คนสร้างสุข

พบทีมสื่อ

เล่าความภูมิใจผลงานโครงการ

แกนนำโครงการ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ตรวจรายงานก่อนปิดงวด

• เอกสารเรียบร้อย
• การเงินเรียบร้อย

• แกนนำโครงการ 3 คน
• สภาผู้นำชุมชน  3  คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ตรวจรายงานส.3
• พี่เลี้ยงชวนถอดบทเรียนโครงการ

• รายงานส.3
• ถอดบทเรียนโครงการ

• แกนนำโครงการ 5 คน
• สภาผู้นำชุมชน  5 คน

ไม่มั

ไม่มั

ไม่มั

• ให้พี่เลี้ยงแนะนำการทำรายงานฉบับสมบูรณ์
• ให้พี่เลี้ยงตรวจสอบเอกสารการเงิน  ตรวจสอบเวปไซด์

• ทำรายงานฉบับสมบูรณ์
• ตรวจสอบเอกสารการเงิน  ตรวจสอบเวปไซด์

ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แกนนำโครงการ รวม 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ทำความเข้าใจการรายงานผ่านเวปไซด์
• รับทราบระเบียบการเงินของ สสส

• ทำความเข้าใจการรายงานผ่านเวปไซด์
• รับทราบระเบียบการเงินของ สสส

• ผู้ใหญ่บ้าน  1  คน
• แกนนำสตรี  1  คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้ใหญ่บ้านนำทีมชาวบ้านกลุ่มที่ 4 และชาวบ้านบ้านหัวเขา เยาวชนรวม 44 คน มาช่วยกันถางหญ้าริมฝั่งคลอง
• พวกผู้ใหญ่ลงไปตัดกิ่งไม้ที่ปรกลงมาในคลอง นำขึ้นมาเผาบ้าง นำขึ้นรถกะบะไปทิ้งบ้าง
• เด็กๆมาช่วยขนเศษไม้ ช่วยเก็บกิ่งไม้ใหญ่ๆที่ลอยมาตามน้ำและลอยติดขวางทางน้ำกันอย่างสนุกสนาน

• ภูมิทัศน์สองฝั่งคลองสวยงามขึ้น
• เยาวชนและผู้ใหญ่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทำความรู้จักกันว่าใครเป็นลูกหลานใคร

• แกนนำโครงการ สภาผู้นำ 5 คน
• ชาวบ้านกลุ่มที่ 4 จำนวน 37 คนจาก 37 ครัวเรือน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้ช่วยนำแบบสำรวจการปฏิบัติตามมาตรการอนุรักษ์คลองมาอ่านผลสรุปให้สภารับทราบ
  

• จากนั้นสภาร่วมกันถอดบทเรียนโครงการ ในประเด็นดังนี้ 1. สิ่งที่ภาคภูมิใจ 2. เกิดการเปลี่ยนแปลงในหมู่บ้าน 3. สิ่งที่ควรปรับปรุง

• แกนนำโครงการ สภาผู้นำได้รู้จักการสรุปผลการทำงานทั้งเรื่องการกำหนดมาตรการอนุรักษ์คลองและเรื่องการสรุปผลโครงการ

• มาตรการอนุรักษ์คลองมาผลสรุป ดังนี้

1. สิ่งที่ชาวบ้านปฏิบัติมากที่สุดคือ การไม่ทิ้งขยะลงในคลอง
2. สิ่งที่ชาวบ้านช่วยปฏิบัติเป็นอันดับสองคือการมาร่วมกันพัฒนาคลอง  อันดับสามคือ การปลูกต้นไม้ริมตลิ่ง
3. สิ่งที่ชาวบ้านคิดว่าเป็นอุปสรรค คือ คนนอกหมู่บ้านมาเที่ยวแล้วทิ้งขยะลงคลอง
   
4. สิ่งที่ทำตามมาตรการได้ยากคือ การเจือจางน้ำซักผ้าล้างจานก่อนทิ้งลงคลอง เพราะไม่เห็นผลทันตา

• สภาร่วมกันถอดบทเรียนโครงการ ได้ประเด็นดังนี้

1. สิ่งที่ภาคภูมิใจ คือ การที่คนในหมู่บ้านทั้งเด็ก เยาวชน หนุ่มสาว ผู้สูงอายุมาร่วมกันทำทุกกิจกรรม เช่น การประชุมสภา การพัฒนา การเดินรณรงค์
2. เกิดการเปลี่ยนแปลงในหมู่บ้านดังนี้
   

- คลองได้รับการพัฒนาจากที่ปล่อยรกมาเกือบ 10 ปี แต่ยังไม่โล่งเตียนตลอดสาย ชาวบ้านต้องมาช่วยกันต่อไปแม้จบโครงการ - ชาวบ้านมีส่วนร่วมการทำกิจกรรมมากขึ้น ทั้งการร่วมประชุม การพัฒนาคลอง การทำกิจกรรมที่ผู้ใหญ่บ้านขอความร่วมมือ - เด็กเยาวชนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใหญ่มากขึ้น ผู้ใหญ่ได้รู้จักเด็กว่าเป็นลูกหลานใคร เจอกันก็ทักทายให้สลามกัน - เครือข่ายต่างๆ ในหมู่บ้านมีการทำกิจกรรมร่วมกันเกิดความเข้มแข็ง เช่น ในช่วงการเดินณรรงค์คลอง แต่ละกลุ่มได้ช่วยกันออกแบบขบวนพาเหรดของตนเอง - เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อย่างน้อยเดือนละครั้งในการมาช่วยพัฒนาคลอง - สภามีการร่วมประชุมสม่ำเสมอ ต่อไปก็ควรมาประชุมกันแม้ไม่มีงบประมาณมากินอาหาร


3. สิ่งที่ควรปรับปรุง - ต้องหาวิธีช่วยกันให้มาตรการอนุรักษ์คลองเกิดผลสำเร็จ - ต้องพยายามชักชวนเยาวชนกลุ่มเสี่ยงมาร่วมกิจกรรมให้มากกว่าเดิม

• สภาผู้นำ 50 คน
• แม่บ้าน อสม. เยาวช ชรบ. 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้ใหญ่ช่วยกันตัดต้นไฝ่ที่ปรกลงมาในคลอง
• เด็กๆช่วยกันลากกิ่งไม้ไปให้ผู้ใหญ่เผา ได้ช่วงหนึ่งจึงชวนกันเล่นน้ำ
• ผู้ใหญ่นำเรือแคนนูของหมู่บ้านมาล่องให้เด็กๆได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน

• ได้พัฒนาตัดแต่งกิ่งไม้ที่ปรกมาในคลอง
• ได้ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กและผู้ใหญ่จากการช่วยกันตัดแต่งกิ่งไม้ และการนำเรือแคนนูมาล่องในคลอง

• สภาผู้นำ แกนนำโครงการ 17  คน
• เยาวชน 27 คน

• มีดพร้าไม่พอ แกนนำควรเตรียมมาด้วยไม่ควรรอว่าสมาชิกจะพามา

ไม่มี

ไม่มี

• นัดประชุมสภาผู้นำเพื่อพูดคุยเรื่องกติกาการอนุรักษ์คลอง
• โดยนัดประชุมสภาพร้อมกับการเรียกเยาวชนมาอบรมโครงการอนุรักษ์คลองของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
• เริ่มจากผู้ใหญ่บ้านโคกประดู่และผู้ใหญ่บ้านหัวเขากล่าวต้อนรับเยาวชน ขอให้เยาวชนตั้งใจอบรมเพื่อนำความรู้ไปกล่อมเกลาจิตใจ
• ผู้ใหญ่บ้านโคกประดู่ให้ความรู้เยาวชนเรื่องการอนุรักษ์คลอง ว่าหมู่บ้านมีกิจกรรมพัฒนาคลองทุกเดือนถ้าเยาวชนว่างเว้นจากการเรียน/เล่นให้มาร่วมกิจกรรม
• การจัดกิจกรรมอนุรักษ์คลองของ สสส. เมื่อดำเนินการมาระยะหนึ่งมีงบกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาให้การช่วยเหลือด้วย โดยเฉพาะเครื่องมือหนักในการขุดลอก ตัดถางพืชใหญ่ริมคลอง
• ผู้ใหญ่บ้านแจ้งกติกาการอนุรักษ์คลองให้เยาวชนและที่ประชุมทราบ
• ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความรู้เยาวชนเรื่องการอนุรักษ์คลอง ทีมสภาผู้นำแยกไปพูดคุยเรื่องการติดตามผลของมาตรการอนุรักษ์คลอง เพื่อใช้สรุปโครงการสสส.
• แยกกลุ่มผู้ใหญ่ไปพูดคุยเรื่องการติดตามมาตรการอนุรักษ์คลอง โดยนำร่างที่พี่เลี้ยงให้มาในการติดตามมาพิจารณาเพิ่มเติมตัดลด
• มอบหมายให้ผู้ช่วยไปทำแบบการติดตามเพื่อสอบถามครัวเรือน แล้วนำมาสรุปผลในการประชุมครั้งต่อไป
• นัดแนะกลุ่มพัฒนาคลองกลุ่มที่ 3 มาพัฒนาในวันที่ 25 มิย.57

• เยาวชนได้รับความรู้เรื่องการอนุรักษ์คลอง
• สภาผู้นำได้ประเด็นการติดตามมาตรการอนุรักษ์คลองเพื่อใช้สรุปการทำงาน
• เกิดความร่วมมือจากภาครัฐที่ให้งบประมาณและเครื่องมือหนังมาช่วยพัฒนาภูมิทัศน์คลอง

• สภาผู้นำ 50 คน
• เยาวชน 10 คน
• แม่บ้าน อสม ชรบ. 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ตรวจเวปไวด์
• ตรวจเอกสารการเงิน
• รับคำแนะนำให้แก้ไขเรื่องยอดเงินไม่ตรงกับใบเสร็จ

• ได้รับความรู้เกี่ยวกับการจัดทำรายงาน การลงเวปไซด์

• ผู้ใหญ่บ้าน 1 คน
• ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 1 คน
• แกนนำสตรี 1 คน

• ใบสรุปรายจ่ายบางกิจกรรมมไม่ตรงกับใบเสร็จ ให้แก้ไขให้ตรงกัน

ไม่มี

ไม่มี

• มีชาวบ้านโคกประดู่และบ้านหัวเขามาร่วมพัฒนา 47 คน
  
• ทำการตัดกิ่งไม้ที่ปรกลงมาในคลอง ขนลากเศษไม้ที่ขวางทางน้ำไหลขึ้นจากลำคลอง ได้เศษไม้ 2 คันรถ 6 ล้อ เผาต้นไผ่ที่กอใหญ่รก เผาเศษใบไม้  ได้ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร
• ชาวบ้านออกความเห็นว่าต้องรีบทำการพัฒนาในช่วงแล้งนี้ หากฝนมาน้ำจะมากทำงานลำบาก

• ได้ทำกิจกรรมร่วมกันเกิดความสามัคคี
• ได้เห็นสภาพแวดล้อมคลองที่เปลี่ยนไป เกิดความภาคภูมิใจ
• น้ำไหลสะดวก ไม่มีเศษไม้หมักหมมที่จะทำให้น้ำเน่า

สภาชุมชน 10 คน ชาาวบ้านตัวแทนครัวเรือน 37 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้ช่วยประชุมเรียมการพัฒนาคลอง  โดยกำหนดการพัฒนาในวันที่ 27 มิถุนายน 2557
• ให้กลุ่มที่แบ่งไว้กลุ่มต่อไปคือ บ้านใต้ทางมาร่วมกันให้มากเพราะไม้ไฝ่ที่ปรกลงมาในคลองมีมาก
• ครั้งนี้ได้เชิญชวนบ้านหัวเขามาร่วมพัฒนาเหมือนทุกครั้ง
• ให้พวกผู้หญิงร่วมกันเตรียมอาหารที่บ้านน้องสาวผู้ใหญ่บ้าน

มีทักษะการเตรียมงานเพิ่มขึ้น ได้ทบทวนกิจกรรมที่ผ่าน และวางแผนกิจกรรมครั้งต่อไป

สมาชิกสภาชุมชน 50 คน  กู้ภัย 4 คน แม่บ้าน 4 คน อสม 4 คน เยาวชน 4 คน ผู้สูงอายุ 4 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ขบวนพาเหรดตั้งขบวนที่โรงเรียนอนุบาลฉลุง มีตำรวจฉลุงคอยอำนวยความสะดวกจราจร นำขบวนโดยรถแห่งกระจายเสียง ตามด้วยป้ายโครงการถือป้ายโดยสาวมุสลิมแต่งกายสวยงาม จากนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านเดินหัวบวน ตามด้วยขบวนริ้วธงชาติที่ถือโดย ชรบ.ของหมู่บ้านแต่งแบบฟอร์มดูน่าเกรงขาม
  
• ขบวนรณรงค์ ประกอบด้วยเด็กจากโรงเรียนตาดีกา แม่บ้าน อสม. กลุ่มเยาวชน
  
• ชาวโคกประดู่หน้าตายิ้มแย้ม มีคนออกมาชมขบวนพาเหรดตลอดสองข้างทาง สีหน้าของผู้ชมดูชื่นชม มีความสุขที่เห็นเด็กๆ เยาวชน อสม แม่บ้าน ชรบ ผู้สูงอายุมาทำกิจกรรมร่วมกัน

• พื้นที่ได้รู้จักการวางแผนการทำงานกระบวนการณรงค์ด้วยการเดินพาเหรด
• พื้นที่รู้จักการเตรียมงาน การประสานงานกับหน่วยงานราชการ
• กลุ่มเครือข่ายต่างๆได้มาวางแผน ทำงาน แก้ปัญหาจร่วมกัน มีความรู้สึกสำเร็จร่วมกัน

สภาชุมชน 50 คน  กู้ภัย 12 คน แม่บ้าน 30 คน อสม 15 คน เยาวชน 35 คน ผู้สูงอายุ 10 คน นักเรียนตาดีกา 40 คน

ฝนตก แต่ทุกคนพร้อมใจเดินฝ่าฝนที่ตกปรอยๆร่วมกัน

ไม่มี

ขอชื่นชมความร่วมแรงร่วมใจทำให้ทั้คนในหมู่บ้านและภายนอกได้เห็นความตั้งใจจริง ความสามัคคีของชาวโคกประดู่ และได้รับรู้กิจกรรมที่ชาวโคกประดู่ร่วมกันอนุรักษ์คลอง

• ขบวนพาเหรดตั้งขบวนที่โรงเรียนอนุบาลฉลุง มีตำรวจฉลุงคอยอำนวยความสะดวกจราจร นำขบวนโดยรถแห่งกระจายเสียง ตามด้วยป้ายโครงการถือป้ายโดยสาวมุสลิมแต่งกายสวยงาม จากนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านเดินหัวบวน ตามด้วยขบวนริ้วธงชาติที่ถือโดย ชรบ.ของหมู่บ้านแต่งแบบฟอร์มดูน่าเกรงขาม
  
• ขบวนรณรงค์แรกเป็นเด็กเล็กๆ4 – 7 ขวบจากโรงเรียนตาดีกา 2 โรง แต่งกายชุดมุสลิมสวยงาม หัวขบวนมีป้ายคำขวัญรณรงค์อนุรักษ์คลอง เช่น ป๊ะจ๋า ม๊ะจ๋าอย่าทิ้งขยะลงคลอง หลังป้ายคำขวัญมีเด็กๆ แต่งกายสวยงามเหมือนวันฮารีรายา ในมือถือดอกไม้ไข่หรือบุหงาตลอก ที่ติดคำขวัญอนุรักษ์คลองที่แต่ละคนคิดขึ้นเอง
• ขบวนที่ 2 เป็นขบวนแม่บ้าน มีป้ายคำขวัญว่า กลุ่มแม่บ้าน สานสามัคคี นำวิถีพอเพียง คู่เคียงอนุรักษ์คลอง นำหน้า ตามด้วยกลุ่มแม่บ้านยังสาวแต่งกายสวยงามเหมือนกันสีเดียวกัน และแม่บ้านรุ่นแรกแต่งกายเป็นสาวชาวบ้านถือตะกร้าบ้าง วางตะกร้าไว้บนหัวบ้าง ในตะกร้ามีผักพื้นบ้าน อีกหลายคนถือสุ่มจับปลา ข้องใส่ปลา บางคนมีเบ็ดตกปลาไม่ไผ่และมีปลากระดาษติดอยู่ ดูก็รู้ว่าจะสื่อถึงคุณค่าของสายน้ำที่มอบความอุดมสมบูรณ์ให้
  
• ขบวนที่3 เป็นกลุ่ม อสม. มีคำขวัญนำว่า อสม.รวมใจ ส่งเสริมสุขภาพอนามัย ร่วมใจอนุรักษ์คลอง  ตามด้วยตัวยุงลาย บุหรี่มวนโต ฮูลาฮูบ มีป้ายแขวนรณรงค์ที่ตัว อสม.ท้ายขบวนแต่ละคน ขบวนนี้สื่อถึงบทบาทหน้าที่ของอสม.และการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์คลอง สู่การมีสุขภาพดี
• ขบวนที่ 4 เป็น กลุ่มเยาวชน มีเยาวชนหญิงเดินนำเป็นดรัมเมเยอร์ มีป้ายคำขวัญว่า เยาวชนรวมพลัง ตั้งมั่นรวมใจ ปกปักษ์รักษาไว้ ให้น้ำใสคู่คลองมำบัง  มีการนำเศษวัสดุมาตกแต่งเป็นเครื่องแต่งกาย เยาวชนหญิงมีสายสะพายที่เขียนข้อความรณรงค์การอนุรักษ์ ตามท้ายขบวนด้วยเยาวชนชาย
• ระหว่างสองข้างทางมีชาวบ้าน ร้านค้าต่างๆออกมาชื่นชม ต่างยิ้ม ปรบมือให้ ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ อากาศวันนี้ครื้มฟ้าครึ้มฝนอากาศจึงไม่ร้อน เดินสบาย ชาวโคกประดู่ที่เดินต่างยิ้มแย้ม ชื่นมื่นทั่วกัน เมื่อขบวนถึงบริเวณหน้าวัดลุงปรากฏว่ามีฝนตกลงมา ทำให้ขบวนเปียกเล็กน้อย
  จากนั้นทุกคนก็ขึ้นรถมาตั้งขบวนที่หน้าศูนย์จริยธรรมของหมู่บ้านแล้วเดินถนนเส้นทางในหมู่บ้านไปยัง ตลาดนัดลานวัฒนธรรมที่บ้านหัวเขาเพื่อร่วมงาน และจัดการมอบรางวัลประกวดคำขวัญอนุรักษ์คลองต่อ

1. ผู้คนที่ในตัวเมืองฉลุงรับรู้  และชื่นชมกิจกรรม
2. คนในหมู่บ้าน  เกิดกระแสการอนุรักษ์ และแสดงออกในการอนุรักษ์
3. เกิดความสามัคคี ในกลุ่มต่างๆ ได้แก่ เยาวชน แม่บ้าน อสม กู้ภัย(ชรบ.) ผู้สูงอายุ นักเรียนตาดีกา

สภาชุมชน 50 คน  กู้ภัย 12 คน แม่บ้าน 30 คน อสม. 15 คน เยาวชน 35 คน ผู้สูงอายุ 10 คน นักเรียนตาดีกา 40 คน

ฝนตกขณะเดินใกล้จบ ทุกคนร่วมใจกันเดินจนจบถึงจุด

ไม่มี

ช่วยตัดสินขบวนพาเหรดของกลุ่มต่างๆ

• ผู้ใหญ่บ้านกล่าวขอบคุณชาวบ้าน เยาวชนทุกคนที่ให้ความร่วมมือในกิจกรรมเดินรณรงค์อนุรักษ์คลอง จากนั้นเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาฯได้แสดงความรู้สึก
  
• ความรู้สึกที่สมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นคือ  เป็นงานที่ดีชาวบ้านได้มาทำงานร่วมกัน เด็กได้แสดงออก เยาวชนได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์  เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ให้ผู้สูงอายุ แม่บ้านได้ไปเดินพาเหรด ตอนแรกคิดว่าจะอายคนแต่ก็รู้สึกดี เพราะคนภายนอกได้รู้ว่าเราอยากให้คลองเราสะอาด อุดมสมบูรณ์เหมือนแต่ก่อน  รู้สึกว่าหน่วยงานให้การดูแลดี เช่น ตำรวจ เทศบาล คนจีนที่ตลาดออกมาดูกันทุกบ้าน เห็นเค้ายิ้มกันเราก็ยิ้มให้  ถึงฝนตกก็ไม่เป็นไรเดินไม่ร้อน ดูว่าไกลแต่เดินไม่นานไม่ทันเหนื่อย ดีใจที่เห็นคนในหมู่บ้านมีความสามัคคี
• ผู้ใหญ่บ้าน แสดงความคิดเห็นว่า ต่อไปนี้เราต้องช่วยกันดูแลอนุรักษ์คลองเพราะเราออกไปประชาสัมพันธ์ว่าเราทำอะไรอยู่ แล้วอย่าให้คนภายนอกมาดูถูกเราได้
  

1. เกิดความภาคภูมิใจในการเป็นชาวโคกประดู่ที่ได้ร่วมแสดงออกการอนุรักษ์  นำไปสู่กระแสอนุรักษ์คลอง
2. เกิดกระบวนการสรุปผลงาน เพื่อค้นหาสิ่งที่ดี และโอกาสพัฒนา

สมาชิกสภาชุมชน 50 คน  กู้ภัย 5 คน แม่บ้าน 6 คน อสม. 6 คน เยาวชน 4 คน ผู้สูงอายุ 4 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่าวันที่ 19 มีนาคม 2557 จะมีทีมกระทรวงมหาดไทยมาดูผลงานประกวดผู้ใหญ่บ้านดีเด่น ขอความร่วมมือทุกคนให้การต้อนรับ ดูแลรักษาความสะอาดหน้าบ้านให้เรียบร้อยสวยงาม
• ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวขอบคุณครัวเรือนที่มาช่วยกันพัฒนาคลอง ในวัน 22 กุมภาพันธ์ 2557  เราจะจัดอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2557 นี้ ขอให้ 42 ครัวเรือนกลุ่มที่ 2  ออกมาพัฒนาตามวันดังกล่าวด้วย
  
• ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดประเด็นกิจกรรมการเดินรณรงค์อนุรักษ์คลอง ให้ช่วยกันคิดรูปแบบว่าจะทำอย่างไรบ้าง  ที่ประชุมเสนอว่าให้ อสม. แม่บ้าน และเยาวชนเป็นแกนนำในการออกแบบขบวนเดินรณรงค์  แล้วให้มานำเสนอรูปแบบในการประชุมครั้งต่อไป

1. แจ้งข่าวสารการประกวดผู้ใหญ่บ้าน 2.เตรียมกิจกรรมเดินรณรงค์อนุรักษ์คลอง

สภาชุมชน 50 คน แม่บ้าน 6 คน อสม.6 คน กู้ภัย 5 คน เยาวชน 6 คน

ไม่มี

ไม่มี

ช่วยออกแบบขบวนพาเหรด

• ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแบ่งครัวเรือนทั้งหมด 167 ครัวเรือนออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 42 ครัวเรือน
• นัดหมายให้กลุ่มที่ 1 ส่งตัวแทนครัวเรือนมาช่วยกันพัฒนาคลองโดยกำหนดพื้นที่การทำงาน 3 จุด ได้แก่ เหนือสะพาน ใต้สะพาน และหลังศาลาเอนกประสงค์
  
• ปรากฎว่ามีกลุ่มชาวบ้านจากบ้านหัวเขามาช่วยพัฒนาด้วย รวมมีคนมาพัฒนา 60 คน
• มีการช่วยกันใช้เลื่อยยนต์ตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่ขวางคลอง  การตัดต้นไผ่และเผา ทำให้ในคลองและสองฝั่งคลองใน 3 จุดเตียนโล่ง น้ำไหลสะดวก
• ชาวบ้านที่มาช่วยกันต่างเหน็ดเหนื่อยกันทุกคน แต่ทุกคนมีความสุข หน้าตาสดชื่น พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนดีใจที่ได้มีการชักชวนกันมาพัฒนาคลองเพราะต่างคนก็รู้สึกว่าคลองมีเศษไม้รกมาก แต่ไม่มีการชักชวนกันเป็นเรื่องเป็นราว

• เกิดความรักคลอง อยากให้คลองสวย สะอาด
• เกิดความสามัคคีในชาวบ้าน
• คลองสะอาด น้ำไหลสะดวกขึ้น

• ตัวแทนครัวเรือนกลุ่มที่ 1 จาก 4 กลุ่ม จำนวน 60 คน

• คลองขาดการพัฒนาไปนาน มีเศษไม้จำนวนมาก คนที่มาทำงานเหน็ดเหนื่อยกันมาก

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้ใหญ่บ้านนายศักดา ได้แจ้งชาวบ้านผ่านอสม. ชุด ชรบ. แกนนำสตรี แกนนำเยาวชน ให้สมาชิกสภาฯและตัวแทนครัวเรือนมาประชุมร่วมกันก่อนละหมาดวันศุกร์ เพื่อทำกติกาการดูแลคลองมำบังร่วมกัน
• ปรากฎว่ามีชาวบ้านจากบ้าหัวเขามาร่วมประชุมในการทำกติกาด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นหมู่บ้านอีกฝั่งคลอง และมีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์จากคลอง
• ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้แจกเอกสารร่างกติกาการดูแลคลองที่เตรียมไว้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม อ่านให้ฟังทีละข้อแล้วถามความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่ หรือจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
• เมื่ออ่านครบทุกข้อ มีผู้สูงอายุนายสาแหละเสนอว่าขณะนี้คลองมีเศษไม้รกแกะกะมาก ประกอบกับเป็นช่วงแล้งสามารถลงเก็บเศษไม้ได้ง่ายจึงเสนอให้ทำการพัฒนาเดือนละ 2 ครั้ง
• มีผู้เห็นด้วยและสนับสนุนว่า เมื่อเก็บเศษไม้ได้เป็นส่วนใหญ่ เดือนต่อๆไปก็เป็นการช่วยเก็ยขยะ ปลูกต้นไม้ก็ได้ คนในหมู่บ้านจะได้มีกิจกรรมเล็กๆน้อยๆทำร่วมกันหลังละหมาดวันศุกร์
• เมื่อขอความคิดเห็นคนส่วนใหญ่เห็นด้วยจึงทำการปรับกติกาจากเดิมว่าจะร่วมพัฒนาคลอง 3 เกือนครั้ง เป็นเดือนละ 2 ครั้ง
• ผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่า จะทำป้ายข้อตกลงติดตามหมู่บ้านขอให้ทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแลอย่าให้ใครมาทำลายป้าย เพื่อคนที่ผ่านไปผ่านมาหรือมาเที่ยวเล่นริมคลองจะได้ทราบกติกาของหมู่บ้านโคกประดู่

• เกิดกลไกของชุมชนในการทำกติกาการดูแลทรัพยากรธรรมชาติของหมู่บ้าน
• มีการนำหลักศาสนามาบูรณาการในการสร้างกติกา

• สมาชิกสภาชุมชน 50 คน
• ตัวแทนครัวเรือน 117 คน

• มีตัวแทนครัวเรือนมาหลังช่วงการประชุม ได้ทำการแจกเอกสารและบอกว่ามีการปรับกติกาเรื่องการพัฒนาคลอง

ไม่มี

• พี่เลี้ยงได้ช่วยค้นหาการทำกติกาเกี่ยวกับการดูแลคลองจากที่อื่นๆ 

• ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้นำร่างมาตรการทางสังคม ที่ได้ปรึกษากับพี่เลี้ยงมาเสนอที่ประชุมสภา
• ที่ประชุมสภาฯมีมติให้เพิ่มรายละเอียดของคำว่าน้ำทิ้ง  และให้เปลี่ยนจากชาวบ้านทุกคนเป็นแกนนำในการสอดส่องเป็นให้เยาวชนเป็นแกนนำในการสอดส่องให้มีการปฏิบัติตามมาตรการ
  
• ที่ประชุมสภาฯช่วยกันออกแบบว่าจะจัดเวทีประชาคมในรูปแบบใดเพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้รับทราบร่างมาตรการทางสังคมนี้  มีผู้เสนอให้ทำเอกสารแจกทุกครัวเรือนก่อนมาประชาคม และให้จัดประชาคม 3 เวที คือ การจัดประชุมประชาคมโดยเฉพาะ 1 เวที หลังละหมาดวันศุกร์ 1 เวที และการประชุมสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ 1 เวที  ที่ประชุมเห็นด้วย จึงมอบหมายให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทำเอกสารแจก และทำหนังสือเชิญมาประชาคม
• ผู้ใหญ่บ้านเปิดประเด็นกำหนดพัฒนาคลองในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 โดยจะแบ่งบ้านที่รับผิดชอบออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 42 ครัวเรือน ทำการพัฒนา 4 ครั้งตามกลุ่มที่แบ่ง และจะมีชาวบ้านหัวเขามาร่วมพัฒนาด้วย ครั้งที่1 นี้จะพัฒนาบริเวณสะพานกลางหมู่บ้าน  ขอรับอาสาที่จะพาเครื่องเลื่อยตัดไม้  2 เครื่อง ที่เหลือขอให้เป็นมีดพร้า ส่วนแม่บ้านให้ช่วยกันไปทำอาหารที่บ้านน้องสาวผู้ใหญ่บ้าน

1. ได้ร่างมาตรการทางสังคม และวิธีการลงประชาคม
2. แบ่งกลุ่มพัฒนาคลอง 4 กลุ่ม กลุ่มละ 42 ครัวเรือน ทำการพัฒนาคลอง 4 ครั้ง และการเตรียมงาน เครื่องมือ

สภาผู้นำ 50 คน กรรมการมัสยิด 4 คน กลุ่มกู้ภัย 4 คน กลุ่มแม่บ้าน 3 คน อสม 3 คน  เยาวชน 6 คน

ไม่มี

ไม่มี

ช่วยทำร่างมาตรการทางสังคม

• ติดตามความก้าวหน้า ตรวจหลักฐานการเงิน

• แกนนำโครงการมีความรู้ ทักษะการจัดทำรายงนและเอกสารการเงิน

• ผู้ใหญ่บ้าน 1 คน
• ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 1 คน
• แกนนำสตรี  1 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ที่ประชุมช่วยกัน นำร่างระเบียบของสภามาพิจารณาคัดเลือกเพื่อประกาศเป็นระบียบตัวจริง ดังเอกสารแนบ
• สรุปผลการจัดกิจกรรมเรียนรู้คลองมำบัง พบว่า  สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้  ผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความร่วมมือดีมาก ผู้ใหญ่และเด็กได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกัน  เยาวชนและผู้ใหญ่หลายคนยังไม่เคยทราบประวัติคลอง
• วางแผนการจัดกิจกรรมทำกติกาชุมชน โดยให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์  ผู้ใหญ่ประสานงานทีมทำอาหาร  ประธานเยาวชนเป็นคนหาร่างกติกาชุมชนจากชุมชนอื่นๆ

• สภาผู้นำชุมชนเริ่มเข้าใจบทบาทของตัวเองจากการเริ่มงานจัดกิจกรรมเรียนรู้คลองมำบัง  การวางแผนจัดการกิจกรรมก่อนการทำงาน
• เกิดการขยายผลกิจกรรมสร้างสรรค์ให้คนที่ไม่ได้มาร่วมกิจกรรมรับทราบ

สภาผู้นำชุมชน 50 คน ชาวบ้าน เยาวชน 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• นายศักดา  ผู้ใหญ่บ้านกล่าวเปิดงาน ชี้แจงวัตถุประสงค์การประชุมวันนี้เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้เรียนรีู้ประวัติคลองมำบัง สายน้ำหลักของหมู่บ้าน แล้วไปจัดทำเป็นรูปเล่ม เพื่อเป็นหนังสือที่หมู่าบ้านผลิตขึ้นเอง
• เยาวชนตั้งใจฟังการบรรยาย ซักถาม จับประเด็น
• เยาวชนนำความรู้ที่ได้ เขียนเป็นเรื่องเล่าของคลองมำบัง เพื่อจัดทำเป็นรูปเล่ม
• เยาวชนมีการเสนอว่าในหนังสือควรจะมีรูปถ่ายด้วย  ที่ประชุมเห็นด้วย ทำให้เกิดการเสนอการออกแบบหนังสืออีกหลายอย่างเช่น มีกลอน มีแผนที่ เป็นต้น
• ที่ประชุมจึงมอบหมายให้ทีมเยาวชนเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำ

• มีการรวมตัวกันของคนในหมู่บ้านเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นที่ทำให้เกิดความภาคภูมิใจต่อถิ่นฐานบ้านเกิด
• เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ใหญ่และเด็ก เนื่องจากการทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ด้วยกันมีน้อย ปกติมีการอบรมจริยธรรมที่เยาวชนมักคิดว่าผู้ใหญ่วางกรอบที่เข้มงวดให้เยาวชนปฏิบัติ
• ผู้สูงอายุที่มาเล่าประวัติคลอง เล่าการใช้ประโยชน์จากคลองในอดีตเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
• พ่อแม่ที่เห็นเยาวชนทำกิจกรรมสร้างสรรค์รู้สึกดีใจ ภูมิใจที่เห็นลูกๆกล้างแสดงออก ซักถาม แสดงความคิดเห็น แสดงความเคารพผู้ใหญ่

สมาชิกสภาผู้นำชุมชน  ชาวบ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน เยาวชน 100 คน

• ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• สมาชิกมาประชุม 50 คน อีก 20 คนเป็นชาวบ้านทั่วไปและเยาวชนมาเะพิ่มจากตัวแทนกลุ่ม  มีการแนะนำตัวว่ามาจากกลุ่มใด  ขณะนี้กลุ่มมีการทำกิจกรรมอะไร เช่น กลุ่มสตรีกำลังทำโครงการเพื่อขอจากกองทุนสตรี  กลุ่มอิหม่ามกำลังเตรียมงานเมาลิด  เยาวชนไม่มีกิจกรรมเนื่องจากใกล้สอบ เป็นต้น
• การเลือกสมาชิกเป็นกรรมการหลัก ดังเอกสารแนบ

• สมาชิกสภาชุมชนได้ทำความรู้จักกัน และทราบความเป็นไปของแต่ละกลุ่ม
• ได้โครงสร้างการทำงานของสภาผู้นำชุมชน

• สภาผู้นำฯ 50 คน
• ชาวบ้าน เยาวชน 20 คน

ไม่ได้เตรียมเครื่องเสียง ทำให้เสียงคนพูดฟังไม่ชัด

ไม่มี

ไม่มี

• นัดประชุมแกนนำ ผู้นำศาสนา เยาวชน ตัวแทนครัวเรือน
• ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงที่มา วัตถุประสงค์โครงการสสส.อีกครั้งเพื่อให้ผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมงานประชาสัมพันธ์โครงการทราบ
• ผู้ใหญ่ชี้แจงการจัดตั้งสภาผู้นำหมู่บ้าน เพื่อให้ทุกกลุ่มแกนนำได้มามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกิจกรรมของหมู่บ้าน  ช่วยกันตัดสินปัญหา

• แกนนำต่างๆ ที่ได้รับคิดเลือกมาเป็นสภาผู้นำหมู่ลบ้านได้มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการหมู่บ้าน  บทบาทหน้าที่ของสภาฯ
• สมาชิกสภาฯได้ทำความรุจักกัน

แกนนำท้องถิ่น ท้องที่ ชรบ แกนนำสตรี อสม เยาวชน ผู้นำศาสนา ตัวแทนครัวเรือน 130 คน

• ประชาชนไม่มาร่วมอบรมตามแผนเพราะต้องไปประกอบอาชีพส่วนตัว (กรีดยางในตอนเช้า) แนวทางแก้ไข  การประชุมครั้งต่อไปต้องเชิญประชาชนเข้าร่วมในภาคบาย หลังจากประกอบอาชีพเสร็จ

ไม่มี

• พี่เลี้ยงแนะนำให้ทำเอกสารประกอบการอบรมที่เข้าใจง่ายมาแจกในผู้เข้าร่วมอบรมด้วย

• จัดกิจกรรมวันฮารีรายาตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมกีฬาพื้นบ้านให้เด็ก เยาวชนและผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุในหมู่บ้านมาทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนาน
• มีการแสดงบนเวทีโดยเยาวชน ได้แก่ อัลนาซีส  การอ่านอัลกรุอ่าน การประกวดอาซาน
• จัดเลี้ยงอาหารเมื่อเที่ยง และมื้อเย็น
• มีการออกร้านของโรงเรียนตาดีกาเพื่อหาเงินเข้าโรงเรียน
• ผู้ใหญ่บ้านขึ้นเวทีชี้แจงรายละเอียดโครงการ ที่มา วัตถุประสงค์ และกิจกรรมที่จะทำ
• พี่เลี้ยงมาให้กำลังใจและดูผลการจัดกิจกรรมเวลา 20.00 น.

• ประชาชนเช้าร่วมกิจกรรมการประชาสัมพันธ์โครงการฯ จำนวนประมาณ 500  คน  เกินเป้าหมายที่คาดไว้มาก
• เด็กและผู้ใหญ่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนาน
• ผู้ใหญ่รู้สึกชื่นชมยินดีที่ได้เห็นเด็กร้องเพลงอัลนาซีส  อ่านพระคัมภีร์อัลกุรอาน  ขับขจานบทอาซาน
• เด็กๆได้ฝึกการแสดงออกในทางที่สร้างสรรค์

• ตัวแทนครัวเรือนครัวเรือนละ 1 คนจาก 167 ครัวเรือนในหมู่บ้าน
• แกนนำหมู่บ้าน
• ผู้สนใจทั่วไป
• เยาวชน

มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกินเป้าหมายทำให้อาหารที่จัดเลี้ยงไม่เพียงพอ  แนวทางแก้ปัญหา ร่วมกันทำเพิ่มเติม
ครั้งต่อไปทำกิจกรรมให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการ 2 พื้นที่ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน มีการจัดงานวันฮารีรายาร่วมกันมาทุกปี ตกลงที่จะแชร์งบประมาณโครงการมาจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการร่วมกัน โดยมีประชาชนทั้ง 2 หมู่บ้านมาร่วมงาน รวมทั้งหมู่บ้านบ้านอื่นๆ รวมประมาณ 450-500 คน มีทั้งภาคกลางวันและกลางคืน กิจกรรมประกอบด้วยการละเล่นพื้นบ้าน การแสดงบนเวทีของเยาวชน และการชี้แจงรายละเอียดโครงการของทั้ง 2 พื้นที่

ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน เยาวชนมาร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการ กิจกรรมที่จัดทำให้ผู้มาร่วมงานเกิดความสนุกสนาน ประทับใจ มีความภาคภูมิในในการทำกิจกรรมของเด็กและเยาวชน  มีความเข้าใจลักษณะที่มาโครงการ การดำเนินกิจกรรมโครงการ และรับปากให้ความร่วมมือ

ชาวบ้านที่มาร่วมงาน 167 คน 

เก้าอี้ไม่พอให้ผู้ร่วมงานนั่ง 

ไม่มี

แนะนำให้เพิ่มผ้ายางเพื่อให้นั่งกับพื้น และกันเก้าอื้ให้ผู้สูงอายุนั่ง

• เรียกประชุมตัวแทนกลุ่มต่างๆ ในชุมชนมารับฟังข้อมูลโครงการฯ และแนวทางการดำเนินงานในอนาคต
• มีพี่เลี้ยง สสส.มาให้ความรู้เรื่องการทำโครงการ
• ผู้ร่วมประชุมซักถามข้อสงสัยเรื่อง  การทำกิจกรรมพัฒนาคลองว่าใช้จ้างเครื่องมือหนักมาได้หรือไม่

• ตัวแทนชุมชน ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
• แสดงความคิดเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีที่มีการทำความเข้าใจแกนนำตั้งแต่เริ่มโครงการ ทำให้รู้ที่มาที่ไป

สมาชิกอบต. 2 คน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยฯ  5 คน อสม. 8 คน แกนนำสตรี  15 คน เยาวชน 10 คน ผู้สูงอายุ 12 คน

ยังไม่พบปัญหา

ยังไม่มี

ยังไม่มี

ผู้รับผิดชอบหลัก ผญ.ศักดาชี้แจงที่มาโครงการให้กรรมการโครงการ กรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนที่มาประชุมรวม 50 คนร่วมรับทราบ

• กรรมการโครงการรับทราบที่มาโครงการ วิธีการดำเนินงานตามโครงการ แสดงความรู้สึกชื่นชมผญ.และขอบคุณ สสส.ที่ให้โอกาส
• ที่ประชุมช่วยกันกำหนดกลุ่มต่างๆในหมู่บ้านที่จะมาเข้าร่วมเป็นสภาผู้นำชุมชน และกติกาให้ส่งมากลุ่มละ 2 คน

กรรมการโครงการ ผู้นำชุมชน 50 คน

ไม่มี

• เพิ่มช่องทางที่พื้นที่จะแสดงความขอบคุณ สสส.เพื่อสสส.จะได้รับรู้โดยตรง

• เสนอให้คัดเลือกหย่อมบ้านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มองค์กรใดๆมาร่วมเป็นสมาชิกสภาผู้นำชุมชนด้วยเพื่อจะได้เกิดความทั่งถึงในการประชาสัมพันธ์ต่างๆ