การจัดการความขัดแย้งโดยสันติวิธีด้วยกระบวนการซูรอ

ปิดโครงการ "เสวนาถอดบทเรียนการจัดการความขัดแย้ง31 ธันวาคม 2560
31
ธันวาคม 2560รายงานจากพื้นที่ โดย สถาบันครอบครัวสุข ศานติ
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง
  • เลขาประสานกับคณะทำงานและผู้ประสานงานแต่ละหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 7 ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
  • ได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
  • คณะวิทยากรที่ได้ร่วมถอดบทเรียนการจัดการความขัดแย้งโดยสันติวิธีด้วยกระบวนการซูรอดังนี้ 1.ดร.ยูโชะ ตาเละ ผอ.สถาบันอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 2. ดร.อิบรอเฮ็ม อับดุลเลาะห์จากมหาวิทยานราธิวาสราชนครินทร์ 3. โต๊ะอีหม่ามฮาซํน เจะสนิประธานชมรมมัสยิดตำบลยี่งอ
  • แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • แจ้งกลุ่มเป้าหมาย
  • ดำเนินตามแผนที่กำหนด
circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม
  • คณะทำงานและผู้ประสานงานได้พบปะพูดคุยกับนายรังสฤษฎ์ ราชมุกดา นายกเทศมนตรีตำบลยี่งอ
  • ได้ถอดบทเรียนประเด็นปัญหาความไม่สงบ ความขัดแย้งกับกลุ่มคนที่ก่อเหตุการณ์ ได้นำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคมที่จะต้องแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีในสังคม
  • ได้เสวนาถอดบทเรียนการจัดการความขัดแย้งโดยสันติวิธีด้วยกระบวนการซูรอ
  • ได้เรียนรู้ในการจัดการความขัดแย้งด้วยวิถีชุมชน ภายใต้บริบทความสัมพันธ์แบบเครือญาติ และเป็นมิตร
  • ได้แสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธีกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
  • ได้สร้างสภาวะแวดล้อมให้เกื้อกูลต่อกระบวนการพูดคุยสันติสุขภายใต้บริบทความสัมพันธ์แบบเครือญาติ และเป็นมิตร
  • ได้นำหลักการกระบวนการซูรอในการสร้างสันติสุขในสังคมกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
  • ผู้เข้าร่วมกิจได้รับทราบข้อมูลต่างๆ ตามที่ได้พูดคุย
  • ได้นำแสนอวิธีการจัดการความขัดแย้งในรูปแบบการรับมือกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นสามารถสรุปสาระสำคัญดังนี้ 1.แบบร่วมมือร่วมใจ เป็นการแก้ไขความขัดแย้งที่ต้องให้มีการร่วมมือร่วมใจของกลุ่มคนที่เห็นไม่ตรงกัน โดยให้ทั้งสองฝ่ายได้สื่อสารถึงปัญหาและความต้องการของตน โดยจะรักษาผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมักจะใช้เมื่อทั้งสองฝ่ายมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก และพร้อมที่จะให้ความเชื่อใจและกัน 2.แบบเอื้ออำนวย เป็นเทคนิคที่มักจะใช้เมื่อมีปัญหาความขัดแย้งในสถานการณ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถเกิดความพึงพอใจได้ทั้งสองฝ่ายหรือเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งที่มีความรู้สึกรุนแรงในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกเฉยๆ หรือในสถานการณ์ของการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งค้นพบว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดในประเด็นที่ขัดแย้งกัน หรือเมื่อต่อสู้กันไปจนถึงที่สุด เมื่อไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเอาชนะกันได้เลยโดยไม่เน้นการรักษาผลประโยชน์แต่จะให้ความร่วมมือ 3.แบบประนีประนอม เป็นการพบกันครึ่งทางระหว่างความต้องการทั้งสองฝ่าย มักจะใช้เมื่อไม่สามารถร่วมมือกัน เพื่อให้เกิดความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายได้ ดังนั้นจึงต้องจัดการอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้แก่ การเจรจาไกล่เกลี่ย การเจรจาต่อรองแบบสันติวิธีและสุนทรียสนทนา ซึ่งสามารถนำไปสู่การแก้ไข
circle
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม
จำนวน 258 คน จากที่ตั้งไว้ 250 คน
ประกอบด้วย
  • คณะทำงานสถาบันครอบครัวสุข ศานติ
  • ผู้ประสานงานเขตชุมชนแต่ละหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 7 ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
  • ครอบครัวเยาวชนกลุ่มเสี่ยงกับความขัดแย้ง
  • ครอบครัวเจ๊ะฆูตาดีกา
  • ครอบครัวนักการเมืองท้องถิ่น
  • ครอบครัวผู้ขัดแย้ง
  • สมาชิกครอบครัวสุข ศานติ