แบบรายงานผลการดำเนินโครงการประจำงวด 1
ชื่อโครงการ บ้านห้วยแหยง สืบสานภูมิปัญญา
ชุมชน บ้านห้วยแหยง ม.4 ต.ท่าประจะ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
รหัสโครงการ 58-03942 เลขที่ข้อตกลง 58-00-2020
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 15 กันยายน 2558 ถึง 15 ตุลาคม 2559
รายงานงวดที่ : 1 จากเดือน กันยายน 2558 ถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2559
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินโครงการ (แสดงผลการดำเนินงานรายกิจกรรมที่แสดงผลผลิตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. ปฐมนิเทศโครงการใหม่ |
||
วันที่ 3 ตุลาคม 2558 เวลา 08:00 น. - 22.30 น. น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อปฐมนิเทศโครงการใหม่ ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนสจรส.มอ.รวมกับพี่เลี้ยงจังหวัดนครศรึีธรรมราช จัดปฐมนิเทศโครงการ กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้ สจรส.มอ.ได้จัดปฐมนิเทศโครงการใหม่ที่ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
|
2 | 2 |
2. สภาผู้นำบ้านห้วยแหยง ครั้งที่ 1 |
||
วันที่ 5 ตุลาคม 2558 เวลา 09:00 น. -12.30 น. น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีการวางแผนการทำงานล่วงหน้า 2.มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม 3.มีการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ 4.มีสภาผู้นำ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ
ผลผลิต
1.มีผู้เข้าร่วมประชุม26คน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.ประชุมคณะทำงานทุกเดือนเป้าหมาย 15 คน จำนวน 12 ครั้งเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินกิจกรรม รายงานความก้าวหน้า ติดตามกิจกรรมดังนี้
1)สำรวจสถานกาณ์ในกลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด
2)สืบค้นสาเหตุการณ์ติดยาเสพติดในวัยรุ่น
3)วางแผนการแก้ปัญหายาเสพติดในวัยรุ่น
4)เรียนรู้วิถีภูมิปัญญาเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหายาเสพติด
-มวยไทยต้านยาเสติด
-การทำขนมจีน
-การตัดผม การโกนผม โกนหนวด
-แปรรูปอาหาร
-ปุ๋ยหมักและน้ำหมัก
-การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
-การแปรรูปอาหาร
5)การจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน
6)แลกเปลี่ยนเรียนรู้
7)คืนข้อมูลสู่ชุมชน กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เป็นกิจกรรมประชุมสภาผู้นำครั้งที่1โดยมีกำนันสุทัศน์ ปานจีนผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวทักทาย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยกำนันและคณะทำงานได้ของบประมาณจากสสส.และได้สนับสนุน ในชื่อโครงการบ้านห้วยแหยง สืบสานภูมิปัญญาโดยในโครงการก็จะมีกิจกรรม ที่จะทำในโครงการดังนี้
2.สำรวจสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชน โดยจะมีกลุ่มผู้นำชุมชนอสม. และกลุ่มเยาวชนร่วมกันจัดทำแบบสำรวจสถานการณ์ และผลกระทบจากปัญหายาเสพติด การลักขโมย ในชุมชน ใช้แบบสอบถาม สำรวจเป็นทีมและกำนันก็จะแจ้งประสานงานให้ทุกครัวเรือนรับทราบเพื่อขอความร่วมมือในการจัดทำแบบสำรวจ
และก็ร่วมสรุปและวิเคราะห์ผลการสำรวจครัวเรือนและรวบรวมข้อมูลที่ได้จากแบบสำรวจเป็นภาพของกลุ่มและหมู่บ้าน และก็นำข้อมูลไปคืนข้อมูลสู่ครัวเรือนและสู่ชุมชน
4.วิเคราะห์เส้นทางยาเสพติด
กำนันก็จะรวบรวมรายชื่อเยาวชน ที่มีประวัติเกี่ยวกับข้องกับยาเสพติด ทั้งที่เคยทดลอง เสพ หรือสนุกสนานตามเพื่อ โดยใช้ฐานข้อมูลเพื่อเชิญครอบครัวที่มีเยาวชน มานั่งพูดคุย เพื่อปรับความเข้าใจ ปรับแนวคิด และหาวิเคราะห์หาเส้นทางยาเสพติดในชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน 5.จัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน
โดยจะเชิญแกนนำอาสา ครูภูมิปัญญา มานั่งทำความเข้าใจ และให้มีการฝึกสาธิต เขียนแนวทางปฏิบัติที่วัยรุ่นสามารถเรียนรู้และปฏิบัติได้ซึ่งจะจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้แก่เยาวชนกลุ่มที่ติดยาและกลุ่มเสี่ยงได้เรียนรู้ในการปฏิบัติจริง โดยมีฐานเรียนรู้จำนวน 5 ฐาน ดังนี้ 2.1 ฐานเรียนรู้เรื่องศิลปะมวยไทยเป็นกระบวนการฝึกให้มีการเรียนรู้ในเรื่องการนำมวยไทยมาสร้างสุขภาพ เรียนรู้มวยไทยเพื่อการป้องกันตนเองเรียนรู้มวยไทยเพื่ออนุรักษ์ไทย2.2 ฐานเรียนรู้เส้นทางขนมจีน เป็นการฝึกให้มีการเรียนรู้ในการนำวัตถุดิบในชุมชน คือ ข้าว มาแปรรูปเป็นขนมจีน จะสอนตั้งแต่การเตรียม การทำขนมจีน โดยเน้นความปลอดภัย สะอาด ไม่มีสารกันบูด2.3 ฐานเรียนรู้เรื่องการตัดผม โกนผม โกนหนวด เป็นฐานสำหรับเยาวชนชาย-หญิง ได้เรียนรู้เรื่องการดูแลตนเอง สอนเทคนิคการตัดผม การโกนหนวด การโกนผม 2.4 ฐานการเรียนรู้เรื่องปุ๋ยหมัก น้ำหมัก เป็นการนำเศษอาหาร เศษผัก หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ มาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ ไปใช้ในการเกษตร ทำให้ผลผลิตที่ออกมาปลอดภัย ปลอดสารพิษ 2.5 ฐานเรียนรู้เรื่องการแปรรูปอาหาร เป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่เหลือจากชุมชนมาแปรรูป ได้แก่ ปลาดุกแดดเดียว สามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ในอนาคตและเรียนรู้การถนอมอาหารอย่างปลอดภัย
|
26 | 26 |
3. ประชาสัมพันธ์โครงการ |
||
วันที่ 6 ตุลาคม 2558 เวลา 09.00 น. - 16.30 น. น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อให้คนชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติดด้วยกระบวนการสืบสานภูมิปัญญาของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิดการพัฒนาหมู่บ้านมากขึ้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานพบว่า 1.ประชาชน 155 คน เข้าร่วมประชุมและได้แจ้งให้ชุมชนทราบถึงวัตถุประสงค์และที่มาของโครงการ สสส. 2.ได้บอกกล่าวถึงเรื่องงบประมาณที่ได้รับและวิธีการบริหารจัดการ ประชาชนได้รับรุ้ข้อมูลเท่ากัน 3.แจ้งให้ประชาชนในชุมชนทราบถึงกิจกรรมต่างๆที่จะต้องเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนโดยการใช้ภูมิปัญญาในท้องถิ่นที่มีอยู่ เช่นศิลปะมวยไทย การทำขนมจีนการตัดผลโกนโหนด ปุ๋ยหมัก แปรรูปอาหาร 4.เป็นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน
-เส้นทางมวยไทย
-เส้นทางขนมจีน
-การตัดผม โกนผม โกนหนวด
-ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
-การแปรรูปอาหาร
กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เป็นกิจกรรมประชาสัมสัมพันธ์โครงการและเปิดดครงการโดยวันนี้จะมีพี่เลี้ยงคือคุณโชตินันท์จันทโชติมาร่วมชี้แจงและประชาสัมพันธ์โครงการเริ่มด้วยกำนันสุทัศน์ ปานจีนกล่าวตอนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งทางกำนันและคณะทำงานก็ได้ของบประมาณจาก สสส.เพื่อมาพัฒนากระบวนกการการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อให้เกิดกิจกรรมที่ชุมชนสามารถร่วมกันพัฒนาเองได้ และหลังจากนั้นก็ได้เชิญพี่เลี้ยงมาพูดคุยและชี้แจงกิจกรรมที่จะมีขึ้นในโครงการโดยโครงการมีวัตถุประสงค์คือ 1.มีสภาผู้นำที่เข้มแข็ง สภาผู้นำมีการประชุมทุกเดือนการประชุมสภาผู้นำแต่ละครั้ง มีผู้เข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 85การประชุมทุกครั้งมีการปรึกษาเรื่องการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้าน
2.เพื่อให้คนชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติดด้วยกระบวนการสืบสานภูมิปัญญา
1)โดยครัวเรือนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 30 ครัวเรือนเข้าร่วมกิจกรรมทุกครัวเรือน และกิจกรรมที่จะมีขึ้น คือ
1.จะมีสภาผู้นำชุมขน โดยจะมีการคัดเลือกผู้นำชุมชน เครือข่ายกลุ่มต่าง ๆ คณะกรรมการหมู่บ้าน และและคนในชุมชนเพื่อมาพัฒนาเป็นสภาผู้นำชุมชน และคณะทำงาน โดยจะมีการประชุม ทุกเดือนเดือนละครั้งเพื่อจะเป็นการติดตามโครงการ และวางแผนในการทำกิจกรรมต่างๆในโครงการ 2.มีการสำรวจสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชน โดยจะมีกลุ่มผู้นำชุมชนอสม. และกลุ่มเยาวชนร่วมกันจัดทำแบบสำรวจสถานการณ์ และผลกระทบจากปัญหายาเสพติด การลักขโมย ในชุมชน ใช้แบบสอบถาม สำรวจเป็นทีมและกำนันก็จะแจ้งประสานงานให้ทุกครัวเรือนรับทราบเพื่อขอความร่วมมือในการจัดทำแบบสำรวจและก็ร่วมสรุปและวิเคราะห์ผลการสำรวจครัวเรือนและรวบรวมข้อมูลที่ได้จากแบบสำรวจเป็นภาพของกลุ่มและหมู่บ้าน และก็นำข้อมูลไปคืนข้อมูลสู่ครัวเรือนและสู่ชุมชน
4.การวิเคราะห์เส้นทางยาเสพติด
กำนันก็จะรวบรวมรายชื่อเยาวชน ที่มีประวัติเกี่ยวกับข้องกับยาเสพติด ทั้งที่เคยทดลอง เสพ หรือสนุกสนานตามเพื่อ โดยใช้ฐานข้อมูลเพื่อเชิญครอบครัวที่มีเยาวชน มานั่งพูดคุย เพื่อปรับความเข้าใจ ปรับแนวคิด และหาวิเคราะห์หาเส้นทางยาเสพติดในชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน 5.จัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน
โดยจะเชิญแกนนำอาสา ครูภูมิปัญญา มานั่งทำความเข้าใจ และให้มีการฝึกสาธิต เขียนแนวทางปฏิบัติที่วัยรุ่นสามารถเรียนรู้และปฏิบัติได้ซึ่งจะจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้แก่เยาวชนกลุ่มที่ติดยาและกลุ่มเสี่ยงได้เรียนรู้ในการปฏิบัติจริง โดยมีฐานเรียนรู้จำนวน 5 ฐาน ดังนี้ 2.1 ฐานเรียนรู้เรื่องศิลปะมวยไทยเป็นกระบวนการฝึกให้มีการเรียนรู้ในเรื่องการนำมวยไทยมาสร้างสุขภาพ เรียนรู้มวยไทยเพื่อการป้องกันตนเองเรียนรู้มวยไทยเพื่ออนุรักษ์ไทย2.2 ฐานเรียนรู้เส้นทางขนมจีน เป็นการฝึกให้มีการเรียนรู้ในการนำวัตถุดิบในชุมชน คือ ข้าว มาแปรรูปเป็นขนมจีน จะสอนตั้งแต่การเตรียม การทำขนมจีน โดยเน้นความปลอดภัย สะอาด ไม่มีสารกันบูด2.3 ฐานเรียนรู้เรื่องการตัดผม โกนผม โกนหนวด เป็นฐานสำหรับเยาวชนชาย-หญิง ได้เรียนรู้เรื่องการดูแลตนเอง สอนเทคนิคการตัดผม การโกนหนวด การโกนผม 2.4 ฐานการเรียนรู้เรื่องปุ๋ยหมัก น้ำหมัก เป็นการนำเศษอาหาร เศษผัก หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ มาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ ไปใช้ในการเกษตร ทำให้ผลผลิตที่ออกมาปลอดภัย ปลอดสารพิษ 2.5 ฐานเรียนรู้เรื่องการแปรรูปอาหาร เป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่เหลือจากชุมชนมาแปรรูป ได้แก่ ปลาดุกแดดเดียว สามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ในอนาคตและเรียนรู้การถนอมอาหารอย่างปลอดภัย
|
150 | 155 |
4. การทำป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ จำนวน 1 ป้าย |
||
วันที่ 10 ตุลาคม 2558 เวลา 09:00 น. 12.00 น. น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์โครงการ และรณรงค์การงดสูบบุหรี่ ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงาน
ผลผลิต
1.มีป้ายชื่อโครงการ1ป้าย กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนจัดทำป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่จำนวน 1 ป้ายปิดไว้ ณ หอประชุมหมู่บ้านและฐานเรียนรู้ กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้กำนันสุทัศน์ ปานจีนและนายปราโมทย์ชูทิพย์ได้ไปทำป้ายโครงการได้ไป ทำป้ายกิจกรรมโครงการ 1 ป้าย ป้ายเขตปลอดบุหรี่ 1 ป้าย เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์โครงการและเป็นการรณรงค์การงดสูบบุหรี่ เพื่อติดไว้ ณ หอประชุมหมู่บ้าน บ้านห้วยแหยง
|
2 | 2 |
5. สำรวจสถานการณ์ยาเสพติดครั้งที่ 1 |
||
วันที่ 12 ตุลาคม 2558 เวลา 09.00 น. - 17.00 น น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อให้คนชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติดด้วยกระบวนการสืบสานภูมิปัญญาของคนในชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีฐานข้อมูลครัวเรือนและฐานข้อมูลชุมชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงจากการสำรวจและสอบถามกลุ่มเป้าหมายพบว่าเยาวชนได้เข้าใจถึงโทษของยาเสพติดแต่ยังมีเยาวชนบางกลุ่มยังไม่เข้าใจถึงพิษภัยของยาเสพติดและผู้สำรวจได้ชี้แจงว่ายาเสพติดเป็นอันตรายต่อชีวิตและสังคม ครอบครัว ประเทศชาติ ดังน้ั้นเราในฐานะเยาวชนของชาติต้องหลีกเดลี่ยงยาเสพติดจึงต้องช่วยกันรณรงค์มิให้มียาเสพติดเกิดขึ้นในชุมชนของเรา ข้อมูลรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชน พบว่า
และจากการสำรวจข้อมุลกลุ่มวัยทำงานพบว่า สรุปผลการดำเนินงานพบว่า
กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.กลุ่มผู้นำชุมชน สท. อสม. และกลุ่มเยาวชนร่วมกันจัดทำแบบสำรวจสถานการณ์ และผลกระทบจากปัญหายาเสพติด การลักขโมย ในชุมชน ใช้แบบสอบถาม สำรวจเป็นทีมผู้นำ 1 คนอสม 2 คนเยาวชน 2 คน แบ่งเป็น 6 ทีม จำนวน 15 วัน
2.กำนันแจ้งประสานงานให้ทุกครัวเรือนรับทราบเพื่อขอความร่วมมือในการจัดทำแบบสำรวจ กิจกรรมที่ทำจริงนายสุทัศน์ ปานจีนได้มอบหมายให้คณะทำงานออกสำรวจสถานการณ์ยาเสพติดกลุ่มเป้าหมายอายุ 20 -35 ปี เพื่อต้องการให้ช่วยกันลด ละเลิกยาเสพติด เพราะยาเสพติดเป็นเครื่องบั่นทอนอนาคตของเยาวชนผลการสำรวจออกมาชุมชนในพื้นที่มีความเห็นด้วยกับโครงการนี้
|
30 | 30 |
6. สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่2 |
||
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้1.สรุปกิจกรรมที่ผ่านมา2.วางแผนดำเนินกิจกรรมต่อไป3.รับฟังข้อเสนอแนะของคณะทำงาน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีการวางแผนการทำงานล่วงหน้า 2.มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม 3.มีการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ 4.มีสภาผู้นำ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานพบว่า กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.ประชุมคณะทำงานทุกเดือนเป้าหมาย 15 คน จำนวน 12 ครั้งเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินกิจกรรม รายงานความก้าวหน้า ติดตามกิจกรรมดังนี้
1)สำรวจสถานกาณ์ในกลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด
2)สืบค้นสาเหตุการณ์ติดยาเสพติดในวัยรุ่น
3)วางแผนการแก้ปัญหายาเสพติดในวัยรุ่น
4)เรียนรู้วิถีภูมิปัญญาเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหายาเสพติด
-มวยไทยต้านยาเสติด
-การทำขนมจีน
-การตัดผม การโกนผม โกนหนวด
-แปรรูปอาหาร
-ปุ๋ยหมักและน้ำหมัก
-การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
-การแปรรูปอาหาร
5)การจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน
6)แลกเปลี่ยนเรียนรู้
7)คืนข้อมูลสู่ชุมชน กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เป็นกิจกรรมสภาชุมชนครั้งที่ 2 ข้อมูลรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชน พบว่า 1.วัยรุ่นยังยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดร้อยละ 2 2.วัยรุ่นยังยุ่งเกี่ยวกับน้ำกระท่อม ร้อยละ 5 3.วัยรุ่นยังสูบบุหรี่ โดยตังหรือทดลอง ร้อยละ 65 4.วัยรุ่นมีการดื่มสุรา ร้อยละ 32 และจากการสำรวจข้อมุลกลุ่มวัยทำงานพบว่า และได้พูดคุยปรึกษาหารือถึงปัญหาในชุมชนว่าจะทำอย่างไรให้ชุมชนมีความสุขและลุกเดินไปข้างหน้า
โดยไม่มียาเสพติดในชุมชนของเราเพื่ออนาคตของลูกหลานในวันข้างหน้า ที่ประชุมได้มีการเสนอว่าครอบครัวต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขยาเสพติดโดยการบุรณาการของทุกหน่วยงานต้องให้ความรว่มมือกันและหันมาแก้ไขปัญหาให้หมดไปและเราต้องช่วยกันให้เยาวชนมีคุณภาพต่อสังคมต่อไปและฝากถึงคณะทำงานให้ช่วยประชาสัมพันธ์บอกให้ชาวบ้านร่วมมือในการแก้ปัญหาครั้งนี้โดยให้มาเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ
|
26 | 26 |
7. สำรวจสถานการณ์ยาเสพติด ครั้งที่ 2 |
||
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ติดตามสถานการณ์ยาเสพติด ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีฐานข้อมูลครัวเรือนและฐานข้อมูลชุมชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ
ผลการสำรวจ พบว่า สถานการณ์ยาเสพติดในชุมชนมีการลดละเลิกไปได้เป็นจำนวนไม่น้อย เนื่องจากเยาวชนมีความเข้าใจในเรื่องของยาเสพติดมากขึ้นและครอบครัวหันมาสนใจบุตรหลานมากขึ้นจึงทำให้ยาเสพติดในชุมชนลดน้อยลง และคนในชุมชนมีความเห็นว่่าโครงการนี้มีประโยชน์ต่อส่วนรวมมากเยาวชนจะได้มีอนาคตที่ดีต่อไป สาเหตุการติดยาเสพติด
กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.กลุ่มผู้นำชุมชน สท. อสม. และกลุ่มเยาวชนร่วมกันจัดทำแบบสำรวจสถานการณ์ และผลกระทบจากปัญหายาเสพติด การลักขโมย ในชุมชน ใช้แบบสอบถาม สำรวจเป็นทีมผู้นำ 1 คนอสม 2 คนเยาวชน 2 คน แบ่งเป็น 6 ทีม จำนวน 15 วัน
2.กำนันแจ้งประสานงานให้ทุกครัวเรือนรับทราบเพื่อขอความร่วมมือในการจัดทำแบบสำรวจ กิจกรรมที่ทำจริงสำรวจครั้งที่ 2 เพื่อติดตามการสำรวจครั้งที่1 และวันนี้ได้วิเคราะห์ปัญหายาเสพติดเกิดจากอะไร
|
30 | 30 |
8. วิเคราะห์เส้นทางยาเสพติด |
||
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้1.เพื่อให้รู้ที่มาของยาเสพติด2. เพื่อให้เยาวชนมีส่วนร่วมกำหนดแนวทางแก้ปัญหายาเสพติด 3. ทำให้เกิดเกิดภาพการทำงานร่วมกันระหว่างเยาวชนกับผู้นำชุมชน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ปัญหายาเสพติด 2.เยาวชนมีส่วนร่วมกำหนดแนวทางแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน 3.เกิดภาพการทำงานร่วมกันระหว่างเยาวชนกับผู้นำชุมชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานโครงการ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.กำนันรวบรวมรายชื่อเยาวชน ที่มีประวัติเกี่ยวกับข้องกับยาเสพติด ทั้งที่เคยทดลอง เสพ หรือสนุกสนานตามเพื่อ โดยใช้ฐานข้อมูลที่ได้รับจากสถานีตำรวจที่ว่าการอำเภอ หรือเทศบาล
2.เชิญครอบครัวที่มีเยาวชน มานั่งพูดคุย เพื่อปรับความเข้าใจ ปรับแนวคิด และหาวิเคราะห์หาเส้นทางยาเสพติดในชุมชน กิจกรรมที่ทำจริงจากการสำรวจกลุ่มเสพยาเสพติดของหมู่บ้านจากกลุ่มเป้าหมาย 60 คน โดยมีการเชิญกลุ่มเป้าหมายมาประชุมเพื่อให้ความรู้และพูดคุยเพื่อหาสาเหตุของการติดยาและแหล่งมั่วสุมเพื่อหาทางออกและห่างไกลยาเสพติดที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองหรือร่วมกับชุมชน โดยมีการจัดทำกิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเสี่ยงที่สอดคล้องกับวิถีประจำวันในชุมชนที่ตนอยู่ จากการสำรวจข้างต้นทำให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมวิเคราะห์แก้ไขปัญหายาเสพติดจึงทำให้มีการประสานงานกันระหว่างผู้นำกัลเยาวชน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนโดยกลุ่มเป้าหมายและคณะทำงานร่วมกันนำภูมิปัญญยาในชุมชนมาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวเช่นการเรียนรู้ศิลปะมวยไทย การทำขนมจีน การแปรรูปอาหาร และการทำปุ๋ยหมัก วันนี้ชวนกลุ่มเยาวชนมาเรียนรู้เรื่องยาเสพติด ผลกระทบ และการแก้ปัญหา
1. สถานการณ์ยาเสพติด จากข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด นับแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2546 ถึง 30 เมษายน 2546 ตามนโยบายประกาศสงครามกับยาเสพติดขั้นแตกหัก ผลปรากฏว่า มีการจับกุมผู้ผลิต 423 ราย ผู้ต้องหา 353 คน จับกุมรายสำคัญ 1,505 ราย ผู้ต้องหา 1,729 คน รายย่อย 13,748 ราย ผู้ต้องหา 14,585 คน จับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาบ้า 19,112 ราย ผู้ต้องหา 19,663 คน จับกุมผู้เสพ 19,442 ราย ผู้ต้องหา 19,653 ราย ตั้งจุดสกัด 182,123 ครั้ง จับกุมผู้เสพยาเสพติดได้ 5,041 ราย ผู้ต้องหา 5,322 คน ปิดล้อมแหล่งยาบ้า 64,911 ครั้ง จับกุมผู้เสพยาบ้าได้ 10,165 ราย ผู้ต้องหา 10,884 คน เข้าตรวจสถานบริการ 87,776 ครั้ง ตรวจปัสสาวะ 49,718 ราย พบปัสสาวะสีม่วง 2,679 คน รวมผู้ต้องหาที่จับได้ทั้งหมด 54,983 ราย จำนวนผู้ต้องหาทั้งสิ้น 55,983 คน ยึดของกลางยาบ้าได้ทั้งหมด 13,150,335 เม็ด และผลจากมาตรการดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 1,600 คน ? ผลสะท้อนจากนโยบายของรัฐบาล ได้รับเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องจากประชาชน
+ เกิดความสงสัย อยากลอง ซึ่งพบในกลุ่มเด็กและเยาวชนผู้มีอายุน้อยมีความกระตือรือร้นอยากท้าทาย อยากทดลอง
+ ความหายาก หาง่าย ภายในสภาพแวดล้อม ถ้าหายาได้ง่ายก็จะทำให้เกิดการลองใช้ยาได้มากขึ้น แต่ในทางกลับกันถ้าไม่สามารถหายาได้หรือหายายากก็จะทำให้ไม่มีโอกาสในการทดลองยา
ผลกระทบต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม
4.2 การแก้ไขปัญหายาเสพติด
สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบันเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า มีทั้งผู้เสพ ผู้จำหน่าย ผู้ผลิต และผู้เสี่ยงที่จะไปใช้ยาเสพติดเพราะถูกชักจูงหรืออยากทดลอง ดังนั้นการป้องกันปัญหาอย่างเดียวทำไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหายาเสพติดไปพร้อมๆ กัน ในเมื่อสถานการณ์ปัจจุบันมีทั้งผู้เสพ ผู้จำหน่าย ผู้ผลิต และกลุ่มเสี่ยง เราจะทำอย่างไรบุคคลเหล่านี้จึงจะหมดไป ในที่นี้ไม่ได้หมายความเช่นเดียวกับรัฐบาลที่กำลังทำให้บุคคลเหล่านี้หมดไปจากโลกนี้ แต่หมายความว่า ทำอย่างไรบุคคลเหล่านี้จะเลิกเสพ เลิกผลิต เลิกค้า สิ่งที่กำนันสุทัศน์ได้พูดคุย เป็นเส้นทางของยาเสพติดท่ี่ทุกคนต้องช่วยกัน ปิดประชุม
|
60 | 60 |
9. สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่3 |
||
วันที่ 6 ธันวาคม 2558 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้1.วางแผนการดำเนินกิจกรรมครั้งต่อไป 2.สรุปกิจกรรมที่ได้ดำเนินไปแล้ว ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีการวางแผนการทำงานล่วงหน้า 2.มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม 3.มีการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ 4.มีสภาผู้นำ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต 1.มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 27คน ผลลัพธ์ 1.ได้ชี้แจงการทำกิจกรรมในครั้งที่ผ่านมาคือกิจกรรมสำรวจสถานการณ์ยาเสพติด ครั้งที่ 2 และกิจกรรมวิเคราะห์เส้นทางยาเสพติด 2.ได้นัดหมายชี้แจงกิจกรรมในครั้งต่อไปคือกิจกรรมอบรมการเขียนรายงานและการจัดการเอกสารการเงินในวันที่ 7ธันวาคม2559 กิจกรรมสำรวจสถานการณ์ยาเสพติด ครั้ง 3ในวันที่14ธันวาคม2559 กิจกรรมจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน ครั้งที่ 1 ในวันที่ 18ธันวาคม2559และกิจกรรมเรียนรู้ฐานภูมิปัญญา ครั้งที่ 1ในวันที่ 19ธันวาคม2559 ซึ่งเป็นการเรียนรู้ในเรื่องของศิลปะแม่ไม้มวยไทย และประชุม สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่ 4 ในวันที่6มกราคม 2559 กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.ประชุมคณะทำงานทุกเดือนเป้าหมาย 15 คน จำนวน 12 ครั้งเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินกิจกรรม รายงานความก้าวหน้า ติดตามกิจกรรมดังนี้
1)สำรวจสถานกาณ์ในกลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด
2)สืบค้นสาเหตุการณ์ติดยาเสพติดในวัยรุ่น
3)วางแผนการแก้ปัญหายาเสพติดในวัยรุ่น
4)เรียนรู้วิถีภูมิปัญญาเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหายาเสพติด
-มวยไทยต้านยาเสติด
-การทำขนมจีน
-การตัดผม การโกนผม โกนหนวด
-แปรรูปอาหาร
-ปุ๋ยหมักและน้ำหมัก
-การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
-การแปรรูปอาหาร
5)การจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน
6)แลกเปลี่ยนเรียนรู้
7)คืนข้อมูลสู่ชุมชน กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เป็นกิจกรรมประชุมสภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่ 3 กำนันสุทัศน์ได้กล่าวขอบคุณคณะทำงานที่ช่วยกันในการสำรวจปัญหายาเสพติดเพื่อนำไปวิเคราะห์แก้ไขปัญหาให้กับชุมชนให้ห่างไกลจากยาเสพติดเพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนควรแก้ไขให้ถูกต้องที่สุดเพราะปัจจุบันยาเสพติดที่เยาวชนหันมาเสพกันมากคือน้ำกระท่อม จึงขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานและทุกครัวเรือน ทุกคนหันมาแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไป และนัดหมายชี้แจงกิจกรรมในครั้งต่อไปคือกิจกรรมอบรมการเขียนรายงานและการจัดการเอกสารการเงินที่มหาวิทยาลัยลักษณ์ในวันที่ 7ธันวาคม2559 กิจกรรมสำรวจสถานการณ์ยาเสพติด ครั้ง 3ในวันที่14ธันวาคม2559 กิจกรรมจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน ครั้งที่ 1 ในวันที่ 18ธันวาคม2559และกิจกรรมเรียนรู้ฐานภูมิปัญญา ครั้งที่ 1ในวันที่ 19ธันวาคม2559 ซึ่งเป็นการเรียนรู้ในเรื่องของศิลปะแม่ไม้มวยไทย และประชุม สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่ 4 ในวันที่6มกราคม 2559
|
26 | 27 |
10. อบรมการเขียนรายงานและการจัดการเอกสารการเงิน |
||
วันที่ 7 ธันวาคม 2558 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้1.เพื่ิอรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการ 2.เพื่อให้รู้วิธีการเขียนรายงาน 3.เพื่อรับทราบข้อมูลจาก จสรส มอ. ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต
1.ตัวแทนโครงการเข้าร่วมกิจกรรม 3 คน
2.ได้ฝึกการบันทึกลงเวปไซด์ 1 กิจกรรม
ผลลัพธ์
1.มีความรู้และเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเขียนผลลัพธ์ ผลผลิต กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนอบรมให้ความรู้แก่ผู้รับผิดชอบโครงการเพื่อสร้างความเข้าใจในการบันทุึกกิจกรรม กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เป็นกิจกรรมอบรมการเขียนรายงานและการจัดการเอกสารการเงิน และต้องไปพบปะพี่เลี้ยง และ สจรส.มอ.ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เวลา 09.30น.ได้พบพี่เลี้ยงเพื่อติดตามผลงานทำกิจกรรม เพื่อเตรียมความพร้อม และบันทึกกิจกรรมรายงานกิจกรรมที่เกิดขึ้น และได้พบ เจ้าหน้าที่ จากสจรส.มอ.โดยได้ชี้แจงเกี่ยวกับ 1.การเขียนรายงานและการเงินการบันทึก รายงานลงโปรแกรมโดยในการบันทึกข้อมูลนั้นในช่องกิจกรรม ผลดำเนินการ อาจจะเขียนในแบบกำหนดการเช่น 08.30 - 9.00 น. นัดประชุมที่ศาลาหมู่บ ้าน 9.00 – 10.00 น. คัดเลือกทีมงานสภาผ้นู ำ ชุมชน 10.00 – 12.00 น. วางแผนการดำเนินโครงการ เขียนในแบบเล่าเรื่อง พี่น้องในชุมชนร่วมใจเดินทางมาประชุมที่ศาลาหมู่บ้าน จากการชักชวนของผู้ใหญ่และเพื่อนบ้านมานนั่งคุยคัดเลือกทีมงานสภาผู้นำชุมชน วางแผนการทำงานโครงการในอนาคตส่วนการเขียนผลสรุปที่ได้จากกิจกรรมเช่น เขียนในแบบเป็นข้อๆ ผลผลิต 1. ผ้เูข้าร่วมกิจกรรมประชุมสภา จำนวน 100 คน 2. ได้คณะทำงานสภาผู้นำชุมชน 1 ชุด ซึ่งได้คัดเลือกร่วมกันและยอมรับในชุมชน 3. ได้แผนการดำเนินงาน 1 ฉบับ ผลลัพธ์ 1. ผ้เูข้าร่วมตัดสินใจร่วมกันคัดเลือกสภาผู้นำ มีความรู้ความเช้าใจเรื่องของโครงการ 2. รายชื่อสภาผู้นำมีดังนี้โดยแบ่งหน้าที่ไว้ดังนี้ 3. แผนการดำเนินงานมีดังนี้. .......เขียนในแบบเล่าเรื่อง........ ผลผลิต พี่น้องในชุมชนร่วมใจเดินทางมาประชุมที่ศาลาหมู่บ้าน 100 คน ได้ประชุมคัดเลือกสภาผู้นำจำนวน 20 คน และวางแผนการดำเนินร่วมกัน ผลลัพธ์ สภาผู้นำ มี นาย.... เป็นผู้ใหญ่บ้านนางสาว........เป็น อสม. นาง....../ แบ่งหน้าที่ประธานดูแลตัดสินใจทั้งหมด เลขาทำหน้าที่จดประชุม ประสานงาน....../ ได้วางแผนกันต่อไปว่าจะทำ.....ประชุมทุกวันที่ 10 ของเดือน........ และอย่าลืมคลิ๊กเลือกการประเมินกิจกรรมด้วยว่ามีผู้เข้าร่วมในเกณฑ์ระดับไหน และก็การบันทึกรายการการเงิน แนะนำการแยกประเภทของงบประมาณคือ 1)ค่าตอนแทนเช่นค่าวิทยากรค่าเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการประชุมค่าการประสานงาน 2)ค่าจ้างเช่นค่าจ้างทำป้ายไวนิล 3)ค่าใช้สอยเช่นค่าที่พักค่าอาหารค่าห้องประชุมค่าถ่ายเอกสารค่าเดินทางค่าเช่ารถค่านำ้มันรถ 4)ค่าวัสดุเช่าค่ากระดาษปากกา 5)ค่าสาธารณูปโภคเช่นค่าส่งไปรษณีย์ค่าโทรศัพท์
|
2 | 3 |
11. สำรวจสถานการณ์ยาเสพติด ครั้ง 3 |
||
วันที่ 14 ธันวาคม 2558 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีฐานข้อมูลครัวเรือนและฐานข้อมูลชุมชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงาน พบว่า กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.กลุ่มผู้นำชุมชน สท. อสม. และกลุ่มเยาวชนร่วมกันจัดทำแบบสำรวจสถานการณ์ และผลกระทบจากปัญหายาเสพติด การลักขโมย ในชุมชน ใช้แบบสอบถาม สำรวจเป็นทีมผู้นำ 1 คนอสม 2 คนเยาวชน 2 คน แบ่งเป็น 6 ทีม จำนวน 15 วัน
2.กำนันแจ้งประสานงานให้ทุกครัวเรือนรับทราบเพื่อขอความร่วมมือในการจัดทำแบบสำรวจ กิจกรรมที่ทำจริงจากการสำรวจติดตามสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชนครั้งที่3 พบว่าเยาวชนที่ติดยาได้ลดลงมากเนื่องจากมีความเข้าใจในเรื่องของโทษภัยยาเสพติดและกลุ่มเยาวชนด้วยกันได้มีการชักชวนกันมาเล่นกีฬามากขึ้น ดังนั้นสภาผู้นำเห็นว่าเราต้องดำเนินการเรื่องยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากชุมชนของเรา จึงได้หารือกันว่าจะทำอย่างไรและได้มีมติที่ประชุมว่าต้องการให้ครอบครัวมีส่วนร่งวมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากชุมชน จึงเห็นสมควรให้มีการจัดตั้งฐานเรียนรู้ตามภูมปัญญาท้องถิ่นเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้และสืบทอดภูมิปัญญาต่อไปและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และเป็นการสร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ผลการสำรวจข้อมุูลยาเสพติด ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 3มีการสำรวจเปรียบเทียบข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชน พบว่า 1.วัยรุ่นยังยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดครั้งที่ 1 พบ ร้อยละ 2ครังที่ 3 พบร้อยละ 0.5 2.วัยรุ่นยังยุ่งเกี่ยวกับน้ำกระท่อมครั้งที่ 1พบ ร้อยละ 5 ครั้งที่ 3 พบร้อยละ 2 3.วัยรุ่นยังสูบบุหรี่ โดยตังใจหรือทดลอง ครั้งที่ 1 พบ ร้อยละ 65ครังที่ 3 พบร้อยละ 52 4.วัยรุ่นมีการดื่มสุรา ครั้งที่ 1 พบ ร้อยละ 32ครั้งที่ 3 พบ ร้อยละ 27 ซึ่งจากการสำรวจและเฝ้าระวัง พบว่ากลุ่มวัยรุ่น ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดน้อยลง
|
30 | 30 |
12. จัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน ครั้งที่ 1 |
||
วันที่ 18 ธันวาคม 2558 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้1.เพื่อบอกรายละเอียดฐานชุมชนว่ามีกี่ฐาน ฐานอะไรบ้าง 2.เพื่อเตรียมฐานเรียนรู้ชุมชนครั้งที่1ให้เยาวชนฝึกการใช้ศิลปะมวยไทย ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีฐานเรียนรู้แต่ละฐานในชุมชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานโครงการ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.กำนันเชิญแกนนำอาสา ครูภูมิปัญญา มานั่งทำความเข้าใจ และให้มีการฝึกสาธิต เขียนแนวทางปฏิบัติที่วัยรุ่นสามารถเรียนรู้และปฏิบัติได้ โดยในแต่ละกลุ่มต้องมีผู้รับผิดชอบ 5 คน และจัดให้มีการถ่ายทอดความรู้แก่เยาวชนเยาวชนกลุ่มติดยาและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง คนในชุมชน แต่ละทีมต้องมีประธานกลุ่ม เลขากลุ่ม ประชาสัมพันธ์ และการจัดกิจกรรมในกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งในแต่ละกิจกรรมได้มีข้อตกลงร่วมกันคือเยาวชน1คนจะต้องนำผู้สูงอายุหรือผู้ปกครองเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 1 คน 2.จัดทำฐานเรียนรู้ชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้แก่เยาวชนกลุ่มที่ติดยาและกลุ่มเสี่ยงได้เรียนรู้ในการปฏิบัติจริง สถานที่เรียนรู้ หอประชุมหมู่บ้าน บ้านห้วยแหยง โดยมีฐานเรียนรู้จำนวน 5 ฐาน ดังนี้ 2.1 ฐานเรียนรู้เรื่องศิลปะมวยไทยเป็นกระบวนการฝึกให้มีการเรียนรู้ในเรื่องการนำมวยไทยมาสร้างสุขภาพ เรียนรู้มวยไทยให้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เรียนรู้มวยไทยเพื่อการป้องกันตนเอง เรียนรู้มวยไทยเพื่ออนุรักษ์ไทย ซึ่งมีปราชญ์ชุมชนคือนายสุชาติ ศิริชุมและนายประเสริฐ บัวกิ่ง เป็นครูผู้ฝึกสอน จำนวน 6 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องกฎกติกามารยาทของมวยไทย ครั้งที่ 2 เรียนรู้เรื่องการใช้อุปกรณ์มวยไทย ครั้งที่ 3 เรียนรู้เรื่องท่าศิลปะแม่ไม้มวยไทย ครั้งที่ 4 เรียนรู้เรื่องการชกต่อยและวิธีการป้องกันตัว ครั้งที่ 5 เรียนรู้เรื่องท่าไหว้ครูมวยไทย ครั้งที่ 6 ทบทวนการฝึกมวยไทยข้อ1-5 2.2 ฐานเรียนรู้เส้นทางขนมจีน เป็นการฝึกให้มีการเรียนรู้ในการนำวัตถุดิบในชุมชนคือ ข้าว มาแปรรูปเป็นขนมจีน ข้างที่แปรรูปได้ต้องมีความปลอดภัย ปลอดสารเคมี ซึ่งทบเรียนเรื่องขนมจีน จะสอนตั้งแต่การเตรียม การทำขนมจีน โดยเน้นความปลอดภัย สะอาด ไม่มีสารกันบูด และการจัดจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งทุกขั้นตอนต้องสะอาด ปลอดภัย เป็นการสอนให้เยาวชนได้เรียนรู้เรื่องคุณค่าภูมิปัญญา ซึ่งมีปราชญ์ชุมชนคือ นายสุทัศน์ ปานจีน และนายเผยอเกลี้ยงจันทร์ เป็นครูผู้ฝึกสอน จำนวน 3 คร้้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องวัสดุอุปกรณ์ ครั้งที่ 2 เรียนรู้เรื่องวิธีการทำขนมจีนร่วมกัน ครั้งที่ 3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันหลังจากกลับไปฝึกปฏิบัติที่บ้าน 2.3 ฐานเรียนรู้เรื่องการตัดผม โกนผม โกนหนวด เป็นฐานสำหรับเยาวชนชาย-หญิง ได้เรียนรู้เรื่องการดูแลตนเอง สอนเทนนิคการตัดผม การโกนหนวด การโกนผม ซึ่งการทำกิจกรรมดังกล่าวจำเป็นต้องใช้สมาธิ ต้องทำด้วยใจรัก และสามารถพัฒนาเป็นอาชีพในอนาคตได้ โดยมีปราชญ์ชุมชนคือนายสุทัศน์ ปานจีนและนายสุคนธ์บุญญานุกูล เป็นครูผู้ฝึกสอน จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องอุปกรณ์การตัดผมและวิธีการใช้ ครั้งที่ 2 เรียนรู้เรื่องการตัดผมทรงต่าง ๆ ครั้งที่ 3 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันหลังจากกลับไปฝึกประสบการณ์มาระยะหนึ่ง 2.4 ฐานการเรียนรู้เรื่องปุ๋ยหมัก น้ำหมัก เป็นการนำเศษอาหาร เศษผัก หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ มาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ ไปใช้ในการเกษตร ทำให้ผลผลิตที่ออกมาปลอดภัย ปลอดสารพิษ โดยมีปราชญ์ชุมชนคือ นายบุญฤทธิ์ คงดี และนายอุดมพรปั้นหนู จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องวิธีการทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ และนำไปปฏิบัติที่บ้านตนเอง ครั้งที่ 2 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งที่ 2 และศึกษาสูตรการทำปุ๋ยหมักของแต่ละคน 2.5 ฐานเรียนรู้เรื่องการแปรรูปอาหาร เป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่เหลือจากชุมชนมาแปรรูป ได้แก่ ปลาดุกแดดเดียว สามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ในอนาคตและเรียนรู้การถนอมอาหารอย่างปลอดภัย ซึ่งมีปราชญ์ชุมชนคือ นางเชย ปานจีน เป็นครูผู้ฝึกสอน จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องวิธีการทำปลาแห้ง ครั้งที่ 2 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ศึกษาสูตรการทำปลาแห้ง 3.ทุกฐานเรียนรู้ต้องจัดทำเป็นแนวทางปฏิบัติที่ทุกคนสามารถเข้าไปร่วมเรียนรู้ได้ตามความชอบ ตามความสนใจและสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน กิจกรรมที่ทำจริง1.กำนันเชิญแกนนำอาสา ครูภูมิปัญญาในด้านของมวยไทยคือนายสุชาติ ศิริชุมและนายประเสริฐ บัวกิ่งมานั่งทำความเข้าใจ และให้มีการเขียนแนวทางปฏิบัติที่วัยรุ่นสามารถเรียนรู้และปฏิบัติได้ซึ่งจะเป็นการเรียนรู้ภูมิปัญญามวยไทย เป็นการเรียนรู้กระบวนท่ามวยไทย การออกกำลังกาย และศิลปะการป้องกันตัวและให้เยาวชนได้รับการฝึกทักษะ เป็นเวลา 6 ครั้ง และไปฝึกการออกกำลังกายท่ามวยไทยต่อที่บ้าน โดยให้เรียนรู้กันที่ศาลาเอนกประสงค์ ซึ่งจัดทำเป็นฐานการเรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
ฐานเรียนรู้เรื่องศิลปะมวยไทยเป็นกระบวนการฝึกให้มีการเรียนรู้ในเรื่องการนำมวยไทยมาสร้างสุขภาพ เรียนรู้มวยไทยให้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เรียนรู้มวยไทยเพื่อการป้องกันตนเอง เรียนรู้มวยไทยเพื่ออนุรักษ์ไทยจำนวน 6 ครั้ง ดังนี้
|
110 | 111 |
13. เรียนรู้ฐานภูมิปัญญา ครั้งที่ 1 |
||
วันที่ 19 ธันวาคม 2558 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้1.เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับศิลปะมวยไทย2.เพื่อให้เยาวชนฝึกการใช้ศิลปะมวยไทย3.การถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.เยาวชนได้เรียนรู้และได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญา 2.เยาวชนได้เรียนรู้เอกลักษณ์และคุณค่าภูมิปัญญา 3.สร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นกับครูภูมิปัญญา 4.เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 5.เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม 6.เยาวชนได้มีงานทำและมีรายได้เจือจุนครอบครัว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงาน 6.ยาเสพติดในชุมชนลดลงเนื่องจากเยาวชนและประชาชนหันว่าสนใจในการฝึกมวยไทยเพราะสามารถหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้ กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.กำนันนำกลุ่มเยาวชนเป้าหมาย(เยาวชนกลุ่มที่ติดยาและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ผู้ปกครอง ผู้สูงอายุ) เข้าเรียนรู้ภูมิปัญญา โดยกำหนดให้ทุกคนต้องเรียนรู้ครบทั้ง 5 ฐาน 3.เรียนรู้การทำขนมจีนเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา การนำแป้งมาแปรรูป กระบวนการ ปลอดสารเคมี ความสะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารกันบูด และวิธีการจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคจำนวน 3 ครั้งซึ่งมีปราชญ์ชุมชนคือ นายสุทัศน์ ปานจีน และนายเผยอเกลี้ยงจันทร์ เป็นครูผู้ฝึกสอน 4.เรียนรู้เรื่องการตัดผม โกนผม โกนหนวด โดยเรียนรู้เทคนิคการตัดผม การใช้กรรไกร การใช้บัดตาเลี่ยน การตัดผมโกนผม เพื่อเสริมบุคลิกภาพ และ การโกนหนวด รวมทั้งสอนการพัฒนาบุคลิกภาพจำนวน 3 ครั้ง และนำกิจกรรมเหล่านี้ไปช่วยเหลือหรือพัฒนาบุคลิกภาพที่บ้านหรือเพื่อนบ้าน โดยมีปราชญ์ชุมชนคือนายสุทัศน์ปานจีน และนายเผยอเกลี้ยงจันทร์ เป็นครูผู้ฝึกสอน 5.เรียนรู้การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ เรียนรู้การนำเศษอาหาร เศษผัก วัสดุที่ย่อยสลายได้ มาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ เพื่อนำไปในการเกษตรที่บ้าน และส่งเสริมให้ปลูกผักปลอดสารพิษที่บ้าน จำนวน 3 ครั้ง และกำหนดให้มีการปลูกผักที่บ้าน ร่วมกับสมาชิกในบ้าน 6.เรียนรู้การแปรรูปอาหาร เป็นการเรียนรู้กระบวนการนำอาหารที่เหลือในครัวเรือน มาแปรรูป ได้แก่ ปลาดุกแดดเดียว และกำหนดให้ไปเรียนรู้วิธีการถนอมอาหารในบ้านเพิ่มเติมซึ่งมีนางเชยปานจีน เป็นครูฝึกสอน 7.จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เมื่อมีการเรียนรู้ในแต่ละฐานและนำไปปฏิบัติเองที่บ้าน โดยให้ทุกคนเล่าถึงกิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว กิจกรรมที่เหมาะกับตนเอง และกิจกรรมที่ดีมีอะไรบ้าง จำนวน 3 ครั้ง กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เป็นการเรียนรู้ฐานภูมิปัญญา ครั้งที่ 1 หลังจากได้มีการจัดทำฐานเรียนรู้เรียบร้อยแล้วคณะทำงานพร้อมด้วยกลุ่มเป้าหมายได้มาร่วมเรียนรู้ศิลปะมวยไทยโดยมีการเชิญปราชญ์ผู้มีความรู้ความสามารถในเชิงมวยไทยนายสุชาติ ศิริชุมและนายประเสริฐ บัวกิ่งมาสอนและแนะนำเกี่ยวศิลปะมวยไทยโดยเริมมาที่มาและบอกความหมายของมวยไทย มวยไทยนั้นมีมาพร้อมกับคนไทยมาแต่โบราณ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมของชาติไทยมาช้านาน ในสมัยโบราณประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ จึงมีการสู้รบกันอยู่เสมอๆ ดังนั้นชายไทยจึงนิยมฝึกมวยไทยควบคู่กับการฝึกอาวุธ ต่อมาได้พัฒนามาจนกลายเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น มีลีลาการเคลื่อนไหวที่สวยงามแฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่งดุดัน สามารถฝึกเพื่อป้องกันตนเอง เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย และเพื่อเป็นอาชีพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ศิลปะแม่ไม้มวยไทยหมายถึงการนำท่าของการผสมผสาน ของ การใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก เพื่อการรุก หรือรับ ในการต่อสู้ด้วย มวยไทยการจะใช้ศิลปะไม้มวยไทย ได้อย่าง ชำนาญ จะต้อง ผ่านการฝึก เบื้องต้น ในการใช้หมัด เท้า เข่าศอกแต่ละอย่าง ให้มีความคล่องแคล่วก่อนจากนั้น จึงจะหัด ใช้ผสมผสาน กันไปทั้งหมัด เท้า เข่า ศอกและศิลปะ การหลบหลีก ซึ่งก็ขึ้นอยู่ กับครูมวยไทย ที่จะคิดดัดแปลง พลิกแพลง เพื่อนำไปใช้ได้ผล ในอดีตมวยไทยไม่ได้ ใส่นวม จะชกกัน แต่ชกด้วยมือเปล่า หรือใช้ผ้าดิบ พันมือ จึงสามารถใช้มือ จับคู่ต่อสู้ เพื่อทุ่ม หัก หรือบิดได้ นักมวยจึงใช้ชั้นเชิง ในการต่อสู้ มวยไทย มากกว่าการใช้พละกำลัง จึงเกิด ท่า มวยมากมาย ต่อมามีการกำหนด ให้นักมวยไทย ใส่นวมในขณะขึ้นชก แข่งขัน เช่นเดียว กับมวยสากล และ มีการออกกฎกติกาต่าง ๆ เพื่อเป็น การป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น แก่ นัก มวยไทย และง่ายต่อการตัดสิน ท่ามวยไทย ที่มีมาแต่อดีต "บางท่าจึงไม่สามารถ นำมาใช้ ในการแข่งขันได้ ถือว่าผิดกติกา" และบางท่านัก มวยไทย ก็ไม่ สามารถ ใช้ได้ถนัด เนื่องจาก มีเครื่อง ป้องกัน ร่างกายมาก ท่ามวย บางท่า จึงถูกลืมเลือนไปในที่สุด
ซึ่งทุกคนก็น่าเคยได้ยินชื่อของนักมวยคนนี้คือนายขนมต้ม ซึ่งนายขนมต้มนี้ก็ เป็นเชลยไทยที่ถูกกวาดต้อนไปครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก ครั้งที่ ๒ต่อมาในปี พ.ศ.๒๓๑๗ พระเจ้ากรุงอังวะ กษัตริย์พม่าโปรดให้จัดงานพิธีสมโภชมหาเจดีย์ใหญ่ ณ เมืองร่างกุ้ง ทรงตรัสให้หานักมวยไทยฝีมือดี มาเปรียบกับนักมวยพม่า แล้วให้ชกกันที่หน้าพระที่นั่ง ในวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๓๑๗ ซึ่งนายขนมต้มชกชนะนักมวยพม่าถึง ๑๐ คน โดยไม่มีการพักเลย การชกชนะครั้งนี้เป็นการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในต่างแดนเป็นครั้งแรก ดังนั้นนายขนมจึงเปรียบเสมือน "บิดามวยไทย" และวันที่ ๑๗ มีนาคม ได้ ถือว่า เป็นวันมวยไทย
ซึ่ง ท่าของการใช้ศิลปะมวยไทยที่สำคัญที่สุด อันเป็นพื้นฐานของการใช้ไม้มวยไทย ซึ่งผู้ฝึกมวยไทยต้องเรียนรู้ และปฏิบัติให้ได้ก่อนที่จะฝึกลูกไม้ถือว่าเป็นการใช้ไม้มวยไทยที่ละเอียดขึ้น บูรพาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิได้จัดแบ่งแม่ไม้มวยไทยออกเป็น ๑๕ ไม้ ได้แก่
1)สลับฟันปลา 2)ปักษาแหวกรัง 3)ชวาซัดหอก 4)อิเหนาแทงกริช 5)ยอเขาพระสุเมรุ 6)ตาเถรค้ำฝัก 7)มอญยันหลัก 8)ปักลูกทอย 9)จระเข้ฟาดหาง 10)หักงวงไอยรา 11)นาคาบิดหาง 12)วิรุฬหกกลับ 13)ดับชวาลา 14)ขุนยักษ์จับลิง 15)หักคอเอราวัณ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมก็จะได้เรียนรู้กัน
|
180 | 180 |
14. สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่4 |
||
วันที่ 6 มกราคม 2559 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีการวางแผนการทำงานล่วงหน้า 2.มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม 3.มีการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ 4.มีสภาผู้นำ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม 26 คน
กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.ประชุมคณะทำงานทุกเดือนเป้าหมาย 15 คน จำนวน 12 ครั้งเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินกิจกรรม รายงานความก้าวหน้า ติดตามกิจกรรมดังนี้
1)สำรวจสถานกาณ์ในกลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด
2)สืบค้นสาเหตุการณ์ติดยาเสพติดในวัยรุ่น
3)วางแผนการแก้ปัญหายาเสพติดในวัยรุ่น
4)เรียนรู้วิถีภูมิปัญญาเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหายาเสพติด
-มวยไทยต้านยาเสติด
-การทำขนมจีน
-การตัดผม การโกนผม โกนหนวด
-แปรรูปอาหาร
-ปุ๋ยหมักและน้ำหมัก
-การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
-การแปรรูปอาหาร
5)การจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน
6)แลกเปลี่ยนเรียนรู้
7)คืนข้อมูลสู่ชุมชน กิจกรรมที่ทำจริงวันนี้เป็นกิจกรรมสภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่4ซึ่งวันนี้กำนันสุทัศน์ปานจีนผู้รับผิดชอบโครงการ ได้กล่าวทักทายผู้เข้าร่วมประชุมและชี้แจงถึงกิจกรรมที่ได้ทำผ่านมาคือกิจกรรมจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน ครั้งที่ 1 วาระที่ 2 เสนอเพื่อพิจารณา นายฉลอง เนียมสงค์ได้เสนอว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ครอบครัวไม่ยอมรับความจริง จึงร่วมกันแก้ปัญหาโดยให้ครอบครัวหันมายอมรับความจริงให้ได้และเปิดเผยให้สังคมหรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบเพื่อที่จะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา และได้นัดกิจกรรมในครั้งต่อไป คือกิจกรรมจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน ครั้งที่ 2 ในวันที่ 29 มกราคม 2559กิจกรรม เรียนรู้การปิดงวดรายงาน ครั้งที่ 1และพบพี่เลี้ยง ที่ กรรมสนับสนุนสุขภาพที่11 นครศรีธรรมราชในวันที่ 30มกราคม 2559
|
26 | 26 |
15. จัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน ครั้งที่ 2 |
||
วันที่ 29 มกราคม 2559 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อเตรียมวัตถุดิบอุปกรณ์และสถานที่เพื่อการเรียนรู้เรื่องการทำขนมจีน ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีฐานเรียนรู้แต่ละฐานในชุมชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม 110 คน เพื่อเรียนรู้การทำขนมจีนเพื่ออนาคตของชุมชนแบบยั่งยืนและมีสุขจึงได้มีการนัดคณะทำงานและกลุ่มเป้าหมายเพื่อได้ทำความเข้าใจว่าการทำขนมจีนนั้นคือการนำภุมิปัญญามาถ่ายทอดเพื่อให้เยาวชนได้มาเรียนรู้และสามารถนำไปประกอบอาชีพตนเองได้ เป้าหมายของโครงการคืออยากให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติดและมีรายได้เสริมเพื่อครอบครัว กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.กำนันเชิญแกนนำอาสา ครูภูมิปัญญา มานั่งทำความเข้าใจ และให้มีการฝึกสาธิต เขียนแนวทางปฏิบัติที่วัยรุ่นสามารถเรียนรู้และปฏิบัติได้ โดยในแต่ละกลุ่มต้องมีผู้รับผิดชอบ 5 คน และจัดให้มีการถ่ายทอดความรู้แก่เยาวชนเยาวชนกลุ่มติดยาและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง คนในชุมชน แต่ละทีมต้องมีประธานกลุ่ม เลขากลุ่ม ประชาสัมพันธ์ และการจัดกิจกรรมในกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งในแต่ละกิจกรรมได้มีข้อตกลงร่วมกันคือเยาวชน1คนจะต้องนำผู้สูงอายุหรือผู้ปกครองเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 1 คน 2.จัดทำฐานเรียนรู้ชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้แก่เยาวชนกลุ่มที่ติดยาและกลุ่มเสี่ยงได้เรียนรู้ในการปฏิบัติจริง สถานที่เรียนรู้ หอประชุมหมู่บ้าน บ้านห้วยแหยง โดยมีฐานเรียนรู้จำนวน 5 ฐาน ดังนี้ 2.1 ฐานเรียนรู้เรื่องศิลปะมวยไทยเป็นกระบวนการฝึกให้มีการเรียนรู้ในเรื่องการนำมวยไทยมาสร้างสุขภาพ เรียนรู้มวยไทยให้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เรียนรู้มวยไทยเพื่อการป้องกันตนเอง เรียนรู้มวยไทยเพื่ออนุรักษ์ไทย ซึ่งมีปราชญ์ชุมชนคือนายสุชาติ ศิริชุมและนายประเสริฐ บัวกิ่ง เป็นครูผู้ฝึกสอน จำนวน 6 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องกฎกติกามารยาทของมวยไทย ครั้งที่ 2 เรียนรู้เรื่องการใช้อุปกรณ์มวยไทย ครั้งที่ 3 เรียนรู้เรื่องท่าศิลปะแม่ไม้มวยไทย ครั้งที่ 4 เรียนรู้เรื่องการชกต่อยและวิธีการป้องกันตัว ครั้งที่ 5 เรียนรู้เรื่องท่าไหว้ครูมวยไทย ครั้งที่ 6 ทบทวนการฝึกมวยไทยข้อ1-5 2.2 ฐานเรียนรู้เส้นทางขนมจีน เป็นการฝึกให้มีการเรียนรู้ในการนำวัตถุดิบในชุมชนคือ ข้าว มาแปรรูปเป็นขนมจีน ข้างที่แปรรูปได้ต้องมีความปลอดภัย ปลอดสารเคมี ซึ่งทบเรียนเรื่องขนมจีน จะสอนตั้งแต่การเตรียม การทำขนมจีน โดยเน้นความปลอดภัย สะอาด ไม่มีสารกันบูด และการจัดจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งทุกขั้นตอนต้องสะอาด ปลอดภัย เป็นการสอนให้เยาวชนได้เรียนรู้เรื่องคุณค่าภูมิปัญญา ซึ่งมีปราชญ์ชุมชนคือ นายสุทัศน์ ปานจีน และนายเผยอเกลี้ยงจันทร์ เป็นครูผู้ฝึกสอน จำนวน 3 คร้้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องวัสดุอุปกรณ์ ครั้งที่ 2 เรียนรู้เรื่องวิธีการทำขนมจีนร่วมกัน ครั้งที่ 3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันหลังจากกลับไปฝึกปฏิบัติที่บ้าน 2.3 ฐานเรียนรู้เรื่องการตัดผม โกนผม โกนหนวด เป็นฐานสำหรับเยาวชนชาย-หญิง ได้เรียนรู้เรื่องการดูแลตนเอง สอนเทนนิคการตัดผม การโกนหนวด การโกนผม ซึ่งการทำกิจกรรมดังกล่าวจำเป็นต้องใช้สมาธิ ต้องทำด้วยใจรัก และสามารถพัฒนาเป็นอาชีพในอนาคตได้ โดยมีปราชญ์ชุมชนคือนายสุทัศน์ ปานจีนและนายสุคนธ์บุญญานุกูล เป็นครูผู้ฝึกสอน จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องอุปกรณ์การตัดผมและวิธีการใช้ ครั้งที่ 2 เรียนรู้เรื่องการตัดผมทรงต่าง ๆ ครั้งที่ 3 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันหลังจากกลับไปฝึกประสบการณ์มาระยะหนึ่ง 2.4 ฐานการเรียนรู้เรื่องปุ๋ยหมัก น้ำหมัก เป็นการนำเศษอาหาร เศษผัก หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ มาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ ไปใช้ในการเกษตร ทำให้ผลผลิตที่ออกมาปลอดภัย ปลอดสารพิษ โดยมีปราชญ์ชุมชนคือ นายบุญฤทธิ์ คงดี และนายอุดมพรปั้นหนู จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องวิธีการทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ และนำไปปฏิบัติที่บ้านตนเอง ครั้งที่ 2 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งที่ 2 และศึกษาสูตรการทำปุ๋ยหมักของแต่ละคน 2.5 ฐานเรียนรู้เรื่องการแปรรูปอาหาร เป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่เหลือจากชุมชนมาแปรรูป ได้แก่ ปลาดุกแดดเดียว สามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ในอนาคตและเรียนรู้การถนอมอาหารอย่างปลอดภัย ซึ่งมีปราชญ์ชุมชนคือ นางเชย ปานจีน เป็นครูผู้ฝึกสอน จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรียนรู้เรื่องวิธีการทำปลาแห้ง ครั้งที่ 2 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ศึกษาสูตรการทำปลาแห้ง 3.ทุกฐานเรียนรู้ต้องจัดทำเป็นแนวทางปฏิบัติที่ทุกคนสามารถเข้าไปร่วมเรียนรู้ได้ตามความชอบ ตามความสนใจและสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน กิจกรรมที่ทำจริง1.ให้ปราญช์ชุมชนถ่ายทอดความรู้เรื่อง วัตถุดิบ อุปกรณ์ และขั้นตอนวิธีการการทำขนมจีนให้เยาวชนและคนวัยทำงานในชุมชน เรียนรู้เรื่องเส้นขนมจีน ขนมจีน (Kanomjeen) เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่แปรรูปมาจากแป้งธรรมชาติในรูปของเส้นแป้งสุก สีขาว ขนาดเล็ก มีความนุ่ม ลื่น นิยมใช้รับประทานแทนข้าวคู่กับน้ำยาขนมจีนชนิดต่างๆหรือรับประทานคู่กับอาหารอื่นๆ เช่น ส้มตำ และเมนูยำต่างๆ การแปรรูปขนมจีน ถือเป็นภูมิปัญญาในการแปรรูปแป้งของคนไทยมาตั้งแต่สมัยอยุธยา สมัยก่อนนิยมใช้เป็นอาหารต้อนรับแขกในงานบุญต่างๆที่ขาดเสียมิได้ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังใช้เป็นอาหารอย่างหนึ่งสำหรับทุกเทศกาลงานบุญต่างๆ รวมถึงกลายเป็นอาหารที่นิยมรับประทานแทนข้าวได้ทุกเมื่อ ชนิดขนมจีน 1. ขนมจีนแป้งหมัก ขนมจีนแป้งหมักเป็นขนมจีนที่มีการผลิต และนิยมรับประทานมากในปัจจุบัน เนื่องจากให้เส้นที่อ่อนนุ่ม ลื่น มีกลิ่นหอมจากการหมัก และกระบวนการผลิตง่าย ไม่ซับซ้อน โดยผลิตจากข้าวหรือแป้งที่มีการหมักไว้ 2 –3 วัน ก่อนนำมาให้ความร้อน และรีดเป็นเส้น 2. ขนมจีนแป้งสด ขนมจีนแป้งสดเป็นขนมจีนที่ผลิตจากข้าวหรือแป้งสด โดยไม่ผ่านการหมักก่อน ทำให้ได้เส้นขนมจีนสีขาว เส้นค่อนข้างตึง และกระด้าง มีความนุ่มน้อย ไม่มีกลิ่นหมัก จึงไม่เป็นที่นิยมผลิต และรับประทานกันมากนัก 3. ขนมจีนแห้งกึ่งสำเร็จรูป เป็นขนมจีนอีกรูปแบบหนึ่งในรูปเส้นแห้งเพื่อให้เก็บได้นาน และพร้อมรับประทานได้ทุกเมื่อ โดยผลิตจากการหมักข้าวหรือแป้ง แล้วนำมานวด และขึ้นรูปให้เป็นเส้น หลังจากนั้นนำมาตัด และจัดเรียงก่อนเข้าเครื่องอบแห้งจนได้ขนมจีนแห้งที่สามารถเก็บไว้ได้นาน และพร้อมรับประทานด้วยการต้มภายใน 5-10 นาที คล้ายกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไป วิธีการทำขนมจีน (แบบหมัก) วัตถุดิบ 1. ข้าว ข้าวเป็นวัตถุดิบหลักในการทำขนมจีน โดยทั่วไปจะใช้ข้าวจ้าว จะไม่ใช้ข้าวเหนียว เพราะไม่ต้องการให้ขนมจีนเหนียวมาก โดยข้าวที่ใช้จะมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวประมาณ 3 เดือน ถึง 1 ปี ไม่ควรเป็นข้าวเก่า เพราะจะทำให้ขนมจีนมีสีเหลืองมาก การผลิตขนมจีนในระดับชุมชนมักใช้ข้าวจ้าวเม็ดเต็มหรือข้าวจ้าวเกรดที่ใช้บริโภคทั่วไป เช่น ข้าวหอมมะลิ แต่หากเป็นในระดับโรงงานมักใช้ข้าวหักหรือปลายข้าวเป็นหลัก และค่อนข้างเป็นข้าวเกรดปานกลาง 2. น้ำ น้ำที่ใช้ในทุกขั้นตอนการผลิตสามารถใช้ได้ทั้งน้ำฝน และน้ำประปา แต่ทั่วไปนิยมใช้น้ำประปามากที่สุด น้ำฝนจะมีใช้น้อยบางพื้นที่ชนบทเท่านั้น ส่วนน้ำบาดาลก็สามารถใช้ได้เช่นกันในเฉพาะบางพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาในเรื่องน้ำบาดาลเค็มหรือน้ำกร่อยมาก และเมื่อสูบขึ้นมาแล้ว ควรเก็บในบ่อพักเสียก่อนก่อนนำมาใช้ 3. เกลือ เกลือที่ผสมในขนมจีนใช้เพื่อป้องกันการเน่า เพิ่มรส และลดความเปรี้ยวของขนมจีน อาจเป็นเกลือสมุทรหรือเกลือสินเธาว์ก็ได้ แต่ควรมีความขาว และบริสุทธิ์มากพอ 4. สีผสมอาหารในบางครั้งการทำขนมจีนอาจต้องการเพิ่มสีสันให้แก่ขนมจีน เช่น สีชมพู สีเหลือง สีม่วง และสีเขียว เป็นต้น เพื่อให้ขนมจีนมีสีสันที่น่ารับประทานมากขึ้น และช่วยดึงดูดความสนใจในทางการตลาดได้อีกทาง ขั้นตอนการทำขนมจีน 1. การทำความสะอาด และแช่ข้าวเป็นขั้นตอนแรก ด้วยการนำข้าวมาแช่น้ำ และล้างทำความสะอาด โดยเฉพาะสิ่งปนเปื้อนที่มักลอยอยู่ชั้นบนหลังแช่ข้าวในน้ำ หลังล้างเสร็จให้แช่ข้าวสักพัก ก่อนนำเข้าขั้นตอนการหมัก 2. การหมักข้าวการหมักข้าวเป็นกระบวนการที่ใช้จุลินทรีย์เข้าช่วยย่อยแป้ง และทำให้เกิดกลิ่น ด้วยการหมักข้าวทั้งแบบแห้ง และแบบแช่น้ำ แต่ทั่วไปนิยมหมักแห้งมากที่สุด การหมักแห้งเป็นวิธีการหมักที่ไม่ต้องแช่ข้าว แต่จะให้น้ำแก่เมล็ดข้าวเป็นช่วงๆ เพื่อให้แป้งในเมล็ดข้าวมีการดูดซับน้ำ เกิดภาวะเหมาะสมของจุลินทรีย์ และทำให้นำมาบดได้ง่ายขึ้น ขั้นตอนการหมักมีดังนี้ – นำข้าวที่ล้างทำความ และแช่ได้เหมาะสมแล้ว ใส่ในภาชนะที่มีรูให้น้ำไหลผ่านได้ เช่น ตะกร้าไม้ไผ่ ตะแกรงลวด เป็นต้น การหมักจะเป็นการให้น้ำแก่เมล็ดข้าวทุกวันแบบไม่มีการแช่ ซึ่งมักจะหมักนาน 2-3 วัน (โรงงานมักหมักประมาณ 1-2 วัน/ครัวเรือน 2-3 วัน) – เมื่อหมักข้าวครบตามวันที่ต้องการ ให้สังเกตข้าวที่พร้อมนำมาใช้ ซึ่งจะมีลักษณะเม็ดพองโต มีสีใสออกคล้ำเล็กน้อย เมื่อบีบจะเปื่อยยุ่ยง่าย มีกลิ่นแรงจากการหมัก ซึ่งถือว่าลักษณะเหล่านี้เหมาะสำหรับนำมาบดขั้นต่อไป ทั้งนี้ การหมักข้าวไม่ควรหมักนานเกิน 3-4 วัน เพราะจะทำให้ข้าวมีสีคล้ำ และมีกลิ่นคล้ายกลิ่นข้าวบูดได้ โดยจุลินทรีย์ที่ตรวจพบ ได้แก่ Bacillus subtilis, Lactobacillus plantarum เป็นต้น 3. การบดข้าวเป็นขั้นตอนนำข้าวมาบดผ่านเครื่องบดเพื่อให้เมล็ดข้าวแตกเป็นผงขนาดเล็ก โดยมักบดขณะที่ข้าวอิ่มน้ำ ร่วมกับเติมน้ำขณะบด โดยข้าวที่บดจะแตกเป็นผงละลายมากับน้ำ ผ่านผ้าขาวสำหรับกรองให้ไหลลงตุ่ม ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจเติมเกลือประมาณ 4 ส่วน สำหรับป้องกันการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ 4. การนอนแป้งการนอนแป้งเป็นขั้นตอนที่ใช้ในระดับครัวเรือน ด้วยการแช่น้ำแป้งให้ตกตะกอน น้ำแป้งส่วนบนจะมีสีเหลือง และสิ่งปนเปื้อนสีดำคล้ำจะลอยอยู่บนสุด ในขั้นตอนนี้จะทำการล้างน้ำแป้ง ด้วยการให้น้ำ และปล่อยให้ตกตะกอน ซึ่งจะทำให้แป้งขาวสะอาด และมีกลิ่นน้อยลง 5. การทับน้ำหรือการไล่น้ำขั้นตอนนี้เป็นวิธีการกำจัดน้ำออกจากน้ำแป้ง ด้วยการนำน้ำแป้งใส่ผ้าขาวที่มัดห่อให้แน่น แล้วนำของหนักมาทับเพื่อให้น้ำไหลซึมผ่านออก ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 วัน หลังจากนั้นจะได้ก้อนแป้งที่มีน้ำประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ 6. การต้มหรือนึ่งแป้งเป็นขั้นตอนที่ทำให้แป้งสุกประมาณ 25-35 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น เพื่อไม่ให้แป้งเหนียวมากเกินไป สำหรับระดับครัวเรือนจะใช้วิธีการต้ม ส่วนในโรงงานจะใช้วิธีการนึ่งแทน ในระดับครัวเรือนจะใช้วิธีการปั้นแป้งเป็นก้อนๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20-25 ซม. นำใส่เสวียนหย่อนลงต้มในน้ำเดือด โดยให้แป้งสุกเข้าด้านในประมาณ 1-3 ซม. เท่านั้น อย่าให้แป้งสุกลึกมาก เพราะจะทำให้โรยเส้นได้ยาก 7. การนวดแป้ง เป็นขั้นตอนการนำก้อนแป้งมาบี้ให้ส่วนแป้งสุก และแป้งดิบผสมกัน ซึ่งอาจใช้มือหรือเครื่องจักรหรือครกไม้สำหรับชาวชนบท โดยสังเกตเนื้อแป้งขณะนวด หากแป้งแห้งมากให้ผสมน้ำร้อน หากแป้งเหนียวติดกันมากให้ผสมแป้งดิบ ก้อนแป้งที่เหมาะสำหรับโรยเส้นนั้น จะข้าวประมาณ 1 กิโลกรัม ที่ทำให้ได้ก้อนแป้งเหลวหนักประมาณ 3-3.5 กิโลกรัม มีลักษณะเป็นก้องแป้งอ่อนออกเหลวเล็กน้อย ในขั้นตอนการนวดแป้ง หากต้องการเพิ่มสีสันขนมจีนให้มีสีต่างๆจะทำในขั้นตอนนี้ ด้วยการเทสีผสมอาหารผสมลงนวดพร้อมก้อนแป้งให้มีสีเนื้อเข้ากัน 8. การกรองเม็ดแป้งในบางครั้งแป้งสุกอาจจับเป็นก้อนในขั้นตอนการนวดแป้ง หากนำไปโรยเส้นอาจทำให้เส้นขนมจีนไม่ต่อเนื่องได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องกรองแป้งหลังนวดด้วยผ้าขาวเสียก่อนเพื่อกำจัดก้อนแป้งสุกออกไปให้หมด 9. การโรยเส้น การโรยเส้นเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ขนมจีนเป็นเส้น ด้วยการบีบดันก้อนแป้งเหลวให้ไหลผ่านรูขนาดลงในน้ำเดือดเพื่อทำให้เส้นสุก โดยยังคงรูปเส้นเหมือนเดิม ซึ่งในระดับครัวเรือนจะใช้แว่นหรือเฝื่อน แว่นจะมีลักษณะเป็นแผ่นโลหะทรงกลมที่มีรูขนาดเล็กจำนวนมาก แว่นนี้จะถูกเย็บติดแน่นกับถุงผ้าที่ใช้สำหรับใส่ก้อนแป้งเหลว หลังจากนั้น รวบปลายผ้าเข้าหากัน และบีบดันแป้งให้ไหลผ่านรูลงหม้อต้ม เฝื่อนมีลักษณะเป็นหม้อทรงกลมขนาดเล็ก 2 อัน อันแรกด้านล่างมีรูขนาดเล็กจำนวนมาก ด้านบนมีหูล็อกติดสองข้างสำหรับจับ อันทีสองมีลักษณะเหมือนกันแต่เล็กกว่า และสามารถวางสวมอันแรกได้ ซึ่งจะใช้สำหรับดันก้อนแป้งให้ไหลผ่านรูของอันแรกลงหม้อต้ม ส่วนระดับโรงงานมักใช้ปั๊มแรงดันต่อท่อดันก้อนแป้งเหลวผ่านตะแกรงที่มีรูขนาดเล็กลักษณะคล้ายแว่นลงหม้อต้ม ซึ่งจะประหยัดแรงงาน และได้เส้นขนมจีนที่รวดเร็วกว่า เมื่อบีบเส้นลงหม้อต้มแล้ว ให้พยายามรักษาความร้อนให้คงที่ และรอจนกว่าเส้นขนมจีนจะลอยตัวจึงใช้ตะแกรงหรือกระชุตักขึ้นมา 10. การทำให้เย็น และจัดเรียงเส้นเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำขนมจีน ภายหลังจากต้มเส้นให้สุกลอยขึ้นด้านบนหม้อแล้ว ต่อมาจะใช้ตะแกรงหรือกระชุตักเส้นขนมจีนขึ้นมา แล้วจุ่มลงน้ำเย็นทันที รอจนเส้นเย็นพร้อมสามารถใช้มือจับได้เมื่อเส้นเย็นให้ใช้มือข้างที่ถนัดจับเส้นขึ้นมาพันรอบฝ่ามืออีกข้างที่วางในแนวตั้ง จนกระทั่งหมดความยาวเส้น พร้อมวางใส่ภาชนะบรรจุหรือตะแกรงที่มีช่องให้น้ำไหลผ่านได้ และเป็นภาชนะที่พร้อมส่งจำหน่ายได้ทันทีหรืออาจวางเรียงให้แห้งก่อนค่อยจัดเรียงในภาชนะจำหน่าย ทั้งนี้ พยายามเรียงเส้นให้เป็นแนวสม่ำเสมอ
|
110 | 110 |
16. เรียนรู้การปิดงวดรายงาน ครั้งที่ 1 |
||
วันที่ 30 มกราคม 2559 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อเรียนรู้การปิดรายงานงวดร่วมกับพี่เลี้ยง ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงานพบว่า กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนคณะทำงานร่วมกันเรียนรู้กับพี่เลี้ยง เพื่อปิดรายงานงวดที่ 1 กิจกรรมที่ทำจริงพี่เลี้ยงโครงการแนะนำเรื่องการตรวจสอบเอกสาร และรายละเอียดการลงเว็ป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้อง พี่เลี้ยงได้ช่วยตรวจสอบเอกสารให้กับโครงการทุกโครงการ
|
2 | 2 |
17. เรียนรู้ฐานภูมิปัญญา ครั้งที่ 2 |
||
วันที่ 31 มกราคม 2559 เวลา 08:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อรู้จักวิธีการทำขนมจีนและรู้วิธีการใช้เครื่องในการทำขนมจีนที่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.เยาวชนได้เรียนรู้และได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญา 2.เยาวชนได้เรียนรู้เอกลักษณ์และคุณค่าภูมิปัญญา 3.สร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นกับครูภูมิปัญญา 4.เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 5.เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม 6.เยาวชนได้มีงานทำและมีรายได้เจือจุนครอบครัว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงสรุปผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.กำนันนำกลุ่มเยาวชนเป้าหมาย(เยาวชนกลุ่มที่ติดยาและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ผู้ปกครอง ผู้สูงอายุ) เข้าเรียนรู้ภูมิปัญญา โดยกำหนดให้ทุกคนต้องเรียนรู้ครบทั้ง 5 ฐาน 3.เรียนรู้การทำขนมจีนเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา การนำแป้งมาแปรรูป กระบวนการ ปลอดสารเคมี ความสะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารกันบูด และวิธีการจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคจำนวน 3 ครั้งซึ่งมีปราชญ์ชุมชนคือ นายสุทัศน์ ปานจีน และนายเผยอเกลี้ยงจันทร์ เป็นครูผู้ฝึกสอน 4.เรียนรู้เรื่องการตัดผม โกนผม โกนหนวด โดยเรียนรู้เทคนิคการตัดผม การใช้กรรไกร การใช้บัดตาเลี่ยน การตัดผมโกนผม เพื่อเสริมบุคลิกภาพ และ การโกนหนวด รวมทั้งสอนการพัฒนาบุคลิกภาพจำนวน 3 ครั้ง และนำกิจกรรมเหล่านี้ไปช่วยเหลือหรือพัฒนาบุคลิกภาพที่บ้านหรือเพื่อนบ้าน โดยมีปราชญ์ชุมชนคือนายสุทัศน์ปานจีน และนายเผยอเกลี้ยงจันทร์ เป็นครูผู้ฝึกสอน 5.เรียนรู้การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ เรียนรู้การนำเศษอาหาร เศษผัก วัสดุที่ย่อยสลายได้ มาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ เพื่อนำไปในการเกษตรที่บ้าน และส่งเสริมให้ปลูกผักปลอดสารพิษที่บ้าน จำนวน 3 ครั้ง และกำหนดให้มีการปลูกผักที่บ้าน ร่วมกับสมาชิกในบ้าน 6.เรียนรู้การแปรรูปอาหาร เป็นการเรียนรู้กระบวนการนำอาหารที่เหลือในครัวเรือน มาแปรรูป ได้แก่ ปลาดุกแดดเดียว และกำหนดให้ไปเรียนรู้วิธีการถนอมอาหารในบ้านเพิ่มเติมซึ่งมีนางเชยปานจีน เป็นครูฝึกสอน 7.จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เมื่อมีการเรียนรู้ในแต่ละฐานและนำไปปฏิบัติเองที่บ้าน โดยให้ทุกคนเล่าถึงกิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว กิจกรรมที่เหมาะกับตนเอง และกิจกรรมที่ดีมีอะไรบ้าง จำนวน 3 ครั้ง กิจกรรมที่ทำจริงคณะทำงานได้นำกลุ่มเป้าหมายเพื่อมาเรียนรู้การทำขนมจีนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ 1แนะนำให้รู้จักอุปกรณ์การทำขนมจีน 2.แนะนำแป้งที่นำมาทำขนมจีน3.วิธีการโรยเส้นเพื่อให้ได้เส้นที่มีคุณภาพ 4. วิธีการบรรจุถุงเพื่อความสะอาดและสะดวกในการให้บริการ และกลุ่มเป้าหมายสามารถได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันได้และสร้างรายได้ให้กับครอบครัว วันนี้เป็นการเรียนรู้การทำขนมจีนไว้กินเองในครัวเรือน เป็นการทำขนมจีนแบบโบราณ ทำเองได้ที่้บ้าน
สิ่งที่จำเป็นคือ กระบอกขนมจีน เป็นแบบดั้งเดิม ซึ่งทำจากทองเหลือง เป็นเครื่องที่ใช้สำหรับกดเส้นขนมจีนให้ออกมาเป็นเส้นๆ
ส่วนวัตถุดิบที่มีหลักๆก็มี ข้าวเจ้า กับน้ำ ข้าวก็ไม่ใช่ว่าข้าวอะไรจะทำได้ ถ้าจะให้เส้นออกมานุ่มและพอดีต้องเลือกสรรค์ข้าวที่จะมาทำด้วยข้าวที่นิยมใช้ก็คือข้าวเหลืองอ่อน ข้าวนางพระยาข้าวปิ่นแก้ว และข้าว ตะเพราะแก้วข้าวเหล่านี้ควรเป็นข้าวเก่าเก็บเกี่ยวไม่ต่ำกว่า 3-4เดือน ควรเป็นข้าวที่ปลูกบนดอน มีดินเป็นทราย จะให้ผลผลิตที่ดีมากเลย ส่วนน้ำก็ต้องเป็นน้ำสะอาดปราศจากสิ่งห้อยแขวน ควรมีความกระด้างต่ำ
ขั้นตอนที่สองก็คือการนำข้าวที่หมักแล้วมาบดใช้ผ้ากรองขึงไว้บนปากภาชนะที่บดควรใส่น้ำลงไปทีละน้อยจะช่วยให้บดข้าวได้ง่ายขึ้นแต่ถ้าทำเส้นเป็นจำนวนมาก ก็จะใช้โม่แทนการบด ในขนะโม่จะต้องใส่เกลือลงไป 7% ของน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งเกิดการหมักก่อนขั้นตอนการนอนแป้ง ขั้นตอนที่สามก็คือการนอนแป้ง เมื่อโม่แป้งเสร็จแล้วแป้งจะมีสีคล้ำมากการล้างแป้งจะช่วยให้แป้งคล้ำน้อยลงและกำจัดตะกอนสูดำๆให้หมดไป แล้วยังทำให้กลิ่นหมักน้อยลงด้วยวิธีการล้างแป้งก็คือ การเอาน้ำผสมกับแป้งแล้วปล่อยให้ตกตะกอน น้ำต้องใส่เกลือด้วยควรล้างประมาณ5-6ครั้งคะ แป้งที่ล้างแล้วสามารถนำไปทำขนมจีนได้ เราก็จะเรียกว่าขนมจีนแป้งสด หรือว่าจะผสมเกลือก็จะสามารถเก็บไว้ได้ ขั้นตอนที่สี่ คือการทับน้ำ เป็นการกำจัดน้ำส่วนเกินออก ด้วยการนำน้ำแป้งใส่ถุงผูกปากเอาไว้ทับด้วยของหนักทิ้งไว้1คืนน้ำที่เหลืออยู่ในแป้งจะลดน้อยลงคะขึ้นอยู่กับน้ำหนักและระยะเวลาการทับด้วย ขั้นที่ห้า ขั้นนี้ก็คือการต้มหรือนึ่งแป้ง เป็นขั้นตอนที่ทำให้แป้งเหนียวและจับตัวกันไม่ขาดง่าย นำแป้งที่ทับไว้มาปั้นเป็นก้อน หย่อนต้มในน้ำเดือด ให้สุกแค่เพียงด้านนอก2-3เซนติเมตรก็พอนะคะ ไม่งั้นแป้งที่สุกมากไปจะเหนียวเกินไป ขั้นตอนที่หก นวดแป้ง เป็นการผสมแป้งดิบกับสุกรวมกันเป็นเนื้อเดียวทำให้เม็ดแป้งแตกตัวมากขึ้นถ้าแป้งแห้งเกินไปให้ใส่น้ำร้อนลงไปช่วยให้นวดง่ายขึ้น ขั้นตอนที่เจ็ดกรองแป้ง การที่เรานึ่งแป้งจะทำให้แป้งจับตัวกันการกรองจึงช่วยให้แยกแป้งที่ไม่ละเอียดออกได้หมด ขนมจีนที่ได้จะได้มีเส้นสม่ำเสมอไม่ขาดระหว่างโรยเส้น ขั้นตอนที่แปด ตอนนี้ก็คือ การโรยเส้นใช้กระบอกเป็นอุปกรณ์ในการโรยเส้น เอาแป้งใส่กระบอกโรยแล้วก็บีบวนเป็นวงกลมในน้ำเดือด พอเส้นเริ่มลอยตัวขึ้นมาก็จัดแจงตักขึ้นไปแช่น้ำเย็นเลย ขั้นตอนสุดท้าย คือการรอให้เย้นและนำมาจับเป็นกลุ่มเมื่อนำเส้นไปแช่น้ำเย็นแล้วเพื่อไม่ให้เส้นสุกต่อแล้ว เมื่อเส้นเย็นตัวลงก็จัดแจงจับให้เป็นกลุ่มแล้วเรียงลงภาชนะรอเส้นแห้งและหดตัวก็เป็นอันสมบูรณ์ วิธีการนีั้ทุกท่านสามารถนำกลับไปทำเองได้ที่บ้าน
|
180 | 180 |
18. สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่5 |
||
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้1.มีการวางแผนการทำงานล่วงหน้า 2.มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม 3.มีการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ 4.มีสภาผู้นำ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผน1.ประชุมคณะทำงานทุกเดือนเป้าหมาย 15 คน จำนวน 12 ครั้งเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินกิจกรรม รายงานความก้าวหน้า ติดตามกิจกรรมดังนี้
1)สำรวจสถานกาณ์ในกลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด
2)สืบค้นสาเหตุการณ์ติดยาเสพติดในวัยรุ่น
3)วางแผนการแก้ปัญหายาเสพติดในวัยรุ่น
4)เรียนรู้วิถีภูมิปัญญาเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหายาเสพติด
-มวยไทยต้านยาเสติด
-การทำขนมจีน
-การตัดผม การโกนผม โกนหนวด
-แปรรูปอาหาร
-ปุ๋ยหมักและน้ำหมัก
-การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ
5)การจัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน
6)แลกเปลี่ยนเรียนรู้
7)คืนข้อมูลสู่ชุมชน กิจกรรมที่ทำจริงประธานได้กล่าวในที่ประชุมว่าทุกครั้งที่ผ่านมาคณะทำงานให้ความสำคัญต่อโครงการและชุมชนของเรา อยากให้ชุมชนของเรามีความสุขโดยปราศจากยาเสพติดและอบายมุขทุกชนิดให้หมดไปจากชุมชนเราทุกคนจึงต้องมาดูแลและป้องกันไม่ให้ลูกหลานของเรามั่วสุมยาเสพติดต่อไป
|
26 | 26 |
19. ปิดงวดรายงานร่วมกับพี่เลี้ยง |
||
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 09:00 น.วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อปิดรายงานงวด ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนคณะทำงานร่วมกับพี่เลี้ยงปิดงวดรายงาน กิจกรรมที่ทำจริงตัวแทนโครงการนำเอกสารให้พี่เลี้ยงตรวจ การทำรายงานงวด รายงาน ส.1
วันนี้ตัวแทนโครงการ 2 คน เดินทางไปพบพี่เลี้ยงโครงการเพื่อเรียนรู้วิธีการปิดโครงการ งวดที่ 1 โดยนำเอกสารไปให้พี่เลี้ยงตรวจสอบความถูกต้อง พบว่า
1.เอกสารทางการเงิน ยังไม่ถูกต้อง รายชื่อยังไม่ครบ ลายมือชื่อไม่ครบ
2.ยังขาดเอกสารการเบิกจ่ายในกิจกรรมที่พบพี่เลี้ยง 3 ครั้ง
|
2 | 2 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการและปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินโครงการ
ประเมินความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการ
การดำเนินงานเมื่อเทียบกับการดำเนินงานทั้งโครงการ | ทั้งหมด | ทำแล้ว | 10% | 20% | 30% | 40% | 50% | 60% | 70% | 80% | 90% | 100% |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
การทำกิจกรรม | 38 | 19 | ✔ | |||||||||
การใช้จ่ายงบประมาณ | 200,800.00 | 107,598.00 | ✔ | |||||||||
คุณภาพกิจกรรม | 76 | 60 | ✔ |
ปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินงานโครงการ (สรุปเป็นข้อ ๆ)
ประเด็นปัญหา/อุปสรรค | สาเหตุเพราะ | แนวทางการแก้ไขของผู้รับทุน |
---|---|---|
1.สภาพดินฟ้าอากาศ |
สภาพดินฟ้าอากาศไม่เหมาะสม ฝนตกบ่อย ไม่สามารถทำกิจกรรมได้ |
กิจกรรมที่สามารถทำได้ช่วงฝนตกก็จะทำไปก่อน ให้มีการสลับกิจกรรม กิจกรรมไหนทำช่วงหน้าแล้ง ก็เลื่อนไปก่อน |
แผนงาน/กิจกรรม ที่จะดำเนินการในงวดต่อไป
- จัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน ครั้งที่ 3 ( 19 ก.พ. 2559 )
- เรียนรู้ฐานภูมิปัญญา ครั้งที่ 3 ( 20 ก.พ. 2559 )
- สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่6 ( 6 มี.ค. 2559 )
- จัดทำฐานเรียนรู้ชุมชน ครั้งที่ 4 ( 18 มี.ค. 2559 )
- เรียนรู้ฐานภูมิปัญญา ครัั้ง 4 ( 19 มี.ค. 2559 )
- พบพี่เลี้ยงเพื่อติดตามโครงการ ( 26 มี.ค. 2559 )
- สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่ึ7 ( 6 เม.ย. 2559 )
- สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่8 ( 6 พ.ค. 2559 )
- สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่9 ( 6 มิ.ย. 2559 )
- สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่10 ( 6 ก.ค. 2559 )
- เผยแพร่กิจกรรม ( 14 ก.ค. 2559 )
- สภาผู้นำบ้านห้วยแหยงครั้งที่11 ( 6 ส.ค. 2559 )
(................................)
นาย สุทัศน์ ปานจีน
ผู้รับผิดชอบโครงการ