ชุมชนน่าอยู่ฟื้นฟูทรัพยากร สิ่งแวดล้อมดี ที่บ้านพังสาย หมู่ 7 ต.กะดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา
เพื่อให้ชุมชนรับรู้ข้อมูลและเข้ามามีส่วนร่วมการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
1ลงทะเบียน
2ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงรายละเอียดกิจกรรม
3 ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลการจัดการทรัพยากร
4อาหารเที่ยง,กาแฟ น้ำขนม
5สรุป,วางแผนกิจกรรมครั้งต่อไป
6จัดทำเอกสารรายงาน การเงินที่เกี่ยวข้อง
นายหม๊าด มรรคโช ผู้รับผิดชอบโครงการ และแกนนำสนับสนุนการดำเนินงาน ได้พูดคุยประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการทำกิจกรรมในช่วงเดือนกรกฏาคม-สิงหาคม 2559 ที่ค่อนข้างถี่ก่อนปิดโครงการ ส่งเอกสารรายงาน ในเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งตนต้องขอขอบคุณพี่น้อง คนในชุมชนที่ได้ให้ความสำคัญ และเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการอย่างดี วันนี้ประเด็นการถ่ายทอดความรู้คืนข้อมูลการจัดการทรัพยากรให้กับชุมชนนั้น ดังที่รู้ๆ กันอยู่แล้วว่าชุมชนบ้านพังสาย ส่วนใหญ่คนประกอบอาชีพประมงมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่ก็เกิดปัญหาจุดเริ่มต้นสาเหตุที่ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลลดลง คือการเริ่มขุดน้ำมัน ปี 2551 ในทะเลหน้าบ้านห่างจากฝั่งออกไปประมาณ 15-35 กิโลเมตร ซึ่งจุดนั้นเป็นพื้นที่ทำการประมงของพวกเรา แท่นขุดเจาะเพิ่มจาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 3 และมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งในช่ว2-3 ปีของการขุดเจาะคือ ปี 2551-2554 ยังพอมีสัตว์น้ำได้จับกันได้บ้าง แต่หลังจากนั้นสัตว์น้ำลดลงเรื่อยๆ จนลดลงอย่างรุนแรงในปัจจุบัน
นายวิรัตน์ เอียดประดิษฐ์ แกนนำชาวประมงสนับสนุนการดำเนินงานโครงการชุมชนน่าอยู่ฟื้นฟูทรัพยากรสิ่งแวดล้อมดีที่บ้านพังสาย บอกว่าตนประกอบอาชีพประมงส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรี ในปี 2554 ตนคิดว่าถ้าลูกไม่จบก่อนปี 2554 ตนไม่สามารถมีรายได้จากทำประมง ส่งลูกเรียนให้จนปริญญาได้แน่นอน เพราะสัตว์น้ำลดลงอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จนชาวประมงหลายๆ คนต้องหยุดทำประมง บ้างก็เปลี่ยนไปทำงานรับจ้างนอกชุมชน
นายหม๊าด มรรคโช ผู้รับผิดชอบโครงการฯ บอกว่าอาชีพประมงพื้นบ้านพังสาย หากย้อนไปก่อนไม่มีการขุดเจาะน้ำมัน สัตว์น้ำชุกชุมมาก ออกทะเลแต่ละครั้งมีรายได้ 5000-10,000 บาทต่อลำเรือ อย่างที่แย่ๆ แล้วจับสัตว์น้ำได้น้อยก็มีรายได้ 1,500- 3,000 บาท แต่ในปัจจุบันออกทำประมงแต่ละครั้งมีรายได้ประมาณ 300-800 บาทไม่พอค่าน้ำมันเรือ ค่ากิน หรือแบ่งปันให้กับญาติๆ ที่ออกไปทำประมงช่วยกัน
แกนนำผู้เฒ่าชาวประมงพื้นบ้านหลายๆ คนไม่ยอมแพ้กับปัญหาที่เกิดขึ้น การเรียกร้องให้บริษัทที่ขุดเจาะน้ำมันชดเชยรายได้ให้กับประมงพื้นบ้าน จนประสบผลสำเร็จบริษัทขุดเจาะน้ำมันยอมชดเชยรายได้ให้กับประมงพื้นบ้านถึงจำนวนเงินไม่มาก แต่ก็ยังดีกว่าบริษัทไม่รับผิดชอบใดๆ โดยได้ค่าชดเชยรายได้ให้กับชาวประมงจำนวนเงิน 1600 บาทต่อลำเรือ ต่อเดือน โดยเริ่มชดเชยให้กับชาวประมงพื้นบ้าน ในปี 2552 มาจนถึงปัจจุบัน
ด้านสิ่งแวดล้อม ขยะส่วนใหญ่ริมชายหาดก็มาจากทะเลในช่วงมรสุม และมีขี้น้ำมัน จากการขุดเจาะน้ำมันในทะเล ที่กระแสน้ำพัดพามาริมหาด มีความสกปรก เหม็น หลายๆ กิจกรรมที่ประมงพื้นบ้านเข้าร่วมผลักดันการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย เช่น การปิดท่าเรือน้ำลึกปี 2551 กดดันบริษัทที่เกี่ยว่ข้องที่ทำลายทรัพยากรระบบนิเวศ สัตว์น้ำลดลง ชาวประมงเดือดร้อน หรือ การยื่นหนังสือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับพระราชกำหนดประมง 2558 ที่มีเนื้อหาสาระ ในแต่ละมาตรา ที่ไม่สอดคล้องกับวิถี อาชีพ การพึ่งพา การจัดการทรัพยากรของชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชน, คณะทำงาน ,เครือข่ายชาวประมงในชุมชน และละแวกใกล้เคียง .คณะกรรมการ สมาชิก สมาคมประมงพื้นบ้านชายฝั่งอ่าวไทย อ.สทิงพระ
-
-
-