คนสร้างสุข

ปัญหาสังคมสูงวัยจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของไทยในกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ส่งผลกระทบ ในหลายด้าน โดยจากข้อมูลวิชาการระบุว่าประเทศไทยยังมีช่องว่างด้านการเตรียมความพร้อมของประชากรและการพัฒนาระบบเพื่อรองรับสังคมสูงวัย เช่น ข้อมูลสุขภาพ พบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ร้อยละ 95 มีโรคประจำตัวแต่ยังคงสามารถดำเนินชีวิตประวันได้ตามปกติ โดยส่วนใหญ่ ยังคงเป็นโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน และผู้สูงอายุวัยปลายมีอัตรามีโรคประจำตัวสูงขึ้น ด้านเศรษฐกิจ ผู้สูงอายุถึงร้อยละ 34.3 มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยาก ทั้งนี้มีคนไทยเพียง 15 ล้านคนที่อยู่ในระบบการออมเพื่อเป็นหลักประกันรายได้ยามเกษียณ เมื่อเทียบกับประชากร วัยทำงานมากกว่า 40 ล้านคน ด้านสังคม พบว่าผู้สูงอายุที่ต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียว หรืออยู่ตามลำพังกับคู่สมรสยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงคนรุ่นใหม่ยังมีทัศนคติเชิงลบต่อวัยสูงอายุ ฯลฯ สถานการณ์ปัญหาดังกล่าวมีสาเหตุจากหลายปัจจัย รวมถึงการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อย่างรวดเร็ว และมีเวลาเตรียมการน้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุส่งผลให้ประเทศไทยต้องเผชิญผลกระทบจากสังคมผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพัฒนาระบบเพื่อรองรับสังคมสูงวัยโดยการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ อย่างจริงจังและ มีประสิทธิภาพ พบว่า จังหวัดตรังประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปมีจำนวน 85,828 คิดเป็นร้อยละ 16.63 และประชากรอายุ50-60 ปีจำนวนมากถึง 72,380 คน และภายในปี 2572 จะมีประชากรกลุ่มนี้กลายเป็นผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ30ของประชากรจังหวัดตรังพบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่สามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้อื่น (กลุ่มติดสังคม) คิดเป็นร้อยละ 96.29 ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดอีกประมาณร้อยละ4 เป็นผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งผู้อื่นบ้างในการประกอบกิจวัตรประจำวัน (กลุ่มติดบ้าน) ร้อยละ 2.87 และติดเตียง ร้อยละ 84 ด้านสุขภาพ (โรคไม่ติดต่อ) ประชากรกลุ่มอายุ 50-59 ปี ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 22.22 และโรคเบาหวาน ร้อยละ 10.30 ประชากรกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 48 และโรคเบาหวาน ร้อยละ 17.24 ดังนั้นการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงวัยจึงมีความสำคัญในอนาคต (ที่มา: HDC Report สสจ.ตรัง, กันยายน 2562) ตำบลกันตังใต้ปัจจุบันมีประชากร 7,066 คน เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 1,047 คิดเป็นร้อยละ 14.82 % และประชากรอายุ 50-59 ปี จำนวน 2350 คน จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาเตรียมรองรับสังคมสูงวัยพบว่าด้านสุขภาพเป็นโรคความดัน 230 คน โรคเบาหวาน 345 คน ผู้ป่วยติดบ้าน 375 คน ผู้ป่วยติดเตียง 8 คน ปัญหาผู้สูงอายุหกล้มประสบอุบัติเหตุในบ้าน 12 คน และผู้สูงอายุมีภาะเครียด กังวลจากปัญหาสุขภาพ ด้านสังคมผู้สูงอายุขาดการรวมกลุ่ม บางส่วนรับภาวะเลี้ยงลูกหลาน ไม่สามารถร่วมกิจกรรมของชุมชน ด้านสภาพแวดล้อมจากการสังเกตุพบว่าบ้านส่วนใหญ่ในส่วนของห้องน้ำขาดการปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ขาดราวจับ และมีข้อมูลจากช่วงปี 2562 ที่ผ่านมามีผู้สูงอายุหกล้มในบ้าน และบริเวณใกล้บ้านจากปัญหาสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย 10 ราย ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บกระทบต่อการใช้ชีวิตและการประกอบอาชีพ ในด้านเศรษฐกิจพบว่าผู้สูงอายุมีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย และบางส่วนขาดการออม
      ที่ผ่านมาการขับเคลื่อนการเตรียมรองรับสังคมสูงวัยของตำบลได้ดำเนินการจัดทำการเตรียมรองรับเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยการจัดทำธรรมนูญสุขภาพผู้สูงอายุแต่อยู่ในขบวนการจัดทำร่างธรรมนูญสุขภาพผู้สูงอายุตำบลกันตังใต้ แต่ติดปัญหาโรคโควิท 19 ทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เมื่อสถานการณ์ปกติการจัดทำธรรมนูญสุขภาพผู้สูงวัยคงจะแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

ดังนั้นตำบลกันตังใต้จึงเสนอโครงการบ้านปลอดภัยเตรียมรองรับสังคมสูงวัยตำบลกันตังใต้ เพื่อต้องการให้เกิดกลไกคณะทำงานที่มีความรู้ความเข้าใจสามารถบูรณาการการทำงานเตรียมรองรับสังคมสูงวัยของตำบล มีฐานข้อมูลเตรียมรองรับสังคมสูงวัยของตำบล ประชาชนมีความเข้าใจและสามารถเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัย พัฒนาศักยภาพทีมอาสาสมัครช่างชุมชน มีการปรับสภาพจุดเสี่ยงภายในบ้านให้ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ เกิดบ้านปลอดภัยตัวอย่างเตรียมรองรับสังคมสูงวัย และการสร้างห้องต้นแบบปรับสภาพแวดล้อมรองรับสังคมสูงวัย อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมสู่สังคมสูงวัยของตำบลกันตังใต้ต่อไป