คนสร้างสุข

จากการตรวจรายงานผ่านทางเว็ปไซด์กับหลักฐานการเงินตรงกัน  แต่ยังมีบางกิจกรรมที่มีใบสำคัญรับเงินไม่ถูกต้องจำเป็นต้องไปปรับแก้ไขและได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเบิกการเงินที่ถูกต้อง เพื่อที่จะเน้นให้ชุมชนมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นด้วย การรายงานกิจกรรมเป็นปัจจุบัน

กิจกรรมล่าช้า เนื่องจากคณะทำงานมีปัญหาสุขภาพ ส่งผลให้คณะทำงานไม่มั่นใจว่าจะทำกิจกรรต่อหรือยุติ จนในที่สุดมติจากการประชุมเห็นพ้องว่าควรทำต่อ จึงได้แจ้งให้พี่เลี้ยงทราบเพื่อที่จะได้ประสานต่อสสส.ให้นำจ่ายเงินงวดที่ 2 ได้ต่อไป จากขั้นตอนนี้ทำให้งบประมาณล่าช้า ดังนั้นทางคณะทำงานจึงจัดได้เพียงกิจกรรมการประชุมสภาซูรอทุกเดือน ส่วนกิจกรรมอื่นๆอยู่ในขั้นการวางแผน และรองบประมาณจากสสส. 

-

-

-

  ร่วมปรึกษาโดยประธานสภาชูรอ นำเรื่องการแบ่งงานตามหน้าที่ที่ได้รับหมอบหมาย สำหรับเดือนนี้เน้นเรื่องการจัดงานการกุศลเพื่อหารายได้บูรณะมัสยิด มีการทบทวนเตรียมความพร้อมประจำหน้าที่ เพื่อไม่ให้งานบกพร่อง

การประชุมได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการสภาชูรอและชาวบ้านในชุมชน เกิน 80เปอร์เซ็น การประชุมทำให้เกิด แนวคิดเรื่องการจัดการในงานที่ได้รับมอบหมายในแต่ละหน้าที่

ความคิดที่แตกต่าง 

-

-

ประธานสภาชูรอ นายอะหมัด  แอเก็ม ได้นำเรื่องการจัดงานการกุศลมาปรึกษาในที่ประชุม เพื่อหารือ เรื่องแรกคือ การหาผู้สนับสนุนกับข้าว ข้าวสาร ผัก น้ำ สรุปมีหลายคนที่เสนอรับที่จะช่วยจัดหาให้เท่าที่ตนเองสามารถ และเรื่องถัดมาเป็นเรื่องศิษย์เก่าเนื่องจากมัสยิดแห่งนี้เป็นที่อบรมด้านจริยธรรมของคนในละแวกนี้มาหลายปีจนกลายเป็นสถานศึกษาในปัจจุบัน จึงทำให้มีศิษย์เก่ามากมาย ต้องการให้มามีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วย จะมาช่วยแรงหรือช่วยทรัพย์ก็แล้วแต่ ได้มอบหมายให้จูแอ(นายมะแอ)เป็นผู้ประสาน
ถัดมา นายศตวรรษ เหล็มหวัง ได้ชี้แจงเรื่องสถานที่บริเวณงาน
ถัดมา เวาะดีน (ผญบ.ดีน)ได้แสดงความคิดเห็นจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา สุดท้าย ประธานสภาชูรอเน้นเรื่องการจัดงานครั้งนี้ต้องอยู้ภายใต้กรอบของศาสนา
ผู้เข้าร่วม 60 กว่าคน ตัวแทนหมู่บ้านและละหมู่ อสม. ชรบ. ผรส. ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่น ท้องที่ ผู้นำศาสนา ตัวแทนครู กรรมการหมู่บ้าน มัสยิด กลุ่มแม่บ้าน

• ได้แนวคิด และการร่วมกันเสนอความคิดเห็น รวมถึงการเสียสละในการมาร่วมกันช่วยหาแนวทางการจัดงานการกุศลที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ของคนในชุมชนใกล้เคียง ซึ่งมีตัวแทนแต่ละหมู่บ้านในตำบลสะกอมทั้ง 9 หมู่ และยังมีคนนอกพื้นที่เข้ารวมด้วย
  การชูรอครั้งนี้ เน้นเรื่องการจัดงานการกุศล ความสามัคคี การเสียสละ

-

-

-

ประธานสภาชูรอได้มอบหมายให้สมาชิก อบต.เป็นผู้ดำเนินงาน โดย ทางสมาชิกอบต.นายต่อเล็บ หวันอะหลี ได้นำเสนอเรื่องการปรับปรุงซ่อมแซมถนนหน้าบ้านแบโส๊ะ และเรื่องการเสนอให้ทางสภาอบต.บุกเบิกเส้นทาง หลังโรงเรียนธรรมศึกษา เพื่อให้เกิดความสะดวก ไม่ต้องขับรถย้อนศร เนื่องจากจะออกไปที่เส้นโคกแย้ และออกยูเทินได้เลย และ เรื่องถัดมาคือเรื่องประปาหมู่บ้านซึ่งตอนนี้มีปัญหาเรื่องปั้มน้ำเสียบ่อยซึ่งเกิดจากสาเหตุปั้มทำงานหนัก ขอให้ช่วยกันประหยัดการใช้น้ำและ ให้บังเสมติดต่อชั่งมาเช็คลูกลอยตัดน้ำอัตโนมัติด้วย สำหรับเรื่องการดำเนินโครงการของ สสส.สจรส. นั้นเนื่องจากบังบุกมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ตอนนี้ผมก็ช่วยเดินงานแทน และขอจากอัลเลาะห์ให้บังบุกหายไว ๆ และกิจกรรมที่เราทำมาทั้งหมดนั้นขอให้ดำเนินงานกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำบัญชีครัวเรือน การทำปุ๋ยหมัก ซึ่งตอนนี้ก็ได้ใช้กันแล้ว และให้ทำเพิ่มช่วยกันทำ และเรื่องการรณรงค์ให้ปลูกผักปลอดสารพิษริมรั้วเห็นพี่น้องปลูกกันสนุกสนาน ก็ขอให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ให้แลกกันกิน และเห็นพี้น้อง บอกว่าอยากไปดูงานนอกสถานที่กันอีก รอไว้โอกาสหน้ามีอยู่แล้ว ใครมีเรื่องจะเสนอแนะในที่นี่บ้าง เพื่อจะได้ชูรอกัน

โต๊ะอึหมำ(ผู้นำศาสนา) : ขอปรึกษาเรื่องการจัดงานการกุศล งานมัสยิด พฤษภาคม ปลายเดือน
และเรื่องการสำรวจสัปบุรุษในชุมชน เพื่อส่งกรรมการจังหวัด
จำนวนผู้เข้าร่วม : 23 คน

อสม.  ผู้นำศาสนา  สมาชิกอบต . กรรมการหมู่บ้าน กรรมการสภาชูรอ แม้ค้า ครู เยาวชนในชุมชน

1. มีการแสดงความคิดเห็น ในเรื่องการทำฐานปุ๋ยหมักให้ทำที่บ้านบังหมะนิด๊ะ แต่เจ้าตัวยังไม่รับปาก
2. การแสดงควมคิดเห็นในเรื่องการจัดงานการกุศล เรื่องการหาคน เรื่องของการทำบัตร ใบปลิว แลเรืองเงินสำรองจ่าย
3. เรื่องให้ส่งเด็กเข้าค่ายภาคฤดูร้อน กับทางโรงเรียนจริยธรรมศึกษา 4.การปรึกษาในเรื่องการดำเนินโครงการ สสส.
   

หัวหน้าโครงการมีปัญหาสุขภาพ และบังหมาน (ผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการ)ก็สุขภาพไม่แข็งแรงเช่นกัน ให้นายต่อเล็บดำเนินงานแทนหัวหน้าโครงการด้วย

อยากจะขอขยายระยะเวลา

-

1. นายศตวรรษ  ได้ชี้แจงเรื่องการจัดเวทีในครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อให้เิกิดสุขภาวะในการใช้จ่าย การประกอบอาชีพ การใช้วิถีชีวิตอย่างพอเพียง เหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่ ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ ที่มากมายจนสรุปไม่ได้ จับต้นชนปลายไม่ถูก ขาดความเป็นตัวของตัวเอง กระแสนิยมเหอตามเพื่อน ขาดจุดยืนของตัวเอง ทำให้เกิดปัญหา รายได้ไม่พอจ่าย จึงได้มีเวทีครั้งนี้ขึ้นมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนโครงการจาก สสส. ฉนันวันนี้เวทีวันนี้ทุกคนสามารถพูดเสนอแนวคิด ซึ่งมีวิทยากรมาบรรยายให้เราฟังถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อรายได้ไม่พอจ่าย
   
2. ในขณะทีวิทยากรบรรยายไปก็มีคำถามจากผู้เข้าร่วม ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ทั้งในแง่มุมของสั้งคมทั่วไป และในมุมมองของศาสนา
   
3. การบรรยายถึงประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น มีความสำคัญที่คอยช่วย ให้ เิกิดการใช้ชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้กรอบและหลักการศาสนธรรม จำนวน ผู้เข้าร่วม ในครั้งนี้ 64 คน ตัวแทนโรงเรียน นักเรียน อสม สภาชูรอ ฝ่ายปกครอง กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์อมาน๊ะห์ มหาวิทยาลัยชีวิต

1. ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องค่าครองชืพ
2. หลายคนเริ่มมีเป้าหมายชีวิต เริ่มคิดแผนชีวิต
   
3. ทุกคนเห็นความสำคัญของการใช้วิถีชีวิตพอเพียง แต่ยังสันสนอยู่ไมรู้จะเริ่มต้นอย่างไร
4. บางคนขาดความมั่นใจ

ใช้การชูรอ เพื่อหาทางปรับปรุงพัฒนากิจกรรม ที่มีในชุมชน พร้อมส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้มีจิตสำนึกรักท้องถิ่น บ้านเกิด อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น 

ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น เปรียบเสมือน รากแก้วของต้นไม้ ที่คอยผยุงความสง่างามของลำต้น ใบ ดอก ผล ก็สวยงาม 

-

08.30 น. คณะออกเดินทางจากชุมชนมัสยิดมัญจมูอิตตอลิบีน ซึ่งในครั้งนี้มีตัวแทน ครู จากโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ เดินทางมาด้วย  ตัแทนเยาวชน    ตัวแทนมัสยิด คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. สมาชิก อบต. ตัวแทนกลุ่มออมทรัพย์อามานะห์ กลุ่มแม่บ้าน และตัวแทนสภาชูรอ  โดยรถตู้ 2 คัน  มุ่งหน้าสู่ อบต.ควนรู อำเภอรัตภูมิ ถึงที่ทำการ อบต ควนรู โดยท่าน นายก ได้นำขบวนศึกษาดูงานไปยัง ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านหนองเสาธง ตำบลควนรู ทาง อบต.ควนรู โดยท่านนายกกล่าวต้อนรับคณะศึกษาดูงาน และพร้อมด้วย  บรรยายถึงเรื่องศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ และเรื่องเกษตรยังยืน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และตอนท้ายก็ ได้ตอบข้อซักถามจากคณะศึกษาดูงาน เสร็จแล้วก็นำคณะเดินดูรอบ ๆ ศูนย์ พร้อมด้วยคำบรรยาย ถึงการทำโครงการ 7 ไร่ 7 เรื่อง 700 ให้คณะได้รับฟัง ซึ่งในขณะเดียวกันก็พร้อมตอบคำถามต่าง ๆ   

ทุกคนเห็นความสำคัญกับการใช้พื้นที่บริเวณบ้านของตัวเองให้เกิดประโยชน์มากที่สุดโดยการนำำแนวคิดการจัดการเรื่องเกษตรยั่งยืน ของ อบต. ควนรู จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ ไปปรับใช้ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตัวเอง

เวลาค้อนข้างน้อยไป ควรจะได้สัก 2 วัน

-

-

1. ประธานสภาชูรอพบลูกบ้าน พร้อมรายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชน และพร้อมชี้แจงเรื่องการจัดเวทีในคำคืนนี้ นอกจากจากจะเป็นการสร้างความสามัคคีในหมู่คณะแล้ว ยังเป็นการฝึกเยาวชนให้ใช้เวลาว่างมาฝึกการอ่านบทประพันธ์ ที่เกี่ยวกับท่านศาสดา และยังเป็นการสร้างบรรยากาศระหว่าง บ้าน โรงเรียน มัสยิด ให้อยู่ในจิตใจของคนในชุมชน
2. แข่งขันการอ่าน บัรซันญี แบ่งเป็น เดี่ยว และ เป็นทีม
   ซึ่งนายอัญมาน หวันอะหลี รองประธานสภาเยาวชน ตำบลสะกอม เป็นพิธีกร ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้เพื่อ ส่งเสริมให้เยาวชน อนุรักษ์สืบสานการอ่านบท บัรซันญี ด้วยทำนองที่ไพเราะ และถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ อาหรับ
   นอกจากนี้ผู้ที่เข้าร่วมในงานนี้จะได้รับ ของรางวัลด้วย (หางบัตร)
3. การอบรมให้โอวาท โดยโต๊ะอีหม่ำมัสยิดมัญจมูอิตตอลิบีน สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันให้อยู่ภายใต้กรอบแห่งหลักศาสนธรรม โดยใช้ อัลกรุอ่านเป็นรัฐธรรมนูญ และให้ยึดแบบอย่างของท่านศาสดาเป็นหลัก ในการใช้ชีวิต และรวมถึงการปรึกษาหารือ หรือการใช้ การชูรอ เมื่อเกิดปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเอง และชุมชน
   
4. กิจกรรม กล่าวซอลาวัตบนี พร้อมกัน
   

1. การชูรอเรื่องการทำกิจกรรมที่ผ่านมา และที่จะมีต่อไปในอนาคต เนื่องจากประธานโคงการ บูรณาการชีวิตฯ นายศตวรรษ  ป่วยทำให้การดำเนินงานบางอย่าง ล่าช้า จึงมอบหมายให้นายต่อเล็บ ซึ่งเป็นรองประธาน และเป็นสมาชิก อบต. เป็นแกนนำหลักในการดำเนินกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ และขอให้ ประธานของเราหายเร็ว ๆ
   
2. เยาวชนมีความกระตือริล้นมากในการแข่งขัน ประชัน บท บัรซัลญี ซึ่ง ทั้งหมด 20 กว่าคน ทั้งแบบคนเดียว และแบบทีม ซึ่งรองประธานสภาเด็กและเยาวชน ตำบลสะกอม ซึ่งเป็นพิธีกร นั้นเคยไป ประชันบท บัรซันญีมาแล้วหลายเวที ทำให้สามารถแซวหยอกเล่นได้
3. ทั้งนักเรียนโรงเรียนจริยธรรมศึกษามุลนิธิ และเยาวชนในชุมชนมัสยิดมัญจมูอิตตอลิบีน ทุกคนปฏิญาญตนว่าจะดำรงตนให้อยู่ในวิถีแห่งอัลอิสลาม ตามคำให้โอวาทของโต๊ะอีหม่ำมัสยิดมัญจมูอิตตอลิบีน

ส่งเสริมเย่าวชนให้หันมาสนใจและอนุรักษ์การอ่ายบทบัรซัลญี

-

-

รายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรอบเดือน โดยรองประธานสภาชูรอ ทำหน้าที่ ดำเนินเรื่อง  และถือโอกาสเลืี้ยงต้อนรับปีใหม่ มีทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ คนชรา และคนพิการ จำนวน ๖๐ กว่า คน
นาย ศตวรรษ  เหล็มหวัง ได้กล่าวถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชนที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือถือจากพี่น้อง ในชุมชน ทุกฝ่ายเสมอมา ไม่ว่าจะเป็น สมาชิก อบต. พรส. ฝ่ายปกครอง อสม. ตลอดจนโรงเรียนจริยะธรรม และมัสยิดมัญจมูอิตตอลิบีน และต่อไปในอนาคตก็ยังต้องร่วมมือกันต่อไปอีก เพื่อสร้างชุมชนของเราให้น่าอยู่
 

๑.ทุกคนทุกครัวเรือนมีความสุขในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากมติ ชูรอ
๒.ทุกคนมีความสุขสนุกสนานร่วมกันทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ รวมททั้งคนพิการและคนชรา 

ให้มีทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ คนพิการ คนชรา มาร่วมประชุมพร้อมสังสรรค์กันทุก ๆ เดือน

-

-

1. ชี้แจงทำความเข้าใจเรืองสุขภาพทำไมต้องเอาใจใส่ โรคภัยมาจากที่ใด โดย เจ้าหน้าที่ รพสต.สะกอม
   
2. การบรรยายให้ความรู้เรืองการปฏิบัติตัวให้มีสุขภาพดี สอดคล้่องกับวิถีชีวิต
   
3. บรรยายเรืองการปลูกพืชผักสวนครัว ไว้กินเองใช้เอง
4. ซักถามข้อสงสัย

ทุกครัวเรือนเกิดความตระหนักและเข้าใจในการปฏิบัติตัวเพื่อให้มีสุขภาวะ ที่ดี เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้ได้ผลในการจัดทำโครงการ จึงตกลงกันเพื่อไปดูงานนอกสถานที่ เรื่องการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ การปลูกพืฃผักแบบ ปลูกเองกินเอง ความแตกต่างของพื้นที่ สภาพแวดล้อม และวิถีชีวิต เพื่อเปรียบเทียบ และนำมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับพื้นที่ของเรา

พ่อบ้านให้ความสนใจน้อย

-

-

เวลา 10.00 น. ได้มีการเชิญคุณอะหมัด แอเก็ม ประธานซูรอขึ้นกล่าวเปิด พร้อมด้วยคุณศตวรรษ ผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวถึงที่มาของโครงการ การดำเนินงานตลอดจนงบประมาณที่ได้รับมาจากสสส.เพื่อพัฒนาให้ชุมชนพึ่งตนเอง ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ จากนั้นก็ไเปิดโอกาสให้ชาวบ้านซักถามข้อสงสัย ประมาณ 10.45 น.เป็นการสาธิตการทำปุ๋ยหมักชีวภาพโดยคุณหมาน จากป่าละมัย เป็นผู้สอนและสาธิตการทำปุ๋ยหมัก ซึ่งมีส่วนประกอบดังนี้
- ขี้วัว 3 กระสอบ(ถ้าไม่มีใช้ขี้แพะได้แต่คุณภาพด้อยกว่า) - ขี้ไก่ 2 กระสอบ - ขี้แกลบ 2 กระสอบ - แกลบเผา ครึ่ง กระสอบ - รำ 15 กิโลกรัม เพื่อเร่งให้ออกฤทธิ์ดี
นำทั้งหมดมาผสมกัน โดยใช้น้ำ EM เป็นตัวเร่ง (น้ำหมักEM นี้สามารถทำเองได้โดยใช้เศษอาหารที่เหลือใส่ถังหมักไว้ได้)
ทั้งหมดข้างต้นหลังผสมแล้วต้องทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วัน ก็สามารถนำมาใช้ได้ สามารถใช้กับผัก ยางพารา เป็นต้น หลังจากเสร็จก็มีการสรุปหารือร่วมกัน เพื่อนัดในครั้งถัดไป

• มีผู้เข้าร่วมประมาณ 40 คน
• เกิดการร่วมกลุ่มเพื่อทำปุ๋ยหมัก ชาวบ้านให้ความสนใจแต่สถานที่ในการดำเนินการยังไม่พร้อม เนื่องเพิ่งปรับปรุงสถานที่ใหม่
• ชาวบ้านเข้าใจวิธีการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ตลอดจนมีการถกเถียงถึงขี้วัว ขี้ไก่ที่เคยมีไม่สนใจจะเก็บ จะหันมาเก็บเพื่อนำไปทำปุ๋ย

• สภาพดินฟ้าอากาศไม่เอื้อ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูมรสุม
• มีการรวมกลุ่มเพื่อจัดตั้งกองทุนปุ๋ยหมัก เพื่อใช้และจำหน่ายต่อไปได้

• การประชาสัมพันธ์โครงการ โดยใช้หอกระจายข่าวของหมู่บ้าน
• การเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ให้พร้อมในการสาธิตครั้งต่อๆไป

ก่อนเริ่มการฟังบรรยายและสาธิตการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ทาง อสม.หมู่บ้านก็ให้บริการตรวจวัดความดัน พร้อมกันนั้น ผู้รับผิดชอบโครงการก็ได้พูดถึงการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ ว่า ขอให้ทุกครัวเรือนตระหนักถึงการอยู่ร่วมกัน การเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่กัน การร่วมกันปรึกษาหารือ ในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อชุมชนส่วนรวม ภายใต้หลักศาสนบัญญัติแห่งอิสลาม
หลังจากนั้น เวลาประมาณ 10.00 วิทยากรที่เชิญมา ก็มาถึง ประธานสภาชุรอ นายอะหมัด ก็กล่าวต้อนรับ และตามด้วยนายศตวรรษ  ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของโครงการ ตลอดจนงบประมาณได้รับสนับสนุน จาก สสส. ในการดำเนินโครงการ เป็นผู้สนับสนุนหลัก  เสร็จแล้วเชิญวิทยากร ดำเนินการสาธิตพร้อมบรรยายการทำปุ๋ยหมักจากมูลวัว
ดังนี้ - ขี้วัว 3 กระสอบ - ขี้ไก่ 2 กระสอบ - ขี้แกลบ 2 กระสอบ - แกลบเผา ครึ่ง กระสอบ - รำ 15 กิโลกรัม เพื่อเร่งให้ออกฤทธิ์เร็ว นำทั้งหมดมาผสมกัน โดยใช้น้ำ EM เป็นตัวเร่ง
หลังผสมแล้วต้องทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วัน ก็สามารถนำมาใช้ได้ สามารถใช้กับผัก ยางพารา และพืชผักชนิดอื่น ๆ
หลังจากเสร็จการสาธิตและการบรรยาย ก็มีการสรุปหารือร่วมกัน เพื่อนัดในครั้งถัดไป 

1.ทุกครัวเรือนเล็งเห็นความสำคัญของ วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น และมองเห็นถึงการลดต้นทุนในการทำเกษตรกรรม 2. เกิดความคิดริเริ่มในการรวมกลุ่มเพื่อทำปุ๋ยหมักไว้ใช้กันเอง และอาจขยายผลต่อยอดเพื่อการจำหน่ายในอนาคต 3. เกิดการชูรอ

1. พื้นที่เสี่ยงต่อภัยน้ำท้วม
2. ฝนตก(หน้าฝน)

-

-

1. เปิดประชุมด้วยการอ่าน ซูเราะห์อัลฝาตีห๊ะห์
2. ประธานสภาชูรอแจ้งเรื่องทางกรมศาสนาให้งบประมาณบูรณะซ่อมแซมศาสนสถาน พร้วยด้วยแจ้งเรื่องวิทยากรที่จะมาร่วมบรรยายเรื่องการทำปุ๋ยหมักชีวภาพตอบตกลงแล้ว
3. ส.อบต แจ้งเรื่องการรับเงินชราและผู้ชราที่ลงทะเบียนใหม่ 3 ราย
4. ทางสมาชิกสภาได้นำเรื่องการจุดไฟไล่ยุงให้วัวในตอนกลางคืนมาปรึกษา เพื่อหารือ เพราะควันไฟไปรบกวน ทำให้เกิดมลพฺิษกับบ้านที่อยู่ไกล้ ๆ
5. มติในที่ประชุม ให้งดการชุดไฟไล่ยุงให้วัว หรือไม่ก็ให้เลื่อนที่ออกห่างจากบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟ
6. หารือเรื่องการอบรมการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ มอบหมายงาน แบ่งกับรับผิดชอบ
   
7. หารือเรื่องการหาสถานที่เลี้ยงไก่บ้านร่วมกัน เพราะทุกบ้านมีไก่ แต่อยากสร้างร้ายได้เสริ่มร่วมกัน
   
8. หารือเรื่องการสัมนาเรื่องปัญหาของรายได้ที่ลดลง ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 นี้ และหารือเรื่องการอบรมการปลูกผืชผักปลอดสารพิษที่จะจัดในวันที่ 28 เดือนนี้ด้วย
9. สรุปติดตามการทำบัญชีครัวเรือนของสมาชิก
10. ปิดการประชุมด้วยการอ่านซูเราะห์อัลอัซริ

1. สมาชิกสภาชูรอเคารพและให้เกียรติในการประชุม
2. ทุกคนยอมรับในมติที่ได้จากการชูรอ
   
3. ทุกคนมีความสามัคคีและพร้อมที่จะปฏิบัติจากมติในการชูรอ

-

-

-

1.ทุกครัวเรือนนำเสนอบัญชีครัวเรือนของตนเองให้ประธานโครงการดูเพื่อขอคำแนะนำ พร้อมพูดคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเนื่องจากบางครัวเรือนยังบันทึกรายการลงสมุดบัชีครัวเรือนยังไม่ถูก

1.ประมาณ 70% ของครัวเรือนทั้งหมดสามารถทำบัญชีครัวเรือนได้ถูกต้อง 2.ครัวเรือนส่วนใหญ่เริ่มสนใจรายจ่ายที่เกิดขึ้นการการบันทึก

การบันทึกรายการลงสมุดบัญชีที่ถูกต้อง และบันทึกรายละเอียดมากกว่าครั้งนี้

--

--

1.ทุกครัวเรือนนำเสนอบัญชีครัวเรือนของตนเองให้ประธานโครงการดูเพื่อขอคำแนะนำ พร้อมพูดคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเนื่องจากบางครัวเรือนยังบันทึกรายการลงสมุดบัชีครัวเรือนยังไม่ถูก

1.ประมาณ 70% ของครัวเรือนทั้งหมดสามารถทำบัญชีครัวเรือนได้ถูกต้อง

ช่วงเช้า  ประธานโครงการฯ ได้พูดคุยสร้างความเข้าใจในเป้าหมายของโครงการ และตามด้วยสมาชิก อบต. พูดคุยเรื่องทั่วไปในการทำบัญชีครัวเรือน ต่อมา ประธานสภาชูรอ โดยนายอะหมัด  แอเก็ม ได้บรรยายเรื่องการนำหลักศาสนามาใช้ในการใช้จ่ายในชีวิดประจำวัน และความสำคัญของการจดบันทึก
ช่วงบ่าย  นำโดยประธานโครงการกล่าวต้อนรับคณะจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และเล่าถึงความเป็นมาของการจัดโครงการในครั้งนี้ ถัดจากนั้น ทางผู้ช่วยผู้จัดการ ธกส.นายฉลาด สังข์หาด ซึ่งเป็นวิทยากร ได้บรรยายให้ความรู้เรื่องการจัดทำบัญชีครัวเรื่อน ทำอย่างไรให้สมำเสมอ ปละประสบความสำเร็จ

1. กลุ่มเป้าหมายทั้ง 25 ครัวเรือน ให้ความสำคัญในการทำบัญชีครัวเรือน
   
2. กลุ่มเป้าหมายเข้าใจ และสามารถจดบันทึกรายการบัญชีครัวเรือนได้

ความพร้อมของเจ้าภาพในเรื่องการติดต่อประสานงาน

-

-

1. ชี้แจงสร้างความเข้าใจลักษณะในการดำเนินโครงการ
2. ปรึกษาหารือ (ชูรอ) ในการร่วมกัน ทำโครงการให้บรรลุเป้าหมาย
3. ข้อเสนอแนะ
4. เรื่องอื่น ๆ 

1. ทุกคน เข้าใจ รับรู้รับ ทราบร่วมกัน และพร้อมเดินหน้าทำโครงการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมสร้างสุขภาวะชุมชนให้น่าอยู่
2. ทุกคนยินดีปรีดา และพร้อมจะปฏิบัติตามแผนที่ได้ตั้งไว้

สถานที่

-

-

ทบทวนภาพรวมขั้นตอนกระบวนการพัฒนา และกระบวนการติดตามสนับสนุนโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่พื้นที่ภาคใต้ ฝึกปฎิบัติ เพิ่ม แก้ใข ลบ ข้อมูลบนเวปไซด์

เข้าใจทักษะกระบวนการ

ผู้ใช้งานสื่อไม่ชำนาญการใช้งานคอมพิวเตอร์

-

ความเข้าใจในการเพิ่มข้อมูลให้ตรง

-

-

-

-

-

ในการประชุมมีคณะกรรมการสภาชูรอเข้าร่วมทั้งหมด 16 คน

1. รายงานเหตการณ์ในรอบเดือนที่ผ่านมา โดยประธานสภาชูรอ นายอะหมัด เรื่องการทำกุรบาน ของกองทุนกุรบาน และการปรับปรุงทีเอาน้ำละหมาด
   
2. นายศตวรรษ ได้นำเรื่องการต่อเติม ศาลาอเนกประสงค์ หารือในที่ประชุม เพื่อรองรับศูนย์เรียนรู้ของชุมชน และได้แจ้งใหที่ประชุมทราบว่า ทาง สสส. ได้โอนเงินในการดำเนินโครงการงวดแรกมาแล้ว จำนวน 75000 บาท และ ไปประชุมในวันที่ 3-4 นี้ 2 คน
   
3. นายอาบูบากา ได้นำเรื่องประปาหมู่บ้านมาหารือ เนื่องจากปัญหาปั้มน้ำเสียบ่อยมาก
4. นายดนหร้อหมาน นำเรื่องการเตรียมพร้อมรับมือภัยน้ำท่วม หารือในที่ประชุม
5. เป็นการพูดคุยทั่วไปสนุกสนานสวนเสเฮฮาตามประสาบ้าน ๆ
   

1. ทุกคนเข้าใจ และภูมิใจ ในกิจกรรมที่ผ่านมา และพร้อมร่วมือร่วมใจร่วมแรง ที่จะสร้างชุมชนให้น่าอยู่
2. ได้ข้อสรุปเรื่องประปาหมู่บ้าน ว่าน่าจะเป็นปัญหาที่ตัวตัดอัตโนมัติ เพราะปัญหาน้ำล้นถังบ่อย ให้ช่างตรวจดูวันพรุ่งนี้
3. ให้เตรียมความพร้อมเรื่องเรือ ตรวจสอบความพร้อมของเรือทั้งสองลำ ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
4. ทุกคนมีความสุข สนุกสนาน สร้างความรักความสามัคคีในชุมชน

วันนี้ขาดตัวแทนเยาวชน

-

-