เพื่อจัดทำรายงานปิดโครงการ
วันนี้จัดทำเอกสารเพื่อสรุปปิดโครงการ พร้อมทั้งภาพถ่าย และรายงานตามที่กำหนด
1.ได้เรียนรู้วิธีการปิดโครงการ
2.มีการนำภาพถ่ายกิจกรรม เข้าสู่โปรแกรม
3.ได้ตรวจสอบความถุกต้องของระบบการเงิน และการรายงานผล
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ค่าจ้างรายงานปิดโครงการ 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงาน
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียรใหญ่จัดนิทรรศการท้องถิ่นชุมชน น่าอยู่ และนำกระบวนการพัฒนาชุมชน นำเสนอร่วมกับพื้นที่อื่นๆ
ซึ่งสรุปได้ว่า
ผลผลิตจากโครงการ
1.มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน 147 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 100
2.เกิดกลุ่มผลิตปุ๋ยชุมชนบ้านอู่แก้ว มีสมาชิก 88 คน
3.เกิดข้อบัญญัติชุมชนเพื่อปฏิบัติร่วมกันตามวิถีหมู่บ้านอู่แก้วพอเพียง 11 ข้อ
4.มีการปลูกผักปลอดสารพิษ เห็ด และสร้างแหล่งอาหารชุมชน ร้อยละ 34
5.ครัวเรือนเรียนรู้การทำเกษตรผสมผสาน และลดการใช้สารเคมี คิดเป็นร้อยละ 60
ผลลัพธ์
1.เกิดกลุ่มเพาะเห็ดฟาง ในหมู่บ้าน 1 กลุ่ม น
2.เกิดครัวเรือนต้นแบบทำการเกษตรผสมผสาน 10ครัวเรือน
3.มีการปรับวิถีชีวิตประจำวัน โดยการทำบัญชีครัวเรือน ได้เรียนรู้วิธีการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
4.มีการปรับวิถีการดำรงชีวิตตามแนวทางอู่แก้วเป็นหมู่บ้านวิถีพอเพียง
5.ประชาชนปรับพฤติกรรมบริโภคและดำเนินชีวิตตามวิถีพื้นบ้าน ลดโรค ลดการใช้สารเคมี
6.เกิดกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม โดยส่งเสริมให้เกิดกลุ่มปุ๋ยชุมชนและกลุ่มเพาะเห็ดฟาง
7.มีภาคีเครือข่ายเข้ามาร่วมทำงานไม่น้อยกว่า 7 ภาคี
1.ได้มีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพื้นที่ต่างๆ
2.เกิดคุณค่าจากการพัฒนางาน
3.ทำให้มองเห็นทุนในชุมชนมากขึ้น และเห็นคุณค่าของทีมงาน
4.ได้รับการเสริมแรงจากหน่วยงานภาครัฐ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
สำนักงานสาธารณสุชอำเภอเชียรใหญ่จัดนิทรรศการ ท้องถิ่นชุมชนน่าอยู่ 150 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและเรียนรู้การปิดโครงการ
วันนี้พี่เลี้ยงจังหวัดให้สรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สามารถสรุปได้ดังนี้
วัตถุประสงค์และการติดตามผลตามตัวชี้วัด
1. เพื่อให้บ้านอู่แก้วเป็นหมู่บ้านวิถีพอเพียง
1.1 ทุกครัวเรือนร่วมกันสำรวจข้อมูลและจัดทำบัญชีครัวเรือน ได้ จำนวน 147 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 100
1.2 ครัวเรือนได้รับคืนข้อมูลชุมชน จำนวน 147 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 100
1.3 เพื่อให้ครัวเรือนมีส่วนรวมในการจัดทำแผนครัวเรือน และแผนชุมชน ลงตามบ้านทำได้ทุกครัวเรือน จำนวน 147 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 100
1.4 มีข้อบัญญัติชุมชนตามวิถีหมู่บ้านพอเพียง 11 ข้อ
2. เพื่อปรับพฤติกรรมบริโภคและการดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง เหมาะสม ลดการใช้สารเคมี
2.1 มีการปลูกผักปลอดสารพิษ เห็ด และคลังอาหารชุมชน จำนวน 50 ครัว คิดเป็น ร้อยละ 34
2.2 ครัวเรือนเรียนรู้การทำเกษตรผสมผสาน และลดการใช้สารเคมี จำนวน 88 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 60
2.3 มีแปลงผักชุมชน 1 แห่ง ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน
3.เพื่อส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มปุ๋ยวิสาหกิจชุมนบ้านอู่แก้ว
3.1 เกิดกลุ่มใหม่ในหมู่บ้าน จำนวน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มปุ๋ยหมัก กลุ่มเห็ดฟาง
สรุปผลงานโดยรวมพบว่า ชุมชนบ้านอู่แก้ว คนได้ปรับวิธีคิด มีการปฏิบัติการร่วมกัน ใช้ทุนในชุมชน เกิดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายได้ ดังนี้
1.เกิดข้อบัญญัติชุมชนเพื่อใช้เป็นแนวทางการสร้างสุขภาพและวิถีพอเพียง 11 ข้อ ผลการปฏิบัติตามข้อบัญญัติ พบว่า ครัวเรือนปฏิบัติครบทุกข้อ จำนวน 15 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 10.20 รองลงมา ครัวเรือนปฏิบัติได้ 8-10 ข้อ จำนวน 132 ครัว คิดเป็นร้อย 89.80
2.เกิดการรวมตัวเพื่อพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นตัวอย่างการเรียนรู้ (แปลงสาธิตข้างบ้านผู้ใหญ่) จากการร่วมแรงร่วมใจกันช่วยในการทำแปลงสาธิต แปลงผักพื้นที่สีเขียว ของหมู่บ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเป็นแหล่งอาหารของชุมชน และเมื่อได้ผลผลิต ก็จะมีการแบ่งปันกันในชุมชน ซึ่งคนในชุมชนสามารถมาเก็บเกี่ยวผลผลิตไปได้
3.มีการปรับวิถีชีวิตประจำวัน โดยการทำบัญชีครัวเรือน (ได้เรียนรู้วิธีการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้) เรียนรู้วิธีการลดต้นทุนการผลิตโดยทำน้ำยาเอนกประสงค์ ปุ๋ยหมักชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ ในการทำกิจกรรมกลุ่มเป้าหมายนำวัสดุมาจากบ้าน เช่น มะนาว กระเจี๊ยบ อัญชัญ มาเป็นส่วนผสมของน้ำยาเอนกประสงค์ลดการใช้สารเคมี ส่วนการทำปุ๋ยหมักหรือน้ำหมักชีวภาพกลุ่มเป้าหมายนำขี้วัว แกลบ ฟางข้าว ขยะที่เหลือจากครัวเรือนมาเป็นส่วนผสม ทำให้ขยะครัวเรือนลดลง หนูลดลง
4.จัดตั้งกลุ่มปุ๋ยชุมชน เดิมไม่มีกลุ่ม มีการทำปุ๋ยไว้ใช้เอง ปัจจุบันร่วมกันจัดตั้งกลุ่มชื่อ กลุ่มปุ๋ยชีวภาพบ้านอู่แก้ว เน้นให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม สมัครเป็นสมาชิก เสียค่าสมาชิกคนละ 100 เพื่อเป็นต้นทุน และให้สมาชิกนำวัสดุที่มีอยู่ในบ้านของตนมาเป็นวัตถุดิบ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย สมาชิกมีการแบ่งหน้าที่ในการทำปุ๋ยอย่างชัดเจน และก็จะมีเงินปันผลให้กับสมาชิกในกลุ่ม
5.เกิดกลุ่มสวัสดิการออมเงิน โดยการรู้วิธีลดรายจ่าย และเพิ่มเงินออม เน้นให้มีการผลิตใช้เองในครัวเรือน เช่น น้ำยาเอนกประสงค์ ลดรายจ่ายได้ครัวเรือนละ 50 บาทต่อครัวเรือน ผลิตปุ๋ยใช้เอง ลดค่าใช้จ่ายได้ 3000 บาทต่อปี ลดการใช้เครื่องปรุงรสลดค่าใช้จ่าย 100 บาทต่อครัวเรือน มีการนำสมุนไพรเป็นส่วนผสมในการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ เพื่อทดแทนการที่ใช้สารเคมี และมีการระดมเงินสวัสดิการให้มีการฝากเงินออมเพิ่มขึ้น ครัวละ 500 บาท
6.เกิดทีมติดตามประเมินงานแบบพี่ช่วยน้อง โดยมีตัวแทนจากทุกหมู่บ้านหมู่ละ 1 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้และบางคนผ่านการทำโครงการจาก สจรส.มาแล้ว ทำให้เกิดกลไกการติดตามในชุมชน มีการสอนงานระหว่างโครงการเก่าและโครงการใหม่ ทั้งด้านวิธีปฏิบัติและการบันทึกกิจกรรม
7.เกิดกลยุทธ์การติดตามแบบใหม่เพิ่มการเรียนรู้มากกว่าเดิม เมื่อก่อนติดตามดูอย่างเดียว ไม่ได้เสนอแนะ ปัจจุบันได้พูดคุย เสนอแนะเพิ่มเติม โดยคณะทำงาน ร่วมกับปราชญ์ชุมชน ติดตามผลที่บ้านผู้เข้าร่วมโรงการ เกิดการเรียนรู้ระหว่างบ้านใกล้เคียง นำข้อมูลจากการติดตามมาร่วมเรียนรู้ในที่ประชุมของหมู่บ้าน
8.เกิดครัวเรือนต้นแบบทำการเกษตรผสมผสาน 10 ครัวเรือน ซึ่งครัวเรือนที่ทำการเกษตรผสมผสาน ผลิตปุ๋ยหมัก น้ำหมักใช้เอง ปลูกผักปลอดสารพิษ ทำน้ำยาเอนกประสงค์ เลี้ยงไก่บ้าน เลี้ยงปลา ทำบัญชีครัวเรือน เพาะเห็ดนางฟ้าและร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มทำผลิตภัณฑ์ชุมชน
1.มีการสรุปผลการดำเนินงานจากการทำโครงการที่ได้ทำมาทั้งหมด 2.นำผลการประเมิน ผลการติดตามความก้าวหน้า และผลการถอดบทเรียน มาเรียบเรียง สรุป เพื่อรายงานความคืบหน้าของโครงการ 3. สรุปและรายงานผลโดยจัดทำเป็นรูปเล่มและรายงานลงในโปรแกรมออนไลน์ 4.เรียนรู้วิธีปิดโครงการ 5.บทสรุปที่ได้จากการทำโครงการ คือ (1)ชุมชนน่าอยู่บนวิถีความพอเพียง (2)สร้างความรัก ความสามัคคีภายในชุมชน (3)เรียนรู้วิธีการอยู่รอดในสังคมปัจจุบัน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงานและเรียนรู้วิธีปิดโครงการ
วันนี้ อ.กำไล ได้แนะนำวิธีการสรุปโครงการ เพราะที่ผ่านมา มีการทำกิจกรรมเยอะมาก แต่ยังขาดวิธีการสรุป ให้พวกเราไปดูที่สรุปกิจกรรมที่ทำแต่ละครั้ง ไม่ต้องไปหาใหม่ เพราะกิจกรรมเหล่านี้เป็นข้อมูลการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นข้อมูลของเราเอง ทั้งผู้นำ ทีมงานและประชาชน ได้เข้าใจและร่วมพัฒนาให้ชัด กิจกรรมแต่ละครั้ง ที่ทำไป บางครั้งไม่ใช้กิจกรรมในพื้นที่แล้ว แต่บางอย่างเป็นของภาคใต้ไปแล้ว เช่น ตะลุงโขน เมื่อสืบสาวราวเรื่อง มีแห่งเดียวในภาคใต้การสรุปนำมาจากข้อมูลดิบ จากข้อสรุปนำไปใส่ในรายงานพี่เลี้ยง ในช่องแบบประเมินแล้วนำไปเติมในบทคัดย่อ มี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกวัตถุประสงค์ตามตัวชี้วัด ส่วนที่สอง สรุปผลงานโดยรวม (ต้องเห็นการเปลี่ยนแปลง เห็นตัวละคร เห็นลีลาการทำงาน)
เอกสารที่ต้องสรุปส่ง
1.รายงาน ส.4
2.รายงาน ส.2 (มีเฉพาะ 2 งวดเท่านั้น) เริ่มจากวันที่เราส่งรายงาน จนถึงวันที่ปิดโครง พี่เลี้ยงคุยอะไรให้เติมไปด้วย ไม่ครบทุกช่องก็ไม่เป็นไร
3.รายงาน ง.1งวด 2(การบันทึกรายจ่าย ค่าจ้างไม่มี ค่าตอบแทนมีได้ค่าใช้สอย) น้องจาก สจรส.เสนอว่าค่าไวนิล ให้ใส่ในค่าจ้างค่าประสานงานเขียนเป็นค่าตอบแทนประสานงานรอบนี้ไม่ต้องใส่สาธารณูปโภคสำหรับเงินเหลือยกมาจากยอด งวดที่ 1ให้ไปดูรายงานงวดที่ 1 และการบันทึกรายรับต้องดูจากยอดสมุดบัญชี (ดอกเบี้ยให้ดูจากรอบที่ 2 หลังจากที่โอนมาแล้ว)
4.รายงาน ง.2เป็นรายงานการเงินตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ
5.รายงาน ส.3เป็นการสรุปผลการดำเนินงานทั้งหมด ถ้าเติมข้อมูลสมบูรณ์ สามารถออกรายงาน ส3 ได้เลย
วันนี้มีการสรุปผลงานโครงการบ้านอู่แก้ววิถีพอเพียงสรุปผลงานโดยรวมพบว่า ชุมชนบ้านอู่แก้ว คนได้ปรับวิธีคิด มีการปฏิบัติการร่วมกัน ใช้ทุนในชุมชน เกิดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายได้ ดังนี้
1.เกิดข้อบัญญัติชุมชนเพื่อใช้เป็นแนวทางการสร้างสุขภาพและวิถีพอเพียง 11 ข้อ ผลการปฏิบัติตามข้อบัญญัติ พบว่า ครัวเรือนปฏิบัติครบทุกข้อ จำนวน15ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 10.20 รองลงมา ครัวเรือนปฏิบัติได้ 8-10 ข้อ จำนวน 132 ครัว คิดเป็นร้อย 89.80
2.เกิดการรวมตัวเพื่อพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นตัวอย่างการเรียนรู้ (แปลงสาธิตข้างบ้านผู้ใหญ่) จากการร่วมแรงร่วมใจกันช่วยในการทำแปลงสาธิต แปลงผักพื้นที่สีเขียว ของหมู่บ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเป็นแหล่งอาหารของชุมชน และเมื่อได้ผลผลิต ก็จะมีการแบ่งปันกันในชุมชน ซึ่งคนในชุมชนสามารถมาเก็บเกี่ยวผลผลิตไปได้
3.มีการปรับวิถีชีวิตประจำวัน โดยการทำบัญชีครัวเรือน (ได้เรียนรู้วิธีการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้)เรียนรู้วิธีการลดต้นทุนการผลิตโดยทำน้ำยาเอนกประสงค์ ปุ๋ยหมักชีวภาพน้ำหมักชีวภาพในการทำกิจกรรมกลุ่มเป้าหมายนำวัสดุมาจากบ้าน เช่นมะนาวกระเจี๊ยบอัญชัญมาเป็นส่วนผสมของน้ำยาเอนกประสงค์ลดการใช้สารเคมี ส่วนการทำปุ๋ยหมักหรือน้ำหมักชีวภาพกลุ่มเป้าหมายนำขี้วัวแกลบฟางข้าว ขยะที่เหลือจากครัวเรือนมาเป็นส่วนผสม ทำให้ขยะครัวเรือนลดลง หนูลดลง
4.จัดตั้งกลุ่มปุ๋ยชุมชนเดิมไม่มีกลุ่ม มีการทำปุ๋ยไว้ใช้เอง ปัจจุบันร่วมกันจัดตั้งกลุ่มชื่อ กลุ่มปุ๋ยชีวภาพบ้านอู่แก้ว เน้นให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม สมัครเป็นสมาชิก เสียค่าสมาชิกคนละ 100เพื่อเป็นต้นทุนและให้สมาชิกนำวัสดุที่มีอยู่ในบ้านของตนมาเป็นวัตถุดิบ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย สมาชิกมีการแบ่งหน้าที่ในการทำปุ๋ยอย่างชัดเจน และก็จะมีเงินปันผลให้กับสมาชิกในกลุ่ม
5.เกิดกลุ่มสวัสดิการออมเงิน โดยการรู้วิธีลดรายจ่าย และเพิ่มเงินออม เน้นให้มีการผลิตใช้เองในครัวเรือน เช่น น้ำยาเอนกประสงค์ ลดรายจ่ายได้ครัวเรือนละ 50 บาทต่อครัวเรือน ผลิตปุ๋ยใช้เอง ลดค่าใช้จ่ายได้ 3000 บาทต่อปี ลดการใช้เครื่องปรุงรสลดค่าใช้จ่าย 100 บาทต่อครัวเรือน มีการนำสมุนไพรเป็นส่วนผสมในการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ เพื่อทดแทนการที่ใช้สารเคมี และมีการระดมเงินสวัสดิการให้มีการฝากเงินออมเพิ่มขึ้น ครัวละ 500 บาท
7.เกิดทีมติดตามประเมินงานแบบพี่ช่วยน้องโดยมีตัวแทนจากทุกหมู่บ้านหมู่ละ1 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้และบางคนผ่านการทำโครงการจาก สจรส.มาแล้ว ทำให้เกิดกลไกการติดตามในชุมชน มีการสอนงานระหว่างโครงการเก่าและโครงการใหม่ ทั้งด้านวิธีปฏิบัติและการบันทึกกิจกรรม
8.เกิดกลยุทธ์การติดตามแบบใหม่เพิ่มการเรียนรู้มากกว่าเดิม เมื่อก่อนติดตามดูอย่างเดียว ไม่ได้เสนอแนะ ปัจจุบันได้พูดคุย เสนอแนะเพิ่มเติม โดยคณะทำงาน ร่วมกับปราชญ์ชุมชน ติดตามผลที่บ้านผู้เข้าร่วมโรงการ เกิดการเรียนรู้ระหว่างบ้านใกล้เคียง นำข้อมูลจากการติดตามมาร่วมเรียนรู้ในที่ประชุมของหมู่บ้าน
9.เกิดครัวเรือนต้นแบบทำการเกษตรผสมผสาน 10 ครัวเรือนซึ่งครัวเรือนที่ทำการเกษตรผสมผสาน ผลิตปุ๋ยหมัก น้ำหมักใช้เอง ปลูกผักปลอดสารพิษ ทำน้ำยาเอนกประสงค์ เลี้ยงไก่บ้านเลี้ยงปลา ทำบัญชีครัวเรือน เพาะเห็ดนางฟ้าและร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มทำผลิตภัณฑ์ชุมชน
จากการดำเนินงานโครงการบ้านอู่แก้ว เกิดผลลัพธ์ดังนี้
1.เกิดข้อบัญญัติชุมชน
2.เกิดการรวมตัวเพื่อพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นตัวอย่างการเรียนรู้
3.มีการปรับวิถีชีวิตประจำวัน
4.จัดตั้งกลุ่มปุ๋ยชุมชน
5.เกิดกลุ่มสวัสดิการออมเงิน
6.เกิดทีมติดตามประเมินงานแบบพี่ช่วยน้อง
7.เกิดกลยุทธ์การติดตามแบบใหม่
8.เกิดครัวเรือนต้นแบบทำการเกษตรผสมผสาน
กลไกการขับเคลื่อนของบ้านอู่แก้ว ใช้ข้อบัญญัติชุมชน เป็นกลไกหมุนให้เกิดกิจกรรมในชุมชน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ตัวแทนคณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
เกิดกระบวนการทำงานชัดเจน มีหลายประเด็นเกิดนวัตกรรมใหม่ สามารถนำไปใช้ต่อยอดในปีถัดไปได้
เพื่อร่วมแสดงนิทรรศการร่วมกับโครงการ
งานมหกรรมสุขภาพ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาพระบาท” จัดขึ้นในวันวันพฤหัสบดี ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2558 ณ รพ.สต.เขาพระบาท ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มเป้าหมาย 1,000 คน ทุกหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลเขาพระบาท และหมู่บ้านที่รับงบ สสส.จำนวน 7 หมู่บ้าน งานมหกรรมสุขภาพ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาพระบาท” จัดขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกและผนึกพลังของประชาชนให้เป็นหนึ่งเดียว สร้างกฎระเบียบของชุมชน สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในชุมชน และมีความสุขที่เกิดจากวิถีชุมชน ในตำบลเขาพระบาท รวมไปถึงการแสดงผลงาน ผลิตภัณฑ์ การดำเนินชีวิตของคนเขาพระบาท ด้วยการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต การจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม คือ 1.เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ 2.เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนักและสนใจดูแลสุขภาพ 3.เพื่อนำภูมิปัญญาชุมชน นำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ การจัดกิจกรรมวันนี้ มีตลอดทั้งวัน ซึ่งในช่วงเช้า เป็นกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างห้องน้ำและยกพื้นห้องตรวจรักษาพยาบาล ไม่ให้น้ำท่วม ภายใต้แนวคิด “พลังบุญสร้างสุข” และในช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมเสวนาตำบลจัดการสุขภาพ ในหัวข้อ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาพระบาท” กิจกรรมการเรียนรู้ตามฐานการเรียนรู้ของชุมชน กิจกรรมเดินชม เชิญชิม เดินช้อป ตามวิถีคนเขาบาท และการแสดงบนเวทีของผู้สูงอายุ การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหมู่บ้านที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลเขาพระบาท องค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระบาท โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาพระบาท ชุมชนตำบลเขาพระบาท และภาคีสุขภาพทุกหน่วยงาน
1.ทุกหมู่บ้านได้แสดงนิทรรศการผลการดำเนินงานของตนเอง
2.ได้เห็นภาพความเข็มแข็งของชุมชน
3.ทุกหมู่บ้านพึ่งตนเองได้
4.ประชาชนได้เรียนรู้การดำเนินชีวิตที่ปลอดภัย
5.เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านสุขภาพ
6.เป็นแหล่งรวบรวมอาหารที่ปลอดภัย
7.ประชาชนทุกคนที่เข้าร่วมงานได้ออกกำลังกาย
8.ทุกคนมีความสุข
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงานร่วมกับพี่เลี้ยงแสดงนิทรรศการตามโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อปรับพฤติกรรมการดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชุมชน
งานมหกรรมสุขภาพ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาพระบาท” จัดขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกและผนึกพลังของประชาชนให้เป็นหนึ่งเดียว สร้างกฎระเบียบของชุมชน สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในชุมชน และมีความสุขที่เกิดจากวิถีชุมชน ในตำบลเขาพระบาท รวมไปถึงการแสดงผลงาน ผลิตภัณฑ์ การดำเนินชีวิตของคนเขาพระบาท ด้วยการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต จึงได้จัดงานมหกรรมสุขภาพ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาบาท” ขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2558 ณ รพ.สต.เขาพระบาทตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชโดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมดังนี้ 1.เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ 2.เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนักและสนใจดูแลสุขภาพ 3.เพื่อนำภูมิปัญญาชุมชน นำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ
โดยการจัดกิจกรรมวันนี้ มีตลอดทั้งวัน ซึ่งในช่วงเช้า เป็นกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างห้องน้ำและยกพื้นห้องตรวจรักษาพยาบาล ไม่ให้น้ำท่วม ภายใต้แนวคิด “พลังบุญสร้างสุข” และในช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมเสวนาตำบลจัดการสุขภาพ ในหัวข้อ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาบาท” กิจกรรมการเรียนรู้ตามฐานการเรียนรู้ของชุมชน กิจกรรมเดินชม เชิญชิม เดินช้อป ตามวิถีคนเขาบาท และการแสดงบนเวทีของผู้สูงอายุ
บ้านอู่แก้ว หมู่ที่ 9 ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นชุมชนเกษตรกรรม มีการใช้สารเคมีและเทคโนโลยีด้านการเกษตร ทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ผลเสียต่อสุขภาพทำให้ประชาชนเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น จากสภาพปัญหาทำให้กลุ่มแกนนำบ้านอู่แก้ว ลุกขึ้นมาจับมือกัน เริ่มกระบวนการวิเคราะห์ชุมชนและหาแนวทางลดสารเคมีในชุมชน มีการสร้างกฎ กติกาและข้อบัญญัติชุมชน โดยขอสนับสนุนงบ จาก สสส.และกองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.เขาพระบาท มาร่วมพัฒนา 2 ปี ผ่านไป ผลเกิดขึ้นดังนี้
เกิดข้อบัญญัติชุมชนเพื่อใช้เป็นแนวทางการสร้างสุขภาพและวิถีพอเพียง 11 ข้อ
เกิดการรวมตัวเพื่อพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นตัวอย่างการเรียนรู้
มีการปรับวิถีชีวิตประจำวัน โดยการทำบัญชีครัวเรือน
จัดตั้งกลุ่มปุ๋ยชุมชน
เกิดกลุ่มสวัสดิการออมเงิน โดยการรู้วิธีลดรายจ่าย และเพิ่มเงินออม
เกิดทีมติดตามประเมินงานแบบพี่ช่วยน้อง
เกิดกลยุทธ์การติดตามแบบใหม่เพิ่มการเรียนรู้มากกว่าเดิม
เกิดครัวเรือนต้นแบบทำการเกษตรผสมผสาน
1.มีการจัดนิทรรศการร่วมกันทั้งตำบล และเผยแพร่นิทรรศการบ้านอุ่แก้วให้ประชาชนได้รับทราบ
2.ได้สร้างภาคีเครือข่ายเพิ่ม และมีภาคีมาร่วมทำงานเพิ่ม
3.ได้เรียนรู้กระบวนการพัฒนา ในหมู่บ้านใกล้เคียง
4.ได้ปรับกระบวนทัศน์ในการพัฒนาหมู่บ้าน
5.เป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน และภายในตำบล
6.ประชาชนและผู้นำระดับตำบล หน่วยงานราชการในพื้นที่ ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าในการพัฒนา
7.เป็นหมู่บ้านต้นแบบของตำบลในการพัฒนาด้าน การลดสารเคมี
8.เกิดการทำงานร่วมกันเป็นทีม
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ประชาชนบ้านอู่แก้ว เข้าร่วมกิจกรรม 200 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
มีการสรุปผลการดำเนินงานจากการทำโครงการที่ได้ทำมาทั้งหมด
- นำผลการประเมิน เอกสารที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมต่างๆ มาตรวจสอบความถูกต้อง
รวบรวม เพื่อทำรายงาน
สรุปผลการติดตามความก้าวหน้า และผลการถอดบทเรียน มาเรียบเรียง สรุป เพื่อรายงานความคืบหน้าของโครงการ
- สรุปและรายงานผลโดยจัดทำเป็นรูปเล่มและรายงานลงในโปรแกรมออนไลน์ เพื่อจะรายงานและปิดโครงการต่อไป
1.เกิดกระบวนการการทำงานเป็นทีม
2.มีการสรุปผลการทำงาน ร่วมกัน
4.คณะทำงานมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน เกิดภาพการทำงานแบบมีส่วนร่วม
5.มีการวางรูปแบบการจัดทำรูปเล่มรายงานเพื่อรายงานปิดโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อถอดบทเรียนการทำงาน
ในวันนี้เป็นกิจกรรมการถอดบทเรียนการพัฒนาของโครงการ โดยมีสมาชิกมาร่วมถอดบทเรียนกันที่บ้านผู้ใหญ่โฉมพยงค์ โดยเลือกตัวแทน แตะละกลุ่มเข้าร่วมในการถอดบทเรียน ในประเด็นในการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง สมาชิกก็ร่วมกันตอบคำถามในการถอดบทเรียนกันทุกคน ต่างคนก็อย่างจะเล่าสิ่งที่ตัวเองได้ทำกิจกรรมมา สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ สมาชิกร่วมตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นในการถอดบทเรียนกันทุกคน เกิดกระบวนการพัฒนาชุมชนโดยการมีส่วนร่วมของทุกคน เกิดการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
1.เกิดกระบวนการพัฒนาชุมชนโดยการมีส่วนร่วมของทุกคน 2.ทราบถึงความคืบหน้าของโครงการ 3.สมาชิกมีความภาคภูมมิใจในกิจกรรมที่ได้ร่วมทำ 4.สมาชิกพร้อมที่จะมีโครงเข้ามาช่วยในการพัฒนาอีก มีแนวทางการต่อยอดในการพัฒนาชุมชน 5.เกิดองค์ความรู้ใหม่ในชุมชน อนุรักษ์ภูมิปัญญา 6.เกิดกระบวนการพัฒนาชุมชนแบบพอเพียง 7.สร้างความสามัคคี
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อจัดทำศูนย์ข้อมูลหมู่บ้านและคืนข้อมูลให้กับชุมชน
กิจกรรมในวันนี้เป็นการติดตามประเมินผลการดำเนินงานคนต้นแบบ โดยคณะทำงานได้มีการขอความร่วมมือจากโรงเรียนอู่แก้ว รพ.สต.เขาพระบาท อบต.เขาพระบาท เข้าร่วมติดตามความคืบหน้าของโครงการ ดังนี้
-การทำเกษตรแบบผสมผสาน
-การทำบัญชีครัวเรือน
-การทำแผนครัวเรือน
- การปฏิบัติตามข้อบัญญัติ
-การทำปุ๋ยหมัก
-ติดตามพื้นที่สีเขียว แปลงสาธิตของชุมชน
เพื่อสรุปผลการติดตามและประเมินความคืบหน้าของโครงการ
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ สมาชิกได้พูดถึงความคืบหน้าของโครงการแต่ละกิจกรรม สมาชิกร่วมมือในการมาติดตามการประเมิน สมาชิกได้เห็นความคืบหน้าของโครงการ
1.มีกระบวนการในการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชน 2.มีการทำงานอย่างเป็นระบบและเป็นทีมมากขึ้น 3.ได้ทราบถึงความคืบหน้าของโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อคัดเลือกคนต้นแบบในการพัฒนา ในการเข้าร่วมโครงการ
-คณะทำงานออกติดตามเยี่ยมบ้าน เพื่อประเมินการพัฒนากิจกรรมทุกเดือน เพื่อคัดเลือกคนต้นแบบการพัฒนาตามกระบวนการ จะมีการคัดเลือกบุคคลต้นแบบ โดยจะมีการมอบประกาศนียบัตรและรางวัลกับบุคคลต้นแบบ ครัวเรือนต้นแบบโดยให้บุคคลต้นแบบ กล่าวความรู้สึกและกล่าวชักชวนคนอื่นเข้าร่วมกิจกรรม ประกาศยกย่องเชิดชูแก่คนต้นแบบ เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการทำกิจกรรม
-ให้คนต้นแบบ รณรงค์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนา ในรูปไวนิล หอกระจายข่าว
1.มีคนต้นแบบในการดำรงชีวิตแบบพอเพียง 2.มีครัวเรือนต้นแบบพอเพียง 3.เป็นหมู่บ้านต้นแบบในการพัฒนาแบบพอเพียง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก
วาระที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา
วาระที่ 2 เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไป คือ ติดตามรางวัลคนต้นแบบ โดยคณะทำงานจะขอความร่วมมือจากโรงเรียนอู่แก้ว รพ.สต.เขาพระบาท อบต.เขาพระบาท เข้าร่วมการติดตามความคืบหน้าของโครงการ ในกิจกรรมสร้างระบบสาระสนเทศ (ติดตามเป้าหมาย) ครั้งที่ 3
โดยแบ่งหน้าของคณะทำงานแต่ละคน เพื่อจะจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป
สิ่งที่ได้ในวันนี้ ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้า เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม ได้มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน
1.คณะกรรมวางแผนการจัดมหกรรมสุขภาพ
2.มีการติดตาม การมอบหมายงานให้รับผิดชอบ ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
3.สรุปผลการติดตามประเมินจากคณะกรรมการ พบว่ากิจกรรมมีความก้าวหน้า ตรวจสอบได้
4.เห็นภารพการทำงานของคณะกรรมการแบบมีส่วนร่วม
5.มีการได้มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐ ในการทำกิจกรรม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อคัดเลือกคนต้นแบบในการพัฒนา ในการเข้าร่วมโครงการ
-คณะทำงานออกติดตามเยี่ยมบ้าน เพื่อประเมินการพัฒนากิจกรรมทุกเดือน เพื่อคัดเลือกคนต้นแบบการพัฒนาตามกระบวนการ
โดยในวันนี้จะมีการคัดเลือกบุคคลต้นแบบ โดยจะใช้ผลประเมินของคณะทำงานที่ติดตามเยี่ยมบ้าน โดยจะมีการมอบประกาศนียบัตรและรางวัลกับบุคคลต้นแบบ ครัวเรือนต้นแบบ จะมีการประกาศยกย่องเชิดชูแก่คนต้นแบบ เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการทำกิจกรรม
-ให้คนต้นแบบ รณรงค์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนา ในรูปไวนิล หอกระจายข่าว
1.มีคนต้นแบบในการดำรงชีวิตแบบพอเพียง 2.มีครัวเรือนต้นแบบพอเพียง 3.เป็นหมู่บ้านต้นแบบในการพัฒนาแบบพอเพียง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก
วาระที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา
วาระที่ 2 เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไป คือ กิจกรรมคัดเลือกคนต้นแบบ มหกรรมสุขภาพดีวิถีคนอู่แก้ว
โดยแบ่งหน้าของคณะทำงานแต่ละคน เพื่อจะจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป
สิ่งที่ได้ในวันนี้ ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้า เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม ได้มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน
1.คณะกรรมการมีการสรุปและติดตามงาน 2.คณะทำงานวางแผนการจัดมหกรรมสุขภาพ 3.มีการรายงานการติดตามผลงานและความก้าวหน้าของกิจกรรม 4.เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน 5.สร้างคุณค่าในกระบวนการพัฒนางาน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างระบบสารสนเทศหมู่บ้าน จัดทำศูนย์ข้อมูลของหมู่บ้าน พร้อมทั้งคืนข้อมูลให้แก่ชุมชน
ในวันนี้เป็นกิจกรรมการติดตามประเมินการดำเนินงานคนต้นแบบ ครั้งที่ 2 ได้มีการจัดทำศูนย์ข้อมูลของหมู่บ้าน พร้อมทั้งคืนข้อมูลให้แก่ชุมชน โดยมีการสรุปผลข้อมูล โดยจัดทำทำเป็นโปสเตอร์ รายงานผลการพัฒนา ผลการเปลี่ยนแปลง จากกระบวนการพัฒนาหมู่บ้าน ซึ่งจะติดโปสเตอร์ไว้ที่หมู่บ้าน ป้ายประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน และก็ยังจัดทำแผ่นพับ รายงานกิจกรรมรายงานกิจกรรมคนต้นแบบ เพื่อที่จะได้กระตุ้นให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้จัดทำศูนย์ข้อมูลของชุมชน ได้คืนข้อมูลให้กับชุมชน มีโปสเตอร์และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ในการทำกิจกรรมของชุมชน ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการการพัฒนา
1.ได้มีศูนย์ข้อมูลของชุมชน ได้คืนข้อมูลให้กับชุมชน
2.สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการทำข้อมูลชุมชน
3. มีโปสเตอร์และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ในการทำกิจกรรมของชุมชน
4.ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก
วาระที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา
วาระที่ 2 เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไป คือ สร้างระบบสารสนเทศ(ติดตามกลุ่มเป้าหมายที่บ้าน ) ครั้งที่ 2 และได้มอบหมายหน้าที่และกิจกรรมต่างๆ ให้รับผิดชอบในวันทำกิจกรรม
สิ่งที่ได้ในวันนี้ ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้า เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม การสร้างระบบติดตามการประเมินผลการดำเนินงานต้นแบบ
1.มีการเตรียมวางแผนเพื่อรับการเยี่ยมติดตามจากคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุภขาพ 2.คณะทำงานมีการเตรียมข้อมูลการทำงานขัดเจนขึ้น 3.วางแผนการติดตามผลการดำเนินงานและความก้าวหน้าของกิจกรรม 4.คณะทำงานมีการเรียนรู้ร่วมกัน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อประชุมและแบ่งหน้าที่ในการจัดทำปุ๋ย ทำกลุ่มปุ๋ยวิสาหกิจชุมชน
กิจกรรมในวันนี้ได้ร่วมกันประชุมและแบ่งหน้าที่ในการจัดทำปุ๋ย และทำกลุ่มสวัสดิการ โดยการประชุมแบ่งหน้าที่การทำปุ๋ยจะแบ่งหน้าที่ได้ดังนี้ 1.กลุ่มที่จัดหาส่วนผสมในการทำปุ๋ย 2.กลุ่มที่ทำหน้าที่ผสมปุ๋ย 3.กลุ่มที่ทำหน้าที่พลิกกลบปุ๋ย 4.กลุ่มที่ทำหน้าที่บรรจุปุ๋ยใส่ถุง 5.กลุ่มที่ทำหน้าที่ด้านการตลาด และจะมีการจัดสรรเงินปันผลให้กับสมาชิกในกลุ่ม โดยกำหนดคืนให้สมาชิก 2 ส่วน เก็บเป็นต้นทุน 1 ส่วน ให้สวัสดิการ 1 ส่วน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ สมาชิกได้รู้หน้าที่ของตนเองภายในกลุ่ม สมาชิกทุกคนได้มีส่วนร่วมกันภายในกลุ่ม สมาชิกได้พูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละฝ่าย
1.มีการทำงานที่เป็นทีม
2.มีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนและให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม
3.ได้มีกลุ่มสวัสดิการปุ๋ยของชุมชน
4.มีสวัสดิการ มีเงินปันผลของสมาชิกในกลุ่ม
5.มีปุ๋ยได้ใช้เอง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามเยี่ยมคณะทำงานและความก้าวหน้า
่วันนี้พี่เลี้ยงได้ติดตามเยี่ยมคณะทำงานและกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ โดยพูดคุยทั่วไปและสอบถามความก้าวหน้าของกิจกรรม
1.ติดตามเยี่ยมครัวเรือน สอบถามกิจกรรมที่ประชาชนได้ทำคือ การลดการใช้สารเคมี การปลูกผัก การเลี้ยงไก่ การเลี้ยงปลา การทำบัญชีครัวเรือน ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมและเต็มใจที่จะร่วมกิจกรรม
2.เม่ื่อสอบถามความพึงพอใจ ทุกคนเต็มใจ ร้อยละ 100
3.เมื่อสอบถามถึงประโยชน์ที่ได้รับ ทุกคนได้รับประโยชน์ ร้อยละ 100
1.ได้ติดตามความก้าวหน้าของกิจกรรม 2.กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือทุกกิจกรรม 3.กิจกรมเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ 4.การใช้จ่ายเงินเป็นไปตามกิจกรรมที่กำหนด
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
พี่เลี้ยงติดตามเยี่ยมคณะทำงาน
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการ
กลุ่มเป้าหมายติดตามผลการดำเนินงาน
ติดตามผลการดำเนินงาน ทุกกิจกรรมมีการปฏิบัติจริง ได้ผลผลิตจริง
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงานและกลุ่มเป้าหมายติดตามผลการดำเนินงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก วาระที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา วาระที่ 2 เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไป คือ สร้างระบบสารสนเทศเพื่อติดตามการประเมินผลการดำเนินงานต้นแบบ และกิจกรรมจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยให้ผู้ใหญ่โฉมพยงค์ เป็นคนเตรียมอาหารและน้ำสำหรับในวันทำกิจกรรม สิ่งที่ได้ในวันนี้ ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้า เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม การสร้างระบบติดตามการประเมินผลการดำเนินงานต้นแบบ
1.มีการมอบหมายงานกันทำตามความถนัด
2.เกิดความมั่นในการทำงานมากขึ้น
3.คณะทำงานมีการเรียนรู้วิธีการจัดการโครงการให้ต่อเนื่อง
4.คณะทำงานได้เตรียมความพร้อมทุกครั้ง
5.มีการสร้างระบบติดตามการประเมินผลการดำเนินงานต้นแบบ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้มีมีกลุ่มปุ๋ยวิสาหกิจปุ๋ยชุมชนบ้านอู่แก้ว
วันนี้ได้มีการประชุมสมาชิกกัน เพื่อเสนอแนวคิดในการทำปุ๋ยชุมชน ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำปุ๋ย และมีความต้องการทำเป็นปุ๋ยชุมชน โดยให้สมาชิกนำวัสดุในการทำปุ๋ยมาจากที่บ้าน เช่น ขี้วัว เศษอาหาร แกลบ เป็นต้น เพื่อลดต้นทุนในการผลิต และได้มีการเสนอและทำข้อตกลงสำหรับคนที่สมัครเป็นสมาชิกในกลุ่ม เพื่อเป็นกฎระเบียบในการเป็นสมาชิกภายในกลุ่ม และยังมีการทำบัญชีรายได้ในกลุ่ม และจัดสรรเงินปันผลให้กับสมาชิกอีกด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ สมาชิกได้มารวมกลุ่มแลกเปลี่ยน เรียนรู้กัน ได้เสนอความคิดของสมาชิก มีความร่วมมือที่จะทำงานร่วมกัน มีการเสนอและทำข้อตกลง ในการปฎิบัติ ในการเป็นสมาชิก และทุกคนยินดีที่จะปฎิบัติ เมื่อเป็นสมาชิก
1.มีการทำงานที่เป็นทีม
2.มีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนและให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม
3.ได้มีกลุ่มสวัสดิการปุ๋ยของชุมชน
4.มีสวัสดิการ มีเงินปันผลของสมาชิกในกลุ่ม
5.มีปุ๋ยได้ใช้เอง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเรียนรู้การทำนาและการทำข้าวกล้อง
วันนี้สมาชิกได้เรียนรู้การทำนาและการทำข้าวกล้อง ที่บ้านนางประคิ่น แนมไสย ซึ่งมีอาชีพทำนาและสีข้าวกล้องกินเอง วันนี้สมาชิกได้รับมอบหมายให้นำข้าวเปลือกที่มีอยู่ที่บ้านมาช่วยให้สมาชิกได้สีข้าวกัน และลองนำมารับประทานและเปรียบเทียบรสชาติกัน ระหว่างข้าวบ้านนางประคิ่น เพราะข้าวที่ปลูกจะใช้น้ำหมักชีวภาพในการทำนา จากนั้นก็ได้ส่งเสริมให้สมาชิกได้ทำนาและทำนาโดยใช้น้ำหมักชีวภาพ และเก็บข้าวเปลือกไว้เพื่อสีทำเป็นข้าวกล้องไว้บริโภคเองในครัวเรือน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พูดคุย เกี่ยวกับการทำนา การทำข้าวกล้อง เรียนรู้ประโยชน์ในการทำนาโดยใช้น้ำหมักชีวภาพ ประโยชน์ของข้าวกล้อง ได้ลองสีข้าวกันเอง และเปรียบเทียบรสชาติของข้าวที่ปลูกเองกับที่นางประคิ่นปลูก ได้มีข้าวกล้องไว้กินเพื่อประโยชน์ต่อร่างกาย ลดค่าใช่จ่าย ลดต้นทุน สามารถนำไปขายเพิ่มรายได้
1.มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พูดคุยกันในกลุ่มในการทำนาใช้น้ำหมักชีวภาพและการทำข้าวกล้อง 2.เกิดกระบวนการทำงานเป็นทีมมากขึ้น 3.เกิดการยอมรับระหว่างบุคคลมากขึ้น 4.มีคลังอาหารเพิ่มขึ้นในหมู่บ้าน 5.มีข้าวกล้องไว้กินเองและเป็นข้าวที่ปลอดสารพิษ 6.มีอาหารที่มีประโยชน์และปลอดสารพิษ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเรียนรู้การเลี้ยงไก่บ้าน
สมาชิกได้มาเรียนรู้การเลี้ยงไก่ และเลี้ยงปลา ซึ่งเป็นการเลี้ยงแบบครบวงจร ทีบ้านนายสัมพันธ์ พลูเสน ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในการเลี้ยง ปลาและไก่ ได้แนะนำวิธีการเลี้ยงปลาไว้กินเองและไก่พื้นบ้าน การให้อาหารก็สามารถนำเศษอาหาร หยวกกล้วย รำ มาเพื่อเป็นอาหารในการเลี้ยงไก่และปลาได้ และก็ได้แนะนำสมาชิกให้สมาชิกได้เลี้ยงที่บ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พูดคุย เกี่ยวกับในการเลี้ยงไก่และเลี้ยงปลา ได้รู้ถึงการนำเศษอาหารมาใช้ในการเลี้ยง เรียนรู้การเลี้ยงไก่แบบดั้งเดิม และการเลี้ยงปลาแบบไม่มีบ่อ มีปลาและไก่ไว้กินเอง
1.มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พูดคุยกันในกลุ่มในการเลี้ยงปลาและเลี้ยงไก่ 2.เกิดกระบวนการทำงานเป็นทีมมากขึ้น 3.เกิดการยอมรับระหว่างบุคคลมากขึ้น 4.มีคลังอาหารเพิ่มขึ้นในหมู่บ้าน 5.มีปลาและไก่ไว้กินเอง เหลือก็นำไปแบ่งปันหรือขายเพื่อเพิ่มรายได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก วาระที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา วาระที่ 2 เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไป คือการเรียนรู้การทำเกษตรแบบผสมผสาน (การเลี้ยงไก่บ้าน) -แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ โดยให้นายสัมพันธ์ พลเสน เป็นผู้หาพันธุ์ไก่พื้นเมือง -ให้นางวันดี อักษรคง เป็นผู้หาพันธุ์ดุก -ให้ผู้ใหญ่โฉมพยงค์ เป็นคนเตรียมอาหารและน้ำสำหรับในวันทำกิจกรรม สิ่งที่ได้ในวันนี้ ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม
1.มีการประชุมตามแผนงานที่กำหนด 2.คณะทำงานเกิดความสามัคคีในการทำงานมากขึ้น 3.เกิดความพร้อมในการทำงานและเรียนรู้ร่วมกัน 4.เกิดประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้น
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน และคณะทำงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเรียนรู้การทำยาเอนกประสงค์
กิจกรรมในวันนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทำน้ำยาอเนกประสงค์ โดยการใช้สมุนไพร มาเป็นส่วนประกอบ เช่น น้ำมะนาว อัญชัญ ตะไคร้ ใบเตย มาเป็นส่วนผสม
ได้เรียนรู้ขั้นตอนในการทำน้ำยาเอนกประสงค์ และสมาชิกก็ได้ปฏิบัติ และร่วมกันทำน้ำยาเอนกประสงค์ โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มๆๆ เพื่อให้ทั่วถึงกัน เมื่อทำเสร็จก็แบ่งให้ทุกคนไปใช้ที่บ้าน
เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ สมาชิกได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมมือกันทำน้ำยาอเนกประสงค์
สมาชิกได้มีน้ำยาเอนกประสงค์ใช้เอง ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มีความสามัคคี เอื้อเฟื้อกันมากขึ้น
1.มีการทำงานกันเป็นระบบ เป็นทีม 2. มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในการแบ่งปันน้ำยาเอนกประสงค์ 3.มีน้ำยาเอนกประสงค์ใช้เอง ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน แกนนำครัวเรือน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเพิ่มพื้นที่สาธารณะในการปลูกผักเพื่อเป็นสวัสดิการชุมชน
1.ขอความร่วมมือกับกลุ่มเป้าหมายช่วยกันปรับแต่งสภาพดิน
2.ทุกคนนำพันธุ์ผักที่ปลูกไว้ และผักพื้นบ้านและพืชสมุนไพร มาปลูกในแปลงของหมู่บ้าน ได้เรียนรู้การแลกเปลี่ยนกันทำงาน
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่ม ทุกคนมีความเสียสละเวลาส่วนตัว ได้มองเห็นถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม มีการช่วยเหลือระหว่างกัน ช่วยกันปลูกผัก ปลูกสมุนไพร มีผักไว้กินเอง
กิจกรรมในวันนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทำน้ำยาอเนกประสงค์ โดยการใช้สมุนไพร มาเป็นส่วนประกอบ เช่น น้ำมะนาว อัญชัญ ตะไคร้ ใบเตย มาเป็นส่วนผสม ได้เรียนรู้ขั้นตอนในการทำน้ำยาเอนกประสงค์ และสมาชิกก็ได้ปฏิบัติ และร่วมกันทำน้ำยาเอนกประสงค์ โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มๆๆ เพื่อให้ทั่วถึงกัน เมื่อทำเสร็จก็แบ่งให้ทุกคนไปใช้ที่บ้าน เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ สมาชิกได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมมือกันทำน้ำยาอเนกประสงค์ สมาชิกได้มีน้ำยาเอนกประสงค์ใช้เอง ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มีความสามัคคี เอื้อเฟื้อกันมากขึ้น
1.มีการทำงานกันเป็นระบบ เป็นทีม 2. มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในการแบ่งปันน้ำยาเอนกประสงค์ 3.มีน้ำยาเอนกประสงค์ใช้เอง ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน เยาวชน คณะทำงาน แกนนำครัวเรือน
ไม่มี
ไม่มี
ไ่ม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก วาระที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา วาระที่ 2 เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไป คือกิจกรรมเพิ่มพื้นที่สาธารณะในการปลูกผักเพื่อเป็นสวัสดิการชุมชน โดยให้ผู้ใหญ่โฉมพยงค์ เป็นคนเตรียมอาหารและน้ำสำหรับในวันทำกิจกรรม สิ่งที่ได้ในวันนี้ ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้า เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม
1.มีการประชุมตามแผนงานที่กำหนด 2.คณะทำงานได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำปุ๋ย 3.ทีมงานให้ความร่วมมือและแสดงความคิดเห็นในกระบวนการพัฒนา 4.มีการติดตามผลการดำเนินงานและความก้าวหน้าของกิจกรรม 5.คณะทำงานมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน 6.เกิดภาพการทำงานแบบมีส่วนร่วม
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน คณะทำงาน 20คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเรียนรู้เกษตรผสมผสาน
วันนี้สมาชิกได้เรียนรู้เกษตรผสมผสาน (การทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ ) ที่บ้านผู้ใหญ่โฉมพยงค์) สมาชิกได้เตรียมวัสดุอุปกรณ์ ในการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ ส่วนผสมก็นำเศษวัชพืช จากครัวเรือน แกลบ ขี้วัว และน้ำหมักชีวภาพที่ได้ทำไว้ที่บ้าน และก็สมาชิกก็ได้นำเศษวัชพืชจากครัวเรือนมาทำปุ๋ยหมักด้วย และสมาชิกก็ช่วยกันทำปุ๋ยหมัก ช่วยกันเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ช่วยกันทำปุ๋ยหมัก ช่วยกันคลุกเคล้าปุ๋ย จนเสร็จ และก็สมาชิกก็ยังกลับไปทำที่บ้านอีกด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พูดคุย เกี่ยวกับการทำปุ๋ยหมัก ได้ร่วมแรง ร่วมใจกันทำปุ๋ยหมัก ได้มีปุ๋ยหมักใช้เองในครัวเรือน เมื่อได้ใช้ปุ๋ยหมักก็ได้ลดสารเคมี ลดต้นทุน ขยะจากครัวเรือนลดลง
1.มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พูดคุยกันในกลุ่มในการทำปุ๋ยหมัก 2.เกิดกระบวนการทำงานเป็นทีมมากขึ้น 3.เกิดการยอมรับระหว่างบุคคลมากขึ้น 4.สามารถลดสารเคมีในการในการทำการเกษตร 5.มีปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง ลดต้นทุน เพิ่มรายได้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายประกอบกด้วย แกนนำชุมครัวเรือน เยาวชน และทีมงาน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อจัดทำป้ายโครงการและปลอดบุหรี่
คณะทำงานจัดทำป้ายปลอดบุหรี่และป้ายโครงการ
1.มีป้ายรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ติดไว้ที่อาคารประชุม 2.มีป้ายโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและความก้าวหน้าโครงการ
คณะทำงานตามโครงการ นำสรุปผลการดำเนินงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการพัฒนา
จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในที่ประชุม พบว่า กิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ประกอบด้วย
1.ชุมชนช่วยกันจัดทำแผนครัวเรือน 150 ครัวเรือน
2.มีแผนครัวเรือนซึ่งเป็นแผนที่ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้
3.ชุมชนให้ความร่วมมือดี และะทำให้ทุกคนมองเห็นปัญหาของตนเอง
4.สร้างความตระหนักให้เกิดในครอบครัว
5.มีข้อบัญญัติชุมชน เพื่อเป็นแนวทางสร้างชุมชนให้เกิดความอบอุ่น ปลอดโรคและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
สิิ่งที่เกิดในวันนี้คือ 1.มีการสรุปบทเรียนการพัฒนา 2.คณะทำงานทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช แลกเปลี่ยนเรียนรู้ กระบวนการพัฒนางาน 3.ตรวจสอบเอกสารและปิดงวดรายงาน งวดที่ 1 4.ประเมินความพร้อมของโครงการ ซึ่งมีความพร้อม
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน เข้าร่วมกิจกรรม
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเรียนรู้และสรุปผลการดำเนินงานร่วมกับพี่เลี้ยงพื้นที่ และพี่เลี้ยงจังหวัดนครศรีธรรมราช
คณะทำงานเข้าร่วมประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นครศรีธรรมราช เพื่อสรุปผลงาน และปิดงวดรายงาน งวดที่ 1
จากการสรุปผลการเรียนรู้ในวันนี้ คือ กิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ประกอบด้วย
- การจัดทำแผนครัวเรือนและกิจกรรมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ผลที่เกิดขึ้นคือมีแผนการปฏิบัติงาน มีแผนการดำเนินงานของครัวเรือน ประชาชนให้ความร่วมมือดีมาก สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การมีแผนครัวเรือน จะทำให้คนได้มองเห็นปัญหาของตนเอง เกิดการเปลี่ยนแปลงในคนที่เข้าร่วมกิจกรรมคือ ได้เรียนรู้และตระหนักในครอบครัวมากขึ้น
- การประชุมคณะกรรมการ จำนวน 5 ครั้ง ผลที่เกิดขึ้นคือ คณะทำงานมีความเข้าใจแนวทางพัฒนาหมู่บ้านมากขึ้น ทุกคนมีความเสียสละ และมีจิตอาสา มีทิศทางการพัฒนาหมู่บ้านในทางเดียวกัน
- การจัดทำข้อมูล ได้ดำเนินการสำรวจข้อมูลชุมชน พบว่าประชาชนให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม และได้สรุปข้อมูลเป็นข้อมูลชุมชน สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ประชาชนยังไม่กล้าที่จะให้ข้อมูลความจริงทั้งหมด เพราะกลัวและอายที่จะให้คนอื่นรู้ข้อมูล เช่น ข้อมูลหนี้สิน สิ่งที่ดีคือ ได้นำข้อมูลมาพัฒนาครัวเรือน พัฒนาหมู่บ้าน
- การทำข้อบัญญัติชุมชน ประชาชนได้มาพูดคุยและร่วมกันทำข้อปฏิบัติในชุมชน 10 ข้อ ทุกคนเห็นด้วย และอยากเห็นหมู่บ้านตัวอย่าง เป็นต้นแบบการพัฒนา ให้ทุกคนสุขภาพดี สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ประชาชนให้ความร่วมมือดีมากทั้งผู้นำและผู้บริหารท้องถิ่น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือทุกคนเริ่มปฏิบัติตามข้อบัญญัติชุมชน และเกิดทัศนคติบวก
สิ่งที่เกิดในวันนี้คือ
- ประชุมสรุปบทเรียนที่ผ่านมา
- คณะทำงานเข้าร่วมประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นครศรีธรรมราช เพื่อสรุปผลงาน และปิดงวดรายงาน งวดที่ 1
- มีการตรวจสอบเอกสาร การดำเนินงาน พร้อมรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม และการบันทึกข้อมูลในเอกสาร โดยพี่เลี้ยง
- พี่เลี้ยงตรวจสอบเอกสารหลักฐานทางการเงิน และการเขียนใบเสร็จ
- ตรวจสอบการบันทึกข้อมุลในโปรแกรมออนไลน์
- ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ประเด็นที่ต้องปรับปรุง คือการเพิ่มเติมภาพถ่ายให้มากขึ้น
- เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างพื้นที่ เครือข่าย และพี่เลี้ยง
- การพัฒนาหมู่บ้านทำให้มีการเรียนรู้เรื่องแผนครัวเรือน
- การมีแผนครัวเรือนทำให้ทุกคนมองเห็นปัญหาของตนเอง
- เป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ และตระหนักในครอบครัวมากขึ้น
- สร้างความเสียสละ จิตอาสาในการพัฒนาชุมชน
- เกิดศุนย์ข้อมูลชุมชน
- เกิดข้อบัญญัติชุมชน เพื่อใช้เป็นแนวทางการพัฒนา
- ประชาชนมีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 3 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อถอนเงินค่าเปิดบัญชี
คณะกรรมการถอนเงินค่าเปิดบัญชีใหม่ ตามโครงการ
คณะกรรมการถอนเงินค่าเปิดบัญชีใหม่ 500 บาท
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการ 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินตามโครงการ
คณะทำงานเข้าร่วมรับฟังธรรมะ และกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต และแนวทางการดำเนินชีวิต เพื่อสร้างจิตอาสาตามหลัก คนที่เป็นจิตอาสาหรือผู้นำของคนในชุมชนต้องละวาง อุปกิเลส 16 ประการ ดังนี้
- ต้องไม่มีความละโมภ ไม่อยากได้ ไม่อยากรวย ต้องรู้จักพอ ไม่เห็นแก่ได้จนลืมตัว
- ไม่พยาบาท คือไม่คิดร้าย หรือมุ่งจะทำร้ายเขา หรือใครพูดไม่ถูกใจก็คิดตำหนิเขา คิดจะทำร้ายฆ่าเขา หรือบางครั้งทำร้ายผู้อื่นไม่ได้ ก็หันมาตำหนิตัวเอง ทำร้ายตัวเอง จนฆ่าตัวตายก็มีซึ่งเป็นเพราะอำนาจพยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ
- ไม่มีความโกธา คือไม่มีความโกรธ คนไม่ดีมีอะไรมากระทบก็โกรธ เป็นลักษณะโกรธง่าย แต่เมื่อหายแล้วก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือไม่ผูกใจเจ็บ ไม่พยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ
- ความอาฆาต คือการผูกโกรธ ใครพูดอะไร ทำอะไรให้เกิดความโกรธแล้วจะผูกใจเจ็บ เก็บไว้ ไม่ปล่อย ไม่ลืม เป็นทุกข์อยู่อย่างนั้น กระทบอารมณ์เมื่อไร ก็เอาเรื่องเก่ามาคิดรวมกันคิดทวนเรื่องในอดีตว่าเขาเคย ทำไม่ดีกับเราขนาดไหน เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ
- การไม่ลบหลู่คุณท่าน หรือปิดบังความดีของผู้อื่น ลบหลู่ความดีของผู้อื่น เช่น เขาให้ของแก่เรา แทนที่จะขอบคุณกลับนึกตำหนิเขาว่า เอาของไม่ดีมาให้ หรือเมื่อมีใครพูดถึงความดีของเขา เราทนไม่ได้ เราไม่ชอบ จึงยกเรื่องที่ไม่ดีของเขามาพูด เพื่อปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนดีถึงขนาดนั้น เป็นต้น
- การตีเสมอ ยกตัวเทียมท่าน ไม่ยอมยกให้ใครดีกว่าตน แต่ชอบยกตัวเองดีกว่าเขา มักแสดงให้เขาเห็นว่าเราคิดเก่งกว่า รู้ดีกว่า ถ้าให้เราทำ เราจะทำให้ดีกว่าเขาได้
- ความริษยา เห็นเขาได้ดี ทนไม่ได้ เมื่อเห็นเขาได้ดีมากกว่าเรา เขาได้รับความรักความเอาใจใส่มากกว่าเรา เรารู้สึกน้อยใจ อยากจะได้เหมือนอย่างเขา ความจริงเราอาจจะมีมากกว่าเขาอยู่แล้ว หรือเรากับเขาต่างก็ได้รับเท่ากัน แต่เราก็ยังเกิดความรู้สึกน้อยใจ ทนไม่ได้ก็มี
- ความตระหนี่ ขี้เหนียว เสียดายของ ยึดในสิ่งของที่เราครอบครองอยู่อย่างเหนียวแน่น อยากแต่จะเก็บเอาไว้ ไม่อยากให้ใคร
- มายา คือเจ้าเล่ห์หลอกลวง ไม่จริงใจ พยายามแสดง บทบาทตัวเองเกินความจริง หรือจริงๆ แล้วเรามีน้อย แต่พยายามแสดงออกให้คนอื่นเข้าใจว่ามั่งมี เช่น ด้วยการแต่งตัว กินอยู่อย่างหรูหรา หรือบางกรณี ใจเราคิดตำหนิติเตียนเขา แต่กลับแสดงออก ด้วยการพูดชื่นชมอย่างมาก หรือบางทีเราไม่ได้มีความรู้มาก แต่ของคุยแสดงว่ารู้มาก เป็นต้น
- การโอ้อวด หลอกลวงเขา ชอบอวดว่าดีกว่าเขา เก่งกว่าเขา พยายามแสดงให้เขาเห็น เพื่อให้เขาเกิดอิจฉาเรา เมื่อได้โอ้อวดแล้วมีความสุข
- ความดื้อ ความกระด้าง ยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง ใครแนะนำอะไรให้ก็ไม่ยอมรับฟัง
- การแข่งดี มุ่งแต่จะเองชนะเขาอยู่ตลอด จะพูดจะทำอะไรต้องเหนือกว่าเขาตลอด เช่นเมื่อพูดเถียงกันก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อเอาชนะให้ได้ ถึงแม้ความจริงแล้วตัวเองผิด ก็ไม่ยอมแพ้
- มานะ คือความถือตัว ทะนงตน
- การดูหมิ่นท่าน ความถือตัวว่าเราดียิ่งกว่าเขา ทำให้ดูถูกดูหมิ่นคนอื่น
- ความัวเมา หลงว่ายังเป็นหนุ่มเป็นสาว ยังไม่แก่ ยังไม่ตาย หลงในอำนาจ หลงในตำแหน่ง คิดว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปแล้วทำอะไรเกินเหตุ
- ความประมาท เลินเล่อ ไม่คิดให้รอบคอบ อาการที่ขาดสติ ขาดปัญญา
- คณะทำงานได้เรียนรู้แนวทางพัฒนาคุณภาพชีวิต
- เป็นการสร้างคุณธรรม จริยธรรม ให้เกิดกับคณะทำงาน
- เป็นแนวทางสร้างสุขในชีวิต
- เป็นกลวิธีในการสร้างคน เพื่อให้รู้จักรับผิดชอบ ชั่วดี
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายเป็นคณะทำงาน 15 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อจัดตั้งกลุ่มในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดการใช้สารเคมี
- คณะทำงาน เชิญกลุ่มเป้าหมายมาระดมความคิดเห็น เพื่อสร้างกลุ่มเพิ่มพื้นที่สีเขียวในครอบครัวกับในชุมชน
- กลุ่มเป้าหมายร่วมกันกำหนดกิจกรรมเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยการแบ่งออกเป็นกลุ่ม แบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 10 กลุ่ม มีกิจกรรมคือ
-การเพาะพันธุ์แปลงผักรวม โดยเพาะที่บ้านแกนนำแต่ละกลุ่ม เมื่อผักโตแล้วให้นำไปปลูกที่บ้าน
-การทำน้ำหมักและปุ๋ยหมักจากครัวเรือน
-การปลูกผักไว้กินรอบครัวเรือน
-รั้วบ้านสีเขียว หรือรั้วมีชีวิต
-มีป้ายชื่อและบอกคติเตือน - การทำกลุ่ม แบ่งเป้าหมาย 10 กลุ่ม กลุ่มละ 15 คน กำหนดให้แต่ละกลุ่มต้องอยู่ในละแวกเดียวกัน แต่ละกลุ่มต้องมีทั้งสมาชิกเก่าซึ่งเป็นพี่เลี้ยงกลุ่มและสมาชิกใหม่ และกลุ่มเยาวชน
วาระการประชุม วาระที่ 1 ประธานแจ้งเพื่อทราบ -กลุ่มเป้าหมายระดมความคิดเห็นเพื่อสร้างกลุ่มพื้นที่สีเขียวในครอบครัวกับชุมชน -กลุ่มเป้าหมายร่วมกันกำหนดกิจกรรมโดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 10 กลุ่ม กิจกรรมมีดังนี้ -การเพาะพันธ์แปลงผักรวมโดยเพาะที่บ้าน -การทำน้ำหมักและปุ๋ยหมักจากครัวเรือน -การปลูกผักไว้กินในครัวเรือน -รั้วบ้านสีเขียว -มีป้ายบอกคติเตือนใจ กิจกรรม ให้แกนนำ 30 คนรับผิดชอบ 1 ต่อ 5 หลังคาเรือน เพื่อทำกิจกรรมโดยส่งเสริมการลด เลิกใช้เครื่องปรุงรส ปลูกผักปลอดสารเคมี -คณะทำงานติดตามเยี่ยมครัวเรือนเพื่อให้กำลังใจกลุ่มเป้าหมาย กิจกรรมตามแผนงาน –การเพาะพันธ์แปลงผักรวมโดยเพาะที่บ้าน การทำน้ำหมักและปุ๋ยหมักจากครัวเรือน การปลูกผักไว้กินในครัวเรือนรั้วบ้านสีเขียว มีป้ายบอกคติเตือนใจ ผลที่เกิดจากการปฏิบัติ มีการกำจัดขยะครัวเรือนลดแหล่งเพาะพันธ์เชื้อโรค เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับครัวเรือน ลดรายจ่ายของครัวเรือนในการซื้อผัก ส่งเสริมสุขภาพกาย จิตสังคม และจิตวิญญาณ สิ่งที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมาย ได้อนุรักษ์ผักพื้นบ้านและร่วมพัฒนาหมู่บ้านให้น่าอยู่ สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ ได้เรียรู้การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม รู้จักการแบ่งปันผัก นวัฒกรรมที่เกิดขึ้น เกิดการอนุรักษ์พันธ์ผักพื้นบ้านให้คงอยู่
1.ได้เรียนรู้กระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม และมอบหมายหน้าที่การทำงาน
2.มีแปลงเพาะพันธ์แปลงผักรวมของชุมชน
3.มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการทำน้ำหมักและปุ๋ยหมักจากครัวเรือน
4.รั้วบ้านเป็นรั้วมีชีิวิต ปลูกผัก ปลอดสารพิษ
5.มีการสอนกันในชุมชน โดยการติดป้ายเตือนสติ
6.มีการกำจัดขยะครัวเรือนลดแหล่งเพาะพันธ์เชื้อโรค
7.เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับครัวเรือน
8.ลดรายจ่ายของครัวเรือนในการซื้อผัก
9.ส่งเสริมสุขภาพกาย จิตสังคม และจิตวิญญาณ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงานและกลุ่มเป้าหมาย 150 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและความก้าวหน้าโครงการ
ตัวแทนโครงการได้เล่ากระบวนการพัฒนาหมู่บ้าน และเรื่องดีดีที่เกิดขึ้น
วันนี้คณะกรรมการพัฒนาตำบลเขาพระบาท ผู้นำชุมชน สอบต.ทุกหมู่บ้าน ทุกโครงการที่ดำเนินงานในพื้นที่ ภายใต้กิจกรรมสานเสวนาบอกเล่าเรื่องราวสิ่งดี ในพื้นที่ตำบลเขาพระบาท กิจกรรมประกอบด้วย
-กล่าวต้อนรับ ทักทายทุกท่าน วัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมวันนี้ โดยนายก อบต.เขาพระบาท
-แนะนำตัวสมาชิก ผู้นำชุมชน ข้าราชการในพื้นที่ และแขกผู้มีเกียรติ ดำเนินการโดย จนท. อบต.เขาพระบาท
-บอกกล่าวเรื่องราวดีดีในพื้นที่ตำบลเขาพระบาท จากมุมมองของผู้บริหาร และแนวทางการพัฒนางานในปี 2558 โดยนางฉวีวรรณ แก้วเขียว นายก อบต.เขาพระบาท
-การบูรณาการงานในพื้นที่ตำบลเขาพระบาทกับภาคีเครือข่ายในปี 2558 โดย จสอ.สมเกียรติ หนำคอก ปลัด อบต.เขาพระบาท
-การบูรณาการงานด้านุสขภาพกับภาคีเครือข่ายสู่ตำบลสุขภาพดี โดย นายมนูญ พลายชุม ผอ.รพ.สต.เขาพระบาท
-กิจกรรมบอกกล่าวเรื่องราวดีดีในพื้นที่ ประกอบด้วย (1)บอกกล่าวสิ่งดีจากบ้านอู่แก้ว ม.9 (2)บอกกล่าวสิ่งดีจากบ้านหนองชีพูน ม.7 (3) บอกกล่าวสิ่งดีจากบ้านทองพูน ม.2 (4)บอกกล่าวสิ่งดีจากบ้านหนองสีขวัญ ม.1 (5)บอกกล่าวสิ่งดีจากบ้านไกรไทย ม.4 (6)บอกกล่าวสิ่งดีจากบ้านดอนโรง ม.8 (7)บอกกล่าวเรื่องราวที่ดีจากแขกผู้ทรงเกียรติและหน่วยงานราชการที่เข้าร่วมกิจกรรม
สำหรับบ้านอู่แก้ว เดือนนี้ได้เล่าให้กับคณะกรรมการได้รับฟังคือ
1.การเกิดข้อบัญญัติชุมชน 11 ข้อ ถือว่าเป็นนโยบายที่ดีของชุมชน เพราะทุกคนมีส่วนร่วมคิด ร่วมทำงาน ทำให้เกิดกระบวนการพัฒนาอย่างจริงจังในพื้นที่
2.ทำให้เห็นภาพการมีส่วนร่วม เพราะผู้ใหญ่บ้าน รองนายก อบต.เข้าไปมีส่วนร่วมกิจกรรม
3.กิจกรรมที่ได้เกิดขึ้นในเดือนนี้คือ
3.1 การปลูกผักปลอดสารพิษ ในกลุ่มเป้าหมาย
3.2 การทำน้ำหมักจากเศษขยะในครัวเรือน และการทำปุ่ยหมักไว้ใช้ในชุมชนและพัฒนาต่อเป็นวิสาหกิจกลุ่มปุ๋ยชุมชน
3.3 ภาคีเครือข่ายเข้ามาช่วยเหลือในการทำงาน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ตัวแทนโครงการ 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินตามโครงการ
1.คณะทำงานเข้าร่วมกิจกรรมเล่าเรือ่งดีดีในพื้นที่ระดับตำบล 5 คน
2.กิจกรรมสานเสวนาบอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่ดีในพื้นที่ตำบลเขาพระบาท วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2557 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 กิจกรรมดังนี้
08.00 น. ลงทะเบียน
08.00 – 08.15 น. นางฉวีวรรณ แก้วเขียว นายก อบต.เขาพระบาท เล่าเรื่องราวดีดีในการพัฒนาพื้นทีปี 58
08.15 – 08.40 น. แนะนำตัวสมาชิก ผู้นำชุมชน และข้าราชการในพื้นที่ เริ่มจาก ทีมงานจาก อบต.เขาพระบาท ทีมงานจาก รพ.สต.เขาพระบาท ทีมงานจากทุกโรงเรียน สมาชิก อบต.ทุกหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้าน ประธาน อสม.ทุกหมู่บ้าน
09.00 น. จสอ.สมเกียรติ หนำคอก ปลัด อบต.เขาพระบาท เล่าผลงานที่เกิดจากการเรื่องการบูรณาการร่วมของหน่วยงานและพื้นที่ของตำบลเขาพระบาท นายมนูญ พลายชุม ผอ.รพ.สต.เขาพระบาท ได้เล่าถึงความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่ตำบลเขาพระบาท และปีนี้ทางหน่วยงานได้รับคัดเลือกข้าราชการรางวัลคนดีศรีสาธารณสุข
09.30 เปิดเวทีเสวนา โดยทุกหมู่บ้านเล่าเรื่องดีดีในหมู่บ้านของตน บ้านอู่แก้ว เล่าให้ฟังว่าตอนนี้ ได้มีกิจกรรมทำน้ำหมัก กิจกรรมปลูกผัก กิจกรรมการจัดทำพื้นที่สีเขียวในชุมชน เดือนนี้ทุกบ้านได้รวมกลุ่มกันจัดทำน้ำยาอเนกประสงค์ โดยใช้สูตรสมุนไพร ตอนนี้ทุกคนมีความสุข ได้กินผักที่ตนเองปลูก และปลูกผักที่ตนเองกิน
- ได้รู้จักภาคีและเรียนรู้ในการทำงานร่วมกัน
- นำเสนอผลการดำเนินงานให้กับภาคีทราบ
- มีการบูรณาการงานร่วมของหมู่บ้าน หน่วยงานราชการและพื้นที่ของตำบลเขาพระบาท
- ได้เรียนรู้การให้กำลังใจและสร้างขวัญการทำงานร่วมกัน
- ได้เรียนรู้แนวทางการฟื้นฟูธรรมชาติในชุมชน
- เรียนรู้การนำสมุนไพรมาใช้ในการพัฒนา
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงานโครงการ 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
คณะทำงานประชุมตามแผนงานที่กำหนด
วาระการประชุม วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ เพื่อติดตามกิจกรรมของโครงการประเมินผลการดำเนินงานของกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นไปตามโครงการหรือไม่ส่วนไหนที่ยังเป็นปัญหาและสามารถนำมาแก้ไขได้และปรับปรุงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นความคาดหมายคือ กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและเข้าร่วมกิจกรรมทุกครั้ง -ให้ร่วมกันระดมความคิดแนวทางในการปฏิบัติของชุมชนเกิดกระบวนการส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีและเข้มแข็งในการพัฒนาหมู่บ้าน วาระที่ 2 สรุปผลการประชุม คณะกรรมการเห็นด้วยในแนวทางการปฏิบัติของคณะกรรมการ ปิดประชุม ผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติจริง เพื่อปรับปรุงในการทำกิจกรรมให้ได้ผลดีขึ้น สิ่งทีเกิดขึ้นเกินความคาดหมาย เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งมีการเรียนรู้เพิ่มเติม สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ ชุมชนได้รับรู้ รับทราบ ความคิดเห็นของคนอื่นในที่ประชุมหรือเวลามีกิจกรรม นวัตกรรมที่เกิดขึ้น หรือสิ่งใหม่ๆ ชุมชนได้มีข้อปฏิบัติของชุมชน เพื่อเกิดมาตรการทางสังคม
1.คณะทำงานได้ประชุมตามแผนงานที่กำหนด
2.คณะทำงานมีการติดตามและรายงานความก้าวหน้า
3.เกิดความร่วมมือเป็นอย่างดีในการทำงาน
4.สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม โดยทุกคนร่วมคิด
5.สร้างความสามัคคีและความเข้มแข็งในหมู่บ้าน
6.มีการปรับปรุงำกิจกรรมให้ได้ผลดีขึ้น
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
คณะทำงานเข้าร่วมประชุมตามแผนงานที่กำหนด
วาระการประชุม วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ เพื่อติดตามผลงานการทำโครงการประเมินผลการดำเนินของโครงการว่าดำเนินไปได้ถึงไหน สิ่งไหนที่ยังเป็นปัญหาและเราสามารถแก้ไขได้อย่างไร ปรับปรุงส่วนไหนบ้าง แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายคือ กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและเข้าร่วมกิจกรรมทุกครัว
-ให้ร่วมกันระดมความคิดแนวทางในการปฏิบัติชุมชน -เกิดกระบวนการส่งเสริมประชาธิปไตย์ในการพัฒนาหมู่บ้าน วาระที่ 2 สรุปผลการประชุม กรรมการเห็นชอบและปฏิบัติตามแนวทาง ปิดประชุม ผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติจริง ปรับปรุงการดำเนินงานในครั้งต่อไปให้ดีขึ้น สิ่งทีเกิดขึ้นเกินความคาดหมาย ชุมชนมีความเข้มแข็งและกระบวนการเรียนรู้ในการพัฒนาชุมชน สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ ได้รับทราบข้อคิดเห็นของแต่ละคน นวัตกรรมที่เกิดขึ้น หรือสิ่งใหม่ๆ -ข้อปฏิบัติชุมชน -เกิดมาตรการทางสังคม
- คณะกรรมการประชุมตามแผนที่กำหนด และมีการติดตามผลการทำงาน
- เป็นการเปิดโอกาสและปรับทัศนคติคณะทำงานให้ใจกว้าง
- เรียนรู้ในการปรับปรุงข้อเสียของโครงการ
- มีการร่วมกันระดมความคิดแนวทางในการปฏิบัติชุมชน
- เกิดกระบวนการส่งเสริมประชาธิปไตย์ในการพัฒนาหมู่บ้าน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของประชาชน
วันนี้เข้าร่วมกิจกรรมในการสร้างข้อบัญญัติชุมชน
วันนี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมในการจัดทำเสนอข้อบัญญัติชุมชน ซึ่งเดิมมีการกำหนดไว้ 10 คน จากมติที่ประชุมในรอบเดือนที่ผ่านมา แล้ววันนี้มีการเสนอ เพื่อจัดทำเป็นประชามติของหมู่บ้าน และประกาศใช้เป็นวาระการพัฒนาชุมชน
ข้อบัญญัติ 10 ข้อ ประกอบด้วย
1) ทุกบ้านปลูกผักและสมุนไพรไว้กินเอง ไม่น้อยกว่า 5 ชนิด
2) ร่วมกันลดใช้สารเคมีในครัวเรือนและการเกษตรทุกชนิด
3) ลดใช้เครื่องปรุงรสและผงชูรสในการปรุงหรือประกอบอาหาร
4) ทุกบ้านต้องมีรั้ว และเป็นรั้วที่มีชีวิต มีป้ายบอกข้อคติเตือนใจ
5) ขยะจากครัวเรือน นำไปทำเป็นปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ
6) ทำบัญชีครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย
7) ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่และดื่มสุรา
8) ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ทุกครั้งต้องสวมหมวกกันน้อค
9) ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายหรือออกแรงทุกวัน ให้มีเหงื่อซึม วันละ 30 นาที
10) ทุกครัวเรือนต้องเข้าร่วมประชุมหมู่บ้าน 9 ครั้งต่อปี จึงจะมีสิทธิ์ในการรับสวัสดิการของชุมชน
ทั้ง 10 ประเด็นทุกคนเห็นด้วย
และในที่ประชุมเสนอว่า ควรเพิ่มเรื่องมาตราการควบคุมไข้เลือดออก เพราะในหมู่บ้านมีผู้ป่วยนำเข้า 1 ราย ซึี่งไม่มีผู้ป่วยมานานมากกว่า 10 ปี
ดังนั้นประเด็นที่ 11 การควบคุมและป้องกันโรคไข้เลือดออกในหมู่บ้าน
1.เกิดข้อบัญญัติชุมชน เพื่อเป็นแนวทางสร้างสุขในชุมชน
2.สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมพัฒนา โดยการทำเป็นประชามติของหมู่บ้านและประกาศใช้เป็นวาระการพัฒนาชุมชน
3.เป็นการนำทุนที่มีอยู่ในหมู่บ้านมาพัฒนาให้เกิดสูงสุด
4.เน้นให้ทุกคนร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมพัฒนาหมู่บ้านตนเอง
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ประชาชน 150 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่่มี
เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายร่วมสร้างข้อบัญญัติชุมชน
1.ประสานผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประชาสัมพันธ์กลุ่มเป้าหมาย เข้าร่วมกิจกรรมำเสนอจัดทำข้อบัญญัติชุมชน
2.หัวหน้าโครงการและแกนนำครัวเรือนที่เข้าร่วมกิจกรรมในปีที่ผ่านมา เล่าแนวทางปฏิบัติตัวเพื่อให้มีสุขภาพและการสร้างความสุขในครัวเรือน การสร้างความสุขในสังคม โดยให้ทุกคนร่วมกันเสนอข้อปฏิิบัติในหมู่บ้าน เพื่อให้เป็นข้อบัญญัติชุมชนบ้านอุู่แก้ว โดยอิงแนวทางปฏิบัติจากโครงการในปีที่ผ่านมา
3.ร่วมกันระดมคิดแนวทางปฏิบััติชุมชน ซึ่งปีที่ผ่านมาแนวทางปฏิบัติ
4.วาระประชุม
วาระการประชุม
วาระที่ 1 ประชุมเพื่อเปิดโครงการหมู่บ้านอู่แก้ว เป็นหมู่บ้านวิถีพอเพียงบอกวัตถุประสงค์การดำเนินกิจกรรม ที่มา ให้กลุ่มเป้าหมายสมัครใจในการเข้าร่วมโครงการ
กิจกรรมการดำเนินงานดังนี้
-สำรวจข้อมูลหมู่บ้านจากทุกครัวเรือน
-มีการทำบัญชีครัวเรือน
-มีการจัดตั้งธรรมนูญสุขภาพภายในหมู่บ้าน
-ทุกบ้านต้องมีรั้วและเป็นรั้วที่มีชีวิต
-มีการจัดการขยะโดยนำไปทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ
-มีสวนผักชุมชน
-ในครัวปลอดการใช้เครื่องปรุงรส
-ส่งเสริมให้มีการเลี้ยงปลาและเลี้ยงไก่
วาระที่ 2 เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา
-ทุกบ้านต้องมีการปลูกผักอย่างน้อย 5 ชนิด มติ ทำได้
-ร่วมกันลดใช้สารเคมีในครัวเรือน มติ ทำได้
-ลดใช้เครื่องปรุงรส ผงชูรสในการประกอบอาหาร มติ ทำได้
-ทุกบ้านต้องมีรั้งที่มีชีวิต มติ ทำได้
-ขยะจากครัวเรือนนำไปทำปุ๋ยหมัก มติ ทำได้
-ทำบัญชีครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย มติ ทำได้
-ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา มติ ทำได้
-สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่ มติ ทำได้
-ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการออกกำลังกาย มติ ทำได้
-ทุกครัวเรือนต้องเข้าร่วมประชุม 9 ครั้ง ต่อปี มติ ทำได้
กิจกรรมตามแผนงาน หัวหน้าทีมประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อเชิญประชุมเปิดโครงการ ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการพัฒนา ผลที่เกิดจากการปฏิบัติ มีแผนการลดใช้สารเคมีของบุคคลและครัวเรือน และแผนชีวิต ลักษณะเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายของบุคคลในครัวเรือน มีแนวทางสร้างสุขภาพแบบพอเพียง สิ่งที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมาย ทำให้ได้มีการเรียนรู้การทำบัญชี สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การลงบัญชีครัวเรือนทุกวันทำให้ได้ทราบถึงที่มาที่ไปของเงินในกระเป๋าเราได้ นวัฒกรรมที่เกิดขึ้น มีบัญชีครัวเรือนทุกครัวเรือนในหมู่บ้าน
ข้อบัญญ็ติชุมชน 10 ประการคือ
(1) ทุกบ้านปลูกผักและสมุนไพรไว้กินเอง ไม่น้อยกว่า 5 ชนิด
(2) ร่วมกันลดใช้สารเคมีในครัวเรือนและการเกษตรทุกชนิด
(3) ลดใช้เครื่องปรุงรสและผงชูรสในการปรุงหรือประกอบอาหาร
(4) ทุกบ้านต้องมีรั้ว และเป็นรั้วที่มีชีวิต มีป้ายบอกข้อคติเตือนใจ
(5) ขยะจากครัวเรือน นำไปทำเป็นปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ
(6) ทำบัญชีครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย
(7) ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่และดื่มสุรา
(8) ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ทุกครั้งต้องสวมหมวกกันน้อค
(9) ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายหรือออกแรงทุกวัน ให้มีเหงื่อซึม วันละ 30 นาที
(10) ทุกครัวเรือนต้องเข้าร่วมประชุมหมู่บ้าน 9 ครั้งต่อปี จึงจะมีสิทธิ์ในการรับสวัสดิการของชุมชน
และประเด็นที่ทุกครัวเรือนต้องดำเนินกา
1.มีการสำรวจข้อมูลหมู่บ้านจากทุกครัวเรือน เพื่อทำเป็นข้อมุูลชุมชน
2.มีการเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือน
3.ทุกบ้านมีรั้วและเป็นรั้วที่มีชีวิต
4.มีการจัดการขยะโดยนำไปทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ
5.มีสวนผักชุมชน
6.ในครัวปลอดการใช้เครื่องปรุงรส
7.มีคลังอาหารชุมชน
8.มีข้อบัญญัติชุมชน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายและคณะทำงาน 150 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
คณะทำงานประชุมตามแผนงานที่กำหนด ดังนี้ เปิดการประชุม นางวันดี อักษรคง
วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ หัวหน้าทีมประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อเชิญประชุมเปิดตัวโครงการ ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับวัตถุประสงค์โครงการ และเป้าหมายในการพัฒนา แกนนำและทีมงาน กลุ่มเป้าหมายร่วมกันจัดทำแผนชีวิตและครัวเรือลดใช้สารเคมีโดยให้วิเคาระห์ตนเองในประเด็น -รายจ่ายใดบ้างที่จำเป็นต้องจ่าย -รายจ่ายใดบ้างที่เป็นรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย -รายได้ในครัวเรือนมาจากทางไหนบ้าง จะมีแนวทางเพิ่มรายได้ได้อย่างไร
วาระที่ 2 สรุปผลการประชุม คณะกรรมการทุกคนรับทราบและดำเนินการ ปิดวาระการประชุม
คณะทำงานมีแนวทางการบริหารจัดการอย่างชัดเจน สิ่งทีเกิดขึ้นเกินความคาดหมาย การมีส่วนร่วมกับคณะทำงานมากขึ้น สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ บทเรียนในการพัฒนา นวัตกรรมที่เกิดขึ้น หรือสิ่งใหม่ๆ มีแหล่งเรียนรู้ในชุมชน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้ครัวเรือนเป้าหมายได้จัดทำแผนชีวิตลดสารเคมี
1.กลุ่มเป้าหมายวิเคราะห์ตนเอง แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ วิเคราะห์ตนเองในประเด็น ดังนี้
-รายจ่ายใดบ้าง ที่จำเป็นต้องจ่าย
-รายจ่ายใดบ้าง เป็นรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย
-รายได้ในครัวเรือนมาจากทางไหนบ้าง
-จะมีแนวทางเพิ่มรายได้ครัวเรือนอย่างไร
-ทุกวันนี้เรารับสารเคมี่ทางไหนบ้าง
-เราจะมีวิธีลดใช้สารเคมีอย่างไร ทั้งในระดับตนเอง ระดับครัวเรือน
-จะสร้างสุขในครัวเรือนได้อย่างไร
-ทำอย่างไรให้ชุมชนเราปลอดสารเคมึ
2.ทุกคนเขียนในสมุดแผนครัวเรือนและให้กลับไปทำต่อที่บ้าน
3.กลุ่มเป้าหมายเล่าให้เพื่อนๆฟังว่า มีวิธีการลดใช้สารเคมีในตัวเอง ในครัวเรือน การลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้ และการวางแผนสร้างสุขกับตนเอง ครอบครัว
ผลที่เกิดจากการปฏิบัติ มีแผนการลดใช้สารเคมีของบุคคลและครัวเรือน และแผนชีวิต ลักษณะเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายของบุคคลในครัวเรือน มีแนวทางสร้างสุขภาพแบบพอเพียง สิ่งที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมาย ทำให้ได้มีการเรียนรู้การทำบัญชี สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การลงบัญชีครัวเรือนทุกวันทำให้ได้ทราบถึงที่มาที่ไปของเงินในกระเป๋าเราได้ นวัฒกรรมที่เกิดขึ้น มีบัญชีครัวเรือนทุกครัวเรือนในหมู่บ้าน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงานและกลุ่มเป้าหมาย 150 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้ครัวเรือนเป้าหมายได้สำรวจข้อมูลชุมชน
กลุ่มเป้าหมายนำแบบสอบถามที่เก็บมาจำนวน 150 ชุด มาร่วมวิเคราะห์ ผลการสำรวจพบว่า
(1)เพศของผู้ให้สัมภาษณ์ หญิง ร้อยละ 64.5 ชาย ร้อยละ 35.5
(2) สถานภาพในครอบครัวของผู้ตอบแบบสอบถาม หัวหน้าครัวเรือน ร้อยละ 64.5 คู่ครองของหัวหน้าครัวเรือน ร้อยละ24.8
(3)ทุกครัวเรือนยินดีตอบแบบคำถาม ร้อยละ 100
(4)ครัวเรือนไม่มีการเลี้ยงสัตว์ ร้อยละ 80.2 เลี้ยง ร้อยละ19.0
(5) ครัวเรือนไม่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ ร้อยละ 62.8 ประสบปัญหา ร้อยละ 38.0
(6)รายได้หลักมาจากเกษตร ร้อยละ 100 มาจากทำนา ร้อยละ 44.6
(7) ครอบครัวมีที่ดินทำกิน ร้อยละ 65.3 ไม่มี ร้อยละ 18.2
(8) คนในครอบครัวไม่เข้าร่วมโครงการในชุมชน ร้อยละ 47.9 เข้าร่วม ร้อยละ 52.1
(9)คนในครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีของหมู่บ้านบางครั้ง ร้อยละ 42.1 ร่วมบ่อยครั้ง ร้อยละ 25.6 เหตุผลที่เข้าร่วมมีความศรัทธา ร้อยละ47.1 เกิดความสามัคคีในหมู่บ้าน ร้อยละ14.9
(10) สิ่งที่นับถือยึดเหนี่ยวคือพระสงฆ์ ร้อยละ 51.2 ผู้อาวุโส ร้อยละ 32.2
(11)ในห้าปีที่ผ่านมาไม่มีคนในครอบครัวเสียชีวิต ร้อยละ 89.3 มี ร้อยละ 9.9
(12)หกเดือนที่ผ่านมา ไม่มีคนในครอบครัวป่วย ร้อยละ 75.2 มี ร้อยละ 22.3
(13)สมาชิกไม่รู้จักยาปฏิชีวนะหรือยาแก้อักเสบ ร้อยละ 59.5 รู้จัก ร้อยละ39.7
(14)ในรอบเดือนไม่มีคนในบ้านใช้ยาปฏิชีวนะ ยาอักเสบ ร้อยละ 85.1 มี ร้อยละ14.9
(15)สถานที่ได้รับยาปฏิชีวนะ ร้านคลินิก ร้อยละ 81.8 สถานีอนามัย ร้อยละ 7.4
(16)ในรอบสามเดือนใช้ยาชุดหรือยาบรรจุซอง ไม่มี ร้อยละ97.5 มี ร้อยละ 2.5
(17)ในครัวเรือนไม่มีใครใช้ยาชุด ร้อยละ 95.9 มี ร้อยละ3.3
(18) ใน1เดือนที่ผ่านมาไม่ดื่มเหล้าหรือแอลกฮอล์ ร้อยละ 86.8 มี ร้อยละ 13.2
(19) ในเดือนที่ผ่านมาคนในครอบครัวไม่ดื่มเหล้าหรือแอลกฮอล์ ร้อยละ 70.2 ดื่ม ร้อยละ 29.8
ปกติเครื่องดื่มอื่นๆ ซึ่งเป็นยาบำรุง ร้อยละ 52.1 สุรา ร้อยละ 28.9
(20) ใน1เดือนที่ผ่านมาคนในครอบครัวไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีสารกาแฟอีน ร้อยละ 57.0 มีร้อยละ43.0
(21)ท่านมีความวิตกว่าไม่มีเงินใช้ ไม่เคย ร้อยละ 75.2 มี ร้อยละ 9.1
(22)ท่านมีความวิตกว่าอาหารที่ซื้อมาไม่พอกับคนที่บ้าน ไม่มี ร้อยละ 87.6 มี ร้อยละ 5.0
(23)ท่านเคยซื้อของลดลงเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั่วไปมาก ไม่เคย ร้อยละ 74.4 เคย ร้อยละ 9.9
(24)ในครอบครัวได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่เคย ร้อยละ 60.3 ทุกเดือน ร้อยละ 35.5
(25) ซื้ออาหารน้อยลงกว่าเดิมมีอาหารไม่เพียงพอสำหรับบริโภค ไม่เคย ร้อยละ 86.0 ปีละ 2-3 เดือนครั้ง ร้อยละ 5.9
(26) เคยอดอาหารบางมื้อเพราะเงินไม่พอ ไม่เคย ร้อยละ 95.0 อด 2-3เดือน ครั้ง ร้อยละ 1.7
(27)ผู้ใหญ่ในครอบครัวลดปริมาณอาหารเพราะไม่เพียงพอในบ้าน ไม่เคย ร้อยละ 91.7 ปีละครั้ง ร้อยละ 4.1
(28)เด็กอายุต่ำกว่า12รับประทานอาหารครบทุกมื้อ ไม่มี ร้อยละ 72.7 ทุกเดือน ร้อยละ 22.3
(29)เดือนกันยา ท่านมีความลำบาก ต้องกู้ยืมเงิน ไม่มี ร้อยละ 89.3 มี ร้อยละ 9.1
(30)เดือนกันยา มีการซื้อของไว้ก่อนแล้วผ่อนทีหลัง ไม่มี ร้อยละ 95.9 มี ร้อยละ2.5
ผลการสำรวจจากแบบสอบถามจำนวน 150 ชุด พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 64.5 เป็นหัวหน้าครัวเรือน ร้อยละ 64.5 ทุกครัวเรือนยินดีตอบแบบคำถาม ข้อมูลในครัวเรือนพบว่า ไม่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ ร้อยละ 62.8 รายได้หลักมาจากเกษตร ร้อยละ 100 ครอบครัวมีที่ดินทำกิน ร้อยละ 65.3 สมาชิกเข้าร่วมโครงการในชุมชน ร้อยละ 52.1 ส่วนใหญ่เข้าร่วมกิจกรรมประเพณีของหมู่บ้าน ร้อยละ 25.6 เหตุผลเพราะกิจกรรมเหล่านี้สร้างความศรัทธา ร้อยละ47.1 เกิดความสามัคคีในหมู่บ้าน ร้อยละ14.9 สิ่งที่ทุกคนนับถือยึดเหนี่ยวคือพระสงฆ์ ร้อยละ 51.2 ผู้อาวุโส ร้อยละ 32.2 ในรอบหกเดือนในครอบครัวไม่มีคนป่วย ร้อยละ 75.2 ไม่ซื้อยาปฏิชีวนะมาใช้เอง ร้อยละ 85.1 ไม่ดื่มเหล้าหรือแอลกฮอล์ ร้อยละ 86.8 มี สมาชิกในบ้านไม่ดื่มเหล้าหรือแอลกฮอล์ ร้อยละ 70.2 สมาชิกในครอบครัวไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีสารกาแฟอีน ร้อยละ 57.0
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มอาสาสมัคร
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
คณะทำงานเข้าร่วมประชุมตามแผนงานที่กำหนด เปิดการประชุม นางวันดี อักษรคง
วาระที่ 1 ประธานที่ประชุมแจ้งเพื่อทราบ -เกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาข้อมูลชุมชนวิธีการสำรวจข้อมูลชุมชน -สำรวจข้อมูลครัวเรือน ให้คณะทำงานประสานงานร่วมกับ อสม. และกลุ่มเยาวชน เพื่อวางแผนสำรวจข้อมูลประกอบด้วย -ข้อมูลพื้นฐานทั่วไปของครัวเรือน -ข้อมูลการใช้สารเคมีทางการเกษตร -ข้อมูลรายได้ครัวเรือน -ข้อมูลรายจ่ายครัวเรือนที่จำเป็นและรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย -ข้อมูลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว -ให้หัวหน้าโครงการประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเพื่อขออนุญาตเก็บข้อมูลทุกหลังครัวเรือน -ให้แต่ละทีมออกเก็บข้อมูลตามแบบสำรวจตามเป้าหมายที่กำหนด -สรุปผลข้อมูลที่ได้จากการสอบถามเห็นชอบของกลุ่ม
วาระที่ 2 สรุปผลการประชุม
คณะทำงานรับทราบและจะนำไปดำเนินการ ซึ่งการประชุมร่วมกันทำให้ทีมมีความพร้อมในการทำงานมากขึ้น คณะทำงานมีแนวทางการบริหารจัดการโครงการ และโครงสร้างชัดเจน สร้างการมีส่วนร่วมของคณะทำงานมากขึ้น ได้เห็นถึงความสามัคคีและความพร้อมในการจัดทำโครงการ คณะทำงานเองก็ได้เรียนรู้การจัดทำข้อมูลครัวเรือน การจัดทำข้อมูลชุมชน การปรับพฤติกรรมสุขภาพ นวัตกรรมที่เกิดขึ้น หรือสิ่งใหม่ๆ ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทีมงานและเครือข่าย
คณะทำงานร่วมกับประชาชนบ้านอุ่แก้ว พร้อมด้วย อบต.เขาพระบาท รพ.สต.เขาพระบาท ตัวแทนชุมชน 9 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 50 คน ร่วมกิจกรรมเทอดพระเกียรติวันแม่ โดยจัดขบวนเดินพาเหรด จากหน้าโรงพยาบาลเชียรใหญ่ ไปยังที่ว่าการอำเภอเชียรใหญ่ มีการร้องเพลงสดุดีมหาราชา จุดเทียนชัยถวายพระพร และมีกิจกรรมการแสดงบนเวที พร้อมบอกเล่าเรืองราวที่ดีในชุมชน
ทุกคนเปี่ยมไปด้วยความสุขและประทับใจ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงานร่วมกับประชาชน 50 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้ครัวเรือนเป้าหมายได้สำรวจข้อมูลชุมชน
1.ดำเนินการประชุม เพื่อชี้แจงแบบสอบถาม 2.ดำเนินการสำรวจข้อมูลในชุมชน 3.รวบรวมข้อมุล และวิเคราะห์ผลของข้อมูล
กิจกรรมมีดังนี้
1.วาระการประชุม มีกลุ่มคณะทำงาน 20 คน และกลุ่มเยาวชน 20 คน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย ได้แบ่งกันทำครัวเรือนที่ตนเองรับผิดชอบและคณะทำงาน 1 คน พร้อมกับเยาวชน 1 คน ร่วมกันสำรวจข้อมูลตามครัวเรือนให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน และนำข้อมูลที่ได้มาสรุปผลการทำงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
-เกิดสัมพันธภาพที่ดีและเรียนรู้ร่วมกัน ในการนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาชุมชน
-มีฐานข้อมูลระดับครัวเรือน และระดับชุมชน
-มีการสอนงานระหว่างแกนนำเยาวชนทำให้เกิดความรู้สึกมีคุณค่าและสัมพันธ์ที่ดีระหว่างวัย
-มีการคืนข้อมูลสู่ครัวเรือนและชุมชนโดยแกนนำต้นแบบร่วมกับเยาวชนจัดทำสรุปข้อมูลเป็นภาพรวมของหมู่บ้านและจัดทำแผ่นพับ ไวนิวล์ เพื่อคืนข้อมูลสู่ครัวเรือนและชุมชน ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาของชุมชน ข้อมูลรายได้ ข้อมูลสุขภาพ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนได้เกอดความตระหนัก
-การประชาสัมพันธ์ข้อมูลโดยจัดทำเอกสารข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ที่หอกระจายข่าวหมู่บ้าน โดยผ่านทางผู้ใหญ่บ้าน เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนได้รับรู้ เกิดความตระหนัก เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สารเคมี สถานะสุขภาพของประชาชน รายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยของหมู่บ้านและปัญหาของหมู่บ้าน
- มีการประชมคณะทำงาน เพื่อวางแผนการทำงาน และโปร่งใส
- เกิดสัมพันธภาพที่ดีและเรียนรู้ร่วมกัน ในการนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาชุมชน
- มีฐานข้อมูลระดับครัวเรือน และระดับชุมชน
- มีการสอนงานระหว่างแกนนำเยาวชนทำให้เกิดความรู้สึกมีคุณค่าและสัมพันธ์ที่ดีระหว่างวัย
- มีการคืนข้อมูลสู่ครัวเรือนและชุมชนโดยแกนนำต้นแบบร่วมกับเยาวชนจัดทำสรุปข้อมูลเป็นภาพรวมของหมู่บ้านและจัดทำแผ่นพับ ไวนิวล์
- มีการจัดทำข้อมูลครัวเรือน จัดทำข้อมูลชุมชน บัญชีชุมชน
ผลที่เกิดจากการปฏิบัติ ได้ทราบข้อมูลพื้นฐานทั่วไปของครัวเรือน ได้ข้อมูลการใช้สารเคมีทางการเกษตร ได้ทราบข้อมูลรายได้ รายจ่ายครัวเรือน
สิ่งที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมาย คนในชุมชนให้ความร่วมมือดี
สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ ข้อมูลชุมชนในหมู่บ้านเพื่อการพัฒนาต่อไป
นวัฒกรรมที่เกิดขึ้น ได้ทราบข้อมูลในชุมชนเพื่อนำมาพัฒนา
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
กลุ่มอาสาสมัครสำรวจข้อมูล
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ
คณะทำงานเข้าร่วมประชุมตามแผนที่กำหนด โดยมีวาระการประชุม ดังนี้
วาระที่ 1 ผู้ประชุม นางวันดี อักษรคง -แจ้งวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการและกิจกรรมของโครงการรวมถึงขั้นตอนของการดำเนินโครงการ -ร่วมกันกำหนดแนวทางในการดำเนินโครงการ -ติดตามความก้าวหน้า -ให้ทีมงานนำเสนอข้อคิดเห็น
วาระที่ 2 กิจกรรมหลักของโครงการประกอบด้วย -การจัดทำข้อมูลครัวเรือน -การจัดทำข้อมูลชุมชน -การจัดทำข้อบัญญัติชุมชน -การปรับพฤติกรรมสุขภาพ -การผสมผสานและเกษตรอินทร์ -วิสาหกิจชุมชน -มหรกรรมสุขภาพบ้านอู่แก้ว -สรุปผลดำเนินงาน
วาระที่ 3 สรุปผลการประชุม
คณะทำงานทุกคนรับทราบวิธีการดำเนินงานร่วมกัน ทีมคณะทำงานมีความพร้อม เกิดความร่วมมือของคณะทำงาน สิ่งที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมาย ได้แลกเปลี่ยนวิธีการทำงานระหว่างกัน ได้ร่วมกันระดมความคิดแนวทางปฏิบัติ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 20 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและความก้าวหน้าโครงการ
คณะทำงาน 5 คน ร่วมกันสรุปผลการดำเนินงานให้กับคณะทำงานระดับตำบลฟัง
วันนี้ คณะทำงานเข้าร่วมกิจกรรมสานเสวนาเล่าเรื่องราวดีดีในพื้นที่ตำบลเขาพระบาท ให้กับคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ตำบลเขาพระบาท และผู้นำชุมชน ทุกคน ดังนี้
-กล่าวต้อนรับทุกท่าน และวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมครั้งนี้ โดย นางฉวีวรรณ แก้วเขียว นายก อบต.เขาพระบาท
-แนะนำตัวสมาชิก ผู้นำชุมชน และข้าราชการในพื้นที่ ประกอบด้วย ทีมงานจาก อบต.เขาพระบาท ทีมงานจาก รพ.สต.เขาพระบาท ทีมงานจากทุกโรงเรียน สมาชิก อบต.ทุกหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้าน ประธาน อสม.ทุกหมู่บ้าน โดย อบต.เขาพระบาท ดำเนินการ
-นโยบายการพัฒนาพื้นที่ตำบลเขาพระบาท โดย นางฉวีวรรณ แก้วเขียว นายก อบต.เขาพระบาท
-การบูรณาการร่วมของหน่วยงานและพื้นที่ของตำบลเขาพระบาท โดย จสอ.สมเกียรติ หนำคอก ปลัด อบต.เขาพระบาท
- การขับเคลื่อนงานตำบลสุขภาพดี โดย นายมนูญ พลายชุม ผอ.รพ.สต.เขาพระบาท
-เปิดเวทีเสวนาและร่วมกันแสดงความคิดเห็น ทิศทางการพัฒนาตำบลเขาพระบาท เรื่องราวดีดีที่เกิดขึ้นในแต่ละหมู่บ้าน โดยตัวแทนทุกหมู่บ้านร่วมพูดคุย
1.คณะทำงานได้ร่วมพูดคุยและเล่าเรื่องราวดีดี กระบวนการพัฒนาให้กับคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ตำบลเขาพระบาท ผู้นำชุมชน และหน่วยงานราชการในพื้นที่
2.ทุกคนได้รับรู้นโยบายการพัฒนาพื้นที่ตำบลเขาพระบาทและหมู่บ้านตนเองร่วมกัน
3.เป็นการบูรณาการร่วมของหน่วยงานและพื้นที่ของตำบลเขาพระบาท
4.เกิดแนวทางการการขับเคลื่อนงานหมู่บ้านสุขภาพดีและตำบลสุขภาพดี
5.เป็นการตรวจสอบการทำงาน เน้นความโปร่งใส
6.เป็นการประเมินโครงการแบบไขว้ ร่วมกับชุมชน
7.เป็นแนวทางการพัฒนาหมู่บ้านที่ดี
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินตามโครงการ
1.คณะทำงานเข้าร่วมกิจกรรมเล่าเรื่องดีดีในการพัฒนาหมู่บ้าน ให้กับผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้าน หัวหน้าหน่วยงานราชการรับฟัง
2.วันนี้ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมกิจกรรมสานเสวนาในการพัฒนาหมู่บ้านและเล่าเรื่องราวดีดีในพื้นที่ตำบลเขาพระบาท ให้กับผู้นำชุมชน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมกิจกรรม 56 คน โดยมีเนื้อหาดังนี้
กิจกรรมสานเสวนาบอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่ดีในพื้นที่ตำบลเขาพระบาท วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2557 ดังนี้
08.00 น. ลงทะเบียน
08.00 – 08.15 น. นางฉวีวรรณ แก้วเขียว นายก อบต.เขาพระบาท กล่าวต้อนรับทุกท่าน แจ้งวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมครั้งนี้
08.15 – 08.40 น. แนะนำตัวสมาชิก ผู้นำชุมชน และข้าราชการในพื้นที่ เริ่มจาก ทีมงานจาก อบต.เขาพระบาท ทีมงานจาก รพ.สต.เขาพระบาท ทีมงานจากทุกโรงเรียน สมาชิก อบต.ทุกหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้าน ประธาน อสม.ทุกหมู่บ้าน
09.00 น. นางฉวีวรรณ แก้วเขียว นายก อบต.เขาพระบาท มอบนโยบายการพัฒนาพื้นที่ตำบลเขาพระบาท
09.15 น. จสอ.สมเกียรติ หนำคอก ปลัด อบต.เขาพระบาท เล่าเรื่องการบูรณาการร่วมของหน่วยงานและพื้นที่ของตำบลเขาพระบาท และการขับเคลื่อนงานตำบลสุขภาพดี โดยนายมนูญ พลายชุม ผอ.รพ.สต.เขาพระบาท
09.30 เปิดเวทีเสวนา
บ้านอู่แก้ว เป็นหมู่บ้านวิถีพอเพียง เล่าให้ฟังว่าในปีนี้กิจกรรมที่จะดำเนินการมีอะไรบ้าง 1)การจัดทำข้อมูลครัวเรือน
2)การจัดทำข้อมูลชุมชน 3)ข้อบัญญัติชุมชน 4)การปรับพฤติกรรมสุขภาพ 5)เกษตรผสมผสานและเกษตรอินทรีย์ 6)วิสาหกิจปุ๋ยชุมชน 7)มหกรรมสุขภาพบ้านอู่แก้ว
สิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือการประชาคมทำข้อบัญญัติชุมชน มี 10 ประการคือ (1) ทุกบ้านปลูกผักและสมุนไพรไว้กินเอง ไม่น้อยกว่า 5 ชนิด (2) ร่วมกันลดใช้สารเคมีในครัวเรือนและการเกษตรทุกชนิด
(3) ลดใช้เครื่องปรุงรสและผงชูรสในการปรุงหรือประกอบอาหาร (4) ทุกบ้านต้องมีรั้ว และเป็นรั้วที่มีชีวิต มีป้ายบอกข้อคติเตือนใจ (5) ขยะจากครัวเรือน นำไปทำเป็นปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ
(6) ทำบัญชีครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย (7) ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่และดื่มสุรา (8) ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ทุกครั้งต้องสวมหมวกกันน้อค (9) ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายหรือออกแรงทุกวัน ให้มีเหงื่อซึม วันละ 30 นาที (10) ทุกครัวเรือนต้องเข้าร่วมประชุมหมู่บ้าน 9 ครั้งต่อปี จึงจะมีสิทธิ์ในการรับสวัสดิการของชุมชน
ผลจากที่ประชุมทุกคนตอบรับและเห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนาหมู่บ้านอู่แก้ว
1.บ้านอู่แก้ว ได้เล่ากระบวนการพัฒนาหมู่บ้าน ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการพัฒนาตำบล เพื่อรับรู้ รับทราบกระบวนการพัฒนา
2.สร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในการทำงาน
3.สร้างภาคีเครือข่ายร่วมทำงาน
4.เป็นการประชาสัมพันธ์กิจกรรมตามโครงการให้บุคคลภายนอกทราบ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้ครัวเรือนเป้าหมายได้สำรวจข้อมูลชุมชน
คณะทำงานร่วมกันจัดทำแบบสอบถาม เพื่อนำไปใช้ในการสำรวจข้อมูลชุมชน
- คณะทำงานได้ระคมคิดหาข้อมูลในการสำรวจแบบสอบถามในชุมชน
- แบบสอบถามมีทั้งหมด 5 ส่วน 86 ข้อ ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 ข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถามและประชากรในครัวเรือน ส่วนที่ 2 ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมประเพณี ส่วนที่ 3 ข้อมูลด้านสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงสุขภาพ ส่วนที่ 4 ข้อมูลด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ส่วนที่ 5 ข้อมูลด้านความมั่นคงทางอาหาร
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำ อสม เยาวชน 40 คน
ไม่มี
ไม่มีึ
ไม่มี
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการทำงานของประชาชน
ร่วมรณรงค์ไข้เลือดออก โดยการกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยจุดเริ่มตันที่บ้านอู่แก้ว มีกิจกรรมคือ
- แจกแผ่นพับให้ความรู้ในการรณรงค์ไข้เลือดออก
- แจกทรายอะเบทและปูนแดง เพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย
- รณรงค์ให้ความรู้ทุกหลังคาเรือน
ประชาชนทุกหลังคาเรือนออกมาร่วมรณรงค์เรื่องไข้เลือดออก โดยการกำจัดลูกน้ำยงุลายร่วมกับ อบต.เขาพระบาท รพ.สต.เขาพระบาท และชมรม อสม.ตำบลเขาพระบาท เป็นการจัดกิจกรรมทั้งตำบล เห็นได้ถึงความตื่นตัวในเรื่องภัยร้ายของยุงลาย และความจริงจังและตั้งใจในการกำจัดยุงลายของคนในชุมชน โดยแต่ละบ้านได้รับทรายอะเบทและปูนแดงไปใช้กำจัดลูกน้ำยุงลายและมีความเข้าใจในการนำไปใช้งานเป็นอย่างดี
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายทุกครัวเรือน 150 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อทำความเข้าใจในกลุ่มคณะทำงานเกี่ยวกับกระบวนการทำงานและรายงานผล
ตัวแทนโครงการเข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการและการรายงานผลกิจกรรม
1.ตัวแทนโครงการเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลวิธีการดำเนินงานตามโครงการ และให้ทบทวนกิจกรรมการดำเนินงาน
2.ให้ทำการปรับปรุงปฏิทิน การดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับกระบวนการพัฒนางานในพื้นที่
3.เรียนรู้วิธีการบันทึกกิจกรรมในแบบบันทึก การจัดเก็บเอกสาร
4.เรียนรู้วิธีการเขียนใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน
5.เรียนรู้วิธีการบันทึกข้อมูลในโปรแกรมออนไลน์
ส่ิิ่งที่ได้เรียนรู้คือ คณะทำงานมีความตั้งใจ โครงการนี้ สามารถดำเนินงานได้ เพราะทุกคนในทีมงานเข้าใจ และสามัคคี
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ตัวแทนโครงการ 5 คน เข้าร่วมประชุม
ไม่มี
ไม่มี
ขอให้จัดทำกิจกรรมตามปฏิทิน ให้สอดคล้องกันและบันทึกกิจกรรมในแบบฟอร์มทุกครั้ง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการทำงาน
เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของคณะทำงาน
คณะทำงาน เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเรียนรู้กระบวนการทำโครงการ มีกิจกรรมคือ
- การบันทึกเอกสารการทำกิจกรรมตามโครงการ
- การเก็บหลักฐานการดำเนินงาน
- การทำกิจกรรม
- การบันทึกกิจกรรมลงโปรแกรม
- การจัดการเอกสารการเงิน
- กำหนดการจัดทำรายงานปิดโครงการงวดแรก
- ให้ตรวจสอบการโอนเงินเข้าบัญชีให้เรียบร้อย
จากการร่วมประชุม ได้ผลสรุปดังนี้
- การบันทึกเอกสารการทำกิจกรรมให้ใช้แบบฟอร์มที่ร่วมกันกำหนด
- หลักฐานการดำเนินงานให้แนบตามแบบฟอร์ม
- การทำกิจกรรมให้ยึดตามปฏิทินที่ได้ร่วมกันกำหนด
- เมื่อดำเนินกิจกรรมเรียบร้อยแล้วให้บันทึกรายงานกิจกรรมลงในเว็บไซต์
- รายงานบนเว็บไซต์ต้องตรงกับเอกสารการเงิน เอกสารรายงานกิจกรรรม
- กำหนดวันทำรายงานปิดโครงการงวดแรก ภายในเดือนตุลาคม 57
- กำหนดให้ตัวแทนคณะทำงานนำสมุดบัญชีเงินฝากไปปรับตรวจเช็คเงินสนับสนุนโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 10 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้ครัวเรือนมีการจัดทำแผนครัวเรือน
- หัวหน้าทีม ประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อเชิญประชุมเปิดตัวโครงการ ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับวัตถุประสงค์โครงการและเป้าหมายในการพัฒนา
- เลขานุการโครงการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลชุมชน และให้แกนนำกลุ่มเดิมให้เล่าให้ฟัง เกี่ยวกับผลการพัฒนาตนเองที่ผ่านมาเกิดอะไรบ้าง ได้แก่ การลดใช้เครื่องปรุงรส การลดรายจ่าย
- แกนนำและทีมงานเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายร่วมกันจัดทำแผนชีวิตและครัวเรือนลดสารเคมี โดยให้วิเคราะห์ตนเอง
- ประชาชนได้รับทราบทางการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ
- ประชาชนได้รับทราบว่าในปีที่ผ่านมา สามารถลดระดับสารเคมีตกค้างในเลือดได้ โดยการปรับวิถีการดำรงชีวิต
- การจัดทำแผนครัวเรือน พบว่า
3.1 รายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายสำหรับครอบครัว คือ ค่ากับข้าว ค่าเล่าเรียนบุตร ค่ารถไปซื้อของที่จำเป็น ค่าไฟฟ้า ค่ารถไปหาหมอ
3.2 รายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย ได้แก่ ค่าหวย ค่าโทรศัพท์ ค่าขนมกรุบกรอบ ค่าน้ำอัดลม ค่าอินเตอร์เนต
3.3 รายได้ในครัวเรือนมาจากทางไหนบ้าง ได้แก่ ค่าขายข้าว ขายผ้ก ขายปุ๋ยคอก ค่าน้ำยาง ค่าผลไม้ ค่าปาล์ม
3.4 แนวทางเพิ่มรายได้ครัวเรือน คือ การจัดบันทึกรายจ่ายประจำวัน และรายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็นให้ลดลง และลดลงร้อยละ 10 ของครัวเรือน
3.5 ทุกวันนี้เรารับสารเคมี่ทางไหนบ้าง ได้แก่ การกินอาหารนอกบ้าน การซื้อผักและกับข้าวจากท้องตลาด ผักที่ปลูกแล้วใช้สารเคมี 3.6 วิธีลดใช้สารเคมี มาส่วนของตนเอง คือ การทำอาหารกินเอง การไม่ใช้เครื่องปรุงรส การปลูกผักกินเอง
3.7 การลดสารเคมีในครัวเรือน คือ การปลูกผัก การปลูกข้าวกินเอง การทำน้ำยาใช้เอง การทำนำ้หมักและปุ๋ยหมักชีวภาพใช้เอง 3.8 การสร้างสุขในครัวเรือนคือ การพูดคุย การกินข้าวพร้อมกัน การอบรมเอาใจดูแลลูก การไม่ออกนอกบ้านเวลากลางคืน การให้ลูกยกมือไหว้พ่อแม่ก่อนไปโรงเรียน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงานและตัวแทนกลุ่มครัวเรือนเป้าหมาย 150 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศร่วมกับพี่เลี่้ยงตามโครงการ
คณะทำงานเข้ารับการปฐมนิเทศ รับฟังแนวทางการบริหารจัดการโครงการ การจัดการเอกสารหลักฐานทางการเงิน วิธีการจัดทำรายงานผ่านระบบออนไลน์บนเว็บไซต์คนใต้สร้างสุข และฝึกปฏิบัติการใช้งานในเว็บไชต์
- คณะกรรมการได้เรียนรู้และเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ
- คณะทำงานเรียนรู้วิธีคิดในการดำเนินโครงการตามแผนงาน รวมถึงวิธีการดำเนินกิจกรรมของโครงการ
- เรียนรู้วิธีการใช้งานระบบการทำงานบนเว็บไซต์คนใต้สร้างสุข
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี