มัสยิดสัมพันธ์ศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ม.17 บ้านวังช่อนชัย

จัดสภาอาซูรอฮ.ครั้งที่ 127 กรกฎาคม 2559
27
กรกฎาคม 2559รายงานจากพื้นที่ โดย นางอำสะ อุสมา
circle
วัตถุประสงค์
  • เพื่อให้คนในชุมชนได้ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยน พูดคุยกัน เพื่อให้เกิดสัมพันที่ดีขึ้น
circle
กิจกรรมตามแผน

circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

วันที่ 27 กรกฎาคม 2559 เวลา 09.00 น. ณ มัสยิดนุรุลสะอะดะห์ บ้านวังช่อนชัย นายสมนึก เส็นนิ่ง ประธานโครงการ และคณะทำงานโครงการได้ จัดกิจกรรมสภาอาซูรอฮครั้งที่ 1 ณ มัสยิดนุรุลสะอะดะห์ บ้านวังช่อนชัย ซึ่งตระกูล นาคสง่าและตระกูลติงหวัง เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม - โดยมี นายอำสอด โสธามาด โต๊ะอีหม่าม และนายดี บุตรา คอเต็บ ประจำมัสยิดนุรุลสะอะดะห์บ้านวังช่อนชัย ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูลเป็นผู้บรรยายเรื่อง " นรกและสวรรค์ " - "นรก" เป็นสถานที่สำหรับการลงโทษ ที่อัลลอฮฺทรงเตรียมไว้แก่ผู้ปฏิเสธและผู้ทำความผิด ผู้ที่เข้านรกจะถูกครอบงำด้วยความอับอาย และขายหน้าเป็นอย่างยิ่ง และพวกเขาจะไม่พบผู้ช่วยเหลือแต่ประการใดเลย อัลลอฮฺทรงตรัสว่า “พวกเขามิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริงผู้ใดที่ฝ่าฝืนอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ แน่นอนสำหรับเขานั้นคือไฟนรกญะฮันนัมโดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาลนั่นแหละคือความอัปยศอันใหญ่หลวง”ชื่อต่างๆของนรก

นรกมีเพียงแห่งเดียว แต่มีลักษณะที่หลากหลาย ซึ่งชื่อของมันที่เป็นที่รู้จักกันดีก็มีดังนี้

  1. อันนารฺ “และผู้ใดฝ่าฝืนอัลลอฮฺและรสูลของพระองค์ และละเมิดขอบเขตของพระองค์แล้ว พระองค์ก็จะให้เขาเข้านรกโดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล และเขาจะได้รับการลงโทษที่ยังความอัปยศให้แก่เขา”
  2. ญะฮันนัม “และแน่นอนอัลลอฮฺได้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่เจ้าเมื่อพวกเจ้าได้ยินบรรดาโองการของอัลลอฮฺ โองการเหล่านั้นก็ถูกปฏิเสธและถูกเย้ยหยัน ดังนั้นพวกสูเจ้าอย่าได้นั่งร่วมกับพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะพูดคุยในเรื่องอื่นจากนั้น แท้จริงพวกเจ้าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วก็เหมือนพวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงรวบรวมบรรดามุนาฟิกและบรรดาผู้ปฏิเสธทั้งหมดไว้ในนรกญะฮันนัม”
  3. อัลญะฮีม “และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาและปฏิเสธบรรดาโองการของเรานั้น พวกเขาเหล่านั้นคือชาวนรก”
  4. อัสสะอีรฺ“แท้จริงอัลลอฮฺทรงสาปแช่งบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และทรงจัดเตรียมไฟที่ลุกโชติช่วงไว้สำหรับพวกเขา”
  5. สะก็อรฺ “วันที่พวกเขาจะถูกลากบนใบหน้าของพวกเขาลงสู่ไฟนรก (จะมีเสียงกล่าวขึ้นว่า) พวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษที่มีการเผาไหม้”
  6. อัลหุเฏาะมะฮฺ “มิใช่เช่นนั้นแน่นอนเขาจะถูกโยนลงไปในไฟนรก (อัลหุเฏาะมะฮฺ) และอะไรเล่าที่ทำให้เจ้าได้รู้ว่าไฟนรก นั้นคืออะไร คือไฟของอัลลอฮฺที่จุดให้ลุกโชน”
  7. ละซอ “ไม่เลยทีเดียว แท้จริงมันเป็นไฟที่ลุกโชน หนังศรีษะถูกลอกออก (เพราะความร้อนของไฟนรก) มันจะเรียกผู้ที่ผินหลังและหันห่างจากความจริง”(อัลมะอาริจญ์
  8. ดารุลบะวาร “เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่าบรรดาผู้เปลี่ยนความโปรดปรานของอัลลอฮฺเป็นการปฏิเสธศรัทธา และได้นำกลุ่มชนของพวกเขาลงสู่ที่พำนักอันหายนะ นรกญะฮันนัมที่มีเปลวไฟร้อนจัดของมันและมันเป็นที่พำนักอันชั่วช้า” ที่ตั้งของนรก “มิใช่เช่นนั้น แท้จริงบันทึกของบรรดาคนชั่วนั้นอยู่ในสิจญีน”จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮฺอันฮุ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “...ส่วนผู้ปฏิเสธศรัทธาเมื่อวิญญาณของเขาถูกปลิดลง และถูกนำไปยังประตูของผืนดิน ผู้เฝ้าประตูกล่าวว่า เราไม่เคยพบกลิ่นใดเหม็นเหมือนกับกลิ่นนี้ ดังนั้นมันกระจายไปยังผืนดินชั้นล่างสุด”

- ลักษณะใบหน้าของชาวนรก อัลลอฮ์ ตรัสความว่า “และวันกิยามะฮฺเจ้าจะเห็นบรรดาผู้ที่กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺ ใบหน้าของพวกเขาดำคล้ำ ดังนั้นที่พำนักสำหรับผู้ที่หยิ่งยโสโอหังนั้นไม่ใช่นรกดอกหรือ?” “และบรรดาใบหน้าในวันนั้นมีฝุ่นจับ ความหม่นหมองจะปกคลุมบนใบหน้าเหล่านั้น ชนเหล่านั้นคือพวกปฏิเสธศรัทธาพวกประพฤติความชั่ว” “และในวันนั้นบรรดาใบหน้าจะเศร้าสลด มันคิดว่าความหายนะอันใหญ่หลวงจะเกิดขึ้นกับมัน”“ในวันนั้นมีบรรดาใบหน้าที่ต่ำต้อยใบหน้าที่ทำงานหนักระกำใจเข้าไปเผาไหม้ในไฟอันร้อนแรง”“ไฟนรกจะเผาไหม้ใบหน้าของพวกเขา และพวกเขาจะมีใบหน้าที่บูดเบี้ยวอยู่ในนรกนั้น”
จำนวนประตูนรก “และแท้จริงนรกญะฮันนัม แน่นอนคือสัญญาของพวกเขาทั้งหมด มันมีเจ็ดประตู สำหรับทุกประตูมีส่วนที่ถูกจัดไว้แล้ว”
- ประตูนรกจะถูกปิดล้อมอย่างมิดชิด “แท้จริงมันจะลุกไหม้คลุมบนพวกเขาอย่างมิดชิด อยู่ในสภาพของเสาสูงชะลูด”ความลึกของนรก จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า เราอยู่พร้อมกับท่านท่าน รสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ทันใดนั้นได้ยินมีเสียงที่น่าสะพรึงกลัว ดังนั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า "พวกท่านรู้ไหมว่านี่มันเป็นเสียงอะไร? เขาเล่าว่า พวกเราตอบว่า อัลลอฮฺและรสูลของพระองค์รู้ดียิ่ง ท่านกล่าวว่า นั่นเป็นเสียงของหินที่มันถูกโยนลงไปในนรกตั้งแต่ 70 ปีที่แล้วและในขณะนี้มันยังคงตกไหลลงจนกระทั่งถึงก้นหลุม”
จากสะมุเราะฮฺ บิน ญุนดุบ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺเขาได้ยินท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “แท้จริงมีส่วนหนึ่งของชาวนรกบรรดาผู้ที่ไฟนรกลุกลามถึงข้อเท้าของเขาและบางคนไฟจะลุกลามถึงเอวของเขาและบางคนจะลุกลามถึงต้นคอของเขา” ความร้อนระอุของไฟนรก 1. “และผู้ใดที่อัลลอฮฺได้นำทางเขาก็จะเป็นผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องและผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงให้เขาหลงผิดแล้ว ดังนั้นสูเจ้าจะไม่พบบรรดาผู้คุ้มครองอื่นอีกเลยนอกจากพระองค์ และเราจะชุมนุมพวกเขาในวันกิยามะฮฺ ถูกลากคว่ำหน้าโดยมีสภาพเป็นคนตาบอด เป็นใบ้และหูหนวก ที่พำนักของพวกเขาคือนรกญะฮันนัม ทุกครั้งที่มันมอดเราได้เพิ่มการเผาไหม้ให้ลุกโชนแก่เขา นั่นคือการตอบแทนของเขาอย่างแน่นอน พวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของเราและพวกเขากล่าวว่าเมื่อเราเป็นกระดูกและร่วนยุ่ยแล้ว แท้จริงเราจะถูกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นเพื่อกำเนิดใหม่ได้อย่างไร” 2. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ไฟที่มนุษย์ใช้จุดอยู่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจาก 70 ส่วนความร้อนของไฟนรกญะฮันนัม” พวกเขากล่าวว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ เท่าที่เป็นอยู่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วท่านรสูลุลลอฮฺ ท่านกล่าวว่า แท้จริงความร้อนของมันจะถูกเพิ่มทวีขึ้น 69 เท่า ทุกเท่าของมันจะร้อนเหมือนกันหมด” จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ไฟ (นรก) ได้ร้องทุกข์กับพระเจ้าของมันว่า โอ้พระเจ้าของฉัน ส่วนหนึ่งของฉันต่างกินอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นพระองค์ได้อนุมัติให้นรกได้ผ่อนหายใจได้สองครั้ง ครั้งหนึ่งในฤดูหนาวและอีกครั้งในฤดูร้อน และเพราะเหตุนี้จึงทำให้เกิดความร้อนระอุและความหนาวเหน็บอย่างหนักที่พวกท่านได้ประสบ (ตามสภาพดินฟ้าอากาศ)” - ประเภทของการถูกลงโทษ โทษแต่ละประเภทได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วแล้วตามบาปของแต่ละคนที่ได้ทำเอาไว้ ผู้ทำบาปมากกว่าจะถูกให้ลงไปในนรกชั้นต่ำกว่า ท่านรอซุล กล่าวว่า จะในบรรดาพวกเขา(ชาวนรก) บรรดาผู้ที่ไฟนรกลุกลามถึงข้อเท้าของพวกเขา และบางคนของพวกเขาจะลุกลามถึงหัวเข่าของพวกเขา และบางคนจะลุกลามถึงเอวของพวกเขา และบางพวกไฟจะลุกลามถึงกระดูกต้นคอของพวกเขา (มุสลิม) อัลลอฮฺผู้ทรงอำนาจเด็ดขาดตรัสว่า “และส่วนผู้ที่ตราชูของเขาเบา ที่พำนักของเขาก็คือเหวลึก (ฮาวิยะฮ์) และอะไรเล่าที่ทำให้เจ้ารู้ได้ว่าเหวลึกคืออะไร? คือไฟอันร้อนแรง”
ชาวนรกมีความแตกต่างกัน และบาปของพวกเขาก็ไม่เท่ากัน เช่นเดียวกัน นรกไม่ได้มีระดับเดียว แต่มีความแตกต่างลดหลั่นกันลงไป การลงโทษมีหลายอย่าง และความร้อนก็แตกต่างกันด้วย อัลลอฮฺทรงตรัสว่า “และสำหรับแต่ละคนนั้นมีหลายระดังชั้น เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาได้ประกอบไว้และพระเจ้าของเจ้านั้นมิใช่เผลอไผลในสื่งที่พวกเขากระทำกัน”
ขั้นลึกที่สุดของนรกมีไว้สำหรับพวกหน้าไหว้หลังหลอก(มุนาฟิก) “แท้จริงบรรดามุนาฟิกนั้นอยู่ในชั้นต่ำสุดจากนรก และเจ้าจะไม่พบผู้ช่วยเหลือใด ๆ สำหรับพวกเขาเป็นอันขาด”
- การเดินผ่านนรกและบุคคลแรกที่จะเดินข้ามสะพานศิรอฏ “และไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้านอกจากจะเป็นผู้ผ่านเข้าไปในมัน มันเป็นสิ่งที่กำหนดไว้แน่นอนแล้วสำหรับพระผู้อภิบาลของเจ้า แล้วเราจะให้บรรดาผู้ยำเกรงรอดพ้นแล้วเราจะปล่อยให้บรรดาผู้อธรรมคุกเข่าอยู่ในนั้น”
จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเราะฏิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า มีคนกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า โอ้ท่านรสูลุลลอฮฺ ในวันกิยามะฮฺเราจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของเราหรือไม่?

“ศิรอฏจะถูกพาดระหว่างสองฝั่งของนรกญะฮันนัม ดังนั้นฉันและประชาชาติของฉันจะเป็นกลุ่มแรกที่เดินข้ามผ่าน”

  • " สรวงสวรรค์ " คือ ดินแดนแห่งสันติสุขที่อัลลอฮฺได้จัดเตรียมไว้แก่บรรดาศรัทธาชนชายหญิงในโลกอาคีเราะฮฺ ชื่อของสรวงสวรรค์

สรวงสวรรค์นั้นมีเพียงแห่งเดียว แต่มีลักษณะหลากหลาย โดยมีชื่อต่าง ๆ ตามลักษณะที่หลากหลาย ดังต่อไปนี้

  1. อัล-ญันนะฮฺ (สวน) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า : ความว่า :สิ่งดังกล่าวนั้น คือ กฏบัญญัติของอัลลอฮฺ โดยผู้ใดที่ภักดีต่ออัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค์นั้น พระองค์จะให้เขาได้เข้าในญันนาตที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่างของมัน โดยพวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นไปตลอดกาล และนั้นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง (อัล-นิสาอ์ : 13)
  2. ญันนะฮฺ อัล-ฟิรเดาสฺ (สวนฟิรเดาสฺ) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า : ความว่า : แท้จริง สำหรับบรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีนั้น พวกเขาจะได้รับญันนาตอัล-ฟิรเดาสฺ (สวนสวรรค์ชั้นอัลฟิรเดาสฺ) เป็นที่พำนัก
  3. ญันนะตุ อัดนฺ (สวนสถาพร) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
    ความว่า : นี่คือข้อตักเตือน และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงนั้น แน่นอนพวกเขาจะได้รับที่หวนกลับอันดียิ่งคือญันนาตุอัดนฺ ที่ประตูต่าง ๆ ของมันได้ถูกเปิดไว้แล้วสำหรับพวกเขา
  4. ญันนะฮฺ อัลคุลดฺ (สวนนิรันดร) อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า : ความว่า : จงกล่าวเถิด (มุหัมมัด) ว่าสิ่งนั้น (บรรดากุฟฟาร เจว็ด และสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกบูชานอกเหนื่อจากอัลลอฮฺ เช่น ภูตผี มะลาอิกะฮฺ อีซา และอุไซร์ เป็นต้น) ดีกว่า หรือว่าญันนะตุลคุลดฺ (สวรรค์นิรันดร์) ที่ถูกสัญญาไว้ให้แก่บรรดาผู้ยำเกรง ซึ่งมันเป็นสิ่งตอบแทนและที่หวนกลับสำหรับพวกเขา
  5. ญันนะฮฺ อัล-นะอีม (สวนแห่งความสุข) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า : ความว่า : แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย พวกเขาจะได้รับญันนาตุนนะอีม (สวนสวรรค์แห่งความสุข)
  6. ญันนะฮฺ อัล-มะวา (สวนที่พำนัก) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า : ความว่า : ส่วนสำหรับบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีนั้น พวกเขาจะได้รับญันนาตุลมะวา (สวนสวรรค์ถิ่นพำนัก) เป็นที่พำนักอันเนื่องมาจากสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิบัติมา
  7. ดารุสสลาม (ดินแดนศานติสุข) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า : ความว่า : พวกเขาได้รับดารุสสลาม (ดินแดนศานติสุข) ณ ที่พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา ซึ่งพระองค์คือผู้คุ้มครองพวกเขาอันเนื่องมาจากสิ่งที่พวกเขาได้กระทำมา

- เวลา 12.15 น. พักรับประทานอาหารร่วมกัน และปฏิบัติศาสนกิจร่วมกัน
- เวลา 15.30 น. ประธานกล่าวขอบคุณวิทยากรและผู้เข้าร่วมกิจกรรม ปิดกิจกรรม

circle
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม
  • คนในชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรวมกลุ่มจัดทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนพูดคุยโดยใช้มัสยิดบ้านวังช่อนชัยเป็นศูนย์กลาง
  • คนในชุมชุนมีความรัก ความสามัคคีกันมากขึ้น
  • มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากขึ้น
  • การจัดกิจกรรมครั้งนี้สามารถลดความแตกแยกของคนในชุมชนได้
  • คนในชุมชนมีความสัมพันธืที่ดีกันมากขึ้น
  • ได้เห็ยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่มีความสุขของคนในชุมชน
circle
กิจกรรมตามแผน
circle
ประเมินความสำเร็จของการดำเนินกิจกรรม

บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)

circle
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม
จำนวน 82 คน จากที่ตั้งไว้ 70 คน
ประกอบด้วย
  • คณะกรรมการมัสยิด
  • คณะกรรมการหมู่บ้าน
  • อสม.
  • กลุ่มองค์กรต่างๆในหมู่บ้าน
  • คนในชุมชน
circle
ปัญหา/แนวทางแก้ไข
  • ไม่มี
circle
ชื่อผู้ติดตามในพื้นที่ของ
-
circle
ข้อเสนอแนะต่อ
  • ไม่มี
circle
ข้อเสนอแนะต่อพื้นที่
  • ไม่มี