เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
- ตรวจเอกสสารการเงิน
- ตรวจสอบข้อมูลทางเว็บไซต์
- พี่เลี้ยงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำรายงาน และการลงข้อมูล
- ตรวจสอบเอกสารการเงิน ถูกต้อง
- ตรวจสอบข้อมูลทางเวบไซต์ มีการเพิ่มเติมแก้ไขบางกิจกรรม
- จัดทำรายงานปิด โดยมีเอกสาร การเงิน ง.1งวด 2 ส2ส.3
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ผู้รับผิดชอบโครงการ 1 คน
- เหรัญญิก 1 คน
ลงข้อมูลไม่ครบถ้วน เอกสารไม่ครบ วิธีแก้ ลงข้อมูลให้ครบ แก้เอกสารให้ถูกต้อง
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
ได้ฟังบรรยายเกี่ยวกับหัวข้อ ชุมชนกับการจัดการสุขภาพของคนใต้ ได้เน้นการมีส่วนร่วมแบบมีเครื่องข่าย ร่วมกันหลายหน่วยงานจะได้บรรลุเป้าหมายในการทำงาน และได้ดูการสาธิตของโครงการต่างๆ ได้แก่
- เลี้ยงผึ้ง
- ปลูกข้าวสังข์หยด
- การแปรรูปสมุนไพร น้ำมุนไพร ข้าวยำสมุนไพร เพื่อสุขภาพ
- การเพาะเห็ด
- การทำฝายทดน้ำ ุ6. มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการในราคาย่อมเยาว์
- ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนผลการทำโครงการของแต่ละพื้นที่จากการจัดนิทรรศการและการแสดง ทำให้สามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาใช้ในพื้นที่ เช่น การเลี้ยงผึ้ง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เหรัญญิก
- คณะทำงาน
-
-
-
เพื่อรายงานผลการดำเนินงานโครงการ และสรุปปิดโครงการ
สภาผู้นำ สภาเยาวชน คนในชุมชน ร่วมสรุปปิดโครงการพร้อมเสนอแนะ ปัญหาที่พบ แนวทางแก้ปัญหา เพื่อต่อยอดโครงการในปีถัดไป
จากทำกิจกรรมโครงการที่ผ่ามมาสรุปได้ว่า
1. ได้รู้จักสรรพคุณสมุนไพรเพิ่มเติมและได้แนะนำเยาวชนได้รู้จักสมุนไพร
2. และมีศูนย์การเรียนรู้ในหมู่บ้าน 1 แห่ง โดยชาวบ้านและคนในชุมชนจะนำสมุนไพรชนิดต่างๆมาปลูก และช่วยกันดูแล โดยมีการติดชื่อชนิิด มีแผ่นพับแจก และคู่มือสมุนไพร เพื่อให้ผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชม
3. แปลรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เช่น ชาตะใคร้ ชาใบเตย สบู่สมุนไพร สูตร น้ำผึ้งมะนาว มะละกอ ขิงน้ำผึ้ง มะขามน้ำผึ้ง ขมิ้น กระเจี๊ยบ น้ำสมุนไพร เช่น กระเจี๊ยบ อัญชัน ใบเตย ตะไคร้ลูกประคบเป็นต้น
4. มีการวางแผนต่อยอดโครงการเพื่อขอการสนับสนุนต่อไป
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- สภาผู้นำเยาวชน 30คน
- กลุ่มวัยทำงาน 40 คน
- ผู้สูงอายุ 30 คน
- สภาผู้นำชุมชน 10 คน
-
-
-
คืนเงินค่าเปิดบัญชีธนาคาร
ไปธนาคาร ถอนเงิน และจัดทำใบสำคัญรับเงิน
ได้เงินที่เปิดบัญชี จำนวนเงิน 500 คืน และสามารถจัดทำบัญชีได้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ผู้รับผิดชอบโครงการ
- เหรัญญิก
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
- เตรียมสถานที่
- เตรียมสินค้าแสดง
- แสดงสินค้า
- มีคนมาเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ในการแสดง
- มีการชักชวนในคนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพร โดยจำหน่าย น้ำสมุนไพร ขวดละ 10 บาท พิมเสนน้ำ 45 บาท น้ำมัน ไพล 45 บาทสบู่ สูตรต่างๆ ก้อนละ 25 บาท ลูกประคบ 100 บาท
- มีคนให้ความความสนใจซื้อผลิตภัณฑ์ น้ำสมุนไพร 20 ขวด พิมเสนน้ำ 10 ขวดน้ำมันไพล9 ขวด สบู่ สูตรต่างๆ 25 ก้อน ลูกประคบ 5 ก้อน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- สภาผู้นำเยาวชน 30 คน
- กลุ่มวัยทำงาน 40 คน
- ผู้สูงอายุ 30 คน
สินค้ายังไม่เป็นที่แพร่หลายในชุมชนอื่นๆ วิธีการแก้ไข เผยแพร่ผลิตภัณฑ์ ทาง Facebook Line ร้านค้าในชุมชนเพื่อให้คนรู้จักมากขึ้น
-
-
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
ประชุมติดตามกิจกรรมตามแผน ติดตามการแปรรูปสมุนไพร ในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
จัดหาสถานที่จัดงานแสดง ผลิตภัณฑ์แปลรูปจากสมุนไพร ที่ศาลาอเนกประสงค์ ม.6 ต.คีรีเขต อ.ธารโต เพื่อให้คนในชุมชนอื่นที่สนใจในผลิตภัณฑ์ ได้ซื้อสินค้าที่ทำจากสมุนไพร
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ผู้นำชุมชน 5 คน
- ประธานโครงการ 1 คน
- เลขา 1 คน
- เหรัญญิก 1 คน
- อสม 2 คน
-
-
-
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
สภาผู้นำชุมชนประชุมประจำเดือน ประชุมรายงานผลการทำกิจกรรมแปรรูปสมุนไพร
รายงานผลการดำเนินงานโครงการและกิจกรรม ผลิตภัณฑ์ แปลรูปจากสมุนไพร ซึ่งสมาชิกสะท้อนผลงานเป็นที่พอใจสำหรับคนคนในชุมชนโดยดูจากการร่วมมือของคนในชุมชน และร่วมกันคิดหา นวัตกรรมใหม่
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ผู้นำชุมชน 5 คน
- ประธานโครงการ 1 คน
- เลขา 1 คน
- เหรัญญิก 1 คน
- อสม 2คน
-
-
-
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
- ประชุม รายงานผลการดำเนินงานกิจกรรมการแปรรูปสมุนไพร ให้สมาชิกรับทราบ และร่วมแสดงความคิดเห็น
ในวงพูดคุย ผู้รับผิดชอบโครงการสรุปผลจากการแปรรูปสมุนไพรของกลุ่ม เป็นที่พึ่งพอใจเป็นอย่างมากทางกลุ่มช่วยทำ สบู่สมุนไพร พิมเสนน้ำน้ำมันเหลือง ชาสมุนไพร น้ำสมุนไพรและลูกประคบและทางกลุ่มมีแนวคิดที่จะทำขายนอกสถานที่
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน จำนวน 10 คน
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
- น้ำดอกกระเจี๊ยบ ส่วนผสม ดอกกระเจี๊ยบแห้งน้ำเชื่อม น้ำเปล่า เกลือป่นเสริมไอโอดีน วิธีทำ :1. เอาดอกกระเจี๊ยบแห้ง นำใส่หม้อต้มจนเดือด แล้วลดไฟลงอ่อนๆ เคี่ยวเรื่อยๆจนน้ำเป็นสีแดงเข้มข้น 2. เอาดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อต้ม แล้วเอาน้ำเชื่อม และเกลือใส่ลงไป ปล่อยให้น้ำกระเจี๊ยบเดือด3. เอาขวดเปล่ามาล้างทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด 20 นาทีนำน้ำกระเจี๊ยบแดงมากรอกแล้วปิดจุกให้แน่น แช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน
- น้ำดอกอัญชันส่วนผสม น้ำดอกอัญชันน้ำเชื่อม น้ำผึ้ง นำดอกอัญชันสดล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อเติมน้ำเปล่า ต้มจนเดือด ปิดฝาทิ้งไว้ ประมาณ 2-3 นาทีแล้วกรองดอกอัญชันขึ้นจากหม้อต้ม
- น้ำตะไคร้ ส่วนผสม : ตะไคร้ น้ำเชื่อม น้ำเปล่า นำตะไคร้มาล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนสั้น ทุบให้แตก ใส่หม้อต้มกับน้ำให้เดือดกระทั่งน้ำตะไคร้ออกมาปนกับน้ำ จนเป็นสีเขียว สักครู่จึงยกลงกรองเอาตะไคร้ออก เติมน้ำเชื่อม
ได้เครื่องดื่มน้ำดอกกระเจี๊ยบน้ำดอกอัญชันและน้ำตะไคร้บรรจุใส่ขวด และสามารถนำไปขายได้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 5คน
- ผู้นำชุมชน 5 คน
- อสม 5 คน
- สมาชิก อบต 5 คน
- ประชาชนในชุมชน 10 คน
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
- เตรียมอุปกรณ์ การทำ ลูกประคบ และชาสมุนไพร เช่น ผ้าห่อลูกประคบ เชือก ขวดสำหรับใส่น้ำสมุนไพร
- เตรียมวัตถุดิบ ใบเตย ตะไคร้ ผิวมะกรูด ไพล ผักเสี้ยนผี ข้าวคั่ว พมเสน การบูร เกลือ
- ล้างวัตถุดิบให้สะอาด
- การทำลูกประคบ ผิวมะกรูด ไพล ผักเสี้ยนผีข้าวคั่ว พิมเสน การบูรเกลือ เตรียมสมุนไพรให้พร้อมลูกประคบสมุนไพร หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โขลกพอแหลก นำสมุนไพรทั้งหมดของลูกประคบสมุนไพรมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้นำส่วนผสมสมุนไพรลูกประคบมาใส่ในผ้า ห่อเป็นลูกประคบสมุนไพร รัดด้วยเชือกให้แน่น พร้อมใช้
ชาสมุนไพร
- ชาใบเตย ทำจากใบเตยหอม อบแห้งมี สีเขียวใบเตย มีกลิ่นหอมชื่นใจใบเตยมีคุณสมบัติหลักๆ ขับปัสสาวะ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ชาใบเตยจึงเหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง คนธรรมดาทั่วไปก็ดื่มได้กลิ่นหอมของใบเตยชื่นใจ คลายเครียดได้ดี
รู้จักสรรพคุณและวิธีการทำน้ำชาตะใคร้อย่างง่าย ปวดกระดูก ปวดหลัง ปวดแข้งปวดขา ป้องกันเบาหวาน คอเลสเตอรอล ชาตะไคร้สมุนไพรชั้นยอด
- ตะไคร้
อาการปวดเนื้อเมื่อยตัว เป็นอาการที่ใครไม่อยากเป็นแต่ส่วนใหญ่มักเป็น พบในวัยทำงานขึ้นไปจนถึงวัยผู้สูงอายุ เราควรหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการสำรวจร่างกายว่ามีอาการปวดส่วนไหนบ้างและควรหาวิธีแก้ปวดของแต่ละอาการเพื่อบรรเทาอาการปวด ชาตะไคร้ สมุนไพรใกล้ตัว ที่เป็นอีกทางเลือกที่จะบรรเทาอาการปวดเมื่อยร่างกาย ทำรับประทานได้เองที่บ้าน สมุนไพรไทยกินแล้วมีแต่ประโยชน์ไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย อย่างเช่นยาปฏิชีวนะที่นิยมใช้ในวงการเเพทย์ แก้ปวด แก้เมื่อย รักษาสุขภาพโดยวิธีธรรมชาติ มาดูวิธีการเตรียมและการทำน้ำชาตะไคร้กันเลยดีกว่าค่ะ
ขั้นแรก
เอาต้นตะไคร้ล้างให้สะอาด ใช้ส่วนที่เป็นต้น ใบกับรากไม่เอา หั่นตากแดดให้เเห้งสนิท แล้วนำมาคั่วให้เหลือง หอม เก็บไว้ชง หรือต้มกินต่างน้ำ เหมือนน้ำชา
วิธีทำน้ำชาตะไคร้
นำตะไคร้แห้งเทลงไปในน้ำเดือด รอจนน้ำเปลี่ยนสีค่อยยกลง นำกากตะไคร้ออกแล้วเติมน้ำตาลลงไปเล็กน้อย ชิมรสชาติ เติมให้คงความหวานระดับปานกลาง
- นำสมุนไพรที่ตากแห้ง มาทำลูกประคบ
- ได้ชาสมุนไพร และชาตะไคร้
- เก็บบางส่วนไว้จำหน่าย บางส่วนแจกจ่ายคนที่มาร่วมกันทำผลิตภัณฑ์
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 5 คน
- ผู้นำชุมชน 5 คน
- อสม 5 คน
- ประชาชนในชุมชน 15 คน
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
- นำสมุนไพร ตากแดดวันที่ 2
- ทำน้ำมัน เหลืองล้างไพลกับขมิ้นอ้อยให้สะอาดแล้วซอยให้เป็นแว่นบาง ๆ นำไปทอดในน้ำมันมะพร้าวใช้ไปอ่อน ทอดจนเกรียมแต่ไม่ไหม้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ใส่ไพลลงไปทอดก่อน แล้วใส่ขมิ้นอ้อยตาม กรองสมุนไพรด้วยผ้าขาวบางจะได้น้ำมันสมุนไพร ผสมพิมเสน การบูร เมนทอล เข้าด้วยกัน ทิ้งไว้ซักพัก ส่วนผสมจะละลายเป็นน้ำใส ๆ เป็นพิมเสนน้ำ นำน้ำมันสมุนไพรที่ได้มาผสมลงในส่วนผสมของพิมเสนน้ำ ก็จะได้น้ำมันเหลือง
ได้ความรู้ในการทำน้ำมันเหลือง จากสมุนไพร
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 5 คน
- อสม 10 คน
- ผู้นำชุมชน 5 คน
- ประชาชน ในชุมชน 10คน
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
- เตรียมสถานที่
- นำสมุนไพร มาหั่น
- ตากแดด ทำพิมเสนน้ำ อุปกรณ์และขั้นตอนการทำพิมเสนน้ำ
1.พิมเสน 1 ส่วน
2.การบูร 2 ส่วน
3.เมลทอล 3 ส่วน
4.น้ำมันยูคาลิปตัส นิดหน่อย
5.ครกบดยา
6.ขวดใส
วิธีทำ
นำพิมเสนใส่ครกตำให้ละเอียด
จากนั้นใส่การบูรตามลงไปตำให้ละเอียด
แล้วใส่เมลทอลตามลงไปคนให้เข้ากันเมลทอลจะเป็นตัวทำละลาย หากยังมีตะกอนหรือละลายน้อยก็ใส่เมลทอลตามลงไปอีกนิดหน่อยคนให้ละลายให้หมด แล้วใส่น้ำมันยูคาลิปตัสลงไป มากน้อยตามใจชอบลองดมกลิ่นดู
ใช้ไซริงจ์ดูดพิมเสนน้ำหยดใส่ขวด ขวดละประมาณ 8 ซีซี
ประโยชน์ของพิมเสนน้ำ
- ช่วยทำให้ชื่นใจ แก้เป็นลม เป็นต้น แต่ไม่ควรดมมากเพราะอาจทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบหรือประสาทการรับรู้กลิ่นเสียได้
- ได้สมุนไพรที่ตากแดดที่แห้งแล้ว
- ได้พิมเสน พร้อมที่จำหน่าย
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 10 คน
- อสม 5 คน
- ผู้นำชุมชน 5 คน
- คนในชุมชน 10 คน
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
- เก็บสมุนไพร จากสวนสมุนไพร นำมาทำความสะอาด เช่น ไพล ขมิ้นอ้อยตะไคร้ใบมะขาม
- ทำสบู่จากกลีเซอลีน วิธีทำ
- หั่นหัวสบู่เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปตุ๋นนำหัวสบู่กลีเซอรีนขนาด 1 kg มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆแล้วใส่ลงในภาชนะสแตนเลส แล้วนำไปตุ๋นให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน (ระวังอย่าให้เดือดมากเกินไป)
- ขณะตุ๋นหัวสบู่อยู่ ให้มาเตรียมแม่พิมพ์สบู่ และสารสกัดต่าง ๆ รวมทั้งสี และน้ำหอมให้พร้อม
การเตรียมแม่พิมพ์ซิลิโคนทำความสะอาด
- เมื่อหัวสบู่ละลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว นำลงมาเติมสารสกัดต่าง ๆ เช่น วิตามินอี น้ำผึ้ง สมุนไพร คนให้เข้ากัน (ข้อควรระวัง อย่าให้หัวสบู่ร้อนเกินไป เพราะอาจทำให้คุณค่าของสารสกัดต่าง ๆ ที่ใส่ลงไปนั้นด้อยคุณค่าลง)
- เมื่อผสมให้เข้ากันแล้ว นำมาเทใส่พิมพ์ก่อนที่สบู่จะแข็งตัว
- เมื่อเทสบู่ใส่พิมพ์จนเต็มแล้ว ให้ฉีดด้วยแอลกอฮอล์ 95% เพื่อไล่ฟองอากาศออกจากเนื้อสบู่
- แล้วปล่อยทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง ให้เนื้อสบู่ เซ็ตตัว แล้วจึงแกะออกจากแม่พิมพ์
- เมื่อได้สบู่ก้อนแล้ว ให้เรามือที่สะอาดลูบไล้สบู่ให้ทั่วทั้งก้อน เพื่อให้เกิดความมันวาวที่ผิวสบู่ ก่อนนำไป wrap ด้วยพลาสติกใส
- เตรียมบริเวณที่จะห่อสบู่ ด้วยพื้นผิวที่เรียบ สะอาด แล้วนำแผ่นพลาสติก wrap มาปูให้เรียบสนิท ดังรูป
- เก็บสมุนไพรจากสวนสมุนไพรนำมาทำความสะอาด
- ได้สบู่สมุนไพร สูตร มะนาวน้ำผึ้ง ขิงน้ำผึ้ง แตงกวาน้ำผึ้ง มะละกอ มะขามน้ำผึ้ง
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 5 คน
- คนในชุมชน15
- ผู้นำชุมชน 5 คน
- อสม 5 คน
-
-
-
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
เตรียมสถานที่ ปรึกษา สรุปเนื้อหา
จากการร่วมหาส่วนผสมการแปลรูปเป็นผลที่น่าพึ่งพอใจเป็นอย่างมาก จากการที่คนในชุมชนร่วมกันหาทำให้เรามีสมุนไพร และ บรรจุภัณฑ์ พร้อมที่จะทำ เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ผู้นำชุมชน 7 คน
- ประธานโครงการ 1 คน
- เลขา 1 คน
- เหรัญญิก 1 คน
-
-
-
เพื่อเตรียมวัสดุในการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
หาวัตถุดิบ เช่น ดินขี้ผึ้งบริสุทธิ์วาสลิน การบูรเมนทอลเกล็ด พิมเสน เพื่อใช้ในการแปรรูป
มีวัตถุดิบ เช่น พิมเสน การบูร เมนทอล ยาหม่อง น้ำมันงา หรือน้ำมันมะพร้าวขี้ผึ้งบริสุทธิ์วาสลิน การบูรเมนทอลเกล็ด พิมเสน น้ำมันระกำน้ำมันกานพลูน้ำมันตะไคร้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 10 คน
- อสม 5 คน
- สมาชิก อบต 5 คน
- เยาวชน 10 คน
-
-
-
เพื่อเตรียมวัสดในการแปรรูปสมุนไพร
เตรียม บรรจุภัณฑ์ต่างๆ
สมาชิกร่วมกันทำความสะอาดบรรจุภัณฑ์ ล้างขวด และซักผ้า สำหรับทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 10 คน
- เยาวชน 10 คน
- อสม 5 คน
- สมาชิก อบต 5 คน
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
แยกย้ายกันหาบรรจุภัณฑ์ ในการแปรรูปสมุนไพร
ได้ขวด บรรจุภัณฑ์ สำหรับใส่น้ำสมุนไพร น้ำมันนวดตัว ชาสมุนไพร
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สมาชิกในชุมชนกลุ่มที่สนใจ เช่น กลุ่มแม่บ้าน เด็ก เยาวชน
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
เตรียมสถานที่ ประชุมปรึกษาเกี่ยววัสดุที่ต้องใช้
แบ่งหน้าที่การหาวัสดุในการแปรรูปสมุนไพร เช่น ขวดน้ำใส่น้ำดื่มสมุนไพรขวดแก้วใส่น้ำมันเหลืองผ้าขาวบางสำหรับทำลูกปะคบ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 10 คน
- อสม 15 คน
- สมาชิก อบต. 5 คน
-
-
-
เพื่อร่วมกันออกแบบในการสร้างผลิตภัณฑ์สมุนไพร และวางแผนในการเตรียมส่วนประกอบของสมุนไพร
สมาชิกของชุมชนร่วมกันปรึกษาการแปรรูปสมุนไพร
ปรึกษาว่าจะแปรรูปสมุนไพร และตกลงว่าจะจะลูกประคบ น้ำสมุนไพรน้ำมันเหลือง ชาสมุนไพรสบู่สมุนไพร
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 5คน
- อบต. 5 คน
- ผูนำชุมชน 5 คน
- อสม ใน ม.1 5คน
- เยาวชน 10 คน
-
-
-
เพื่อให้ความรู้ในการแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
วิทยากรให้ความรู้ในการแปรรูปสมุนไพรและการสร้างผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร
- ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้การแปรรูปสมุนไพร
การแปรรูปด้วยวิธีการทำแห้ง วิธีการทำแห้งแบ่งออกเป็น2 วิธี คือ การตากแดด และการผึ่งลมเป็นการนำสมุนไพรผึ่งไว้ในที่ร่ม
การแปรรูปด้วยวิธีการหมัก
การแปรรูปด้วยวิธีการใช้สารเคมี เช่น การทำน้ำอัญชันการกลั่นน้ำมันตะไคร้หอม ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ไล่ยุง การทำยาดองเหล้าพญายอ ใช้ในการรักษาโรคเริม งูสวัด การทำน้ำมันไพลจะเป็นการนำไพลลงทอดในน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันงาด้วยความร้อนต่ำ ๆ จนไพลแห้งกรอบ สารสำคัญในไพลก็ละลายออกมาอยู่ในน้ำมัน แล้วนำไปใช้ในการทาแก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ และการทำกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้งการทำบอระเพ็ดดองในน้ำผึ้ง เป็นต้น
การแปรรูปด้วยวิธีการใช้ความร้อน เป็นกระบวนการฆ่าเชื้อในผลิตภัณฑ์สมุนไพรในระดับต่างๆเพื่อประโยชน์ในการยืดอายุการเก็บรักษาและทำให้ผลิตภัณฑ์มีลักษณะตามต้องการการใช้ความร้อนมี3 ระดับ คือ 4.1การใช้ความร้อนระดับพาสเจอร์ไรซ์เป็นการใช้ความร้อนในการทำลายเชื้อจุลินทรีย์บางส่วนโดยเฉพาะจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคดังนั้นผลิตภัณฑ์สมุนไพรประเภทนี้จึงต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำ(แช่เย็น) เพื่อรักษาคุณภาพ และมีอายุการเก็บรักษาไม่ยาวนานเช่นการทำว่านกาบหอยบรรจุขวด(พลาสติก)การทำน้ำใบบัวบกบรรจุขวดเป็นต้น 4.2การใช้ความร้อนในระดับทำให้สุกหรือประมาณ 100oCเป็นการแปรรูปสมุนไพรในลักษณะการหุงต้มธรรมดาในระดับครัวเรือน เป็นการเคี่ยวการเผา การกวนสมุนไพร หรือแม้แต่การลวกวัตถุดิบก่อนเข้ากระบวนการอื่นเช่นการทำครีมพอกหน้าสมุนไพร 4.3การใช้ความร้อนในระดับสเตอริไลส์เป็นการใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อทั้งหมด ส่วนใหญ่ใช้ในกระบวนการแปรรูปเครื่องดื่มสมุนไพรชนิดที่สามารถเก็บรักษาไว้ที่อุณภูมิห้องธรรมดา เช่น การทำน้ำอัญชันผสมมะนาวบรรจุกล่องการทำน้ำลูกยอบรรจุขวด
การแปรรูปด้วยวิธีการใช้ความเย็น ส่วนใหญ่จะใช้ในการแยกสารสำคัญในสมุนไพรที่ได้จากการสกัดแล้วออกจากตัวทำละลายเพื่อให้ได้สารสำคัญในสมุนไพรที่บริสุทธิ์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปหลักการก็คือสารแต่ละชนิดจะมีจุดเยือกแข็งแตกต่างกัน เมื่อทำให้เย็นในระดับแช่แข็ง แล้วนำมาอุ่นในอุณหภูมิที่สารเกิดการละลายเป็นของเหลวต่างกันจะทำให้สามารถกรองแยกเอาสารที่ต้องการออกมาได้เช่นการผลิตน้ำมันมะพร้าวด้วยวิธีการสกัดเย็น
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- สภาผู้นำเยาวชน 30 คน
- กลุ่มวัยทำงาน 30 คน
- ผู้สูงอายุ 30 คน
- คณะทำงาน 10 คน
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
ประชุมสรุปผลจากการศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบ จ.พัทลุง เรื่องสมุนไพรของชุมชน
- จากการที่ได้ไปดูงาน คนในชุมชนได้เสนอการแปรรูป น้ำมันเหลือง ยาหม่องลูกประคบ น้ำสมุนไพร ชาสมุนไพร การทำสบู่สมุนไพร
- มีการจัดตั้งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมการแปรรูป จำนวน30 คน
- จัดหาสมุนไพรที่ยังไม่มีในชุมชนมาปลูกเพิ่มที่ศูนย์การเรียนรู้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 5 คน
- สมาชิก อบต 5 คน
- กลุ่มทำงาน 40 คน
- กลุ่มเยาวชน 30 คน
- กลุ่มผู้สูงอายุ 20 คน
-
-
-
เพื่อศุึกษาดูงานแลกเปลียนรู้พืชสมุนไพรของชุมชนต้นแบบ
- ศึกษาดูงาน ณ สวนกลางบ้าน อุทยานความรู้คู่ชุมชน เรียนรู้ เรื่อง การปลูกสมุนไพร การแปรรูปสมุนไพร และการนำสมุนไพรมาใช้ประโยชน์
จากการดูงาน ได้รับความรู้จากการบรรยายการปลูกสมุนไพรที่ดี การเก็บเกี่ยวที่ดี และการแปรรูปที่ดี สรรพคุณทางสมุนไพรได้รู้จักสมุนไพรที่ยังไม่รู้จัก
- การปลูกสมุนไพร เป็นการนำเอาส่วนของพืช เช่น เมล็ด กิ่ง หัว ผ่านการเพาะหรือการชำ หรือวิธีการอื่นๆ ใส่ลงในดิน หรือวัสดุอื่นเพื่องอกหรือเจริญเติบโตต่อไป การปลูกทำได้หลายวิธีคือ
การปลูกด้วยเมล็ดโดยตรง วิธีนี้ไม่ต้องเพาะเป็นต้นกล้าก่อน นำเมล็ดมาหว่านลงแปลงได้เลย หลังจากนั้นใช้ดินร่วนหรือทรายหยาบโรยทับบางๆ รดน้ำให้ชื้นตลอดทุกวัน เมื่อเมล็ดงอกเป็นต้นอ่อนจึงถอนต้นที่อ่อนแอออกเพื่อให้มีระยะห่างตามสมควร ปกติมักใช้ในการปลูกผักหรือพืชล้มลุกและพืชอายุสั้น เช่น กะเพรา โหระพา ส่วนการหยอดลงหลุมโดยตรงมักใช้กับพืชที่มีเมล็ดใหญ่ เช่น ฟักทอง ละหุ่ง โดยหยอดในแต่ละหลุมมากว่าจำนวนต้อนที่ต้องการ แล้วถอนออกภายหลัง
การปลูกด้วยต้นกล้าหรือกิ่งชำปลูกโดยการนำเมล็ด หรือกิ่งชำปลูกให้แข็งแรงดีในถุงพลาสติกหรือในกระถาง แล้วย้ายปลูกในพื้นที่ที่ต้องการ การย้ายต้นอ่อนจากภาชนะเดิมไปยังพื้นที่ที่ต้องการ ต้องไม่ทำลายราก ถ้าเป็นถุงพลาสติกก็ใช้มีดกรีดถุงออก ถ้าเป็นกระถาง ถอดกระถางออก โดยใช้มือดันรูกลมที่ก้นกระถาง ถ้าดินแน่นมาก ให้ใช้เสียมเซาะดินแล้วใช้น้ำหล่อก่อน จะทำให้ถอนง่ายขึ้นหลุมที่เตรียมปลูกควรกว้างกว่ากระถางหรือถุงพลาสติกเล็กน้อยจึงทำให้ต้นอ่อนเจริญเติบโตได้สะดวก วางต้นไม้ให้ระดับรอยต่อระหว่างลำต้นกับรากอยู่เสมอกับระดับของขอบหลุมพอดี แล้วกลบด้วยดินร่วนซุย หรือดินร่วมปนทรายกดดินให้แน่นพอประมาณ นำเศษไม้ใบหญ้ามาคลุมไว้รอบโคนต้น เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันแรงกระแทกเวลารดน้ำ หาไม้หลัก ซึ่งสูงมากกว่าต้นไม้มาปักไว้ข้างๆ ผูกเชือกยึดกับต้นไม้ คอยพยุงมให้ต้นไม้ล้มหรือโยกคลอนได้ ปกติใช้กับต้นไม้ยืนต้น เช่น คูน แคบ้าน ชุมเห็ดเทศ สะแก ขี้เหล็ก เป็นต้น หรือใช้กับพันธุ์ไม้ที่งอกยากหรือมีราคาแพง จึงจำเป็นต้องเพาะเมล็ดก่อน การปลูกด้วยหัวปกติจะมีหัวที่เกิดจากราก และลำต้น เรียกชื่อแตกต่างกัน ในที่นี้จะรวมเรียกเป็นหัวหมด โดยไม่แยกรายละเอียดไว้ สำหรับการปลูกไม้ประเภทหัว ควรปลูกในที่ระบายน้ำได้ดี มิฉะนั้นจะเน่าได้การปลูกโดยการฝังหัวให้ลึกพอประมาณ (ปกติลึกไม่เกิน 3 เท่าของความกว้างหัว) กดดินให้แน่นพอสมควร คลุมแปลงปลูกด้วยฟาง หรือหญ้าแห้ง เช่น การปลูกหอม กระเทียม
- การเก็บเกี่ยวสมุนไพร การปรุงยาให้มีคุณภาพนั้น นอกจากจะต้องรู้หลักและวิธีการปรุงยาแล้ว จะต้องรู้วิธีเก็บเกี่ยวสมุนไพรอีกด้วยตำราแพทย์ไทยจึงได้กำหนดวิธีการเก็บไว้ 4 อย่างคือ เก็บตามฤดู เก็บตามทิศทั้งสี่ เก็บตามวันและเวลา และเก็บตามยามและได้อธิบายวิธีเก็บไว้ดังนี้
เก็บตามฤดู มีดังนี้ ฤดูร้อน เก็บรากและแก่น ฤดูฝน เก็บใบลูก และดอก ฤดูหนาว เก็บเปลือกกระพี้ และเนื้อไม้
- เก็บตามทิศทั้งสี่ ได้แก่ วันอาทิตย์ และวันอังคาร เก็บทางทิศตะวันตก วันพุธ และวันศุกร์ เก็บทางทิศใต้ วันจันทร์ และวันเสาร์ เก็บทางทิศตะวันตก วันพฤหัสบดี เก็บทางทิศเหนือการเก็บสมุนไพรตามทิศนี้ให้ถือตัวผู้เก็บเกี่ยวเป็นศูนย์กลาง
เก็บตามวันและเวลา วันอาทิตย์ เช้าเก็บต้น สายเก็บใบเที่ยงเก็บราก เย็นเก็บเปลือก วันจันทร์ เช้าเก็บใบ สายเก็บแก่น เที่ยงเก็บต้น เย็นเก็บเปลือก วันอังคาร เช้าเก็บใบ สายเก็บเปลือก เที่ยงเก็บต้น เย็นเก็บราก วันพุธ เช้าเก็บราก สายเก็บเปลือกเที่ยงเก็บต้น เย็นเก็บแก่น วันพฤหัสบดี เช้าเก็บแก่น สายเก็บใบ เที่ยงเก็บราก เย็น เก็บเปลือก วันศุกร์ เช้าเก็บใบ สายเก็บรากเที่ยงเก็บเปลือก เย็นเก็บต้น วันเสาร์ เช้าเก็บราก สายเก็บต้นเที่ยงเก็บเปลือก เย็นเก็บใบ
ประโยชน์ของการเก็บเกี่ยวตามที่ตำราแพทย์ไทยได้กล่าวมาแล้ว ข้างต้นนี้ก็เพื่อ
- สงวนพันธุ์ของสมุนไพรไว้มิให้สูญไปโดยไม่เก็บจากบริเวณหนึ่งบริเวณใดโดยเฉพาะ
- ให้ได้ตัวยาที่มีสรรพคุณดี เพราะสรรพ-คุณของตัวยาขึ้นกับดินฟ้าอากาศ
- ให้ได้ตัวยาถูกต้องตามที่ตำราได้กำหนดไว้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- สภาผู้นำเยาวชน 10 คน
- กลุ่มวัยทำงาน 20 คน
- ผู้สูงอายุ 20คน
-
-
-
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
- เตรียมข้อมูลมาปรึกษา ในกิจกรรมที่ผ่ามมา
- เตรียมกิจกรรมต่อไป
- แบ่งหน้าที่ ประสานที่ดูงาน
- ติดต่อรถ
- เตรียมหาหารว่างและอาหารกลางวัน
- กิจกรรมที่ผ่านมามีผลที่น่าพอใจ
- หาที่ศึกษาดูงานได้ตกลงว่า ดูงาน ณ สวนกลางบ้าน อุทยานความรู้คู่ชุมชน
- แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ประสานงาน โดย นางสาวนุวภาแก้วแก่นเพชร
- ติดต่อรถ โดย นายธวัชแก้วแก่นเพชร
- เตรียมอาหารโดย นางสุรวดี พุทธศิริ
- ประสานคนในชุมชน โดยนายพงษ์ศักดิ์ ไชยแก้ว
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้นำชุมชน 5 คน
- ประธานโครงการ 1 คน
- เลขา 1 คน
- เหรัญญิก 1 คน
-
-
-
เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้สมุนไพรในชุมชน
- ร่วมกันทำแผนผังสมุนไพร ว่าใครปลูกสมุนไพรชนิดไหน
- ประชุมหมูบ้าน เพื่อสอบถามว่าบ้านใครปลูก สมุรไพรใดบ้าง
- จัดทำแผนผังหมู่บ้านว่าบ้านใคร จุดใด ปลูกพืชสมุนไพรใด
- ได้แผนผังสมุนไพรที่มีรายชื่อผู้รับผิดชอบสมุนไพรแต่ละชนิด
- แจกจ่ายให้คนในหมู่บ้านเพื่อให้คนทราบว่าบ้านหลังนี้ปลูกพืชอะไรบ้าง เพื่อใครในชุมชนอยากได้สมุนไพรชนิดใดจะได้นำมาใช้ได้ถูก
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นักเรียน10 คน
- กลุ่มวัยทำงาน 10คน
- ผู้สูงอายุ 30 คน
- คณะทำงาน 10 คน
-
-
-
เพื่อให้คนในชุมชนได้ระดมความคิดเห็นและสร้างการมีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินงานกิจกรรม
- ผญ.ได้แจ้งกำหนดการประชุม แก่คนในหมูบ้าน และกลุ่มเป้าหมาย
- ทำการประชุม โดยการชี้แจงรายละเอียด โครงการที่ดำเนินการไป เช่น กิจกรรมให้ความรู้สมุนไพร และกิจกรรมสำรวจสุขภาพของคนในชุมชน ฯลฯ และวางแผนกิจกรรมที่ทำต่อ เช่น การค้นหาสมุนไพรเพิ่มเติม การปลูกสมุนไพร การทำผลิตภัณฑ์
- สมาชิกชุมชนแลกเปลี่ยนข้อซักถาม
สมาชิกในชุมชนมีการเสนอให้เปลี่ยนเวรกันดูแลสมุนไพรที่นำไปปลูก ซึ่งชาวบ้านในชุมชนให้ความสนใจและร่วมมือเป็นอย่างดี
สร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการแสดงความคิดเห็น และวางแผนการดำเนินงานโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ประชาชนในหมู่บ้าน 52 คน
- สมาชิกโครงการ 12 คน
- อบต 2 คน
- อสม 4 คน
-
-
-
สร้างรายได้เสริมจากการผลิตและแปรรูปสมุนไพรในชุมชน
- เตรียมงาน ประสานผู้เข้าร่วม และสถานที่
- เตรียมสื่อให้ความรู้ โดยเชิญวิทยากรมาร่วมบรรยายประโยชน์ของพืชสมุนไพรใกล้บ้าน
- ทำพิธีเปิดศูนย์การเรียนรู้
เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง การใช้พืชสมุนไพร
- ทางด้านสาธารณสุข มีกลวิธีการพัฒนาสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยในงานสาธารณสุขมูลฐาน คือ
สนับสนุนและพัฒนาวิชาการและเทคโนโลยีพื้นบ้านอันได้แก่ การแพทย์แผนไทย เภสัช กรรมแผนไทย การนวดไทย สมุนไพร และเทคโนโลยีพื้นบ้าน เพื่อใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา สุขภาพของชุมชน
สนับสนุนและส่งเสริมการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง โดยใช้ สมุนไพร การแพทย์พื้นบ้าน การนวดไทย ในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ให้เป็นไปอย่างถูกต้องเป็นระบบสามารถปรับประสานการดูแลสุขภาพแผนปัจจุบันได้ อาจกล่าวได้ว่าสมุนไพรสำหรับสาธารณสุขมูลฐานคือสมุนไพรที่ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ และการรักษาโรค/อาการเจ็บป่วยเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งตนเองได้มากขึ้น
- สมุนไพรมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ
- ในปัจจุบันพืชสมุนไพรจัดเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ต่างประเทศกำลังหาทางลงทุนและคัดเลือกสมุนไพรไทยไปสกัดหาตัวยาเพื่อรักษาโรคบางโรคและมีหลายประเทศที่นำสมุนไพรไทยไปปลูกและทำการค้าขายแข่งกับประเทศไทย สมุนไพรหลายชนิดที่เราส่งออกเป็นรูปของวัตถุดิบคือ กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว เปล้าน้อยและมะขามเปียกเป็นต้น ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ตลาดต่างประเทศยังคงมีความต้องการอีกมาก และในปัจจุบันกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสนใจในการศึกษาเพิ่มขึ้นและมีโครงการวิจัยบรรจุไว้ในแผนพัฒนาระบบการผลิต การตลาดและการสร้างงานในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2530-2534) เพื่อหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาคุณภาพและแหล่งปลูกสมุนไพรเพื่อส่งออก โดยกำหนดชนิดของสมุนไพรที่มีศักยภาพ 13 ชนิด คือ มะขามแขก กานพลู เทียนเกล็ดหอย ดองดึง เร่ว กระวาน ชะเอมเทศ ขมิ้น จันทร์เทศ ใบพลู พริกไทย ดีปลี และน้ำผึ้ง
ประโยชน์ของพืชสมุนไพร
- สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดอาจมีราคาแพง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งอาจหาซื้อได้ยากในท้องถิ่นนั้น ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้มากกว่าแผนปัจจุบัน
- สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไปทั้งในเมืองและ ชนบท
- มีราคาถูก สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อยาแผนปัจจุบัน ที่ต้องสั่งซื้อจากต่าง ประเทศเป็นการลดการขาดดุลทางการค้า
- ใช้เป็นยาบำรุงรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง
- ใช้เป็นอาหารและปลูกเป็นพืชผักสวนครัวได้ เช่น กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตำลึง
- ใช้ในการถนอมอาหารเช่น ลูกจันทร์ ดอกจันทร์และกานพลู
- ใช้ปรุงแต่ง กลิ่น สี รส ของอาหาร เช่น ลูกจันทร์ ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารพวก ขนมปัง เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน
- สามารถปลูกเป็นไม้ประดับอาคารสถานที่ต่าง ๆ ให้สวยงาม เช่น คูน ชุมเห็ดเทศ
- ใช้ปรุงเป็นเครื่องสำอางเพื่อเสริมความงาม เช่น ว่านหางจระเข้ ปรนะคำดีควาย
- ใช้เป็นยาฆ่าแมลงในสวนผัก, ผลไม้ เช่น สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ
- เป็นพืชที่สามารถส่งออกทำรายได้ให้กับประเทศ เช่น กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว
- เป็นการอนุรักษ์มรดกไทยให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่น รู้จักช่วยตนเองในการ นำพืชสมุนไพรในท้องถิ่นของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ
- ทำให้คนเห็นคุณค่าและกลับมาดำเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น
- ทำให้เกิดความภูมิใจในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเป็นไทย
- ชี้แจงเรื่องศูนย์สมุนไพรในชุมชน ว่า มีสมุนไพรอะไรบ้าง เช่น ว่านหางจระเข้ ไพล ตะไคร้ ว่านฤษีนางครวญ ปลาไหลเผือก ตะไคร้หอม เสลดพังพอนตัวผู้ เสลดพังพอนตัวเมีย กระเจี๊ยบ ใบเตย การบูร เพชรสังฆาต ขมิ้น
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- สภาผู้นำเยาวชน 5 คน
- กลุ่มวัยทำงาน 5 คน
- ผู้สูงอายุ 30 คน
- สภาผู้นำชุมชน 5 คน
- คณะทำงาน 5 คน
-
-
-
เพื่อให้คนในชุมชนร่วมกันปลูกพืชสมุนไพรที่หามาได้ในชุมชน
คนในชุมชนร่วมกันเตรียมพื้นที่และร่วมกันปลูกพืชสมุนไพรที่หามาจากในพื้นที่ชุมชน และนำมาปลูกในพื้นที่สำนักสงฆ์ ซึ่งเป็นการปลูกเพิ่มจำนวนของพืชสมุนไพร จากวันที่ 22 เม.ย. เป็นกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อให้ได้จำนวนพืชสมุนไพรเพิ่มมากขึ้นสมุนไพรที่หามาปลูกลงดิน ประมาณ 60 ชนิด เช่น ไพล ขมิ้นชัน ปลาไหลเผือก ว่านหาวจระเข้ เสาวรส เสลดพังพอน กะเพราอัญชัน ตะไคร้ ตะไคร้หอม กระเจี๊ยบ การบูร ฟ้าทะลายโจร ใบเตย กระชาย กระชายดำ ขมิ้นดำ เพชรสังฆาต ว่านฤาษีนางครวญ ขี้เหล็ก ต้นมะม่วงหิมพานต์ ยอ ผักหวาน ต้นสาบเสือ กระทือ เป็นต้น
ทำการต่อน้ำเพื่อใช้ในการรดน้ำสมุนไพรในแปลงที่ปลุก
มีต้นสมุนไพรในชุมชน เช่น ไพล ขมิ้นชัน ปลาไหลเผือก ว่านหาวจระเข้ เสาวรส เสลดพังพอน กะเพราอัญชัน ตะไคร้ ตะไคร้หอม กระเจี๊ยบ การบูร ฟ้าทะลายโจร ใบเตย กระชาย กระชายดำ ขมิ้นดำ เพชรสังฆาต ว่านฤาษีนางครวญ ขี้เหล็ก ต้นมะม่วงหิมพานต์ ยอ ผักหวาน ต้นสาบเสือ กระทือ เป็นต้น สร้างเป็นพืนที่เรียนรู้ให้กับประชาชนฝนชุมชน
เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน และกลุ่มร่วมทำงานทั้งหญิง ชาย
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 10 คน
- ผู้นำชุมชน 10 คน
- อสม. 50 คน
- สมาชิก อบต.10 คน
- กลุ่มนักเรียน 20 คน
-
-
-
เพื่อติดตั้งป้ายศูนย์เรียนรู้สมุนไพรชุมชนบ้านพิกุลทอง
ติดตั้งป้ายศูนย์เรียนรู้สมุนไพรชุมชนบ้านพิกุลทอง จำนวน 1 ป้าย
ติดป้ายศูนย์เรียนรู้สมุนไพร เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในชุมชนได้ตระหนักในการอนุรักษ์ และเห็นคุณค่าของพืชสมุนไพร
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 2 คน
-
-
-
เพื่อปลูกพืชสมุนไพรในชุมชน
- เตรียมดิน ถางหญ้า เตรียมสถานที่ในการปลูกพืชสมุนไพร
- ปลูกสมุนไพรในพื้นที่สาธารณะของชุมชน บริเวณสำนักสงฆ์บ้านพิกุลทอง จำนวน 10 ต้น เช่น ตะใคร้ เสลดพังพอน ปลาไหลเผือกกระเจี้ยบ ไพร กระชาย ฯลฯ
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันปลูกต้นสมุนไพรในชุมชน ตามบ้านและที่สาธารณะ เช่น ตะใคร้ เสลดพังพอน ปลาไหลเผือกกระเจี้ยบ ไพร กระชาย ฯลฯ ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ และไว้สำหรับศึกษาแก่นักเรียนและคนในชุมชน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน10 คน
- สภาผู้นำชุมชน10 คน
- อสม. 50 คน
- สมาชิก อบต. 10 คน
- นักเรียน 20 คน
-
-
-
เพื่อให้คนในชุมชนมีความรู้ตระหนัก และเห็นคุณค่าของพืชสมุนไพรไทยต่อสุขภาพ
นำแบบสอบถามให้เด็กนักเรียน สำรวจข้อมูลสุขภาพคนในชุมชน จำนวน 160 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง 20 คน และผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ความดัน เบาหวาน 5 คน และประชาชนทั่วไป
นักเรียนและเยาวชน ร่วมกันสำรวจบ้านในชุมชน ทั้งไทยและอิสลาม เพื่อสำรวจสาเหตุ ปัญหาของสุขภาพของคนในชุมชน โดยพบว่า
การสูบบุหรี่ ร้อยละ 35 %
การดื่มสุราร้อยละ 10 %
การออกกำลังกายร้อยละ 80 %
ไม่ออกกำลังกาย ร้อยละ 20 %
โรคที่เป็นบ่อย 5 อันดับแรก
ไข้หวัด
ไอ
ปวดเหมื่อยตามร่างกาย
เบาหวาน
ความดัน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- นักเรียน70 คน
-
-
-
เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้สมุนไพรในชุมชน
- เขียนป้าย ข้อความรณรงค์ให้คนในหมู่บ้านมาร่วมกันปลูกสมุนไพรในครัวเรือน โดยเน้นที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพ รักษา คนในครัวเรือน
- นำป้ายประกาศที่เตรียมไว้มาติดประกาศ บริเวณ ทางเข้าออกหมู่บ้าน และสาลาการเปรียญหมู่บ้าน
- ประกาศเสียงตามหมู่บ้าน เพื่อให้คนในชุมชนได้ยิน และร่วมทำกิจกรรม
- ลงพื้นที่สอบถามว่าที่บ้านการปลูกพืชสมุนไพรอะไรบ้างในหมู่บ้าน เช่น ดอกดาวเรือง ใบบัวบก ตะไคร้ เป็นต้น
เขียนป้ายบอกรณรงค์ให้ปลูกพืชสมุนไพรในครัวเรือน เพื่อการนำสมุนไพรมาอุปโภคบริโภคแทนการใช้ยาแผนปัจจุบัน โดยติดป้ายรณรงค์ ที่บริเวณทางเข้าออกหมู่บ้าน และศาลาการเปรียญหมู่บ้าน ทั้งยังมีการประกาศเสียงตามสายหมู่บ้านอีกด้วย
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
คนในชุมชนจำนวน 50 คน
-
-
-
การดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร
- เตรียมเนื้อหาการบรรยาย เรื่อง ประโยชน์ของพืชสมุนไพร และการทำน้ำสมุนไพร
- ร่วมกันทำข้อตกลงในโรงเรียน ให้ใช้น้ำดื่มสมุนไพรในโรงเรียน
- ซักถามแลกเปลี่ยน
ได้เรียนรู้ประโยชน์ของพืชสมุนไพร
- สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดอาจมีราคาแพง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งอาจหาซื้อได้ยากในท้องถิ่นนั้น
ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้มากกว่าแผนปัจจุบัน
สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไปทั้งในเมืองและ ชนบท
มีราคาถูก สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อยาแผนปัจจุบัน ที่ต้องสั่งซื้อจากต่าง ประเทศเป็นการลดการขาดดุลทางการค้า
ใช้เป็นยาบำรุงรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง
ใช้เป็นอาหารและปลูกเป็นพืชผักสวนครัวได้ เช่น กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตำลึง
ใช้ในการถนอมอาหารเช่น ลูกจันทร์ ดอกจันทร์และกานพลู
ใช้ปรุงแต่ง กลิ่น สี รส ของอาหาร เช่น ลูกจันทร์ ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารพวก ขนมปัง เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน
สามารถปลูกเป็นไม้ประดับอาคารสถานที่ต่าง ๆ ให้สวยงาม เช่น คูน ชุมเห็ดเทศ
ใช้ปรุงเป็นเครื่องสำอางเพื่อเสริมความงาม เช่น ว่านหางจระเข้ ปรนะคำดีควาย
ใช้เป็นยาฆ่าแมลงในสวนผัก, ผลไม้ เช่น สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ
เป็นพืชที่สามารถส่งออกทำรายได้ให้กับประเทศ เช่น กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว
เป็นการอนุรักษ์มรดกไทยให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่น รู้จักช่วยตนเองในการ นำพืชสมุนไพรในท้องถิ่นของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ
ทำให้คนเห็นคุณค่าและกลับมาดำเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น
ทำให้เกิดความภูมิใจในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเป็นไทย
ประโยชน์น้ำสมุนไพร
น้ำสมุนไพรซึ่งมีประโยชน์ทางยา มีคุณค่าทางอาหารและช่วยในการป้องกันโรค โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน เหงื่อออกมาก ดื่มน้ำสมุนไพรจิตใจชุ่มชื่นรู้สึกสบาย เพราะน้ำสมุนไพรบางชนิดสามารถช่วยผ่อนคลายความร้อน ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง เช่น น้ำมะขามช่วยลดอาการกระหายน้ำ น้ำสมุนไพรบางชนิด ช่วยบำรุงหัวใจเป็นยาเย็น ได้แก่ น้ำใบเตย น้ำใบบัวบก น้ำสมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยย่อยทำให้ธาตุปกติและฟอกเลือด ได้แก่ น้ำมะเขือเทศ น้ำสมุนไพรเหล่านี้เป็นได้ทั้งอาหาร และให้คุณค่าทางยาได้บ้างเล็กน้อย น้ำสมุนไพรจึงเปรียบเสมือนยาที่ช่วยบำรุง ปกป้องรักษาสภาวะร่างกายให้เกิดสมดุลทำให้สุขภาพดี ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ร่างกายกระชุ่มกระชวยและอุดมไปด้วยวิตามินเกลือแร่ ช่วยบำรุงเส้นผม ช่วยควบคุมไขมัน ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากสารอาหารในน้ำสมุนไพรช่วยควบคุมระบบการทำงานของร่างกาย
การดื่มน้ำสมุนไพรชนิดเดียวติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการสะสมสารบางชนิดที่มีฤทธิ์ต่อร่างกายได้ การดื่มน้ำสมุนไพรร้อน ๆ ที่มีอุณหภูมิ 60 ซ. ขึ้นไปทำให้เยื่อบุผิวหลอดอาหารเสียสภาพภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ และอาจทำให้มีการดูดซึมสารก่อมะเร็ง จุลินทรีย์ ได้ง่าย ดังนั้นควรดื่มน้ำสมุนไพรให้หลากหลายก็จะช่วยให้ร่างกายเกิดสภาวะสมดุล ทำให้สุขภาพดีในที่สุด
ทางโรงเรียนจะนำนำ้สมุนไพรไปทานในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- เยาวชนในท้องถิ่น 70 คน
-
-
-
เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้สมุนไพรในชุมชน
สรุปการทำกิจกรรมในงวด 1 ที่ผ่านมา
คณะทำงานมีความพึงพอใจในการทำกิจกรรมที่มา พร้อมกับได้วางแผนการทำกิจกรรมในงวด 2
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้รับผิดชอบโครงการ 1 คน
- เลขา 1 คน
- คณะทำงาน 8 คน
-
-
-
เพื่อมีการรายงานผลการดำเนินงานโครงการในเวทีประชุมประจำเดือน
ประชุมเพื่อดำเนินการทำกิจกรรมโครงการในแผนงาน กิจกรรมต่อไป เช่น การเดินป่า หาสมุนไพรในพื้นที่ การเตรียมสถานที่ปลูกพืชสุมนไพร
มีการประชุมหารือเพื่อทำโครงการ เช่น กิจกรรมการปลูกพืชสมุนไพร โดยให้ชาวบ้านร่วมกันเดินหาสมุนไพรก่อน แล้วมาทำการปลูก ที่ศูนย์การเรียนรู้ โดยให้ร่วมกันพัฒนาสถานที่ ติดตั้งระบบน้ำไว้ใช้เพื่อรดน้ำต้นไม้และสมุนไพร ตลอดจนช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนในหมู่บ้านร่วมทำกิจกรรม
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ผู้จัดทำโครงการ 4 คน
- อบต 1 คน
- อสม 4 คน
- ตัวแทนผู้ใหญ่บ้าน 1 คน
-
-
-
เพื่อการบริหารจัดการและประเมินผลโครงการ
ตรวจเอกสารรายงานกิจกรรมหน้าเว้ปไซต์คนใต้สร้างสุข และเอกสารการเงิน
เจ้าหน้า สจรสตรวจเอกสารและหลักฐานการเงิน และแนะนำการคีย์ข้อมูล
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 2คน
-
-
-
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
ตรวจรายงานหน้าเว้ปไซต์ คนใต้สร้างสุข และหลักฐานการเงินในกิจกรรมโครงการ
ครูพี่เลี้ยงแนะนำการทำหลักฐานการเงินทำให้ผู้รับผิดชอบโครงการมีความเข้าใจในการทำเอกสารและบึนทึกรายงานในเว้ปไซต์ คนใต้สร้างสุข
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน 2 คน
-
-
-
เพื่อให้คนในชุมชนมีความรู้ตระหนัก และเห็นคุณค่าของพืชสมุนไพรไทยต่อสุขภาพ
- เตรียมสถานที่
- ประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนในหมู่บ้าน
- ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความรู้ เรื่องสมุนไพร โดยการอบรมเพื่อให้ความรู้ เรื่องสมุนไพรใช้อย่างไรโดยไม่ให้เกิดอันตราย ซึ่งเชิญวิทยากรที่เป็นพยาบาลจากโรงพยาบาลประจำอำเภอ
ประชาชนมีความเข้าใจในการใช้ยาสมุนไพรที่ถูกต้อง และระมัดระวังมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากการใช้สมุนไพร สามารถใช้สมุนไพรอย่างถูกวิธี โดยเป็นความรู้ทั่วไปที่ผู้ใช้สมุนไพรควรจะรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และสามารถนำความรู้ที่ได้ถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่นได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะผู้ดำเนินโครงการ 5คน
- สภาผู้นำเยาวชน 35 คน
- กลุ่มวัยทำงาน 35 คน
- ผู้สูงอายุ 25 คน
-
-
-
เพื่อให้นักเรียนศึกษาสมุนไพรในชุมชน
- คัดเลือกแกนนำในเยาวชน
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพร
- แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
เยาวชนได้ความรู้ความเข้าเรื่องสมุนไพรใกล้ตัว โดยสามารถตอบคำถามวิทยากรได้ถูกต้อง สามารถนำเสนอองค์ความรู้การใช้สมุนไพรใกล้ตัวได้หลายชนิด และร่วมสร้างข้อตกในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และเผยแพร่สู่ชุมชนโดยให้เริ่มจากครอบครัวของตัวเองและเพื่อนบ้าน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
นักเรียน จำนวน 70 คน
-
-
-
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการและสร้างการส่วนร่วมของคนในชุมชน
- ประชุมเพื่อเตรียมงานกิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องสมุนไพรกับเด็กนักเรียน เตรียมเนื้อหาการอบรม
- สรุปผลงานและประเมินผลกิจกรรมที่ผ่านมา
- หาแนวทางการดำเนินงานในกิจกรรมต่อไป
- มีการมอบหมายหน้าที่การทำงานให้กับผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการ เช่น การประสานวิทยากร การจัดสถานที่จัดอบรม เป็นต้น
- ในชุมชนสามารถรวบรวมรายชื่อสมุนไพรได้ประมาณ 60 ชนิด กิจกรรมที่ให้ความรู้ช่วยให้คนในชุมชนรู้จักการใช้สมุนไพรในชุมชนมากขึ้น
- ในการดำเนินกิจกรรมการปลูกพืชสมุนไพร จำเป็นต้องเลื่อนกิจกรรมต่อไปออกไปก่อน เนี่องจากอากาศร้อนไม่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกสมุนไพร
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ประธาน 1คน เลขา 1คน สมาชิกอบต 4 คน ผู้นำชุมชน 4 คน
-
-
-
เพื่อให้คนในชุมชนมีความรู้ตระหนัก และเห็นคุณค่าของพืชสมุนไพรไทยต่อสุขภาพ
-จัดเตรียมสถานที่ -แจ้งกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม -อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรที่พบได้ในชุมชนเช่น เทียนน้ำ - แก้ฝีและแผลพุพอง ใช้ใบสด 5-10 ใบ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด นำมาพอกที่เป็นแผล วันละ 3 ครั้ง จนกว่าจะหาย ,ต้นพุดตาล ยาถอนพิษ รักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แผลมีหนอง ใช้ใบสด 3-4 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำมันพืช ใช้ทาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แผลมีหนอง,ว่านหางจระเข้ บรรเทาอาการปวดศีรษะ เลือกใบว่านหางจระเข้ที่อยู่ล่างสุด ใบสด 1 ใบ (เพราะมีตัวยามากกว่า) ฝานตามขวางใบ หนาประมาณ 1/4 ซม. ใช้ปูนแดงทาตรงเนื้อที่มีลักษณะคล้ายวุ้นสีขาวใสๆ แล้วเอาทางด้านปูนแดงปิดบนขมับ เป็นต้น -การใช้สมุนไพรในการนวด
ประชาชนสามารถนำสมุนไพรใกล้ตัวไปใช้ในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องพึ่งยาแผนปัจจุบัน และยังเรียนรู้เกี่ยวกับเกร็ดความรู้เพิ่มเติมที่จะช่วยให้การใช้ยาสมุนไพรได้ประโยชน์สูงสุด เช่น ไข้หวัด ก็กินฟ้าทะลาายโจร แทนPara ,ว่านหางจระเข้ควรเลือกใช้ใบที่อยู่ล่างสุด ใช้ทาแผล น้ำร้อนลวก และต้นเทียนน้ำซึ่งเป็นไม้ประดับ ทุกคนในชุมชนไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามารถใช้เป็นยาสมุนไพรแก้ฝีและแผลพุพองได้ เป็นต้น
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรังประมาณ 35 คน
- คนในชุมชน 100 คน -เยาวชนในโรงเรียนและนอกโรงเรียนของตำบล 70 คน
- สภาผู้นำชุมชน 10 คน
- คณะทำงานโครงการ 5คน
-
-
-
เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้ภายในชุมชน
-เตรียมสถานที่ -นัดประชากรในหมู่บ้าน แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการนำเสนอสมุนไพรที่ปลูกในบริเวณบ้าน หรือข้างเคียง -พูดคุย เกี่ยวกับการดำเนินการโครงการ ความเคลื่อนไหวของโครงการ -ให้ชาวบ้านแต่ละกลุ่มนำเสนอสมุนไพร ที่ได้จากการสำรวจในชุมชน และบริเวณบ้าน เช่น ตะใคร้ ฟ้าทะลายโจร พญายอ ดอกแค ใบเตย ชะพลู ขี้เหล็ก บัวบก ว่านหางจระเข้ ปลาไหลเผือก กระดุมทอง ดาวเรือง หญ้าขี้ไก่ (สาบเสือ) ขิง ข่า มะนาว
จากการนำเสนองานของแต่ละกลุ่ม ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านได้เรียนรู้ และแลกเปลี่ยนข้อมูล เรื่องชนิดและสรรพคุณของสมุนไพรในหมู่บ้านร่วมกัน โดยเฉลี่ยแต่กลุ่ม (12 กลุ่ม)มีการนำเสนอสมุนไพรประมาณกลุ่มละ 4-5 ชนิดที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้ได้ความรู้เรื่องสมุนไพรในชุมชนเพิ่มขึ้นประมาณ 60 ชนิด โดยมีวิทยากรซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพจากโรงพยาบาลประจำอำเภอคอยให้ข้อมูลเพิ่มเติม
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- สภาผู้นำเยาวชน 30 คน
- กลุ่มวัยทำงาน 30 คน
- ผู้สูงอายุ 25คน
- คณะทำงานโครงการ 5คน
- สภาผู้นำชุมชน 10 คน
-
-
-
เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมการศึกษาสรรพคุณสมุนไพรโดยเยาวชนและคนในชุมชน
-จัดเตรียมสถานที่ -จัดตั้งสภาผู้นำ -ร่วมศึกษาสรรพคุณของสมุนไพร -ศึกษาการประกอบอาหารโดยสมุนไพร -แลกเปลี่ยนความรู้
- ได้เรียนรู้สรรพคุณของสมุนไพร เช่น ว่านหาง ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ด้วยการรับประทานเนื้อวุ้น , ใบเตยหอม สรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น และช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ, ตะใคร้ ทำให้เจริญอาหาร แก้ปวดกระเพาะอาหาร แก้ท้องเสีย , หอมแดง สรรพคุณของหอมแดง ช่วยบำรุงโลหิต ช่วยบำรุงหัวใจ, ประโยชน์ของมะพร้าว ช่วยบำรุงร่างกาย (เนื้อมะพร้าว)
- ได้เรียนรู้การประกอบอาหารเมนูต่าง ๆ ที่ใช้สมุนไพร เช่น
- เมี่ยงคำ ส่วนผสม ใบชพลู ขิง มะนาว กุ้งแห้ง พริก มะมาว หอมแดง ถั่วคั่ว
- ข้าวยำ ปลาคั่ว มะพร้าวคั่ว บูดู ผักต่างๆ
- แกงส้มดอกแค ดอกแค กุ้งก้ามกราม น้ำมะขามเปียก พริกแห้งเม็ดใหญ่ หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ซอย เกลือป่น/กะปิ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชน 30 คน
- กลุ่มวัยทำงาน 25
- ผู้สูงอายุ 30 คน
- ผู้นำชุมชน และสมาชิกอบต. 15 คน
-
-
-
เพื่อรณรงค์การลด เลิก บุหรี่ น้อยลง
ติดป้ายโครงการในหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลคีรีเขต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา และประชาสัมพันธ์ให้คนในหมู่บ้าน ละ ละ เลิก บุหรี่
ประชาชนในหมู่บ้านสนใจกิจกรรม ลด ละ เลิก บุหรี่ และช่วยกันสอดส่องลูกหลานในหมู่บ้านเพื่อป้องกันลูกหลานยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ประชาชน หมู่บ้านพิกุลทอง
-
-
-
เพื่อให้คนในชุมชนมีความรู้ ตระหนัก และเห็นคุณค่าของพืชสมุนไพร ไทยต่อสุขภาพ
ร่วมกันหาสมุนไพรในชุมชน โดยแบ่งกลุ่มประมาณ 12 กลุ่ม เดินสำรวจในชุมชน และกลับรวมตัวกันเพื่อรวบรวมข้อมูล
จากการร่วมหาสมุนไพรในชุมชน ได้สมุนไพร ประมาณ 30 ชนิดได้แก่ ต้นแคร์ ต้นยอ ต้นปลาไหลเผือก ต้นฟ้าทะลายโจร ขิงแดง เหงือกปากหมอ มะระขี้นก ว่านหางจอระเข้ ขิง ข่า ตะไคร้ ใบเตย ต้นมะกูด ต้นกระเจี๊ยบ ชุมเห็ดเทศ บัวบก มะรุม กระเพรา เป็นต้น
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คนในชุมชน 40 คน เยาวชนในในโรงเรียน 20คน สมาชิก อบต 5 คน คณะทำงาน 5 คน
-
-
-
เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจโครงการร่วมกับคณะทำงานชุมชน
-
-
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
คนในชุมชน 30 คน 2.เยาวชนในโรงเรียนและนอกโรงเรียนของตำบล 20 คน
ปัญหาเรื่องการเชิญผู้เข้าร่วม ที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายนัก
-
- การเชิญกลุ่มเป้าหมายยังไม่ค่อยตรงมากนัก เป้าหมายหลักของโครงการต้องการให้นำชาวบ้านและแกนนำชุมชนเข้ามาร่วม แต่จากข้อสังเกตุพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน
เพื่อให้คนในชุมชนมีความรู้ ตระหนัก และเห็นคุณค่าของพืชสมุนไพรไทยต่อสุขภาพ
- จัดเตรียมสถานที่ เพื่อดำเนินกิจกรรม
- ลงทะเบียน
- กล่าวเปิดโครงการ โดยรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคีรีเขต
- แจ้งรายละเอียดโครงการ โดย ประธานโครงการ มีเนื้อหาดังนี้ คือ ที่มาของโครงการ กิจกรรมของโครงการ ระยะเวลาดำเนินงาน และงบประมาณที่สนับสนุนจาก สสส.
- ผู้ใหญ่บ้านแจ้งรายละเอียดข้อมูลโครงการแก่คนในชุมชน
- อาจารย์พี่เลี้ยงชี้แจงโครงการที่จัดทำในชุมชน
- จัดตั้งสภาผู้นำชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของผู้นำกลุ่มต่างๆของคนในชุมชน และจัดตั้งสภาผู้นำเยาวชนเพื่อเรียนรู้และขับเคลื่อนกิจกรรม
- กล่าวปิดงานโดยผู้ใหญ่บ้าน
- แนะนำสถานที่ในหมู่บ้านโดย ผู้ใหญ่บ้าน ประธานโครงการ และผู้ร่วมโครงการ เช่น ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง สถานที่สำหรับจัดทำศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรในชุมชน
- อาหารว่างและเครื่องดื่มใช้สมุนไพรในชุมชนเป็นองค์ประกอบ
ประชาชน เยาวชน และนักเรียน ในชุมชนมีความเข้าใจในตัวโครงการ และมีความสนใจการดำเนินโครงการ โดยมีการซักถามรายละเอียดการดำเนินงาน พร้อมทั้งเสนอแนะวิธีการดำเนินการโครงการเพิ่มเติม และนำเอาเรื่อง พืช สมุนไพรที่มีในหมู่บ้านมาพูดคุยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนและนักเรียนที่ให้ความสนใจเรื่องสมุนไพรที่นำมาใช้ทำขนมและเครื่องดื่ม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ผู้ป่วยเรื้อรัง 10 คน คนในชุมชน 15 คน นักเรียน 15 คน ผู้นำชุมชน 5 คน สมาชิก อบต 5 คน
- ประชาชนส่วนใหญ่ในชุมชน รู้จักชื่อพืชสุมนไพรในชุมชนแต่ยังไม่มีความรุู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม เด็กและเยาวชน ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ทางโครงการจะมีการจัดอบรมให้ความรู้ต่อไป
- แม้จำนวนผู้เข้าร่วมจะครบตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ผู้ที่เข้าร่วมยังมาไม่ครบทุกครัวเรือน เนื่องจาก เป็นช่วงว่างงานเพราะฝนตกไม่สามารถทำสวน กรีดยางได้ จึงออกนอกพื้นที่ไปเยี่ยมญาติพี่น้อง
-
-
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการดำเนินโครงการให้บรรลุตามเป้าหมาย
ประชุมคณะกรรมการโครงการ และตัวแทนชุมชน เพื่อชี้แจ้งโครงการ และแจ้งกลุ่มเป้าหมายให้มาร่วมกิจกรรมเปิดตัวโครงการและจัดตั้งคณะบุคคลเพื่อดำเนินโครงการ พร้อมทั้งหารือเรื่องคู่มือการใช้สมุนไพร และระดมความคิด เรื่องสมุนไพรที่พบได้ในชุมชน ซึ่งจะจัดทำเพื่อมอบให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเปิดตัวชี้แจงโครงการ
- มีการแบ่งหน้าที่การทำงานของคณะทำงานที่ชัดเจนขึ้น และทุกคนจะช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งกลุ่มเป้าหมายให้มาร่วมกิจกรรม ในวันที่ 13 มกราคม 2558
- จากการระดมความคิดทำให้ได้ข้อมูลรายชื่อสมุนไพรในชุมชน สรรพคุณ พร้อมวิธีใช้ ประมาณ 60 ชนิด
- และร่วมกันจัดสถานที่ ณ ศาลาเอนกประสงค์วัดศรีนคร
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ประธานโครงการ 1 คน เลขา 1 คน เหรัญญิก 1 คน อสม 15 คน ตัวแทนผู้ใหญ่บ้าน 1 คน สมาชิก อบต 1 คน
-
-
-
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการดำเนินโครงการให้บรรลุตามเป้าหมาย
- คณะ สจรส.ม.อ.แนะนำตัว
- ครูพี่เลี้ยงแนะนำตัว
- ทำข้อตกลงร่วมกัน
- การสนับสนุนของครูพี่เลี้ยง -กระบวนการและระบบการติดตามการประเมินผล -ความคาดหวังประสบการณ์และแนวทางในการจัดทำรายงานผลและรายงานการเงิน -การบริหารจัดการโครงการและวิธีการจัดการปัญหา
- การป้อนแผนการดำเนินงานในปฏิทินโครงการ
- การรายงานผลการจัดกิจกรรมและรายจ่ายในกิจกรรม
- การจัดทำรายงาน โดยการสอนการใช้เว็ปคนใต้สร้างสุข และการแบ่งจ่ายเงิน 3งวด
- ได้รู้จักครูพี่เลี้ยงจังหวัดต่างๆ
- ได้ทำข้อตกลงร่วมกัน
- ได้เรียนรู้กระบวนการทำงาน การติดตามและการประเมินผล และการป้อนข้อมูลผ่านเว็ปไซด์
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการ น.ส.นุวภา แก้วแก่นเพชร ผู้รับผิดชอบการเงินโครงการ นางสุรวดี พุทธศิริ
-
-
-