ร่วมสร้างสุขให้ชุมชน ด้วยการฟื้นเลบ้านคูขุด
![](/file/jumratseang/profile.photo.jpg?t=1544464489)
เพื่อร่วมกันทบทวนข้อมูลแผนการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ สู่การปฏิบัติจริง
1ลงทะเบียน รับประทานกาแฟ ขนม น้ำตามอัธยาศัย
2วาระประเด็นการคุย
3นายนิทัศน์แก้วศรี ผู้รับผิดชอบโครงการ ดำเนินการกำหนดประเด็นการพูดคุยข้อมูลเติมเต็มแผนการปล่อยสัตว์น้ำการแบ่งหน้าที่ให้ทีมงานจัดการติดต่อประสาน จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ หรือสถานที่ประชุม ฝ่ายบันทึกข้อมูลการถ่ายภาพกิจกรรม เป็นต้น
4 อาหารเที่ยง
5วางแผนกิจกรรมต่อไป
6สรุป
เกิดแผนการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันของชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลคูขุด ,เขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา ,ประมงอำเภอสทิงพระ,สมาคมรักษ์ทะเลไทย เป็นต้นโดยมีรายละเอียดแผนการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำดังนี้
ช่วงเดือนมกราคม - ตุลาคม เป็นช่วงน้ำจืดในทะเลสาบสงขลา ควรปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์น้ำที่มีราคาดีในปัจจุบัน กล่าวคือ กุ้งก้ามกรามขนาดกลางประมาณ 10-12 ตัว/กิโลกรัมๆ ละ400- 500 บาท กุ้งใหญ่ขนาด 4-5 ตัว2/กิโลกรัมๆ ละ 800 บาท ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายน- ธันวาคม เป็นช่วงหน้าฝน น้ำหลาก ไม่ควรปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำชนิดใดๆ
-โดยอัตรความถี่การปล่อยในแต่ละปีควรปล่อยปีละ 3 ครั้งๆละประมาณ 2,000,000 ตัว ทั้งกุ้งก้ามกรามและกุ้งกุลาดำ ส่วนสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ เช่นปลากระบอกควรปล่อยครั้งละ 1,000,000 ตัวปลาขี้ตังครั้งละ 500,000 ตัวปลากดเหลืองครั้งละ 300,000ปลากระพงครั้งละ 100,000 ตัว ปลาแขยงครั้งละ 100,000 ตัว ส่วนปลานิลปล่อยครั้งละ 50,000 ตัวพอเพราะเป็นสัตว์น้ำที่ขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะณะทำงาน,คณะกรรมการ,สมาชิกกลุ่มแพปลาชุมชนบ้านคูขุด ,สมาคมประมงทะเลสาบอำเภอสทิงพระ
-
-
-