- เพื่อร่างแผนงานการจัดการชุมชนโดยเยาวชนเสนอต่อกรรมการชุมชนบ้านปากกะแดะ
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา จัดกระบวนการให้เยาวชนได้เสนอแผนงานที่ต้องการดำเนินงานในอนาคตร่วมกับชุมชน
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา จัดกระบวนการให้เยาวชนได้เสนอแผนงานที่ต้องการดำเนินงานในอนาคตร่วมกับชุมชน มีดังนี้
- ละครสร้างปัญญาเกี่ยวกับปัญหาขยะในลำคลอง
- ปลูกป่าชายเลนเพิ่มเติม
- แผนงานของชุมชน ได้แก่
- จัดทำแนวเขตป่าเลนชุมชน
- การจัดการปัญหาขยะริมคลองกะแดะ
- การปลูกป่าชายเลนเสริมตลอดแนวอ่าว
- การจัดทำพื้นที่อนุรักษ์สัตว์น้ำวัยอ่อนบ้านปลาบ้านหอยเพิ่มเติมในปี 2560
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- แกนนำเยาวชน
- กลุ่มประมงชายฝั่ง
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อสรุปการเงินและรายงานปิดโครงการ
- ตรวจทานเอกสารการเงินแต่ละกิจกรรม
- แก้ไขรายละเอียดใบสำคัญรับเงินให้ตรงกับที่จ่ายจริง
- บันทึกข้อูลลงในเว็บไซต์
- ติดตามลายเซ็นใบสำคัญและใบลงทะเบียนที่ไม่เรียบร้อย
- มีการตรวจสอบการเงิน และใบสำคัญรับเงินทุกกิจกรรม ว่าขาดตกบกพร่องในส่วนใด รวมถึงติดตามบิลค่าใช้จ่ายต่างๆให้ครบถ้วน
- บันทึกผลการจัดกิจกรรมลงสู่เว็บไซต์คนใต้สร้างสุข
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา
- หลายกิจกรรมใช้เงินไม่ถึงตามที่กำหนดไว้ในแผนงานโครงการ เนื่องจากค่าใช้จ่ายจริงถูกกว่าประมาณการ และบางกิจกรรมมีคนมาร่วมน้อยกว่าที่กำหนด ทำให้มีเงินเหลือคืน สสส.และไม่เบิกงวดที่ 3
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อวางแผนการจัดทำรายงานเพื่อปิดโครงการ
- ประชุมทีมงานและผู้ที่เกี่ยวข้องวางแผนการขับเคลื่อนชุมชนน่าอยู่ในอนาคต
- ทีมงานและผู้ที่เกียวข้องวางแผนการขับเคลื่อนชุมชนน่าอยู่ในอนาคต
- การบรรจุแผนงานชุมชนเข้าสู่แผนพัฒนาของเทศบาลตำบลกาญจนดิษฐ์โดยได้รับการแจ้งจากผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการมีส่วนร่วมสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ว่าได้นำแผนของชุมชนเข้าสู่การพิจารณาแล้ว เนื่องจากไม่ทันในแผนงบประมาณ 2560 แต่จะบรรจุในแผนปี 2561 อย่างแน่นอน
- พัฒนาชุมชนต่อในเรื่องของการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง และจัดทำป่าเลชุมชน
- พัฒนาเรื่องการจัดการขยะริมคลอง
- แผนงานที่จัดทำเพื่อนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เทศบาลตำบลกาญจนดิษฐ์, สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4, สภาองค์ชุมชนตำบลกะแดะ และโรงเรียนบ้านปากกะแดะ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- กลุ่มประมงชายฝั่งจากสองฝั่งคลอง
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา (พี่เลี้ยงเยาวชน)
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานและร่วมกำหนดแนวทางชุมชนปากน้ำกะแดะให้น่าอยู่ร่วมกันในอนาคต
- การนำเสนอผลการดำเนินงานโดยเยาวชน และผ่านสื่อไวนิล แผ่นพับ
- มีการเสวนาและแลกเปลี่ยนเสนอแนะแนวทางร่วมสร้างชุมชนน่าอยู่ระหว่างชุมชนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- มีการนัดหมายเพื่อจัดทำแผนชุมชนด้านการจัดการขยะ และการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง
- น.ส.กรรณิการ์ แพแก้ว กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา พี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชนบ้านปากกะแดะ ได้พูดคุยกับเยาวชนถึงขั้นตอนการสำรวจสายน้ำ และนำเสนอผลของการสำรวจคุณภาพสายน้ำคลองกะแดะ บริเวณสามจุด ดังนี้ ท่าน้ำใกล้ร้านเคียงเล บริเวณปากอ่าว ท่าน้ำบริเวณศาลเจ้าไหหลำ ปากกะแดะ และศาลาท่าน้ำสัตว์น้ำที่ค้นพบเป็นจำนวนมาก ได้แก่ กุ้งฝอย หอยฝาเดียว และ ปลาขี้เกง ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่สามารถบริโภคได้ อาศัยอยู่ในน้ำที่มีลักษณะไม่ค่อยสะอาดบ่งบอกว่าน้ำในคลองบริเวณดังกล่าวไม่ค่อยสะอาด
วงเสวนาร่วมสร้างปากน้ำกะแดะให้ชุมชนน่าอยู่
- นายปรีชา ด่านกุลชัย ชี้แจงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของโครงการว่า มีการปลูกป่าโกงกางเสริมในพื้นที่ปากอ่าวจำนวน 1,000 ต้น ผลปรากฎว่าต้นโกงกางรอดมากกว่า 80% กิจกรรมสร้างบ้านปลาบ้านหอย จำนวน 10 จุด ในพื้นที่อ่าวปากกะแดะตลอดสองตำบล จากการติดตามพบว่า มีหอยนางรม หอยติ๊บ หอยเจดีย์เกาะที่เสาปูนเกือบทุกจุด และมีปลามาอาศัยอยู่จำนวนมาก ได้แก่ ปลาขี้ตัง-ปลากระบอก-ปลาสลิด-ปลากด กิจกรรมนักสืบสายน้ำ มีการอบรมเยาวชนสามครั้ง และปฏิบัติการสำรวจลำคลองปากกะแดะสองครั้ง ทำให้เยาวชนสามารถใช้เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างง่ายได้ ตามที่เยาวชนได้เสนอไปแล้ว
- นายพัฒนพงศ์ ปลื้มพัฒน์ คณะกรรมการเครือข่าย ทสม.สุราษฎร์ธานี ได้นำเสนอความก้าวหน้าของการจัดการทรัพยากรชายฝั่งระดับจังหวัด ว่า ในการประชุมระดับจังหวัดได้มีการหารือแนวทางในการจัดการแนวเขตอนุญาต ซึ่งในอำเภอกาญจนดิษฐ์ ยังไม่เป็นที่เรียบร้อยเหมือนอำเภออื่นๆ และขอความร่วมมือประมงพื้นบ้านในการใช้อุปกรณ์จับสัตว์น้ำแบบทำลายล้างเพราะหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินงานตรวจจัอย่างเข้มงวด
- คุณวิชัย สมรูปผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการมีส่วนร่วม สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๔ ได้ชี้แจงว่า แผนงานของชุมชนบ้านปากกะแดะได้มีการหารือกับคณะทำงานเพื่อบรรจุไว้ในแผนงานแล้ว แต่เป็นแผนงบประมาณปี 2560 เรื่องป่าเลชุมชน ซึ่งมีความยินดีที่ชุมชนได้ร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำในการทำบ้านปลาบ้านหอยทั้งสองตำบลในพื้นที่อ่าวปากกะแดะ สิ่งสำคัญที่จะต้องปรึกษาหารือและหาแนวทางแก้ไข คือ ขยะที่มีในชุมชน ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลายน้ำทำให้ขยะที่พัดผ่านมาตลอดสายคลองมาติดค้างบริเวณรากต้นโกงกางในช่วงน้ำลงทำให้ไม่สวยงามเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมบริเวณสะพานลิง หรือ walk way เป็นโจทย์ที่ชุมชนจะต้องออกแบบร่วมกัน
- คุณธีรพันธุ์ พวงสุนทร หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 ได้แสดงความคิดเห็นว่าผมยังคงยืนยันตามเดิมที่ได้มาพูดคุยกับพี่น้องเมื่อครั้งที่ผ่านมาทางสถานีสนใจอยากทำกิจกรรมป่าเลชุมชนร่วมกับบ้านปากกะแดะ เช่นเดียวกับที่ทำที่ ต.ท่าทอง และ ต.ตะเคียนทอง และขอให้ทุกคนร่วมมือกันด้วยความสามัคคี ในการทำให้ชุมชนน่าอยู่
- นายสุภาษิต อินทรภิรมย์ : ต.พลายวาส มีปัญหาเรื่องการจัดการขยะ เพราะ อบต.พลายวาส ไม่มีงบประมาณในการสร้างถังขยะให้กับชุมชนทำให้บ้านเรือนที่อยู่ริมคลองทิ้งขยะลงในคลอง ไม่ได้มาจากนักท่องเที่ยว หรือจากต้นน้ำมากนักหากจะร่วมกันทำให้ชุมชนน่าอยู่สิ่งสำคัญ คือ ทุกคนจะต้องมีจิตสำนึกร่วมกันไม่ทิ้งขยะลงในคลอง หาถุงดำมาใส่ขยะของบ้านตนเอง แล้วนำไปทิ้งให้ถูกต้อง
- นายปรีชา ด่านกุลชัย : เสนอให้หลังจากนี้คณะกรรมการโครงการฯ และกลุ่มประมงพื้นบ้านมาร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาชุมชนเพื่อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันขับเคลื่อนชุมชนปากน้ำกะแดะให้น่าอยู่
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- อสม.
- กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน
- คณะทำงานโครงการ
- ชาวชุมชนสองฝั่งคลองกะแดะ ต.กะแดะ-ต.พลายวาส
- เยาวชนบ้านปากกะแดะสองฝั่งคลอง
- วิทยากรจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานจัดการทรัพยากรชายฝั่ง, สถานีพัฒนาป่าชายเลน ที่ 14, อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, อบต.พลายวาส
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา
- วิทยากรติดภารกิจต้อนรับรองผู้ว่าราชการจังหวัด ทำให้แต่ละท่านมาถึงงานไม่พร้อมกัน จึงเปลี่ยนรูปแบบจากการเสวนาเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนเสนอแนะ
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อนำเสนอผลการดำเนินโครงการ และการจัดทำข้อมูลทรัพยากรชุมชนสู่สาธารณะ
- ประมวลผลการดำเนินงานทุกกิจกรรม มาเป็นเอกสารแผ่นพับ และไวนิลแบบโรลอัพ เพื่อนำเสนอแก่ชุมชน
- เยาวชนบ้านปากกะแดะสองฝั่งคลอง นำเสนอข้อมูลที่ได้จากกิจกรรมนักสืบสายน้ำต่อที่ประชุม
- ร่วมกันให้ข้อเสนอแนะ
ทีมงานได้มีการประมวลผลการดำเนินงานทุกกิจกรรม มาเป็นเอกสารแผ่นพับ และไวนิลแบบโรลอัพ เพื่อนำเสนอแก่ชุมชน โดยผลิตไวนิล จำนวน 8 ชิ้นพร้อมขาตั้ง ประกอบด้วยข้อมูลและภาพกิจกรรมอบรมกฎหมาย, ปลูกป่าชายเลน, นักสืบสายน้ำ, สร้างและติดตามบ้านปลาบ้านหอยรวมถึงผลิตแผ่นพับจากข้อมูลการติดตามบ้านปลาบ้านหอย และป่าชายเลน ดังนี้
- ชุมชนบ้านปากกะแดะ ตั้งอยู่ที่หมู่ ๗ ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงในด้านอาหารทะเล และแหล่งเพาะพันธุ์หอยนางรม ตามคำขวัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี “เมืองหอยใหญ่” ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล ส่วนใหญ่ดำรงชีพโดยการทำประมงชายฝั่งการเพาะเลี้ยงหอยนางรม และจับสัตว์น้ำชายฝั่งอ่าวปากกะแดะ อำเภอกาญจนดิษฐ์ ครอบคลุมพื้นที่ ๒ ตำบล ๕ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๖, ๗ ตำบลกะแดะ และหมู่ที่ ๑, ๓, ๖ ตำบลพลายวาสมีพื้นที่ป่าชายเลนตลอดริมอ่าวด้วยความเป็นพื้นที่ปลายน้ำของคลองกะแดะ ทำให้ได้รับผลกระทบในเรื่องของน้ำเสีย และขยะที่พัดพามากับลำคลองกะแดะ รวมถึงคลื่นมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ชาวบ้านเรียก “ลมพัดหลวง” ช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมทุกปี และ คลื่นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เรียก “ลมอุตตรา” ที่ทำลายป่าชายเลนด้านนอกอ่าวให้ล้มโค่น ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปี
- ชุมชนบ้านปากกะแดะ ได้ลุกขึ้นมาอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน รวมถึงเพิ่มพื้นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง ผ่าน โครงการร่วมอนุรักษ์ปากน้ำกะแดะให้ชุมชนน่าอยู่โดยประสานความร่วมมือระหว่างชุมชนบ้านปากกะแดะ ต.กะแดะ และ ต.พลายวาส, โรงเรียนบ้านปากกะแดะ, กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา และหน่วยงานราชการทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัด มีการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์บ้านปากกะแดะ ที่มีสมาชิกจากสองพื้นที่เข้าร่วม ตั้งกฎกติการ่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง หยุดการใช้เครื่องมือทำลายล้างในการจับสัตว์น้ำ และสร้างแกนนำเยาวชน “นักสืบสายน้ำ” มาร่วมดูแลรักษาทรัพยากรชายฝั่งของชุมชน ร่วมกันสร้างบ้านปลาบ้านหอย (ปะการังเทียม) และปลูกต้นโกงกางเสริมในพื้นที่อ่าวปากกะแดะ
- ภาพอนาคตของชุมชนบ้านปากกะแดะ ที่ทุกคนอยากเห็น คือ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่ปลอดภัยไม่ทำลายสัตว์น้ำด้วยเครื่องมือประเภททำลายล้างสร้างป่า-เลชุมชน เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรชุมชนต้องการพัฒนาและยกระดับพื้นที่สู่ความมั่นคงทางอาหารให้ชุมชนแห่งนี้ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารทะเลที่หลากหลาย และเป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ชุมชนบ้านปากกะแดะ ตั้งอยู่ที่หมู่ ๗ ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงในด้านอาหารทะเล และแหล่งเพาะพันธุ์หอยนางรม ตามคำขวัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี “เมืองหอยใหญ่” ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล ส่วนใหญ่ดำรงชีพโดยการทำประมงชายฝั่งการเพาะเลี้ยงหอยนางรม และจับสัตว์น้ำชายฝั่งอ่าวปากกะแดะ อำเภอกาญจนดิษฐ์ ครอบคลุมพื้นที่ ๒ ตำบล ๕ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๖, ๗ ตำบลกะแดะ และหมู่ที่ ๑, ๓, ๖ ตำบลพลายวาสมีพื้นที่ป่าชายเลนตลอดริมอ่าวด้วยความเป็นพื้นที่ปลายน้ำของคลองกะแดะ ทำให้ได้รับผลกระทบในเรื่องของน้ำเสีย และขยะที่พัดพามากับลำคลองกะแดะ รวมถึงคลื่นมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ชาวบ้านเรียก “ลมพัดหลวง” ช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมทุกปี และ คลื่นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เรียก “ลมอุตตรา” ที่ทำลายป่าชายเลนด้านนอกอ่าวให้ล้มโค่น ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปี
ข้อมูลในการผลิตไวนิลโรลอัพ ดังนี้
- นักสืบสายน้ำ เยาวชนบ้านปากน้ำกะแดะสองฝั่งคลอง ผ่านการอบรมหลักทฤษฎีและปฏิบัติกระบวนการ นักสืบสายน้ำ เพื่อเรียนรู้เทคนิคในการสำรวจคุณภาพน้ำ และสัตว์น้ำขนาดเล็กที่บ่งบอกถึงคุณภาพน้ำในชุมชน มีการฝึกปฏิบัติเพื่อสำรวจแหล่งน้ำในคลองกะแดะ ๒ จุด ได้แก่ บริเวณตลาดกาญจนดิษฐ์ (กลางน้ำ) พบปลาเข็ม, กุ้งฝอย, หอยกาบ, หอยเจดีย์ บ่งบอกว่าคุณภาพน้ำในบริเวณดังกล่าวพอใช้ได้และชุมชนบ้านปากกะแดะ (ปลายน้ำ) สำรวจ ๒ จุด คือ ศาลาท่าน้ำบ้านปากกะแดะ, ศาลเจ้าไหหลำปากกะแดะ, ท่าน้ำใกล้ร้านอาหารเคียงเลซีฟู้ด พบปลาขี้จีน, ปลาบู่ทราย, กุ้งฝอย, กุ้งหนวดแดง และหอยฝาเดียวหลายชนิด บ่งบอกคุณภาพน้ำสะอาดพอใช้ได้
- ปลูกป่าชายเลน เดือนมีนาคม ๒๕๕๙ ชุมชนบ้านปากกะแดะสองฝั่งคลอง ร่วมกับส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ ๑๔, นักศึกษาวิชาการ, กอ.รมน., โรงเรียนบ้านปากกะแดะ และจิตอาสาจำนวนมาก ร่วมปลูกป่าชายเลนเสริมในพื้นที่สะพานลิง (สะพานวอล์คเวย์) ด้านในอ่าวปากกะแดะ จำนวน ๑,๐๐๐ ต้น เพื่อเสริมป่าชายเลนที่หักล่มโค่นเป็นประจำทุกปี ในช่วงลมอุตตรา หรือคลื่นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมและร่วมกันปล่อยหอยจำนวนมาก โดยจากการติดตามผลหลังจากปลูกป่าแล้ว ๗ เดือน พบไม้โกงกางขึ้นใหม่ไม่ต่ำกว่า ๘๐% สูงขนาด ๑ เมตรรอบพื้นที่ด้านในอ่าว
- จัดทำแผ่นพับร่วมสร้างปากน้ำกะแดะให้ชุมชนน่าอยู่ จำนวน 300 ชุด ไวนิลโรลอัพ กิจกรรม จำนวน 8 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- อสม.
- กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน
- คณะทำงานโครงการ
- ชาวชุมชนสองฝั่งคลองกะแดะ ต.กะแดะ-ต.พลายวาส
- เยาวชนบ้านปากกะแดะสองฝั่งคลอง
- วิทยากรจากหน่วยงานภาครัฐ
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อประชุมวางแผนการดำเนินงานเวทีเสวนาร่วมสร้างปากกะแดะน่าอยู่
- ประชุมวางแผนการจัดเวทีเสวนาขับเคลื่อนปากกะแดะน่าอยู่ โดยมอบหมายความรับผิดชอบในการเชิญกลุ่มเป้าหมายจากสองฝั่งคลองกะแดะเข้าร่วม เนื่องจากเนื้อหาสาระของเวทีมีความสำคัญกับประมงพื้นบ้าน เพื่อได้ทราบความเคลื่อนไหวระดับจังหวัดของ พรก.ประมง รวมถึงการวางแผนขับเคลื่อนตำบลในอนาคตร่วมกันทั้งสองฝั่งคลอง
มอบหมายภารกิจ การเชิญกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
- ผูู้ประสานงานโครงการ ประสาน วิทยากร
- นายสุภาษิต อินทรภิรมย์ ประสานชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์
- นายสิทธิชัย วรสิทธิกร ประสานชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.กะแดะ
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา ประสานเยาวชนนักสืบสายน้ำโดยเลี้ยงอาหารเป็นโล้งโต้ง สำหรับคนจำนวน 100 คน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กลุ่มประมงพื้นบ้าน
- อสม.
- คณะทำงานโครงการ
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา
- ออกหนังสือเชิญช้า และติดวันหยุดราชการจึงต้องใช้วิธีการโทรประสานเพื่อความมั่นใจว่าวิทยากรสามารถมาร่วมได้
- ช่วงปิดเทอมนัดหมายเยาวชนเข้าร่วมประชุมยาก
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อประชุมคณะทำงานเยาวชนเพื่อสรุปงานและวางแผนกิจกรรม
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา พี่เลี้ยงแกนนำเยาวชนบ้านปากกะแดะ ได้ชักชวนให้เยาวชนสรุปผลการสำรวจสายน้ำคลองกะแดะโดยการวาดภาพแผนที่สายน้ำบริเวณชุมชนบ้านปากกะแดะ ม.7 ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ และวาดภาพประกอบว่าในการสำรวจสายน้ำคลองกะแดะ
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา พี่เลี้ยงแกนนำเยาวชนบ้านปากกะแดะ ได้ชักชวนให้เยาวชนสรุปผลการสำรวจสายน้ำคลองกะแดะโดยการวาดภาพแผนที่สายน้ำบริเวณชุมชนบ้านปากกะแดะ ม.7 ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ และวาดภาพประกอบว่าในการสำรวจสายน้ำคลองกะแดะ ได้พบสัตว์น้ำขนาดเล็กอะไรบ้างโดยมีการแบ่งกลุ่มเยาวชนเป็นสามกลุ่ม เพื่อรับผิดชอบการวาดภาพในสามจุดที่มีการสำรวจ คือ
- ศาลาท่าน้ำบ้านปากกะแดะ
- ศาลเจ้าไหหลำปากกะแดะ
- บริเวณท่าน้ำปลายแหลมปากกะแดะ ใกล้ร้านอาหารเคียงเลซีฟู้ด
- จากการสำรวจที่ผ่านมา พบกุ้งฝอย กุ้งหนวดแดง หอยฝาเดียว ปลาขี้เกง ปลาบู่ทราย ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่อาศัยในน้ำค่อนข้างสะอาด และสามารถบริโภคได้บ่งบอกถึงสภาพความสะอาดของสายน้ำบริเวณปากน้ำกะแดะ
- ป้ายผ้าแผนที่สายน้ำ ที่วาดโดยเยาวชน โดยระบุสถานที่ และสัตว์น้ำแต่ละชนิดที่พบในบริเวณนั้น เพื่อใช้ในการนำเสนอในเวทีเสวนาอนุรักษ์ปากน้ำกะแดะให้ชุมชนน่าอยู่ จำนวน 1 ผืน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา (พี่เลี้ยงเยาวชน)
- แกนนำเยาวชน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อถอดบทเรียนการทำงาน และติดตามผลการปลูกป่าชายเลน
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา ซึ่งเป็นทีมวิทยากรและพี่เลี้ยงเยาวชน ได้ชวนพูดคุยถึงการดำเนินกิจกรรมทั้งหมดที่ผ่านมาที่เยาวชนได้เข้าร่วม
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา ซึ่งเป็นทีมวิทยากรและพี่เลี้ยงเยาวชน ได้ชวนพูดคุยถึงการดำเนินกิจกรรมทั้งหมดที่ผ่านมาที่เยาวชนได้เข้าร่วม ได้แก่ การปลูกป่าชายเลน และปฏิบัติการนักสืบสายน้ำ ซึ่งเยาวชนได้รับความรู้และประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยได้รับจากการเรียนในโรงเรียนการได้มาร่วมกิจกรรมของชุมชน เช่น ปลูกป่าชายเลน แม้จะทำเป็นประจำ เนื่องจากโรงเรียนบ้านปากกะแดะ และชุมชนดำเนินการร่วมกันมาตลอด แต่การมีพี่เลี้ยงจากนอกชุมชนมาร่วมให้ความรู้ และทำกิจกรรมสันทนาการก่อนดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทำให้มีความสนุก ผ่อนคลาย และอยากมีส่วนร่วมกับหลายๆกิจกรรมของชุมชน
- ในส่วนของปฏิบัติการนักสืบสายน้ำทำให้เยาวชนได้รู้จักสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นหลายประเภท กระบวนการเรียนรู้มีความสนุกสนาน ได้ปฏิบัติการจริงทั้งในชุมชนและนอกชุมชน เป็นประสบการณ์ใหม่ และอยากให้จัดขึ้นบ่อยๆจากนั้นได้เดินทางไปยังสะพานลิงเพื่อติดตามผลของป่าชายเลนที่มีการปลูกเมื่อเดือนมีนาคม 2559 พบว่า มีต้นโกงกางขึ้นใหม่จำนวนมาก จาก 1,000 ต้นที่ร่วมกันปลูกในครั้งนั้นคาดว่าเกิดป่าใหม่จำนวน 80% ในพื้นที่ด้านในของอ่าวปากกะแดะ
- เยาวชนได้ทบทวนกระบวนการ และการเรียนรู้ที่ผ่านมา
- เยาวชนได้ติดตามผลของการปลูกป่าชายเลน ที่มีไม้โกงกางขึ้นสูงประมาณ 100 เซนติเมตรจำนวนกว่า 80% ของที่ลงมือปลูก
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- แกนนำเยาวชน
- คณะทำงานโครงการ
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อถอดบทเรียนการทำงาน และติดตามปะการังเทียม
- ติดตามและสำรวจปะการังเทียม หรือ บ้านปลาบ้านหอยว่าใน 8 จุดที่ลงปะการังไว้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร
- ติดตามและสำรวจปะการังเทียม หรือ บ้านปลาบ้านหอยว่าใน 10 จุดที่ลงปะการังไว้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรโดยได้สำรวจจำนวน 6 จุดพบว่า บริเวณบ้านปลาบ้านหอย มีปลาขี้เกงอาศัยจำนวนมาก และมีหอยนางรมเกาะในเสาปูนอย่างน้อย 1-2 ตัวซึ่งทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงหลังสร้างบ้านปลาบ้านหอยในระยะ 7 เดือนและกลุ่มประมงชายฝั่ง ได้มีการทำแนวเขตโดยการปักไม้ไผ่ ทาสีแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าบริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่บ้านปลาบ้านหอย ณ จุดนั้น
- ได้มีการประชุมเพื่อถอดบทเรียนการทำงาน ที่พบว่าหลังจากมีการสร้างบ้านปลาบ้านหอยในพื้นที่ใกล้เคียงคอกหอยนางรมของกลุ่มแระมงพื้นบ้าน จนเกิดผลลัพธ์ชัดเจนในเรื่องของสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีคนต้องการสมัครเป็นสมาชิกของกลุ่มเพิ่มมากขึ้นและที่สำคัญคือ กฎที่กำหนดไว้ว่าสมาชิกกลุ่มจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนทุกครั้ง และให้ความร่วมมือในงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
- ได้แนวทางการขยายสมาชิกกลุ่มประมงชายฝั่งที่ทำงานอนุรักษ์ร้วมกันของสองตำบลที่มีพื้นที่ติดคลองกะแดะ และอ่าวปากกะแดะ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- กลุ่มประมงชายฝั่ง
- สมาชิกเข้าร่วมประชุมได้น้อย เพราะเป็นฤดูกาลออกเรือ
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อชี้แจงและแลกเปลี่ยนสถานการณ์กฎหมายและทรัพยากรชายฝั่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- นายธีรพันธ์ พวงสุนทร ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 ได้ชี้แจงสถานการณ์ป่าชายเลน
- นายประมวล รัตนานุพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและ แผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติได้อธิบายเนื้อหาของ พรบ.บริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
- นายปรีชา ด่านกุลชัย ผู้รับผิดชอบโครงการ ชี้แจงการดำเนินงานโครงการ
- นายธีรพันธ์ พวงสุนทร ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 ได้ชี้แจงสถานการณ์ป่าชายเลนในขณะนี้ว่าอำเภอกาญจนดิษฐ์ มีพื้นที่ติดอ่าวบ้านดอนได้แก่ คลองกระแดะแจะ, คลองเฉงอะ, คลองกะแดะ, คลองนุ้ย และคลองท่าทองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง และเพาเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ การทำนากุ้ง พบว่า มีการปล่อยทิ้งนากุ้งร้างมีป่าขึ้น จนจำเขตแดนเดิมไม่ได้ และบางส่วนมีการเปลี่ยนแปลงเอกสาร ภทบ.5 เป็นเอกสารสิทธิ์บุรุกเข้าไปในป่าชายเลน แต่ยังถือว่าน้อย เพราะมีสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งมากันอาณาเขตขากพื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 20% ช่วยป้องกันชายฝั่งได้เป็นอย่างดีในการดำเนินงานที่ผ่านมา ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ มีการทำป่าชุมชน ปี 2558 ชื่อว่า ป่าเลชุมชน กำหนดกติกาชุมชน ปล่อยหอยแครงเพิ่มเติมในพื้นที่ และเมื่อถึงฤดูกาลปล่อยให้มีการจับสัตว์น้ำเพื่อหากินเลี้ยงชีพสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน อ.ดอนสัก มีพื้นที่ป่าชายเลน 14,000 ไร่ มีเขตป่าสงวน พบการบุกรุก จากนั้นได้มีการเจรจาตามนโยบายทวงคืนผืนป่า ได้พื้นที่ป่าชายเลนคืนมา 10,000 ไร่, อ.ท่าฉาง และ อ.ไชยา มีการทำแนวเขตชุมชน ทำซั้งปลา หรือบ้านปลา กำหนดกติกาชุมชนสำหรับบ้านปากกะแดะ ต.กะแดะ เป็นพื้นที่ปลายน้ำมีปัญหาเรื่องขยะจำนวนมาก ซึ่งจะต้องหาแนวทางแก้ไขรวมถึงขอเสนอให้จัดหาพื้นที่เหมาะสมติดป่าชายเลน เพื่อทำป่าเลชุมชน ปลูกป่าเสริมด้านในอ่าว และปล่อยสัตว์น้ำเพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อน รวมถึงกำหนดกติกาชุมชน เพื่อช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลนของชุมชน
- นายประมวล รัตนานุพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและ แผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติได้อธิบายเนื้อหาของ พรบ.บริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไว้ว่า ตนในฐานะตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒืในกฎหมายฉบับนี้ ดูแลพื้นที่ ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี กฎหมายนี้เป็นกฎหมายของชาวบ้านที่มาจากชุมชนชายฝั่งอย่างแท้จริงจากตราด-นราธิวาส อ่าวบ้านดอนเป็นพื้นที่แรมซาไซต์อันดับหนึ่งของประเทศไทยจากปัญหา EU ให้ใบเหลืองเหตุเพราะระมงพาณิชย์ที่จับสัตว์น้ำแบบทำลายล้าง โดยการใช้เรดาร์สำรวจบริเวณที่มีปลาชุกชุมและจับภายในระยะเวลาคืนเดียว แตกต่างจากประมงชายฝั่งที่หากินแบบไม่ทำลายล้าง แต่ยังพบการใช้ลอบงู หรือ ไอ้โง่ที่ไม่โง่ตามชื่อ เพราะสามารถจับสัตว์ทุกอย่างได้ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ใต้ดิน ขอแจ้งว่าจากนี้ทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะดำเนินการจับจริงสำหรับคนที่ใช้เครื่องมือทำลายล้างในการจับสัตว์น้ำและในเรื่องการรื้อคอกหอยนางรมที่บุกรุกแนวเขตน่าน้ำในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ อยู่ในระหว่างการเตรียมการ ขนำหรือคอกหอยของใครที่อยู่ในระยะชิดชายฝั่งน้อยหว่า 1 กิโลเมตรจะต้องถูกรื้อถอน ซึ่ง อ.ท่าฉางได้มีการรื้อถอนแล้ว
- นายปรีชา ด่านกุลชัย ผู้รับผิดชอบโครงการ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาได้มีการปลูกป่าชายเลนเสริมในพื้นที่ด้านในของอ่าวปากกะแดะ โดยได้รับความร่วมมือจากชุมชน ทหาร เยาวชน และจิตอาสาจำนวนมากรวมถึงมีการวางปะการังเทียม ที่ทำด้วยเสาปูนวางในลักษณะ ซอม คือ เสาสามขาวางพิงกัน จำนวน 20 ชุด เพื่อเพิ่มพื้นที่แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนแต่กรณีการจัดทำป่าเลชุมชน ยังอยู่ในระหว่างการรอมติที่ประชุมของจังหวัด ว่าแนวเขตน่านน้ำของ อ.กาญจนดิษฐ์ มีระยะเท่าไหร่กันแน่ที่ห้ามบุกรุก เนื่องจากยังขาดความชัดเจน แต่ ต.กะแดะ และ ต.พลายวาส มีพื้นที่สาธารณะในทะเลจำนวนกว่าร้อยไร่ สามารถจัดทำแนวเขตป่าเลชุมชนได้ในอนาคต
- ชุมชนได้รับทราบสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับป่าชายเลนและทรัพยากรชายฝั่งในระดับจังหวัด ซึ่งเกี่ยวข้องกับประมงชายฝั่งในชุมชน เพื่อทราบความก้าวหน้า
- มีการนัดหมายพูดคุยเพื่อหารือแนวทางการจัดทำป่าเลนชุมชน ร่วมกับสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 ในโอกาสต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กลุ่มเยาวชน
- กรรมการชุมชน
- ผู้นำหมู่บ้าน ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
- อสม.
- กลุ่มประมงพื้นบ้าน
- ประชาชนในพื้นที่
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์และรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะของชุมชน
- ผลิตไวนิลประชาสัมพันธ์ติดตั้งถาวรในศาลาประชาคมหมู่บ้าน
- ไวนิลรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ จำนวน 2 ผืน แล้วนำไปติดในชุมชน ในศาลาประชาคมหมู่บ้านเพื่อให้เป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ และรณรงค์ให้คนในชุมชนไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- ศาลาเอนกประสงค์บ้านปากกะแดะ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อประชุมวางแผนการดำเนินงาน
- ประชุมคณะทำงานเพื่อชี้แจงการสิ้นสุดโครงการ และได้ทำเรื่องขอขยายเวลาโครงการ 1 เดือน
- ประชุมคณะทำงานเพื่อชี้แจงการสิ้นสุดโครงการ และได้ทำเรื่องขอขยายเวลาโครงการ 1 เดือน คือเดือนตุลาคม 2559 โดยมีกิจกรรมหลักที่ยังไม่ได้ดำเนินการ ได้แก่ อบรมข้อกฎหมายครั้งที่ 2, ถอดบทเรียนคณะทำงาน, เวทีคืนข้อมูลชุมชน และเสวนาร่วมสร้างชุมชนปากกะแดะให้น่าอยู่ซึ่งจะต้องดำเนินการทั้งหมด ไม่เช่นนนั้นจะต้องคืนเงินแก่ สสส.
- มีมติกำหนดกิจกรรม ดังนี้
- ถอดบทรียนคณะทำงาน 2 ครั้ง โดยแบ่งเป็นถอดบทเรียนเยาวชนกรณีการปลูกป่าชายเลน และถอดบทเรียนคณะทำงานและติดตามผลลัพธ์ของปะการังเทียม
- อบรมข้อกฎหมาย ครั้งที่ 2 วันที่ 14 ตุลาคม 2559 โดยเชิญผู้อำนวยการสถานีและพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 และ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการประมงชายฝั่งระดับชาติ มาร่วมให้ความรู้และแลกเปลี่ยน
- เวทีเสวนาให้กำหนดวันร่วมกันอีกครั้ง
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- ติดช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชุมชนปากกะแดะ ทำให้ช่วงดังกล่าวไม่สามารถดำเนินกิจกรรมใดๆในชุมชนได้ เพราะกรรมการชุมชน และคนในชุมชนจะต้องช่วยงานของศาลเจ้าไหหลำปากกะแดะ
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อแลกเปลี่ยนและร่วมกิจกรรมงานสมัชชาคนใต้สร้างสุข
- ร่วมกิจกรรมการเสวนาวิชาการคนใต้สร้างสุข
- ร่วมแลกเปลี่ยนผลการดำเนินงานชุชนท้องถิ่นภาคใต้
- เข้าร่วมรับฟังการดำเนินงานโครงการชุมชนน่าอยู่ในกลุ่มย่อย ที่มีการถอดบทเรียนการทำงานหลายประเด็น ที่เด้กและเยาวชน การจัดการขยะ การจัดการทรัพยากร ทำให้ได้รับแนวทางใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนงานชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่จากจังหวัดอื่นๆ และสามารถนำมาปรับใช้กับชุมชนบ้านปากกะแดะได้
- เห็นภาคีเครือข่ายการทำงานของ สสส. สจรส.มอ. สปสช. สช. ที่สามารถหนุนเสริมการทำงานของชุมชนได้
- ได้แนวคิด รูปแบบ วิธีการจัดนิทรรศการที่หลากหลาย สามารถนำไปปรับใช้ได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นายปรีชา ด่านกุลชัย
- นางสาวกรรณิการ์ แพแก้ว
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อทดลองปฏิบัติ และเก็บข้อมูลแหล่งน้ำคลองกะแดะบริเวณปลายน้ำ
- วิทยากรและพี่เลี้ยงแบ่งเยาวชนเป็นสามกลุ่ม และแจกเครื่องมือประกอบสำหรับการสำรวจสายน้ำ
- เยาวชนลงพื้นที่เก็บตัวอย่าง
- สรุปผลการเก็บข้อมูล
- วิทยากรและพี่เลี้ยงแบ่งเยาวชนเป็นสามกลุ่ม และแจกเครื่องมือประกอบด้วย คู่มือสัตว์น้ำขนาดเล็ก, แว่นขยาย, สวิงตาถี่, ถ้วยและกระบะใส่น้ำเพื่อให้เยาวชนได้ทดลองสำรวจสัตว์น้ำบริเวณบ้านปากกะแดะ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำของคลองกะแดะโดยมีการเก็บตัวอย่างจำนวน 3 จุด ได้แก่
- บริเวณท่าน้ำใกล้ร้านอาหารเคียงเล
- บริเวณสะพานศาลเจ้าไหหลำปากกะแดะ
- บริเวณท่าน้ำชุมชนปากกะแดะ
- จากนั้นเยาวชนสำรวจว่าสัตว์น้ำที่ใช้สวิงตักว่ามีสัตว์น้ำอะไรบ้าง โดยทำการเปิดคู่มือเพื่อตรวจสอบว่าเป็นสัตว์น้ำชนิดไหน อาศัยอยู่ในน้ำลักษณะแบบใด แล้วจึงบันทึกผลลัพธ์ลงในกระดาษฟลิปชาร์ตของกลุ่ม
- จากการสำรวจสัตว์น้ำทั้ง 3 จุด พบว่ามีสัตว์น้ำในแหล่งน้ำคลองกะแดะ ประกอบด้วย กุ้งหนวดแดง, กุ้งฝอย. ปลาขี้จีน, ปลาบู่ทราย, หอยฝาเดียว เป็นสัตว์น้ำชนิดรับประสานน้ำบ่งบอกว่าบริเวณเหล่านี้มีสภาพน้ำค่อนข้างสะอาด
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชนบ้านปากกะแดะ
- คณะทำงานโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อเตรียมความพร้อมงานสร้างสุขภาคใต้ 2559- เพื่อจัดทำรายงานงวดที่ 2
- พี่เลี้ยงชี้แจงรายละเอียดงานสร้างสุข
- เจ้าหน้าที่ สจรส.มอ. ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการเงิน
- เจ้าหน้าที่ สจรส.มอ. ตรวจรายละเอียดรายงานผลการดำเนินงาน
- เพิ่มเติมรายละเอียดรายงานกิจกรรมลงในเว็บไซต์คนใต้สร้างสุขให้ครอบคลุม ครบถ้วน
- พี่เลี้ยงโครงการ นางสาวกัญนภัส จันทร์ทอง ชี้แจงรายละเอียดงานสร้างสุขภาคใต้ ปี 2559 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3-5 ตุลาคม 2559 โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญคือ ให้ใช้เงิบงบประมาณในส่วนของค่าประชุมกับ สจรส. มอ. 10000 บาท ที่ สสส. มอบให้เป็นค่าเดินทาง ให้จองห้องพักด้วยตนเองตามรายชื่อห้องพักที่แนะนำมา ซึ่งอยู่บริเวณหอประชุมนานาชาติ ม.อ. สำหรับพื้นที่ที่จัดกิจกรรม คือ บ้านถ้ำผุด และบ้านเขาปูน ให้เป็นตัวแทนของ จ.สุราษฎร์ธานี จัดนิทรรศการและผลงานในแนวคิด "สุราษฎร์ธานีเมืองสมุนไพร"
- เอกสารการเงินมีความถูกต้อง ผ่านการตรวจสอบจากทีมงาน สจรส. ม.อ. แล้ว
- รายละเอียดกิจกรรม มีเนื้อหาและอธิบายกระบวนการครอบคลุม
- บันทึกข้อมูลลงเว็บไซต์เป็นปัจจุบันจนถึงวันที่ 17 กันยายน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นายปรีชา ด่านชัยกุล คณะทำงานโครงการ
- นางสาวกรรณิการ์ แพแก้ว อาสาสมัครพื้นที่
- กิจกรรมใหญ่ยังดำเนินการไม่ครบถ้วน เนื่องจากสัมพันธ์กับกิจกรรมนักสืบสายน้ำ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลาโครงการ ต้องขอขยายเวลาโครงการ เพื่อให้ได้ปฏิบัติงานครบทุกกระบวนการที่สำคัญที่กำหนดไว้ในแผนงาน
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับของสัตว์น้ำขนาดเล็กในน้ำจืด
- นักเรียนโรงเรียนบ้านปากกะแตะ ในระดับชั้น ป.3-ป.6 รวมจำนวน 42 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติการนักสืบสายน้ำครั้งที่ 2 กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา ซึ่งเป็นทีม สันทนาการเพื่อละลายพฤติกรรมก่อนเข้าบทเรียน โดยแบ่งกลุ่มย่อยโดยอ้างอิงกลุ่มเดิมจากการอบรมเชิงปฏิบัติการนักสืบสายน้ำครั้งที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มย่อยจำนวน 5 กลุ่ม คละระดับชั้น มีการทบทวนบทเรียนเรื่องสัตว์น้ำขนาดเล็ก ประเภทชนิดนี้ในทุกกลุ่ม ได้แก่
- หอยเจดีย์
- มวนน้ำ
- แมลงอ่อนซิกโก้
- กุ้งฝอย
- แมงชีปะขาว และลักษณะของน้ำที่สัตว์เหล่านั้นอยู่อาศัย ว่าเป็นน้ำดี หรือน้ำเสีย
- ทีมวิทยากรนัดหมายการจัดกิจกรรมอาสาสมัครปฏิบัติการนักสืบสายน้ำ ครั้งที่ 3 ในวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2559 เวลา 12.00-15.00 น. โดยขอให้เยาวชนอาสาสมัครมาเข้าร่วมกิจกรรมด้วยตนเองมีนักเรียนส่งรายชื่อเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 10 คน
- นักเรียนโรงเรียนบ้านปากกะแดะ จำนวน 5 กลุ่ม ได้ทบทวนบทเรียนเกี่ยวกับชนิดของสัตว์น้ำขนาดเล็กโดยสัตว์น้ำที่นักเรียนจดจำได้มากที่สุด คือ มีชื่อสัตว์น้ำชนิดนี้ในทุกกลุ่ม ได้แก่
- หอยเจดีย์
- มวนน้ำ
- แมลงอ่อนซิกโก้
- กุ้งฝอย
- แมงชีปะขาว
- นักเรียนยังจดจำประเภทน้ำที่สัตว์แต่ละชนิดอาศัยอยู่ไม่ได้ยังมีการตอบคำถามผิดว่าสัตว์ชนิดใดอาศัยอยู่ในน้ำประเภทใด
- มีแผนกิจกรรมปฏิบัติการนักสืบสายน้ำ ครั้งที่ 3 ในวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2559 เวลา 12.00-15.00 น. โดยขอให้เยาวชนอาสาสมัครมาเข้าร่วมกิจกรรมด้วยตนเองมีนักเรียนส่งรายชื่อเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 10 คน
- เด็กนักเรียน มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดคลองกะแดะ และบริเวณฝายกั้นน้ำ
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ จำนวน 10 คน
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา (วิทยากร) จำนวน ุ6 คน
- นักเรียนโรงเรียนบ้านปากกะแดะ จำนวน 42 คน
- บ้านปากกะแดะอยู่บริเวณริมอ่าวปากกะแดะ ซึ่งทำให้สภาพน้ำในคลองเป็นน้ำกร่อยทำให้พบสัตว์น้ำน้อยชนิด และไม่หลากหลาย
- การเดินทางออกนอกพื้นที่ชุมชน หรือโรงเรียน เพื่อค้นหาพื้นที่เหมาะสมในการตรวจสัตว์น้ำ ไม่สามารถเดินทางไปได้ไกลนัก เนื่องจากความปลอดภัยของเยาวชนซึ่งส่วนใหญ่อายุค่อนข้างน้อย ทำให้ผู้ปกครองเป็นห่วงจึงต้องเน้นค้นหาและตรจสัตว์น้ำในพื้นที่ใกล้ชุมชน หรือโรงเรียน โดยมุ่งเน้นไปในเรื่องของความรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำ และการทำงานกลุ่ม
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อทดลองปฏิบัติ และเก็บข้อมูลแหล่งน้ำคลองกะแดะบริเวณกลางน้ำ
- ทดสอบตักน้ำบริเวณฝายน้ำล้นใกล้ตลาดกาญจนดิษฐ์ มาตรวจหาสัตว์น้ำ
- สรุปผลการทดลองปฏิบัติ
- เชื่อมโยงสภาพน้ำไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหา
- น้องๆ ที่ร่วมโครงการ 8 คนได้ช่วยกันใช้สวิงช้อนลงไปในลำน้ำ ได้สัตว์ต่างๆมาหลายประเภท จากนั้นได้นำมาใส่ถ้วยเล็กๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ตามหลักวิชาการว่าจากสัตว์หน้าดินต่างๆ ที่พบมันบอกถึงอะไร เช่น ปลาเข็ม น้องๆ บอกว่าคุณภาพน้ำไม่ค่อยสะอาดกุ้งฝอย เป็นตัวบ่งบอกว่าน้ำไม่ค่อยสะอาด แต่กุ้งนั้นยังสามารถบริโภคได้ หอยกาบ และหอยเจดีย์ ตัวบ่งบอกถึงคุณภาพน้ำยังคงดีอยู่ แต่จากการค้นหาอยู่หลายรอบ เราไม่เจอจิ้งโจ้น้ำ เราไม่เจอตัวอ่อนแมลงปอ เราไม่เจอชีปะขาว นั่นแสดงว่าคุณภาพน้ำบริเวณนี้ค่อนข้างไม่สะอาดจำเป็นต้องหาวิธีปรับปรุงให้น้ำมีคุณภาพดีขึ้น นี่คือผลสรุปที่น้องๆตัวเล็กๆใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค้นหาความเป็นไปของสายน้ำ
- เด็กหญิงจีระนันท์ แซ่ด่านบอกว่า วันนี้สนุกมาก ที่ได้ร่วมกิจกรรมใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์และเราต้องแนะนำชาวบ้านว่าอย่าทิ้งขยะลงในลำคลอง น้ำเสียก็ไม่ควรปล่อยลงลำคลอง และจะร่วมโครงการอีกหากมีการจัดขึ้น
- เด็กชายอภินันท์ ศิลา ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่บอกว่าสนุกมากชอบด้วยอยากให้มีการจัดกิจกรรมอีก ซึ่งปกติตนเองและเพื่อนวันหยุดจะไปรวมกันที่ร้านเกมส์จะกลับบ้านอีกทีก็ตอนเย็นๆ มาทำงานแบบนี้สนุกกว่าและจะนำเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ไม่ได้มาร่วมฟังด้วยรวมถึงจะแนะนำเพื่อนๆว่าเราไม่ควรทำให้ลำลคลองสกปรก
- จากการสำรวจทำให้ทราบถึงประเภทของสัตว์น้ำขนาดเล็ก และคุณภาพน้ำบริเวณตลาดกาญจนดิษฐ์ที่พบ ได้แก่ ปลาเข็ม กุ้งฝอย หอยกาบ หอยเจดีย์
- แนวทางการแก้ไขคุณภาพน้ำ คือ ไม่ทิ้งขยะมูลฝอย การบำบัดน้ำเสียของตลาดก่อนปล่อยลงลำคลองสาธารณะ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กรรมการชุมชนบ้านปากกะแดะ จำนวน10 คน
- ตัวแทนเยาวชนบ้านปากกะแดะ จำนวน 15.คน
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา จำนวน 4 คน
- สื่อมวลชน 1 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อสร้างแกนนำเยาวชนอนุรักษ์สายน้ำกะแดะผ่านเครื่องมือนักสืบสายน้ำ- เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้กับเยาวชนในการอนุรักษ์สัตว์น้ำในพื้นที่บ้านกะแดะ อ่าวบ้านดอน
- เวลา 12.30 น.-16.00 น. ได้จัดกิจกรรมอบรมนักสืบสายน้ำ โดยมีเด็กนักเรียนเรียนจาก 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนบ้านปากกะแดะ, โรงเรียนวัดกาญจนาราม และโรงเรียนกาญจนดิษฐ์ เข้าร่วมเป็นทีมอาสาสมัครนักสืบสายน้ำ รู้น้ำกับชีวิต โดยมีวิทยากรนำโดย นางสาวนงเยาว์ ยุทธชนะ และทีมได้บรรยายจำนวน 4 ชั่วโมง โดยมีเนื้อหาในการบรรยาย ประกอบด้วย
1) ความจำเป็นของน้ำต่อสิ่งแวดล้อม และสิ่งมีชีวิต
2) เรียนรู้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในน้ำจืด วิทยากรสอนการอ่านคู่มือสัตว์น้ำขนาดเล็ก
3) ทดลองปฏิบัติ ค้นหาประเภทของสัตว์น้ำขนาดเล็กว่าเป็นสัตว์อะไร อยู่ในน้ำประเภทไหน
4) บันทึกข้อมูลการเรียนรู้ และนำเสนอรายกลุ่ม
5) ทดลองตักน้ำบริเวณใกล้เคียงมาตรวจว่าพบสัตว์น้ำประเภทไหนบ้าง
- เยาวชนรู้จักสัตว์น้ำขนาดเล็ก
- เยาวชนฝึกทดลองปฏิบัติการตรวจสัตว์น้ำในลำคลอง
- เยาวชนได้ฝึกการทำงานเป็นทีม และการนำเสนอข้อมูล
- เด็ก เยาวชน มีความรู้ ความเข้าใจเนื้อหาการบรรยาย ประกอบด้วย
1) ความจำเป็นของน้ำต่อสิ่งแวดล้อม และสิ่งมีชีวิต
2) เรียนรู้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในน้ำจืด วิทยากรสอนการอ่านคู่มือสัตว์น้ำขนาดเล็ก
3) ทดลองปฏิบัติ ค้นหาประเภทของสัตว์น้ำขนาดเล็กว่าเป็นสัตว์อะไร อยู่ในน้ำประเภทไหน
4) บันทึกข้อมูลการเรียนรู้ และนำเสนอรายกลุ่ม
5) ทดลองตักน้ำบริเวณใกล้เคียงมาตรวจว่าพบสัตว์น้ำประเภทไหนบ้าง
- เกิดกลุ่มเด็กอาสาสมัคร จำนวน 15 คน เป็นแกนนำในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำบ้านกะแตะ อ่าวบ้านดอน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
นักเรียนโรงเรียนบ้านปากกะแดะ ระดับ ป.3-ป.6 จำนวน 53 คน
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 จำนวน 4 คน
กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา จำนวน 3 คน
- ไม่สามารถประสานเยาวชนจากโรงเรียนอื่นได้ เนื่องจากเป้าหมายโครงการไม่ตรงกับแนวทางของโรงเรียนนั้น
-
-
- เพื่อสร้างจิตสำนึก และกระบวนการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- เชิญวิทยากรมาอบรม เรื่อง นักสืบสายน้ำ ให้กับเยาวชน
- เป็นการอบรมนักสืบสายน้ำวันที่ 1 โดยวิทยากรเน้นเรื่องการสังเกตคุณภาพน้ำ การดูสัตว์ที่เป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของน้ำ เป็นการเรียนภาคทฤษฎีให้เข้าใจก่อนที่จะมีการลงปฏิบัติการจริงในวันต่อไป
- เห็นถึงความตั้งใจจริงของวิทยากร และเยาวชนที่เข้าร่วม จากเป้าหมายที่วางไว้ 40 คน แต่ทางโณงเรียนเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์จึงให้นักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.3 - ป.6 เข้าร่วม จำนวน 60 คน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นักเรียนโรงเรียนบ้านปากกระแดะ
- วิทยากรจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14
-
-
-
- เพื่อวางแผนและออกแบบกิจกรรมนักสืบสายน้ำ
- หารือแนวทางการจัดอบรมนักสืบสายน้ำ โดยค้นหาวิทยากรจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาเป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านปฏิบัติการนักสืบสายน้ำ
- ค้นหาพื้นที่เยาวชนที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการจาก 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดกาญจนาราม(พื้นที่ต้นน้ำคลองกะแดะ), โรงเรียนวัดพ่วง(พื้นที่กลางน้ำคลองกะแดะ) และ โรงเรียนบ้านปากกะแดะ (พื้นที่ปลายน้ำคลองกะแดะ)
- มอบหมายหน้าที่รับผิดชอบของคณะทำงาน และทีมวิทยากรสันทนาการ
- จากการประสานงานโรงเรียนวัดกาญจนาราม ได้รับการปฏิเสธในการเข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากแนวทางของโรงเรียนมุ่งเน้นไปที่การจัดการขยะ ไม่ได้เน้นเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- เป้าหมายหลักโรงเรียนบ้านปากกะแดะ เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากผู้อำนวยการและเยาวชนเป็นอย่างดีโดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมเป็นนักเรียนระดับ ป.3-ป.6
- วิทยากรหลัก ประสานสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 มาเป็นผู้ให้ความรู้และจัดกระบวนการ โดยวันแรกเป็นความรู้ภาคทฤษฎี วันที่สองเป็นภาคปฏิบัติ
- ประสานกลุ่มคนรุ่นใหม่ ใจอาสา เป็นวิทยากรสันทนาการ และพี่เลี้ยงเยาวชน
- มอบหมายให้มีการจัดเตรียมอาหาร/เครื่องดื่มมาเลี้ยงเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากช่วงเวลาที่ทางโรงเรียนอนุญาตให้ทำกิจกรรมได้ คือ 12.30-16.00 น. ของวันที่ 23-24 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเรียนรู้ที่ต่อเนื่องยาวนาน
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- สภาองค์กรชุมชนตำบลกะแดะ
- อสม.บ้านปากกะแดะ
- คณะทำงานโครงการ
- กรรมการชุมชน
- กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ของคลองกะแดะ ในพื้นที่ตำบลกะแดะ ไม่สามารถประสานงานได้เนื่องจากวัตถุประสงค์ของกิจกรรมไม่ตอบโจทย์ของโรงเรียนเหล่านั้นจึงมุ่งเน้นเป้าหมายที่โรงเรียนบ้านปากกะแดะ
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่ออนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในคลองกะแดะให้มีความสมบูรณ์ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
- เพื่อสร้างบ้านปลาและหอยในบริเวณอ่าวปากกะแดะ จำนวน 7 จุด
- เพื่อเพิ่มพื้นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำเขตชายฝั่ง
- สมาชิกมีการสำรวจพื้นที่วางปะการัง ว่าอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งเขตอนุญาตเพาะเลี้ยงหอยหรือไม่ เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายการเพาะเลี้ยงของอ่าวบ้านดอน
- สำรวจผู้ดูแลปะการัง เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงหลังสร้างบ้านปลาและหอย
- มีการจัดซื้อเสาปูนเพื่อทำปะการัง โดยว่าจ้างนายภควัฒน์ เจริญกิจ ในการหล่อเสาปูนให้ เพื่อใช้ในการทำปะการังให้เป็นที่อยู่อาศัยของปลาและหอยในพื้นที่บ้านกะแตระ อ่าวบ้านดอน
- เวลา 09.00 น. สมาชิกกลุ่มประมงพื้นบ้าน และกลุ่มหอยนางรม จำนวน 27 คน สมาชิกแบ่งกลุ่มสมาชิกออกเป็น 10 ชุด และได้ไปบรรทุกเสาปูนที่บ้านนายภควัฒน์ เจริญกิจ ซึ่งเป็นคนที่กลุ่มได้ว่าจ้างให้ทำเสาปูน ขนาด 4นิ้ว ยาว 1.7 เมตร ทั้งหมด 700 ต้น สมาชิกได้ใช้เรือหัวโทง เรือหางยาว จำนวน 7 ลำ บรรทุกเสาปูนไปวางในทะเลบ้านกะแตระะ เพื่อทำเป็นบ้านปลาและหอย เช่น นางรม หอยแมลงภู่ ในรอบที่ 2 จำนวน 7 ชุด รวม 10 ชุด โดยมีการเลือกพื้นที่การวางบ้านปลา และมีผู้ที่จะรับผิดชอบในพื้นที่
- สมาชิกกลุ่มประมงพื้นบ้าน และกลุ่มหอยนางรม จำนวน 27 คน สมาชิกแบ่งกลุ่มสมาชิกออกเป็น 10 ชุด และได้ไปบรรทุกเสาปูนที่บ้านนายภควัฒน์ เจริญกิจ ซึ่งเป็นคนที่กลุ่มได้ว่าจ้างให้ทำเสาปูน ขนาด 4 นิ้ว ยาว 1.7 เมตร ทั้งหมด 700 ต้น สมาชิกได้ใช้เรือหัวโทง เรือหางยาว จำนวน 7 ลำ บรรทุกเสาปูนไปวางในทะเลบ้านกะแดะ เพื่อทำเป็นบ้านปลาและหอย เช่น นางรม หอยแมลงภู่ ในรอบที่ 2 จำนวน 7 ชุด รวม 10 ชุด โดยมีการเลือกพื้นที่การวางบ้านปลา และมีผู้ที่จะรับผิดชอบในพื้นที่ ดังนี้
- นายพงษ์ศักดิ์ พรหมรณงค์
- นายแพรวพรรณ ศักดา
- นางศิริ วรสิทธิพร
- นางวนิดา เสทิน
- นายปราโมทย์ ด่านกุลชัย
- นายพิชัย ชุมแดง
- สมาชิกทั้งได้ร่วมมือร่วมใจในการวางปะการังจนแล้วเสร็จ ประมาณ บ่าย 2 โมง กลุ่มประมงพื้นบ้าน ร่วมแรงกันวางปะการังในเขตเพาะเลี้ยง
- เกิดเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ปลาและหอยในพื้นที่บ้านกะแดะ ทำให้เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน
- เกิดทีมในการทำงานร่วมกันของกลุ่มประมงพื้นบ้านและกลุ่มเลี้ยงหอยนางรม
- เกิดความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่บ้านกะแดะ ตลอดจนความมั่นในอาชีพและรายได้ของคนในพื้นที่ของกลุ่มประมงพื้นบ้าน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- กลุ่มประมงพื้นบ้าน
- กลุ่มผู้เลี้ยงหอยนางรม
- ฤดูน้ำหลาก ไม่สามารถวางปะการังได้ ทำให้ต้องเลื่อนกิจกรรม
ไม่มี
- พี้เลี้ยงได้ลงพื้นที่หนุนเสริมกิจกรรม ทำให้กลุ่มมีความเข้าใจในการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ (เช่น การสังเกตุปริมาณสัตว์น้ำหลังจากมีการวางปะการังไปแล้ว เช่น การเปลี่ยนแปลงของสัตว์น้ำ ปลา และหอย ในพื้นที่ )
- เพื่อสร้างกลไกขับเคลื่อนชุมชนน่าอยู่
- เพื่อเตรียมแผนการดำเนินงานในระยะที่สอง
- นายปรีชา ด่านกุลชัย ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้ชี้แจงความล่าช้าในการจัดกิจกรรมการวางปะการังเนื่องจากสภาพภูมิอากาศในพื้นที่มีคลื่นลมแรง และวัสดุที่ใช้ เช่น เสาปูน มีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะที่จะบรรทุกใส่เรือไปวางในทะเลได้ จึงได้มีการเลื่อนการทำกิจกรรมนี้ออกไปเพื่อความปลอดภัย และงบประมาณในงวดที่ 2 ยังไม่ได้รับจาก สสส.
- คณะกรรมการมีการวางแผนการวางปะการัง บริเวณอ่าวบ้านปากกะแตะ อ.กาญจนดิษย์ ครั้งที่ 2 จำนวน 7 จุด
- คณะกรรมการวางแผนและหารือการจัดอบรมนักสืบสายน้ำ ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2559
- ชี้แจงความล่าช้าในการจัดกิจกรรมโครงการที่ผ่านมา เนื่องจากงบประมาณของ สสส. งวดที่ 2 ล่าช้า ทำให้ต้องระงับบางกิจกรรมเนื่องจากเป็นเวทีใหญ่ จัดต่อเนื่อง ใช้งบประมาณสูง
- วางแผนการวางปะการัง ครั้งที่ 2 จำนวน 7 จุดโดยให้สมาชิกไปสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสม โดยต้องอยู่ในเขตอนุญาตเพาะเลี้ยงหอยนางรมอ่าวบ้านดอนและมีผู้ดูแลใกล้ชิด เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของสัตว์น้ำชายฝั่ง
- วางแผนและหารือการจัดอบรมนักสืบสายน้ำ ประกอบด้วยนักเรียนจาก 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนวัดกาาญจนาราม และ โรงเรียนบ้านปากกะแดะ
- ได้พื้นที่วางปะการัง จำนวน 7 จุด โดยมีผู้รับผิดชอบแต่ละฝ่าย ประกอบด้วย
- ฝ่ายประสานงานโรงเรียนและกลุ่มเป้าหมาย
- ฝ่ายเตรียมเนื้อหาการอบรม และประสานวิทยากร
- ฝ่ายจัดเตรียมอาหาร สถานที่
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- กลุ่มประมงพื้นบ้าน
- กลุ่มผู้เลี้ยงหอยนางรม
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อจัดทำรายงานปิดโครงการ งวดที่ 1
- ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการเงิน
- แก้ไขรายละเอียดการเงิน
- จัดทำรายละเอียดรายงานกิจกรรม
- พี่เลี้ยงโครงการตรวจสอบเอกสารการเงิน และมีการแนะนำการปรับแก้เอกสารอย่างถูกต้อง
- มีการจัดทำรายงานกิจกรรมโครงการเพิ่มเติม ให้มีเนื้อหาสาระที่ครบถ้วน
- สามารถจัดทำรายงานโครงการ และรายงานการเงิน ปิดโครงการ งวดที่ 1 ตามเวลาที่กำหนด และขออนุมัติงบประมาณโครงการในงวดที่ 2
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- นายปรีชา ด่านกุลชัย
- นางสาวกรรณิการ์ แพแก้ว
- พี่เลี้ยงโครงการ นางสาวกัญนภัส จันทร์ทอง
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อสร้างจิตสำนึก และกระบวนการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม- เพื่อเพิ่มพื้นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง
- ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 ให้ความรู้เรื่องการดูแลป่าชายเลน
- รับกล้าไม้จากส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 จำนวน 3,000 ต้น
- กลุ่มเยาวชน และชุมชนร่วมกันปลูกต้นโกงกางบริเวณพื้นที่ป่าชายเลน ด้านในสะพาน walk way ของชุมชนบ้านปากกะแดะ
- ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 โดยวิทยากร คือ นายวิชัย สมรูป ให้ความรู้เรื่องการดูแลป่าชายเลน โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญ คือ
โครงการป่า-เลชุมชนบ้านปากกะแดะ ที่สำนักงานมาร่วมกับโครงการร่วมอนุรักษ์ปากน้ำกะแดะให้ชุมชนน่าอยู่ เพื่อขยายพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่งป่าชายเลนโดยการสนับสุนนต้นกล้าโกงกางจำนวน 3,000 ต้นและพันธุ์หอยจุ๊บแจง จำนวน 2 กระสอบ ประมาณ 50 กิโลกรัม เพื่อปล่อยด้านในสะพาน walk way ปากน้ำกะแดะ หลังจากนี้ หากว่าทางชุมชนมีความต้องการในการอนุรักษ์ และฟื้นฟูป่าชายเลน ทางสำนักงานยินดีให้ความร่วมมือ
โครงการเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ โดยเป็นโครงการที่ดำเนินการร่วมกับ อบจ.สุราษฎร์ธานี โดยการสร้างสะพานศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ระยะที่ 2 (สะพาน walk way) ให้เชื่อมต่อจากสะพานเดิมเป็นรูปวงกลม สามารถเดินศึกษาธรรมชาติตลอดริมอ่าวปากกะแดะ มติที่ประชุมเสนอให้สร้างสะพานระยะที่ 2 โดยเชื่อมเส้นทางเดิมมาจนถึงข้างป้อมตำรวจปากกะแดะ
- ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 อนุเคราะห์พันธุ์ต้นโกงกาง จำนวน 3,000 ต้น ให้กับทางโครงการ โดยให้กลุ่มเยาวชน และชุมชนร่วมกันปลูกต้นโกงกางบริเวณพื้นที่ป่าชายเลน ด้านในสะพาน walk way ของชุมชน
- กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมมากกว่าที่กำหนดไว้และเกิดความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการร่วมเพิ่มพื้นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นกอ.รมน. ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14 โรงเรียนบ้านปากกะแดะ ประมงชายฝั่งนักศึกษาวิชาทหาร และชุมชน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- กอ.รมน.
- ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 14
- โรงเรียนบ้านปากกะแดะ
- ประมงชายฝั่ง
- นักศึกษาวิชาทหาร -ชุมชนสองฝั่งคลองกะแดะ -อาสาสมัคร
ไม่มี
ไม่มี
- เป็นการทดลองปลูกในฤดูร้อน ต้องตรวจสอบการรอดของต้นโกงกางที่ปลูกในระยะ 3 เดือนหลังจากนี้ ว่ามีอัตราการรอดสูงกว่าการปลูกช่วงปลายปีหรือไม่
- เพื่อสร้างจิตสำนึก และกระบวนการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- เพื่อสร้างพื้นที่แหล่งอาหารในชุมชน
- เพื่ออนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในคลองกะแดะให้มีความสมบูรณ์ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
- หารือตำแหน่งการวางปะการัง ครั้งที่ 1
- รวมสมาชิกช่วยกันขนท่อปูนปะการังลงเรือ และช่วยลงแรงในการลงปะการังสู่ทะเล
- กำหนดครั้งที่ 2 ประมาณเดือนเมษายน 2559
- ก่อนการวางประการัง มีการประชุมเพื่อวางแผนกำหนดจุดในการวาง และได้มีการจัดจ้างคนในชุมชนจัดทำท่อปูนซีเมนต์เตรียมเอาไว้แล้ว จำนวน 1000 ท่อ
- หารือตำแหน่งการวางปะการัง ครั้งที่ 1 เนื่องจากเดือนนี้น้ำทะเลหนุนสูง ไม่สามารถออกเรือไปได้ไกล จึงต้องวางปะการังในเขตน้ำตื้น ซึ่งมีเขตคอกหอยนางรมจำนวน 3 จุด ที่สามารถดำเนินการได้ โดยจะวางในคอกหอยในตำแหน่งดังนี้
- คอกหอยของนายประชา ไทยาพงศ์สกุล
- คอกหอยของนายปรีชา ชุลีธรรม
- คอกหอยสันติ ไทยาพงศ์สกุล
- รวมสมาชิกช่วยกันขนท่อปูนปะการังลงเรือ และช่วยลงแรงในการลงปะการังสู่ทะเล
- มีการกำหนดการวางประการัง ครั้งที่ 2 ประมาณต้นเดือนเมษายน 2559
- เกิดความร่วมมือในการทำงานของคนในชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นประโยชน์ร่วมของคนในชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ชุมชนสองฝั่งคลองกะแดะ
- ประมงชายฝั่ง
- ช่วงเวลาของกิจกรรม ทำได้ยากในช่วงเดือนนี้ เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง เรือประมงขนาดเล็กไม่สามารถฝ่าคลื่นออกไปได้
ไม่มี
- กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทะเล ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ชัดเจน เนื่องจากช่วงเวลาที่กำหนด (เดทไลน์โครงการ) ไม่ตรงกับฤดูกาลที่เหมาะสมในบางกิจกรรม
- เพื่อสร้างกลไกขับเคลื่อนชุมชนน่าอยู่
- เพื่อประชุมวางแผนการดำเนินงาน
- ประชุมหารือแนวทางการจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน และสร้างปะการัง และกำหนดผู้รับผิดชอบในแต่ละฝ่าย
ประชุมหารือแนวทางการจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน และสร้างปะการัง
1.ปลูกป่าชายเลน
- ปลูกป่าชายเลน ต้องมีกลุ่มจากภายนอกชุมชนมาร่วมดำเนินการ เพื่อประสานความร่วมมือและประชาสัมพันธุ์กิจกรรมสู่ภายนอก
- ต้องมีการสอบถามจำนวนพันธุ์ไม้จากสำนักงานบริหารทรัพยากรป่าชายเลนฯ เพื่อขอกล้าไม้มาปลูก
- ต้องตรวจสอบระดับน้ำ ว่าวันใดเหมาะสม น้ำไม่สูงเกินไปจนลงปลูกไม่ได้
2.สร้างปะการัง
- กำหนดให้มีการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มอนุรักษ์ โดยเน้นประมงชายฝั่งจากสองฝั่งคลอง ต.กะแดะ และ ต.พลายวาสมาเป็นคณะกรรมการ เพื่อปรึกษาหารือและวางแผนการจัดการทรัพยากรชุมชนร่วมกันโดยผู้ที่มาประชุมวันนี้เป็นสมาชิกทั้งหมด
- ปะการังใช้การจ้างหล่อท่อปูน ปักในเขตคอกหอยนางรมของสมาชิก เพื่อให้มีผู้ดูแลและรับผิดชอบ
- กำหนดวันวางปะการัง ต้องตรวจสอบว่าท่อปูนพร้อมให้ทำกิจกรรมได้วันใด โดยจะมีการประสานอีกครั้งหนึ่ง
3.กำหนดผู้รับผิดชอบในแต่ละฝ่าย ดังนี้
- นายปรีชา ด่านกุลชัย รับผิดชอบประสานการจ้างทำท่อปูน จำนวน 1,000 ชิ้น
- นายสุภาษิต อินทรภิรมย์ ประสานกล้าไม้
- นายประชา ไทยาพงศ์สกุล ประสานงานเยาวชนและนักเรียน
- นายสิทธิพร วรสิทธิกรรับผิดชอบอาหารทั้งสองกิจกรรม
4.มีการรวมกลุ่มเพื่อเป็นสมาชิกร่วมกันดูแลทรัพยากรสองฝั่งคลองกะแดะจากสองตำบลรวม 20 คน มีการกำหนดบทบาทความรับผิดชอบชัดเจน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ชาวชุมชนสองฝั่งคลอง
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
พี่เลี้ยง สจรส.และโครงการร่วมกันจัดทำรายงานงวดที่ 1
พี่เลี้ยง สจรส.และโครงการร่วมกันจัดทำรายงานงวดที่ 1
พี่เลี้ยง สจรส.และโครงการร่วมกันจัดทำรายงานงวดที่ 1 เอกสารการเงินได้รับการตรวจสอบ แนะนำการแก้ไขและต้องขยายเวลาดำเนินงานโครงการในงวดที่ 1 เนื่องจากมีการใช้จ่ายงบประมาณไม่ถึง ร้อยละ 50 ของงบประมาณโครงการ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะทำงาน
-
-
-
- เพื่อจัดทำรายงานงวดที่ 1 ส่ง สสส.
- จัดทำรายงานกิจกรรมที่ยังไม่ได้บันทึก
- ตรวจแก้เอกสารการเงิน
- สามารถบันทึกรายงานกิจกรรมที่ผ่านมาได้ทั้งหมด
- เอกสารการเงินได้รับการตรวจสอบ แนะนำการแก้ไขจากพี่เลี้ยง
- ต้องขยายเวลาดำเนินงานโครงการในงวดที่ 1 เนื่องจากมีการใช้จ่ายงบประมาณไม่ถึง ร้อยละ 50 ของงบประมาณโครงการ
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- นายปรีชา ด่านกุลชัย ผู้รับผิดชอบโครงการ
- คณะทำงานโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- ประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปผลกิจกรรมเดือนธันวาคม 2558
- ประชุมเพื่อสรุปผลการจัดกิจกรรมอบรมเครื่องมือประมง
- ที่ประชุมได้มีการประเมินผลการอบรมกฏหมายประมง พบว่า ทำให้ชาวบ้านเข้าใจกฏหมายประมงชายฝั่งเพิ่มขึ้นในหลายเรื่อง เช่น เครื่องมือที่ผิดกฎหมาย เขตพื้นที่ชายฝั่งที่กฏหมายกำหนดในประมงในการทำประมงแต่ละประเภท เรื่องการต่ออาชบัติเครื่องมือประมงและการต่อทะเบียนเรือ การจัดตั้งองค์กรชุมชน ตามกฏหมายประมงกำหนด การตั้้งกลุ่มอาชีพ ประมงชายฝั่ง
- การอบรมที่ผ่านมา มีผู้ให้ความสนใจมาก เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว จากที่วางแผนไว้ จะอบรม 80 คน แต่กลับมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน ทำให้อาหารไม่เพียงพอ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ปากกะแดะ
- ชุมชนยังต้องเรียนรู้เรื่องกฏหมายประมงที่ยังมีการเปลี่ยนแปลง ยังต้องติดตามมาตราที่ 34 ของกฏหมายประมงและกฏหมายลูกยังไม่เรียบร้อย
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อต้อนรับสื่อจาก สสส.มอ. มีการทำถ่ายทำลงพื้นที่โครงการ
- นำสื่อลงถ่ายทำในพื้นที่จะปลูกป่าชายเลน พื้นที่อนุรักษ์ของชุมชน พื้นที่จะลงบ้านปลา และพื้นที่ลำคลองที่จะทำกิจกรรมเรื่องคุณภาพน้ำและขยะ
- แกนนำและชุมชนมีความเข้าใจถึงสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์เพื่อความยั่งยืนของฐานทรัพยกรในท้องถิ่น โดยเรื่องป่าชายเลน เรื่องขยะ และเรื่องความมั่งคงทางอาหารทางทะเล เพราะได้มีการพูดคุยถอดบทเรียน ความรู้กับนายถนอม ขุนเพชร
- ทีมสื่อจาก สสส. ถ่ายทำสื่อโดยการสัมภาษณ์คณะทำงาน และลงไปถ่ายทำบรรยากาศชุมชนในพื้นที่จริง ที่คลองกะแดะ ปากน้ำกระแดะ พื้นที่จะปลูกป่าชายเลน พื้นที่อนุรักษ์ของชุมชน พื้นที่จะลงบ้านปลา และพื้นที่ลำคลองที่จะทำกิจกรรมเรื่องคุณภาพน้ำและขยะ
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- เจ้าหน้าที่ สสส.มอ จำนวน 8 คน
- คณะทำงานโครงการ 10 คน
- วันนี้ทีมถ่ายทำไม่สามารถลงดูพื้นที่ว่างบ้านปลาเนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อให้ชาวบ้านรู้ถึงกฏหมายประมง และ เครื่องมือที่ผิดกฎหมาย
- เชิญวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกฏหมายกับประมงชายฝั่ง และการจัดตั้งกลุ่ม องค์กรชุมชนตามกฏหมายประมง
- เชิญวิทยากรประมงอำเภอ นายประภาส ขาวหนูนา และ อ.ประวีณ จุลภักดี นายสุภาษิต อินทรภิรมณ์ นายเชวง กาญจนดิษฐ์ มาร่วมเป็นวิทยากร
การอบรมเรื่องข้อกฎหมายใหม่ และข้อกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงของการทำประมงและทรัพยากรชายฝั่งตามประกาศของ คสช. โดยเชิญวิทยากรที่มีความรู้จากประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประภาส ขาวหนูนา นายประวีณ จัลภักดี จากมูลนิธิป่าทะเลเพื่อชีวิต นายสุภาษิต อินทรภิรมณ์ และนายเชวง กาญจนดิษฐ์ ทำให้ชาวบ้านเข้าใจกฏหมายประมงชายฝั่งทำให้ชาวบ้านเข้าใจกฏหมายประมงชายฝั่งมากขึ้น โดยเรื่องที่อบรม คือ
- เครื่องมือที่ผิดกฎหมาย มีสาระสำคัญ
- เขตพื้นที่ชายฝั่งที่กฏหมายกำหนดในประมงในการทำประมงแต่ละประเภท
- เรื่องการต่ออาชบัติเครื่องมือประมงและการต่อทะเบียนเรือ
- การจัดตั้งองค์กรชุมชน ตามกฏหมายประมงกำหนด
- การตั้้งกลุ่มอาชีพ ประมงชายฝั่ง
- เครื่องมือที่ผิดกฎหมาย มีสาระสำคัญ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ปากกะแดะ
- มีคนสนใจมาเข้าร่วมอบรมเกินเป้าหมายที่วางไว้ จนทำให้ไม่มีอาหารพอสำหรับคนเข้าร่วมกิจกรรม
ไม่มี
ไม่มี
สร้างความเข้าใจเรื่องการจัดทำรายงาน และการจัดทำเอกสารการเงิน
แลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดทำรายงาน และการจัดทำเอกสารการเงิน
ผู้รับผิดชอบโครงการ และคณะทำงาน เข้าใจการจัดทำบัญชี รายรับ - รายจ่าย และการหักบัญชี ณ ที่จ่าย 1%
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะทำงาน
-
-
-
- เพื่อแลกเปลี่ยนการดำเนินงานโครงการท้องถิ่นน่าอยู่
- เพื่ออบรมการจัดทำรายงาน และการจัดทำเอกสารการเงิน
- พี่เลี้ยงโครงการ นางสาวกัญนภัส จันทร์ทอง สอนเรื่องการตัดทำรายงาน และการจัดทำเอกสารการเงินแบบหักภาษี ณ ที่จ่าย
ผู้รับผิดชอบโครงการ และคณะทำงาน เข้าใจการจัดทำบัญชี รายรับ - รายจ่าย ของโครงการมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการหักบัญชี ณ ที่จ่าย 1% โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ค่าตอบแทนวิทยากร ที่จ่ายตั้งแต่ 1000 บาทเป็นต้นไป ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% เพื่อนำส่งให้สรรพากร ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป วิธีการแก้ไข คือ ให้จ่ายค่าตอบแทนวิทยากรเป็นชั่วโมงละ 600 บาท x 1.5 ชั่วโมง เป็นเงิน 900 บาท จะได้ไม่ต้องหักภาษี
- ค่าจัดทำไวนิลโครงการ เป็นค่าจ้าง โครงการต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 แต่ถ้าเกิน 1000 บาท ทางร้านต้องจ่ายภาษีเงินได้ ร้อยละ 1 ด้วย
- ค่าอาหาร หากเกิน 5000 บาท ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 1
- สินค้าที่มีใบเสร็จ ใบกำกับภาษีจากร้านค้าแล้ว ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่ม เช่น ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าถ่ายเอกสาร
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นายปรีชา ด่านกุลชัย ผู้รับผิดชอบโครงการ
- นางสาวภัทรียา กลิ่นคล้าย คณะทำงาน
- ใบเสร็จร้านค้าในชุมชนไม่มีใบกำกับภาษี ต้องใช้ใบสำคัญรับเงินแทน
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อวางแผนการดำเนินกิจกรรมอบรมกฎหมาย
- ประชุมวางแผนการจัดกิจกรรมอบรมกฎหมายประมง และการเชิญวิทยากร
มีการเตรียมงานเป็นไปตามที่คาดหมายไว้ โดยที่ประชุมได้ชี้แจงการเชิญวิทยากรในการอบรม ดังนี้
- วิทยากรจากประมงอำเภอกาญจนดิษฐ์ได้ทำการเชิญเป็นที่เรียบร้อย
- มีการเชิญวิทยากรร่วมจากมูลนิธิป่า-ทะเลเพื่อชีวิต และเครือข่ายอ่าวบ้านดอนเป็นวิทยากรร่วมด้วย
- มีการกำหนดแนวทางการเชิญกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทั้งสองชุมชนฝั่งคลองกะแดะ คือ ชุมชน ม.7 ต.กะแดะ และชุมชน ม.6 ต.พลายวาส
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กรรมการชุมชน ม.7 ต.กะแดะ
- กรรมการชุมชน ม.6 ต.พลายวาส
- กลุ่มประมงพื้นบ้าน
- ครูโรงเรียนบ้านปากกะแดะ
- กิจกรรมล่าช้า เนื่องจากรอช่วงน้ำในคลองเพิ่มขึ้น ที่ส่งผลต่อการออกเรือประมง
-
-
- เพื่อคืนงานค่าเปิดบัญชี
- ทำเอกสารคืนเงินค่าเปิดบัญชี
- นายปรีชาได้รับเงินค่าเปิดบัญชีโครงการคืน 500 บาท
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นายปรีชา ด่านกุลชัย
-
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อผลิตสื่อรณรงค์เขตปลอดบุหรี่ในพื้นที่
- สั่งผลิตไวนิลตามขนาดที่โครงการกำหนด
- ได้สื่อรณรงค์ตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด คือ ป้ายรณรงค์เขตปลอดบุหรี่ในสถานที่ประชุม เพื่อนำมา ติดตั้งภายในชุมชน ในสถานที่ประชุม ให้คนในชุมชนได้เกิดจิตสำนึกในการไมาสูบบุหรี่
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กองเลขาคณะทำงาน
-ไม่มี-
-ไม่มี-
-ไม่มี-
- เพื่อหารือปฏิทินงานตามแผนงานโครงการ และมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ
- ชี้แจงรายละเอียดโครงการ และการสนับสนุนงบประมาณของ สสส.
- วางแผนกิจกรรมในแต่ละเดือน
- มอบหมายภารกิจรับผิดชอบ
จากการประชุม สามารถสรุปผลการประชุมได้ดังนี้
- กำหนดการจัดเวทีอบรมกฎหมายประมงพื้นบ้าน โดยเป็นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
- แบ่งการจัดอบรมเป็น 2 วัน วันแรกอบรมกฎหมาย โดยเชิญนิติกรสำนักงานประมงจังหวัด, ประธาน ทสจ.สุราษฎร์ธานี และเครือข่ายประมงพื้นบ้านใน อ.กาญจนดิษฐ์ มาร่วมนำเสนอแลกเปลี่ยน วันที่สอง กำหนดกฎกติกาชุมชนในกลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านปากกะแดะ
- จะต้องให้ได้กฎกติกากลุ่ม เพื่อเป็นผลเชื่อมโยงไปสู่การดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ในชุมชนและภายใต้โครงการ
- สถานที่ใช้ศาลาโรงเรียนบ้านปากกะแดะ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ และนักเรียนได้มาร่วมเรียนรู้ด้วย
- ประสานผู้เข้าร่วมภายใน 2 ชุมชนริมคลองกะแดะ คือ หมู่ 7 ต.กะแดะ และ หมู่ 6 ต.พลายวาสเข้าร่วม โดยแจ้งในเวทีประชุมหมู่บ้าน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กรรมการหมู่บ้าน 10 คน
- คณะทำงานโครงการ 5 คน
- อสม. 5 คน
- งบประมาณมาช้า ทำให้ต้องเลื่อนแผนกิจกรรมออกไปทุกแผน อย่างน้อย 1 เดือน
-ไม่มี-
-ไม่มี-
- เพื่อทราบแนวทางการดำเนินโครงการ
- กระบวนการติดตามสนับสนุนโครงการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ภาคใต้ การทำงานร่วมกันระหว่าง สจรส.ม.อ. โดย ผศ.ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ
- สังเคราะห์ผลของโครงการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ โดยคุณถนอม ขุนเพ็ชร์
- การเข้าใช้ระบบเวบไซต์คนใต้สร้างสุข www.happynetwork.org โดย คุณภานุมาศ นนทพันธ์ และคุณสุทธิพงษ์ อุสาหพงษ์สิน
- ผู้รับผิดชอบโครงการกรอกข้อมูลรายละเอียดโครงการลงในเว็บไซต์รายละเอียดโครงการ (วัตถุประสงค์ ตัวชี้วัด กิจกรรม และงบประมาณ) แผนภาพเชิงระบบโครงการกำหนดปฏิทินการดำเนินงานใน 1 ปี รายงานผู้รับผิดชอบ
- การบริหารจัดการโครงการการรายงานผลผ่านเว็บไซต์ การทำรายงานโครงการและรายงานการเงิน โดย อ.กำไล สมรักษ และนางสุดา ไพศาล
- ทำรายงานบันทึกกิจกรรมประชุมปฐมนิเทศโครงการ
- สสส. = สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ นำเงิยภาษีเหล้าบุหรี่ = 100 + 2% มาใช้ในการทำงานพัฒนา โดยมีจุดมุ่งหมาย = พัฒนาขีดความสามารถของคน ----> ความสามารถของชุมชน---->ชุมชนเข้มแข็งจัดการตนเองได้----->สุขภาวะของชุมชน
- ชุมชนน่าอยู่ = ชุมชนจัดการตนเองได้ ในเรื่องรู้จักใช้ข้อมูล รู้จักวางแผนการทำงานเป็นขั้นตอน รู้จักบริหารจัดการงาน/คน/เงิน มีกลไกในการขับเคลื่อนชุมชน มีกลุ่มที่กระตือรือร้นที่จะจัดการกับงาน มีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้
- สจรส.มอ. = สถาบันการจัดการระบบสุขภาพมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีทีมพี่เลี้ยงระดับจังหวัด = หนุนเสริม ช่วย = ตัวช่วย ไม่ตรวจสอบ
กิจกรรมที่ต้องลงใน website
- ปฐมนิเทศ วันนี้3-4 ตุลาคม 58 อาคารเรียนรวม 5 ม.วลัยลักษณ์ จ.นครศรีฯ ใช้เงินไปเท่าไร
- การประชุมชี้แจงชุมชน (พี่เลี้ยงลงครั้งที่1 )
- ต้องมีการรายงานผลการดำเนินงานกับที่ประชุม คณะกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชน และการปิดงวดแต่ละครั้งต้องแนบรายงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชน ถ้าไม่มีรายงานจะไม่ปิดงวดให้
การลงของพี่เลี้ยงอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง - ปิดงวด
- สังเคราะห์ / ทำรายงาน
- (การให้ สจรส. ตรวจสอบ)
- กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การทำเอกสารการเงินอย่างน้อย 2 เดือน การปิดงวด 1 และการปิดโครงการ
หลักฐานที่ต้องมี
- ใบลงทะเบียน
- ใบสำคัญรับเงิน ช่องสัญญาเลขที่ ใส่ เลขสัญญาข้อตกลง ค่าเดินทาง ระยะทาง กิโลละ 4 บาท
- ใบเสร็จรับเงินที่ทางร้านออกให้
- การเบิกเงิน ให้ดูว่าเดือนนั้นมีกี่กิจกรรมแล้วให้เบิกให้พอกับกิจกรรม ห้ามมีเงินสดในมือเกิน 5,000
- การจัดทำรายงาน ทำตามขั้นตอน คือ โครงการในความรับผิดชอบ -----> คลิกโครงการเรา----->ใส่แผนที่-----> ใส่งวดสำหรับทำรายงาน---> ใส่รายละเอียดแผนงาน -----> ประชุมปฐมนิเทศร่วมกับ สจรส.ม.อ. -----> รายละเอียดขั้นตอน 1 ฟังบรรยาย 2ปฏิบัติ----->ใส่ภาพกิจกรรม พร้อมเขียนบรรยาย
การส่งรายงาน -----> รายรายผู้รับผิดชอบ ----->รายงาน ง.1-----> ใส่รายละเอียด ส่วนที่ 2 เงินเปิดสมุดให้ใส่ในเงินรับอื่น ----->กดพิมพ์
- รายงาน ส 1-----> สร้างรายงาน ส1-----> เพิ่ม ปัญหา อุปสรรค-----> กดพิมพ์ ปิดโครงการ----->ส่งรายงาน ง2----->กดพิมพ์
- รายงาน ส3 คือรายงานฉบับสมบูรณ์
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นายปรีชา ด่านกุลชัย ผู้รับผิดชอบโครงการ
- นางสาวภัทรียา กลิ่นคล้าย คณะทำงาน
-
-
-