คนสร้างสุข

ปรึกษาพี่เลี้ยงและสจรส.มอ. ดำเนินการส่งเอกสาร ปรับสมุดบัญชี ถ่ายเอกสาร ปร้ินเอกสารเซ็น และเดินทางมาส่งเอกสารที่ไปรษณีย์ในพื้นที่ 

ปรึกษาพี่เลี้ยงและสจรส.มอ. ดำเนินการส่งเอกสาร ปรับสมุดบัญชี ถ่ายเอกสาร ปร้ินเอกสารเซ็น และเดินทางมาส่งเอกสารที่ไปรษณีย์ในพื้นที่
ส่งเอกสารมาที่ สจรส.มอ.หาดใหญ่ เพื่อทำการตรวจและส่งไปยัง สสส.อีกครั้ง 

คณะทำงาน 

- 

-

-

ประชาชนในพื้นที่ 

จัดทำป้ายเขตบุหรี่

ประชาชนในพื้นที่ 

-

-

-

ล้างอัดขยายภาพ

ล้างอัดขยายภาพ

ประชาชน

-

-

-

จัดทำรายงานสรุปปิดโครงการ

ได้รายงานสรุปปิดโครงการ

คณะทำงาน 

-

-

-

เริ่มเวลา 10:00 น. จัดเตรียมพื้นที่ห้องประชุม จัดเตรียมเอกสาร หลังจากนั้นชี้แจงรายละเอียดโครงการที่ผ่านมาเริ่มตั้งแต่กิจกรรมชี้แจงโครงการกิจกรรมการจัดการขยะการประชุมสะภาชุมชนการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในชุมชนสร้างโครงข่ายคนรักสิ่งแวดล้อมสัปดาห์สองล้อปั่นรักวังตง การสร้างขยะมาเป็นปะการังเทียมจากเศษวัสดุเหลือใช้เช่น ยาง ล้อรถจักรยานยน เฝ้าระวังตรวจตราดูแลป่า กิจกรรมคนสามวัยสร้างชุมชนน่าอยู่เป็นต้น และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกิจกรรมต่างๆที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในชุมชนเช่นกิจกรรมการจัดการขยะ สร้างโครงข่ายคนรักสิ่งแวดล้อมการดูแลทรัพยากรป่าชายเลนและได้อธิบายปัญหาและอุปสรรคในกิจกรรมที่ผ่านมา ช่วงบ่าย มีการแลกเปลี่ยนและมอบรางวัลแก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้เข้าร่วมประชุมอย่างเช่นรางวัล บ้านสวยสะอาดจำนวนสามคน รางวัลที่สอง รางวัลฝากเงินยอดเยี่ยมในกลุ่มธนาคารขยะ รางวัลที่สาม คัดแยกขยะดีเด่น รางวัลที่สี่ รางวัลเข้าร่วมกิจกรรมทุกครั้ง หลังจากนั้นให้เด็กและเยาวชนทำกิจกรรมการเล่นเกมและร่มรัปประธานอาหารร่มกัน เวลา 16:00 น. ปิดการประชุม

1.เกิดปฏิสัมพันธ์ของคนในชุมชนร่วมกัน 2.เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจนตกผลึกแนวความคิดในทางเดียวกัน

เด็กและเยาวชน 30 คน คนในชุมชน 80 คน

-

-

-

10.00 น.นัดกันที่ศูนน์เรียนรู้ป่าชายเลนบ้านวังตง วางแผนแบ่งธีมออกตรวจสอบดูแลป่า ธีมที่1 ตรวจพื้นที่บริเวณป่าโกงกางด้านทิศตะวันออกเพื่อสำรวจ และตรวจสอบป่าชายเลนในรัศมี 200 เมตร ธีมที่2 ตรวจบริเวณทางทิศเหนือในรัศมี 200 เมตร เพื่อตรวจและค้นหาต้นไม้ จากนั้นเวลา 16:00 น. เสร็จสิ้นภารกิจ

1. ได้ทราบถึงการปล่อยน้ำเสียขี้เลน ของผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งในชุมชน
2. ได้ทราบจำนวนต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อจัดทำค่ายลูกเสือเช่น สะพานลิงไต่เชือก เป็นต้น
   
3. พบต้นโกงกางที่มีขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางเกิน 6 นิ้ว จากการสำรวจต้นโกงกางขนาด 6 นิ้วจำนวน 35 ต้น ไม้ฝาดดอกแดง(ตำเสาทะเลหรือตาตุ่ม)จำนวน 20 ต้น ไม้ตะบูนขาว 28 ต้นต้นมูตา 15 ต้น

เยาวชน 5 คน กลุ่มอนุรักษ์ 5 คน เด็กที่เข้าค่ายเยาวชนคนรักป่าเลน

ขาดอุปกรณ์ เครื่องมือ G I S เพื่อบอกตำเเหน่ง จุดต่างๆ ที่ได้จากสำรวจการจัดเก็บข้อมูลด้อยประสิทธิภาพ

-

-

เริ่มเวลา 10:30 น. นัดกันที่อาคารเอนกประสงค์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างฐานกิจกรรมในแต่ละครัวเรือนโดยเน้นกิจกรรมเศรษกิจพอเพียงโดยมีการแลกเปลี่ยน 15:30 เลิกประชุม

1. ได้บ้านต้นแบบเพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่หลังอื่น

2. เกิดกระแสการปลูกผักสวนครัวในชุมชน

3. สรุปการประชุม ประเด็นที่ 1 การปลูกผักในครัวเรือนต้องมีสามชนิดขึ้นไป ประเด็นที่ 2 ให้ครัวเรือนจัดการเรื่องขยะสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านของตนเอง ประเด็นที่ 3 สรา้งบ้านของคตนเองให้เป็นแหล่ง้รียนรู้และการทำบัญชีครัวเรือนจากสามประเด็นข้างต้นโดยให้มีการตรวจเยี่ยม ช่วยกันสร้างปลูกผักสวนครัวสลับหมุนเวียนและให้สร้างธนาคารพันธุผักสวนครัว 10 ชนิด เช่น กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักเหมียง ผักกาด แตงกวา ฝักแฟง เป็นต้น

คณะทำงาน 10 คน สมาชิกกลุ่มโฮมสเตย์ 10 คน

-

-

-

10:30 น. รวมพลกันที่อาคารเอนกประสงค์ เพื่อเรียนรู้การทำน้ำยาล้างจานร่วมกันผลิตขึ้นมาเพื่อให้คนในชุมชนนำขวดที่เหลือใช้นำมาใส่น้ำยาล้างจานและน้ำยาซักผ้าในกิจกรรมครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ ธกส.มาให้คำแนะนำโดยใช้เวลาช่วงเช้าถึงวิธีการ ส่วนประกอบ วิธีผสม วิธีทำ ระยะเวลาในการใช้ จากนั้นช่วงบ่าย ผสมกวน บรรจุ รอหนึ่งอาทิตเพื่อทำการแจกจ่าย หลังจากนั้นวันที่2 นัดกันที่เดิม ได้พูดคุยเรื่องจะสานต่อกิจกรรมทำนำ้ยาดังกล่าว จึงมีการนำเสนอให้สมาชิกนำขวดเเก้วมาบรรจุใส่นำ้ยาจะได้ลดปริมาณขยะในครัวเรือนด้วย15:30 เลิกการทำงาน

1. ได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า
   
2. ลดรายจ่ายในการซื้อน้ำยาล้างจาน
3. และนำขยะมาก่อให้เกิดประโยชย์เช่นขวดบรรจุภัณฑ์

คณะทำงาน 10 คน โฮมสเตย์ 10 คน

-

-

-

10:30 นัดรวมพลกันที่กลุ่มจักสาน โดยมีกิจกรรมพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาและอุปสรรคการขยายกลุ่มกลุ่มจักสานเช่นแบ่งงานหาหวาย หาต้นคุ้ม ไม่ไผ่ การขึ้นโครงการถักขอบฝาชี ลงน้ำยาขัดเงา และการขาย กานตลาด การประชาสัมพันธ์ และพูดคุยถึงการลงหุ้นถึงผลประโยชน์เพื่อกันและมีการจัดซื้ออุปกรในการทำเครื่องจักสานอีกทั้งผลักดันให้บ้านแต่ละหลังมีการทำฝาชีจากต้นคุ้มเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้แต่ละครัวเรือนหลังจากนั้นได้แลกเปลี่ยนหรือการจัดการเรื่องการเงินโดยไห้กลุ่มเข้าร่วมลงหุ้นเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ได้ไห้แบ่งเป็นอัตตราส่วน 20% ของจำนวนลงหุ้นพพร้อมชี้แจงการจัดซื้อหารขายในแต่ละเดือนให้สมาชิกรับทราบ หลังจากนั้นวันที่2ร่วมกันปลูกต้นคลุ้ม บริเวรหลังโรงเรียนบ้านวังตง เวลา 15:30 เลิกกิจกรรม

1. เกิดการแลดกเปลี่ยนพูดคุยในกลุ่มมากขึ้น
2. ทำให้เกิดกิจกรรมในแต่ละครัวเรือนมากขึ้น

สมาชิกกลุ่มโฮมสเตย์  10 คน

-

-

-

เริ่มเวลา 10.30 น ตรวจป่าบริเวณศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลน เเละรอบๆปู โดยเดินสำรวจรัศมี 1 กม. เพื่อตรวจสอบการลักลอบตัดต้นไม้ ไม่พบการตัดต้นไม้ดังกล่าว หลังจากนั้นช่วยกันซ่อมเเซมประตูน้ำบ่อปู 17.00 น เลิกสำรวจป่า

เกิดเเนวคิดในการจัดการศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลน จัดหางบประมาณในการจัดทำห้องน้ำ การสร้างห้องสมุดป่าชายเลน

เยาวชน 5 คน กลุ่มอนุรักษ์ 5 คน

-

-

-

เริ่มเวลา 19.00น.ผู้ให้บ้านเปิดวาระการประชุมสือเนื่องจากการประชุมครั้งที่เเเล้ว เรื่องการผ่อนชำระหนี้ของ  เวลา 22.30น.เลิกประชุม

ได้เกิดการเเลกเปลี่ยนเรียยนรู้ถึงสภาพปัญหาทีมีความต้องการที่เเท้จริง อบต.โดยให้สมาชิกชี้เเจ้งยอดเงินของเเต่ละคนเพื่อจะได้คิดดอกเบี้ยตามอัตราสวน อัตราสวนดอกเบี้ย 7.5 บาทต่อปีตามด้วยระยะเวลาที่ผ่อนชำระ
เช่น กู้มาเเเปดร้อยคูณด้วยหนึ่งปี่เท่ากับดอกเบี้ยปีละหกร้อยบาทหัดค้างสามปีก็เท่าหนึ่งพันเเปดร้อยบาทค้างห้าปีเท่ากับสามพันบาทบวกกับยอดเงินที่ค้างชำระของเเต่ละบุคคลที่ประชุมรับทราบหลังจากนั้นได้มีการเเลกเปลี่ยนให้มีการตรวจสอบยอดเงินค้าชำระของเเต่ละคนในบัณชีเเละที่ อบต.ให้เกิดการลงตัวโดยมอบหมายให้สมาชิกในกลุ่มเข้าไปตรวจสอบการเงินดังกล่าว

คณะกรรมการสภาชุมชน

• เด็กและเยาวชน 8 คน
• สตรี อ ส ม 12 คน
• กลุ่มอนุรักษ์กลุ่มอาชีพ 20 คน
• ผู้สูงอายุ 18 คน

-

-

-

10:30 น. อาคารเอนกประสงค์ เข้าร่วมประชุมขณะทำงานเก็บรวบรวมข้อมูลเส้นทางพิกัดบริเวณบ้านแต่ละครัวเรือนหลังจากนั้นในที่ประชุมร่วมกันสังเคราะข้อมูลที่นำเสนอจากข้อมูลที่ได้รวบรวมหลังจากนั้นให้วาดแผนที่ในแผ่นกระดาษผืนใหญ่ กระดาษชาตร์ โดยวาดแผนที่ถนนสายหลักเริ่มจากถนนสาย 401 กมที่ 11 12 สายละงูทุ่งหว้าสามแยกวังตงแนวเขตอำเภอละงูติดกับหมู่ที่11ตำบล กำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล เป็นระยะทาง ประมาณ 2 กม.เศษ ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกติดกับหมู่ที่ 8 ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล จากสามแยกวังตง ไปถึงแนวเขตหมู่ทึี่ 5 ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นระยะทางประมาณ 3 กม. ซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือติดกับหมู่ที่ 9ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูลทางด้านทิศใต้ติดกับป่าชายเลนหมู่ที่ 5 ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ทางด้านทิศใต้ติดกับป่าชายเลนหมู่ที่ 11 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล จากสามแยกวังตง เข้าสู่สายหลักของหมู่บ้านรวมเป็นระยะทาง 3.5 กม. ถนนสายรองสายหลังโรงเรียนมีระยะทาง 220 เมตร สายหลังโรงเรียน-ท่าคลองรวมเป็นระยะทาง 200 เมตร สายบ้านนายเหม-ประธีบ รวมเป็นระยะทาง 1.6 กม. เมื่อได้เส้นทางสายถนนสายหมู่บ้าน ก็ให้คนในที่ประชุมร่วมกันบอกตำแหน่งสถานที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า และบ้านแต่ละหลัง หลังที่กำหนดจุดสำคัญต่างๆ ในที่ประชุมร่วมกันแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นในการจัดทำแผนที่เดินดิน จากนั้นเวลา 16:00 กลับบ้าน

1.ได้แผนที่เดินดิน 2.ได้รู้พิกัดของสถานที่ต่างๆ

เด็กและเยวชน 5 คน คนในชุมชน 30 คน

-

-

-

เริ่มเวลา 10.00 น. ประกาศเสียงตามสาย ประชาสัมพันธ์ ให้คนในชุมชนใด้รับทราบ จากนั้นคนในชุมชนทะยอยนำขยะมาขาย โดยมีการคัดเเยก ชนิดต่างๆ ดังนี้ พลาสติกรวม 45x 7 = 315 บาท ขวด โค๊ค 4.9x27 = 196 บาท เหล็กหนา 2x5= 10 บาท เหล็กบาง 197x 5 =985 บาท ขวดขาวขุ่น 25 x 14 =353 บาท รองเท้าบู๊ท 2x6 =12 บาท ท่อ pvc 22 x7 = 154 บาทกระป๋องสังกะสี 13x3= 36 บาทกระดาษลัง 103 x 3 = 309 บาท อลูมิเนียมบาง 74x 26 = 192 บาท
เเบตเตอรี 0.8 x 16 =13 สังกะสี 11.2 x 3= 34 บาทพลาสติกกรอบ18.6 x 3 = 55 เครื่องใช่ไฟไฟ้า 72.8x 5 = 364 บาทกระดาษขาวดำ 8x3 =24 บาท กระดาษสี 63x1 = 63 บาทสายยาง 10x6 = 60 บาท ยูเนียน 0.5x3= 2 บาทน้ำหนักรวม 633.1 กก. 17.00 ปิดการซื้อขาย

1คนในชุมชนนำยะมาสร้างเป็นกองทุน 2คนในชุมชนรุู้จักการคัดเเยกขยะ

เยาวชน 5 คน คณะทำงาน 5 คน

-

--

-

10:30 น. รวมพลกันที่อาคารเอนกประสงค์เรื่องการจัดการบริเวณหน้าบ้านที่ติดถนนโดยให้มีการรับผิดชอบของแต่ละหลังพร้อมกันใหมีการติดป้ายห้ามทิ้งขยะบริเวณหน้ายบ้านแต่ละครัวเรือน 30 ครัวเรือน เป็นการนำร่องโดยร่อมกับฝ่ายปกครองในชุมชนเป็นผู้กำหนดบริเวณที่จะติดป้ายห้ามทิ้งขยะในบริเวณหน้าบ้านดังกล่าวหลังจากนั้นได้พูดคุยแลกเปลี่ยนการออกแบบป้ายการใช้ภาษา วลี หรือสำนวน เพื่อให้ การสื่อสารตรงประเด็นกับผู้ที่ทิ้งขยะบริเวณถนนเช่น "ขยะทุกชิ้นโปรดทิ้งลงถัง" "ทิ้งขยะให้ถูกที่เป็นผลดีต่อท่าน" "หน้าบ้านหลังนี้ปลอดขยะ" เป็นต้น15:30 น. กลับบ้าน วันที่2 เชิญทางเจ้าหน้าที่ธกส.มาให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการชุมชนให้นา่อยู่เช่นเรื่องขยะ การทำปุ๋ยจากเศษอาหาร เศรษฐกิจพอเพียง

1.ได้แนวคิดในการจัดการขยะบริเวณหน้าบ้านที่ติดถนน 2.เกิดกติกาโดยใช้สื่อเป็นหลักในการประชาสัมพันธ์

  สมาชิกกลุ่มโฮมสเตย์  10 คน  คณะทำงาน 10 คน

-

-

--

เริ่มเวลา 10.00 น. นำเด็กเเละเยาวชนฝึกหัด ตรวจตราดูเเลป่า โดยให้เดินสำรวจ ในรัศมี 500 เมตร ในป่าเฉลิมพระเกียต โดยให้ฝึกวิธีการสังเกตร่องรอยการตัดไม้ เเละเเนะนำให้รู้จักเกียวกับพันไม้ต่างๆ ในป่าชายเลน หลังจากนั้นให้เยาชน ช่วยกันทำความสะอาด ศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลน 17.00 น. เลิกการการตรวจการดูเเลป่า

เกิดการเเลกเปลี่ยนระหว่างเด็ก เเละกลุ่มป่าชายเลน ทำให้เด็กเกิดอยากเรียนรู้เรื่องป่าชายเลนมากขึ้น

กลุ่มเยาชน 5 คน กลุ่มประมง 5 คน

ขาดสื่อประชาสัมพันธ์เกียวกับชื่อพันธ์ไม้ป่าชายเลน

เริ่มเวลา 13.30น.เปิดวาระการประชุมเรื่องการชำระหนี้โดยให้ทาง อบต.เป็นผู้ชี้เเจ้งรายละเอียดจำนวนเงินดังนีี้ยอดเงินกู้ยืม หนึ่งเเสนบาทยอดดอกเบี้ย58427.62ยอดค้างชำระ85790บาทยอดที่จ่ายมาเเล้ว 29,000บาทร่วมเป็นเงินทั้งสิน144177.62บาทเส้นทางกลุ่มว่าได้ชำระหนี้มาเป็นเวลาเกือบ 6 ปี ทางสมาชิกในกลุ่มได้ชี้เเจ้งเหตุผลที่ไม่ได้ผ่อนชำระเนื่องจากมีความเข้าใจที่คาดเคลือนคิดว่าเงินไม่ต้องผ่อนไม่เอากลับเเละการไม่ไว้ใจกับผู้บริหารเงินในกลุ่มนี้ทางชุมชนจึงได้เสนอให้มีการผ่อนชำระตามอัตราสววนกู้ยืมเพราะบางคนได้ผ่อนชำระหมดตั้งเเต่ปี่เเรก บางคนผ่อนชำระครบฝ่ายใน 3 ปี บางคนก็ไม่ได้ผ่อนจึงมีมติให้เเต่ละคนรวบรวมเงินขอมูลการเงินของตัวเองให้เป็นปัจจุบันเพื่อจะไดเคิดในอัตตราสวนตามความเหมาะสมตามระยะเวลาที่ผ่อนจึงนัดหมายหาขอสรุปในครั้งต่อไป16-00น.เปิดประชุม

1.เกิดเวทีเจรจาไกล่เกลียหาข้อตกลงร่วมกัน

คณะกรรมการสภาชุมชน

• เด็กและเยาวชน 8 คน
• สตรีอ ส ม 12 คน
• กลุ่มอนุรักษ์ กลุ่มอาชีพ20 คน
• ผู้สูงอายุ 18 คน

-

-

-

นำขยะมาสร้างเป็นกองทุน สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยให้คนในชุมชนนำขยะที่คัดแยก มาขายในชุมชน กองทุนตะกะฟุนขยะ รวม 10 ครั้งทุกเดือนจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ แผ่นผับ ป้าย ไวนิล

10.00 น เสียงตามสายประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนรับทราบหลังจากนั้นคนในชุมชุนทะยอยนำขยะมาขาย ดังนี้ พลาสติกรวม 49x7 =341 บาท โค๊ก 12x27=32 บาท
ขวดเพรช 45x7 =318 บาท เหล็กหนา 5.8x5= 29 บาท เหล็กบาง 41x5= 203 บาทขวดขาวขุุุ่น7.5x14=106 บาท รองเท้าบู๊ท2.7x6 =16บาท ท่อpvc 1.4x7=10บาทกระป๋องสังกะสี27x3 = 82บาท กระดาษลัง 175x3 = 525บาท อลูมิเนียมบาง1.8x26=47 บาท เเบตเตอรี1x16=16 บาท สังกะสี15.6x3=45บาท พลาสติกกรอบ 5x3=15 บาท เครื่องใช่ไฟฟ้า 14.6x5 =73บาทขวดเพรชเขียว 0.6x4=2 กระดาษสี 63x1 =63 บาทยอดรวมทั้งหมด 452.9 บาท17.00 ปิดการรับซื้อขยะ

เยาวชน คณะทำงาน 5 คน

-

-

-

เริ่มเวลา 10.30 น. นัดเจอกันที่อ่าวพ็อก ลงพื้นที่สำรวจเฝ้าระวังในบริเวณ ป่าชายเลน เเนวเขตป่าเฉลิมพระเกียจในพื้นที่ 1,000 ไร่ โดยการเดินสำรวจ รอบบริเวญเเนวเขตด้านใน ทั้งสอบถามประมงพื้นบ้าน ในเวลาที่ไไปตกปู
ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หลังจากนั้น ช่วยกันซ้อมเเซมบริเวณประตูน้ำบ่อปู เวลา 17.00 น เลิกการตรวจป่า

เกิดปฎิสัมพันธ์ กลุ่มประมงกับกลุ่มอนุรักษ์

เด็กเเละเยาชน 5 คน กลุ่มอนุรักษ์ 5 คน

-

-

-

กิจกรรมนี้ร่วมกันจัดทำแปรรูปขยะเหลือใช้จากวัสดุล้อรถจักยานยนต์เนื่องจากในที่ชุมชนมีร้านซ่อมจักยานยนต์มีอยู่สามร้านโดยกิจกรรมนี้ทำสามครั้ง วันที่1 เก็บรวบรวมลงล้อรถจักยานยนต์ในร้านซ่อมทั้งสามร้านได้มาทั้งหมด 300 เส้น วันที่ 2 และวันที่3 ตรวจสอบแหล่งที่จะวางปะการัง บ้านหอย และอธิบายวิธีการการทำซุ้มบ้านหอยเป็นลักษณะทรงสามเหลี่ยมหมายถึงลงล้อสามเส้นมัดรวมกันในลักษณะสามเหลี่ยมหลังจาดนั้นร่วมกันจัดทำจนแล้วเสร็จ

การใช้ขยะเหลือใช้มาให้เกิดประโยชย์ และเป็นแห่ลงที่อยู่พันธ์ุสัตว์น้ำ และเกิดการเรียนรู้ร่วมกันในการอนุรักษ์พันธ์สัตว์น้ำหอยนางรม และการทำปะการังเทียม

เด็กและเยาชน 20 คน คณะทำงาน 10 คน

ฝนตกทำให้กิจกรรมล้าช้าและไม่สามารถทำะการังเทียมไปวางตามจุดต่างๆ ทีได้วางไว้ในที่ประชุมให้ลื่อนเวลาทิ้งปะการังเทียมเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2559

-

-

เริ่มประชุมเวลา 13.00น.ผู้ใหญ่บ้านเปิดประชุมโดยมีวาระชุมเเลกเปลี่ยนเรื่องการจัดการฝายนำ้ล้นบ่อปูที่อ่าวพอ็กสือเนื่องจากทางชุมชนได้รับงบประมาณ หนึ่งเเสนบาทบาทจึงปรีะชุมหารือที่ปรึกษาว่างบประมาณที่ได้รับมาเป็นงบจัดซื้อวัตถุอุปกรณ์80%สวนที่เหลือเป็นค่าอาหารซึ่งไม่มีค่าจ้างเเรงงานที่ประชุมได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา 10 คนเพื่อที่จะได้ทำกิจกรรมดั่งกล่าวซึ่งเงินสวนค่าอาหารให้เเปลมาเป็นค่าเเรงให้กับคณะทำงานโดยใช้เวลาในการดำเนินการทั้งหมด 15 วันให้เเล้วเสร็จที่ประชุมมีมติเห็นด้วยดังนั้นผู้ใหญ่ได้ชี้เเจ้งเรื่องหนี้สินตามโครงการที่ อบต.ให้งบประมาณ หนึ่งเเสนบาทเมือปี พ.ศ.2547 ซึ่งทางคณะกลุ่มยังไม่ได้ผ่อนชำระซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเป็นหนึ่งเเสนสี่หมื่อกว่าบาทซึ่งหากกลุ่มไม่ชำระหนี้ทาง อบต.จะส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไปในที่แประชุมมีความเห็นชอบว่าให้นัดกลุ่มเพื่อมาไกล่เกลี่ยในการประชุมครั้งต่อไปโดยนัดสถาที่ อบต.นาทอนในครั้งต่อไป 16.00น.เลิกประชุม

1.ได้พบปัญหาหนี้สินของคนในชุมชนเพื่อนำไปสู่กระบวนการเเก้ไขปัญหา

คณะกรรมการสภาชุมชน

• เด็กและเยาวชน 8 คน
• สตรีอ ส ม 12 คน
• กลุ่มอนุรักษ์ กลุ่มอาชีพ 20 คน
• ผู้สูงอายุ 10 คน

-

-

-

10.00 เสียงตามสายประชาสัมพันธ์ หลังจากนั้นคนในชุมชนนำขยะมาขาย มีดังนี้ พลาสติกรวม66x.x 1= 369 บาทขวดโค๊ค 8.6 x 30 =258 บาท ขวดเพรช69.6x8=557 บาท เหล็กหนา86.6x4= 346 บาทเหล็กบาง15.8x4 =63 บาทขวดขาวขุ่นขาว13.3x15 =199 บาทรองเท้าบู๊ท 1x5 =5 บาท กระป๋องสังกะสี 12.6x2= 25.2 บาท กระดาษลัง 14.2x 2= 242 บาท อลูมิเนียมบาง 2.5x30=75 บาท เเบตเตอรี่ 1.4x16=22 บาท พลาสติกกรอบ 3.4x2 =6บาทเครื่องใช่ไฟฟ้า 66.9 x 4 =268 บาทกระดาษ 8.2 x3 =25 บาท กระดาษสี 30.4x 1 =30 บาทสายยาง 0.8x 3= 2 บาท น้ำหนักรวม 608.4 กก รวมเป็นเงิน 2513 บาท17.00 น. ปิดการรับซื้อ

คนในชุมชนนำขยะมาเป็นกองทุน คนในชุมชนรู้จักคัดเเเยกขยะ

เยาวชน 5 คน คณะทำงาน 5 คน

-

-

-

กิจกรรมนี้ทำ 3 ครั้งวันที่ 1 รวบรวมข้อมูลอาชีพสวนยาง สวนปาร์ม ไร่นา

เริ่ม เวลา 10:30 น. รวมำพลกันที่อาคารเอนกประสงค์ คนในชุมชนร่วมกันให้ข้อมูลหลักการและเหตุผลในการเก็บข้อมูลได้อธิบายวัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพื่อให้คนในชุมชนเข้าใจในหลักการนี้โดยใช้วิธีการข้อมูลแบบหยาบๆหมายถึงบอกจำนวนพื้นที่โดยประมาณการโดยใช้ 36 คน เป็นผู้ให้ข้อมูลแบบบ้านไกล้เรือนเคียงไร่นาไกล้กันเพราะโดยปกติคนในชุมชนย่อมมีข้อมูลอยู่ในตัวอยู่แล้ว วันที่ 2 ข้อมูลด้านการทำเกษตร ปสุสัตว์


เริ่มเวลา 11:00 น.ณ.อาคารเอนกประสงค์ ผู้เข้าร่วมประชุมเป็นผุ้ให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนสอบถามตามบ้านเลขที่พร้อมชื่อเพื่อร่วมกันให้ข้อมูล วันที่ 3 รวบรวมข้อมูลด้านอาชีพ กลุ่มองกรต่างๆเริ่มเวลา


18:00 น. ณ. อาคารเอนกประสงค์ร่วมกันแลกเปลี่ยนอาชีพแต่ละครัวเรือน

รวมพลกันที่อาคารเอนกประสงค์ ได้ฐานข้อมูลด้านทรัพยากร สิ่งเเวดล้อม ความมั้นคงทางอาหารบนบก ได้เรียนรู้ด้านวัฒนธรรม ประเพณี อาชีพ วิถีชีวิต ภูมิปัญญาอาชีพ

กลุ่มองค์กรในชุมชนโครงสร้างการบริหารจัดการ สรุปข้อมูลทั้งหมดบ้านวังตงมีพื้นที่ทั้งหมด 5,760 ไร่ มีรายได้เฉลี่ย 40,000 บาท/ไร่ มีร้านค้าขายของชำ 5 ร้าน ปั้มน้ำมัน 1 แห่ง ปั้มน้ำมันรายย่อย 4 แห่ง รับซื้อน้ำยางสด 2 แห่งด้านวิถีชีวิต / อาชีพของคนในชุมชนด้านการเกษตรกรรม ทำสวนยางพารา ปาล์มน้ำมันทำนาทำนากุ้ง ประมง เลี้ยงหอย/ เลี้ยงปลาในกระชังผลพลอยได้จากการเลี้ยงหอย เลี้ยงปลาในกระชังคือ สาหร่ายสีเขียวนำมาเป็นอาหารและพืชเศรษฐกิจของตำบลนาทอน เลี้ยงปูดำในพื้นที่ป่าชายเลนค้าขายรับจ้าง รับราชการ มีพื้นที่ ทำการเกษตร แยกเป็นดังนี้ ลำดับที่ ประเภทการใช้ประโยชน์จากที่ดินเกษตร จำนวน(ไร่) ผลผลิต เฉลี่ย/ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย/ปี (ต้น)


หมายเหตุ
1. การทำสวนยางพารา 400ไร่ 2. การทำสวนผลไม้แยกเป็น 2.1ปลูกเงาะ 10 ไร่ 2.2 ปลูกลองกอง 10 ไร่
2.3 ปลูกทุเรียน 3 ไร่
2.4 ปลูกมังคุด 2 ไร่ 3. การทำนาข้าวแยกเป็น
3.1 ทำนาปี 20100 (กก.)
4. มีที่ดินสาธารณะประโยชน์จำนวน1 แห่ง 25 ไร่


หมู่ที่ 4 บ้านวังตง

สรุปรายรับ-รายจ่ายภาพรวม
- รายรับของครัวเรือนเฉลี่ย/เดือน รายจ่ายของครัวเรือนเฉลี่ย/เดือน 136,058 บาท 97,282 บาท

• รายรับของหมู่บ้านเฉลี่ย/ปี รายจ่ายของหมู่บ้านเฉลี่ย/ปี368,016 บาท 268,265 บาท
  

• สรุปรายจ่ายของหมู่ที่ 4 ที่มากที่สุดตามลำดับ
  

1. ค่าจ้างแรงงานและอุปกรณ์ประกอบอาชีพ 56,908บาท
2. ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 17,616 บาท
   
3. ที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ในบ้าน 4,894 บาท
   
4. ค่ายานพาหนะ คมนาคม การสื่อสาร 7,641 บาท
   
5. เงินใช้หนี้ 4,073 บาท
   

• ภาพรวมข้อมูลครัวเรือน หมู่ที่4 จำนวนคน 123 คน จำนวนสมาชิก 556 คน เนื้อที่สวนยาง 732 ไร่ ผลผลิต/กก/เดือน 2,429 กก.จำนวนเงิน/ปี 59,780 ประเภทปุ๋ยที่ใช้เคมี นน.กก./ต่อปี 12,645 เงินซื้อปุ๋ย 460,335 ที่ดินไม่มีเอกสาร/ไร่ 33 เครื่องจักร รถไถ เครื่องตัดหญ้า 22 เครื่อง รถเก่ง 2รถ จยย. 103 รถกะบะ 31สามล้อพ่วง2พืชผัก มะกรูด 9 ต้น สะตอ 4 ต้น กล้วย 14 ไร่ลองกอง 6ไร่ ขมิ้น 14 ต้นเงาะ 18ไร่ ผักหวาน 21ต้น มะละกอ 14 ไร่ มะม่วง 6 ไร่มะนาว7 ไร่ ข่า 68ต้นตะไคร้ 156ต้น พริกขี้หนู 70 ต้นมังคุด 8 ไร่ เลี้ยงสัตว์ ไก่169 ตัวเป็ด 80ตัว วัว 25 ตัว ปลาเก๋า 2400 ตัวแพะ 188 ตัวปลาสวาย 500 ตัวปลาดุก 224 ตัว ปลานิล 1,500ตัวปลาสวาย 500 ตัวปลาตะเพียน500ตัว ปลากะพง3200ตัวกุ้ง 3.6 ล้านตัว

คณะทำงานเด็กเเละเยาวชน รวม 10 คน คนในชุมชน 30 คน

กิจกรรมนี้จากเดิมลงพื้นที่ข้อมูลชุมชนบนบกโดยให้เด็กและเยาวชนสำรวจเนื่องจากเป็นเวลาที่เด็กและเยาวชนต้องไปเรียนหนังสือจึงเปลี่ยนกิจกรรมมาเป็นเชิญคนมาเข้าร่วมให้ข้อมูล

-

เริ่มเวลา 11:00 น. ณ.กลุ่มประมงพื้นบ้าน กิจกรรมนี้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณกะชังปลาและขอข้อมูลพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลแหล่งที่อาศัยของสัตว์น้ำช่วงเช้าลงพื้นที่สำรวจกะชังพร้อมเก็บข้อมูลดังนี้ กะชังเลี้ยงปลากะพง 26 ราย 10400 ตัว กะชังปลาเก๋า 12 ราย รวม 2400 ตัว กะชังปลากะพงแดง 6 ราย 1200 ตัว เลี้ยงหอยแมลงผู้ 2 ราย 700 พวง เลี้ยงหอยนางรม 12 ราย 12000 ตัว ปูนิ่ม 2 ราย 2000 ตัว หลังจากนั้นแลกเปลี่ยนและสอบถามเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของพันธ์สัตว์น้ำตามมติที่ประชุมมีแผนที่ GIS เพื่อบอกตำแหน่งที่ตั้ง ชื่อคลองอาณาเขตบริเวณทางคณะทำงานจึงนัดกันใหม่ในครั้งต่อไป เลิกประชุม

ได้รับทราบข้อมูลอาชีพการเลี้ยงปลา เลี้ยงหอย วิธีการเลี้ยง การตลาด

.

.

.

เริ่มประชุมเลา 13.30น. ผู้ใหญ่บ้านเปิดประชุมเเจ้งให้ทราบการประชุมประจำเดิือนที่อำเภอการเสนอความต้องการโครงการความเดิือนร้อนให้ทางอำเภอได้รับทราบ ที่ประชุมได้นำเสนอโครงการปรับปรุงซ้อมเเซมฝายนำล้นเนื่องจากฝายนำล้นมีการชำรุบริเวณหูช้างของฝายเนื่องจากโดนกระเเสนำ้กัดเซาะโครงการที่2 สร้างศูนย์เรียนรู้กลุ่มจัดสารฝาชีทางต้นคลุ้มเนื่องจากกลุ่มนี้ได้เป็นสินค้าโอท๊อปชุมชนทำให้มีงานเข้ามาฒศึกษาดูงานจึงไม่มีสถานที่รองรับโครงการที่3เรื่องการซ้อใฃมเเซมเต็นหมู่บ้านที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับโครงการสร้างศูนย์เรียนรู้ให้กับกลุ่มจักเเละให้นสานเเละให้นำเสนอโครงการดังกล่าวเพื่อขอประชามติ ในที่ประชุมหมู่บ้านครั้งต่อไปเลิกประชุมเวลา 14.00น.

ได้เกิดการเเลกเปลี่ยนเรียยนรู้ถึงสภาพปัญหาทีมีความต้องการที่เเท้จริง

.

.

เริ่มประชุมเลา 13.30น. ผู้ใหญ่บ้านเปิดประชุมเเจ้งให้ทราบการประชุมประจำเดิือนที่อำเภอการเสนอความต้องการโครงการความเดิือนร้อนให้ทางอำเภอได้รับทราบ ที่ประชุมได้นำเสนอโครงการปรับปรุงซ้อมเเซมฝายนำล้นเนื่องจากฝายนำล้นมีการชำรุบริเวณหูช้างของฝายเนื่องจากโดนกระเเสนำ้กัดเซาะโครงการที่2 สร้างศูนย์เรียนรู้กลุ่มจัดสารฝาชีทางต้นคลุ้มเนื่องจากกลุ่มนี้ได้เป็นสินค้าโอท๊อปชุมชนทำให้มีงานเข้ามาฒศึกษาดูงานจึงไม่มีสถานที่รองรับโครงการที่3เรื่องการซ้อใฃมเเซมเต็นหมู่บ้านที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับโครงการสร้างศูนย์เรียนรู้ให้กับกลุ่มจักเเละให้นสานเเละให้นำเสนอโครงการดังกล่าวเพื่อขอประชามติ ในที่ประชุมหมู่บ้านครั้งต่อไปเลิกประชุมเวลา 14.00น.

ได้เกิดการเเลกเปลี่ยนเรียยนรู้ถึงสภาพปัญหาทีมีความต้องการที่เเท้จริง

• สตรีอ ส ม 12 คน
• กลุ่มอนุรักษ์
  
• กลุ่มอาชีพ20 คน
• ผู้สูงอายุ 18 คน

-

-

-

เริ่มเวลา 10:30 น. ที่ทำการประมงพื้นบ้านผู้เข้าร่วมประชุมพูดคุยแลกเปลี่ยนสอบถามาข้อมูลแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำ มีการนำเสนอได้มีการจัดทำป้ายกติกากฎระเบียบ เวลา 15.30 น.ปิดประชุม

1. ได้ทราบข้อมูลทรัพยากรพันธ์สัตว์น้ำและแหล่งที่อยู่อาศัย
   
2. เกิดการแลกเปลี่ยนนำไปสู่กฎระเบียบและกฎกติกา

เริ่มเวลา 10:30 น. ที่ทำการประมงพื้นบ้านผู้เข้าร่วมประชุมพูดคุยแลกเปลี่ยนสอบถามาข้อมูลแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำ โดยได้สอบถามคลองมีกี่สาย โดยแบ่งเป็นคลองตกและคลองออกหลังจากนั้นสอบถามพันธ์สัตว์น้ำที่มีอยู่โดยแบ่งออกดังนี้ 1. ปูดำจะอยู่บริเวณคลองห้วยบ้า คลองอ่าวผอ็ก คลองผู้ใหญ่พาด คลองขุนภิรมย์ คลองย่านซื่อ คลองในดุ คลองหาดแดง คลองเจ้าหยิ่น 2.หอยนางรม ปูม้า วางอวนกุ้งกุลาดำ ปลาดุกทะเล ปลาไหลทะเล จะอยู่บริเวรคลองตกและคลองออก คลองหน้าทัพ คลองดุ คลองหาดแดง คลองย่านซื่อ ซึ่งทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีอยู่ทั้งหมดจากการสอบถามข้อมูลและแลกเปลี่ยน ซึ่งในปัจจุบันยังคงเป็นแหล่งที่อยู่ของทรัยยากรณ์สัตว์น้ำร่วม 45 ปี คลองตกมีระยะทางจากคลองอ่าวผ็อกไปยังพื้นที่แนวเขตสิ้นสุดแนวเขตป่าชายเลนมีระยะทางรวมประมาณ 7 กิโลเมตรซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรณ์สัตว์น้ำด้านคลองตะวันออกมีระยะทางรวมประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งคลองทั้งสองฝั่งประกอบไปด้วยป่าชายเลนรวมพื้นที่ทั้งหมด 1690 ไร่ โดยแยกเป็น ป่าเฉลิมพระเกียติ 1000 ไร่ ป่าใช้สอย 690 ไร่หลลังจากนัน้ในที่ปประชุมไปรึกษาหารือเกี่ยวกับ การอนุรักษ์ป่าสัตว์น้ำ โดยมีการนำเสนอได้มีการจัดทำป้ายกติกากฎระเบียบ เช่น ห้ามตัดไม้บริเวณป่าเฉลิมพระเกียติ ห้ามปิดคลองในพื้นที่ที่กำหนด ห้ามวางยาเบื่อและอื่นๆ เวลา 15.30 น.ปิดประชุม

.

.

เริ่มเวลา10.00 น. รวมพลกันที่ท่าคลอง ทำกิจกรรมสำหรวจคลองเก็บขยะ เศษกิ่งไม้ที่ขวางทางน้ำ โดยศึกษเส้นทางความยาวของคลอง เเหล่งที่อยู่ของพันธ์ุสัตว์น้ำ เพื่อเก็บข้อมูลน้ำไปสู่การท่องเที่ยวเชิ่งอนุรักษ์จากการสำหรวจพบเเหล่งที่อยู่ของหอยลอกัน เเละกุ้งก้ามกามกุ้งฝอย สามารถสังเกตุได้ด้วยตาเปล่าเพราะในสำคลองมีลักษณะ น้ำใส มีหินกรวด เเละเป็นลำคลองที่เชื่อมต่อกับฝายน้ำล้น ซึ่งรวมระยะทางทั้งหมด5กม.
หลังจากนั้น ร่วมกันจัดเก็บกิ่งไม้ขึ้นจากลำคลองโดยใช่เลือยเเละมีด ตัดออกมาเป็นท่อนๆเพื่อสะดวกในการเก็บ เพื่อให้เส้นทางน้ำไหลผ่านสะดวก

1. ได้รับทราบข้อมูล เส้นทางของคลอง เเหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำ
   
2. เกิดเเนวคิดในการจัดการคลองเพื่อผลักดันให้เป็นเเหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศใช่เรือ คายัก

.

.

.

10.00เสียงตามสายประชาสัมพันธ์คณะทำงานจัดเตรียมสถานที่ กวาดขยะจัดระเบียบ ขยะที่คงเหลือจากเดือนที่เเล้ว หลังจากนั้นคนใน

1. คนในชุมชนนำขยะมาเป็นกองทุน
   
2. คนในชุมชนรู้จักคัดเเยกขยะ
3. ชุมชนนำขยะมาขายมีรายละเอียดดังนี้
   พลาสติกรวม 67x6 = 402 บาท ขวดโค๊ก 6.9x 2.7 บาท ขวดเพรช 77.4 x8 = 619 บาทเหล็กหนา 54.5x4=218 บาท เหล็กบาง 26.9x4= 107.6 บาท ขวดขาวขุ่น 8.2x15=12.3 บาท ท่อพีวีซี 3.4 x 5 =17 บาท กระป๋องสังกะสี 20.7 x 2= 41.4 บาท กระดาษลัง 45.2 x 2 = 90 บาทอลูมิเนียมบาง 46x30 =138 บาท
   เเบตเตอรี่ 5.6x16 =89 บาท สังกะสี11.6 x 2 = 22 บาทพลาสติกกรอบ 16.2 x 2 = 32 บาท เครื่องใช่ไฟฟ้า 4.8 x 4= 19 บาท กระดาษ26.4 x 3= 79 บาท กระดาษสี 39.1 x 7= 39 บาท สายยาง 4.6x3 = 13 บาท ยูเนียน 2.6 x 2 = 5 บาทรวมน้ำหนักทั้งหมด 430.5 กก รวมเป็นเงิน 2295 บาท 17.00 ปิดการรับซื้อ

คณะทำงาน 5 คน

-

-

เริ่มเวลา 10.001น.กิจกรรมในครั้งนี้ทางอำเภอโดยนายอำเภอได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้นี้ด้วยสือบเนื่องจากจะได้ตรวจสอบเส้นทางการเดินเรือประมงซึ่งไปเกี่ยวโยงกัยบเเรงงานต่างด้าวหรือกลุ่มโรฮินยาโดยการสำรวจเส้นทางเดินเรือสายหลักคลองตกคลองตะวันออกรวมถึงระยะทาง 12กิโลเมตรพร้อมทั้งเก็บข้อมูลเส้นทางเดินเรือจากนั้นตรวจตราดูเเลป่าทางด้านบนป่าชายเลนตลอดจนสอบถามพูดคุยเเลกเปลี่ยนถึงการทำงานของกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลน

1.เรียนรู้เส้นทางเดินเรือในป่าชายเลน 2.เกิดกระบวนการมีสวนร่วมระหว่างภาครัฐกับชุมชน

กลุ่มเยวชน 5 คน กลุ่มประมง 5 คน

-

-

-

เริ่มเวลา 10.00น. ออกสำรวจป่าชายเลนโซนป่าเฉลิมพระเกียติเพื่อตรวจตราสือเนื่องจากทางชุมชนได้รับเเจ้งมาว่ามีการขุดต้นไม้ ต้นสราบเเร้งสรากาเพื่อนำไปทำบอลไซจาการสำรวจพบวว่ามีร่องร้อยการขุดจริงจำนวน 7-8ต้นจึงนำเรื่องนี้เเจ้งยังผู้ใหญ่บ้านหลังจากนั้นลงสำรวจในพื้นที่ป่าโซนบ่อปูเพื่อสำรวจพื้นที่ป่าจาการสำรวจยังไม่พบความผิดปรกติพร้อมทั้งสำรวจพื่นที่ ป่าบริเวณบ่อปู เพื่อตรวจสอบการไหลเวียนของน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำขังบริเวณบ่อปู หลังจากนั้น 17.00 จบการสำรวจ

ได้เรียนรู้ถึงต้นสราบเเร้งสราบกาว่าสามารถทำเป็นบอลไซได้ซึ่งมีราคาเเพงเป็นที่ต้องการของตลาด

กลุ่มเยาวชน 5 คน กลุ่มประมง 5 คน

-

-

-

วันที่ 1 เริ่มเวลา 09.30 น.ซักซ้อมการขี้จักรยานโดยเเนะนำอธิบายหลักในการขี่จักรยาน กฎระเบียบอธิบายถึงเเผนกิจกรรมทั้ง5วันหลังจากนั้นปันจักรยานจากโรงเรียนบ้านวังตงถึงจุดเริ่มต้นทั้ง 5 วันโดยวันเเรกปันจักยานเข้าสู่ถนนชุมชนซอยมัสยิดบ้านวังตงเข้าสู่เดส้นทางไปยังอ่าวพอ็กโดยให้ปันจักรยานในลักษณะสำรวจเส้นทางซึ่งมีเส้นทางทั้งหมด 4 กิโลเมตรระหว่างทางให้เด็กจอดเป็นระยะเพื่อให้เด็กเก็บขยะสองข้างทาง

วันที่ 2 เริ่มต้นจากโรงเรียนไปยังถนนสายหลักของตำบลเข้าสู่ซอยบ้านควรทองเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร

วันที่ 3 เริ่มจากโรงเรียนเข้เส่ถนนซอยหลังโรงเรียนทะลุออกถนนสายหลัก(416)เข้าสู่สามเเยกวังตงทะลุเข้าสู่ถนนหลายหลักของหมู่บ้านโดยมีระยะหว่าง 4 กิโลเมตร

วันที่ 4 เริ่มจากโรงเรียนเข้าสู่ถนนสายหลัก(416)ไปยังถนนสายชลประทานเข้าสู่ถนนสายหน้าเขาโต๊ะนางคำทะลุถนนหมู่บ้านวังเจริญราชกลับเข้าสู่ถนนชุมชนโดยระยะททาง 6 กิโลเมตร

วันที่ 5 เริ่มจากโรงเรียนเข้าสู่ถนนที่เคยปั่นมาทั้งหมดกิจกรรมนี้ระหว่างที่ปั่นจักรยานจะให้เด็กเก็บขยะทำความสะอาดสถานที่ท่องเที่ยว มัสยิดนันทนาการตามระยะทางเป็นช่วงๆเพื่อไม่ให้เด็กปั่นจักรยานเร็วเกินไป

1. เด็กเเละเยาวชนเกิดกระเเสเข้ามาขี่จักรยานมมากขึ้น
2. ส่งผลให้เด็กเเละเยาวชนร่วมตัวทำกิจกรรมนี้ทุกวันอาทิตย์
3. ส่งผลให้เด็กห่างไกลจากร้านเกมโดยสั่งเกตได้จากทุกวันอาทิตย์เด็กจะร่วมตัวปั่นจักรยานในหมู่บ้าน

คณะทำงาน 10 คน เยาวชน 30 คน

1. จักรยานไม่เพี่ยงพอกับจำนวนคน
2. ไม่มีหมากนิรภัยสำหรับรถจักรยาน

วันที่18เดือนเมษายน 58
เวลา 09.00น. ร่วมพลเด็กเเละเยาวชนที่โรงเรียนบ้านวังตง

เวลา 10.00น.ทำความเข้าใจกิจกรรมโครงการนี้เพื่อชี้เเจ้งโปรเเกรม 10.00น.ปันจักรยานจากโรงเรียนสู่อาวพอ็กใช้เวลา 30 นาที

11.45-12.30น.เรียนรู้สำรวจเรื่องป่าชายเลน

12.30-13.30น. รัปประทานอาหารพักผ่อนอัตยาศัย

13.30-1430น.เรียนรู้ป่าชายเลนต่อ

14.30-15.30น.เดินเที่ยวในป่าชายเลนพร้อมทั้งสำรวจวามหลากหลายทางชีวภาพ

15.30-16.30น.เรียนรู้การประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน

16.30น.ปั่นจักรยานอ่าวพอ็กกลับสู่โรงเรียน

17.00น.พักผ่อนตามอัตยาศัย

18.00-20.00 น. กิจกรรมนันทนาการโดยวงกัวลาบาราเเละกลับบ้าน

วันที่19/04/58

เวลา 09.00น.ปั้นจักยานสู่อ่าวพอ็กเพื่อทำกิจกรรมต่อเนื่ององวันที่18 /04/58เเละเพิ่มเติมกิจกรรมเก็บขยะในสถานที่สำคัญของหมู่บ้านสถานที่ท่องเที่ยวจนถึงเวลา 16.00 น.

1. เด็กเเละเยาวชนได้เรียนรู้การกอบอาชีพชาวประมง
2. ได้เรียรู้ความสำคัญองป่าชายเลน
3. เด็กเเละเยาวชนมีความสนใจความหลากหลายทางชีวภาพทางป่าชายเล่น
4. เด็กเเละเยาวชนอยากให้กิจกรรมอย่างต่อเน่ื่อง

1.เยาวชน 30 คน 2.คณะทำงาน 10 คน 3.วิทยากร 3 คน

1.กิจกรรมบางอย่งไม่สามารถนำเด็กทำกิจกรรมได้เช่นี่เรือชมป่าชายเลนเนื่องจากไม่มีเสื้อชูชีพ

อยากได้เสื่้อชูชีพ

-

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายเวลา 10.00น. เพื่อให้ทุกคนเ้าร่วมประชุมเวลา 13.00น.จากนั้นเวลา 13.30น.ผู้ใหญ่บ้านเปิดวาระการประชุมรับทราบ้อมูลทางอำเภอเป็นวาระเเจ้งเพื่อทราบหลังจากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้คุยเรื่องการจำระหนี้กองทุน กขคจ.ให้ทุกคนมชำระเงินทุกวันที่5ของเดือนเเละได้ปรึกษาหารือว่าจะหาวิธีให้คนในชุมชนมาชำระเงินตามวันเวลาที่กำหนดได้อย่างไร ที่ประชุมได้นำเสนอจัดตั้งคณะทำงานติดตามลูกหนี้เเละให้ใช้้อกฎหมายบังคับพร้อมทั้งอธิบายโครงการให้ได้ชำระหนี้หากไม่ไปชำระหนี้จะถูกดำเนินส่งฟ้องศาลให้ดำเนินคดีบังคับชำระหนี้หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกยึดทรัพย์ที่ก่อ ที่ประชุมรับทราบเเละไปประชาสัมพันธ์ต่อหลังจากนั้นได้คุยประเด็นยาเสพติดทางผู้ใหญ่ได้เล่าถึงสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชนว่าตอนนี้สถานการณ์ยาเสพติดหลังถูกทางการกดดันจับกุมเฝ้าดูเเละทำให้ยาเสพติดในชุมชนลดน้อยลงในที่ประชุมมีการเเลกเปลี่ยนว่าน่าจะมีกิจกรรมให้กับเด็กเเละเยาวชนเช่นปั่นจักรยานทุกวันอาทิตย์สือเนื่องจากได้ทำกิจกรรมโครงการปั่นจักรยานรักษ์วังตงอยากให้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเเละทรงเสิมให้มีการเเข่งขันกีฬาภายในชุมชนในที่ประชุมทุกคนเห็นด้วยเเต่ติดัดที่งบปะมาณจึงให้สมาชิก อบต ได้นำเสนอโครงการดังกล่าวเอาไว้ด้วย 16.00น.เปิดประชุม

1.เกิดการเเลกเปลี่ยนเรียนรุ้ที่สำคัญ 2.เกิดการนำเสนออย่างมีสาระไม่สะเปะสะเเปะ 3.เกิดเป็นแผนกิจกรรมให้กับเด็กเเละเยาวชน

คณะกรรมการสภาชุมชน - เด็กและเยาวชน 8 คน - สตรีอ ส ม 12 คน - กลุ่มอนุรักษ์ กลุ่มอาชีพ20 คน - ผู้สูงอายุ 10 คน

-

-

-

10.00 น ประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย คณะทำงานกวาดขยะตกเเต่งสถานที่ หลังจากนั้นคนในชุมชนทะยอยนำขยะมาขาย 

1 คนในชุมชนให้ความสำคัญเกี่ยวกับการจัดการขยะมากขึ้น 2. รับซื้อขยะได้หลากหลายชนิด ได้แก่ พลาสติกรวม 99.2x6= 594บาท
เหล็กหนา 88x4 = 352 บาท เหล็กบาง39x4 = 156 บาท ขวดขาวขุ่น 1.9x15 = 163.5 บาท รองเท้าบู๊ท 3.6x5= 18 บาท ท่อ พี วี ซี 2.6x5 =13บาท กระป๋องสังกะสี19.4x2 =39.8 บาทกระดาษลัง43.2 x 2 = 86.4 บาทอลุมิเนียมบาง 3.6 x 30 =10.8 บาท เบตเตอรี่ 4x16 =64 บาท สังกะสี 32.4 x2 =64.8 บาท เครื่อวใช่ไฟฟ้า 40.5x4= 162 บาทกระดาษ8.4 x 3= 25.2 บาทกระดาษสี 11.6x1 =11.6 บาทสายยาง 1x3 =3บาท
เหล็กหล่อ 7.2x5 = 36 บาท น้ำหนักรวมทั้งหมด 455.6 กก รวมเป็นเงิน 1,590บาท ปิดการรับซื้อ 17.00 น

คณะทำงาน 5 คน

-

-

-

วิธีการ ร่วมกันร่างเเผนโดยการนำเสนอความต้องการ กิจกรรมการฟื้นฟู ลดการทำลาย การพัฒนา นำมาจัดทำเเผนพัฒนานำสู่สภาชุมชนเพื่อพิจารณา บังคับใช้ ต่อไป

ผลที่เกิดขึ้น 10.30น.ผู้เข้าร่วมประชุมลงทะเบียน พร้อมเปิดวาระการประะชุมเรื่องร่างแผนทรัพยากรเเละสิ่งเเวดล้อมในชุมชนโดยให้เเต่ละคนนำเสนอความต้องการในการพัฒนาสิ่งเเวดล้อมในชุมชนการฝื้นฟูข้อบังคับโดยเเบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 1. ว่าด้วยเรื่องการฝื้นฟูได้มีการนำเสนอ 1.1การปลูกป่าชายเลนประจำปี คือวันที่5 ธันวาคมเเละ 12 สิงหาคม ของทุกปีจัดให้มีกิจกรรมปลูกป่าชายเลน 1.2จัดทำบ้านปูดำหรือธนาคารปูดำเพื่อเป็นเเหล่งเพาะพันธ์เเละขยายพันธ์ 1.3จัดทำเเนวเขตห้ามตัดไม้บริเวณป่าชายเลน 1.4รงณรงค์สร้างความตระหนักในการใช้ประโยชน์จากป่าชายเลน 1.5สร้างเเหล่งเพาะพันธ์หอนนางรมหรือบ้านหอย 1.6ปล่อยพันธ์สัตว์นำ 4 ชนิด กุ้งกุลาดปลากะพงปูดำเเละหอยำ 2.วาระ ลดการทำลายทรัพยากรเเละสิ่งเเวดล้อม 2.1จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ 2.2เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องป่าชายเลย 2.3จัดทำระเบียบกติกาว่าด้วยเรื่องการจัดการป่าชายเลนการจักการเรื่องขยะในชุมชนการปล่อยน้ำเสีย 3.การพัฒนาเรื่องทรัพยากรเเละสิ่งเเวดล้อม 3.1พลัดดันให้เกิดการท่องเที่ยวโดยชุมชน 3.2พัฒนาเเหล่เียนรู้ป่าชายเล่น 3.3พัฒนาเเหล่งเรียนรู้การจัดการขยะในชุมชน 3.4พลักดันให้เกิดการลดใช้พลังงานเกียวข้อง 3.5พลักดันให้เกิดหมู่บ้าานเศรษตรกิจพอเพียง หลังจากนั้นในที่ประชุมมีการเเลกเปลี่ยนถึงเรื่องกฎหมายทีทางรัฐบาลประกาศบังคับใช้กฎหมายเรื่องการขึ้นทะเบียนเรือประมงโดยมีความเห็น2สวนคือความไม่เข้าใจในเรื่องลักษณะการขึ้นทะเบียน ประโยชน์ที่ได้รับ/ผลดีเเละผลเสีย ประเด็นที่2ลอบที่มีการกำหนดขนาดของตาอวนใในที่ประชุมมีข้อสรุป คือเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้เรื่องกฎหมายหลังจากนั้นกำหนดวันเเละเวลามาหาข้อสรุปเรื่องการทำแผนทรัพยากรสิ่งเเวดล้อมในชุมชนในวันถัดไปพร้อมทั้งจัดทำเอกสารเรื่องแผนทรัพยากรในครั้งที่2ต่่อไป วันที่2 ทบทวนแผนจากครั้งก่อนว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติม ในที่ประชุมนำเสนอให้มีการหากิจกรรมเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนเช่น กีฬา นันทนาการ กลุ่มอาชีพให้กับเยาวชนเช่น เลี้ยงไก่ใข่ การเพาะเห็ด เลี้ยงปลาดุกในทอ่ซิเมนต์ รณรงค์กิจกรรมปั่นจักรยานทุกวันอาทิตย์ โดยของบสนับสนุนจาก อบต.และผลักดันเข้าสู่แผนชุมชน และนำเสนอแผนทั้งหมดเข้าสู่ อบต. หน่วยงานที่เกียวข้องต่อไป 16.00น.เลิกประชุม

่

ผู้สูงอายุ 20 คน กลุ่มสตรี 10 คน

1.การไม่เข้าใจข้อกฏหมายประมงชายฝั่งข้อ

-

-

เริ่ม เวลา 09. 00.  จัดเตรียมสถานที่ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เเละพื้นที่ปลูกป่า 10. 00 น. ลงทะเบียนจากนั้น เเบ่งออกเป็น สามทีม ทีมที่ 1 เเละทีมที่ 2 ปล่อย พันธุ์ปูดำ 300 กก. 6 เข่ง เเละปลูก ฝักโกงกาง 1,000 ฝัก  ก่อนเริ่มกิจกรรม เจ้าหน้าที่ใด้เเนะนำถึงวิธีการปลูกต้นโกงกาง โดยให้พันฝักที่มีตุ่มเเหลมปักลงในดินลึก  1 ใน 3 ส่วน  เเละปูดำให้ตัด เชื่อกออกจากต้วปูจากนั้นก็เเยกยายออกไปทำภาระกิจที่ใด้รับมอบหมาย ซึ้งกิจกรรมนี้ เด็กนักเรียน เเละคนในชุมชน ร่วมกันทำกิจกรรม ส่วนทีมที่ 2 ปล่อยพันธุ์ สัตว์น้ำ บริเวณหัวสะพานอ่าวพกบ้านวังตง หลังจากนั้นร่วมกันรับประทานอาหาร ดำเนินกิจกรรมจนเสร็จ เวลา 16.00 น. ซึ่งกิจกรรมนี้ได้เเบ่งออกเป็น สองวัน คือ วันที่ 30 เเละ 31 มีนาคม สืบเนื่องจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นเด็กนักเรียน ซึ่งอยู่ในระหว่างปิดเทอม

1. ทำให้เด็กเเละเยาวชนใด้เรียนรู้วิธีการปลูกป่า ความสัมพันธ์ระหว่างป่ากับสัตว์น้ำ
2. ได้ความร่วมมือ ระหว่างคณะทำงานกับโรงเรียน ถึงเเม้ในช่วงปิดเทอมซึ่งตรงกับเด็กนักเรียน มารับในเกรด ที่โรงเรียนในช่วงเช้า จากนั้นก็เข้าร่วมกิจกรรม  ดั่งกล่าว
   
3. ได้ความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ป่าชายเลน ถึงระบบการประสานงาน

เด็กเเละเยาวชน 30 คน คนในชุมชน 80 คน เจ้าหน้าที่ป่าชายเลน 5 คน อบต. 5 คน ครู 5 คน เจ้าหน้าที่อำเภอ 5 คน รวม 130 คน

นักเรียนอยู่ในระหว่างปิดเทอม  เเนวทางแก้ปัญหาคือติดต่อสอบถามทางโรงเรียนเพื่อหาเวลาให้ตรงกันกับกิจกรรม

-

-

เริ่ม ประชุมเวลา 10.00 น. เสร็จภาระกิจ จากกรีดยาง ณ บ้าน คุณ ปรีดา  ยานา  ประชุมเเลกเปลี่ยน ค้นหาบ้านต้นเเบบ ร่วมเเลกเปลี่ยนการจัดการบ้านตนเอง ที่ใส่ใจสิ่งเเวดล้อม ให้เป็นต้นเเบบในการใสใจการเรียนรู้ พร้อมร่วมด้วยช่วยกันปรับปรุ่งบ้านต้นเเบบ ในกลุ่มใด้คุย ถึงกิจกรรม ที่อยากทำในครั้งต่อไปโดยมีข้อเสนอ ให้ไุปดู ศึกษาเเลกเปลี่ยน กับกลุ่มภายนอก  ในที่ประชุม มีมติเห็นชอบว่าให้ไปศึกษาดูงานที่ บ่อเจ็ดลูก อ. ละงู  จ. สตูล  หลังจากนั้น ก็ไปตรวจเยี่ยมบ้าน สมาชิก 16.00 กลับบ้าน

1. เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมภายในกลุ่ม
   
2. เกิดเเผนงานในอนาคตของกลุ่ม

คณะทำงาน 12 คน

  -

-

-

เริ่มเวลา 10.00 น. เดินทางโดยใช่เรือออกดูเเลป่า ในระยะทาง15 กม. เข้าเส้นทางคลองสายหลัก หรือคลองย่านซื้อ เพื่อตรวจป่าโกงกาง เเละสภาพพื้นที่ บริเวณสองฝั่งคลอง โดยเเบ่งออกเป็น 2 ชุด จากการ ตรวจสภาพพื้นที่ ใด้พบการตัดไม้จำนวน 12 ต้น เป็นไม้เเสม  10 ต้น ไม้โกงกาง 2 ต้น ซึ่งบริเวณที่ตัดอยู่เหนือยอดคลอง  สันนิฐานใด้ว่า ชาวบ้านเข้าไปตัดเพื่อ นำไปใช้ในครัวเรือน  สังเกตุใด้จากการตัดไม้เเบบเลือก เพื่อให้ใด้นาดในการก่อสร้าง จากนั้นเข้าไปสำรวจ บริเวณเเยกคลองสายหลัก ก็พบกับชาวประมง ซึ่งกำล้งยกไซปู พร้อมกับใด้สอบถามถึง การที่ต้นไม้ถูกตัดในพื้นที่ ดังกล่าวก็ใด้คำตอบซึ้งตรงกับการสันนิฐาน  จากนั้น นำเรือสำรวจ รอยต่อระหว่างหมู่บ้าน เเล้วจึงเดินทางกลับ ในเวลา 15 .30 น.       

1 จากสภาพปัญหาที่เจอ ต้นไม้ถูกตัดทำให้สมาชิกในกลุ่ม ใด้มีข้อเสนอ ให้มีการเเจ้งกับกลุ่มสมาชิกอนุรักษ์ ป่าชายเลน
2 สภาพพื้นที่ป่าสองข้างทางมีความอุดมสมบูรณ์
3 เกิดความปฏิสัมพันธ์กันระหว่าง  กลุ่มประมง กับกลุ่มอนุรักษ์ 

กลุ่มเยาวชน 5 คน กลุ่มประมง 5 คน

ขาดเสื้อชูชีพ 

-

-

เริ่มประชุมเวลา 13.00 น. โดยผู้ใหญ่บ้านเปิดวาระการประชุม มี 3 วาระ  วาระที่ 1 เรื่อง เเจ้งเพื่อทราบ โดยเเจ้งให้ที่ประชุมทราบ เรื่องการประชุมครั้งที่เเล้ว เรื่องงบประมาณ จัดทำประตูน้ำบ่อปู ใด้รับงบประมาณ อนุมัติจาก ธ ก ส . จ. สตูล  เป็นเงิน 109000 บาท    วาระที่ 2 เชิญนาย ประจัน  โสภา  ปลัดอำเภอทุ่งหว้ารับผิดชอบ ตำบล นาทอน  พูดคุยเเลกเปลี่ยนในที่ประชุม ให้คนในชุมชน ปรองดอง สมานฉัน ในกรณีอพิพาท ระหว่างคนในชมชน  ใช่เวทีเจราจาพูดคุย หาตกลงร่วมกันยุติความขัดเเย้ง  เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง โดย ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงลดค่าใช่จ่ายในครัวเรื่อน โดยการปลูกผักสวนครัว  ควบคุมการใช้จ่ายเงินโดยการทำบัญชีครัวเรื่อน  การใช้ชีวิตบัญญัติ 12 ประการ  ตาม มติ  ค ส ช.
ปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ ให้คนในชุมชนช่วยกันดูเเล หลังจากนั้น ท่านปลัดใด้มอบถุงยังชีพให้กับ ผู้พิการ 1 ราย  หลังจากนั้นที่ประชุมใด้เเลกเปลี่ยน กับท่านปลัดเรื่องยาเสพติดว่า ในกรณี เจ้าหน้าที่ เข้าการจับกุม เเต่เจ้าหน้าที่บอกผู้ต้องหามีคนมาเเจ้ง  ทำให้เกิด ความัดเเย้ง ระหว่างผู้นำชุมชน คนในชุมชน เข้าใจผิด จึงอยากให้ทาง ปลัดนำเรื่องดังกล่าว ไปเเก้ไขด่วน เเละหลัง จากนั้นเเลกเปลียน เรื่องที่ดินทำกิน ของคนในชุมชน ในกรณีเอกสารสิทธิ์  เป็นปัญหามายาวนาน ปลัดก็รับทราบปัญหานี้  วาระที่ 3 เรื่องอื่นๆ  ชี้เเจง เงินกองทุนหมู่บ้าน  16.00 น. ปิดประชุม

   

1 ใด้เห็นความสำคัญของการประชุมในการรับทราบปัญหาต่างๆ
2 เห็นความร่วมมือของคนในชุมชนระหว่าง ภาครัฐ กับชุมชน

• เด็กและเยาวชน 6 คน
• สตรี  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)  10 คน
• กลุ่มอนุรักษ์  กลุ่มอาชีพ  10 คน

-

-

-

เริ่ม เวลา 11. 00 น.  จัดเตรียม สถานที่ อุปกรณ์ เชื่อก  กระสอบ ตาชั้ง จากนั้น ชาวบ้านเริ่มน้ำขยะมา จำหน่าย ให้กับชุมชน ที่รับซื้อ ขยะ ซึ่งขยะ ส่วนมาก จะเป็นขยะขวดพลาสติก  ขวดโค๊ก กระดาษลัง เศษเหล็ก  ส่วนใหญ่ในการรับซื้อครั้งนี้ มีสมาชิกที่นำมาขายใหม่ ยังไม่เข้าใจในการคัดเเยกขยะ มีการเเนะนำ ให้สมาชิกคัดเเยกด้วยตนเอง ในการซื้อ ครังนี้ พลาสติกรวม 49.6 กก x 7  บาท  รวมเป็น 348 บาท ขวดเพชร 30 x 7  = 219  บาท  รองเท้าบู๊ท 5.4 x 6 = 32.4 บาท  อลูมิเนียมบาง  7 x 26 = 182 บาท  เหล็กบาง 19.6 x 5 = 99 บาท  ขวดขาวขุ่น  13.4 x 14 = 187 บาท  กระป๋องสังกะสี 5 x 3 = 15 บาท  กระดาษลัง 89 x 3 = 266 บาท  เเบตเตอรี่  5 x 16 = 80 บาท  พลาสติก กรอบ 13 x 3= 39 บาท  เครื่องใช้ไฟฟ้า  42.2 x 5 = 216 บาท กระดาษขาวดำ 9.2 x 3 = 28 บาท  กระดาษสี  7.8 x 1 = 7.8 บาท รองเท้ายูเนียน  1.6 x 3 = 5 บาท  รวมน้ำ หนักทั้งหมด 296.2 กก. คิดเป็นเงิน 1750 บาท    เวลา 16. 00 น. เปิดการรับซื้อขยะ

• การรับซื้อขยะในครั้งนี้ ใด้เห็นความกระตื่อ เรื่อร้น ของคนในชุมชน โรงเรืยน มากขึัน มีการรับซื้อพลาสติก เหล็กบาง แบตเตอรี่ เครื่องใช้ไฟฟ้า กระดาษ และอื่นๆ
  
• มีการรับซื้อในครั้งนี้ คือ รวมน้ำ หนักทั้งหมด 296.2 กก. คิดเป็นเงิน 1,750 บาท

คณะทำงาน 5 คน

ไม่มีรถ สามล้อ รับซื้อขยะบริเวณ ร้านค้าตตข

-

-

เริ่มประชุมเวลา 11.00 เสร็จภาระกิจ จากกรีดยาง ณ บ้าน คุณ ปรีดา  ยานา  ประชุมเเลกเปลี่ยน ค้นหาบ้านต้นเเบบ ร่วมเเลกเปลี่ยนการจัดการบ้านตนเอง ที่ใส่ใจสิ่งเเวดล้อม ให้เป็นต้นเเบบในการใสใจการเรียนรู้ พร้อมร่วมด้วยช่วยกันปรับปรุ่งบ้านต้นเเบบ

1. เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมภายในกลุ่ม
   
2. เกิดเเผนงานในอนาคตของกลุ่ม

• บ้านต้นเเบบในการจัดการขยะ โดยร่วมกันสำรวจ บ้านเเล้วมาเเลกเปลี่ยนกัน เพื่อเเสดงความคิดเห็นข้อเสนอเเนะต่างๆ ในบ้านของคุณปรีดาในเรื่อง การจัดวางถังขยะ การทำความสะอาด การตกเเต่งหน้าบ้านเเละหลังบ้าน หลังจากนั้นใด้คุยประเด็น การขับเครื่อนกลุ่ม ใด้มีข้อเสนอ กิจกรรมที่จะทำ หรือต่อยอด ในกลุ่มบ้านต้นเเบบ เเล้ะใด้ข้อสรุปว่า จัดตั้งเป็นกลุ่ม ออมทรัพย์ โดยให้เก็บเงินเดือนละ 50 บาท และพัฒนากลุ่มจัดทำเครื่องเเกง การทำฝาชี จากคลุ้ม เเละหวาย ทีประชุมมีมติเห็นด้วย ที่จะคุยประเด็นนี้ ครั้งหน้า ปิดประชุม เวลา 16. 00 น.

สมาชิกกลุ่มโฮมสเตย์  10 คน

-

-

-

1 เริ่ม เวลา  10.00 น.ได้เเบ่ง คน ออกเป็น 2 ทีมที่ 1 ตรวจป่าที่อ่าวพกในการเดินด้วยเท้ารัศมี 100 เมตร
ทีมที่ 2 ถางเเนวป่าริมข้างถนนทางเข้าอ่าวพก  ระยะทาง หนึ่ง กิโลเมตร  ลึก 2 เมตร  เพื่อต้องการให้ป่าโปรง  เพื่อความปลอดภัยทางถนน ของคนที่มา ประกอบอาชีพประมงในอ่าวพก

• จากการสำรวจป่า พบพื้นที่  อาศัยของ สัตว์ป่าชายเลน  หอยจุบเเจง ปูดำ  ทำให้เห็นถึงอุดมสมบูรณ์ ของป่าชายเลน
• สังเกตุพบ ร่องรอยการตัดไม้  มีพื้นที่ว่างเปล่า เเละ ได้มีลิง พังกาออกมาหากิน ตามเเนวป่า ประมาณ 5 ตัว ได้พบร่องรอย การตัดยอดจาก จำนวน 10 ยอด  ร่องรอย การหาหอยจุบเเจง

กลุ่มเวชน 5 คน กลุ่มประมง 6 คน

-

-

-

เริ่มประชุม 13.00 น. เปิดวาระการประชุม โดยมีวาระ 2 วาระ วาระต่อเนื่่อง เรื่องการจัดทำธนาคารต้นไม้ เเละ ประตูน้ำบ่อปูซึ่งใด้ชี้เเจงว่า ในคณะทำงานจัดทำเอกสาร ตัวโครงการ รายละเอียดประมาณการ ค่าใช่จ่าย ผู้รับผิดชอบโครรงการ เเล้ว นำเสนอ ของบประมาณ ไปยังหน่วยงานที่เกียวข้อง พร้อมติดตามการนำเสนอโครงการให้เเล้วเสร็จ วาระที่ 2ชี้เเจงในการดำเนินงาน กิจกรรม ในการรับซื้อขยะ พร้อมเเลกเปลียนประเด็นเรื่องทาง อ.บ.ต. นาทอน ประกาศยกเลิก เก็บขยะในถังอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ ขยไม่ สามารถนำไปทิ้ง สาเหตุ จากบ่อขยะ อ.บ.ต. นาทอนยังไม่มี เเละเช่าพื้นที่ ทิ้งขยะที่เทศบาลตำบลกำเเพง อ. ละงู ซึ่งสถานที่ดังกล่าว ได้ปิด ห้ามนำขยะมาทิ้งจนเเลกเปลี่ยนในที่ประชุมว่าจะเเก้ปัญหากันอย่างไร ในที่ประชุมโดยคณะกรรมการ รับซื้อขยะเสนอ ให้คนในชุมชน คัดเเยกขยะ ที่สามารถ นำมาขายกับ กลุ่มรับซื้อขยะ ส่วนขยะที่ย่อยสลายให้ขุดหลุ่มฝัง ในที่ประชุมเห็นชอบดังกล่าว โดยให้ผู้ช่วย  ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการรับซื้อขยะ เป็นหน่วยประชาสัมพันธ์ กระจายข่าว ปิดประชุม เวลา 16. 00 น.

1.เกิดการเเบ่งบทบาทหน้าที่ ในการเเก้ปัญหาร่วมกัน 2.เกิดกระเเสตื่นตัวในการจัดการขยะ

• เด็กและเยาวชน
  
• สตรี  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)
  
• กลุ่มอนุรักษ์  กลุ่มอาชีพ
  
• ผู้สูงอายุ

-

-

-

เริ่ม เวลา 11. 00 น.  จัดเตรียม สถานที่ อุปกรณ์ เชื่อก  กระสอบ ตาชั้ง จากนั้น ชาวบ้านเริ่มน้ำขยะมา จำหน่าย ให้กับชุมชน ที่รับซื้อ ขยะ ซึ่งขยะ ส่วนมาก จะเป็นขยะขวดพลาสติก  ขวดโค๊ก กระดาษลัง เศษเหล็ก  ส่วนใหญ่ในการรับซื้อครั้งนี้ มีสมาชิกที่นำมาขายใหม่ ยังไม่เข้าใจในการคัดเเยกขยะ มีการเเนะนำ ให้สมาชิกคัดเเยกด้วยตนเอง ในการซื้อ ครังนี้ พลาสติกรวม 2.8 กก x 7 = 8.5  บาท ขวดโค็ก 0.6 x 27 = 2.6 บาท  ขวดเพชร 5.8 x 7  = 39.3  บาท  เหล็กหนา 14.6 x 7 = 270 บาท  ขวดขาวขุ่น  3.8 x 14 = 186 บาท รองเท้าบู๊ท  1.2 x 6 = 7.2 กระป๋องสังกะสี 8.4 x 3 = 26.2 บาท  กระดาษลัง 42.8 x  = 128 บาท อลูมิเนียมบาง  3 x 28 = 84 บาท สังกะส  10.4 x 3 = 32 บาท  พลาสติก กรอบ 4.2 x 3 =12.6 = 8.4 บาท  เครื่องใช้ไฟฟ้า  4.2 x 5 = 21 บาท  กระดาษสี  4.2 x 1 = 4.2 บาท  รวมน้ำ หนักทั้งหมด 268.7 กก. คิดเป็นเงิน 1792 บาท เวลา 16. 00 นใ เปิดการรับซื้อขยะ

การรับซื้อขยะในครั้งนี้ ใด้เห็นความกระตื่อ เรื่อร้น ของคนในชุมชน โรงเรืยน มากขึัน

คณะทำงาน 5 คน

ไม่มี สามล้อ

-

-

เริ่มเวลา 10.00 น.การเดินเท้า  200 เมตร  ในการตรวจป่าพบว่า มีการตัดไม้ นำไปใช้สอย ของคนในชุมชน เเละ มีการปลูกทดเเทน  ได้มานั้งสรุป ถึงการตรวจป่า พูดคุยเเลกเปลี่ยน หามาตรการ ในการตรวจตราดูเเลป่า ในครั้งต่อไป

เกิดมาตรการข้อตกลงร่วม ถึงการตัดไม้เพื่อใช้สอยในชุมชน

กลุ่มเยาวชน 5 คน กลุ่มประมง 5 คน

ทีมงานถ่ายรูปมาไม่ครบ  เบตเตอรี่หมด

-

-

เริ่ม ประชุม เวลา 13 .00  ผู้ใหญ่บ้านเรียกประชุม ที่ อ บ ต. โดยมีวาระการจัดประชุม เรืองธนาคารต้นไม้  ได้เชิญเจ้าหน้าที่ ธ ก ส . ให้ความรู้ คำเเนะนำ ในการจัดตั้งธนาคารต้นไม้  เเละจัดตััง กลุ่มธนาคาร ต้นไม้โดย มี  นาย บาเศษ  พันหาบ เป็น ประธาน  นาย  ดาโหด  เป็น รองประธาน  นาย อับดลลอ  หมัดศิริ  เลขา  นาง  ปรีดา  ยานา  เป็น  เหรัญิก  เเละ ฉวีวรรณ  ไฉนวงค์    เเละได้คุยวาระ เรื่องการปรับปรุง ประตูน้ำ บ่อปู เพื่อเเก้ปัญหา ป้องกันต้นไม้ โกงกางตาย  16. 00  น .  ปิดประชุม

ได้เรียนรู้ การจัดตั้งธนาคารต้นไม้  ระเบียบ เเละอื่น ซึ่งโครงการนี้จะทำให้คนในชุมชน มีเงินออม โดยใช้ต้นไม้ เเละมีพื้น ที่สีเขียวเพิ่ม ขึ้น

คนในชุมชน  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)  ผู้นำ  กลุ่มองค์กร

-

-

-

เริ่ม เวลา 11. 00 น.  จัดเตรียม สถานที่ อุปกรณ์ เชื่อก  กระสอบ ตาชั้ง จากนั้น ชาวบ้านเริ่มน้ำขยะมา จำหน่าย ให้กับชุมชน ที่รับซื้อ ขยะ ซึ่งขยะ ส่วนมาก จะเป็นขยะขวดพลาสติก  ขวดโค๊ก กระดาษลัง เศษเหล็ก  ส่วนใหญ่ในการรับซื้อครั้งนี้ มีสมาชิกที่นำมาขายใหม่ ยังไม่เข้าใจในการคัดเเยกขยะ มีการเเนะนำ ให้สมาชิกคัดเเยกด้วยตนเอง ในการซื้อ ครังนี้ พลาสติกรวม 30.9 กก x 6  บาท  รวมเป็น 184 บาท ขวดเพชร 11.9 x 7  = 84  บาท  เหล็กหนา 5.8 x 3 =  29 บาท  เหล็กบาง 3 x 5 = 15 บาท  ขวดขาวขุ่น  3.9 x 10 = 39 บาท  กระป๋องสังกะสี 7 x 2 = 14 บาท  กระดาษลัง 82.4 x 2 = 165 บาท  เเบตเตอรี่  5 x 16 = 80 บาท  พลาสติก กรอบ 4.2 x 2= 8.4 บาท  เครื่องใช้ไฟฟ้า  30 x 5 = 50 บาท กระดาษขาวดำ 42.9 x 3 = 129 บาท  กระดาษสี  7.8 x 1 = 7.8 บาท  รวมน้ำ หนักทั้งหมด 234.8 กก. คิดเป็นเงิน 906 บาท เวลา 16. 00 นใ เปิดการรับซื้อขยะ

การรับซื้อขยะในครั้งนี้ ใด้เห็นความกระตื่อ เรื่อร้น ของคนในชุมชน โรงเรืยน มากขึัน

คณะ ทำงาน 5 คน เยาวชนนักเรียน 16 คน

ไม่มีรถ สามล้อ รับซื้อขยะบริเวณ ร้านค้า

-

-

เริ่มเวลา 10.00 น. เดินสำรวจใกล้ ศุนย์ เรียนรู้ โดยเเบ่งออกเป็น 2 ทีม ทีมเเรกสำรวจบริเวณ  ศูนย์ เรียนรู้ ป่าชายเลน โดย สำรวจป่าโกงกางใน รัศมี 50 เมตร  ซึงจากการสำรวจบริเวณดั่ง กล่าว พบว่า ทีร่อง รอยชาวบ้านเดินไปหาหอย ลอกัน หอยจุบเเจง  ส่วนไม้โกงกาง ไม้เเสม เเละไม้อื้นๆ  ยังคงอยู่ในสภาพเดิม  ส่วนที่ 2  สำรวจบริเวณ บ่อปู ในการเดินเท้า ในพื้นที่ 10 ไร่ บริเวณป่าในบ่อปู ต้นไม้บ้างต้นเริ่มตาย เนื่องจาก สภาพบ่อมีการขังน้ำ เป็นเวลานาน หลังจากนั้น พักเที่ยง กินข้าว
เริ่มลง สำรวจป่าอีกครัง พร้องทั้งติดป้าย ช้อต้นไม้ จำนวน 30 ป้าย  14. 00 กลับ บ้าน

จากการสำรวจ ดูเเลป่าครั้งนี้  ทีมที่ 1  มีความคิดเห็น  มีการควมคุม การหาหอย จุบเเจง หอยลอกัน  ส่วน ทีมที่ 2 ให้ปรับปรุงบริเวณบ่อปู  เรื่อง ประตูน้ำ ให้ใหล เข้า สะดวก

กลุ่มเวชน 5 คน กลุ่มประมง 5 คน

ขาดเรือ ตรวจตราดู เเลป่า เเละเสื้อชูชีพ วิทยุ สื่อสาร 

ไม่มี

ไม่ มี

เสร็จภาระกิจจากการกรีดยาง เวลา 10.00 น. นัดกันที่ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนบ้านวังตง โดยนายบะสมัน แสงขาว เปิดประชุม เพราะท่านเป็นผู้อาวุโส หลังจากนั้นนายอับดลลอห์ หมัดศิริ ได้ชี้เเจงถึงที่มาที่ไป ของกิจกรรมโครงการนี้ว่า กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ลงสำรวจพื้นที่เก็ยข้อมูลเรื่องราวของป่าชายเลนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาณาเขต พันธุ์สัตว์น้ำ ที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ พันธุ์ไม้ การประกอบอาชีพ เครื่องมือ การตลาดและอื่นๆ แต่ในวันนี้ให้ทุกคนให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนจะลงสำรวจในครั้งต่อไป วันนี้ให้รู้แค่ว่าจำนวนป่าชายเลนมีกี่ไร้ คือ 1690 ไร่ จำนวนผู้ประกอบอาชีพประมง  30 ราย โดยมีการประกอบอาชีพ ดักปู ดักไซ ตกปลา  โล๊ะกุ้ง จับมาหลง ต่อนกกวัก เลี้ยงปลา เลี้ยงหอย ดำสาหร่าย วางอวน ปิดคลอง ปิดอ่าว และรู้จำนวนลำคลองโดยมีสายหลักคือคลองย่านซื่อ คลองห้วยบ้า คลองตก คลองออก  แต่ยังไม่ได้ทราบระยะทาง ซึ่งจะสำรวจในครั้งต่อไป และอุปกรณ์ ในการประกอบอาชีพด้านการประมงมี อวน ซึ่งมีอวนแต่ละชนิดยังไม่ลงลึกรายละเอียดถึงความยาว หนา กว้าง ลึก ไซ ไซปู ไซปลา ไซมาหลง ไซดอกแดง ไซหยอง ไซหมึก ไซมีหลัง ภูมิปัญญาในการดูน้ำขึ้นน้ำลง ดวงเดือน  ทำไซ เย็บอวน เย็บจาก การแลดอหมันสัตว์น้ำ การเลี้ยงปลาในกระชัง การเลี้ยงหอย วิถีชีวิต การอยู่ร่วมกับป่า การจัดการป่าชายเลน กิจกรรมดูแลป่า ซึ่งมีข้อมูลที่ต้องเก็บและลงลึกรายละเอียดอีกหลายครั้ง โดยจะออกมาเป็นประเภท ซึ่งจะให้คณะทำงานไปแยกประเด็นในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลง่ายขึ้น หลังจากนั้น 16.00 น.ปิดการประชุม 

1. เกิดกระบวนารเรียนรู้ระหว่างเด็กและผู้สูงอายุ
2. เห็นความสำคัญของข้อมูลบุคคลที่มีองค์ความรู้ด้านต่างๆ
   
3. เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างคนสามวัย
   
4. เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ นำไปสู่การเเลกเปลี่ยนในวงเสวนา
   
5. เห็นความร่วมมือความตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรในท้องถิ่น

กลุ่มประมง กลุ่มป่าชายเลน เด็กและเยาวชน

1. รูปแบบการจัดเก็บข้องมูลไม่ประติดประต่อ
   แนวทางการแก้ปัญหาคือออกแบบการจัดเก็บข้อมูลให้เป็นประเภท โดยศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ 

1. ออกรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อให้คนที่ทำกิจกรรมได้นำไปใช้ 

-

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายแจ้งผู้เข้าร่วมในเวลา 13.00 น. หลังจากนั้นเริ่มประุมในเวลา 13.30 น. โดยผู้ใหญ่บ้านเปิดประชุมพร้อมกล่าวต้อนรับเจ้าหน้าสำนักงานป่าชายเลนที่ 3 จังหวัดตรัง เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งได้ชี้เเจเเนวทางในการจัดตั้งป่าชุมชน วัตถุประสงค์และวิธีการดำเนินงาน ซึ่งได้อธิบายว่าการจัดตั้งป่าชุมชนมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้ชุมชนมีการบริหารจัดการตามแนวเขตที่วางไว้ เพื่อให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและชุมชน โดยให้มีการดำเนินงานโดยคณะทำงานป่าชุมชน ซึงมีกรอบระยะเวลา 10 ปี ทั้งนี้ทางสำนักที่ 3 จะสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้ชุมชนดพเนินกิจกรรมตามแผนป่าชุมชนหมู่บ้านนั้นๆ แต่ยังคงรักษารูปแบบตามภายใต้กฏหมาย พรบ.ป่าไม้ หลังจากนั้นผู้ใหญ่บ้าน ได้คุยถึงเรื่องยาเสพติดในชุมชน ให้คนในชุมชนช่วยกันสอดส่องดูแลบุคคลต้องสงสัยเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและชุมชน หลังจากนั้นเวลา 16.00 น. ปิดประชุม

1. ทำให้เกิดการทำงานเป็นระบบแบบแผน
2. ได้คุยตามวาระการประชุมจริงๆ
3. การแบ่งบทบาทและหน้าที่ในการรับผิดชอบกิจกรรมนั้นๆ 4.เกิดองค์กรความร่วมมือในชุมชน
4. ได้รบทราบปัญหาของแต่ละกลุ่มองค์กร

• เด็กและเยาวชน 8 คน
• สตรี  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)    12 คน
• กลุ่มอนุรักษ์  กลุ่มอาชีพ  20 คน
• ผู้สูงอายุ 7 คน

มาช้ากว่ากำหนด
แนวทางการแก้ปัญหา ใช้ระเบียบและกติกาว่าด้วยเรื่องของการประชุม

-

-

1. เวลา 10.30 น. ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายเรื่องการรับซื้อขยะในชุมชน
   
2. คณะทำงาน 5 คน จัดเตรียมสถานที่ เอกสาร ตาชั่ง กระสอบ เพื่อเตรียมรับกลุ่มเป้าหมายที่จะนำขยะมาขาย และจัดวางขยะที่ซื้อมาเมื่อเดือนที่เเล้วให้เป็นระเบียบ เพราะยังไม่ได้ส่งขาย จากนั้นชาวบ้านเริ่มทะยอยนำขยะมาขาย โดยกลุ่มแรกที่นำขยะมาขายคือนักเรียนโรงเรียนบ้านวังตง ซึ่งขยะจะเป็นประเภทแก้วน้ำพลาสติก น้ำหนัก 8 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 6 บาท เป็นเงิน 48 บาท พร้มอทั้งสมัครเข้าเป็นสมาชิกในนาทของโรงเรียน และทางคณะทำงานได้เปิดสมุดบัญชีไว้ 1 เล่มให้กับทางโรงเรียน หลังจากนั้นคนในชุมชนนำขยะมาขายรูปแบบยังเหมือนเดิมคือบางรายยังไม่คัดเเยกขยะมาจากที่บ้าน มำให้ก่อนชั่งต้องเทลงบนพื้นแล้วทำการคัดเลือก ซึ่งจะทำให้เสียเวลา อีกทั้งทำให้ขยะกระจัดกระจาย ครั้งนี้ขยะในชุมชนที่นำมาขาย ส่วนใหญ่ยังเป็นขวดพลาสติกซึ่งมีมากที่สุด รองลงมาคือกระดาษลัง พลาสติกกรอบ และเหล็กบางส่วน 

1. เกิดการเเลกเปลี่ยนกันระหว่างคณะทำงานกับคนในชุมชนถึงมาตรการในการนำขยะมาขาย เช่น ให้คนในชุมชนคัดแยกขยะมาจากบ้าน
2. เกิดการเรียนรู้ในการรู้จักประเภทของขยะ ราคา
   
3. ทำให้รู่ถึงจำนวนและปริมาณของขยะในแต่ละเดือน
4. ก่อให้เกิดการสร้างกระแส เรื่องการจัการขยะในชุมชน

คณะทำงาน กลุ่มแม่บ้าน เด็กและเยาวชน

1. ชุมชนยังขาดการตระหนักถึงความสำคัญ เรื่องการจัดการขยะ แนวทางในการแก้ปัญหาคือสร้างกิจกรรมให้เกิดความต่อเนื่องพร้อมทั้งสร้างกระแสในการจัดการขยะ
2. ชุมชนขาดวิธีการการคัดแยกขยะในครัวเรือน วิธีแก้ปัญหาคือคณะทำงานแนะนำทุกครั้งที่นำขยะมาขาย

1. อยากให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ในทุกๆชุมชน-

-

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสาย เวลา 10.00 น. ให้คนในชุมชนเข้าร่วมประชุมเวลา 13.00 น. จากนั้นเวลา 13.30 น.ผู้ใหญ่บ้านเปิดวาระการประชุมชี้เเจงเพื่อให่คนในชุมชนรับทราบข้อมูลที่ทางอำเภอแจ้งให้เพื่อทราบ โดยมีมีวาระการประชุมเรื่อง แนวทางในการจัดการทรัยากรและสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยทางกลุ่มอนุรักษืป่าชายเลนได้นพเสนอให่ผลักดันป่าชายเลนบ้านวังตงเป็ยป่าชุมชน โดยเสนอผ่านสำนักงานสำนักป่าที่ 3 จังหวัดตรัง ให้มติประชุมให้กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านวังตง จำนวน 1690 ไร่ ให้เป็นป่าชุมชน พร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการ กฏกติกา การบริหารจุดต่างๆ หลังจานั้นผู้ใหญ่บ้านได้พูดถึงปัญหาเรื่องกองทุนหมู่บ้านของ กข.คจ. ถึงเรื่องการผ่อนชำระหนี้ โดยในมราประชุมมีมติว่าให้นำมาผ่อนในทุกวันที่ 5 ของเดือน ซึ่งพร้อมกับนำขยะมาขาย เวลา 15.30 น. เลิกประชุม

1. ทำให้เกิดการทำงานเป็นระบบแบบแผน
2. ได้คุยตามวาระการประชุมจริงๆ
3. การแบ่งบทบาทและหน้าที่ในการรับผิดชอบกิจกรรมนั้นๆ 4.เกิดองค์กรความร่วมมือในชุมชน

• เด็กและเยาวชน 2 คน
• สตรี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 10 คน
• กลุ่มอนุรักษ์  กลุ่มอาชีพ  18 คน
• ผู้สูงอายุ 10 คน

1. ในการประชุมให้เวลาสั้น แนวทางแก้ปัญหาคือหาช่วงเวลาที่เหมาะสม

-

-

1. เวลา 10.30 น. ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายเรื่องการรับซื้อขยะในชุมชน
   
2. คณะทำงาน 5 คน จัดเตรียมสถานที่ เอกสาร ตาชั่ง กระสอบ เพื่อเตรียมรับกลุ่มเป้าหมายที่จะนำขยะมาขาย
3. เวลา11.00 น. คนในชุมชนเริ่มนำขยะมาขาย 2 -3 ราย
4. ประชุมเปิดรับสมาชิกใหม่เก่า เเละชี้เเจง วัตถุประสงค์  การรับซื้อขยะ การคัดเเยกขยะมาจากบ้าน ขยะที่ซื้อ กำหนดวันเวลาที่ซื้อ ชี้เเจงราคาที่รับซื้อ เเละในการประชุมครั้วนี้ ใด้มีการเเจกของชำรวย สมาชิกเก่าเเละใหม่
   
5. เวลา 13.00 น. ชาวบ้านนำขยะมาขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเเต่ละครั้งที่ชาวบ้านนำขยะมาขาย ทางคณะทำงานได้สอนวิธีการคัดแยกขยะ เพื่อให้คนที่นำขยะมาขายได้มีมูลค่าเพิ่มจากขยะแบบซื้อรวม
   
6. ช่วงบ่ายขยะที่ชุมชนนำมาส่วนใหญ่จะเป็นขวดพลาสติก กระดาษ ขวดน้ำ และเหล็กบ้างบางส่วน
7. เวลา 16.00 น. ทางคณะทำงานได้สรุปยอดการซื้อขยะทั้งหมดในวันนี้
     7.1 ขยะขวดพลาสติกประมาณ 15 กิโลกรัม   7.2 กระดาษแบบรวม 40 กิโลกรัม   7.3 เหล็กและสังกะสี 20 กิโลกรัม   7.4 อื่นๆ รวม 5 กิโลกรัม

1. เกิดการเเลกเปลี่ยนกันระหว่างคณะทำงานกับคนในชุมชนถึงมาตรการในการนำขยะมาขาย เช่น ให้คนในชุมชนคัดแยกขยะมาจากบ้าน
2. เกิดการเรียนรู้ในการรู้จักประเภทของขยะ ราคา
   
3. ทำให้รู่ถึงจำนวนและปริมาณของขยะในแต่ละเดือน
4. ก่อให้เกิดการสร้างกระแส เรื่องการจัการขยะในชุมชน1

คณะทำงาน กลุ่มแม่บ้าน เด็กและเยาวชน

1. ชุมชนยังขาดการตระหนักถึงความสำคัญ เรื่องการจัดการขยะ แนวทางในการแก้ปัญหาคือสร้างกิจกรรมให้เกิดความต่อเนื่องพร้อมทั้งสร้างกระแสในการจัดการขยะ
2. ชุมชนขาดวิธีการการคัดแยกขยะในครัวเรือน วิธีแก้ปัญหาคือคณะทำงานแนะนำทุกครั้งที่นำขยะมาขาย

1. อยากให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ในทุกๆชุมชน

-

เริ่มประชุมเวลา 13.00 น. คณะกรรมการโครงการใช้เวทีประชุมประจำเดือนของชุมชนผนวกไปกับ การเปิดตัวโครงการและ การคัดเลือกคณะกรรมการสภาหมู่บ้าน วาระการประชุมประกอบด้วย
- วาระทั่วไปที่เกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนในชุมชน
- วาระการตรวจสภาพที่ดินใน สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน เเละอื่นๆ - วาระการจัดการขยะ - วาระการเปิดตัวโครงการและคัดเลือกคณะกรรมการสภาชุมชนหมู่ที่ 4 เสร็จสิ้นการประชุมเวลา 16.00 น.

-  การจัดการขยะผู้รับผิดชอบโครงการนำเสนอผลการดำเนินงานของ ธนาคาร ซื้อขยะในรอบปีที่ผ่านมา จากเริ่มเเรกมี สมาชิก 6 คน จนถึงปัจจุบันมีสมาชิก 100 คน  จำนวนขยะที่รับซื้อประมาณทั้งหมด  2490 กก. รวมเป็นเงิน 19,000 บาท  มีเงินทุนหมุนเวียน 4,500  บาทป  ปัญหาอุปสรรคในการจัดการขยะขณะนี้ คือ ปริมาณขยะสะสมในครัวเรือน เนื่องจากไม่มีรถมารับ  ทางชุะสานกับ อบต. แล้วรอแนวทางการปฏิบัติอีกครั้ง
- การคัดเลือกสภาชุมชน ในที่ประชุมคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถเสียสละซึ่งให้ครอบคุมที่มาจากหลากหลายกลุ่ม เช่น    เด็ก  ผู้นำชุมชน  อสม.  อบต.  ผู้นำศาสนา ปราชญ์ชาวบ้าน  กลุ่มอาชีพ    ผู้นำภาคประชาชน  ที่ประชุมใด้ร่วมกันเสนอชื่อ บุคคลต่างๆ จำนวน 25 คน มี ผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน  รองประธานสมาชิก อบต. 2 คน  เลขา นาย  อับดลลอห์  หมัดศิริ เเละที่เหลือก็เป็นกรรมการ  กำหนดให้มีการประชุมทุกเดือน สำหรับเดือนหน้า  จะชี้เเจงบทบาทหน้าที่ของสภาชุมชน  ให้เข้าใจในทิศทางเดียวกัน - บรรยากาศที่ประชุมทุกคนที่มาร่วมให้ความร่วมมือและมีความกระตือรือล้นในการพูด คุยเรื่องต่างๆในชุมชน

ประชาชน ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา

-

-

-

  เริ่มประชุม เวลา 13.00 น.  คณะทำงาน จัดเตรียมสถานที่ห้องประชุม  จากนั้นเวลา 13.00น. ผู้ใหญ่บ้านเปิดประชุม ถึงที่มาท่ไปของการประชุมโดยได้กล่าว วาระการประชุม เรี่องที่ 1 เรื่องทั่วไปในชุมชน    เรื่องที่ 2  การตรวจสภาพที่ดินใน สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน เเละอื่นๆ เรื่องที่ 3 การจัดการเรื่องขยะการจัดการทรัพยากรสิ่งเเวดล้อม เรื่องที่ 4 การจัดตั้งสภาชุมชน โดยผู้ใหญ่ได้กล่าวถึง ขอความร่วมมือในเรื่องดั่งกล่าวข้างต้น  หลังจากนั้น นาย อับดลลอห์    หมัดศิริ  ใด้พูดคุยปัญหาเรืองขยะ  ว่าทางชุมชนได้รับซื้อขยะในรอบปีที่ผ่านมา จากเริ่มเเรกมี สมาชิก 6 คน จนถึงปัจจุบันมีสมาชิก 100 คน  จำนวนขยะที่รับซื้อประมาณทั้งหมด  2490 กก. รวมเป็นเงิน 19,000 บาท  มีเงินทุนหมุนเวียน 4,500  บาท  ขณะเดียวกันทางชุมชนได้เเลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดย นาย วิโรจน์  ราเสด  ได้แลกเปลี่ยน  มีขยะเเต่ไม่รถมารับขยะ    ได้ชี้เเจงไปว่า  อยากให้คนในชุมชนนำขยะมาขาย ในวันที่  5 ของทุกเดือน  เวลา 13.00  ถึง  16.00 น.  มันจะทำให้ขยะเเต่ละครัวเรือนนำมาขายได้  ถ้าสะสมขยะไว้หลายๆเดือน จะทำให้ขยะมาก อีกทั้งทางกลุ่ม ยังไม่มีรถ 3 ล้อ ซึ่งเรี่องนี้ใด้คุยกับ อ บ ต. เเล้ว  ยังรอผลการตัดสิน จากนั้น อ. วิจิตรา  อย่างดี  รักษาการ  ผอ. รร. บ้านวังตง ได้เเลกเปลียนว่า ขอความร่ามมือขยะด้านหลังข้างโรงเรียน  ซึ้งมีขยะคนในชุมชนนำมาทิ้ง จะเเก้ปัญหาอย่างไร  โดยได้  ชี้เเจงว่าจากนี้ไปทางชุมชนจะจัดตั้งสภาชุมชน เพื่อขออนุมัติ เเละอำนาจหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน  ในการจัดการปักป้าย  เเละพูดคุยโดยตรง จากนั้น คนในห้องประชุมพูดเป็นเสียงเดียวกันในห้องประชุม ถึงเรื่อง ขวดเเก้ว ขวดกระเบื้อง จะเเก้ปัญหาอย่างไร  โดยได้ชี้เเจงว่า มีอยู่สองเเนวทาง เเนวทางที่  1 คือ ขอความอนุเคราะห์ ด้านองค์ความรู้เกียวกับ การรีไซเคิล การผลิตน้ำยาล้างจาน บรรจุลงในขวดเเก้ว  ติดต่อบริษัทรับซื้อขวด  จากหน่วยงาน  ต่างๆ เช่น  ธกส.  วชช.  พช.  ทสจ.  อบต.  เป็นต้น  เเนวทางที่ 2 คือจัดทำสถานที่ จักเก็บขยะ ประเภทขวดเเก้ว  โดยทำเป็นกำเเพง ทำเป็นสองช่อง  ช่องขวดสี  ช่องขวดเเก้วใส    ให้คนในชุมชนน้ำขวดมาขว้างให้เเตกตามช่องในเเต่ละสีของขวด  จากนั้นติดต่อพ่อค้าให้มารับ  ซึ้งทางชุมชนไม่สามารถรับซื้อขวดได้ หลังจากนั้น ได้คุยเรื่องการตรวจสภาพดินได้ชี้เเจงว่าทาง อ บ จ.  ได้มีโครงการลดค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมีในสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน  ที่นา พืชผัก โดยในเเนวทางดังกล่าว จะต้องมีการตรวจสภาพดินว่ามีการขาดธาตุใด ใน  N P K  ซึ่งทำให้เราสามารถใช้ปุ๋ยปริมาณตามต้องของพื้นดินนั้นๆได้  ซึ้งจะรับผู้ที่สนใจใจชุชนทั้งหมด 25 ราย กำหนดลงพื้นที่ตรวจสภาพดินอาทิตย์หน้า หลังจากนั้นชี้เเจงเรื่องการจัดการทรัพยากรสิ่งเเวดล้อมในชุมชน  ใด้ชี้เเจงว่า ทงคณะทำงานมีเเผ่นการจัดการทรัพยากรสิ่งเเวดล้อมในชุมชนดั่งนี้  ( ตามรายละเอียดโครงการ )  โดยใช้สภาชุมชนในการขับเคลื่อนให้บรรลุสู่เป้าประสงค์โครงการ หลังจากนั้นเสนอให้มีการจัดตั้งสภาชุมชน โดยในที่ประชุมคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถเสียสละซึ่งให้ครอบคุม  เด็ก  ผู้นำชุมชน  อสม.  อบต.  ผู้นำศาสนา ปราชญ์ชาวบ้าน  กลุ่มอาชีพ    ผู้นำภาคประชาชน  ในที่ประชุมใด้ร่วมกันเสนอชื่อ บุคคลต่างๆ  ใด้จำนวน 25 คน โดยเเกนหลักให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน  รองประธานสมาชิก อบต. 2 คน  เลขา นาย  อับดลลอห์  หมัดศิริ เเละที่เหลือก็เป็นกรรมการ  เเละได้กำหนดการประชุมครั้งต่อไปเป็นเดือนหน้า  เเละได้ชี้เเจงบทบาทหน้าที่ของสภาชุมชน  ให้เข้าใจในทิศทางเดียวกัน    หลังจากนั้น เวลา  16.00 น. เลิกประชุม

  สิ่งที่ประชุมในครั้งนี้ สิ่งที่ได้  คือความตื่นตัวของคนในชุมชน โดยสังเกตุได้จากการตั้งคำถาม การพูดคุยระหว่างการประชุมในการเเลกเปลี่ยน องค์ความรู้ในการจัดการขยะจากผู้นำถ่ายทอดสู่ผู้เข้าร่วมประชุม  เช่น  คุยสภาพปัญหา เเนวทางในการเเก้ปัญหา เเละหาจุดร่วมในการเเก้ไขปัญหาโดยให้ผ่านสภาชุมชนเป็นเเก่นหลักในการตัดสินใจ ให้สอกคล้องกับความต้องการของคนในชุมชนเป็นหลัก หรือเรียกว่าสัญญาประชาคมเป็นหลัก และอีกทั้งกิจกรรมในครั้งนี้คนในชุมชนจะเอาสภาพปัญหา อุปสรรค ความเดือดร้อนความต้องการ  เเละอีกหลายๆ เรื่อง  นำไปสู่การจัดทำเเผนชุมชนได้ ในอนาคต 

ผู้นำชุมชน 5  คน  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อ ส ม.) 10 คน  โต๊ะอิหม่าม 1 คน      เยาชน 5 คน  สตรี 10  คน    คนในชุมชน  39 คน  รวมเป็น 70 คน

ผู้เข้าร่วมประชุมมาไม่ครบตามเป้าหมาย ในทางเเก้ปัญหาคือ ทำหนังสือเชิญเข้าร่วมประชุม พร้อมชี้เเจงเป้าประสงค์ของโครงการ   

-

-

รับฟังการชี้เเจงการติดตาม  ประเมินผล  การเงิน การรายงานทางเว็บไซต์

รับฟังการชี้เเจงการติดตาม  ประเมินผล  การเงิน การรายงานทางเว็บไซต์

ผู้รับผิดชอบโครงการ และคณะทำงาน

-

-

-