ผังฟาร์มลดรายจ่ายที่บ้านทรายขาว
เพื่อเรียนรู้ตามหลักสูตร ในการนวดแผนไทยและสมุนไพรไทย
วันนี้เป็นกิจกรรมเรียนรู้ตามหลักสูตรครั้งที่ 3 ซึ่งวันนี้จัดเป็นการเรียนรู้เกี่ยวสมุนไพรและการนวดแผนโบราณ
ผลิตผลิต : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 100 คน
ผลลัพท์ : มีการเรียนรู้เกี่ยวการทำยาหม่องที่สามารถนำไปให้ได้และการนวดเท้าที่ปวดเมื่อยจากการทำงาน ให้ผ่อนได้เป็นความรู้กันในตอนเช้าเรียนรู้เรื่องเอ็น กระดุก การหมุนเวียนของเลือด การนวดๆเส้นไหนที่สามารถนวดได้และเส้นไหนที่อันตรายพร้อมทั้งสมุนไพรพิ้นบ้านที่สามารถนำมากิน มานวดได้ เป็นการเรียนรู้เบื้องต้น ทั้งการต้ม การทา การกินรักษาเช่น การทำยาหม่อง การเตรียมตำรับยาหม่องไพลประกอบด้วยตัวยา ดังต่อไปนี้
- สารที่ช่วยให้ยาหม่องแข็งตัว ได้แก่ วาสลีน (White soft paraffin) พาราฟินแข็ง (Hard paraffin) จะใส่ในอัตราส่วนเท่า ๆกัน ส่วนที่ทำให้ยาหม่องแข็ง จะมีปริมาณ 30% ของตำรับ ถ้าต้องการให้ยาหม่องเหลวมาก ไม่แข็งเกินไป จะใช้วาสลินมากกว่าพาราฟินแข็ง
- สารที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมผิว ได้แก่ ลาโนลิน(Lanolinพวกนี้จะใช้ในตำรับประมาณ 5% w/w ของตำรับ สารพวกนี้ทำให้ยาหม่องถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว เมื่อทาจะรู้สึกร้อนเร็ว
- สารที่ทำให้ร้อน หรือใช้ทาถูนวดให้ร้อนแดง ได้แก่ น้ำมันระกำ เมนทอล การบูร พวกนี้จะใช้รวมกันถึง 70% w/wของตำรับ
- สารแต่งกลิ่นในยาหม่อง จะใช้สารที่ช่วยแต่งกลิ่นที่มีกลิ่นคล้ายเมนทอล ได้แก่ น้ำมันสะระแหน่ เป็นต้น
- ตัวยาสำคัญ คือ ไพล ใช้ทาถูนวด ถ้าต้องการสมุนไพรชนิดอื่น ก็อาจใช้สมุนไพรเหล่านั้น แช่ในแอลกอฮอล์ 95% แล้วระเหยให้แห้ง หรือสูตรตำรับหมอพื้นบ้าน อาจใช้สมุนไพรหลายชนิด เจียวกับน้ำมันมะพร้าว แล้วเอาน้ำมันมะพร้าว ที่มีส่วนของสมุนไพรนั้น มาทำเป็นยาหม่อง ใช้แทนน้ำมันไพลได้
สูตรตำรับยาหม่องไพล 1. พาราฟินแข็ง วาสลิน 30 กรัม 2.ลาโนลิน 5 กรัม 3.น้ำมันระกำ เมนทอล การบูร 70 กรัม 4.น้ำมันสะระแหน่ 2 กรัม 5.น้ำมันไพล 10%ของตำรับ วิธีทำยาหม่องไพล
- นำพาราฟินขาว วาสลินแข็ง มาหลอมละลายให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- ชั่งเมนทอล 20 กรัม การบูร 20 กรัม น้ำมันระกำ 30 กรัม นำเมนทอลและการบูรผสมรวมกันรอจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาผสมกับน้ำมันระกำที่เตรียมไว้
- จากนั้นนำส่วนผสมในข้อที่ 2 ผสมลงไปในส่วนผสมข้อที่ 1 จนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เติมน้ำมันไพล น้ำมันสะระแหน่ คนให้เข้ากันแล้วเทใส่ขวด สรรพคุณและวิธีใช้ใช้ทาถูวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น แก้เคล็ด ขัดยอก และปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ลูบเท้า ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อนิ้วเท้า ข้อเท้า ส้นเท้า
และสอนการนวดเบื้องต้นให้ผ่อนคลายปบี้ยงต้น โดยสอนวิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้มือทั้งสองประสานกันไว้ โดยให้มือซ้ายอยู่บนปลายนิ้วเท้าด้านบนใกล้ข้อเท้าขวาของผู้ถูกนวด มือขวาอยู่ใต้ปลายนิ้วเท้าด้านล่างใกล้ส้นเท้า ลูบขึ้นไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดและลูบสม่ำเสมอ ลูบจากส้นเท้าและข้อเท้าไล่ขึ้นมาจนถึงปลายนิ้วเท้า ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป คลึงเท้า ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อฝ่าเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อนิ้วเท้า
วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองลูบไล่ลงมาตามร่องกระดูกเท้าด้านขวาของผู้ถูกนวด ที่อยู่ระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนางและนิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้ โดยลูบขึ้นไปจนถึงข้อเท้า ออกแรงกดสม่ำเสมอ แล้วให้คลึงกลับลงมาถึงโคนนิ้วเท้า ลูบขึ้นไปแล้วคลึงลงมาใหม่ ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป คลึงข้อเท้า ช่วยลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อเท้า
วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้นิ้วกลาง นิ้วนางและนิ้วก้อยทั้งสองมือวางไว้ใต้ตาตุ่มเท้าขวาของผู้ถูกนวด ให้มือซ้ายอยู่ที่ตาตุ่มด้านนอก มือขวาอยู่ตาตุ่มด้านใน โดยคลึงรอบ ๆ ตาตุ่มให้ออกแรงคลึงสม่ำเสมอ คลึงสักครู่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป บิดเท้า ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท้า ลดอาการปวดตึงเอ็นร้อยหวาย
วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้มือจับที่เท้าขวาของผู้ถูกนวดหมุนข้อเท้าออก ใช้มือซ้ายอ้อมส้นเท้ามาจับที่เอ็นร้อยหวาย มือขวาจับเอ็นร้อยหวายข้างฝ่าเท้า ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดลง นิ้วหัวแม่มือขวาดันขึ้น ดันขึ้นลง แล้วเลื่อนมือบิดไปตลอดแนวของเส้นเอ็น ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำชุมชนคณะทำงานตัวแทนครัวเรือน ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ 113 คน
1.เนื่องากเวลามีน้อยจึงได้เรียนรู้เป็นคร่าวๆ ที่จะสอนการนวดเท้าเท่านั้น ให้ระวังการนวดที่อย่าออกแรงมากเกินไปหรือการดกผิดจุดอาจส่งผลอันตรายได้ จึงได้มีความรู้ที่ถูกต้องพื่อการนวดให้มีปนะสิทธิภาพ
ไม่มี
ไม่มี