task_alt

บ้านไกรไทยเป็นชุมชนสร้างเสริมสุขภาพดีด้วยตำรับสมุนไพร(ต่อยอด)

แบบรายงานผลการดำเนินโครงการประจำงวด 2

ชื่อโครงการ บ้านไกรไทยเป็นชุมชนสร้างเสริมสุขภาพดีด้วยตำรับสมุนไพร(ต่อยอด)

ชุมชน บ้านไกรไทย หมู่ที่ 4 ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

รหัสโครงการ 57-01475 เลขที่ข้อตกลง 57-00-1077

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 10 มิถุนายน 2557 ถึง 10 กรกฎาคม 2558

รายงานงวดที่ : 2 จากเดือน พฤศจิกายน 2557 ถึงเดือน กรกฎาคม 2558

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินโครงการ (แสดงผลการดำเนินงานรายกิจกรรมที่แสดงผลผลิตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ
ผลผลิต*
ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

1. ค่าจัดทำป้ายโครงการและป้ายปลอดบุหรี่

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อจัดทำป้ายโครงการและปลอดบุหรี่

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีป้ายรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ติดไว้ที่อาคารประชุม 2.มีป้ายโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงาน 2 คน จัดทำป้ายโครงการและป้ายปลอดบุหรี่

กิจกรรมที่ทำจริง

คณะทำงานจัดทำป้ายโครงการและป้ายบุหรี่ 

 

2 2

2. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 6

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อติดตามผลการดำเนินงานและวางแผนการดำเนินงานของคณะทำงาน

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีการรายงานผลและติดตามผลการดำเนินงาน 2.มีการประชุมตามแผนที่กำหนด 3.มีการวางแผนในการจัดกิจกรรมรอบต่อไป 4.มีการแบ่งความรับผิดชอบและมอบหมายหน้าที่ของกรรมการในการจัดกิจกรรมรอบต่อไป

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานประชุมตามแผนงานที่กำหนด

กิจกรรมที่ทำจริง

หัวหน้าโครงการได้สรุปกิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว 1.การสร้างแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยการนำภูมิปัญญาและสมุนไพรในชุมชนมาใช้ในการปรับพฤติกรรมสุขภาพ ลดการใช้สารเคมีสังเคราะห์ 2.กิจกรรมการต่อเทียนภูมิปัญญาการบูชาครู 3. การเผยแพร่ผลงานของโครงการในงานทอดกฐินของวัดพระบาท ขอบคูณทีมงานที่มาร่วมมือช่วยเหลือกันในการทำผลิตภัณฑ์มาช่วยงานและเผยแพร่เป็นวิทยาทานทั้งน้ำดื่มสมุนไพรสูตรต่างๆและตำรับยาสมุนไพรต่างๆและร่วมกันวางแผนและแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินกิจกรรมรอบต่อไป1.วางแผนในการออกติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการรอบแรก2.การเรียนรู้การเพิ่มคุณค่าของสมุนไพรในชุมชน การเชิญปราชญ์มาเป็นวิทยากรในการถ่ายทอดภูมิปัญญา 3.การวางแผนในการจัดเตรียมงานในการจัดสวนสมุนไพร การจัดเตรียมอุปกรณ์ในการเตรียมพื้นที่ปลูกการหาพันธุ์สมุนไพร การเชิญกลุ่มเป้าหมายมาร่วมกิจกรรม ฝ่ายการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

 

25 25

3. ประเมินติดตามกลุ่ม ครั้งที่ 1

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อติดตามผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

กลุ่มเป้าหมายมีการต้มสมุนไพรในการปรับสุขภาพ
มีการดื่มน้ำสมุนไพร ยาต้มแทนการดื่มชากาแฟในตอนเช้า ทำให้รู้สึกว่ามีความสุข ร่างกายแข็งแรงกระฉับกระเฉงขึ้นมีการใช้น้ำสมุนไพรในงานเลี้ยงแทนน้ำอัดลม น้ำหวาน

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานและที่ปรึกษา ติดตามผลการทำงานของกลุ่ม 20 คน

กิจกรรมที่ทำจริง

ติดตามการปรับเปลียนพฤติกรรมโดยคณะครูจากโรงเรียนวัดพระบาท คณะเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาพระบาทและ อบต. เขาพระบาทร่วมกันออกติดตามประเมินผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยการออกสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายในชุมชนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้หลังจากการนำสมุนไพรมาใช้เพื่อปรับสุขภาพ

 

20 20

4. แปรรูปสมุนไพรครั้งที่ 1

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อนำสมุนไพรมาแปรรูปเรียนรู้เกี่ยวกับสรรพคุณ และการนำส่วนต่างๆของสมุนไพรมาใช้

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ได้เรียนรู้เกี่ยกับสรรพคุณของสมุนไพร 2.ได้รู้จักสมุนไพรต่างๆ ที่มีในชุมชน 3.ได้รู้จักการนำสมุนไพร นำมาใช้ประโยชน์ 4.ทำให้เกิดความสามัคคี
5.การช่วยเหลือกันในการทำกิจกรรม

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพร

กิจกรรมที่ทำจริง

กิจกรรมวันนี้จะเป็นกิจกรรมแปรรูปสมุนไพรโดยให้สมาชิกมารวมกันนำสมุนที่มีอยู่ในชุมชนมาแปรรูป รวมถึงเยาวชนและนักเรียนโรงเรียนวัดพระบาท
โดยมีปราญจน์ด้านสมุนไพร นายสะอาด อุยหมุน ได้มาสอนให้รู้จักเกี่ยวกับสมุนไพรสรรพคุณต่างๆของสมุนไพร แนะนำการนำส่วนต่างๆของสุนไพรนำมาแปรรูปและก้จะให้นักเีรยนจดจำ และจดบันทึกความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้จากนั้นปราญญ์ได้นำไปที่สวนสมุนไพร เพื่อออกไปดูสมุนไพรและปราชญ์ก็ได้แนะนำสมุนไพรต่างๆที่มีในสสวนสมุนไพร


สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทุกทำให้เกิดความสามัคคีการช่วยเหลือกันในการทำกิจกรรม ในครั้งนี้

 

50 50

5. สวนสมุนไพร ครั้งที่ 2

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสร้างสวนสมุนไพรในชุมชน

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ประชาชนเข้าร่วมพัฒนาสวนสมุนไพร 2.สร้างภาคีร่วมทำงานคือโรงเรียนวัดพระบาท 3.ร่วมกันทำเป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน 4.ประชาชนให้ความเชื่อมั่น และสร้างคุณค่าให้เกิดกับสมุนไพร 5.มีแปรงสมุนไพร ประจำหมู่บ้าน

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรทำสวนสมุนไพร

กิจกรรมที่ทำจริง

กิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรม ทำสวนสมุนไพร วันนี้หัวหน้าโครงการได้เชิญแต่ละกลุ่มเข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้ 1.หัวหน้าทีมได้พูดุคยกับกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยให้นำวัสดุการพัฒนามาจากบ้าน เช่น จอบ มีด พร้า 2.ชี้แจงวัตถุประสงค์การทำสวนให้ผู้เข้าร่วมกิจกกรรมทราบ โดยเราต้องการทำสวนสมุนไพรเพื่อให้เป็นมุมพักผ่อนของชุมชน และนำสมุนไพรไปใช้ให้เกิดประโยชน์ 3.กิจกรรมในวันนี้ เราจะมา ดุแล และบำรุง สมุนไพร ที่ได้ปลูกไปครั้งก่อน ดูว่ามีหญ้ารกหรือไม่รดนำ้ต้นสมุนไพรสมุนไพรต้นไหนตายไปหรือมีไม่เพียงพอในการนำไปใช้ก็ให้นำมาปลูกเพิ่มเติม สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เด็กสนุกในการทำกิจกรรม แถมยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรการปลูกสมุนไพรด้วย มีความสัมพันธ์ระหว่างวัยเด็ก และวัยผู้ใหญ่ เพิ่มมากขึนเด็กมีความสามัคคีกัน ในการทำสวนนสมุนไพรและทำให้เด็กได้รู้จักรักษาสิ่งที่เด็กๆได้สร้างขึ้นซึ่งเป็นความภูมิใจของเด็กๆ

 

50 50

6. ประชุมคณะทำงานครัั้งที่ 7

วันที่ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

  เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ได้ประชุมเพื่อติดตามงานตามเวลาที่กำหนด 2.ทีมงานได้รู้หน้าที่ตนเอง 3.ได้วางแผนการทำงานล่วงหน้า

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานประชุมตามแผนที่กำหนด

กิจกรรมที่ทำจริง

ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก
        วาระที่ 1  สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา
        วาระที่ 2  ชี้แจงกิจกรรมครั้งต่อไป        โดยแบ่งหน้าของคณะทำงานแต่ละคน  เพื่อจะจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป         สิ่งที่ได้ในวันนี้  ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้า  เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม  ได้มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน เตรียมอุปกรณ์ ประสานกลุ่มเป้าหมาย

 

25 25

7. กลุ่มวิสาหกิจสมุนไพร ครั้งที่ 1

วันที่ 13 ธันวาคม 2557 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อพัฒนากลุ่มสมุนไพรในตำบลเขาพระบาท

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.กลุ่มเป้าหมายได้ทบทวนความรุ้ 2.แบ่งหน้าที่การรับผิดชอบ
3.จัดตั้งกลุ่มเพื่อบริหารจัดการ 4.ได้เรียนรู้การนำภูมิัปัญญามาใฃ้

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรเรียนรู้การจัดทำกลุ่มแปรรูปสมุนไพรชุมชน

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการแปรรูปลูกประคบสด และมีวิธีการทบทวนการทำ ขั้นตอนการทำ
1.นำไพลสด,  ผิวมะกรูด หรือใบมะกรูดสด,  ตะไคร้สด,  ใบมะขาม หรือใบส้มป่อยสด, ขมิ้นชัน     หรือขมิ้นอ้อยสดหั่นบางๆ ตำพอหยาบๆ 2.ใส่พิมเสน,  การบูร,  และเกลือแกง  ผสมรวมกัน 3.ห่อเป็นลูกประคบหนักลูกละ 100 กรัม ด้วยผ้าขาว ขนาด 35 ซ.ม. x 35 ซ.ม. มัดด้วยเชือกยาว 1 เมตร     ถ้าหากต้องการลูกประคบหนักลูกละ 150 กรัม  ห่อด้วยผ้าขาว  ขนาด 50 ซ.ม. x 50 ซ.ม.

ประโยชน์ของการประคบ (จากตัวยาสมุนไพรและความร้อน) 1. บรรเทาอาการปวดเมื่อย 2. ช่วยลดอาการบวม อักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อหลัง 24-48 ชั่วโมง 3. ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ 4. ช่วยให้เนื้อเยื่อ ผังผืด ยืดตัวออก 5. ลดการติดขัดของข้อต่อ 6. ลดอาการปวด 7.ช่วยเเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต

วิธีการประคบ   1. นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งในหม้อนึ่ง ใช้เวลานึ่งประมาณ 15-20 นาที   2. นำลูกประคบที่รับความร้อนได้ที่แล้วมาประคบคนไข้ที่มีอาการต่างๆ โดยสับเปลี่ยนลูกประคบ   3. จัดท่าคนไข้ให้เหมาะสม เช่น นอนหงาย นั่ง นอนตะแครง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่จะทำการประคบ       สมุนไพร   4. นำลูกประคบที่รับความร้อนได้ที่แล้วมาประคบบริเวณที่ต้องการประคบ       (การทดสอบความร้อนของลูกประคบคือ แตะที่ท้องแขนหรือหลังมือ)   5. ในการวางลูกประคบบนผิวหนังคนไข้โดยตรงในช่วงแรกๆ ต้องทำด้วยความเร็ว       ไม่วางแช่นานๆ เพราะคนไข้จะทนร้อนไม่ได้มาก   6. เมื่อลูกประคบคลายความร้อนลงก็สามารถเปลี่ยนลูกประคบอีกลูกหนึ่งแทน       (นำลูกเดิมไปนึ่งต่อ) ข้อควรระวังในการประคบสมุนไพร -ไม่ควรใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่เคยเป็นแผลมาก่อน   หรือบริเวณที่มีกระดูกยื่น และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วย   -โรคเบาหวาน อัมพาต ในเด็กและผู้สูงอายุ เพราะมักมีความรู้สึกในการรับรู้และตอบสนองช้า   อาจทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ง่าย   -ไม่ควรใช้การประคบสมุนไพรในกรณีที่มีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก   เพราะจะทำให้อักเสบบวมมากขึ้นและอาจมีเลือดออกมากตามมาได้   -หลังจากประคบสมุนไพร เสร็จใหม่ ๆ ไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะจะไปล้างตัวยาจากผิวหนัง     และร่างกายยังไม่ สามารถปรับตัวได้ทัน อาจทำให้เกิด เป็นไข้ได้
การเก็บลูกประคบสมุนไพร   ลูกประคบสมุนไพรที่ใช้ครั้งหนึ่งแล้วสามารถเก็บไว้ได้นาน 3-5 วัน หลังจากใช้แล้วควรผึ่งลูก ประคบให้แห้ง เก็บใส่ถุงหรือภาชนะปิดฝาให้แน่น แช่ตู้เย็นจะเก็บได้นานขึ้น 7 วัน ให้สังเกตถ้าลูกประคบมีเชื้อราปรากฏให้เห็นและมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือสีเหลืองจางลง แสดงว่าตัวยาเสีย ไม่มีคุณภาพไม่ควรนำมาใช้อีกต่อไป เพราะจะใช้ไม่ได้ผล

วันนี้ได้มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในการผลิต และดูแลกลุ่มด้วย

 

50 50

8. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ครั้งที่ 3

วันที่ 20 ธันวาคม 2557 เวลา 08:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.กลุ่มเป้าหมาย ร้อยละ 100 ปรับพฤติกรรมสุขภาพ 2.กลุ่มเป้าหมายได้รู้คุณค่าน้ำสมุนไพร 3.กลุ่มเป้าหมายมีสุขภาพเปล่ี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มเป้าหมาย เข้าร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้กลุ่มเป้าหมาย ได้เข้ากิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เป็นการติดตามผลการดำเนินงานจากรอบที่ผ่านมา
กลุ่มเป้าหมายทุกคนบอกว่า รู้สึกดีขึ้น หลังจากที่ได้ใช้สมุนไพร ดื่มน้ำสมุนไพร
น้ำสมุนไพรซึ่งมีประโยชน์ทางยา มีคุณค่าทางอาหารและช่วยในการป้องกันโรค โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน เหงื่อออกมาก ดื่มน้ำสมุนไพรจิตใจชุ่มชื่นรู้สึกสบาย เพราะน้ำสมุนไพรบางชนิดสามารถช่วยผ่อนคลายความร้อน ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง เช่น น้ำมะขามช่วยลดอาการกระหายน้ำ น้ำสมุนไพรบางชนิด ช่วยบำรุงหัวใจเป็นยาเย็น ได้แก่ น้ำใบเตย น้ำใบบัวบก น้ำสมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยย่อยทำให้ธาตุปกติและฟอกเลือด ได้แก่ น้ำมะเขือเทศ น้ำสมุนไพรเหล่านี้เป็นได้ทั้งอาหาร และให้คุณค่าทางยาได้บ้างเล็กน้อย น้ำสมุนไพรจึงเปรียบเสมือนยาที่ช่วยบำรุง ปกป้องรักษาสภาวะร่างกายให้เกิดสมดุลทำให้สุขภาพดี ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ร่างกายกระชุ่มกระชวยและอุดมไปด้วยวิตามินเกลือแร่ ช่วยบำรุงเส้นผม ช่วยควบคุมไขมัน ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากสารอาหารในน้ำสมุนไพรช่วยควบคุมระบบการทำงานของร่างกาย

 

100 100

9. แปรรูปสมุนไพร ครั้งที่ 2

วันที่ 24 ธันวาคม 2557 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อแปรรูปสมุนไพร

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ได้รู้จักสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมในการนำไปทำลูกประคบ 2.รู้จักประโยชน์ของการมใช้ลูกประคบ 3.รู้วิธีการทำและได้ฝึกปฎิบัติในการทำลูกประคบ 4.รู้วิธีใช้และข้อควรระวังในการใช้ลูกประคบสมุนไพร 5.สมาชิกในกลุ่มมความสามัคคีกันเรียนรู้และได้ปฏิบัติไปด้วยกัน 6.มีการยอมรับมากขึ้นในกลุ่ม

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพร

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้เป็นกิจกรรม การแปรรูปสมุนไพรซึ่งจะมีปราชญ์มาสอนและแนะนำการแปรรูปสมุนไพร ในการทำลูกประคบ นายสะอาดปราญช์ด้านสมุนไพรได้แนะนำส่วนผสมของสมุนไพรที่ใช้ทำลูกประคบ สวนผสมของลูกประคบ ส่วนผสมที่พอเหมาะ 1. ไพล) บรรเทาปวดเมื่อยลดการอักเสบ 2. ขมิ้นชัน บรรเทาฟกช้ำเม็ดผดผี่นคัน

  1. ผิวมะกรูด หรือ ผิวส้ม บรรเทาลมวิงเวียนทำให้เกิดกลิ่นหอมละมุน

  2. ตะไคร้บ้าน บรรเทาปวดเมื่อยลดอาการอักเสบ

  3. ใบมะขามบรรเทาอาการคันตามร่างกายบำรุงผิว ชำระไขมัน หรือ ใบขี้เหล็กช่วยละลายไขมันใต้ผิวหนังทำให้หลับสบาย

  4. พิมเสนแต่งกลิ่น แก้พุพอง แก้หวัด

  5. การบูร แต่งกลิ่น บำรุงหัวใจแก้พุพอง

  6. เกลือแกง ช่วยดูดความชื้น ช่วยพาตัวยาซึมผ่านผิวหนังได้อย่างสะดวก

วิธีทำลูกประคบ

1.ล้างสมุนไพรให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆโขลกพอเเหลกใส่เกลือ พิมเสน การบูร คลุกให้เข้ากัน เเบ่งเป็น 2-3 ส่วน

  1. นำส่วนทั้งหมดมาวางตรงกลางของผ้า เริ่มต้นจับมุมผ้าทีละ 2 มุม ขึ้นมาทบกัน จับจนครบทั้ง 4 มุม ให้รวบมุมผ้าที่ละมุม อีกครั้งหนึ่งจนครบอีกทั้ง 4 มุม

  2. แต่งชายผ้าให้เรียบร้อย ซ้อนกันเป็นชายเดียวจากนั้นค่อย ๆจัดแต่งลูกประคบให้เป็นรูปทรงกลมที่สวยงาม มัดด้วยเชือกที่ทำเป็นห่วงคล้อง แล้วมัดปมให้แน่น

  3. การทำด้ามจับ โดยการจับชายผ้าที่เหลือมาซ้อนกันให้เรียบร้อย เสร็จแล้วพับเข้าหากันเพื่อเก็บซ่อนชายผ้าทั้งสองด้าน

  4. จัดแต่งและซ่อนชายผ้าเรียบร้อยแล้ว ให้พับปลายลงมาประมาณ กะประมาณความยาวก้านให้สวยงาม ม้วนทบด้ามให้เรียบร้อย ใช้ปลายเชือกเส้นเดิมผูกแบบเงื่อนตายให้แน่น อีกครั้งหนึ่ง

6.ซ่อนปลายเชือกไว้ในซอกผ้าตรงรอยพับที่เป็นด้ามจับ และเพื่อให้ลูกประคบมีความแข็งแรงสวยงาม คงทนต่อการใช้งาน การทำเช่นนี้จะทำให้เชือกเรียงกันดูสวยงามและเป็นระเบียบ

ประโยชน์ของการประคบ (จากตัวสมุนไพร และ ความร้อนจากลูกประคบ ) 1. บรรเทาอาการปวดเมื่อย 2. ช่วยลดอาการบวม อักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อหลัง 24-48 ชั่วโมง 3. ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ 4. ช่วยให้เนื้อเยื่อ ผังผืด ยืดตัวออก 5. ลดการติดขัดของข้อต่อ 6. ลดอาการปวด 7.ช่วยเเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต

วิธีการประคบ 1. นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งในหม้อนึ่ง ใช้เวลานึ่งประมาณ 15-20 นาที 2. นำลูกประคบที่รับความร้อนได้ที่แล้วมาประคบคนไข้ที่มีอาการต่างๆ โดยสับเปลี่ยนลูกประคบ 3. จัดท่าคนไข้ให้เหมาะสม เช่น นอนหงาย นั่ง นอนตะแครง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่จะทำการประคบ สมุนไพร 4. นำลูกประคบที่รับความร้อนได้ที่แล้วมาประคบบริเวณที่ต้องการประคบ (การทดสอบความร้อนของลูกประคบคือ แตะที่ท้องแขนหรือหลังมือ) 5. ในการวางลูกประคบบนผิวหนังคนไข้โดยตรงในช่วงแรกๆ ต้องทำด้วยความเร็ว ไม่วางแช่นานๆ เพราะคนไข้จะทนร้อนไม่ได้มาก 6. เมื่อลูกประคบคลายความร้อนลงก็สามารถเปลี่ยนลูกประคบอีกลูกหนึ่งแทน (นำลูกเดิมไปนึ่งต่อ)


ข้อควรระวังในการใช้ลูกประคบสมุนไพร
1.ไม่ควรใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่เคยเป็นแผลมาก่อน หรือบริเวณที่มีกระดูกยื่น และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วย 2.คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน อัมพาต ในเด็กและผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงเพราะมักมีความรู้สึกในการรับรู้และตอบสนองช้า อาจทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ง่าย 3.ไม่ควรใช้การประคบสมุนไพรในกรณีที่มีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพราะจะทำให้อักเสบบวมมากขึ้นและอาจมีเลือดออกมากตามมาได้ 4.หลังจากประคบสมุนไพร เสร็จใหม่ ๆ ไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะจะไปล้างตัวยาจากผิวหนังและร่างกายยังไม่ สามารถปรับตัวได้ทัน อาจทำให้เกิด เป็นไข้ได้

 

50 50

10. ธนาคารสมุนไพร ครั้งที่ 3

วันที่ 27 ธันวาคม 2557 เวลา 08:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  สมุนไพรไทย และมีธนาคารสมุนไพรประจำหมู่บ้าน

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีธนาคารสมุนไพรในชุมชน 2.เป็นศุนย์เรียนรู้ด้านสมุนไพร 3.เกิดแนวทางอนุรักษ์สมุนไพรที่หายากและสมุนไพรชุมชน 4. ประชาชนได้มีโอกาสเข้าร่วมพัฒนา ตามความสมัครใจ 5. มีการแบ่งกลุ่มกันทำงาน ตั้งแต่เยาวชน นักเรียน ครู ประชาชน และทีมงาน 6. แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการพัฒนา 7. มีการวางเป้าหมายพัฒนาร่วมกัน

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพร ร่วมกันจัดทำสวนสมุนไพร

กิจกรรมที่ทำจริง

กิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้  เกี่ยวกับการทำธนาคาร สมุนไพร และสิ่งที่ได้มอบหมาย ให้แต่ละบ้าน  แต่ละโซน ไปปลูกสมุนไพร  ซึ่งวันนี้หัวหน้าโครงการ ได้เชิญกลุ่มสมุนไพรและผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาธนาคารสมุนไพรเพิ่มเติม

ดังนี้ 1.หัวหน้าโครงการ เชิญโซนปลูกสมุนไพรและเชิญแกนนำมานั่งพูดคุย  โดยทั้ง 3 โซน ได้มานั่งพูดคุยกัน  ซึ่งละกลุ่มแต่ละโซนได้กำหนดบทบาทของสมาชิกให้ชัดเจน  แบ่งหน้าที่ในการบำรุงดูแลสมุนไพร  แบ่งเวรกันรถน้ำ โดยจะให้หัวหน้าแต่ละโซน  รับผิดชอบหลัก ในการแบ่งหน้าที่ต่าง ๆ  หัวหน้าโครงการได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการปลูก และปัญหาที่พบ นางสมสวย  ภูแข็ง  ได้ตอบว่า  ไม่มีปัญหาในการเพาะปลูก  สมุนไพรเติบโต  สวยงามดี  เพาะใช้สมุนไพร และน้ำหมักชีวภาพในการบำรุง  โดยจะมีลูกสาว  เด็กหญิง ภัทรากร  ภูแข็ง  จะช่วยรดน้ำสมุนไพรทุกวัน 2.หัวหน้าโครงการแจ้งแก่สมาชิกว่า  การทำกิจกรรมธนาการครั้งที่ผ่านมา ก็ได้มีสมาชิกได้มอบสมุนไพรให้กับธนาคารสมุนไพร ไว้มากมาย มีการเก็บรวบรวมข้อมูลสมุนไพร พบว่าสำรวจ 146 ครัวเรือน มีสมุนไพร  79 ชนิด  1707 ต้น มอบให้ธนาคารสมุนไพร 326 ต้น  และเมื่อสมาชิกที่ได้กลับไปปลูกที่บ้าน ที่สมุนไพร สามารถนำมาใช้ได้แล้ว ก็ให้นำมาฝากไว้ที่ธนาคาร ซึ่งธนาคารสมุนไพรจะรวบรวมสมุนไพรทุกชนิดที่พบในบ้านไกรไทย เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนโดยจำหน่ายในราคาต้นทุน และรายได้ทั้งหมดนำไปพัฒนาธนาคารสมุนไพรและแบ่งปันให้กับสมาชิก
3.ทุกโซนร่วมกันวางแผนในการเพาาะสมุนไพร โดยข้อกำหนดว่า สมุนไพรเดิมที่มีอยู่แล้วจะต้องขยายเพิ่มเติม และสมุนไพรที่ทำการเพาะและต้องปลูกขยายเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพ ให้เพียงพอในอนาคตดังนี้ (1)สมุนไพรที่ใช้ทำลูกประคบ คือ ไพล มะกรูด มะขาม ตระไคร้ ขมิ้น ส้มป่อย
(2)สมุนไพรสำหรับชุดอบ คือ ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ ผิวมะกรูด ผักบุ้ง ใบหนาด ใบมะขาม ส้มป่อย (3)สมุนไพรตำรับยาต้ม ที่มีอยู่ในชุมชน เช่น ไหลเผือก
5. ทุกโซน ทุกบ้าน ต้องไปชักชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มเติม ซึ่งทางกลุ่มได้ร่วมกันกำหนดพื้นที่ในการปลูก โดยมีกติกาว่าทุกคนต้องปลูกเผื่อไว้ให้กับธนาคาร อย่างละ 5 ต้นต่อบ้าน เพื่อใช้ปลูกและแจกจ่ายกับชุมชน และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน  ให้ช่วยติดตามด้วย  ดูว่าบ้านไหนยังไม่ครบ หรือต้องการเพิ่มเติม ให้ติดต่อมายังกลุ่มได้

 

50 50

11. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 8

วันที่ 7 มกราคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและรายงานความคืบหน้าจากการทำโครงการ วางแผนงานในกิจกรรมครั้งต่อไป

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีการมอบหมายงานกันทำตามความถนัด ของตนเอง 2.เกิดความมั่นใจในการทำงานมากขึ้น. 3.คณะทำงานได้เตรียมความพร้อมในกิจกรรมครั้งต่อไป

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานประชุมตามแผนงานที่กำหนด

กิจกรรมที่ทำจริง

  วันนี้เป็นกิจกรรมประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม และติดตามความคืบหน้าของโครง     วาระที่ 1  สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา
    วาระที่ 2  เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไป  คือ
          1)ทำสวนสมุนไพรครั้งที่ 3           2)ต่อเทียนครูภูมิปัญญาครั้งที่ 2           3)ต่อเทียนครูภูมิปัญญา ครั้งที่ 3
        4)แปรรูปสมุนไพร ครั้งที่ 3
                สิ่งที่ได้ในวันนี้  ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้า  เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม การสร้างระบบติดตามการประเมินผลการดำเนินงานต้นแบบ

 

25 25

12. ทำสวนสมุนไพรครั้งที่ 3

วันที่ 17 มกราคม 2558 เวลา 08:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อมีสวนสมุนไพรของชุมชน

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีสวนสมุนไพรของชุมชน 2.มีการนำสิ่งของเหลือใช้มาประต์ใช้คือ ล้อยางรถยนต์มาทำเป็นกระถางปลูกสมุนไพร 3.เกิดการเรียนรู้และได้ฝึกปฏิบัติในการตีดล้อยางรถยนต์ 4.มีการยอมรับมากขึ้นในหมู่คณะ 5.มีความรักความสามัคคี 6.มีความสัมพัธ์ระหว่างวัยเพิ่มขึ้น

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพร ทำสวนสมุนไพรเพิ่มเติม

กิจกรรมที่ทำจริง

กิจกรรมในวันนี้เป้นกิจกรรมทำสวนสมุนไพรซึ่งจะแบ่งแยกไปตามโซนของหมู่บ้านโดยในวันนี้ ไปทำสวนสมุนไพรที่บ้านนางสมสวย ภูแข็งโดยได้นำล้อยางรถยนต์มาทำเป็นกระถางในการปลูกต้นสมุนไพรอีกส่วนหนึ่งก้ได้ไปนำขี้วัวกับแกลบมาเพื่อจะผสมดิน เพื่อใช้ในการปลูกสมุนไพร ในการสอนในการตัดล้อลูกยาง ได้มีการแนะนำและสอนให้สมาชิก ฝึกและปฏิบัติในการตัดล้อยาง โดยจะต้องใช้มีดที่บางและคม และใช้น้ำยางล้างจานหยดใส่มีดและล้อยางเพื่อช่วยให้ตัดได้ง่ายขึ้นซึ่งลักษณะในการตัด ก็ต้องจับมีดให้แน่นสามารถบังคับทิศทางของมีดได้ โดยเราเอาปลามีดที่คมนำร่องก่อนเพื่อจะให้สอดมีดเข้าไปได้ จับมีดให้ตั้ง 30-60 องศาแล้วแต่ละล้อยางเส้นค่อยๆตัดมีดอย่างช้า ระวังอย่าให้โดนที่เป็นใยเหล็กในยางรถ ตัดไปจนสมารถตัดล้อฝั่งหนึ่งขึ้นมาได้ส่วนก้นเราก็ใช้พื้นดินเป็นก้นของกระถาง จากนั้นก็ได้กันช่วยผสมดินขี้วัว และแกลบ เข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นดินในการปลูกสมุนไพรทุกคนก้ช่วยกันผสม และช่วยกันขนดินไปใส่ในกระถางตอนแรกก็หิ้วกันไปคนละถังไปใส่กระถางทำให้ล้าช้า และเหนื่อย ส่วนถังก้มีไม่กี่ใบและยังมีคนอ่นที่อยากช่วยด้วยเลยได้ต่อแถวส่งถังไปที่ละคนเพื่อนำไปใส่ในกระถางทำให้ทุกคนที่มาได้มีส่วนร่วมกันหมดทั้งเด้กและผุ้สูงอายุก็ได้ช่วยกันซึ่งวันนี้ได้ 21 กระถาง เมื่อใส่จนเต็มทุกกระถางก็นำเอาสมุนไพรที่สมาชิกได้เอามาจากบ้าน นำไปปลูกในกระถางและก็ช่วยกันรดน้ำและก้ได้แบ่งหน้าที่ให้มาช่วยกันดูแลช่วยกันรดน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้สมาชิกสนใจในการเรียนร฿ู้การตัดล้อยางรถยนต์ และช่วยกัตัดล้อยางกันจนเสร็จขณะทำกิจกรรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และทุกคนอยากมีส่วนร่วมในการทำสวนสมุนไพร แต่อุปกรณืไม่พอเลยคิดให้ตั้งเป็นแถว เพื่อขนดินไปใส่มนกระถางเพื่อทุกคนจะได้มีส่วนร่วม และจะได้ทำงานเสร็จเร็วขึ้น

 

50 50

13. ต่อเทียนครูภูมิปัญญาครั้งที่ 2

วันที่ 21 มกราคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสืบสานภูมิปัญญาด้านสมุนไพร

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ได้สำรวจพบสมุนไพร 87 ชนิด 2.ได้รู้จักสมุนไพร 3.ได้เห็นคุณค่าของสมุนไพร

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มเป้าหมายเรียนรู้ครูภูมิปัญญาโดยการสำรวจเส้นทางสมุนไพร

กิจกรรมที่ทำจริง

กลุ่มเป้าหมายร่วมกันสำรวจสมุนไพร จำนวน 87 ชนิดซึ่งอาศัยอยู่บนภูเขาพระบาท ดังนี้
ดีปลีเชือก สักทอง อโศก ตีนเป็ดต้นโพธิ์ ต้นสาละต้นชมพู่ ต้นพลับพลึง ต้นสนบริพัทบานชื่นว่านรางเงิน
ดอกสามเดือน ว่านแสงอาทิตย์ ว่านห่างจระเข้มะกอกเศรษฐีเรือนนอก ฟ้าทะลายโจรหญ้าใต้ใบน้ำนมราชสีห์
ใบสาบเสือ ธิดาวานรตะแบกยางขี้แรด คว่ำตายหายเป็นผกากรองยอป่าน้ำข้าวลำผีไพ่ส้มป่อยย่านปดมังเร ยับเยี่ยวปุดป่านมแมว เต่าร้างต้นแซะกำชำเข็มป่าหญ้ารีแพร์ต้นดูกไก่ต้นเทียมลิงขมิ้นฤาษีกฤษณา มะเดื่อหอมต้นกามกุ้งหางกะรอกรังนกนอน เม่า กาฝาก กำลังควายถึงกล้วยมูสังย่านาง ส้มเสี้ยวกำลังราชสีห์ก้างปลา ราชพฤกษ์ คนทีสอ ย่านเถาเครือ บานบุรี บัวสวรรค์เจาะท่อ กลันเกลา คอแห้ง เดือยชุมพร ผักหวาน ขี้เหล็ก ว่านสี่ทิศ อุตพิศ ประดู่ หมากผู้หมากเมียผักกาดหัวแหวนผู้แก้มหมอ คนทา กระดูกไก่ขาวสายหยุดอ้อนกหมอน้อยน้ำนมพระอินทร์ ขี้เหล็กหวาน ฤาษีนั่งยองต้นพัง ต้นโกศล

 

50 50

14. ต่อเทียนครูภูมิปัญญา ครั้งที่ 3

วันที่ 22 มกราคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสืบสานภูมิปัญญาด้านสมุนไพร

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.กลุ่มเป้าหมายเรียนรุ้สรรพคุณ
2.กลุ่มเป้าหมายเรียนรู้วิธีการขยายพันธ์ 3.เกิดกระบวนการอนุรักษ์สมุนไพร

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มเป้าหมายเรียนรู้ครูภูมิปัญญา

กิจกรรมที่ทำจริง

1.วันนี้กลุ่มเป้าหมาย ได้รู้จักสรรพคุณของสมุนไพร
2.กลุ่มเป้าหมาย เรียนรู้การเพาะสมุนไพรเพื่อขยายพันธุ์
การขยายพันธุ์พืชสมุนไพร การขยายพันธุ์คือ การสืบพันธุ์ของต้นไม้โดยธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการเพาะเมล็ด การแตกหน่อ แตกตา ใช้ไหล หรือเง่าของพืช การขยายพันธุ์พืชทำให้เพิ่มจำนวนของพืชมากขึ้น การขยายพันธุ์พืชสมุนไพร แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ การขยายพันธุ์พืชโดยอาศัยเพศคือการนำเมล็ดที่เกิดจากการผสมระหว่างเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย ไปเพาะเป็นต้นกล้าให้เจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ต่อไป ซึ่งลักษณะต้นใหม่ที่เกิดขึ้นอาจจะมีลักษณะที่ดีกว่าเดิมหรือเลวกว่าเดิมก็ได้ วิธีการขยายพันธุ์พืชโดยวิธีนี้ มีข้อดีคือ พืชมีรากแก้ว เป็นวิธีที่เหมาะแก่การขยายพันธุ์พืชจำนวนมาก มีวิธีการและขั้นตอนไม่มากนัก แต่มีข้อเสียที่กลายพันธุ์ได้ ต้นใหญ่ และกวาจะออกผลต้องใช้เวลานาน พืชสมุนไพรหลายชนิดเพาะพันธุ์โดยวิธีนี้เช่น คูน ยอ และฟ้าทะลายโจร วิธีการที่สะดวกและนิยมกันมาก คือการเพาะใส่กระถางหรือถุงพลาสติก วัสดุที่ใช้คือ ขี้เถ้าแกลบดำ ทรายหยาบ หรือดินปนทราย แต่ที่เหมาะที่สุดคือขี้เถ้าแกลบดำ เพราะขี้เถ้าแกลบดำไม่จับตัวแข็ง ร่วนซุย โปร่ง ระบายน้ำได้ดี แดดส่องสะดวก ถุงพลาสติกที่ใช้ต้องเจาะรูให้น้ำไหลได้ วิธีทำโดยใส่ถ่านแกลบลงในถุงพลาสติก เสร็จแล้วล้างถ่านแกลบด้วยน้ำเพื่อให้หมดด่างเสียก่อน ถ้าหากไม่ใช้ถ่านแกลบดำ จะใช้ดินร่วนปนทราย โดยใช้ดินร่วน 2 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ปุ๋ยคอกแห้งป่นละเอียด 1 ส่วน เอามาผสมให้เข้ากันดี หยอดเมล็ดให้ลึกพอประมาณ 2-3 เมล็ด (ถ้าเมล็ดใหญ่ใช้ 1 เมล็ด) ดูอย่าให้แดดจัด รดน้ำพอประมาณวันละครั้ง อย่าให้น้ำขัง เมล็ดจะเน่า เมื่อเมล็ดงอกแล้วให้ถูกแดดบ้าง เมื่อต้นเจริญเติบโตพอควรก็แยกไปปลูกในที่ที่ต้องการได้ การขยายพืชโดยไม่อาศัยเพศคือการขยายพันธุ์พืชด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของพืช เช่น กิ่ง หน่อ หัว ใบ เหง้า ไหล เป็นต้น โดยนำไปชำ ตอน แบ่งแยก ติดตา เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Tissue Culture) ให้เกิดเป็นต้นใหม่ขึ้นมาได้ ข้อดีของการขยายพันธุ์โดยไม่ต้องอาศัยเพศคือไม่กลายพันธุ์ สะดวกต่อการดูแลรักษา ได้ผลเร็ว และสามารถขยายพันธุ์พืชที่ยังไม่มีเมล็ดหรือไม่สามารถมีเมล็ดได้ แต่มีข้อเสียคือ ไม่มีรากแก้ว บางวิธีขยายพันธุ์ได้คราวละไม่มาก ต้องใช้เทคนิคและความรู้ช่วยบ้าง เช่น การตอน การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นต้น วิธีการขยายพันธุ์พืชแบบไม่อาศัยเพศมีหลายวิธี ในที่นี้จะแนะนำเฉพาะวิธีที่ใช้บ่อย และนำไปเลือกใช้กับการขยายพันธุ์พืชสมุนไพร ที่จะแนะนำต่อไปได้ ส่วนวิธีการอื่น หากสนใจ สามารถศึกษาได้จากตำราวิชาการด้านการเกษตร 2.1การแยกหน่อ หรือ กอพืชสมุนไพรบางชนิด เช่น กระชาย กล้วย ตะไคร้ ขิงข่า เตย ว่านหางจระเข้ ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อหรือกอ ทำได้โดยก่อนแยกหน่อ จะต้องเลือกหน่อที่แข็งแรง มีใบ 2-3 ใบ ใช้น้ำรดให้ทั่วเพื่อให้ดินนุ่ม ขุดแยกออกมาอย่างระมัดระวัง อย่าให้หน่อช้ำ เมื่อตัดออกมาแล้ว เอาดินกลบโคนต้นแม่ให้เรียบร้อย นำหน่อที่แยกตัดรากที่ช้ำ หรือใบที่มากเกินไปออกบ้าง แล้วนำไปปลูกลงในกระถางหรือดินที่เตรียมไว้กดดินให้แน่น เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่ม เก็บไว้ในที่ร่ม ถ้าปลูกลงแปลงก็บังร่มเงาให้จนกว่าต้นจะแข็งแรง ดูแลอย่าให้น้ำขัง 2.2การปักชำพืชสมุนไพร เช่น หญ้าหนวดแมว ขลู่ ดีปลี ปักชำได้ง่าย โดยใช้ลำต้นหรือกิ่ง โดยเลือกกิ่งที่สมบูรณ์ ไม่อ่อนหรือไม่แก่จนเกินไป ใช้มีดหรือกรรไกรที่คม ตัดเฉียงโดยให้กิ่งชำมีตาติดอยู่สัก 3-4 ตา ตัดแล้วริดใบออก ให้เหลือใบแต่น้อย ใช้ปูนแดงทาที่รอยตัดกันเชื้อรา นำไปปักลงบนกระบะที่บรรจุถ่านแกลบดำ หรือดินร่วนปนทราย ผสมแบบเดียวกับการเพาะเมล็ด การปัก ให้ปักตรงๆ ลงไปในดิน ไม้ใหญ่ปักห่างกันหน่อย ไม้เล็กปักถี่หน่อย กลบดินให้แน่น ไม่ให้โยกคลอน การรดน้ำให้สม่ำเสมอ และอย่าให้แฉะ และอย่ารดน้ำแรง จะทำให้กิ่งโยกคลอน เมื่อรากแตกและมีใบเจริญขึ้น ก็ย้ายไปปลูกในที่ที่เตรียมดินไว้

 

50 50

15. แปรรูปสมุนไพร ครั้งที่ 3

วันที่ 24 มกราคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อแปรรูปสมุนไพร

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีความรู้ความเข้าใจและสามารถแปรรูปสมุนไพร เป็นชาชงสมุนไพรได้ 2.รู้จักชาใบขลู่ รู้สรรพคุณประโยชน์ของชาใบขลู่กระเจี๊ยบแดงและตะไคร้ 3.มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ภายในกลุ่ม 4.มีความรักสามัคคีเพิ่มขึ้น

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพร

กิจกรรมที่ทำจริง

งันนี้เป้นกิจกรรมการเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพรดดยในวันนี้จะเป็นการแปรรูปสมุนไพรเป็นชาชง โดยจะมีสมุนไพรที่นำมาทำชาคือ ต้นขลู่ตะไคร่และกระเจี๊ยบ ต้นขลู่ อาจเป็นพืชที่คนไทยยังไม่คุ้นหูมากนัก ซึ่งตอนนี้ทางภาคใต้ได้มีการนำใบขลู่มาแทนยารักษาโรคทั่วไปบางตัว ทั้งการรับประทานแบบสด หรือนำมาแปรรูปเป็นใบชา ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ถ่ายทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
การทำชาขลู่ ขลู่ เป็นพืชที่พบโดยทั่วไปในประเทศเขตร้อน ชอบขึ้นตามพื้นที่ชื้นแฉะบริเวณพื้นที่น้ำเค็มต้นขลู่ยังมีชื่อเรียกพื้นบ้านอีกหลายชื่อตามแหล่งที่อยู่อย่างเช่น อีสานเรียก"เพี้ยฟาน" แม่ฮ่องสอนเรียก "ขี้ป้าน"
ขลู่ มีลักษณะเป็น ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 1-2 เมตร ขึ้นเป็นกอ แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นกลมสีน้ำตาลแดง หรือเขียว ลำต้นและกิ่งก้านมีขนละเอียดปกคลุม ใบเดี่ยว ออกแบบสลับ รูปไข่กลับ กว้าง 1-5 เซนติเมตร ยาว 2.5-10 เซนติเมตร ปลายใบมน ปลายใบมีขนาดใหญ่กว่าโคนใบ โคนใบสอบ ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย โดยรอบมีขนขาวๆปกคลุม ก้านใบสั้นมาก เนื้อใบบาง แผ่นใบเรียบเป็นมัน ใบค่อนข้างแข็งและเปราะ ใบมีกลิ่นหอมฉุน ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด หรือตามซอกใบ รูปกลม หลายๆช่อมารวมกัน ดอกเป็นฝอยสีขาวนวลหรือสีขาวอมม่วง ซึ่งคนโบราณเชื่อว่าต้นขลู่มีสรรพคุณทางยา นำไปต้มกับน้ำร้อน บรรเทาโรคเบาหวาน ลดไขมันในเส้นเลือด ขับปัสสาวะ แต่ปัจจุบันภูมิปัญญาเริ่มหายไป หลายพื้นที่เห็นว่าเป็นวัชพืชจึงถูกโค่นทิ้ง ทางชุมชน ได้เห็นความสำคัญ จึงได้อนุรักษ์ ภูมิปัญญาดั้งเดิมนี้ไว้ นำใบขลู่มาแปรรูป เป็นชาใบขลู่ซึ่งเป็นพืชพื้นบ้านที่มีอยู่ทั่วไป โดยทางวิชาการก็ระบุว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา มีประโยชน์ต่อร่างกาย สรรพคุณ แก้เบาหวาน เพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิตสูง การทำชาใบขลู่ 1. เก็บใบอ่อนขลู่ ตอนเช้าล้างให้สะอาด อย่าให้ช้ำ ใส่ตะกร้าพลาสติก 2. หั่นด้วยมีดคม ๆ เป็นเส้นหนา1/2 เซนติเมตร 3. นำใบขลู่ที่หั่นแล้วใส่หม้อตะแกรงอลูมิเนียม ลวกน้ำร้อน 3 - 5 นาทีพอสุก (จะทำให้รักษาสีเขียวไว้ได้สวยงาม) ปั่นเครื่องสลัดน้ำ แล้วเทใส่ตะกร้าพลาสติก 4. ผึ่งลมหรือแดด ประมาณ 10 - 15 นาที ให้แห้ง 5. คั่วในกระทะอลูมิเนียม ไฟเบาถึงไฟกลาง โดยใช้มือคนที่ใส่ถุงมือผ้า คั่วให้แห้ง นาน 30 นาที 6.เสร็จแล้ว ใส่ตะแกรงหรือตะกร้าพลาสติก และฉีกใบชาที่กอดกันเป็นก้อนให้กระจายออกให้หมด แล้วนำเข้าตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ หรือตู้อบแก๊สให้แห้ง 7.บรรจุใส่ถุงพลาสติก ซีลปิดปากถุงให้สนิท นำไปชงดื่ม วิธีประทาน ใช้ใบขลู่ประาณ 1 หยิบมือชงกับน้ำร้อนรับประทานเพื่อสุขภาพ


ตะไคร้เป็นพืชล้มลุก อยู่รวมกันเป็นกอ มีข้อและปล้องสั้น ค่อนข้างเข็ง ลำต้นส่วนที่อ่อนจะมีใบเรียงซ้อนกันหลาชั้น ใบมีกาบใบเป็นแผ่นยาวโอบซ้อนกันจนแข็งจนคล้ายลำต้น ตัวใบเรียวยาว แหลม กว้างประมาณ 1-2 ซม.ยาวเต็มที่ได้ถึง 80 ซม. เนื้อใบหยาบมีขนอยู่ทั่วไป ขอบใบค่อนข้างคม เวลาจับใช้คามระมัดระวังด้วยนะครับ ผมเคยโดนบาดมาแล้วอ้ออีกอย่างตะไคร้มีดอกด้วยนะครับเวลาออกดอกเป็นช่อยาวมาก ซึ่งประกอบด้วยช่อย่อยที่มีดอกขนาดเล็กๆเป็นจำนนมาก มีขนที่ก้านดอก สรรพคุณของตะไคร้ ช่วยขับลม จุกเสียดแน่นท้อง แก้ท้องอืด มีฤทธิ์อุ่น รสเผ็ด ช่วยลดความดันโลหิตสูง ขับเหงื่อ แก้หวัด ลมเย็น ปวดศรีษะ แก้อาการขัดเบา ช่วยแก้อาการขับปัสสาวะเป็นเลือด ระงับอาการปวดเกร็งตามร่างกาย แก้ปวดเมื่อยตัว แก้อาการท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด ช่วยขับลมในลำไส้ บรรเทาอาการไอ รักษาอาการข้อเท้าแพลง ปวดบั้นเอว แก้อาการปวดตามข้อ แก้นิ่ว วิธีการทำชาตะไคร้ห 1.นำเอาต้นตะไคร้ล้างให้สะอาดแล้วใช้มีดหั่นชิ้นส่วนที่เป็นต้นใบรากไม่เอา หั่นเป็นชิ้นเล็กที่พอเหมาะสำหรับการชงชา 2. นำมาตากแดดให้แห้งสนิท 3.แล้วนำมาคัวให้เหลือง หอม คั่วในกระทะอลูมิเนียม ไฟเบาถึงไฟกลาง โดยใช้มือคนที่ใส่ถุงมือผ้า คั่วให้แห้ง นานประมาณ 30 นาทีจากนั้นบรรจุถุงปิดให้สนิท เพื่อเก็บไว้ชงต่อไป เก็บไว้ชง ส่วนวิธีรับประทานก็เหมือนชาใบขลู่


กระเจี๊ยบแดง ไม้ล้มลุก สูงประมาณ 1 - 3 เมตร เปลือกต้นสีเทาปนแดงเหนียว ใบเป็นใบเดี่ยว การเกาะติดของใบบนกิ่งแบบสลับ รูปแบบนิ้วมือ ขนาดประมาณ 3.00 x 7.00 เซนติเมตร โดยใบหยักลึก 3 - 5 ปลาย ปลายยอดแหลม โคนใบมนกว้าง ขอบใบหยักแบบฟันเลื้อย ก้านใบสีแดงยาว ดอกออกเดี่ยวเป็นกระจุก 1 - 3 ดอกที่ซอกใบบริเวณปลายยอด ดอกสีขาวนวล และชมพูแดง กลีบดอกมี 5 กลีบ แต่ละกลีบเป็นอิสระจากกัน กลีบเลี้ยงสีแดงสด แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นในมีเนื้อกลีบส่วนโคนเชื่อมติดกัน กลีบชั้นนอกเรียวแหลม 8 - 12 กลีบ ผลทรงกลมปลายแหลม ผิวผลมีขนขนาดเล็กสีขาวเกาะติดหนาแน่น เมล็ดทรงกลม สีน้ำตาลดำ มีจำนวนมาก

สรรพคุณ กลีบเลี้ยงของดอก ต้มน้ำดื่ม ใบและยอดอ่อน เป็นเครื่องปรุงให้รสเปรี้ยว และรับประทานสด เมล็ด เป็นยาบำรุงกำลัง ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ เป็นยาลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดน้ำหนักด้วย ลดความดันโลหิตได้โดยไม่มีผลข้างเคียง ลดอุณหภูมิในร่างกาย น้ำกระเจี๊ยบทำให้ความเหนียวข้นของเลือดลดลง บำรุงโลหิต แก้อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ แก้ดีพิการ แก้ปัสสาวะขัด แก้คอแห้งกระหายน้ำ กัดเสมหะ แก้ไอ

การทำชากระเจี๊ยบ 1.นำดอกกระเจี๊ยบแดงมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2.คั่วในกระทะจนแห้งกรอบ แล้วนำเก็บไว้ในถุงปิดให้มิดชิด ซึ่งดอกกระเจี๊ยบแดงคั่วที่เหลือให้เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดสามารถเก็บไว้ชงดื่มได้เป็นเดือน
3.สามารถนำไปชงชาได้เลย
เวลาดื่มให้ใส่ลงในแก้ว เทน้ำร้อนใส่ลงไป ชงดื่มเป็นชา (หรือนำไปใส่ในกาสำหรับชงชา) แช่ทิ้งไว้สักครู่บีบน้ำมะนาว หรือฝานชิ้นเลมอนลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ หากต้องการความหวานก็เติมน้ำตาลทรายลงไปตามความชอบ


ซึ่งต่อไปทางกลุ่มเราก็จะทำเป็นสินค้าจำหน่ายเป็นชาใบขลู่แะนำเงินมาพัฒนาและบริหารกลุ่ม กันต่อไป

 

50 50

16. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 9

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและรายงานความคืบหน้าจากการทำโครงการ วางแผนงานในกิจกรรมครั้งต่อไป

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.คณะทำงานมีการเตรียมข้อมูลการทำงานขัดเจนขึ้น
2.วางแผนการติดตามผลการดำเนินงานและความก้าวหน้าของกิจกรรม
3..คณะทำงานมีการเรียนรู้ร่วมกัน 4.มีการยอมนับกันมากขึ้น

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

ประชุมคณะทำงานตามแผนที่กำหนด

กิจกรรมที่ทำจริง

ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก
วาระที่ 1สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา วาระที่ 2เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไปคือ 1)สืนสานประเพณีภูมิปัญญา 2)แปรรูปสมุนไพร ครั้งที่ 4
3)ติดตามประเมินผลกลุ่ม ครั้งที่ 2 4)กลุ่มวิสาหกิจสมุนไพร ครั้งที่ 2
และได้มอบหมายหน้าที่และกิจกรรมต่างๆ ให้รับผิดชอบในวันทำกิจกรรม
สิ่งที่ได้ในวันนี้ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้าเกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม การสร้างระบบติดตามการประเมินผลการดำเนินงานต้นแบบ

 

25 25

17. สืนสานประเพณีภูมิปัญญา

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสืบสานภูมิปัญญา

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ได้เรียนรู้กระบวนการไหว้ครู เพื่อสืบสานภูมิปัญญา 2.ได้เห็นคุณค่าของบรรพบุรุษ 3.เป็นการแสดงถึงความเคารพต่อครู ต่อกิจกรรมและต่อสถานที่ 4.ประชาชนได้ร่วมทำบุญ 5.ได้สืบทอดพุทธศาสนา เพราะใช้วัดจัดกิจกรรม

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มเป้าหมาย เรียนรู้ประเพณีสืบสานภูมิปัญญา

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้จัดกิจกรรมไหว้ครูเพื่อสืบสานต่อเทียนครูภูมิปัญญา โดยทีมงานขอความร่วมมือกับทางวัดพระบาท และครูภูมิปัญญา จัดให้มีการไหว้ครูประจำปีที่ศาลาการเปรียญ โดยเชิญภาคีเครือข่ายภาคประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม ในการจัดกิจกรรมปราชญ์สอนแนะเกี่ยวกับการจัดพิธีกรรมในการต่อเทียนครูภูมิปัญญา โดยให้จัดทำทำบายศรีบูชาครู  พร้อมทั้งอุปกรณ์ในการไหว้ครูและจัดเตรียมอุปกรณ์ไหว้ครู  มีบทขอขมาและบทสวดมนต์ไหว้พระ
กิจกรรมวันนี้ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติและประชาชนในหมู่บ้านเข้าร่วมกิจกรรม  โดยเชิญนายก อบต.เขาพระบาท ครูโรงเรียนวัดพระบาท
ในงานมีการแจกแผ่นพับความรู้เรื่องสมุนไพร และมีสมุนไพรที่แปรรูปไว้แล้วในชุมจัดจำหน่าย ได้แก่ ลูกประคบ ชาใบขลู่ ชากระเจี๊ยบ ชาตะไคร้

 

200 200

18. แปรรูปสมุนไพร ครั้งที่ 4

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อมีความรู้  ความเข้าใจ  และสามารถแปรรูปสมุนไพรได้

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีความรู้  ความเข้าใจ  และสามารถทำการแปรรูปสมุนไพร ไดด้วยตัวเอง 2.มีความรักความสามัคคี 3.มีกรยอมรับกันภายในกลุ่ม

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพร

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้เป็นกิจกรรม ที่ทบทวนความรู้จากการได้เรียนรู้การแปรรูปสมุนไพรโดยจะให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และทำการแปรรูป สมุนไพร กันเองง โดยจะมีปราชญ์ คอยช่วยในการแนะนำโดยจะมีการทำลูกประคบ การทำชาใบขลู่ชากระเจี๊ยบแดงและชาตะไคร้ พร้อมบบรจุเป็นผลิตภัณ ให้ดูสวยงาม เพื่อจะได้นำไปวางจำหน่ายได้ และก็จะให้สมาชิกได้แลกเปลี่ยนกันแปรรูปแต่ละอย่างใครที่ยังไม่ถนัดการทำลูกประคบก้จะให้คนที่เป็นแล้วสอนในการทำในการห่อผ้าลูกประคบโดยจะมีปราญช์คอยดุและช่วยแนะนำเพิ่มเติมส่วนคนที่ทำลุกประคบเป็นแล้ว ก็มาช่วยทำชามาช่วยหั่นตะไคร้และกระเจี๊ยบตากไว้ เพื่อจะได้นำไปขั่วต่อไปและส่วนที่คั่วกระทะเสร็จก็ช่วยกันบรรจุภัณฑ์หัวหน้าโครงการ ได้บอกให้สมาชิกฝึกให้ทำการแปรรูปให้เป็นกันทุกคนเพื่อจะได้ช่วยกันทำในครั้งต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้สมาชิกได้เกิดการแลกเปลี่ยนกันในระหว่างทำกิจกรรมได้สอนและแนะนำการแปรรูปสมุนไพร ซึ่งกันและกัน

 

50 50

19. ติดตามประเมินผลกลุ่ม ครั้งที่ 2

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อติดตามผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดุแลสมุนไพรในการดุแลสุขภาพ 2.กลุ่มเป้าหมายมีความสุขในการนำสมุนไพรมาดื่มแทนกาแฟ  เพราะลดค่าใช้จ่ายด้วย 3.ได้นำสมุนไพรที่มีในหมู่บ้าน นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ 4.ติดตามแปลงสมุนไพร แต่ละโวน  และที่ปลูกที่บ้าน

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานและที่ปรึกษาติดตามผลการดำเนินกลุ่ม 20 คน

กิจกรรมที่ทำจริง

กิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยคณะทำงานร่วมกับคณะครูจากโรงเรียนวัดพระบาท คณะเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาพระบาทและ อบต. เขาพระบาทร่วมกันออกติดตามประเมินผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยการออกสัมภาษณ์  สอบถาม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์  กลุ่มเป้าหมายในชุมชนถึงการเปลี่ยนแปลงหลังจากการนำสมุนไพรมาใช้เพื่อปรับสุขภาพ  พบว่า  กลุ่มเป้าหมายมีการต้มสมุนไพรในการปรับสุขภาพ  มีการดื่มน้ำสมุนไพร ยาต้มแทนการดื่มชากาแฟในตอนเช้า  ซึ่งทำให้รู้สึกว่ามีความสุข ร่างกายแข็งแรงกระฉับกระเฉงขึ้นมีการใช้น้ำสมุนไพรในงานเลี้ยงแทนน้ำอัดลม น้ำหวาน  ซึ่งยานี้อาจจะขมไปบ้าง แต่ก็ใช่กามะพร้าวมาเป็นแก้วในการดื่ม  เพื่อลดความขมของน้ำสมุนไพร  ดื่มแล้วเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย  ลดค่าใช้จ่าย  ลดการเป็นโรคภัยไข้เจ็บ  แถมยังลดค่าใช้จ่าย ด้วยเพราะลดการซื้อน้ำชา  กาแฟ  แถมสมุนไพรยังมีอยู่ในหมู่บ้าน  จะได้นำสิ่งที่มีในหมู่บ้านมาทำให้เกิดประโยชน์ และได้ไปติดตามการปลูกสมุนไพร  ของแต่ละบ้าน  ว่าได้ปลูกสมุนไพรอะไรบ้าง  และนำและนำสมุนไพรนั้นมาใช้ประโยชน์อย่างไร

 

20 20

20. กลุ่มวิสาหกิจสมุนไพร ครั้งที่ 2

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อจัดตั้งกลุ่มแปรรูปสมุนไพร

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.สมาชิกกลุ่มได้เรียนรู้สรรพคุณสมุนไพรที่ใช้ในการอบ 2.สมาชิกกลุ่มได้เรียนรู้คุณค่าของสมุนไพร 3.สมาชิกได้รู้ข้อห้ามของการอบสมุนไพร 4.ได้แบ่งกลุ่มกันปลูกสมุนไพร

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรเรียนรู้การจัดทำกลุ่มวิสาหกิจสมุนไพรชุมชน

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้ทางกลุ่มได้เรียนรู้เกี่ยวกับสูตรยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ด้วยตัวยาสมุนไพร รวม 7 ชนิด ที่มีสรรพคุณเป็นที่ยอมรับมาแต่ครั้งโบราณจวบจนถึงปัจจุบันแล้วว่าเป็นเลิศในการบำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม

สูตรที่ 1 ยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
• ส่วนผสมของยาอบสมุนไพร ได้แก่ใบมะกรูด ใบมะขามแก่ ต้นตะไคร้ทุบแตก ตัดเป็นท่อนสั้น หอมแดงทุบแตก ไพลหั่นเป็นแว่น ใบส้มป่อยการบูรบดละเอียด • วิธีปรุงส่วนผสมของยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม สูตรดั้งเดิม นำสมุนไพรทั้งหมดล้างให้สะอาด จากนั้นให้เอาใบมะกรูดมาเด็ดและฉีกเป็นชิ้น ๆ ต้นตะไคร้เอามาทุบแล้วหั่นเป็นท่อน ๆประมาณ 1 นิ้วเศษ เพื่อให้ต้มได้ง่ายขึ้น รูดใบมะขามแก่ แล้วขยี้ใส่ลงไปในหม้อ ต้มทั้งใบและก้าน ขยี้ใบส้มป่อย ใส่ลงไปทั้งใบและก้าน เอาไพลมาหั่นเป็นแว่นแล้วทุบ ทุบหอมแดงให้แตก ใส่ลงไปในหม้อต้ม ส่วนการบูรนั้นให้โรยลงไปเวลาที่น้ำสมุนไพรกำลังเดือดจัด เพื่อให้การบูรส่งกลิ่นหอมและรักษาคุณประโยชน์ของการบูรไว้อย่างเต็มที่ ไอน้ำร้อนจากการต้มยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพนี้ จะนำมาใช้ประโยชน์ในการอบสมุนไพรเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น หากต้องการทำเป็นสมุนไพรแห้ง จะต้องนำสมุนไพรไปตากแดด หรืออบด้วยความร้อนให้แห้งเสียก่อน แล้วจึงนำมาบดให้ละเอียด รวมทั้งใส่การบูรซึ่งบดจนละเอียดแล้วผสมลงไปด้วย กลิ่นหอมของการบูรจะโชยออกมาทันท๊ จากนั้นนำไปบรรจุไว้ในถุงผ้าขาวบาง และห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาจากสมุนไพรระเหิดออกไปจนเสียสรรพคุณสำคัญ อันจะทำให้การใช้ยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ไม่ให้ผลดีเท่าที่ควร

ผลของไอน้ำที่ได้จากการอบสมุนไพรมีดังนี้ต่อไปนี้ 1. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย 2. ช่วยทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น 3. ช่วยทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมากขึ้น ขยายรูขุมขน 4. ช่วยทำให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้น ช่วยละลายเสมหะทำให้ขับออกมาได้ง่ายขึ้น 5. ช่วยลดการอักเสบและบวมที่เยื่อบุของทางเดินหายใจตอนบน 6. ช่วยลดการระคายเคืองในลำคอ

ผลของตัวยาสมุนไพร สมุนไพรที่นิยมใช้ในการอบสมุนไพร มี 4 พวกใหญ่ๆ คือ 1. สมุนไพรที่มีนำมันหอมระเหย ได้แก่ เหง้าไพล เหง้าขมิ้นชัน เหง้าขมิ้นอ้อย เหง้าข่า เหง้ากระทือ เหง้าว่านน้ำ ต้นตะไคร้ กะเพรา ใบหนาด การบูรต้น เป็นต้น มีฤทธิ์ทำให้โล่งจมูก ขยายหลอดลม ฆ่าเชื้อโรคบางชนิด 2. สมุนไพรที่มีรสเปรี้ยว ได้แก่ ใบมะขาม ใบส้มป่อย ผลมะกรูด เป็นต้น มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยชำระสิ่งสกปรกออกจากผิวหนัง 3. สมุนไพรที่มีสารที่ระเหยแล้วมีกลิ่นหอม ได้แก่ การบูร พิมเสน ช่วยบำรุงหัวใจ รักษาโรคผิวหนัง 4. สมุนไพรที่รักษาเฉพาะโรค ได้แก่ ผักบุ้งขัน เหงือกปลาหมอ ทองพันชั่ง สำมะงา ใช้รักษาโรคผิวหนัง หัวหอม หัวเปราะหอม ใช้แก้หวัดคัดจมูก ผักบุ้งขัน ผักบุ้งรั้ว ผักชีล้อม ใช้ลดอักเสบบวม แก้เหน็บชาและน้ำเหลืองเสีย เป็นต้น สมุนไพรทั้ง 4 พวกนี้ใช้ได้ทั้งอบและอาบ ซึ่งช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้นกว่าการอบเพียงอย่างเดียว ประโยชน์ของการอบสมุนไพร

การอบไอน้ำสมุนไพร ถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ต่อไปนี้ 1. แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ผ่อนคลายความเครียด 2. ลดน้ำหนัก และเสริมความงามของผิวพรรณ 3. ในกรณีสตรีหลังคลอด ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ขับน้ำคาวปลา 4. ในกรณีผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย 5. ในกรณีผู้ติดยาเสพติด ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดอาการเซื่องซึม

ระยะเวลาในการอบสมุนไพร 1. กรณีที่ต้องการลดน้ำหนัก ให้ทำวันเว้นวัน เป็นเวลา 3 เดือน 2. กรณีสตรีหลังคลอด ให้ใช้ความร้อนต่ำๆ ทำทุกวันๆ ละ 1 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 เดือน 3. กรณีอัมพฤกษ์ อัมพาต ให้ใช้ความร้อนต่ำๆ ทำทุกวันๆ ละ 1 ชั่วโมง

ข้อควรระวังในการอบสมุนไพร 1. ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคปอด โรคลมบ้าหมู ตกเลือด ท้องเสียอย่างรุนแรง ไข้ทับระดู ไข้สูง อ่อนเพลีย โรคติดเชื้อ ไม่ควรอบสมุนไพร 2. ในขณะอบสมุนไพร ถ้ารู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก ควรออกมาพักนอกกระโจม อย่าฝืนอบต่อไป 3. ระวังอย่าให้ไอน้ำร้อนลวกถูกร่างกาย ควบคุมความร้อน อย่างให้สูงเกิน 40 องศาเซลเซียส 4. ไม่ควรอบนานเกินไป เพราะร่างกานอาจเสียน้ำและเกลือแร่ออกทางเหงื่อมากเกินไป จะทำให้อ่อนเพลีย ซึม ถ้าเป็นมากอาจช็อคได้ ปกติควรใช้เวลาอบทั้งสิ้น 15-30 นาที โดยพักนอกกระโจมในระหว่างการอบบ้าง

 

50 50

21. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 10

วันที่ 7 มีนาคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและรายงานความคืบหน้าจากการทำโครงการ วางแผนงานในกิจกรรมครั้งต่อไปเพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมงานและประชุมอย่างสม่ำเสมอ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.คณะกรรมการมีการสรุปและติดตามงาน 2.คณะทำงานวางแผนการจัดมหกรรมสุขภาพ
3.มีการรายงานการติดตามผลงานและความก้าวหน้าของกิจกรรม
4.เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน
5.สร้างคุณค่าในกระบวนการพัฒนางาน 6.มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในกิจกรรมครั้งต่อไป

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานประชุมตามแผนที่กำหนด

กิจกรรมที่ทำจริง

ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก
วาระที่ 1สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา
วาระที่ 2ชี้แจงกิจกรรมครั้งต่อไป โดยแบ่งหน้าของคณะทำงานแต่ละคนเพื่อจะจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป สิ่งที่ได้ในวันนี้ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้าเกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มได้มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน

 

25 25

22. ทำสวนสมุนไพร ครั้งที่ 4

วันที่ 28 มีนาคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อมีสวนสมุนไพรของชุมชน

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีสวนสมุนไพรของชุมชน 2.มีการแลกเปลียนเรียนรู้ในขณะทำกิจกรรม 3.มีความสามัคคีเพิ่มขึ้น

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรจัดทำสวนสมุนไพรเพิ่มเติม

กิจกรรมที่ทำจริง

กิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมการทำสวนสมุนไพร
วันนี้ทีมงานได้พูดคุยเกี่ยวกับการสร้างสวนสมุนไพรชุมชน
1.ทุกคนต้องมีส่วนร่วมโดยนำวัสดุมาจากบ้าน เช่น จอบ เสียม ต้นสมุนไพร ก้อนอิฐ ไม้ ปุ๋ย เพื่อมาทำสวนสมุนไพรชุมชน 2.แบ่งทีมออกเป็นโซน และวางรูปแบบการจัดสวนสมุนไพรชุมชน เพื่อให้เป็นมุมพักผ่อนของชุมชน
3.แต่ละแปลง มีข้อกำหนดดังนี้ (1)เขียนป้ายชื่อสมุนไพรสรรพคุณของสมุนไพรกำกับด้วย (2)แต่ละแปลงให้เขียนชื่อ ปราชญ์ ครู อสม. และนักเรียนที่รับผิดชอบด้วย (3.)กำหนดหน้าที่และเวรรับผิดชอบในการดูแล รดน้ำ โดยให้นักเรียนเป็นหลัก โดยมีครูและปราชญ์ช่วยติดตาม 4.ให้ช่วยกันบันทึกการการทำแปลงสมุนไพร บอกถึงการเปลี่ยนแปลง ระยะเวลาที่ต้นสมุนไพรโต เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักสังเกต และเรียนรู้เรื่องสมุนไพรไปด้วย 5.จัดกิจกรรมบอกเล่า เก้าสิบเกี่ยวกับการทำสวนสมุนไพรชุมชน เพื่อถอดบทเรียนในการพัฒนา 6.สรุปผลการจัดทำสวนสมุนไพรชุมชน
-สมุนไพรมีอะไรบ้าง แต่ละอย่างมีสรรพคุณอย่างไร นำไปใช้ประโยชน์อะไร วางแผนขยายพันธ์อย่างไร

 

50 50

23. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 11

วันที่ 7 เมษายน 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและรายงานความคืบหน้าจากการทำโครงการ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีการติดตาม การมอบหมายงานให้รับผิดชอบ ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี 2.เห็นภารพการทำงานของคณะกรรมการแบบมีส่วนร่วม
3.มีการยอมรับมากขึ้น 4.มีคณะกรรมวางแผนการจัดมหกรรมสุขภาพ และได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานประชุมตามแผนที่กำหนด

กิจกรรมที่ทำจริง

        ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก
      วาระที่ 1  สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา
      วาระที่ 2  เตรียมกิจกรรมครั้งต่อไป
        โดยแบ่งหน้าของคณะทำงานแต่ละคน  เพื่อจะจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป     สิ่งที่ได้ในวันนี้  ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการวางแผนล่วงหน้า  เกิดความร่วมมือในการทำงาน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม  ได้มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน

 

25 25

24. กลุ่มวิสาหกิจสมุนไพร ครั้งที่ 3

วันที่ 25 เมษายน 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อส่งเสริมการแปรรูปสมุนไพร

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.สมาชิกกลุ่มได้เรียนรุ้สรรพคุณของชาสมุนไพร 2.ได้เรียนรู้วิะีการแปรรูปชาสมุนไพร 3.ได้เรียนรู้คุณค่าของชาสมุนไพร 4.ได้แบ่งหน้าที่ในการผลิต 

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

กลุ่มสมุนไพรเรียนรู้การจัดทำกลุ่มวิสาหกิจสมุนไพรชุมชน

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้มีการพูดคุยเรื่อง ชาสมุนไพร ชาสมุนไพรจัดเป็นสินค้าอันดับต้น ๆ ที่อยู่ในความสนใจของนักดื่มผู้รักสุขภาพ นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มประจำวันแล้ว ยังเชื่อกันว่าสรรพคุณของสมุนไพร ที่นำมาทำชาชงนี้จะช่วยดูแลและป้องกันสุขภาพได้ด้วย เรียกว่ากินเพื่อป้องกันก็ได้ กินเพื่อรักษาก็ได้ ประเภททูอินวันในถ้วยเดียว
ชาสมุนไพรเป็นได้ทั้งเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพและยานี่เอง จึงมีคำถามตามมาว่า ต้องดื่มมากน้อยขนาดไหนจึงบำรุงสุขภาพ ถ้าดื่มเป็นยาต้องใช้มากน้อยเพียงใด ดื่มไปนาน ๆ แล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่
เรามาทำความเข้าใจเบื้องต้นกันก่อนว่า การชงชาคือการ สกัดสารออกฤทธิ์จากสมุนไพรด้วยความร้อนในช่วงสั้น ๆ เพื่อไม่ให้สารที่ไม่ต้องการออกมามากเกินไป และพืชไม่ต้องสัมผัสกับความร้อนมากจนเสียกลิ่นและรสชาติ ดังที่เกิดในวิธีการใช้ต้ม ส่วนใหญ่แล้วการใช้วิธีชงแบบชา มักจะใช้ในสมุนไพรที่ต้องการคงความอร่อยของกลิ่นรสไว้เพื่อให้ชวนดื่ม เน้นการบำรุงสุขภาพมากกว่าที่จะใช้เป็นยา ซึ่งในกรณีนี้มักไม่มีอันตรายใด ๆ พืชสมุนไพรที่อยู่ในรูปชาชงแบบนี้ก็ได้แก่ ชาเขียว ชาขิง มะตูม ตะไคร้กระเจี๊ยบ ทองพันชั่ง ชาประเภทนี้ ดื่มได้ทั้งวันไม่ต้องคิดมากชาสมุนไพรประเภทที่สองเป็นชนิดที่ใช้ดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพก็ได้ หรือจะใช้ดื่มเป็นยาก็ได้ เช่น ชาหญ้าหนวดแมว รางจืด ดอกคำฝอย หญ้าดอกขาว เป็นต้น คือถ้าจะดื่มบำรุงสุขภาพเช้าหนึ่งถ้วย เย็นหนึ่งถ้วย ดื่มติดต่อกันไปหลาย ๆ วัน ก็ไม่มีอันตรายอะไร แต่หากเกิดมีอาการขัดเบา ปัสสาวะกะปริบกะปรอย อยากใช้ชาหญ้าหนวดแมวที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะช่วยบรรเทาอาการ ถ้าดื่มแค่นี้คงจะไม่เห็นผล หากจะดื่มเพื่อรักษาอาการดังกล่าว ขนาดที่ใช้ดื่มคือ วันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 1 ถ้วย ต้องดื่มอย่างน้อยประมาณ 5-7 วัน จึงจะเห็นผล
ส่วนใครที่มีพิษไข้ ผิดสำแดง หรือต้องการแก้พิษเมื่อเมาต่าง ๆ ก็ต้องดื่มชารางจืดบ่อย ๆ ในช่วงแรก เช่นทุก ๆ 4 ชั่วโมง หรือทุกครั้งที่มีไข้ หรืออาจจะดื่มต่างน้ำไปเลยสัก 2-3 วัน จึงค่อยเลิก สำหรับอาการปวดท้อง ท้องขึ้น เป็นไข้มีอาการไอร่วมด้วย ถ้าจะใช้ชาหญ้าดอกขาวบำบัดอาการ ก็ต้องดื่มวันละ 3 เวลา ครั้งละ 1 แก้ว จนอาการหายดีแล้ว แต่ถ้าอยากดื่มเป็นชาบำรุงสุขภาพ ก็ลดขนาดลงมา
ส่วนชาดอกคำฝอยนั้น มีสรรพคุณช่วยขับเหงื่อ เป็นยาระบายอ่อน ๆ บำรุงหัวใจ บำรุงโลหิตและขับระดู มักนิยมนำมาชงดื่มแก้อาการดังกล่าว ข้อควรระวังของชาดอกคำฝอย ก็คือ ไม่ควรใช้ ในสตรีมีครรภ์ เพราะดอกคำฝอยเป็นยาบำรุงเลือดและขับประจำเดือน ถ้าดื่มมาก ๆ อาจแท้งได้
นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อนกันมากว่า ชาดอกคำฝอยสามารถลดไขมันในเส้นเลือดได้ ความจริงตัวที่ลดไขมันในเส้นเลือดได้นั้นคือ น้ำมันที่สกัดจากดอกคำฝอย ไม่ใช่ดอกคำฝอยที่เราเอามาชงชากันโดยทั่วไป ยังไม่มีรายงาน การทดลองยืนยันว่าชาดอกคำฝอยลดไขมันในเส้นเลือดได้
ชาประเภทสุดท้าย ต้องถือเป็นยาสมุนไพรที่อยู่ในรูปของชามากกว่า คือเอามาแปรรูป เพื่อนำมาใช้ได้สะดวก ง่าย ๆ รวดเร็วทันใจ ชาพวกนี้ ได้แก่ ชาชุมเห็ดเทศ ชามะขามแขก ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาระบาย ควรกินตามขนาดและระยะเวลาที่กำหนดไว้ พอระบายถ่ายท้องคล่องแล้วก็ควรหยุดดื่มทันที ไม่ควรดื่มติดต่อกันนาน ๆ เป็นประจำทุกวัน เพราะทั้งชาชุมเห็ดเทศและมะขามแขก มีฤทธิ์ไปกระตุ้นลำไส้ หากดื่มติดต่อกันนาน ๆ จะต้องเพิ่มขนาดยามากขึ้น ถึงจะได้ผลและอาจทำให้ระบบขับถ่ายไม่ทำงานได้
พวกชาที่ชอบโฆษณาว่าช่วยลดความอ้วนได้ ก็มักจะเป็นชาสมุนไพรดังกล่าวมานี้ ถ้าจะใช้ก็ต้องคำนึงถึงผลข้างเคียงที่จะตามมาด้วยคงจะพอแยกแยะกันได้บ้างแล้วว่าจะดื่มชาสมุนไพรอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดและปลอดภัย ดื่มอย่างไรจึงเป็นการป้องกันและบำรุงสุขภาพ ดื่มแบบไหนจึงจะใช้เป็นยารักษาโรคและอาการที่ไม่พึงปรารถนา

น้ำกระเพราแดง ส่วนผสม ใบกระเพราแดงแห้ง 5 กรัม (1 ช้อนชา) น้ำเดือด 200 กรัม (14 ช้อนคาว) วิธีทำ 1.เอาใบกระเพราแดงสดมาล้างทำความสะอาด แล้วนำไปตากแดด 2 - 3 แดดจนแห้งแล้วเก็บไว้ในกระป๋อง 2.เวลาชงเอากระเพราแดงแห้งใส่ในกระติกน้ำร้อนหรือชงกับน้ำ 1 แก้วก็ได้ ทิ้งไว้ 5 - 10 นาทีแล้วดื่มได้เลย ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ คุณค่าทางยา : ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดี

น้ำข่า ส่วนผสม ข่าตากแห้ง 20 กรัม (5 แว่น) น้ำร้อน 200 กรัม (14 ช้อนคาว) วิธีทำ 1.เอาข่าแก่ที่ตากแห้งแล้วใส่ลงไปในถ้วยกาแฟ 4 - 5 แว่น 2.เอาน้ำร้อนใส่ลงไปค่อนถ้วย ปิดฝาถ้วย ทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง แล้วค่อยดื่ม ควรดื่ม 2-3 ถ้วยต่อวัน ก้ทำให้สบายท้อง ขึ้น หรือจะใช้ข่าสดก็ได้ 10-12 แว่น นำมาทุบให้แตก ต้มเอาน้ำดื่มก็ได้ ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ คุณค่าทางยา : ช่วยขับลมได้อย่างดี เป็นการระบายลมออกมาจากลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว

น้ำดอกคำฝอย ส่วนผสม ดอกคำฝอยแห้ง 2 - 5 กรัม (1 หยิบมือ) น้ำเดือด 150 กรัม (1 ถ้วยกาแฟ) วิธีทำ 1. เอาดอกคำฝอยใส่ในถ้วยกาแฟ เทน้ำร้อนลงไป 2. เอาช้อนกาแฟคนให้เข้ากัยน้ำร้อน จนกระทั่งน้ำเป็นสีแดงปนน้ำตาลสีจะเข้ม แล้วจิบดื่มช้าๆ ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ คุณค่าทางยา : ลดไขมันในเส้นเลือด ลดความดันโลหิตสูง ช่วยขับเหงื่อ ช่วยระบายอ่อนๆ คนจีนใช้รักษา โรคหัวใจ และหลอดเลือด

น้ำฟ้าทะลายโจร ส่วนผสม ฟ้าทะลายโจรหั่น (ตากแห้ง) 15 กรัม (1 ช้อนชา) ใบเตยหอมสดหั่น 15 กรัม (1 ช้อนคาว) น้ำสะอาด 200 กรัม (14 ช้อนคาว) วิธีทำ 1. เอาฟ้าทะลายโจรหั่นตากแห้ง ใส่หม้อต้ม 2. เอาใบเตยหอมหั่นใส่ลงไปด้วย เพื่อสร้างความหอมและน่าดื่ม 3. ยกตั้งบนเตาไฟ ต้มจนเดือด เคี่ยวจนงวด ยกลง เอากากออก แบ่งดื่มวันละ 3 เวลา
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ คุณค่าทางยา : ช่วยโรคภูมิแพ้ได้ดี แก้ร้อนใน เจ็บคอ ตัวร้อน ปวดหัว ช่วยเจริญอาหาร


วันนี้ทีมงานได้มีการสอนแนะกลุ่มเป้าหมายให้รุ้จัก การแปรรูปใบชา ได้แก่ 1.ชาใบเตยสำหรับสรรพคุณของชาใบเตยได้แก่บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะชาใบเตย ทำจากใบเตยหอม อบแห้ง บดเป็นผง มี สีเขียวใบเตย มีกลิ่นหอมชื่นใจใบเตยมีคุณสมบัติหลักๆ ขับปัสสาวะ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ชาใบเตยจึงเหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง คนธรรมดาทั่วไปก็ดื่มได้กลิ่นหอมของใบเตยชื่นใจ คลายเครียดได้ดี
2.ชาขิง จริงๆจะเรียกว่าน้ำขิงก็ไม่ผิดอะไรนัก แก้หวัด และช่วยย่อยทำจากเหง้าขิงแก่ ที่มีน้ำมันหอมระเหยมีสรรพคุณทางร้อน ช่วยบรรเทาหวัด แก้คลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือ ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด 3.ชาตะไคร้ สามารถช่วยขับลม ช่วยย่อยทำจากต้นและใบตะไคร้อบให้แห้งแล้วบด ตะไคร้จะมีกลิ่นหอม ช่วยย่อยอาหาร แก้ลมวิงเวียน แก้ปวดเกร็งในท้อง ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะและมีรายงานการทดลองพบว่า ตะไคร้นั้นมีคุณสมบัติต้านมะเร็งได้อีกด้วย 4.ชารางจืด สามรถกำจัดพิษ และล้างสารพิษทำจากใบรางจืดอบแห้งมีกลิ่นใบไม้แห้ง หอมอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ ให้น้ำชาสีน้ำตาลออกเขียว มีสรรพคุณกำจัดพิษ แก้เมาค้าง บรรเทาอาการผื่นแพ้ และลดความร้อนในร่างกาย เหมาะกับเมืองไทยในขณะนี้ ที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ชารางจืดไม่มีพิษดื่มเป็นประจำได้ทุกวัน ชากระเจี๊ยบ สามารถช่วยขับปัสสาวะไขมันในเลือด ได้มาจากดอกของกระเจี๊ยบแดง มีคุณสมบัติในการลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิตสูง แก้กระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอชื่นใจ ชากระเจี๊ยบมีสีแดง รสเปรี้ยวมักเติมน้ำตาลเพื่อแต่งรส

 

50 50

25. ติดตามประเมินผลกลุ่ม ครั้งที่ 3

วันที่ 26 เมษายน 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อติดตามการปรับเปลี่ยยนพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุภาพ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดุแลสมุนไพรในการดุแลสุขภาพ
2.มีกลุ่มดื่มนำ้สมุนไพร 3.ได้นำสมุนไพรที่มีในหมู่บ้าน นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานและที่ปรึกษา ติดตามผลการทำงานของกลุ่ม 20 คน

กิจกรรมที่ทำจริง

กิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรครั้งที่ 3 โดยมีคณะทำงานร่วมกับคณะครูจากโรงเรียนวัดพระบาท คณะเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาพระบาทและ อบต. เขาพระบาทร่วมกันออกติดตามประเมินผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยติดตามกลุ่มเป้าหมายที่ได้ดื่มน้ำสมุนไพร ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็ยังทำกิจกรรมเดิมคือ หลังจากกรีดยางเสร็จ ก็มานั่งต้มน้ำสมุนไพรดื่มกันเหมือนเดิมซึ่งการดื่มยาสมุนไพรนี้ก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างงกายเพราะจะดื่มไม่มากไม่ได้สะสมในร่างกาไม่ได้กินพร่ำเพรื่อกินเพื่อบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะบำรุงกำลังเท่านั้นยกเว้นคนที่ต้องการรักษาโรคจะดื่มเช้าเย็นหรือตามที่หมอสมุนไพรสั่ง การดื่มยาสมุนไพรนี้นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังดีต่อค่าใช้จ่ายในครอบครัวด้วยเพราะช่วยลดค่าใช้ใช้จ่ายเพราะจะไม่เจ็บป่วยได้ง่ายจะได้ไม่ต้องเสียเลา เสียค่าใช้จ่ายในการไปหาหมอแถมยังได้มาพบปะพูดคุยกับเพื่อน บ้านอีกด้วย

 

50 50

26. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 12

วันที่ 5 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อสรุปผลการดำเนินงาน

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.เกิดกระบวนการการทำงานเป็นทีม
2.มีการสรุปผลการทำงาน ร่วมกัน 3.คณะทำงานมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน เกิดภาพการทำงานแบบมีส่วนร่วม 4.มีการวางรูปแบบการจัดทำรูปเล่มรายงานเพื่อรายงานปิดโครงการ

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานประชุมตามแผนที่กำหนด

กิจกรรมที่ทำจริง

ชี้แจงผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมา และได้มีการสรุปผลการดำเนินงานจากการทำโครงการที่ได้ทำมาทั้งหมด - นำผลการประเมิน เอกสารที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมต่างๆ มาตรวจสอบความถูกต้อง รวบรวม เพื่อทำรายงาน  นำรูปภ่ายในหารทำกิจกรรมต่างๆเข้าเวบไซค์ สรุปผลการติดตามความก้าวหน้า และผลการถอดบทเรียน มาเรียบเรียง สรุป เพื่อรายงานความคืบหน้าของโครงการ - สรุปและรายงานผลโดยจัดทำเป็นรูปเล่มและรายงานลงในโปรแกรมออนไลน์  เพื่อจะรายงานและปิดโครงการต่อไป

 

25 25

27. มหกรรมสุขภาพ

วันที่ 7 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินตามโครงการ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีการจัดนิทรรศการร่วมกันทั้งตำบล และเผยแพร่นิทรรศการบ้านอุ่แก้วให้ประชาชนได้รับทราบ 2.ได้สร้างภาคีเครือข่ายเพิ่ม และมีภาคีมาร่วมทำงานเพิ่ม 3.ได้เรียนรู้กระบวนการพัฒนา ในหมู่บ้านใกล้เคียง 4.ได้ปรับกระบวนทัศน์ในการพัฒนาหมู่บ้าน 5.เป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน และภายในตำบล 6.ประชาชนและผู้นำระดับตำบล หน่วยงานราชการในพื้นที่ ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าในการพัฒนา

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงาน ประชาฃนเข้าร่วมมหกรรมสุขภาพ

กิจกรรมที่ทำจริง

งานมหกรรมสุขภาพ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาพระบาท” จัดขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกและผนึกพลังของประชาชนให้เป็นหนึ่งเดียว สร้างกฎระเบียบของชุมชน สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในชุมชน และมีความสุขที่เกิดจากวิถีชุมชน ในตำบลเขาพระบาท รวมไปถึงการแสดงผลงาน ผลิตภัณฑ์ การดำเนินชีวิตของคนเขาพระบาท ด้วยการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต จึงได้จัดงานมหกรรมสุขภาพ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาบาท” ขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2558 ณ รพ.สต.เขาพระบาทตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชโดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมดังนี้ 1.เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ 2.เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนักและสนใจดูแลสุขภาพ 3.เพื่อนำภูมิปัญญาชุมชน นำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ โดยการจัดกิจกรรมวันนี้ มีตลอดทั้งวัน ซึ่งในช่วงเช้า เป็นกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างห้องน้ำและยกพื้นห้องตรวจรักษาพยาบาล ไม่ให้น้ำท่วม ภายใต้แนวคิด “พลังบุญสร้างสุข” และในช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมเสวนาตำบลจัดการสุขภาพ ในหัวข้อ “ชีวิตปลอดภัยที่เขาบาท” กิจกรรมการเรียนรู้ตามฐานการเรียนรู้ของชุมชน กิจกรรมเดินชม เชิญชิม เดินช้อป ตามวิถีคนเขาบาท และการแสดงบนเวทีของผู้สูงอายุ ผลจาการพัฒนาโดยใช้สมุนไพรเป็นกลไกขับเคลื่อนของบ้านไกรไทย ดังนี้
1. มีผู้ป่วยระยะสุดท้าย หายจากสมุนไพร โดยการต้มสมุนไพรสด เป็นยาอายุวัฒนะชุมชน 2.เกิดความเอื้ออาทร ความสามัคคีในการทำกิจกรรม 3.มีกลุ่มสมุนไพรบ้านไกรไทย ผลิตลูกประคบ ชุดอบสมุนไพร  ชาชงสมุนไพร 4.มีกระบวนการทำกลุ่ม ที่ปรับให้สอดคล้องกับวิถีชุมชน 5.มีห้องเรียนชุมชนมีการเรียนรู้เรื่องสมุนไพร 6.ลดรายจ่ายของครัวเรือนในการรักษาโรค 7.พัฒนาต่อยอดเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนวัดพระบาท ครูสอนนักเรียนทำดอกไม้สมุนไพร 8.สร้างความตระหนักในกลุ่มคน เลิกบุหรี่ เลิกกาแฟ เลิกกินกระท่อม หันมาดื่มชาสมุนไพรแทน

 

200 200

28. ถอดบทเรียนการพัฒนา

วันที่ 9 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อถอดบทเรียนการดำเนินงานตามโครงการ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ได้เรียนรู้กระบวนการพัฒนากิจกรรมตามโครงการ 2.ประชาชนได้ประโยชน์จากสมุนไพรและนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ 3.ค่าใช้จ่ายดูแลสุขภาพลดลง 4.ได้เห็นคุณค่าภูมิัปัญญา 5.เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

ตัวแทนแต่ละกลุ่มเข้าร่วมกิจกรรมถอดบทเรียนการพัฒนา

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้กลุ่มเป้าหมายมานั่งพูดคุยเพื่อถอดบทเรียนเกี่ยวกับการพัฒนาบ้านไกรไทย โดยมานั่งทบทวนกิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว มีอะไรบ้าง
1.การสำรวจข้อมูลชุมชน  ทุกคนได้ร่วมคิดออกแบบสำรวจข้อมูล ได้รับรู้สภาพที่แท้จริงของชุมชน และยังสรุปข้อมูลเป็นภาพรวม เพื่อคืนยังทุกครัวเรือน ข้อมูลสุขภาพ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนได้เกิดความตระหนัก 2.การจัดทำแผนครัวเรือน เป็นการสอนแนะให้ทุกคนได้วางแผนการพัฒนาครัวเรือนตนเอง
3.การจัดทำสวนสมุนไพรและธนาคาร  การจัดตั้งเป็นธนาคารสมุนไพรของชุมชน หลักการคือ ธนาคารสมุนไพรจะรวบรวมสมุนไพรทุกชนิดที่พบในบ้านไกรไทย ร่วมกันเพาะปลูกสมุนไพร เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนโดยจำหน่ายในราคาต้นทุน และรายได้ทั้งหมดนำไปพัฒนาธนาคารสมุนไพร แบ่งกลุ่มการเพาะและปลูกสมุนไพรเป็น 3 โซนเหมือนเดิม คือบ่อหลา ทางพล บ้านค่าย แต่ละกลุ่มประกอบด้วย ปราชญ์ 1คน แกนนำเดิม 6 คน นักเรียน 8 คน ครู กลุ่มละ 1 คน สรุปดังนี้  ปราชญ์:แกนนำเดิม:นักเรียน:ครูคือ1:6:8:1 แต่ละกลุ่ม ร่วมกันกำหนดบทบาทของสมาชิกให้ชัดเจน โดยกำหนดให้ครูและปราชญ์เป็นที่ปรึกษา และจัดทำผังการทำงานของแต่ละโซน แบ่งหน้าที่ มอบหมายกันอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการเกี่ยงงาน หรือไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง 1.สมุนไพรที่ใช้ทำลูกประคบ คือ ไพล มะกรูด มะขาม ตระไคร้ ขมิ้น ส้มป่อย 2.สมุนไพรสำหรับชุดอบ คือ ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ ผิวมะกรูด ผักบุ้ง ใบหนาด ใบมะขาม ส้มป่อย 3.สมุนไพรตำรับยาต้ม ที่มีอยู่ในชุมชน เช่น ไหลเผือก
ทุกโซน ต้องไปชักชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มเติม และร่วมกันกำหนดพื้นที่ในการปลูกสมุนไพรให้เป็นสวนสมุนไพรชุมชน 2 จุด คือ บริเวณศูนย์เรียนรู้บริเวณวัดพระบาท และปลูกทุกบ้าน ให้เป็นกองกลางของชุมชน โดยมีกติกาว่าทุกคนต้องปลูกเผื่อไว้ให้กับธนาคาร อย่างละ5 ต้นต่อบ้าน เพื่อใช้ปลูกและแจกจ่ายกับชุมชน และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน (แกนนำหลัก 50 ครัว กลุ่มสมัครใจ 150ครัว)

ผลที่เกิดขึ้นตามโครงการ 1.ประชาชนสร้างเสริมสุขภาพโดยการกินยาต้มสมุนไพรสด มีกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มพระ จำนวน 50 คน 2 ประชาชนรักษาและฟื้นฟูสุขภาพโดยการประคบสมุนไพรสด 30 ครัว  อบสมุนไพร 75 คน 3 ประชาชนมีการดื่มน้ำสมุนไพรแทนน้ำหวาน หรือน้ำอัดลม ทุกครั้งที่จัดกิจกรรม 4 มีการดื่มชาสมุนไพร แทนกาแฟ แทนกระท่อม 40 ครัว เลิกกาแฟได้ 20 คน เลิกกระท่อมได้  5 คน 5 มีธนาคารสมุนไพรในหมู่บ้าน 1 แห่ง และสวนสมุนไพร 2 แห่ง
6 แบ่งกลุ่มบ้านในการปลูกสมุนไพร และนำสมุนไพรใช้เอง ร้อยละ 90 ของครัวเรือน 7 มีการสำรวจสมุนไพรบนภูเขาพระบาท และทำเป็นแหล่งเรียนรู้
8 มีการผลิตลูกประคบ ผลิตสมุนไพรสำหรับอบ ยาต้มสมุนไพรอายุวัฒนะ  ผลิตชาใบขลู่ ชาใบเตย  ชาตะไคร้  ชารางจืด
9 มีกลุ่มวิสาหกิจสมุนไพรผลิตลูกประคบ สมุนไพรอบ ยาสมุนไพรอายุวัฒนะ ไว้จำหน่าย 10 ร่วมจัดมหกรรมสุขภาพเพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพร่วมกับภาคีสุขภาพในตำบลเขาพระบาท


สิ่งที่เกิดขึ้นและเรียนรู้จากการทำโครงการ สรุปผลงานโดยรวมพบว่า คนบ้านไกรไทย มีการปรับวิธีคิด  มีส่วนร่วมในการกิจกรรมเพิ่มขึ้น นำทุนของชุมชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์  เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของชุมชน และมีกฎการทำงานกลุ่มร่วมกัน ดังนี้ 1. มีกรณีผู้ป่วยตัวอย่างใช้สมุนไพรรักษาโรคระยะสุดท้ายของชีวิต (แพทย์ให้ความเห็นว่าให้เสียชีวิตที่บ้าน) ผลพบว่ากรณีตัวอย่างได้ใช้สมุนไพรจนหายจากโรค และมีการขยายผล  คนในชุมชนรวมตัวกันใช้สมุนไพร มาต้มเป็นยาอายุวัฒนะ ดื่มน้ำสมุนไพรสดต้มทุกเช้า มีส่วนผสม 17 ชนิด จากเดิมกินกาแฟนตอนเช้า ตอนนี้กินยาต้มสมุนไพรแทน โดยเริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุ แล้วขยายไปกลุ่มทำงาน ขยายไปกลุ่มพระ และขยายเพิ่มไปอีก 4 หมู่บ้าน สรรพคุณช่วยลดอาการเข็ดเมื่อย เป็นยาเลือด เป็นยาอายุวัฒนะ ขับถ่ายดี ซึ่งทุกคนเห็นผลเมื่อทดลองใช้  และมีการดื่มใบย่านาง เพื่อล้างพิษ
2. เกิดความเอื้ออาทร ความสามัคคี ทุกครั้งที่ทำกิจกรรม มีการพัฒนาสถานที่ไปด้วย นำอุปกรณ์หรือวัสดุจากบ้านไปร่วมสมทบ นำสมุนไพรไปปลูกในพื้นที่สาธารณะของหมู่บ้าน
3.มีการจัดตั้งกลุ่ม ชื่อ กลุ่มสมุนไพรบ้านไกรไทย และมีกติกาของกลุ่ม แบ่งหน้าที่ในการทำงาน โดยมาทำลูกประคบ ชุดอบสมุนไพร ชาชงสมุนไพร และนำไปจำหน่ายในชุมชน รพ.สต.เขาพระบาท หรือสั่งซื้อทางโทรศัพท์ เฉลี่ยการสั่งซื้อเดือนละ 50 ถุง ต่อเดือน
4. ปรับเปลี่ยนให้มีการประคบ อบสมุนไพร เดิมกำหนดเวลาเปิด ปิด แต่ประชาชนไม่สะดวก จึงปรับเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนสะดวก โดยการโทรแจ้งล่วงหน้า ทำให้เกิดความสบายกันทุกฝ่ายที่ทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่รู้สึกว่าแบกภาระมากเกินไป
5. มีห้องเรียนชุมชน จากเดิมคนในชุมชนไม่ค่อยรู้จักสมุนไพร ตอนนี้มีการเรียนรู้สมุนไพรบนภูเขาพระบาทและสำรวจเพิ่มได้ 87 ชนิด ทำให้ทราบว่าสมุนไพรที่เยอะสุดบนภูเขาพระบาทคือ ดีปลีเชือก และยังพบบัวสรรค์ ปราชญ์ชุมชนให้ข้อมูลว่า พื้นที่บ้านไกรไทยยังอุดมสมบูรณ์ และชุ่มชื้น จึงพบบัวสรรค์  (บัวสรรค์เป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่) 6. ลดรายจ่ายของครัวเรือนในการรักษาโรค จากเดิมไปหาหมอทุกเดือน ตอนนี้ลดเหลือ 2 - 3 เดือนต่อครั้ง
ลดค่ารถ 100 บาทต่อครั้ง เฉลี่ยปีละ 400 - 500 บาท
7.เกิดกลไกในการติดตามงาน มีการทำงานร่วมกันทุกหมู่บ้าน ตัวแทนหมู่บ้านละ 1 คน มาร่วมติดตามงาน เพื่อช่วยกระตุ้น ให้กำลังใจ และเรียนรู้งานไปพร้อมกัน
8.มีการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างโครงการเก่า และโครงการใหม่ ในชุมชน โครงการเก่าได้สอนแนะนำโครงการใหม่ ทำให้เกิดการสอนงานซึ่งกันระหว่างโครงการเก่ากับโครงการใหม่ เป็นการช่วยเหลือด้านความรู้ ด้านวิชาการ 9.มีการพัฒนาต่อยอดเป็นหลักสูตรการเรียน การสอนในโรงเรียนวัดพระบาท โดยครูจัดทำเป็นหลักสูตรสอนนักเรียนในการทำดอกไม้สมุนไพรจากต้นกระถิน หญ้าแฝก  กาบกล้วย
10. จากผลที่มีการใช้สมุนไพรทำให้คนเกิดความตระหนัก หันมาเลิกบุหรี่ 3 คน เลิกกาแฟ 20 คน เลิกกินกระท่อม 5 คน หันมาดื่มชาสมุนไพร ดื่มสมุนไพรสดแทน 40 คน

 

50 50

29. เรียนรู้เวทีปิดโครงการ

วันที่ 17 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานตามเป้าหมายที่กำหนดและความก้าวหน้าโครงการ 

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.มีการสรุปผลการดำเนินงานจากการทำโครงการที่ได้ทำมาทั้งหมด 2.นำผลการประเมิน ผลการติดตามความก้าวหน้า และผลการถอดบทเรียน มาเรียบเรียง สรุป เพื่อรายงานความคืบหน้าของโครงการ 3. สรุปและรายงานผลโดยจัดทำเป็นรูปเล่มและรายงานลงในโปรแกรมออนไลน์ 4.เรียนรู้วิธีปิดโครงการ 5.บทสรุปที่ได้จากการทำโครงการ คือ (1)ชุมชนน่าอยู่บนวิถีความพอเพียง  (2)สร้างความรัก ความสามัคคีภายในชุมชน  (3)เรียนรู้วิธีการอยู่รอดในสังคมปัจจุบัน

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานเรียนรู้เวทีปิดโครงการ

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้ อ.กำไล ได้แนะนำวิธีการสรุปโครงการ เพราะที่ผ่านมา มีการทำกิจกรรมเยอะมาก แต่ยังขาดวิธีการสรุป ให้พวกเราไปดูที่สรุปกิจกรรมที่ทำแต่ละครั้ง ไม่ต้องไปหาใหม่ เพราะกิจกรรมเหล่านี้เป็นข้อมูลการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นข้อมูลของเราเอง ทั้งผู้นำ ทีมงานและประชาชน ได้เข้าใจและร่วมพัฒนาให้ชัด กิจกรรมแต่ละครั้ง ที่ทำไป บางครั้งไม่ใช้กิจกรรมในพื้นที่แล้ว แต่บางอย่างเป็นของภาคใต้ไปแล้ว เช่น ตะลุงโขน เมื่อสืบสาวราวเรื่อง มีแห่งเดียวในภาคใต้  การสรุปนำมาจากข้อมูลดิบ จากข้อสรุปนำไปใส่ในรายงานพี่เลี้ยง ในช่องแบบประเมิน  แล้วนำไปเติมในบทคัดย่อ มี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกวัตถุประสงค์ตามตัวชี้วัด ส่วนที่สอง สรุปผลงานโดยรวม (ต้องเห็นการเปลี่ยนแปลง เห็นตัวละคร เห็นลีลาการทำงาน) เอกสารที่ต้องสรุปส่ง 1.รายงาน ส.4 2.รายงาน ส.2  (มีเฉพาะ 2 งวดเท่านั้น) เริ่มจากวันที่เราส่งรายงาน จนถึงวันที่ปิดโครง พี่เลี้ยงคุยอะไรให้เติมไปด้วย ไม่ครบทุกช่องก็ไม่เป็นไร 3.รายงาน ง.1  งวด 2    (การบันทึกรายจ่าย ค่าจ้างไม่มี ค่าตอบแทนมีได้  ค่าใช้สอย) น้องจาก สจรส.เสนอว่าค่าไวนิล ให้ใส่ในค่าจ้าง    ค่าประสานงาน  เขียนเป็นค่าตอบแทนประสานงาน  รอบนี้ไม่ต้องใส่สาธารณูปโภค  สำหรับเงินเหลือยกมาจากยอด งวดที่ 1ให้ไปดูรายงานงวดที่ 1 และการบันทึกรายรับต้องดูจากยอดสมุดบัญชี (ดอกเบี้ยให้ดูจากรอบที่ 2 หลังจากที่โอนมาแล้ว) 4.รายงาน ง.2  เป็นรายงานการเงินตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ 5.รายงาน ส.3  เป็นการสรุปผลการดำเนินงานทั้งหมด ถ้าเติมข้อมูลสมบูรณ์ สามารถออกรายงาน ส3 ได้เลย

 

3 3

30. เผยแพร่ผลการดำเนินงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียรใหญ่

วันที่ 29 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินตามโครงการ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

  1. ได้มีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพื้นที่ต่างๆ
  2. เกิดคุณค่าจากการพัฒนางาน
  3. ทำให้มองเห็นทุนในชุมชนมากขึ้น และเห็นคุณค่าของทีมงาน
  4. ได้รับการเสริมแรงจากหน่วยงานภาครัฐ

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงาน จัดนิทรรศการให้ภาคีสุขภาพในเขตพื้นที่อำเภอเชียรใหญ่

กิจกรรมที่ทำจริง

สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียรใหญ่จัดนิทรรศการท้องถิ่นชุมชน น่าอยู่ และนำกระบวนการพัฒนาชุมชน นำเสนอร่วมกับพื้นที่อื่นๆ ซึ่งสรุปได้ว่า ผลผลิตของโครงการ
1.ประชาชนสร้างเสริมสุขภาพโดยการกินยาต้มสมุนไพรสด มีกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มพระ จำนวน 50 คน 2 ประชาชนรักษาและฟื้นฟูสุขภาพโดยการประคบสมุนไพรสด 30 ครัว  อบสมุนไพร 75 คน 3 ประชาชนมีการดื่มน้ำสมุนไพรแทนน้ำหวาน หรือน้ำอัดลม ทุกครั้งที่จัดกิจกรรม 4 มีการดื่มชาสมุนไพร แทนกาแฟ แทนกระท่อม 40 ครัว เลิกกาแฟได้ 20 คน เลิกกระท่อมได้  5 คน

ผลลัพธ์
1 มีธนาคารสมุนไพรในหมู่บ้าน 1 แห่ง และสวนสมุนไพร 2 แห่ง
2 แบ่งกลุ่มบ้านในการปลูกสมุนไพร และนำสมุนไพรใช้เอง ร้อยละ 90 ของครัวเรือน 3 มีการสำรวจสมุนไพรบนภูเขาพระบาท และทำเป็นแหล่งเรียนรู้
4 มีการผลิตลูกประคบ ผลิตสมุนไพรสำหรับอบ ยาต้มสมุนไพรอายุวัฒนะ  ผลิตชาใบขลู่ ชาใบเตย  ชาตะไคร้  ชารางจืด
5 มีกลุ่มวิสาหกิจสมุนไพรผลิตลูกประคบ สมุนไพรอบ ยาสมุนไพรอายุวัฒนะ ไว้จำหน่าย 6 ร่วมจัดมหกรรมสุขภาพเพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพร่วมกับภาคีสุขภาพในตำบลเขาพระบาท

 

150 150

31. จัดทำรายงานปิดโครงการ

วันที่ 30 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เพื่อปิดเอกสารตามโครงการ

ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

1.ได้เรียนรู้วิธีการปิดโครงการ 2.มีการนำภาพถ่ายกิจกรรม เข้าสู่โปรแกรม 3.ได้ตรวจสอบความถุกต้องของระบบการเงิน และการรายงานผล

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน

คณะทำงานปิดเอกสารโครงการ

กิจกรรมที่ทำจริง

วันนี้จัดทำเอกสารเพื่อสรุปปิดโครงการ พร้อมทั้งภาพถ่าย และรายงานตามที่กำหนด

 

5 5

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น

ส่วนที่ 2 ประเมินความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการและปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินโครงการ

ประเมินความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการ

การดำเนินงานเมื่อเทียบกับการดำเนินงานทั้งโครงการทั้งหมดทำแล้ว10%20%30%40%50%60%70%80%90%100%
การทำกิจกรรม 52 52                  
การใช้จ่ายงบประมาณ 212,800.00 212,800.00                  
คุณภาพกิจกรรม 208 182                  

ปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินงานโครงการ (สรุปเป็นข้อ ๆ)

ประเด็นปัญหา/อุปสรรคสาเหตุเพราะแนวทางการแก้ไขของผู้รับทุน

 

 

 

แผนงาน/กิจกรรม ที่จะดำเนินการในงวดต่อไป

(................................)
นางอำนวย สุขหวาน
ผู้รับผิดชอบโครงการ