บ้านห้วยแหยง สืบสานภูมิปัญญา
เพื่อรู้จักวิธีการทำขนมจีนและรู้วิธีการใช้เครื่องในการทำขนมจีนที่ถูกต้อง
คณะทำงานได้นำกลุ่มเป้าหมายเพื่อมาเรียนรู้การทำขนมจีนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ 1แนะนำให้รู้จักอุปกรณ์การทำขนมจีน 2.แนะนำแป้งที่นำมาทำขนมจีน3.วิธีการโรยเส้นเพื่อให้ได้เส้นที่มีคุณภาพ 4. วิธีการบรรจุถุงเพื่อความสะอาดและสะดวกในการให้บริการ และกลุ่มเป้าหมายสามารถได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันได้และสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
วันนี้เป็นการเรียนรู้การทำขนมจีนไว้กินเองในครัวเรือน เป็นการทำขนมจีนแบบโบราณ ทำเองได้ที่้บ้าน
สิ่งที่จำเป็นคือ กระบอกขนมจีน เป็นแบบดั้งเดิม ซึ่งทำจากทองเหลือง เป็นเครื่องที่ใช้สำหรับกดเส้นขนมจีนให้ออกมาเป็นเส้นๆ
ส่วนวัตถุดิบที่มีหลักๆก็มี ข้าวเจ้า กับน้ำ ข้าวก็ไม่ใช่ว่าข้าวอะไรจะทำได้ ถ้าจะให้เส้นออกมานุ่มและพอดีต้องเลือกสรรค์ข้าวที่จะมาทำด้วยข้าวที่นิยมใช้ก็คือข้าวเหลืองอ่อน ข้าวนางพระยาข้าวปิ่นแก้ว และข้าว ตะเพราะแก้วข้าวเหล่านี้ควรเป็นข้าวเก่าเก็บเกี่ยวไม่ต่ำกว่า 3-4เดือน ควรเป็นข้าวที่ปลูกบนดอน มีดินเป็นทราย จะให้ผลผลิตที่ดีมากเลย ส่วนน้ำก็ต้องเป็นน้ำสะอาดปราศจากสิ่งห้อยแขวน ควรมีความกระด้างต่ำ
ขั้นตอนแรกหลังจากได้ข้าวมาแล้ว เราต้องนำข้าวไปล้างให้สะอาด ใส่ล้างในภาชนะที่น้ำไหลผ่านได้เช่น กระบุง ตระกร้า เป็นต้นรดน้ำทุกวันวันละ2ครั้ง เช้ากับเย็น พร้อมกับการกลับข้าวจากข้างล่างมาด้านบน เป็นเวลา2-3วัน ข้าวที่ผ่านกรรมวิธีนี้เรียกว่าการหมัก ข้าวจะมีสีคล้ำขึ้นมีกลิ่นแรง และเปื่อย สามารถบี้ได้ด้วยมือเลย
ขั้นตอนที่สองก็คือการนำข้าวที่หมักแล้วมาบดใช้ผ้ากรองขึงไว้บนปากภาชนะที่บดควรใส่น้ำลงไปทีละน้อยจะช่วยให้บดข้าวได้ง่ายขึ้นแต่ถ้าทำเส้นเป็นจำนวนมาก ก็จะใช้โม่แทนการบด ในขนะโม่จะต้องใส่เกลือลงไป 7% ของน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งเกิดการหมักก่อนขั้นตอนการนอนแป้ง
ขั้นตอนที่สามก็คือการนอนแป้ง เมื่อโม่แป้งเสร็จแล้วแป้งจะมีสีคล้ำมากการล้างแป้งจะช่วยให้แป้งคล้ำน้อยลงและกำจัดตะกอนสูดำๆให้หมดไป แล้วยังทำให้กลิ่นหมักน้อยลงด้วยวิธีการล้างแป้งก็คือ การเอาน้ำผสมกับแป้งแล้วปล่อยให้ตกตะกอน น้ำต้องใส่เกลือด้วยควรล้างประมาณ5-6ครั้งคะ แป้งที่ล้างแล้วสามารถนำไปทำขนมจีนได้ เราก็จะเรียกว่าขนมจีนแป้งสด หรือว่าจะผสมเกลือก็จะสามารถเก็บไว้ได้
ขั้นตอนที่สี่ คือการทับน้ำ เป็นการกำจัดน้ำส่วนเกินออก ด้วยการนำน้ำแป้งใส่ถุงผูกปากเอาไว้ทับด้วยของหนักทิ้งไว้1คืนน้ำที่เหลืออยู่ในแป้งจะลดน้อยลงคะขึ้นอยู่กับน้ำหนักและระยะเวลาการทับด้วย ขั้นที่ห้า ขั้นนี้ก็คือการต้มหรือนึ่งแป้ง เป็นขั้นตอนที่ทำให้แป้งเหนียวและจับตัวกันไม่ขาดง่าย นำแป้งที่ทับไว้มาปั้นเป็นก้อน หย่อนต้มในน้ำเดือด ให้สุกแค่เพียงด้านนอก2-3เซนติเมตรก็พอนะคะ ไม่งั้นแป้งที่สุกมากไปจะเหนียวเกินไป ขั้นตอนที่หก นวดแป้ง เป็นการผสมแป้งดิบกับสุกรวมกันเป็นเนื้อเดียวทำให้เม็ดแป้งแตกตัวมากขึ้นถ้าแป้งแห้งเกินไปให้ใส่น้ำร้อนลงไปช่วยให้นวดง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่เจ็ดกรองแป้ง การที่เรานึ่งแป้งจะทำให้แป้งจับตัวกันการกรองจึงช่วยให้แยกแป้งที่ไม่ละเอียดออกได้หมด ขนมจีนที่ได้จะได้มีเส้นสม่ำเสมอไม่ขาดระหว่างโรยเส้น
ขั้นตอนที่แปด ตอนนี้ก็คือ การโรยเส้นใช้กระบอกเป็นอุปกรณ์ในการโรยเส้น เอาแป้งใส่กระบอกโรยแล้วก็บีบวนเป็นวงกลมในน้ำเดือด พอเส้นเริ่มลอยตัวขึ้นมาก็จัดแจงตักขึ้นไปแช่น้ำเย็นเลย
ขั้นตอนสุดท้าย คือการรอให้เย้นและนำมาจับเป็นกลุ่มเมื่อนำเส้นไปแช่น้ำเย็นแล้วเพื่อไม่ให้เส้นสุกต่อแล้ว เมื่อเส้นเย็นตัวลงก็จัดแจงจับให้เป็นกลุ่มแล้วเรียงลงภาชนะรอเส้นแห้งและหดตัวก็เป็นอันสมบูรณ์
วิธีการนีั้ทุกท่านสามารถนำกลับไปทำเองได้ที่บ้าน
สรุปผลการดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม 180 คน เพื่อเรียนรู้ดังนี้
1.ได้รู้จักวิธีการผสมแป้งทำขนมจีนและการทำเองได้ง่ายๆ
2.ได้รุ็จักวิธีการทำเส้นขนมจีน
3.ได้ขนมจีนไว้รับประทานร่วมกัน
4.สามารถนำไปถ่ายทอดให้บุคคลอื่นได้ทำทำเป็น
5.ได้เรียนรู้การทำอาหารไว้กินเองเมือ่ยามจำเป็น
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
เด็กวัยเรียน 80 คน วัยทำงาน 80 คน ผู้สูงอายุ 20 คน รวม 180 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี