1 |
1. เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านมีความรู้ความเข้าใจและมีความตระหนักใส่ใจต่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน ตัวชี้วัด : 1.ชาวประมงพื้นบ้านมีความรู้ความเข้าใจและมีความเข้าใจต่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่งที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน อย่างน้อย 50 คน
2.มีข้อมูลในพื้นที่ดำเนินการ เช่น
- ชนิด ประเภทพันธุ์สัตว์น้ำ
- เครื่องมือประมง
- เศรษฐกิจชุมชนประมง |
|
|
0.00 |
- ชาวประมงชายฝั่งพื้นบ้านบางปอ อำเภอสิชล คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ แกนนำชุมชน และผู้นำชุมชน มีความรู้ความเข้าใจและมีความเข้าใจต่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่งที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน จำนวนไม่น้อยกว่า 50 คน
- มีฐานข้อมูลประกอบด้วยของพื้นที่ดำเนินการ เช่น ข้อมูลทั่วไปชุมชน ข้อมูลอาชีพ ข้อมูลทรัพยากร ข้อมูลทิศทางลมที่มีผลต่อการทำการประมงข้อมูลภูมิปัญญาการทำประมงพื้นบ้าน ชนิด ประเภทพันธุ์สัตว์น้ำ เครื่องมือประมงในพื้นที่การใช้ประโยชน์จากฐานทรัพยากรสัตว์น้ำ ชายฝั่งทะเล และข้อมูลรายได้ของประชากร เพื่อการวางแผนการทำงานของชุมชนด้านการจัดการทรัพยากรประมงทะเล และตามโครงการที่ได้รับการสนับสนุน
|
- ชาวประมงชายฝั่งพื้นบ้านบางปอ อำเภอสิชล คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ แกนนำชุมชน ผู้นำชุมชน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและผู้บริหารระดับท้องถิ่น มีความตระหนักในการปฏิบัติการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงมากขึ้น
- ข้อมูลที่ได้จัดทำขึ้น ชุมชนได้นำไปวางแผนงานด้านการจัดการทรัพยากรในท้องถิ่น และพัฒนาโครงการ รวมถึงการนำเสนอต่อแหล่งทุนหนุนเสริมต่อไป
|
ชุมชนประมงชายฝั่งพื้นบ้านบางปอ อำเภอสิชล เป็นชุมชนใหม่ในการรับงบประมาณสนับสนุนจาก สสส.และสมาคมรักษ์ทะเลไทย และขับเคลื่อนโครงการ ซึ่งคณะทำงานขับเคลื่่อนโครงการยังไม่มีประสบการณ์ทั้งเรื่องของรายงานกิจกรรม การจัดทำการเงิน บัญชีที่เป็นระบบ แต่คณะทำงานมีความกระตื้อรื้อร้นพยายามเรียนรู้ ตระหนัก เพื่อให้มีความเข้าใจต่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่งที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน และปฏิบัติการจัดทำรายงาน ระบบบัญชี การเบิกจ่ายเงินเองได้ |
2 |
2.เพื่อให้เกิดกลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด : 1.มีคณะทำงานไม่ต่ำกว่า 10 คน
2.มีแผนงานการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่งของชุมชน
3.มีเวทีสรุปผลการดำเนินงาน (ARE)อย่างน้อย 2 ครั้ง |
|
|
0.00 |
- มีคณะทำงานการดำเนินโครงการอย่างสม่ำเสมอจำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน ที่มาจากสมาชิกของชุมชน แกนนำชาวประมงพื้นบ้าน และภาคีความร่วมมือที่เข้ามาช่วยเหลือหนุนเสริมการดำเนินงานโครงการ
- เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนทบทวนผลการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ ตามรูปแบ ARE จำนวน 2 ครั้ง
- มีแผนการดำเนินงานการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่ง เช่น การฟื้นฟูสัตว์น้ำ (ทำซั้งเชือก)บ้านปลา การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในเขตอนุรักษ์ฯ การจัดการขยะทะเล การแปรรูปอาห่ารทะเล(กะปิจากกุ้งเคย) และการจัดทำธนาคารปูม้า
- มีการเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมอนุรักษ์ฟื้นฟูสัตว์น้ำที่มากขึ้นของหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และสถาบันการศึกษาในพื้นที่
|
- คณะทำงานรู้และเข้าใจบทบาทหน้าที่การทำงาน พร้อมขับเคลื่อนกิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการของชุมชนที่สอดคล้องกับแผนโครงการ และพยายามเรียนรู้การพัฒนาศักยภาพตนเองให้มีความชำนาญมากขึ้น เช่น การจดบันทึกรายงาน การถ่ายภาพ การจัดทำเอกสารการเงิน และการจัดทำรายงานในสื่อเว็บไซต์คนสร้างสุข
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรมประมงได้ประสานให้กลุ่มประมงชายฝั่งพื้นบ้านบางปอ อำเภอสิชล ได้นำเสนอแผนการจัดการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่งของชุมชน
- ชาวประมงพื้นบ้าน แกนนำชุมชน ได้นำหลัก ARE ไปใช้ในกระบวนการทบทวน สรุปผลการดำเนินงาน
|
- คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการเข้าใจในวัตถุประสงค์โครงการ กิจกรรม ระยะเวลาและมีการแบ่งบทบาทหน้าที่กันอย่างชัดเจนทำให้โครงการสามารถดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้
- คณะทำงานมีการพูดคุยทบทวนการดำเนินงานอยู่เสมอ โดยการนำหลัก ARE แบบประยุกต์มาใช้ เช่น จุดออ่น จุดแข็ง ทุนการทำงาน ช่วงเวลา และภาคีหนุนเสริม เป็นต้น
|
3 |
3. เพื่อให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง ตัวชี้วัด : 1.มีกฎกติกาและกำหนดเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลชุมชน
2.เกิดการสร้างบ้านให้ปลา (ชั้งเชือกและทางมะพร้าว)
จำนวน 35 ชุด
3.มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำคืนสู่ทะเล อย่างน้อย 1ครั้ง
4.เกิดการรณรงค์เก็บขยะริมชายหาดบ้านบางปอ (Baan Bangpor Big Cleaning Day)อย่างน้อย 1 ครั้ง |
|
|
|
- มีกติกา ข้อตกลง แนวเขตเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลชชุมชนที่ได้ผ่านการทบทวนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพร้อมที่จะนำไปสู่การมีเวทีประชาคมเพื่อทบทวนและประกาศกติกาเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลชุมชนบ้านบางปอ ต่อไป
- มีบ้านปลา(ชั้งเชือกและทางมะพร้าว)จำนวน 35 ชุด ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลชุมชนบ้านบางปอ ตำบลทุ่งใส อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช
- ชุมชนประมงชายฝั่งพื้นบ้านบางปอ อำเภอสิชล มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำคืนสู่ทะเลจำนวน 1 ครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนลูกพันธุ์ปูม้า จำนวน 5,000,000 ตัว จากกลุ่มอนุรักษ์และขยายพันธุ์ปูม้าบ้านเกาะลอย อำเภอสิชล
- ชุมชนประมงชายฝั่งพื้นบ้านบางปอ อำเภอสิชล มีการจัดกิจกรรมรณรงค์เก็บขยะริมชายหาดบ้านบางปอ (Baan Bangpor Beach Cleaning Day) จำนวน 1 ครั้ง
|
- ชุมชนประมงชายฝั่งบ้านบางปอ อำเภอสิชล นำกฎกติกาการทำการประมงที่ถูกกฎหมายและสอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชนไปประกาศใช้ในพื้นที่ชุมชน
- ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านต้องเคารพกฎ กติกาในการทำการประมงในพื้นที่ชายฝั่งทะเลชุมชนรวมถึงการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูเฝ้าระวังทรัพยากรชายฝั่งทะเลชุมชน
- สัตว์น้ำชายฝั่งทะเลบ้านบางปอ เช่น กุ้ง ปู ปลา นานาชนิด รวมถึงสัตว์ทะเลหายาก จำพวก โลมา เต่าทะเล เข้ามาอยู่ในพื้นที่เขตอนุรักษ์ทะเลชายฝั่งชุมชน ชาวประมงพื้นบ้านนำเรือออกไปจับปลา วางอวนจมกุ้งในพื้นที่ใกล้ๆชายฝั่ง ทำให้ลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเรือประมงได้เฉลี่ยเดือนละ 1,200 บาท
- สัตว์น้ำทะเลชายฝั่ง กุ้ง ปู ปลา มีความชุกชุมมากขึ้น ชาวประมงพื้นบ้านจับและขายมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยรายละ 200 - 300 บาท/วันทำการประมง
- กระแสการร่วมกันจัดการขยะชายฝั่งทะเลชุมชนได้เพิ่มขยายไปสู่ในแวดวงต่างๆมากขึ้น เช่น คนในท้องถิ่น ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ หน่วยงานต่างๆในท้องถิ่น
|
- สมาชิกในชุมชน และประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆให้ความร่วมมือและให้ความสำคัญในการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี
- ชาวประมงพื้นบ้านนำเรือออกไปจับปลา หากุ้งในพื้นที่ใกล้ๆชายฝั่ง
ชาวประมงพื้นบ้านขายอาหารทะเลสดในภาพรวม ทั้งปลา กุ้ง ปูม้าได้เพิ่มขึ่นโดยเฉลี่ยรายละ 200 - 300 บาท/ครั้ง/วันทำการประมง
|
4 |
4. เพื่อให้แกนนำมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขภาวะตนเอง โดยการปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารทะเลปลอดภัย จากพื้นที่ ตัวชี้วัด : 1.แกนนำเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารทะเลปลอดผลผลิตจากพื้นที่ก่อน/หลังการดำเนินการ
2. สัตว์น้ำผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 ชนิด |
|
|
|
- แกนนำชุมชนเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารทะเลปลอดภัยจากพื้นที่ เช่น การนำสัตว์น้ำทะเลที่หามาได้ นำมาปรุงอาหารสำหรับการบริโภคเองในครัวเรือน อย่างน้อย 15 มื้อ ในแต่ละสัปดาห์
- แกนนำสตรีประมงพื้นบ้าน มีการทดลองแปรรูปกุ้งเคยที่จับมาได้ ทดลองแปรรูปเป็นกะปิปลอดสารเมี และไม่มีรสเค็มจนเกินไป
- สำรวจพบพันธุ์สัตว์น้ำที่เข้ามาอาศัยในเขตอนุรักษ์ทะเลชุมชนเพิ่มขึ้น 3 ชนิด เช่น ปลาจวด ปลาแป้น กุ้งเคย เป็นต้น
|
- สมาชิกในชุมชนทั้งที่เป็นชาวประมงพื้นบ้านและแกนนำชุมชนที่เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยมากขึ้นโดยให้ความสำคัญกับการบริโภคอาหารที่ปลอดสารเคมีอันตรายต่อสุขภาพ และครัวเรือนในชุมชนมีการประกอบอาหารที่หามาได้เองสำหรับการบริโภคในครัวเรือนได้ทุกมื้อในแต่ละวัน หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปต่างๆ
- ชาวประมงพื้นบ้านสามารถดำเนินการแปรรูปอาหารทะเลปลอดภัยได้อย่างเป็นรูปธรรม
|
- สมาชิกในชุมชนทั้งที่เป็นชาวประมงพื้นบ้านและแกนนำชุมชนเลือกบริโภคอาหารปลอดภัย
สมาชิกในชุมชนทั้งที่เป็นชาวประมงพื้นบ้านและแกนนำชุมชนประกอบอาหารที่หามาได้เองจากทะเลอย่างน้อย 15 มื้อในแต่ละสัปดาห์
- จากการที่ สำรวจพบพันธุ์สัตว์น้ำที่เข้ามาอาศัยในเขตอนุรักษ์ทะเลชุมชนเพิ่มขึ้น แกนนำสตรีประมงพื้นบ้านบางปอ คิด ริเริ่มดำเนินการต่อยอดทำการแปรรูปกะปิจากกุ้งเคยและอาหารทะเลตากแห้งอื่นๆ
|