ซอยปลักควายเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง
เพื่อให้ชุมชนมีความรู้ การเลี้ยงผึ้งจากลังไม้แผงพาเลท โดยจะมีการเลี้ยงในพื้นที่ป่ายาง
เวลา 13.00-14.00 น. โดย นายนิยมศิริมุกศิกะ วิทยากรสอน การทำรังผึ้ง แบบปราชญ์ชาวบ้าน ของ สภาชุมชนคนปลักควาย
เริ่มจากการอธิบายวิธีการทำรังผึ้ง เริ่มจากขนาดของรังไม้คือ
ขนาดสำเร็จของรังผึ้งสูง (ซม.) 22 x กว้าง(ซม.) 40 x ยาว(ซม.) 40
การเตรียมอุปกรณ์
1.เตรียมขนาดไม้หน้ากว้าง 10 นิ้ว จำนวน 8 ชิ้น
2.ค้อน 1 อัน
3.ตะปูขนาด นิ้วครึ่งและ ขนาด 2 นิ้ว
4..เลื่อย 1 คัน
5. เก้าอี้กลม /ไม้กลม 1 อัน สำหรับทำเสา
6.ยางล้อรถยนต์ /กะละมัง เพื่อทำฐานรองรับเสาด้านล้าง และสำหรับใส่น้ำให้ผึ้งมีน้ำกิน
วิธีทำรังผึ้ง
1.เริ่มจากทำด้านหน้าตีไม้เป็นแผง ขนาด40 ซม.x40ซม. และตีด้านหลังให้มีขนาดเท่ากัน
2.หลังจากนั้นตีไม้ด้านข้างของรังผึ้งโดยตีเวียนไปเรื่อยให้เป็นลังสี่เหลี่ยม
3.เตรียมไม้ให้ความสูงของรังผึ้งได้ขนาด 20 ซม.
4.การทำหลังตาหรือด้านบนของรังผึ้งให้ใช้สังกะสีหรือกระเบื้องแกลลอนวางปิดทับก็ได้
6.ขาตั้งสำหรับรังผึ้งให้ใช้ไม้ทำเสา หรือเก้าอื้หัวล้านทำเป็นเสาก็ได้
7.ใช้ไม้ปักเป็นเสา4เสา
8. ใส่น้ำด้านล่างบริเวณขาตั้งไว้ในกะละมังหรือยางล้อรถยนต์หรือในฐานรองรับเพื่อให้ผึ้งมีน้ำกิน
ข้อควรระวังในการ ตัดไม้จากพาเลทเพื่อทำรังผึ้ง ให้ตัดตะปูจากไม้พาเลทด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยในการทำรังผึ้งเนื่องจากไม้จะแตก และตะปูจะได้ไม่ทืมตำนิ้วมือ
วิธีการจับผึ้งแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน
การเตรียมอุปกรณ์
1.ใส่เสื้อแขนยาว สวมกางเกงขายาว พร้อมมีเสื้อคลุมทำด้วยผ้าหรือตาข่ายละเอียด(แนดสีฟ้า)
2.ใส่รองเท้าบู๊ท
3.สวมหมวกไอ้โม่ง
4.ถุงมือยาง
เวลา 14.00-17.00 น. เข้าสู่ภาคฏิบัติการทำรังผึ้ง โดยนายนุสนธิ์ ธรรมรัตน์ โดยเริ่มต้นจากการตัดไม้ตามขนาดที่ นายนิยม อธิบาย แล้วให้ผู้เข้าอบรม ช่วยกันประกอบ จนครบ 20 รัง โดยการจับคู่ 3 คน/1รัง
เวลา 17.00 น. ปิดการอบรม เดินทางกลับบ้าน
1.คนในชุมชนสามารถเรียนรู้วิธีการเลี้ยงผึ้งด้วยวิธีธรรมชาติ และได้ร่วมกันทำรังผึ้งจากไม้ยางพารา จนแล้วเสร็จจำนวน30 ลัง มีการแบ่งปันให้สมาชิกที่มาร่วมกันทำเพื่อนำกลับไปเป็นต้นทุนเบื้องต้นในการเลี้ยงผึ้งครัวเรือนละ 1 ลัง
2.สามารถรักษาสมดุลทางธรรมชาติให้คงระบบนิเวศน์ที่สมดุลร่วมกันได้
3.คนในชุมชนสามารถแลกเปลียนแบ่งปันความรู้ร่วมกันภายในชุมชนโดยอาศัยความได้เปรียบความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่ชุมชนมีเป็นต้นทุนอยู่แล้ว ได้แก่ สวนยางพารา สวนผลไม้
4.ทำให้คนในชุมชนได้บริโภคน้ำผึ้งแท้ และเป็นการเสริมสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ประชาชนในชุมชน จำนวน 60 คน
-
-
-