คนสร้างสุข

ร่วมประชุมเพื่อเตรียมพร้อมในการปิดโครงการ

ประชุมรับคำแนะนำเตรียมพร้อมเพื่อปิดโครงการ

ผู้ดำเนินโครงการ กรรมการ ผู้ดำเนินงาน

ไม่มี

แนะนำ ช่วยเหลือเพื่อเตรียมได้ถูกต้องพร้อมที่จะปิดโครงการ

แนะนำ ช่วยเหลือ ดูแล เตรียมการได้ถูกต้องพร้อมที่จะปิดโครงการ

ประชุมสรุปโครงการเสร็จแล้ว จัดการทำรูปเล่ม โดยรวบรวมกิจกรรมในโครงการ เอกสารสำคัญที่ต้องเสนอ รูปถ่ายประกอบกิจกรรม เย็บเล่มนำส่ง สสส. ต่อไป

ผู้รับผิดชอบโครงการและกลุ่มผู้ดำเนินงานปะชุมสรุปโครงการเสร็จแล้ว รวบรวมเอกสารหลักฐานในการจัดกิจกรรมในโครงการตามลำดับพร้อมด้วยเอกสารที่ต้องนำส่ง พร้อมด้วยรูปถ่ายประกอบมาจัดเป็นรูปเล่ม  เย็บเล่มเพื่อนำส่งต้นสังกัด (สสส.)  ต่อไป

ผู้รับผิดชอบโครงการและกลุ่มผู้ดำเนินงาน

ไม่มี

ไม่มี

ความช่วยเหลือแนะนำดูแลเพื่อความถูกต้อง

1. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน    20 คน  ฟังรายละเอียดในการปฏิบัติกิจกรรมในโครงการทั้งหมด
2. สรุปผลสัมฤทธิ์ของแต่ละโครงการ เน้นถึงผลที่เกิดขึ้นกับครอบครัว /ชุมชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม
3. ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด /และผลพลอยได้ /งบประมาณ
4. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

1.กลุ่มแกนทำมีการวางแผนก่อนการทำงาน รู้จักทำงานแบบกลุ่ม มีเครือข่าย รู้จักวิเคราะห์ก่อนแก้ปัญหาและสรุป 2.คนในชุมชนมีความรู้สามารถวิเคราะห์รายได้ รายจ่าย รายจ่ายที่ไม่จำเป็น ลดรายจ่ายในครัวเรือนและมีเงินออมเพิ่มขึ้น 3.ชุมชนเข้าใจ มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง มีพืชผักที่ปลอดสารพิษไว้ใช้เองและจำหน่ายเพื่อนบ้านต่างถิ่น มีความรักความห่วงสิ่งแวดล้อมและมีสิ่งแวดล้อมในบริเวณครัวเรือนของตนเองดีขึ้น 4.รู้จักใช้เวลาว่างและพื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์ ทำของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันขึ้นใช้เองเช่นน้ำยาอเนกประสงค์  น้ำยาผ้านุ่ม ปุ๋ยหมักชีวภาพ ปุ๋หมักแห้ง เพาะถั่วงอ ฯลฯ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มสำหรับครัวเรือนของตนอย่างอัตโนมัติ 5.รวบรวมเอกสารหลักฐานจากการจัดกิจกรรมเพื่อจัดทำรูปเล่ม

กลุ่มแกนนำ  คณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ

ไม่มี

ไม่มี

แนะนำ แก้ไขข้อบกพร่อง และวิธีการเข้าล่ม

เดินทางมาที่บ้านผู้รับผิดชอบโครงการ ได้ตรวจเอกสาร รายงาน ค่าใช้่จ่ายและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับการดำเนินงาน เพื่อสรุปผลโครงการ

เอกสารการเงินรายละเอียดกิจกรรม ต้องมีการแก้ไขบ้างให้ตรงตามการจ่ายจริง ได้บอกแนวทางการแก้ไข และแนวทางการสรุปรายงานเพื่อเตรียมปิดโครงการ

คณะกรรมการและผู้รับผิดชอบโครงการและพี่เลี้ยง

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1. วิทยากรทบทวนกิจกรรมที่ปฏิบัติมาแล้วแต่ละกิจกรรมตั้งแต่ต้นมาถึงปัจจุบันโดยให้สมาชิกร่วมกันสดงความคิดเห็น
2. ให้สมาชิกทุกคนคัดเลือกกิจกรรมที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมที่จะนำมาปฏิบ้ติต่อไปเพื่อครัวเรือนของตนเองจะได้ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และเพิ่มเงินออม
3. สมาชิกทุกคนจึงได้กิจกรรม  1 - 2  กิจกรรมที่ได้ถอดบทเรียนมาเพื่อปฏิบัติในครัวเรือนของตนต่อไป

1. สมาชิกทุกคนมีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมทุกกิจกรรมมากขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตระจำวันได้มากขึ้น
2. สมาชิกมีความเข้าใจถึงกระบวนการ /วิธีการ และการดำเนินการกิจกรรมได้ดีมากขึ้น
3. แต่ละครัวเรือนสามารถถอดบทเรียนได้อย่างน้อย  1  กิจกรรม เพื่อไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างมั่นคง และยั่งยืน

สมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมแต่ละกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติมาแล้วและเลือกเพียงกิจกรรมเดียวที่ตนเองเห็นว่าเหมาะที่จะปฏิบัติต่อไปเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนของตนและเป็นการเพิ่มเงินออม เพิ่มรายได้ เป็นการเริ่มต้นการแก้หนี้แก้จน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ครัวเรือนจำนวน 89 ครัวเรือนเข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมกันถอดบทเรียน ได้อย่างน้อยครัวเรือนละ 1 เรื่อง เพื่อเป็นแนวทางแก้หนี้แก้จน

ชุมชนเกิดแนวทางการแก้หนี้แก้จนโดยการถอดบทเรียนอย่างน้อย  1  เรื่อง

สมาชิกจำนวน  89  คนร่วมประชุมเพื่อถอดบทเรียน

ไม่มี

ไม่มี

แนะนำ แก้ไขข้อบกพร่อง

1. แนะนำการทำเอกสารการรายงานการเงิน แก้ไขข้อบกพร่อง
   
2. การจัดกิจกรรมการถอดบทเรียน 3.วิธีการการปิดโครงการ

กรรมการผู้ดำเนินการมีความเข้าใจสามารถจัดทำรายงานการเงิน / ถอดบทเรียนและสรุปโครงการ ตามคำแนะนำ

ตรวจเอกสารการรายงานการเงิน  / แนะนำวิธีการการจัดกิจกรรมในการถอดบทเรียนและปิดโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

พบพี่เลี้ยงอีกครั้งเพื่อนำเอกสารมาตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง

ตามนัดแนะ ได้ดำเนินการตรวจรายงานการเงินและค่าใช้จ่ายในโครงการ การลงรายงานผ่านโปรแกรมออนไลน์ การแก้ไขปฏิทินที่มีปัญหา

ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงาน และรายงานการเงิน รวมทั้งการแก้ปัญหาการลงรายงาน ตามปฏิทินการดำเนินงาน บางรายการที่เป็นปัญหา

ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะทำงาน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1. ผู้นำจำนวน 20 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบผลปฏิบัติของโครงการ
2. แต่ละคนนำเสนอข้อมูลที่ศึกษามาจากบ้านของสมาชิกในเรื่องของการปฏิบัติกิจกรรมและผลที่ปรากฎ
3. ช่วยกันสรุปผลดี ผลเสีย ที่สมาชิก / ชุมชนได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม ควรขยายเครือข่ายต่อไปหรือไม่
4. ควรดำเนินการต่อไปอย่างยั่งยืนถาวร

1.สมาชิกผู้ร่วมโครงการมีความรู้ในเรื่องการปลูกผักแบบปลอดสารพิษ สามารถผลิตปุ๋ยชีวภาพ /สารไล่แมลงจากพืชสมุนไพรไว้ใช้เอง /และมีผักปลอดสารพิษไว้กินในครัวเรือนพร้อมทั้งได้
  รักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนด้วย 2.แต่ละบ้านที่เข้าร่วมโครงการได้ใช้พื้นที่ในบริเวณบ้านของตนเองอย่างคุ้มค่า / มีความสุขทางจิตใจเพราะได้ใกล้ชิดธรรมชาติและภูมิใจในผลงานของตน 3.ได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอย่างเห็นได้ชัดอย่างเป็นรูปธรรม เพราะผลิตของใช้ประจำวันใช้เอง เช่น น้ำยาอเนกประสงค์ น้ำยาผ้านุ่ม สบู่ เพาะถั่วงอก น้ำหมักชีวภาพ ปุ่ยหมักแห้งและมี   ความรู้ในการทำบัญชีครัวเรือนด้วยซึ่งได้รู้รายรับรายจ่ายและรายจ่ายที่ไม่จำเป็น  ซึ่งณ. เวลานี้หมู่บ้านได้รับการยกระดับเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ( โดยอำเภอเป็นผู้คัดเลือก ) 4. สิ่งแวดล้อมในชุมชนดีขึ้น สวยงามขึ้นโดยเฉพาะ 2  ฟากของถนนตลอดแนวหมู่บ้าน 

กรรมการผู้นำในการทำกิจกรรมในโครงการจำนวน  20  คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1. ตัวแทนของโซนแต่ละโซนนำเสนอผลงานของตนเอง ด้วยวิธีการใดก็ได้ เช่น อภิปราย / อธิบาย /สนทนา / ภาพ/ อื่นๆ
2. ซักถาม /และเสวนา ควบคู่กันไป  จนครบทุกโซน
3. สรุปแนวทางเพื่อนำไปขยายเครือข่าย (การขยายเครือข่ายแล้วแต่วิธีการของแต่ละโซน )
4. กำหนดให้โซน  1:4 

1. 89 ครัวเรือน มีความภูมิใจในผลของกิจกรรมที่ปรากฎเป็นรูปธรรมโดยพื้นที่ว่างกลายเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษ
2. ในครอบครัวมีผักปลอดสารพิษรับประทานซึ่งเป็นผลต่อสุขภาพ ทั้งกาย และจิตใจ
3. เป็นการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย  สะอาด และสวยงาม
4. ยังได้นำสิ่งเหล่านี้ขยายสู่เพื่อนบ้านและคนรอบข้างอย่างมีประสิทธิภาพ
5. ได้วางพื้นฐานการดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงขึันในชุมชน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1. ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกผู้ร่วมโครงการในเรื่องของการ ปลูก การบำรุงรักษา ผลผลิต ปัญหา อุปสรรค์ และการแก้ปัญหา
2. นำเสนอผลงาน ผลผลิตที่ประสบความสำเร็จเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติกิจกรรม
3. ติดตามผลงานที่บ้านของสมาชิกตามสภาพจริง แล้วให้สมาชิกในโครงการขยายผลสู่เพื่อนบ้านใกล้เคียง อย่างน้อย  1 : 1  ( เป้าหมาย คือ 1: 4 )

1. สมาชิกในโครงการปฏิบัติกิจกรรมอย่างจริงจัง มีผลผลิตบรรลุเป้าหมายและต่อเนื่อง ทำให้เห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวอย่างเป็นรูปธรรม
2. แต่ละครัวเรือนที่เป็นสมาชิกในโครงการมีผักปลอดสารพิษรับประทาน และแบ่งปัน แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
3. ทุกครัวเรือนในโครงการมีความรู้ สามารถผลิตปุ๋ยชีวภาพ /และสารป้องกันศัตรูพืชไว้ใช้เองในครัวเรือน ซึ่งเป็นการักษสภาพแวดล้อมในชุมชนด้วย
4. ทุกคนมีโครงการขยายเครือข่ายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นหมู่บ้านปลอดสารพิษ สู่ตำบล และอำเภอต่อไป

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1.นำเสนอกิจกรรมที่ได้นำเนินการไปแล้ว 2.ปัญหา / อุปสรรคในการดำเนินกิจกรรม / การปรับปรุงแก้ไข /ผลที่ได้รับ 3.ความก้าวหน้า /ผลดี ผลเสีย 4. วิเคราะห์หาแนวทางที่ดีที่สุดเพื่อดำเนินงานต่อไป 5. สรุปแนวทางการดำเนินงาน

1.ได้แนวทางในการดำเนินกิจกรรม ให้ทุกคนนำไปปรับปรุงแก้ไขในการทำกิจกรรมต่อไป 2.ขยายผลให้สมาชิกทุกครัวเรือนที่ร่วมกิจกรรม 3. กำหนดการติดตามผลต่อไป

ไม่มี

ทุกคนมมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเกษตรแนวใหม่สามารถนำไปปฏิบัติตามแนวของการแลกเปลี่ยนและติดตามผลที่บ้าน

ที่บ้านของสมาชิกทุกบ้านมีการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ โดยใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้เป็นประโยชน์ดดยใช้แนวของเกษตรแนวใหม่ เน้นปลอดสารพิษอย่างจริงจังและยั่งยืน

สมาชิก 50 คนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้แสดงความคิดเห็นสรุปแนวปฏิบัติไปปฎิบัติจริงที่บ้าน

ไม่มี

ไม่มี

แนะนำติดตาม

เดินทางไปตาม พี่เลี้ยงนัด และได้ร่วมกับพี่เลี้ยงในการตรวจสอบกิจกรรมที่ดำเนินการไปแล้ว และการลงรายงานในโปรแกรม

ร่วมกับพี่เลี้ยงได้ตรวจสอบเอกสารรายงานและ การลงรายงานผ่านโปรแกรม แก้ไขรายละเอียดที่ผิดพลาด

ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะกรรมการ

นัดครั้งต่อไปอีก ครั้ง

ไม่มี

ไม่มี

ผู้ดำเนินงานรายงานความก้าวหน้าของกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ติดตามผลกิจกรรมกลุ่มเกษตรแนวใหม่ ครั้งที่ 1/2/และครั้งที่ 3 ให้ที่ประชุมทราบ ซึ่งที่ประชุมแสดงความคิดที่หลากหลายเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสรุปสิ่งที่เหมาะมาปรับเป็นแนวการใช้ตามสภาพจริงและสอดคลัองกับกิจกรรมให้มากที่สุด จากนั้นมีการติดตามผลตามบ้านสมาชิกเพื่อให้คำแนะนำ ปรึกษา แก้ไขปัญหา อุปสรรค

กลุ่มเกษตรแนวใหม่มีความพึงพอใจที่ได้รับความรู้ และประสบการณ์ จากกรรมการ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการทำกิจกรรม ทุกคนในกลุ่มมีความต้องการจะดำเนินกิจกรรมต่อไป และขยายเครือข่ายในหมู่บ้านต่อไป

กลุ่มกรรมการจำนวน  20 คนเข้าประชุมเพื่อรับทราบความก้าวหน้าของกิจกรรมตามโครงการที่กำหนดไว้ตามแผนงาน และแสดงความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหา หรือ อุปสรรค

การใช้ปุ่ยเคมี และการใช้สารปราบศัตรูพืชของตลาด  จึงทำปุ๋ยหมักชีวภาพใช้เอง / เชิญวิทยากรมาแนะนำ ขณะนี้มีปุ๋ยชีวภาพและสารปราบศัตรูพืชที่ใช้พืชสมุนไพรในท้องถิ่นไว้ใช้เอง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของเกษตรอินทรีย์ต่อไป    

ไม่มี

ไม่มี

ตรวจสอบเอกสารการปฏิบัติกิจกรรม แนะนำ แก้ไขปัญหาที่บกพร่อง

แก้ไขเอกสารหลักฐานที่มีข้อบกพร่อง และหลักฐานการใช้งบประมาณ

กรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ติดตามแนะนำปรับปรุงจุดที่มีข้อบกพร่อง

นำเอกสารหลักฐานมาเสนอให้พี่เลี้ยงและสจรส.มอ. ดูแลความก้าวหน้าและความถูกต้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข

ได้ปรับปรุงส่วนที่เป็นปัญหา ตามคำแนะนำ ช่วยเหลือของพี่เลี้ยงและสจรส. มอ.

กรรมการในโครงการจำนวน  2 คน

ไม่มี

  ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ เป็นระยะ

ติดตามช่วยเหลือ

1. กำหนดวัน / เวลาออกเยี่ยมสมาชิกกลุ่มปลูกผักเพื่อติดตามผล
2. ผู้นำกิจกรรม  5  กลุ่มๆละ 5 คน ติดตามผลการปฏิบัติจากข้อ
         ตกลงของกลุ่มเครือข่ายในการปลูกพืช / ผัก ตามบ้านของละคน
3. ช่วยกันปัญหาและอุปสรรค  ฟังข้อเสนอแนะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แลกเปลี่ยนผลผลิตหรือพันธ์พืช
4. สรุปผลเพื่อดำเนินกิจกรรมและขยายเครือข่ายต่อไป

1. ได้รับประสบการณ์ตรงจากสภาพจริงเกี่ยวกับเทคนิควิธีการการปลูกพืชที่หลากหลายตามผลงานที่ปรากฏ
   1. ได้แนวคิดจากผู้ปฏิบัติจริงตามบ้านถึงเรื่องของปัญหา อุปสรรค และวิธีแก้ไข
   2. สมาชิกภูมิใจ ชื่นชมในผลงานของตนเอง เป็นผลทางจิตใจ และได้ออกกำลังกายไปในตัว แล้วมีทัศนียภาพที่ดีมากในบริเวณบ้านของตนเอง
   3. มีพืชผักที่ปลอดสารพิษไว้รับประทาน ลดรายจ่ายในครัวเรือน  เพิ่มเงินออม ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
   4. คนในครอบครัวได้ทำงานร่วมกัน คิดร่วมกัน แก้ปัญหาร่วมกัน ใช้เวลาว่างร่วมกัน ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคคี เห็นอกเห็นใจกันมากยิ่งขึ้น

  ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ดูระบบการดำเนินกิจกรรม แนะนำและช่วยปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง

เกิดความรู้และความเข้าใจที่ตรงกัน มีแนวทางการดำเนินกิจกรรมที่ตรงกันกับความต้องการของ สสส.

ผู้ดำเนินโครงการ  1 คน  และกรรมการ  1 คน

ไม่มี

ไม่มี

ติดตามผลเป็นระยะๆในขณะดำเนินกิจกรรม

1. กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการเข้าร่วมประชุม เวลา  9.00  น.
2. มีการอภิปรายถึงผลการดำเนินกิจกรรม เช่น  วิธีการดำเนินงาน  ผลที่เกิด  ปัญหา  วิธีการแก้ไข การดำเนินงานต่อไป
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างหลากหลาย  ช่วยกันสรุปแนวที่ดีที่สุดที่เป็นที่ยอมรับและเหมาะสม
4. สิ่งที่ต้องการให้ช่วยเหลือ ( ในสิ่งที่เป็นไปได้ )

1. รับรู้เกี่ยวกับปัญหา 2 อุปสรรค์ และการแก้ไข ที่หลากหลาย  มีวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมกับสภาพจริงและเป็นไปได้
2. ได้รับรู้ถึงแนวคิด การวางแผนงาน / การดำเนินงานที่สามารถนำมาเปรียบเทียบและหาวิธีการที่ดีที่สุดมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินการต่อไป
3. มีแนวโน้มการรวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

แกนนำในการดำเนินกิจกรรม จำนวน  20  คน  /  สมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการ  67  คน  ผู้นำชุมชน  2  คน  พัฒนากรอำเภอ  1  คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1.แกนนำเข้าร่วมประชุม  20 คน 2.รับฟังความก้าวหน้า / ปัญหาและอุปสรรค ของกิจกรรมในโครงการ 3.เสนอแนะวิธีการการแก้ปัญหาและอุปสรรคที่หลากหลาย 4.วิเคราะห์สรุปแนวทางเพียง 1 เพื่อนำไปปฏิบัติร่วมกันต่อไป

1. แกนนำเสนอแนะวิธีการการทำงานที่มีหลักการอิงสภาพจริงในชุมชน
2. รวมกลุ่มในการปฏิบัติกิจกรรมโดยระดมแรง ระดมความคิด มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
3. ศึกษา/หาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆเพื่อนำมาเป็นแนวทางการแก้ปัญหา

กลุ่มแกนนำเข้าร่วมประชุมจำนวน  20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1.แกนนำและสมาชิกแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ตนเองได้ไปปฏิบัติกิจกรรมเกี่ยวกับเกษตรแนวใหม่ ดังนี้         - การสร้างโรงเรือน         - เทคนิกวิธีการจัดการ         - การคัดเลือกพันธ์พืช / ผัก ที่ใช้ปลูก         - ปัญหา และอุปสรรค์

1. แกนนำและสมาชิกมีความสนใจ ในกิจกรรมอย่างเอาจริงเอาจัง
2. ทุกคนมีความกระตือรือร้น /นำเสนอวิธีการ เทคนิกที่คิดว่าตนเองทำแล้วได้ผล
3. มีการรวมกลุ่มกันเป็นโซนหมู่บ้านในการปฎิบัติกิจกรรม ( ช่วยเหลือโอบอ้อมอารี )
4. ช่วยกันแก้ไขปัญหา / และอุปสรรค
5. ชื่นชมในผลงานที่ดีของผู้อื่นและยอมร้บมาเป็นแนวทางของตนเอง

แกนนำ  20 คน  สมาชิผู้ร่วมโครงการ  69 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1.รวมกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2.จัดตั้งคณะทำงานเกษตรแนวใหม่

1.มีคณะทำงาน 2.มีการวางแผนการทำงาน

แกนนำ  20 คน / สมาชิกโครงการ  19  คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1. ศีกษาดูงาน
2. วิทยากรให้ความรู้
3. สร้างกลุ่มดำเนินการปฏิบัติ

1.เกิดองค์ความรู้ 2.เกิดแกนนำ 3.เกิดการวางแผนในการดำเนินงาน 4.เกิดความสามัคคี เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ประสานผู้รับผิดชอบโครงการ ว่าจะมีการลงไปร่วมนิเทศติดตามงานในพื้นที่ เกี่ยวกับการดำเนินงานกิจกรรมตามโครงการ

การดำเนินงานของกิจกรรมตามโครงการเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ แต่มีบางประการที่ควรแก้ไขคือแบบฟอร์มใบรับเงินให้ใช้ตามแบบฟอร์มของ สสส และการถือเงินสดในบัญชีควรไม่เกิน 5000  บาท

พี่เลี้ยงติดตาม จำนวน 2 คนและผู้รับผิดชอบโครงการ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1. ผู้นำจำนวน 20 คนเข้าร่วมประชุมติดตามผลจากกิจกรรม มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เปรียบเทียบ สรุปผลดีผลเสีย ผลที่ได้รับ
2. ได้แนวการปฏิบัติที่ได้ผลงานดีที่สุด มีประโยชน์ สมควรปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง สรุปนำมาเป็นแนวทางต่อไป
3. ผู้นำนำแนวทางนั้นสู่กลุ่มปฏิบัติ ต่อไปตามโซนของหมู่บ้าน

1. ผู้นำจำนวน 20 คน แบ่งโซนความรับผิดชอบเพื่อนำแนวทางไปแนะนำผู้ปฎิบัติและปฏิบัติเองเพื่อเป็นแบบอย่างต่อไป
2. เน้นให้กลุ่มต่างๆในโซนที่ผู้นำแต่ละคนรับผิดชอบต้องดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
3. ผู้ปฏิบัติกิจกรรม 1 ครัวเรือน หาเครือข่ายอีก  1  ครัวเรือน ภายในหนึ่งเดือน

ผู้นำในโครงการจำนวน  20  คน เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามผลและนำผลของกิจกรรมามวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ / แก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง

  1. ทุนในการดำเนินกิจกรรมครั้งต่อไปไม่ค่อยคล่องตัวเท่าที่ควร  จึงรวมกลุ่มกันเป็นโซน ตะวันออก /ตะวันตก / เหนือ / ใต้ / และกลางหมู่บ้าน 2. ศัตรูพืช / วัชพืช มีมาก ในฤดูแล้ง ยากแก่การปราบปราม  แม้ว่าจะใช้สารเคมีที่ผลิตจากพืชสมุนไพรแล้วก็ตามยังต้องผสมสารเคมีอีกนิดหน่อย 3. ขาดแคลนน้ำที่จะนำมาใช้ในกิจกรรมในโครงการ เนื่องจากภัยแล้ง ทำให้ผลสัมฤทธิ์ไม่บรรลุตามเป้าหมาย ( ยังไม่มีประปาในหมู่บ้านของตนเอง )

1.สนับสนุนโครงการแบบต่อเนื่อง 2.ดูแลติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

1. ดูแล / ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

1. คณะทำงานจำนวน 20 คนประชุมเพื่อรับทราบความก้าวหน้าของโครงการ
2. ช่วยกันวิเคราะห์ปัญหา และอุปสรรค เพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อนำมาดำเนินการต่อไป
3. ทำงานระบบกลุ่มมีความคิดหลากหลาย
4. ส่งเสริมการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างมีเหตุผล
5. ระดมพลังใจ พลังความคิด และพลังคน ในการทำงาน

1. ระดมพลังใจ พลังคน เพื่อสร้างชุมชนที่สดใส
2. มีการวางแผนก่อนการทำงาน
3. มีการวิเคราะห์ สรุปผลเพื่อนำมาแก้ปัญหา
4. ฝึกการทำงานเป็นทีม มีระบบ

ไม่มี

1.ติดตามผลการจัดกิจกรรม 2.เมื่อมีปัญหาให้คำแนะนำสามารถปรึกษาได้

1.ดูแลติดตามผลอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด

1. วิทยากรให้ความรู้ในการทำน้ำหมักปุ๋ยชีวภาพ เกี่ยวกับวัสดุ /อุปกรณ์ / และวิธีการทำ
2. แบ่งกลุ่มเพื่อปฏิบัติ  กลุ่มละ  20  คน  เป็นการสาธิตเชิงปฏิบัติการ
3. ได้น้ำหมัก หมักไว้ในถัง  4  ถังๆละ  25  ลิตร
   
4. หมักไว้ ณ. ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลนาเรียง  อำเภอพรหมคีรี  เป็นเวลา  4  เดือน  จึงเปิดให้ใช้ร่วมกัน

1. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกิดความรู้ ความเข้าใจในการทำน้ำหมักปุ๋ยชีวภาพ  สามารถทำได้ด้วยตนเอง
2. มีความรู้ว่าเมื่อใช้แล้วมีผลดีอย่างไร ต่อสภาพแวดล้อม ต่อตนเอง และต่อผู้บริโภค
3. เป็นการจุดประกายความคิดให้เกิดความรักษาความสมดุลย์ทางธรรมชาติ
4. เน้นให้เห็นความสำคัญของการรักษาสุขภาพตัวเอง และบุคคลรอบข้าง และสภาพชุมชน

1. กิจกรรมกลุ่มมักจะเกิดการเอารัดเอาเปรียบ  คิดแรง คิดเล็กคิดน้อย
2. สร้างความรัก ความสามัคคี  ไม่เห็นแก่ได้ ไม่เห็นแก่ตัว
3. มอบให้เป็นผู้นำ  มอบให้รับผิดชอบ  เป็นผู้จัดสรร

1 ต้องการให้ตัวแทนจาก สสส. เข่้าร่วมกิจกรรมทุกครั้ง

1. เยี่ยมบ่อยๆ  ดูแล แนะนำ

1. คณะทำงานประชุมเพื่อรับฟังความก้าวหน้าโครงการ
2. ช่วยกันวิเคราะห์ การทำกิจกรรมในปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป
3. นำแนวทางที่สรุปแล้วมาใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมต่อไป

1. ผู้นำทุกคนร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา ซึ่งทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย
2. เมื่อเกิดปัญหา / อุปสรรค  มีการระดมความคิดเพื่อแก้ปัญหาเป็นการทำงานที่เป็นทีม
3. ได้แนวทางในการแก้ปัญหาที่ชัดเจนซึ่งกลุ่มแกนนำได้วางแผนร่วมกันอย่างเป็นระบบ

1. ทำงานอย่างเป็นระบบ และยึดการทำงานเป็นทีม
2. รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างมีเหตุผล
3. กำหนดการทำงานโดยยึดแนวทางในทางเดียวกับจุดมุ่งหมาย

อยากให้ตัวแทนจาก สสส. ดูแล แนะนำ อย่างต่อเนื่องทุกกิจกรรม

1. แนวทางการจัดกิจกรรมโครงการ
2. การคิดแจกแจงรายจ่ายแยกตามกิจกรรม

  ประชุมสภาผู้นำเพื่อรับทราบความก้าวหน้าของโครงการ /มีการอภิปรายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม / เมื่อมีปัญหาจะร่วมกันแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายแล้วสรุปเพื่อหาแนวทางในการปฏิบัติในครั้งต่อไป /มีการนำผลมาเปรียบเทียบเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงาน ผลดีที่ควรยกย่องชมเชย ผลเสียที่ควรแก้ไขปรับปรุง เน้นการสร้างพลังใจ พลังสามัคคี และรักษาไว้ซึ่งความปลอดสารเคมี เพื่อสุขภาพของคนในชุมชน

  ได้แนวทางในการปฏิบัติในครั้งต่อไป ซึ่งเป็นแนวทางในการระดมความคิดจากคณะทำงานที่ยึดวัตถุประสงค์ / เป้าหมายของโครงการบูรณาการกับสภาพจริงของสังคมและพื้นที่ในชุมชน เน้นการเกิดองค์ความรู้ในการใช้จ่ายอย่างประหยัดและเน้นให้บุคคลในชุมชนหันมาสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ครอบครัวโดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และปลอดสารเคมี  ห่างไกลจากบุหรี่และสุราเพื่อสุขภาพของตนเอง

ปัญหาเกิดขึ้น ระดมความคิดเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล

ไม่มี

1.ให้คำแนะนำ 2.ให้ความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาในการดำเนินกิจกรรมโครงการและติดตามผลบ่อย ๆ

วิทยากรสาธิตการทำน้ำยาอเนกประสงค์ หลังจากการสาธิตแล้ว แบ่งกลุ่มสาธิตเชิงปฏิบัติการ โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จัดกลุ่มตามความสมัครใจ กลุ่มละ 10 คน ศึกษาด้วยตนเองเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเองตามสภาพจริง มีประสบการณ์ตรงมีปัญหาเกืดขึ้นก็ระดมพลังสมองแก้ปัญหา เมื่อปฏิบัติเสร็จแล้วตั้งไว้ยะระหนึ่งแล้วบรรจุขวด นำมาอภิปรายถึงต้นทุน ราคาขาย ระยะเวลาในการใช้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน : เดือน ทุกคนพอใจในกิจกรรมและผลงาน ซึ่งได้เกิดกลุ่มผลิตน้ำยาอเนกประสงค์ขึ้น 1 กลุ่ม  สมาชิก  19  คน เป็นกลุ่มผลิตในชุมชนต่อไป และมีนโยบายรับสมาชิกเพิ่มตลอดเวลา  ผลที่ได้จากกิจกรรมแจกกลับไปให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทดลองใช้เพื่อบรรทึกข้อควรปรับปรุงมานำเสนอในเดือนถัดไป

  1.  ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกิดองค์ความรู้ในการทำน้ำยาอเนกประสงค์ สามารถทำขึ้นใช้เองในครัวเรือน เป็นการลดรายจ่าย / เพิ่มรายได้ในครัวเรือน
2. เกิดกลุ่มพลังงสตรีผลิตน้ำยาอเนกประสงค์ขึ้นในชุมชนเป็นต้นแบบและขยายสู่ชุมชนต่อไป 3. สามารถถอดบทเรียนได้อย่างหนึ่งเพื่อนำเป็นกระบวนการแก้หนี้แก้จนได้ต่อไป

ปัญหา : ในการรวมกลุ่มเพื่อการผลิตยังมีงบประมาณมีน้อย คือถ้าเป็นการระดมทุนสมาชิกก็มีกำลังน้อย
แนวทางแก้ไข : ใช้วิธีการกู้จากกองทุนหมุนเวียนที่มีอยู่ในชุมชน

น่าจะสนับสนุนงบประมาณเพื่อการผลิต

ติดตามผลเป็นระยะๆ ในขณะที่ดำเนินกิจกรรม

เชิญวิทยากรสาธิตการปลูกผักปลอดสารพิษแบบดาวล้อมเดือน / สาธิตการสร้างอาชีพโดยการเพาะถั่วงอก / สาธิตการทำสารไล่แมลงโดยพืชสมุนไพรในชุมชน

    หลังจากได้รับการสาธิตแล้ว จัดกลุ่มสาธิตเชิงปฏิบัติการโดยจัดฐานการปฏิบัติ  3 ฐาน แล้วหมุนเวียนจนครบกิจกรรม ทุกคนได้ปฏิบัติกิจกรรมซึ่งได้เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข และได้รับประสบการณ์ตรง ในการสาธิตการปลูกพืชแบบดาวล้อมเดือนจะได้รับประสบการณ์ไปจัดทำต่อที่บ้านของตนเอง / การปฏิบัติกิจกรรมการเพาะถั่วงอกผลที่ได้ของใครคนนั้นก็รับได้ดูแลรักษาที่บ้านของตนต่อไป / สำหรับสารไล่แมลงจากพืชสมุนไพรต้องตั้งหมักไว้อีก 4 เดือน ณ.ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านโดยมีการนัดหมายมาศึกษาต่อในเดือนมกราคม  แต่ละกลุ่มอภิปรายสรุปว่าจะนำขยายสู่ชุมชนต่อไป

ปัญหา :  เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เอาเปรียบผู้อื่น ขาดความรับผิดชอบ ไม่มีจิตสาธารณะ แนวทางแก้ไข : ให้เป็นผู้นำกลุ่ม  มอบหมายงาน

ไม่มี

ไม่มี

คณะทำงานจำนวน 20 คน เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกันเพื่อรับทราบความก้าวหน้าของโครงการ  พร้อมที่อภิปรายเสวนาเพื่อแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในการสรุปหาวิธีการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคเมื่อเกิดปัญหาและเพิ่มเติมข้อบกพร่อง มีความคิดเห็นที่หลากหลายตามเหตุผลของแต่ละคน แล้วนำมาประมูลสรุปแนวทางปฏิบัติในการการแก้ปัญหา กิจกรรมใดที่ไม่มีปัญหาก็เสริมแต่งใหัเด่นชัดขึ้น ซึ่งแต่ละกิจกรรมจะยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียงและปลอดสารเคมีเพื่อบรรลุเป้าหมายตามโครงการ

จากการที่คณะทำงานมีความคิดที่หลากหลายทำให้เกิดแนวคิดมากมายสามารถนำมาประมวลสรุปได้แนวทางการดำเนินงานเป็นตัวชี้วัดที่น่าพอใจสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการเป็นอย่างดี เกิดการทำงานอย่างมีระบบ มีแบบแผน มีการระดมความคิด  เกิดพลังใจ พลังคน พลังความสามัคคี

1. ปัญหา : เกิดจากการเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เอาเปรียบผู้อื่นในเวลาปฏิบัติกิจกรรม  พูดมากกว่าทำ
   
2. แนวทางในการแก้ปัญหา: ทำงานเป็นกระบวนการกลุ่มตั้งให้เป็นผู้นำกลุ่ม  สร้างพลังใจ พลังสามัคคี
3. พยายามให้สมาชิกมีเหตุผล เห็นแก่ส่วนรวมให้มากขึ้น ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง /และใช้แนวการแก้ปัญหาของคณะทำงาน

ไม่มี

ดูแลทุกระยะ

เชิญวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีครัวเรือนแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งเป็นครอบครัวตัวอย่าง และครอบครัวเครือข่าย  อภิปรายเกี่ยวกับ ประโยชน์ของบัญชีครัวเรือน / ฝึกวิเคราะห์รายรับรายจ่าย ปฏิบัติจริงในการทำบัญชีครัวเรือน

  ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ด้วยตนเองในการทำบัญชีครัวเรือน  รู้ถึงประโยชน์ของการทำบัญชีครัวเรือน  สามรถวิเคระห์รายรับ รายจ่ายของครัวเรือนได้ ซึ่งร้อยละ 50 สามารถทำบัญชีครัวเรือนได้คล่อง /วิเคราะห์รายรับรายจ่ายเป็น แยกแยะได้และสามารถเป็นวิทยากรต่อเพื่อนได้ ขยายเครือข่ายได้
ร้อยละ 50 มีความคล่องตัวในการเขียนและบันทีกลงในสมุดและแนะนำเพื่อนร่วมกิจกรรมได้ดี แจกสมุดบันทึกบัญชีครัวเรือนไปคนละ 1 เล่ม  บันทึก 3 เดือน  นำมาประชุมปรึกษากันเดือน3 : 1 ครั้ง ทุกคนรับสมุดบัทึกการทำบันชีครัวเรือนไปด้วยคำม้่นสัญญาว่าจะทำดูว่าผลการใช้จ่ายเป็นอย่างไรหลังจากบันทึบัญชีครัวเรือนแล้ว จะได้นำผลมาอภิปรายกันอีกในเดือนธันวาคม ได้กลุ่มแกนนำ  1  กลุ่ม  จำนวน  5  คน ไว้เป็นผู้แนะนำในการประชุมครั้งต่อไป 

1. บางคนวิเคราะห์ไม่เป็นว่าเป็นรายรับหรือไม่ ต้องยกตัวอย่างเปรียบเทียบหลายกรณี
2. เขียน / และอ่านหนังสือไม่ชำนาญเป็นส่วนใหญ่จึงต้องเป็นไปอย่างช้า ๆ ต้องใช้เวลา ต้องใจเย็นในการปฏิบัติกิจกรรม
3. แนะนำให้ลูกหลาน / หรือบุคคลในครอบครัวที่อ่านคล่องเขียนคล่องเป็นผู้บันทึกโดยช่วยกันวิเคราะห์เป็นรายวัน

ไม่มี

ไม่มี

      รับฟังรายงานความก้าวหน้าของโครงการ และ เสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการดำเนินกิจกรรม / ทำอย่างไรให้ชุมชนไดรับผลประโยชน์อย่างทั่วถึง  เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอย่างถาวรและยั่งยืน  เน้นการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้อย่างชัดเจนปรากฎอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งใช้แนวการดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
      จากการทำกิจกรรมมีปัญหา/อุปสรรค หรือไม่  อย่างไร  / แสดงความคิดเพื่อแก้ไขปัญหาอย่งมีเหตุผลและสอดคล้องกับสภาพชุมชนที่แท้จริง

ผู้นำรับทราบความก้าวหน้าของกิจกรรมในโครงการ/ รับรู้ ปัญหา อุปสรรค์/ และได้ร่วมกันเสนอแนะแนวทางวิธีการแก้ปัญหา
มีการเสวนา วิเคราะห์ปัญหา หาแนวทางการแก้ปัญหา สรุปเป็นแนวการดำเนินกิจกรรมต่อไป

ดูแลอย่างทั่วถึง

ติดตามผลเป็นระยะๆ

ประชุม ปฐมนิเทศ กรรมการชุมชน และ ตัวแทนภาคครัวเรือน จำนวน 85 คน  กล่มเป้าหมายได้มาประชุมพร้อมกัน และเกิดความตระหนักความเข้าใจ ร่วมมือในการดำเนินงานตามโครงการ

1.ตัวแทนจากครัวเรือนเข้าเข้าร่วมกิจกรรมตามเป้าหมายของโครงการ และมีบุคคลจากภาคคีอื่น คือ พัฒนากรอำเภอ /สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล /ข้าราชการครูในพื้นที่ /อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน ฯลฯ 2.ตัวแทนจากภาคครัวเรือนมีความเข้าใจในโครงการ และการดำเนินกิจกรรมของโครงการ ตามวัตถุประสงค์ และเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อร่วมกันสร้างชุมชนให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็งต่อไป 3.ตัวแทนจากครัวเรือนอย่างน้อยร้อยละ 50 มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำบัญชีครัวเรือน และสามารถทำบัญชีครัวเรือนได้ และทำอย่างต่อเนื่อง 4.อย่างน้อยร้อยละ  50  ของตัวแทนครัวเรือนสามารถวิเคราะห์รายรับรายจ่ายและรายจ่ายที่ไม่จำเป็นของครัวเรือนของตนเองได้ 5.อย่างน้อยร้อยละ  50  ของครัวเรือนเข้าร่วมกิจกรรมการสร้างมูลค่าเพิ่มตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงด้วยความมั่นใจ

1.ประชุมทำความเข้าใจหลังจากปฎิบัติกิจกรรมแล้ว 2.ซักถามปัญหา / อุปสรรค เพื่อร่วมกันแก้ไข 3.รวมรวมความต้องการที่มีเหตุผลและสอดคล้องกันโครงการต่อไป

ไม่มี

ไม่มี