บ้านต้นมะขามเทศ น่าอยู่ สุขภาพดี ด้วยวิถีวัฒนธรรมชุมชน

เรียนรู้ภูมิปัญญา ในด้านอาหารท้องถิ่น ครั้งที่ 1 "การทำน้ำสมุนไพร"5 กุมภาพันธ์ 2558
5
กุมภาพันธ์ 2558รายงานจากพื้นที่ โดย saiyai
circle
วัตถุประสงค์

เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ภูมิปัญญา  ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น

circle
กิจกรรมตามแผน

circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

วิทยากรมาให้ความรู้ชื่อนางสมศรี  ขุนเดื่อ  มาให้ความรู้ในการทำน้ำสมุนไพรในเวลา  13.00  น.  นักเรียนมาพร้อมกันที่โรงอาหารของโรงเรียนวัดไทรใหญ่  ในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ผู้เข้าร่วมได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  ถึงขั้นตอนการลงมือทำวิทยากรได้อธิบายถึงที่มาของการทำน้ำสมุนไพร  ว่ามีประโยชน์อย่างไร  ทำไมถึงได้ทำน้ำสมุนไพรขึ้น  และได้บอกถึงส่วนผสมและวิธีขั้นตอนการทำ  ซึ่งน้ำสมุนไพรที่นำมาสอนในวันนี้คือ  น้ำกระเจี๊ยบกับน้ำอัญชัณสาเหตุที่ทำน้ำสองชนิดนนี้เพราะเป็นสมุนไพรที่คนในท้องถิ่นนิยมปลูกกันตามบ้านของตนเอง  เรามารู้จักน้ำกระเจี๊ยบกันว่ามีขั้นตอนทำอย่างไรน้ำกระเจี๊ยบ

น้ำกระเจี๊ยบ

        กระเจี๊ยบแดง เป็นพืชสมุนไพรที่ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 3–6 ศอก ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบมีหลายแบบด้วยกัน ขอบใบเรียบ บางทีก็มีรอยหยักเว้า 3 หยัก สีของดอกเป็นสีชมพู ตรงกลางดอกมีสีเข้มมากกว่าขอบนอกของกลีบ กลีบดอกร่วงโรยไป กลีบรองดอกและกลีบเลี้ยงก็จะเจริญเติบโตขึ้นอีกเกิดเป็นสีม่วงแดงเข้มหุ้ม เมล็ดเอาไว้ภายใน ส่วนผสม

      1.ดอกกระเจี๊ยบสด/แห้ง 20 กรัม

      2.น้ำเชื่อม 30 กรัม

      3.น้ำเปล่า 200 กรัม

      4.เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม ( 2/5 ช้อนคาว )

วิธีทำ
      1.เอาดอกกระเจี๊ยบสดหรือแห้งก็ได้ ล้างน้ำทำความสะอาด นำใส่หม้อต้ม จนเดือด แล้วลดไฟลงอ่อนๆเคี่ยวเรื่อยๆจนน้ำเป็นสีแดงจนเข้มข้น       2.เอาดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อต้ม แล้วเอาน้ำเชื่อมและเกลือใส่ลงไป ปล่อยให้น้ำกระเจี๊ยบเดือด 1 นาที ยกลงชิมรสตามชอบ       3.เอาขวดเปล่ามาล้างทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด 20 นาที นำน้ำกระเจี๊ยบแดงมากรอกแล้วปิดจุกให้แน่น แช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน …หรืออีกวิธีหนึ่ง…นำดอกกระเจี๊ยบมาตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง นำผงกระเจี๊ยบครั้งละ 1 ช้อนชา ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย(250 มิลลิกรัม) ประโยชน์ของน้ำกระเจี๊ยบ
        ** ให้วิตามินเอสูงมาก
      ** ช่วยบำรุงสายตา
      ** มีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
      ** ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต
    ** เป็นยาระบายอ่อนๆ
      ** ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ น้ำอัญชัณ วิธีทำ 1) เก็บดอกอัญชัญริมรั้ว 10 ดอกขึ้นไป ต่อน้ำ 2 ลิตร (สังเกตเอานะค่ะถ้าอยากได้น้ำอัญชัญสีเข้มก็ใส่น้ำน้อย ดอกอัญชัญมากหน่อยเท่านั้นเองค่ะ) ล้างให้สะอาด 2) ตัดใบเตยเลือกใบเตยสีเข้ม 3-5 ใบ ล้างให้สะอาด ตัดใบเตยเป็นท่อนๆ ขนาดพอใส่ภาชนะที่เราจะต้ม 3) ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ใบเตยลงไป 1 นาที แล้วใส่ดอกอัญชัญลงไป ใช้ทัพพีคนให้ดอกอัญชัญและใบเตยจมน้ำ รอจนดอกอัญชัญเปลี่ยนเป็นสีขาว (น้ำในหม้อเป็นสีน้ำเงิน) ปิดไฟ เปิดฝาภาชนะเพื่อระบายความร้อน 4) ใส่น้ำแข็งสะอาดให้เต็มแก้ว ตักน้ำอัญชัญใบเตย ใส่แก้ว พร้อมดื่ม
5) รอให้น้ำอัญชัญใบเตย เย็น-อุ่น เทใส่เหยือกแก้ว พร้อม เติมดื่มได้ทั้งวัน ควรดื่มให้หมดภายใน 1 วัน/เก็บในตู้เย็นได้นาน 5 วัน

เคล็ดลับ: อย่าต้มใบเตยในน้ำนานเกินไป เพราะจะทำให้กลิ่นหอมของใบเตยจางลงและอาจจะเหม็นเขียวได้ด้วยนะค่ะ สังเกตสีใบเตยที่เปลี่ยนไปอย่าให้ใบเตยเป็นสีน้ำตาลนะค่ะ ใบเตยจะช่วยดับกลิ่นเฉพาะตัวของอัญชัญ ทำให้น้ำสมุนไพรแก้วนี้ดื่มง่าย

circle
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

ผู้เข้าร่วมโครงการรู้สึกสนุกสาน  และได้ลงมือปฏิบัติเอง  โดยแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบและสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ  หลังจากลงมือทำผู้เข้าร่วมได้นำน้ำสมุนไพรสองชนิดกลับไปให้ผู้ปกครองได้ลองชิมฝีมือของตนเอง

circle
กิจกรรมตามแผน
circle
ประเมินความสำเร็จของการดำเนินกิจกรรม

บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)

circle
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม
จำนวน 22 คน จากที่ตั้งไว้ 22 คน
ประกอบด้วย
  • เด็กเยาวชน 20 คน
  • ปราญช์ชุมชน 2 คน
circle
ปัญหา/แนวทางแก้ไข

ผู้เข้าร่วมบางคนยังไม่รู้จักอุปกรณ์ในการประกอบอาหารบางชนิด

circle
ชื่อผู้ติดตามในพื้นที่ของ
-
circle
ข้อเสนอแนะต่อ

-

circle
ข้อเสนอแนะต่อพื้นที่

-