คนสร้างสุข

จัดทำรายงานสรุปปิดโครงการ

จัดทำรายงานสรุปปิดโครงการ ส.3 ส. 4 และเอกสารการเงินโครงการ

-

-

-

ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชนจัดการตนเอง ในประเด็น เกษตร , อาหาร, ศก. พอเพียง , เด็กเยาวชน

หัวหน้าโครงการ เข้าร่วมเรียนรู้ชุมชนจัดการตนเองในประเด็น เกษตร อาหาร เด็กเยาวชน ฯลฯ

-

-

-

เคลียร์เอกสารการเงิน ในเรื่องค่าตอบแทนค่าประสานงานในการทำกิจกรรมในพื้นที่

เพื่อเคลียร์เอกสารการเงิน ในเรื่องค่าตอบแทนค่าประสานงานในการทำกิจกรรมในพื้นที่ จำนวนเงิน 1,200  บาท

-

-

-

เวลา 11.30 น.ได้มีการประชุมคณะกรรมการและชาวบ้านที่สนใจเข้าร่วมการประเมินผลโครงการที่ผ่านมา

มีคณะกรรมการและชาวบ้านร่วมกันประเมินผลที่ได้รับจากกิจกรรมโครงการและสรุป ซึ่งผู้รับผิดชอบโครงการได้ชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่าย ผลของการจัดกิจกรรมให้ที่ประชุมได้รับทราบตั้งแต่เริ่มแรกจนปิดโครงการ

-

-

-

นักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำฝึกหัดเล่นเครื่องดนตรีหนังตะลุง โดยมีพี่เลี้ยงคอยฝึกสอนให้

ในเวลา 09.30 น. มีนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำ จำนวน 92 คน และมีพี่เลี้ยง จำนวน 20 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งในครั้งนี้มีจะให้เด็กนักเรียนที่สนใจในเครื่องดนตรีชนิดไหนก็ฝึกซ้อมชนิดนั้น โดยนักเรียนส่วนใหญ่จะสนใจกลอง  ฉิ่ง ทับ ฆ้องและกีตาร์ เป็นจำนวนมาก

-

-

-

เวลา 09.00 น. นักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำ อาจารย์ ผู้ฝึกสอน ฝึกให้นักเรียนให้ฝึกเล่นเครื่องดนตรีหนังตะลุง

มีนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำเข้ารับการฝึกให้รู้จักกับเครื่องดนตรีเกี่ยวกับหนังตะลุง รูปหนังตะลุงแล้ว ครั้งนี้ก็ให้เด็กๆได้หัดจับเครื่องดนตรีหนังตะลุงบ้างตามความสนใจของแต่ละคน ซึ่งมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 87 คน และมีผู้เข้าร่วมการฝึกสอนจำนวน 20 คน 

-

-

-

น้องนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำได้ฝึกเล่นเครื่องดนตรีหนังตะลุง รูปหนังตะลุง 

น้องนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำได้ทำการฝึกเล่นเครื่องดนตรีหนังตะลุง รูปหนังตะลุง จำนวน 87 คน และผู้ฝึกสอน 20 คน โดยครั้งนี้จะสอนให้น้องนักเรียนได้รู้จักกับหนังตะลุงก่อน

-

-

-

จัดให้มีการจัดกิจกรรมมอบเกียรติ ปลูกต้นไม้ และถางหญ้าข้างทาง และจุดเทียนชัยถวายพระพร

ในตอนเช้าคณะกรรมการโครงการ ชาวบ้าน เข้าร่วมกิจกรรมวันแม่  โดยเข้าร่วมการมอบประกาศนียบัตรให้แก่แม่ดีเด่น จำนวน 3 ท่าน โดยมีปลัดเทศบาลตำบลปากน้ำฉวาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 เป็นผู้มอบ และมีวิทยากรเข้าร่วมด้วย 2 ท่าน หลังจากนั้นร่วมกันปลูกต้นไม้ และถางหญ้าข้างทางภายในหมู่บ้านจนแล้วเสร็จ และในตอนค่ำ ร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพร ณ ศาลาหมู่บ้าน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งเด็กและผู้ปกครอง

-

-

-

จัดจ้างทำประกาศนียบัตร พร้อมกรอบ จำนวน 3 กรอบ 

จัดจ้างทำประกาศนียบัตรพร้อมกรอบ จำนวน 3 กรอบ เพื่อมอบให้แก่บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกแม่ดีเด่น จากคณะกรรมการ ในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

-

-

-

ในเวลา 11.00 น.คณะกรรมการโครงการและชาวบ้านจัดประชุมเพื่อร่วมกันปรึกษาหารือ และเตรียมความพร้อมในงานจัดกิจกรรมในวันแม่แห่งชาติ

มีการนัดหมายประชุมในการจัดกิจกรรมวันแม่ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 โดยในช่วงเช้าจะมีการมอบประกาศนียบัตร ให้แก่บุคคลที่ได้รับการคัดเลือก แม่ดีเด่น จำนวน 3 คน และจะร่วมกันพัฒนาหมู่บ้าน และจุดเทียนชัยถวายพระพรในตอนค่ำ

-

-

-

เจ้าหน้าที่จาก สจรส.มอ. ติดตามโครงการโดยทำการตรวจสอบเอกสารการเงิน และการรายงานผลของโครงการในแต่ละกิจกรรม

เวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่ จาก สจรส.มอ. ผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าที่ระบบคอมพิวเตอร์ได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารด้านการเงิน และการรายงานผลโครงการในแต่ละกิจกรรม ร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมไหนที่มีปัญหา เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำในการแก้ไข และปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อความสมบูรณ์ของเอกสาร

-

-

-

ผลจากการประชุมเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 56 ที่มีการประชุมคณะกรรมการเพื่อจัดทำแผนงานโดยกำหนดให้วันที่ 19 ก.ค.56 เป็นวันแห่เทียนพรรษา ของหมู่บ้านนำไปสู่วัดปากน้ำ ซึ่งเป็นวัดใกล้หมู่บ้านในวันที่ 15 ก.ค. 56 ได้มีคณะกรรมการฯ ทั้งหมดพร้อมกับประชาชนในหมู่บ้านได้ร่วมกันประดับตกแต่งเทียน และตกแต่งพุ่มอนุโมทนา ทุกวันจนถึงวันที่ 18 ก.ค.56 โดยตามความสะดวกของแต่ละคน เริ่มเวลาตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 4 โมงเย็นของทุกวัน ในวันที่ 19 ก.ค. 56 เริ่มจากเวลา 9 โมงเช้า ได้แห่เทียนพรรษา จากหมู่บ้านนำสู่วัดปากน้ำ โดยมีน้องนักเรียนจากโรงเรียนบ้านปากน้ำ และเด็กเล็ก ศพด.อบต.ฉวาง เจ้าหน้าที่ อบต.ฉวาง และชาวบ้าน เข้าร่วมการแห่เทียนพรรษา ถวายแก่วัดปากน้ำ

เมื่อขบวนกลองยาว พุ่มอนุโมทนา และเทียนพรรษาของบ้านวังขวาง มาถึงบริเวณวัดได้มีนักเรียนมาร่วมกิจกรรมจากศพด.อบต.ฉวาง จำนวน 30 คน และอาจารย์ นักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำ 55 คน เจ้าหน้าที่จาก อบต.ฉวาง 15 คน และชาวบ้านของบ้านวังขวาง 150 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งทุกคนต่างก็ตั้งใจจะร่วมทำบุญในประเพณีแห่เทียนพรรษา

-

-

-

มีการฝึกสอนน้องนักเรียนในการตีกลองยาวโดยมีกลุ่มแกนนำ เด็กนักเรียน และผู้ใหญ่ เข้าร่วมให้ความรู้แก่น้องในโรงเรียนบ้านปากน้ำในวันหยุด 

น้องนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำจำนวน 80 คน และมีพี่ๆกลุ่มแกนนำที่ให้ความรู้กับน้องๆจำนวน 19 คน โดยน้องนักเรียนที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมตีกลองยาวในครั้งนี้แบ่งเป็นกลุ่ม 2 กลุ่ม ซึ่งเป็นการฝึกในวันหยุด เนื่องจากติดการแข่งขันกีฬาอำเภอ จึงทำเสียเวลาในการเรียน จำเป็นต้องนัดเด็กมาในวันหยุดเรียน

-

-

-

คณะกรรมการโครงการฯและประชาชนเข้าร่วมการประชุม ณ ศาลาประชุมหมู่บ้าน โดยมีการกำหนดและนัดหมายเวลาการจัดกิจกรรมในวันแห่เทียนพรรษา

มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในการประชุมครั้งนี้เป็น จำนวน 20 คน ซึ่งในการจัดประชุมครั้งนี้ได้มีการนัดหมายการจัดกิจกรรมในวันเข้าพรรษา ที่ได้จัดการแห่เทียนพรรษาในวันที่ 19 ก.ค.56 ซึ่งทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นในการจัดกิจกรรม โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการฯร่วมกันจัดตั้ง พุ่มอนุโมทนา เพื่อให้ชาวบ้านได้ร่วมทำบุญ และนอกจากนี้ยังมอบหมายให้ประชาสัมพันธ์กับปราชญ์ชาวบ้านรับผิดชอบเรื่องเทียนพรรษา อีกเรื่องหนึ่งมอบหมายให้คณะกรรมการฯปรึกษากันเพื่อคัดเลือกแม่ดีเด่นที่จะมอบประกาศนียบัตรในวันแม่แห่งชาติ

-

-

-

จัดให้มีการฝึกสอนน้องนักเรียนในการตีกลองยาวโดยมีกลุ่มแกนนำ มีทั้งที่เป็นวัยรุ่น เด็กนักเรียน และผู้ใหญ่ เข้าร่วมให้ความรู้แก่น้องในโรงเรียนบ้านปากน้ำ

มีน้องนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำจำนวน 85 คน และมีพี่ๆกลุ่มแกนนำที่ให้ความรู้กับน้องๆจำนวน 20 คน โดยน้องนักเรียนที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมตีกลองยาวในครั้งนี้แบ่งเป็นกลุ่ม 2 กลุ่ม จะเป็นนักเรียนชั้น ป3 -ป.6 และ ม.1- ม.3 ทั้งหมด

-

-

-

เคลียร์การเงินกิจกรรมโครงการ ครั้งที่ 1 ในการจ่ายค่าตอบแทนค่าประสานงาน

เคลียร์การเงินกิจกรรมโครงการ ครั้งที่ 1 ในการจ่ายค่าตอบแทนค่าประสานงาน จำนวน 4,800 บาท

-

-

-

นักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำฝึกซ้อมดนตรีไทย เช่น ฉิ่ง ซอ จเข้ เป็นต้น โดยมีอาจารย์กมลเนตร เป็นผู้ฝึกซ้อมเช่นเดิม

มีนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำเข้าร่วมกิจกรรมฝึกซ้อมดนตรีไทย เป็นครั้งที่ 5 (ครั้งสุดท้าย) จำนวน 20 คน พี่เลี้ยง 1 คน และมีอาจารย์ฝึกซ้อม 1 คน โดยเด็กนักเรียนจะฝึกซ้อมดนตรีที่ตนได้เล่นในครั้งก่อนเหมือนเดิม ซึ่งทำให้เด็กนักเรียนเกิดความชำนาญในดนตรีชิ้นนั้นๆมากขึ้น

-

-

-

กลุ่มแกนนำร่วมกับโรงเรียนบ้านปากน้ำนำเด็กนักเรียนฝึกซ้อมกลองยาว ณ โรงเรียนบ้านปากน้ำ

เวลา 10.00 น. มีกลุ่มแกนนำเข้าให้ความรู้เรื่องการตีกลองยาวให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำ โดยมีแกนนำ จำนวน 20 คน และมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน 80 คน เป็นเด็กนักเรียนชั้นป.4 ป.5และ ป.6 ซึ่งแบ่งแยกเป็นกลุ่มในการให้ความรู้ และฝึกสอนกลองยาว

มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมน้อยเนื่องจากอาจารย์แบ่งแยกเป็นกลุ่ม

-

-

ในเวลา 13.00 น. ประชาชน ผู้รับผิดชอบโครงการ/ผู้ใหญ่บ้านพร้อมผู้ช่วย และคณะกรรมการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการประจำเดือน ในเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการจัดทำกิจกรรมที่สอนน้อง เป็นจำนวน 6 ครั้ง

การประชุมคณะกรรมการฯประจำเดือนมิถุนายน 56 ณ ศาลาประชุมประจำหมู่บ้าน มีผู้เข้าร่วมการประชุม 31 คน ซึ่งในการรปะชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมพี่สอนน้องเรื่องฝึกซ้อมซ้อมกลองยาว ให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำ ซึ่งจะฝึกซ้อมให้กับนักเรียนทั้งวันหยุดเรียนและเปิดเรียน เป็นจำนวน 6 ครั้ง

มีผู้เข้าร่วมประชุมน้อยกว่าทุกครั้งเนื่องจากฝนตก

-

-

จัดให้นักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำฝึกซ้อมเล่นดนตรีไทยตามความสนใจและความถนัดของแต่ละคนโดยมีอาจารย์โรงเรียนบ้านปากน้ำเป็นผู้ฝึกซ้อม

การฝึกซ่้อมดนตรีไทยของนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำในครั้งที่ 4 มีจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมการฝึกซ้อม 20 คน และมีอาจารย์เข้าร่วมการฝึกซ้อม 2 ท่าน

-

-

-

1. ให้หัวหน้าโครงการชี้แจงกิจกรรมและงบประมาณที่ใช้ไป

2.แกนนำแต่ละคน แสดงความคิดเห็น ปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมา

3.พี่เลี้ยงเน้นย้ำให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการทำงานที่เหลือให้ทัน 30 กย.56 และให้บรรลุวัตถุประสงค์และตัวชี้วัด

มีผู้มาเข้าร่วม 10 คน รวมทั้ง ปลัด อบต. โครงการเข้าใจการทำงานมากขึ้น และร่วมใจกันทำงานให้ทันกับเวลา

มีปัญหาเกี่ยวกับการบันทึกลงคอม เนื่องจากไม่มีสัญญาณ

โครงการนี้ น่าจะต่อยอดได้ เนื่องจากโครงการนี้สิ่งที่เกิดขึ้น คือ การเป็นแหล่งเรียนรู้ของศิลปินทั้งในและนอกหมู่บ้าน หลังจากการรวมตัวของคนในชุมชน ทำให้เกิดการสร้างงานขึ้นมา

ได้ขอให้ทาง อบต. ช่วยโครงการเพื่อบันทึกกิจกรรมต่างๆ

แกนนำ กรรมการ จำนวน 13 คนร่วมกับอ.จำนงและ อ.นัยนา เป็น 15 คน เริ่มจากกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวต้อนรับและรายตัวทีละคน หลังจากนั้นร่วมกันถอดบทเรียนโครงการร่วมกับอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน

ในเวลา 09.00 น.ผู้รับผิดชอบโครงการพร้อมด้วย แกนนำ กรรมการ ต้อนรับ อ.พี่เลี้ยงทั้ง 2 และร่วมกับถอดบทเรียน หาคุณค่าของโครงการพอสังเขปดังนี้ ผลพวงของโครงการได้รับคุณค่าทางจิตใจอย่างน้อยๆร่วมเข้าร่วมกิจกรรมมีความกล้าแสดงออก รู้จักประสานงาน ทำงานเป็นทีม เป็นระบบ เข้าใจการมีส่วนร่วมแบบประชาธิปไตย มีความคิดริเริ่ม มีจิตอาสาที่ทำให้ชุมชนมีสุข ยั่งยืนคิดที่จะทำกิจกรรมเสริม เช่นให้แบ่งเขต แบ่งกลุ่มจัดทำจักรสาน ปุ๋ยหมัก ปลูกผักสวนครัว โดนเฉพาะต้องการให้หมู่บ้านเป็นศูนย์การเรียนด้านวัฒนธรรมเป็นต้น ผลพลอยได้จากโครงการวัฒนธรรมสร้างใจ ชุมชนสร้างสุข ทำให้ อบต.ฉวางโดยนายกบุญธรรม  รุ่งเรืองได้รับรางวัลดีเด่นจากกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากได้เก็บเนื้อหาภาพประกอบจากโครงการนี้นำเสนอกระทรวงจนได้รับรางวัล และอีกทั้งชุมชนได้อิ่มบุญที่ศิลปินวัฒนธรรมได้ควบคู่งานบุญต่างๆโดยเฉาะวันที่ 27 มี.ค.56 คณะกลุ่มกลองยาวบ้านวังขวางได้เป็นตัวแทนตำบลไปแสดงงานแห่ผ้าห่มธาตุน้อยพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ประจำปี 56 ตามคำสั่งของนายอำเภอฉวาง เป็นต้น

เริ่มแรกของโครงการมีปัญหาอุปสรรคขาดการประสานงานแบ่งแยกพวกพรรค เนื่องจากมีการเลือกต้องเปลี่ยนผู้นำ ผู้ใหญ่บ้าน เยาวชนไม่สนใจเท่าที่ควรตามเป้าหมาย แต่ชาวบ้านเกิดความสนใจแทนจึงให้ชาวบ้านประชาชนทุกเพศวัยเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อหวังให้เยาวชนได้เรียนรู้ เกิดความสนใจตามมา -กิจกรรมฝึกซ้อมลูกคู่หนังตะลุงไม่ได้ตามเป้าหมายเนื่องจาการเล้นดนตรีหนังตะลุงต้องมีพรสวรรค์หรือใจรักจึงจะทำได้ดี อีกประการหนึ่งเยาวชนไม่กล้าแสดงออกเท่าที่ควรและต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ ของตนเอง ส่วนเยาวชนที่เป็นนักเรียนก็ไม่มีเวลาพอโดยเฉพาะช่วงปิดภาคเรียนก็ต้องทำงานหรือออกต่างจังหวัด เป็นต้น
- กิจกรรมที่ทำได้ดีก็กลุ่มกลองยาวแต่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วยความสมัครใจและมีใจรัก นี่หมายถึงต้องการอนุรักษ์การรำกลองยาวให้คงไว้รุ่นลูกหลาน และมีน้องๆเยาวชนที่ตีรำกลองยาว 4-5 คน

-

-

มีการจัดกิจกรรมกีฬาครอบครัวสัมพันธ์ โดยเน้นกีฬาพื้นบ้าน และฟุตบอลใก้แก่เด็กเยาวชน และผู้ปกครองเข้าร่วมแข่งขัน เช่นวิ่งเปี้ยว ชักเย่อ เป็นต้น

ในเวลา 08.00 น. ประชาชนในหมู่บ้านพร้อมกัน ณ สนามกีฬาประจำหมู่บ้าน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาครอบครัวสัมพันธ์ เป็นจำนวน 125 คน ซึ่งในครั้งนี้มีการแข่งขันฟุตบอลเด็ก และเยาวชน ที่ได้รับเกียรติจากหมู่บ้านข้างเคียงเข้าร่วมการแข่งขันด้วย นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน เช่น ชักเย่อ วิ่งเปี้ยว ทุกคนได้ร่วมการแข่งขันในทุกเพศ ทุกวัย

-

-

-

ให้นักเรียนบ้านปากน้ำซ้อมดนตรีไทยหลังจากพักกลางวันจนถึงตอนเย็น เป็นเวลา 2 ชั่วโมงก่อนกลับบ้าน

เวลา 13.00 น. - 15.00 น. มีนักเรียนจำนวน 20 คน อาจารย์ 2 คน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้รับผิดชอบโครงการเข้าร่วมกิจกรรมการฝึกซ้อมดนตรีไทยครั้งที่ 3 โดยใช้เครื่องดนตรี 22 ชิ้น แยกเป็นขิม 3 คน จะเข้ 5 คน ซอด้วง 5 คน ฉิ่ง 3 คน ซออู้ 6 คน โดยมีอาจารย์กมลเนตร เป็นผู้ฝึกสอนอยู่ห่างๆ เนื่องจากเด็กนักเรียนเริ่มเล่นเก่งแล้วไม่ต้องฝึกสอนมาก

-

-

-

สจรส.ร่วมกับอ.นัยนา นัดหมายผู้รับผิดชอบโครงการทุกโครงการในเขตที่รับผิดชอบเพื่อมาประเมินคุณค่าของโครงของตนเองและนำเสนอโครงการที่ต้องการจะต่อยอดในปี 2556

เวลา 09.30 น. ณ ศูนย์อนามัย 11 จ.นครศรีธรรมราช โดย สจรส.ร่วมกับอ.นัยนา นัดประชุมผู้รับผิดชอบโครงการเพื่อการทำประเมินคุณค่าโครงการของตนเองที่รับผิดชอบหลังจากที่ดำเนินโครงการไปแล้วผลทีได้รับมีอะไรบ้าง และนอกจากนี้ยังให้ผู้รับผิดชอบโครงการเสนอโครงการที่จะขอต่อยอดในปี 2556 ต่อไป

-

-

-

คณะกรรมการและชาวบ้านร่วมกันประชุม ในการประชุมครั้งนี้เป็นการจัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปในการจัดงานแข่งขันกีฬาในวันที่ 18 พ.ค.56 นี้

ในเวลา 10.30 น.ผู้รับผิดชอบโครงการ/ผู้ใหญ่บ้านนัดประชุมคณะกรรมการโครงการฯและชาวบ้านเพื่อประชุมหารือ และนัดหมายการทำกิจกรรมแข่งขันกีฬาในวันที่ 18 พ.ค.56 นี้ และนอกจากนี้ยังได้สรุปผลการดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมาในเดือนเม.ย.56 ให้ที่ประชุมรับทราบ

-

-

-

เด็ก และเยาวชนยังให้ความสนใจเข้าร่วมการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุงเช่นเดิมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยมีนายธรรมนูญ หนูคง เป็นวิทยากรเข้าร่วมการฝึกซ้อม

ในเวลา 13.00 น. เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุง เป็นจำนวน 12 คน  โดยการฝึกสอนของวิทยากรเช่นเดิมแม้ว่าทุกคนจะเริ่มชำนาญในดนตรีมากขึ้นก็ตาม

-

-

-

การฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุงครั้งนี้เป็นการฝึกซ้อมบนเวทีหนังตะลุงจริงและเวลาก็เป็นเวลาตอนกลางคืนหลังจากที่ผู้ฝึกซ้อมได้เล่นดรีในวันสงกรานต์แล้วเพื่อให้ผู้ฝึกซ้อมชำนาญมากขึ้น

ในเวลา 18.00 น. -22.00 น. มีประชาชนในหมู่บ้านร่วมงานทำบุญแก้บนในหมู่บ้าน ซึ่งในครั้งนี้ผู้ฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุงได้มีโอกาสได้ร่วมเล่นดนตรีหนังตะลุง ซึ่งขึ้นฝึกซ้อมบนเวทีหนังตะลุงจริงๆเป็นครั้งที่ 2 หลังจากฝึกซ้อมบนเวทีจริงมาแล้วในงานสงกรานต์ โดยร่วมกับหนังตะลุงของผู้ใหญ่วิโรจน์ซึ่งเป็นนายหนังที่มาแก้บน ผู้เข้าร่วมฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุง มีจำนวน 13 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรม

-

-

-

ในตอนเช้าประชาชนในหมู่บ้านร่วมกันทำบุญในพิธีสงฆ์และเล่นกลองยาวขณะที่กำลังสรงน้ำรูปเหมือนพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ รดน้ำผู้สูงอายุและหลังจากรดนำ้ำผู้สูงอายุเสร็จก็ร่วมกันรับประทานอาหาร

เวลา 07.00 น. มีประชาชนในหมู่บ้านพร้อมใจกันเข้าร่วมพิธีสงฆ์ในตอนเช้าเสร็จทุกคนก็ร่วมกันสรงน้ำรูปเหมือนพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ และคณะกลองที่ฝึกซ้อมตีถวายรูปเหมือนพ่อท่านคล้าย หลังจากนั้นทุกคนเข้าร่วมกันรดน้ำผู้สูงอายุ โดยมีลูกหลานที่ไปอยู่ต่างพื้นที่และในพื้นที่มารดน้ำผู้สูงอายุ

-

-

-

ในเวลา 13.00 น. มีคณะกรรมการและชาวบ้านร่วมกันเข้าประชุมที่ศาลาประชุมประจำหมู่บ้านอย่างพร้อมเพียงกันในการประชุมเรื่องการจัดงานประเพณีสงกรานต์ประจำปีของหมู่บ้าน และผลการติดตามโครงการจากผู้รับผิดชอบโครงการฯ

เวลา 13.00 น. - 16.30 น. มีประชาชนในหมู่บ้านและคณะกรรมการโครงการฯ เข้าร่วมประชุม ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ผู้รับผิดชอบโครงการได้ชี้แจ้งผลการติดตามโครงการ,ส่งรายงานทางการเงินที่ มอ. และกิจกรรมที่จะดำเนินการงวดที่ 2 ให้ทุกคนได้รับทราบ แล้วเสร็จก็ประชุม ปรึกษาหารือ เรื่องการจัดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปีของหมู่บ้าน ซึ่งจะจัดในวันที่ 12 ของทุกปี 

-

-

-

เวลา11.00 น. คณะกรรมการฯ ประชาชน เจ้าหน้าที่อบต.ฉวาง ร่วมกันประชุมผลการดำเนินงานของโครงการแต่ละกิจกรรมที่ดำเนินงานมาแล้ว และจัดทำแผนประชาคมของหมู่บ้าน 

เมื่อเวลา 11.00 น - 15.00 น. มีคณะกรรมการ จำนวน 12 คน และประชาชน จำนวน 37 คน และเจ้าหน้าที่จากอบต.ฉวาง จำนวน 4 คน รวมทั้งสิ้น 57 คนเข้าร่วมการประชุมการโดยผู้รับผิดชอบโครงการได้สรุปผลการดำเนินงาน ชี้แจงเอกสารด้านการเงิน และการติดตามโครงการจากเจ้าหน้าที่ในการติดตามทุกครั้งที่ผ่านมาของโครงการให้คณะกรรมการฯและผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบ เข้าใจ และเจ้าหน้าที่จากอบต.ฉวางได้จัดทำประชาคมแผนพัฒนาสามปีของหมู่บ้าน ให้บริการรับชำระภาษีด้วย

-

-

-

เจ้าหน้าที่จาก สจรส.มอ. ติดตามโครงการโดยทำการตรวจสอบเอกสารการเงิน และการรายงานผลของโครงการในแต่ละกิจกรรม

เวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่จาก สจรสมอ.นัดหมายผู้รับผิดชอบโครงการเพื่อตรวจสอบและนำส่งเอกสาร ง1 ส1 ส2 และภาพกิจกรรมของการดำเนินโครงการทีละโครงการ 

-

-

-

อาจารย์พี่เลี้ยงนัดหมายผู้รับผิดชอบโครงการ โดยได้ทำตรวจสอบความพร้อมเรื่องการเงิน การรายงานผลดำเนินงาน 

เวลา 13.00 น. ณ ศูนย์การเรียนรู้เมืองนครศรีธรรมราช พี่เลี้ยงได้ติดตามโครงการ โดยได้ทำการนัดหมายผู้รับผิดชอบโครงการ จำนวน 5 โครงการเพื่อตรวจสอบความพร้อมในเรื่องการบันทึกรายงานผล การบันทึกด้านการเงิน พร้อมที่จะส่งข้อมูลในวันที่ 9 มี.ค.56 นี้

-

-

-

เวลา 15.00 น. - 20.00 น. ผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมกลองยาวได้ทำการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ ผู้ฝึกซ้อมจะเป็นบุคคลที่เคยฝึกซ้อมทุกครั้งที่ผ่านมา จำนวน 30 คนทำให้สามารถจำท่ารำประกอบการตีได้คล่องโดยมีผู้ฝึกสอนคอยฝึกสอนอย่างใกล้ชิด

มีผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมจำนวน 30 คน และมีเด็กที่เข้าร่วมการฝึกซ้อม จำนวน 5 คน เป็นเด็กที่มากลับพ่อแม่ที่เข้าร่วมการฝึกซ้อม และเด็กบริเวณพื้นที่สถานที่ฝึกซ้อม เด็กที่มาก็สนใจในการตีกลองยาวแต่ไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากกลองยาวมีขนาดใหญ่ จึงให้เด็กได้ฝึกตีฉิ่ง กรับ เป็นต้น ส่วนผู้ฝึกซ้อมที่เป็นผู้ชายจะตีกลองตีฆ้อง ตีฉิ่ง ตีฉาบ  ผู้ฝึกซ้อมผู้หญิงและตีกลองพร้อมกับรำประกอบด้วย โดยมีท่ารำ 10 ท่ารำเพื่อนำไปใช้ในงานพิธีเปิดศูนย์วัฒนธรรมเรียนรู้กลองยาวบ้านวังขวางในเดือนเมษายนนี้

มีผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมเป็นจำนวน 30 คน ซึ่งมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ จึงทำให้เงินไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเอาเงินส่วนที่เหลือของการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุงมาใช้ทดแทน

-

-

เริ่มการฝึกซ้อมกลองยาว โดยการฝึกสอนจากปราชญ์ผู้ชำนาญเรื่องกลองยาวของหมู่บ้าน (วิทยากร)จะคอยแนะนำวิธีการตี จังหวะขัด จังหวะรับ -ส่ง ตลอดทั้งวิธีการตีฆ้อง ฉาบและฉิ่ง

หลังจากว่างจากการทำงานแล้ว ก็เริ่มมาทำการฝึกซ้อมเนื่องจากผู้ฝึกซ้อมเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ จึงต้องใช้เวลาในช่วงบ่ายจนถึงตอนค่ำ ซึ่งการตีกลองยาวจะใช้ท่ารำประกอบการตี มีจำนวนหลายท่ารำ แต่ละเที่ยวจะใช้เวลา เป็นชั่วโมงในการฝึกซ้อม และมีผู้สนใจเข้าร่วมชมการฝึกซ้อมทั้งเด็ก และผู้ใหญ่โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 30 คน เป็นเด็ก จำนวน 5 คน เด็กที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมจะมากับผู้ปกครอง และร่วมตีกลับให้จังหวะประกอบ

มีผู้เข้าร่วมเกินเป้าหมาย จำนวน 10 คน จึงต้องนำเงินในส่วนของดนตรีหนังตะลุงมาเฉลี่ยทดแทนกัน

-

-

ในเวลา 15.00 น. - 21.00 น.ได้มีประชาชนในหมู่บ้านทั้งชายและหญิงเข้าร่วมการฝึกซ้อมกลองยาวครั้งที่ 3 มีจำนวน 30 คน ในการตีกลองยาวผู้ฝึกซ้อมผู้หญิงจะมีท่ารำประกอบการตี

การฝึกซ้อมกลองยาวครั้งนี้ผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมให้ความสนใจและมีความถนัดในการตีและท่ารำประกอบเนื่องจากเป็นการฝึกซ้อมครั้งที่ 3 และได้ทำการฝึกซ้อมในแต่ละวันๆละหลายเที่ยว ส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมฝึกซ้อมจะเป็นผู้หญิงเพราะต้องใช้ท่ารำประกอบการตีด้วย

มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่าเป้าหมาย ต้องนำส่วนของดนตรีหนังตะลุงที่เหลือมาใช้จ่ายแทน

-

-

เวลา 13.00 น. ได้มีประชาชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผอ.รพ.สต.บ้านปากน้ำ เข้าร่วมการฝึกซ้อมกลองยาว โดยมีผู้เข้าร่วมในครั้งนี้ จำนวน 35 คน และร่วมฝึกซ้อม จำนวน 30 คน 

ก่อนการฝึกซ้อมกลองยาว ในครั้งนี้ก็ได้มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผอ.รพ.สต.บ้านปากน้ำ เข้าร่วมในการฝึกซ้อม ซึ่งก่อนจะเริ่มการฝึกซ้อมผู้รับผิดชอบโครงการได้ชี้แจงวัตถุประสงค์ในการฝึกซ้อมกลองยาวและร่วมกันปรึกษาหารือขั้นตอนการดำเนินงานตีกลองยาวให้เป็นวัฒนธรรมประจำหมู่บ้าน และจะจัดหาอุปกรณ์กลองยาวเพิ่มเติม ให้เพียงพอกับความต้องการของผู้สนใจเข้าร่วมการฝึกซ้อม เพื่อสามารถใช้ในงานพิธีต่างๆของหมู่บ้าน

มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกินเป้าหมาย เนื่องจากเป็นวันประชุม ต้องนำเงินส่วนที่เหลือจากการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุงมาใช้จ่ายเพื่อทดแทน

-

-

เวลา 11.00 น. ได้มีเยาวชนและประชาชนเข้าร่วมการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุง จำนวน 10 คน และมีวิทยากร จำนวน 1 คน 

ในการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุงในครั้งที่ 3 ได้ทำการฝึกซ้อมตั้งแต่เวลา 11.00 น. จนถึง 15.00 น.ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้าน และวิทยากร เป็นคนฝึกซ้อม ซึ่งในครั้งนี้นักดนตรีก็ได้สลับสับเปลี่ยน กันเล่นเครื่องดนตรีที่ตนยังไม่เล่นฝึกซ้อม เช่น คนไหนที่เล่นกีตาร์ชำนาญแล้ว ก็หันมาตีกลองบ้าง เพื่อจะได้เล่นได้หลายประเภท

จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมน้อยกว่าเป้าหมาย ทำให้เงินเหลือจ่ายและนำไปจ่ายในส่วนของการฝึกซ้อมกลองยาวทดแทน

-

-

เด็ก เยาวชน ประชาชนในชุมชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุง โดยมีวิทยากรผู้ชาญด้านดนตรีหนังตะลุง และนายหนังตะลุงเป็นผู้ร่วมฝึกสอนในครั้งนี้ 

เวลา 10.30 น.เด็กเยาวชนและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุง จำนวน 10 คน โดยการฝึกสอนของวิทยากรและนายหนังตะลุง โดยใช้เครื่องดนตรี 10 ชิ้นสำหรับการฝึกซ้อม เด็กจะเป็นมือกลอง ตีฉิ่งและมีผู้ปกครองนำเด็กมาเข้าชมการฝึกซ้อมด้วยความสนใจ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการให้ความสนใจด้านดนตรีกับเด็กต่อไป

จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมน้อยกว่าเป้าหมาย ทำให้เงินเหลือจ่ายและนำไปจ่ายในส่วนของการฝึกซ้อมกลองยาวทดแทน

-

-

หลังจากเสร็จกิจธุระการทำงานประจำแล้วเยาวชนในหมู่บ้านได้รวมตัวกันลอกคลองภายในหมู่บ้านบริเวณสะพานข้างบ้านนายรอง มณีมัย เนื่องจากบริเวณนั้นมักจะมีกอไผ่ล้ม และต้นไม้ เศษไม้ไหลตามน้ำมาขวางทางน้ำไหลบ่อยครั้ง จึงนัดกันมาลอกบริเวณนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 15 คน

เยาวชนในหมู่บ้านเข้าร่วมกิจกรรมลอกคลอง จำนวน 15 คน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมน้อยกว่าเดิมเพราะว่าเป็นการลอกในส่วนที่ลอกในครั้งก่อนไม่เสร็จ จึงต้องทำการขุดลอกคลองอีกครั้ง โดยได้นำเศษไม้ ขอนไม้ และกอไผ่ที่ล้มขวางคลองออก ซึ่งทำให้น้ำไหลผ่านได้สะดวกมากขึ้น เยาวชนทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้มีความสุขในการทำกิจกรรมร่วมกันและเป็นประโยชน์ในหมู่บ้านของตนเอง

การลอกคลองครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมลดลงเนื่องจากลอกในส่วนที่ไม่แล้วเสร็จในครั้งที่แล้ว

-

-

มีคณะกรรมการ จำนวน 12 คนเข้าร่วมการประชุมเพื่อกำหนดวันในการลอกคลองในส่วนที่เหลือ และประชุมเพื่อนัดหมายวันฝึกซ้อมกลองยาว จัดหากลองยาวเพิ่มเติม

ในเวลา 11.00 น. คณะกรรมการเข้าร่วมประชุมจำนวน 12 คนและมีชาวบ้านเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย ได้ข้อสรุปในการกำหนดวันลอกคลองเป็นวันอาทิตย์ ที่ 10 ก.พ. 56 ส่วนเรื่องกลองยาวจะวันนัดหมายอีกครั้งหนึ่ง

การกำหนดวันฝึกซ้อมกลองยาวและจัดหากลองยาวเพิ่มเติมทางคณะกรรมการจะนัดหมายอีกครั้ง(นอกรอบ)

-

-

มีการฝึกซ้อมดนตรีไทย ณ โรงเรียนบ้านปากน้ำในครั้งนี้มีนักเรียนเข้าร่วมฝึกดนตรีไทย จำนวน 20 คน ใช้เครื่องดนตรี 4 ประเภท จำนวน 20 ชิ้น มีอาจารย์กลมเนตร เป็นผู้ฝึกสอน นอกจากนี้ยังมีผอ.โรงเรียน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้รับผิดชอบโครงการเข้าร่วมในการฝึกครั้งนี้ด้วย

เวลา 13.00 น. - 15.00 น. มีนักเรียนจำนวน 20 คน อาจารย์ 2 คน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้รับผิดชอบโครงการเข้าร่วมกิจกรรมการฝึกซ้อมดนตรีไทยครั้งที่ 2 โดยใช้เครื่องดนตรี 20 ชิ้น แยกเป็นขิม 3 คน จะเข้ 4 คน ซอด้วง 4 คน ฉิ่ง 3 คน ซออู้ 6 คน โดยมีอาจารย์กมลเนตร เป็นผู้ฝึกสอน

การฝึกซ้อมเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากนักเรียนบางคนเข้าร่วมกิจกรรมการฝึกดนตรีไทยมาก่อน

-

-

มีการลอกคลอง ภายในหมู่บ้านโดยได้เก็บขยะ ขอนไม้ เศษไม้ และหญ้าต่างๆ ที่อยู่ในลำคลอง ซึ่งจะแบ่งงานกันทำเป็น 2 กลุ่ม 

มีประชาชน จำนวน 20 คน เข้าร่วมกิจกรรมลอกคลอง โดยแบ่งงานกันทำเป็นจำนวน 2 ลำคลอง ๆละ 10 คน ซึ่งในแต่ละคลองจะช่วยกันนำเอาขยะ เศษไม้ ขอนไม้ ต้นไผ่ ที่ขวางคลองและหญ้าต่างๆ ออก ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ ใช้เวลาตั้งแต่ 10.00 น.- 15.00 น.ในการขุดลอกคลองในครั้งนี้จะช่วยให้นำไหลผ่านได้สะดวกขึ้น ป้องการน้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้านเหมือนที่เกิดขึ้นในครั้งก่อนๆในฤดูฝน ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมให้ความสนใจและเต็มใจที่จะช่วยกันลอกคลอง

ประชาชนในหมู่บ้านมีเวลาว่างน้อยเพราะต้องทำงาน เช่น ก่อสร้าง รับจ้าง ประกอบกับเป็นกิจกรรมที่เปียกน้ำ ทำให้มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมน้อยกว่าเป้าหมาย

-

-

เวลา 9.30 น. เริ่มการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุง เป็นครั้งที่ 1 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวน 10 คน และมีผู้เชี่ยวชาญในด้านดนตรีหนังตะลุง (วิทยากร)1 คน มาคอยให้คำแนะนำและร่วมการฝึกซ้อมฝึกซ้อมจนถึงเวลา 15.20 น.

มีผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมดนตรีในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรก โดยมีผู้ฝึกซ้อมดนตรี 10 คน มีวิทยากรจำนวน 1 คนรวมเป็นจำนวน 11 คน มีเครื่องดนตรีประกอบการฝึกซ้อม 10 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านใกล้เคียงให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวน 9 คน ซึ่งใช้เวลา ในการฝึกซ้อม ตั้งแต่เวลา 10.30 น. - 15.30 น.

จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมน้อยกว่าเป้าหมาย ทำให้เงินเหลือจ่ายและนำเงินส่วนที่เหลือไปจ่ายในส่วนของการฝึกซ้อมกลองยาวทดแทน

-

-

เริ่มการฝึกซ้อมกลองยาว โดยการฝึกสอนจากนายสุธรรม  บัวจาย ซึ่งเป็นปราชญ์ผู้ชำนาญเรื่องกลองยาวของหมู่บ้าน (วิทยากร)จะคอยแนะนำวิธีการตี จังหวะขัด จังหวะรับ -ส่ง ตลอทั้งวิธีการตีฆ้อง ฉาบและฉิ่ง

มีผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมครั้งนี้ จำนวน 10 คน และมีผู้ฝึกสอน(วิทยากร)จำนวน 1 คน รวม 11 คน ซึ่งใช้อุปกรณ์จำนวน 10 ชิ้น ประกอบด้วยกลองยาว 6 ลูก ฆ้องโฆ่ง จำนวน 1 ชิ้น ฉาบ จำนวน 2 ชิ้น กรับ จำนวน 1 ชิ้น โดยใช้เวลาในการฝึกซ้อม จำนวน 7 ชั่วโมง ในการฝึกซ้อมครั้งนี้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสเข้าร่วมน้อยเพราะยังไม่ค่อยจะให้ความสนใจเท่าไหร่

ยังขาดอุปกรณ์กลองยาว และประชาชนในชุมชนสนใจเข้าร่วมแต่เยาวชนกลุ่มเป้าหมายไม่ค่อยให้ความสนในเนื่องจากยังมีความรู้สึกอายและเป็นช่วงเวลาใกล้เลื้อกตั้งผู้ใหญ่บ้านใหม่ จึงมีการแบ่งฝ่าย ทางการเมือง

-

-

หลังจากพักกลางวันอาจารย์ผู้ฝึกสอนนำเด็กนักเรียน จำนวน 7 คนเข้ารับการฝึกซ้อมดนตรี ตามความถนัด

มีนักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำ จำนวน 7 คน แบ่งออกเป็นนักเรียนชายจำนวน 2 คนและนักเรียนหญิง 5 คน โดยใช้เครื่องดนตรีในการฝึกซ้อมดังนี้ จะเข้ 2 ตัว ขิม 2 ตัว ฉิ่ง 1 คู่ ซอด้วง 1 คัน ซออู้ 1 คัน โดยมีอาจารย์จากโรงบ้านบ้านปากน้ำเป็นผู้ฝึกสอน

เครื่องดนตรีไม่พอกับความต้องการขอเด็กนักเรียน

-

-

เจ้าหน้าที่จาก สจรส.มอ.มาให้คำแนะนำและตรวจสอบการรายงานผล การบันทึกข้อมูลของกิจกรรมที่ดำเนินการมาแล้วรวมทั้งการลงบัญชีการเบิกจ่ายในแต่ละกิจกรรมให้กับผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล จำนวน 2 คน

ติดตามผล การตรวจสอบการรายงานผลการดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมาในระบบ โดยตรวจสอบเป็นรายกิจกรรมที่ดำเนินการไปแล้วและตรวจเช็คการลงสมุดบัญชีการเบิกจ่ายในแต่ละกิจกรรม โดยเจ้าหน้าที่จาก สจรส.มอ.1 คนต่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโครงการ 2 คน

-

-

-

พี่เลี้ยงให้คำแนะนำในการบันทึกกิจกรรมต่างๆ และตราจสอบเอกสารการเงินให้ถูกต้อง

พี่เลี้ยงร่วมกับผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้าที่การเงินของโครงการจำนวน 2 คนร่วมกันตรวจสอบเอกสารทางด้านการเงินและการบันทึกกิจกรรมต่างๆที่ดำเนินการมาแล้ว เพื่อความถูกต้อง และมีผู้รับผิดชอบของโครงการอื่นๆร่วมด้วย

-

-

คำแนะนำจากพี่เลี้ยง

ได้ทำตามแผน

1.ได้ลงบันทึกการทำกิจกรรมไปเพียง 2 กิจกรรม ใช้จ่ายเงินไป 32000 บาท ซึ่งล่าช้ากว่าที่กำหนด

2.ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการ เพื่อวางแผนในการทำงานต่อ

3.หลักฐานการเงินครบถ้วน

4.ได้มีการเชื่อมโยงกับทางโรงเรียน ให้โรงเรียนเป็นแกนหลัก ในการจัดอบรมเด็กเรื่องของดนตรีไทย แต่ขอให้เชื่อมโยงกับเด็กในชุมชน

1. กิจกรรมที่ทำค่อนข้างล่าช้า เพราะเดือนมีนาคมนี้ต้องรายงานเงินงวด 1

1. ควรเร่งกิจกรรมให้ได้ตามแผน

2.กิจกรรมที่มีการเชื่อมโยงกับทางโรงเรียน โดยให้โรงเรียนเป็นแกนหลัก ในการจัดอบรมเด็กเรื่องของดนตรีไทย แต่ขอให้เด็กหรือผู้สนใจในชุมชนสามารถเข้าไปร่วมเรียนได้

ไม่มี

เวลา 09.30 น คณะกรรมการ จำนวน 12 คน และมีผู้ร่วมเข้าประชุมจำนวน 9 คน รวมเป็น 21 คน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้เป็นการชี้แจงรายละเอียดการใช้จ่ายเงินของโครงการในแต่ละกิจกรรมที่ผ่านมา และในเวลา 12.30น.คณะกรรมการร่วมกันประชุมและปรึกษาหารือกำหนดวันในการฝึกซ้อมกลองยาว และฝึกสอนดนตรีหนังตะลุงภายในเดือนมกราคมตจะเป็นการฝึกซ้อมครั้งที่ 1 ของแต่ละประเภท

มติที่ประชุมกำหนดให้วันที่ 25 มกราคม56 จัดให้มีการฝึกสอนกลองยาว ส่วนการฝึกซ้อมดนตรีหนังตะลุง กำหนดให้ฝึกซ้อมวันที่ 27 มกราคม 56 และกิจกรรมอื่นจะต้องทำให้แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 56 นี้

-

-

ต้องการคำแนะนำจากพี่เลี้ยง

จัดจ้างพิมพ์ป้ายไวนิลโครงการฯ จำนวน 3 ป้าย จากร้านอลงกรณ์  และจัดจ้างตัดฉากหนังตะลุง จำนวน 3 รายการ จากร้านกะตา

ทางโครงการฯดำเนินการจัดจ้างพิมพ์ป้ายไวนิลโครงการ จำนวน 3 ป้าย ประกอบด้วย ป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ , ป้ายรายชื่อคณะกรรมการดำเนินงานและป้ายปลอดบุหรี่ ได้จัดจ้างร้านอลงกรณ์ ตลาดจันดี ส่วนการตัดฉากม่านหนังตะลุง ได้จ้างทำ 3 รายการ ประกอบด้วย จอผ้าขาวทำจอหนัง , ม่านชื่อคณะ 2 ผืน และม่านข้าง 2 ผืน จากทางร้านคุณกะตา 

-

-

-

ในตอนเช้าได้มีผู้นำหมู่บ้าน คณะกรรมการโครงการฯ ชาวบ้าน อาจารย์ นักเรียน และเจ้าหน้าที่จากอบต.ฉวาง ช่วยกันปลูกป่า และชาวบ้านส่วนหนึ่งช่วยกันถางป่า จนถึงเที่ยงก็ร่วมกันรับประทานอาหาร ส่วนในตอนบ่ายมีชาวบ้านช่วยกันถางป่า และตัดกิ่งไม้ ในส่วนที่เหลือบริเวณภายในหมู่บ้านให้แล้วเสร็จ ในตอนค่ำร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพร

มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามเป้าหมายจำนวน 80 คน และนอกเหนือจากเป้าหมาย จำนวน 55 คน รวมเป็น 127 คน แยกเป็นกิจกรรมปลูกป่ามีประชาชนจำนวน 40 คน  และอาจารย์ นักเรียน โรงเรียนบ้านปากน้ำ จำนวน 32 คนและเจ้าหน้าที่ จากอบต.จำนวน 15 คน ในส่วนของกิจกรรมถางป่า 40 คน

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมไม่สมดุลกับจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกินเป้าหมาย ส่วนกิจกรรมการขุดลอกคูคลองไม่สามารถทำกิจกรรมได้ เพราะช่วงนี้มีฝนตกบ่อย ทำให้นำในคู คลอง มีมาก ไม่สามารถจะลงไปขุดลอกได้

-

ไม่มีการบันทึก

ไม่ได้บันทึก

ในการบันทึกยังไม่มีรายละเอียด ว่าทำอะไรบ้าง ทำได้ตามแผนหรือไม่

ไม่มี

1.ควรระบุให้ชัดเจนว่ามีคนเข้าร่วมกี่คน 2.กิจกรรมตามแผน คือการ แบ่งคนออกเป็น 3 ทีม ทีมละ 40 คน เพื่อทำแต่ละกิจกรรม ดังนั้นความเป็นจริงทำได้หรือไม่อย่างไร

ทำวันที่ 5 ธค.

ผู้รับผิดชอบโครงการได้นำเสนอแผนงาน เหตุผลของกิจกรรม และพี่เลี้ยงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบันทึกกิจกรรมและรายงานด้านการเงิน

มีแนวทางที่สามารถนำไปใช้และปฏิบัติกิจกรรม การายงานผล การเงิน ของโครงการได้ถูกต้อง

-

-

-

1.ให้โครงการอธิบายว่าจะทำอะไรบ้างอย่างไร ทำไมกิจกรรมจึงล่าช้า 2.ให้ข้อกระจ่างเกี่ยวกับการเบิกจ่าย

โครงการมีความเข้าใจมากขึ้น

1.ในการทำกิจกรรมโครงการนัดคนมา 150 คน แต่ฝนตกมากมีคนมาเพียง 123 คน จะทำอย่างไร

ไม่มี

อ.จำนง ได้แนะนำเกี่ยวกับการจ่ายว่า ให้ยึดผู้เข้าร่วมประชุมเป็นหลักมาเท่าไร ก็เบิกได้เท่านั้น เงินที่เหลือค่อยนำไปทำกิจกรรมื่นเพิ่มเติมได้

ได้ทำตามแผน

มีคนในชุมชนสนใจ เข้าร่วม

ในการทำกิจกรรมต้องเขียนให้เห็นมาทำงานทั้งวันจริง

ไม่มี

1.งบประมาณที่ใช้ ต้องตรงกับที่อนุมัติจริง เช่น ในโครงการนี้ เบิกได้เฉพาะค่าอาหาร 123 คน/ 100 บาท เท่ากับ 12300 บาท อยู่ในหมวดค่าใช้สอย

2.ค่าสาธารณูประโภค ไม่ได้ตั้งไว้ เบิกไม่ได้

3.ในโครงการนี้เบิกได้ไม่เกิน 15000 บาท ตามที่จ่ายจริง

4.ค่าอาหาร หากเบิก 100 บาท ต้องเขียนกิจกรรมให้เห็นว่าได้ทำทั้งวัน ได้ผลลัพธ์ของกิจกรรมอะไรบ้าง

มีการประชุมหารือชี้แจงวัตถุประสงค์โครงการและกำหนดแผนงานครั้งต่อไปโดยให้คณะทำงานร่วมกันปรึกษากันอีกครั้ง หลังจากประชุมกันเสร็จก็ร่วมกันรับประทานอาหาร จนเสร็จสิ้นและกลับบ้าน

มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 125 คน

ในวันนัดประชุมสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยมีฝนตก มีผลทำให้มีประชาชนมาร่วมกิจกรรมไม่ตรงกับแผนที่วางไว้ และประกอบกับประชาชนยังไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร เนื่องจากยังมีความคิดที่ว่าต่างคนต่างอยู่ และตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาที่ผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันใกล้หมดวาระจึงกลัวความขัดแย้งทางการเมือง เป็นต้น

ไม่มี

-

ได้รับการฝึกสอนการส่งงานทาง website ได้รับความรู้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ทำให้มีการพัฒนาความรู้ความเข้าใจการบริหารโครงการ การใช้งบประมาณ การใช้ระบบ website

การใช้งานระบบอินเตอร์เน็ตต้องสร้างความชำนาญหรือฝึกหัดให้บ๋อยครั้ง มีข้อสงสัยให้สอบถามพี่เลี้ยง

-

-