แบบรายงานผลการดำเนินโครงการประจำงวด 2
ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาศักยภาพ เยาวชนนักพัฒนา (ผลัดกันแลลูกเธอลูกฉัน)
ชุมชน บ้านป่าชิง ม. 1 ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา
รหัสโครงการ 56-00245 เลขที่ข้อตกลง 56-00-0377
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 เมษายน 2556 ถึง 30 เมษายน 2557
รายงานงวดที่ : 2 จากเดือน กันยายน 2556 ถึงเดือน มิถุนายน 2557
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินโครงการ (แสดงผลการดำเนินงานรายกิจกรรมที่แสดงผลผลิตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. แข่งงมหอย |
||
วันที่ 16 กันยายน 2556 เวลา 09:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อเด็กๆใช้เวลาว่าง มาเรียนรู้บทเรียนที่หาเรียนในห้องเรียนไม่ได้ ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเด็กๆได้สำรวจคลองและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชนิดของหอย เป็นสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเขาแต่ไม่เคยสนใจเรียนรู้จนได้มาเรียนรู้กับเพื่อนๆทำให้เกิดความสนุกสนาน แทนเวลาปกติหากไม่มีกิจกรรมดังกล่าวเด็กๆก็จะเล่นเกมส์ และตามพี่ๆออกไปขี่รถนอกหมู่บ้าน ถือเป็นการเฝ้าระวังพฤติกรรมของเด็กๆด้วยเช่นกัน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนใช้หลักจิตวิทยาบำบัด กับเด็กเยาวชน ผู้ปกคลอง กิจกรรมที่ทำจริงกิจกรรม เล่นน้ำและแข่งขันงมหอย คลองเฉียงพร้ามีเด็กเข้าร่วม 15คน วันนั้นเราได้จัดร่วมกลุ่มกันโดยมีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายโดยจัดเป็นทีมคละๆกันเพื่อความเหมาะสม ร่วมทำกิจกรรมสำรวจคลองในเชิงอนุรักษ์ เล่นน้ำและแข่งขันงมหอยโข่งกัน ซึ่งมีอยู่เยอะในลำคลองแห่งนี้ โดยมีเวลาที่จำกัดให้ เด็กๆก็ได้รับความสนุกสนาน รวมทั้งความสามัคคีในทีม และก็ไม่มีความเอาเปรียบกัน วันนั้นมีแต่เสียงหัวเราะ เด็กหลายคนยังไม่รู้จักว่าหอยชนิดนี้ชื่อว่าอะไรเพราะเขาไม่เคยได้สนใจจกับสิ่งรอบๆตัว มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลของหอยแต่ละชนิดเป็นระยะๆ สรุปว่าในคลองเฉียงพร้ามีหอยทั้งหมด 5 ชนิด ซื่งมี หอยขม ขอยข้าว หอยโข่ง หอยกาบ หอยเชอร์รี่ และเราก็ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคน จนพวกเขาไม่อยากที่จะกลับบ้าน
|
60 | 15 |
2. หว่านกล้า (ห้องเรียนนาข้าว) |
||
วันที่ 2 ตุลาคม 2556 เวลา 09:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต ของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงทีใทำงานร่วมกัน หว่านกล้านาอินทรีย์ซึ่งเป็นพื้นที่เรียนรู้ร่วมกัน ของคนที่มีความสนใจทำนาอินทรีย์ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเรียนรู้การทำนาข้าวอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิถีที่หายไปจากชุมชน กิจกรรมที่ทำจริงห้องเรียนน้าข้าวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทีมทำงาน และเด็กเยาวชนช่วยกันออกแบบ เพื่อได้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้วีการทำนาที่จะเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเป็นการสอนจากผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำนา สอนลูก สอนหลาน ซึ่งเด็กๆก็ให้ความสนใจ การทำนาในวันนี้เป็นอีกกิจกรรมที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ตามกระบวนการทำนาจริงๆ เป็นการเพาะเตรียมต้นกล้าให้ได้ต้นที่แข็งแรง เมื่อนำไปปักดำก็จะได้ข้าวที่เจริญเติบโตได้รวดเร็ว และมีโอกาสให้ผลผลิตสูง ต้นกล้าที่แข็งแรงดีต้องมีการเจริญเติบโตและความสูงสม่ำเสมอกันทั้งแปลง มีกาบใบสั้น มีรากมากและรากขนาดใหญ่ ไม่มีโรคและแมลงทำลาย - การหว่านเมล็ดพันธุ์ ปล่อยน้ำแปลงกล้าให้แห้ง ทำเทือกให้ราบเรียบสม่ำเสมอ นำเมล็ดพันธุ์ที่เพาะงอกดีแล้วมาหว่านให้กระจายสม่ำเสมอตลอดแปลง ควรหว่านเมล็ดพันธุ์ตอนบ่ายหรือตอนเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดตอนเที่ยงซึ่งมีความร้อนแรงมาก อาจทำให้เมล็ดข้าวตายได้
|
60 | 9 |
3. น่ำข้าวเหนียวดำไร่ |
||
วันที่ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 11:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อการเรียนรูวิถีชุมชน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อเป็นทักษะชีวิตในอนาคต ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเด็กๆสะท้อนกิจกรรมในครั้งนี้ออกมาว่าเป็นวิถีที่อยู่ใกล้ตัวแต่พวกเขาไม่เคยได้ลองทำวันนี้ได้มาเรียนรู้และทำด้วยตัวเองรู้สึกว่าเกิดความรู้ มีความสนุกสนานและรู้สึกรักคนทำนาเพราะกว่าจะได้ข้าวมาให้เรากิน ยากลำบากนัก กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนให้เด็กได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่บ้านป่าชิง และเรียนรู้การใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้เกิดมูลค่า โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อม กิจกรรมที่ทำจริงเด็กและผู้ที่สนใจรวมกิจกรรม 15 คน เราออกแบบการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อ การลงพื้นที่ในวันนี้วางกิจกรรมหลัก คือเราต้องการเรียนรู้วิถีของคนบ้านเรา ช่วงนี้เป็นช่วงทำนาและทำข้าวไร่ เราจึงออกเรียนรู้วิถีของปู่ย่าตายาย จากป้ากลิ่น ป่ากลิ่นทำไร่เหนียวดำทั้งหมด 3ไร่ และมีเพื่อนบ้านออกมาช่วยมากมาย เด็กๆจึงเข้าไปร่วมเรียนรู้และเอาเมล็ดพันธุ์เหนียวดำไปสมทบกับป้ากลิ้น เจ้าของไร่ด้วย เริ่มจากการแทงสัก คือไม้กลมๆ เป็นคู่แทงลงในดินให้เป็นแถวก่อน หยอดเมล็ดข้าวลงไปประมาณ 3-5เมล็ด ส่วนข้าวเหนียวเราจะใส่ไว้ในกระบอกไม้ไผ่ สั้นๆ ยาว1ศอก ใช้เม็ดหยอดลงแล้วใช้กระบอกไม้ไผ่ทิ่มปิดหลุม นอกจากเรียนรู้จากคำบอกเล่าของผู้ใหญ่แล้วเด็กๆก็ยังลงมือทำเองด้วย คนไหนที่ไม่มีไม้ไผ่ใส่เสม็ดข้าว ก็กำเมล็ดพันธุ์ลงไปหยอดในหลุมที่ได้ขุดรอไว้แล้ว เด็กเกิดความสนใจและถ่ายทำวีดีโอเก็บเอาไว้ดูการพัฒนาและเจริญเติบโตของข้าวเหนียวดำด้วย
|
60 | 15 |
4. ผลิตสื่อ ประเพณีวันสารทเดือนสิบ |
||
วันที่ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 07:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงการถ่ายทำสื่อในครั้งนี้ก็เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดีงามนี้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ เด็กๆ ได้ฝึกทักษะในการผลิตสื่อเพื่อเป็นพื้นฐานในการศึกษาในอนาคตอีกด้วย กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนถ่ายทำสื่อ เพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้ และเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดีงามของท้องถิ่น ซึ่งเป็นเสมือนมรดกของชุมชน กิจกรรมที่ทำจริงในวันที่ 4 ตุลาคม 2556 เป็นวันชิงเปรตหรือวัสารท เป็นประเพณีสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อทำบุญอุทิศแก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว การชิงเปรตของไทยเป็นการอุทิศส่วนกุศลไปให้ทั้งผี(เปรต) ที่เป็นญาติพี่น้องของตนเอง และที่ไม่มีญาติด้วย ผู้ เฒ่าผู้แก่หลายคนได้ยืนยันว่าการชิงเปรตไม่เป็นความอัปมงคลแก่ผู้ชิงเปรตแต่ อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับถือว่าเป็นการทำบุญด้วยซ้ำไป เพราะชื่อว่าบุตรหลานของเปรตตนใดชิงได้ เปรตตนนั้นย่อมได้รับส่วนนั้น เพียงแต่ว่าผู้ชิงต้องระมัดระวังในการที่อาหารหรือขนมที่ตั้งเปรตอาจตกหลาน ลงพื้น ซึ่งจะทำให้เกิดความสกปรกและเป็นอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น ชาวบ้านป่าชิง ยึดถือปฏิบัติประเพณีที่ดีงามนี้มายาวนาน เป็นเหมือนมรดกของชุมชน การถ่ายทำสื่อในครั้งนี้ก็เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดีงามนี้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้
|
60 | 6 |
5. อบรมผลิตสื่อ |
||
วันที่ 5 ตุลาคม 2556 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงมีน้องที่สนใจและเห็นความสำคัญการสื่อสาร เมื่อพบเด็กๆครั้งแรก เรายังประเมินไม่ออกว่าเราต้องทำกระบวนการอย่างไร ให้เขาพร้อมจะเรียนรู้กับเราแต่เมื่อได้ออกพื้นที่ร่วมกัน น้องๆมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี ส่วนผลงานก็น้องยังต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เรื่องเทคนิค ตรงนี้ทีมทำงานต้องช่วยกันดูปรับกันไปเรื่อยๆ คิดว่าน้องๆ ที่นี่ต้องพัฒนาเรื่องการใช้กล้องด้วย การตัดต่อและงานเขียนด้วย กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาศักยภาพเยาวชนในการสื่อสารเรื่องราวของป่าชิงและพื้นที่ใกล้เคียง กิจกรรมที่ทำจริงวันอบรมเปิดด้วยการทำความรู้จักกัน ทุกคนแนะนำตัว แล้วก็บอกความสารด้านสื่อสารว่าแต่ละคนมีประสบการณ์อะไรมาบ้าง มีน้องบางคนเคยทำงานเขียน เคยอบรมงานเขียน บางคนสื่อสารด้วยการวาดภาพ
และเราก็วางความคาดหวังที่ต้องการจะได้หลังจากผ่านกระบวนการอบรม ทั้งหมด 16 คน รวมทั้งวิทยากร พี่เลี้ยง และทีมทำงาน สรุปบทเรียนการพัฒนาศักยภาพการสื่อสาร
|
60 | 16 |
6. อบรมผลิตสื่อ |
||
วันที่ 6 ตุลาคม 2556 เวลา 08:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงมีน้องที่สนใจและเห็นความสำคัญการสื่อสาร เมื่อพบเด็กๆครั้งแรก เรายังประเมินไม่ออกว่าเราต้องทำกระบวนการอย่างไร ให้เขาพร้อมจะเรียนรู้กับเราแต่เมื่อได้ออกพื้นที่ร่วมกัน น้องๆมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี ส่วนผลงานก็น้องยังต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เรื่องเทคนิค ตรงนี้ทีมทำงานต้องช่วยกันดูปรับกันไปเรื่อยๆ คิดว่าน้องๆ ที่นี่ต้องพัฒนาเรื่องการใช้กล้องด้วย การตัดต่อและงานเขียนด้วย ปัญหา/แนวทางแก้ไข กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน-ให้น้องๆ มีทักษะการถ่ายภาพ ตัดต่อ ที่เพิ่มขึ้น เพื่อนำไปใช้ในการสื่อสาร กิจกรรมที่ทำจริงวันที่ 2 เป็นขั้นของการลงเสียงและตัดต่อวีดีโอต่อจากกิจกรรมเมื่อวาน ทีมวิทยากร ทีมพี่เลี้ยงเข้ามาช่วยสนับสนุนสอนเทคนิคการตัดต่อและสอนการใช้โปรแกรมต่างๆ ทั้งอัปวีดีโอขึ้นยูทูป และการแชร์ลิงค์ไปยังเวปไซต์ต่างๆ
|
60 | 16 |
7. ประชุมทีมสื่อเยาวชน |
||
วันที่ 13 ตุลาคม 2556 เวลา 10:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อทำความเข้าใจ ถอดบนเรียนการทำสื่อที่ผ่านมา ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนประชุมทีมเครือข่ายสื่อสาร เด็กเยาวชนและผู้ที่สนใจ ร่วมกับพี่เลี้ยงโครงการเพื่อร่วมกันวางแผนการทำงาน และหาแนวทางแก้ปัญหาที่พบเจอ กิจกรรมที่ทำจริงพูดคุยเรื่องการนำการสื่อสารไปใช้ในพื้นที่ เอา งานวีดีโอ ที่พวกเราร่วมกันทำ เอาไปเปิดให้คนที่บ้านและละแวกบ้านได้ดู มีการตอบรับและชื่นชมจากญาติ เป็นพลังหนึ่งที่ผู้ใหญ่สนับสนุนให้น้องๆมาผลิตสื่อให้ชุมชน เด็กๆจึงวางแผนการถ่ายทำวีดีโอชุมชน ไว้หลายเรื่อง ทั้งการทำนาข้าว งานตักบาตรเทโว งานชิงเปตร และกิจกรรมของคนในชุมชนที่เป็นแบบอย่างที่ดี และวางแผนการลงพื้นที่แบ่งกลุ่มการทำงาน แบ่งหน้าที่ตามที่ตนถนัด ผลของงาน - เด็กๆมีความกระตือรือร้นในการทำงานสื่อสารเพิ่มขึ้น - การเริ่มทำสื่อเป็นอีกหนึ่งแรงบันกาลใจในการเข้าเรียนต่อในสายการสื่อสาร - เกิดกำลังใจในการทำความดี - มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกระสบการณ์การสื่อสารแต่ละคนที่แตกต่างกัน
|
60 | 7 |
8. ถ่ายทำสารคดีตักบาตรเทโว |
||
วันที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลา 07:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อฝึกในเยาวชนในพื้นที่ สื่อสารเรื่องราวดีๆในพื้นที่ ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงน้องๆและผู้ที่เข้าร่วม ได้ร่วมทำบุญและถ่ายทำสื่อ "ตักบาตรเทโว" กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนกิจกรรมตักบาตรเทโว เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชน เด็กๆจึงวางแผนว่าจะถ่ายทำงานสื่อออกมาสื่อสารให้คนในพื้นที่เห็นถึงความสำคัญของกิจกรรมนี้ กิจกรรมที่ทำจริงกิจกรรมตักบาตรเทโว เป็นอีกกิจกรรมในช่วงออกพรรษาที่เราพุทธศาสนิกชนต้องมาทำบุญใหญ่ที่วัดและเชื่อว่าเป็นวันพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพระญาติ และเป็นวันเดียวกับวันชักพระทางภาคใต้ คนจึงแห่กันมาทำบุญ ที่วัดควนมีดก็เช่นกัน แต่แปลกกว่าที่อื่นตรงที่มีการจำลองว่าพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ จึงใชพระเดินลงบันไดมาจากเจดีย์วัดควนมีดและมีพี่น้องมาใส่บาตาเป็นอาหารแห้ง น้องๆที่ผลิตสื่อเห็นถึงความทสำคัญของประเพณีนี้จึงนัดหมายกันมาถ่านรูปทำสารคดีเรื่อง ตักบาตรเทโว
|
60 | 7 |
9. เก็บข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนป่าชิง ทำป้ายรณรงค์ |
||
วันที่ 23 ตุลาคม 2556 เวลา 10:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อร่วมกันรณรงค์ ในคนในชุมชนรักษ์บ้านเกิด ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเด็กเยาชน และคนคนบ้านป่าชิงออกมาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนกลุ่มหลบมาแลป่าชิงบ้านเรา ได้ประสานงานกับทีมเดินด้วยรักษ์ พิทักษ์ 2 ฝั่งแล ว่าจะเข้าร่วมเดินด้วย และต้องการทำป้ายรณรงค์ร่วมรักษ์ป่าชิง กิจกรรมที่ทำจริงกลุ่มหลบมาแลป่าชิงบ้านเรา ได้ประสานงานกับทีมเดินด้วยรักษ์ พิทักษ์ 2 ฝั่งแล ว่าจะเข้าร่วมเดินด้วย เด็กๆจึงอาสาทำป้ายรณรงค์ ให้ทุกคนรักษาทรัพยากร ของบ้านเราไว้ให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
|
60 | 7 |
10. ถอนกล้า(นาอินทรีย์ พื้นที่เรียนรู้) |
||
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 เวลา 08:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต ของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงทางสมาชิกกลุ่ม ห้องเรียนนาข้าวสลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาถอนกล้าและจูงลูกหลานมาเรียนรู้ร่วมกัน มีน้องๆ เข้ามาร่วมเรียนรู้การทำนาข้าวอินทรีย์เป็นระยะๆ ด้วย กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนต้องการให้ผู้ที่สนใจ ร่วมกันทำนาอินทรีย์ เพื่อเป็นพื้นที่ตัวอย่าง และพื้นที่เรียนรู้ กิจกรรมที่ทำจริงต้นกล้าที่อยู่ในระยะที่เหมาะสำหรับการถอนกล้า ไปดำนั้นจะเป็นกล้าที่มีอายุประมาณ 20-25 วัน เพราะหากเกินระยะเวลานี้ไปจะทำให้กล้าบั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะห่างของการหว่านกล้าด้วยแต่ในการทำนาร่วมกันในกิจกรรมเรียนห้องเรียนนาข้าว เราหว่านกล้าช้ากว่า คนอื่น เพราะสมาชิกที่มาร่วมทำนาข้าวต่างก็ต้องทำนาของตัวเองด้วย จึงกำหนดเวลาที่หลังจากต่างคนเสร็จภารกิจที่นาของตนก่อน
|
60 | 9 |
11. ถอนกล้า (ห้องเรียน นาข้าว) |
||
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา 08:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต ของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงทางสมาชิกกลุ่ม ห้องเรียนนาข้าวสลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาถอนกล้าและจูงลูกหลานมาเรียนรู้ร่วมกัน มีน้องๆ เข้ามาร่วมเรียนรู้การทำนาข้าวอินทรีย์เป็นระยะๆ ด้วย กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเรียนรู้ ห้องเรียนนาข้าว ร่วมกัน และร่วมกันถอนกล้า เพื่อดำนา กิจกรรมที่ทำจริงต้นกล้าที่อยู่ในระยะที่เหมาะสำหรับการถอนกล้า ไปดำนั้นจะเป็นกล้าที่มีอายุประมาณ 20-25 วัน เพราะหากเกินระยะเวลานี้ไปจะทำให้กล้าบั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะห่างของการหว่านกล้าด้วยแต่ในการทำนาร่วมกันในกิจกรรมเรียนห้องเรียนนาข้าว เราหว่านกล้าช้ากว่า คนอื่น เพราะสมาชิกที่มาร่วมทำนาข้าวต่างก็ต้องทำนาของตัวเองด้วย จึงกำหนดเวลาที่หลังจากต่างคนเสร็จภารกิจที่นาของตนก่อน
|
60 | 9 |
12. นาอินทรีย์ พื้นที่เรียนรู้ |
||
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2556 เวลา 10:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อให้เด็กๆ เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีของคนป่าชิง ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเด็กได้เรียนรู้และสนุกสนานไปในตัว การเรียนรู้ที่ไม่ได้มีเฉพาะในห้องเรียน แต่มาจากสิ่งรอบข้าง เกิดความเพลิดเพลิน กว่านั่งที่หน้าจอเล่นเกมส์ เพราะเขายังได้เล่นน้ำ ได้ดำนา เป็นการปฏิบัติที่สอดความสนุขสนานไปในตัว กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนการเรียนรู้การทำนา เป็นโอกาสที่เด็กๆจะได้เรียนรู้ รากเหง้าของสังคมไทย วิถีชีวิตของชาวนา ความเรียบง่าย มานะอดทน และเห็นวิถีชีวิตพอเพียงแบบเป็นรูปธรรม กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เราได้พาน้องๆ ออกเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งเป็นวันพิเศษที่น้องๆหลายคนรอคอยเพราะได้เรียนรู้และสนุกสนานไปในตัว โดยที่เราไม่ต้องมานั่งท่องจำ พี่ๆและน้องๆ ได้ออกเรียนรู้การทำนาของคนบ้านป่าชิง นำทีมโดยพี่จอย พี่วัจน์ พี่เจมส์ พี่ทราย น้องตะใคร่ น้องต้า น้องเชียร์ น้าเก่ง ป้าพิศ น้ารัตน์ น้องฝน น้องโต น้องมีน ก่อนเราจะลงดำนา เด็กๆ ลงเล่นน้ำที่ร่องนาซึ่งเป็นของลุงภาพ ลุงภาพได้ขุดร่องนาไว้เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร ยามที่ฝนเล้ง รวมถึงได้เลี้ยงปลา ปลูกบัว ไว้เป็นพื้นที่พักผ่อน มีกระท่อมเล็กๆ ณ ปลายนา ให้เราได้หลบความร้อนจากแดดที่แผดเผา
บ่ายแก่ๆ แดดเริ่มสงบร่มรื่นขึ้น กรูกันลงจากกระท่อม ลงนา พี่จอยก็ใช้มือแกะเชือกมันกำกล้าซึ่งเป็นยอดเหรง (ใช้มัดกล้า เพื่อไม่ให้หลุดร่วง ออกจากกำ และง่ายต่อการปักดำ) พี่จอยแบ่งกล้าให้ทุกๆคน คนละกำเล็กๆ พี่วัจน์บรรยาย สอนน้องๆ”เราหยิบต้นกล้าออกมา 4-5 ต้น แล้วแต่ว่าต้นเล็กหรือใหญ่ ใช้นิ้วชี้และหัวแม่มือบีบเอาไว้เบาๆ แล้วปักลงไปในนาให้เป็นแถว โดยเราใช้นิ้วหัวแม่มือเป็นตัวนำ เมื่อถึงโคลนแล้วเราก็ปักต้นกล้าลง แล้วดึงมือกลับมาหยิบกอใหม่ ”ระหว่างบรรยายสอนน้องๆ พี่วัจน์ก็ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ทุกคนตื่นเต้นกับกอข้าวที่ตัวเองดำ แล้วถามเป็นระยะว่าของตนดำสวยรึยัง เราต่างช่วยกันดำนาจนเพลิน ใครเบื่อก็ผลัดกันไปเล่นน้ำ แล้วกลับมาดำนาต่อ
|
60 | 13 |
13. ดำนา (ห้องเรียน นาข้าว) |
||
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 เวลา 08:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต ของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเราได้มาฟื้นวิถีการซอแรงที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้เราลองคำนวนค่าใช้จ่ายและเวลาที่เสียไป การซอแรงมีความคุ้มค่ากว่า เพียงแค่เราร่วมกันลงแรง จะเหนื่อยมากกว่าการจ้างแรงงาน สมาชิกเห็นความสำคัญและวางแผนถึงการทำนาฤดูใหม่ที่จะต้องมีการชักชวนสมาชิกเข้ามาเพิ่ม ค่าตอบแทนที่เขาได้กลับไปคือมิตรภาพ และน้ำใจที่เราต่างต้องมีให้แก่กัน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเรียนรู้การทำนาอินทรีย์ และการซอแรง ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน กิจกรรมที่ทำจริงทางห้องเรียนนาข้าวจัดการเรียนรู้นี้ขึ้นมาเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาของคนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งทำนากันตั้งแต่สมัยทวด ดังนั้นวิถีและภูมิปัญญาเดิมจะถูกนำกลับมาใช้ร่วมกันในห้องเรียนนาข้าว คือ การซอแรง ก็คือการบอกกล่าวขอแรงบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย ให้มาช่วยทำงานนั่นเอง งานที่จะลงแขกกันนั้นอาจจะเป็นงานส่วนรวมหรืองานส่วนตัวก็ได้ สำหรับงานส่วนตัวนั้นส่วนมากมักจะเป็นงานใหญ่สุดกำลังคนในครอบครัวจะทำได้ หรืออาจจะเป็นงานหนักแต่จำเป็นต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียว จึงต้องบอกกล่าวให้ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือเพื่อให้งานเสร็จสิ้นไปงานที่มักลงแขก เช่น การลงแขกทำนา ซึ่งมีการลงแขกดำนา ลงแขกเกี่ยวข้าว ลงแขกตีข้าว (นวดข้าว) ถือเป็นการพึ่งพาอาศัยกันของเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง แต่ปัจจุบัน การซอแรงได้หายไป เป็นเพราะมีการใช้เครื่องทุ่นแรงเป็นหลักเช่น การไถนาด้วยรถไถขนาดใหญ่ เก็บข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าว ใช้สารเคมีเพื่อปราบศัตรูข้าว การซอแรงจึงหายไป แต่จะใช้เงินจ้างคนดำนา จ้างคนเก็บข้าวแทน ความสัมพันธ์ที่ขึ้นชื่อว่าพี่น้องต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็ลดน้องลง เราจึงใช้แปลงทดลอง ห้องเรียนนาข้าวเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่คนที่เป็นญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านที่ต้องการอนุรักษ์วิถีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายนี้เอาไว้คู่กับชุมชนของเรา ร่วมกันซอแรงดำนาและเก็บข้าวร่วมกัน เด็กๆ เยาวชนก็เข้ามาเรียนรู้เป็นระยะ เนื่องจากไม่สามารถเข้ามาทำร่วมกันกับผู้ใหญ่ได้ทั้งกระบวนการ กิจกรรมดำนาจึงได้ทำกระบวนการกัน 4 วัน มีผู้เข้าร่วม 10 คน และมีเด็กเยาวชนเข้ามาเรียนรู้ เป็นระยะ
|
60 | 10 |
14. ดำนา (ห้องเรียน นาข้าว) |
||
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 เวลา 08:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเราได้มาฟื้นวิถีการซอแรงที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้เราลองคำนวนค่าใช้จ่ายและเวลาที่เสียไป การซอแรงมีความคุ้มค่ากว่า เพียงแค่เราร่วมกันลงแรง จะเหนื่อยมากกว่าการจ้างแรงงาน สมาชิกเห็นความสำคัญและวางแผนถึงการทำนาฤดูใหม่ที่จะต้องมีการชักชวนสมาชิกเข้ามาเพิ่ม ค่าตอบแทนที่เขาได้กลับไปคือมิตรภาพ และน้ำใจที่เราต่างต้องมีให้แก่กัน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเรียนรู้การทำนาอินทรีย์ร่วมกัน และฟื้นวิถีการทำนาซอแรง กิจกรรมที่ทำจริงทางห้องเรียนนาข้าวจัดการเรียนรู้นี้ขึ้นมาเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาของคนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งทำนากันตั้งแต่สมัยทวด ดังนั้นวิถีและภูมิปัญญาเดิมจะถูกนำกลับมาใช้ร่วมกันในห้องเรียนนาข้าว คือ การซอแรง ก็คือการบอกกล่าวขอแรงบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย ให้มาช่วยทำงานนั่นเอง งานที่จะลงแขกกันนั้นอาจจะเป็นงานส่วนรวมหรืองานส่วนตัวก็ได้ สำหรับงานส่วนตัวนั้นส่วนมากมักจะเป็นงานใหญ่สุดกำลังคนในครอบครัวจะทำได้ หรืออาจจะเป็นงานหนักแต่จำเป็นต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียว จึงต้องบอกกล่าวให้ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือเพื่อให้งานเสร็จสิ้นไปงานที่มักลงแขก เช่น การลงแขกทำนา ซึ่งมีการลงแขกดำนา ลงแขกเกี่ยวข้าว ลงแขกตีข้าว (นวดข้าว) ถือเป็นการพึ่งพาอาศัยกันของเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง แต่ปัจจุบัน การซอแรงได้หายไป เป็นเพราะมีการใช้เครื่องทุ่นแรงเป็นหลักเช่น การไถนาด้วยรถไถขนาดใหญ่ เก็บข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าว ใช้สารเคมีเพื่อปราบศัตรูข้าว การซอแรงจึงหายไป แต่จะใช้เงินจ้างคนดำนา จ้างคนเก็บข้าวแทน ความสัมพันธ์ที่ขึ้นชื่อว่าพี่น้องต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็ลดน้องลง เราจึงใช้แปลงทดลอง ห้องเรียนนาข้าวเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่คนที่เป็นญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านที่ต้องการอนุรักษ์วิถีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายนี้เอาไว้คู่กับชุมชนของเรา ร่วมกันซอแรงดำนาและเก็บข้าวร่วมกัน เด็กๆ เยาวชนก็เข้ามาเรียนรู้เป็นระยะ เนื่องจากไม่สามารถเข้ามาทำร่วมกันกับผู้ใหญ่ได้ทั้งกระบวนการ กิจกรรมดำนาจึงได้ทำกระบวนการกัน 4 วัน มีผู้เข้าร่วม 10 คน และมีเด็กเยาวชนเข้ามาเรียนรู้ เป็นระยะ
|
60 | 10 |
15. ดำนา (ห้องเรียน นาข้าว) |
||
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 เวลา 07:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตคนบ้านป่าชิง และสืบทอดวิถีที่เรียบง่าย ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเราได้มาฟื้นวิถีการซอแรงที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้เราลองคำนวนค่าใช้จ่ายและเวลาที่เสียไป การซอแรงมีความคุ้มค่ากว่า เพียงแค่เราร่วมกันลงแรง จะเหนื่อยมากกว่าการจ้างแรงงาน สมาชิกเห็นความสำคัญและวางแผนถึงการทำนาฤดูใหม่ที่จะต้องมีการชักชวนสมาชิกเข้ามาเพิ่ม ค่าตอบแทนที่เขาได้กลับไปคือมิตรภาพ และน้ำใจที่เราต่างต้องมีให้แก่กัน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเสริมทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชน กิจกรรมที่ทำจริงทางห้องเรียนนาข้าวจัดการเรียนรู้นี้ขึ้นมาเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาของคนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งทำนากันตั้งแต่สมัยทวด ดังนั้นวิถีและภูมิปัญญาเดิมจะถูกนำกลับมาใช้ร่วมกันในห้องเรียนนาข้าว คือ การซอแรง ก็คือการบอกกล่าวขอแรงบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย ให้มาช่วยทำงานนั่นเอง งานที่จะลงแขกกันนั้นอาจจะเป็นงานส่วนรวมหรืองานส่วนตัวก็ได้ สำหรับงานส่วนตัวนั้นส่วนมากมักจะเป็นงานใหญ่สุดกำลังคนในครอบครัวจะทำได้ หรืออาจจะเป็นงานหนักแต่จำเป็นต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียว จึงต้องบอกกล่าวให้ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือเพื่อให้งานเสร็จสิ้นไปงานที่มักลงแขก เช่น การลงแขกทำนา ซึ่งมีการลงแขกดำนา ลงแขกเกี่ยวข้าว ลงแขกตีข้าว (นวดข้าว) ถือเป็นการพึ่งพาอาศัยกันของเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง แต่ปัจจุบัน การซอแรงได้หายไป เป็นเพราะมีการใช้เครื่องทุ่นแรงเป็นหลักเช่น การไถนาด้วยรถไถขนาดใหญ่ เก็บข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าว ใช้สารเคมีเพื่อปราบศัตรูข้าว การซอแรงจึงหายไป แต่จะใช้เงินจ้างคนดำนา จ้างคนเก็บข้าวแทน ความสัมพันธ์ที่ขึ้นชื่อว่าพี่น้องต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็ลดน้องลง เราจึงใช้แปลงทดลอง ห้องเรียนนาข้าวเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่คนที่เป็นญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านที่ต้องการอนุรักษ์วิถีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายนี้เอาไว้คู่กับชุมชนของเรา ร่วมกันซอแรงดำนาและเก็บข้าวร่วมกัน เด็กๆ เยาวชนก็เข้ามาเรียนรู้เป็นระยะ เนื่องจากไม่สามารถเข้ามาทำร่วมกันกับผู้ใหญ่ได้ทั้งกระบวนการ กิจกรรมดำนาจึงได้ทำกระบวนการกัน 4 วัน มีผู้เข้าร่วม 10 คน และมีเด็กเยาวชนเข้ามาเรียนรู้ เป็นระยะ
|
60 | 13 |
16. ดำนา (นาข้าว ป่าชิง) |
||
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา 07:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต ของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเราได้มาฟื้นวิถีการซอแรงที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้เราลองคำนวนค่าใช้จ่ายและเวลาที่เสียไป การซอแรงมีความคุ้มค่ากว่า เพียงแค่เราร่วมกันลงแรง จะเหนื่อยมากกว่าการจ้างแรงงาน สมาชิกเห็นความสำคัญและวางแผนถึงการทำนาฤดูใหม่ที่จะต้องมีการชักชวนสมาชิกเข้ามาเพิ่ม ค่าตอบแทนที่เขาได้กลับไปคือมิตรภาพ และน้ำใจที่เราต่างต้องมีให้แก่กัน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเพื่อเรียนรู้การทำนาอินทรีย์ร่วมกัน และฟื้นฟูปรับพื้นที่นา ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป กิจกรรมที่ทำจริงทางห้องเรียนนาข้าวจัดการเรียนรู้นี้ขึ้นมาเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาของคนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งทำนากันตั้งแต่สมัยทวด ดังนั้นวิถีและภูมิปัญญาเดิมจะถูกนำกลับมาใช้ร่วมกันในห้องเรียนนาข้าว คือ การซอแรง ก็คือการบอกกล่าวขอแรงบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย ให้มาช่วยทำงานนั่นเอง งานที่จะลงแขกกันนั้นอาจจะเป็นงานส่วนรวมหรืองานส่วนตัวก็ได้ สำหรับงานส่วนตัวนั้นส่วนมากมักจะเป็นงานใหญ่สุดกำลังคนในครอบครัวจะทำได้ หรืออาจจะเป็นงานหนักแต่จำเป็นต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียว จึงต้องบอกกล่าวให้ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือเพื่อให้งานเสร็จสิ้นไปงานที่มักลงแขก เช่น การลงแขกทำนา ซึ่งมีการลงแขกดำนา ลงแขกเกี่ยวข้าว ลงแขกตีข้าว (นวดข้าว) ถือเป็นการพึ่งพาอาศัยกันของเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง แต่ปัจจุบัน การซอแรงได้หายไป เป็นเพราะมีการใช้เครื่องทุ่นแรงเป็นหลักเช่น การไถนาด้วยรถไถขนาดใหญ่ เก็บข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าว ใช้สารเคมีเพื่อปราบศัตรูข้าว การซอแรงจึงหายไป แต่จะใช้เงินจ้างคนดำนา จ้างคนเก็บข้าวแทน ความสัมพันธ์ที่ขึ้นชื่อว่าพี่น้องต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็ลดน้องลง เราจึงใช้แปลงทดลอง ห้องเรียนนาข้าวเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่คนที่เป็นญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านที่ต้องการอนุรักษ์วิถีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายนี้เอาไว้คู่กับชุมชนของเรา ร่วมกันซอแรงดำนาและเก็บข้าวร่วมกัน เด็กๆ เยาวชนก็เข้ามาเรียนรู้เป็นระยะ เนื่องจากไม่สามารถเข้ามาทำร่วมกันกับผู้ใหญ่ได้ทั้งกระบวนการ กิจกรรมดำนาจึงได้ทำกระบวนการกัน 4 วัน มีผู้เข้าร่วม 10 คน และมีเด็กเยาวชนเข้ามาเรียนรู้ เป็นระยะ
|
60 | 10 |
17. ทำกระทง ลองกระทง |
||
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2556 เวลา 14.00-20.00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้วัฒนธรรมการลอยกระทงที่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนต้องการให้เด็กร่วมกันทำกระทงเพื่อช่วยลดขยะ รร่วมกันสืบสานวัฒนธรรมของไทยที่มีมาอย่างช้านาน ให้เด็กๆได้เรียนรู้และเท่าทันปัจจุบัน กิจกรรมที่ทำจริงวันลอยกระทง เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวไทย ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา ผู้คนจะพากันทำ "กระทง" จากวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ตกแต่งเป็นรูปคล้ายดอกบัวบาน ปักธูปเทียน และนิยมตัดเล็บ เส้นผม หรือใส่เหรียญ ลงไปในกระทง แล้วนำไปลอยในสายน้ำ เชื่อว่าเป็นการลอยเคราะห์ไป นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการลอยกระทง เป็นการบูชาและขอขมาพระแม่คงคาด แต่ในปัจจุบัน มีการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นมากอย่างยิ่งในวันลอยกระทง เพราะเกิดความเชื่อใหม่ว่าหากไปลอยกระทงกับคนที่รักแล้วขอพร จะได้ดั่งใจหวัง จึงก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศได้ง่าย และเป็นวันที่เด็กส่วนใหญ่เสียตัวให้กับคนที่รัก ในกิจกรรมวันนี้ออกแบบให้เด็กมาทำกระทงร่วมกัน ออกแบบกระทงตามที่ตัวเองชอบและพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องความสำคัญของการไปลอยกระทงกับคนที่รัก เด็กๆหายคนมีความเห็นว่า เราน่าจะมีกิจกรรมทำกระทงร่วมกันแบบนี้ทุกๆปี
|
60 | 7 |
18. ตกปลา ในนาข้าว |
||
วันที่ 29 ธันวาคม 2556 เวลา 11:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตคนบ้านป่าชิง และสืบทอดวิถีที่เรียบง่าย ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงกิจกรรมนี้ทำให้เด็กเรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิต การเอาตัวรอดในชีวิต เพราะคนแต่ก่อนก็สอนให้ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเด็กๆ ได้เรียนรู้การตกปลาในนาข้าว เรียนรู้เทคนิคการตกปลา และเสวนาเรื่องการตกปลาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน กิจกรรมที่ทำจริงตามวิถีชีวิตการหากิน ของคนแต่ก่อนมาจนถึงปัจจุบัน ตามพื้นที่ลุ่มน้ำ นาข้าวแล้วนั้นยังคงมีวิธีการจับปลาในนาข้าวที่ยังคงยืนต้นเขียวขจีแล้ว คำว่า ในน้ำมีปลาในนามีข้าว เห็นแท้ว่าคงจะจริงตามสำนวนนี้ เพราะที่ทุ่งนาป่าชิงในช่วงหลังจากฤดูฝนแล้วนั้น ปลาหมอขนาดตัวพอแกง มีมากเหลือเกินพวกเราและกลุ่มเด็กเลยคิดกิจกรรม ตกปลาขึ้นมา เพราะข้างๆทางของบ้านป่าชิงเป็นสายน้ำและนาข้าวที่อุดมสมบูรณ์มาก ได้มีชาวบ้านออกมาตกปลากัน เด็กๆเลยคิดสนุกสนาน และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์หลังจากที่เป็นวันว่างในช่วงสุดสัปดาห์ พวกเขาคิดว่าดีกว่าไปเล่นเกมส์และไปยุ่งอยู่กับสิ่ง สำหรับกิจกรรมนี้พวกเด็กๆได้คิดขึ้นมาเองและนำมาเสนอ เราจึงเห็นควรที่จัดกิจกรรมนี้ให้ เลยชวนกันไปตัดไม้ไผ่นำมาเหลา ทำคันเบ็ดให้ครบทุกคน ส่วนตาเบ็ดและสายเอ็นก็ไปซื้อมา หลังจากทำเสร็จเรียบร้อย แล้วเหยื่อของปลาก็ใช้ไข่มดแดงซึ่งแยงเอาตามต้นไม้ข้างๆบ้านได้พอควร ก็เอาน้ำยางพารามาคลุกเคล้าให้เข้ากันแต่อย่าให้แข็งเกินปลาจะไม่กิน หลังจากเราได้เหยื่อมาแล้ว ก็พาเด็กๆไปตกปลากัน วันนั้นเราได้ปลามาพอแกงซึ่งเป็นปลาหมอซะส่วนใหญ่ ปลากินดีมากวันนั้น ชนิดที่ว่า หย่อนกินๆเด็กๆก็เพลิดเพลินมากจนไม่อยากที่จะกลับบ้านเลย แต่เวลานั้นเย็นมากแล้ว เลยกลับบ้านพาปลาที่ได้หลบไปกิน การหากินกับการดำเนินชีวิตตามวิถีพอเพียงนี้ได้สอนอะไรๆให้กับเด็กให้สามารถรู้จักเอาตัวรอดได้ภายใต้ความปลี่ยนแปลงของสังคม
|
60 | 12 |
19. ตกปลา ในนาข้าว |
||
วันที่ 4 มกราคม 2557 เวลา 10:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตคนบ้านป่าชิง และสืบทอดวิถีที่เรียบง่าย ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเด็กได้เรียนรู้วิถีชีวิต คนกับความสัมพันธ์ของนาข้าวจึงเป็นบทเรียนที่เรียนรู้จากข้างนอกไม่ได้เลย กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเด็กและเยาวชน 8 คน ทีมทำงาน 2 คน กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เด็กๆกลุ่มหลบมาแลป่าชิงบ้านเรา ให้ความสนใจกับเรื่องความมั่นคงทางอาหารของบ้านเรา เพราะมันคือสิ่งที่เราต้องกินอยู่ทุกวันนี้ พวกเราได้ออกเรียนรู้การทำนาอินทรีย์ เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากนา และก็เกิดความคิดอยากเรียนรู้ การตกเบ็ด ที่เป็นเสมือนวัฒนธรรมการทำนาของคนบ้านเรา เมื่อดำนาแล้วรอจนข้าวแตกกอ หรือหลังดำนาประมาณ 1 เดือน ปลาที่ฝังโคลนก็ได้ขยายพันธุ์และอาศัยต้นข้าวเป็นที่หลบร้อน เป็นแหลงอาหาร ทำให้ช่วงหน้านา มีปลาจำนวนมากส่วนใหญ่จะเป็นปลาหมอและปลาช่อน
|
60 | 9 |
20. เด็กทำดอกไม้ไปเวียนเทียน และทำว่าว |
||
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อให้เด็กมีทักษะร่วมทำกิจกรรมร่วมกัน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเด็กๆมีความตั้งใจที่จะทำดอกไม้ ให้ตัวเองและคนในครอบครัว และได้มองเห็นถึงการช่วยเหลือกัน น้องๆคนที่พับดอกไม้จากใบเตยเป็นก็มาสอนเพื่อที่ทำไม่เป็น กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเป้าประสงค์ของกิจกรรมนี้คือ เพื่อให้เด็กๆได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องพุทธศาสนา และเนื่องด้วยเป็นวัน แห่งความรัก แต่อยากให้เด็กๆเน้นเข้าไปศึกษาเรียนรู้ประวัติความเป็นมา ความสำคัญของวันมาฆบูชา กิจกรรมที่ทำจริงวันมาฆบูชา กลุ่ม เด็กๆจากป่าชิง มาหาพี่ๆที่บ้านพี่จอยเพื่อที่จะทำดอกไปเวียนเทียนกันที่วัดเชิงคีรี(วัดป่าชิง)ในช่วงหัวค่ำ พวกเราเดินกันไปตามซอยต่างๆในหมู่บ้านเพื่อที่จะไปขอดอกไม้จากละแวกบ้าน แต่ช่วงนั้นฝนไม่ได้ตกลงมาเลยหลายเดือนแล้วทำให้ดอกไม้หายากมาก จึงนึกขึ้นมาได้ว่าใบเตยหอมข้างบ้านสามารถนำมาพับเป็นดอกกุหลาบได้ พวกเราจึงไปขอใบเตยหอมของคนข้างๆบ้านมาทำ เราช่วยกันพับร่วมเวลาหลายชั่วโมงจนเกือบค่ำ เราได้ดอกไม้ช่องามๆหลายช่อ ถึงแม้ว่าไม่ใช่ดอกไม้จริงก็ตามแต่เราช่วยกันทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ นั้นถือได้ว่าได้บุญแล้ว หลังจากนั้นเด็กๆก็พาดอกไม้ของแต่ละคนกลับบ้านเพื่อไปวัดเวียนเทียน กับพ่อแม่ พี่ๆฝึกให้น้องทำดอกไม้แต่ไม่ได้พาเด็กน้องๆไปเวียนเทียน เราให้เขาไปกับครอบครัวจะได้มีความอบอุ่นขึ้น ความรักจากคนในครอบครัวทำให้เข้ารู้สึกได้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโดยมีพ่อแม่คอยให้ความรักอยู่ข้างๆ
|
60 | 9 |
21. ทำว่าว |
||
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อให้เด็กออกแบบกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ได้ด้วยตัวเอง ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเด็กๆ สามารถออกแบบกิจกรรมของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองสนุกสนานและเรียนรู้ไปพร้อมๆกันได้ ขณะเดียวกันก็ไม่เป็นภาระให้พี่ๆ ผู้ปกครองไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน
กิจกรรมที่ทำจริง“วันนี้เรามาทำว่าวกัน...แต่ก่อนไปทำว่าว พี่จอยพาโหมเราไปเล่นน้ำก่อนนะ “ ความต้องการของบ่าวดิว ที่เข้ามาเสนอกิจกรรมและออกแบบสิ่งที่เขาอยากทำให้ฉันฟัง วางกำหนดการณ์ของกิจกรรมวันนี้ และกำหนดเวลาอย่างชัดเจน 10.00 เราเจอกันและวางแผนการทำงานในวันนี้ ออกแบบการลงพื้นที่ พี่จะต้องดูแลน้อง ส่วนน้องก็ต้องเชื่อฟังพี่ 12.00-12-30 เราจะไปกินข้าวเที่ยงกัน(ที่ร้านป้าน้อง) 12.30-14.00 ไปเล่นน้ำคลองเฉียงพร้า 14.30-16.30 ทำว่าว ที่บ้านพี่จอย 16.30 เรากลับบ้านไปทำงานบ้านกัน เด็กๆ เริ่มที่จะออกแบบกิจกรรม ตามความเหมาะสมและความเป็นจริงได้เอง โดยมีพี่ๆ คอนดูอยู่ห่างๆ เท่านั้น กิจกรรมที่น้องๆ ออกแบบอย่างเป็นระบบ โดยไม่ต้องทีคนมาคอยดูแลเขาหลายคน มีแค่ พี่จอยกะพี่วัจน์สองคน ก็เอาอยู่
|
60 | 7 |
22. เก็บข้าว |
||
วันที่ 12 มีนาคม 2557 เวลา 08:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของสายน้ำกับวิถีชีวิตของคนป่าชิง ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและวางแผนการทำนาในปีหน้า น้ารัตน์ เฑียรรัตน์ แก้วนะ อาสาจะสนับสนุนพื้นที่ทำนา”ห้องเรียน นาข้าว ”เพิ่มอีก 2 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชน และคนต่างพื้นที่เข้ามาเรียนรู้ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเสริมทักษะชีวิตของเด็ก และเยาวชน กิจกรรมที่ทำจริงการเก็บข้าวก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ต่อเนื่องมาจาก กิจกรรมดำนา ซึ่งคนที่เข้ามาร่วมกระบวนการก็เป็นคนที่อาสาตัวเองมาร่วมอนุรักษ์วิถีการซอแรง ในกิจกรรมก็จะมีการพูดคุยเรื่องภูมิปัญญา และพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการทำนา ตั้งแต่การแรกดำนา แรกเก็บข้าว ทำขวัญข้าว การไหว้เจ้าที่ การทำบุญเดือนห้า และมีการเล่าสู่กันฟังถึงกิจกรรมที่คนสมัยรุ่นพ่อ แม่ ทำกันมา เพราะกิจกรรมนี้มีคน 3 รุ่นเข้ามาเรียนรู้กระบวนการ ทั้งรุ่นแม่ รุ่นลูก และรุ่นหลาน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและวางแผนการทำนาในปีหน้า น้ารัตน์ เฑียรรัตน์ แก้วนะ อาสาจะสนับสนุนพื้นที่ทำนา”ห้องเรียน นาข้าว ”เพิ่มอีก 2 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชน และคนต่างพื้นที่เข้ามาเรียนรู้
|
60 | 9 |
23. เก็บข้าว (ห้องเรียน นาข้าว) |
||
วันที่ 13 มีนาคม 2557 เวลา 08:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต ของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและวางแผนการทำนาในปีหน้า น้ารัตน์ เฑียรรัตน์ แก้วนะ อาสาจะสนับสนุนพื้นที่ทำนา”ห้องเรียน นาข้าว ”เพิ่มอีก 2 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชน และคนต่างพื้นที่เข้ามาเรียนรู้ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเสริมทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชน กิจกรรมที่ทำจริงการเก็บข้าวก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ต่อเนื่องมาจาก กิจกรรมดำนา ซึ่งคนที่เข้ามาร่วมกระบวนการก็เป็นคนที่อาสาตัวเองมาร่วมอนุรักษ์วิถีการซอแรง ในกิจกรรมก็จะมีการพูดคุยเรื่องภูมิปัญญา และพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการทำนา ตั้งแต่การแรกดำนา แรกเก็บข้าว ทำขวัญข้าว การไหว้เจ้าที่ การทำบุญเดือนห้า และมีการเล่าสู่กันฟังถึงกิจกรรมที่คนสมัยรุ่นพ่อ แม่ ทำกันมา เพราะกิจกรรมนี้มีคน 3 รุ่นเข้ามาเรียนรู้กระบวนการ ทั้งรุ่นแม่ รุ่นลูก และรุ่นหลาน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและวางแผนการทำนาในปีหน้า น้ารัตน์ เฑียรรัตน์ แก้วนะ อาสาจะสนับสนุนพื้นที่ทำนา”ห้องเรียน นาข้าว ”เพิ่มอีก 2 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชน และคนต่างพื้นที่เข้ามาเรียนรู้
|
60 | 9 |
24. เก็บข้าว (ห้องเรียน นาข้าว) |
||
วันที่ 14 มีนาคม 2557 เวลา 08:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตคนบ้านป่าชิง และสืบทอดวิถีที่เรียบง่าย ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและวางแผนการทำนาในปีหน้า น้ารัตน์ เฑียรรัตน์ แก้วนะ อาสาจะสนับสนุนพื้นที่ทำนา”ห้องเรียน นาข้าว ”เพิ่มอีก 2 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชน และคนต่างพื้นที่เข้ามาเรียนรู้ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเสริมทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชน กิจกรรมที่ทำจริงการเก็บข้าวก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ต่อเนื่องมาจาก กิจกรรมดำนา ซึ่งคนที่เข้ามาร่วมกระบวนการก็เป็นคนที่อาสาตัวเองมาร่วมอนุรักษ์วิถีการซอแรง ในกิจกรรมก็จะมีการพูดคุยเรื่องภูมิปัญญา และพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการทำนา ตั้งแต่การแรกดำนา แรกเก็บข้าว ทำขวัญข้าว การไหว้เจ้าที่ การทำบุญเดือนห้า และมีการเล่าสู่กันฟังถึงกิจกรรมที่คนสมัยรุ่นพ่อ แม่ ทำกันมา เพราะกิจกรรมนี้มีคน 3 รุ่นเข้ามาเรียนรู้กระบวนการ ทั้งรุ่นแม่ รุ่นลูก และรุ่นหลาน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและวางแผนการทำนาในปีหน้า น้ารัตน์ เฑียรรัตน์ แก้วนะ อาสาจะสนับสนุนพื้นที่ทำนา”ห้องเรียน นาข้าว ”เพิ่มอีก 2 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชน และคนต่างพื้นที่เข้ามาเรียนรู้
|
60 | 9 |
25. ทำรายงานปิดงบประมาณงวดที่ 2 |
||
วันที่ 28 มีนาคม 2557 เวลา 08:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อปิดงบประมาณ งวดที่ 2 ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงทำรายงานการปฏิบัติกิจกรรมทั้ง2 งวดเสร็จเรียบร้อย กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน พี่เลี้ยงโครงการ 1คน กิจกรรมที่ทำจริงทำรายงานงบประมาณงวดที่ 2 ร่วมกับพี่เลี้ยง สจรส. และติดตามผลโครงการ
|
2 | 2 |
26. เรียนรู้ทุ่งนา |
||
วันที่ 30 มีนาคม 2557 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต ของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเด็กๆมีกิจกรรมที่เสริมทักษะ ด้านศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น และเห็นคุณค่าของทรัพยากรในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น พร้อมที่จะเรียนรู้ในกิจกรรมถัดไป เกิดความสนุกสนาน มีการแบ่งปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนต้องการให้เด็กๆ มาเรียนรู้ประยุกต์กับการเล่นที่สอดคล้องกับทรัพยากรในท้องถิ่น โดยการเล่นที่พัฒนาทักษะพัฒนาการคิด และสร้างจินตนาการให้เด้กๆ ได้เรียนรู้ของดีในท้องถิ่นเราและปรับตัวให้เข้ากับทรัพยากรในพื้นที่ กิจกรรมที่ทำจริงเด็กออกเรียนรู้วถีชีวิต คนบ้านเรากับนาข้าวมีความสำคัญอย่างไร เป็นคำถามที่เด็กๆวางไว้ก่อนออกลงพื้นที่ -ทำปี่ซังเข้า เด็กๆได้หัดทำและหัดเป่าปี่ซังข้าวโดยมีลุงรูญเป็นคนช่วยสอยการทำปี่ ปรับเสียงปี่ให้มีความสูงต่ำตามขนาดความใหญ่ ความสั้นยาวของต้นซัง เพื่อให้ได้เสียงที่หลากหลาย ทั้งเสียงต่ำเสียงสูง -มีการ สอนวาดรูปภาพเหมือนจากลุงรูญ เด็กๆรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เป็นแบบให้ลุงรูญได้วาดรูปและเรียนรู้ทักษะการวาดรูปต่างๆจากลุงรูญ -ลงหาดินเหนียวในคลองเสือตาย แล้วปั้นดินเหนียวตามจินตนาการของแต่ละคน เด็กๆช่วยกันหาดินเหนียวมาตากแดด สักพักก็เอามานวดและแบ่งกันปั้น ทั้งสามกิจกรรมในวันนี้เด็กๆ สะท้อนให้เห็นว่า เราอยู่คู่กับธรรมชาติและทรัพยากรรอบตัวได้หากเราเปิดโอกาศให้ตัวเองเรียนรู้
|
60 | 7 |
27. พี่เลี้ยงติดตามโครงการ |
||
วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 08:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อติดตาม และประเมินโครงการ ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงติดตามผลโครงการ รายงานโครงการเพื่อปิดโครงการ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเพื่อติดตามและประเมินผลโครงการ กิจกรรมที่ทำจริงประเมินผลโครงการ
|
2 | 2 |
28. จัดทำรายงานสรุปปิดโครงการ |
||
วันที่ 3 มิถุนายน 2557 เวลา 09:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ติดตามประเมินโครงการ ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงทำรายงานปิดโครงการ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนเพื่อติดตามโครงการและปิดโครงการ กิจกรรมที่ทำจริงทำรายงานปิดโครงการ
|
2 | 2 |
29. ส่งเอกสารรายงานสรุปปิดโครงการ |
||
วันที่ 13 มิถุนายน 2557 เวลา 11:30 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อตรวจเอกสารรายงานสรุปปิดโครงการพร้อมส่ง ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเอกสารปิดโครงการมีความครบถ้วนสมบูรณ์ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนส่งเอกสารรายงานปิดโครงการ กิจกรรมที่ทำจริงตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารสรุปปิดโครงการ พร้อมส่ง
|
2 | 5 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการและปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินโครงการ
ประเมินความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการ
การดำเนินงานเมื่อเทียบกับการดำเนินงานทั้งโครงการ | ทั้งหมด | ทำแล้ว | 10% | 20% | 30% | 40% | 50% | 60% | 70% | 80% | 90% | 100% |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
การทำกิจกรรม | 70 | 71 | ||||||||||
การใช้จ่ายงบประมาณ | 188,400.00 | 96,292.00 | ✔ | |||||||||
คุณภาพกิจกรรม | 284 | 254 | ✔ |
ปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินงานโครงการ (สรุปเป็นข้อ ๆ)
ประเด็นปัญหา/อุปสรรค | สาเหตุเพราะ | แนวทางการแก้ไขของผู้รับทุน |
---|---|---|
|
|
|
แผนงาน/กิจกรรม ที่จะดำเนินการในงวดต่อไป
(................................)
นางสาวจินตหรา บัวหนู
ผู้รับผิดชอบโครงการ