ปิดโครงการ
ตรวจเอกสารการเงิน ผลการำเนินงาน และจัดทำเอกสารปิดโครงการ
ตรวจเป็นที่เรียบร้อย ดำเนินการส่งเอกสารปิดโครงการ ได้แก่ ส. 3 , ส. 2 , ง.1 งวด 2 , ง.2 และ ส.4
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ประธานโครงการและสมาชิกโครงการ
-
-
-
เพื่อตรวจรายงานปิดโครงการ
- สจรส.ตรวจรายงานปิดโครงการ
- ได้เรียนรู้การทำเอกสารและเวปปิดโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน
- ไม่มี
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อติดตามการทำรายงานปิดโ๕รงการ
- พบว่ายังทำกิจกรรมไม่ครบทุกกิจกรรม ยังขาด 1 กิจกรรม
- พี่เลี้ยงตรวจเอกสารการเงินพบว่า ใบลงทะเบียนไม่ครบตามกิจกรรม
ขาดใบสำคัญรับเงินและหลักฐานวิทยากรบางกิจกรรม ผู้จ่ายเงินลงลายมือชื่อไม่ครบ - ตรวจรายงานหน้าเวปไซด์ พบว่าขาดการรายงาน 1 กิจกรรม
คุณภาพรายงานต้องปรับปรุงเรื่องสรุปผลกิจกรรมที่ได้
ให้เขียนให้เห็นถึงผลลัพธ์หรือผลผลิต
- ได้ตรวจรายงานและรับข้อชี้แจงไปแก้ไข
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้านและบัณฑิตอาสา
-ไม่มี
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อทำป้ายปลอดบุหรี่และล้างอักขยายภาพ
ทำป้ายปลอดบุหรี่และล้างอักขยายภาพ
- ได้ป้ายรณรงค์ห้ามสูบบุหรี่
- ทำภาพสีสวยงามไว้ประกอบรายงานสรุปโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้านและบัณฑิตอาสา
-ไม่มี
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อทำรายงานปิดโครงการ
- พี่เลี้ยงแนะนำการทำรายงานการเงินและตรวจสอบร่วมกัน
พบว่ายอดเงินไม่ตรง ต้องไล่หาทีละกิจกรรม - พี่เลี้ยงให้คิดผลลัพธ์ตัวชี้วัดโครงการที่ได้
- ให้กลับไปตรวจสอบการเงินทางเวปต่อเนื่องจากยังไม่เรียบร้อย
- ได้สรุปผลงานตัวชี้วัด
- ได้เรียนรู้การตรวจสอบการเงินหน้าเวป
- ได้เรียนรู้การเขียนสรุปผลงาน
- ปริ้นรายงานทำรูปเล่มจำนวน 10 เล่ม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้าน 1 คน
- บัณฑิตอาสา 1 คน
- การเงินไม่ลงตัว ต้องกลับไปใช้เวลาทบทวนไล่หาทีละกิจกรรม
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมธนาคารปูให้บุคคลภายนอกรับทราบ
บริเวณอาคารธนาคารปู มีไวนิลอธิบายเกี่ยวกับการทำธนาคารปู วงจีชีวิตปู และกติกาการอนุรักษ์ปู
ได้เชิญประมง หน่วยงานป่าชายเลน อบต.เกาะสาหร่าย และทีมพี่เลี้ยงมาร่วมงาน
ปรากฎว่าหน่วยงานประมงและป่าชายเลนติดงานจึงไม่ได้มาร่วม
มีทีมนายกอบต.และทีมพี่เลี้ยงมาร่วม 30 คนมีเยาวชน 2 คน บรรยายให้ฟังเรื่องเกาะโตดคร่าง จากนั้นประธานธนาคารปูเล่า
ความเป็นมาของธนาคารปูว่าเริ่มตั้งแต่สมเด็จพระเทพเสด็จ ได้หยุดไปช่วงหนึ่ง
เนื่องจากโครงไม้ที่กั้นอยุ่ในทะเลชำรุดผุพัง ต่อมาเปลี่ยนเป็นโครงไฟเบอร์ทำได้ช่วงหนึ่งก็หยุดอีก
เพราะไม่มีเวลาไปดูแลให้อาหารแม่ปู เมื่อมาทำโครงการกับสสส ได้มีแนวคิดจากการดูงาน
ว่าสามารถอนุบาลแม่ปูในอ่างพลาสติกได้ ให้ผลอาจไม่เท่ากับเลี้ยงในธรรมชาติแต่
ไม่ต้องดูแลแม่ปูมาก จึงทำแบบนี้เรื่องมา มีกติกาให้สมาชิกเอาปูแม่ไข่มาบริจาคน้ำละ 2 ตัว(15 วัน)
บุคคลภายนอกร่วมบริจาคเงินสำหรับซื้อแม่ปูไข่ ไม่จัดกิจกรรมปล่อยปูไข่ให้ธนาคารเนื่องจากช่วงนี้มีแม่ปูแน่นอ่าง
ไม่ได้จัดกิจกรรมหาหอย เนื่องจากเป็นช่วงน้ำใหญ่ น้ำทะเลเวลาน้ำลงแห้งไม่มาก ไม่สามารถหาหอยได้
ทีมพี่เลี้ยงได้นำจำปะดะมาทอดกินเล่นหลังอาหารเที่ยง ได้เผื่อแผ่และตอบแทนที่ชาวเกาะจัดเลี้ยงอาหาร
- ในวงการบรรยายชาวบ้านเล่าว่า การทำธนาคารปุได้ผลดีมาก ตอนนี้ที่น้ำทะเลริมชายฝั่ง
จะเห็นลุกปูตัวเล้กๆเต็มไปหมด บางครั้งมีชาวบ้านเก็บปูได้เป้นกิโล
ปัญหาของการทำธนาคารปูคือ มีคนจากภายนอกมาทำหยองปู ที่ปูจะติดหยองทั้งตัวเล็ก
ตัวใหญ่ ชาวบ้านเกาะโตดรู้สึกเสียกำลังใจ เคยทำแนวเขตจากงบ สสส.ตอนนี้พวกที่
เข้ามาก็ตัดสายทิ้งทุ่นแนวเขตหมด อยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้
มีกิจกรรมปลุกป่าชายเลนด้วยฝักโกงกางจำนวน 300 ฝัก
บุคคลภายนอกทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมต่างรู้สึกเข้าใจการอนุรักษ์ปู และจะช่วยรณรงค์
ไม่ซื้อปูตัวเล็กที่ยังไม่โตเต็มวัย รู้สึกเห็นใจชาวเกาะโตดที่พยายามอนุรักษ์แต่มีคนภาย
นอกมาทำลายกติกา และการปลูกป่าชายเลนเด็กๆที่มาสนุกกันมาก ประกอบกับการ
บรรยายถึงคุณประโยชน์ของโกงกางที่ซับคลื่นและเป็นที่วางไข่ของสัตว์ทะเล
- เกิดกระแสการอนุรักษ์ปูและป่าชายเลน
- บุคคลภายนอกมีความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติป่าชายเลนมากขึ้น
- บุคคลภายนอกและชาวบ้านที่เกาะเกิดความสัมพันธ์อันดี
- มีวงเสวนาปัญหาการทำธนาคารปู เพื่อให้อบต. ผู้ใหญ่บ้านติดต่อ หน่วยราชการมาช่วยเหลือแก้ไขต่อไป
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- กลุ่มผู้นำชุมชน อิหม่าม สมาชิกธนาคารปู กลุ่มสตรี และเยาวชน 90 คน
- บุคคลภายนอก 30 คน
- น้ำทะเลขึ้นลงไม่เหมาะแก่การหาหอยจึงไม่ได้จัด 1 กิจกรรม
ไม่ม่
ไม่มี
เพื่อประชุมหมู่บ้าน แจ้งข่าวสารจากที่ว่าการอำเภอ และเตรียมงานเปิดศูนย์เรียนรู้และ.สรุปงาน สสส.
- เตรียมการจัดงานเปิดศูนย์เรียนรู้ปูไข่และป่าชายเลย
- สรุปถอดบทเรียนสิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในการทำโครงการ
ได้เตรียมงานวันเปิดศูนย์เรียนรู้
นายดลฮอนี แจ้งว่ายังไม่สามารถจัดกิจกรรมเปิดศูนย์เรียนรู้ตามแผนในเดือนนี้ได้
เนื่องจากการปรับปรุง ตกแต่งศูนย์เรียนรู้ยังไม่เสร็จ และการประสานงานกับผู้ใหญ่ที่อำเภอ
ยังไม่ได้วันที่ท่านว่าง จึงขอเลื่อนจัดกิจกรรมไปไม่มีกำหนดวัน แต่ให้ทุกคนช่วยออกแบบกิจกรรม
แกนนำสตรีเสนอว่าให้มีการเล่านิทานท่นักเรียนแต่ง มีการแสดงนักเรียน
และมีการทำอาหารพื้นบ้านเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานกลุ่มธนาคารปูเสนอว่าให้มีการจับปูไข่มาให้ผู้มาร่วมงานปล่อยปูไข่ในธนาคารพร้อมบริจาคตัวละ 50 บาท
เยาวชนเสนอว่าให้มีการปลูกป่าชายเลน แต่ผู้ใหญ่หลายคนแนะนำว่าอาจ
ไม่เหมาะในช่วงเวลาการทำกิจกรรมที่จะแยกไปปลูกป่าชายเลน
อาจต้องตัดกิจกรรมนี้ออกไป
แขกที่จะเชิญได้แก่ ประมงจังหวัด ป่าชายเลนที่ 41 นายอำเภอหรือตัวแทน อบต.เกาะสาหร่าย(ใหญ่) พี่เลี้ยง เป็นต้น
ผู้ใหญ่บ้านมอบนายนัสรี บัณฑิตอาสา สรุปกิจกรรมเพื่อประชุมกลุ่มเล็กเตรียมการประสานต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- สมาชิกกลุ่มธนาคารปู 10 คน
- เยาวชน 5 คน
- แกนนำสตรี 13 คน
- ผู้สูงอายุ 7 คน
- ไม่มี
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อประชุมหมู่บ้าน แจ้งข่าวสารจากที่ว่าการอำเภอ และติดตามงาน สสส.
- หลังละหมาดวันศุกร์นายดลฮอนี ผู้ใหญ่บ้านกล่าวขอบคุณชาวบ้านที่มาลงแรง
ช่วยกำจัดเศษปูนที่ทุบมัสยิดหลังเก่า และช่วยกันลงแรงก่อสร้างโรงอาหาร
ของโรงเรียนตาดีกาจนแล้วเสร็จ
- ผู้ใหญ่บ้านแจ้งข่าวจากอำเภอเมืองสตูลว่าหน้าแล้งนี้ทางอำเภอให้สำรวจระยะ
เวลาที่น้ำไม่พอใช่ แต่สถานการณ์ยังไม่ถึงภาวะขาดแคลนน้ำ เนื่องจากชาวบ้าน
ยังมีน้ำที่กักตุนไว้ใช้และน้ำบ่อยังไม่แห้งขอด จึงดำเนินการสำรวจไปเรื่องๆ
หากเกิดภาวะแล้งจัดสามารถขอความช่วยเหลือไปทางอำเภอได้
- ผู้ใหญ่แจ้งผลการเยี่ยมศูนย์พยาบาลที่สำนักงานสาธารณสุขว่าได้มอบเปลนอน
และเครื่องวัดความดัน เครื่องวัดระดับน้ำตาลและทำการอบรมอสม.ให้ตรวจเบื้องต้น
กำลังดำเนินการจัดหาเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานประจำโดยจัดเจ้าหน้าที่จากเกาะสาหร่ายใหญ่มาอยู่
- นายนัสรีแจ้งการติดตามงาน สสส. ว่า มีกิจกรรมเหลืออีก 1 กิจกรรม คือ
การเปิดศูนย์เรียนรู้ ซึ่งจะมีการเตรียมการเดือนหน้าให้ทุกคนมาช่วยกันคิดว่าจะจัดงานอย่างไร
และเชิญใครมาร่วมบ้าง
ผู้ใหญ่บ้านและแกนนำจะหาวันที่สามารถเชิญคนภายนอกมาได้ และจะแจ้งวันเวลาให้ทราบอีกครั้ง
นายนัสรี สรุปงบประมาณ สสส.ให้ฟังว่า ตอนนี้ใกล้หมดงวดที่ 2 จะต้องใช้เงินให้หมด
แต่เนื่องจากการไปธนาคารลำบากจึงยังไม่ได้เบิกเงินมา ใช้งบประมาณส่วนตัว
ของผู้ใหญ่บ้านไปก่อน และบัญชีรายจ่ายดังเอกสารบัญชีของสสส.
- ได้แจ้งข่าวสารจากส่วนราชการ
- ชาวบ้านมามีส่วนร่วมรับรู้และนำข่าวไปกระจายต่อ
- ได้เตรียมงานสสส.ในลำดับต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชน 5 คน
- กลุ่มปูไข่ 15 คน
- กลุ่มแกนนำสตรี 5 คน
- ผู้สูงอายุ 10 คน
- ไม่มี
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อประชุมหมู่บ้าน ชี้แจงข่าวสารจากที่ว่าการอำเภอ และติดตามผลงานสสส.
- หลังละหมาดวันศุกร์ นายดอฮอนี ผู้ใหญ่บ้านเปิดประชุมสภาผู้นำชุมชน
แจ้งข่าวจาก สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองว่าจะมาเยี่ยมติดตามการสร้างอนามัย - นายดอฮอนี มอบหมายให้นายนัสรีรายงานผลงานสสส.
นายนัสรีแจ้งว่ากลุ่มปูไข่มีการตกลงทำกองทุนเพื่อบริจาคคนยากไร้
ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมประชุมแสดงความเห็นว่าการนำเงินกำไรออกมาบริจาคแก่ผู้ยากไร้เป็นหลักการที่ดี
- นายดลฮอนี ขอความร่วมมือชาวบ้านมาช่วยปรับซากอิฐหินที่ทุบมัสยิดเดิมให้ไม่รก
เพื่อต้อนรับทีมสาธารณสุขต่อจากการประชุม
- ได้แจ้งข่าวจากสาธารณสุขอำเภอเมืองสตูล
ได้ชี้แจงเรื่องกองทุนกลุ่มปูไข่ ใช้เงินร้อยละ 3 ของเงินทุนหมุน เพื่อซื้อข้าวสารแจกแก่คนยากไร้ และขณะนี้มีเงินของกลุ่มปูไข่ 3,000 บาท
จะให้สมาชิกออมสมทบคนละ 100 บาทต่อเดือน เมื่อครบ 10,000 บาทจึงเริ่มให้กู้ยืม โดยไม่คิดดอกเบี้ยแต่ ให้บริจาคแม่ปูไข่ 4 9 วันต่อเดือน และต้องคืนเงินภายใน 2 เดือนได้ช่วยกันพัฒนาสภาพแวดล้อมมัสยิด
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชน 5 คน
- ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ 5 คน
- แกนนำสตรี 17 คน
- กลุ่มปูไข่ 13 คน
- ผู้สูงอายุ 5 คน
- กลุ่มปูไข่ 13 คน
- ไม่มี
-ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อให้สมาชิกกู้ยืม
- นายดลฮอนีชวนสมาชิกกลุ่มปูไข่คุยถึงสถานะการเงินปัจจุบัน
จากรายงานมีเงินเข้ากองทุนประมาณ 3,000 บาท ว่าจะจัดแบ่งเงินออกเป็น 2 กลุ่มคือ
เงินบริจาคช่วยผู้ด้อยโอกาส และจัดเป็นกองทุนกู้ยืมแก่สมาชิก
- สมาชิกเสนอว่าให้มีการออมให้มียอดเงินครบ 10,000 บาทก่อนค่อยเริ่มให้กู้ยืม
โดยให้สมาชิกออมสมทบไปก่อน
- มีการประชุมตกลงว่าจะสมทบเดือนละ 2 ครั้งคือน้ำละครั้ง(ทุกวันครบ 15 ค่ำ)
เดือนละ 100 บาท เมื่อครบ 10,000 บาทห้ปล่อยกู้ยืมให้แก่สมาชิก โดยให้ยืมครั้งละ
ไม่เกิน 2,000 บาท ต้องจ่ายคืนภายใน 2 เดือน ไม่เก็บดอกเบี้ย
แต่ให้นำแม่ปูไข่มาบริจาคเข้าธนาคารปูไข่ 4 ตัวต่อเดือน
- กลุ่มที่ 2 ที่จัดเป็นเงินบริจาคให้บริจาคเป็นเงินร้อยละ 3 ของเงินทุนหมุนเวียนของเดือน
นั้นไปซื้อข้าวสารให้ผู้ยากไร้ตามหลักศาสนาเดือนละ 1 ถุง
- นายดนฮอนีสรุปว่า เมื่อทุกคนเห็นด้วยตามข้อตกลงให้นายนัสรีบันทึก
ระเบียบและแจกให้กับสมาชิกทุกคน เมื่อเงินครบ 10,000 บาทให้มาประชุมตกลงลำดับการกูยืมเงินต่อไป
- สมาชิกกลุ่มปูไข่ได้เก็บเงินออม
- สมาชิกกลุ่มปูไข่มีกองทุนเงินที่จะกู้ยืมในอนาคต
ได้น้อยกว่าเป้าหมายมาก (1)
ประกอบด้วย
สมาชิกธนาคารปูไข่ 40 คน
- ไม่มี
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการและประชุมหมู่บ้าน
- กำกับติดตาม การปฏิบัติตามกติกาหมู่บ้านด้านการอนุรักษ์ฯ
- แจ้งข่าวจากที่ว่าการอำเภอ
- กำกับติดตาม การปฏิบัติตามกติกาหมู่บ้านด้านการอนุรักษ์ฯ
- แจ้งข่าวจากที่ว่าการอำเภอ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สภาชุมชน วัยทำงาน 30 คน และเยาวชน 5 คน
-ไม่มี
-ไม่มี
-ไม่มี
เพื่อสร้างจิตสำนึกและเพิ่มความรู้เรื่องปูให้แก่สมาชิกกลุ่มปูไข่และผู้สนใจ
นายดลฮอนี ผู้ใหญ่บ้านทำการประสานงานเชิญวิทยากรจาก ป่าชายเลนที่ 41 มาบรรยายเรื่อง ปูม้า
วิทยากรสอนเรื่องระยะเวลาที่ปูถูกสลัดไข่ออกจากตัวแม่จนจนเป็นตัวโตเต็มวัย
แนะนำเรื่องการดูไข่ที่สมบูรณ์ที่สามารถปล่อยจากบ่ออนุบาลลงทะเลได้
ปูที่โตเต็มที่ขนาดประมาณ 15-20 เซนติเมตร จะออกไข่ประมาณ 200,000 - 3,000,000 ฟอง
และปล่อนลงสู่ทะเลตามธรรมชนายดลฮอนีได้ชวนให้ผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์ทำอวนปูมานานพูดคุยเสวนา
นาย บ่าว เหมรา เล่าว่า การทำอวนปูเมื่อก่อนไม่ต้องออกไปไกล ก็ได้ปูเต็มลำ
สาวมาก็เห็น เอาแค่ว่าปลดไหว ถ้าปูตายมากจะไม่ได้ราคา แต่เดี๋ยวนี้ต้องออกไปไกล เราจะสามารถปล่อยปูตัวเล็กที่ไม่ได้ขนาดลงกลับทะเลได้ แต่การทำโพงพาง
การดักด้วยไซจะได้ปูทุกขนาดและมาปลดปูเพื่อปล่อยไม่ทัน ปูจะตายก่อนที่คนจะมา ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่จะอนุรักษ์ปู และทำกินแบบพอเพียง คือ การมีจิตสำนึกของชาวประมงมอบหมายให้นายนัสรี สรุปความรู้ที่ได้ในวันนี้ทำเป็นเอกสารแจกแก่ชาวบ้าน
และส่งมอบให้ครูทำเป็นหลักสูตรสอนในโรงเรียนประถมในหมู่บ้านต่อไปยังไม่ได้ดำเนินการแจกเอกสารแก่ชาวบ้าน รอให้นายนัสรี ทำเอกสารให้เสร็จก่อน
- ได้เรียนรู้เรื่องปูม้าอย่างละเอียด
- ผู้สูงอายุได้มาเล่าประสบการณืการทำอวนปูเมื่อ 50 ปีก่อนและสภาพความอุดมสมบูรร์ของสัตว์ทะเลเมื่อก่อน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- สภาชุมชน กลุ่มปูไข่ ผู้สูงอายุ รวม 50 คน
- (สภาผู้นำชุมชนเป็นสมาชิกกลุ่มปูไข่ด้วย)
- ไม่มี
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการและประชุมหมู่บ้าน
- นายดลฮอนี ผู้ใหญ่บ้านแจ้งขอบคุณชาวบ้าน เยาวชนที่ร่วมกันปลูกป่าชายเลนที่ผ่านมา
เป็นการปลูกต่อเนื่องจากการที่ได้ทำโครงการ สสส.ปีที่แล้ว ในปีนี้ยังมีต้นกล้าที่เก็บเพาะชำไว้
เหลือจึงนำมาปลูกกันเอง ไม่ได้ใช้งบ สสส. และจะปลูกต่อไปเรื่อยๆเพราะพื้นที่ชายเลนของเราดินแข็ง
ปลูกต้นไม้ติดยาก และมีหอยมากินต้นอ่อน มีแพะมาแทะจึงขอให้ผู้ที่มีแพะช่วยอย่านำแพะ
ไปเลี้ยงบริเวณที่ปลูกป่า เพราะแพะลงไปกัดแทะต้นอ่อนที่ปลูกติดแล้ว
- ผู้ใหญ่แจ้งข่าวจากที่ว่าการอำเภอ ดังนี้ นานยอำเภอเมืองได้ฝากสวัสดีปีใหม่มายังชาวบ้านทุกคน
และอวยพรปีใหม่ให้มีสุขภาพแข็งแรง มีกินมีใช้อย่างพอเพียง และขอให้เราทุกคนทำกิจกรรมพ่อ
แสดงความจงรักภัคดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ทรงหายพระประชวรโดยเร็ว
- ช่วงนี้จะมีผู้หลักผู้ใหญ่จากจังหวัดบ่อยขึ้นเนื่องจากมาติดตามอนามัยที่กำลังก่อสร้าง
ขอให้ชาวบ้านให้การต้อนรับและให้ความร่วมมือกับทางการ
นายนัสรี แจ้งผลกิจกรรมการจัดให้เยาวชนได้แต่งนิทานเรื่องการอนุรักษ์ปูทะเล
ว่าได้จัดกิจกรรมเมื่อวันเด็กที่ผ่านมา ที่โรงเรียนโดยความร่วมมือของครู มีการมอบรางวัล 5 รางวัล
และจัดแสดงนิทานพร้อมภาพวาดระบายสีที่โรงเรียนหากท่านใดสนใจให้ไปชมได้
- ได้ชี้แจงข่าวสารจากที่ว่าการอำเภอเมืองให้ชาวบ้านทราบ
- ได้แจ้งผลการทำกิจกรรม สสส.
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สภาชุมชน วัยทำงาน 30 คน และเยาวชน 5 คน
- ไม่มี
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อสร้างศูนย์เรียนรู้ปูทะเลและป่าชายเลนบริเวณธนาคารปูไข่เดิม
- นายดลฮอนี ผู้ใหญ่บ้านได้ประสานกับผู้นำท้องที่ ชาวบ้านทั่วไป
เยาวชนและผู้สูงอายุ นำกำลังกันไปช่วยกันปรับปรุงอาคารธนาคารปูไข่เดิมให้แข็งแรง
และมีฝากั้นเพื่อใช้เป็นที่ติดบอร์ดภาพ - เยาวชนช่วยกันขนฝาสานที่ทำจากไม้ไฝ่ และอุปกรณ์อื่นๆเข้าพื้นที่ก่อสร้าง โดยขนด้วยรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างกันอย่างสนุกสนาน
- ผู้ใหญ่ช่วยกันก่อสร้างสะพานเช่ือมออกไปที่ธนาคารปูให้มีไม้ทางเดินที่แข็งแรงกว่าเดิม ทดแทนไม้ชุดเดิมที่ชำรุด
- มีแม่บ้าน อสม.ช่วยนำอาหารเที่ยงมารับประทานร่วมกันที่ธนาคารปูไข่
- ช่วงบ่ายช่วยกันตอกฝาสานเข้ากับอาคารเดิม
- นายดลฮอนี บอกว่าส่วนบอร์ดภาพปูทะเล การอนุรักษ์ป่าชายเลนจะไป ขอสนับสนุนจากป่าชายเลนที่ 41 อีกครั้งหนึ่ง
- เยาวชนเสนอว่าให้นำนิทานของเด็กๆที่แต่งมาจัดแสดงด้วย
นายนัสรีเสนอว่าให้ทำไวนิลใหม่เพราะภาพระบายสีนั้นครูนำไปจัดแสดงที่โรงเรียนแล้ว - ช่วงบ่ายแม่บ้าน อสม.ได้นำของหวานมาให้รับประทานอีก เยาวชนเลานน้ำต่อหลังจากงานเสร็จเป็นที่สนุกสนานด้วยกัน
- ได้ศูนย์เรียนรู้ปูทะเลและป่าชายเลนที่ต่อเติมจากอาคารธนาคารปูไข่เดิม
- ได้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่ด้วยกัน และเด็กกับผู้ใหญ่ที่ได้มาทำงานร่วมกัน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชน(12-25 ปี) 15 คน
- กลุ่มปูไข่ ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ชาวบ้าน 35 คน
- ผู้สูงอายุ 10 คน
- ยังไม่ได้นำบอร์ดภาพมาติด ต้องรอผู้ใหญ่ไปขอจากหน่วยงานป่าชายเลนที่ 41 ก่อน
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อสร้างจิตสำนึกรัก อนุรักษ์ปูทะเล ซึ่งเป็นรายได้หลักของหมู่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านนายดลฮอนีประสานงานกับครูใหญ่เรื่องการทำกิจกรรมแต่งมีทาน
ซึ่งครูมีความยินดีและจัดกิจกรรมในช่วงวันเด็กเด็กโรงเรียนประถมบ้านยะระโตดนุ้ยมารวมตัวกัน 40 คน ฟังครูใหญ่บอกรายละเอียดกิจกรรม
ครูให้นักเรียนอาสาออกมาเล่ามีทานที่นักเรียนรู้จัก 2 คน มีเด็กชายยุทธนานุ้ยติเตบ
ออกมาเล่าเรื่อง หวังขี้คร้าน และเด็กหญิงสารีดา เหมรา ออกมาเล่าเรื่อง กระต่ายกับเต่าครูสอนว่ามีทานจะมีคติสอนใจแฝงอยู่ในเรื่อง ดังนั้นวันนี้เราจะมาแต่งมีทานเรื่องปูม้าหรือปูทะเล
ให้นักเรียนกำหนดตัวละครว่าจะมีอะไรบ้าง อาจเป็นคน หรือเป็นสัตว์
มีการพูดคุยกันระหว่างคนกับสัตว์กับสัตว์ก็ได้ เพราะเป็นมีทาน แต่ที่สำคัญต้องสนุกและมีคติสอนใจซึ่งอยากให้คนฟังเมื่อได้ฟังแล้วมีความรู้สึกรัก
หวงแหนทรัพยากรทางทะเลโดยเฉพาะปูจากนั้นครูให้นักเรียนแต่งมีทาน พร้อมวาดภาพระบายสีประกอบ
ครูนำผลงานของเด็กทุกคนไปให้ครูทั้ง 3 คนอ่าน
และทำการให้รางวัลและให้เจ้าของผลงานมาอ่านให้เพื่อนฟังครูนำผลงานของทุกคนไปจัดบอร์ดแสดงผลงาน
- โรงเรียนและชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
- ครูและนักเรียนได้ทำกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เป็นเรื่องราวในชีวิตจริงของเด็ก
- เด็กเกิดความสนุก ได้แสดงความสามารถเชิงสร้างสรรค์ในการแต่งนิทาน
- เด็กเกิดความรู้สึกรัก หวงแหนทรัพยากรทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นปู ปลา กุ้ง หอย เพราะเป็นที่มาของรายได้ครอบครัว
- ได้นิทานปู ที่จะใช้เล่าต่อๆกันไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นักเรียนระดับชั้น ป.1 - ป.6 จำนวน 40 คน
- ครูประถม 3 คน
- นักเรียนบางคนวาดภาพ ระบายสีไม่เสร็จในเวลา ครูให้นำไปทำต่อที่บ้าน
- ไม่มี
- ไม่มี
ติดตามการดำเนินงาน สสส
- นายดลฮอนีสุวาหลำ ผู้ใหญ่บ้านเปิดประชุม และแจ้งข่าวสารที่ได้รับจากที่ว่าอการอำเภอเมือง
ได้แก่ เรือง การสร้างรพ.สต.จะสร้างในเดือนนี้ ให้ชาวบ้านร่วมใจมาช่วยลงแรงบ้าง
มีการจ้างแรงงานในหมู่บ้านบ้างงานที่จะขอแรงคือการขนวัสดุก่อสร้างมาจากท่าเรือ
สมาชิกสภาทุกคนเห็นด้วย ถ้าจะให้ลงตัวเหมาะสม ควรให้ของมาลงช่วงหลัง ละหมาดวันศุกร์เพราะมีผู้ชายมารวมกันมาก - นายนัสรี รายงานความคืบหน้าของโครงการสสส.ว่า หลังจากเยาวชนเก็บข้อมูลของหมู่บ้าน
ได้ผลสรุปดังนี้ - มีการเก็บข้อมูลได้ 50 ครัวเรือน
- เป็นครัวเรือนที่มีสมาชิก 5-6 คนมากที่สุด
- การจัดเก็บภายในบ้านและบริเวณบ้านพบว่า เรื่องการมีภาชนะเก็บกักน้ำมีมากที่สุด
และเรื่องการมีอุปกรณ์กำจัดขยะมูลฝอยน้อยที่สุด - มีอาชีพประมงมากที่สุด การมีอาชีพรองพบว่าครัวเรือนส่วนใหญ่ไม่มีอาชีพรอง
และอาชีพรองที่ทำกันมากที่สุดคือ ทำนา - ครัวเรือนส่วนใหญ่มีที่ดินทำกิน 1-5 ไร่มากสุด
- มีรายได้ 0-5,000 บาท มากที่สุด รายได้ต่อปี 50,000-100,000 บาท มากที่สุด
- รายได้มาจากการประกอบอาชีพหลักและอาชีพเสริม มากที่สุด
- เสียค่าไฟเดือนละ 201-400 บาท มากที่สุด
- ค่าโทรศัพท์ เดือนละ 0-200 บาท มากที่สุด
- มีการบริโภคข้าวสารกิโลกรัมละ 20-30 บาท มากที่สุด
- เฉลี่ยกินข้าวเดือนละ 1-10 ก.ก. และ 21-30 ก.ก. มากที่สุด
- อาชีพที่ทำมากที่สุดคือ อวนปู อวนปลา และหาหอย
- ครอบครัวไม่มีหนี้สิน 31 ครัวเรือน เป็นหนี้ 10,000-50,000 บาท เป็นส่วนใหญ่
- หนี้เกิดจากการนำเงินมาประกอบอาชีพ
- ส่วนใหญ่ไม่เคยถูกขโมยเครื่องมือทำกิน และเครื่องมือทำกินเสียหายเพราะเสื่อมสภาพเป็นส่วนใหญ่
- ทุกครัวเรือนใช้น้ำฝนในการอุปโภคและทำการเกษตร ใช้น้ำบ่อในการอาบ ซักล้าง
- ผลผลิตที่ได้ขายให้กับพ่อค้าคนกลางที่แพรับซืื้ออาหารทะเล
- การเป็นสมาชิกกลุ่มที่ตั้งขึ้นในหมู่บ้าน ยังมีครัวเรือนที่ไม่เป็นสมาชิก 25 ครัวเรือน
- กลุ่มที่ครัวเรือนเป็นสมาชิกมากที่สุดได้แก่ กลุ่มออมทรัพย์วันละบาท และกลุ่มปูไข่
- การเลือกตั้งครั้งล่าสุด สมาชิกในครัวเรือนไปใช้สิทธิครบ 30 ครัวเรือน
- คนในหมู่บ้านมีงานประจำทำแล้ว ว่างงาน 1 คน ไม่ยอมทำงาน 1 คน
- คนพิการในหมู่บ้าน ไม่มี มีผู้สูงอายุที่ได้เบี้ยยังชีพ 27 ราย
- มีงานประจำทำเป็นส่วนใหญ่ 70 คน ทำประมง 46 คน ว่างงาน 1 คน ไม่ยอมทำงาน 1 คน กำลังศึกษา 6 คน
- ครัวเรือนส่วนใหญ่มีการเลี้ยงไก่ 6-10 ตัว รองลงมาคือการเลี้ยงแพะ และทำกระชังปลา
- พาหนะที่ครัวเรือนมีส่วนใหญ่ได้แก่ เรือไก่ รถจักรยาน เรือหางยาว รถจักยานยนต์
- ครัวเรือนส่วนใหญ่มีโทรศัพท์มือภือ 1-2 เครื่อง
- มีปืน 6 ครัวเรือน
- ครัวเรือนมีความพร้อมร่วมกิจกรรมหมู่บ้าน 33 ครัวเรือน ร่วมเป็นอาสาพัฒนา 34 ครัวเรือน และรวมคิด ร่วมทำ 28 ครัวเรือน(ตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ)
- ครัวเรือนส่วนใหญ่ต้องการพัฒนาด้านการศึกษา และการเงิน/รายได้
- ความสามารถพิเศษของครัวเรือนคือ สานเสื่อ เย็บผ้า ช่างไม้
- ครัวเรือนส่วนใหญ่เห็นว่าหมู่บ้่านน่าอยู่เนื่องจาก สงบและสะอาด และไม่ชอบความวุ่นวาย/แตกแยก
- สิ่งที่ครัวเรือนส่วนใหญ่ต้องการพัฒนาคือ ช่วยกันพัฒนารักษาความสะอาด
- ข้อคิดเห็นฝากถึงผู้นำคือ ดูแลลูกบ้านให้ทั่วถึงเป็นธรรม พัฒนาหมู่บ้านให้มากขึ้น
- ความคาดหวังด้านอาชีพคือ ส่งเสริมอาชีพหลัก อาชีพเสริม ทำการเษตรแบบยั่งยืน
- ความคาดหวังด้านสังคมคือ ซ่อมแซมสะพาน ทำความสะอาดหมู่บ้าน ต้องการประปา
- หลังการนำเสนอข้อมูล อิหม่ามแสดงความคิดเห็นว่า การเก็บข้อมูลครั้งนี้ได้ ข้อมูลที่ไม่เคยเก็บกันมาก่อน ฝากให้ผู้นำไปพัฒนาทีละข้อ การเก็บข้อมูลเยาวชนทำ อย่างขันแข็งจึงต้องนำผลที่ได้ไปใช้ประโยชน์
- สภาได้ประชุมรับทราบข่าวจากที่ว่าการอำเภอ
- สภาได้รับทราบผลสรุปการเก็บข้อมูลหมู่บ้าน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ 5 คน
- อสม. 6 คน
- กลุ่มปูไข่ 14 คน
- แม่บ้าน 5 คน
- เยาวชน 5 คน
- ไม่มี
- ไม่มี
เพื่อสรุปข้อมูลที่ได้จากการเก็บเสนอแก่ชุมชนและขอความคิดเห็นในการจัดการแก้ปัญหาที่เห็น
- จัดประชุมชาวบ้าน เลี้ยงอาหาร เพื่อนำเสนอข้อมูลชุมชนที่เก็บรวมรวมมาได้
และขอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะว่าปัญหาชุมชนด้านต่างๆ ควรจัดการแก้ไขอย่างไร
- นายดลฮอนี นำประชุมขอความเห็นว่า ชาวบ้านเห็นปัญหาเรื่องอะไรบ้าง
- ครูตาดีกา เสนอว่าเป็นหาเรื่องการทำอาชีพเดียวทำให้ไม่มีรายได้เสริม
จึงเกิดปัญหาหนี้สิน ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับครูตาดีกา - เสนอให้สภาผู้นำชุมชน จัดทำแผนเรื่อง การประกอบอาชีพเสริมในแผนชุมชนที่อบต.จะจัดงบมาให้
- อิหม่ามชวนคุยว่า มีการย้ายถิ่นฐานไปมากขึ้น ควรทำอะไรสักอย่างให้คนเกาะกลับมาเยี่ยมเยียนหรือกลับมาอยู่ที่เกาะ
เช่น จัดการทำบุญใหญ่วันรายา ทำบุญกุโบร์เป็นประเพณีของเกาะ เป็นต้น ทุกคนเห็นด้วยให้ผู้ใหญ่บ้านรับไปดำเนินการต่อไป - เผยแพร่ให้ชาวบ้านรับทราบด้วยการแจกเอกสารและแจ้งในการละหมาดวันศุกร์ วันฮารีรายา
- ทำเป็นแผนเสนอเป็นแผนชุมชนของหมู่บ้านแก่อบต.
- ได้นำเสนอข้อมูลและชาวบ้านได้รับข้อมูลของหมู่บ้าน
- ได้ช่วยกันคิดแก้ปัญหาด้านรายได้ของครัวเรือน
- เยาวชนได้ฝึกสรุปข้อมูลและนำเสนอข้อมูล
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชน 15 คน
- สภาชุมชน 40 คน
- แม่บ้าน 50 คน
- ผู้สูงอายุ 30 คน
- ตัวแทนครัวเรือน 20 คน
- เยาวชนรุ่นใหญ่ 17-18 ปีที่ทำการรวบรวมรายงานมีความเขินอายไม่กล้าพูดต่อหน้าที่ประชุม ให้น้องรุ่นเล็กนำเสนอและช่วยอยู่ข้างหลัง
- ไม่มี
- อยากให้สอนสรุปมูล วิเคราะห์ข้อมูลว่าที่ทำมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุดแล้วหรือสามารถทำอะไรได้เพิ่มอีก
รวบรวมข้อมูลที่เก็บมาและวิเคราะห์ข้อมูล
- วิทยากรนำสรุปข้อมูล
- ทำสื่อโปสเตอร์เพื่อใช้คืนข้อมูล
- มีการเก็บข้อมูลได้ 50 ครัวเรือน
- เป็นครัวเรือนที่มีสมาชิก 5-6 คนมากที่สุด
- การจัดเก็บภายในบ้านและบริเวณบ้านพบว่า เรื่องการมีภาชนะเก็บกักน้ำมีมากที่สุด
และเรื่องการมีอุปกรณ์กำจัดขยะมูลฝอยน้อยที่สุด - มีอาชีพประมงมากที่สุด การมีอาชีพรองพบว่าครัวเรือนส่วนใหญ่ไม่มีอาชีพรอง
และอาชีพรองที่ทำกันมากที่สุดคือ ทำนา - ครัวเรือนส่วนใหญ่มีที่ดินทำกิน 1-5 ไร่มากสุด
- มีรายได้ 0-5,000 บาท มากที่สุด รายได้ต่อปี 50,000-100,000 บาท มากที่สุด
- รายได้มาจากการประกอบอาชีพหลักและอาชีพเสริม มากที่สุด
- เสียค่าไฟเดือนละ 201-400 บาท มากที่สุด
- ค่าโทรศัพท์ เดือนละ 0-200 บาท มากที่สุด
- มีการบริโภคข้าวสารกิโลกรัมละ 20-30 บาท มากที่สุด
- เฉลี่ยกินข้าวเดือนละ 1-10 ก.ก. และ 21-30 ก.ก. มากที่สุด
- อาชีพที่ทำมากที่สุดคือ อวนปู อวนปลา และหาหอย
- ครอบครัวไม่มีหนี้สิน 31 ครัวเรือน เป็นหนี้ 10,000-50,000 บาท เป็นส่วนใหญ่
- หนี้เกิดจากการนำเงินมาประกอบอาชีพ
- ส่วนใหญ่ไม่เคยถูกขโมยเครื่องมือทำกิน และเครื่องมือทำกินเสียหายเพราะเสื่อมสภาพเป็นส่วนใหญ่
- ทุกครัวเรือนใช้น้ำฝนในการอุปโภคและทำการเกษตร ใช้น้ำบ่อในการอาบ ซักล้าง
- ผลผลิตที่ได้ขายให้กับพ่อค้าคนกลางที่แพรับซืื้ออาหารทะเล
- การเป็นสมาชิกกลุ่มที่ตั้งขึ้นในหมู่บ้าน ยังมีครัวเรือนที่ไม่เป็นสมาชิก 25 ครัวเรือน
- กลุ่มที่ครัวเรือนเป็นสมาชิกมากที่สุดได้แก่ กลุ่มออมทรัพย์วันละบาท และกลุ่มปูไข่
- การเลือกตั้งครั้งล่าสุด สมาชิกในครัวเรือนไปใช้สิทธิครบ 30 ครัวเรือน
- คนในหมู่บ้านมีงานประจำทำแล้ว ว่างงาน 1 คน ไม่ยอมทำงาน 1 คน
- คนพิการในหมู่บ้าน ไม่มี มีผู้สูงอายุที่ได้เบี้ยยังชีพ 27 ราย
- มีงานประจำทำเป็นส่วนใหญ่ 70 คน ทำประมง 46 คน ว่างงาน 1 คน
ไม่ยอมทำงาน 1 คน กำลังศึกษา 6 คน - ครัวเรือนส่วนใหญ่มีการเลี้ยงไก่ 6-10 ตัว รองลงมาคือการเลี้ยงแพะ และทำกระชังปลา
- พาหนะที่ครัวเรือนมีส่วนใหญ่ได้แก่ เรือไก่ รถจักรยาน เรือหางยาว รถจักยานยนต์
- ครัวเรือนส่วนใหญ่มีโทรศัพท์มือภือ 1-2 เครื่อง
- มีปืน 6 ครัวเรือน
ครัวเรือนมีความพร้อมร่วมกิจกรรมหมู่บ้าน 33 ครัวเรือน
ร่วมเป็นอาสาพัฒนา 34 ครัวเรือน และรวมคิด ร่วมทำ 28 ครัวเรือน(ตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ)ครัวเรือนส่วนใหญ่ต้องการพัฒนาด้านการศึกษา และการเงิน/รายได้
- ความสามารถพิเศษของครัวเรือนคือ สานเสื่อ เย็บผ้า ช่างไม้
- ครัวเรือนส่วนใหญ่เห็นว่าหมู่บ้่านน่าอยู่เนื่องจาก สงบและสะอาด
และไม่ชอบความวุ่นวาย/แตกแยก - สิ่งที่ครัวเรือนส่วนใหญ่ต้องการพัฒนาคือ ช่วยกันพัฒนารักษาความสะอาด
- ข้อคิดเห็นฝากถึงผู้นำคือ ดูแลลูกบ้านให้ทั่วถึงเป็นธรรม พัฒนาหมู่บ้านให้มากขึ้น
- ความคาดหวังด้านอาชีพคือ ส่งเสริมอาชีพหลัก อาชีพเสริม ทำการเษตรแบบยั่งยืน
- ความคาดหวังด้านสังคมคือ ซ่อมแซมสะพาน ทำความสะอาดหมู่บ้าน ต้องการประปา
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชน 20 คน
- สภาผู้นำชุมชน 15 คน
- วิทยากร 1 คน
- ไม่มี
- ไม่มี
- แนะนำเรื่องการสรุปข้อมูล
วางแผนปฏิบัติการทำกิจกรรมโครงการแต่ละครั้ง เพื่อรับรู้ถึงปัญหาของโครงการ และ ปัญหาหมู่บ้าน เพื่อช่วยกันแก้ไข
- หลังละหมาดวันศุกร์ นายดลฮอนีสุวาหลำ ผู้ใหญ่บ้านเปิดการประชุม
แจ้งข่าวที่รับมาจากการประชุมอำเภอเมือง เช่น โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
การรับหน่วยแพทย์ พอศว. จากนั้นมีการติดตามกิจกรรม สสส. นายนัสรี
บัณฑิตอาสาแจ้งว่ากิจกรรมต่อไปเป็นการลงเก็บข้อมูลภาคสนามของ ทีมเยาวชน 15 คน พี่เลี้ยง 20 คน มีบ้านต้องเก็บข้อมูล 60 หลัง
แบ่งให้เยาวชนคนละ 4 หลัง ทำการเก็บ 2 วัน คือวันที่25-26 ต.ค. 57
พี่เลี้ยง 20 ช่วยมีหน้าที่ช่วยพาเยาวชนไปที่บ้าน ช่วยพูดคุยทำความรู้จัก ส่วนการถามแบบสอบถามให้เยาวชนถามและบันทึก
ติดตามและความคืบหน้าของเด็กๆที่ลงสนามภาคเก็บข้อมูล โดยเยาวชนจัดเก็บเป็นกลุ่มตามบ้านเรือนของชาวบ้าน
และการเก็บข้อมูลของน้องเยาวชนที่เก็บได้เกินครึ่งนึงของหมู่บ้านของหมู่บ้านแล้วคาดว่าจะได้ข้อมูลทั้งหมดในเร็วนี้
เยาวชนได้เรียนรู้ ฝึกประสบการร์การสอบถามแบบสอบถามข้อมูลหมู่บ้าน ได้ความสามัคคีของเพื่อนๆในกลุ่ม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สภาชุมชนวัยทำงาน 30 คน เยาวชน 5 คน
ชาวบ้านบางรายไม่กล้าไห้ข้อมูล และเอาข้อมูลเท่าที่ได้และไม่ขัดต่อสิทธิส่วนบุคคลของชาวบ้าน
-
-
เพื่อให้ได้ข้อมูลตามแบบสอบถามที่สภาชุมชนออกแบบขึ้นมา
- แบ่งหน้าที่รับผิดชอบว่าใครจะไปเก็บข้อมูลบ้านเลขที่เท่าไหร่บ้าง โดยมีผู้เก็บข้อมูลทั้งสิ้น 35 คน เป็นเยาวชน 15 คน เป็นผู้ใหญ่ 20 คน ให้จับคู่กันไปสอบถามให้เด็กเป็นคนถามและจดบันทึก ผู้ใหญ่ช่วยเป็นพี่เลี้ยงชวนเจ้าของบ้านพูดคุย ตอนนี้มีบ้านอยู่จริง 60 หลังคาเรือน(ตามแผนในโครงการข้อมูลหลังคาเรือนผิด) จึงแบ่งเยาวชนไปสอบถามคนละ 4 หลัง ใช้เวลา 2 วัน
- เยาวชนออกเดินบ้าง ขี่จักรยานบ้าง นั่งซาเล้งบ้าง ไปตามบ้านที่รับผิดชอบ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งเรื่องกิจกรรมในมัสยิดให้ชาวบ้านรับทราบล่วงหน้าแล้ว
- เยาวชนมีอาการเขินบ้าง แรกๆไม่กล้าถาม แต่พอคุยไปสักพักก็เริ่มคุ้ยเคยและถามจนจบแบบสอบถาม ใช้เวลา 45 นาที ถึง ชั่วโมงครึ่ง เจ้าของบ้านยกขนม อาหารมาให้รับประทานร่วมกัน สอบถามว่าเรียนอะไร ที่ไหน ไปเรียนที่ปอเนาะ/โรงเรียนมัธยมในจังหวัดเป็นอย่างไรบ้าง ถามกันไปกันมาคนละเรื่องแต่ก็สำเร็จภาระกิจที่ได้รับมอบหมายคือ วันแรกได้ 2 บ้าน และวันที่ 2 อีก 2 บ้าน
- เยาวชนได้เรียนรู้ ฝึกประสบการร์การสอบถามแบบสอบถามข้อมูลหมู่บ้าน
- เยาวชนได้ทำความรู้จักกับผู้ใหญ่บ้านอื่นโดยที่พ่อแม่ตัวเองไม่ได้ไปด้วย
- เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
- ชาวบ้านได้พูดคุยกับลูกหลานที่ไปเรียนบนฝั่ง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
เยาวชน 15 คน สภาชุมชน 20 คน
- บางคำถามเยาวชนก็ลืมถาม บางทีเจ้าของบ้านก็ไม่ตอบ จึงเอาเท่าที่ได้ข้อมูลมา
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อเตรียมกิจกรรมลงภาคสนามเก็บข้อมูล และประชุมเรื่องทั่วไป
- หลังละหมาดวันศุกร์ นายดลฮอนี สุวาหลำ ผู้ใหญ่บ้านเปิดการประชุม แจ้งข่าวที่รับมาจากการประชุมอำเภอเมือง เช่น โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง การรับหน่วยแพทย์ พอศว. จากนั้นมีการติดตามกิจกรรม สสส. นายนัสรี บัณฑิตอาสาแจ้งว่ากิจกรรมต่อไปเป็นการลงเก็บข้อมูลภาคสนามของทีมเยาวชน 15 คน พี่เลี้ยง 20 คน มีบ้านต้องเก็บข้อมูล 60 หลัง แบ่งให้เยาวชนคนละ 4 หลัง ทำการเก็บ 2 วัน คือวันที่ 25-26 ต.ค. 57 พี่เลี้ยง 20 ช่วยมีหน้าที่ช่วยพาเยาวชนไปที่บ้าน ช่วยพูดคุยทำความรู้จัก ส่วนการถามแบบสอบถามให้เยาวชนถามและบันทึก กรรมการสภาผู้นำเห็นด้วยกับการออกแบบกิจกรรม
- ผู้ใหญ่บ้านมอบหมายให้นส.ฮาฟีเซ๊าะ เตรียมอาหารให้ผู้ออกเก็บข้อมูล โดยจัดเป็นอาหารเที่ยง ให้ทุกคนมารับประทานร่วมกันที่อาคารเอนกประสงค์
- นายนัสรี รายงานความคืบหน้าโครงการ สสส. ดังนี้ ขณะนี้กิจกรรมที่ทำไปแล้วได้แก่ การอบรมบทบาทสภาและการประชุมสภาครั้งนี้ครั้งที่ 3 กิจกรรมทำข้อมูลหมู่บ้านได้อบรมทักษะการเก็บข้อมูลไปแล้ว จะลงเก็บข้อมูลในวันพรุ่งนี้และมะรืนนี้ ต่อไปจะมีวิทยากรมาช่วยสรุปรวบรวมข้อมูลและนำเสนอข้อมูลให้ชาวบ้านรับทราบ
- ผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่าจะมีการซ่อมแซมโรงธนาคารปูไข่ จะขอแรงชาวบ้านไปช่วย ให้กรรมการสภาแจ้งบ้านใกล้เคียงด้วย วันเวลาจะแจ้งตามไปอีกครั้ง
- สภาผู้นำชุมชนได้ร่วมรับทราบข่าวสารของหมู่บ้าน โดยเฉพาะความคืบหน้าโครงการสสส.
- ได้ช่วยกันเตรียมงานออกเก็บข้อมูลภาคสนาม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สภาชุมชน ผู้นำท้องที่ 3 คน ท้องถิ่น 2 คน อสม. 6 คน กลุ่มปูไข่ 14 คน กลุ่มแม่บ้าน 5 คน และเยาวชน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้อาสามีความรู้ ทักษะในการเก็บข้อมูลตามแบบสอบถาม
- ผู้ใหญ่บ้านประชุมร่วมกับพี่เลี้ยงเพื่อปรับแบบสอบถามจากบ้านหนองกลางดง ได้ปรับข้อที่เป็นอาชีพให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่เกาะ เครื่องมือทำกิน สัตว์ที่เลี้ยง เป็นต้น
- วิทยากรคุณซอฟีเยาะ สองเมือง เป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ จบปริญญาโทสาขาจิตเวชจาก มอ. มาช่วยให้ความรู้กลุ่มอาสาเก็บข้อมูล
- ผู้ใหญ่บ้านเปิดการประชุม กล่าวต้อนรับวิทยากร บอกความคาดหวังแก่กลุ่มผู้เข้าอบรมทั้งหมดว่าอยากให้ทุกคนให้ความร่วมมือ หมู่บ้านจะได้มีข้อมูลพื้นฐานเพื่อใช้ในการจัดการหมู่บ้านด้านต่างๆต่อไป เช่น มีโครงการอะไรมาลง หรือใช้ในการทำแผนชุมชนของหมู่บ้าน
- วิทยากรสอนการไปเก็บข้อมูลตั้งแต่การทักทาย แนะนำตัว ถึงแม้จะรู้จักกันแล้วควรจะบอกวัตถุประสงค์การเก็บข้อมูลว่าเพื่อเอาไปพัฒนาหมู่บ้าน ไม่ได้นำข้อมูลไปเปิดเผยแบบรายครอบครัว แต่จะรวบรวมออกเป็นภาพรวมของหมู่บ้าน เพื่อพลังของข้อมูลจะทำให้คนตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและผลกระทบในอนาคต จากนั้นร่วมกันทำความเข้าใจคำถามแต่ละข้อว่าควรใช้คำถามอย่างไร บางคำถามที่ไม่กล้าถาม อาจให้เจ้าของบ้านอ่านและเขียนคำตอบเอง เช่น ในบ้านมีอาวุธปืนหรืออย่างอื่นหรือไม่
- เยาวชนที่มาเข้าอบรมซักถามวิทยากรในข้อสงสัย เช่น ถ้าเขาไม่บอกความจริงจะทำอย่างไรทั้งที่เรารู้ว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร วิทยากรตอบว่าขึ้นอยู่กับตอนแรกที่เราอทิบายวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูลว่าใช้พัฒนาหมู่บ้าน เช่น เป็นหนี้สินเท่าไหร่ เพื่อจะนำหนี้สินของแต่ละคนมารวมกัน เมื่อเห็นว่ามันมากดังนั้นหมู่บ้านเราต้องมีการทำอะไรเพื่อเพิ่มรายได้ ลดหนี้สิน เป็นต้น จากนั้นเขาจะให้ข้อมูลอย่างไรก็ให้เชื่อเขา ให้เกียรติเขา
- หลังจากนั้นวิทยากรได้ลองแสดงบทบาทสมมติการ
- จากนั้นวิทยากรและผู้เข้าอบรมรับประทานอาหารร่วมกัน
- เยาวชน 15 คน สภาชุมชน 20 คน ได้รับความรู้ทักษะการเก็บข้อมูลของหมู่บ้าน
- เกิดความสัมพันธ์อันดีในกลุ่มสภาหมู่บ้าน และเยาวชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
เยาวชน 15 คน สภาชุมชน 20 คน
- ตอนแรกผู้เข้าอบรมกังวลว่าจะทำไม่ได้ แต่เมื่อได้อ่านคำถามไปทีละข้อก็เข้าใจ และได้มีการฝึกสอบถามกันเองด้วยไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
ถอนเงินเปิดบัญชี
ถอนเงินเปิดบัญชี
ถอนเงินเปิดบัญชี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
แกนนำโครงการ 1 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
พิจารณาแบบฟอร์มเก็บข้อมูลชุมชน
- นำร่างแบบฟอร์มการเก็บข้อมูลชุมชนมาพิจารณา พบว่าคล้ายการเก็บข้อมูล จปฐ.
- จึงเห็นตรงกันว่าให้อสม.และเยาวชนเป็นคนลงสำรวจข้อมูล และแบ่งการสำรวจตามบ้านในรับผิดชอบของ อสม.
- เสนอให้เพิ่มการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการทำอาชีพประมงเพิ่มเติม ให้บัญฑิตอาสาเพิ่มคำถาม
- ได้แบบฟอร์มการเก็บข้อมูลชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
-
- การทำกิจกรรมล่าช้า เนื่องจากแกนนำหมู่บ้านติดภาระกิจสร้างสถานีอนามัย
ไม่มี
ไม่มี
กำหนดบทบาทหน้าที่
- หลังละหมาดนายดลฮอนี ได้เปิดประชุม ให้แต่ละคนเสนอว่าสภาผู้นำชุมชนจะมีบทบาทหน้าที่อะไรบ้าง เช่น ประธาน รองประธาน
- ที่ประชุมมีมติ คัดเลือกผู้ทำหน้าที่ต่างๆ ในสภา ดังเอกสารแนบ
- จากนั้นนายดลฮอนีได้แจ้งแผนกำหนดการประชุมทุกศุกร์ที่ 4 ของเดือนหลังละหมาด
- กิจกรรมต่อไปที่จะทำคือ การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจครัวเรือน ปัญหาสุขภาพ ให้สมาชิกแจ้งเยาวชนมาอาสาฝึกอบรมเก็บข้อมูล
- ให้สมาชิกไปแจ้งบ้านใกล้เคียงว่าจะมีกิจกรรมเก็บข้อมูล เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนแก้ปัญหาหมู่บ้านต่อไป
- ได้โครงสร้างการบริหารสภาผู้นำชุมชน
- ได้แผนการประชุมสภาผู้นำ
- ได้วางแผนการเก็บข้อมูล
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้นำฝ่ายปกครอง 4 คน
- กลุ่มปูไข่ 5 คน
- กลุ่มแม่บ้าน 3 คน
- ผู้นำศาสนา 3 คน
- ครู 2 คน
- ครูตาดีกา 3 คน
- เยาวชน 3 คน
- นักเรียน 5 คน
- อสม. 1 คน
- ชาวบ้านทั่วไป 6 คน
ไม่มี
ไม่มี
วิธีการเก็บข้อมูล
สมาชิกมีความรู้ในบทบาทหน้าที่
- จัดประชุมสมาชิกสภาชุมชนที่ได้จากกิจกรรมที่ 1 เพื่อสร้างแรงจูงใจ ให้ความรู้ในการทำหน้าที่เป็นสภาชุมชน
- จัดโครงสร้างการบริหารงานในสภาชุมชน
- ร่างกติกาในการทำหน้าที่ร่วมกัน
- จัดประชุมสมาชิกสภาชุมชนที่ได้จากกิจกรรมที่ 1 เพื่อสร้างแรงจูงใจ ให้ความรู้ในการทำหน้าที่เป็นสภาชุมชน
- จัดโครงสร้างการบริหารงานในสภาชุมชน
- ร่างกติกาในการทำหน้าที่ร่วมกัน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
-วัยทำงาน 30 คน - เยาวชน 5 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้สภาผู้นำมีความรู้เรื่องบทบาท้าที่สภา
- จัดประชุมสมาชิแกนนำกลุ่มต่างๆในหมู่บ้าน ได้แก่ แม่บ้าน อสม. ธนาคารปู กรรมการมั เพื่อสร้างแรงจูงใจ ให้ความรู้ในการทำหน้าที่เป็นสภาชุมชน
- โดยเชิญพัฒนากรอำเภอเมืองสตูลมาให้ความรู้
- สมาชิกให้ความสนใจจะมาร่วมกันพัฒนาหมู่บ้าน โดยการเลือกผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานสภาผู้นำ
- กำหนดให้มีการประชุมทุกวันศุกร์ที่ 2 ของเดือน
- สมาชิกสภารู้สึกภุูมิใจที่ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ
- เมื่อพัฒนากรบรรยายบทบาทหน้าที่ กลุ่มแม่บ้านและอสม.มีความกระตือรือร้นซักถามมากที่สุด
- เกิดกระแสความสามัคคีในกลุ่มสภาผู้นำ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- แกนนำกลุ่มแม่บ้าน 5 คน อสม. 5 คน ธนาคารปู 10 คน ประมง 5 คน กรรมการมัสยิด 5 คน ท้องที่ 2 คน ท้องถิ่น 3 คน
- เยาวชน 5 คน
- อากาศร้อนมาก ทำให้บางคนออกปนั่งด้านนอก แต่ไม่ได้กลับบ้าน
- จัดน้ำดื่มเย็นๆให้ตลอดการประชุม
ไม่มี
ช่วยทำคำสั่งและบทบาทหน้าที่สภาผู้นำ
ประชุมตัวแทนครัวเรือนและชาวบ้าน เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์ และกิจกรรมที่จะดำเนินการในปีต่อไป
- จัดประชุมตัวแทนครัวเรือนและชาวบ้าน เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์ และกิจกรรมที่จะดำเนินการในปีต่อไป
- ชักชวนการทบทวนกติกาหมู่บ้านด้านการอนุรักษ์ เพื่อเพิ่มเติมหรือตัดออกในข้อที่ไม่สามารถปฏิบัติได้
- คัดเลือกแกนนำกลุ่มต่างๆ ในหมู่บ้าน คนที่มีจิตอาสามาช่วยกันบริหารจัดการหมู่บ้าน ได้จำนวน 35 คน มาจาก ผู้นำศาสนา อสม. แม่บ้าน เยาวชน ประชาชนทั่วไป
- ได้แกนนำกลุ่มต่างๆ เพื่อมาเป็นสมาชิกสภาชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชน 30 คน
- ตัวแทนครัวเรือน 120 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
ปฐมนิเทศโครงการ
ร่วมปฐมนิเทศโครงการและบันทึกปฏิทินโครงการ
เข้าใจถึงกระบวนการการดำเนินโครงการและได้ปฏิทินกิจกรรมในการดำเนินโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
เรียนรู้การทำเว็บไซร์และบันทึกปฎิทินกิจกรรม
-
-
-