คนสร้างสุข

ทำรายงานสรุปปิดโครงการ

โครงการสามารถทำรายงานสรุปปิดโครงการพร้อมส่งได้

-

-

-

ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ในประเด็น สวล.ทรัพยากร,เกษตร,อาหาร เยาวชน 

ได้เรียนรู้ชุมชนข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนความรู้ของชุมชนเพื่อพัฒนาให้เป็นชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ในเรื่องของ ทรัพยากร,เกษตร,อาหาร,ฯลฯและร่วมแสดงความคิดเห็นของชุมชน

-

-

-

แนะนำการทำรายงานสรุปปิดโครงการในเรื่องของ ส2, ส3, ง1 งวด 2และ ง2

พี่เลี้ยงแนะนำการทำรายงานสรุปปิดโครงการ

-

-

-

รายงานสถานการณ์การเกี่ยวกับทรัพยากรของชุมชน เผยแพร่หนังสือเล่มเล็ก พร้อมสรุปโครงการในพื้นที่

1.คณะกรรมการโครงการชี้แจงกิจกรรมที่ได้ทำในพื้นที่ ประจำปี2555-2556 2.เผยแพร่หนังสือเล่มเล็ก ชื่อ บันทึกว้ให้เป็นประวัติบ้าน บ้านแหลม-วังวน คน ชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของชุมชนบ้านแหลมหมู่ที่3 ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง ที่จัดทำและเผยแพร่โดยโครงการชุมชนน่าอยู่ รู้จักคุณค่าทรัพยากรท้องถิ่น 3.พี่น้องอาชีพประมงพื้นบ้าน ราบยงานข้อมูลทรัพยากรชุมชน เรื่องหอยปะ ดังนี้ หอยปะ หรือหอยตลับ เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ใต้ทราย เป็นแหล่งอาหารของพี่น้องชุมชนบ้านแหลมและเป็นแหล่งรายได้ให้กับคนในลุ่มน้ำปะเหลียน รวมถึงเป็นอาหารของคนอีกหลายประเทศ ณ ปัจจุบันนี้ เกาะหอไหร้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยปะและเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนและคนทั่วไป -เครื่องมือจับหอยปะของพี่น้องชุมชนบ้านแหลม แบ่งได้เป็น 5ประเภท 1.การหาด้วยมือเปล่าหรือการคุ้ยหอย 2.การใช้คราดมือด้วยแรงคน 3.ขอยหอยด้วยแรงน้ำ 4.ดำหอยโดยใช้เครื่องลม 5.ลากเครื่องโดยใช้คราดประกอบเครื่องยนต์ -ข้อคิดเห็นแนวทางรักษาอาชีพหอยปะให้คงอยู่ตลอดไป(อย่างยั่งยืน)ของพี่น้องชุมชนบ้านแหลม 1.จัดให้มีการประชุมประเมินสถานการณ์หอยปะอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 2.ไม่ใช้เครื่องมือที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหอยปะจำนวนมากในพื้นที่ลุ่มน้ำปะเหลียน 3.ขนาดตาอวนที่ใช้ ควรไม่น้อยกว่า 1.2นิ้ว เพื่อรักษาหอยปะตัวเล็ก 4.ไม่ควรจับหอยปะในช่วงฤดูวางไข่ เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของทุกปี 5.ช่วยกันรักษาดูแลเขตรักษาพันธุ์หอยปะ 6.สร้างมูลค่าหอยปะด้วยการแปรรูปผลิตภัณฑ์หอยปะ 7.จัดตั้งกองทุนซื้อพันธุ์หอยจากแหล่งอื่นมาขยายพันธุ์ 4.พี่เลี้ยงร่วมกล่าวสรุปโครงการ 5.คณะกรรมการ ประมวลภาพกิจกรรม พร้อมภาพทรัพยากรชุมชนให้คนในชุมชนได้รับรู้ข้อมูลของชุมชนโดยแท้จริง

-

-

-

จัดทำสมุดเล่มเล็กจำนวน 170 เล่ม

สมุดเล่มเล็ก จำนวน 170 เล่มเพื่อทำการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรของชุมชน

-

-

-

ติดตามการดำเนินโครงการและทำเอกสารการเงินรวมถึงการลงข้อมูลในเว็บไซต์

ติดตามการดำเนินโครงการและทำเอกสารการเงินรวมถึงการลงข้อมูลในเว็บไซต์

-

-

-

ทีมสจรส.และพี่เลี้ยงติดตามการดำเนินงานการทำกิจกรรมทั้งการรายงานในเว้ปไซร์ และเอกสารการเงิน ของการดำเนินงานงวดที่ 2 ซึ่งได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมในการเตรียมเอกสารและการรายงานข้อมูลในเว้ปไซร์ ในวันที่ 24 ก.ค. ที่มูลนิธิอันดามัน และ25  ก.ค. 56 ในการติดที่ราชภัฎสวนดุสิตเมืองตรัง 

การดำเนินงานการทำกิจกรรมทั้งการรายงานในเว้ปไซร์ และเอกสารการเงิน ของการดำเนินงานงวดที่ 2 มีการรายได้ครบถ้วนเอกสารการเงินถูกต้อง แต่ต้องไปดำเนินการแก้ไขลายเซ็นผู้เข้าร่วมโครงการ ที่ยังไม่เซ็นในช่องลายเซ็น

-

-

-

ติดตามการดำเนินโครงการและทำเอกสารการเงินรวมถึงการลงข้อมูลในเว็บไซต์

ติดตามการดำเนินโครงการและทำเอกสารการเงินรวมถึงการลงข้อมูลในเว็บไซต์

-

-

-

ทางโครงการสามารถลงข้อมูลในเว๊ปไซค์ และทำเอกสารการเงินได้ถูกต้อง

เอกสารการดำเนินโครงการในเรื่องของการเงินถูกต้องและการลงข้อมูลในเวณปไซค์ครบถ้วนสมบูรณ์

-

-

-

มีวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ อบรมการเพาะเลี้ยงหอยนางรม เพื่อเป็นประโยชน์ให้คนในชุมชน

ชาวบ้านชุมชนบ้านแหลม ม.3 ต.วังวน ร่วมกับกลุ่มอนุรักษ์หอยนางรมบ้านแหลม รับฟังความรู้เรื่อง การเลี้ยงหอยนางรมบ้านแหลม โดยมีผู้รู้เรื่องหอยนางรม นายสมนึก หมินหมีด อาชีพประมงพื้นบ้านบ้านแหลม กล่าวถึงการเลี้ยงหอยนางรมในชุมชน ณ ปัจจุบันมีผู้เลี้ยงน้อยลงมากเนื่องจากพันธุ์หอยนางรมในพื้นที่มีน้อย ทำให้ชาวบ้านหันไปเลี้ยงหอยแมลงภู่และปลากะพง -นายทวีวัฒ หมินหมีด กรรมการอนุรักษ์หอยนางรมบ้านแหลม กล่าวถึง การเพาะเลี้ยงหอยนางรมในชุมชนมีมีความเป็นไปได้ในอนาคตเพราะขณะนี้คณะกรรมการได้ประสานไปยังมหาวิทยาลัยราชมงคลตรัง มาช่วยส่งเสริมอาชีพการเพาะเลี้ยงหอยนางรมซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ในชุมชนและทำให้มีหอยนางรมอยู่กับชุมชน

-

-

-

จัดกิจกรรมการเรียนรู้และสร้างพฤติกรรมให้คนในชุมชนรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม

ชาวบ้านอาชีพประมงพื้นบ้านร่วมกับเยาวชนและผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านและ ส.อบต. ม.3 ต.วังวนได้เข้าร่วมกิจกรรมนัดหมายรวมตัวกันที่ท่าเรือบ้านแหลม และเริ่มออกเเดนทางสำรวจและเรียนรู้พื้นที่ ณ ลุ่มน้ำปะเหลียนโดยใช้เรือหางยาวของพี่น้องประมงบ้านแหลม โดยกิจกรรมการเรียนรู้และรู้จัก น้ำตกน้ำเค็ม ต.ทุ่งกระบือ ชมความสมบูรณ์ของป่าชายเลนริมลุ่มน้ำ จากนั้นก็ไปยังศูนย์เฝ้าระวังเขตอนุรักษ์หอยปะ ม.9 ต.ทุ่งกระบือ และได้จัดเวทีชาวบ้านพูดคุยเสวนาเรื่อง ความสำคัญและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ลุ่มน้ำปะเหลียน อาทิเช่น นายหมาดสนั่น หมวกเทพ ส.อบต. กล่าวถึงปัจจุบันป่าชายเลนลุ่มน้ำฯมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นและขอความร่วมมือช่วยกันรักษาป่าอย่างยั่งยืน นายฌาน หมวกเทพ กรรมการอนุรักษ์หอยนางรมบ้านแหลม กล่าวถึง การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ สามารถทำได้ในพื้นที่ลุ่มน้ำฯเพราะภายใน 1 วัน สามารถสัมผัสชุมชนได้ถึง 4 อำเภอ นายศักดิ์ชัย เหล่หมุด อาชีพประมงพื้นบ้านบ้านแหลมกล่าวถึง ความสำคัญของหอยปะและการใช้ประโยชน์และเครื่องมือหาหอยปะของคนในชุมชน

-

-

-

จัดตั้งศูนย์ข้อมูลเป็นเวทีสาธาราณะ กลุ่มอาชีพในชุมชนรายงานสถานการณ์ทรัพยากรชุมชน

จัดตั้งศูนย์ข้อมูลของชุมชน โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องป่าชุมชนเป็นความรู้เพิ่มเติมให้กับคนในชุมชน จัดทำข้อมูลของชาวประมงพื้นบ้านเรื่องชื่อ และจำนวนลำคลอง บาง รอบริมลุ่มน้ำปะเหลียน เผยแพร่เป็นองค์ความรู้ของคนในชุมชนเอง และการรายงานทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนรอบลุ่มน้ำปะเหลียน ได้แก่ น้ำตกน้ำเค็ม ท่าเรือแปะก๋วน ท่าจิ้มเขตอนุรักษ์หอยปะ ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว และป่าชุมชนบ้านแหลม ม.3 ต.วังวน อ.กันตัง รอบค่ำร่วมกัน ชมภาพ วิดิโอเรื่องทรัพยากรจากชุมชนต่างๆเพื่อให้คนในชุมชนเรียนรู้ แลกเปลี่ยนกัน ได้แก่ สถานการณ์อาชีพบ้านมดตะนอย ต.เกาะลิบง ตัวอย่างการจัดการป่าชุมชน จ.นครสวรรค์ การเลี้ยงหอยแมลงภู่ บ้านเกาะเคี่ยม อ.กันตัง กับดักปูดำ จ.พังงา การเลี้ยงปลากะพง จ.สงขลา เครื่องมือใช้งานในสวนยางพารา สวนปาล์ม

-

-

-

จัดเวทีทบทวนและวิเคราะห์ข้อมูล ปัญหาด้านทรัพยากรขึ้นในชุมชน

ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ้านแหลม ได้ชี้แจงข่าวสารจากภาครัฐกับชาวบ้านในเรื่อง การลงทะเบียนเกษตรกร และขอบคุณพี่น้องชุมชนที่ร่วมกันจัดงานอนุรักษ์หอยนางรมครั้งที่ผ่านมาและการร่วมมือเป็นไปอย่างดียิ่ง และจะจัดงานหอยนางรมตลอดไป สมาชิก อบต.กล่าวถึงปัญหาเรื่องน้ำดื่ม น้ำใช้ ที่มีบางครัวเรือนยังไม่เพียงพอ สมาชิก อสม. ม.3 ให้ข้อมูลกับชาวบ้านเรื่องยุงลายที่นำมาซึ่งโรคไข้เลือดออกและขอความร่วมมือในการพ่นยาทุกครัวเรือน คณะกรรมการอนุรักษ์หอยนางรมให้ข้อมูลถึงจำนวนหอยนางรมในปี 2556 ที่จับได้ในเขตอนุรักษ์จำนวน 1300 ตัว ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วและมีแนวโน้มจะลดน้อยลงอีกและสาเหตุของปัญหาดังกล่าวมีหลายประการ เช่น -น้ำเสียที่มาจากด้านเหนือของลุ่มน้ำปะเหลียน -น้ำเสียมาจากบ่อกุ้งปล่อยสารพิษ -จำนวนโคลนหรือขี้เลนที่มากขึ้นจนทำให้หอยไม่สามารถเจริญเติบโตได้ เนื่องพี่น้องชุมชนประกอบอาชีพทำกะชังที่ชะลอทางเดินของน้ำจนทำให้เกิดความตื้นเขิน -น้ำฝนที่ตกตามธรรมชาติในแต่ละปีมีมากเกินไป ในเรื่องทุ่นเขตอนุรักษ์ที่ขาดหายไปบางส่วน คณะกรรมการจะซ่อมแซมในคราวต่อไป

-

-

-

คณะกรรมการโครงการ 2 ท่านเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการดำเนินกิจกรรมของโครงการต่างๆ และทำแบบประเมินคุรค่าของโครงการ

โครงการยนำเสนอข้อดีจากการดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมาทำแบบประเมินคุณค่า เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอดโครงการปีที่ 2

-

-

-

พี่เลี้ยงให้คำแนะนำ และร่วมสรุปโครงที่ดำเนินการมา

สามารถสรุปโครงการที่ผ่านมา และแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกัน

-

-

-

1.คนในชุมชนบ้านแหลมและพี่น้อง ต.วังวน ร่วมปลูกป่าชุมชนในพื้นที่ๆเเตรียมไว้ 2.เยาวชนในชุมชนและนอกพื้นที่ร่วมปลูกป่าชุมชน

ชุมชนบ้านแหลม ม.3 ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมปลูกป่าชุมชน โดยมีผู้ใหญ่บ้าน ม.3 นาย มะเส็น เตะเสน ร่วมกับ ส.อบต. ม.3 กรรมการม้สยิดบ้านแหลม กลุ่มอนุรักษ์หอยนางรม กลุ่มรักษาป่าชายเลน เยาวชนในชุมชน ได้กำหนดพื้นที่ปลูกต้นไม้ไว้ใช้สอยของชุมชนเองจำนวนพื้นที่ 15 ไร่ และได้ร่วมมือกับพี่น้องจากพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ เช่น เยาวชนโครงการ ทู บี โรงเรียนกันตังพิทยากร กลุ่มเครือข่ายชุมชนรักษ์บ้านเกิด ต.วังวน และเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนที่ 30 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ้่่่ง ร่วมกันปลูกต้นพังกาหัวสุม ซึ่งเป็นไม้โตเร็ว จำนวน 500 ต้น พร้อมจะช่วยกันรักษาดูแลและปลูกเพิ่มมากขึ้นในโอกาสต่อไป

-

-

-

1.คนในชุมชนร่วมกันฟื้นฟูป่โดยมี่การสางป่เตรียมพื้นที่ไว้สำหรับปลูกป่าชุมชน 2.มีชาวบ้านชุมชนใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับปลูกป่าชุมชน

1.ผู้นำชุมชน โดยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ส.อบต กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนและกลุ่มต่างๆในชุมชนร่วมกับชาวบ้าน กำหนดพื้นที่ป่าชุมชน จำนวน 15 ไร่ 2.คนในชุมชนร่วมกันสางป่าเตรียมพื้นที่ 3.เตรียมต้นไม้ที่ใช้ปลูก จำนวน 500ต้น เป็นไม้ชนิดโตเร็ว เหมาะสมกับพื้นที่ ชื่อ พังกาหัวสุม 4.ผู้นำชุมชนพูดคุยกับชาวบ้านที่ร่วมกิจกรรมถึงการดูแลรักษาป่าชายเลนอย่างยั่งยืน

-

-

-

ส่งรายงานงวดที่1 ประกอบด้วย ส1 ส2 ง1 สมุดเงินสด ภาพถ่าย 10 รูป

ส่งรายงานงวดที่1 ประกอบด้วย ส1 ส2 ง1 สมุดเงินสด ภายถ่าย 10รูป

-

-

-

ติดตามผลการทำบัญชี การเงิน การลงสมุดเงินสด การลงข้อมูลในเว็บไซต์

1. เอกสารการเงินจัดเป็นหมวดกิจกรรม
2. รายงานข้อมูลลงเว็บไซต์ คนใต้สร้างสุข
3. ปรับเพิ่มเติมข้อมูลให้มีเนื้อหามากขึ้น

-

-

-

ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของโครงการในเรื่องของการเงินที่ให้จัดเป็นหมวดหมู่กิจกรรม การลงสมุดเงินสด แก่ไขข้อมูลในเว็ปไซต์

แก้ไขข้อมูลในเว็ปไซต์ การทำสมุดเงินสดให้เป็นปัจจุบัน การเครียร์ค่าใช้จ่ายในแต่ละกิจกรรมให้ถูกต้อง ทางหัวหน้าโครงการสามารถพัฒนาตนเองในเรื่องของการใช้คอมพิวเตอร์และการทำรายงานในเว็ปไซต์คนใต้สร้างสุขได้ในระดับหนึ่ง

ในพื้นที่ไม่มีระบบอินเตอร์เน็ตจึงต้องมาทำการบันทึกข้อมูลในเว็ปไวต์คนใต้สร้างสุขนอกพื้นที่

-

1. ทำความเข้าใจในเรื่องของการลงข้อมูลในเว็ปไซต์ให้มากยิ่งขึ้น
2. ทำการเงินในแต่ละกิจกรรมให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้

1. มีวิทยากร 1 คนมาให้ความรู้ด้านวิชาการเรื่องทรัพยากรจากมูลนิธิอันดามัน

1. วิทยากรให้ความรู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรและรู้จักหวงแหนดูแลรักษาความสมบูรณ์ทางทะเลเพื่อให้ลูกหลานได้ใช้สอยทรัพยากรของชุมชนสืบไป
2. มีชาวบ้านมาร่วมรับฟังข้อมูลและให้ความสนใจ เช่น กลุ่มอนุรักษ์, กลุ่มส่งเสริมอาชีพ, ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ,กลุ่มประมงพื้นบ้านและที่สำคัญมีเยาวชนให้ความสำคัญในการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอย่างดี

-

-

-

1. พี่เลี้ยงให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องบัญชีการเงิน
2. การลงข้อมูลกิจกรรมผ่านทางเว็บไซต์

1. มีความรู้และเข้าใจเรื่องบัญชีและการเงินเพิ่มขึ้น
2. สามารถลงข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ได้เพิ่มขึ้น

-

-

-

ให้คำปรึกษาในเรื่องของการทำบัญชี การเงิน และการลงข้อมูลในเว๊ปไซต์

ให้คำปรึกษาแก่ตัวแทนคณะทำงานของโครงการ จำนวน 2 ท่านในเรื่องของการทำบัญชีการเงิน และการลงข้อมูลในเว๊ป

1.ปัญหาในเรื่องของบัญชีการเงิน จะต้องทำให้เป็นปัจจุบัน ลงสมุดบันทึกเงินสดให้เรียบร้อย 2.การลงข้อมูลในเว๊ปไซต์ยังไม่เป็นปัจจุบัน

ในการดำเนินกิจกรรมในแต่ละครั้ง จะต้องทำการศึกษาแผนที่ได้ตั้งไว้ เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์ในการทำบัญชีการเงิน และการลงข้อมูลในเว๊ป

1.มีเยาวชนมารายงานสถานการณ์เรื่องประชาคมอาเซียน

2.มีกลุ่มประมงพื้นบ้านมารายงานข้อมูลสถานการณ์ของทรัพยากรภายในชุมชน

มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นภายในชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นณ ปัจจุบัน และมีผู้นำศาสนามาพูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของศาสนา มีสมาชิก อสม.มาพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพของคนภายในชุมชนในเรื่องของโรคเบาหวาน และโรคไข้เลือดออก ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านมาพูดคุยถึงความสำคัญของหอยปะ ที่ในปัจจุบันมีจำนวนลดลงจากในอดีต ตัวแทนกลุ่มเยาวชนมาพูดคุยเกี่ยวกับอาเซียน ในช่วงเวลา 18.30 น.ได้ฉาย วีดีโอ - เรื่องทรัพยากรที่มีอยู่ภายในชุมชน
- เรื่องภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรของชุมชน
- เรื่องความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่มีอยู่ในภาคใต้ - เรื่องการป้องกันโรคเบาหวานและโรคไข้เลือดออก - เรื่องชุมชนเรียนรู้สู่การเป็นประชาคมอาเซียน 2558

-ขาดอุปกรณ์ในการจัดกิจกรรม เช่น เครื่องโปรเจคเตอร์

-

-

พี่เลี้ยงโครงการให้คำปรึกษาในการทำกิจกรรมพร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจการรายงานกิจกรรมผ่านเว็บไซต์

1.มีความเข้าใจในการทำโครงการมากขึ้น

2.สามารถรายงานกิจกรรมผ่านทางเว็บไซต์เพิ่มขึ้น

-

-

-

1. การจัดอบรมให้ความรู้โดยวิทยากรเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากร เช่น ป่าชายเลน
2. ให้เยาวชนแบ่งกลุ่มเเสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทรัพยากรของชุมชน

1. เยาวชนได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องทรัพยาการของชุมชน โดยเฉพาะสัตว์นำ้ทางเศรษฐกิจ เช่น หอยนางรม ปูดำ หอยตลับ ต้นจาก ฯ
2. มีเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนที่ 30 ได้มาอบรมให้ความรู้ความสำคัญของป่าชายเลนและลุ่มแม่น้ำปะเหลียนแก่เยาวชน
   
3. เกิดกลุ่มเยาวชนรักษ์เล จำนวน 30 คน เป็นกลุ่มเป้าหมายในการทำกิจกรรม
4. ในการดำเนินกิจกรรมมีผู้เข้าร่วม 113 คน โดยมีเครือข่ายกลุ่มกิจกรรมในชุมชน เช่น กลุ่มประมงพื้นบ้าน, กลุ่มแม่บ้าน, กลุ่มแกนนำทางศาสนา, และเจ้าหน้าที่ สจรส.มอ.
5. มีการรณรงค์และเก็บขยะบริเวณชุมชนและชายหาดชุมชนบ้านแหลม
6. กลุ่มเยาวชนรักษ์เล มีการเเสดงดนตรีให้ความบันเทิง พร้อมกับให้เยาวชนพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากรในชุมชน บนเวที ให้คนในชุมชนฟัง
7. ผู้นำชุมชน เช่น ผู้ใหญ่บ้าน อบต.ได้ชี้แจงสถานการณ์ปัญหาต่างๆของชุมชน  เช่น ปัญหายาเสพติด ,ปัญหาขยะจากครัวเรือนและขยะริมชายฝั่ง
8. มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง นายสมบูรณ์  อุทัยเวียนกุล ได้มาเยี่ยมชุมชนและพูดคุยกับเยาวชนถึงบทบาทและความสำคัญของเยาวชน และสนับสนุนให้เล่นดนตรี ,กีฬา และพร้อมที่จะสนับสนุนอุปกรณ์ด้านกีฬาให้กับเยาวชน

เยาวชนส่วนใหญ่ยังขาดความกล้าเเสดงออก
แนวทางเเก้ไข พยายามให้เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม และพูดคุยกันบ่อยขึ้น

-

-

1. มี กลุ่มผู้นำทางศาสนา มาพูดคุยเกี่ยวกับศาสนาของชุมชนในอดีตที่ผ่านมา
   
2. กลุ่มอาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น อสม. ,กลุ่มประมงพื้นบ้าน  มาร่วมกันแลกเปล่ียนความรู้ด้านต่างๆ เช่น ประเพณี,วัฒนธรรมพื้นบ้าน ของชุมชน
   
3. กลุ่มผู้นำ และผู้ใหญ่บ้าน ได้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ทรัพยากรในชุมชน เช่น เรื่องป่าไม้, เรื่องที่ดิน, และทรัพยากรทางทะเล

1. ชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมได้รับความรู้ข้อมูลชุมชนเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากร ประเพณีวัฒนธรรม ของหมู่บ้าน
2. มีการพูดคุยและเปลี่ยนความรู้กันในหลายๆด้าน ที่นอกเหนือจากเรื่องทรัพยากร เช่น สุขภาพ ศาสนาของคนในชุมชน โดยผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้รู้ในชุมชน
3. ชาวบ้านสามารถนำข้อมูลไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น เรื่องการใช้ชีวิตตามหลักศาสนาอิสลามได้อย่างถูกต้อง เพราะคนในชุมชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามประมาณ 90 %
4. ชุมชนได้รับรู้ถึงปัญหาด้านทรัพยากร เช่น ปัญหาเกี่ยวกับภัยธรรมชาติซึ่งจะส่งผลต่อรายได้และอาชีพของคนในชุมชน

1. การพูดคุยอย่างเป็นระบบในเวทีประชุมหมู่บ้านวิทยากรอาจจะไม่มีความชำนาญมาก เพราะเป็นชาวบ้าน
2. เยาวชนยังเข้าร่วมกิจกรรมน้อยเกินไป แนวทางในการเเก้ไขคือ  การไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติมโดยการสัมภาษณ์ตัวต่อตัว ในเรื่องเฉพาะด้านที่บุคคลคนนั้นถนัด และมีความรู้
   ในส่วนของเยาวชน เมื่อมีกิจกรรมก็จะพยายามสอดเเทรกเรื่องทรัพยากรให้มากขึ้น

-

-

รับฟังและขอคำปรึกษาจากพี่เลี้ยงในเรื่องการทำกิจกรรม

1. มีเจ้าหน้าท่ีอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการรายงานกิจกรรมและการจัดการการเงิน  บัญชีของโครงการ
2. ได้รับความรู้การรายงานกิจกรรมทางเว็บไซต์
3. ได้รายงานกิจกรรมการแข่งขันเรือพายพื้นบ้านพร้อมส่งรูปภาพกิจกรรมของโครงการ

-

-

-

รับฟังและขอคำปรึกษาจากพี่เลี้ยงในเรื่องการทำกิจกรรม

1. มีเจ้าหน้าที่อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการรายงานกิจกรรมและการจัดการการเงิน บัญชีของโครงการ
2. ได้รับความรู้การรายงานกิจกรรมผ่านเว็บไซต์

-

-

-

1. จัดกิจกรรมแข่งเรือพื้นบ้านประเภทสองฝีพาย
   
2. มีการพูดคุย สถานการณ์เรื่องทรัพยากรในพื้นที่บ้านเเหลม เช่น หอยตลับ หอยนางรม

1.มีคนเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นคนในชุมชนบ้านแหลม ที่ประกอบด้วย กลุ่มผู้หญิง แกนนำ อสม เด็กเยาวชน  ประมาณ 160 และภาคีเครือข่ายกลุ่มอื่นๆ  เช่น ชุมชนแตะหลำ,ชุมชนท่าเรือ ชุมชนเกาะเคี่ยม นักเรียน นักศึกษา จากวิทยาลัยการอาชีพกันตัง
2.นายวิศิษฐ์ ตั้งปอง นายอำเภอกันตัง เป็นประธานพิธีเปิด การแข่งเรือพาย ในช่วงบ่าย ซึ่งมีหน่วยงานจากภาครัฐและองค์กรภาคเอกชน กล่าวคือ หน่วยงานป่าชายเลน ที่ 30 , ผู้นำท้องถิ่น เช่น อบต. ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา มูลนิธิอันดามัน ,มูลนิธิหยาดฝน ได้เข้าร่วมกิจกรรม  การจัดแข่งเรือฝาย ประเภทสองฝีพาย จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 20 ทีม แต่ในวันดังกล่าวมีทีมที่ส่งเข้าร่วมแข่งเรือ เพิ่มเป็น 30 ทีม  จากการแข่งขันมีทีมที่ได้รับถ้วยรางวัลจำนวน 3 ทีม  โดยถ้วยรางวัลได้รับการสนับสนุน จากอบต. นายอำเภอ ผู้ประกอบการร้านค้า  โดยใช้ท่าเรือชุมชนบ้านแหลม ซึ่งมีแม่นำปะเหลียนไหลผ่าน การแข่งเรือเป็นประเพณีดังเดิมของชุมชน ที่ทำให้คนในชุมชนได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน สร้างความสามัคคี  ความสนุกสนาน ให้กับคนในชุมชนและคนในชุมชนใกล้เคียง

3.มีการพูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานการณ์ทรัพยากรในพื้นที่  ทั้งทรัพยากรที่ยังมีความสมบรูณ์และกำลังเผชิญปัญหามีจำนวนลดลง เช่น หอยตลับ หอยนางรม ป่าชายเลน ปูดำ หอยแมลงภู่ ปลากะพง    ทั้งนี้เพื่อสร้างจิตสำนึกของการดูแลรักษาทรัพยากรในท้องถิ่น ซึ่งชุมชนบ้านแหลมเป็นชุมชนที่ใช้ชีวิต ประกอบอาชีพ ใช้ทรัพยากร การจับสัตว์นำ ในแม่นำปะเหลียน  แม่นำปะเหลียน เป็นแม่นำสายสำคัญของจังหวัดตรัง จัดเป็นพื้นที่ชุ่มนำ (แรมซาร์ไซต์ )  เป็นแหล่งดอนหอย  ตลับลาย  (หรือหอยปะ )  ซึ่งเป็นสัตว์น้ำเฉพาะถิ่น  สามารถสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยใช้วิธีเก็บมือ คราด เฉลี่ยรายได้ต่อวัน 250-400 บาท ซึ่งทำให้คนในชุมชนมีความมั่นคงในอาชีพ และรายได้

-

พี่เลี้ยงลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมกับโครงการฯ

-

คืนเงินเปิดบัญชีธนาคาร  500  บาท

คืนเงินค่าเปิดบัญชีธนาคาร  500  บาท

-

-

-