บ้านต้นมะขามเทศ น่าอยู่ สุขภาพดี ด้วยวิถีวัฒนธรรมชุมชน
เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ภูมิปัญญา ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น
วิทยากรมาให้ความรู้ชื่อนางสมศรี ขุนเดื่อ มาให้ความรู้ในการทำน้ำสมุนไพรในเวลา 13.00 น. นักเรียนมาพร้อมกันที่โรงอาหารของโรงเรียนวัดไทรใหญ่ ในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ผู้เข้าร่วมได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถึงขั้นตอนการลงมือทำวิทยากรได้อธิบายถึงที่มาของการทำน้ำสมุนไพร ว่ามีประโยชน์อย่างไร ทำไมถึงได้ทำน้ำสมุนไพรขึ้น และได้บอกถึงส่วนผสมและวิธีขั้นตอนการทำ ซึ่งน้ำสมุนไพรที่นำมาสอนในวันนี้คือ น้ำกระเจี๊ยบกับน้ำอัญชัณสาเหตุที่ทำน้ำสองชนิดนนี้เพราะเป็นสมุนไพรที่คนในท้องถิ่นนิยมปลูกกันตามบ้านของตนเอง เรามารู้จักน้ำกระเจี๊ยบกันว่ามีขั้นตอนทำอย่างไรน้ำกระเจี๊ยบ
น้ำกระเจี๊ยบ
กระเจี๊ยบแดง เป็นพืชสมุนไพรที่ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 3–6 ศอก ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบมีหลายแบบด้วยกัน ขอบใบเรียบ บางทีก็มีรอยหยักเว้า 3 หยัก สีของดอกเป็นสีชมพู ตรงกลางดอกมีสีเข้มมากกว่าขอบนอกของกลีบ กลีบดอกร่วงโรยไป กลีบรองดอกและกลีบเลี้ยงก็จะเจริญเติบโตขึ้นอีกเกิดเป็นสีม่วงแดงเข้มหุ้ม เมล็ดเอาไว้ภายใน ส่วนผสม
1.ดอกกระเจี๊ยบสด/แห้ง 20 กรัม
2.น้ำเชื่อม 30 กรัม
3.น้ำเปล่า 200 กรัม
4.เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม ( 2/5 ช้อนคาว )
วิธีทำ
1.เอาดอกกระเจี๊ยบสดหรือแห้งก็ได้ ล้างน้ำทำความสะอาด นำใส่หม้อต้ม จนเดือด แล้วลดไฟลงอ่อนๆเคี่ยวเรื่อยๆจนน้ำเป็นสีแดงจนเข้มข้น
2.เอาดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อต้ม แล้วเอาน้ำเชื่อมและเกลือใส่ลงไป ปล่อยให้น้ำกระเจี๊ยบเดือด 1 นาที ยกลงชิมรสตามชอบ
3.เอาขวดเปล่ามาล้างทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด 20 นาที นำน้ำกระเจี๊ยบแดงมากรอกแล้วปิดจุกให้แน่น แช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน …หรืออีกวิธีหนึ่ง…นำดอกกระเจี๊ยบมาตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง นำผงกระเจี๊ยบครั้งละ 1 ช้อนชา ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย(250 มิลลิกรัม)
ประโยชน์ของน้ำกระเจี๊ยบ
** ให้วิตามินเอสูงมาก
** ช่วยบำรุงสายตา
** มีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
** ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต
** เป็นยาระบายอ่อนๆ
** ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ
น้ำอัญชัณ
วิธีทำ
1) เก็บดอกอัญชัญริมรั้ว 10 ดอกขึ้นไป ต่อน้ำ 2 ลิตร (สังเกตเอานะค่ะถ้าอยากได้น้ำอัญชัญสีเข้มก็ใส่น้ำน้อย ดอกอัญชัญมากหน่อยเท่านั้นเองค่ะ) ล้างให้สะอาด
2) ตัดใบเตยเลือกใบเตยสีเข้ม 3-5 ใบ ล้างให้สะอาด ตัดใบเตยเป็นท่อนๆ ขนาดพอใส่ภาชนะที่เราจะต้ม
3) ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ใบเตยลงไป 1 นาที แล้วใส่ดอกอัญชัญลงไป ใช้ทัพพีคนให้ดอกอัญชัญและใบเตยจมน้ำ รอจนดอกอัญชัญเปลี่ยนเป็นสีขาว (น้ำในหม้อเป็นสีน้ำเงิน) ปิดไฟ เปิดฝาภาชนะเพื่อระบายความร้อน
4) ใส่น้ำแข็งสะอาดให้เต็มแก้ว ตักน้ำอัญชัญใบเตย ใส่แก้ว พร้อมดื่ม
5) รอให้น้ำอัญชัญใบเตย เย็น-อุ่น เทใส่เหยือกแก้ว พร้อม เติมดื่มได้ทั้งวัน ควรดื่มให้หมดภายใน 1 วัน/เก็บในตู้เย็นได้นาน 5 วัน
เคล็ดลับ: อย่าต้มใบเตยในน้ำนานเกินไป เพราะจะทำให้กลิ่นหอมของใบเตยจางลงและอาจจะเหม็นเขียวได้ด้วยนะค่ะ สังเกตสีใบเตยที่เปลี่ยนไปอย่าให้ใบเตยเป็นสีน้ำตาลนะค่ะ ใบเตยจะช่วยดับกลิ่นเฉพาะตัวของอัญชัญ ทำให้น้ำสมุนไพรแก้วนี้ดื่มง่าย
ผู้เข้าร่วมโครงการรู้สึกสนุกสาน และได้ลงมือปฏิบัติเอง โดยแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบและสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ หลังจากลงมือทำผู้เข้าร่วมได้นำน้ำสมุนไพรสองชนิดกลับไปให้ผู้ปกครองได้ลองชิมฝีมือของตนเอง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เด็กเยาวชน 20 คน
- ปราญช์ชุมชน 2 คน
ผู้เข้าร่วมบางคนยังไม่รู้จักอุปกรณ์ในการประกอบอาหารบางชนิด
-
-