ชาวเกาะยวน หมู่ 3 ยุคใหม่ คิดใหม่ ทำใหม่ ใส่ใจสุขภาพ

การสื่อสารประชาสัมพันธ์ ครั้งที่ 725 กันยายน 2559
25
กันยายน 2559รายงานจากพื้นที่ โดย นายกิตติคุณ มาลัยสนั่น
circle
วัตถุประสงค์
  • เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเรื่องสุขภาพในด้านต่างๆ
circle
กิจกรรมตามแผน

circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

สวัสดีค่ะ พบกันเช่นเคย วันนี้เรามีเรื่องมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบในเรื่องของสุขภาพและโรคภัยต่างๆ กัน โดยวันนี้เรานำสาระความรู้เกี่ยวกับโรคที่เกิดขึ้นบ่อยในบุตรหลานของท่าน เพราะเด็กในช่วงอนุบาลมักจะติดโรคได้ง่าย และผู้ปกครองควรมั่นสังเกตบุตรหลานของท่านกันน่ะค่ะ และสาระสำคัญของโรคต่างๆ มีดังนี้

เด็กที่อยู่ในช่วงเวลาปิดเทอมหรือเด็กๆที่ยังไม่เข้าเรียน เมื่ออยู่บ้านร่างกายจะแข็งแรงดี วิ่งเล่นได้ทั้งวัน ร่าเริงสดใส แต่พอถึงเวลาต้องไปโรงเรียนทีไรลูกกลับไม่สบายบ่อยมาก ทั้งหวัดและโรคอื่นๆ สารพัด สาเหตุหลักก็คือ ติดมาจากเพื่อนในห้องเรียน ส่วนโรคที่มักติดต่อกันในวัยเด็กที่อยู่ในชั้นอนุบาลมีโรคอะไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่มาดูกันค่ะ เพื่อจะได้ระมัดระวังและดูแลลูกของเราได้

4 โรคติดต่อที่เด็กๆวัยอนุบาลเป็นบ่อยที่สุด

1.โรคท้องร่วง

โรคนี้จะเกิดจากไวรัส เช่น ไวรัสโรต้า เด็กๆเป็นกันง่ายมาก เพราะเชื้อโรคจะเข้าจากทางปาก จะพบบ่อยมากในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการลูกได้ดังนี้ ถ่ายเป็นน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดหัว มีไข้ บางรายมีน้ำมูกหรือไอรวมด้วย บางรายมีอาการรุนแรงร่างกายเสียน้ำมากจนมีอาการขาดน้ำ ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้หลายวันอาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้ค่ะ
2.มือ เท้า ปาก

โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม เอ็นเทอโรไวรัส (enterovirus) พบมากกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี สังเกตอาการได้ดังนี้ มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย และหลังจากนั้น 2-3 วันเด็กจะมีอาการเจ็บปาก กินข้าวไม่ได้ มีตุ่มใสสีแดงขึ้นบริเวณปากก่อนและตามด้วยมือ เท้า และ ลำตัว โรคนี้ไม่รุนแรงมาก รักษาโรคได้ตามอาการ อาการจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วันค่ะ ยกเว้นเด็กที่ติดเชื้อรุนแรงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้ตุ่มใสๆนี้เป็นหนอง อาการจะรุนแรง จนทำให้ปอดบวม สมองอักเสบ เยื้อสมองอักเสบ ถึงขึ้นเสียชีวิตได้ โรคนี้ติดกันง่ายมาก เพียงแค่สัมผัสสิ่งของต่างๆร่วมกันหรือ ไอใส่กัน ก็สามารถติดกันได้แล้วค่ะ
3.โรคไข้หวัดใหญ่

โรคจะติดกันได้ง่ายในที่ๆมีคนเยอะๆ ติดกันผ่านลมหายใจ การไอ จาม ละอองน้ำมูก น้ำลาย อาการคือ ไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดหัว เมื่อยตัว อ่อนเพลียมาก คัดจมูก เจ็บคอถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อาการแทรกซ้อนคือ โรคปอดอักเสบค่ะ
4.โรคไข้หวัด

จะเป็นบ่อยในช่วงหน้าฝน และหน้าหนาว เชื้อไข้หวัดจะมีหลายสายพันธุ์ เวลาเป็นแล้วหายร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโรคที่เคยเป็น แต่ก็อาจจะกลับมาเป็นได้อีก อาการคือ คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ จาม คอแห้ง เจ็บคอ เป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดหัว ไอ้แห้ง ไอมีเสมหะ โรคแทรกซ้อนที่มากับไข้หวัดคือ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ คุณพ่อคุณแม่ควรระวังเด็กอาจชักเพราะไข้ขึ้นสูงค่ะ

เชื้อโรคมีอยู่ทุกที่ไม่ใช่เฉพาะที่โรงเรียนอนุบาลนะคะ เพียงแต่เด็กวัยอนุบาลนั้นสามารถเป็นโรคต่างๆเหล่านี้ได้บ่อยครั้ง เพราะเด็กยังมีภูมิคุ้มกันโรคไม่เพียงพอ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ลูกป่วยง่ายหรือบ่อยจนเกินไป เพราะถ้าลูกป่วยบ่อยๆจะส่งผลเสียทางด้านจิตใจ ร่างกาย และ การเรียนรู้ของลูกได้ค่ะ

circle
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้

 

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม
  • คนในชุมชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและโรคภัยต่างๆ
  • ได้ประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง
circle
กิจกรรมตามแผน
circle
ประเมินความสำเร็จของการดำเนินกิจกรรม

บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)

circle
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม
จำนวน 5 คน จากที่ตั้งไว้ 5 คน
ประกอบด้วย

อสม.ในชุมชน

circle
ปัญหา/แนวทางแก้ไข
  • ไม่มี
circle
ชื่อผู้ติดตามในพื้นที่ของ
- นางสาวอนัญญา แสะหลี
circle
ข้อเสนอแนะต่อ
  • ไม่มี
circle
ข้อเสนอแนะต่อพื้นที่
  • ไม่มี