รักษา"ครัวทะเล"ที่บ้านบาตู
เพื่อฟื้นฟู ดูแล บำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ระบบนิเวศชายฝั่งอุดมสมบูรณ์ขึ้น และลดสาเหตุการตายของพะยูน
นัดรวมกันที่อ่าวบาตู มีทีมประมงพื้นบ้าน ทีมสภาผู้นำ และเยาวชน จำนวน 30 คน บังแอน ผู้รับผิดชอบโครงการได้ชี้แจงวัตถุประสงค์การทำซังกอให้กลุ่มเยาวชนได้เข้าใจ และเห็นประโยชน์ โดยการทำซังกอมีวัตถุประสงค์หลักๆ เพื่อรณรงค์ เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกติกาการดูแล รักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อฟื้นฟู ดูแล บำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ระบบนิเวศชายฝั่งอุดมสมบูรณ์ขึ้น และรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนโดยมีกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพในทะเลอันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อเป็นสื่อแห่งการร่วมมือและการเรียนรู้กิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมระหว่างหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนกับชุมชน และเพื่อลดอัตราการตายของประชากรพะยูน ทำกิจกรรมจำนวน 2 วัน ดังนี้
กิจกรรมวันที่ 1
- ประชุมเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มกิจกรรมวางซั้งกอ
- จัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำซั้ง ได้แก่ ไม่ไผ่ แท่งปูน เชือก ทางมะพร้าวสำหรับการทำซั้ง 10 อัน
- เริ่มทำซั้งกอ โดยใช้แท่งปูนน้ำหนักกว่า 400 กิโลกรัมเป็นฐานล่าง ใช้ไม้ไผ่และทางมะพร้าว มาผูกเป็นแพ หรือมัดเป็นกอง เพื่อนำไปจมบริเวณริมคลองและชายฝั่งทะเลให้สัตว์น้ำเข้ามาหลบซ่อนหรือกินซากเน่าของกิ่งไม้ที่เน่าเปื่อย
- กิจกรรมวันที่ 2
- ทีมงานออกไปดูสถานที่จัดวางบ้านปลาจำนวน 10 จุด ซึ่งพิจารณาแล้วว่าเป็นแหล่งที่ไม่กีดขวางทางเดินเรือของชาวประมง และมีระดับน้ำลึกพอสมควร เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน
- ทีมงานช่วยกันขนย้ายซั้งกอทั้งหมดลงเรือ แล้วนำซั้ง หรือ บ้านปลาที่ได้จัดทำไว้จมลงสู่ท้องน้ำ ส่วนด้านปลายปล่อยให้กางออกคล้ายกับร่ม เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่หลบภัยและแหล่งอาศัยสำหรับฝูงสัตว์น้ำ และลูกปลาวัยอ่อน เพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำให้เพียงพอกับความต้องการของชาวประมง และลดการใช้ประโยชน์สัตว์น้ำที่ยังโตไม่ได้ขนาด
จากการทำกิจกรรมซังกอ เกิดประโยชน์ ดังนี้
- ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศชายฝั่งมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น และเกิดกระบวนการรักษาสภาพแวดล้อมในชุมชนอย่างยั่งยืน โดยชุมชนมีส่วนร่วม "ซังกอ" แนวทางการแก้ปัญหา จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะคนในพื้นที่เกาะลิบงในการร่วมกำหนดกติกา กติกา และกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ และการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลิบง เรื่องการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน
- ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร ความหลากหลายทางชีวภาพในทะเลอันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- เกิดจิตใต้สำนึกจากการมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาของชุมชนโดยชุมชนมีส่วนร่วม
- เกิดกระบวนการประสานงาน และการทำงานมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและชุมชน ในลักษณะการบูรณาการองค์ความรู้และปฏิบัติงาน
- หลังจากการทำซั้งกอบ้านปลาเสร็จสิ้นในวันนี้ ทุกๆ 3 เดือน ทีมงานจะต้องดำน้ำเพื่อไปตรวจสอบซั้งที่ได้ลงไปแล้ว ว่าต้องมีการซ่อมแซมเพื่อให้ซั้งอยู่ในสภาพที่ยังใช้งานได้
- จากการพูดคุยสรุปงานหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม ได้มีข้อคิดเห็นและข้อสรุปว่า "ปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรชายฝั่งทำให้แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำลดน้อยลงส่งผลต่อรายได้และวิถีชีวิตของชาวชุมชน ซั้งกอ ถือเป็นภูมิปัญญาที่ชาวบ้านนำไปใช้ในการจำลองต้นไม้กลางน้ำวางไว้กลางทะเลเพื่อเป็นแหล่งอนุบาล เป็นที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยของสัตว์น้ำนานาชนิด และมีข้อกำหนดไว้ว่าประมงพื้นบ้านจะต้องทิ้งระยะในการจับสัตว์น้ำจากซั้งกออย่างน้อย 50 เมตร เพื่อช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้เกิดขึ้น"
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
เยาวชน 15 คน วัยทำงาน 35 คน
ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเปิดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการและทำกิจกรรมในวันเดียวกันทำให้การจัดการบริหารจัดการเรื่องเวลาของทั้งสองสิ่งในวันเดียวกันนั้นกระชั้นขึ้นมาคือเราต้องร่นเวลาลงมา แนวทางแก้ไข 1.ต้องขยายแนวทางย่อยๆออกมาโดยวางแผนแนวทางการปฏิบัติการขึ้นมา 2.เพิ่มการวางแผนเรื่องเวลาออกมาก่อนในวันประชุม
-
-