คนสร้างสุข

ดำเนินการรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่มีและได้ดำเนินการมาแล้ว พร้อมรายงานที่ถูกต้องนำมาจัดเก็บรวบรวมเป็นรูปเล่มฉบับสมบูรณ์พร้อมเผยแพร่ต่อไป 

มีผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการจำนวน 15 คนได้เข้ามาร่วมในกิจกรรมการจัดเก็บ รวบรวมเอกสารและร่วมตรวจสอบความถูกต้องของโครงการ และรายงานการเงิน 

รายงานต้องผ่านการตรวจสอบจากพี่เลี้ยงสจ.รส.จึงยังไม่สามารถรวบรวมเอกสารได้ทั้งหมด

-

-ดำเนินการตรวจสอบรายงานอีกครั้งในวันที่ 15 กย.56

คณะแกนนำหลักและปราชญ์ชาวบ้านได้ร่วมกันสรุปและถอดบทเรียนที่ได้รับจากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา  และร่วมกันวิเคราะห์ ออกความคิดเห็นในด้านต่างๆ เช่น ข้อดี ข้อเสียการทำโครงการ  ผลที่เกิดจากการดำเนินโครงการ การแก้ปัญหา และนวตกรรมที่เกิดขึ้นจากโครงการ

ในการประชุมครั้งนี้ ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 45 คน โดยมาจากแกนนำย่อย แกนนำหลักและตัวแทนชาวบ้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยมีผู้รับผิดชอบโครงการและปราชญ์ชุมชนเป็นผู้ดำเนินการประชุม เริ่มจากชี้แจงวัตถุประสงค์ของการทำกิจกรรมในครั้งนี้ เมื่อทุกคนเข้าใจจึงช่วยกันดำเนินกิจกรรมร่วมกัน ในระหว่างดำเนินการ ทุกคนต่างให้ความสำคัญของการดำเนินงาน ต่างร่วมกันคิด และวิเคราะห์ถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และสรุปได้ออกมาว่าได้เกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากดำเนินกิจกรรม และมีการบันทึกไว้เพื่อเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน

-

-

การถอดบทเรียนควรมุ่งเน้นให้ได้ถึงผลที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน และสามารถสรุปรวบรวมเป็นเรื่องราวให้เห็นโดยเฉพาะ มุ่งเน้นนวตกรรมที่เกิด หรือสิ่งเด่นๆที่ปรากฏขึ้น เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อไป

คณะแกนนำหลักและปราชญ์ชาวบ้านได้ร่วมกันสรุปและถอดบทเรียนที่ได้รับจากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา โดยอาศัยหัวข้อคำถาม 6 หัวข้อ  และร่วมกันวิเคราะห์ ออกความคิดเห็นและ ลงบันทึกในหัวข้อคำถาม

เมื่อเริ่มเปิดเวทีการประชุม พบผู้เข้าร่วมประชุมในโครงการ 45 คน โดยมาจากแกนนำย่อย แกนนำหลักและตัวแทนชาวบ้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยมีผู้รับผิดชอบโครงการและปราชญ์ชุมชนเป็นผู้ดำเนินการประชุม เริ่มจากชี้แจงวัตถุประสงค์ของการทำกิจกรรมในครั้งนี้ เมื่อทุกคนเข้าใจจึงช่วยกันดำเนินกิจกรรมโดยการให้ทุกคนร่วมกันตอบคำถามที่ได้เตรียมไว้แล้ว 6 หัวข้อคำถามด้วยกัน เริ่มจากข้อแรก คือ สิ่งที่ทุกคนคาดหวังว่าจะได้รับจากการดำเนินในโครงการปลูกผักปลอดสารพิษมีอะไรบ้าง คำตอบร่วมกันได้แก่ หวังว่าจะเกิดการตระหนัก มองเห็นปัญหาและปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง หวังให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาพึ่งตนเองเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการกินผัก และหันมาลดการกินเนื้อให้น้อยลง  อยากให้ชาวบ้านส่วนใหญ่หันมาปลูกผักรับประทานเองที่บ้าน ถึงแม้จะมีพื้นที่ที่จำกัด ก็สามารถปลูกในวัสดุต่างๆได้ และจะได้มีผักสดรับประทานทุกวัน  หวังให้ทุกครัวเรือนมีภูมิทัศน์ และบรรยากาศแบบธรรมชาติโดยอาศัยผักข้างบ้าน  หวังว่าจะลดต้นทุนในการปลูกผักโดยจะมีความรู้ในการทำปุ๋ยหมักชีวภาพและน้ำหมักชีวภาพด้วยการใช้วัสดุในท้องถิ่น ป้องกันสารพิษหรือสารเคมี  คาดหวังให้เกิดนวตกรรมในชุมชนบ้านสำนักขันเพื่อความต่อเนื่องและความยั่งยืนของโครงการเช่นการทำนวตกรรมของชำร่วยจากเมล็ดผัก กระเช้าผักปลอดสารพิษเป็นต้น และสามารถขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป  -ข้อ 2 ถามว่าหลังจากได้ดำเนินโครงการปลูกผักปลอดสารพิษไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นจริงมากกว่าที่คาดหวังไว้คืออะไร คำตอบที่รวบรวมได้คือเกิดการรวมกลุ่มง่ายขึ้น และเกิดการช่วยเหลือ แบ่งปันกันและกัน  เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และถ่ายทอดภูมิปัญญาแก่กัน  เกิดอาชีพเสริม สำหรับผู้ที่ปลูกไว้เหลือกินคือสามารถนำไปขายในตลาดมัดเปิดท้ายในชุมชน ทำให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ได้รับประทานผักปลอดสารพิษ  เกิดวิทยากรชุมชน และนำองค์ความรู้ใหม่จากภาคีเครือข่าย และองค์กรหน่วยงานมาขยายผลต่อเช่นการทำน้ำสกัดจากผักและสมุนไพรไทย(คุณครูอารีย์  ทองไซร้)  เกิดความรู้เรื่องการผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์มา สำหรับใช้ควบคุมโรคพืช และการทำน้ำยาเอนกประสงค์ และการทำผลิตภัณฑ์สุขภาพใช้เอง(พึ่งตนเอง)  เกิดความภูมิใจในชุมชและผู้นำของตนเอง และศรัทธาในกลุ่มแกนนำมากขึ้น  เกิดการทำน้ำผักและน้ำสมุนไพรกิน เพื่อช่วยในการบำบัดโรคและขยายผลต่อในชุมชนใกล้เคียง  เกิดการลดการใช้สารเคมีฉีดหญ้า เพราะกลัวผัก หรือสมุนไพรตาย  เพิ่มการใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ และเกิดการออกกำลังกายทางอ้อม  สุดท้ายเกิดการตื่นตัวและเสนอแนวคิดใหม่ๆ เช่น เสนอให้มีการปลูกต้นไม้ในครัวเรือนละ 1 ต้น  มีการเสนอให้ปลูกรั้วกินได้ เสนอให้ปลูกผักชนิดเดียวกันในละแวกบ้านเดียวกัน เสนอให้ปลูกผักและสมุนไพรในครัวเรือนละ 5 ชนิดเพื่อให้มีผักรับประทานและมีสมุนไพรรักษาโรค เสนอให้มีร้านค้าขายผักปลอดสารพิษในชุมชน  ต่อมาได้ถามข้อที่ 3 ว่าหลังจากดำเนินโครงการปลูกผักปลอดสารพิษไปแล้วพบว่ามีสิ่งที่เกิดขึ้นต่ำกว่าที่คาดหวังไว้หรือไม่  คำตอบที่ได้มีเพียงเล็กน้อยได้แก่ มีเพียงบางครัวเรือน ที่ยังไม่เห็นความสำคัญของการปลูกผักกินเอง เนื่องจากมีปัจจัยพอในการซื้อผักมาบริโภค มีบางครัวเรือนไม่สามารถปลูกให้ได้ผลผลิตได้เนื่องจากขาดความพยายามในการเอาความรู้ไปใช้  คำถามที่ 4คือสิ่งที่ได้เรียนรู้และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์จากโครงการมีอะไรบ้าง คำตอบที่รวบรวมได้คือ เกิดการเรียนรู้การจัดการและขั้นตอนการดำเนินงาน  เกิดความรู้ในการควบคุมโรคพืชจากเชื้อรา ได้รับความรู้เรื่องโรคเรื้อรังที่เกิดจากการบริโภคที่ไม่ดี  ได้เรียนรู้การนำวัสดุเหลือใช้มาดัดแปลงปลูกผัก เช่น ยางล้อรถเก่า แก้วน้ำพลาสติกใช้แล้ว และยังช่วยลดแหล่งเพาะพันธ์ยุงได้ด้วย ได้เรียนรู้การทำปู๋ยหมัก/น้ำหมักชีวภาพ  จากการนำวัตถุดิบเหลือใช้หรือที่หาได้ในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์ ได้เรียนรู้การทำน้ำยาเอนกประสงค์ และผลิตภัณฑ์สุขภาพในครัวเรือน สามารถเกิดการประหยัดและการพึ่งตนเองในครัวเรือน  เรียนรู้การจัดกระเช้าผัก แทนกระเช้าดอกไม้หรือกระเช้าจากสินค้าอื่นต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้ผลิตผลในชุมชนและทั้งยังส่งเสริมการกินผักมากขึ้น ได้ร่วมคิดและเรียนรู้การประดิษฐ์เมล็ดพันธ์ผักเป็นของชำร่วยแบบต่างๆ และสามารถนำมาใช้ปลูกรับประทานต่อไป  เรียนรู้การปลูกผักเป็นไม้ประดับในการปรับภูมิทัศน์บริเวณบ้านให้สวยงามและได้เรียนรู้เรื่องการทำน้ำผักสมุุนไพร และเมนูอาหารผักเพื่อสุขภาพ เช่น การทำแกงเลียงรวมมิตร  การทำข้าวยำรวามมิตร เป็นต้น สุดท้ายได้นำความรู้จากองค์กร หน่วยงานภาครัฐ และนำมาขยายผลในชุมชน  ส่วนคำถามที่ 5 คือ จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมามีอุปสรรคและปัญหาอะไรบ้าง และมีวิธีแก้ไขยังไง คำตอบคือ เกิดโรคในพืชคือเชื้อรา  วิธีการแก้ปัญหาคือ การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มามากำจัด  อีกปัญหาคือแมลงศัตรูพืชต่างๆ วิธีแก้คือ ใช้น้ำหมักสมุนไพรตามภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือเผายางรถยนต์เพื่อให้เกิดควันไปไล่แมลง หรือการใช้แมลงกำจัดกันเองในระบบนิเวศน์โดยไม่ทำลายแมลงที่กินแมลงเป็นอาหาร อีกปัญหาคือสภาพดินเสื่อม วิธีแก้คือให้ปรับสภาพดินด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพหรือการใช้มูลสัตว์ธรรมชาติหรือแกลบ นอกจากนี้เจอปัญหาน้ำท่วมขังบางพื้นที่ วิธ๊แก้คือการแนะนำให้เลือกปลูกผักให้เหมาะกับฤดูกาล หรือการปลูกในภาชนะเหลือใช้ หรือปลูกในกระถางหรือภาชนะแล้วยกแขวนให้สูงจากพื้นดิน  สุดท้ายคำถามข้อที่ 6 คือหากมีโครงการใหม่ในเรื่องการปลูกผักในครั้งต่อไปคิดว่าชุมชนมีความต้องการด้านใดบ้างและควรปรับปรุงวิธีการใดบ้าง คำตอบในสิ่งที่ต้องการต่อไปเพื่อปรับปรุง ได้แก่ การปลูกผักเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้ทุกครัวเรือน 100 เปอร์เซ็นต์  การปลูกสมุนไพรเพื่อบำบัดโรค 5 ชนิดขึ้นไปในครัวเรือน และเพื่อนำมาทำเป็นน้ำผักสมุนไพรช่วยรักษาโรคต่อไป  ต้องการให้แต่ละละแวกบ้านมีการปลูกผักที่ไม่ซ้ำชนิดกันเพื่อความหลากหลายและจะมีผักรับประทานครบทุกชนิด  มีบางคนเสนอว่านอกจากปลูกผักแล้ว ต้องการให้ปลูกต้นไม้ยืนต้นครัวเรือนละ 1 ต้น เพื่อความร่มรื่นของชุมชน ต่อไปทุกปีจะมีต้นไม้เกิดในชุมชนปีละอย่างน้อย 300 ต้น สิ้นปีอาจจะสำรวจว่าต้นแล้วต้นที่ปลูกแล้วอยู่รอดกี่ต้น ของใครสมบูรณ์ แข็งแรง สวยงาม อาจจะจัดให้รางวัล เพื่อจูงใจต่อไป  มีหลายคนต้องการปลูกผักเป็นรั้วกินได้ทุกครัวเรือน  และต้องการให้ร้านค้าชุมชนขายผักปลอดสารพิษที่ปลูกมาจากครอบครัวในชุมชน  และยังต้องการให้มีการกำจัดขยะด้วยวิธี 1 หลุมขยะ 1กอกล้วย  ต้องการให้มีป้ายรับรองจากชุมชนในเรื่องการขายผักปลอดสารพิษในแผงขายผัก โดยที่ปลูกผักปลอดสารพิษและนำมาจำหน่ายในแผง เพื่อการันตีความปลอดภัย และส่งเสริมสินค้าในชุมชนให้คนทั่วไปบริโภคทั่วกัน และสุดท้ายอยากให้ชุมชนสามารถดูแลและจัดการตนเองในทุกด้านตาสวิถีชีวิตพอเพียง ตามสโลแกนใหม่ที่ต้องการคือ สำนักขันสุขภาพดีสู่วิถีชีวิตพอเพียง.เมื่อสิ้นสุดการตอบคำถาม ทางคณะผู้จีดทำโครงการได้กล่าวว่าจะพยายามหาแนวทาวเพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่อไป

-

-

-

นัดประชุมแกนนำหลักทั้ง 15 คน เพื่อชี้แจงแนวทางและรายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อที่สำคัญสำหรับนำมาใช้ในการถอดบทเรียนในครั้งต่อไป โดยใช้แนวทางการตอบคำถามจาก 6 หัวข้อที่จะกำหนดให้ และบอกให้สมาชิกทุกคนนำไปทำเป็นการบ้านและนำมาพูดคุยในวันที่มีการถอดบทเรียน

วันนี้ประธานโครงการฯมีการนัดหมายแกนนำหลักทั้ง 15 คนให้เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อจุดประสงค์ที่จะกล่าวถึงเรื่องของการถอดบทเรียนที่ได้รับมาจากการดำเนินกิจกรรมปลูกผักปลอดสารพิษตั้งแต่เริ่ม ตค.2556 โดยประธานโครงการได้กล่าวว่าตามที่โครงการนี้ได้ดำเนินมาถึงในขณะนี้ คือระยะของการสิ้นสุดโครงการ  และที่ผ่านมาผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการทุกคนได้ร่วมกันจัดทำกิจกรรมโดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ บัดนี้ทุกอย่างได้ดำเนินการมาอย่างเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้จะมีการถอดบทเรียนของโครงการ โดยใช้แบบคำถาม 6 หัวข้อซึ่งได้จากคู่มือที่ทาง สสส.และสจรส.จัดส่งมา โดยรายละเอียดเนื้อหา มุ่งถึงความเป็นมาของโครงการ การคาดหวังของโครงการตั้งแต่เริ่มดำเนินการ  ผลที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ รวมทั้งปัญหา ความแตกต่าง และวิธีการเรียนรู้ในการแก้ปัญหา ฯลฯ ฉนั้นการประชุมครั้งนี้จึงต้องนัดหมายต่อให้ทุกคนนำไปคิดทำเป็นการบ้าน และช่วยนำมาวิเคราสะหฺ์และสรุปให้ได้ในในที่จะนัดหมายถอดบทเรียนต่อไป ซึ่งจะกำหนดให้มีขึ้นในวันทรา 16 สค.56 ณ ห้องประชุมหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านสำนักขันต่อไปพร้อมตัวแทนแกนกลุ่มย่อยมาร่วมด้วย

-

-

-

มีการติดตามผลการเรียนรู้จากครั้งที่แล้วในเรื่องการทำเชื้อราไตรโคเดอร์มา ซักถามปัญหาที่เกิด คนที่ผลิตเชื้อราได้สำเร็จ และสอบถามความต้องการครั้งต่อไป และนัดหมายกลุ่มเป้าหมายเพื่อร่วมถอดบทเรียนถึงผลการเรียนรู้ที่ได้หลังากการทำกิจกรรมทุกกิจกรรมที่ผ่านมา

วันนี้เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้จัดขึ้นในพื้นที่ที่ประชุมหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านสำนักขัน มีผู้เข้าร่วมประชุม 45 คน เมื่อเปิดเวทีประชุม  วิทยากรได้สอบถามถึงความก้าวหน้าของการทำเชื้อราไตรโคเดอร์มาที่ได้รับความรุ้ไปเมื่อวันที่ 30 กค.56 คำตอบที่ได้คือ ร้อยละ 80 บอกว่า เห็นผลของการทำเชื้อรา คือ เมื่อนำกลับมาที่บ้าน ถุงเชื้อราที่ได้กลายเป็นเชื้อราสีเขียวที่สามารถนำมาใช้ได้เลยตามวิธีที่วิทยากรแนะนำ  และร้อยละ 20 บอกว่า ถุงเชื้อที่ผลิตขึ้นมา มีความเข้มของสีเขียว(เชื้อรา)เลือนลางไม่ชัดเจน และสีเขียวเป็นกลุ่มก้อน กระจายไม่ทั่วกัน วิทยากรจึงบอกว่าสาเหตุเช่นนั้น เนื่องจากวันที่มีการทำเชื้อรา พวกเราใส่เชื้อในถุงข้างน้อยไป และไม่ให้กระจายไปทั่ว จึงเกิดเป็นกลุ่มก้อนที่ไม่สวยงาม  หากจะทำครั้งต่อไป วิธีแก้คือหลังจากผสมเชื้อแล้ว ให้ทิ้งไว้ 3 วันแล้ว ให้คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วทิ้งไว้จนครบ 7-10 วัน ก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้  คนที่ทำได้สำเร็จจึงสนใจจะสั่งซื้อหัวเชื้อราเพิ่ม โดยวิทยากรรับปากว่าจะไปซื้อเพิ่มให้โดยมีจำหน่ายที่ ม.วลัยลักษณ์ นครศรีธรรมราช ในราคาขวดละ 100บาท  เราสามารถนำมาใช้ผลิตเป็นเชื้อราได้มากมาย ตกลงมีผู้สนใจจะสั่งซื้อจำนวน 12ราย ที่ประชุมจึงบันทึกราชื่อไว้เพื่อรวบรวมไปหาซื้อมาให้ต่อไป แล้วจึงซักถามปัญหาต่างๆต่อไป พบข้อสงซักถามเกี่ยวกับการทำนา  เนื่องจาก ถึงฤดูทำนาแล้ว ปัญหาที่เกิดส่วนใหญ่เรื่องของแมลงศัตรูนาข้าว วิทยากรจึงตอบย้ำว่า เชื้อราไตรโคเดอร์มาสามารถใช้แก้ปัญหาได้ดี ส่วนเรื่องหนูที่ชอบกัดแทะต้นข้าว จะแก้ปัญหาได้ตามที่ได้คุยไว้มาก่อน นอกจากนี้เกษตรอำเภอจะนำยาเบื่อหนูมาให้ชาวบ้านใช้ต่อไป  วิทยากรพูดเสริมอีกว่าปัญหาใหญ่ตอนนี้คือเมล็ดพันธ์ข้าวมีคุณภาพต่ำ  ทำให้ได้ผลผลิตน้อย  และจากที่ปราชญ์ชุมชน หรือ หมอดิน  ในชุมชน นำดินไปตรวจสภาพตามคำแนะนำของเกษตรอำเภอ พบปัญหาดินเป็นกรด วิทยากรได้แนะนำการใช้สารโดโลไมด์ซึ่งเป็นสารปรับปรุงหน้าดิน ให้ชาวบ้านนำไปหว่านในแปลงนาก่อนหว้ฃ่านข้าว  จะช่วยแก้ปัญหาได้  อีกวิธีคือการใช้ปุ๋ยพืชสด โดยการปลูกพืชตระกูลถั่ว  ปอเทือง  และเตรียมการคัดเมล็ดพันธ์ หรือให้ปรับปรุงสายพันธ์ใหม่เพื่อไปปลูกในฤดูกาลที่กำลังจะถึงนี้ เมื่อทุกคนได้รับคำตอบที่สงสัย วิทยากร และประธานโครงการปลูกผักฯจึงได้เริ่มนัดหมายให้ทุกคนมาพร้อมกันอีกครั้งในครั้งต่อไป ในวันที่ 16 สิงหาคม 2556 เพื่อทำการถอดบทเรียน  สรุปทุกอย่างที่ได้รับตั้งแต่เริ่มโครงการจนใกล้จะเสร็จสิ้นโครงการ ว่าได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้อะไรกันบ้าง เกิดประโยชน์ต่อใครบ้าง เกิดปัญหา/วิธีการแก้ปัญหา  หรือความต้องการในครั้งต่่อไปคืออะไร ฯลฯ  เมื่อนัดหมายเสร็จประธานจึงกล่าวปิดเวทีประชุม

-

-

-

ปราชญ์ชุมชนได้ศึกษาเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากพืชโดยเฉพาะราในพืช หลังากทดลองใช้จึงนำมาสาธิตให้แกนนำย่อยรับทราบและนำไปปฏิบัติในครอบครัวตนเองและชุมชนในละแวกบ้านของตน

กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วันนี้จัดขึ้นณ บ้านปราชญ์ชาวบ้าน คือบ้านคุณธีรวัฒน์        เรืองชรักษ์ มีแกนนำและชาบ้านที่สนใจเข้าร่วมประชุม 55 คน เมื่อถึงเวลา คุณธีรวัฒน์ เรือชรักษ์ ได้ชี้แจงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ไดรับมาจากเกษตรกรอำเภอเกี่ยวกับเชื้อราไตรโคเดอร์มาอธิบายให้กับแกนนำ โดยการสาธิตวิธีการทำเชื้อราไตรโคเดอร์มา ให้ทุกคนลงมือปฏิบัติตามด้วยตนเองให้ถูกวิธี เพื่อนำไปใช้ในครัวเรือนของตนเอง และนำความรู้ไปเผยแพร่ให้กับเพื่อนบ้านในละแวกบ้านของตน และให้วามรู้ในการควบคุมแมลงศัตรูพืชโดยการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยวิธีการใช้น้ำหมักสมุนไพร ฉีด พ่น ไล่แมลงหรือใช้ยางล้อรถจุดไฟแล้วลากไปรอบบแปลงผักเพื่อให้เกิดควันไฟปไล่แมลง หรือวิธีการควบคุมโดยระบบนิเวศน์ แมลงกินแมลงศัตรูพืชเป็นอาหารโดยไม่ทำลายแมลงศัตรูพืชธรรมชาติเหล่านั้น เช่น แมลงปอ แมงมุม มดแดง หลังถ่ายทอดวิชาเสร็จได้สอบถามข้อสงสัยต่างๆ นายกระบิล มณี ถามว่าเชื้อราไตรโคเดอร์มานำไปใช้กับยางพาราที่มีปัญหารากเน่า โคนเน่า ได้หรือไม่ คำตอบคือได้ โดยนำไปผสมกับดินแดงแล้วทาบริเวณโคนที่เน่า หรือนำไปผสมรำแล้วหว่านบริเวณโคนต้นยางก็ได้ผลดีเช่นกัน ป้าหนูเลี่ยม ถามว่าถ้านำมาใช้กับผักที่ปลูกจะมีสารพิษตกค้างในผักที่รับประทานหรือไม่ คุณธีรวัฒน์ยืนยันว่าไม่อันตรายทั้งคนและสัตว์เพราะวิธีนี้ผ่านวิจัยมาจากสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร ม.วิลัยลักษณ์เรียบร้อยแล้ว แล้วคุณกุศล ย่องนุ่น แกนนำอีกคนยืนยันว่า ตนเองนำเชื้อราไตรโคเดอร์มาไปใช้หลังผ่านการอบรมมาจากเกษตรอำเภอครั้งก่อนเรยบร้อยแล้ว และวันนี้ได้นำผักที่ตนเองปลูกมาอวดให้เพื่อนๆที่มาในวันนี้ดูด้วย สุดท้ายการอบรม กำนันเชต ยอดระบำ กำนันตำบลสามตำบลได้กล่าวก่อนปิดเวทีถ่ายทอดความรู้ว่า ผมดีใจที่ในหมู่บ้านของเรามีกิจกรรมเหล่านี้บ่อยๆ ทำให้ชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเกิดการพึ่งพาตนเอง เกิดกลุ่มที่มีความเอื้ออาทรต่อกัน และการมีส่วนร่วมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการแก้ปัญหาให้กับชุมชนของเราอย่างยั่งยืน ก่อนกลับบ้าน คุณธีรวัฒน์ เรืองชรักษ์ ได้แจกจ่ายน้ำหมักชีวภาพที่ทำใช้เป็นประจำ ให้ทุกคนนำกลับไปใช้ที่บ้านได้ฟรี ส่วนคนที่แนะให้ทำใช้เองอยู่แล้ว สามารถนำไปฝากให้กับคนข้างเคียงได้ด้วย และลากลับบ้านด้วยสีหน้าสบายใจ ภูมิใจในบทบาทของตน

สถานที่คับแคบเล็กน้อย  ไม่สามารถ จัดที่นั่งให้เป็นระเบียบ เรียบร้อยได้ เนื่องจากเป็นบริเวณใต้ถุนบ้าน แต่สามารถสร้างความเป็นกันเองได้เป็นอย่างดี

-

-

ในวันนี้มีกิจกรรม ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากกองทุนสุขภาพตำบลสามตำบลมีกิจกรรมหลากหลายที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ เช่นการสานเสื่อประสานใจ การละเล่นเกมส์ในที่ร่มต่างๆ การประกวดเวทีนางงาม สุขภาพดี และโครงการปลูกผักปลอดสารพิษจึงเข้าร่วมกิจกรรมโดยการร่วมประกวดกระเช้าผักปลอดสารพิษ กรรมการตัดสินจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 100 คน ของรางวัลคือวัสดุสำหรับใช้ปลูกผัำปลอดสารพิษ

ในวันนี้โครงการปลูกผักปลอดสารพิษพิชิตโรคบ้านสำนักขัน ได้เข้าร่วมกิจกรรมเนื่องในวันส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุโดยการสนับสนุนจากกองทุนสุขภาพตำบลสามตำบล ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสามตำบลมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 150 คน  โดยการจัดเวทีประกวดกระเช้าผักปลอดสารพิษที่จัดมาจากละแวกบ้านของตน โดยมีกติกา ได้แก่ ผักที่ใช้ประกวดต้องนำมาจากละแวกบ้านของตน ห้ามซื้อ ไม่จำกัดรูปแบบการจัด สามารถจินตนาการได้ตามความคิด เมื่อถึงเวลามีผู้มาลงทะเบียนประกวดกระเช้าผักทั้งหมด 5 กระเช้า และมีกระเช้าจัดโชว์เพื่อความสวยงาม 1 กระเรายนามตัวแทนจัดกระเช้าประกวดดังนี้ 1 กระเช้าละแวกบ้านปลายนา โดย คุณสุภา  อนุรักษ์  2 กระเช้าจากใสต้นไทร โดย คุณสมทรง  ปิยราช  3 กระเช้าบ้านบ่อเจก โดยคุณบุญช่วย  เทพธานี  4 กระเช้าบ้านมังฆะ  โดยคุณประภา  เครือหวัง  และ 5 กระเช้าจากบ้านเกาะยางโดยคุณมะลิวัลย์  วังบุญคง  และกระเช้าโชว์โดยคุณสุภา  เรืองชรักษ์    ต่อมาเมื่อเวลา 10.00น. คณะทีมงานเริ่มลงมือแจกบัตรโหวตเสียงจากจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 100ราย และพิธีกรเริ่มประกาศให้คนที่จะโหวตคะแนนให้เข้าเยี่ยมชมกระเช้าเพื่อพิจารณาตัดสินให้คะแนนที่คิดว่าตนเองเห็นชอบให้ได้ที่ 1 แค่ กระเช้าเดียวเท่านั้น และประกาศปิดโหวตเมื่อเวลา 14.00. เมื่อถึงเวลาประกาศผลการนับคะแนน ปรากฏว่า กระเช้าทีมีคะแนนสูงสุด มาจาก ละแวกบ้านใสต้นไทร  ที่ 2 จากละแวกบ้านบ่อเจก  ที่ 3  จากละแวกบ้านเกาะยาง และรางวัลชมเชย 2 กระเช้าคือจากละแวกบ้านปลายนา และละแวกบ้านมังฆะ  ต่อมาได้เชิญนายก อบต.สามตำบล เป็นผู้มอบรางวัล และกล่าวขอบคุณโครงการดีๆ ที่ช่วยรณรงค์ให้ชุมชนในท้องถิ่นหันมาปลูกผักกินเอง และที่ช่วยส่งเสริมกิจกรรมเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ และได้กล่าวปิดงานโดยให้ความหวังไว้กับชาวตำบลสามตำบลว่าจะผลักดันให้เกิดโครงการตลาดผักปลอดสารพิษให้ได้ในเร็วๆนี้ ถ้าพี่น้องปลูกผักแล้วเห็นผลและมีความมุ่งมั่นที่จะปลูกผักรับประทานเองเช่นนี้ จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อไป  

ชุมชนบ้านสำนักขันไม่มีตลาดขายผักปลอดสารพิษ จึงควรปรึกษาหารือเพื่อหาแนวร่วมในการผลักดันให้มีโครงการเปิดตลาดขายผักปลอดสารพิษต่อไป

-

-ร่วมผลักดันให้มีตลาดเปิดท้าย มีป้ายขายผักปลอดสารพิษ

มีการประชุมเพื่อปรึกษาหารือ เพื่อหาแนวทางกระตุ้นชุมชนให้เห็นควมสำคัของการปลูกผักรับประทานเอง โดยการเสนอกิจกรรมการประกวดกระเช้าผักเนื่องในวัน ส่งเสริมผู้สูงอายุใน รพ.สต.สามตำบล

วันนี้มีแกนนำหลักเข้าร่วมประชุม 15 คน วาระที่ประชุม ดังนี้ เนื่องจากในวันที่ 26 กรกฏ าคม 2556 ที่จะถึงนี้ ทาง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสามตำบล ได้ดำเนินกิจกรรมในชื่อโครงการ ส่งเสริมสุขภาพจิตผู้สูงอายุ  จากการสนับสนุนของกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลสามตำบล  ประทานโครงการ และผู้ร่วมโครงการจึงขอความคิดเห็น โดยร่วมปรึกษาหารือตามแผนงานของโครงการปลูกผักปลอดสารพิษฯ ว่า เราชุมชนบ้านสำนักขัน หมู่ที่ 5 ตำบลสามตำบลควรมีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าวในรูปแบบใดได้บ้าง  คุณสุภา  เรืองชรักษ์ จึงได้เสนอให้มีการประกวดกระเช้าผักขึ้นในงานดังกล่าว  และคุณเพีนร  กาญจนกาฬน์ ได้เสนอให้มีการเลี้ยงน้ำผักให้กับผู้สูงอายุด้วย  ที่ประชุมลงความเห็น จึงมอบหมายแกนนำ ในละแวกบ้านให้จัดกระเช้ามาประกวด  โดยกำหนดให้ใช้ผักปลอดสารพิษในละแวกบ้านของตนเอง  โดยใช้หลักเกณฑ์ความหลากหลาย  ปลอดสารพิษ และเป็นผักที่ปลูกในละแวกบ้านของตน  ห้ามซื้อผักมาจัดประกวด  และพิจารณาจากความสวยงาม  จินตนาการ  แคะคุณอาภรณ์  นุราภักดิ์ เสนอให้มีการตัดสินการประกวดโดยใช้เสียงโหวดลับจากผู้เข้าร่วมงาน ไม่ต้องมีกรรมการ ที่ประชุมยอมรับหลักการและคุณธีรวัฒน์  ปราชญ์ชาวบ้าน เสนอต่อ โดยให้ของรางวัล ควรเป็นวัสดุ อุปกรณ์ในกสรปลูกผัก  ที่ประชุมเห็นด้วย และปิดประชุม

-

-

-

แกนนำการดำเนินกิจกรรมโครงการจำนวน  3 คน เข้าร่วมนำเสนอผลการดำเนินกิจกรรมและนำหลักฐานทางการเงินให้ สจรส.มอ.ตรวจสอบ

ตัวแทนแกนนำของโครงการจำนวน3คนได้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงรายละเอียดการดำเนินโครงการจากทีมสจรส.มอ.ในเรื่องงานเอกสาร หลักฐานการเงินในการใช้จ่ายให้ตรงกับรายละเอียดตามแผนของโครงการ ให้มีความเรียบร้อย ถูกต้องเพื่อความสะดวกของผู้รับผิดชอบโครงการ และได้รับความรู้ในการเขียนรายงานเพื่อเตรียมเอกสารที่จะส่งรายงานงวดสองของโครงการต่อไป

-

-

-

แกนนำหลักที่รับผิดชอบ ได้จัดเวที่โชว์ผักที่ปลูกขึ้นเองเพื่อรับประทาน โดยจัดไว้ตามธาตุที่ร่างกายต้องการทั้ง 4 ธาตุไว้อย่างสวยงาม มีผู้ให้ความสนใจ เข้ามาชม และซักถามถึงเรื่องธาตุต่างๆ

ในวันนี้มีผู้มาร่วมงานในโรงพยาบk]จำนวนมาก ทั่วทั้งอำเภอ ประกอบด้วยกลุ่มแกนนำชุมชน  กลุ่มสมาชิกแม่บ้าน ตำรวจ ชาวบ้านทั่วไปมากมาย มีการจัดนิทรรศการตามจุดต่างๆในงาน ตัวแทนแกนนำโครงการปลูกผักปลอดสารพิษได้ร่วมจัดผักตามธาตุทั้ง 4 ธาตุ และมี แกนนำหลักซึ่งได้รับมอบหมายไว้ให้ดูแลตามจุดที่กำหนด ในงานมีชาวบ้านให้คามสนใจเข้ามาสอบถามเช่น ธาตุเจ้าเรือนคือคะไร  เกี่ยวข้องกับผักเช่นไร  กินเข้าไปมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เป็นต้น เมื่อได้รับคำตอบ จึงเป็นที่เข้าใจและสนใจจะรับประทานผักตามธาตุตนเองบ้าง บางคนบอกว่าอยากกลับไปปลูกเองที่บ้าน แกนนำที่เข้าร่วมงานต่างพอใจในในการเข้าร่วมกิจกรรมในงานวันนี้

-

-

-

แกนนำเข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ และนัดแนะเรื่องการประชุมการผลิตเชื้อราตัวดีเพื่อนำมาใช้ฆ่าเชื้อราตัวร้ายในพืชผักที่ปลูกรับประทานที่บ้าน

แกนนำเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกันทั้ง 15 คนพร้อมนำผักที่ตนเองปลูกไว้รับประทานที่บ้านใาด้วยเพื่อจะนำไปจัดโชว์ในวันพรุ่งนี้ ทุกคนให้ความสำคัญของการดำเนินกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ และได้มอบหมายหน้าที่ในการดูแลพืชผักที่นำเข้ามาโชว์ โดยกำหนดให้คุณหนูเลี่ยม เรืองสุวรรณ ดูแล จุดธาตุดิน,  คุณสมทรง ปิยะราช ดูแลจุด ธาตุน้ำ, คุณประภา เครือหวัง  ดูแลจุดธาตุลม  และคุณยินดี  สุวรรณอินทร์ ดูแลจุดธาตุไฟ เมื่อตกลงได้แล้ว คุณสมศรี เรืองชรักษ์ ประธานโครงการได้กล่าวสืบเนื่องจากการประชุมครั้งก่อนเรื่องการควบคุมโรคพืช ซึ่งที่ประชุมแกนนำย่อยทุกคนต่างให้ความสนใจ จึงได้นัดแนะเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวที่ย่อยในเรื่องการผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์มานำมาควบคุมโรคพืช และกำหนดให้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2556 เป็นวันประชุม พร้อมแจกหนังสือเชิญเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมโดยพร้อมกัน

-

-

-

ตัวแกนแกนนำหลักเข้าประชุม เพื่อรับทราบ และกำหนดการทำงานในกิจกรรมที่จะดำเนินงานต่อไปในวันครบรอบ 10ปี รพ.จุฬาภรณ์ 

มีแกนนำเข้าร่วมประชุมครบ 15 คน โดยคุณสมศรี เรืองชรักษ์ ประธานโครงการได้ชี้แจงวัตถุประสงในวันนี้เพื่อจะดำเนินกิจกรรมในวันที่3 กค.56 :ซึ่งเป็นวันครบรอบ 10ปี รพ.จุฬาภรณ์  คุณจันทิมา  สุดารีย์ ผอ.รพ.สต.สามตำบลได้เข้าร่วมประชุมด้วย ได้อาสาจะขับเคลื่อนโครงการโดยจะมอบหมายให้ อสม.ในเขตรับผิดชอบ มาร่วมกิจกรรมด้วย โดยให้อสม.แต่ละหมู่บ้านทุกคน ที่ปลูกผักไว้ทานเองที่บ้าน ให้นำผักตนเองมาโชว์ โดยมอบหมายให้ หมู่ที่ 1 รับผิดชอบผักที่อยู่ในธาตุดิน, หมู่ที่ 2 รับผิดชอบผักที่อยู่ในธาตุน้ำ, หมู่ที่ 3รับผิดชอบผักที่อยู่ในธาตุลม,และ  หมู่ที่ 5 รับผิดชอบผักที่อยู่ในธาตุไฟ  ประธานโครงการกล่าวขอบคุณในการร่วมมือ และนัดหมายให้นนำผักมาโดยพร้อมเพรียงกันในวันที่ 2 กค.56 ในวันประชุมแกนนำหลักต่อไปในเดือนกค. และจะได้นำไปใช้จัดโชว์ในงานในวันที่ 3 กค.56 ที่ประชุมรับทราบจึงปิดประชุม

ผักที่จะนำไปจัดโดชว์ในวันที่ 3 กค.56 อาจจะเหี่ยวแห้งเพราะนำมาก่อนล่วงหน้า จึงเสนอให้นำผักบางส่วนที่เหี่ยวง่าย ให้นำไปในเช้าวันที่ 3 กค.56

-

-

กำนันเชต  ยอดระบำกล่าวเปิดเวทีการประชุม หลังจากซักถามปัญหาทั่วไปจึงสอบถามโดยเน้นกิจกรรมของโครงการ ที่ประชุมมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ต่างๆโดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากเชื้อราในช่วงฝนตกกระปริกระปรอย

ที่ประชุมมีผู้เข้าร่วมประชุมตามเป้าที่วาง 56 คนมีกำนันเชต ยอดระบำ มาร่วมเป็นประธานในวันประชุมหลังจากซักถามปัญหาทั่วไปจึงสอบถามโดยเน้นกิจกรรมของโครงการ ที่ประชุมมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ต่างๆ  นายธีระวัฒน์ เรืองชรักษ์ ซึ่งเป็นวิทยากรในวันนี้ ได้ซักถามเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หาทางแก้ปัญหา และพูดถึงโครงการปลูกผักปลอดสารพิษของหน่วยงานเกษตรอำเภอ เรื่องการควบคุมโรคพืช ชาวบ้านที่ประชุม ให้ความสนใจ เพื่อมีหลายคนประสบปัญหาจากโรคเชื้อราในผัก ที่ประชุม เสนอแนวทาง ให้ใช้น้ำหมักจากสมุนไพร บางคนให้ใช้ปูนขาว หรือขี้เถ้า  น้ำผงซักฟอก ในการฉีดพ่นกำจัดไข่แมลง  สุดท้าย นายธีระวัฒน์ กล่าวสรุปว่าจะจัดเวทีประชุมเพื่อเรียนรู้เรื่องการควบคุมโรคพืชตามระบบนิเวศน์ คือการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา มาควบคุมโรคพืช ซึ่งเคยได้รับความรู้มาจากเกษตรอำเภอจุฬาภรณ์ และพร้อมจะขยายผลถ่ายทอดให้ชาวบ้านในโครงการทราบและนำมาใช้ต่อไป จึงเป็นที่พอใจ และสมัครเข้าร่วมกิจกรรมที่จะมีในครั้งต่อไป

• หากจะดำเนินการในการควบคุมโรคพืช โดยใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา วิทยากรจัดหาเชื้อได้ยากมากเพราะจะมีเฉพาะ จ.สุราษฎร์ และในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เท่านั้น (เกษตรอำเภอบอกกล่าว)

-สนับสนุนโดยจัดหาแหล่งซื้อวัสดุสาธิต

-

แกนนำร่วมกับปราชญ์ชาวบ้านซึ่งเป็นครอบครัวตัวอย่าง คือคุณธีรวัฒน์ เรืองชรักษ์ ซึ่งประสบคามสำเร็จจากการปลูกผักที่มีคุณภาพไว้กินเองที่บ้าน เป็นวิทยากร  นำคนในชุมชน  สาธิตวิธีการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ เป็นครั้งที่2โดยการนำวัตถุที่หาได้ในพื้นที่  และแนะนำเทคนิคการปลูกผักได้สำเร็จ เพื่อให้ชาวบ้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถกลับไปทำปุ๋ยหมักได้โดยตนเอง และมีปุ๋ยหมักไว้ใช้ตลอดไป และได้เพิ่มกิจกรรมคือการเพาะเห็ดนางฟ้าโดยเชิญวิทยากรที่มีความสามารถและเคยประสบความสำเร็จในการเพาะเห็ดจำหน่ายมาสาธิตให้ผู้ที่สนใจจะประกอบอาชีพเสริมและสามารถนำมาว้รับประทานเองที่บ้านต่อไป

มีผู้ที่ร่วมสมัครเข้าร่วมโครงการรายใหม่และผู้ที่เคยผ่านการอบรมครั้งที่1 มาแล้วมาร่วมกิจกรรมทั้งหมด 80 คนทุกคนมีความประสงค์จะทำน้ำหมัก หรือปุ๋ยหมักไว้ใช้เองที่บ้าน  ทุกคนได้รับทราบถึงวิธีการปลูกผักที่มีคุณภาพโดยใช้ปุ๋ยหมัก หรือน้ำหมักชีวภาพ  โดยการใช้ส่วนประกอบ 2 อย่างคือเตรียมวัตถุดิบ เช่น รำข้าว มูลสัตว์ ซากพืช ซากสัตว์ ฯลฯ และการใช้น้ำหมักชีวภาพ ซึ่งใช้สูตรต่างๆ กัน ซึ่งทุกคนสามารถศึกษาได้จากเอกสาร มีการสอน แนะนำเคล็ดลับต่างๆในการทำปุ๋ยให้ได้ดี วิธีการผสมปุ๋ยหมัก วิธีการดูแลปุ๋ยหมัก ฯลฯ หลังจากผสมปุ่ยเสร็จ คนที่มาประชุมจึงจัดแบ่งเพื่อไปดูแล และใช้ที่บ้านตามสมควร และมีการเสริมคือการสาธิตการเพาะเห็ดนางฟ้า โดยการเชิญวิทยากรมาจาก รร.ในเขตพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการเพาะเห็ดไว้รับประทานที่บ้านและสามารถจำหน่ายเป็นการเสริมรายได้ในครัวเรือนได้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนให้ความสนใจในกิจกรรมดังกล่าว และร่วมช่วยกันเพาะเชื้อเห็ด และนำกลับไปบ้านเพื่อเพาะต่อที่บ้านต่อไป ก่อนจะเสร็จการอบรม มีการซักถามถึงความก้าวหน้าของการปลูกผัก และผลการนำน้ำหมัก/ปุ๋ยหมักที่ช่วยกันทำในครั้งที่1 ผลตอบกลับ ทุกคนบอกว่า ดีมาก หลังจากใส่ปุ๋ยหมัก ผักสีสด สยงาม ประหยัดเงินซื้อปุ๋ยเคมี และได้ผักที่มีคุณภาพมารับประทาน

-

-

-

มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเสนอโครงการใหม่เพื่อของบประมาณในปี 2557 และตอบคำถามตามแบบประเมินคุณค่าของโครงการ

ที่ประชุมมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการทำงานของแต่ละโครงการ โดยเฉพาะโครงการใหม่ที่เสนอมามาหลายโครงการที่เสนอมา ในส่วน อ.จุฬาภรณ์ มี 1โครงการที่ต้องการต่อยอดคือ โครงการ ม.3 ต.สามตำบล และคณะทำงานร่วมวิเราะห์โดยการตอบคำถามตามแบบประเมินคุณค่าที่เกิดจากการดำเนินโครงการ

-

-

-

แกนนำหลักเข้าร่วมประชุม ต่างพูดถึงผลสะท้อนกลับจากการดำเนินโครงการ เป็นไปด้วยดีมีการตรวจเยี่ยมชุมชนเป็นระยะ

ประธานโครงการสอบถามแกนนำหลักทั้ง 15 คน ถึงความก้าวหน้า หรือความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่  ปรากฏว่า ร้อยละ 90 ตอบว่ากระแสตอบรับดีมาก  ชาวบ้านให้ความสนใจในโครงการด้วยดีเสมอมา ผักที่เริ่มปลูกกันมา ได้เจริญงอกงาม บางรายเหลือจากรับประทานเองที่บ้านยังสามารถนำไปขายเกิดรายได้เล็กๆน้อยๆมาจ่ายในครัวเรือน และเนื่องจากตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนมานี้ มีฝนตกเป็นระยะๆ อากาศไม่ร้อน และไม่หนาวจนเกินไป สามารถเพาะปลูกพันธ์เพิ่มได้ดี  ในส่วนที่กำลังเจริญเติบโตก็กำลังจะได้ผลผลิตต่อไป  และผลจากเมล็ดที่นำมาแจกจ่ายเพื่อประชาสัมพันธ์ในวันสงกรานต์ ชาวบ้านหลายคนบอกว่ามันได้ผล ใบผักสวยงาม นำมารับประทานได้แล้ว สร้างความยินดีให้กับกลุ่มแกนนำได้อย่างดี และผลจากที่มีการเสนอให้มีการประชาสัมพันธ์การปลูกผักรับประทานเองที่บ้าน ไปสู่ชุมชนข้างเคียงปรากฎว่า ตัวแทนโครงการคือคุณอาภรณ์ นุราภักดิ์ ได้นำไปโชว์เพื่อประชาสัมพันธ์ ชี้แจงประโยชน์และความสำคัญของการรับประทานผักปลอดสารพิษให้ชุมชนอื่นรับทราบคือ หมู่ที่ 2บ้านคอพรุ ตำบลสามตำบล ปรากฏว่ามีคนให้ความสนใจ และขอซื้อเมล็ดผักที่นำมาประชาสัมพันธ์จนหมดจำนวน 20 ถุง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพาระคนที่คิดจะซื้อเมล็ดพันธ์ผักไป คือคนที่จะต้องนำไปปลูกที่บ้านตนเองแน่นอน อย่างน้อย 20 ถุงที่จำหน่ายได้ต้องออกเป็นผลผลิตแน่นอน แกนนำเล่าว่า ป้าบุญสุข ซึ่งเป็นตัวอย่างครอบครัวต้นแบบบ้านสำนักขัน บอกว่า มางานแต่งงาน จ่ายให้งาน 200 บาท แต่กลับได้เมล็ดพันธ์ผักเป็นของชำร่วยตอบแทน สามารถทำประโยชน์ได้ประมาณ 500 บาท เพาระฉนั้น งานแต่งงานนี้ ป้าบุญสุขจะมีกำไล ประมาณ 300 บาท เมื่อป้าบุญสุขพูดเสร็จ คนที่ได้ฟังต่างยกนิ้วหัวแม่มือให้ เพราะเห็นด้วยจริงๆ แกนนำทุกคนจึงเกิดความรู้สึกดียิ่งขึ้นกับการทำโครงการเช่นนี้

-

-

-

ในวันนี้ทางวัดสำนักขันซึ่งมีเจ้าอาวาสคือพระครูประโชติ อิทคุณ ร่วมกับผู้นำชุมชน คือกำนันเชต ยอดระบำพร้อมสมาชิก ได้ร่วมกันจัดงานประจำปีในโอกาสวันสงกรานต์  ปีนี้มีกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเพื่อสืบสานประเพณีไทยให้ลูกหลานตอบแทนคุณผู้สูงวัย และขอพรจากผู้ใหญ่ และมีกิจกรรมเสริมโดยตัวแทนโครงการปลูกผักปลอดสารพิษนำของที่ระลึก  มาถวายแก่เจ้าอาวาสเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้สูงอายุเพื่อนำไปให้ลูกหลานที่บ้านปลูกเพื่อนำมารับประทานต่อไป

จากการสอบถามผู้นำชุมชนในวันนี้ทราบว่า ทุกปีจะมีการจัดงานรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหลานสร้างความดีโดยการนำผู้สูงอายุมาร่วมทำบุญที่วัด และจะได้ขอพรจากผู้สูงอายุในพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะมีบุตรหลานบางคนไม่มีโอกาสพาพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่เข้าวัด จึงได้ตกลงในที่ประชุมหมู่บ้าน เพื่อคัดสรรผู้สูงอายุที่ยังมีความสามารถมาร่วมกิจกรรมได้ ทั้งหมด 60 คน เมื่อถึงวันงานวันนี้ปรากฏว่ามีผู้สูงอายุมาร่วมครบ100 เปอร์เซ็นต์คือ 60 คน ทุกคนหน้าตาเบิกบานยิ้มแย้ม พูดคุยทักทายอย่างมีความสุข และผู้นำเล่าว่า ในการจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประธานและสมาชิกปลูกผักปลอดสารพิษในหมู่บ้าน นำของที่ระลึกมามอบแก่เจ้าอาวาสวัดสำนักขัน คือนวตกรรมของชำร่วยจากเมล็ดผัก นอกจากมีความสวยงามแล้ว ยังมีคุณค่าทางด้านจิตใจ หมายถึงสิ่งที่จะเจริญงอกงาม และสวยงามในอนาคตต่อไป หากได้รับการเพาะเลี้ยง การดูแลอย่างดี เปรียบเหมือนทารกที่จะเจริญวัย เป็นเด็กดีของสังคมต่อไป และผู้นำชุมชนยังใช้เวทีนี้ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษให้อีกด้วย และมีลูกหลานของผู้สูงอายุหลายคนที่มารับปากพี่เลี้ยงว่าจะรีบนำเมล็ดพันธ์ที่ได้รับไปปลูกเพื่อรับประทานต่อไป

-

-

-

ในวันสงกรานต์ปีนี้ บ้านสำนัก หมู่ที่ 5 ได้จัดกิจกรรมรดน้ำดำหัวแก่ผู้สูงอายุเพื่อสืบสานประเพณีไทยให้ลูกหลานตอบแทนคุณผู้สูงวัย และขอพรจากผู้ใหญ่ ในงาน มีผู้สูงอายุ ที่ลูกหลานนำมารดน้ำทั้งหมดจำนวน 60 คน และมีตัวแทนโครงการปลูกผักปลอดสารพิษนำของที่ระลึก  มาถวายแก่เจ้าอาวาสเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้สูงอายทั้ง 60 คน

มีการจัดงานรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในบริเวณวัดสำนักขัน  หมู่ที่ 5 ต.สามตำบล มีตัวแทนคือผู้สูงอายุที่ลูกหลานสามารถนำมาได้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดจำนวน 60 คน ทุกคนมีสีหน้าเบิกบานมีความสุขในวันสงกรานต์ไทย  มีแกนนำโครงการปลูกผักปลอดสารพิษนำของที่ระลึก คือของชำร่วยที่สมาชิกร่วมมือกันผลิตขึ้นมา เพื่อมาแจกจ่ายให้กับผู้สูงอายุ โดยถวายให้ไว้กับพระครูประโชติ อิทคุณ เจ้าอาวาสวัดสำนักขัน  และยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลสามตำบล เพื่อร่วมอนุโมทนาในวันทำบุญดังกล่าว  ทั้งนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่โครงการ แนวคิดแบบใหม่่ในการประดิษฐ์ของในชุมชนบ้านสำนักขัน  และโฆษกประจำงาน ได้ช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ที่มาร่วมบุญในวัด  หลังกิจกรรมเสร็จสิ้นกลุ่มแกนนำได้รับคำชมเชยว่าผลิตของท่ี่ระลึกได้สวยงามจนมีการพูดเล่นๆว่าสวยจนไม่อยากจะแกะออกมาใช้ประโยชน์ เพราะอยากเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่ทุกคนทีได้รับต่างก็รับปากว่าจะปลูก ให้ได้ผักที่สวยงามเหมือนกับของที่ได้รับมา

-

-

-

ประธานและสมาชิกผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงสถานการณ์ปัจจุบันให้สมาชิกแกนนำหลักทั้ง 15 คนรับทราบ และประธานโครงการกล่าวชมเชยผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา

มีแกนนำหลักเข้าร่วมประชุมทั้ง 15 คน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโครงการปลูกผักปลอดสารพิษกำลังดำเนินสถานการณ์เป็นไปด้วยดี  มีผู้สนใจนวัตกรรมและยินดีนำมาใช้ในงานแต่ง จำนวน 2 งาน คือ 1 งานแต่งงานของลูกฝาแฝดของ คุณรัญจวน  นพสถิตย์ ซึ่งเป็นผู้สมัครเข้าร่วมโครงการปลูกผักปลอดสารพิษ และเป็นผู้ประสบผลสำเร็จจากการปลูกผักรับประทานเองที่บ้าน  และกำลังขยายผลเพิ่มพื้นที่ในการปลูกผักที่บ้านให้มากขึ้น ขณะนี้กำลังสะสมยางรถยนต์ รถจักยานยนต์ เพื่อทำเป็นกระถางปลูกผักต่อไป และอีก 1 ครอบครัว คือ หลานสาวของคุณ อำพร  พูนทอง ซึ่งเป็นผูมีความสนใจ ในด้านการปลูกผักปลอดสารพิษอยู่แล้ว และแนะนำญาติให้ใช้ของชำร่วยจากเมล็ดพันธ์ผักในงานแต่งวันที่ 20 พฤษภาคม 2556ที่จะถึงในเดือนต่อไป

ของชำร่วยที่แกนนำผลิตเป็นนวตกรรมจากเมล็ดพันธ์ผัก เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับชุมชนบ้านสำนักขัน และชุมชนใกล้เคียง การประชาสัมพันธ์ยังมีไม่ทั่วถึง เนื่องจากโครงการเกิดขึ้นในชุมชนบ้านสำนักขัน เท่านั้น ที่ประชุมจึงเสนอให้มีการนำของชำร่วยที่ผลิตขึ้น ไปแพร่ขยายให้ชุมชนอื่นรับทราบ

-

-

มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวทีประชุมโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากแกนนำในละแวกบ้านต่างๆ และมีวิทยากรจากปราชญ์ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าให้ความรู้ในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ

ในการประชุมในเวที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนี้เริ่มโดยผู้นำชุมชนซึ่งเป็นสมาชิกในโครงการคือ กำนันเชต ยอดระบำ ได้กล่าวยกย่องตัวแทนในการนำผลงานในหมู่บ้านไปโชว์ในวัน งาน อสม.แห่งชาติ ณ หน้าที่ว่าการ อ.จุฬาภรณ์ และนำรางวัลจากการประกวดเมนูผัก(แกงเลียงผักรวมมิตร สูตรป้าศรีน้อย)มาได้ สร้างความยินดีในหมู่บ้านของตน และเคยโชว์นวตกรรมของชำร่วยจากเมล็ดผักในวันประกวดกำนันดีเด่นระดับจังหวัด จนได้กำนันแหนบทองคำมาสู่ชุมชนบ้านสำนักขัน อ.จุฬาภรณ์มาแล้ว และเสนอให้มีโครงการดีๆเช่นนี้ต่อไป และมีเจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.สามตำบลได้ให้ความรู้เรื่องโรคภัยที่เกิดจาดการรับประทานผักที่มีสารพิษ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆไม่สามารถมองเห็นได้ และสามารถลดโรคได้โดยการรับประทานผักปลอดสารพิษที่ปลูกขึ้นเองอย่างมีคุณภาพนั่นคือการไม่ใช้ปุ๋ยเคมี แต่ใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพแทน  และปราชญ์ชาวบ้านและเป็นวิทยากรชุมชนคือคุณธีรวัฒน์,และผู้ช่วยคุณดิเรก คู่มณี  ได้สอบถามความคืบหน้าจากผลและคุณภาพของปุ๋ยหมัก/น้ำหมักที่ได้ทำใช้เมื่อ 29 มค.56 ผลปรากฏ สามารถนำไปใช้ได้ดีมาก และสนใจที่จะศึกษาต่อไป วิทยากรจึงเสนอให้ความรู้เพิ่มเติมในวันทำปุ๋ยหมักครั้งที่2 ให้ทุกคนเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงกันในวันที่ 24 พค.56 และได้ให้ความรู้ในการทำน้ำหมักจากซากสัตว์หรือเศษปลา รกหมู  การทำปุ๋ยด้วยก้อนเห็ดที่หมดเชื่อแล้ว จึงขอให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมในวันสาธิตและสอนในวันดังกล่าว

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ที่ประชุมมีแกนนำหรือตัวแทนละแวกบ้านเข้าร่วมประชุมตามที่นัดหมายไว้  ประธานสอบถามแกนนำหรือตัวแทนละแวกบ้านถึง ความก้าวหน้าของโครงการ หลังรับทราบความก้าวหน้า ประธานจึงแจ้งผลการติดตามในพื้นที่โดยมีผู้ติดตามคือ อาจารย์กำไล

ในที่ประชุมมีแกนนำหลักเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ประธานได้สอบถามความก้าวกหน้าของโครงการว่าเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องจากอากาศเริ่มร้อน โดยสอบถามแกนนำแต่ละคนซึ่งอยู่ในละแวกบ้าน คำตอบที่ำได้ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา เพราะถึงอากาศเริ่มร้อนแต่ยังมีฝนตกบ้างเป็นครั้งคราว และชุมชนมีความพร้อมในการใช้น้ำ บางบ้านใช้นำ้จากในครัวเรือน หรือน้ำทิ้งจากกิจกรรมอื่นๆยังสามารถนำมาใช้ได้ จากนั้นประธานจึงเริ่มชี้แจงผลการติดตามโครงการจากพี่เลี้ยงในพื้นที่และพี่เลี้ยงจากสจรส.คืออาจารย์กำไล ซึ่งได้ลงติดตามโครงการเมื่อวันที่ 6 มีค.56 และได้ติดตามเยี่ยมบ้านต้นแบบ 1 หลัง เนื่องจากมีเวลาน้อย ผลการติดตามเป็นที่พึงพอใจ พบว่าส่วนใหญ่ได้รับผลผลิตมารับประทานกันแล้ว บางคนสามารถนำไปขายในที่ตลาดเปิดท้ายในหมู่บ้าน พี่เลี้ยงถามถึงโอกาสในการจัดกิจกรรมต่อไป ประธานโครงการจึงเสนอให้แกนนำและสมาชิกในพื้นที่นำผักที่ปลูกมาจัดกิจกรรมเพื่อโชว์ผลงาหรือขายมีรายได้ และเข้าร่วมประกวดเมนูผักเพื่อสุขภาพ ในวันที่ 19 มีค.56 ซึ่งเป็นวัน อสม.แห่งชาติประจำปี2556 แกนนำให้ความร่วมมือและนัดหมายนำผัก และจัดหาแกนนำทำอาหารเมนูผักเข้าประกวดในวันดังกล่าว

แกนนำบางคนสนใจและอยากเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นจากการติดตามจากพี่เลี้ยงโครงการ และจากผู้ติดตามที่มาจากสจรส. จึงเสนอให้เข้าร่วมในโอกาสต่อไปเพื่อจะได้รับทราบแนวทางการพัฒนาร่วมกัน

ไม่มี

ไม่มี

คืนเงินสำรองจ่ายเป็นค่าเปิดสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย จำนวน 500 บาท

คืนเงินสำรองจ่ายเป็นค่าเปิดสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทยจำนวน 500 บาท

-

-

-

ในวันที่ 19 มีนาคมของทุกเดือนเป็นวันอสม.แห่งชาติ แกนนำหลายคนที่มีความสามารถในโครงการปลูกผักปลอดสารพิษเป็นสมาชิกของ อสม.ตำบลสามตำบลได้ประชาสัมพันธ์โครงการ โดยการนำผักที่ปลูกขึ้นเองจัดหามาจากชุมชนของตนเองมาโชว์ และเสนอตัวแทนโครงการเข้าร่วมประกวดเมนูผักชูสุขภาพ

ในวันที่ 19 มีนาคม 2556นี้ แกนนำหลักในโครงการปลูกผักปลอดสารพิษของหมู่ที่ 5 บ้านสำนักขันเป็นสมาชิกของ อสม.ตำบลสามตำบลทุกคน ได้นำผักที่ปลูกขึ้นเองจากชุมชนในละแวกบ้านของตมาโชว์เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการเช่น ผักกาด ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ฯลฯมีอสม.จากหมู่บ้านอื่นให้ความสนใจในผักที่ปลูกมาโชว์และขอนำกลับไปรับประทานเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมจนหมดสิ้น บางคนบอกว่ากำลังจะปลูกอยู่พอดีบ้าง บางคนก็โม้ว่าบ้านตนเองก็มีจึงเป็นสิ่งที่ดีที่จะพัฒนาต่อไป และในวันนี้มีแกนนำโครงการเป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดเมนูผักชูสุขภาพ คือ แกงเลียงผักรวมมิตร สูตร ป้าศรีน้อย ได้รับการยกย่องว่ารสชาดอร่อย ไม่เค็ม ไม่มีกลิ่นผงชูรส น้ำต้มผักหวานมาจากผักสดล้วนๆ ผลปรากฏว่าได้รับรางวัลที่2 ห่างจากที่ 1 (ข้าวยำ) แค่ 0.1 คะแนนเท่านั้น

ไม่มีั

ไม่มี

ไม่มี

มีหัวข้อการสำคัญในการประชุมคือการค้นหาคู่รักที่จะแต่งงานเพื่อประชาสัมพันธ์ของชำร่วยเมล็ดพันธ์ผักและสอบถามปัญกาอุปสรรคในการทำโครงการ

มีแกนนำเข้าร่วมประชุมในวันและเวลาตามที่นัดหมาย ไม่พบอุปสรรคใดๆ มีการสอบถามล้อรถที่จะนำมาปลูกผักเพิ่มเติม ที่ประชุมเสนอแนะให้แกนนำทุกคนรีบไปหาเพื่อสนับสนุนในการทำงานต่อไป และหลังจากประชาสัมพันธ์ของชำร่วยเมล็ดพันธ์ผักแกนนำทุกคนรับปากว่าจะพยายามค้นหาคู่รักที่สนใจร่วมกิจกรรมในโอกาสต่อไป

มีการสอบถามล้อรถที่จะนำมาปลูกผักเพิ่มเติม และที่ประชุมเสนอแนะให้แกนนำทุกคนรีบไปหาเพื่อสนับสนุนพร้อมแนนะวิธีทำล้อรถให้เป็นกระถางปลูกผักเพื่อใช้ปลูกผักต่อไป

ไม่มี

ไม่มี

อ.กำไล สมรักษ์ พร้อมด้วยสมาชิกในโครงการ และเพื่อนสมาชิกในโครงการของอำเภอจุฬาภรณ์ ร่วมแลกเปลี่ยนการดำเนินงาน ลงพื้นที่จริงติดตามบ้านต้นแบบ สัมภาษณ์คนต้นแบบ และปราชญ์ในชุมชน

-นวัตกรรมของชำร่วยปลูกได้สร้างครอบครัวใหม่ร่วมกันทั้งชุมชน จากความรักความสามัคคีเกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยให้คุณค่าของชำร่วยเป็นเมล็ดพันธุ์ผักที่คัดสรรอย่างดีนี้ว่า 1.การแต่งงานเหมือนกับการปลูกเมล็ดพันธุ์ผักใหม่ ให้งดงาม คนมางานต้องช่วยกันนำไปปลูกและช่วยกันดูแลให้เจริญเติบโต นั่นคือสิริมงคลของเจ้าสาวเจ้าบ่าว 2.เป็นสิ่งใหม่ที่ให้คุณค่าทางจิตใจ ไม่คิดถึงราคา ให้สุขภาพ ให้ความรู้ ลดการใช้สารเคมี เป็นอาหารปลอดภัย ให้ปลูกสิ่งที่กินกินสิ่งที่ปลูก 3.ประชาสัมพันธ์การปลูกผักปลอดสารพิษ 4.สอดคล้องกับวิถีคนสำนักขัน -มีปราชญ์ชุมชนให้ความรู้และการปฏิบัติจากประสบการณ์ โดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง -ประยุกต์อุปกรณ์เหลือใช้มาเป็นอุปกรณ์เพาะชำต้นไม้ ประหยัดงบประมาณและได้ผลดี (แก้วน้ำใช้แล้วทิ้ง นำมาเพาะพันธุ์ผัก เจริญเติบโตเร็ว เห็นรากชัด กรีดขอบเป็นที่ระบายน้ำช่วยให้รากไม่ตาย)

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

อ.กำไล สมรักษ์ พร้อมด้วยสมาชิกในโครงการ และเพื่อนสมาชิกในโครงการของอำเภอจุฬาภรณ์ ร่วมแลกเปลี่ยนการดำเนินงาน ลงพื้นที่จริงติดตามบ้านต้นแบบ สัมภาษณ์คนต้นแบบ และปราชญ์ในชุมชน

-นวัตกรรมของชำร่วยปลูกได้สร้างครอบครัวใหม่ร่วมกันทั้งชุมชน จากความรักความสามัคคีเกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยให้คุณค่าของชำร่วยเป็นเมล็ดพันธุ์ผักที่คัดสรรอย่างดีนี้ว่า 1.การแต่งงานเหมือนกับการปลูกเมล็ดพันธุ์ผักใหม่ ให้งดงาม คนมางานต้องช่วยกันนำไปปลูกและช่วยกันดูแลให้เจริญเติบโต นั่นคือสิริมงคลของเจ้าสาวเจ้าบ่าว 2.เป็นสิ่งใหม่ที่ให้คุณค่าทางจิตใจ ไม่คิดถึงราคา ให้สุขภาพ ให้ความรู้ ลดการใช้สารเคมี เป็นอาหารปลอดภัย ให้ปลูกสิ่งที่กินกินสิ่งที่ปลูก 3.ประชาสัมพันธ์การปลูกผักปลอดสารพิษ 4.สอดคล้องกับวิถีคนสำนักขัน -มีปราชญ์ชุมชนให้ความรู้และการปฏิบัติจากประสบการณ์ โดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง -ประยุกต์อุปกรณ์เหลือใช้มาเป็นอุปกรณ์เพาะชำต้นไม้ ประหยัดงบประมาณและได้ผลดี (แก้วน้ำใช้แล้วทิ้ง นำมาเพาะพันธุ์ผัก เจริญเติบโตเร็ว เห็นรากชัด กรีดขอบเป็นที่ระบายน้ำช่วยให้รากไม่ตาย)

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

แกนนำร่วมกับคปราชญ์ชาวบ้านซึ่งเป็นครอบครัวตัวอย่าง คือคุณธีรวัฒน์ เรืองชรักษ์ และบุตรชายซึ่งประสบคามสำเร็จจากการปลูกผักที่มีคุณภาพไว้กินเองที่บ้าน ร่วมกันช่วยการเป็นวิทยากร  นำคนในชุมชน  สาธิตวิธีการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ โดยการนำวัตถุที่หาได้ในพื้นที่  และแนะนำเทคนิคการปลูกผักได้สำเร็จ เพื่อให้ชาวบ้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถกลับไปทำปุ๋ยหมักได้โดยตนเอง และมีปุ๋ยหมักไว้ใช้ตลอดไป และหลังจากการทำกิจกรรมทำปุ๋ยเสร็จสิ้น มีชาวบ้านโดยเฉพาะผู้หญิงสนใจ วิธีการทำสบู่เหลว  น้ำยาล้างจาน และยาสระผม แกนนำที่มีความรู้ในเรื่องนี้คือคุณ สุภา จึงสาธิตวิธีทำให้ดู พร้อมแจกเอกสารสูตรการทำน้ำยาดังกล่าวให้กับผู้ที่สนใจ

มีผู้ที่เคยร่วมสมัครเข้าร่วมโครงการ และมีความประสงค์จะทำน้ำหมัก หรือปุ๋ยหมักไว้ใช้เองที่บ้าน มาร่วมประชุมจำนวนมาก วิทยากร ทุกคนได้รับทราบถึงวิธีการปลูกผักที่มีคุณภาพโดยใช้ปุ๋ยหมัก หรือน้ำหมักชีวภาพ  โดยการใช้ส่วนประกอบ 2 อย่างคือเตรียมวัตถุดิบ เช่น รำข้าว มูลสัตว์ ซากพืช ซากสัตว์ ฯลฯ และการใช้น้ำหมักชีวภาพ ซึ่งใช้สูตรต่างๆ กัน ซึ่งทุกคนสามารถศึกษาได้จากเอกสาร มีการสอน แนะนำเคล็ดลับต่างๆในการทำปุ๋ยให้ได้ดี วิธีการผสมปุ๋ยหมัก วิธีการดูแลปุ๋ยหมัก ฯลฯ หลังจากผสมปุ่ยเสร็จ คนที่มาประชุมจึงจัดแบ่งเพื่อไปดูแล และใช้ที่บ้านตามสมควร และมีการสาธิตการทำน้ำยาเอนกประสงค์ใช้เองที่บ้านคือ น้ำยาล้างจสน ยาสระผม และสบู่เหลว มีผู้หญิงที่สนใจร่วมการทำและนำกลับไปใช้ที่บ้านคนละ 1-2 ขวด การทำเช่นนี้เพื่อใช้เป็นกุศโลบายของแกนนำ ในการดึงดูดความสนใจ คนใดมีเหตุต้องรีบกลับก่อนจะเสร็จการประชุม คนนั้นจะไม่ได้ของไปใช้ที่บ้าน ปรากฏว่าในการร่วมประชุมครั้งนี้ มีเพียง 2-3 คนเท่านั้นที่จะต้องกลับก่อนเพราะเหตุจำเป็น หลังโครงการเสร็จสิ้นแกนนำและชุมชนทุกคนปรบมือในความสำเร็จในโครงการด้วยดี ที่ชาวบ้านให้ความสนใจ และเกิดความรู้ ทักษะในการทำปุ๋ยหมักด้วยตนเองและยังมีปุ๋ยที่หมักแล้ว น้ำยาล้างจาน ยาสระผม สบู่ กลับไปฝากคนที่บ้าน

-บริเวณพื้นที่มีควมคับแคบ  มีกลิ่นอับเล็กน้อย เนื่องจากเป็นโรงทำปุ๋ยหมักเก่า ที่ไม่นำมาใช้ประโยชน์นานแล้ว  จึงมีการเสนอในกลุ่มแกนนำ ว่าหากจะจัดทำกลุ่มกิจกรรมต้องมีการเตรียมพื้นที่ก่อนล่วงหน้า

ไม่มี

ไม่มี

ตัวแทนโครงการทั้ง3คนเข้าร่วมประชุมการติดตามการดำเนินงานของสจรส.มอ.ที่ได้มาชี้แจงรายละเอียดการดำเนินโครงการ ทั้้งการจัดเก็บเอกสารการเงิน การลงบันทึกข้อมูลลงในเว็บไซด์เพื่อให้ข้อมูลมีความสอดคล้องกับโครงการและมีความถูกต้องพร้อมที่จะส่งรายงานงวดที่1ให้กับสสส.

ตัวแทนแกนนำของโครงการจำนวน3คนได้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงรายละเอียดการดำเนินโครงการจากทีมสจรส.มอ.ในเรื่องงานเอกสาร หลักฐานการเงินในการใช้จ่ายให้ตรงกับรายละเอียดตามแผนของโครงการ ให้มีความเรียบร้อย ถูกต้องเพื่อความสะดวกของผู้รับผิดชอบโครงการ และได้รับความรู้ในการเขียนรายงานส1ส2และง1เพื่อเตรียมเอกสารที่จะส่งรายงานงวดแรกของโครงการต่อไป

การจัดเก็บเอกสารการเงินต้องแยกเป็นหมวดหมู่ให้เรียบร้อยเพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบ

ไม่มี

ทีมเจ้าหน้าที่สจรส.มอ.ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงข้อมูลในเวบไซด์ของแต่ละกิจกรรมและดูเอกสารการเงินให้มีความเรียบร้อยแยกเป็นหมวดหมู่เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ

แกนนำ ได้นำผลงานมาโชว์คือ ของชำร่วยจากเมล็ดพันธ์ผัก ในงานวันคัดเลือกกำนัน จำนวน 100 ชิ้น 

ผู้มาร่วมงาน พอใจในผลงาน ของชำร่วยจากเมล็ดพันธ์ผักที่ออกแบบได้สวยงาม และมี 1 ราย ขอเป็นต้นแบบในงานแต่งของลูกตนเอง ในโอกาสต่อไป 

• ระยะเวลาการออกแบบกระชั้นชิด  แกนนำจึงคิดออกแบบสิ่งประดิษฐ์ ได้ 1 แบบเท่านั้น

-

มีแกนนำเข้าร่วมประชุม ตามแผน 

ในเขตดูแลของแกนนำแต่ละคนไม่เกิดปัญหาใดๆ
- เนื่องจาก 16 มค.56 เป็นวันประกวด กำนันแหนบทองคำ ของบ้านสำนักขัน ที่ประชุมเสนอให้มีการตั้งโชว์นวตกรรมจากเมล็ดพันธ์ผัก ที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการ

-กำหนวันประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์จากเมล็ดพันธ์ผัก เร็วเกินไป จึงขาดวิทยากรที่ชำนาญด้านประดิษฐ์  จึงเสนอให้หาตัวแทนที่สามารถจะช่วยคิด ช่วยทำโดยมีชุมชนให้การช่ยเหลือ

-

-

ปฏิบัติได้ตามแผน ในวันประชุมประจำเดือนของบ้านสำนักขัน พร้อมแทรกกิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคีโดยการแลกของขวัญโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2556

-รู้ถึงปัญหาการปลูกผักและได้รับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยมี ปราชญ์ชาวบ้าน และ บุคคลต้นแบบ คอยชี้แนะเป็นวิทยากร -คณะจัดทำโครงการได้เห็นถึงการกระตือรือร้นของแกนนำในการขับเคลื่อนโครงการเป็นอย่างดั

-ชุมชนเสนอให้มีสถานที่สำหรับวางผักปลอดสารพิษจำหน่าย เช่น ในสถานที่สาธารณะ(รร,วัด,โรงพยาบาล)

-

-

มีการประกวดเมนูผักจากแกงเลียง  ประกวดผักปลอดสารพิษที่ชุมชนปลูกขึ้นมาเอง มีการมอบเกียรติบัตรบ้านต้นแบบที่ปลูกผักรับประทานเองทุกหมู่บ้าน และมอบกระเช้าผัก ซึ่งเป็นนวตกรรมท่เกิดขึ้นในชุมชน บ้านสำนักขัน

-บ้านสำนักขันหมู่ที่ 5 ชนะเลิศการประกวดเมนูผัก(แกงเลียง)
-ทุกชุมชนในตำบลสามตำบลนำผักมาประกวดมากมาย -บ้านสำนักขันม.5 มอบกระเช้านวตกรรมจากผักให้แก่สสอ.จุฬาภรณ์,ผอ.รพ.สมตำบลเพื่อเป็นการตอบแทนการขับเคลื่อนโครงการให้ยั่งยืน

-ในการประกวดผักปลอดสารพิษ ควรมีเอกสารแนบโดยแบ่งสรรพคุณ, ประโยชน์ที่ได้จากการรับประทานผักที่ปลอดสารพิษ อย่างเป็นหมวดหมู่ เพื่อเน้นถึงประโยชน์สูงสุดของการรับประทานผักปลอดสารพิษ แลง่ายแก่การจดจำ -กระเช้าผักควรจัดให้มีขนาดพอเหมาะที่ไม่ใหญ่เกินไป แลไม่เล็กเกินไป เพื่อความสวยงามและสะดวกในการมอบ

-

-

ตัวแทนผู้รับผิดชอบโครงการและแกนนำออกตรวจเยี่ยมและให้ความรู้ในเรื่องการปลูกผัก และคัดเลือกบ้านตัวอย่าง 1 ครัวเรือน

แกนนำเสนอให้มีบ้านตัวอย่างที่ปลูกผักไว้รับประทานเองที่บ้านในหมูี่่่ที่ 5 จำนวน 2 ครัวเรือนและให้เป็นบ้านตัวอย่างในระดับตำบล 1 ครัวเรือน

แกนนำบางคนเสนอให้มีการประกวดบ้านตัว  อย่างที่ปลูกผักปลอดสารพิษในระดับตำบล เพื่อและมอบรางวัล สิ่งจูงใจ และเพื่อเป็นกำลังใจในการกระทำต่อไป

-

-

เป็นไปตามแผน

แกนนำโครงการรายงานว่า ผู้นำชุมชน แกนนำ และกลุ่มองค์กรในระดับตำบล  มีโครงการจะประกวดบ้านตัวอย่างที่ปลูกผักปลอดสารพิษไว้รับประทานเองที่บ้าน ในระหว่างเดือน ธค.2555- มค.2556 ดังนั้น แกนนำโครงการจึงเสนอ ให้คัดเลือกครัวเรือนในม.5 บ้านสำนักขันที่ปลูกผักปลอดสารพิษไว้ทานเองที่บ้าน( แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากขาดแรงสนับสนุน)เป็นบ้านตัวอย่างที่ปลูกผํกปลอดสารพิษไว้รับประทานเอง และกล่าวยกย่อง ชมเชย ให้กำลังใจให้ชุมชนรับรู้ในหมู่บ้านและ จะส่งเข้าประกวดในระดับตำบลต่อไป ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพตนเอง

มีหลายบ้านที่ปลูกผักไว้ทานเอง(ประสบความสำเร็จบ้าง/ล้มเหลวบ้าง) จึงเสนอให้คัดเลือกบ้านตัวอย่างอย่างน้อย 3 หลังคาเรือน เพื่อค้นหาบ้านตัวอย่างในชุมชน 1 หลัง เพื่อส่งเข้าประกวดในระดับตำบลต่อไป

-

-

มีการจัดเวทีประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซักถามปัญหา ระหว่างปราชญ์ชาวบ้านซึ่งเป็นวิทยากร กับชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุม มีการสาธิตผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถป้องกันโรคได้ และแนะแนวทางการปลูกผักในพื้นที่ที่จำกัดโดยอาศัยวัตถุที่หาได้ในชุมชน

มีผู้สมัครเข้าร่วมประชุมตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และต่างให้ความสนใจต่อการบรรยายและสาธิตของวิทยากร  มีการซักถามปัญหาเป็นระยะของการอบรม

-

บริเวณที่จัดอบรม ค่อนข้างคับแคบเนื่องจาก มีผู้ให้ความสนใจ และเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก
-เสนอให้เปลี่ยนห้องประชุม หากมีการประชุม ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก

จัดเวที่เสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในเรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษที่มีคุณภาพที่ดีไว้กินเองที่บ้าน โดยวิธีต่างๆ เช่น การใช้ปุ๋ยหมัก หรือ น้ำหมักชีวภาพ  การปลูกผักในพื้นที่จำกัดและสามารถหาได้ในท้องถิ่น เช่นในล้อรถยนต์หรือล้อรถจักรยานยนต์ และคัดเลือก แกนนำย่อย เพื่อเป็นตัวแทนไว้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินโครงการเพื่อให้เกิดการยั่งยืนต่อไป

ตามแผน    ผู้เข้าร่วมประชุมเข้ารับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องการปลูกผัก
ปฏิบัติจริง  มีผู้เข้ารับการการประชุมเพื่อเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การปลูกผักปลอดสารพิษที่มีคุณภาพที่ดีไว้กินเองที่บ้าน ตามเป้าที่วางไว้  และบางส่วนขออาสา ช่วยจัดหาวัสดุที่จะนำมาใช้ปลูกผัก โดยเฉพาะล้อรถที่ใช้แล้ว

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

แกนนำค้นหากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ และชวนพูดคุยให้ความสำคัญของโครงการ และเข้าร่วมโครงการ พร้อมแจกจ่ายหนังสือเชิญประชุมนวันที่ 4 ธค.55เพืาอมาเสวนาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการปลูกผักโดยวิธีต่างๆโดยใช้วัสดุที่เหลือใช้ หรือหาได้ในชุมชน

มีสมาชิกมาร่วมสมัครเข้าโครงการตามแผน ครบ 100 ครอบรัว

ฝนตกมีผู้มาลงชื่อสมัครน้อย แกนนำจึงลงพื้นที่ในหมู่บ้าน พร้อมแจกหนังสือเชิญประชุม

-

ตัวแทนคณะทำงานชี้แจงผลการสมัครเข้าร่วมโครงการซึ่งมีเป้าหมายน้อยกว่าที่วางไว้

แกนนำหลักเข้าร่วมประชุมตามแผน และรับทราบข้อมูล พร้อมเสนอให้อกนนำทุกคน ค้นหาครอบครัวเข้าสมัครร่วมโครงการเพิ่ม

-

-

-

ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงเพื่อรับสมัครสมาชิกครอบครัว  ปราชญ์ชุมชน และ ผอ.รพ.สต.ให้ความสนับสนุนเพิ่มเติม

ผู้มาประชุมสมัครเข้าร่วมโครงการประมาณ ร้อยละ 90

ปัญหา :มีผู้เข้าร่วมประชุมน้อยกว่า เป้าหมายที่ต้องการ แก้ไข :รับสมัครเพิ่มในวันต่อไป

-

-

ฝึกปฎิบัติการบันทึกข้อมูลออนไล

สามารถบันทึกข้อมูลออนไลได้ถูกต้อง ต่ยังต้องเพิ่มความชำนาญ

ฝึกการลงบันทึกข้อมูล ทกครั้งที่มีการดำเนินกิจกรรมตามแผน

-

-

ปฐมนิเทศน์เพื่อรับรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของ สสส. และแนนะนำการบันทึกข้อมูลโดยผ่านระบบออนไลน์

ผู้ร่วมประชุมได้รับทราบแนวทางการทำงานของ สสส.เกี่ยวกับโครงการที่ขอรับทุน เช่น แนวทางการปฏิบัติเมื่อได้รับทุน,ขั้นตอนการดำเนินงาน,ขอบเขตและภารกิจของผู้ได้รับทุน,การรายงานผลการดำเนินงาน,แนวทางการบริหารจัดการการเงินและการจัดซื้อจัดจ้าง,ข้อพึงระวังและปัญหาที่พบ รวมทั้งแบบฟอร์ต่างๆ  ที่สำคัญผู้รับทุนต้องสามารถบันทึกผลการปฎิบัติโครงกาผ่านระบบออนไลได้อย่างถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้

-อินเตอร์เน็ตล่าช้า
-ฝึกลงบันทึกข้อมูลทุกครั้งที่มีผลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ

เพิ่มความเร็วในการใช้อินเตอร์เน็ต

-

-ประธานโครงการชี้แจงรายละเอียดของโครงการให้แก่แกนนำหลักทราบ
-แกนนำหลักแบ่งเขตรับผิดชอบเพื่อดูแลให้ครอบคลุในแต่ละ ละแวกบ้านอย่างทั่วถึง

ประธานโครงการชี้แจงโครงการปลูกผักปลูกผักปลอดสารพิษที่ได้รับมาจาก สสส.อย่างละเอียดแก่แกนนำทั้ง 15 คน  ทุกคนรับทราบข้อมูลทั้งหมดร่วมกัน และเริ่มวางแผนเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของโครงการ และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่เข้าสมัครร่วมโครงการซึ่งจะมีการสมัครในครั้งต่อไป จึงเกิดผู้รับผิดชอบใน 12ละแวกบ้านดังนี้  1.คุณยินดี สุวรรณอินทร์ รับผิดชอบ บ้านออกวัด 2.คุณสุภา แก้วสายฟ้า,คุณสมศรี เรืองชรักษ์ รับผิดชอบ บ้านต้นโหรง 3.คุณสุภาภร์ บุรัมย์สูงเนิน รับผิดชอบบ้านบ่อเจก 4.คุณสมทรง ปิยะราช รับผิดชอบบ้านใสต้นไทร 5.คุณถนอม ศรีมาลา รับผิดชอบบ้านหนองยายคำ 6.คุณประภา เครือหวัง,คุณสุภา เรืองชรักษ์ รับผิดชอบ บ้านปลายนาฝั่งตะวันออก 7.คุณจินตนา ศรีมาลา รับผิดชอบบ้านมังคะ 8.คุณเครือวัลย์ เสนานุวงษ์ รับผิดชอบบ้านเกาะยาง 9.คุณกัลาณี นาคสันต์ รับผิดชอบบ้านทอนยูง 10.คุณถาวรรัตน์ สงขำ รับผิดชอบ บ้านป่าเรือ 11.คุณสุภา อนุรักษ์,คุณอาภรณ์ นุราภักดิ์ รับผิดชอบ บ้านปลายนาฝั่งตะวันตก 12.คุณจำเนียร แก้สายฟ้า รับผิดชอบ บ้านเกาะยาง และร่วมหารือ เรื่องนัดหมายวันจัดเวทีเสาวนา  มติในที่ประชุมตกลง นัดหมายในวันที่ 4 ธันวาคม 2555 เวลา 08.30 น.- 16.

-

-

-

เข้าร่วมกิจกรรมตามแผน

มีผู้เข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบแนวทาง วิธีการดำเนินโครงการ จำนวน 75 คน ประกอบด้วยกลุ่ม องค์กรณ์ในชุมชน  อบต. ผู้นำชุมชน  แกนนำอสม.บ้านสำนักขัน  ทุกฝ่ายต่างให้การสนับสนุนโครงการ จึงมีการคัดเลือกแกนนำระดับตำบล เพื่อช่วยขับเคลื่อนโครงการให้สำเร็จในอนาคตต่อไป ผลการคัดเลือก เกิดแกนนำในชุมชนเพื่อขับเคลื่อนโครงการปลูกผักปลอดสารพิษ จำนวน 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากองค์กรต่างๆคละกันให้ครบทุฝ่าย

-ครัวเรือนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ ไม่มีโอกาสจะได้รับรู้ข้อมูล และไม่ได้การรับเลือกจากชุมชน เพื่อเป็นแกนนำในชุมชน -การแก้ไขคือ ผู้ที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ จะต้องนำข้อมูลที่ได้รับทราบ ไปชี้แจงแก่เพื่อนบ้านที่ไม่ได้มาประชุม

-

-