แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์


“ อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย ”

หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

หัวหน้าโครงการ
นายรอซาด สุวาหลำ

ชื่อโครงการ อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย

ที่อยู่ หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 57-01457 เลขที่ข้อตกลง 57-00-0860

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2557 ถึง 30 มิถุนายน 2558


กิตติกรรมประกาศ

"อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย



บทคัดย่อ

โครงการ " อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย " ดำเนินการในพื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 57-01457 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มิถุนายน 2557 - 30 มิถุนายน 2558 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 174,600.00 บาท จาก เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 112 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

 

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการตนเองด้วยกระบวนการสภาชุมชนบ้านบากันเคย
  2. เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรชายฝั่งประมงพื้นอย่างยั่งยืน
  3. เพื่อการบริหารจัดการและการติดตามประเมินผลโครงการ

กิจกรรม/การดำเนินงาน

    กลุ่มเป้าหมาย

    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้

    ผลที่คาดว่าจะได้รับ

     


    ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

    วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
    ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
    กิจกรรมของโครงการ
    ผลผลิต*
    ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

    1. ปฐมนิเทศโครงการ

    วันที่ 15 มิถุนายน 2557 เวลา 08:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ขออนุญาตผู้บังคับบัญชา
    2. เดินทางมาเข้าร่วมประชุมที่ มอ.หาดใหญ่
    3. เข้าร่วมอบรมปฐมนิเทศ
    4. คีย์ข้อมูล

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. ได้คู่มือการใช้งานเว็บไซต์
    2. วิธีการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการ

     

    2 2

    2. ประชุมคณะทำงานโครงการ ครั้งที่ 1 เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจโครงการและวางแผนการจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์และปลูกป่าชายเลน

    วันที่ 2 สิงหาคม 2557 เวลา 13:00-16.00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1) ทำหนังสือแต่งตั้งคณะทำงาน 2) ทำหนังสือเชิญประชุม 3) เจ้าของโครงการชี้แจงทีมาของโครงการ ว่าโครงการนี้ทำเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรของชุมชน เช่นไม้โกงกาง ไม้ชายเลน เพื่อชุมชนที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง และความสำคัญของโครงการเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ 4) หารือและวางแผนการจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์ุสัตว์น้ำและปลูกป่าชายเลน โดยนางมารียะ นวลจันทร์ ปราช์ญชาวประมงพื้นบ้านของชุมชน ว่าควรจะจัดวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 น้ำเริ่มเดิน ต้องปล่อยพันธ์ปลา ช่วงเช้า เพราะขึ้นขึ้นเต็มที และปลูกพันธ์ไม้ช่วงบ่าย เพราะน้ำลงเต็มที่สามารถเดินลงไปปลูกต้นไม้ได้สะดวก ช่วงเช้า เวลา 10.00 – 11.30  น. บ่าย เวลา 13.30 – 15.30 ส่วน นายกิตติ  หมัดตานี  ผู้นำ ท้องถิ่น แจ้งว่า พันธ์ปลา กุ้ง และพันธ์ไม้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการของพันธ์จากหน่วยงานประมงจังหวัดสตูลและสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 35 สตูลเป็นที่เรียบร้อย พันธ์ุสัตว์น้ำจำนวน  1  ล้านตัว  พันธ์ุโกงกาง จำนวน  1,000  ต้น ส่วนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 7 สิงหาคม 2557  นั้น ขอให้ทางคณะทำงานเป็นผู้ติดต่อประชาสัมพันธ์ให้คนในพื้นที่มาช่วยกันปลูกและปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ

    5) มีน้ำดื่มและอาหารว่างประกอบการประชุม 6) พี่เลี้ยงแนะนำตัวและชีแจงวัตถุประสงค์ของโครงการ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. ชี้แจงทำความเข้าใจที่มาของโครงการ
    2. คณะทำงานเข้าใจโครงการ
    3. คณะทำงานได้วางแผนจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายเลนกัน ซึ่งกำหนดจัดในวันที่  7  สิงหาคม 2557
    4. คณะทำงานแบ่งหน้าที่การทำงานร่วมกัน ทั้งหมด  4  หน้าที่ อะไรบ้าง  1) การประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม  2) เตรียมอาหาร ขนม น้ำ สำหรับผู้เขิร่วมกิจกรรม 3) เตรียมสถานที่ และต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม  4) ติดต่อขอรับพันธ์ปลา พันธ์ไม้ และ นำมาไว้ ณ สถานที่ดำเนินการ
    5. พี่เลี้ยงให้คำแนะนำการจัดโครงการ

     

    27 24

    3. ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายแลน ครั้งที่ 1

    วันที่ 7 สิงหาคม 2557 เวลา 09:00 - 12.00 น. น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ประชุมคณะทำงานวางแผนและกำหนดหน้าที่การทำงาน
    2. ติดต่อหน่วยงานราชการและเอกชน ได้แก่  สำนักงานประมงจังหวัดสตูล ขอรับพันธ์ปลา กุ้ง จำนวน  1  และ สถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 35 สตูล ขอรับพันธ์ุไม้ จำนวน  1,000 ต้น
    3. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมของกิจกรรม โดยวิธีการ เสียงตามสายของมัสยิดบ้านบากันเคย  การเสวนาสภากาแฟ  การบอกปากต่อปาก
    4. กิจกรรมปล่อยพันธ์ุ ปลา กุ้ง  บริเวณสะพานท่าเทียบเรือบ้านกลาง  หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
    5. กิจกรรมปลูกพันธ์ุป่าชายเลน บริเวณบ้านกลาง หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. ประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมและเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
    2. มีทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพิ่มขึ้น
    3. มีการปล่อยพันธ์ุปลา กุ้ง และปลูกพันธ์ุไม้ชายเลน สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ
    4. แกนนำชุมชนและกลุ่ม องค์กรต่างๆ ในชุมชนเห็นความของการอนุรักษ์ทางทะเลและชายฝั่ง
    5. ประชาชนได้ได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อีกทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติเสริมสร้างประสบการณ์ในสถานที่จริง

     

    50 55

    4. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 2 เพื่อสรุปผลการจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายเลน และวางแผนการจัดอบรมเตรียมทีมการจัดเก็บข้อมูลจำนวนทรัพยากรในชุมน และวางแผนการตั้งจุดรับบริจากวัสดุการทำปะการังเที่ยม

    วันที่ 5 กันยายน 2557 เวลา 14.00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. สรุปกิจกรรมปล่อยพันธ์ุสัตว์่น้ำและปลูกป่าชายเลน ครั้งที่ 1 โดยการนั่งพูดคุยแสดงความคิดเห็น ผลที่ได้รับจากกิจกรรม ปัญหา และแนวทางแก้ไข

    2. วางแผนการตั้งจุดรับบริจากวัสดุทำปะการังเทียม พูดคุยถึงสถานที่รับบริจาคปะการังเทียม ขั้นตอนการทำหนังสือราชการ และการประชาสัมพันธ์

    3. วางแผนการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พูดคุยวางแผนถึงสถานที่จัดประชุม วิทยากรควรเป็นใคร ผู้เข้าร่วมประชุมมีใครบ้าง และร่วมกันกำหนดวันประชุม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. สรุปกิจกรรมปล่อยพันธ์ุสัตว์่น้ำและปลูกป่าชายเลน ครั้งที่ 1 สรุป มีการตอบรับที่ดีจากชุมชน แต่การจัดต้องเน้นช่วงน้ำตาย เพราะช่วงนั้นประชาชนส่วนว่างงานเพราะไม่ต้องออกทะเล

    2. วางแผนการตั้งจุดรับบริจากวัสดุทำปะการังเทียม สรุปว่า 1) จุดรับบริจากปะการังเทียมให้ตั้ง ณ สำนักงาน อบต. ตันหยงโป 2) ให้ทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการ ร้านค้า เพื่อขอรับบริจากวัสดุต่างที่สามารถทำปะการังเทียมได้ 3)ประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภายในหมู่บ้าน

    3. วางแผนการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สรุป  1) ให้จัดอบรม ณ มัสยิดบ้านบากันเคย เพื่อความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ  2) ให้เชิญวิทยากรจากประมงจังหวัดสตูล และสถานีป่าชายเลนสตูล เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาของชุมชนได้ เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับการแก้ไขปัญหาของชุมชนบ้างแล้ว 3) กลุ่มเป้าหมายต้องหลากหลาย 4) วันที่อบรมให้เลื่อนไปจัด วันที่ 19 กันยายน 2557 เพราะเป็นช่วงน้ำตาย ประชาชนส่วนใหญ่ว่างจากการทำงาน (ประมงพื้นบ้าน)

     

    27 23

    5. ตั้งจุดรับบริจากวัสดุการวางปะการังเทียม จำนวน 6 เดือน เพื่อเป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำ เพิ่มจำนวนสัตว์น้ำ

    วันที่ 10 กันยายน 2557 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ทำหนังสือรับบริจากวัสดุต่างๆที่สามารถใช้ทำเป็นปะการังเทียมได้ ถึงหน่วยงานต่างๆทั้งหน่วยงานราชการและเอกชนและร้านค้าต่างๆในจังหวัดสตูล
    2. ประชาสัมพันธ์การรับบริจากวัสดุการทำปะการังเทียม
    3. รณรงค์ประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ได้ประสานงานหน่วยงานตั้งจุดรับบริจากวัสดุการวางปะการังเทียม เป็นการเผยแพร่และประชาสมัพันธ์โครงการนำไปสู่การสร้างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย 

     

    15 15

    6. ทำป้ายรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ สนับสนุนโดย สสส.

    วันที่ 16 กันยายน 2557 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    จัดทำป้ายที่ร้าน และนำไปติดในกิจกรรมโครงการ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ได้ป้าย สำหรับใช้ในโครงการ

     

    2 2

    7. จัดอบรมและเตรียมทีมจัดเก็บข้อมูล เพื่อให้ทีมมีความรู้ความเข้าใจเกิดความตระหนึกและเห็นความสำคัญของการจัดเก็บข้อมูล และเป็นการเตรียมพร้อมบุคคลในการจัดเก็บข้อมูล

    วันที่ 19 กันยายน 2557 เวลา 09:00 - 15.00 น. น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้การอนุรักษ์ทรัพยากร
    2. เชิญวิทยากรจากหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 1) คุณอุเทน  บุญดำ  จากสำนักงานประมงจังหวัดสตูล ให้ความรู้เรื่อง การทำประมงพื้นบ้าน วิธีการอนุรักษ์ทรัพยาการทางทะเล เช่น ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการทำประมง การไม่จับสัตว์น้ำในฤดูว่างไข่ เป็นต้น  2) นางสาวจิติพร  ขาเดร์  และนางซาฤีนา  โซ่โดม  เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาป่าชายเสนที่ 5 สตูล เรื่องการใช้ประโยชน์จากทรัยพากรชายฝั่ง เช่น การใช้ประโยชน์จากไม้ชายเลน ประโยชน์จากใบจาก ก้านจาก และการปลูกทดแทน
    3. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ เรื่อง การอนุรักษ์ทรัยากรทางทะเล และการทำประมงชายฝั่ง จาก ประมงจังหวัดสตูล  และเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง การใช้ประโยชน์จากทรัยยากร โดยการประยุกใช้ทรัพยา

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจการอนุรักษ์ทรัพยากรของชุมชน
    2. การใช้ประโยชน์ของทรัพยากร เรื่อง การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
    3. วิธีการอนุรักษ์ทรัพยากร และฟื้นฟู การปลูกเพิ่มเติม ไม่จับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ การปล่อยพันธ์ การเพราะพันธ์สัตว์น้ำ
    4. การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น เช่น ที่รองหม้อทำจากก้านจาก ที่ครอบอาหารทำจากก้านใบจาก
    5. การหาปลาในทะเลต้องใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้อง คือ อวนตาห่าง ตามที่กฎหมายกำหนด
    6. เรือประมงต้องต่ออาญาบัตรเรือปีต่อปี

     

    50 33

    8. ถอนเงินเปิดบัญชี

    วันที่ 17 ตุลาคม 2557 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    -

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    -

     

    2 0

    9. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 3 เพื่อสรุปผลการอบรมเตรียมทีมจัดเก็บข้อมูล และวางแผนการออกแบบสำรวจการจัดเก้บข้อมูลความมั่งคงทางอาหารและของมูลทรัพยากร

    วันที่ 17 ตุลาคม 2557 เวลา 14.00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. เรียกประชุมคณะทำงาน
    2. สรุปผลการจัดกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา
    3. วางแผนการจัดกิจกรรมอบรมจัดทำแบบสอบถาม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. สรุปงานที่ ที่โครงการต้องการมี 3 กลุ่ม  คือ กลุ่มที่ 1 ข้อมูล        กลุ่มที่ 2 ฟื้นฟู      กลุ่มที่ 3 อนุรักษ์
    2. กำหนดวันอบรมทำแบบสอบถาม วันที่ 30 ตุลาคม 2557  เวลา 09.00 - 16.00  น. ณ ตาดีกา หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย
    3. การกำหนดแบบสอบถามจะออกแบบกันเองและมีวิทยากรช่วยออบแบบ 1 คน

     

    27 16

    10. ตรวจติดตามจาก สสส.

    วันที่ 19 ตุลาคม 2557 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ตรวจหลักฐานการใช้จ่ายเงิน
    2. ตรวจการบันทึกโครงการ
    3. แนะนำการคีย์ข้อมูล

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. ตรวจหลักฐานการใช้จ่ายเงิน
    2. ตรวจการบันทึกโครงการ
    3. แนะนำการคีย์ข้อมูล

     

    1 1

    11. จัดประชุมการจัดเก็บและออกแบบสำรวจการเก็บข้อมูลความั่นคงทางอาหารและทรัพยารในชุมชนที่ครอบคลุมทุกด้าน

    วันที่ 30 ตุลาคม 2557 เวลา 09.00-16.00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ประชาสัมพันธ์การเข้าร่วมกิจกรรม โดย เสียงตามสาย สภากาแฟ บอกปากต่อปาก
    2. ติดต่อประสานวิทยากร
    3. เตรียมสถานที่จัดกิจกรรม ณ ตาดีกา หมู่ที่ 3 บ้านบากันเคย
    4. เตรีมอาหาร เครื่องดื่ม และตอนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
    5. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ จัดทำแบบสอบถาม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    จากการประชุมออกแบบสอบถามความมั่นคงทางอาหารและทรัพยากรชายฝั่ง สรุปได้
    ดังนี้ 1. แบบสอบถามแบ่งเป็น 3  ส่วน ดังนี้       1) ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของบุคคล
          2) แบบสอบถามความมั่งคงทางอาหาร
    ประกอบด้วย  (1) ประเภทอาชีพประมงพื้นบ้าน  (2) ชนิดและขนาดเครื่องมือที่ทำประมง  (3) พาหนะ  (4) ผลผลิตที่ได้ (5) ระยะเวลาที่ใช้ (6) แหลงที่ทำประมง  (7) รายได้ ต่อครั้ง (8) รายจ่ายเพื่อการลงทุน
          3) ปฎิทินอาชีพ

    1. แบบสอบถามทรัพยากรชายฝั่ง จะใช้วิธีการประชุมกลุ่มย่อย

     

    50 66

    12. จัดซื้อวัสดุเพื่อจัดทำแบบสำรวจข้อมูล

    วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    จ่ายค่าจัดซื้อวัสดุ เพื่อจัดทำกิจกรรมออกแบบสำรวจข้อมูลความมั่นคงทางอาหารและทรัพยากรชายฝั่ง เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557
     

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    จากการประชุมออกแบบสอบถามความมั่นคงทางอาหารและทรัพยากรชายฝั่ง ประเด็นการทำแบบสำรวจ มีหัวข้อ ดังนี้ ควรแบ่งแบบสำรวจออกเป็น 3 ส่วน  ส่วนที่ 1  ข้อมูลทั่วไปของบุคคล ส่วนที่ 2 ข้อมูลความมั่งคงทางอาหาร  ประกอบด้วย  (1) ประเภทอาชีพประมงพื้นบ้าน  (2) ชนิดและขนาดเครื่องมือที่ทำประมง  (3) พาหนะ  (4) ผลผลิตที่ได้ (5) ระยะเวลาที่ใช้ (6) แหลงที่ทำประมง  (7) รายได้ ต่อครั้ง (8) รายจ่ายเพื่อการลงทุน ส่วนที่ 3 ปฎิทินอาชีพ  ส่วนข้อมูลด้านทรัพยากรชายฝั่งการนเก็บข้อมูลให้คณะทำงานทุกคนและแกนนำชุมชน ประมาณ 15 -20 คน มาร่วมการให้ข้อมูลเป็นการประชุมกลุ่มย่อย  แยกเป็นหัวข้อ ดังนี้ 1. ชนิดของป่าชายเลน 2. การใช้ประโยชน์จากป่าชายแลน 3. พื้นที่เสื่อมโทรม 4. แนวทางแก้ไขปัญหา

     

    1 1

    13. ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 4

    วันที่ 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ตรวจทานแบบสำรวจจัดเก็บข้อมูลและแก้ไขแบบสำรวจให้มีความบูรณ์ยิ่งขึ้น
    2. วางแผนการลงเก็บข้อมูล
    3. กำหนดวันออกสำรวจ
    4. ชี้แจงเจ้าหน้าที่ออกสำรวจ ตามแบบสอบถาม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ได้แบบสำรวจ จำนวน 100  ชุด โดยมีหัวข้อการ สำรวจ  14 หัวหข้อ  ดังนี้
    1. ชื่อ - สกุล
    2. เพศ
    3. ระดับการศึกษา
    4. อาชีพหลัก
    5. ระยะเวลาการทำอาชีพประมง
    6. ประเภทอาชีประมงพื้นบ้าน
    7. ชนิดและขนาดของเครื่องมือ
    8. ขนาดยานพาหนะและเครื่องยนต์
    9. ระยะเวลาในการทำงาน
    10. รายจ่ายเพื่อการลงทุน ต่อครั้ง
    11. ผลผลิตที่ได้
    12. รายได้รวมต่อครั้ง
    13. แหล่งที่ทำการประมง
    14. ภาวะเสี่ยงจากการทำงาน ปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วย
    • การลงพื้นที่เก็บข้อมูล ให้ลงพื้นที่ จำนวน 15 วัน ให้แยกเป็นรอบๆละ 5 วัน แบ่งพื้นที่ลงสำรวจ จำนวน 2 จุด คือ 1) บริเวณบ้านกลาง มีหัวหน้าทีม คือ นายกูสารดี  สตอหลง 2) บริเวณบ้านบากัน หัวหน้าทีม คือ นายวีระศักดิ์  มะสมัน เป็นหัวหน้าทีมม เพื่อควบคุมการสำรวจข้อมูล

     

    27 16

    14. สำรวจข้อมูล รอบที่ 1

    วันที่ 8 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 - 14.00 น. น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. การสำรวจป่าชายเลนและประมงพื้นบ้าน
    2. การเตรียมทีมจัดเก็บข้อมูล กำหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกแต่ละกลุ่ม
      2.1 แบ่งกลุ่มการสำรวจเป็น 2 กลุ่ม1) กลุ่มสำรวจทรัพยากรป่าชายเลน 2) กลุ่มสำรวจความมั่นคงทางอาหาร (ประมงพื้นบ้าน)
    3. การเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสำรวจ 3.1 หนังสือคู่มือพันธ์ไม้ป่าชายเลน 3.2 สมุด ปากกา กล้องถ่ายรูป ปากกาเมจิก เชื่อก
    4. การบันทึกข้อมูล 4.1 ข้อมูลทั่วไป 4.2 ข้อมูลพันธ์ไม้ 4.3 ข้อมูลสัตว์น้ำที่หามาได้
    5. แบ่งกลุ่มออกสำรวจ จำนวน 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จำนวน20 คน ออกสำรวจบริเวณบ้านกลาง จำนวน 62 ครัวเรือน กลุ่มที่ 2 จำนวน30 คนออกสำรวจบริเวณบากันเคยจำนวน87ครัวเรือน
    6. กลุ่มเป้าหมายที่ต้องสำรวจ

    - ครอบครัวที่ทำอาชีพประมงไม่น้อยกว่า 5 ปี - ครอบครัวที่นำทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาใช้ประโยชน์

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    เจ้าหนาที่ที่ได้รับมอบหมายออกสำรวจประชาชนที่ทำอาชีพประมงพื้นบ้าน เขตชุมชนบ้านบากันเคย จำนวน 50 คน ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างครอบถ้วน ตามแบบสำรวจ การแบ่งโซนการสำรวจตามที่ได้มอบหมาย คือ - กลุ่มที่ 1 หัวหน้าทีม คือ นางมะหรอ สุวาหลำ มีลูกทีม จำนวน 29 คน ออกสำรวจบริเวณชุมชนบากันเคย
    - กลุ่มที่ 2 หัวหน้าทีม คือ นายกูสารดั  สตอหลง มีลูกทีม จำนวน 20 คน ออกสำรวจ บริเวณบ้านกลาง

     

    50 50

    15. ประชุมคณะทำงานครั้งที่ 5

    วันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ประชุมสรุปผลการจัดเก็บข้อมูล ดังนี้
          1.1 จำแนกประเภท อาชีพ
          1.2 จำแนกขนาด     - จำนวนครัวเรือนที่สำรวจ
    2. ปรับปรุงแบบสอบถามให้มีความรัดกุมมากขึ้น
    3. วางแผนออกสำรวจรอบที่ 2

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ผลการสำรวจข้อมูลด้านความมั่นคงทางอาหาร จำนวน 5 วันดังนี้ 1. มีประชาชนทำอาชีพประมงพื้นบ้าน จำนวน 85 ครัวเรือนดังนี้ 1) อวนกั้ง-กุ้ง-ปู38 ลำ 2) อวนปลาเหยื่อ4 ลำ3) อวนปลากุเรา 7 ลำ4)ไซกั้ง 20 ลำ 5)ไซปลาเก๋า 6 ลำ 6)ไดหมึก 3 ลำ 7)เบ็ดราว(ราไว)3 ลำ 8)ตกเบ็ด 5 ลำ 9)รุนกุ้งเคย 1 ลำ
    2.ชนิดและขนาดของเรือ และเครื่องยนต์ ชาวประมงพื้นบ้านในที่นี้ หมายถึง ชาวประมงที่ไม่มีเรือประมงและชาวประมงที่เรือประมง ใช้เรือก็จะเป็นเรือหางยาว หรือเรือกอและ เรือท้ายตัด ตั้งแต่ไม่มีเครื่องยนต์จนถึงมีเครื่องยนต์ขนาด ๑ - ๗ แรงม้า และใช้เครื่องมือประมงแบบพื้นบ้านที่มีลักษณะเรียบง่าย สามารถเลือกจับสัตว์น้ำได้เฉพาะชนิด เช่น อวนลอยปลา อวนลอยกุ้ง อวนจมปู แห เบ็ด ลอบ ไซ เป็นต้น ใช้แรงงานในครอบครัวเป็นหลักและเป็นการประมงเพื่อยังชีพ 3. เวลาการออกทำประมงและการเข้ากลับมาไม่พร้อมกันบางครั้งต้องรอถึง 14.00 น. ซี่งเป็นเวลาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ไปหาและเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง ของแต่ละวัน 4. ทรัพยากรที่สำรวจ มีดังนี้ - กั้ง 250 กิโลกรัม กุ้ง25กิโลกรัมปูม้า 530กิโลกรัม ปูดำ 190กิโลกรัมปลากุเรา 150 กิโลกรัมปลาเก๋า10 กิโลกรัม ปลากะพง 125 กิโลกรัมปลาจราเม็ด 30 กก. ปลาเหยื่อ 180กก.
    - ปลาแบน 450 กิโลกรัม ปลาจ๋องม๋อง 40 กิโลกรัม 5. สถานทีที่ออกทำการประมง คือ เกาะสาม,เกาะโกย,เกาะหัวมัน ,เกาะหัวมัน, เกาะกวาง ,เกาะผี,เกาะมดแดง,คลองตะเหมี๊ยง, คลองการัง ลังกาวี เขตแดนมาเลเซีย 6. ชาวประมงพื้นบ้านมีปัญหาที่เกิดจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรประมง คือ กุ้งปลาในทะเล ลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบถึงรายได้และการดำรงชีพทางด้านต่างๆ 7. สาเหตุที่ชาวบ้านต้องทำอาชีพประมงพื้นบ้าน คือ • มีรายได้เลี้ยงชีวิตอย่างพอเพียงถ้าทรัพยากรสมบูรณ์ • มีเวลาอยู่กับครอบครัว • มีเวลาทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม เช่น การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากร • มีเวลาร่วมกิจกรรมทางสังคมของชุมชน เช่น งานแต่งงาน งานมัสยิด • มีอาชีพรองที่สัมพันธ์กับอาชีพประมง เช่น การเลี้ยงปลา ถักอวน ซ่อมเรือ • ไปจับสัตว์น้านอกพื้นที่ในบางฤดูกาล

     

    27 16

    16. จัดทำป้ายรณรงค์การอนุรักทรัพยากรธรรมชาติ

    วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    สั่งทำป้าย ประชาสัมพันธ์รณรงค์อนรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จำนวน 4 ป้าย

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ประชาชนในชุมชนเกิดการสำนึกต่อการอนุรักษ์ทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่งมากขึ้น

     

    1 1

    17. สำรวจข้อมูล รอบที่ 2

    วันที่ 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. การสำรวจป่าชายเลนและประมงพื้นบ้าน
    2. การเตรียมทีมจัดเก็บข้อมูล กำหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกแต่ละกลุ่ม
      2.1 แบ่งกลุ่มการสำรวจเป็น 2 กลุ่ม1) กลุ่มสำรวจทรัพยากรป่าชายเลน 2) กลุ่มสำรวจความมั่นคงทางอาหาร (ประมงพื้นบ้าน)
    3. การเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสำรวจ 3.1 หนังสือคู่มือพันธ์ไม้ป่าชายเลน 3.2 สมุด ปากกา กล้องถ่ายรูป ปากกาเมจิก เชื่อก
    4. การบันทึกข้อมูล 4.1 ข้อมูลทั่วไป 4.2 ข้อมูลพันธ์ไม้ 4.3 ข้อมูลสัตว์น้ำที่หามาได้
    5. แบ่งกลุ่มออกสำรวจ จำนวน 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จำนวน20 คน ออกสำรวจบริเวณบ้านกลาง จำนวน 62 ครัวเรือน กลุ่มที่ 2 จำนวน30 คนออกสำรวจบริเวณบากันเคยจำนวน87ครัวเรือน
    6. กลุ่มเป้าหมายที่ต้องสำรวจ

    - ครอบครัวที่ทำอาชีพประมงไม่น้อยกว่า 5 ปี - ครอบครัวที่นำทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาใช้ประโยชน์

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายออกสำรวจประชาชนที่ทำอาชีพประมงพื้นบ้าน เขตชุมชนบ้านบากันเคย จำนวน 50 คน ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างครอบถ้วน ตามแบบสำรวจ การแบ่งโซนการสำรวจตามที่ได้มอบหมาย คือ - กลุ่มที่ 1 หัวหน้าทีม คือ นางมะหรอ สุวาหลำ มีลูกทีม จำนวน 29 คน ออกสำรวจบริเวณชุมชนบากันเคย
    - กลุ่มที่ 2 หัวหน้าทีม คือ นายกูสารดี สตอหลง มีลูกทีม จำนวน 19 คน ออกสำรวจ บริเวณบ้านกลาง

     

    50 50

    18. ประชุมคณะทำงานครั้งที่ 6

    วันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ผลการสำรวจข้อมูล รอบที่ 2
    2. แผนการลงพื้นที่เก็บข้อมูล รอบที่ 3   - การลงพื้นที่สำรวจข้อมูล ครั้งต่อไปให้แบ่งกลุ่มแบบเดิม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ผลการสำรวจข้อมูลด้านความมั่นคงทางอาหาร จำนวน 5 วันดังนี้ 1. มีประชาชนทำอาชีพประมงพื้นบ้าน จำนวน 85 ครัวเรือนดังนี้ 1) อวนกั้ง-กุ้ง-ปู38 ลำ 2) อวนปลาเหยื่อ4 ลำ3) อวนปลากุเรา 7 ลำ4)ไซกั้ง 20 ลำ 5)ไซปลาเก๋า 6 ลำ 6) ไดหมึก 3 ลำ 7)เบ็ดราว(ราไว)3 ลำ 8)ตกเบ็ด 5 ลำ 9)รุนกุ้งเคย 1 ลำ
    2.ชนิดและขนาดของเรือ และเครื่องยนต์ ชาวประมงพื้นบ้านในที่นี้ หมายถึง ชาวประมงที่ไม่มีเรือประมงและชาวประมงที่เรือประมง ใช้เรือก็จะเป็นเรือหางยาว หรือเรือกอและ เรือท้ายตัด ตั้งแต่ไม่มีเครื่องยนต์จนถึงมีเครื่องยนต์ขนาด ๑ - ๗ แรงม้า และใช้เครื่องมือประมงแบบพื้นบ้านที่มีลักษณะเรียบง่าย สามารถเลือกจับสัตว์น้ำได้เฉพาะชนิด เช่น อวนลอยปลา อวนลอยกุ้ง อวนจมปู แห เบ็ด ลอบ ไซ เป็นต้น ใช้แรงงานในครอบครัวเป็นหลักและเป็นการประมงเพื่อยังชีพ 3. เวลาการออกทำประมงและการเข้ากลับมาไม่พร้อมกันบางครั้งต้องรอถึง 14.00 น. ซี่งเป็นเวลาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ไปหาและเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง ของแต่ละวัน 4. ทรัพยากรที่สำรวจ มีดังนี้ - กั้ง 280 กิโลกรัม
    - กุ้ง18กิโลกรัม - ปูม้า620กิโลกรัม
    - ปูดำ 210กิโลกรัม - ปลากุเรา 35 กิโลกรัม - ปลาเก๋า11 กิโลกรัม
    - ปลากะพง85 กิโลกรัม - ปลาจราเม็ด 20 กก.
    - ปลาเหยื่อ130กก.
    - ปลาแบน 360 กิโลกรัม
    - ปลาจ๋องม๋อง 35 กิโลกรัม - ปลาทราย 100 กิโลกรัม - ปลาแดง 25 กิโลกรัม

    1. สถานทีที่ออกทำการประมง คือ เกาะสาม,เกาะโกย,เกาะหัวมัน ,เกาะหัวมัน, เกาะกวาง ,เกาะผี,เกาะมดแดง,คลองตะเหมี๊ยง, คลองการัง ลังกาวี เขตแดนมาเลเซีย
    2. ชาวประมงพื้นบ้านมีปัญหาที่เกิดจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรประมง คือ กุ้งปลาในทะเล ลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบถึงรายได้และการดำรงชีพทางด้านต่างๆ

     

    27 16

    19. สำรวจข้อมูล รอบที่ 3

    วันที่ 4 ธันวาคม 2557 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. การสำรวจป่าชายเลนและประมงพื้นบ้าน
    2. การเตรียมทีมจัดเก็บข้อมูล กำหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกแต่ละกลุ่ม
          2.1 แบ่งกลุ่มการสำรวจเป็น 2 กลุ่ม  1) กลุ่มสำรวจทรัพยากรป่าชายเลน  2) กลุ่มสำรวจความมั่นคงทางอาหาร (ประมงพื้นบ้าน)
    3. การเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสำรวจ     3.1 หนังสือคู่มือพันธ์ไม้ป่าชายเลน     3.2 สมุด ปากกา กล้องถ่ายรูป ปากกาเมจิก เชื่อก
    4. การบันทึกข้อมูล     4.1 ข้อมูลทั่วไป     4.2 ข้อมูลพันธ์ไม้     4.3 ข้อมูลสัตว์น้ำที่หามาได้
    5. แบ่งกลุ่มออกสำรวจ จำนวน 2 กลุ่ม
          กลุ่มที่ 1 จำนวน  20 คน ออกสำรวจบริเวณบ้านกลาง จำนวน 62 ครัวเรือน     กลุ่มที่ 2 จำนวน  30 คน  ออกสำรวจบริเวณบากันเคย  จำนวน  87  ครัวเรือน
    6. กลุ่มเป้าหมายที่ต้องสำรวจ     - ครอบครัวที่ทำอาชีพประมงไม่น้อยกว่า 5 ปี     - ครอบครัวที่นำทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาใช้ประโยชน์

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายออกสำรวจประชาชนที่ทำอาชีพประมงพื้นบ้าน เขตชุมชนบ้านบากันเคย จำนวน 50 คน ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างครอบถ้วน ตามแบบสำรวจ การแบ่งโซนการสำรวจตามที่ได้มอบหมาย คือ - กลุ่มที่ 1 หัวหน้าทีม คือ นางมะหรอ สุวาหลำ มีลูกทีม จำนวน 29 คน ออกสำรวจบริเวณชุมชนบากันเคย
    - กลุ่มที่ 2 หัวหน้าทีม คือ นายกูสารดี สตอหลง มีลูกทีม จำนวน 20 คน ออกสำรวจ บริเวณบ้านกลาง

     

    50 50

    20. ประชุมคณะทำงานครั้งที่ 7

    วันที่ 5 มกราคม 2558 เวลา 13:30 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. สรุปผลการจัดเก็บข้อมูล จำนวน 15 วัน
    2. วางแผนกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ ครั้งที่ 2 เพื่อเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
          - การจัดหาพันธ์สัตว์น้ำ และพันธ์ไม้ป่าชายเลน  ให้ นางสาวลัดดาวัลย์  สุวรรณะ และ นายกูสารดี  สตอหลง เป็นผู้ประสานงานของรับพันธ์สัตว์น้ำและพันธ์ไม้ และการขนย้าย     - การจัดเตรียมสถานที่ปล่อยพันธ์สัตว์ และสถานที่ปลูกป่าชายเลน ให้ นายรอซาด  สุวาหลำ เป็นหัวหน้าทีมในการจัดเตรียมสถานที่    

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ผลการสำรวจข้อมูลด้านความมั่นคงทางอาหาร จำนวน 5 วันดังนี้ 1. มีประชาชนทำอาชีพประมงพื้นบ้าน จำนวน 85 ครัวเรือนดังนี้ 1) อวนกั้ง-กุ้ง-ปู38 ลำ 2) อวนปลาเหยื่อ4 ลำ3) อวนปลากุเรา 7 ลำ4)ไซกั้ง 20 ลำ 5)ไซปลาเก๋า 6 ลำ 6) ไดหมึก 3 ลำ 7)เบ็ดราว(ราไว)3 ลำ 8)ตกเบ็ด 5 ลำ 9)รุนกุ้งเคย 1 ลำ
    2.ชนิดและขนาดของเรือ และเครื่องยนต์ ชาวประมงพื้นบ้านในที่นี้ หมายถึง ชาวประมงที่ไม่มีเรือประมงและชาวประมงที่เรือประมง ใช้เรือก็จะเป็นเรือหางยาว หรือเรือกอและ เรือท้ายตัด ตั้งแต่ไม่มีเครื่องยนต์จนถึงมีเครื่องยนต์ขนาด ๑ - ๗ แรงม้า และใช้เครื่องมือประมงแบบพื้นบ้านที่มีลักษณะเรียบง่าย สามารถเลือกจับสัตว์น้ำได้เฉพาะชนิด เช่น อวนลอยปลา อวนลอยกุ้ง อวนจมปู แห เบ็ด ลอบ ไซ เป็นต้น ใช้แรงงานในครอบครัวเป็นหลักและเป็นการประมงเพื่อยังชีพ 3. เวลาการออกทำประมงและการเข้ากลับมาไม่พร้อมกันบางครั้งต้องรอถึง 14.00 น. ซี่งเป็นเวลาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ไปหาและเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง ของแต่ละวัน 4. ทรัพยากรที่สำรวจ มีดังนี้ - กั้ง 210 กิโลกรัม
    - กุ้ง25กิโลกรัม - ปูม้า590กิโลกรัม
    - ปูดำ 180กิโลกรัม - ปลากุเรา 24 กิโลกรัม - ปลาเก๋า8 กิโลกรัม
    - ปลากะพง95 กิโลกรัม - ปลาเหยื่อ250กก.
    - ปลาแบน 490 กิโลกรัม
    - ปลาจ๋องม๋อง 45 กิโลกรัม - ปลาทราย 110 กิโลกรัม

    1. สถานทีที่ออกทำการประมง คือ เกาะสาม,เกาะโกย,เกาะหัวมัน ,เกาะหัวมัน, เกาะกวาง ,เกาะผี,เกาะมดแดง,คลองตะเหมี๊ยง, คลองการัง ลังกาวี เขตแดนมาเลเซีย
    2. ชาวประมงพื้นบ้านมีปัญหาที่เกิดจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรประมง คือ กุ้งปลาในทะเล ลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบถึงรายได้และการดำรงชีพทางด้านต่างๆ
      ผลการสำรวจทรัพยากรชายฝั่ง คือพันธ์ไม้ป่าชายเลนบริเวณชุมชุนบ้านบากันเคย ที่ได้จากการออกสำรวจของเจ้าหน้าที่ ดังนี้ ป่าชายเลนหรือ ฮูตันบาเกา ในภาษามาลายูที่ชาวบากันเคยเรียกกัน นับว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญและมีคุณค่าต่อระบบนิเวศชายฝั่ง การประมง และป่าชายเลนพื้นที่ป่าชายเลนบ้านบากันเคย มีเนื้อที่ประมาณ 900 ไร่ มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นจะมีประกอบด้วยพันธ์ไม้ชนิดต่างๆ ดังนี้ ชั้นที่ 1พื้นที่ที่มีน้ำทะเลท่วมถึงทุกครั้ง ได้แก่ ไม้ลำพู ไม้แสม ไม้ปีปีดำ - ปีปีขาว ชั้นที่ 2มีพื้นที่เป็นชายเลนโคลนตก ได้แก่ ไม้โกงกางใบใหญ่เหงือกปลาหมอ ไม้ถั่วขาว-ถั่วดำ ไม้ตะบูนดำ-ตะบูนขาว
      ชั้นที่ 3 พื้นที่ที่มีน้ำทะเลท่วมถึงในขณะที่มีน้ำขึ้นสูงตามปกติ พบมากที่สุดคือโกงกางจะขึ้นหนาแน่นมากกว่าชนิดอื่น นอกนั้นยังพบไม้โปรงไม้ตะบูนดำ - ตะบูนขาว
      ชั้นที่ 4 พื้นที่ที่มีน้ำทะเลท่วมถึงเมื่อน้ำขึ้นสูงสุดเท่านั้น บริเวณนี้จะมีสภาพที่แห้งเกินไปไม่เหมาะกับไม้โกงกางจะขึ้นได้ แต่จะเหมาะสมกับพวกปรงทะเลไม้ฝาด กอจาก ไม้แป็ง
      ชั้นที่ 5 พื้นที่ที่มีน้ำทะเลท่วมถึงเมื่อน้ำขึ้นสูงสุดเป็นพิเศษเท่านั้น ได้แก่ ไม้เสม็ด มีปรงทะเล

      ชนิดไม้ป่าชายเลนบ้านบากันเคยที่พบมากที่สุด ได้แก่ไม้โกงกางไปใหญ่ไม้แสมรองลงมา ไม้ถั่วขาง-ดำ ลำดับที่ 3ไม้ปีปีขาว-ดำทีเหลือมีประปลายตามสภาพพื้นที่ ส่วนเหงือกปลาหมอทั่วทั้งป่าชายเลน

    การนำทรัพยากรป่าชายเลนไปใช้ประโยชน์ 1. ต้นแสม นิยมตัดกันมากที่สุด นำมาทำเป็นที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพราะเป็นไม้เนื้อแข็งมีความคบทนมากใช้งานได้ประมาณ 20 – 30 ปี
    2. ต้นตะบูนดำนำมาทำเป็นที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพราะเป็นไม้เนื้อแข็งมีความคบทนมากใช้งานได้ประมาณ 20 – 30 ปี
    3. ต้นตะบูนขาวใช้งานน้อย นิยมนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากมีลายไม้สวย ทำชานบ้าน 4. ต้นโกงกางนำมาทำเผาถ่านหุงต้ม คนบากันเคยไม่นิยมตันมากนัก เพราะนำมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้มามาก ไม่ค่อยคงทน 5. ต้นปีปีใช้ทำเป็นไซปลาเก๋า 6. ต้นลำพูเป็นไม้เนื้อแข็ง ใช้ทำที่อยู่อาศัย กงเรือ แผ่นกระดานเรือ 7. เหงือกปลาหมอ ใช้ทำเป็นยาสมุนไพรรักษาโรค 8. ต้นแป็งใช้ทำเป็นยาสมุนไพรรักษาโรค 9. ต้นจาก เป็นพื้นที่มีประโยชน์มาก ใบใช้ทำใบจากสูบยา ,ทำขนมจาก ก้านจากทำไม้กวาด ,ประดิษฐิ์เป็นที่วางหม้อ , ลูกจากทำขนม

    สรุปผลจากการสำรวจความมั่นคงทางอาหาร ของชุมชนบ้านบากันเคย จำนวน 15 วัน ดังนี้
    - กั้ง 740 กิโลกรัม
    - กุ้ง68กิโลกรัม - ปูม้า1,740กิโลกรัม
    - ปูดำ 580กิโลกรัม - ปลากุเรา 209 กิโลกรัม - ปลาเก๋า45 กิโลกรัม
    - ปลากะพง305 กิโลกรัม - ปลาเหยื่อ560กก.
    - ปลาแบน 1,300 กิโลกรัม
    - ปลาจ๋องม๋อง 120 กิโลกรัม - ปลาทราย 210 กิโลกรัม - ปลาแดง 25 กิโลกรัม - ปลาจราเม็ด 20 กิโลกรัม

    ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ
    จากการลงพื้นที่สำรวจอาชีพและปริมาณสัตว์น้ำที่หาได้ของประชาชนบ้านบากันเคย พบว่า อาชีพที่ประมงพื้นบ้านที่ทำกันมาก คือ การวางอวน วางไซ กั้ง, และ ปู ซึ่งมีปริมาณที่มากว่าชนิดอื่นและหาได้ง่ายกว่าและมีราคาสูงกว่าสัตว์น้ำชนิดอื่น การบริโภคของตลาดก็มีความนิยม แต่ปัจจุบันการออกทะเลแต่ละครั้งไม่มีความแน่นอน และใช้เวลานาน บางครั้งต้องออกไปไกล ถึงแดนมาเลเซีย เนื่องจากปริมาณสัตว์น้ำลดลง สาเหตุของปัญหาเกิดมาจาก การเพิ่มของจำนวนชาวประมงพื้นบ้านที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งไม่เพียงแต่ชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวประมงพื้นบ้านชุมชนใกล้เคียง คือ ตำบลเกาะสาหร่าย ตำบลปูยู ตำบลเจ๊ะบิลัง ตำบลตำมะลัง และยังไม่รวมเรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ ก็ยังมีการเข้ามาทำกินในอ่าวตันหยงโป แห่งนี้ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งกำลังการผลิตตามธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดบวกกับกำลังการใช้ประโยชน์ที่นับวันจะทวีมากขึ้นอย่างไร้ขอบเขต ไร้การควบคุม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังรอการแก้ไข

    จากสภาพปัญหาดังกล่าว ชุมชนจึงมีแนวคิดในการดูแลรักษาทรัพยากรต่าง ๆ ของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาป่าชายเลน ทรัพยากรสัตว์น้ำต่างๆ โดยช่วยเป็นหูเป็นตาไม่ให้มีการทำลาย แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่เพียงพอต่อการใช้

    เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ชุมชนมีการสร้างทุนทางสังคมวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการฟื้นฟูวิถีชีวิตของชุมชน การสร้างเสริมเครือข่ายและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างชุมชนและองค์กรเครือข่ายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรและชุมชน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ เสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์และการจัดการทรัพยากรชายฝั่งเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกและชุมชน ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อประสานความร่วมมือในการฟื้นฟูและการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน คณะทำงาน โครงการอนุรักษ์ฟืนฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บ้านบากันเคย ได้สรุปประเด็นการสำรวจความมั่นคงทางอาหารและทรัพยากรชายฝั่ง ว่าอาชีพประมงพื้นบ้านที่ชาวบ้านทำมากที่สุด คือการออกอวนปู อวนกั้ง เพราะเป็นสัตว์ที่มีราคาสูงและความต้องการของตลาดมีมาก แหล่งที่หาก็อยู่บริเวณหน้าอ่าวตันหยงโป คือ เกาะสาม,เกาะโกย,เกาะหัวมัน ,เกาะหัวมัน, เกาะกวาง ,เกาะผี,เกาะมดแดง,คลองตะเหมี๊ยง, คลองการัง แต่ปัจจุบันจำนวนปู และกั้ง มีน้อยลง การออกทะเลแต่ละครั้งก็ต้องไปที่ไกลๆและใช้เวลานานขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมากแต่ผลผลิตกลับได้น้อย

     

    27 16

    21. ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายแลน ครั้งที่ 2

    วันที่ 29 มกราคม 2558 เวลา 09.30 - 14.00 น. น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ทำหน้าที่หาพันธ์สัตว์น้ำเพื่อมาปล่อย และขนย้ายจากสถานที่ขอมายังสถานที่จัดกิจกรรม
      การขอพันธ์สัตว์น้ำได้ทำหนังสือขอพัธ์สัตว์น้ำจากสถานีเพาะพันธ์สัตว์น้ำสตูล อำเภอละงู ปลากะพงขาว จำนวน 500,000ตัว กุ้งกุลาดำ จำนวน500,000ตัว
      กลุ่มที่ 2 ทำหน้าที่ทำซั่งบริเวณใต้สะพานบ้านบากันเคย ซึ่งเป็นจุดปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ เพื้อเป็นที่พักชั่วคราวของกุ้ง ปลา ที่นำมาปล่อย กลุ่มที่ 3 ฝ่ายบริการอาหารและเครื่องดื่ม ให้กับผู้ที่มาร่วมกิจกรรม
    2. สรุปผลการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ

    - ปลากะพงขาว จำนวน 500,000ตัว กุ้งกุลาดำ จำนวน500,000ตัว
    - มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 55คน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. ได้ปล่อยพันธ์ปลากะพงขาว จำนวน 500,000  ตัว กุ้งกุลาดำ จำนวน  500,000  ตัว บริเวณสะพานท่าเทียบเรือบ้านบากันเคย
    2. ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยกรเพิ่มมากขึ้น
    3. ประชาชนมีจิตสำนึกต่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูเพิ่มขึ้น
    4. ชุมชนเกิดมุมมองการทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่กว้างขวางขึ้น ทั้งประเด็นชุมชนประมงพื้นบ้านกับการจัดการป่าชายเลนการจัดทำธนาคารกั้งชุมชน และการจัดการกั้งตั๊กแตน

     

    50 55

    22. รายงานผลโครงการครึ่งแรก ต่อ สจรส

    วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    รายงานผลการดำเนินงานครึ่งปีของโครงการและตอบข้อซักถามของเจ้าหน้าที่ สจรส มอ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • รายงานผลการจัดกิจกรรมรยะครึ่งปี ได้ทำกิจกรรมไปแล้วหลายกิจกรรม  ผลจากการทำกิจกรรม ดังนี้ 1. ได้รับการตอบรับจากประชาชนในชุมชนเป็นอย่างดี 2. เกิดสภาชุมชนที่ไม่เป็นทางการ  3. ชุมชนเกิดจิตสำนึกหวงแหนและทรัพยากรของชุมชนมากขึ้น 4. ได้ฎกกติการการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรบางส่วน 5. ประชาชนมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูทรัพยากรมากขึ้น 6. ชุมชนเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรต่อการประกอบอาชีพประมงของตนเองมากขึ้น

     

    2 2

    23. ประชุมคณะทำงานครั้งที่ 8

    วันที่ 5 มีนาคม 2558 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. สรุปผลการจัดกิจกรรมปล่อนพันธ์สัตว์น้ำ ครั้งที่ 2
      • เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอีกรูปแลลหนึ่งที่ได้รับความนิยมและสามารถกระทได้ไม่ยากทำให้ การปล่อยพันธ์สัตว์น้ำครั้งนี้ ได้ขอรับการสนับสนุนพันธ์กุ้งขาว และพันธ์ปลากะพงขาว จากหน่วยงาน สำนักงานเพาะพันธ์สัตว์น้ำประมงชายฝั่ง อำเภอละงู จังหวัดสตูล เป็นพันธ์กุ้ง จำนวน5 แสนตัวและ พันธ์ปลากะพงขาว จำนวน 5 แสนตัว ส่วนพันธ์ไม้ป่าชายเลน ไดรับการสนุเคราะห์จากสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 35 สตูล จำนวน500ต้น
      • มีการแบ่งหน้าที่ของคณะทำงาน เพื่อให้การทำงานที่รวดเร็วขึ้น ดังนี้1) นางสาวลัดดาวัลย์สุวรรณะมีหน้าที่ติดต่อหน่วยงานเพาะพันธ์สัตว์น้ำประมงชายฝั่ง อำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อขอรับพันธ์สัตว์น้ำ และประสานเจ้าหน้าที่ คณะทำงาน เพื่อไปรับมอบและขนย้ายพันธ์สัตว์น้ำ2) นายกูสารดี สตอหลง นายวีระศักดิ์ มะสมัน นายจำปัน ปันดีกา การเตรียมสถานที่ในการปล่อยพันธ์กุ้งและปลา โดยการนำทางใบจาก และมะพร้าว มาปักไว้ใต้สะพานและรอบๆบันใดใต้สะพานบากันเคย เพื่อให้เป็นที่พักของลูกกุ้ง ลูกปลาที่นำมาปล่อย จะทำให้พันธ์สัตว์ที่ปล่อยมีโอกาสรอดมากขึ้น3) นางฝารีด๊ะ ยุเหล่ นางมารีย๊ะนวลจันทร์มีหน้าที่ ดูแลเรื่องอาหารและอาหารว่างสำรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม และคณะทำงานที่เตรียมสถานที่ก่อนวันทำกิจกรรม4) นายรอซาด สุวาหลำ นายสมาน มะสมันและคณะทำงานอีก 3 คน มีหน้าที่ จัดเตรียมสถานที่ปลูกพันธ์ไม้ป่าชายเลน5) คณะทำงานที่เหลือ มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 29 มกราคม 2558 เวลา 09.00 - 14.00 น เนื่องจากการทำกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา ช่วงเช้าจะเป็นกิจกรรมปล่อยพันธ์กุ้งและปลา เพราะเป็นเวลาที่น้ำขึ้นสูง การปล่อยพันธ์สัตว์น้ำช่วงนั้นจะทำให้พันธ์สัตว์ที่ปล่อยมีโอกาสรอดชชีวิตมากที่สุด และช่วงบ่าย จะเป็นกิจกรรม ปลูกป่าชายเลน เนื่องจากจะเป็นเวลาที่น้ำทะเลลงลึกมากที่สุดสามารถลงไปปลูกพันธ์ไม้ป่าชายเลนได้
    2. วางแผนการจัดเวทีคืนข้อมูลให้กับชุมชน โดยมีกิจกรรมเพื่อคืนข้อมูล ดังนี้

    - วิทยากรบรรยายให้ความรู้และคืนข้อมูลให้กับชุมชน - ปราชญ์ชาวบ้านบอกเล่าความเป็นมาของชุมชน และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรเมื่อสมัยก่อนเปรียบเทียบกับปัจจุบัน และการสะท้อนปัญหาด้านทรัพยากรร่วมกับเยาวชน - ทำเอกสารข้อมูลแจกให้กับประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม - ทำข้อมูลลงไวนิลเพื่อให้ชุมชนทราบ การแบ่งหน้าที่
    - นางสาวลัดดาวัลย์ สุวรรณะ มีหน้าที่ ติดต่อวิทยากร เพื่อมาให้ความรู้ของการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เก็บได้ - นายสมาน มะสมัน และนายกูสมาแอ สตอหลง เป็นปราชญ์ชาวบ้านมีหน้าที่บอกเล่าความเป็นมาของชุมชนและสะท้อนปัญหาของชุมชนร่วมกับเยาวชน - นางฝารีด๊ะยุเหล่และ นางมารีย๊ะ นวลจันทร์นางลีลา ปันดีกา มีหน้าที่ ดูแลด้านอาหาร และอาหารว่าง ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม - นายจำปัน ปันดีกา นายวีระศักดิ์ มะสมัน นายรอซาด สุวาหลำ มีหน้าที่ จัดสถานที่ในการจัดกิจกรรม ดดยขอใช้สถานที่อาคารตาดีกา บากันเคย

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • จากการจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ มีประชาชนและเยาวชนให้ความสนใจเป็นเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่งมากยิ่งขึ้น ร่วมทั้งกลุ่มองค์กรและหน่วยงานต่างๆก็ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของชุมชนบ้านบากันเคยและให้การสนับสนุนการทำกิจกรรมต่างๆด้วยดีเสมอมา  และการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยชุมชนมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันมีองค์กรต่างๆ มากมายทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชน และปัจจุบัน ระดับของการมีส่วนร่วมของประชาชนชุมชนบากันเคยมีมากขึ้น  และแนวความคิดของของชุมชนของการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทั้งกระบวนการนับว่าเป็นแนวทางที่ดี

     

    27 16

    24. จัดเวทีคืนข้อมูลให้กับชุมชน

    วันที่ 11 มีนาคม 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    คณะทำงานประชุมแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบงานเวทีคืนข้อมูล ดังนี้
    1. ประสานงานติดต่อกับหน่วยงานส่วนราชการในพื้นที่ เช่น อบต. รร. รพ.สต.ตำบล 2. ฝ่ายจัดสถานที่ และติดต่อขอใช้สถานที่
    3. ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม 4. ฝ่ายติดต่อวิทยากร และปราชญ์ชาวบ้าน และจัดทำเอกสารรูปเล่ม 5. ฝ่ายอาหารและต้อนรับ กิจกรรม การคืนเวที
    1. วิทยากรบรรยายถึงความสำคัญของข้อมูลที่จัดเก็บได้ การใช้ประโยชน์ของข้อมูล และการชี้ให้เห็นปัญหาที่ได้จากข้อมูลที่เก็บได้มี 2. การบอกเล่าของปราชญ์ชาวบ้าน (บรรยาย) 3. กิจกรรมการแสดงประกอบการเล่าสู่กันฟังของปราชญ์ กำหนดการ 08.30 น. ลงทะเบียน
    09.00 น. นายก อบต.ตันหยงโป เปิดเวทีเสวนาการคืนข้อมูลให้กับชุมชน  และบรรยายพิเศษเรื่องความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยาการทางแทะเลและชายฝั่งของชมชนบ้านบากันเคย
    10.00 น. วิทยากร บรรยาย ข้อมูลที่จัดเก็บได้มาจากการสำรวจของคนในชุมชนเอง และสะท้อนปัญหาของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของชุมชนโดยไม่เห็นความสำคัญของทรัพยากร 12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง และละหมาด
    13.30 น. ปราชญ์ชาวบ้านนเสนอเรื่องราวในอดีตประกับการแสดงของเยาวชน
    14.30 น. เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและของตำลงในการใช้ประโยชน์ของทรัพยาการของชุมชน 15.30 น. ปลัด อบต. บรรยายพิเศษ เรื่องความสำคัญของทระพยากรและการอนุรักษ์ไว้เพื่อให้มีใช้ตลอดไป 16.00 น. ปิดกิจกรรมเวทีคืนข้อมูล 

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ผลจากการจัดเวทีคืนข้อมูล
    - ทำให้ทราบว่า  อาชีพประมงพื้นบ้านที่ประชาชนบ้านบากันเคยทำกันมาก คือ การวางอวน วางไซ กั้ง, และ ปู ซึ่งมีปริมาณที่มากว่าชนิดอื่นและหาได้ง่ายกว่าและมีราคาสูงกว่าสัตว์น้ำชนิดอื่น การบริโภคของตลาดก็มีความนิยม แต่ปัจจุบันการออกทะเลแต่ละครั้งไม่มีความแน่นอน และใช้เวลานาน บางครั้งต้องออกไปไกล ถึงแดนมาเลเซีย เนื่องจากปริมาณสัตว์น้ำลดลง สาเหตุของปัญหาเกิดมาจาก การเพิ่มของจำนวนชาวประมงพื้นบ้านที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งไม่เพียงแต่ชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวประมงพื้นบ้านชุมชนใกล้เคียง คือ ตำบลเกาะสาหร่าย ตำบลปูยู ตำบลเจ๊ะบิลัง ตำบลตำมะลัง และยังไม่รวมเรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ ก็ยังมีการเข้ามาทำกินในอ่าวตันหยงโป แห่งนี้ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งกำลังการผลิตตามธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดบวกกับกำลังการใช้ประโยชน์ที่นับวันจะทวีมากขึ้นอย่างไร้ขอบเขต ไร้การควบคุม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังรอการแก้ไข - ทำให้ชุมชนเกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรมากขึ้นและเกิดการเรียนรู้จากประสบการจากการทำกิจกรรมต่างๆ และมีการถ่ายทอดความรู้ที่ได้ให้กับเพื่อนในชุมชน
    - ชุมชนจึงเกิดการรวมกลุ่มกันเพื่อแก้ไขปัญหาด้านทรัยพากรโดยการสร้างทุนทางสังคมวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการฟื้นฟูวิถีชีวิตของชุมชน การสร้างเสริมเครือข่ายและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างชุมชนและองค์กรเครือข่ายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรและชุมชน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ เสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์และการจัดการทรัพยากรชายฝั่งเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกและชุมชน ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อประสานความร่วมมือในการฟื้นฟูและการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน

     

    100 94

    25. ประชุมคณะทำงานครั้งที่ 9

    วันที่ 13 มีนาคม 2558 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปผลการจัดเวทีคืนข้อมูลและจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำครั้วที่ 3
      - การจัดเวทีคืนข้อมูล ได้รับการตอบรับจากประชาชนในชุมชนเป็นอย่างมาก ทุกคนที่เข้าร่วมเวทีคืนข้อมูลให้ความสนใจต่อข้อมูลที่จัดเก็บได้และตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรที่มีอยุ่ในชุมชน
      - ประชาชนให้ความสำคัญต่อการอนุักษ์และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน   - ชุมชนเห็นด้วยกับผู้ใหญ่บ้านที่ตั้งเป็นชมรมอนุรักษ์พันธ์ปูม้าชุมชนบากันเคย เพื่อเป็นการขยายพันธ์ และให้มีปู้ม้าไว้สำหรับให้ชุมชนหาได้ตลอดโดยไม่ต้องออกไปหาในสถานที่ไกลๆ   การจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ ครั้งที่ 3 จะจัดในวันที่ 19 มีนาคม  2558 มีกิจกรรม ดังนี้     - ปล่อยพันธ์ปูดำ จำนวน 2,000  ตัว
        - ปลูกป่าชายเลน  จำนวน  1,000  ต้น     -  ปล่อยพันธ์ปูม้า จำนวน  60 ล้านตัว
        งานที่ต้องเตรียม มีดังนี้
        - เตรียมสถานที่ปล่อยพันธ์ปูดำ โดยใช้สถานที่ป่าชายเลนบริเวณหน้าบ้นผู้ใหญ่ รอซาด สุวาหลำ เพราะเป็นพื้นชายเลนที่กว้างประมาณ 3 ไร่  โดยล้อมรอบด้วยอวน และไม้ไผ่ กั้นไม่ให้ปูที่ปล่อยออกนอกพื้นที่ และจะปล่อยปูก็ต่อเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ  6  เดือน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ปูวางไข่แล้ว
      - สถานที่ปลูกป่าชายเลนใช้สถานที่เดียวกับที่ปล่อยปูดำ เพื่อเพิ่มปริมาณต้นไม้ให้มากขึ้นเพื่อปรับสภาพระบบนิเวศป่าชายเลนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น   - การเตรียมพันธ์ไม้ พันธ์ปูดำ พันธ์ปูม้า ได้ขอรับจากสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 35 สตูล เป็นพันธ์ปูดำ และพันธ์ไม้โกงกาง
      - การเตรียมพันธ์ปูม้า  จะได้จากชมรมอนุรักษ์พันธ์ปูม้าบากันเคย ของผู้ใหญ่บ้าน โดยสมาชิดกลุ่ม ต้องเตรียมแม่พันธ์ปูม้าประมาณ 10 - 20  ตัว เพื่อฝักไข่ก่อนวันงาน วิธีการได้มาซึ่งแม่พันธ์ปูม้า คือ รับบริจาค จากสมาชิกกลุ่มและชาวบ้านที่ให้การสนับสนุน เพื่อการขยายพันธ์ปูม้า   - เตรียมถังกักเก็บน้ำเค็ม เพื่อสำรองในการเพาะพันธ์ปูม้า จำนวน 1 ถัง
      - เตรียมสถานที่ปล่อยพันธ์ คือ ต้องสร้างสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อเป็นทางเดินไปยังสถานที่ปล่อยพันธ์ปูม้า และปูดำ เนื่องจากการปล่อยพันธ์ปูต้องรอให้น้ำทะเลขึ้นสูงสุด จะทำให้ลูกปูที่ปล่อยมีชีวิตรอดมากที่สุด
     

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    สรุปผลการจัดเวทีคืนข้อมูล
      1. จากการจัดเวทีคืนข้อมูลทำมีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากทุกคนให้ความสนใจต่อข้อมูลที่ที่คณะกรรมการนำเสนอ   2. เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนมีจิตสำนึกต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรมากขึ้น การจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำครั้งที่ 3   1. ประชาชนมีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้น   2. ประชาชนเห็นความสำคัญของทรัพยากร ในการใช้ประโยชน์และการรักษาไว้

     

    27 16

    26. ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายแลน ครั้งที่ 3

    วันที่ 19 มีนาคม 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    รายละเอียดขั้นตอนและกระบวนการ 1. แบ่งงานหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะทำงาน       1.1 เตรีนมสถานที่ปล่อยพันธ์สัตว์และปลูกป่าชายเลน โดยกันอวนและไม้ไฝ่สำหรับเป็นที่เพาะพันธ์ปู       1.2 ติดต่อขอรับพันธ์ไม้และพันธ์ปู       1.3 ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ชุมชนบากันเคย เตรียมพันธฺปูม้า จำนวน 60 ล้านตัว สำหรับปล่อยลงทะเล       1.4 ฝ่ายต้อนรับและประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรม กิจกรรมที่ปฏิบัติ 1. ปล่อยพันธ์ปูดำจำนวน 2,000 ตัว โดยขอรับการสนับสนุนจากสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 35 สตูล 2. ปลูกพพันธ์ไม้โกงกางจำนวน 1,000  ต้น
    3. ปล่อยพันธ์ปูม้า จำนวน 60 ล้านตัว จากถังที่ได้เพาะพันธ์ไว้ของกลุ่มอนุรักษ์บ้านบากันเคย

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    จากการทำกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายเลน ครั้งที่ 3 ทำให้ประชาชนในชุมชนมีความตื่นตัวและมีส่วนร่วมกับการอนุรักทรัพยากรมากขึ้น เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรและการมีส่วนร่วม จึงทำให้เกิดกลุ่มอนุรักษ์พันธ์ปูม้าบากันเคย โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้นำร่องในการทำและมีชาวบ้านจำนวน 3-5 คน เป็นแกนนำในการก่อตั้งกลุ่ม และกิจกรรมครั้งนี้ได้เพิ่มการปล่อยพันธ์ปูดำ ในพื้นป่าชายเลนที่ได้เตรียมไว้ จำนวน 2 ไร่ โดยล้อมด้วยอวนและไม้ไฝ่ เป็นการอนุบาลปูและขยายพันธ์ในพื้นที่ต่อไป

    กิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายเลน ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการและเอกชน หลายฝ่าย คือ สำนักงานประมงจังหวัดสตูล สถานีพัฒนาป่าชายแลน ทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 45 สตูล เกษตรจังหวัดสตูล เครื่อข่ายศิษย์เก่านิด้า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตันหยงโป โรงเรียนบ้านตันหยงโป โรงเรียนบ้านหาดทรายยาว องค์การบริหารส่วนตำบลตันหยงโป และประชาชนในพื้นที่ทุกคน  ซึ่งทุกฝ่ายให้เห็นความสำคัญในการอนุรัษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกิจกรรมต่างๆได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานภายนอกเป็นอย่างดี เป็นการรวมเครือข่ายภาคีทุกผากส่วนในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และชุมชนมามีบทบาทในการอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรด้วยตนเอง  ทำให้ชุมชนมีแนวทางการอนุรักษ์ที่เชื่อมโยงระหว่างการจัดการทรัพยากรทางทะเลด้วยแนวคิดการพึ่งพากันของ น้ำ ป่า ทะเล โดยการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ปลูกจิตสำนึกเพื่อลดการใช้สารเคมี หันมาพึ่งพิงวิถีธรรมชาติใช้สารสมุนไพรธรรมชาติ ตามวิถีดั้งเดิม แก่กลุ่มชาวประมง

     

    50 60

    27. ขอรับการปรึกษากับพี่เลี้ยงโครงการ

    วันที่ 20 มีนาคม 2558 เวลา 09:30 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • เดินทางไปหาพี่เลี้ยงที่ อบต.นาทอน เพื่อของคำแนะนำการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป และการบันทึกข้อมูลต่างๆในระบบ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ได้ข้อมูลและวิธการจัดกิจกรรมต่างๆ และการจัดทำเอกสารของโครงการ

     

    1 1

    28. ประชุมคณะทำงานครั้งที่ 10

    วันที่ 25 มีนาคม 2558 เวลา 13:30 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. ประชุมสรุปผลการจัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายเลนครั้งที่ 3เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558
    2. วางแผนการจัดกิจกรรมวางปะการังเทียมและวางทุ่นกำหนดแนวเขตปะการังเทียม
    • การขนย้ายปะการังเทียมที่ได้รับจากการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆและที่ได้รับจากการบริจาค จากร้านค้าต่างๆ
    • การเตรียมเรือ เพื่อการขนย้ายปะการังเทียม ลงทะเล
    • การทำทุ่นแนวเขต
    • การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชเข้าร่วมกิจกรรมวางปะการังเทียม เนื่องจากต้องใช้กำลังคนมาก

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ผลจากการทำกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ และปลูกป่าชายเลนครั้งที่ 3 ดังนี้ - ชุมชนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมากขึ้น เพราะคนในชุมชนเท่านั้นที่อาศัยอยู่ใกล้และคลุกคลีกับป่าชายเลนแทบทุกวันจึงทราบดีว่าป่าชายเลนเหล่านั้นมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่เสื่อมโทรม มากกว่าเดิมหรือไม่  จึงเกิดแนวคิดของชุมชนในการฟื้นฟูป่าชายเลน ดังต่อไปนี้ 1) การประเมินความเสียหาย ชุมชนสามารถประเมินความเสียหายของทรัพยากรป่าชายเลนได้โดยการสังเกตความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ว่า เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง และจะมีผลกระทบต่อชุมชนในอนาคตอย่างไรการเปรียบเทียบความอุดมสมบูรณ์ในอดีตกับปัจจุบันและดูจากสภาพทั่วๆ ไปที่มองเห็นได้ 2) การวางแผนและเตรียมการ ขั้นตอนนี้ชุมชนจะต้องมีผู้นำเป็นผู้ริเริ่มในการปรึกษาหารือกับสมาชิกในชุมชน เพื่อหาแนวทางการฟื้นฟู และดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ 3) การปลูกและการจัดการ การปลูกสามารถทำได้ทั้งเมล็ดฝักและ ต้นกล้า ขึ้นอยู่การเตรียมการของชุมชน ส่วนใหญ่ชุมชนได้รับการช่วยเชือจากสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 35 ในการเพาะพันธ์ต้นกล้า 

     

    27 16

    29. วางปะการังเทียม

    วันที่ 15 เมษายน 2558 เวลา 09.00 - 14.00 น. น.

    กิจกรรมที่ทำ

    แบ่งหน้าที่คณะทำงานให้รับผิดชอบ ดังนี้ - นายรอซาด สุวาหลำ นายกูสารดีสตอหลง และ นายสาบรี เส็นดากันมีหน้าที่ หาเรือจำนวน 10 ลำ ในการลำเรียงวัสดุปะกังเทียม และจัดหาน้ำมันในการขนส่ง - นายวีระศักดิ์ มะสมัน นายจำปัน ปันดีกา นายสมาน มะสมัน มีหน้าที่ สำรวจพื้นที่กำหนดแนวเขตวางปะกังเทียมและวางทุ่น และจุดการทิ่งปะการังเทียม - นายกิตติหมัดตานี นายรอซาด สุวาหลำ มีหน้าที่ จัดหาวัสดุปะการังเทียม และขนย้ายจากฝั่งไปยังท่าเทียบเรือ เป็นท่อซีเมนต์จำนวน200 ท่อน และยางรถยนต์ จำนวน 100 ชิ้น และทุ่นจำนวน 3 ลูก เพื่อวางเป็นแนวเขตอนุรักษ์ในทะเล - นายนสรีกรมเมือง นายสแลมันเส็นดากัน และ นายมะหาหมาดยุเหล่ มีหน้าที่เตรียมไม้เพื่อจัดทำสะพานชั่วคราวเพื่อขนย้ายวัสดุปะการังเทียมลงเรือ
    ขั้นตอนการวางปะการังเทียม แบ่งคนออกเป็น 2 ชุด
    ชุดที่ 1 อยู่บนฝั่ง มีหน้าที่ ขนย้ายวัสดุปะการังเทียมจากฝั่งบริเวณสะพานไม้ที่ทำขึ้นสำหรับขนย้ายวัสดุปะการังเทียมลงเรือ จำนวน 15 คน
    ชุดที่ 2 อยุ่ประจำเรือ มีหน้าที่ นำปะกังเทียมที่อยู่ในเรือออกไปทิ้งตามจุดต่างๆที่ได้สำรวจไว้เเล้ว และวางทุ่นในการอนุรักษ์ตามแนวเขตที่สำรวจไว้ และวางทุ่นเพื่อบอกแนวเขตการวางปะการังเทียม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    จากการวางปะการังทำให้ ด้านชีววิทยา สามารถรักษาบริเวณที่เป็นแหล่งเลี้ยงตัวของสัตว์น้ำวัยอ่อน ทำให้ประชากรรุ่นใหม่ของ สัตว์น้ำที่จะเข้าสู่แหล่งทำการประมงมีมากขึ้นส่วนทางด้านเศรษฐกิจ เพิ่มแหล่งทำการประมงที่มีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนการผลิต และด้านสังคม การบริหารการประมงของรัฐ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความขัดแย้ง ทั้งนี้ยังก่อให้เกิด - ชาวประมงพื้นบ้านมีแหล่งทำการประมงเพิ่มขึ้น - ชาวประมงพื้นบ้านสามารถทำการประมงได้ปริมาณสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น - สามารถป้องกันการลักลอบใช้เครื่องมือทำการประมงที่ผิดกฎหมาย (โดยทางอ้อม) - ความหลากหลายทางชีวภาพได้รับการปกป้องดูแลเสริมสร้างความแข็งแรงให้สมดุลภายในระบบนิเวศทางทะเล - ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพิ่มขึ้นและเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ - เป็นการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำตามแนวชายฝั่งทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ชาวประมงมีรายได้จากการจับสัตว์น้ำมากขึ้น และบางรายมีรายได้จากการท่องเที่ยว เพื่อตกปลา - ประชาชนในชุมชนได้เห็นความทสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากร

     

    50 50

    30. ประชุมคณะทำงานครั้งที่ 11

    วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    1. สรุปผลการวางปะการังเที่ยม

    - ผลที่ได้จากการวางปะการังเที่ยม 1) เพื่อฟื้นฟูผลผลิตทางการประมงเป็นการจัดการและพัฒนาทรัพยากรในท้องถิ่น 2) ฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของชาวประมงทะเลพื้นบ้านให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 3) ฟื้นฟูระบบนิเวศบริเวณชายฝั่งเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผลที่ได้จากการวางปะการังเทียม (ท่อซีเม็น) ได้วางปะการังเทียม จำนวน 2 จุด จุดละ 50 ลูก ระยะห่างจากฝั่งประมาณ 1,000 เมตร และมีการวางทุ่นเป็นแล้วแนวเขตปะการังเทียม เพื่อป้องกันไม่ให้เรือประมงวางอวนและ วางไซเนื่องจากแนวปะการังเทียมเป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำโดยรวม มีสัตว์น้ำนานาชนิดอาศัยอยู่รวมกัน ทั้งกุ้ง, หอย, ปู และปลาหลายชนิดที่เป็นปลาประจำถิ่น เช่น กลุ่มปลากะพงหลายชนิด, ปลาเก๋า และปลาในแนวปะการังทั่วไป สามารถทำการตกปลาได้ ทำให้ประมงพื้นบ้านและนักท่องเที่ยวมาตกปลาเพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างอาชีพให้กับประชาชนในชุมชนอีกทางหนึ่ง - การมีส่วนร่วมของชุมชนประชาชนในชุมชนให้ความร่วมมือในการวางปะการังเทียมเป็นอย่างดี และเห็นความสำคัญของการวงปะการังเทียม เพราะชุมชนได้ประโยชน์โดยตรงจากกิจกรรมนี้ ชุมชนจึงเกิดแนวคิดการจัดเวรยามเพื่อเฝ้าระวังการทำประมงบริเวณเนวเขตปะการังเทียม ซึ่งเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชุมชนเอง และเกิดจากความต้องการของชุมชนเอง โดยได้แรงกระตุ้นจากการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และประชาชนส่วนใหญ่เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างรู้คุณค่าของทรัพยากรมากขึ้น - ผลตอบรับของชุมชนชุมชนให้การตอบรับกับกิจกรรมทั้งหมดของโครงการ เนื่องประชาชนทุกคนในชุมชนได้รับผลประโยชน์จากการทำโครงการทั้งสิ่้น และชุมชนเริ่มให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทัพยากรเพิ่มมากขึ้น และมีการเฝ้าระวังการลักลอบทำประมงบริเวณแนวเขตปะการังเทียม ของหมู่บ้าน
    2. วางแผนการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำครั้งที่ 4
    - การมอบหมายหน้าที่ หาพันธ์สัตว์น้ำ พันธ์ป่าไม้โกงกาง มอบให้ นางสาวลัดดาวัลย์สุวรรณะ เป็นผู้ติดต่อประสานงานในการขอพันธ์พืชและพันธ์สัตว์ กับหน่วยงานสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 35 สตูล และสถานีเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง อำเภอละงูโดยให้ นายกูสารดีสตอหลง และนายวีรศักดิ์ มะสมัน เป็นผู้ไปรับพันธ์ต้นกล้าและพันธ์สัตว์ - การเตรียมสถานที่ปลูกป่า และปล่อยพันธ์สัตว์มอบหายให้ นายรอซาดสุวาหลำ และนายจำปันปันดีกาเป็นผู้ดำเนินการ
    - การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม มอบหมายให้นางสาวฝารีด๊ะยุเหล่ และนางมารีย๊ะ นวลจันทร์ เป็นผู้ประชาสัมพันธ์ และให้ทุกคนช่วยกันประชาสัมพันธ์ด้วย

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    จากการทำกิจกรรมวางปะการังเทียม ชุมชนให้ความร่วมือเป็นอย่่างดี และเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพนากรทางทะเลและชายฝั่งมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมแต่ละครั้งจะมีจำนวนประชาชนเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง และเกิดการรวมกลุ่มในการอนุรักษ์พันธ์ปูม้า โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่หน้าบ้านผู้ใหญ่ มีอุปกรณ์การเพาะพันธ์ปู ดังนี้  ถังสำหรับเพาะพันธ์ปูม้า ขนาด 10 ลิตร  จำนวน  10 ถัง เครื่องออกซิเจน จำนวน 10 ชุด ถังเก็บน้ำขนาด 2,000  ลิตร จำนวน 2 ถัง อุปกรณ์ทั้งหมด ได้รับบริจาค จาก หน่วยงาน อบต. ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และการสร้างโรงเรือน ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านทุกคนในชุุมชนบ้านบากันเคย และมีการเฝ้าระวังการลักลอบการทำประมงบริเวณเเนวเขตะการังเทียมอีกด้วย 

     

    27 21

    31. ประชุมเครือข่ายและสภาองค์กรชุมชน

    วันที่ 8 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    การวางกฎ กติกา ระเบียบการทำประมงพื้นบ้านและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอ่าวตันหยงโป เชิญคณะทำงานและกลุ่มองค์กรต่างๆมาประชุมเพื่อหารือในการตั้งกฎ กติกาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในชุมน
    บากันเคย มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวงน 45 คน ตังแทนกลุ่มต่างๆในชุมชนจำนวน 45 คน
    และตัวแทนจากหน่วยงานราชการภายในและภายนอก จำนวน 6 คน ข้อสรุปจากการประชุม ดังนี้

      1. ห้ามทำการประมงทุกชนิดบริเวณห่างจากฝั่งลงในทะเลเป็นระยะ  300 เมตร จนถึงหน้ากระชัง (ยกเว้น ย้ำกั้ง ตกปลา ไซปูดำ)   2. ห้ามทำประมงทุกชนิดบริเวณ แนวเขตปะการังเทียม (ยกเว้น ตกปลา)   3. ต้องมีการปลูกพันธ์ไม่ป่าชายเลน อย่างน้อย ปีละ 2,000  ต้น
      4. ต้องมีการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำอย่างน้อย ปีละ  2 ครั้ง

    ส่วนเรือประมงพานิช ที่มาทำการประมงบริเวณหน้าอ่าวตันหยงโป มีทั้งอวนลาก อวนลุน
    การไดหมึกที่ใช้แรงวัตว์ไฟฟ้าสูงมากๆๆ ทำให้ปลาหมึกหน้าอ่าวตันหยงโปหมดไป และสัตว์เล็กๆก็ตายหมดรวมทั้งหญ้าทะเลด้วย จึงต้องให้ทางประมงจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ
    เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ ในส่วนนี้ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตันหยงโป
    ได้เรียกผู้นำ อปท.ที่มีพื้นที่ติดกับชายฝั่งทะเลทั้งจังหวัดสตูล พร้อมด้วยตัวแทนจากประมงจังหวัด
    กรมเจ้าท่า มาปรึกษาหารือ ถึงมาตรการการทำประมงพื้นบ้าน ชนิด ขนาด ของอุปกรณ์ เครื่องมือการทำประมงพื้นบ้าน ให้มีมาตรฐานเดียวกัน และวิธีการจัดการกับเรือประมงพานิชที่เข้ามาทำการประมงบริเวณหน้าอ่าวของแต่ละพื้นที่

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ผลการตั้งกฎกติการ ระเบียบการทำประมงพื้นบ้านและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอ่าวตันหยงโป
    ที่ได้จากการประชุมของคณะทำงานและผู้เข้าร่วมประชุมมีมติเห็นชอบให้มีกฏกติกา การใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ดังนี้
      1. ห้ามทำการประมงทุกชนิดบริเวณห่างจากฝั่งลงในทะเลเป็นระยะ  300 เมตร จนถึงหน้ากระชัง (ยกเว้น ย้ำกั้ง ตกปลา ไซปูดำ)

      2. ห้ามทำประมงทุกชนิดบริเวณ แนวเขตปะการังเทียม (ยกเว้น ตกปลา)   3. ต้องมีการปลูกพันธ์ไม่ป่าชายเลน อย่างน้อย ปีละ 2,000  ต้น
      4. ต้องมีการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำอย่างน้อย ปีละ  2 ครั้ง ให้ปิดประกาศทั้งชุมชนและมีการประกาศที่มัสยิดเพื่อให้ทุกคนได้รับทราบอย่างทั่วถึงและถือปฏิบัติอย่างเคร่วงครัด
    หากมีการฝ่าฝืนคนที่ได้ผลกระทบไม่ใช้ใครที่ไหนแต่เป็นคนในชุมชนนั้นเอง ดังนั้นทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏกติกาที่ตั้งไว้เพื่อให้มีทรัพยากรใช้ตลอดไป

     

    50 45

    32. ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายแลน ครั้งที่ 4

    วันที่ 13 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    กิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ และปลูกป่ายชายเลน มีการแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ ดังนี้
    1. นายกูสารดี สตอหลง และนายวีรศักดิ์ มะสมัน ได้เดินทางไปรับพันธ์ไม้ชายเลนที่สถานพัฒนาป่าชายเลนที่ 35 เจ๊ะบิลัง จำนวน  500  ต้น และพันธ์น้ำสถานีเพาะพันธ์สัตว์น้ำ อำเภอละงู จำนวน 5 แสนตัว
    2. การเตรียมสถานที่ปลูกพันธ์ไม้ โดยปักไม้ไฝ่นำร่อง พร้อมด้วยเชื่อกฝางไว้สำหรับผู้ต้นกล้า
    3. การเตรียมซั้งสำหรับปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ ที่สะพานท่เทียบเรือบากันเคย

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    จากการทำกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ ครั้งที่ 4 ได้ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ จำนนวน 5 แสนตัว ปลูกพันธ์ไม้ชายเลน จำนว  500  ต้น ได้รับความร่วมมือจากชุมชนเป็นอย่างดี เป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้ชุมชนเกิดการอนุรักษ์มากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องที่ชุมชนให้ความสำคัญ  และการบูรณาการร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดและสถานีพัฒนาป่าชายเลน จังหวัดสตูล ในการจัดกิจกรรม ซึ่งนำไปสู่การก่อตัวของชุมชนในการเข้ามามีบทบาทบทจัดการทรัพยากรในรูปแบบต่างๆ ภายใต้การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาครัฐ และองค์กรพัฒนาเอกชน ทำให้สามารถนำไปสู่การจัดการทรัพยากรของชุมชนที่เป็นระบบ เป็นรูปธรรม และคืนความสมบูรณ์แก่ระบบนิเวศชายฝั่ง ซึ่งแนวทางในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งแบบยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของของชุมชน จะมีการประสานความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรชุมชน ให้สามารถพึ่งตนเอง และสนับสนุนให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืนส่งเสริมการเรียนรู้ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมสืบสานภูมิปัญญา พัฒนาองค์ความรู้ในการจัดการทรัพยากรและการดำรงชีวิต รวมทั้งการสนับสนุนจากภาคี องค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน

     

    50 60

    33. ประชุมคณะทำงานครั้งที่ 12

    วันที่ 22 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    สรุปผลการตั้งมาตรการ กฎกติกาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของชุมชน ตามที่ได้ประชุมกำหนดกฏกติกา การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล
    และมีการปิดประกาศที่มัสยิด ดังนี้

    1. ห้ามทำการประมงทุกชนิดบริเวณห่างจากฝั่งลงในทะเลเป็นระยะ300 เมตร จนถึงหน้ากระชัง (ยกเว้น ย้ำกั้ง ตกปลา ไซปูดำ)

    2. ห้ามทำประมงทุกชนิดบริเวณ แนวเขตปะการังเทียม (ยกเว้น ตกปลา)

    3. ต้องมีการปลูกพันธ์ไม่ป่าชายเลน อย่างน้อย ปีละ 2,000ต้น หรือ 2 ไร่/ปี

    4. ต้องมีการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำอย่างน้อย ปีละ2 ครั้ง

      ให้ปิดประกาศทั้งชุมชนและมีการประกาศที่มัสยิดเพื่อให้ทุกคนได้รับทราบอย่างทั่วถึงและถือปฏิบัติอย่างเคร่วงครัด หากมีการฝ่าฝืนคนที่ได้ผลกระทบไม่ใช้ใครที่ไหนแต่เป็นคนในชุมชนนั้นเอง ดังนั้นทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏกติกาที่ตั้งไว้เพื่อให้มีทรัพยากรใช้ตลอดไป

      1. การถอดบทเรียนจากการทำโครงการ ให้คณะทำงานสรุปผลโครงการที่ได้ดำเนินการมาแล้วทั้งหมด โดยสรุปตามวัตถุประสงค์ปัญหาอุปสรรค และแนวทางแก้ไข องค์ความรู้ที่ชุมชนได้รับการ การถ่ายทอดองค์ความรู้ การจัดการกับทรัพยากรต่อไป

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ผลการถอดบทเรียนโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย ดังนี้
    ข้อสรุปที่ได้จากากรทำโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย คนบากันเคย ส่วนใหญ่ มีอาชีพประมงชายฝั่ง การประมงที่อาศัยเครื่องมือประมงอย่างง่าย ซึ่งได้รับการสืบสานมาจากภูมิปัญญาดั้งเดิม บ้างหรือได้จากการคิดค้นประดิษฐ์ใหม่บ้าง แต่มีลักษณะที่เหมือนกันคือ เป็นเครื่องมือที่ไม่ทำลายล้างและไม่เบียดเบียนทรัพยากรธรรมชาติมีความพอเพียง ประกอบกับเรือขนาดเล็กสำหรับออกหาสัตว์น้ำในทะเล ถือได้ว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีในตำราเรียน มีความหลากหลายของทรัพยากรและมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง หากแต่การใช้ประโยชน์ก็มีความหลากหลายเช่นกัน ด้วยจำนวนชาวประมงพื้นบ้านที่มีอยู่ทั่วไปรอบอ่าวตันหยงโป ซึ่งไม่เพียงแต่ชาวประมงพื้นบ้านในตำบลนี้ตำบลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวประมงพื้นบ้านตำบลใกล้เคียง คือ ตำบลเกาะสาหร่าย ตำบลปูยู ตำบลเจ๊ะบิลัง ตำบลตำมะลัง ประมาณการว่าจะมีชาวประมงขนาดเล็กเข้ามาทำการประมงในบริเวณแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 1,500 ลำ และยังไม่รวมเรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ (จังหวัดใกล้เคียง เช่น ตรัง กระบี่ ภูเก็ต) ก็ยังมีการเข้ามาทำกินในอ่าวแห่งนี้ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งกำลังการผลิตตามธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดบวกกับกำลังการใช้ประโยชน์ที่นับวันจะทวีมากขึ้นอย่างไร้ขอบเขต ไร้การควบคุม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังรอการแก้ไขเช่นกัน

    ปัญหาการทำประมงที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและละเมิดกฎหมายการทำประมง จะเกิดขึ้นกับชุมชนประมงในทุกพื้นที่ของประเทศไทย และชาวบ้านตันหยงโปก็ไม่เคยรู้เช่นกันว่ามีกฎหมายมาตราใดที่ระบุถึงข้อห้ามในการทำประมงทำลายล้างอย่างอวนรุน อวนลาก และเรือปั่นไฟ แต่เขารู้ว่าถ้าหากเรืออวนรุนเข้ามาทำการในอ่าวตันหยงโป นั่นหมายความว่า หายนะ กำลังคืบคลานเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้

    ด้วยวิถีชาวประมงพื้นบ้านที่ฝากปากท้องไว้กับความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ส่งผลให้ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาชุมชนในบ้านบากันเคย ได้ให้ความสำคัญในการดูแลรักษา และวางแผนการจัดการทรัพยากรมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความพยายามที่จะสร้างการความร่วมมือในชุมชนด้วยกันเองและอาศัยภายใต้การมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาครัฐ นำไปสู่การจัดการทรัพยากรของชุมชนที่เป็นระบบและเป็นรูปธรรม ดังนี้

    1. การจัดการทรัพยากรชายฝั่งโดยชุมชน มีความสอดคล้องกับแนวคิดพื้นฐานที่มาจากการประสมประสาน การอนุรักษ์และการพัฒนา ดังนี้
      1.1 การสร้างจิตสำนึกให้กับคนในชุมชน และบุคคลภายนอกในการอนุรักษ์หวงแหนทรัพยากร และเห็นความสำคัญของทรัพยากรที่มีต่อมวลมนุษย์
      1.2 การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและบุคคลภายนอกในการเฝ้าระวังสถานการณ์ต่าง ๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายของทรัพยากรชายฝั่ง
      1.3 การอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งในรูปแบบต่าง ๆ ที่เห็นได้ชัดในส่วนของกิจกรรมเกี่ยวกับป่าชายเลนตามแนวทางของชุมชนเป็นไปในลักษณะการปลูกทดแทนในส่วนที่โดนทำลายไปโดยฝีมือของมนุษย์แล้วหรือเสื่อมโทรมตามธรรมชาติ การใช้ประโยชน์จากป่าชายเลนโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับป่า เช่น การใช้ประโยชน์ไม้โกงกาง เพื่อการสร้างบ้านเรือน คอกสัตว์ มีการใช้ตามความเหมาะสม ไม่ทำลายล้าง การอนุรักษ์สัตว์น้ำ เป็นกิจกรรมสำคัญที่คนในชุมชนทุกคน มีจิตสานึกด้วยตัวเอง โดยการจับสัตว์น้ำขนาดใหญ่ ไม่จับสัตว์น้ำขนาดเล็ก หรือเมื่อติดเครื่องมือมาแล้วก็จะมีการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
      1.4 การกำหนดเขตอนุรักษ์ และเขตควบคุมการทำประมงผิดกฎหมายทำลายล้าง
      1.5 การวางกฎกติกา การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของชุมชน

    2. แนวทางในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งของชุมชน เพื่อแก้ปัญหาทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน มีการประสานความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ นำไปสู่แนวทางในการจัดการ 4 แนวทาง คือ
      2.1 ร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์การเกษตร (กลุ่มบากันเคย) ให้สามารถพึ่งตนเองได้
      2.2 ร่วมสนับสนุนให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน
      2.3 ร่วมเรียนรู้ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนประสบการณ์
      2.4 ร่วมสืบสานภูมิปัญญาพัฒนาองค์ความรู้

    โดยอาศัยวิธีการหรือกระบวนการทำงานตามแนวทางดังกล่าวข้างต้น ดังนี้
    1. เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับคนในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นเป้าหมายในการทำงานด้านการอนุรักษ์ให้มีความตระหนักและมีจิตสานึกในการอนุรักษ์
    2. เสริมสร้างกระบวนการกลุ่มในการทำกิจกรรมต่าง ๆ กล่าวคือ ในการทำกิจกรรมหรืองานต่าง ๆ ของกลุ่ม จะให้สมาชิกกลุ่มรวมตัวกัน โดยนำกระบวนการกลุ่มมาใช้ในการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
    3. เสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการทำงานและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่ม
    4. การกระตุ้นสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้กับคนในชุมชนผ่านการดำเนินการ ในกิจกรรมต่าง ๆ
    5. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น หน่วยงานรัฐ องค์กรพัฒนาเอกชนและภาคีความร่วมมือต่าง ๆ ในการดำเนินงานกิจกรรม

    จะเห็นได้ว่าชุมชนเกิดการเรียนรู้ การวิเคราะห์สภาพปัญหาอย่างถ่องแท้ ของชุมชน มีการกำหนดทิศทางและเป้าหมาย การวางแผนและการปฏิบัติที่สามารถดำเนินการได้จริง จึงเกิดการรวมตัวของคนในชุมชนเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในรูปแบบต่างๆ ภายใต้การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาครัฐ ทำให้สามารถนำไปสู่การจัดการทรัพยากรของชุมชนที่เป็นระบบ เป็นรูปธรรม และคืนความสมบูรณ์แก่ระบบนิเวศชายฝั่ง และสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรชุมชน ให้สามารถพึ่งตนเอง และสนับสนุนให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืนส่งเสริมการเรียนรู้ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมสืบสานภูมิปัญญา พัฒนาองค์ความรู้ในการจัดการทรัพยากรและการดำรงชีวิต รวมทั้งการสนับสนุนจากภาคี องค์กรที่เกี่ยวข้อง

     

    27 20

    34. เดินทางไปหาพี่เลี้้ยงขอคำแนะนำ

    วันที่ 17 มิถุนายน 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    สรุปโครงการ รายละเอียดกิจกรรม และตรวจเอกสารแต่ละกิจกรรม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    เอกสารรายละเอียดของแต่ละกิจกรรมของโครงการ

     

    1 1

    35. ตรวจหลักฐานทางการเงินและปิดโครงการ

    วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    ตรวจติดตามโครงการและตรวจหลักฐานทางการเงิน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ตรวจติดตามโครงการและตรวจหลักฐานทางการเงินเพื่อปิดโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย หมู่ที่ 3

     

    2 2

    36. จัดทำรายงานสรุปผลโครงการ

    วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    จัดทำรายงานโครงการเป็นรูปเล่ม เพื่อเผยแพร่ให้กับหน่วยงานต่างๆและชุมชนได้ศึกษาต่อไป

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ได้รูปเล่มรายงานโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย จำนวน  10 เล่ม

     

    1 1

    37. ล้างอัดภาพกิจกรรม

    วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    ล้างอัดขยายภาพ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ได้ภาพที่ล้างอัดขยายแล้วทุกกิจกรรม

     

    1 1

    * ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
    ** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


    ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

    ผลการดำเนินโครงการ

    สรุปผลการดำเนินโครงการ

    ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
    บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
    บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
    ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

     

    ผลผลิตโครงการ

    วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
    1 เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการตนเองด้วยกระบวนการสภาชุมชนบ้านบากันเคย
    ตัวชี้วัด : 1.เกิดสภาองค์กรชุมชนนบากันเคย
    • สภาองค์กรชุมชนบ้านบากันเคยเป็นสภาที่ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากการเสียสละของตัวแทนชุมชนมีน้อยและบางครั้งคนที่เสียสละเข้ามายังไม่ได้รับการยอมรับจากสมาชิกชุมชนส่วนใหญ่ ทำให้การแก้ไขปัญหาบางอย่างเป็นไปแนวางแดียวกัน แต่บางปัญหาแนวทางการแก้ไขยังไม่สอดคล้องกันมีความเห็นที่แตกต่างกันยังหาจุดศูนย์กลางไม่ได้ ส่วนเรื่องการกำหนดกฎกติการการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรของชุมนสภาองค์กรชุมชนบ้านบากันเคยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นที่ตรงกัน คือ 1. ห้ามทำการประมงทุกชนิดบริเวณห่างจากฝั่งลงในทะเลเป็นระยะ300 เมตร จนถึงหน้ากระชัง (ยกเว้น ย้ำกั้ง ตกปลา ไซปูดำ)
    1. ห้ามทำประมงทุกชนิดบริเวณ แนวเขตปะการังเทียม (ยกเว้น ตกปลา)
    2. ต้องมีการปลูกพันธ์ไม่ป่าชายเลน อย่างน้อย ปีละ 2,000ต้น (หรืออย่างน้อย 2 ไร่/ปี)
    3. ต้องมีการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำอย่างน้อย ปีละ2 ครั้ง ส่วนเรือประมงพานิช ที่มาทำการประมงบริเวณหน้าอ่าวตันหยงโป มีทั้งอวนลาก อวนลุน การไดหมึกที่ใช้แรงวัตต์ไฟฟ้าสูงมากๆๆ ทำให้ปลาหมึกหน้าอ่าวตันหยงโปหมดไป และสัตว์เล็กๆก็ตายหมดรวมทั้งหญ้าทะเลด้วย จึงต้องให้ทางประมงจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการเนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ ในส่วนนี้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตันหยงโปได้เรียกผู้นำ อปท.ที่มีพื้นที่ติดกับชายฝั่งทะเลทั้งจังหวัดสตูล พร้อมด้วยตัวแทนจากประมงจังหวัด กรมเจ้าท่า มาปรึกษาหารือ ถึงมาตรการการทำประมงพื้นบ้าน ชนิด ขนาด ของอุปกรณ์ เครื่องมือการทำประมงพื้นบ้าน ให้มีมาตรฐานเดียวกัน และวิธีการจัดการกับเรือประมงพานิชที่เข้ามาทำการประมงบริเวณหน้าอ่าวของแต่ละพื้นที่ ส่วนเรื่องอื่นๆยังไม่สามารถดำนเนิการได้ เช่น กฎการเลี้ยงสัตว์

    - สรุปว่าการกำหนดกฎกติการการใช้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสามารถดำเนินการได้จริงสำหรับในชุมชน

    2 เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรชายฝั่งประมงพื้นอย่างยั่งยืน
    ตัวชี้วัด : 1.ประชาชนจำนวน 50 คน มีความรู้ความเข้าใจและให้ความตระหนักต่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรบ้านบากันเคย 2.มีการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรคือ ปลูกป่าชายเลน ,ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ การวางปะการังเทียม ฯลฯ ปีละ 4 ครั้ง
    • ประชาชนที่เข้าร่วมทำกิจกรรมของชุมชนจำนวน 50 คน ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ฟืนฟูของทรัพยากรของชุมชนรวมทั้งมีความตระหนักต่อการอนุรักษ์ฟืนฟูเป็นอย่างดีและได้มีการถ่ายถอดองค์ความรู้ที่ได้จัดเก็บและรวบรวมมูลภายในชุมชนจากบุคคลที่มีองค์ความรู้แต่ละด้าน คือ นายสมาน มะสมัน มีความเชี่ยวชาญ เรื่องทิศทางลม นายนายกูสมาแอ สตอหลง มีความเชี่ยวชาญเรื่องทิศางน้ำ และทั้งสองสามารถถ่ายทอดประวัติความเป็นมาของชุมชนได้เป็นอย่างดี และทางคณะทำงานและประชาชนที่เข้าร่วมทำกิจกรรม ได้ริเริ่มก่อตั้งธนาคารสัตว์น้ำชุมชนบ้านบากันเคย (ปูม้าไข่นอกกระดอง) เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสัตว์น้ำ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือหนึ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เครือข่ายในชุมชน สืบเนื่องจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันเนื่องมาจากวิถี การผลิต และการใช้ประโยชน์ทรัพยากร นำไปสู่การการก่อตัวของชุมชนในการเข้ามามีบทบาทบทจัดการทรัพยากรในรูปแบบต่างๆ ภายใต้การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาครัฐ และองค์กรพัฒนาเอกชน ทำให้สามารถนาไปสู่การจัดการทรัพยากรของชุมชนที่เป็นระบบ เป็นรูปธรรม และคืนความสมบูรณ์แก่ระบบนิเวศชายฝั่ง ซึ่งแนวทางในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งแบบยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของของชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้ สามารถเรียนรู้ ถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์และร่วมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น และพัฒนาองค์ควารู้ในการจัดการทรัพยากรและการดำรงชีวิตได้

    • กิจกรรมการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากร การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ว่างเปล่าและในพื้นที่เสื่อมโทรมเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับทรัพยากรธรรมชาติและเพิ่มความหลากหลายของชนิดพันธุ์สัตว์น้ำ และปรับระบบนิเวศให้สมดุลกันและเพิ่มปริมาณพื้นที่ป่าชายเลนให้เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เพิ่มแหล่งพลังงาน อาหาร และที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์ตามธรรมชาติ และ ช่วยป้องกันชายฝั่งทะเลจากการกัดเซาะพังทลายกำบังคลื่น ลม กระแสน้ำและพายุ ที่พัดมาทำลายทรัพย์สินบริเวณบ้านเรือน ที่อยู่อาศัยของประชาชนในชุมชน

    • จากการจัดกิจกรรมได้รับการตอบรับจากชุมชนเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นกิจกรรมที่เห็นผลเป็นรูปธรรม และสามารถทำได้บ่อยครั้ง และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชน โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตำบลตันหยงโป สำนักงานประมงจังหวัดสตูล สำนักงานพัฒนาป่าชายเวนที่ 35 และ 34 จังหวัดสตูล หน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ 45 สตูล ทำให้ทุกคนในชุมชนจึงเกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรมากขึ้น นำไปสู่การกำหนดกฎระเบียบการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและการกำหนดพื้นที่และช่วงเวลาในการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงการทำธนาคารปูม้า เป็นต้น
    3 เพื่อการบริหารจัดการและการติดตามประเมินผลโครงการ
    ตัวชี้วัด : 1. จำนวนครั้งในการเข้าร่วมกิจกรรมกับ สสส.และ สจรส.

    จำนวน 3 ครั้ง

    ผู้เข้าร่วมโครงการ

    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
    จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)

    บทคัดย่อ*

    โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการตนเองด้วยกระบวนการสภาชุมชนบ้านบากันเคย (2) เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรชายฝั่งประมงพื้นอย่างยั่งยืน (3) เพื่อการบริหารจัดการและการติดตามประเมินผลโครงการ

    ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่

    ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

    หมายเหตุ *

    • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
    • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

    ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

    ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

     

     

     


    ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ

    แบบประเมินคุณค่าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ

    ชื่อโครงการ อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย

    รหัสโครงการ 57-01457 รหัสสัญญา 57-00-0860 ระยะเวลาโครงการ 1 มิถุนายน 2557 - 30 มิถุนายน 2558

    แบบประเมินคุณค่าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นการคุณค่าที่เกิดจากโครงการในมิติต่อไปนี้

    • ความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพและนวัตกรรมเชิงระบบสุขภาพชุมชน
    • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีผลต่อสุขภาวะ
    • การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะ
    • ผลกระทบเชิงบวกและนโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะชุมชน
    • กระบวนการชุมชน
    • มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่

    1. เกิดความรู้ หรือ นวัตกรรมชุมชน

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. ความรู้ใหม่ / องค์ความรู้ใหม่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. สิ่งประดิษฐ์ / ผลผลิตใหม่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. กระบวนการใหม่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. วิธีการทำงาน / การจัดการใหม่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. การเกิดกลุ่ม / โครงสร้างในชุมชนใหม่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    6. แหล่งเรียนรู้ใหม่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    99. อื่นๆ

     

     

     

    2. เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เอื้อต่อสุขภาพ

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. การบริโภค

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. การออกกำลังกาย

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. การลด ละ เลิก อบายมุข เช่น การพนัน เหล้า บุหรี่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. การลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ การขับรถโดยประมาท

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    6. การจัดการอารมณ์ / ความเครียด

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    7. การดำรงชีวิต / วิถีชีวิต เช่น การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเอง

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    8. พฤติกรรมการจัดการตนเอง ครอบครัว ชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    9. อื่นๆ

     

     

     

    3. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ (กายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ)

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. กายภาพ เช่น มีการจัดการขยะ ป่า น้ำ การใช้สารเคมีเกษตร และการสร้างสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนที่ถูกสุขลักษณะ

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. สังคม เช่น มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ลดการเกิดอุบัติเหตุ ครอบครัวอบอุ่น การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อเด็ก เยาวชน และกลุ่มวัยต่าง ๆ มีพื้นที่สาธารณะ/พื้นที่ทางสังคม เพื่อเอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชน มีการใช้ศาสนา/วัฒนธรรมเป็นฐานการพัฒนา

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. เศรษฐกิจสร้างสรรค์สังคม /สร้างอาชีพ / เพิ่มรายได้

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. มีการบริการสุขภาพทางเลือก และมีช่องทางการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. อื่นๆ

     

     

     

    4. การพัฒนานโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อสุขภาวะ

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. มีกฎ / กติกา ของกลุ่ม ชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. มีมาตรการทางสังคมของกลุ่ม ชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. มีธรรมนูญของชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. อื่นๆ เช่น ออกเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่น ฯลฯ

     

     

     

    5. เกิดกระบวนการชุมชน

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. เกิดการเชื่อมโยงประสานงานระหว่างกลุ่ม / เครือข่าย (ใน และหรือนอกชุมชน)

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. การเรียนรู้การแก้ปัญหาชุมชน (การประเมินปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการ และการประเมิน)

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. การใช้ประโยชน์จากทุนในชุมชน เช่น การระดมทุน การใช้ทรัพยากรบุคคลในชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่มและชุมชนที่เกิดจากโครงการอย่างต่อเนื่อง

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. เกิดกระบวนการจัดการความรู้ในชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    6. เกิดทักษะในการจัดการโครงการ เช่น การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ การทำแผนปฏิบัติการ

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    7. อื่นๆ

     

     

     

    6. มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. ความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง / กลุ่ม / ชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. การเห็นประโยชน์ส่วนรวมและส่วนตนอย่างสมดุล

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และพอเพียง

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. ชุมชนมีความเอื้ออาทร

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. มีการตัดสินใจโดยใช้ฐานปัญญา

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    6. อื่นๆ

     

     

     

    อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบ้านบากันเคย จังหวัด สตูล

    รหัสโครงการ 57-01457

    ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

    ................................
    ( นายรอซาด สุวาหลำ )
    ผู้รับผิดชอบโครงการ
    ......./............/.......

    vertical_align_topไปบนสุด