คนสร้างสุข

ไม่สามารถดำเนินตามแผนที่กำหนดได้เนื่องจาก     -ตำบลนาท่อมเป็นช่วงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีงดเว้นการทำกิจกรรมทุกประเภท

ทำรายงานส ,2,3,4 และเอกสารทางการเงิน

ปัญหาทางการเมือง

  -ช่วงเลือกตั้งมีการรณรงค์หาเสียงทางพื้นที่ไม่มีการทำกิจกรรมทุกประเภท

ขอเลือนการทำกิจกรรมทุกประเภท

ขอเลื่อนการทำกิจกรรมเป็นวันที่ 12/10/56 และสรุปรายงาน

ลักษณะกิจกรรมที่ทำ เชิงปริมาณ

-เก็บข้อมูลโรงเรียน จำนวน 50 ชุด

-เก็บข้อมูลครัวเรือนจำนวน 50 ชุด

-เก็บจำนวน 7 ครั้ง

เชิงคุณภาพ

-ลักษณะข้อมูลที่เก็บ เดิม ต้นทางทางขยะ  กลางทาง และปลายทางขยะ ทั้งชนิด ปริมาณ
-หลังจากเข้าร่วมโครงการวิธีการจัดการ ขยะทั้งครัวเรือนและโรงเรียนวัดนาท่อมจัดการอย่างไร ขยะต้นทาง  กลางทาง  และปลายทาง และพบปัญหาอุปสรรค์อย่างไรบ้าง และข้อเสนอแนะในแต่ละครัวเรือน

ผลที่เกิดขึ้นจากการทำข้อมูลขยะครัวเรือนและโรงเรียนวัดนาท่อม

1 ขยะชุมชนบ้านนากวดมีสถานที่ ตลาดนัด  ถนนสาธารณะ  วัด  โรงเรียน  ครัวเรือน ริมคลองนาท่อม ประชาชนยังขาดจิตสำนึกในการทิ้งขยะในที่สาธารณะ แต่ในครัวเรือน และโรงเรียนมีการแยกเพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัญหาขยะที่กำจัดไม่ได้ มี 2 ชนิด คือ ขยะทั่วไปที่ขายไม่ได้และขยะมีพิษที่มีจำนวนน้อย  ข้อเสนอแนะต้องการให้เทศบาลมีจุดทิ้งขยะให้เป็นจุดรองรับขยะประเภทนี้

2  คำแนะนำส่วนใหญ่ให้มีการรณรงค์ ให้ความรู้ ทำกิจกรรม ให้รางวัลเพื่อกระตุ้นในการรักสิ่งแวดล้อมจัดการขยะ หรือทำกิจกรรม สื่อต่าง ๆ ให้ชุมชนเกิดจิตสำนึกอย่างต่อเนื่อง

3 ข้อเสนอแนะและความต้องการลำดับที่ 3 คือความต้องการถังไว้หน้าบ้านสำหรับบ้านที่อยู่ริมถนนและมีพื้นที่แคบไม่สะดวกในการทำลายหรือหาจุดทิ้งไม่ได้

สรุป จากการเก็บข้อมูลและคืนข้อมูลให้ชุมชนได้ทราบ ว่าปัญหาขยะเป็นปัญหาระดับตำบล สิ่งเร่งด่วนที่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องรับไปบริหารจัดการ เนื่องจากประชาชน  ชุมชนจัดการขยะในระดับหนึ่งแล้ว ขั้นตอนต่อไปควรเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบคือเทศบาลต้องจัดการโดยการ มีจุดทิ้งขยะ และจัดการขยะ อย่างมีระบบ

ปัญหาขยะเป็นปัญหาระยะยาวต้องมีการแก้ไขอยู่ตลอดเวลาให้เป็นปกติ

ไม่มี

ไม่มี

ลักษณะกิจกรรมที่ทำ -แลกเปลี่ยนกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อค้นหาประเด็นร่วมและทำข้อเสนอให้กับหน่วยงานที่เี่กี่ยวข้อง จำนวนผู้ที่เข้าร่วม -กำนันตำบลนาท่อม -ผู้ใหญ่บ้านเจ้าของพื้นที่ -ตัวแทนครูโรงเรียนวัดนาท่อม 1 คน -ตัวแทนเด็กนักเรียน 5 คน -ครัวเรือนต้นแบบ 1 คน -แกนนำนำนอกพื้นที่  5 คน รวมจำนวนผู้เข้าร่วม 50 คน

เชิงคุณภาพ   -ผู้ดำเนินรายการเวที คือ คุณเสนีย์  จ่าวิสูตร ได้ดำเนินรายการเพื่อชวนคุยแลกเปลี่ยนอย่างไม่เป็นทางการเพื่อหาประเด็นร่วมผลที่เกิดขึ้นตามต้วชี้วัดโครงการ ว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ประโยชน์อะไรจากโครงการตามวัตถุประสงค์

ผลที่เกิดขึ้นจริงจากการเข้าร่วมโครงการ

-ถามคุณวิภา พรหมแท่น ต้วแทนจากเทศบาลตำบลนาท่อมและเป็นคณะทำงานโครงการฯซึ่งทางเทศบาลนาท่อมก็ให้การสนับสนุนที่แยกขยะให้กับโรงเรียนและวัดสนับสนุนการแยกขยะเห็นว่าชุมชนมีการแยกขยะเพิ่มขึ้น โรงเรียนสอนให้เด็กแยกขยะเพิ่มจากเดิมไม่มี   ส่วนสถานที่สาธารณะหน้าวัดนาท่อมหรือที่ลานหน้าศาลาหมู่บ้านหมู่ที่ 7 ก็มีการแยกและเก็บขยะ เห็นได้จากขยะที่ลดลง
-ตัวแทนครูจากโรงเรียนนาท่อม เห็นด้วยกับโครงการฯที่ได้พาไปดูงานและกับมาทำกับโรงเรียนโดยสอนเด็กให้แยกขยะจนเป็นผลทำให้ขยะในโรงเรียนลดลงได้มีเด็กเข้าร่วมกิจกรรมเก็บขยะวันอาทิตย์และ ส่วนโรงอาหารก็ไม่มีปัญหาขยะอินทรีย์จากเศษอาหารที่นำมาทำน้ำหมักและนำไปเลี้ยงสัตว์ของประชาชนที่มาขอทุกวัน

-คุณธัญญาพร ดำเอี่ยม เป็นครัวเรือนต้นแบบที่ได้รับคัดเลือกให้มานำเสนอ ที่บ้านแยกขยะ ส่วนขยะอินทรีย์นำมาทำน้ำหมักมาใช้กับการปลูกผักทุกอย่างที่กินและกินทุกอย่างที่ปลูกและเหลือกินนำไปแจกและขายร้านก๋วยเตี๋ยวและรา้านขนมจีนในชุมชนทุกวัน ส่วนดอกไม้ก็ขายดีในวันพระ

-กำนันอนุชา ซึ่งเป็นแกนนำในโครงการครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ได้บอกกับผู้ร่วมว่า โครงการจักรยานเป็นประโยชน์มากในการช่วยรณรงค์รักษ์สิ่งแวดล้อมทำให้สังคมในนาท่อมตื่นตัว ช่วยกันปั่นมาปลูกต้นไม้ เก็บขยะ ปล่อยปลา และทำไปทั่วทั้งตำบล (กิจกรรมสืบชะตาคลองนาท่อม)ทำให้เห็นความเปลี่ยนพฤกรรม

-ผู้ใหญ่สุรศักดิ์ ผู้รับผิดชอบโครงการเห็นว่าการทำกิจกรรมสร้างจิตสำนักกับชุมชนด้วยการให้คณะกรรมการหมู่บ้านหรือแกนนำที่ทำให้ดู อยู่ให้เห็น ส่งเสริม รณรงค์ และการใช้สื่อในรูปแบบต่าง ๆ  ส่งผลให้ ครัวเรือนแยกขยะ ขายขยะ นำขยะไปทำอย่างอื่น เช่น กลุ่มนากวดน่าอยู่ทำดอกไม้ สิ่งประดิษฐ์สวยงามจากของเหลือใช้ และสินค้าทดแทนนำมาใช้กับสมาชิกในกลุ่ม แลจำนวนครัวเรือนที่แยกขยะจำนวนมากกว่า 60 คน โรงเรียนมีการแยกขยะ วัดมีการกำจัดขยะเองโดยกรรมการวัด  ที่สาธารณะร่วมรณรงค์ด้วยครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ทำให้ชุมชนตื่นตัวส่งผลให้ขยะถนนสาธารณะหมู่ที่ 7 ลดลง
-สำหรับเด็กนักเรียนที่เป็น่ตัวแทน เล่าให้ผู้เข้าร่วมทราบว่าตอนนี้โรงเรียนวัดนาท่อม มีการตื่นตัว เรื่องการแยกขยะ จากเมื่อก่อนไม่ค่อยไม่มี

สรุปผลที่เกิดขึ้น 1.จากการเก็บข้อมูลจำนวน 7 ครั้งผลจากการวิเคราะห์ร่วมกันของคณะกรรมการหมู่บ้าน

  - ลำดับที่ 1 ประชาชนและครัวเรือนต้องการจุดทิ้งขยะสำหรับขยะที่จัดการเองไม่ได้

  -ลำดับที่ 2 ต้องการให้มีการรณรงค์ อย่างต่อเนื่องรวมทั้งให้ความรู้ความตระหนักอยู่ตลอดเวลา มีการกระตุ้นผ่านสื่อ หรือกิจกรรมอย่างเช่น ครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์เก็บขยะในสถานที่สาธารณะ
    -ลำดับที่ 3 ประชาชนต้องการถังขยะหน้าบ้าน

ปัญหาและแนวนทางข้อเสนอ

1.ปัญหาที่ประชาชนสะท้อนร่วมกัน คือ จุดทิ้งขยะที่เหลือจากการ แยกขยะแล้ว ซึ่งเหลือจำนวนน้อยแต่เป็นปัญหาร่วมกัน

2.แนวทางข้อเสนอต่อการแก้ไข

    -หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องขยะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันจัดการ เพื่อให้ขยะหมดไป จากรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนแยก  เมื่อประชาชนแยกแล้ว ส่วนเกินที่กำจัดเองไม่ได้เขาเสนอให้มีจุดทิ้ง แล้วเป็นภาระกับเทศบาลในการกำจัดขั้นสุดท้าย ของขยะทั่วไปและขยะอันตราย

ไม่มี

ไม่มี

ลักษณะกิจกรรม -ประชุม รายงานความก้าวหน้าการดำเนินกิจกรรมโครงการร่วมสร้างนากวดน่าอยู่

เชิงปริมาณ

-ผู้เข้าร่วมประชุม  49    คน

เชิงคุณภาพ

-ครัวเรือนต้นแบบ  มีการแยกขยะ ขายขยะ จัดการขยะที่เหลือได้เอง จำนวน 45  ครัวเรือน - โรงเรียนมีการแยกขยะ เดิมไม่มีการแยกขยะด้วยวิธี 3  R - วัดนาท่อมมีการจัดการขยะโดยวิธีแยกขยะ ขับเคลื่อนด้วยกรรมการวัดที่เป็นคณะกรรมการบริหารหมู่บ้าน -เทศบาลตำบลนาท่อมจัดทำที่แยกขยะให้ 2 แหล่ง คือ 1.ในวัดกับโรงเรียน 2.หน้าวัดนาท่อม  เป็นการนำร่องของการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วม

-กิจกรรมรณรงค์ครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ทำกิจกรรมทุกวันอาทิตย์จะครอบรอบ 1 ปี วันที่ 11 /11/56 ในการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ โดยการเก็บขยะ ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา และอื่น ๆ -กิจกรรมเด็กเป็นสื่อ ผลิตนักจัดรายการ 7 คน เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดนาท่อมสามารถเล่าข่าวได้ ผ่านหอกระจายข่าว วาดภาพเส้นทางขยะได้

-คณะกรรมการบริหารนำเสนอต่อยอดโครงการใหม่ คือ

    -นากวดน่าอยู่สู่การจัดการตนเองแบบมีส่วนร่วม

กิจกรรมโครงการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วมต้องมีสื่อ มีกิจกรรมตลอด และต้องทำจนเป็นปกติหรือเป็นวิถีชีวิตของคนนากวด ถึงเรียกได้ว่า ความยังยืน

ไม่มี

-ผู้เข้าร่วม 2 ท่าน -ร่วมนำเสนอ อภิปรายแลกเปลี่ยนในห้อง ใหญ่ เรื่อง คุณค่าของการจัดการชุมชนท้องถิ่นที่น่าอยู่ในบริบทวิถีใต้ประสบการณ์การขยับงานในพื้นที่จริง และห้องย่อยที่ 2 ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม -นำเสนอนิทรรศการโครงการร่วมสร้างชุมชนนากวดน่าอยู่ด้วยกิจกรรมสืบชะตาคลองนาท่อม

-ได้นำเสนอผลของการขับเคลื่อร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นให้น่าอยู่โดยใช้งบประมาณของ สสส.นั้น ทำให้ให้ชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลง ประชาชนมีการร่วมคิด ร่วมทำมากขึ้น ส่งผลให้เกิดกลุ่มเด็กเยาวชน เข้ามาร่วมกันรณรงค์โดยรถจักรยานภายใต้ ครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ ปันรถจักรยานทุกวันอาทิตย์ดูแลสิิ่งแวดล้อมของหมู่บ้านและตำบลในการเก็บขยะ ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลาจนทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น รถจักรยานเพิ่มขึ้น เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้น -นอกจากครอบครัวร่วมทำกิจกรรมสิ่งแวดล้อมในชุมชนนากวดแล้วยังขยายไปสู่ชุมชนอื่นด้วยการรณรงค์ -ได้มีเด็กนักเรียนเขียนเรื่องเล่า วาดแผนที่ขยะ ได้ฝึกการนำเสนอฝ่านหอกระจายข่าวในชุมชนและได้รับเชิญไปร่วมรายการวิทยุแหงประเทศไทยของจังหวัดพัทลุง ในการเล่าสิ่งที่ตัวเองได้ทำ เป็นผลผลิตจากกิจกรรมใช้เด็กเป็นสื่อ

การใช้เด็กเป็นสือผ่านกิจกรรมครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ทำมาโดยตลอด ปัจจุบันทำอย่างต่อเนื่อง ปัญหามีค่าใช้จ่ายตลอดทุกครั้งแต่แนวโน้มลดลง

แนวทางแก้ไข
-ต้องทำให้เป็นปกติก หรือเป็นวิถีชีวิตของคนนาท่อมจึงแสดงได้ว่าเป็นความยังยืน ความยังยืนคือ ความปกติสอดคล้องกับวิถีชีวิต

ข้อเสนอต่อสสส. -ต้องการมีกองทุนเพื่อทำกลุ่มครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ให้เป็นธรรมชาตืหรือปกติหรือเป็นวิถีในระยะยาวเพราะเห็นว่า ทางโครงการร่วมสร้างชุมชนนากวดน่าอยู่ฯ ทำกับเด็กเยาวชน ครอบครัว วัด โรงเรียน ประโยชน์ตกอยู่กับชุมชนทั้งสิ้น 

ไม่มี

ลักษณะกิจกรรม -ร่วมกันขยายเขตปล่อยปลากำหนดเขตอนุรักษ์ปลาไว้เป็นฐานอาหารชุมชน หมู่ที่ 1 คลองช่างขวัญ -ผู้เข้าร่วม  ครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ จำนวน 40 คน -ประชาชนหมู่ที่ 1 จำนวน 30 คน -กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย และผู้นำ ตลอดจนปลัดเทศบาลและเจ้าหน้าที่ ร่วมปล่อยปลา

-กิจกรรมสืบชะตาคลองนาท่อม ขยายเขต(คลองช่างขวัญ)

-ได้แหล่งอาหารชุมชนที่มีการประชาคมก่อนที่จะมีการปล่อยปลาโดยการกำหนดกติกา ให้กำหนดเขตอนุรักษ์ประมาณ 500 เมตร  กำหนดโทษปรับผู้จับปลาในเขต ให้นำปลามาปล่อยใหม่ถ้าใครจับ 1 ตัวต่อลูกปลา 1000 ตัว

-งบประมาณจากเทศบาลตำบลนาท่อมร่วมกับกำนันผู้ใหญ่เจ้าของพื้นที่ดูแลค่าใช้จ่าย

-แหล่งน้ำในตำบลนาท่อมยังรอการพัฒนาจำนวนมาก

-ครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์จะร่วมรณรงค์กิจกรรมสืบชะตาคลองนาท่อมทุกแหล่งน้ำทั้งตำบล

ไม่มี

ไม่มี

-เจ้าหน้าที่ตรวตเอกสารการเงินของโครงการ -ผู้เข้าร่วม 2 คน นายสุรศักดิ์ ขิตตนาคินทร์ ผู้รับผิดชอบโครงการและนายถาวร  คงศรี ที่ปรึกษา

การรายงานและการดำเนินการของโครงการไม่ได้เป็นไปตามแผนกิจกรรมเนื่องจากในพื้นอยู่ในช่วงเลื่อกตั้งท้องถิ่นทำให้เกิดการทำกิจกรรมต้องหยุดชะงัก

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ลักษณะกิจกรรมที่ทำ

เชิงปริมาณ

ผู้เข้าร่วมจำนวน 48  คน

เชิงคุณภาพ

-เป็นการประชุมพูดคุยประจำเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง เรืื่องที่ประชุมตามวาระของผู้ใหญ่ที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบ

  -เรื่องแจ้งจากอำเภอ

  -เรื่องปัญหาในชุมชน

  -เรืีองรายงานความก้าวหน้าโครงการร่วมสร้างชุมชนนากวดน่าอยู่

  -เรื่องการฝากเงินออมทรัพย์ ฝากเงินกองทุนหมู่บ้าน ออมทรัพย์สัจจะ กองทุนสวัสดิการชุมชน

ผลที่เกิดขึ้น

-ครัวเรือนไม่มีปัญหาเรื่องการคัดแยก ครัวเรือนต้นแบบมีการคัดแยกทุกครัว แต่ประสบปัญหาขยะที่คัดแยกและขยะที่ขายไม่ได้ไม่มีที่ทิ้ง กำจัดยากกับครัวเรือนที่มีพื้นที่น้อย

-ครัวเรือนตันแบบและโรงเรียนมีการคัดแยกขยะเป็นรูปธรรม โรงเรียนเด็กมีการคัดแยกเนื่องจากเทศบาลสนับสนุนที่คัดแยกให้จำนวน 2 ชุดทำให้เด็กนักเรีียนตระหนักและคัดแยกเองได้จากการรณรงค์ของครูโรงเรียนวัดนาท่อม

-สถานที่สาธารณะขยะลดลงเนื่องจากมีการรณรงค์เก็บขยะทุกวันอาทิตย์จากครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์

ปัญหาขยะจากแม่ค้าแนวทางแก้ไขต้องรณรงค์กับแม่ค้า

ไม่มี

ไม่ม่

ลักษณะกิจกรรมที่ทำ เชิงประมาณ   -ฝึกอบรมเ็ด็กจำนวน 42 คน เชิงคุณภาพ   -ฝึกการเขียนเรื่องเล่าโดย คุณหมอสมนึก นุ่นด้วง   -ฝึกการวาดภาพจากจิตกร จรูญ
  -ฝึกการเล่าข่าวเขียนข่าว จาก ดีเจสาวมน   -เรียนรู้สร้างจิตสำนึกรักสิงแวดล้อมจากเสียงเพลงและบทกลอด

-ได้เรื่องเล่าที่ได้รับรางวัล  7 เรื่องโดยเด็กนักเรียน -ได้บทเพลงรักษ์สิ่งแวดล้อม 2 เพลง -ได้บทกลอนรักษ์คลองนาท่อม 2 บท

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

-จัดทำแผ่นสปอต์ จำนวน 3 แผ่น -จัดทำไวนิล จำนวน 2 แผ่น

-ได้ใช้สื่อสปอตเปิดของทุกช่วงเช้าก่อนเข้า 7.00 นและมีไวนิลรณรงค์การจัดการขยะแบบ 3 R

ไม่มีปัญหา

ไม่มี

ไม่มี

เชิงปริมาณ

จำนวนผู้เข้าร่วม 102 คน -เด็กนักเรียน  50 คน -ครู 2 คน ผ -ผู้ใหญ่สุรศักดิ์ เจ้าของพื้นที่ -นายกเวียง สว่างรัตน์ครัวเรือนต้นแบบ -คณะกรรมการหมู่บ้านและประชาชนทั้วไป รวม 52 คน

เชิงคุณภาพ

-กิจกรรมที่ทำในช่วงเช้าวันท่ี 10/8/56 รณรงค์เก็บขยะบนถนนสาธารณะรอบชุมชนนากวด ร่วมกับครับครัวต้นแบบ 45 คน ประชาชนทั่วไปและนักเรียน ผู้นำของชุมชน

-นำขยะที่ร่วมกันเก็บมาให้วิทยากรที่รับซื้อขยะ คุณเรวัต มาสรุปการจัดการขยะเป็นรูปธรรม และสร้างมูลค่าขยะได้อย่างไร

-จากนั้นเข้าสู่บทเรียนนำเด็กแบ่งเป็นสองกลุ่มให้เล่าเรื่องโดยคุณหมอสมนึก และให้วาดภาพจากศิลปินเพื่อทำเส้นทางขยะ

-เมื่อได้ผ่านกิจกรรม 2 กลุ่มแล้วให้ ดีเจ สาวมล เป็นวิทยากรสอนการเล่าข่าวผ่านหอกระจายข่าวโดยการแบ่งกลุ่ม 7 กลุ่มให้เขียนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันที่ 10/8/56แล้วนำเสนออย่างเป็นระบบ

-ตอนช่วงภาคค่ำมีการประกวดเรื่องเล่า มีรางวัลให้ ผู้ผ่านการคัดเลื่อกจำนวน 8 คนและแผนที่ขยะ

-มีการเล่นรอบกองไฟโดยการแสดงของเด็กที่ได้รับการฝึกจากสภานักเรียน

-วันที่ 11/8/56 ตอนเช้าวันอาทิตยนัดพบพร้อมกันตรงหัวสะสะพานเวลา 6.30 พร้อมจักรยานคู่กายออกเดินทางไปชมแหล่งเรียนรู้ใหม่ในชุมชนนากวด เยี่ยม ชมครัวเรือนต้นแบบการจัดการขยะอินทรีย์ นำไปสู่การปลูกพื้ชผักกินเองไม่ใช้ปุ่ยเคมี ใช้นำ้หมัก จากขยะิิอินทรีย์ ที่ทำจนเป็นแหล่งให้ความรู้กับคนอื่นได้ -หลังจากเยี่ยมครัวเรือนต้นแบบแล้วทีมจักรยานก็มาเยี่ยมชมกิจกรรมกลุ่มนากวดน่าอยู่ ที่ทำผลิตภัณฑ์จากขยะรีไชเคิลของป้าน้อย ที่รวมกลุ่มกันประมาณ 20 คนจากครัวเรือนต้นแบบและกรรมการบริหารหมู่บ้าน อยากทำให้ดูอยู่ให้เห็น สร้างมูลค้าจากสิ่งของเหลือใช้

-ประมาณ 8.00 น ได้ปั่นจักยานมาหอกระจายข่ายของหมู่ที่ 7,8 เพื่อให้นักข่าวน้อยได้คุยข่าวกิจกรรมที่เกิดขึ้น เด็ก ๆ สนุกกับการอ่านข่าวอยากไปอ่านทุกหมู่บ้าน แต่พี่ดีเจเขาบอกว่าตอนเย็นเขามีรายการ เขาก็พาไปออกรายการวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพัทลุง

-ประมาณ เที่ยงก็สุรปเสร็จกิจกรรม

-ได้สปอร์วิทยุ 2 ชุด -ได้เรื่องเล่าจากเด็ก 30 เรื่อง -เด็กเล่าข่าว อ่านข่าว สามารถไปออกรายการวิทยุได้ 7 คน -ได้แผนที่เส้นทางขยะ -จำนวนครัวเรือนต้นแบบ  นักเรียนและประชาชนทั่วไปร่วมกันเก็บขยะเกินกว่าจำนวนที่ตั้งเป้าไว้ 40 คน มาร่วม 102 คน -ผลที่ได้มากกว่าคือ การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมจากบทเพลง 2 เพลงเด็กชอบมาก

-ปัญหาเรื่องงบประมาณ -ทำงานกับเด็กต้องมีกิจกรรมนันทนาการตลอดไม่อย่างนั้นควบคุมเด็กไม่ได้

ไม่มี

ไม่มี

ประชุมชึ้แจงกิจกรรมในเดือนที่ผ่านมา

เชิงปริมาณ

-ผู้เข้าร่วม จำนวน 40 คนประกอบด้วย กำนันอนุชา เฉลาชัย ผู้ใหญ่ สุรศักดิ์ ขิตนาคินทร์ และนายกเวียง สว่างรัตน์ ผู้นำของตำบลนาท่อมและประชาชนทั่วไปที่เป็นกรรมการหมู่บ้านและครัวเรือนต้นแบบ 37  คน

-ได้รู้และเข้าใจการดำเนินโครงการที่ผ่านมามากขึ้น และการใช้กิจกรรมของครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์รณรงค์เก็บขยะในที่สาธารณะทุกวันอาทิตย์มีผู้เข้าร่วมมากขึ้น

ประชาชนต้องการจุดทิ้งขยะเพราะประชาชนมีการคัดแยกขยะแต่ขยะที่เหลือยังเป็นภาระดังนั้นอยากเห็นการมีีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา คือ

• ต้นทาง(มีการรณรงค์ ด้วยกิจกรรม เพื่อสร้างจิตสำนึก)
  

• กลางทาง อยากเห็นการมีส่วนร่วมของหน่วยงานมีจุดทิ้ง

• ปลายทาง เป็นกระบวนการจัดการให้ขยะเหลือน้อยที่สุดหรือไม่มี โดยมีโรงคัดแยกแก้ปัญหา

ไม่มี

ไม่มี

-เป็นกิจกรรมออกบูธนิทรรศการแสดงผลงานกิจกรรมโครงการ คือ กลุ่มนากวดน่าอยู่ ทำเรื่องรีไชเคิล นำมาแสนดง ทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม ได้ชื้อ ได้ฝึกการทำ

-ทางกลุ่มได้สอนเด็กผู้สนใจ

-เด็กได้ฝึกทำกิจกรรมที่ลดขยะ เช่น ทำขนมโดยใช้ใบตองแทนพลาสติก

-ได้แบ่งมุมจัดการขยะโดยวิธีแยกขยะ 3 R

-คณะทำงานได้เป็นพี่เลี้ยงให้สภาเยาวชน ให้ออกแบบจัดกิจกิจกรรมเอง -สิ่งที่ได้ ได้รวบเด็ก เยาวชน ผู้ปกครอบออกมาร่วมงานจำนวนมาก -ได้ใช้เด็กเป็นสื่อ ประชาสัมพันธ์โครงการร่วมสร้างชุมชนนากวดน่าอยู่ฯ -เด็กมีความสุขเมื่อได้จัดกิจกรรมที่เป็นพื้นที่เด็ก เด็กคิด เด็กทำ เด็กสุข

ไม่มี

-กิจกรรมเด็กมีอิทธิพลสร้างความร่วมมือกับชุมชน ถ้าทำกิจกรรมกับเด็ก ผลผลิตส่งผลกับชุมชนแน่นอน
-สร้างกิจกรรมเด็ก เปลี่ยนชุมชน

ไม่มี

-ผู้เข้าร่วม 1 คน
-ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารทางการเงินของโครงการ

-ได้รู้และเข้าใจระบบการบันทีกรายงานผลผ่าน www
-เจ้าหน้าที่ได้มีการรับรองเอกสารทางการเงินและแนะนำเจ้าการบันทึกให้ตรงกับแผนในชุดโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

-คณะทำงานร่วมกับครอบครัวจักรยานเดินเก็บขยะ โดยใช้กระสอบรวบรวมขยะไปเผา -ร่วมกับผู้นำและอดีตผู้นำทานขนมนำ้ชากาแฟและพูดคุยให้กำลังใจครอบครัวจักรยานฯ

-ขยะบริเวณตลาดลดลง

-ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม

-มีการรณรงค์ตลอดไปเพื่อสร้างจิตสำนึกกับเด็กเยาวชน ผู้ปกครอง ในกิจกรรมครอบครัวจักรยานวันอาทิตย์ ทำทุกวันอาทิตย์จนเกืออบเป็นปกติ หรือหรือความยั่งยืน

ปัญหาขยะสาธารณะให้มีการรณรงค์ไปเรื่อย ๆ นอกจากนั้นแล้วควรมีการรณรงค์ด้วยการทำสื่อนำเสนอ

-

-

-ใช้กระสอบเดินรณรงค์เก็บขยะทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ ร่วมกันขัดเก็บขยะใส่กระสอบ ระยะทาง 1  กม -ใช้สื่อวิทยุสนาม,หอกระจายข่าวประกาศรณรงค์

-ขยะบริเวณถนนสายโคกแย้ม วัดโอ ลดลง -มีผู้นำและอดีตผู้นำและประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมด้วย

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

-จำนวนสมาชิกครอบครัวจักรยาน 45 คัน -เก็บขยะหน้าวัดและกวาดขยะในวัด

-สมาชิกครอบครัวจักรยานตกลงกันว่าจะร่วมรณรงค์เก็บขยะให้ครบทั้ง 8 หมู่บ้านร่วมกับประชาชนโดยแจ้งไปยังเจ้าของพื้นที่เพื่อสร้างจิตสำนึกให้เกิดขึ้นทุกหมู่บ้านเนื่องจากเทศบาลนาท่อมไม่มีถังขยะ และรถเก็บขยะ

ปัญหากองทุนอาหารเช้าของกลุ่มจักรยานกำลังหมด

-แนวทางแก้ปัญหา ศูนย์พัฒนาครอบครัวได้ขอทุนอาหารเช้าเพื่อมาสนับสนุนใช้ในการรณรงค์ปั่นจักรยานเพื่อเปลี่ยนแปลงชุมชนร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ด้วยจักรยาน

ไม่มี

ไม่มี

-กิจกรรมที่ทำคือร่วมกันเก็บขยะริมถนนสาธารณะสายท่านช่วย -กลุ่มเด็กเยาวชน ครอบครัวผู้เข้าร่วมจำนวน 38 คัน -ร่วมรณรงค์เก็บขยะเพื่อให้ประชาชนมีจิตสำนึก

-ถนนมีความสะอาดสวยงาม

-น้อยกว่าเป้าหมายเล็กน้อยเนื่องจากตอนเช้าบางวันประชาชนกรีดยางก่อน

-เด็กจำนวนมาก31 คนที่เข้าร่วมที่ 8 คนที่เหลือเป็นเป็นผู้อายุและคนหนุมสาว

-ปัญหาการใช้สือหอกระจายข่าวยังขาดประสิทธิภาพต้องเพิ่มกิจกรรมหอกระจายข่าว

-การรณรงค์ทำให้ดู รณรงค์เก็บให้เห็นย่อมมีประสิทธิภาพสูงกว่า และต้องทำต่อเนื่อง

การสร้างจิตสำนึกสาธารณะต้องสร้างกิจกรรมเพิ่มที่มีพลังมากกว่า ใช้งบประมาณโครงการในส่วนการประชุมคณะทำงานเนื่องจากคณะทำงานเป็นผู้ร่วมคิด ร่วมทำกิจกรรม ทุกวันอาทิตย์

ไม่มี

-ครัวเรือนต้นแบบ 40 ครัวเรือนเก็บขยะริมถนนสาธารณะ -คณะกรรมการหมู่บ้าน 12 คนร่วมเก็บกับ ครัวเรือนต้นแบบ -เปิดหอกระจายข่าวชุมชนนากวดเชิญชวนครัวเรือนทำกิจกรรมร่วมกัน

-หอกระจายข่าวสามารถประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ครัวเรือนต้นแบบและคณะกรรมการหมู่บ้านเข้าร่วมกิจกรรมกรรมในครั้งนี้จำนวน 52 คน

-ครัวเรือนต้นแบบนำกระสอบออกมาร่วมกิจกรรมกรรมจำนวนมากร่วมกันรณรงค์เก็บขยะสองข้างถนนสาธารณะในเส้นทางหน้าวัดและริมถนนตรังพัทลุง ทำให้ประชาชนอื่นๆ ที่ไม่ได้สมัครเป็นครัวเรือนต้นแบบเข้าร่วมเก็บในครั้งนี้ด้วย เพราะเห็นความสำคัญกับการจัดการขยะในพื้นที่สาธารณะ

-นายสุรศักดิ์ ขิตนาคินทร์ ผู้ใหญ่บ้านได้ร่วมกิจกรรมด้วยและได้มีความเห็นร่วมกันให้มีการรณรงค์แบบนี้เดือนละครั้ง เพื่อให้ชุมชนตระหนักลดปริณาณขยะริมทางได้เป็นจำนวนมากและจะทำให้คนอื่นๆ เกรงใจในการทิ้งขยะส่วนแม่ค้าก็คงจะตระหนักลดปริมาณขยะต้นทางได้ในระดับหนึ่งแต่ต้องมีการรณรงค์กันบ่อย ๆ

-ได้ความสัมพันธ์ที่ดีแก่กัน  ได้คุย ปัญหาร่วมกัน ได้ถามสุขทุกข์แก่กัน  ได้ออกกำลังกายร่วมกัน

ต้องมีกิจกรรมรณรงค์หลายรูปแบบหลายวิธีการจะทำให้ประิมาณขยะลดลงได้

  -

-

ปั่นจักรยาน จำนวน 60 คน ประกาศเชิญชวนช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ทิ้งขยะในที่สาธารรณะ

-มีเด็ก เยาวชน ครอบครัวมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกวันอาทิตย์

-ไม่ต้องใช้เงินโครงการในการเลี้ยงอาหารเช้ากับครอบครัวจักรยานเนื่องจากมี กลุ่มแพทย์พอสว.มอบทุนให้เป็นอาหารเช้าเด็กในครั้งนี้

-เด็กรู้ เข้าใจ ตระหนักเรื่องขยะเพิ่มขึ้น ดูได้จากหลังกินอาหารเช้าเสร็จเด็กช่วยกันเก็บ กวาด และให้อาหารปลาในคลองที่ทุกคนร่วมกันกำหนดเขตอภัยทานไม่จับปลา

-

-

-

สรุปปัญหาโดยผู้ใหญ่สุรศักดิ์ ขิตตนาคินทร์  นายกเวียง  สว่างรัตน์ และนายถาวร  คงศรี ผู้เข้าร่วมประชุม 52 คน

ผลจากการแลกเปลี่ยน

-จำนวนครัวเรือนต้นแบบมีการคัดแยกขยะ มีรายได้จาการคัดแยกขยะเพิ่มขึ้น

-ครัวเรือนต้นแบบสะท้อนปัญหาขยะในที่สาธารณะไม่มีเจ้าภาพหลัก ต้องร่วมกันรณรงค์

-การรณรงค์ในรูปแบบต่าง ๆ,การให้ความรู้,การประชาสัมพันธ์ มีผลต่อแรงกดดันลดลงจากเรียกร้องถัง/รถเก็บ ลดลงจากการสำรวจข้อมูล

-แนวนโน้มความต้องการจัดการขยะของประชาชนต้องการให้มีจุดทิ้งรวมแล้วมีผู้รับผิดชอบไปทิ้ง

ปัญหาสาธารณะต้องร่วมกันรณรงค์ให้บ่อยขึ้น ผู้ใหญ่ต้องคุยหอกระจายข่าวบ่อยขึ้น

-

-

-ประชาชนผู้เข้าร่วมประชุม 48 คน -นักเรียนและครู จำนวน 50 คน
-ผู้ใหญ่และคณะทำงาน 12 คน เป็นการร่วมกันพัฒนาวัด โรงเรียน และถนนหน้าวัด ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันของ บ้าน วัด โรงเรียน -หลังจากประชุมสรุปผลเพื่อหาข้อเสนอให้เป็นข้อเสนอสาธารณะระดับตำบลแล้ว ประชาชนร่วมกับครู เด็กนักเรียน ร่วมกันพัฒนาโรงเรียนให้สะอาด -หนุนเสริมค่าไถแปรงสาธิตโรงเรียน

-ได้ข้อมูลในการที่จะพัฒนาเป็นนโยบายสาธารณะระดับตำบลเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมประเด็นขยะเกิดขึ้น -ได้ร่วมกันพัฒนาวัด โรงเรียน และถนนหน้าวัด ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันของ บ้าน วัด โรงเรียน
-จากการเก็บข้อมูลพบว่า ครัวเรือนประมาณ 90 %มีการคัดแยกขยะก่อนนำขยะไปทิ้ง และมีจำนวนครัวเรือนมีเพิ่มมากขึ้น -จากข้อมูลพบว่าประชาชนเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องหาจุดทิ้ง/เก็บ -ได้แปรสาธิตพร้อมปลูกของโรงเรียนเพื่อเป็นอาหารของเด็ก

การจัดกิจกรรมร่วมกันของ บ้าน วัด โรงเรียน ต้องปรับเวลาหาช่วงเวลาเหมาะสมใหม่

ไม่มี

ไม่มี

-ทีมครอบครัวจักรยาน เก็บขยะริมหนองน้ำ ดูปลาที่ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์,กวาดขยะในสำนักสงฆ์หนองปราง

-ประชาชนบริเวณสำนักสงฆ์มาร่วมกันกวาดขยะด้วย

-เทศบาลประกอบด้วยนายก ปลัด เจ้าหน้าที่มาร่วม

-ทีกำนันและผู้ใหญ่มาร่วมกิจกรรมนี้ด้วยทั้ง 8 หมู่บ้าน

-ไม่ต้องใช้งบประมาณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเช้ากับครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์

-

ต้องการต่อยอดกิจกรรมครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ ด้วยกิจกรรมฟื้นชุมชนด้วยพลังจักรยาน

-

-ผู้ใหญ่สุรศักดิ์ ผู้รับผิดชอบโครงการได้ประชุมชี้แจงแลกเปลี่ยนกับครัวเรือนต้นแบบ -ได้กำหนดหลักเกณท์ในการประกวดเรื่องเล่า นากวดน่าอยู่ในมุมมองของฉัน และประกวดการเขียนแผนที่เส้นทางเดินขยะ

ประชาชนและครัวเรือนทราบการประกวดเรื่องเล่า และ การประกวดแผนที่เส้นทางเดินขยะ

-

-

-

-มีการสังเคราะห์เชิงคุณค่าของการดำเนินงานและพัฒนาโครงการต่อยอดโดย คุณหมอ พงษ์เทพ สุธีรวุฒิ

-พื้นที่เข้าร่วม จำนวน 3 คน ได้รู้และปฎิบัติระบบการติดตามรายงานการทำกิจกรรมผ่านเว็ปต์ไซค์คนใต้สร้างสุข
-มีการแบ่งกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ -มีการทบทาวนนำเสนอผลการดำเนินงานแต่ละพื้นที่

ผู้นำคือนายกเวียง  สว่างรัตน์ เป็นครัวเรือนต้นแบบ เป็นคณะทำงาน และเป็นผู้รับผิดชอบต่อประชาชนโดยตรงเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

-นายสุรศักผู้รับผิดชอบโครงการได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ได้เข้าร่วมเวทีแลกเปลี่ยนนี้ด้วย

-

-

-

ผู้ใหญ่สุรศักดิ์ ขิตตนาคินทร์ ประชุมประชาชนและครัวเรือนต้นแบบ จำนวนภค 48  คน ชี้ี้แจงและเชิญชวนคนอื่นร่วมกันแยกขยะในครัวเรือน และถามปัญหาร่วมกันหาทางแก้ไข

-รู้สถานที่เป็นปัญหาคือ ถนนสายท่านช่วย-ทุ่งนาซี เป็นถนนที่มีขยะมากเพราะตำบลนาท่อมไม่มีถังขยะบริการทำให้ที่บริเวณป้ายรถเมล์เต็มไปด้วยขยะ

-สำหรับครัวเรือนมีการแยกขยะ ขายขยะ นำขยะมาเป็นปุ๋ยไส่ต้นไม้

-โรงเรียนมีการทำน้ำหมักใช้กับต้นไม้ มีการจัดการขยะพลาสติถุงนมด้วยวิธีการเผาและบางส่วนนำมาทำเป็นขยะรีไซค์เกิล

ได้หารือกับครูโรงเรียนวัดนาท่อมจะจัดให้มี ตลาดนัดขยะที่บริเวณโรงเรียนประมาณเดือน กรกฎาคม ตอนนี้ปรับสถานที่อยู่

-

-

-จัดป้ายนิทรรศการแสดงรูปกิจกรรม จัดขายสินค้าพันธ์พืชที่เพาะใช้นำ้หมักชีวภาพรดน้ำจนนำมาซื้อขายในนิทรรศการ

-ได้จัดนิทรรศการขายสินค้าปลอดสารจากการใช้อินทรีย์ ชีภาพ เช่นผักปลูกเองใช้นำ้หมักจากของเหลือใช้

-

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

-จัดป้ายนิทรรศการกิจกรรมโครงการในงานแข่งขันเรือพายประจำปี 2556 ที่ศาลาทำการหมู่ที่ 7
-รูปกิจกรรมการรณรงค์ของครัวเรือนต้นแบบ

-หลังจากจบงานแข่งขันเรือพายประจำปี จำนวนขยะที่สาธารณะลดลงง่ายต่อการจัดการ -แม่ค้าต่างก็มีถุงและกระสอบรองรับขยะไว้ตามจุดสำคัญจำนวนมาก

การจัดงานวัดหรืองานชุมชนต้องมีการประชาสัมพันธ์และมีที่รองรับการจัดการขยะอย่างมีส่วนร่วมโดยการสร้างความเข้าใจกับแม่ค้า จะทำให้ปัญหาการจัดการขยะหลังจบงานลดลง

-การสร้างจิตสำนึกสาธารณะต้องทำอย่างต่อเนื่องไม่เสร็จในครั้งเดียว

ไม่มี

ลักษณะกิจกรรม -จำนวน 45 ครัวเรือนต้นแบบส่งเสริมการทำน้ำหมักใช้กับพืชในการลดต้นทุนและได้พืชผักผักปลอดภัยไว้รับประทาน -โรงเรียนสามารถจัดการขยะอินทรีย์จากโรงอาหารเองได้ 2 ทางคือ
    -ทำน้ำหมัก จากการหนุนเสริมถังและกากน้ำตาล โดยมีแปลงผักไว้ใช้เป็นอาหารของเด็ก     -เศษอาหารอินทรีย์วัตถุใช้เลี้ยงสัตว์ที่ผู้เลี้ยงสัตว์มารับตอนเย็นจำนวนหนึ่ง

-ครัวเรือนได้ทำน้ำหมักใช้ในครัวเรือนลดต้นทุนได้อาหารที่ปลอดภัย -ครัวเรือน/โรงเรียนวัดนาท่อมทำน้ำหมักจากของเหลือใช้ที่เป็นอินทรีย์วัตถุและใช้ประโยชน์ได้

ปัญหารในตอนแรก ๆ คือ ไม่สะดวก มีกลิ่น ทำและใช้ยังไม่คล่องหรือไม่ถนัด

วิธีแก้
  -มีการสอนให้ทำและใช้จนมั่นใจ

ไม่มี

ไม่มี

ประชุมแจ้งความก้าวหน้าและสอบถามปัญหาอุปสรรค์การทำโครงการ -ร่วมทำประชาคมเสนอแผน3 ปีร่วมกับเทศบาลตำบลนาท่อม

-แกนนำได้เสนอแผนเรื่องครัวเรือนต้นแบบกับเทศบาลในการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ -ได้เส้นทางขยะเกิดขึ้น ต้นทาง  กลางทาง  ปลายทาง

แบ่งเขตพื้นที่ให้แกนนำฯสุ่มเยี่ยมครัวเรือนต้นแบบเพื่อดูปัญหาอุปสรรคการจัดการขยะครัวของแต่ละครัวเรือน

ไม่มี

ไม่มี

-รายงานผลการทำกิจกรรมของบ้านนากวด -จำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด  57  คน -กิจกรรมที่ทำ เป็นการประชุมพูดย้ำ ทำซ้ำ ช่วยทำกิจกรรมทุกวันอาทิตย์รณรงค์สร้างจิตสำนึกกับชุมชนร่วมกับกลุ่มครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ โดยมีเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดนาท่อมส่วนใหญ่มาร่วมกิจกรรม
-มีการทำกิจกรรมของครัวเรือนต้นแบบในงานกีฬาต้านยาเสพติดของเทศบาลด้วยการเดินรณรงค์ ด้วยกระบวนพาเรดกิจกรรม 3 R ของครัวเรือนและประชาชนและกระบวนของครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ที่มีครอบครัว ประกอบด้วยเด็ก ผู้สูงอายุ และประชาชนร่วมขวน

-ครัวเรือนต้นแบบแยกขยะ สู่การขาย ทำปุ๋ยใช้เองลดรายจ่าย

-ครัวเรือนต้นแบบและประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมพาเหรด 3 R ของชุมชนนากวดอย่างมีส่วนร่วม

-ครัวเรือนต้นแบบได้รับรางวัลจากกระบวนการพาเหรด 3 R และขวนจักรยานสานฝันวันอาทิตย์

-ชุมชนอื่นได้รู้กิจกรรมของชุมชนบ้านนากวด ในการจัดการขยะด้วยวิธี 3 R

รณรงค์ต่อไปด้วยวิธีการหลายวิธี

-

-

จำนวนผู้เข้าร่วม  45  คน -เจ้าหน้าที่เทศบาล 2 คน -ครัวเรือนต้นแบบ  43  คน -รายงานกิจกรรมทีดำเนินการ กับ ครัวเรือนต้นแบบ  วัด และโรงเรียน หลังจากที่ได้ไปดูของจริงจากการศึกษาดูงาน เห็นว่าการรณรงค์เรื่องจิตสำนึกต้องใช้เวลา  การหนุนเสริม กากน้ำตาล ถังหมักเป็นการกระตุ้น สร้างจิตสำนึกเท่านั้นเพื่อกระตุ้นให้พฤษติกรรมเดิมเปลี่ยน จากทิ้งไม่เป็นที่ เป็นที่มากขึ้น จากทิ้งเป็นเก็บ จากเก็บเป็นแยก ไปสู่การขาย

-ครัวเรือนดำเนินการคัดแยกขยะเองได้จริง -ครัวเรือนลดการขยะได้ มีการแยกขยะ ขายขยะ ทำน้ำหมักเอง ลดภาวะกดดันเทศบาลให้ซื้อถังขยะ

-

ทำกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องเพื่อสร้างจิตสำนึก

-

-ประชุมประจำเดือนทุกวันที่ 9 -ผู้ใหญ่สุรศักดิ์ชี้แจงข่าวทางราชการเป็นวาระแรกและให้โครงการอยู่ในวาระสืบเนื่อง และสรุปผลการทำกิจกรรมของครัวเรือนตนแบบ โรงเรียน และวัดนาท่อม -นายกเวียง สว่างรัตน์ นายกเทศมนตรีซึ่งเข้าร่วมประชุมทุกครั้งและเป็นคนรณรงค์ไม่ช์้อรถ และถังขยะร่วมสรุปให้ข้อมูล -หนุนเสริมเมล็ดพันธ์พืชให้ครัวเรือนต้นแบบและโรงเรียนวัดนาท่อม -ช่วงเช้าร่วมกันออกกำลังกาย ปั่นจักรยานรณรงค์ดูแลสิ่งแวดล้อม

-ในช่วงเข้ามีกิจกรรมรณรงค์เรื่องออกกำลังกายและดูแลสิ่งแวดล้อม ดูแลขยะในที่สาธารณะ ผู้เข้าร่วมประมาณ 60 คน เป็นการรณรงค์สร้างจิตสำนึก

จำนวนผู้เข้าร่วมประชุมช่วงบ่าย - ครัวเรือนต้นแบบ 25- คน -กก.หมู่บ้าน 15 คน -คณะทำงาน  5 คน รวมจำนวน 45 คน

-

กิจกรรมรักษ์ษาสิ่งแวดล้อม สร้างจิตสำนึก ต้องรณรงณ์ ใช้สื่อ มีกิจกรรมย่อย ๆ บ่อย ๆ จะส่งผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น  ทางโครงการร่วมสร้างนากวดน่าอยู่ได้ใช้เด็ก ครอบครัว เป็นสื่อ โดยใช้กิจกรรมจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ ทุกวันอาทิตย์ในการปั่นจักรยานรณรงค์ บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์โดยใช้วันอาทิตย์ทุกวันปั่นรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม

-

เชิงปริมาณ

-เจ้าหน้าที่โครงการเข้าร่วม 3 คน

เชิงคุณภาพ

-สรุปกิจกรรมและรายงานความก้าวหน้าโครงการ(ส1)

-สรุปการเงินและออกรายงาน

-ผู้เข้าร่วมสรุปรายงานกิจกรรมทั้ง 3 คน ดำเนินการสรุปงานได้เสร็จ

-รายงานส่งไม่ได้เนื่องจากหัวหน้าโครงการประสบอุบัติเหตุไม่สามารถมาร่วมต้องนำส่งรายงานภายหลัง

-หัวหน้าโครงการไม่มาเนื่องจากประสอุบัติเหตุ


แก้ไข

-นำกลับไมเซ็นแล้วส่งให้ทันภายในกำหนดเวลาวันที่ 15/3/56

ตรวจสอบความเรียบร้อยและคำแนะนำการเงินบัญชี

-จัดเวทีร่วมกันแลกเปลี่ยนระหว่างครัวเรือน วัด โรงเรียน โดยให้ตัวแทนบอกวิธีการจัดการขยะของครัวเรือน  วัด โรงเรียน ซึ่งเป็นแผนที่เส้นทางเดินของขยะแต่ละพื้นที่เดิมทำอย่างไร  ปัจจุบันทำอย่างไร

เชิงปริมาณ

-ผู้เข้าร่วมทั้งหมด 99 คนน้อยกว่้าเป้าหมาย 7 คน

เชิงคุณภาพ

โรงเรียนวัดนาท่อมและครัวเรือนต้นแบบรู้และเข้าใจการจัดทำแผนที่เส้นทางเดินขยะของครัวเรือน โรงเรียนวัดนาท่อม  วัดนาท่อมปฎิบัติตามแผนที่เส้นทางเดินขยะของตน

ผลที่เกิดขึ้น

1.เดิมโรงเรียนไม่มีการแยกขยะ ปัจจุบันโรงเรียนมีการแยกขยะและแยกละเอียดยิ่งขึ้น

2.เดิมครัวเรือนมีการแยกเฉพาะขยะที่ขายได้บ้าง ปัจจุบันมีการแยกแยกทั้งขยะอินทรีย์ ขยะทั่วไป  ขยะขายได้

3.เดิมนักเรียนไม่สนใจเรื่องการจัดการขยะ  ปัจจุบันนักเรียนแยกขยะที่บ้าน โรงเรียน มีการรณรงค์เก็บขยะที่สาธารณะ

4.เดิมเจ้าอาวาสวัดนาท่อมไม่ได้แยกขยะ  ปัจจุบันมีการแยกขยะและมีการเทศน์ให้ผู้เข้าวัดรณรงค์ดูแลสิ่งแวดล้อม เรื่องขยะ เรื่องสุขภาพ

5.รู้และเข้าใจแผนที่เส้นทางขยะ ต้นทาง(ลดขยะนำเข้า) กลางทาง(แยกขยะ) ปลายทาง(ขยะเหลือศูนย์)

1.ครัวเรือนต้นแบบและโรงเรียนวัดนาท่อมทำแผนที่เส้นทางเดินของขยะของตนเอง  เมื่อมีปัญหาก็นำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนในวันที่มีการประชุม

2.ต้องมีการคุย รณรงค์ต่อไปจนกว่าพฤติกรรมคนในชุมชนเปลี่ยน

3.ต้องประชาสัมพันธ์ ต้องให้รางวัล กับผู้ที่มีการจัดการขยะโดยวิธีต่าง ๆ

-หนุนเสริมวัสดุใช้ทำน้ำหมักจากขยะอินทรีย์และแปลงปลูกผัก หนุนเสริม

-กากน้ำตาล 100 กก

-ถังหมัก 200 ลิตร 3 ใบ

-โรงเรียนประกอบด้วยครู นักเรียนเกิดความตระหนักในเรื่องการแยกขยะ เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน มีกิจกรรมทุกวันศุกร์

-เจ้าอาวาสวัดนาท่อมเข้าร่วมโครงการ โครงการสนับสนุนถังหมักและกากนำตาลซึ่งแบ่งมาจากครัวเรือนต้นแบบ

-เจ้าอาวาสวัดนาท่อมเป็นพระนักพัฒนาจะเทศน์ให้ประชาชนที่เข้าวัดในวันสำคัญ เป็นวิทยากรให้โรงเรียนสอนเด็กเรื่องขยะด้วย

-วัดนาท่อมเริ่มกำจัดขยะโดยวิธีแยกขยะ  และทำน้ำหมัก

-โรงเรียนขาดบุคคลากรที่เป็นผู้ชายประกอบกับพื้นที่โรงเรียนกว้างจำเป็นต้องมีกิจกรรมรณรงค์บ่อยขึ้น

-ยังไม่หนุนเสริม เมล็ดพันธุ์ผัก ค่าไถแปรเตรียมแปลง โรงเรียนยังไม่พร้อมเด็กเตรียมสอบ ติดฝนแล้ง

-

-

1.หนุนเสริมถังหมักให้โรงเรียนจำนวน 200 ลิตร จำนวน 3 ใบพร้อมก๊อกเปิด

2.กากน้ำตาลให้โรงเรียน 100 กก

3.ทีมผู้นำประกอบด้วยกำนัน ผู้ใหญ่ ครู นักเรียน รณรงค์พัฒนาทำความสะอาดโรงเรียนวัด ด้วยการตัดหญ้า เก็บขยะ ทำพิธีมอบถังและกากน้ำตาลให้ตัวแทนครู

1. ครู เด็ก และแม่ครัวรู้และเข้าใจ สามารถจัดการคัดแยกขยะอินทรีย์ได้

2. ครูและเด็กแยกขยะทั่วไป ขยะขายได้โดยใช้กระสอบ และตะกร้า

3. เด็กมีการรณรงค์เก็บขยะทุกวันศุกร์เพื่อสร้างจิตสำนึก

1.โรงเรียนวัดนาท่อมมีครูผู้หญิงทั้งหมดและภารโรงไม่มี จึงเป็นปัญหาเรื่องการทำและการใช้น้ำหมัก

2.วิธีแก้  มีการประสานกับผู้นำในท้องที่พัฒนาได้เป็นครั้ง ๆ ไปตามคำขอ

3.ปัญหาความยังยืนเนื่องจากเด็กน้อยลงพื้นที่มาก ต้องใช้เวลาในการดูแล วิธีแก้ต้องมีการรณรงค์บ่อยขึ้นจากความร่วมมือ บ้าน วัด โรงเรียน โดยผู้นำประสาน

-ร่วมกันออกแบบสำรวจให้บันทึกข้อมูลขยะครัวเรือนและโรงเรียนวัดนาท่อมในชุมชนบ้านนากวดจำนวน 20% สุ่มตัวอย่าง  เก็บ 1 สัปดาห์

-แบบสำรวจแจกให้ครัวเรือนและโรงเรียน  กำลังดำเนินการอยู่

1. กำลังดำเนินการยังไม่วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล

2. ยังไม่มีค่าใช้จ่ายเกิดเนื่องจากงานข้อมูลยังไม่เสร็จ

การเก็บข้อมูลล่าช้า

-เป็นช่วงที่ประชาชนเกี่ยวข้าวและทำสวนยางและมีงานกิจกรรมของชุมชนมากยังเก็บไม่หมด

แนวทางแก้ไข -ต้องประชุมสร้างความเข้าใจเพิ่มกับคณะทำงาน -ต้องทำให้ชุมชนเห็นความสำคัญเรื่องขยะจากการคืนข้อมูลเรื่องขยะให้ชุมชนทราบ

เชิงปริมาณ

-มีผู้เข้าร่วมจำนวน 50 คน

เชิงคุณภาพ

-หัวหน้าโครงการ นายสุรศักดิ์ ขิตนาคิน ประชุมทุกวันที่ 9 ของเดือนพูดคุย ย้ำบ่อย ๆ ให้เกิดความตระหนัก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำเองที่บ้าน วัด โรงเรียน ให้เป็นแบบอย่าง

-หลังจากครัวเรือนต้นแบบ,วัด ,โรงเรียนได้เรียนรู้ ดูงานก็กลับมาจัดการเองที่บ้านโดยวิธีแยกขยะโดยใช้กระสอบมาแยกชนิดหลายใบไม่เรียกร้องการแจกถังจากเทศบาล

1.ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการที่เป็นผู้นำ นาย สุรศักดิ์ ขิตนาคินทร์ ผู้ใหญ่บ้านและเป็นหัวหน้าโครงการเป็นตัวอย่างทำให้ดู แล้วนำมาสาธิตให้ลูกบ้านดูในวันประชุมหมู่บ้าน นำมาสาธิตกระบวนการจัดการขยะแต่ละบ้าน

2.วันที่ 9 ทุกเดือนจะมีการจัดนิทรรศการขึ้นบอร์ดให้ทุกเดือนสำหรับคนที่ทำเห็นผลเป็นตัวอย่างให้คนอื่นดูได้

3.ผู้ใหญ่สุรศักดิ์ ทำให้ดู โดยการสาธิตการแยกขยะที่บ้านนำมาแสดงให้ดูในที่ประชุม

หลังจากทำกิจกรรม

-ขยะทัวไปยังมีปัญหาอยู่

-พื้นที่สาธารณะยังมีปัญหาขยะทั่วไป

วิธีแก้

-ต้องกระตุ้น รณรงค์อย่างต่อเนื่อง

-ต้องมีกิจกรรมหนุนเสริมจากเทศบาลบ้าง เช่น ถังเก็บขยะทั่วไปในที่สาธารณะไม่ไช่เป็นภาระของประชาชนเองทั้งหมด

-ต้องมีที่เก็บขยะมีพิษตามจุดต่าง ๆ

-ไม่มี

-ไม่มี-

เชิงปริมาณ

1.ผู้เข้าร่วมเด็กนักเรียน ครู ครัวเรือนต้นแบบ จำนวน  จำนวน 113 คน

เชิงคุณภาพ

1.สาธิตการคัดแยกขยะโดยวิทยากรจากร้านรับซื้อขยะและเจ้าอาวาสวัดนาท่อมที่สมัครเข้าร่วมโครงการ

2.นักเรียนโดยสภานักเรียน ครู ครัวเรือนต้นแบบเรียนรู้/เข้าใจมากขึ้น/การแยกขยะถ้าแยกซ้ำหลายครั้งมูลค่าก็เพิ่มขึ้น

1.นักเรียน  ครู  พระ  ครัวเรือนต้นแบบ ร่วมกิจกรรมมีความรู้เข้าใจและสามารถนำไปปฎิบัติจริงได้

2.ครู นักเรียน ครัวเรือนต้นแบบรู้และเข้าใจยิ่งขึ้น ขยะเป็นสิ่งเหลือใช้ของเราที่สร้างขึ้นมาและมีมูลค่าถ้าแยกซ้ำมูลค่ายิ่งสูงขึ้น ดังนั้นถ้าจะไม่ให้มีขยะต้องมีความรู้และต้องกำจัดตั้งแต่ต้นทางคือ การไม่สร้างขยะ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เชิงปริมาณ -มีผู้เข้าร่วม 113 คน
เชิงคุณภาพ

-ครัวเรือนต้นแบบ ครู นักเรียน เจ้าอาวาสวัดนาท่อม รู้และเข้าใจนำไปปรับใช้ได้เอง

-เรียนรู้การแยกขยะทั้ง 4 ประเภท

-เจ้าอาวาสเข้าร่วมบรรยายให้สมาชิก ครู นักเรียน และครัวเรือนต้นแบบทราบว่าวัดก็มีการแยกขยะ และทำน้ำหมัก

1.ครัวเรือนต้นแบบไม่ได้เรียกร้องจะเอาถังหมักหลังจากดูงานแล้วนำมาปรับให้สอดคล้องกับแต่ละครัวเรือน ทำได้ใช้เป็น

2.วัดนาท่อมโดยเจ้าอาวาสสมัครร่วมโครงการด้วยเหตุผล วัดเป็นที่สาธารณะมีกิจกรรมบ่อย บ้านนากวดต้องร่วมมือกันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน จึงจะทำเรื่องการจัดการขยะได้ดี วัดสามารถให้ความรู้กับประชาชนในวันที่วัดมีกิจกรรมได้ และวัดก็จะสร้างวินัยให้กับประชาชนอีกช่องทาง

1.ปัญหาการใช้ของครัวเรือนที่ไม่เหมือนกันบางครัวเรือนไม่ชอบกลิ่นกลิ่นน้ำหมัด บางครัวเรือนคิดว่าลำบากในการใช้

วิธีแก้

1.ให้ความรู้เพิ่มในการทำน้ำหมัก

2.แปรรูปเป็นอย่างอื่นเช่น ใช้เลี้ยงสัตว์ ใช้ฝังดิน รดต้นไม้

3.ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างอื่นให้สอดคล้องกับความต้องการ

ไม่มี

ไม่มี

1.คณะกรรมการบริหารชุมชน 15 คน ร่วมกันออกแบบชุดข้อมูลของครัวเรือนและโรงเรียน

2.เก็บข้อมูล 7 ครั้ง ครั้งละ 50 ชุดทั้งครัวเรือนต้นแบบและโรงเรียน

3.ได้ชุดสำรวจข้อมูล จากการร่วมคิดร่วมออกแบบของคณะกรรมการบริหารชุมชน

-จากชุดข้อมูลที่ได้ส่วนใหญ่ครัวเรือนมีการแยกขยะเพิ่มขึ้นและบางคนมีการแยกซ้ำเพิ่มมูลค่า

-มีครัวเรือนต้นแบบทำนำหมักใช้กับผักที่ปลูกกินและขายในครัวเรือน

-ข้อมูลเก็บล้าช้านำมาสังเคราะห์ไม่ได้เนื่องจากคณะทำงาน และครัวเรือนต้นแบบอยู่ในช่วงฤดูการกรีดยางและเกี่ยวข้าว

-แนวทางแก้ไข ต้องรอคอย เป็นวิถีของคนนากวด

-ไม่มี-

-ไม่มี-

เชิงปริมาณ

จำนวนผู้เข้าร่วม 21 คน

เชิงคุณภาพ

1.แต่ละคนของครัวเรือนต้นแบบ ครู ที่ไปดูงานแสดงความเห็นกับสิ่งที่ได้รับรู้ เห็นอะไร คิดอะไร

2.การปรับลดขยะครัวเรือนของสมาชิกครัวเรือนต้นแบบสามารถปรับลดขยะได้ด้วยวิธีการแยกขยะแต่ละประเภทด้วยการแยกซ้ำก็จะเห็นโอกาสมากขึ้น

3.ครัวเรือนและโรงเรียนเห็นกระบวนการชัดขึ้นนำมาปรับใช้ได้มากกว่าเดิม

4.สมาชิกที่ร่วมดูงานได้เรียนรู้การทำผลิตภัณฑ์ทดแทนจากของเหลือใช้ เช่น เปลือกมะนาวใช้ทำน้ำยาเอนกประสงค์ การทำน้ำหมักอย่างง่าย การแยกขยะของครัวเรือนต้นแบบ

1.ครัวเรือนแยกขยะโดยไม่เรียกร้องถังพร้อมกำจัดขยะของตนด้วยตนเองด้วยภาชนะที่หาเอง

2.ครัวเรือนและโรงเรียนใช้กระสอบแยกขยะแต่ละประเภท,ใช้ถังสื ทำน้ำหมักขยะอินทรีย์ใช้ในการเกษคร

3.ตัวแทนครัวเรือนจัดการขยะเองได้ปัญหาที่เกิด คือ ขยะทั่วไปที่ผ่านการแยกแล้วส่วนที่ขายไม่ได้กำจัดเองไม่ได้จำเป็นต้องไปทิ้งในตำบลอื่นที่อยู่ตรงกันข้าม เผาไม่ได้เพราะบ้านเรือนอยู่ติดกัน

ไม่มี

-ไม่มี-

-ยังไม่มี-

เชิงปริมาณ

จำนวนผู้เข้าร่วม 48 คน เป้าหมาย 30 คน

เชิงคุณภาพ

สมาชิกผู้เข้าร่วมดูงาน

-นายกเทศมนตรีต.นาท่อม

-ผู้อำนวยการ รพสต.นาท่อม

-เจ้าอาวาส วัดนาท่อม

-สภานักเรียน10 คนและตัวอแทนครู

-ผู้ใหญ่ผู้ช่วย

-หัวหน้าชมรมเขยนาท่อมและประธานกลุ่มผู้สูงอายุ

-ครัวเรือนสนใจและสามารถปรับใช้กับครัวเรือนตนเองได้

-เจ้าอาวาสวัดนาท่อมสนใจเข้าร่วมโครงการด้วยเหตุผลการร่วมสร้างชุมชนน่าอยู่ ต้องประกอบด้วย บ้าน วัด โรงเรียน จึงจะสมบูรณ์

-คณะผู้เข้าศึกษาดูงานได้ดู ได้ฟังการอธิบายกระบวนการของธนาคารขยะ  และครัวเรือนต้นแบบ

-ตัวแทนครัวเรือน วัด และโรงเรียนเห็น รู้ว่าการกำจัดขยะไม่จำเป็นต้องให้ใครมาซื้อถัง หรือให้ใครมาเป็นภาระ รู้ว่าขยะเกิดจากเรา เราต้องเป็นผู้จัดการเอง

-จำนวนครัวเรือนและตัวแทนครู นักเรียน 48  คน ทำให้เจ้าหน้าที่โครงการต้องบริหารงบประมาณแต่เป็นผลดีกับทุกภาคส่วนได้เห็นแหล่งปฎิบัติการจริง แล้วนำมาปรับใช้กับตนเอง

แนวนทางแก้ปัญหา

1.บริหารจัดการงบประมาณที่ได้ให้พอ

2.บางกิจกรรม เช่นกิจกรรมกำจัดขยะต้องให้ครัวเรือนต้นแบบดูเอง เรียกว่าไปดูแล้วกลับมาปฎิบัติ

-ไม่มี-

-เห็นด้วยกับการสนับสนุนให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้เองไม่ถูกบังคับชี้นำให้ทำ

-ไม่มี-

เชิงปริมาณ

-ผู้เข้าร่วม 7 คน

เชิงคุณภาพ

-คณะทำงานได้แบ่งหน้าที่กันทำงาน การเงินและเจ้าหน้าที่บัญชี

-คณะทำงานได้มาร่วมรับรู้ เรียนรู้การทำงานเป็นทีม รู้และเข้าใจกระบวนการทำงาน ไม่ทำงานคนเดียว

-เข้าใจและบันทึกบัญชีได้ถูกต้อง

-เห็นโครงสร้างคณะทำงานและขับเคลื่อนงานได้

ปัญหา

1.การเงินยังขาดรายละเอียดในการบันทึกทางการเงิน เช่น จำนวนผู้เข้าร่วม 2.บางกิจกรรมขาดทะเบียนผู้เข้าร่วม


วิธีแก้ไข

1.สร้างความเข้าใจกับคณะทำงานเพิ่มมากขึ้นและรอบคอบมากขึ้น

-กิจกรรมสร้างกระบวนการเรียนรู้กับชาวบ้านต้องใช้เวลารีบร้อนมากไม่ได้ทุกวันนี้สร้างคนมาทำงานยากมากขึ้น

-เห็นด้วยกับงานติดตามในพื้นที่เพราะเป็นการสร้างความคุ้นเคย ง่ายต่อการขับเคลื่อนงานให้สำเร็จ

จำนวนพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง 15 พื้นที่ ร่วมกับพี่เลี้ยงและเจ้าหน้าที่ สจรส.ประชุมร่วมกับพื้นที่ดำเนินการเพื่อติดตามผลการดำเนินงานในงวดที่ 1

พื้นที่ดำเนินการ จำนวน 15 พื้นที่ของจังหวัดพัทลุงเข้าร่วมประชุมพร้อมกันและร่วมกันรายงานผลการดำเนินงาน(ส.1)ผ่านเว็บไซต์เรียบร้อย

-พื้นที่ดำเนินกิจกรรมติดต่อกันและไม่ได้มีการรายงานผลการดำเนินงาน -หลักฐานการเงินผู้จ่ายเงินยังไม่เซ็นชื่อ -ขาดสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนในกรณีที่จ่ายเงินเกิน 5,000 บาท

ไม่มี

การจัดกิจกรรมในพื้นที่ต้องเครียร์ค่าใช้จ่ายพร้อมหลักฐานการเงินให้เรียบร้อยในวันเดียวกัน

เชิงปริมาณ

-ผู้เข้าร่วมประชุม  60 คน

เชิงคุณภาพ

-สรุปกิจกรรมในช่วงแรกเป็นการเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมหรือสร้างความเข้าใจในวันประชุมก่อนไปศึกษาดูงาน

-การใช้เด็ก ครอบครัว เป็นสื่อรณรงค์ในการกิจกรรมปั่นจักรยานวันอาทิตย์ ปันไปเก็บขยะ,ปั่นไปปลูกต้นไม้,ฯลฯ เพื่อกระตุ้นกิจกรรมโครงการ

-การจัดกิจกรรมทำบุญในวัดเลี้ยงพระ เช่นวันกฐิน ปีใหม่ วันเด็ก คณะกรรมการบริหารชุมชนได้จัดเตรียมสถานที่ เตรียมถุงใส่ขยะให้มากเพียงพอกับคน เพื่อสร้างความตึ่นตัวให้เกิดความตระหนัก เห็นได้จากงานต่าง ๆ ที่ผ่านมาขยะเริ่มน้อยลง

-การจัดงานปีใหม่ร่วมกัน 3 หมู่บ้านสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานร่วมกัน การบูรณาการ เป็นจุดเริ่มของการร่วมสร้างชุมชนน่าอยู่ด้วยการร่วมคิด ร่วมทำ อย่างแท้จริง สร้างเครือข่ายภายใน

-การทำงานร่วมกันมีการประชุม วางแผนก่อนจัดกิจกรรม การจัดการในช่วงมีกิจกรรม และการสรุปงานแสดงความโปรงใส เริ่มเห็นกลไกในชุมชนทำงาน

-สื่อกิจกรรมปั่นจักรยานเก็บขยะที่สาธารณะ ทำให้ชุมชนตระหนักมากขึ้น การทิ้งขยะลดลง เสียงบ่นลดลง สมาชิกเพิ่มขึ้น

-มีการจัดการขยะมากขึ้น(มีการเตรียมตัวก่อนเริ่มงานสาธารณะ เช่น ถุงดำ กระสอบ ไว้พร้อมรองรับ)

-ที่สาธารณะ เริ่มเห็นการทิ้งขยะเป็นที่เป็นทางแต่ยังไม่ได้จัดการคือ การทิ้งแบบแยกหรือทิ้งไปแยกไป มีน้อยส่วนใหญ่จะนำเอาขยะที่ขายแยกไป

-เห็นปรากฎการณ์การครัวเรือนแยกขยะ ขายขยะ ทำลายขยะ มีทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ จากการพูดคุย ซำ ๆ ทำให้ดูอยู่บ่อย ๆ ในระยะแรกเห็นจุดเปลี่ยน

สื่อเด็กยังไม่ได้ดำเนินการต้องรอให้นักเรียนสอบประมาณเดือนมีนา

แนวทางแก้

-ใช้กิจกรรมครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์ทำกิจกรรมรณรงค์การดูแลสิ่งแวดล้อม ออกกำลังกายตอนเช้า ทุกวันอาทิตย์ เริ่ม

-ต้องอดทนฟั่งเสียงบ่นของคนที่ไม่เห็นด้วยหรือคนที่ชอบคิดเลียนแบบชุมชนข้างเคียงที่แจกถังขยะ ในระยะแรก ๆ ต้องอดทน

-อยากเห็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านนี้โดยตรงควรเสริมพลังให้ชุมชนที่ทำดีตระหนักเรื่องการจัดการขยะ  เช่น ทำลานกีฬาให้เยาวชน

-ในฐานะใช้เด็กเป็นสื่อมาหลายหน จนชุมชนเปลี่ยนแปลง ผู้เกี่ยวข้องต้องเสริมพลังให้บ้างไม่ใช่วิถีชุมชนอย่างเดียว

ไม่มี

-คณะกรรมการบริหารชุมชนเข้าร่วม 11 คน จาก 15 คน วางแผน

การดูงานโดยกำหนดดังนี้

1.แต่ละกลุ่มเก็บประเด็นเรื่องเส้นทางขยะแต่ละประเภท

2.แต่ละกลุ่มต้องสรุปให้คนอื่นเข้าใจในวันสรุป

3.ทำแผนดำเนินการเก็บข้อมูล

1.คณะกรรมการบริหารชุมชนเข้าใจหลักเกณฑ์ในการศึกษาดูงานในครั้งนี้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่นากวด

2.คณะกรรมการบริหารชุมชนร่วมวางแผนการเก็บข้อมูลของขยะแต่ละประเภทเพื่อนำมาวิเคราะห์และสังเคราะห์ใช้ข้อมูลคืนให้ประชาชนตระหนัก

3.มีวัดโดยเจ้าอาวาสวัดนาท่อมเข้าร่วมโครงการด้วย

ผลของการประสานงานสถานที่ดูงาน -ไม่สามารถไปดูงานตาปฏิทินได้เนื่องจากในพื้นที่ เทศบาลกำแพงเพชรมีกิจกรรมมากและว่างวันที่ 17/1/56 จำเป็นต้องเลือนกิจกรรมนี้ออกไป

แก้ไขโดยการเลื่อนกิจกรรมนี้ออกไป 17/1/56

-ไม่มี

-ไม่มี

1.คุยกับ ผอ.โรงเรียนวัดนาท่อมร่วมกับครู รวมจำนวน 5 คน

2.ประชุมร่วมกับประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการและผู้เข้าประชุมจำนวน 40 คน

1.โรงเรียนจะส่งตัวแทนของสภาเด็กนักเรียนเข้าร่วมศึกษาดูงาน 5 คนให้เขากลับมาดำเนินการ

2.ประชาชนที่เข้าร่วมประชุม45 คนเข้าใจการดำเนินงานของโครงการเพิ่มขึ้น

-ไม่มี

-ไม่มี

-ไม่มี

-ผู้ใหญ่พูดหอกระจายข่าวช่วงเช้าหรือเวลาทำกิจกรรมในการดูแลสิ่งแวดล้อมเรื่องขยะ

-เวลาทำกิจกรรมทุกครั้ง คณะทำงานจัดกระสอบเตรียมรองรับขยะและแนะนำผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความร่วมมือ

-คณะทำงานใช้กิจกรรมครอบครัวจักรยานสานฝันวันอาทิตย์รณรงค์การกำจัดขยะโดยใช้ เด็ก เยาวชนและครอบครัวร่วมกันปั่นจักรยานเก็บขยะ ปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างจิตสำนึก

-ในชุมชนประชาชนทิ้งขยะเป็นที่ตามที่ได้กำหนดไว้มากขึ้นแต่ยังไม่ได้แยกขยะ

-ขยะที่สาธารณะเริ่มลดลงจากการนำเด็กออกรณรงค์ในวันอาทิตย์ และคุยผ่านสือหอกระจายข่าว

-โรงเรียนวัดนาท่อมมีการจัดให้สภานักเรียนเป็นผู้ดำเนินการเองครูเป็นพี่เลี้ยง

-คณะทำงานเข้าร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนสม่ำเสมอเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเด็กทางโรงเรียนเปิดโอกาสให้เข้าร่วมทุกวันศุกร์หรือตอนเช้าหน้าแถว

-ครัวเรือนมีการแยกขยะเป็น ขายขยะเป็น และมีจำนวนครัวเรือนที่แยกขยะมากขึ้น

-คนบ่นปัญหาขยะเริ่มได้ยินน้อยลงเพราะขยะมีมูลค่าเมื่อเปลี่ยนวิธีคิด

-เจ้าอาวาสวัดนาท่อมช่วยเทศน์ให้ผู้เข้าวัดตระหนักในการจัดการขยะในที่สาธารณะ และในครัวเรือน

-ทุกวันอาทิตย์อาทิตย์ตอนเช้าออกรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมทุกวันร่วมปั่นจักรยานเก็บขยะ  ปลูกไม้ ในพื้นที่สาธารณะ

-กิจกรรมเด็กเป็นสื่อ การทำสปอทร์ของเด็กต้องเลื่อนเนื่องจากเด็กต้องสอบช่วงเดือนมกราคม แก้ไขโดยเลื่อนเวลาทำกิจกรรมเป็นเดือนมีนาคม

-เนื่องจากชุมชนบ้านนากวดเป็นชุมชนที่อยู่ใจกลางตำบล มีวัด โรงเรียน และมีการจัดกิจกรรมบ่อยมากส่งผลกระทบกับเวลาทำกิจกรรมโครงการในช่วงแรกต้องปรับจูนเวลากับหลายภาคส่วน ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับความร่วมมือ วิธีแก้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารชุมชนบ่อยขึ้น

-ช่วงเดือน พ.ย ธ.ค เป็นช่วงมรสุม เป็นอุปสรรค กิจกรรมต้องเลื่อนบ้าง

-กิจกรรมที่ใช้จักรยานได้ไม่ใช้งบประมาณโครง ได้จากการบริจากของผู้นำและงบสปสช ในระยะสั้นเท่านั้น

-ขณะนี้ยังไม่มีข้อเสนอแนะ เพราะยังอยู่ในการปรับตัวของคณะทำงานและผู้เข้าร่วมโครงการ

ตอนนี้ยังไม่มี

1.ทำหนังสือเชิญผู้ครัวเรือนและตัวแทนโรงเรียนเข้าร่วมประชุมจำนวน 100 ใบและประกาศหอกระจายข่าวล่วงหน้า 2 วัน

2.เชิญวิทยากร 2 ท่านเป็นผู้ชวนคุยให้เห็นปัญหาความสำคัญและชักชวนเข้าเป็นสมาชิกร่วมโครงการ ประกอบด้วย

      1.คุณเสนีย์  จ่าวิสูตร วิทยากรทีมงานพี่เลี้ยง

      2.คุณหมอสมนึก นุ่นด้วง นักวิชาการ รพสต.นาท่อม ทีมงานที่ปรึกษาโครงการ

ให้ความรู้สร้างความเข้าใจในกิจกรรมของโครงการ

-วิทยากรทั้ง 2 ท่านให้ความรู้ โดยใช้ข้อมูลเปรียบเทียบให้เห็นของการกำจัดขยะแบบใช้งบประมาณ คือ การซื้อรถ แจกถัง กับการกำจัดขยะโดยการสร้างจิตสำนึกกำจัดกันเองอย่างมีส่วนร่วม เรื่องขยะเป็นเรื่องของเรา(ตนเอง) ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นความแตกต่าง

-สมาชิกคณะกรรมการบริหารชุมชนเป็นแกนในการดำเนินการโดยหาสมาชิกเข้าร่วมครัวต้นแบบ อีก 3 คน

-ตัวแทนโรงเรียนวัดนาท่อมตอบรับเข้าร่วมโครงการด้วยความยินดี

-ได้สมาชิกเข้าร่วมโครงการ ครัวเรื่อน 45 คน กรรมการ 15 คน และโรงเรียนวัดนาท่อม

-ท่านปลัดอำเภอเมือง,ท่านนายกเทศมนตรีตำบลนาท่อม,ท่านกำนันอนุชา เฉลาชัย และสารวัตกำนันตำบลนาท่อมเข้าร่วมในการประชุม ร่วมให้คำแนะนำและความร่วมือ

-โครงการร่วมสร้างชุมชนนากวดน่าอยู่ด้วยกิจกรรมสืบชะตาคลองนาท่อมเป็นเรื่องที่เน้นการกำจัดขยะ สร้างจิตสำนึก ให้คนได้ตระหนัก เป้นเรื่องที่ประชาชนยังมองขยะเป็นปัญหาอยู่ และยังมองขยะเป็นปัญหาคนอื่นที่ต้องรับผิดชอบอยู่

วิธีแก้ไข

1.การเก็บข้อมูลและคืนข้อมูลให้เห็นเป็นประจัก

2.ทำกิจกรรมเรื่องขยะให้เห็นเป็นประโยชน์และมีมูลค่าจากผู้เชี่ยวชาญ

3.โครงการนี้ให้ความรู้หลักการไม่ต้องมากแต่เน้นกระบวนการทางปฏิบัติให้มากประชาชนจะได้ไม่เบี่อ

-ยังไม่มี

-ยังไม่มี

ประชุมสร้างความเข้าใจกับประชาชนทั้งหมดและร่วมกันค้นหากลุ่มเป้าหมายโดยสมัครใจ

ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าใจที่มาของโครงการ -มีครัวเรือนเข้าร่วมโครงการ จำนวน  45 ครัวเรือน _ โรงเรียนวัดนาท่อมเข้าร่วมโครงการ - มีคณะกรรมการบริหารชุมชนที่มาจากตัวแทนกลุ่มองค์ในชุมชนที่หลากหลาย จำนวน 15 คน จากผู้เข้าร่วมทั้งหมด 53 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เชิงประมาณ

ผู้เข้าร่วมประชุม  9  คน

เชิงคุณภาพ

-ประชุมกลุ่มย่อยของแกนนำเพื่อสร้างความเข้าใจและแบ่งหน้าที่ภาระกิจที่ได้รับมอบหมายในวันที่ 9/11/55

-คณะทำงานโครงการ 9 คนได้ดำเนินการตามแผนที่ร่วมกันกำหนด ออกแบบกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นจริงวันที่ 9/11/55

-ไม่มีค่าใช้จายในกิจกรรมนี้

ไม่มี

ไม่มี

-จำนวนผู้เข้าร่วม 2 คน ผู้ใหญ่สุรศักดิ์ ขิตนาคินทร์และเจ้าหน้าที่

-ทำปฎิทินการดำเนินงาน

-ฝึกบันทึกหรือคีย์ข้อมูลรายงานผล

-

-หัวหน้าโครงการและจ้าหน้าที่สามารถนำมาทำเองได้ด้วยความเข้าใจ

-เข้าใจระบบติดตามรายงานผลของ สจรส

-ปัญหาระบบงานช้าเนื่องจากใช้งานพร้อมกันจำนวนมาก

-ขอชมเชยมีการพัฒนาระบบการติดตาม รายงานผลเป็นระบบที่ลดรายจ่ายของผู้ทำโครงการได้ดี

-ต้องการเรียนรู้เป็นระยะ ๆ

เชิงปริมาณ

-จำนวนผู้เข้าร่วมประชุมจริง  53 คน

เชิงคุณภาพ

1.นายสุรศักดิ์ ขิตนาคิน ผู้ใหญ่บ้านในฐานะหัวหน้าโครงการชี้แจงร่วมกับนายถาวร  คงศรีชี้แจงวัตถุประสงค์และเป้าหมายโครงการร่วมสร้างชุมชนนากวดน่าอยู่ฯ

2.กิจกรรมมี นายกเทศมนตรี นายเวียง  สว่างรัตน์ และปลัดอำเภอเมืองเข้าร่วมรับฟังประชุม ตลอดจนเจ้าหน้าที่เทศบาลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้เข้าร่วมรับฟังด้วย

-ประชาชนรู้และเข้าใจที่มาของโครงการ

-คณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 15 คน เข้าใจโครงการและเป็นแกนนำในการหาสมาชิกเข้าร่วม 1:2 คน ต่อเป้าหมาย 45 คนเข้าร่วมโครงการการ

ไม่มี

-อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเวลาทำกิจกรรมบ้างเล็กน้อยให้สอดกับพื้นที่ และโรงเรียน

-ยังไม่มี