้เป็นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต น้ำหมัก มี 3 ประเภท คือ 1. น้ำหมักชีวภาพ จากพืชสด สีเขียว (น้ำแม่) 2. น้ำหมัก จาก ผลไม้สุก (น้ำพ่อ) 3. สารขับไล่แมลง (ทำจากสมุนไพร)
วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ มี 2 ประเภท คือ (1) น้ำหมัก ชีวภาพจากพืช ทำโดยการนำเศษพืชสดมาผสมกับน้ำตาลทรายแดงหรือกากน้ำตาล อัตราส่วน กากน้ำตาล 1 ส่วน พืชผัก 3 ส่วน หมักรวมกันในถังปิดฝา
หมักทิ้งไว้ประมาณ 3-7 วัน เราจะได้ของเหลวข้นๆ สีน้ำตาล ซึ่งเราเรียกว่า น้ำหมัก ชีวภาพ (2)น้ำหมักชีวภาพจากสัตว์ มีขั้นตอนทำคล้ายกับน้ำหมักจากพืชแตกต่างกันตรงวัตถุดิบจากสัตว์ เช่น หัวปลา
ก้างปลา หอยเชอรี่ เป็นต้น
ประโยชนของน้ำหมักชีวภาพ
ดานการเกษตร คือ (1)ชวยปรับสภาพความเปนกรด - ดางในดินและน้ำ (2)ชวยปรับสภาพโครงสรางของดินใหรวนซุยอุมน้ำและอากาศไดดียิ่งขึ้น (3)ชวยยอยสลายอินทรียวัตถุในดินใหเปนธาตุอาหารแกพืช (4)ชวยเรงการเจริญเติบโตของพืชใหสมบูรณแข็งแรงตามธรรมชาติ ตานทานโรคและแมลง (5) ชวยสรางฮอรโมนพืช ทําใหผลผลิตสูงและคุณภาพของผลผลิตดีขึ้น (6)ชวยใหผลผลิตคงทนเก็บรักษาไวไดนาน
ดานปศุสัตว คือ (1) ชวยกําจัดกลิ่นเหม็นจากมูลสัตว์ (2) ชวยกําจัดน้ำเสียจากคอกสัตว์ได้ (3)ชวยกําจัดแมลงวัน
ดานการประมง คือ (1) ชวยควบคุมคุณภาพน้ำในบอเลี้ยงสัตวน้ำได้
(2) ชวยแกปญหาโรคพยาธิในน้ำ (3)ชวยรักษาโรคแผลตางๆ (4)ชวยลดปริมาณขี้เลนในบ่อและไมเน่าเหม็น
ทั้งนี้ได้มอบป้ายชื่อหน้าบ้าน ให้เป็นของรางวัลสำหรับบ้านตัวอย่าง บ้านต้นแบบด้วย และะส่ิ่งที่ได้เรียนรุ้เพิ่มเติมจากโครงการคือการบัญชีครัวเรือน ทำให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรุ้ว่า ครอบครัวตนเอง ต้องลดรายจ่ายค่าอะไรบ้าง อะไรคือรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย หลังจากเข้าร่วมโครงการ โดยเฉลี่ยแต่ละครัวเรือนลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 300 - 500 บาท เช่น ค่าโทรศัพท์ ลดการซื้อผัก ลดการซื้อปุ๋ย
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงานและกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม 130 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่่มี
สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนและสร้างฐานเรียนรู้ในชุมชน
พี่เลี้ยงติดตามงาน
ประชาชนได้มีความรู้เรื่องทำปุ๋ยหมัก เศรษฐกิจพอเพียง การปลูกผักปลอดสารพิษ
มีฐานเรียนรู้ในชุมชน
มีการเรืยนรู้เรื่องดินและน้ำ
มีครู ก และครู ข ในชุมชนเพิ่มขึ้น
ได้เรียนรู้เรื่องการทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักใช้ในในครัวเรือน
ประชาชนเกิดความสนใจ
ได้เรียนรู้การทำน้ำยาเอนกประสงค์
ได้เรียนรู้เห็นคุณค่าของเศษอาหาร โดยทำน้ำหมัก ปุ่ยหมัก
รู้จักแบ่งปัน
เกิดความรัก สามัคคี
ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
มีการทำบัญชีครัวเรือนเพิ่มขึ้น
นักเรียนได้เรียนรู้และมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น
น้กเรียนได้รู้จักโทษ พิษภัยสารเคมี และเรียนรู้วิธีการลดสารเคมี
ผู้สูงอายุ มีสุขภาพดีขึ้นเพราะได้ชวนกันออกกำลังกาย
ชุมชนเกิดความเอื้ออาทร
ประชาชนเกิดความตระหนัก
ชุมชนมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น
สภาพแวดล้อมรอบบ้านดีขึ้น
ตัวเองเปลี่ยนแปลงอย่างไร
มีความสุขมากขึ้น
ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนลดลง เพราะปลูกผักกินเอง
สุขภาพจิตดีขึ้น ได้พูดคุยกัน
สุขภาพกายดีขึ้น เพราะได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
มีการเรียนรู้ร่วมกัน มีสัมพันธภาพที่ดี
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากขึ้น
มีความรู้เพิ่มขี้น
เปลี่ยนความคิด ในทิศทางที่ดีขึ้น มองเห็นประโยชน์กลุ่มมากกว่าตน
การเปลี่ยแปลงในครอบครัว
ครอบครัวมีความเข้าใจกันมากขึ้น
ครอบครัวอบอุ่นขึ้น เพราะได้อยู่กันพร้อมหน้า
สภาพแวดล้อมดีขึ้น
มีรายได้เพิ่ม มีการลดรายจ่าย มีการเรียนรู้การทำบัญชีคร้วเรือน
สามีสุขภาพดีขึ้น เพราะปรุงอาหารไม่ใช้สารเคมี
สามีไม่หึงแล้ว เพราะทำกิจกรรมร่วมกันในชุมชน
สามีเลิกสูบบุหรี่แล้ว
หลายครอบครัวลดบุหรี่ได้แล้ว
จากเดิมสูบบุหรี่บ้าง บางครอบครัวลดลง บางครอบครัวไม่สูบแล้ว
การเปลี่ยนแปลงในชุมชน
ชุมชนน่าอยู่ขึ้น เพราะทุกคนให้ความร่วมมือเข้าร่วมกิจกรรม
สภาพแวดล้อมดีขึ้น เพราะขยะที่เผา ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นปุ๋ยหมัก
รู้จ้กแปรรูปของเศษผัก ผลไม้ที่เหลือมาให้เกิดประโยชน์ เช่น นำมาหมักเป็นน้ำส้มใส่ยาง
มีการตกแต่งบ้านให้สวยงามแบบธรรมชาติ น่าอยู่อาศัย
รู้จักออมในชุมชน มีกลุ่มระดมเงินออม
เกิดสวัสดิการในหมู่บ้าน
มีการมอบสวัสดิการให้กับสมาชิกในหมู่บ้าน
เกิดความเอื้ออาทรกันในชุมชน
มีการบริหารงานที่โปร่งใส ทุกคนตรวจสอบได้
มีกองทุนออมทรัพย์ในหมู่บ้าน และมีการบริหารจัดการที่ดี
โครงการนี้ดีหรือไม่
ดี เพราะ ได้มีเงินมาสนับสนุนในการพัฒนาหมู่บ้าน ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมพัฒนาให้ชุมชน หมู่บ้านน่าอยู่อาศัย
ดีเพราะคนชุมชนได้ร่วมมือกันมาทำกิจกรรม เดิมทำคนเดียว แต่ตอนนี้ทำเป็นทีมงาน ทำเป็นฐานเรียนรู้
ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
ได้เรียนรู้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
คนทำเกษตรได้มีกำลังใจ และเห็นคุณค่าการพัฒนาทางด้านการเกษตร
ประชาชนได้รู้เห็นโทษ พิษภัย สารเคมี มีการเรียนรู้ประโยชน์ด้านชีวภาพ
สร้างคลังอาหารในชุมชน เพราะลดการใช้สารลดเคมี ทำให้ดิน น้ำ อุดมสมบูรณ์มากขึ้น
ทำให้คนในหมู่บ้านหลายคนลด เลิกสูบบุหรี่ มากขึ้น
ทำให้ชุมชนน่าอยู่มากขึ้น มีการปรับสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน ลดการเผาขยะ ลดการสร้างควันพิษ
ได้ออกกำลังกายมากขึ้น
มีฐานเรียนรู้ชุมชน
ปีนี้ต่อกิจกรรม เพราะอยากพัฒนาต่อเนื่อง ได้ร่วมกันพัฒนาสร้างชุมชนให้น่าอยู่ อยากให้มีแหล่งเรียนรู้ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตเพิ่มขึ้น
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้
1.จัดกิจกรรมเสริมความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ตามฐานเรียนรู้จากวิทยากรชุมชน โดยมีการหมุนเวียนฐานการเรียนรู้ ทั้ง 4 ฐาน
ฐานที่ 1 เรียนรู้การผลิตและทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
ฐานที่ 2 เรียนรู้เรื่องการปรับปรุงดินและน้ำ
ฐานที่ 3 เรียนรู้เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษ
ฐานที่ 4 เรียนรู้เรื่องการนำสมุนไพรมาใช้ในการไล่แมลง
วันนี้คณะทำงานได้มีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
โดยนางสาว ห่วง ดำด้วงโรม ทำปุ๋ยหมักโดยใช้ปุ๋ยคอก ฝางข้าว และเศษผัก ปุ๋ยเคมี 1 ส่วน หมักไว้ 1 เดือน แล้วนำมาใช้
นางสามารถ ทองเอียด ใช้วิธีการ นำฟางข้าว ปูแล้วนำขี้แพะโรยบนทำแบบทลาย7ชั้น แล้วมั่นรดน้ำทุกๆ3วันจนทุกอย่างเปื่อยแล้วนำมาเพาะปลูกผักสวนครัวประหยัดต้นทุนในการชีลดินเพาะ
การทำน้ำหมักชีวภาพ นางอารีย์ ดำชุม ได้ร่วมพูดคุย น้ำหมักที่ได้นำมาจากเศษอาหาร ที่เหลือจากกิน เศษผัก ผลไม้ที่เหลือจากครัวเรือน
สิ่งที่เกิดขึ้น
-ประชาชนมีความรู้ในการทำปุ้ยหมักและน้ำหมัก ที่ได้จากเศษอาหาร แทนการใช้สารเคมี
-ประชาชนเกิดความรักความสามัคคี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
(1)ทีมคณะทำงาน 10 คน (2)แกนนำหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ 20 คน (3)กลุ่มเป้าหมายที่สนใจ 100 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและความก้าวหน้าโครงการ
1.ติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ 2.รายงานความก้าวหน้าของโครงการ
วันนี้ผู้ใหญ่บ้านไพโรจน์ พรหมสุทธิ์ ได้แจ้งให้ทราบว่าตอนนี้การพัฒนาหมู่บ้านก็บรรลุตามว้ตถุประสงค์ ให้ทุกบ้านพัฒนาบ้านตนเองให้น่าอยู่ น่าอาศํย
วันนี้ส่ิงที่พวกเราต้องพูดคุยกันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลดรายจ่ายครัวเรือน ส่ิงที่พวกเราต้องลดให้ได้คือ
นาข้าวต้องลดค่าปุ๋ยกระสอบละ 50 บาท การกำจัดวัชพืชต้องลดไร่ละ 50 บาท พันธ์ข้าวต้องลดกิโลละ 5 บาท ค่าเช่านาต้องลดให้ได้ไร่ละ 200 บาทต่อไป เพื่อให้ทุกคนได้มีความสุข
ครู ก ไ้ดแจ้งว่าตอนนี้มีการเรียนรู้ที่ฐานเรียนรู้ต่อเนื่องทุกวัน ใครที่สนใจ สามารถเข้าไปเรียนรู้ที่ฐานเรียนรู้ชุมชนได้ โดยกำหนดให้เป็นกลุ่ม กลุ่ม 30 คน หลังจากนี้เราจะครู ก และครู ขในชุมชน 130 คน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงานเข้าร่วมกิจกรรมประชุม 30 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้คำปรึกษาการจัดเตรียมรายงาน
คณะทำงาน ร่วมกันประชุมเพื่อขอคำปรึกษาในการจัดเตรียมเอกสารและทำรายงาน
ได้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดทำรายงานและเตรียมเอกสารสรุปทางการเงิน
1.ให้บันทึกข้อมูลลงในโปรแกรมออนไลน์ให้เรียนบร้อย
2.ตรวจสอบเอกสารทางการเงิน ให้ตรงกับหลักฐาน และยอดเงินทางบัญฃี
3.แยกหมวดกิจกรรมให้เรียบร้อย เพื่อให้ง่ายต่อการบันทึกข้อมูล
4.เก็บภาพถ่ายกิจกรรม เพื่อนำรายงานผล
5.รายงานต้องทำคือ ส.2 ส.3 ส.4 ง.1 งวดที่ 2
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
ติดตามความหน้าของการดำเนินงานและตรวจสอบระบบการจัดทำรายงาน
คณะทำงาน เข้าไปปรึกษาพี่เลี้ยงนครศรีฯ ที่ ม.วลัยลักษณ์ เกี่ยวกับการจัดทำรายงานและการปิดโครงการ
คณะทำงานเข้าไปปรึกษาพี่เลี้ยง ของจังหวัดนครศรีธรรมราช เกี่ยวกับการทำรายงาน การเตรียมเอกสารเพื่อปิดโครงการ พี่เลี้ยงแนะนำให้จัดทำงานรายงาน ส.2 ง.3 ส.3 และการเตรียมภาพถ่าย และข้อมูลในการทำ ส.4 ไปด้วย
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการและร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้
กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ได้จากฐานเรียนรู้และบทเรียนที่ได้จากการปฏิบัติด้วยตนเอง
นางสาว จำปี เกิดแก้ว ผู้รับผิดชอบชี้แจงโครงการดอนโรงสร้างสุขด้วยวิธีเกษตรพอเพียง โดยการเปิดประชุมครั้งนี้เพื่อนให้ประชาชนในชุมชนได้เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้เพิ่มมากขึ้นและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงจากการเข้าร่วมกิจกรรมนี้
โดยโครงการนี้อยากให้ประชาชนสนใจ เกิดความกระตือรือร้น มีความคิดสร้างสรรค์ มีความก้าวหน้า กล้าที่จะตัดสินใจในปัญหาที่เกิดขึ้น
และสมารถนำปัญหาไปแก้ไขได้โดยสมบูรณ์ตามจุดประสงค์ที่วางไว้
สรุปผลโครงการนี้ได้รู้ว่าประชาชนมีความภูมิใจ กล้าที่จะตัดสินใจ
และมีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่ตนเองคิดสร้างสรรค์และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง สมบูรณ์ และ ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
(1)ทีมคณะทำงาน 10 คน (2)แกนนำหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ 20 คน (3)กลุ่มเป้าหมายที่สนใจ 100 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินตามโครงการ
จัดแสดงนิทรรศการ ผลการดำเนินงานตามโครงการ ร่วมกับโครงการบ้านปากคลองวัดแดง ร่วมใจรณรงค์ลดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีกิจกรรมรณรงค์สวมหมวกกันน้อคทั้งตำบล
1.กิจกรรมครั้งนี้เป็นการดำเนินงานร่วมกับโครงการบ้านปากคลองวัดแดง ร่วมใจ ลดอุบัติเหตุในชุมชน มีการรณรงค์สวมหมวกกันน้อค 475 คน มีทั้งหน่วยงานภาครัฐและประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม 2.กิจกรรมที่นำมาแสดงในวันนี้ ประกอบด้วย กิจกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ในฐานเรียนรู้ชุมชน เช่น นำ้หมัก ปุ๋ยชีวภาพ ผักสดที่ปลอดสารพิษ พืชสมุนไพรที่เพาะปลูกในชุมชน 3.ทำให้เกิดเครือข่ายระดับตำบล และภาคประชาชน ให้ความสนใจและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พร้อมทั้งเขียนคำนิยม 4.ภาคีเครือข่ายระดับตำบลมีความพึงพอใจเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน 5.ได้แลกเปลี่ยนวิธีการปลูกผักโดยใช้นำหมักชีวภาพและการใช้ฮอร์โมนที่ผลิตเอง
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม 475 เป็นการจัดกิจกรรมร่วมกับโครงการบ้านปากคลองวัดแดง ร่วมใจรณรงค์ลดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีกิจกรรมรณรงค์สวมหมวกกันน้อคทั้งตำบล
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาฐานเรียนรู้ชุมชน
1.จัดกิจกรรมเสริมความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ตามฐานเรียนรู้จากวิทยากรชุมชน โดยมีการหมุนเวียนฐานการเรียนรู้ ทั้ง 4 ฐาน
ฐานที่ 1 เรียนรู้การผลิตและทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
ฐานที่ 2 เรียนรู้เรื่องการปรับปรุงดินและน้ำ
ฐานที่ 3 เรียนรู้เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษ
ฐานที่ 4 เรียนรู้เรื่องการนำสมุนไพรมาใช้ในการไล่แมลง
วันนี้ นางจำปี เกิดแก้ว ได้ชี้แจงให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ว่าครั้งนี้เราต้องหมุนฐานไปเรียนรู้กันในครั้งที่ 2 ในการหมุนฐานเริ่มจากดังนี้
กลุ่มแรก ฐานที่ 1 ฐานที่ 2 ฐานที่ 3 และฐานที่ 4
กลุ่มที่สอง ฐานที่ 2 ฐานที่ 3 ฐานที่ 4 และฐานที่ 1
กลุ่่มที่สาม ฐานที่ 3 ฐานที่4 ฐานที่ 1 และฐานที่ 2
กลุ่มที่สี่ ฐานที่ 4 ฐานที่ 1 ฐานที่ 2 และฐานที่ 3
แต่ละฐานประอดบด้วย
ฐานที่ 1 เรียนรู้การผลิตและทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
ฐานที่ 2 เรียนรู้เรื่องการปรับปรุงดินและน้ำ
ฐานที่ 3 เรียนรู้เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษ
ฐานที่ 4 เรียนรู้เรื่องการนำสมุนไพรมาใช้ในการไล่แมลง
ให้ทุกคนจดสิ่งที่ตนเองได้เรียนรู้ ผลดีที่หรือบทเรียนที่ตนเองได้รับ
จากการพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมาย พบว่า ทุกคนให้ความสนใจ มีความกระตือรือร้น ได้เรียนรู้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความกล้าที่จะตัดสินใจทำเรื่องเกษตรพื้นบ้าน บนความพอเพียง และคิดว่าสิ่งนี้สามารถแก้ปัญหาของชุมชนได้เป็นอย่างดี
สรุปผลว่า โครงการนี้ประชาชนได้ประโยชน์โดยตรง ทุกคนสนใจ และนำไปใช้กับชีวิตได้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมเรียนรู้ตามฐานเรียนรู้ในหมู่บ้าน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อชี้แจงการดำเนินงานโครงการ
ประชุมร่วมกับ สจรส.มอ.รายงานการดำเนินงานในระยะที่ 2 คือ รายงานการบันทึกกิจกรรมการดำเนินงาน,รายงานการเงิน
ประชุมร่วมกับ สจรส.มอ.รายงานการดำเนินงานในระยะที่ 2 คือ รายงานการบันทึกกิจกรรมการดำเนินงาน,รายงานการเงินซึ่งการจัดทำเอกสารการเงินมีความเรียบร้อย
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะทำงานโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและติดตามความก้าวหน้าของกิจกรรม
1.ตัวแทนช่วยกันสรุปกิจกรรมที่ดำเนินการไปแล้วให้พี่เลี้ยงฟัง 2.พี่เลี้ยงถอดบทเรียนการดำเนินงาน 3.พี่เลี้ยงลงพื้นที่ เยี่ยมชมกิจกรรม
สรุปการติดตามงาน หมู่ที่ 8 ต.เขาพระบาท
กิจกรรมที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง
กิจกรรมทำไปแล้ว คือ
1.ประชุมกรรมการซึ่งเป็นคณะทำงาน 30 คน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทีมงานมีความรู้เพิ่มขึ้น ในการจัดกิจกรรมตามโครงการ เปลี่ยนความคิดจากส่วนตัวเป็นส่วนรวม เริ่มเห็นความสำคัญของปัญหาสารเคมี อันตรายจากสารเคมี ตระหนักและให้ความสำคัญการพื้นฟูสิ่งแวดล้อม
2.ประชุมแกนนำครู ก 30 คน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีความรู้เกี่ยวกับการทำปุ๋ยหมัก น้ำหมัก และถ่ายทอดความรู้ไปยังเพื่อน และมีการสร้างครู ข และจัดทำฐานเรียนรู้ของตัวเอง ไว้ที่บ้าน เพื่อถ่ายทอดให้กับผู้สนใจ
3.ประชุมกลุ่มนักเรียน โรงเรียนบ้านดอนโรง 40 บาท สิ่งที่เกิดขึ้นนักเรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม เริ่มเห็นความสำคัญของเศษอาหาร เศษผักที่เหลือจากอาหารกลางวันทั้งที่บ้านและโรงเรียน นำมาทำเป็นน้ำหมัก เดิมนักเรียนทิ้งขยะเพ่นพ่าน และมีการปลูกผักในโรงเรียน และส่งเสริมให้มีการปลูกผักที่บ้าน ตอนนี้นักเรียนเห็นความสำคัญของใบไม้ โดยการนำมาทำเป็นปุ๋ยหมัก
4.ทำสารไล่แมลง โดยการนำสะเดา ยาเส้น ข่า ใบเทียม เจ็ดหมูน กระเพราแดง กากน้ำตาล พด.7 นำมาหมัก 1 เดือน นำไปใช้โดยมีอัตราส่วน 1 ลิตร ต่อ 20 ลิตร เมื่อนำไปใช้ ในกลุ่มประชาชน กลุ่มนักเรียน สามารถไล่แมลง ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสารเคมี การตอบรับของประชาชน ร้อยละ 70 พึงพอใจมาก และตอนนี้มีการทำสารไล่แมลงเพิ่มเติม และมีสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่ม
แตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะมีการใช้วัสดุที่มีอยู่ในชุมชน หาได้ง่าย หาได้ทุกบ้าน และเป็นสมุนไพร เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชุมชน เช่น ยาเส้นทำให้แมลง สะเดา เจ็ดหมูนมีรสขมแมลงไม่กินผัก ข่า กระเพราแดง มีรสร้อน กลิ่นฉุน การหมักโดยใช้เวลา 1 เดือน ทำให้สารมีความเข้มข้น เมื่อนำไปใช้ก็เห็นผลภายใน 2 วัน แมลงก็จะไม่มากัดกินผักและฉีดซ้ำได้ทุกสัปดาห์ ข้อมูลนี้กลุ่มเป้าหมายยอมรับและนำไปทดลองใช้จริง
5.ปุ๋ยหมัก มีการนำแกลบ ขี้วัว ขี้แพะ ผักตบ หยวกกล้วย เศษใบไม้ ขี้ไก่แกลบ คลุกเคล้ากับกากน้ำตาลและน้ำหมัก ใช้เวลา 1 เดือน นำไปใช้แล้ว ผักสวย ต้นผักอ้วนสวยงาม ไม่มีแมลงมากิน ลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนการปลูกผัก
แตกต่างจากที่อื่นๆ คือ ใช้ผัก ใช้วัสดุที่มีอยู่ในครัวเรือน ในชุมชน หยกกล้วยทำให้ดินชุ่มน้ำ ผักตบช่วยซับน้ำ แกลบทำให้ดินร่วนซุย ดินโปร่ง และทำให้เกิดไส้เดือนดิน
ปุ๋ยหมัก การตอบรับของชาวบ้าน กลุ่มเป้าหมายทุกบ้านที่เข้าร่วมกิจกรรมมีการทำปุ่ยหมัก น้ำหมักไว้ใช้เอง ตอนนี้บ้านเป้าหมายลดรายจ่ายได้มาก ซึ่งตรวจสอบได้จากบัญชีครัวเรือน
6.น้ำหมัก มีการใส่หัวปลา เศษผัก เศษอาหารที่เหลือกินจากครัวเรือน เป็นน้ำหมักสูตรสมลม เมื่อนำไปใช้แล้ว สามารถทดแทนฮอร์โมนเร่งต้น เร่งดอกได้ มีการเสริมโดยการใช้กล้วยน้ำว้าสุก ฟักทอง ผสมกากน้ำตาล
แตกต่างจากบ้านเพื่อนคือ เป็นน้ำหมักสมรส มีประโยชน์ครบอนันต์ บำรุง บำรุงใบ บำรุงต้น ทดลองใช้แล้ว ผักสวย ใบเขียว แตกยอดได้ดี ใส่ในต้นพริกทำให้ต้นพริกผลดกมาก
การตอบรับของประชาชนสนใจมาก ให้ความร่วมมือ รู้คุณค่าของเศษอาหาร คุณค่าน้ำหมักมากขึ้น เริ่มเห็นคุณค่าสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว
7.ให้ความรู้ประชาชน เพื่อสร้าง ตู้เย็นข้างบ้าน “ตู้เย็นข้างบ้าน” ในความหมายคือ รณรงค์ให้ประชาชนในบ้านดอนโรง ปลูกผักไว้กินเอง เป็นผักสด ปลูกผักที่กิน กินผักที่ปลูก และปลูกผักหลากหลายชนิด ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน กินของสดได้ตลอดเวลา
8.เกิดกระบวนการปรับปรุงดิน โดยการนำปุ๋ยและน้ำหมักที่ทำไว้ใช้ ไปรดเพื่อปรับปรุงดิน มีการไถพรวนดิน เพื่อคลุกและปรับสภาพดิน สิ่งที่เกิดขึ้น มีไส้เดือนเพิ่มขึ้น ปลูกผักได้ง่าย ดินไม่เป็นเชื้อรา ดินไม่ชื้น ปลูกผักได้ผลผลิตมากขึ้น เดิมดินแข็งกระด่าง ตอนนี้ดินร่วนซุย
9.มีศูนย์เรียนรู้ 2 แห่งที่สามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา คือ ศูนย์เรียนรู้บ้านดอนโรง และโรงเรียนบ้านดอนโรง โดยมีการทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมัก สารไล่แมลง และมีการปลูกพืชบางชนิดไว้ให้ประชาชนไว้เก็บกิน เป็นแหล่งปลูกผักรวมของหมู่บ้าน
หลังทำกิจกรรมไปแล้ว ประชาชน เป็นอย่างไรบ้าง
ด้านบวก
กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจ
เปลี่ยนความคิดในทางที่ดีขึ้น เดิมมักง่าย เอาความสะดวก ชอบซื้อ ตอนนี้หันมาทำเอง เพราะเห็นผลว่าการใช้น้ำหมัก ปุ๋ยหมัก ผลผลิตดี สวย
ลดค่าใช้จ่าย ในการผลิต
มีจิตสำนึกในการฟื้นฟู สิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์ดิน
ใช้เวลาว่าง ให้เป็นประโยชน์
เกิดความรัก ความสามัคคีในกลุ่ม
ด้านลบ
มีคนคิดระแวง เพราะงบประมาณทำเฉพาะกลุ่มนำร่อง ขยายไม่ครอบคลุม คนที่ไม่สมัครเข้าใจกิจกรรม ก็ย่อมโจมตีเป็นธรรมดา เมื่อชวนเข้าโครงการ ก็ไม่เข้า
ปัญหาอุปสรรคจากการดำเนินงานมีอะไร
ปีนี้เกิดภาวะแล้งนานกว่าปกติ ทำให้ขาดแคลนน้ำ ไม่สามารถปลูกผัก และทำกิจกรรมได้ต่อเนื่อง ทำให้บางกิจกรรมต่อชะลอไป เช่น การปลูกผักสวนครัว
ช่วงนี้พืชผลทางการเกษตร ราคาตกต่ำ ทำให้ประชาชนขาดทุน เกิดกระทบต่อโครงการ เพราะประชาชนเครียด ไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรม เพราะการออกจากบ้านต้องใช้จ่ายเงินทั้งสิ้น ต้องเก็บเงินไว้ให้กับลูกหลาน จึงอยู่บ้านและใช้ผลผลิตในบ้านเท่านั้น และอากาศร้อนมาก ประชาชนจึงไม่อยากออกจากบ้าน
ปัญหาวิกฤตทางการเมืองระดับชาติ ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนไม่อยู่บ้าน มีการเคลื่อนย้ายตลอดเวลา ส่งผลให้การทำกิจกรรมต้องเลื่อนบ่อยๆ
ผลดีที่เกิดขึ้น
ทำให้เกิดประโยชน์กับชาวบ้าน มีการเรียนรู้กันเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง
ลดต้นทุนการผลิต ลดต้นทุนการซื้อสารเคมี
ประหยัดรายจ่าย
ส่งเสริมสุขภาพ เพราะไม่ต้องกินสารเคมี
การทำบัญชีครัวเรือน ทำให้ประชาชนได้เรียนรู้ตัวเอง เรียนรู้วิธีการประหยัด มีการใช้จ่ายเรื่องที่จำเป็น เรียนรู้เรื่องรายรับ รายจ่าย
ปรับสภาพแวดล้อมในด้านปรับปรุงดิน ปรับปรุงน้ำ ทำให้ดินชุ่มชื่น ดินปลูกผักง่ายขึ้น ไม่เสื่อมสภาพ
ตัวอย่างที่ดี
กลุ่มนักเรียน มีการปลูกผัก ทำน้ำหมัก สารไล่แมลง โดยใช้วัสดุที่เหลือใช้ จากเศษอาหาร เศษใบไม้ เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สร้างความรับผิดชอบในตนเอง เรียนรู้การพึ่งตนเอง เรียนรู้การทำมาหากินสำหรับชีวิตประจำวัน
แกนนำและกลุ่มเป้าหมาย มีการทำปุ๋ยหมัก น้ำหมัก ไว้ใช้เองเกือบทุกครัวเรือน เป็นการหมักจากเศษขยะครัวเรือนที่ย่อยสลายได้ ช่วยลดขยะในครัวเรือน ลดรายจ่าย ลดสารเคมี
การสร้างจิตสำนึกของประชาชน กลุ่มเป้าหมายเห็นความสำคัญของการพึ่งตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นในเรื่องที่ไม่จำเป็น เห็นคุณค่าสิ่งที่อยู่รอบตัว เศษขยะ เศษใบไม้เริ่มมีราคา ไม่มองปัญหา แต่มองเห็นทางออกของการแก้ป้ญหา จากเดิมทำเฉพาะบุคคล ตอนนี้หันมารวมกลุ่มกัน เพื่อเรียนรู้และผลิตร่วมกัน
นวัตกรรม
สารไล่แมลง
ปุ๋ยหมัก
น้ำหมัก
ผักเหนาะสมรม
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ตัวแทนคณะทำงาน 10 คน ช่วยกันสรุปและถอดบทเรียนการดำเนินงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
คณะทำงานร่วมกันสรุปกิจกรรมตามโครงการและรายงานความก้าวหน้าของงาน
ร่วมกันประชุม สรุปผลการดำเนินและรายงานความก้าวหน้า
สรุปกิจกรรมที่ดำเนินการไปแล้ว
1.ประชุมคณะทำงาน 30 คน รวม 6 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 60 และวันนี้เป็นครั้งที่ 7
2.ประชุมแกนนำครู ก 30 คน เพื่อสร้างวิทยากรชุมชน ถ่ายทอดความรู้ไปยังเพื่อน
3.ประชุมกลุ่มนักเรียน โรงเรียนบ้านดอนโรง 40 คน จำนวน 3 ครั้ง โดยการทำปุ๋ยหมัก นำ้หมักชีวภาพและการปลูกผักปลอดสารพิษ
4.ทำสารไล่แมลง โดยการนำสะเดา ยาเส้น ข่า ใบเทียม เจ็ดหมูน กระเพราแดง กากน้ำตาล พด.7 นำมาหมัก 1 เดือน เพื่อให้ประชาชน นักเรียน นำไปใช้ไล่แมลง
5.ทำปุ๋ยหมัก มีการนำแกลบ ขี้วัว ขี้แพะ ผักตบ หยวกกล้วย เศษใบไม้ ขี้ไก่แกลบ คลุกเคล้ากับกากน้ำตาลและน้ำหมัก ใช้เวลา 1 เดือน นำไปใช้แล้วทั้งในประชาชนและนักเรียน
6.น้ำหมัก มีการใส่หัวปลา เศษผัก เศษอาหารที่เหลือกินจากครัวเรือน เป็นน้ำหมักสูตรผสมหรือสมลม นำไปใช้ทดแทนฮอร์โมนเร่งต้น เร่งดอกได้
7.ให้ความรู้ประชาชน เพื่อสร้าง ตู้เย็นข้างบ้าน หมายถึง มีผักให้เก็บกินตลอดเวลา เป็นผักสด ปลอดสารพิษ
8.เกิดกระบวนการปรับปรุงดิน โดยการนำปุ๋ยและน้ำหมักที่ทำไว้ใช้ เพื่อปรับปรุงดิน มีการไถพรวนดิน เพื่อคลุกและปรับสภาพดิน
9.มีศูนย์เรียนรู้ 2 แห่งที่สามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา คือ ศูนย์เรียนรู้บ้านดอนโรง และโรงเรียนบ้านดอนโรง โดยมีการทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมัก สารไล่แมลง
10.พี่เลี้ยงดำเนินการถอดบทเรียนถึงผลผลิตที่ได้จากการทำโครงการ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ตัวแทนคณะทำงานร่วมสรุปผลการดำเนินงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาฐานเรียนรู้ชุมชน
1.จัดกิจกรรมเสริมความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ตามฐานเรียนรู้จากวิทยากรชุมชน โดยมีการหมุนเวียนฐานการเรียนรู้ ทั้ง 4 ฐาน
ฐานที่ 1 เรียนรู้การผลิตและทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
ฐานที่ 2 เรียนรู้เรื่องการปรับปรุงดินและน้ำ
ฐานที่ 3 เรียนรู้เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษ
ฐานที่ 4 เรียนรู้เรื่องการนำสมุนไพรมาใช้ในการไล่แมลง
1.นางถนอม ชูฟอง ได้พูดคุยกับกลุ่มเป้าหมาย ให้แบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 30 - 35 คน และเรียนรู้ด้วยกันทั้งหมด 4 ครัั้ง วันละ 1 ฐานเรียนรุู้้ ประกอบด้วย ฐานที่ 1 เรียนรู้การผลิตและทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ฐานที่ 2 เรียนรู้เรื่องการปรับปรุงดินและน้ำ ฐานที่ 3 เรียนรู้เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษ ฐานที่ 4 เรียนรู้เรื่องการนำสมุนไพรมาใช้ในการไล่แมลง
2.ข้อตกลงเบื้องต้นที่ทุกคนควรทราบคือ ให้นำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาบ้านตนเอง บ้านไหนที่ทำดี จะมีป้ายชื่อติดไว้ให้หน้าบ้าน เพื่อเป้นขวัญกำลังใจ 3.สิิ่งที่ฝากเป็นข้อคิดคือ ส่ิงที่เหลือจากครัวเรือน ให้นำไปย่อยสลาย เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มมูลค่าให้มากที่สุด
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมเรียนรู้จากฐานเรียนรู้ 130 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและความก้าวหน้าโครงการ
1.ประชุมติดตามผลการดำเนินงาน 2.สรุปผลการดำเนินงานและวางแผนการดำเนินงานในรอบถัดไป
นางถนอม ชูฟอง ได้ชี้แจงให้แกนนำ 30 คน ทราบว่าตอนนี้เราได้ขยายโครงการให้ครอบคลุมมากขึ้นในหมู่บ้าน มีเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม 100 คน และในตอนนี้เราได้รับสมาชิกใหม่เพิ่มเติมอีก 100 คน โดยแบ่งหน้าที่ให้ครู ก ที่อยู่ได้ขยายกลุ่มออกไป โดยแกนนำกลุ่มเป้าหมายเข้ามาเรียนรู้ ที่ฐานเรียนรู้ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ให้สมาชิกใหม่ของเรา ได้รุ้จักทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมัก สารไล่แมลง และสอนให้สมาชิกใหม่เรียนรู้เรื่องการทำปุ๋ยไว้ใช้ ในการนำไปปรับสภาพดิน และในวันนี้เราได้เรียนรู้การทดสอบดินแบบง่ายๆ โดยนำดินตัวอย่าง เลือกจากพื้นที่ของเราที่ทำการเกษตร มา 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงในน้ำฝน 1 แก้ว แล้วเติมแอมโมเนีย 2/3 แก้ว แล้วคนทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีน้ำ ถ้าสีใสแสดงว่าดินเค็ม ถ้าสีขุ่นแสดงว่าดินเปรี้ยว ให้ทุกคนได้นำความรู้เหล่านี้ไปทดลองใช้กับกลุ่มเป้าหมาย และจะได้ร่วมกันปรับปรุงสภาพดินต่อไป และให้เหมาะสมกับเกษตรกรต่อไป เพื่อนำไปใช้ในการปลุกพืช
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงานเข้าร่วมกิจกรรมสรุปผลการดำเนินงาน 30 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อส่งเสริมให้ลดการใช้สารเคมีการเกษตรและร่วมกันปรับปรุงฟื้นฟูสภาพแวดล้อม
1.จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายจำนวน 130 คน เพื่อชี้แจงโครงการที่ทำและหาสมาชิกเพิ่มเติมให้ได้ร้อยละ 80 % 2.ให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับการทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมัก การทำน้ำยาไล่แมลง
นางหนุฟอง หนูทอง ผู้รับผิดชอบโครงการให้กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ทางกลุ่มได้รับสมัครเพิ่มเติมเพื่อขยายโครงการดอนโรงสร้างสุขด้วยวิถีเกษตรพอเพียงให้ขยายไปให้ครอบคลุมทั้งหมู่ 8 ให้ได้มากที่สุดการที่เราทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้รู้ถึงวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการทำโครงการในครั้งนี้ทาง อสม อยากให้ชาวบ้านดอนโรงมีความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเองและให้ทุกครอบครัวรู้จักการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน วัตถุประสงค์ในการทำกิจกรรมในวันนี้ 1.เพื่อให้ชาวบ้านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผักปลอดสารพิษไว้บริโภค 2.เพื่อให้ชาวบ้านตระหนักถึงการใช้สารเคมี 3.เพื่อให้ชาวบ้านมีความรู้เกี่ยวกับการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ 4.เพื่อให้ชาวบ้านมีความรู้เกี่ยวกับการทำน้ำยาไล่แมลง ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการดอนโรงสร้างสุข ด้วยวิถีเกษตรพอเพียง การที่เราเสนอทำโครงการนี้เราอยากให้ชาวบ้านมีความรู้เกี่ยวกับการปลุกผักไว้กินเองและสอนให้ชาวบ้านมีการทำปุ๋ยหมักและรู้จักการทำน้ำยาไล่แมลงไว้ใช้เอง หลังจากนี้เราจะให้ชาวบ้านที่ร่วมกลุ่มกันทำน้ำหมักใช้เองให้ได้ 80% ของพื้นที่ ม 8
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ประชาชนที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ 130 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและความก้าวหน้าโครงการ
กิจกรรม มีดังนี้
1.พี่เลี้ยงติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ
2.พี่เลี้ยงสรุปแนวทางการดำเนินงานในส่วนที่ผ่านมาและส่วนที่ยังต้องดำเนินกิจกรรมต่อไป
3.คณะทำงานสรุปกิจกรรมที่เกิดขึ้นตามโครงการ
4.คณะทำงานเสนอปัญหา และร่วมกันคิดวิธีแก้ปัญหา
5.พี่เลี้ยงตรวจสอบหลักฐานทางการเงิน
1.พี่เลี้ยงติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ
2.พี่เลี้ยงสรุปแนวทางการดำเนินงานในส่วนที่ผ่านมาและส่วนที่ยังต้องดำเนินกิจกรรมต่อไป
3.คณะทำงานสรุปกิจกรรมที่เกิดขึ้นตามโครงการ
4.คณะทำงานเสนอปัญหา และร่วมกันคิดวิธีแก้ปัญหา
5.พี่เลี้ยงตรวจสอบหลักฐานทางการเงิน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายคือคณะทำงานตามโครงการ 10 คน
ปัญหาที่พบคือ ช่วงนี้ประกาศเป็นภาวะภัยแล้ง ประชาชนไม่สามารถดำเนินกิจกรรมที่เีกี่ยวข้องกับน้ำได้เลย เช่น การปลูกผัก การปรับปรุงฐานเรียนรู้ ได้เสนอแนะไปยังพี่เลี้ยง สจรส.มอ. ให้แนวคิดว่ากิจกรรมใดที่ได้ ก็ให้ทำไปก่อน กิจกรรมใดยังไม่ทำ ให้รอไว้ก่อน
ไม่มี
ให้ปรับกิจกรรมที่สามารถกระทำได้ก่อน ส่วนกิจกรรมใดที่่ต้องใช้น้ำ ถ้าฝนตกหรือมีน้ำค่อยดำเนินการ เช่น การปลูกผัก
เพื่อทำความเข้าใจกับผลการดำเนินกิจกรรมและติดตามผลงาน
ให้กลุ่มเป้าหมาย 30 คน หาสมาชิกเพิ่มให้ได้ 130 คน เพื่อให้ได้ 80 % เพื่อขยายโครงการดอนโรงสร้างสุขด้วยวิถีเกษตรพอเพียง
นางถนอม ชูฟอง ประธาน อสม ชี้แจงให้แกนนำชุมชนและเพื่อน อสม ที่เข้าร่วมโครงการกับเรามีกลุ่มเป้าหมาย 30 คน และให้กลุ่มเป้าหมายจำนวน 30 คน หาสมาชิกเพิ่ม 130 คน เพื่อขยายกิจกรรมเพิ่มเพื่อให้สมาชิกเพิ่ม ให้ชาวบ้านดอนโรงมีความตระหนักในการปลุกผักปลอดสารพิษ ในวันนี้ขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักที่ให้กลุ่มเป้าหมาย 30 ครัว ที่ทำน้ำหมักและปุ๋ยหมักให้สมาชิกกลุ่มเป้าหมาย 30 ขยายกลุ่มเพิ่มโดยการหาสมาชิกเพิ่มเพื่อขยายโครงการให้ได้สมาชิก เพิ่ม 80% และให้สมาชิกเก่าสอนสมาชิกใหม่มาเรียนรู้เกี่ยวกับการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมัก การทำน้ำยาไล่แมลงในฤดูการต่างๆ เมื่อทุกคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการเริ่มหลังจากนี้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงานเข้าร่วมประชุม 30 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากฐานที่ได้ไปเรียนมา
นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์เศษอาหารที่เหลือรับประทานเพิ่มมากขึ้นและตระหนักถึงประโยชน์ของใกล้ตัวเพิ่มขึ้น
นางสาว จำปี เกิดแก้ว ผู้รับผิดชอบ ให้นักเรียนร่วมถอดบทเรียนในครั้งนี้และให้นักเรียนสรุปให้ฟังเกี่ยวกับกิจกรรมที่ได้เรียนรู้มาทั้ง 2 ครั้ง ที่ผ่านมานักเรียนได้สรุปให้ฟังเกี่ยวกับความรู้ที่ได้หลายๆอย่างที่นำกลับไปใช้ที่บ้านได้เช่น การทำปุ๋ยหมัก และการปลูกผักปลอดสารพิษ และการทำน้ำยาไล่แมลงเองและนักเรียนหลายๆคนได้สรุปให้ฟังว่า การที่ป้าๆ อสม ได้มาสอนการทำปุ๋ยหมักชีวภาพและปุ๋ยหมัก ทำให้นักเรียนนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนโรงได้ตระหนักถึงประโยชน์ในความสำคัญของเศษอาหารหรือผักที่พวกเขาเหลือจากการรับประทานอาหารแทนที่จะทิ้งก็นำกลับมาใส่ถังหมักเพื่อใช้มาปลุกผักปลอดสารพิษไว้รับประทานและนำน้ำหมักหรือปุ๋ยหมักที่เหลือนำกลับไปใช้ที่บ้านได้อีก นักเรียนโรงเรียนบ้านดอนโรงอยากให้มีกิจกรรมดีๆเกิดขึ้นอีกต่อไป
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน อสม นักเรียนโรงเรียนบ้านดอนโรง 50 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
ให้ความรู้เกี่ยวกับการลดใช้สารเคมีในภาคเกษตรแล้วหันมาใช้น้ำหมักและปุ๋ยหมักให้ได้ 80%ของครอบครัวทั้งหมด
ให้ความรู้ความเช้าใจเกี่ยวกับการทำน้ำหมักเพิ่มเติมและหาสูตรใหม่มาปรับใช้กับพืชผักที่เราปลูกตามฤดูกาล
นางนวย นาโร ให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมักและการทำน้ำยาไล่แมลง สาธิตให้ความรู้เรื่องการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพในการทำปุ๋ยหมักครั้งนี้มีอุปกรณ์การทำดังนี้ 1.หยวกกล้วย 2.ผักตบ 3.ขี้แพะ 4.แกลบ 5.ใบไม้แห้ง 6.น้ำหมักชีวภาพ หลังจากนั้นเมื่อรู้ส่วนผสมทุกคนก็ช่วยทำปุ๋ยหมักและให้ชาวบ้านได้ทำและนำปุ๋ยหมักกลับไปหมักต่อที่บ้าน แล้วนำปุ๋ยหมักที่ทำไปใช้ที่บ้านเมื่อทุกคนดูการทำปุ๋ยหมักแล้วก็นำความรู้ที่ได้กลับไปทำต่อที่บ้านเพื่อใช้ในการปลุกผัก หลังจากนั้นเรายังรณรงค์ให้ทุกบ้านปลุกผักไว้กินเอง
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน อสม 30 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่แกนนำเยาวชน ก่อให้เกิดความยั่งยืนของโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชน
นักเรียนโรงเรียนบ้านดอนโรงรู้จักการนำเศษอาหารที่เหลือมาทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักใช้เอง ในการปลุกผักสวนครัว
นางเพ็ญศรี ชุมทอง ขอความร่วมมือจากนักเรียนและคณะครูร่วมกันทำโครงการครั้งที่ 2 เพื่อให้นักเรียนทำบานเรียนรู้จำนวน 4 ฐานและให้นักเรียนรู้จักการปลูกผักกินเองและแนะนำให้นักเรียนรู้จักการปลุกผักไว้กินโดยปลอดสารเคมีอันดับแรกของวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ 1.เพื่อให้นักเรียนเกิดจิตสำนึกในการปลูกผักกินเอง 2.เพื่อให้นักเรียนตระหนักถึงประโยชน์ของเศษอาหารที่เหลือรับประทานเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ 3.เพื่อให้นักเรียนตะหนักถึงคุณค่าของสมุนไพรไล่แมลง 4.เพื่อให้นักเรียนเกิดความสามัคคี 5.เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และนำสิ่งที่ได้มาทำฐานเรียนรู้ภายในโรงเรียน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
นักเรียนโรงเรียนบ้านดอนโรง 50 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้สมาชิกกลุ่มดอนโรงสร้างสุขรู้จักการใช้สมุนไพรไล่แมลงแทนการใช้สารเคมีทุกครัวเรือน
สมาชิกกลุ่มบ้านดอนโรง สร้างสุข มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไล่แมลงเพิ่มมากขึ้นและลดการใช้สารเคมีภาคเกษตรลดลง รู้จักการเอาสมุนไพรใกล้ตัวมาใช้
นางหนูฟอง หนูทอง ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งให้แกนนำทราบถึงกิจกรรมที่ทำในครั้งนี้ ในตอนนี้โครงการดอนโรงาร้างสุข ด้วยวิถีเกษตรพอเพียงได้ขอความร่วมมือจากนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนโรงและคณะครุผู้สนใจในกิจกรรมมาร่วมโครงการและตอนนี้เรามีสมาชิกจำนวน 70 คน ซึ่งมาจากชาวบ้าน 30 คน และนักเรียนจำนวน 40 คน มาร่วมกิจกรรมและศึกษาหาความรู้จากบานเรียนรู้และหลังจากนี้เราจะมีการทำฐานเรียนรู้สู่บ้านปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้ศึกษาเกี่ยวกับฐานเรียนรู้ซึ่งมีการจัดฐานเรียนรู้กระจายเป็นจุดๆละ 4 ฐานเรียนรู้ประกอบด้วย 1.การผลิตและทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ และหลังจากนี้เราจะใช้แกนนำที่เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มดอนโรงสร้างสุขได้ทำปุ๋ยหมักใช้เองให้ได้ถึง 80% ของคนในชุมชนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 2.กระบวนการปรับปรุงดิน 3.การปลูกผักปลอดสารพิษไว้บริโภค เนื่องจากในปัจจุบันนี้ผักที่เราบริโภคเข้าไปมีสารเคมี ทางกลุ่มดอนโรงสร้างสุขจึงอยากให้ชาวบ้านดอนโรงสร้างสุขมีสุขภาพที่ดี จึงขอความร่วมมือให้ทุกคนสร้างตู้เย็นข้างบ้านทุกหลังคาเรือน 100% เต็มของสมาชิกที่อาสาสมัครเข้าร่วมโครงการกับเรา 4.สมุนไพรมาใช้ภาคเกษตรไล่แมลง เนื่องจากชาวบ้าน บ้านดอนโรงมีการใช้สมุนไพรกันมากในบางครัวเรือนทางกลุ่มจึงอยากให้ทุกคนหันมาใช้สมุนไพรไล่แมลงแทนการใช้สารเคมี
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงานตามโครงการเข้าร่วมประชุมตามแผน 30 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามความหน้าของการดำเนินงานและตรวจสอบระบบการจัดทำรายงาน
คณะทำงานได้ฝึกการบันทีกข้อมูลลงในโปรแกรมออนไลน์ และได้นำเอกสารให้พี่เลี้ยงได้ตรวจสอบความถูกต้อง
คณะทำงานได้ฝึกการบันทีกข้อมูลลงในโปรแกรมออนไลน์ และได้นำเอกสารให้พี่เลี้ยงได้ตรวจสอบความถูกต้อง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ และถอดบทเรียนการทำงาน
1.ติดตามความก้าวหน้าของการทำงานของคณะทำงาน โดยให้เล่ากระบวนการพัฒนางาน 2.ถอดบทเรียนในการพัฒนางานตามกิจกรรมโครงการ และสรุปผลการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มคน
วันนี้สรุปผลการพูดคุยคณะทำงานเล่าให้ฟังว่ากิจกรรมที่ทำไปแล้วประกอบด้วย
1.ประชุมคณะกรรมการไปแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง ทุกคนก็เห้นด้วยและเข้าใจกระบวนการพัฒนา
2.จัดประชุม ครู ก สิ่งที่ได้คือความรู้และแนวทางการพัฒนา ตอนนี้ครู ก ก็ได้สร้าง ครู ข ทั้งหมด 30 คน ได้เรียนรู้และทำแหล่งเรียนรู้ เพื่อเตรียมถ่ายทอดให้ชาวบ้าน
3.ตอนนี้จัดกิจกรรมฐานเรียนรู้ 4 ฐาน 1) ฐานทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ 2)ฐานปรับปรุงดินและน้ำ 3)ฐานปลูกผักปลอดสารพิษ 4)ฐานสมุนไพรเพื่อใช้ในการเกษตร
4.ขณะนี้ได้รับสมัครประชาชนเ้ข้าร่วมกิจกรรม มีครัวเรือนสนใจ ประมาณ 120 ครัว
จากสิ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในเวลา 4 เดือนนี้ คณะทำงานมองเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลง
ผู้ใหญ่ทำนอง ผมได้เห็นว่าประชาชนเข้าร่วมโครงการ มากกว่าร้อยละ 60 เห็นทุกบ้านทำกิจกรรมที่ ครู ก ครู ข สอนไปให้
พี่ถนอม ตอนนี้เราเห็นกระบวนการพัฒนาคน ชัดเจนขึ้น คนเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่าเดิม คนนำความรู้ไปทำที่บ้าน ขยะในบ้านตอนนี้ลดลง
พี่กัญญา มองเห็นทุกบ้านทำปุ๋ย ทำน้ำหมักใช้กัน พวกเราเจอกัน ก็คุยกันแต่เรื่องนี้
้น้องสุภาวดี ทุกบ้านปลูกผักกันเต็มที่เลย ปลูกไว้หน้าบ้าน
น้องจำปี โครงการนี้ทำให้คนรู้จักประหยัด ลดต้นทุนการผลิต ไม่ต้องไปซื้อปุ๋ยเคมีมาใ้ช้ให้เปลืองตังค์
พี่ถนอม ตอนนี้เราได้ขยายพื้นที่การพัฒนาเพิ่มออกไปเรื่อยๆ แล้วนะ แค่ 4 เดือน ชาวบ้านตอบรับ ร้อยละ 40 ถือว่ามากนะ
พี่กบ ชาวบ้านมารวมตัวกันมากขึ้นนะ ชวนทำไหรก็ทำ ชวนมาพัฒนาก็ร่วมใจ เราเห็นคนมีน้ำใจ คนตื่นตัวกันมาก
โดยภาพรวมทุกคนสรุปว่า คนที่เข้าร่วมกิจกรรมเริ่มเปลี่ยนวิธีคิด เริ่มสนใจเข้าร่วมพัฒนา สิ่งแวดล้อมก็เริ่มเปลี่ยนเพราะขยะที่บ้านจะไม่ทิ้ง นำไปทำปุ๋ยและนำ้หมัก กลไกเปลี่ยนคือ ทุกคนหันหน้ามาร่วมพัฒนากันมากขึ้น เกิดความรัก ความสามัคคีกัน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้การปลูกผักปลอดสารพิษ ทำปุ๋ยและน้ัำหมักชีวภาพ
1.นักเรียนที่สนใจเกี่ยวกับการปลูกผัก สมัครเข้าร่วมโครงการ
2.มีการปลูกผักที่โรงเรียน เพื่อนำไปใช้ในอาหารกลางวัน
3.ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
4.นำนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการเรียนรู้กิจกรรมโดยการให้นักเรียนปฏิบัติจริงและทำฐานเรียนรู้ภายในโรงเรียนจำนวน 4 ฐานเรียนรู้
เวลา 14:00 น. นางถนอม ชูฟอง ประธาน อสม ขอความร่วมมือจากนักเรียน คณะครู โรงเรียนดอนโรง เพื่อเปิดโครงการดอนโรงสร้างสุข ด้วยวิถีเกษตรพอเพียงสู่โรงเรียน โดยครั้งนี้ทางแกนนำชุมชนและอสมขอรับสมัครอาสาสมัครนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนโรงจำนวน 40 คนเพื่อเข้ามาเรียนรู้การจัดทำฐานการเรียนรู้จำนวน 4 ฐานและมาเรียนรู้เพื่อไปปฏิบัติจริงที่บ้านและโรงเรียนโดยวัตถุประสงในครั้งนี้เราจะมาทำฐานเรียนรู้ 1 ฐาน เมื่อเสร็จโครงการและอยากให้นักเรียนโรงเรียนบ้านดอนโรงตระหนักในการปลูกผักกินเองรู้จักการนำเอาเศษอาหารที่เหลือในตอนกลางวันมาทำน้ำหมักชีวภาพและอยากให้นักเรียนมีส่วนร่วมกัน อสม 100% เมื่อได้แกนนำจำนวน 40 คนแล้ว นางถนอม ชูฟอง จึงให้นางสามารถ ทองเอียด ชี้แจงวัตถุประสงค์ในการทำกิจกรรมในวันนี้ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการกันก่อนนักเรียนทราบหรือไม่ว่า โครงการดอนโรงสร้างสุขด้วยวิถีเกษตรพอพียงขออธิบายคำว่า ดอนโรงสร้างสุข ด้วยวิถีเกษตรพอเพียง ก่อนคือ การทำชาวบ้านดอนโรงอยู่กันอย่างมีความสุขด้วยเกษตรข้างบ้านหรือพูดอีกอย่างการปลกผักกินเองหรือการสร้างตู้เย็นข้างบ้าน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
นักเรียทุกชั้น สมัครเข้าร่วมกิจกรรม 50 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อปรึกษาพี่เลี้ยงในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ
คณะทำงานปรึกษากับพี่เลี้ยง เพื่อหาคำแนะนำการทำงานตามโครงการ
พี่เลี้ยงได้ให้คำแนะนำในการออกแบบกิจกรรมในงวดที่ 2 และการจัดทำรายงาน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อรณรงค์การลด ละเลิกบุหรี่
จัดทำป้ายไวนิลโครงการ
จัดทำป้ายไวนิลโครงการและรณรงค์ลด ละ บุหร่ี่
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
จัดทำป้ายไวนิล 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและมีรูปแบบพัฒนาชุมชนบ้านดอนโรง
กลุ่มเป้าหมาย 30 คน เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดทำตามฐานเรียนรู้
วันนี้กลุ่มเป้าหมายและเกือบทุกบ้านที่เข้าร่วมกิจกรรม มีการปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ขยะที่เหลือในบ้าน ก็นำมาหมัก จนได้น้ำหมักชีวภาพ ทำปุ๋ยชีวภาพ ผักก็ปลูกหลากหลายชนิด ไม่มีการขาย นำมาแบ่งกันกิน ไม่มีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช แต่จะใช้แบบเกษตรวิถี คือปลูกสมุนไพร ดอกไม้ที่มีกลิ่นแซมระหว่างผัก ได้แก่ ดาวเรือง สะเดา แซมกับร่องผัก เพื่อไล่แมลง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมาย 30 คน ประกอบด้วย 1.ทีมคณะทำงาน 10 คน 2.แกนนำหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและมีรูปแบบพัฒนาชุมชนบ้านดอนโรง
จัดประุชุมทีมงาน ครุ ก เพื่อเรียนรู้ตามฐานเรียนรู้ และเพิ่มความมัี่นใจในการจัดทำฐาน
นางหนูฟอง หนูทอง ได้เปิดประชุมครู ก 30 คน ทบทวนความรู้ที่ผ่านมา และประสบการณ์ที่ได้จากฐานเรียนรู้ และได้แลกเปลี่ยนความรู้กันในการถ่ายทอด ในวันนี้พวกเราได้เรียนรู้ครบทั้งื 4 ฐานเรียนรู้แล้ว
นางระเบียบ สุดเอียด ได้กล่าวว่า ตอนนี้เราได้แบ่งหน้าที่ของ ครู ก กันแล้ว วันนี้ฐานเรียนรู้ผักปลอดสารพิษ ก็มีประชาชนสนใจมากพอสมควร
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมาย 30 คน ประกอบด้วย 1.ทีมคณะทำงาน 10 คน 2.แกนนำหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างแนวทางในการพัฒนาชุมชนบ้านดอนโรงและสร้างวิทยากรกระบวนการ
จัดประชุมแกนนำ ซึ่งสมัครใจเป็นแกนนำครู ก จำนวน 10 คน และ ครู ข 20 คน เพื่อร่วมกันหาแนวทางถ่ายทอดความรู้
ทีมงานได้พูดคุยกันเดิมไม่สนใจหรอกว่าหมู่บ้านจะทำอะไร แต่วันนี้ร่วมพัฒนา ได้เข้าเรียนรู้ในฐานเรียนรู้ ทำน้ำหมักไว้ใช้เอง ปลูกสมุนไพรไว้ใช้ ขยะที่เหลือก็ใส่ถังไปทำน้ำหมัก วันนี้ที่บ้านลดขยะได้เยอะ ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย ปลูกผักไปด้วย เมื่อมาทำบัญชีพบว่า รายจ่ายที่บ้านเริ่มลดลง อันไหนไม่ซื้อก็ไม่ต้องซื้อ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ไม่ีมี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน
1.อธิบายเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ เป้าหมายและตัวชี้วัดโครงการให้ประชาชนทราบ
2.อธิบายกระบวนการพัฒนาให้ประชาชนทราบ
3.รับสมัครประชาชนเข้าร่วมกระบวนการพัฒนา
1.อธิบายให้ประชาชนทราบว่าโครงการนี้ มีวัตถุประสงค์คือ (1)สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาบ้านดอนโรง (2) ส่งเสริมให้ลดการใช้สารเคมีจากการเกษตร และร่วมกันฟื้นฟูสภาพแวดล้อมชุมชน
2.ตัวชี้วัดในการดำเนินงานโครงการคือ (1)กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาทุกครั้ง ร้อยละ 80 (2)ร่วมกันจัดทำรูปแบบการพัฒนาบ้านดอนโรง (3)มีฐานเรียนรู้ชุมชน 4 ฐาน
3.กระบวนการพัฒนา มี 5 กระบวนการ
กระบวนการที่ 1 พัฒนาคณะทำงาน
กระบวนการที่ 2 สร้างครู ก และครู ข เพื่อร่วมกันจัดทำฐานเรียนรู้
กระบวนการที่ 3 รับสมัครประชาชนเข้าร่วมกิจกรรในฐานเรียนรู้ ทั้ง 4 ฐาน และนำไปพัฒนาต่อที่ครัวเรือน
กระบวนการที่ 4 ขยา่ยไปสู่เยาวชนและโรงเรียน
กระบวนการที่ 5 ถอดบทเรียนในการดำเนินงาน
4.สอบถามความคิดเห็นประชาชน ทุกคนในที่ประชุมเห็นด้วยและสมัครใจเข้าร่วมกิจกรรม
สิ่ิงที่เกิดขึ้นในกลุ่มคน หลายคนเปลี่ยนแปลงแนวคิด เปลี่ยนแปลงทัศนคติ มีคำพูดที่บ่งบอก "ฟังแล้วฉันว่าทำไมยาก แต่แรกคิดว่าเรือ่งนี้ใครก็ทำไม่ได้หรอก พอฟังทุกขั้นตอนฉันว่าทำได้" "มันเป็นเรื่องแค่ตัว น่าจะทำนะ"
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและมีรูปแบบพัฒนาชุมชนบ้านดอนโรง
1.ทีมงานประชุมแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบกิจกรรมการพัฒนาบ้านดอนโรง จากชุดความรู้ของฐานเรียนรู้
2.รับสมัครกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการแบบสมัครใจ จำนวน 100 คน
3.ครูก และครู ข แบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม เพื่อให้ความรู้และสมาชิกกลุ่ม
4.สอนแนะกลุ่มเป้หมายให้ทำบัญชีครัวเรือนเพื่อเปรียบเทียบการเพิ่มรายได้ การลดรายจ่าย เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการ
1) นางหนูฟอง หนูทอง ได้ชี้แจงให้ทราบเกี่ยวกับโครงการ ซึ่งได้นำความรู้จากฐานเรียนรู้มาบอกเล่า โดยฐานเรียนรู้ มี 4 ฐาน ได้แก่
ฐานที่ 1การผลิตและทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
ฐานที่ 2 กระบวนการปรับปรุงดินและน้ำ
ฐานที่ 3 การปลูกผักปลอดสารพิษไว้บริโภค
ฐานที่ 4 การนำสมุนไพรมาใช้ในภาคเกษตรไล่แมลง
2) การทำฐานเรียนรู้ แบ่งพี่เลี้ยงออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน มีทั้งครู ก และครู ข มีข้อกำหนดว่าสมาชิกกลุ่มต้องอยู่ในละแวกเดียวกัน และทำการเกษตรเหมือนกัน มีความต้องการพัฒนาแบบสมัครใจ ทุกกลุ่มมี ครู ก=1 คน ครู ข= 2 คน โดยมีครู ก และครู ข มีหน้าที่ช่วยเหลือถ่ายทอดความรู้การปฏิบัติไปสู่กลุ่มเป้าหมาย ติดตามผลการปฏิบัติ แก้ปัญหากับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างชัดเจนในกลุ่มเป้าหมาย 3.นางถนอม ชูฟอง ได้แนะนำให้ทำบัญชีครัวเรือนเพื่อเปรียบเทียบการเพิ่มรายได้ การลดรายจ่าย เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของคณะทำงาน
คณะทำงาน 30 คน ร่วมกันประชุมเพื่อเรียนรู้การจัดทำฐานในชุมชนและรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม โดยทำฐานเรียนรู้ ฐานละ 2 แห่ง
วันนี้พี่เลี้ยงได้เข้ามาติดตามโครงการ โดยบอกระยะเวลา 1 ปี เรามีคณะทำงาน 30 คน และต้องขยายเพิ่มโดยมีสมาชิก 120 คน เ้น้นย้ำเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ ต้องเบิก 2 ใน 3 ได้แก่ นางหนูฟอง นางเพ็ญศรีและนางสมมารถ
และในการทำกิจกรรม ให้ อสม.ร่วมเป็นพี่เลี้ยงในการทำกิจกรรม
นางหนูฟอง หนูทอง ทบทวนให้ฟังว่า เราได้สร้าง ครู ก และครู ข เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการจัดทำกิจกรรมตามฐานเรียนรู้ไปแล้ว 2 ฐาน เดือนนี้จะรับสม้ัครประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 4 ฐานเรียนรู้
และช่วงปลายเดือนมกราคม จะเข้าไปทำกิจกรรมในกลุ่มนักเรียน ซึ่งประสานกับ ผอ.โรงเรียนแล้ว
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่ีมี
ไม่มี
เพื่อสร้างแนวทางในการพัฒนาชุมชนบ้านดอนโรงและสร้างวิทยากรกระบวนการ
กลุ่มเ้ป้าหมาย 30 คน ร่วมกันจัดทำฐานเรียนรู้ ตามที่กำหนดโดยเรียนรุ้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรในการกำจัดแมลง
วันนี้นางถนอม ชูฟอง เปิดประชุมชี้แจงเกี่ยวกับฐานเรียนรุ้ครั้งที่ 2 โดยการนำเอาสมุนไพรมาใช้ในการเกษตร จะใช้สมุนไพรมาใช้ในการเกษตรได้อย่างไร วันนี้จะแนะนำการใั้้ช้มะกรุดและมะนาว กำจัดแมลง
สูตร การใช้สมุนไพรไล่ยุงในครัวเรือน
วิธีการคือ นำเอามะกรูดไปล้างให้สะอาด นำมะกรูดมาปอกเปลือก และนำมะกรูดไปใส่หม้อต้มให้เดือด รอจนมะกรูดเปื่อย ปิดไฟแล้วตั้งไว้ให้เย็น กรองเอาแต่น้ำ นำไปใช้เป็นสเปรย์ไล่ยุง
และจากการชี้แนะของบ้านอู่แก้ว หมู่ที่ 9 แนะนำให้ใช้เครื่องแกง มาผสมกับน้ำแล้วฉีดไล่แมลง
พืชทีปลูกแล้วสามารถไล่แมลงได้คือ ดาวเรือง ดาวกระจาย เพราะกลิ่นเหม็น
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ไม่ีมี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างแนวทางในการพัฒนาชุมชนบ้านดอนโรงและสร้างวิทยากรกระบวนการ
แกนนำครู ก และครู ข จำนวน 30 คน ร่วมกันจัดทำฐานเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการทำปุ๋ยหมักและนำ้หมักชีวภาพ
นางกัญญา จันทร์นวล ผู้รับผิดชอบฐานเรียนรู้ ได้ชี้แจงว่าวันนี้จะแลกเปลี่ยนกิจกรรมการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ โดยนำความรู้จากปราชญ์ชุมชนมาถ่ายทอด เพื่อลดต้นทุนในชุมชน
สูตร 1การทำปุ๋ยหมักใช้ในการทำนาข้าว ประกอบด้วย หอยเชอรี่ 10 กิโล กม.1 1 ซอง กากน้ำตาล 5 ลิตร นำท้้ง 3 อย่างมาหมักรวมกันเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นนำหัวเชื้อที่ได้ 1 ลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร นำไปฉีดพ่นนาข้าว ในระยะต้นกล้า สามารถลดต้นทุนการผลิตในการใส่ปุ่ยลงไปได้ครึ่งหนึ่ง
สูตร 2 การทำปุ่ยหมักโดยใช้เศษใบไม้ ขยะในบ้าน ประกอบด้วย 1.เศษหยวกกล้วย เศษผักบุ้ง หรือเศษผักต้ม รวมกันให้ได้ 100 กิโลกรัม ใส่ กม 1 ซอง นำทุกอย่างมาผสมคลุกเคล้ากัน เอามากองแล้วใช้กระสอบปิดไว้ 1 เดือน สามารถนำไปใ่ส่ต้นไม้แทนปุ๋ยได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างแนวทางในการพัฒนาชุมชนบ้านดอนโรงและสร้างวิทยากรกระบวนการ
จัดประชุมแกนนำ ซึ่งสมัครใจเป็นแกนนำครู ก จำนวน 10 คน และ ครู ข 20 คน เพื่อร่วมกันหาแนวทางถ่ายทอดความรู้
นางหนูฟอง หนูทอง ได้ชี้แจงแกนนำว่า วันนี้ได้คัดเลือก ครู ก และครู ข เรียบร้อย วันนี้จะทำการสร้างฐานเรียนรุ้ในชุมชน จำนวน 4 ฐาน โดยฐานเรียนรู้จะนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ได้แก่
ฐานที่ 1 ฐานทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ฐานที่ 2 ฐานปรับปรุงดินและน้ำ ฐานที่ 3ฐานปลูกผักปลอดสารพิษ ฐานที่ 4 ฐานสมุนไพรเพื่อใช้ในการเกษตร
โดยจัดทำน้ำหมัักและปุ๋ยหมัก เพื่อปลูกผักปลอดสารพิษไว้รับประทานเองรอบบ้าน เป็นตู้เย็นข้างบ้าน โดยใช้น้ำที่เหลือใช้ในการรดน้ำผัก และใช้สมุนไพรในการไล่แมลง
วาระที่ 2 นางหนูฟอง ได้แนะนำให้ทุกครัวเรือนจัดทำบัญชีครัวเรือน โดยให้ทำทุกบ้านเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการทำงาน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนด
คณะทำงาน 10 เข้าร่วมประชุม มีกิจกรรมดังนี้
1.รายงานผลการดำเนินตามกิจกรรมที่กำหนด
2.รายงานความก้าวหน้าของกิจกรรมในแต่ละครั้ง
3.ตรวจสอบเอกสาร หลักฐานทางการเงิน
วันนี้เวลา 13.30 น. ขัาพเจ้าได้ติดตามความก้าวหน้าของโครงการและการดำเนินงานของคณะกรรมการ โดยเชิญกลุ่มเป้าหมายหลักๆ 15 คน ประกอบด้วย กลุ่ม อสม กลุ่มแกนนำ ผู้ใหญ่บ้าน และ สอบต.เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ ในประเด็นดังนี้
1.ได้ทำการชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันเีกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการตามวัตถุประสงค์ มีระยะเวลาในการดำเนินงานตั้งแต่เดือน กันยายน 56 - กันยายน 57 พบว่า โครงการมีความก้าวหน้าไปบ้าง ประมาณร้อยละ 15 มีการประชุมคณะกรรมการตามแผนที่วางไว้และทำกิจกรรมตามแผนไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้บันทึก
2.สอนแนะเกี่ยวกับการทำเอกสารโครงการ ขอให้ทีมงานบันทึกในเอกสารของโครงการก่อน ทำให้สมบูรณ์ เอกสารประกอบด้วย 1.บันทึกการประชุมมีเนื้อหาอะไรเขียนให้ละเอียด 2.ลายมือชื่อการประชุม 3.ถ้ามีค่าใชัจ่ายต้องมีใบเสร็จหรือใบสำคัญรับเงิน ถ้าเป็นใบสำคัญรับเงินใช้บัตรประชาชนแนบทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและน่าเชื่อถือ 4.เอกสารสรุปการทำงานเพื่อนำไปบันทึกในหน้าเวปออนไลน์ **ทั้งนี้เอกสารทั้งหมดให้แนบไว้เป้นชุดๆ เรียงตามวันที่ เผื่อการตรวจสอบของพี่เลี้ยงและ สสส.***
3.ได้สอนแนะวิธีการบันทึกเอกสารออนไลน์ตามโปรแกรมของ สจรส. โดยกำหนด 1.สมัครสมาชิก โดยต้องมีอีเมล์ 2.เมื่อได้รหัสสมาชิก ให้บันทึกข้อมูลหน้าเวปให้เรียบร้อย โดยพี่เลี้ยงจะช่วยดูแผนภาพให้ 3.ทุกครั้งที่มีการทำกิจกรรมให้บันทึกให้ครบถ้วน ถูกต้อง แต่ต้องตรงกับเอกสารที่เตรียมไว้
4.ร่วมกันจัดทำปฏิทินโครงการ มีทั้งหมด 26 ครั้ง
สรุปการประชุมวันนี้
1.ไ้้ด้สรุปเนื้อหารายละเอียดโดยย่อของโครงการเพื่อปรับแนวคิด วิธีการทำงาน กระบวนการขับเคลื่อนให้ไปในทิศทางเดียวกัน
2.คณะทำงานได้วางแผนในการจัดทำฐานเรียนรุ้ ตามรายละเอียดในแผนงาน
3.หลักฐานการทำงานยังไม่ถูกต้องได้แก่ ใบสำคัญรับเงิน จำวนผุ้เข้าร่วมประชุมไ่ม่ครบ เพราะไม่ได้ติดตามเก้บให้ครบ
4.ยังไม่มีการเบิกเงินในการใช้จ่ายตามกิจกรรม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของคณะทำงาน
กลุ่มเป้าหมาย 30 คน เข้าร่วมประชุมตามแผนงานที่กำหนด โดยมีพี่เลี้ยงติดตามผลการดำเนินงาน
วันนี้มีการประชุม โดยมีพี่เลี้ยงเข้าร่วมประชุม
วาระที่ 1 พี่เล้้ยง นายยงยุทธ์ สุขพิทักษ์ ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ ทั้งในเนื้อหารายละเอียด และเอกสารการดำเนินงาน โครงการดอนสร้างสุขด้วยวิถีเกษตรพอเพียง ได้รับงบสนับสนุนจาก สสส.เป็นเงินสองแสนกว่าบาท โดยมีหนูฟอง หนูทอง เป็นผุ้รับผิดชอบโครงการ มีนายไพโรจน์ พรหมสุทธิ์ เป็นหัวหน้าโครงการ หรือองค์กร มีนางถนอม ชูฟอง ผุ้รับผิดชอบ นางเพ็ญศรี ชุมทอง ผู้รับผิดชอบ และนางจำปี เกิดแก้ว เป็นเลขา แนวทางการทำงานคือ ต้องจัดทำแกนนำครู ก จำนวน 10 คน สร้างครู ข เพิ่มอีก 30 คน และชักชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม 120 ครัวเรือน โดยจัดทำเป็นฐานเรียนรู้เกษตรพอเพียง ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี
วาระที่ 2 นางหนูฟอง หนูทอง ชี้แจงเพิ่มเติม จากหมอยุทธ ในการประชุมครั้งนี้ ขอความร่วมมือจากสมาชิกทุกคนร่วมเป็นคณะทำงานด้วยความสมัครใจ จัดกิจกรรมภายใต้วิถีเกษตรพอเพียง โดยทำเป็นฐานเรียนรู้ในชุมชน 4 ฐาน และทุกบ้านต้องนำไปต่อที่บ้านตนเอง กิจกรรมแรกเราจะเน้นการปลูกผักปลอดสารพิษที่บ้าน สร้างตู้เย็นข้างบ้าน และการทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารที่เหลือในครัวเรือน
วาระที่ 3 นางถนอม ชูฟอง ประธาน อสม.บ้านดอนโรง เพิ่มเติมว่า ขอให้แกนนำทั้ง 30 คน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทุกเดือน และสลับกันเป็นแกนนำออกกำลังกายในการทำกิจกรรมทุกครั้ง ครั้งละ 30 นาที หลังกประชุม
นางหนูฟอง สอบถาม ไม่มีสมาชิกสงสัย ปิดการประชุม
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของคณะทำงาน
จัดประชุมคณะทำงาน 30 คน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมตามแผน คณะทำงานได้ร่วมกันเสนอแนวทางการทำงานตามที่ได้พูดคุยในครั้งที่ผ่านมา
วาระที่ 1 นางหนูฟอง หนูทอง ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้พูดคุยเพื่อจัดเตรียมทำฐานเรียนรู้ทั้ง 4 ฐานในชุมชน โดยออกแบบกิจกรรมเพื่อสร้างเป็นฐานเรียนรู้ในชุมชน ประกอบด้วย
ฐานที่ 1 ฐานทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ฐานที่ 2 ฐานปรับปรุงดินและน้ำ ฐานที่ 3 ฐานปลูกผักปลอดสารพิษ ฐานที่ 4 ฐานสมุนไพรเพื่อใช้ในการเกษตร ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในฐานทั้ง 4 ฐาน โดยเริ่มจากกลุ่มแกนนำ 10 ครัวเรือนเป้าหมาย จำนวน 4 ครั้ง เพื่อเรียนรู้กระบวนการทำฐานเรียนรู้ สิ่งที่ดีที่เกิดจากฐานเรียนรู้ โดยมอบหมายหน้าที่และกำหนด ครู ก ครู ข ดังนี้
ฐานที่ 1 ฐานทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ประกอบด้วย นางกัญญา จันทร์นวล นางอภัย ชุมทอง นางจำปี เกิดแก้ว นายกล่อม รอดแก้ว เป็นครูและรับผิดชอบฐานนี้
ฐานที่ 2 ฐานปรับปรุงดินและน้ำ ประกอบด้วย นางชนิดา ส่งสุทธิต นางเพ็ญศรี ชุมทอง รับผิดชอบฐานนี้
ฐานที่ 3 ฐานปลูกผักปลอดสารพิษประกอบด้วย นางสุภาพร จิตสว่าง นางวิภาวดี พรหมสุทธิ์ รับผิดชอบ
ฐานที่ 4 ฐานสมุนไพรเพื่อใช้ในการเกษตร ประกอบด้วย นางถนอม ชูฟอง นางหนูฟอง หนูทอง รับผิดชอบ
วาระที่ 2 นางหนูฟอง หนูทองและทีมงานได้ร่วมกันกำหนดว่า ครู ก จะต้องไปหา ครู ข เพิ่มอีก 30 คน โดยจะดำเนินกิจกรรมไปพร้อมๆ กัน เรียนรุ้ไปด้วยกัน เมื่อเสร็จสิ้นโครงการนี้ จะมีครัวเรือนเข้าร่วมกิจกรรม 120 คน เราจะต้องช่วยกันรณรงค์ ปลูกจิตสำนึก รณรงค์ให้ปลูกผักกินเอง ลดโรค หันมาทำปุ่ยหมักใช้เอง ทำน้ำยาเอนกประสงค์ใช้เอง
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของคณะทำงาน
1.คณะทำงานได้จัดประชุมเพื่อชี้แจงคณะทำงาน
2.กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานโดยกำหนดให้มีประชุม 10 ครั้ง
3.คณะทำงานได้กำหนดให้มีการคัดเลือกครู ก และครู ข เพื่อร่วมจัดทำฐานเรียนรู้
วาระที่ 1 นางหนูฟอง หนูทอง ผุ้รับผิดชอบโครงการ ได้ทำการเปิดประชุมและชี้แจงการดำเินินงานตามโครงการ ดอนโรงสร้างสุข ด้วยวิถีเกษตรพอเพียง ในการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วม 30 คน และสมัครใจเป็นแกนนำในการพัฒนา เป็นทั้งกลุ่มที่มีความรุ้และมีประสบการณ์ในการพัฒนาชุมชน วันนี้ได้กำหนดให้มีการจัดทำฐานเรียนรู้รู้ทั้งหมด 10 ฐาน แต่ละฐานต้องหาสมาชิกให้ครบ 10 หลังคาเรือน
วาระที่ 2 นางหนูฟอง และสมาชิกได้ออกความคิดเห็นและสรุปการจัดทำฐานเรียนรู้ 4 ฐานในชุมชน
ฐานที่ 1 การทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ โดยให้ทุกบ้านมีถังหมักในครัวเรือน 2 ถัง เพื่อเก็บเศษอาหาร ผักที่เหลือจากการทำอาหารในครัว ต้องจัดเก็บเองในครัวเก็บลงถังหมัก โดยทุกบ้านต้องทำน้ำหมักไว้ใช้เอง ให้ทำปุ๋ยไว้ใช้เอง โดยทำจากเศษใบไม้ และให้ปราชญ์ให้ความรู้เพิ่มเติม
ฐานที่ 2 ฐานปรับปรุงดินและ้ำน้ำ โดยจะสอนให้มีการปรับปรุงดิน ในการเพาะปลูก เช่น การหวานถั่วก่อนปลูกข้าว การปรับปรุงน้ำโดยการทำร่องน้ำรอบบ้านเพื่อบำบัดก่อนทิ้ง
ฐานที่ 3 ฐานปลูกผักปลอดสารพิษ โดยสร้างตู้เย็นไว้ข้างบ้าน หรือรั่วกินได้
ฐานที่ 4 ฐานสมุนไพรเพื่อการเกษตร โดยปลูกผักแต่ละครั้งเราต้องปลูกสมุนไพรแซมไว้ด้วย เช่น ปลูกพริก ปลูกดาวเรือง
วารที่3 เมื่อทุกคนได้รับรู้แล้ว จึงมีการกำหนด ครู ก จำนวน 10 คน และครั้งถัดไปจะกำหนดกิจกรรมในฐานเรียนรู้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี