![](/file/somnuk1/profile.photo.jpg?t=1544464489)
จัดเตรียมเอกสารหลักฐานการเงินจัดทำรายงานให้ถูกต้องครบถ้วน
ส่งเอกสารการเงิน การรายงานกิจกรรมผ่านเวว็บไซต์โดย เจ้าหน้าที่ สจรส. มอ.
เอกสารครบถ้วนได้รับการตรวจสอบแล้ว
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการ การเงินโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์
- ลงทะเบียน ส่งเอกสารการเงิน การรายงานกิจกรรรมผ่านเว็บไซต์ ตรวจสอบ โดย สจรส. มอ
- ส่งเอกสารหลักฐานเงิน ตรวจสอบความถูกต้อง
- ส่งรายงานกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ ตรวจสอบความถูกต้อง
- สรุปการตรวจเอกสารหลักฐานการเงินถูกต้อง รายงานกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ถูกต้องสมบูรณ์ พร้อมออกรายงานฉบับสมบูรณ์
ได้น้อยกว่าเป้าหมายมาก (1)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์
คณะทำงานตามโครงการได้มอบหมายให้นายธันวาคมหนูจันทร์ เป็นผู้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานการเงินประกอบเป็นชุดกิจกรรมพร้อมการรายงานผ่านเวบ
- ได้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานการเงิน ตรวจสอบความถูกต้องรายละเอียดในใบสำคัญรับเงิน บิลเงินสด รายละเอียดการหักภาษี ณ ที่จ่าย เอกสารประกอบใบสำคับรับเงิน
- ได้จัดทำเอกสารหลักฐานการเงินประกอบเป็นชุดกิจกรรม ทุกกิจกรรมเป็นที่เรียบร้อย
- ได้ตรวจสอบรายงานกิจกรรมผ่านเว็ปไซส์ มีความสมบรูณ์ของเนื้อหาสารที่สำคัญ มีภาพประกอบกิจกรรมทุกกิจกรรม
- ได้ลงบันทึกรายงานผ่านเว็บ ให้ถูกต้อง ครบถ้วน ในทุกเนื้อหาสาระของกิจกรรม พร้อมสรุปสาระสำคัญ
- พี่เลี้ยงได้ตรวจสอบเอกสารการเงิน และการรายงานผลในเว็บไซต์ ยังมีข้อแก้ไขหลายชิ้น จึงได้กลับไปปรับแก้ ก่อนส่งให้ สจรส.ม.อ.ตรวจสอบพรุ่งนี้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดโครงการ การเงินโครงการ
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์
- คณะทำงานตามโครงการได้มอบหมายให้เจ้าหน้าบันทึกข้อมูลเป็นผู้ถ่ายภาพกิจกรรมทุกกิจกรรม ตลอดโครงการพร้อมส่งมอบภาพถ่ายให้ผู้รายงานผ่านเว็บไซต์
- ได้บันทึกภาพกิจกรรมต่างๆ และปริ้นรูปภาพออกมาประกอบการทำรายงาน แลพเก็บไว้ในแฟ้มของชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ผู้บันทึกภาพจำนวน 2คน
ไม่มีปัญหา
ไม่มี
ไม่มี
ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยน ศึกษาเรียนรู้ การแสดงผลงาน ความรู้ทางวิชาการต่างๆ
- ได้นำผลผลิตตามโครงการ ไปออกบูธ แสดงการผลิตผลผลิต ลูกชก กลอย บุก โดยนำของจริงมาแสดงมีวิทยากรบรรยายได้รับความสนใจมีผู้เข้าชม ชิม สนใจสั่งซื้อผลิตผลจำนวนมาก
- กลอย บุก ได้ส่งการปลูกในชุมชนเป็นการเสริมรายได้ลดภาระหนี้สิน บุกให้ผลได้ในเวลา1-2 ปี โดยปลูกใต้ร่มเงาไม้สวน เช่น สวนยาง สวนผลไม้ ปลูกได้ไร่ละ 3000-4000 ต้น อายุ 1 ปีผลิตได้ประมาณ 3-4 ตัน ราคา กก. ละ 5-8 บาท หากขายเป็นต้นพันธุ์ราคา กก. ละ 20-50 บาท คาดว่าใน 2-3 ปีนี้จะยังขาดต้นพันธุ์ และมีไม่พอผลิตแปรรูป (แป้งบุกราคา กก.ละ 200-700 บาท)
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการ 1 คน ผู้นำชุมชน 1 คน ผู้นำกลุ่มผู้ผลิตกลอย ลูกชก บุก3 คน
ในการจัดนิทัศน์การควรจัดผลิตผลมาจำหน่ายให้พอเพียง ของที่เตรียมมา จำหน่ายหมดในเวลา 3 ชม.เท่านั้น
1 ต่อยอดการวิจัย
2 ส่งเสริมกิจกรรมต่อเนื่อง
ผลผลิตที่ตลาดตอบรับต้องรีบจัดการขยายผลให้สมดุน
เพื่อทบทวนกระบวนการทำงานของสภาผู้นำ การประเมินผลกิจกรรมต่างๆ ปรับปรุงแผนงานการดำเดินการให้เกิดประสิทธิภาพ
- นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช ผู้ใหญ่บ้านได้เปิดการประชุม เวลา 09.50 น.ได้ทบทวนความเป็นมาของโครงการต่างๆในหมู่บ้าน แผนพัฒนาที่ตั้งไว้ระยะสั้นระยะยาว แผนงานเร่งด่วน ผลการเสนอหมู่บ้านเข้าประกวดในระดับจังหวัดเกิดการพัฒนาเสริมในท้องถิ่นหลายอย่างเช่น การตั้งตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าต่างๆทำให้สามารถเปิดตลาดได้เป็นตลาดชุมชนนัดประจำวันอาทิตย์ และสามารถขายได้ทุกวัน มีคนในหมู่บ้านมาขายอยู่ประจำประมาณ 18 ครัว
- เวลา 12.20 น.พักกลางวัน เวลา 13.00 น.ผญบ. และพัฒนากร นายกำจาย แบ่งกลุ่มผู้เข้าประชุมเป็นสองกลุ่ม วางแผนการพัฒนาต่อยอดโตรงการหมู่บ้าน
- ได้แนวคิดการจัดเป้าหมายของชุมชนไปสู่การจัดการหมู่บ้านการเกษตรอินทรีย์ การท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มนำเสนอดังนี้
- โครงการพัฒนาตลาด การเน้นการขายสินค้าท้องถิ่น เป็นเกลักษณ์ของชุมขน เช่น เครื่องจักสานของที่ระลึกจากต้นคลุ้ม ไม้ไผ่ อาหารพื้นบ้านใช้ภาชนะใบไม้ ใบเร็ด การจัดที่จอดรถ การดูแลความสะอาด
- โครงการจัดการท่องเที่ยว การจัดกลุ่มท่องเที่ยว การจัดภูมิทัศน์ การบริการอาหาร ที่พัก การจัดโปรแกรมเป็นชุดประสานกับหมู่บ้านข้างเคียง การจัดศูนย์ข้อมูลหมู๋บ้าน การทำโครงการของบประมาณหมู่บ้าน
- โครงการส่งเสริมการผลิต การทำปุ๋ยหมัก การปลูกผักปลอดเคมี การเลี้ยงไก่บ้าน
- โครงการทางด้านวัฒนธรรมประเพณี การส่งเสริมการฝึก การแสดงมโนราห์ การจัดงานตามประเพณี ลอยกระทง ปีไหม่ มาฆะบูชา สงกรานต์ วิสาขะบูชาเข้าพรรษา เดือนสิบ
- มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันและประชุมกันทุกวันที่ 10 ของเดือน
- การขยายผลตลาดชุมชน ของชุมชนบ้านหน้าเขา
- การต่อยอดการส่งเสริมกลุ่มทำปุ๋ย กลุ่มผลิตลูกชก กลุ่มกลอย กลุ่มปลูกบุก ผักปลอดเคมี ผักพื้นบ้าน
- การจัดการการท่องเทียว การทำโคงการหนุนเสริมจากภาครัฐ
- กลุ่มต่างๆให้ความสนใจในกิจกรรมดังกล่าวเป็นอันมาก มีการจัดการปลูกพืชผัก เลี้ยงไก่เป็นต้นทุนอาหาร การจัดการครัว การบริการ การแปรรูปอาหารพื้นบ้านกลอย ลูกชก กระวาน พืชสมุนไพรในชุมชน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มสภาผู้นำ ผู้นำกลุ่มอาชีพ กลุ่มปุ๋ยหมักกลุ่มปลูกพืชผัก กลุ่มปลูกกลอย บุก กลุ่มทำลูกชกรวม28 คน
การจัดการสถานที่การท่องเที่ยวต้องใช้ทุน และเวลามากชุนชนไม่สามารถทำได้ต้องอาศัยงบประมาณ
- อยากให้ต่อยอดกลุ่มชุมชนให้ความรู้ วิสัยทัศน์
- การเสริม การวิจัยพืชผักสมุนไพรในท้องถิ่น เช่น บุก กระวาน ผักขี้พร้าแม่หมก
1 จัดการตามศักยภาพให้ดีที่สุด 2 ติดตามผล พัฒนาอย่างต่อเนื่อง 3 ตลาดตอบโจทย์รายได้ได้ดี
เพื่อตรวจสอบการทำกิจกรรมต่างๆ การเงิน การทำรายงานในงวดที่ 2
คณะพี่เลี้ยงได้ช่วยเหลือ แนะนำการทำกิจกรรมและการบันทึกต่างๆ ได้ตรวจสอบเอกสารการเงิน และการเขียนรายงานกิจกรรม
เอกสารการเงินยังไม่ครบถ้วน และยังไม่เรียบร้อย ให้กลับไปแก้ไขให้ถูกต้องตามคำแนะนำ และได้ปรับปรุงรายงาน การบันทึกให้ถูกต้องครบถ้วน ก่อนส่งรายงานโครงการงวด 2 ให้ สจรส.ในวันที่ 15 กันยายน2559
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
จำนวนคน/ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจริง 2 คน รายละเอียดกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม คณะทำงาน 2 คน
เอกสารไม่เรียบร้อย /ให้ปรับแก้
ไม่มี
เน้นความร่วมมือของคณะทำงานให้มากกว่านี้
เป็นการสรุปบทเรียน ผลงาน ความเปลี่ยนแปลง ความก้าวหน้าและอุปสรรคในการดำเนินการจัดกิจกรรมตามโครงการและการวางแผนในการต่อยอดงาน การร่วมกิจกรรมสังสรรค์เพื่อความผูกพัน สามัคคีของหมู่คณะ
- กำหนดจัดกิจกรรมวันที่ 31 กค. 2559 ในวันดังกล่าวได้เชิญ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายเดชรัฐ สิมสิริ มาเยี่ยมหมู่บ้านและร่วมกิจกรรมนี้ด้วย วันนี้คณะสภาหมู่บ้าน สมาชิกในหมู่บ้านกลุ่มต่างๆที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ ได้มาจัดเตรียมงานสถานที่ประชุม การออกร้านขายผลผลิตจากสมาชิกกลุ่มอาชีพ ขายผลผลิตของหมู่บ้านทุกคนได้ออกมาเตรียมของ อาหารเลี้ยง ผลผลิตที่เอาออกมาขายตั้งแต่เช้ามืด มีการแสดงดนตรี ตลอดวัน กิจกรรมการจับฉลากมอบรางวัลซึ่งใช้ผลผลิตจากโครงการนำมาเป้นรางวัลมอบให้กับผู้มาร่วมกิจกรรม
- เวลา 10.00 น.คณะผู้ว่าราชการจังหวัดได้เดินทางมาเยี่ยมโดยนำทีมจักรยาน ประมาณ 100 คน ปั่นมาจากอำเภอรัษฎาเยี่ยมหมู่บ้านและสถานที่ท่องเที่ยวของหมู่บ้าน ถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม เป็นถ้ำที่มีลำคลองไหลลอดภูเขาเข้ามาในหมู่บ้านและไหลลอดภูเขาออกไปอีกครั้งหนึ่งเรียกว่าถ้ำบน (วังพระยาพิชัยฯ) และถ้ำล่างระยะระหว่างถ้ำห่างกันประมาณ 1 กม.สามารถเดินผ่านทะลุได้ทั้งสองถ้ำ อีกที่หนึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงคือ วัดถ้ำพระพุทธ โบราณสถาน พระพุทธไสยาสน์อายุราว 1800 ปี และเข้าร่วมกิจกรรมสรุปบทเรียนจากโครงการ ร่วมกับสมาชิกโครงการตามลำดับดังนี้
- นางสมัย ศักดิ์ศรี ประธานกลุ่มทำปุ๋ยหมักตามโครงการ ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับการทำปุ๋ย ดินปลูกพืช ได้ผลดีสามารถจำหน่ายได้ กิโลกรัมละ 6 บาท
- นายอภิเชษฐ แดงขาว ประธานกลุ่มเลี้ยงไก่ สรุปการเลี้ยงไก่ เป็นการเลี้ยงแบบธรรมชาติมากกว่าแบบฟาร์ม ให้กินเศษอาหาร ผัก เม็ดปาร์มร่วง มีซื้ออาหารพวกข้าวเปลือก รำข้าว ได้ผลดีแต่หากเลี้ยงไก่บ้านโดยซื้อาหารจะไม่คุ้มทุน
- นางประจวบ ปราบปราม สมาชิกกลุ่มเพาะเห็ดในถ้ำ ได้สรุปบทเรียนการเพาะเห็ดในถ้ำว่ามีตัวแปรหลายอย่างไม่คุ้มทุน เช่น ราคาต่ำ หากมีไม่มากพอส่งขายตลาดไม่ได้ผลผลิตไม่แน่นอน เปอร์เซ็นต์การงอกไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วยแต่เห็ดหูหนู เห็ดแครงงอกดี ส่วนเห็ดนางฟ้าให้ผลไม่สม่ำเสมอมีเชื้อราเข้าทำลาย
- นายอรุณ จิตรเพ็ชร ผู้นำกลุ่มปลูกกลอยในสนยาง สรุปเรื่องการเพาะชำต้นไม้ได้ผลดีเริ่มทำได้มากมาวางขายที่ตลาดได้ การขยายพันธ์ต้นไม้หายากที่ตลาดต้องการมากคือไม้กินใบ ต้นยายถีบหลาน(พืชยืนต้นสูงประมาณ 1-2 เมตรใบกว้าง2-3 นิ้วคล้ายใบเหลียงแต่มีรสหอมมันไม่เหม็นเขียวอร่อยกว่ามาก) ต้นกระวาน(หวาน) ผักแหมะ (คล้ายมะระขี้นกใบโตกว่าและแฉกใบตื้นกว่า) และได้เน้นเรื่องการปลูกกลอยในสวนยางกลอย ภูมินิเวศน์ในหมู่บ้านเหมาะมากกับกลอยขณะนี้ได้ขยายพันธ์ปลูกไปแล้วประมาณ 1000 ต้นสามารถนำมาประกอบอาหารเช่น นึ่ง ต้ม บวด หุง ทอด ทำขนมลอดช่อง ขนมกวน ฯลฯ ขณะนี้กลุ่มปลูกกลอยรวมทั้งกลอยธรรมชาติที่มีอยู๋มาก สามารถเก็บผลผลิตได้ปีละประมาณ 1 ตัน และได้ให้ความรู้กระบวนการกินกลอยตามภูมิปัญญามีขั้นตอนดังนี้
- เก็บกลอยมาปอกเปลือก(หนึ่งต้นชาวบ้านเรียกว่า "ไฟ"คิอมีหัวเหมือนก้อนเส้า 1-10 ก้อนหนัก 10-40 กก.)แล้วทำเป็นแผ่นบางๆ หรือถูไปกับใบมีด หากแผ่นหนาจะสุกยากอาจเมาได้นำไปแช่น้ำหมักในภาชนะ(โอ่ง) 3-4 วัน
- จากนั้นนำไปแช่ในน้ำไหลครึ่งวัน ล้างให้น้ำขุ่นขาวซึ่งเป็นยางลื่นๆของกลอยออกให้หมดนำไป จึงน้ำไปประกอบหรือปรุงเป็นอาหารได้หรือจะถนำไปตากแห้งเป็นการถนอมอาหาร เก็บไว้ได้นาน
- นายพงพันธ์ คงเพ็ง ปราชญ์ชุมชนที่มีความรู้ในการนำลูกชกมาใช้ประโยชน์ ประกอบกับ ในหมู่บ้านเป็นเขตเชิงเขามีต้นชกขึ้นตามธรรมชาติจำนวนมาก (มีประมาณ มากกว่า 1000ต้นที่ให้ผลผลิตประมาณ 200 ต้น แต่ละต้นเก็บผลผลิตได้ 4 ครั้งต่อปี ในหนึ่งต้นให้ผลผลิครั้งละประมาณ 200 กิโลกรัม ในรอบปีจะมีลูกชกให้เก็บได้ประมาณ 160 ตัน ถ้าชุมชนได้เก้บลูกชกทั้งหมด จะได้เนื้อลูกชกพร้อมขายมากถึง 19 ตัน ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 100 บาทโครงการนี้ส่งเสริมให้คนในชุมชนเรียนรู้การเก็บและ นำผลลูกชกมาเป็นรายได้เสริมครองครัวโดยมีนายพงพันธ์ เป็นองค์ความรุ้ถ่ายทอดให้ชุมชนและวันนี้เป็นอีกครั้งที่เขาได้ลำดับขั้นตอนให้ชุมชนได้ฟื้นฟูความรู้ในการนำลูกชกมาขายหรือมาเป็นอาหารตามลำดับดังนี้
- เลือกเก็บลูกอ่อนมาต้มให้สุก
- นำลูกชกมาปาดหัวไปหนีบเอาเฉพาะเมล็ด หนึ่งลูกมี 1-3 เมล็ด
- นำเมล็ดที่ได้ไปแช่น้ำล้างซ้ำๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ยางและหน่ออ่อนออก
- นำเมล็ดไปเชื่อมในน้ำตาลให้มีรสหวานเพียงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เน่า หรือบูด
- บรรจุถุงขายปลีก ส่ง
- นายชนาสิน บุญถึงจิตร ผุู้นำกลุ่มปลูกบุกในสวนยาง ได้นำบุกพันธ์ที่ได้รับความนิยมมาเผยแพร่ทดลองปลูกในเดือนเมษายน 2559ขึ้นได้ผลดี ปลูกใต้ร่มไม้ผล สวนยาง ระยะต่อต้น ประมาณ ุ60 ซม. 5 เดือนได้หัวมีน้ำหนักประมาณ ครึ่งกิโลกรัม ระยะเวลา 1 ปี จะได้น้ำหนัก ประมาณ 1-2 กกพื้นที่ 1ไร่ ปลูกได้ประมาณ 3,000-5,000 ต้นบุกสามารถแปรรูปเป็นอาหารได้หลายชนิด ผสมในอาหารเครื่องดื่ม ครีม อาหารเสริม ใช้แทนแป้งประกอบอาหารได้ทุกชนิด ทำเส้นขนมจีน มีสารอาหารที่มีประโยชน์ มีเส้นใยอาหารสูงมีน้ำตาลต่ำเหมาะที่จะส่งเสริมในการปลูก ปัจจุบันราคารับซื้อกก.ละ ุ6-8 บาท เป็นการส่งเสริมการสร้างอาชีพเสริมรายได้ให้ชุมชน
สรุปผลที่เกิดขึ้น
- การเพาะเห็ดในถ้ำไม่ต้องทำโรงเรือน แต่ผลผลิตได้ไม่ดี มีปัญหาเห็ดไม่งอก ไม่โต เน่า
- การเลี้ยงไก่บ้านไก่โต้ช้า กินมาก เป้นปัญหากับเพื่อนบ้าน
- การทำปุ๋ยทำดินพร้อมปลูก เป้นที่นิยม สามารถผลิตออกมาขายให้กับชุมชนได้
- การนำภูมิปัญญาชุมชนมาใช้กับการปลูกบุก กลอย และการเก็บลูกชกเป้นช่องทางให้เกิดรายได้ และสอดคล้องกับวิถีชุมชน ส่งเสริมระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในชุมชน ส่งเสริมการทำลูกชก การปลูกผลิตกลอย บุก
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม จำนวน 173 คน
สมาชิกโครงการมีผลผลิต หมู่บ้านได้เปฺิดตลาดขึ้นบริเวณศูนย์ประชุมหมู่บ้าน
กลอย การขายพันธ์ การแปรรูปเป็นอาหารได้รับความสนใจอย่างมากแต่ยังขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับการแปรรูป บรรจุภัณ ชุมชนต้องการให้มีการสนับสนุนการศึกษาวิจัย
น่าจะมีการจัดการผลิต การตลาดผสมผสานไปกับการจัดการท่องเที่ยว
การเลี้ยงไก่บ้านเป็นลักษณะเกษตรกรรมเก่าแก่ ไก่เป็นอาหารสำรองทั้งไก่และเนื้อใช้ในบ้านและเป็นการรับแขก จัดงานลงขันลงแขก ทุกบ้านจึงเลี้ยงไก่ไว้เป็นลัษณะการเลี้ยงแบบธรรมชาติ
- สนับสนุนการเลี้ยงไก่บ้าน และติดตามประเมินผล โดยสมาชิกกลุ่มเลี้ยงไก่
- สมาชิกกลุ่มเลี้ยงไก่ได้รับสนับสนุนไก่ ตาข่าย และรางให้น้ำไก่ ในระยะเริ่มต้นโครงการ 20 ครัวเรือน แต่เมื่อเลี้ยงไประยะหนึ่ง ประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอาหารไก่ ไก่กินมาก ทั้งที่ส่วนหนึ่งไก่ก็คุ้ยเขี่ยหากินเองใบริเวณบ้าน แต่ที่สุดแล้วสมาชิกเลี้ยงลดน้อยลง ปัจจุบันเหลือคงเลี้ยงอยู่ 6 ครัวเรือน ที่มีบริเวณบ้านกว้าง และห่างไกลจากบ้านอื่น
- การเลี้ยงไก่พบปัญหาที่คล้ายกัน คือ
- ปัญหาค่าอาหารเลี้ยงไก่พื้นเมืองอัตราการเติบโตไม่คุ้มทุน
- การเลี้ยงไก่ปล่อยให้คุ้ยเขี่ยหากินข้างบ้าน ไก้ไปคุ้ยเขี่ยสร้างความเสียหายแก่พืชผัก ทั้งของตนเองและเพื่อนบ้านสร้างปัญหากระทบกระทั่งกัน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สมาชิกกลุ่มเลี้ยงไก่
อัตราการเติบโตไม่คุ้มทุน
สร้างความเสียหายกับพืชผักในครัวเรือน
เสี่ยงต่อการขัดแย้ง กับเพื่อนบ้าน
ให้เลี้ยงได้สำหรับบ้านที่ห่างไกลและบริเวณกว้าง
ไม่มี
ไม่มี
![](/file/tanvakom.n/profile.photo.jpg?t=1544464489)
เพื่อการขยายพันธ์พืชเพาะชำพืชที่ปลูกในท้องที่ พืชพันธุ์ที่มีคุณค่าทางเศรฐกิจ เช่น กลอย ขี้พร้าแม่หมก ต้นเเหมะ เป็นการพลิกฟื้นภูมิปัญญาชาวบ้าน มาผสมผสานกับหลักเศรษฐกิฐพอเพียง
- กลุ่มผู้สนใจในหมู่บ้านร่วมกันทำดินปลูกพืช และเพาะขยายพันธุ์ผัก
- กลุ่มปลูกผักแบ่งปุ๋ยผสมดินปลูกกับกลุ่มสมาชิกไปทำการเพาะปลูกชำ เน้นพืชที่แนะนำที่หายาก ไม่มีแพร่หลาย มีคุณค่าทางเศรฐกิจ ทางหมู่บ้านเลือกต้น กระวาน กลอย ต้นขี้พร้า แม่หมก ผักแหมะ ผักกาดไร่ โดยนายอรุณ จิตรเพ็ชร เป็นผู้ให้ความรู้ ได้ทำการขยายพัุนธ์กลอยปลูกและแจกจ่ายในหมู่บ้านไปแล้วประมาณ 1000 ต้น นายโกเมศ หยูหวานได้เพาะขยายพันธ์ุผักาดไร่ ผักแหมะ ไม้ดอก ไม้ประดับ ไว้ที่หน้าถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม ได้ทำการแปลรูปกลอยเป็น กลอยนึ่ง กลอยหุง กลอยบวช กลอยทอด แป้งกลอยสำหรับไปประกอบทำขนมต่างๆซึ่งตามภูมิปัญญาแต่โบราณ โดยเฉพาะในหน้าฝนไม่สะดวกในการออกจากบ้านไปหาอาหาร ขนม สามารถไปเก็บกลอยมาทำเป็นอาหาร กินแทนข้าวได้ การหุงกลอยกินกับแกงส้ม แกงกะทิมีรสชาติอร่อยมาก
-ได้ต้นกลอยเพาะชำ ประมาณ 300 ต้น ไม้ดอก ไม้ปะดับ ประมาณ 500 ต้น ผักแหมะ ผักกาดไร่ 2 แปลง ดินเพาะปลูกยังสามารถเพาะได้ประมาณ 1000 ต้น - ปัญหาที่พบ พืชบางชนิดขยายพันธุ์ยาก เช่น ต้นขี้พร้า แม่หมก ผลิตได้ไม่พอกับความต้องการ ผลผลิต (ยอด) ซึ่งมีรสชาติดีกว่าผักเหลียง ผักหวานป่า และมีราคาดีกว่าด้วย แก้ไขโดยเน้นการปลูกเป็นต้นพันธ์ุก่อน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มผู้สนใจในหมู่บ้าน(กลุ่มทำปุ๋ย ดินปลูก ปลูกพืชผัก)
ไม่มี
พืชที่มีเฉพาะถิ่น ควนขยายปลูกคืนสู่ธรรมชาติด้วย การเก็บต้นจากป่าอาจทำให้สูญพันธ์ุได้
![](/file/tanvakom.n/profile.photo.jpg?t=1544464489)
เพื่อทำการขยายพันธ์ุพืช ทำปุ๋ยหมักใช้และจำหน่าย
- ฟังวิทยากรแนะนำการทำปุ๋ยหมักสำหรับผสมเป็นดินปลูกพืชในถุง กระถาง มีมูลค้างคาว มูลไก่ ขุยมะพร้าว เปลือกมะพร้าวสับ ดินร่วน เชื้อ EM รวมวัสดุประมาณ 200 กก.ผสมวัสดุคลุกให้เข้ากันกระจายออก รดน้ำผสม EM ให้มีความชื้นพอหมาดๆ กวาดให้เป็นกองใช้ผ้าใบคลุมใว้ ใช้เวลา ประมาณ 1 เดือน ทำการแปรพลิกกลบสอง-สามครั้ง
- ได้สังเกตุเห็นว่าดินปุ๋ยที่ผสมแล้วมีสีดำ จากมูลค้างคาว มีลัษณะค่อนข้างแน่นมีน้ำหนักเห็นควรเพิ่มอินทรีย์วัตถุ แกลบ ขุยมะพร้าว ขี้เลื่อยให้มากขึ้น ผสมดินพอเหมาะ ภาพในกองปุ๋ยมีความร้อนจัด หากไม่แปรจะทำให้คุณภาพลดลง
- ข้อเสนอแนะ ควรหมักเชื้อ EM ไว้ก่อน3-5 วันจะทำให้ได้ผลเร็วขึ้น สามารถหาวัสดุ เช่น มูลวัว แกลบ รำข้าว เศษใบไม้ ฯลฯ มาใช้ได้ตามสภาพที่มี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มสนใจทั้งหมด 18 คนได้แบ่งจำนวนคนมาร่วมทำงานโดยคนที่ไม่มาในวันนี้ต้องไปกรีดยาง แต่จะมาทำในช่วงเวลาอื่น
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อสรุปกิจกรรม เตรียมงานต่อไป
- เวลา 9.15 นายธรรมรัตน์ชื่นเดช ผู้ใหญ่บ้านเปิดการประชุม ปรึกษากันเรื่องการประกวดหมู่บ้านโครงการบ้านน่าอยู่ ในวันที่ 13 กค.นี้ และการปรับพื้นที่เพื่อเปิดตลาดชุมชนในวันที่ 31 ก.ค. โดยมีคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นการตรวจขั้นที่ 2 จาก 10 หมู่บ้าน(รอบสุดท้าย) ให้ทุกคนช่วยกันดูแลความสะอาด จุดที่คณะกรรมการไปดู คือ กลุ่มทำปุ๋ย กลุ่มกลอย กลุ่มท่องเที่ยว โรงสี
- นายปรีชา บัวเพ็ชร ถามเรื่องจากมุงหลังคาร้านค้า ประธาน ตอบเอาจากกลุ่มเย็บจากจะรีบให้ทัน นัดมาร่วมกันทำงาน วันที่ 11,12 ทั้งวันวันที่ 13 บอกต่อให้มาขายของ ตลาด (กรรมการตรวจเวลาบ่ายโมง)ปรึกษาเรื่องการทำปุ๋ยหมัก การทำโครงการ สสส. การเพาะเห็ดถ้ำต้องทดสอบในรอบต่อไปอีกครั้งนัดทำกิจกรรมต่อในวันที่ 13 ก.ค.
- เลิกประชุม 11.30 น.
- ได้เตรียมทำกิจกรรมร่วมกับหมู่บ้านฝ่ายต่างๆ ในการพัฒนาหมู่บ้าน การจัดการที่ท่องเที่ยว การนำสินค้ามาจำหน่าย การนัดแนะมอบหมายงาน ทำได้ง่ายขึ้นเป็นการผสมผสานให้เกิดการทำรายได้หลาย ๆ ด้าน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มผู้นำ
หมู่บ้านมีกิจกรรมหลายๆด้านแต่คนทำงานมักซ้ำกันอยู่ คนสนใจก็ทำงานได้ทุกอย่าง บางคนบางกลุ่มอาจให้ความสนใจบางด้านหรือน้อย
ไม่มี
ไม่มี
![](/file/somnuk1/profile.photo.jpg?t=1544464489)
เพื่อลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ครัวเรือน ด้วยกระบวนการเรียนรู้สถานะเศรษฐกิจครัวเรือน และการสร้างอาชีพเสริมรายได้
1.ประชุมกับคณะทำงานโครงการและตัวแทนกลุ่มอาชีพ10 คน คณะทำงานโดยผู้รับผิดชอบโครงการรายงานให้ทราบถึงผลการดำเนินงานตามโครงการ การสนับสนุนกลุ่มอาชีพเพาะชำต้นกล้าไม้ และกลุ่มทำปุ๋ยหมักหัวหน้าโครงการได้กล่าวถึงความพอใจที่ชุมชนให้ความสนใจกับโครงการนี้
2.ผู้ติดตามได้แจ้งการลงรายงานผ่านเวบล่าช้า พร้อมกับแนะนำการลงรายงานให้สมบูรณ์ บันทึกรายละเอียดของกิจกรรม จัดทำเอกสารประกอบการเบิกจ่าย ทำหลักฐานการจ่ายให้เป้นปัจจุบัน ในรายงานผลผ่านเวบฯ
3.จากนั้นก็พากันลงไปดูปฏิบัติการจริงของแต่ละกลุ่ม ดูกิจกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากดครงการ เยี่ยมกลุ่มทำดินพร้อมปลูก และเพาะชำกล้าไม่ที่ชุมชนต้องการ (เพาะชำต้นกรอย)เยี่ยมทำปุ่ยหมักใช้เองการเพาะเห็ดในถ้ำ
- คณะทำงานได้สนับสนุนให้สามชิกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน มีแปลงเพาะชำของชุมชน กองปุ๋ยขงชุมชน ชุมชนได้มีการเรียนรุู้จากปฏิบัตการของแต่ละกลุ่มอาชีพ
2.ผู้รับผิดชอบโครงการได้ยืนยันว่าจะกำชับการลงรายงานให้สมบูรณ์ บันทึกรายละเอียดของกิจกรรม จัดทำเอกสารประกอบการเบิกจ่าย ทำหลักฐานการจ่ายให้เป็นปัจจุบัน รายงานผลผ่านเวบฯ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงานตามโครงการ และตัวแทนกลุ่มอาชีพ
การบันทึกรายงานไม่ละเอียดครบถ้วน ไม่ครอบคลุมประเด็น
ไม่มี
การบันทึกรายงานให้ละเอียดครบถ้วน ครอบคลุมประเด็น (ใคร ทำอะไร ทำกับใคร ทำที่ไหน ทำเมื่อได ทำอย่างไร ทำแล้วได้ผลประการใด)
![](/file/tanvakom.n/profile.photo.jpg?t=1544464489)
เพื่อการลดรายจ่ายในการซื้อดินเพาะชำไม้และพืชผล การซื้อปุ๋ย สามารถเพาะพันธ์ไม้ได้เองโดยใช้ปู๋ยหมักที่มีในการผลิตในท้องถิ่น และผลิตจำหน่ายแก่สมาชิก
- นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช เป็นวิทยากรให้ความรู้ เรื่อง การทำปู๋ยหมัก ให้กับกลุ่มสนใจทำอาชีพเสริม ทำความเข้าใจการทำดินปลูกพืช ซึ่งพัฒนาต่อเนื่องมาจากกลุ่มทำปุ๋ยหมัก
- ได้เรียนรู้การผสมปุ๋ยปลูกกับดินทั่วไปได้ แต่ควรทำให้ดินร่วนไม่อุ้มน้ำ โดยเฉพาะดินบรรจุถุง ต้องใช้ขุยมะพร้าว ขี้เลื่ยย แกลบ แกลบได้จากโรงสีของหมู่บ้าน ต้องซื้อขุยมะพร้าวราคากระสอบละ 20 บาท กระสอบสำหรับบรรจุจำหน่าย ต้องสั่งซื้อสำหรับผสมใช้เองใส่กระสอบทั่วไปได้ สำหรับวันนี้เป็นการผสมสำหรับแบ่งปันไปใช้ โดยมีต้นทุนปุ๋ยหมัก กก.ละ 5 บาท สำหรับการจัดทำเพื่อการจำหน่ายต้องทดสอบปริมาณที่เหมาะสม ราคาที่เหมาะสมเทียบกับที่มีในท้องตลาด ถุงละ 20-25 บาท สมาชิกเสนอว่าต้องลงทุนจัดซื้อ อุปกรณ์กระสอบ สกรีน เครื่องเย็บ งบประมาณ ประมาณ 15,000 บาท โดยใครจะร่วมกิจกรรมนี้หรือไม่ก็ได้ตามสมัครใจ มีผู้สนใจในเบเื้องต้น 11 คน สรุปให้ปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง ทำการผสมสาธิตในตอนบ่ายฝนตกทำให้เปียกชื้นเป็นก้อนไม่เหมาะที่จะบรรจุ ทำให้มีน้ำหนักเกินจริงได้ปุ๋ย(ดินปลูก) ประมาณ 130 กก.
- วันนี้ได้ดินปลูกประมาณ 130 กก. ส่วนผสมเปียกไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร
- ปัญหาที่พบ
- ทำในสถานที่แห้ง กันฝน
- เตรียมส่วนผสมอย่างพอเพียง
- อุปกรณ์ในการผลิต กระสอบ เครื่องใช้ต้องพร้อม การเย็บด้วยมือเกิดการรั่วไม่สะอาด กันครามชื้นไม่ดี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มสนใจการทำอาชีพเสริม กลุ่มทำปุ๋ยหมัก จำนวน 20 คน
-
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ตรง เพื่อจุดประกายความสนใจ ต่อยอดความรู้ วิสัยทัศน์ มาประยุกต์ใช้กับตนเองและชุมชน
- เดินทางไปดูงาน กิจกรรมเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ เศรษฐกิจพอเพียงค่ายเทพสตรีศรีสุนทร /มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ประกอบด้วย เยาวชน 38 คน กลุ่มผู้สนใจ 64 คน ออกเดินทางจากหมู่บ้านเวลาประมาณ 08.00 น. โดยรถคันที่ 1 นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช ผู้ใหญ่บ้านนำทีมและเป็นวิทยากร คันที่ 2 นายกำจาย หนูกลับ เป็นวิทยากรบรรยาย ได้แจกอาหารข้าวกล่องทุกคน ไปถึงเวลา 10.00 น.ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลู่มที่ 3 นายชนาสิน บุญถึงจิตร เป็นวิทยากรดูแลร่วมกับนายวิชาญ สุขมณทล ได้ดูงานหมุนเวียนตามฐานต่างๆ การเลี้ยงไก่ หมูหลุม ไก่ไข่ ปลา กบ จิ้งหรีด ไส้เดือน การทำปุ๋ยหมัก การเพาะถั่วงอก พลังแสงอาทิตย์ การทำขนม การทำอาหารไก่ หมู กิจกรรมนันทนาการ มีวิทยากรประจำจุดต่างๆบรรยาย เดินทางกลับเวลา 15.30 น.
- ได้รับประสบการณ์ในการประกอบอาชีพด้านต่างๆ เช่น การเลี้ยงกบ ปลา หมู ไก่ จิ้งหรีด การเพาะปลูกพืช การทำขนม การหัตกรรมประดิษฐ์การบรรจุภัณฑ์ การจัดการเศรษฐกิจพอเพียง มีความกระตือรือร้นที่จะนำสิ่งสนใจมาทำที่บ้าน ชุมชนของตนเอง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
ควรจัดกลุ่มสนใจร่วมกันให้มีวิทยากรมาฝึกทักษะ/ความรู้ให้กับกลุ่่ม
ไม่มี
ไม่มี
เตรียมการทัศนศึกษา
- ที่ประชุมมีวาระการประชุมเรื่องการดูแลความปลอดภัยการจัดหมู่บ้านเศรษกิจพอเพียง การส่งเสริมการจัดกลุ่มต่างๆ การกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ุยุง และการเตรียมการทัศนศึกษาของ สสส.
- ได้คณะผู้รับผิดชอบดูแลการเดินทาง
- วางแผนมอบหมายหน้าที่การจัดทัศนศึกษานายธรรมรัตน์ ชื่นเดช ติดต่อสถานที่ นายอภิสิทธฺ์หนูสงค์ติดต่อรถ นางจำแลง นิ่มนวล อาหาร นายอภิเชษฐ์ แดงขาวประชาสัมพัน กำหนดการ วันที่ 25 มิถุนายน2559 เวลา 08.00 น.-17.30น.
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
สภาผู้นำ
-ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
ทดลองการใช้ภูมิประเทศมาเอื้ออำนวยในการประกอบอาชีพ
- ร่วมกันจัดทำชั้นวาง ทำความสะอาดบริเวณภายในถ้ำ ปรับสภาพพื้น กั้นผนังปากถ้ำกันแมลง จัดระบบการให้น้ำ วางก้อนเห็ดจำนวน 800 ก้อน โดยเอาก้อนชุดเดียวกันไปเปิดเพาะเปรียบเทียบนอกบริเวณทดลอง
- จากการติดตามผลเห็ดให้ผลในปริมาณประมาณ 30 %ของก้อน ซึ่งให้ปริมาณน้อยกว่าการวางเห็ดภายนอก ซึ่งให้ผลประมาณ 60 % ได้ทำการปรับสภาพโดยแยกก้อนเห็ดให้ห่างกัน ปริมาณงอกเพิ่มขึ้น ปรับการให้น้ำให้น้อยลงป้องกันการฉ่ำน้ำและความชื้นมากเกินไป เห็ดหูหนูมีการงอกดี
- ปัญหาที่พบในการเพาะเห็ด
- ปริมาณการงอกของเห็ดอาจขึ้นอยู่กับสภาพของถ้ำ ความมืด แสงสว่าง การระบายอากาศเป็นองค์ประกอบ ต้องเลือกสถานที่ที่เหมาะสม
- ในการทำซ้ำรุ่นต่อไปอาจมีผลเกี่ยวกับเชื้อราหรือไม่ สามารถป้องกันได้หรือไม่ ต้อรอการทดลอง
- ในการปฏิบัติจริงอาจไม่คุ้มทุน เพราะมีปัจจัยหลายอย่างมากกว่าการทำโรงเรือนเพาะเลี้ยง
- ถ้าสามารถเพาะเลี้ยงในระยะต่อเนื่องได้ผล จะมีจุดคุ้มทุนในรุ่นต่อๆไปเพราะเป็นลัษณะโรงเรือนถาวร
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มผู้สนใจ ผู้ร่วมสังเกตการทดลอง
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อวางแผน ติดตาม ประเมินผลโครงการ ตลอดโครงการ
- ประชุมสรุปประเมินผลกิจกรรมเพาะเห็ดในถ้ำ และการเลี้ยงไก่บ้าน
- ประเมินผลการเพาะเห็ด ช่วงเดือนนี้มีน้ำไหลสามารถรดน้ำได้ หลังจากปรับสภาพพื้นถ้ำ ฆ่าเชื้อ ติดมุ้งกันแมลง ลงเพาะเห็ดจำนวน 1,000 ก้อน
- สำหรับการเลี้ยงไก่ให้ปรับคอกให้แล้วเสร็จและจัดแม่ไก่ต้นแบบ คอกละ 5 ตัวพ่อไก่ 1 ตัว โดยการจัดหาจากพันธ์ไก่พื้นบ้าน
- ได้คอกไก่ จำนวน 6 คอก กระจายตามกลุ่มบ้าน หน้าเขา 2 คอก บ้านในวัง 4 คอก ถ้ำทดสอบเห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู จำนวน 1,000 ก้อน
- ปัญหาที่พบ การเลี้ยงไก่ต้องทำคอกกั้น ไม่เช่นนั้นไก่จะไปรบกวนบ้านอื่น และและคอกช่วยป้องกันการทำลายพืชผัก ทำให้ต้องมีต้นทุนสูง ส่วนอาหารไก่มีราคาแพง แนะนำให้ทำอาหารพื้นบ้านเช่น มัน สาคู แต่มีไม่พอเพียงต้องซื้อปลายข้าว รำข้าว ซึ่งต้นทุนค่อนข้างสูง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มเพาะเห็ด และเลี้ยงไก่ จำนวน 18 คน
-
ไม่มี
การเลี้ยงไก่ควรหาบ้านที่มีบริเวรกว้าง บ้านสวน
ทำความเข้าใจแนวทางวิธีการการเลี้ยงไก่คัดเลือกผู้สนใจ
- ประชุมกลุ่มผู้สนใจเลี้ยงไก่ จำนวน 21 คน มาช่วยกันทำคอกไก่
- รวมกลุ่มผู้ที่อยู่ใกล้กันช่วยกันทำคอกเลี้ยงไก่ด้วยวัสดุในท้องถิ่นเพื่อความประหยัด เน้นการทำบริเวณที่ไม่ให้ไก่ไปรบกวนบ้านข้างเคียง บริเวณปลูกพืช กั้นบริเวรรอบนอกด้วยอวนที่จัดหาได้ แบ่งปันไก่จากเพื่อนบ้าน(มาเลี้ยงคละรุ่นกันเนื่องจากจำนวนน้อยค่อยขยายพันธ์ุต่อไป คัดตัวผู้ที่ไม่ใช่พ่อพันธ์ุออกไป) -ได้คอกไก่จำนวน 6 คอก จำนวนไก่ เป็ด เลี้ยงขยายพันธ์ุประมาณ 250 ตัว
- ข้อเสนอแนะต่อการทำคอกไก่ในครั้งต่อไป ควรเลือกพื้นที่ที่มีบริเวณกว้าง และทำการกั้นบริเวณให้เรียบร้อยป้องกันการรบกวนเพื่อนบ้าน พืชผักที่ปลูก
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มผู้สนใจการเลี้ยงไก่ 21 คน
-
ไม่มี
ไม่มี
เพื่อวางแผน ติดตาม ประเมินผลโครงการ ตลอดโครงการ
- ประชุมทีมสภาผู้นำวางแผนกิจกรรมศึกษาดูงาน
- การเตรียมการดูงานนอกสถานที่ งานต้นแบบ ในค่ายเทพสตรีฯ และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในเดือนพฤษพาคม ได้มอบหมายงานดังนี้
- การติดต่อประสานงาน นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช และ นายอภิเชษฐ์ แดงขาว
- การจัดรถเดินทาง นายปรีชา บัวเพ็ชร และนายอภิสิทธิ์ หนูสง
- อาหาร นางจำแลง นิ่มนวล และนางดวงพร พระเทศน์
- การบริการทั่วไป นางจินตนาปู่สังข์
- ได้คณะจัดการทัศนศึกษาดูงาน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะสภาผู้นำ 19 คน
ยังไม่มีปัญหา
จัดผู้ที่สนใจในแต่ละด้านได้ดูงานแต่ละด้านอย่างละเอียด
เพื่อติดตามผลกิจกรรม และการจัดกิจกรรมต่อไป
- ประชุมทีมสภาผู้นำทบทวนกิจกรรม ข้อตกลงของโครงการ และแจกเอกสารคู่มือให้กรรมการสภาผู้นำ
- สรุปผลการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา ว่า การเพาะเห็ดและการเลี้ยงไก่ได้จัดการไปแล้ว กลุ่มปลูกกลอยต้องการขยายพันธ์ุ พันธู์กลอย ต้องการสนับสนุนความร่วมมือ แก้โดยให้ช่วยกันเพาะและจำหน่ายแทนการปลูก กลุ่มเพาะเห็ดนอกจากขาดน้ำ ยังต้องป้องกันเชื้อราและทิ้งไว้ระยะหนึ่ง แต่มีอุปสรรคจากภัยแล้งไม่มีน้ำใช้เห็นควรรอไว้ก่อน
- กิจกรรมต่อไปการร่วมกิจกรรมรดน้ำผู้อาวุโสที่บ้านในวังการจัดสรงน้ำพระหลวงพ่อทันใจ บ้านในวัง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มเพาะเห็ด กลู่ม ทำปุ๋ยหมัก และคณะทำงานโครงการ
จำนวน 19 คน
ไม่มี
1 ชลอกิจกรรมที่ต้องอาศัยน้ำ 2 กลุ่มผลิตปุ๋ยควรเตรียมการไว้เมื่อฝนลงเป็นหน้าใส่ปุ๋ย 3 เสริมการปลูกพืชที่มีราคาแพง ลดการชื้อ และจำหน่ายได้ในที่ๆเหมาะสม เช่น พริกขี้หนู มะนาว
- เพื่อจัดทำรายงานความก้าวหน้างวดที่ 1
- นำเอกสารการเงิน มาส่งให้ทาง สจรส.ม.อ.ตรวจสอบความถูกต้อง และทาง สจรส.ได้ตรวจการเขียนรายงานในเวบไซต์ ก่อนส่งรายงานงวดที่ 1
- ได้รับคำแนะนำเรื่องการเขียนเอกสารการเงิน การหักภาษี ในรายการค่าใช้จ่ายที่ต้องหักภาษี และเพิ่มข้อมูลรายงานในเวบไซต์ โดยปรับแก้ให้เรียบร้อยภายในเดือนกุมภาพันธ์ นี้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะทำงาน
-
-
-
เพื่อตรวจสอบการทำกิจกรรมต่างๆ การเงิน การทำรายงานในงวดที่ 1
คณะพี่เลี้ยงได้ช่วยเหลือ แนะนำการทำกิจกรรมและการบันทึกต่างๆ ได้ตรวจสอบเอกสารการเงิน และการเขียนรายงานกิจกรรม
เอกสารการเงินไม่ถูกต้อง และยังไม่เรียบร้อย ต้องกลับไปแก้ไขให้ถูกต้องตามคำแนะนำ และได้ปรับปรุงรายงาน การบันทึกให้ถูกต้อง ก่อนส่งรายงานโครงการงวด 1 ให้ สจรส.ในวันที่ 20 - 21 ก.พ.59
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงาน 2 คน
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อตรวจสอบการทำกิจกรรมต่างๆ การเงิน การทำรายงานในงวดที่ 1
- คณะพี่เลี้ยงได้ช่วยเหลือ แนะนำการทำกิจกรรมและการบันทึกต่างๆ ได้ตรวจสอบเอกสารการเงิน และการเขียนรายงานกิจกรรม
- เอกสารการเงินไม่ถูกต้อง และยังไม่เรียบร้อย ต้องกลับไปแก้ไขให้ถูกต้องตามคำแนะนำ และได้ปรับปรุงรายงาน การบันทึกให้ถูกต้อง ก่อนส่งรายงานโครงการงวด 1 ให้ สจรส.ในวันที่ 20 - 21 ก.พ.59
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานจำนวน 2 คน
-
-
-
- เพื่อหารือการจัดกิจกรรมและปรึกษาประเมินผลกิจกรรมที่ผ่านมา
- วันนี้ เวลา 13.30 น.คณะสภาผู้นำเข้าร่วมประชุมนายธรรมรัตน์ ชื่นเดช ได้พูดถึงกิจกรรมของหมู่บ้านด้านต่างๆ และขอความร่วมมือทุกคนสร้างความเข้าใจให้แพร่หลายถึงทุกคนในหมู่บ้าน การวางแผนแก้ปัญหาเรื่องน้ำในหน้าแล้ง น้ำประปาเพื่อการเกษตรตามโครงการพระราชดำริจะแห้งหน้าแล้ง นายธันวาคม หนูจันทร์ชี้แจงโครงการที่เริ่มทำก่อนแผนในปฏิทินคือ โครงการเพาะเห็ด การเลี้ยงไก่ การปลูกพืชเสริม(กลอย) และโครงการเลี้ยงไก่บ้าน
- ที่ประชุมมีข้อสรุปให้ครอบครัวที่ให้ความร่วมมือการสำรวจและสมัครร่วมกิจกรรมได้ไปทัศนศึกษา ให้เยาวชนได้รับการคัดเลือกไปสังเกตกลับมารายงานผลโดยแบ่งตามกลุ่มกิจกรรม เลือกกิจกรรมการเพาะเห็ดนางฟ้า/เห็ดฟาง กิจกรรมทำปุ๋ยหมัก/ดินปลูกพืชกิจกรรมเลี้ยงไก่บ้าน(ควรคำนึงถึงความคุ้มทุนของอาหาร) นายอรุณ จิตรเพชร หัวหน้ากลุ่มปลูกกลอยเสนอให้เพาะพันธ์ุต้นประสำหรับปลูกและจำหน่าย ที่ประชุมเห็นชอบ นายปรีชาบัวเพชร เสนอให้นำไปปลูกในพื้นตรวจยึดเป็นแปลงปลูกป่าของหมู่บ้าน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- สภาผู้นำ จำนวน 23 คน
- ควรมีการขยาย/ปรับกิจกรรมตามสภาพที่เหมาะสมเข้ากับสถานการแลภาวะการตลาด เช่นการทำสวนมะละกอ การปลูหมาก มะพร้าว
- เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลวิเคราะห์ผลในการทำกิจกรรมให้สอดคล้องกับความเป็นจริงตามข้อมูลในการสำรวจที่ได้มา
- เวลา 10.45 น. นายธันวาคม หนูจันทร์ เปิดการประชุมทบทวนกิจกรรมต่างๆของโครงการที่ผ่านมาแล้ว ทำความเข้าใจจุดมุ่งหมาย รายละเอียดของโครงการ และการกิจกรรมทำบัญชีรับจ่ายที่เก็บข้อมูลโดยเยาวชน
- คณะทำงานได้นำเสนอข้อมูล เรื่อง การสำรวจข้อมูลครัวเรือน การวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนและให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เข้าร่วมประชุม
- เวลา 13.20 น.นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช ผู้ใหญ่บ้านกล่าวถึงกิจกรรมต่างๆของหมู่บ้าน งานนัดหมายประชุม และทำการแยกกลุ่มที่สนใจร่วมทำกิจกรรม ให้เด็กเยาวชนส่งสมุดบันทึกใครทำสม่ำเสมอถูกต้องให้รางวัล และ รับจองกิจกรรมการไปทัศนศึกษา
- เวลา 14.30 น.เลิกประชุม
- ผู้เข้าร่วมประชุมตื่นตัวเข้าร่วมกิจกรรม ไม่ได้หวังผลจากกิจกรรมมากนักแต่เหมือนเป็นการผ่อนคลายไปในตัว และมีแรงจูงใจในการร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่ม หลายครอบครัวได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับเศษฐกิจพอเพียงอยู่แล้ว จึงเป็นการเสริมแรง กำลังใจ ความพร้อมเข้าไป ทุกคนสนใจอยากได้การสนับสนุนในด้านวัสดุ/ทุน แต่ก็ยอมรับการจัดกิจกรรมที่เน้นด้านองค์ความรู้ กระบวนการ การรวมกลุ่มและการจัดการตามโครงการ
- กลุ่มที่สนใจร่วมทำกิจกรรมได้แก่ กลุ่มปลูกพืช ผัก กลอย จำนวน 33 ครัว กลุ่มเพาะเห็ด 24 ครัว กลุ่มทำปุ๋ยหมักดินปลูกพืช 22 ครัว กลุ่มเลี้ยงไก่บ้าน 16 ครัว
- กิจกรรมทัศนศึกษาประมาณเดือนมีนาคม มีผู้สนใจประมาณ 80% ยังต้องสำรวจในช่วงจัดกิจกรรมอีกครั้งหนึ่ง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กลุมวัยทำงานชายหญิง76 คน กลุ่มเยาวชน 31 คน กลุ่มผู้สูงอายุ 32 คน รวม 139 คน
- คนส่วนใหญ่หวังได้รับการสนับสนุนทุน/วัสดุ ต้องชี้แจงทำความเข้าใจจุดประสงค์ของโครงการให้ทุนทางด้านขบวนการ การรวมกลุ่ม การจัดการเป็นการร่วมกันแก้ปัญหา การวางแผนต่อไป
- จำนวนสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรม ทยอยกันมาส่วนหนึ่งตามความสะดวกของครอบครัว ทำให้ได้รับข้อมูลไม่ครบตามขบวนการ กิจกรรมแก้ปัญหาในการจัดครั้งต่อไปต้องประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น จัดเวลาให้กระชับขึ้น (ผู้เข้าประชุมเสนอ การใช้เวลานานเกินไป)
- จัดเตรียมปรับสภาพถ้ำเพื่อเตรียมความพร้อม
- เลือกถ้ำที่เหมาะสม (การเลือกต้องทำในขณะน้ำยังไม่แห้งเพื่อดูความเหมาะสม ความชื้น หากมีน้ำไหลผ่านก็ไม่สามารถใช้ในฤดูฝนได้) ทำการปรับพื้น ทำความสะอาด ทำชั้นวาง
- เลือกถ้ำที่เหมาะสมได้ 3 ถ้ำ ได้พัฒนาถ้ำแรกซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหน้าเขา บริเวณบ้านนายพิชิตอักษรไทย นายวิเชียร ปราบปรามทำการปรับสภาพพื้นให้เรียบ ลาดพื้น ทำความสะอาดผนังถ้ำพื้นถ้ำพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร ทำร้้วด้านหน้า ทำชั้นวาง วางรับก้อนเห็ดได้ประมาณ 1,000 ก้อน (มีการผลัดเปลี่ยนกันทำต่อเนื่อง)
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กลุ่มสนใจการเพาะเห็ดที่คัดเลือกจากสมาชิกในหมู่บ้าน
- ถ้ำถูกทับถมมาเป็นเวลานาน ต้องปรับผิวพื้นกันแมลง ฝุ่น และความเรียบ หากชื้นแฉะไม่สามารถใช้ได้
- ช่วงที่ทำกิจกรรมไม่ได้ถ่ายภาพไว้ ทำให้มาถ่ายภาพย้อนหลัง คือ ภาพถ้ำที่ถูกเตรียมพื้นที่เพื่อปลูกเห็ด จึงไม่มีรูปในช่วงที่สมาชิกมาร่วมกันทำความสะอาด
- เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลวิเคราะห์ผลในการทำกิจกรรมให้สอดคล้องกับความเป็นจริงตามข้อมูลในการสำรวจที่ได้มา
- นำข้อมูลที่จัดเก็บมาจากแต่ละครัวเรือนโดยแต่ละครัวเรือนกรอกแบบสำรวจมาส่งรวบรวม แบ่งกลุ่มคณะทำงานออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อเก็บรายละเอียด ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ข้อมูลสมาชิกวัยต่างๆ การศึกษากลุ่มที่ 2 ข้อมูลรายได้ รับจ่าย หนี้สิน ความสนใจอาชีพเพิ่มเติม และกลุ่มที่ 3 การจัดกลุ่มที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเสริมอาชีพ
- ผลจากการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บโดยกลุ่มเยาวชนอาสาสมัคร ดังนี้
จำนวนครัวเรือนที่ตอบรับการสำรวจ 114 ครัว มีรายได้ประจำเกิน 30,000 บาทต่อเดือน 12 ครัว(เงินเดือน - ค้าขาย)คิดเป็น 10.53%มีรายได้ 10,000 - 25,500บาทต่อเดือน 58 ครัวเรือน คิดเป็น 50.88% รายได้ 7,000-10,000 บาท จำนวน 21 ครัวคิดเป็น 18% ต่ำกว่า 7,000 บาท 23 ครัวคิดเป็น 20.18% มีหนี้สิน 93 ครัวคิดเป็น 81.58% (รายได้ต่ำกว่า 7,000 บาทไม่มีหนี้สิน 3 ครัว ) 79 ครัว สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเสริมรายได้เพิ่มเติมและมีความประสงค์ร่วมกิจกรรมอบรมศึกษาดูงาน
กลุ่มกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากข้อมูลแบบสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ เรียงตามลำดับ
- การเพาะปลูก ผักสวนครัว ผักกินใบมยอด พริกไทย กลอย
- การเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา
- การเพาะเห็ด
- การทำปุ๋ยหมัก
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- สภาผู้นำหมู่บ้านจำนวน 22 คน
- บางครอบครัวไม่ให้ความสนใจไม่ร่วมมือ ข้อมูลรายได้-หนี้สินอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
แนวทางแก้ไข -1 จัดกิจกรรมในกลุ่มคนที่สนใจก่อน -2 จัดกิจกรรมให้น่าสนใจ -3 ขอความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ -4 ชักชวนเยาวชนมาร่วมกิจกรรม -5 เปิดโอกาสให้เขาได้ร่วมกิจกรรมที่สนใจ
- เพื่อสำรวจข้อมูลให้ได้ถูกต้องและตรงเป้าหมาย
- แบ่งกลุ่มเยาวชนออกเป็น 3 กลุ่มๆ ละ 6 คน ตามเขตบ้านหน้าเขา บ้านในวัง บ้านนากะ ไปเก็บข้อมูลครัวเรือน ตามเอกสารที่แต่ละครัวเรือนบันทึกไว้
- เยาวชนในหมู่บ้าน ช่วยกันเก็บข้อมูลจากแต่ละครัวเรือนมาให้(บางส่วนสมาชิกในครัวเรือนมาส่งเอง) รวบรวมมาวิเคราะห์ ใช้เวลาสำรวจจำนวน 1 สัปดาห์ และจะรวบรวมข้อมูลมาส่งในวันที่ 23 มกราคม 2559
- การดึงเยาวชนมาร่วมกิจกรรมได้รับความสนใจจากผู้ปกครอง ทำให้ได้รับความร่วมมือที่ดี
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เยาวชนอาสาสมัครเก็บข้อมูล
-
ฝึกเยาวชนให้เกิดคุ้นเคยในการรวมกลุ่มกันทำงาน มีความเคยชินในการปฏิบัติเป็นนิสัย
เยาวชนนำกิจกรรม การบันทึกรายรับจ่ายมาส่ง พร้อมแบบสำรวจข้อมูลครัวเรือน
- เยาวชน นำแบบบันทึกข้อมูลของตนเองที่ได้รับไป มาส่ง คณะกรรมการ ผู้ปกครองตรวจแนะนำ ส่วนใหญ่บันทึกได้ถูกต้อง ประธานเยาวชนนำกล่าวแนะนำตัวและให้เยาวชนทุกคนแนะนำตัวทุกคนตื่นเต้นและกระตือรือร้นมาก มอกหมายกิจกรรมต่อไปมาพบกันวันที่ 16 มกราคม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เด็กเยาวชน 14 คน ผู้ปกครองจำนวน 21 คน
- การทิ้งช่วงเวลานัดหมายเกิดการลืมเยาวชนอาจไปสนใจกิจกรรมอื่นๆต้องติดตามผลเป็นระยะคอยกระตุ้นเน้นย้ำบ่อย ๆ
- สรุปตรวจสอบกิจกรรมของเยาวชน และวางแผนงานต่อไป
- เวลา 11.30 น.กลุ่มผู้นำมาประชุมพร้อมกัน นายธรรมรัตน์ชื่นเดช ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงเรื่องการจัดเก็บข้อมูล จพฐ.และข้อมูลหมู่บ้านที่ออกแบบให้เยาวชน การรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ การตรวจการบันทึกข้อมูลรับจ่ายของเยาวขน การให้รางวัลเยาวชนที่บันทึกข้อมูลเป็นระเบียบ ถูกต้อง เลิกประชุมเวลา 15.40 น.
- เยาวชนที่มาส่งข้อมูลวันนี้จำนวน 14 รายงานตัวหน้าห้องประชุม เยาวชนมีความกระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรมมาก ผู้ปกครองก็ชื่นชมบุตรหลานของตนเอง เป็นผลผลักดันสู่กิจกรรมอื่นๆไดอย่างมาก นัดพบประชุมเยาวชนครั้งต่อไปวันที่ 16 มกราคม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กลุ่มสภาผู้นำจำนวน 21 คน
- ต้องทำการประขาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองทราบและเข้าใจกิจกรรมล่วงหน้ามากข้ึน เพราะบางส่วนเสียดายที่ไม่ได้ส่งเสริมให้บุตรหลานมาร่วมกิจกรรม
- เห็นควรส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ
- เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน ได้ข้อมูลที่เป็นจริง
- เวลา 09.50 น. นายธันวาคม หนูจันทร์ ช๊้แจงโครงการ แนะนำทำความเข้าใจโครงการ แนะนำการทำกิจกรรมการบันทึกรายรับรายจ่ายของตนเองฝึกร่วมกันเป็นกลุ่ม แจกสมุดสำหรับบันทึก ทุกคนพร้อมอุปกรณ์การเขียนทุกคนฝึกเขียนรายรับจ่ายของตนเองผลัดกันตรวจสอบ คนที่ไม่เรียบร้อยให้คัดลอกหน้าใหม่ ยกตัวอย่างคนที่เรียบร้อยให้รางวัลนัดส่งงานวันอาทิตย์หน้า
- บ่ายทำความเข้าใจเรื่องการบันทึกข้อมูล การหาข้อมูล การเข้าพบ การขอความร่วมมือ แจกแบบสอบถามให้ทุกคนบัญทึกครอบครัวของตัวเองเป็นต้นแบบ ทำการตรวจสอบร่วมกันข้อมูลบางอย่างที่ต้องถามผู้ปกครองให้เว้นไว้
- เวลา 14.30 น. เลือกประธานกลุ่ม มีผู้เสนอมา 4 คน ใช้วิธีลงคะแนนแบบลับด.ญ.ชนัชพรสมมี ได้รับเลือกเป็นประธาน มีคณะทำงานอีก3 คน มีผู้สนใจออกสำรวจข้อมูลครัวเรือน12คน
- เลิกประชุมเวลา 15.30 น.
เยาวชนอาสาปฏิบัติงานเก็บข้อมูล ได้เรียนรู้ในระหว่างการทำกิจกรรม ดังนี้
- เยาวชนได้ฝึกการบันทึกบัญชีรับจ่ายของตนเอง
- เยาวชนได้รับการฝึกให้เป็นนิสัย เกิดความเคยชิน
- เกิดความสามัคคี
- รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม
- ได้ออกเก็บข้อมูลครัวเรือน
- ได้กลุ่มเยาวชนพัฒนาสู่ความเข้มเข็ง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
-กลุ่มเยาวชนที่อาสาปฏิบัติงานสำรวจข้อมูล
- ในการไปแจกหนังสือเชิญผ่านผู้ปกครองควรชึ้แจงให้ผู้ปกครองเข้าใจก่อน
- ในกิจกรรมที่เยาวชนทำได้ควรให้โอกาสเขาดำเดินการ
- เพื่อสำรวจสภาวะรายได้ รายจ่าย หนี้สินครัวเรือน
- คณะสภาผู้นำ จัดประชุมเพื่อออกแบบเครื่องมือเก็บข้อมูล โดยได้รับการสนับสนุนสถานที่จากสหกรณ์ยาง ต.หนองบัว และได้การสนับสนุนด้านวิทยากร มาให้ความรู้ให้คำแนะนำในการออกแบบเครื่องมือ
- เครื่องมือที่ออกแบบ ประกอบด้วยข้อมูลด้านเศรษฐกิจครัวเรือน การทำบัญชีครัวเรือน
- คณะกรรมการสภาผู้นำและวิทยากร ได้ร่วมกันกำหนดหัวข้อ ข้อมูล ที่ต้องการทราบในการสำรวจสภาวะของครอบครัว รายรับ/รายจ่ายต่างๆ เช่น จากการลงทุนประกอบอาชีพ รายจ่ายครัวเรือน รายได้ประจำจากอาชีพหลัก เช่นจากสวนยาง เงินค่าแรง ค่าขายผลผลิตจากงานเสริมต่างๆภาวะหนี้สินในระบบ/นอกระบบ อาศัยข้อมูลจากแบบบัญชีครัวเรือน โดยเน้นความไม่ซับซ้อน
- ได้แบบสำรวจเพื่อจัดทำเป็นชุดที่สอดคล้องกับสภาพวิถีของหมู่บ้าน สำหรับนำไปใช้ในกิจกรรมเก็บข้อมูลกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งจะวางแผนกหนดวันเก็บข้อมูลอีกต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะสภาผู้นำหมู่บ้าน วิทยากร รวม 22 คน
-
ชี้แจงทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์โครงการ การบันทึกการรายงาน กิจกรรม ระเบียบปฏิบัติต่างๆ
เวลา 10.00 น. เปิดกิจกรรมโดยคณะศิลปิน มโนราห์เยาวชนในหมู่บ้านแสดงให้ความบันเทิงแก่ผู้เข้าประชุม
จากนั้นเป็นการสร้างความเข้าใจโครงการแก่คณะทำงานและประชาชนโดยนักวิชาการติดตามประเมินผลโครงการ(นายสมนึกนุ่นด้วง) ตามลำดับดังนี้
- แนะนำ สสส. วัตถุประสงค์และภารกิจของ สสส ที่มาของรายได้กิจกรรมที่ สสส. สนับสนุน และกิจกรรมที่ สสส ไม่สนับสนุน
- การเข้าถึงงบประมาณของ สสส.
- แนะนำโครงการ และเป้าประสงค์ตามโครงการ แก่คณะทำงาน ประชาชน
- ชี้แจงวัตถุประสงค์ กิจกรรม ตัวชี้วัด การตรวจสอบดูแลการใช้เงิน การทำรายงาน และเอกสารหลักฐานประกอบรายงานผ่านเวบ
พักรับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 น นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช วิทยากรบรรยายสร้างความเข้าใจโครงการในรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ และการสร้างความร่วมมือในการทำกิจกรรมโครงการเป็นที่สนใจของผู้เข้าประชุมเพราะเป็นกิจกรรมสอดคล้องกับกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในหมู่บ้านเป็นการหนุนเสริม สร้างความรู้ความคล่องตัวได้เป็นอย่างดีมีการนัดหมายการจัดกิจกรรมในครั้งต่อไปพัฒนาแบบและลงสำรวจข้อมูลตรัวเรือน เลิกประชุมเวลา 15.00 น.
- ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมน้อยกว่าเป้าหมาย แต่ทุกคนที่เข้าร่วมก็ได้ตั้งใจ สนใจ กับคำชี้แนะ และพร้อมกันยืนยันว่าจะร่วมขับเคลื่อนชุมชนไปตามแนวทางโครงการนี้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มแม่บ้าน 32 คน กลุ่มพัฒนาอาชีพ 25 คน กลุ่มเยาวชน ผู้สูงอายุ 30 คน
- ประชานเข้าร่วมกิจกรรมไม่ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งได้รับแจ้งว่า ในวันนี้คณะนักศึกษาอาสาพัฒนาจาก มอ.จำนวน 120 คน มาทำกิจกรรมที่โรงเรียน เป็นเหตุประชาชนส่วนหนึ่งต้องไปร่วมกิจกรรมกับนักศึกษาแต่ได้รับการยืนยันจากผู้รับผิดชอบโครงการ/ หัวหน้าโครงการ ว่าจะดำเนินการทำความเข้าใจกับประชาชนเพิ่มเติม จนทุกรับรู้ และจะได้ประสานขอความร่วมมือดำเนินการตามกระบวนการของโครงการต่อไป
- งบประมาณมาล่าช้า กิจกรรมสร้างความเข้าใจเลยช้าตามไปด้วยแต่ผู้รับผิดชอบโครงการยืนยันว่าจะเร่งกิจกรรม กระชับเวลาให้กระชั้นชิด เพื่อให้ทันตามแผน
ไม่มี
กระชับเวลาการทำงาน หรือขอขยายเวลาการปิดงวด 1
- เพื่อสร้างการรวมกลุ่มทำกิจกรรม การงดอบายมุข บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอ
- ผู้ใหญ่แจ้งสมาชิกในวันประชุมหมู่บ้านทำความเข้าใจกิจกรรม และเรื่องปรึกษาหารือการพัฒนาหมู่บ้าน ทำการขึ้นป้ายกิจกรรมโครงการ ป้ายเขตปลอดบุหรี่จำนวน 4 ป้าย บริเวณศูนย์ประชุมหมู่บ้าน และ สำหรับสถานที่จัดกิจกรรม 2 ป้าย
- ปิดป้าย บริเวณศาลาประชุม และป้ายสำหรับสถานที่จัดกิจกรรมจำนวน 6 ป้าย มีผลการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากสมาชิกบางคนที่สูบบุหรี่ งดการสูบบุหรี่ในสถานที่ สมาชิกเข้าประชุมมีลักษณะเพ่งเล็งพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของสมาชิกบางคนที่มีพฤติกรรมชอบสูบบุหรี่
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- สมาชิกในโครงการ
- ควรปิดป้ายในสถานที่ปลอดบุหรี่เพิ่มขึ้น เช่น ที่วัด โรงเรียน สถานที่ประกอบกิจกรรมส่วนรวมอื่นๆ
-
-
ปฐมนิเทศน์ ทำความเข้าใจโครงการ การบันทึกการรายงาน กิจกรรม ระเบียบปฏิบัติต่างๆ
เวลา 10.00 น. เปิดกิจกรรมคณะศิลปินมโนราห์เยาวชนในหมู่บ้านแสดงให้ความบันเทิง นายสมนึก นุ่นด้วง นายธรรมรัตน์ชื่นเดช วิทยากรบรรยายสร้างความเข้าใจโครงการ เป็นที่สนใจของผู้เข้าประชุมเพราะเป็นกิจกรรมสอดคล้องกับกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในหมู่บ้านเป็นการหนุนเสริม สร้างความรู้ความคล่องตัวได้เป็นอย่างดีมีการนัดหมายการจัดกิจกรรมในครั้งต่อไปพัฒนาแบบและลงสำรวจข้อมูลตรัวเรือน เลิกประชุมเลา 15.00 น.
มีการรวมกลุ่มกันเพื่อดูความสนใจตามประเภทกิจกรรม มีกลุ่มเลี้ยงไก่บ้าน(บางบ้านมีอยู่แล้วแต่ไม่ได้จัดการให้เป็นระบบ) กลุ่มเพาะเห็ดในถ้ำกลู่มผลิตปุ๋ยทำดินปลูกบบรจุถุง กลุ่มผักกินยอด กลุ่มเลี้ยงปลากระชัง (หมายเหตุจำนวนผู้สนใจยังไม่ชัดเจนเพราะสมาชิกส่วนหนึ่งไปช่วย รับนักศึกษาที่มาช่วยกิจกรรมหมู่บ้าน โรงเรียน)มีความสนใจนัดประชุมกันอีกครั้งหลังวันขึ้ปีใหม่
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
กลุ่มแม่บ้าน 32 คน กลุ่มพัฒนาอาชีพ 25 คน กลุ่มเยาวชน ผู้สูงอายุ 30 คน
- ในวันนี้ผู้ปกครองนักเรียน สมาชิกในหมู่บ้านต้องไปร่วมกิจกรรมกับนักศึกษาอาสาพัฒนาจาก มอ.จำนวน 120 คนทำให้ไม่สามารถสรุปผลการประชุมได้สมบูรณ์ ไม่สามารถเลื่อนวันนัดหมายการประชุมได้ เพราะเวลากระชั้นชิด และได้นำอาหารไปเลี้ยงด้วย แนวทางแก้ไข นักประชุมปรึกษากันอีกครั้งหนึ่งหลังวันขึ้ปีใหม่
2.งบประมาณล่าช้าแก้ไขโดยกระชับเวลาเร่งกิจกรรม
พี่เลี้ยงให้ความสนับสนุนตามต้อการ แต่ได้รับการสนับสนุนจากทางโครงการช้าการปรับแผนกิจกรรมในช่วงแรกจึงขลุกขลัก
- ทำความเข้าใจบทบาทและหน้าที่ นัดหมายการจัดกิจกรรม
- จัดประชุมให้ความรู้กับคณะกรรมการสภาผู้นำ เรื่อง บทบาทการเป็นผู้นำ โดยพัฒนาการ อ.รัษฎา มาให้ความรู้บทบาทผู้นำการพัฒนา เพื่อสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน
- ทีมคณะกรรมการสภาผู้นำ ได้เรียนรู้บทบาทผู้นำกับการพัฒนา ซึ่งจะฝึกการเป็นผู้นำควบคู่ไปกับการวางแผนและทำหน้าที่ในโครงการ
- มีการแบ่งกลุ่มรับผิดชอบ เพื่อให้คำแนะนำต่อการทำกิจกรรม ได้แก่ กลุ่มเลี้ยงไก่บ้าน กลุ่มเพาะเห็ดในถ้ำ กลุ่มปุ๋ยดินปลูกพืช กลุ่มเลี้ยงปลา กลุ่มปลูกผักกินยอด และกลุ่มปลูกกลอยเพื่อให้คำแนะนำในการจัดกิจกรรมของแต่ละกลุ่ม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะสภาผู้นำที่คัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด
สร้างความเข้าใจบทบาทของสภาผู้นำ ต่อการพัฒนาหมู่บ้าน ครัวเรือน การวางแผน ปฏิบัติการ การติดตามผล การสานต่อขยายผล/ปรับปรุงกิจกรรม
นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช ผู้ใหญ่บ้าน แนะนำทำความเข้าใจกระบวนการพัฒนาหมู่บ้าน การแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน การลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ว่า จำเป็นต้องมีสภาผู้นำที่คัดเลือกจากกรรมการกลุ่มต่างๆ จำนวน 20 คน ได้ทำการคัดเลือกคณะกรรมการจากกลุ่มบ้าน กลุ่มอาชีพ ผู้ทรงคุณวุฒิรวมจำนวน 20คน
ที่ประชุมคัดเลือกสมาชิกสภาผู้นำจากกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์ อสม.กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มอาชีพแบ่งหน้าที่ดูแล กิจกรรมเลี้ยงไก่ เพาะเห็ด ทำปุ๋ย/ดินปลูกพืช กลุ่มปลูกพืชกินยอด และกลุ่มเลี้ยงปลากระชัง ได้จำนวน 20 คน พร้อมได้รับทราบบทบาทหน้าที่
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการโครงการ และชาวบ้านในพื้นที่
ไม่มี
ไม่มี
ไม่มี
- สร้างความเข้าใจบทบาทของสภาผู้นำต่อการพัฒนาหมู่บ้าน ครัวเรือน การวางแผน ปฏิบัติการ การติดตามผล การสานต่อขยายผล/ปรับปรุงกิจกรรม
- นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช ผู้ใหญ่บ้าน แนะนำทำความเข้าใจกระบวนการพัฒนาหมู่บ้าน การแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน การลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ จำเป็นต้องมีผู้นำคัดเลือกจากกรรมการกลุ่มต่างๆ จำนวน 18 คน ได้ทำการคัดเลือกคณะกรรมการ จำนวน 18 คน
- ได้คณะกรรมการสภา จำนวน 20 คน จากกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์ อสม.กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มอาชีพแบ่งหน้าที่ดูแล กิจกรรมเลี้ยงไก่ เพาะเห็ด ทำปุ๋ย/ดินปลูกพืช กลุ่มปลูกพืชกินยอด และกลุ่มเลี้ยงปลากระชัง ดังรายชื่อ
- นายอภิสิทธ์ หนูสงค์
- นายสุเทพจันทคง
- นางบุญส่งเกื้อกูล
- นางฉอ้อนแก้วสองทรง
- นายพนมใจกระจ่าง
- นายอ้วนศรีเกตุ
- นายสมพรคงเพ็ง
- นางจำแลงนิ่มนวล
- นางสมัยศักดิ์ศรี
- นางไมตรีชูเมือง
- นายนันทวุฒิแดงงาม
- นางอ้อยคงกล้า
- นายธนวัฒน์ปู่สังค์
- นางนฤมลแดงขาว
- นางสำรวยพิทักษ์
- นายจรูญขุนชู
- นายทันดวนชื่นเดช
- นางจินตนาปู่สังข์
- นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช
- นายปรีชา บัวเพ็ชร
- มีคณะทำงานของโครงการ ดังนี้
- นายธรรมรัตน์ ชื่นเดช ประธาน
- นายปรีชา บัวเพ็ชร รองประธาน/หัวหน้ากลุ่มเลี้ยงปลา
- นางคนอง หนูจันทร์ การเงิน
- นางประจวบ มีชนะ เหรัญญิก
- นางจำแลง เพชรส่ง สถานที่ อาหาร
- นายอนันท์ แทงทอง ประสานงาน
- นางจินตนา ปู่สังข์ ประชาสัมพันธ์
- นายธันวาคม หนูจันทร์ ข้อมูล
- นายอภิเชษฐ แดงขาว ประสานงาน บ้านในวัง
- นางจิตนา ปู่สังข์ หัวหน้ากลุ่มปุ๋ย/ดิน
- นายอภิสิทธิ์ หนูสงค์ หัวหน้าช่าง
- นายอรุณ จิตรเพชร หัวหน้ากลุ่มปลูกกลอย
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- แกนนำ คณะกรรมการโครงการ และชาวบ้านในพื้นที่
- กรรมการสภายังไม่มั่นใจบางคนถอนตัว บางคนอาสา แนวทางแก้ไขต้องประชุมทำความเข้าใจ วิทยากรแนะนำ เด็กและเยาวชนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากเป็นวันเปิดเรียน
- ควรมีการขยายโครงการให้มากขึ้น และในระยะแรกทำให้การเข้าถึงง่ายลง ในหลายพื้นที่ชาวบ้านอาจไม่มีความรู้ทางวิชาการ เข้าไม่ถึงการจัดกระบวนนำเสนอที่ดูยุ่งยากสำหรับเขา ซึ่งอาจเริ่มจากง่ายไปสู่ความสมบูรณ์ขึ้น ไม่เป็นเครื่องมือของผู้รู้ที่เป็นนักล่าโครงการ เหตุผลก็คือชนบทไทยถูกทอดทิ้งมานานเป็นส่วนมาก ระบบการศึกษาไทยทำให้เยาวชน นักศึกษาออกจากบ้านเรียนของนอกแต่ไม่รู้จักบ้าน ชุมชน วิถีชีวิต ภูมิปัญญา แก่นของจารีตประเพณีของบ้านเกิด รังเกียจที่จะกลับมาบ้านเกิด เป็นทาษของเทคโนโลยีอย่างงมงาย ไม่มีทางอื่นหรือระบบใดจะเหมาะสมเท่ากับ ของสสส.ในตอนนี้ที่จะเข้ามาแก้จากรากเหง้า ทำให้เกิดทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพมากขึ้นในอนาคตเพราะมีวิธีการที่จะเสริมแรงพัฒนาและติดตามผลได้อย่างดี โดยไม่ติดยึดระบบราชการเกินไปเพียงแต่ปรับให้มันเดินไปได้้ง่ายและลื่นหน่อยเท่านั้น
- กระบวนการบางส่วนเช่นการรวมกลุ่ม ความกระตือรือร้นที่จะทำการให้เกิดผลที่เกิดขึ้นแล้วควรปรับกิจกรรมปฏิบัติที่พัฒนาขึ้นไม่น่าจะต้องยึดกิจกรรมแบบเ เที่ยงตรง เป็นการชลอความคิด กำลังใจและวิสัยทัศน์
- มีความเชื่อว่าในทุกโครงการที่ สจรส.มอ.อนุมัติมาหากทำจริงตามแผนแล้วต้องสำเร็จแน่นอน
- เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้รับทุน โดยการจัดปฐมนิเทศโครงการ
เปิดโครงการวิทยากรแนะนำการทำโครงการวิทยากรแนะการบันทึกข้อมูลกิจกรรม ข้อมูลรายงาน ข้อมูลการเงิน ปฐมนิเทศน์ ทำความเข้าใจโครงการ การบันทึกการรายงาน กิจกรรม ระเบียบปฏิบัติต่างๆ
- ได้เรียนรู้ขั้นตอนการทำงานโครงการ การจัดกิจกรรมต้องมีกระบวนการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม การบันทึกข้อมูลรายงานกิจกรรมในเวบไซต์ ทำให้ได้ประโยชน์ในการนำไปปฏิงาน และจะนำความรู้ที่ได้จากเวทีนี้ไปเล่าให้สมาชิกในทีมที่ไม่ได้เข้าร่วมฟังอีกครั้ง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้รับผิดชอบโครงการ และ คณะทำงานโครงการ
- การมีพี่เลี้ยง วิทยากร แนะนำใกล้ชิดเป็นผลดีทำความเข้าใจอย่างรวดเร็ว
- จัดเป็นกลุ่มย่อยได้ผลดี
- ในระยะเริ่มแนะนำโครงการ ปฐมนิเทศน์ควรดูแลอย่างใกล้ชิด
- ต้องการให้ติดตามผลอย่างใกล้ชิด