ศูนย์เรียนรู้วิถีอิสลามยั่งยืนบ้านน้ำเค็ม (ชุมชนเรียนรู้ ชุมชนเข้มแข็ง)
![](/file/toomadul/profile.photo.jpg?t=1544464489)
- เพื่อพัฒนาผู้นำองค์กรและกลุ่มต่างๆ ในชุมชนเป็นคณะกรรมการสภาชูรอบ้านน้ำเค็ม (สภาผู้นำ) ในการส่งเสริมขับเคลื่อนสร้างกระบวนการเรียนรู้ดำเนินการจัดทำแผนชุมชนแบบมีส่วนร่วมที่มีคุณภาพ
การดำเนินกิจกรรมจะมีอยู่ 2 สถานที่คือ
1.สถานที่ทำอาหารโดยจะให้ตัวแทนกลุ่มตัวอย่างคุ้มบ้านจาก ๔ คุ้มบ้านมารับผิดชอบในการเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารให้กับพี่น้องสมาชิกในหมู่บ้าน มีการเตรียมอาหารให้กับสมาชิก โดยมีคนนำเรื่องพูดคุยเรื่องราว จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค ในการที่จะทำให้ชุมชนน่าอยู่ โดยมีการเริ่มทำอาหารตั้งแต่เวลา 10.00 น ช่วงเช้า
2.สถานที่เปิดโครงการ ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้าน 13.00 น.
- 13.00 น. เริ่มลงทะเบียน
- 14.00 น. ประธานเปิดพิธีโดยโต๊ะอีหม่ามมัสยิดนูรุ้ลยามาล
- วิทยากรคนที่หนึ่ง คือนายทินกร ยีหวังกอง ข้าราชการบำนาญ พัฒนาการอำเภอ เล่าถึงประสบการณ์ของการจัดทำแผน โดยให้ความรู้ความสำคัญ ของแผนชุมชน โดยเฉพาะชุมชนมุสลิมที่มีวิถีชีวิตแบบอิสลาม ยกตัวอย่างชุมชนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาชุมชน โดยวิทยากรเน้นการปรับกระบวนทัศน์เเพื่อการพัฒนาหมู่บ้าน
- พี่เลี้ยงได้พูดคุยกับชาวบ้านในรายละเอียดที่มาโครงการร่วมสร้างชุมชนน่าอยู่และพูดให้กำลังใจ
- วิทยากรคนที่สอง นาย อะหมัด หรีขะหรี ได้แนะนำวิธีการสร้างชุมชนให้น่าอยู่ จากประสบการณ์ในการทำโครงการ สสส วิทยาลัยทุ่งโพ และเเนะเคล็ดลับหลักการมีส่วนร่วมของชุมชนในการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ และการเสวนา
- วิทยากร นาย อิสมาแอล หมินหวัง ได้พูดถึงประเด็นการร่วมมือของชุมชนพี่น้องมุสลิมในการพัฒนาชุมชน ผ่านการเล่าเรื่องเร้าพลัง ที่น่าสนใจมากมาย
- วิทยากรกระบวนการ นาย อิบนีคอลดูน ยีหวังกอง ผู้รับผิดชอบโครงการ พูดคุยที่กระบวนการจัดทำแผนชุมชน โดยสรุป โดยเริ่มจากการวางแผนชีวิต ของแต่ละคน วางแผนครอบครัว วางแผนคุ้มบ้าน การพัฒนาแผนชุมชน สู่แผนแม่บทชุมชน
3.ตัวแทนครัวเรือนส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อพัฒนาเป็นครัวเรือนต้นแบบ
4.ร่างคณะกรรมการสภาผู้นำชูรอ โดยตัวแทนคุ้มบ้านร่วมกันคัดเลือก และมีการแต่งตั้งจากโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แล้ว รับสมัครจากประชาชนที่สนใจ ซึ่งได้พัฒนาเป็นคณะกรรมการชูรอต่อไป
1.คณะกรรมการสภาชูรอและชาวบ้านมีความรู้/ความเข้าใจ/กระบวนการจัดทำแผนชุมชน
- เกิดสภาชูรอบ้านน้ำเค็ม (สภาผู้นำในชุมชน) ในการขับเคลื่อนงานจำนวน 15 คน
- มีข้อมูลครัวเรือน 70 ครัวเรือนต้นแบบที่เข้าร่วมโครงการ
- 15 คนเป็นแกนนำจาก 70 คน เป็นครัวเรือน ต้นแบบ
2.ได้ครัวเรือนเข้าร่วมโครงการ 70 ครัวเรือน และผู้เข้าร่วมเข้าร่วมกิจกรรมเกิน มากกว่า 50% ได้ร่วมเรียนรู้ การจัดทำแผนชุมชน โดยผ่านกระบวนวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อนของชุมชน โดยจุดแข็งของชุมชนได้แก่ การมีวัฒนธรรมอิสลามและขนบธรรมเนียมประเพณีในการส่งเสริมการร่วมกิจกรรมของชุมชน เช่น วิถีนูหรี การร่วมงานเมาลิด การดำเนินกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา ในชุมชนมีผู้นำศาสนาที่มีความรู้ ร่วมถึงตัวแทนกลุ่มต่างๆที่พร้อมจะเรียนรู้ในการพัฒนาหมู่บ้าน และชุมชนมีจุดอ่อน ในเรื่องความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจกัน ในการบริหารจัดการในประเด็นต่างๆ ชุมชนยังขาดการมีส่วนร่วมในเรื่องงานส่วนรวมเพราะยังมีความคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง
3.ผลที่เกิดขึ้นคือ ได้เกิดความตระหนักในการมาร่วมมือร่วมใจในการพัฒนาชุมชน และทบทวนแผนเดิมที่มีผลต่อการพัฒนา โดยมีการวิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จและความล้มเหลวที่ผ่านมาในการพัฒนาหมู่บ้าน และความตระหนักและพยายามในการเรียนรู้เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาหมู่บ้านร่วมกัน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
จำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรม 112 คน
- วิทยากร
- ภาคีเครือข่าย วิทยาลัยทุ่งโพ
- คณะกรรมการสภาชูรอ
- ตัวแทนครัวเรือนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ
- ผู้สูงอายุ
- ทีมงานคณะทำงานศูนย์เรียนรู้วิถีอิสลามฯ
- กลุ่มบ้านเจ้าภาพดูแลอาหาร
ปัญหา
- พื้นฐานความรู้ของชาวบ้านค่อนข้างต่ำ ไม่ค่อยเข้าใจกระบวนการทางวิชาการในการวางแผน
- เกิดภาวะฝนตก สะพานข้ามคลองหมู่บ้านขาด
- ชาวบ้านบางส่วนยังไม่เข้าใจและมีส่วนร่วมน้อย
- วันและเวลาที่ดำเนินกิจกรรมยังไม่ตรงกับเวลาว่างของชาวบ้าน
แนวทางแก้ไข
- สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับชาวบ้าน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและสร้างกระบวนการที่ง่าย ปรับกระบวนการกิจกรรมตามแผนให้เหมาะสมกับบริบทชุมชน
- ประสานงานทำความเข้าใจกับพี่เลี้ยงในการเลื่อนกิจกรรมตามความเหมาะสม
- จัดกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความสนใจกับกลุ่มเป้าหมาย โดยต้องไม่เน้นวิชาการมากเกินไป และไม่เครียด
- กำหนดวันเวลาให้เหมาะสมกับเวลาว่างของกลุ่มเป้าหมาย
- สร้างความเข้าใจบริบทและลักษณะทางกายภาพของชาวบ้านบ้านน้ำเค็ม
- อยากให้ช่วยส่งเสริมประชาสัมพันธุ์ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนการเข้าร่วมโครงการสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ และส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง