directions_run

เฝ้าระวังโรคติดต่ออุบัติใหม่ด้วยรถตรวจเคลื่อนที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย

stars
1. ชื่อโครงการ
เฝ้าระวังโรคติดต่ออุบัติใหม่ด้วยรถตรวจเคลื่อนที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย
stars
2. องค์กรที่รับผิดชอบ
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา
stars
3. เป้าประสงค์
groups
เป้าประสงค์ที่สอดคล้องกับประเด็นขับเคลื่อน
ด้านสุขภาพ ลดการแพร่เชื้อและเสียชีวิต กลุ่มผู้ป่วย long covid ได้รับการดูแลและสร้างกำลังใจ

เพื่อสนับสนุนการบริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการโรคติดต่ออุบัติใหม่ สำหรับการดำเนินงานเฝ้าระวังโรคติดต่ออุบัติใหม่ด้วยรถตรวจวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ (Express Analysis Mobile Unit) เคลื่อนที่ ในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย

เศรษฐกิจปากท้องเดินได้ สร้างความมั่นคงทางอาหารที่รับมือกับโควิดได้

 

ด้านสังคม กลุ่มเปราะบางได้แก่ เด็ก สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ คนยากจน ได้รับการช่วยเหลือดูแลมีรายได้ มีความรู้ในการป้องกันตนเอง ปรับตัวกับโควิดได้ มีกิจกรรมทำภายใต้ความปลอดภัยของโควิด

 

groups
เป้าประสงค์เฉพาะ
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 300
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
ผู้เดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ, ผู้ป่วย/ผู้สัมผัส 300 -
stars
5. ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
กฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 หรือ International Health regulations (IHR), 2005 เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจจับการระบาดของโรคหรือภัยคุกคามด้านสาธารณสุข เพื่อวางมาตรการป้องกันควบคุมโรค และลดผลกระทบต่อการเดินทางและการขนส่งระหว่างประเทศ ในประเทศไทยกฎอนามัยระหว่างประเทศมีสถานะเป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก (WHO) ร่วมกันจัดทำขึ้นและถือปฏิบัติเพื่อป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern : PHEIC) โดยให้มีผลกระทบต่อการเดินทาง และการค้าขายระหว่างประเทศให้น้อยที่สุด กฎอนามัยระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือที่สำคัญของ WHO และประเทศสมาชิกในการบรรลุยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านสุขภาพของโลก (global health security) ปัจจุบันประเทศสมาชิกของ WHO ทุกประเทศ (194 ประเทศ) ได้ลงนามข้อตกลงในการพัฒนาสมรรถนะต่างๆ ของประเทศตามที่กฎอนามัยระหว่างประเทศกำหนด โดยประเทศไทยต้องพัฒนาสมรรถนะของประเทศ ในด้านต่างๆให้ได้ตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศ โดยปัจจุบันประเทศไทยได้ประกาศพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ขึ้น ใช้เป็นเครื่องมือด้านกฎหมายในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค ซึ่งกำหนดให้กรมควบคุมโรคเป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ คณะกรรมการ ด้านวิชาการ และคณะอนุกรรมการ โดยให้คณะทำงานประจำช่องทางเข้าออกมีอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบจัดทำแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและแผนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข โดยมีมาตรการ โครงการ กิจกรรมดำเนินการที่สามารถตอบสนอง และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง และมีความต่อเนื่องในการจัดการปัญหา รวมทั้งมีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ที่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคติดต่อระหว่างประเทศในปัจจุบันเป็นโรคระบาดในยุคโลกาภิวัตน์ที่เป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรง เช่น ไข้หวัดมรณะ หรือโรคซารส์ (SARS) โรคไวรัสอีโบล่า โรคทางเดินหายใจ ตะวันออกกลาง โรคเมอร์ส และโรคไวรัสโคโรนา 2019 (Covid 19) ส่งผลกระทบอย่างมาก ต่อความมั่นคงของรัฐต่างๆทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา ประเทศไทยมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆที่จะพบโรคต่างๆเหล่านี้ ได้ตลอดเวลาจากการที่มีผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศทั้งไปและกลับจากพื้นที่ติดโรค รวมทั้งการเป็นศูนย์กลาง การแพทย์ (Medical Hub) ซึ่งจะมีผู้ป่วยโรคต่างๆเข้ามารักษาในโรงพยาบาลของไทย การเฝ้าระวัง ป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อเข้ามาในประเทศไทย นับเป็นด่านแรกที่สำคัญสำหรับ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่คัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ บริหารจัดการผู้เดินทางที่สงสัยป่วยในเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว โดยวิธีการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศสุไหงโก-ลก มีผู้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซียเฉลี่ยต่อวันประมาณ 2,500 ราย เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินงานดังกล่าว จึงได้จัดเตรียมบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ ในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งจัดให้มีรถตรวจวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ (Express Analysis Mobile Unit) ประจำที่ด่านควบคุมโรคติดระหว่างประเทศสุไหงโก-ลก เพื่อให้มีความพร้อมในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ และรายงานผลได้อย่างรวดเร็ว
stars
6. รูปแบบการจัดกิจกรรม
Online
Onsite
Hybridge
stars
7. ประเภทของกิจกรรม
การพัฒนากลไก เช่น สนับสนุนกลไกในการทำงาน การรวมกลุ่ม สร้างชุมชนเข้มแข็ง การประสานส่งต่อความช่วยเหลือ

 

การสำรวจข้อมูล ค้นหากลุ่มเสี่ยง กลุ่มเป้าหมาย

 

การตรวจคัดกรองกลุ่มเป้าหมาย

คัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ โดยวิธีการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ

การทำแผน กติกา การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ การวางแผนครอบครัว

 

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การส่งเสริมทักษะทางกาย ใจ การนำหลักศาสนามาใช้

 

การป้องกันและลดปัญหา เช่น ด้านยาเสพติด การป้องกันและลดปัญหาด้านโภชนาการ การป้องกันและลดปัญหาด้านเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ไม่พร้อม

 

การบริการรักษาสุขภาพ เช่น การพัฒนาระบบบริการเชิงรุก การฉีดวัคซีน การแพทย์ทางร่วม การลดภาวะซีดในหญิงมีครรภ์ การดูแลสุขภาพจิต การใช้สมุนไพรทางเลือก

 

การปรับสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก กายอุปกรณ์ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ตัดแว่นตา

 

การส่งเสริมสุขภาพ

 

การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สื่อสารสาธารณะ

 

การพัฒนาศักยภาพ เช่น ให้ความรู้ การดูงาน

 

ด้านการเงิน งบประมาณ (การให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ปัจจัยการผลิต กองทุนหมุนเวียน กองทุนกลาง การออมทรัพย์ สวัสดิการ)

 

การส่งเสริมอาชีพ การสร้างอาชีพ และรายได้ ลดรายจ่าย

 

การส่งเสริมการตลาดในชุมชน การส่งเสริมตลาดกรีน/ตลาดอาหารสุขภาพ

 

การบังคับใช้กฏหมาย

 

การเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง

 

การประเมินติดตามผล

 

การจัดการความรู้ งานวิจัย

 

การฟื้นฟูสมรรถภาพ

 

อื่นๆ

 

stars
8. พื้นที่ดำเนินการ
จังหวัดอำเภอตำบลลักษณะพื้นที่
สงขลา place directions
นราธิวาส สุไหง-โกลก สุไหงโก-ลก พื้นที่เฉพาะ:ชายแดน place directions
stars
9. งบประมาณ
งบประมาณ
63,800.00 บาท
ได้รับงบประมาณจาก
เงินบำรุงสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2566 10:46 น.