คนสร้างสุข

• เตรียมเอกสารเข้าเล่มรายงานและจัดทำรูปภาพประกอบการทำรายงาน

• ได้รายงานฉบับสมบูรณ์จำนวน 5 เล่ม ใช้ส่ง สสส.และเก็บไว้ที่ชุมชน

ผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• หัวหน้าโครงการนำเอกสาร รูปถ่าย และบัญชีรายรับรายจ่าย พร้อมบันทึกการทำกิจกรรม มาให้พี่เลี้ยงตรวจ พร้อมทำรายงานผ่าน web คนใต้สร้างสุข แก้ไขข้อผิดผลาด ลงรูปถ่าย ตรวจรายงานการเงิน และนำข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ สจรส.มอ​. ตรงจสอบ หลังจากนั้นพิมพ์รายงานของโครงการ ส่ง สสส.

• เอกสารรายงานมีความถูกต้อง ผ่านการตรวจสอบจาก สจรส.และเอกสารหลักฐานการเงินมีความถูกต้อง โดยผ่านการตรวจจาก สจรส.เรียบร้อยแล้ว และสามารถส่ง สสส.เพื่อเบิกเงินงวดที่ 3 ได้

หัวหน้าโครงการ และเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• เข้าร่วมประชุม งานคนใต้สร้างสุข ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ ห้องชุมชนหน้าอยู่ ร่วมแสดงความคิดเห็น รับฟังความสำเร็จของโครงการอื่น ๆ ที่นำเสนอ หัวหน้าโครงการ (ปิยะนันท์ นกเพชร) ได้รู้แนวทางการสนับสนุนของ สสส. ในปีถัดไป รู้จุดมุ่งหมายที่ สสส. ต้องการ และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินกิจกรรมกับพื่นที่อื่น ๆ ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก สสส.
• ได้รับความรู้เกี่ยวกับแนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพจากคู่มือที่ได้รับแจก ป้ายนิทรรศการ เอกสารประกอบการฝึกอบรม

• ได้รับความรู้และแนวทางในการดำเนินโครงการในปีถัดไป ซึ่งมีหลายภาคีที่ร่วมสนับสนุนการทำโครงการชุมชน ได้แก่ สปสช. สช.สจรส.ม.อ. สสส. และกระทรวงสาธารณสุข
• ได้เครือข่ายในการทำโครงการ ได้แลกเปลี่ยนและเกิดความรู้ใหม่ที่สามารถนำมาปรับใช้ในชุมชนได้

หัวหน้าโครงการ และเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล 

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• หัวหน้าโครงการและเจ้าหน้าที่ IT จัดเตรียมแก้ไขเอกสารที่ขาดและยังไม่ถูกต้อง และบันทึกกิจกรรมใน web ตนใต้สร้างสุข ตรวจสอบกิจกรรมที่ดำเนินการเสร็จแล้ว ตรวจสอบความถูกต้องของรายงานการเงิน ร่วมกับพี่เลี้ยง และเจ้าหน้าที่ สจรส.มอ.

• ได้รายงานและเอกสารพร้อมตรวจ ข้อมูลใน web คนใต้สร้างสุขถูกต้อง

ผู้รับผิดชอบและการเงินโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้รับผิดชอบโครงการอธิบายถึงเอกสารที่จะต้องจัดส่งให้ สสส.
• ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกันตรวจทานความถูกต้องของเอกสารแต่ละชุด
• ร่วมกันแก้ไขเอกสารบางอย่างที่มีข้อผิดพลาด

• ได้เอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องสมบูรณ์เพื่อส่ง สสส.

วัยทำงาน 12 คน วัยเรียน 3 คน ผู้สูงอายุ 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้เข้าร่วมกิจกรรมลงทะเบียน
• ผู้ใหญ่บ้านกล่าวถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้เพื่อวัตถุประสงค์ชี้แจ้งผลการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการบ้านไทรทอง ที่ผ่านมาในระยะเวลา 1 ปี ภายใต้การสนับสนุนเงินการทำโครงการจาก สสส. มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดประมาณ 200 คน กิจกรรมที่ดำเนินการได้แก่ การทำปุ๋ยหมัก การทำน้ำหมักไล่แมลง การทำน้ำยาเอนกประสงค์ (น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม) การเพาะเมล็ดพืชผักสวนครัว การทำโครงการก่อให้เกิด กลุ่มปุ๋ยหมักที่เข้มแข็งขึ้น โดยมีผู้ใหญ่บ้าน (นายจรัญ คงเหลือ) เป็นประธานกลุ่ม และเริ่มจำหน่ายปุ๋ยหมักและเร่ิมมีกำไรกลับเข้าสู่กลุ่ม เพื่อกลุ่มจะได้ดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง
• ผู้รับผิดชอบโครงการได้แจ้งกติกาที่ได้กำหนดไว้ในชุมชนให้คนในชุมชนทราบ

• ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับทราบผลการดำเนินกิจกรรมของโครงการบ้านทุ่งหล่อ และร่วมกันปฏิบัติตามกติกาชุมชนที่ได้จัดทำร่วมกัน

เด็กวัยเรียน 20 คน วัยทำงาน 20 คน ผู้สูงอายุ 60 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• คณะทำงานชุมชนบ้านไทรทองนำกติกาของชุมชนไปยื่นต่อหน่วยงานต่างๆ เช่น สาธารณสุข เกษตร พัฒนาชุมชน อบต.ดังนี้
• หน่วยงานสาธารณสุขในเรื่องของคนในชุมชนจะต้องมีสารพิษตกค้างในเลือดลดลง (เพื่อให้ทางหน่วยงานสาธารณะสุขได้พิจารณาจัดทำแผนโครงการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือด)
  
• หน่วยงานเกษตร ในเรื่องสมาชิกเกษตรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องไม่หันมาใช้สารเคมีในการเพาะปลูก และกฏกติการของกลุ่มปุ๋ยหมักทีทุกคนจะต้องยึดถือปฏิบัติ (เพื่อให้ทางหน่วยงานเกษตรจะได้ลงมาติดตามและเป็นแนวทางเพื่อจัดสรรงบประมาณส่งเสริมกลุ่มเกษตรกลุ่มนี้)
  
• หน่วยงานพัฒนาชุมชน สมาชิกที่เข้าร่วมเป็นแกนนำในการจัดทำบัญชีครัวเรือนจะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นรายจ่ายลดลง (เพื่อให้ทางหน่วยงานติดตามผลจากการสำรวจ สปฐ.)

• หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับกติกาชุมชนบ้านไทรทองนำเข้าสู่การพิจารณา

เด็กวัยเรียน 3 คน วัยทำงาน 15 คน ผู้สูงอายุ 2 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• หัวหน้าโครงการ กล่าววัตถุประสงค์ของกิจกรรม บอกเล่าปัญหาของชุมชน ผลการดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางในการตั้งกติกาของคนในชุมชน
• ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกันคิดกำหนดกติกาของชุมชน โดยคนในชุมชนเป็นคนร่วมคิดกติกาชุมชนร่วมกัน

ได้กติกาของชุมชนบ้านไทรทองเพื่อที่จะเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

• เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องไม่หันมาใช้สารเคมีในการทำเกษตร
• ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นแกนนำจัดทำบัญชีครัวเรือน จะต้องมีการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือนของตัวเอง
• สมาชิกที่เข้าร่วมกลุ่มปุ๋ยหมักจะต้องเคารพกฏที่กลุ่มบังคับไว้

คนวัยเรียน 30 คน วัยทำงาน 50 คน วัยสูงอายุ 40 คน 

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• คณะกรรมการฯ แกนนำ กลุ่มแนวร่วม ช่วยกันถอดบทเรียน
• ร่วมกันจัดตั้งกลุ่มเพื่อพัฒนาชุมชนบ้านไทรทอง
• วางกติกาของชุมชนในการดำเนินต่อไป เช่น การคืนกลับส่วนหนึ่งของรายได้จากการทำงานของกลุ่มสู่ชุมชน

• ได้ทราบถึงผลดีและปัญหาที่เกิดขึ้นหลังทำกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ
• เกิดแนวคิดในการแก้ปัญหาร่วมกัน
  
• ได้บทเรียนของชุมชนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาของกลุ่มปุ๋ยหมัก
  
• เกิดกลุ่มเพื่อพัฒนาชุมชนบ้านไทรทอง ได้แก่ กลุ่มปุ๋ยหมักหมู่ 2 บ้านไทรทอง มีการแต่งตั้งคณะกรรมและประธาน มีการจดบันทึก ทำบัญชีรายรับรายจ่าย มีเจ้าหน้าที่การเงินของกลุ่ม
• เกิดกติกาของชุมชนบ้านไทรทองคือ กฏกติกาของกลุ่ม ทุกคนในชุมชนสามารถเป็นสมาชิกได้ ต้องไม่ขาดการประชุมติดต่อกันเกิน 3 เดือน

เด็กวัยเรียน 20 คน วัยทำงาน 20 คน ผู้สูงอายุ 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• นางปิยะนันท์ นกเพชร ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งถึงกิจกรรมที่จะทำกันในวันนี้คือการติดตามผลการนำความรู้ที่ชุมชนได้จากการเข้าร่วมโครงการไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยขน์ขึ้นในชุมชนได้มากน้อยแค่ไหน
• คณะกรรมการแต่ละคนก็ได้พูดคุย จากการลงพื้นที่เพื่อติดตามการปลูกผัก ติดตามการทำน้ำยาเอนกประสงค์ในแต่ละครัวเรือน ติดตามการใช้ปู๋ยหมักในชุมชม มีจำนวนครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ยังไม่มีโครงการนี้
• คณะกรรมการได้คุยกันถึงจำนวนคนในชุมชนที่หันมาทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นให้เห็นการใช้น้ำยาเอนกประสงค์ได้เกิดขึ้นในชุมชนซึ่งก่อนนี้คนในชุมชนทราบกันน้อยว่าเราสามารถที่ทำไว้ใช้เองได้

• ผลการติดตามการใช้ปุ๋ยหมักและใช้น้ำหมักไล่แมลงในการเพาะปลูกมีเพิ่มมากขึ้น ผลผลิตที่ได้ก็เป็นที่ต้องการของตลาดในชุมชนเพราะคนในชุมชนต้องบริโภคอาหารที่ปลอดสารพิษ การใช้น้ำยาเอนกประสงค์ในเครื่อเรือนหลายครัวเรือนหันมาทำน้ำยาเอนกประสงค์ไว้ใช้เองที่บ้านเพราะประโยชน์หรือคุณภาพไม่ได้ต่างกับน้ำยาเอนกประสงค์ตามท้องตลาด สามารถหลีกเลี่ยงสารที่ไม่จำเป็นต้องมีในตัวผลิดตภัณฑ์ได้เช่น สี ใส่เพื่อความสวยงามแต่เราใช้เองก็ไม่ต้องใส่ ต้นทุนก็น้อยสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ ในการปลูกผักแต่ละครัวเรือนก็มีการปลูกผักไว้กินเองเพิ่มขึ้นหลายครัวเรือน โดยบางครัวเรือก็กินเองไม่หมดสามารถแบ่งขายให้คนบ้านไกล้เรือนเคียงไปบริโภคในราคาที่ถูก

เด็กวัยเรียน 5 คน วัยทำงาน 10 คน ผู้สูงอายุ 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• คณะกรรมการร่วมกันจัดเตรียมสถานที่
• ผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียน
• คุณสมจิตร ชาโนจุติ ผอ.รพ.สต.บ้านทุ่งหล่อกล่าวเปิดโครงการ
• คุณภัทรภร เกลี้ยงแก้ว วิทยากรจากหน่วยงานพัฒนาชุมชนอำเภอร่อนพิบูลย์ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์และวิธีทำน้ำหมักเอนกประสงค์ -ผู้เข้าร่วมโครงการลงมือปฏิบัติทำน้ำยาเอนกประสงค์ร่วมกัน -หลังจากได้ลงมือปฏิบิติเสร็จก็ได้แจกน้ำยาเอนกประสงค์ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน

• ผู้เข้าร่วมเกิดความสนใจที่จะทำไว้ใช้เองที่บ้านเมื่อได้ปฏิบัติการทำจริงเพราะรู้สึกเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก และต้นทุนในการทำน้อยแต่ปริมาณการผลิตได้มาก
• คณะครูสนใจที่จะให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติการทำผลิตภัณฑ์ตัวอื่นเพิ่มเติมซึ่งอาจจะเป็นการเปิดขยายความรู้ให้แก่คนในชุมชน
• ได้น้ำยาเอนกประสงค์ 3 ชนิด คือ น้ำยาล้างจาน(สามารถใช้ล้างรถถูพื้น) น้ำยาซักผ้าน้ำยาปรับผ้านุ่ม
• ปริมาณที่ได้จากการผลิตเองต้นทุนการผลิต 220 บาท ได้ปริมาณน้ำยา 20 ลิตร คิดราคาต้นทุนลิตรละ 11 บาทแต่ถ้าน้ำยาที่ซื้อในท้องตลาดจะตกราคาลิตรละ 57 บาท เมื่อเทียบราคากันแล้วหากคนในชุมชนผลิตไว้ใช้เองได้ก็จะลดรายจ่ายของครอบครัวได้
• ผู้เข้าร่วมโครงการได้น้ำยาเอนกประสงค์ไปใช้ในครัวเรือนเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้ครัวเรือนเหล่านี้ได้ผลิตน้ำยาเอนกประสงค์ใว้ใช้เองเพื่อลดรายจ่ายของครอบครัว
• คณะกรรมการทราบถึงการปฏิบัติกิจกรรมครั้งต่อไป นางปิยะนันท์ นกเพชร ได้ขอนัดหมายคณะกรรมการเพื่อทำกิจกรรมครั้งต่อไปคือ ติดตามผลการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ของคนในชุมชน ในวันที่ 18 สิงหาคม แจ้งเพื่อให้กรรมการทุกคนได้เตรียมข้อมูลที่มีอยู่มาคุยกันในวันนั้น

เด็กวัยเรียน 53 คน วัยทำงาน 29 คน ผู้สูงอายุ 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะกรรมการได้คุยกันถึงกิจกรรมที่ผ่านมาหลายกิจกรรมซึ่งประเมิลจากภาพรวมถือว่าประสบณ์ผลสำเร็จในระดับหนึ่งมีผู้เข้าร่วมและสนใจกับกิจกรรมที่จัดขึ้น

• คณะกรรมการได้ทราบผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
• มีแผนการดำเนินงานในกิจกรรมครั้งต่อไป โดยผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งกิจกรรมที่จะดำเนินครั้งต่อไป คือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำน้ำยาเอนกประสงค์ซึ่งได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้แต่ละคนดังนี้

1. นางปิยะนันท์ นกเพชร ผู้รับผิดชอบโครงการ ติดต่อวิทยากรและประสารกับครูโรงเรียนวัดทุ่งหล่อเพื่อเชิญครู นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม
2. นายสมัคร ใหม่นวล จัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์
3. นางอารี เสรีสมบูรณ์ จัดเตรียมเรื่องสถานที่
4. นางยินดีสมสุข จัดเตรียมเรื่องอาหาร
5. นางฉวีวรรณพรหมจันทร์ จัดเตรียมเอกสารเพื่อลงทะเบียน

• เมื่อได้แบ่งงานกันแล้วเสร็จ นางปิยะนันท์ นกเพชร ได้แจ้งถึงกิจกรรมที่ยังไม่ได้ดำเนินการและวางแผนงาน จึงขอเสนอในที่ประชุมว่า ในการแบ่งหน้าที่ในกิจกกรรมที่ยังไม่ได้ดำเนินการจะของแบ่งหน้าที่เมื่อได้ทำกิจการก่อนหน้าแล้วเสร็จ

• คณะกรรมการแต่ละคนได้ทราบถึงหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบในกิจกรรมต่อไป

วัยทำงาน 7 คน ผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้เข้าร่วมกิจกกรรมลงทะเบียน
• นายสมบูรณ์อ่อนจันทร์ ปราชญ์ชาวบ้านสอนวิธีทำน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลงแบบสมุนไพรรสเผ็ดร้อนเพื่อไล่เมลงและทำให้แมลงแสบร้อนแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ
• ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนร่วมกันลงมือปฏิบัติทำน้ำมักสมุนไพรไล่แมลงโดยเริ่มจากการเทน้ำเปล่าใส่ถังพลาสติกแล้วเทกากน้ำตาลลงไปคนเรื่อยๆจนกากน้ำตาลละลาย จากนั้น ใส่พริก ขิง ข่าที่สับละเอียดแล้วตามลงไป คนให้เข้ากันแล้วปิดฝาให้สนิทนำมาวางไว้ที่ร่ม

• เกิดการเรียนรู้ความสามัคคีขึ้นในชุมชน
• คนในชุมชนได้แนวทางการกำจัดแมลงโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี
• ได้สูตคน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง ที่สามารถนำไปใช้ในการเกษตรได้

เด็กวัยเรียน 50 คน วัยทำงาน 30 คน ผู้สูงอายุ 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• กรรมการ แกนนำและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการบันทึกข้อมูลบัญชีครัวเรือนที่ได้รวบรวมมาจากคนในชุมชน

• ได้ทราบถึงผลการนำบัญชีครัวเรือนไปใช้
• สรุปผลข้อมูลที่ได้รับในเรื่องค่าใช้จ่ายที่มีมากบ้างงน้อยบ้างในแต่ละด้าน แต่ละครอบครัวซึ่งจะแตกต่างกันไปตาม สถานะ อาชีพ และขนาดของครัวเรือน ในด้านค่าใช้จ่ายจะเป็นค่าใช้จ่ายจากการลงทุนในการทำงาน งานสังคม และค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น เช่น การเสี่ยงโชค ค่าโทรศัพย์ บุหรี่ เหล้า ส่วนด้านรายได้ส่วนมากจะเป็นรายได้จากค่าจ้าง ค่าทำงานทางเดียวมีครัวเรือนที่มีรายได้เสริมไม่กี่ครัวเรือน เมื่อได้ทราถึงการใช้จ่ายของครัวเรือนตนเองแต่ละครัวเรือนก็เริ่มคิดวางแผนในการใช้จ่ายหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และหารายได้เสริมให้กับครอบครัวโดยการเริ่มจากสมาชิกทุกคนในครัวเรือน
• คนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์จากบัญชีครัวเรือนในการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
• ทำให้ชุมชน ให้คนในครอบูครัวได้รู้จักตนเอง รู้จักปัญหา เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาตังเองให้ถูกต้อง
• มีครัวเรือนที่ลดค่าใช้จ่ายได้จากการทำบัญชีครัวเรือนร้อยละ 70

วัยเรียน 10 คน วัยทำงาน 30 คน ผู้สูงอายุ 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้รับผิดชอบโครงการบ้านไทรทอง พร้อมคณะกรรมการ ร่วมจัดสถานที่และจัดหาวัสดุในการทำปู๋ยหมัก ก่อนหน้านี้ 2-3 วันณ วันที่ทำกิจกรรม สถานที่พร้อม วัสดุอุปกรณ์พร้อม
• ผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนในวันจัดกิจกรรม
• วันที่ 21 ก.ค. นายจรัญ คงเหลือ ผู้ใหญ่บ้านได้กล่าวเปิดกิจกรรม นายสมบูรณ์ อ่อนจันทร์ วิทยากรได้ให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของปุ๋ยหมักและอธิบายขั้นตอนในการทำปุ๋ยหมัก หลังจากนั้นคณะกรรมการและแกนนำ เกษตรกร นักเรียนร่วมกันผสมปุ๋ย โดยนำส่วนผสมขุยมะพร้าว มูลไก่ มูลวัว คลุกให้เข้ากันแล้วโรยปุ๋ยยูเรียและรำข้าวจากนั้น นำน้ำหมักชีวภาพรดให้ทั่วแล้วเกลี่ยกองปุ๋ยให้เสมอกันจากนั้นก็คลุมด้วยกระสอบป่านให้มิดชิด ทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน
  
• วันที่ 24 ก.ค. สมาชิกร่วมกันพลิกกลับกองปุ่ยคลุ้กปุ๋ยให้ทั่วอีกครั้งจากนั้นก็ปิดกระสอบไว้ตามเดิม อีก 3 - 4 วันหากทดสอบปุ๋ยว่ามีความเย็นถือว่าใช้ได้แล้ว
• วันที่ 29 ก.ค. สมาชิกร่วมกันบรรจุปุ่ยใสกระสอบ และแจกจ่ายเพื่อใช้ในครัวเรือน

• ในการทำปุ๋ยหมักไม่สามารถแล้วเสร็จได้ในวันเดียว เพราะระยะเวลาในการหมักปุ๋ย เลยต้องมีการนัดหมายผู้เข้าร่วมโครงการร่วมกันทำปู๋ยในวันอื่นด้วย โดยการแยกกลุ่มกันมาช่วยทำจนแล้วเสร็จ
• ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้รับความรู้ เกิดความสามัคคีขึ้นในหมู่คณะ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชน นักเรียนได้เรียนรู้และปฏิบัติกิจกกรรมนอกสถานศึกษา
• ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้รับปุ๋ยหมักไปใช้ในครัวเรือน
• เกิดกลุ่มปุ๋ยหมักขึ้น 1 กลุ่ม

เด็กวัยเรียน 40 คน วัยทำงาน 30 คน ผู้สูงอายุ 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• เดือนนี้ทางโครงการได้เลื่อนการประชุมจากวันที่ 8 ของทุกเดือน เป็นวันที่ 16 เพราะรอการโอนเงินสนับสนุนจาก สสส.
  
• คณะกรรมการและผู้รับผิดชอบโครงการได้เข้าร่วมประชุมพร้อมกัน -ผู้รับผิดชอบโครงการได้แจ้งถึงปัญหาของโครงการที่ได้รับเงินล่าช้า  ทางผู้รับผิดชอบก็ได้ประสานงาน สอบถามความคืบหน้าอยู่กับครูพี่เลี้ยงและเจ้าหน้าที่ สจรส.อยู่ตลอด และได้รับการแจ้งจากครูพี่เลี้ยงได้รับเงินโอนจาก สสส.ในวันที่ 8 ก.ค.59 ทางผู้รับผิดชอบโครงการก็ได้ประสานงานคณะกรรมการ จึงได้นัดประชุมในวันนี้ เพื่อที่จะวางแผนการปฏิบัติกิจกรรมต่อไป

-นางปิยะนันท์ นกเพชรได้เสนอการของวางแผนงานไปที่ละกิจกรรมเริ่มจาก   1. กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และปฏิบัติการทำปุ๋ยหมัก -นายสมบูรณ์ อ่อนจันทร์ได้เสนอถึงการทำปุ๋ยหมักจะต้องทำกันหลายครั้งไม่สามารถแล้วเสร็จในวันเดียวได้จึงได้เสนอเพื่อการวางแผนงาน -คณะกรรมการได้แสดงความคิดเห็นและวางแผนได้ดังนี้ จัดแบ่งกลุ่มที่จะเข้าร่วมทำปุ๋ยเพื่อที่จะได้กำหนดวันที่ที่แต่ละกลุ่มจะต้องมาทำ - ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งกิจกรรมที่จะดำเนินในครั้งต่อไปคือ "การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และปฏิบัติการทำปุ๋ยหมัก" และได้มอบหมายหน้าที่ดังต่อไปนี้ - มอบหมายให้นายสมบูรณ์อ่อนจันทร์ เป็นผู้ประสานงานในการจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์ในการทำปุ๋ย - นางปิยะนันท์ นกเพชรผู้รับผิดชอบโครงการรับงานประสานวิทยากร - นางอารีย์ เสรีสมบูรณ์ รับจัดเตรียมสถานที่ - นางยินดี สมสุข รับผิดชอบเรื่องอาหาร - นางฉวีวรรณพรหมจันทร์ ฝ่ายลงทะเบียนและกรรมการท่านอื่นก็สามารถช่วยเหลือได้ตามความเหมาะสม ได้นัดหมายเรื่องเวลาที่จะเริ่มทำกิจกรรม ประมาณ 09.00 น. โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานเปิดกิจกรรม   2.กิจกรรมวิเคราะห์บัญชีครัวเรือนนำไปปฏิบัติต่อเนื่อง -นางปิยะนันท์ นกเพชรทำหน้าที่เชิญกลุ่มเป้าหมายมาร่วมกิจกรรม -นางอารี เสรีสมบูรณ์ ทำหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ -นางยินดี  สมสุข จัดเตรียมเรื่องอาหาร -นางสาวฉวีวรรณ พรหมจันทร์จัดซื้อวัสดุสำนักงานและฝ่ายลงทะเบียน   3.กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง -นายสมบูรณ์  อ่อนจันทร์ เป็นวิทยากรให้ความรู้จัดหาสมุนไพรและวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในวันทำกิจกรรม -นางอารี เสรีสมบูรณ์ เรื่องสถานที่ -นางปิยะนันท์  นกเพชร ทำหน้าที่ดูแลเรื่องอาหาร

• คณะกรรมการได้ทราบถึงการได้รับโอนเงินจาก สสส.
  
• คณะกรรมการแต่ละคนได้ทราบหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในกิจกรรมครั้งต่อไปร่วม 3 กิจกรรม
  
• คณะกรรมการได้เตรียมพร้อม เพื่อให้กิจกรรมประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
• นางปิยะนันท์ นกเพชร ผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งกิจกรรมที่จะดำเนินในครั้งต่อไปตามลำดับดังนี้
  

1. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และปฏิบัติการทำปุ๋ยหมัก
   
2. วิเคราะห์บัญชีครัวเรือนนำไปปฏิบัติต่อเนื่อง
   
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง

วัยทำงาน 8 คน ผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• สมาชิกที่รับต้นกล้าลงทะเบียน
• คณะกรรมการและแกนนำเตรียมต้นกล้า ได้แก่ ต้นมะระ มะเขือหลายชนิด ถั่วฝักยาว พริกขี้หนู โหระพา ฯลฯ ที่จะแจกกับชาวบ้าน

• เกิดความร่วมมือของคนในชุมชน โดยชาวบ้านเอาพันธ์พืชมาจากบ้านเพื่อที่จะแจกให้เพื่อนบ้านได้ปลูกด้วย เช่น ต้นผักหวาน หน่อกล้วย ต้นชะอม ทำให้คนในชุมชนได้รับต้นกล้าไปปลูกไว้กินเองที่บ้าน

วัยเรียน 10 คน วัยทำงาน 15 คน ผู้สูงอายุ 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียน
• ผู้รับผิดชอบโครงการ นางปิยะนันท์ นกเพชร แนะนำตัวกับผู้เข้าร่วมโครงการ
• วิทยากร นายสมบูรณ์ อ่อนจันทร์ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการเพาะเมล็ดพันธุ์
• เปิดเวทีให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตัวแทนชุมชนซักถามเรื่องการเตรียมแปลงหรือภาชนะที่จะปลูกต้นกล้าที่พร้อมปลูก ปลูกอย่างไร ดูแลอย่างไรถึงจะได้ผลผลิตที่เหมาะสม
• ผู้เข้าร่วมโครงการลงมือปฏิบัติเพาะต้นกล้า ประเภทผักคะน้า มะระ มะเขือ พริกชี้ฟ้า ถั่วฟักยาว มะละกอ มะเขือ ในภาชนะถาดหลุม

• ผู้เข้าร่วมโครงการได้รู้ถึงขั้นตอนการเพาะเมล็ด
• ได้แลกเปลี่ยนความรู้ที่ทุกคนมีมาประยุกใช้ด้วยกัน
• ได้ต้นกล้าที่จะแจกจ่ายให้คนในชุมชนได้ไปปลูกขยายผล

1.วัยเรียน 50 คน

2.วัยทำงาน 20 คน

3.ผู้สูงอายุ 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• การประชุมคณะกรรมการครั้งนี้ได้เข้าร่วมประชุมพร้อมกับการประชุมหมู่บ้าน หลังจากผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งเรื่องของผู้ใหญ่บ้านเสร็จ ผู้รับผิดชอบโครงการก็ได้แจ้งถึงความคืบหน้าของโครงการให้กรรมการและชาวบ้านทราบพร้อมกัน ว่าได้รับการแจ้งมาจากครูพี่เลี้ยงว่า รายงานได้ผ่านการตรวจจาก สจรส.มอ.แล้ว ส่วนกิจกรรมที่เหลือที่โครงการยังไม่ได้ดำเนินการต่อ ก็ต้องรอการโอนเงินสนับสนุน จาก สสส. ก่อนหากได้รับการสนับสนุนจาก สสส.วันไหน ก็จะดำเนินกิจกรรมต่ออย่างเร่งด่วน เพราะแต่ละกิจกรรมล่าช้าแล้ว ส่วนกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และปฏิบัติการเพาะเมล็ดที่เคยตกลงกันในที่ประชุมเมื่อเดือนเมษายน ว่าหากยังไม่ได้รับเงินจาก สสส.ก็จะดำเนินการก่อนโดยการสำรองจ่ายไปก่อนเพราะเป็นกิจกรรมต่อเนื่องที่จะต้องแจกจ่ายต้นกล้านั้นก็ต้องดำเนินการตามที่ตกลงไว้

• กรรมการและชาวบ้านได้รับทราบถึงความคืบหน้าของโครงการและกิจกรรมที่โครงการจะดำเนินการต่อไป -ได้แผนการดำเนินงานและแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในกิจกรรมการแลกเปลียนเรียนรู้และปฏิบัติการเพาะเมล็ด
• ผู้รับผิดชอบโครงการขอแบ่งงานให้คณะกรรมการช่วยกันรับผิดชอบในกิจกรรมต่อไปดังนี้

1. นายสมบูรณ์ อ่อนจันทร์ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จะใช้ในวันทำกิจกรรม
2. นางปิยะนันท์ นกเพชร ติดต่อประสารงานกับทางโรงเรียนเพื่อให้เข้าร่วมกิจกรรมครั้นนี้ และเรื่องวิทยากร
   
3. นางอารี เสรีสมบูรณ์ เตรียมสถานที่
4. นางณฐพร รัตนานุพงค์ ประสานเรื่องอาหาร
5. นางฉวีวรรณ พรหมจันทร์ ผ่ายประชาสัมพันธ์กิจกรรม และรอรับลงทะเบียน
6. กรรมการคนอื่นสามารถช่วยกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม

1.คณะกรรมการ จำนวน 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• เวลา 09.00 น.คณะกรรมการได้เข้าร่วมประชุมพร้อมกัน นางปิยะนันท์ นกเพชรผู้รับผิดชอบโครงการแจ้งให้กรรมการทราบว่าโครงการยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของรายงาน และจากที่ผู้รับผิดชอบโครงการได้ไปร่วมกิจกรรมถอดบทเรียนกับครูพี่เลี้ยงในวันที่ 26 มี.ค.59 ที่ผ่านมา มีหลายอย่างที่โครงการของเราต้องปรับปรุง เช่น การจดบันทึกการดำเนินกิจกรรมจะต้องละเอียดกว่าที่ผ่านมา ในการรายงานกิจกรรมทางเว็บไซต์จะต้องบรรยายให้ชัดเจน ส่วนเงินสนับสนุนจาก สสส. ณ วันนี้ก็ยังไม่ได้รับการโอนเงิน
• นายจรัญ คงเหลือ ผู้ใหญ่บ้านได้เสนอถึงการจัดกิจกรรมที่เหลือหากได้รับการสนับสนุนจาก สสส.ช้าและยังไม่มีกำหนดการจัดกิจกรรมก็จะล่าช้าบางกิจกรรมอาจจะไม่ทัน เช่น กิจกรรเพาะเมล็ดหากดำเนินล้าช้าก็จะจัดกิจกรรมแจกจ่ายต้นกล้าไม่ทันคณะกรรมการได้ จึงได้ตกลกในที่ประชุมว่า หากเดือน พ.ค.ยังคงไม่ได้รับเงินอุดหนุน ก็จำเป็นที่จะต้องสำรองจ่ายเพื่อจัดกิจกรรมเพาะเมล็ดก่อน

• คณะกรรมการได้ทราบถึงความคืบหน้าของโครงการพร้อม ๆ กัน
• คณะกรรมการได้เข้าใจถึงการจัดทำรายงานกับ สจรส.
• ได้วางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาที่ได้อาจจะรับการโอนเงินล้าช้า

วัยทำงาน 7 คน ผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• อาจารย์กำไลสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โครงการดำเนินการถอดบทเรียนโครงการว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในรอบ 6 เดือน อาจารย์กำไลให้แนวทางการขับเคลื่อนงานต่อเนื่อง มีเรื่องเล่าดีๆ ของพื้นอื่นๆ เป็นตัวอย่าง ชี้แจ้งให้เห็นว่าการบันทึกกิจกรรมที่ผ่านมาภาพยังไม่สอดคล้อง การบันทึกต้องบันทึกให้ชัดเจน เน้นดูเรื่องเวลา เพราะจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอาหาร หากกลุ่มเป้าหมายมาไม่ครบให้ทำต่อได้ จนครบจำนวนตามที่โครงการตั้งเป้าหมายไว้

• ได้ถอดบทเรียนโครงการจากการปฏิบัติมาเป็นเวลา 6 เดือน มีแนวทางการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง แนวทางการบันทึกรายงานในรอบต่อไป และแนวทางการถอดบทเรียนที่ถูกต้อง

ครูพี่เลี้ยง ผู้รับผิดชอบโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

• คณะกรรมการร่วมประชุมพร้อมกัน นางปิยะนันท์ (หัวหน้าโครงการฯ) เปิดการประชุม ชี้แจงเอกสาร หลักฐานรายงาน พร้อมให้คณะกรรมการดูเอกสารที่ผ่านการตรวจจาก สจรส.แจ้งให้กรรมการทราบถึงขึ้นตอนการตรวจเอกสารหลักฐานจาก สจรส.และคำแนะนำจาก สจรส.ในการบันทึกรายงานการทำกิจกรรมแต่ละกิจกรรมแจ้งขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมครั้งต่อไป โดยจะต้องรอการตรวจสอบความถูกต้องจาก สจสร.มอ. ก่อน หากโครงการมีความเหมาะสมและถูกต้องก็จะได้รับการสนับสนุนโครงการต่อ ก็จะได้ดำเนินกิจกรรมต่อไป

• คณะกรรมการเข้าใจเอกสารหลักฐานประกอบรายงานไปในทางเดียวกัน ทราบถึงขึ้นตอนการพิจารณาโครงการในการสนับสนุนงบประมาณครั้งต่อไป

วัยทำงาน 7คน ผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• หัวหน้าโครงการฯ จัดทำรายงานปิดโครงการ ซึ่งต้องนำส่งรายงาน ประกอบด้วย การเงิน ง.1 ส.1 และหน้าสมุดคู่ฝาก
  
• ตรวจสอบเอกสารการเงิน โดยทีม สจรส.มอ.
• ปรับเพิ่มเติมข้อมูลในรายงาน ข้อกระบวนการ กิจกรรมที่ปฎิบัติจริงให้มีเนื้อหาสมบรูณ์มากขึ้น

• ต้องปรับเพิ่มเติมข้อมูลในรายงาน ข้อกระบวนการ กิจกรรมที่ปฎิบัติจริงให้มีเนื้อหาสมบรูณ์มากขึ้น
• เอกสารการเงินมีบางรายการต้องนำไปแก้ไขให้ถูกต้อง
  
• ในเบื้องต้นสามารถจัดทำรายงานการเงิน นำส่ง สสส.ได้

หัวหน้าโครงการ และเจ้าหน้าที่ IT

-

-

-

นางปิยะนันท์ นกเพชร (หัวหน้าโครงการ) นำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบร่วมกับ พี่เลี้ยงนครฯ และ สจรส.มอ พบว่า เอกสารที่เกี่ยวข้องครบถ้วน แต่มีบางรายการลงบันทึกผิดหมวด

หัวหน้าโครงการเข้าใจ ลงบันทึกได้ จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องได้ ถูกต้อง และทำหน้าที่เป็น จนท. IT ของโครงการด้วย

หัวหน้าโครงการ

ปัญหาที่พบเป็นเรื่องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต แก้ได้โดยให้ โครงการจัดเตรียม อินเตอร์เน็ตส่วนตัวมาใช้งาน และให้เจ้าหน้าที่ IT เป็นคนลงบันทึกการทำกิจกรรม ร่วมกับ ตนเอง

1. จัดเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอ และเหมาะสม

1. เตรียม อินเตอร์เน็ต
   
2. ให้เจ้าหน้าที่ IT ลงบันทึก ร่วมกับหัวหน้าโครงการ
3. ตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ให้ถูกต้อง บนพื้นฐานการทำกิจกรรม

• ผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียน
• ผู้ใหญ่บ้านไทรทอง กล่าวนำเปิดการอบรมและเชิญวิทยากรให้ความรู้
• พักรับประทานอาหารว่าง
• วิทยากรให้ความรู้
• พักรับประทานอาหารกลางวัน
• ผู้เข้าร่วมอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แสดงความคิดเห็น
• พักรับประทานอาหารว่าง
• วิทยากรสรุปทบทวน

1. ผู้เข้าร่วมการอบรมมีความรู้เกี่ยวกับสารเคมีที่ใกล้ตัวและภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากสารเคมีเช่น

• ประเภทของยาปราบศัตรูพืช
• โรคที่เกิดจากยาฆ่าแมลง
• อันตรายที่เกิดจากยาปราบศัตรูพืชทั้งในเกษตรกรและผู้บริโภค

1. ได้ทราบถึงวิธีการปลูกผักผล ประโยชน์ของการปลูกผักปลอดสารพิษ ซึ่งนำมาให้เกิดจิตสำนึกที่จะลงมือปฏิบัติทำจริง เช่น
   

• ทำให้ได้พืชผักที่มีคุณภาพ ไม่มีสารเคมีตกค้าง
  
• ทำให้เกษตรกรปลอดภัยจากสารพิษ ช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกผัก มีสุขภาพอนามัยดีขึ้น เนื่องจากไม่มีการฉีดพ่นสารเคมีป้องกัน
  
• ลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ด้านค่าใช้จ่ายในการซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช
  
• การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและลดมลพิษของสิ่งแวดล้อมได้

1. เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันในชุมชนจากปราญช์ชาวบ้านในพื้น ที่ต่างมีความรู้ความสามารถในแต่ละด้านได้ มาแลกเปลี่ยนและประสมประสานความคิดกันได้อย่างลงตัว

• ปราญช์ชาวบ้านได้ให้ความรู้ในการทำน้ำสมุนไพรไล่แมลง
• ผู้เข้าร่วมได้เสนอ ถึงบางบ้านที่ไม่มีพื่นที่ในการปลูกผัก ก็ให้ประยุกวัสดุการปลูกผักจากขวดน้ำหรือวัสดุที่เหลือใช้ที่พอจะปลูกไว้ในบริเวณบ้านที่แคบๆได้

เด็กวัยเรียน 30 คน วัยทำงาน 50 คน  ผู้สูงอายุ 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้รับผิดชอบโครงการเปิดการประชุม
• คณะกรรมการร่วมกันวางแผนปฏิบัติงานในกิจกรรมครั้งต่อไป
• มอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ

1. คณะกรรมการเข้าร่วมประชุม 10 คน
2. นางปิยะนันท์ (ผู้รับผิดชอบโครงการ) กล่าวเปิดการประชุม
3. วางแผนการปฏิบัติงานในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง ภัยอันตรายของสารเคมี และการปลูกผักปลอดสารพิษ ได้ร่างรายละเอียดที่จะดำเนินในกิจกรรม คือมีการเชิญวิทยากรที่จะให้ความรู็เรื่องสารเคมี และวิทยากรที่ให้ความรู็เรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษ มีสื่อแผ่นพับแจก กำหนด วัน และเวลาเป็นวันที่ 10 ก.พ.59 เวลา 09.00 น.- 15.00 น.
4. มอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ
   
   • ผู้รับผิดชอบโครงการติดต่อวิทยากรและเรื่องสือแผ่นพับ
   • คุณอารีเสรีสมบูรณ์ ติดต่อสถานที่และอาหาร
   • คุณฉวีวรรณพรหมจันทร์ และคุณจรัญคงเหลือ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่จะดำเนินการให้ประชาชนทราบ
   • คุณทองคำนานวล และคุณยินดี สมสุข รับผิดชอบเรื่องลงทะเบียนในวันทำกิจกรรม ส่วนคณะกรรมการคนอื่นสามารถช่วยรับผิดชอบงานได้ตามความเหมาะสม

วัยทำงาน 7 คนผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ผู้รับผิดชอบโครงการสรุปการปฏิบัติกิจกรรมที่ผ่านมาให้คณะกรรมการทราบ
• มี อสม.บ้านไทรทองร่วมฟังการประชุม

1. ผู้รับผิดชอบโครงการได้สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติการทำบัญชีครัวเรือน ให้คณะกรรมการได้รับทราบ ความคืบหน้าของกิจกรรมในโครงการพร้อมกัน ซึ่งกิจกรรมดำเนินการไปได้ดี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฟังแล้วเข้าใจง่าย เพราะวิทยากรมีสื่อในการสอนที่เห็นตัวอย่างได้ชัดเจน สอนวิธีทำแบบง่าย ๆ
2. ผู้รับผิดชอบโครงการได้ถามถึงปัญหาหรือสิ่งที่ต้องแก้ไขปรับปรุง ที่คณะกรรมการแต่ละคนได้เห็นในการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา คณะกรรมการเสนอ ควรมีสื่อแผ่นพับเพิ่มในการเรียนรู้ คณะกรรมการทุกคนรับทราบและจะนำไปปรับปรุงกับกิจกรรมเรียนรู้ครั้งต่อไป

วัยทำงาน 7 คน ผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมอบรม
• นางปิยะนันท์ นกเพชร ผู้รับผิดชอบโครงการเปิดการอบรม
  
• วิทยากรกระบวนการ (นางสมจิตร ชาโนจุติ) ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำบัญชีครัวเรือน รายรับ รายจ่าย โดยแยกแต่ละประเภท
  
• ผู้เข้าร่วมอบรมฝึกทำบัญชีครัวเรือน โดยลงรายละเอียดตามแบบฟอร์ม ที่วิทยากรแนะนำ

• ผู้ที่เข้าร่วมอบรมได้รับความรู้และเห็นความสำคัญในการทำบัญชีครัวเรือน
  
• จัดแบ่งกลุ่ม ให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้ลองทำ บัญชีรายรับ รายจ่าย ของครัวเรือนตนเอง
• เกิดความสามัคคีของคนในชุมชน ในการร่วมกันฝึกทำบัญชีครัวเรือน หากมีคนที่ยังไม่เข้าใจ สมาชิกในกลุ่มก็ช่วยกันอธิบาย
• เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมอบรมซักถามข้อสงสัย

• เด็กวัยเรียน 10คน
• วัยทำงาน 30 คน
• ผู้สูงอายุ 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมประชุม
• ประธานเปิดการประชุม
• เลขาสรุปและแจ้งเรื่องผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมา
• แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับปัญหาและอุปสรรคของกิจกรรมที่ดำเนินการมาเพื่อหาข้อแก้ไข
• วางแผนการปฏิบัติงานในกิจกรรมครั้งต่อไป

• ผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 10 คน
• นางปิยะนันท์ นกเพชร กล่าวเปิดประชุม
• เลขา สรุป กิจกรรมประชุมชี้แจงโครงการให้ประชาชนทราบ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี ได้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ
  
• แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปัญหาและอุปสรรคของกิจกรรม ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ให้ความสำคัญกับโครงการ คณะกรรมการปรึกษาหารือวิธีแก้ปัญหา โดยการให้คณะกรรมการและแกนนำ ให้มีการประชาสัมพันธ์พูดคุยกับรายบุคคลนั้นๆ ให้เข้าใจและให้เห็นความสำคัญของโครงการ
• ได้แผนปฏิบัติงานในกิจกรรมต่อไปคือ กิจกรรมการเรียนรู้และปฏิบัติหน้าการทำบัญชีครัวเรือน โดยแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ
• ผู้รับผิดชอบโครงการ รับหน้าที่ติดต่อวิทยากร และจัดเตรียมอุปกรณ์ IT ที่ต้องใช้ในวันจัดกิจกรรม
• คุณอารี เสรีสมบูรณ์ ติดต่อเและจัดเตรียมสถานที่และอาหาร
• คณฉวีวรรณ พรหมจันทร์ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่จะทำให้ชุมชนทราบ
  
• คุณทองคำนานวบ รับผิดชอบเรื่องการลงทะเบียนในวันทำกิจกรรม ส่วนกรรมการและแกนนำคนอื่นๆ ก็ช่วยเหลืองานได้ตามความเหมาะสม

วัยทำงาน 7 คน ผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

หัวหน้าโครงการ เรียนรู้การลงบันทึกกิจกรรมใน www ตนใต้สร้างสุข ให้เป็นปัจจุบัน

หัวหน้าโครงการลงบันทึกการทำกิจกรรม รูปภาพ การใช้เงินใน www ได้ แต่ต้องการอินเตอร์เน็ตที่เร็ว เข้าถึง www ตนใต้สร้างสุขได้

หัวหน้าโครงการ

1. โครงการเตรียมอินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาให้ทีมพี่เลี้ยงนครฯ และ สจรส.มอ. ตรวจ

1. จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอ และเหมาะสม

1. ฝึกการลงบันทึกให้เป็นปัจจุบัน ทั้งในสมุดบันทึก และ www ตนใต้สร้างสุข
2. เจ้าหน้าที่ IT ควรมาลงบันทึกร่วมกับ ทีมพี่เลี้ยงนครฯ และสจรส.มอ.

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมลงทะเบียน วิทยากรให้ความรู้เรื่องขั้นตอนการดำเนินโครงการ การเขียนรายงานในระบบเว็บไซต์ให้ถูกต้องชัดเจน และให้ความรู้ในการต้องจ่ายภาษี พี่เลี้ยงตรวจสอบเอกสารหลักฐานโครงการที่ดำเนินการมาแล้ว

• ผู้รับผิดชอบโครงการและครูพี่เลี้ยงร่วมกิจการติดตามผลการดำเนินโครงการ
• ได้ทราบถึงรายละเอียดในการเขียนรายงานหัวข้อ"รายละเอียดขั้นตอน กระบวนการ กิจกรรมปฏิบัติจริง" และหัวข้อ"ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม"
• ผู้รับผิดชอบสามารถเขียนรายงานได้ถูกต้องและชัดเจนมากขึ้น

หัวหน้าโครงการและเจ้าหน้าที่ IT

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้รับผิดชอบโครงการแนะนำคณะทำงานประกอบด้วย นางปิยะนันท์นกเพชรผู้รับผิดชอบโครงการนายสมบูรณ์อ่อนจันทร์ ผู้ประสารงานน.ส.อารีเสรีสมบูรณ์ข้อมูลวิชาการ น.ส.ฉวีวรรณ พรหมจันทร์ ประชาสัมพันธ์นางทองคำนานวล ฝ่ายกิจกรรม ให้ประชาชนได้รู้จัก ชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ประชาชนได้ทราบ บอกถึงวัตถุประสงค์ โครงการเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เพื่อส่งเสริมการลดรายจ่ายเพิ่มเพื่อพัฒนากระบวนการชุมชนวิธีการดำเนินงาน ขอความร่วมมือจากประชาชนในการเข้าร่วมแต่ละกิจกรรมของโครงการ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ เช่น คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นมีรายจ่ายลดลง คนในชุมชนได้ร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆมีสภาพแวดล้อมในชุมชนที่เอื้อต่อชุมชนน่าอยู่ เกิดกลุ่มในชุมชน รับลงทะเบียนคนในชุมชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีคนที่สนใจเข้าร่วม จำนวน165 คน

• คนในชุมชนบ้านไทรทอง ทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการ และเข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการที่จะให้ประชาชนเข้าร่วม เพื่อที่จะสร้างกระบวนการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เพื่อลดรายจ่าย เพื่อสุขภาพคนในชุมชนที่ดีขึ้น
• คนในชุมชนเทราบถึงการดำเนินกิจกรรม แต่ละกิจกรรม เช่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การทำบัญชีครัวเรือน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภัยอันตรายของสารเคมี การปฏิบัติการทำปุ๋ยหมัก/สมุนไพรไล่แมลง /การทำน้ำยาเอนกประสงค์/การเพาะต้นกล้าและแจกจ่ายต้นกล้า
• คนในชุมชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมโครงการทั้งหมด 165 คน

เด็กวัยเรียน 60 คน วัยทำงาน 60 คน ผู้สูงอายุ 30 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม
• ผู้ใหญ่บ้านกล่าวเปิดประชุม ผู้รับผิดชอบโครงการแนะนำ คณะกรรมการและคณะจัดเก็บข้อมูลชุมชุน และได้ข้อมูลในปัจจุบันเรื่อง สถานการณ์โรคเรื้อรัง ปัญหาหนี้สิน การใช้สารเคมีในการประกอบอาชีพเกษตร ปัญหาที่พบจากการสำรวจจัดเก็บข้อมูลคือ มีผู้ป่วยเรื้อรังรายใหม่มากขึ้นโดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง ภาระการเป็นหนี้ของคนในหมู่บ้านมีหนี้สินร้อยละ 80 ของครัวเรือนทั้งหมด มีการใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรร้อยละ 95
  และบอกถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาในชุมชนที่คณะกรรมการได้ตกลง และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่นำเสนอ เช่น ทางคณะกรรมการมีมติที่จะแก้ไข้ปัญหาการใช้สารเคมีในการประกอบอาชีพ โดยจะฝึกปฏิบัติการทำปุ๋ยหมัก ทำน้ำยาเอนกประสงค์ไว้ใช้เอง การปลูกผักไว้กินเอง ทั้งหมดนี้จะสามารถช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และลดการเกิดโรค

• ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทราบถึงปัญหาของโรคในชุมชนที่เป็นกันมาก ได้ทราบถึงปัญหาหนี้สินของชุมชน
• ผู้เข้าร่วมได้เกิดความตระหนักในการดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น
• ผู้เข้าร่วมได้เกิดความตระหนักในการใช้จ่าย
• ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถึงปัจจัยและสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคในชุมชน เนื่องจากคนในชุมชนยังขาดความรู้ในการเลือกบริโภค ขาดการออกกำลังกายแลกเปลี่ยนปัจจัยที่ทำให้แต่ละครอบครัวต้องมีหนี้สิน เพราะมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ คนในชุมชนยังขาดความตระหนักในการใช้จ่าย เช่น การบริโภคอาหารที่ทันสมัย สะดวก
  
• ซึ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นำไปสู่แนวทางการแก้ไข้ปัญหา โดยการสร้างกฏกติกาของชุมชน ให้แต่ละบ้านได้ปลูกผักไว้กินเอง (หากเหลือจากกินเองก็ยังขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว) ไม่ใช้สารเคมี

วัยเรียน 40 คน  วัยทำงาน 60 คน  ผู้สูงอายุ 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

มีการวางแผนการดำเนินงานกิจกรรมจัดเวทีคืนข้อมูลสู้ชุมชน โดยแบ่งหน้าที่ให้กรรมการ

1. นางปิยะนันท์ นกเพชร แจ้งสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมาให้คณะกรรมการทราบ

2. มอบหมายหน้าที่ในการดำเนินกิจกรรมจัดเวทีคืนข้อมูลสู่ชุมชน และกิจกรรมประชุมชี้แจงโครงการให้ประชาชนทราบ โดยกำหนดหน้าที่ดังนี้

- นางสาวฉวีวรรณ พรหมจันทร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เชิญผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยการประสานงานกับอสม.ให้เชิญสมาชิกในเขตรับผิดชอบมาเข้าร่วมกิจกรรม
- นางปิยะนันท์ นกเพชร รับผิดชอบในการเสนอข้อมูลในวันทำกิจกรรมให้ประชาชนทราบ และจัดทำป้ายไวนิวส์ - นายสมบูรณ์ อ่อนจันทร์ ประสานงาน เรื่องสถานที่และอาหาร - น.ส.อารี เสรีสมบูรณ์ ฝ่ายลงทะเบียน

1. แกนนำเกิดการเรียนรู้ และการทำงานร่วมกัน

วัยทำงาน 11 คน  ผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

นางปิยะนันท์ นกเพชร แกนนำ และ นางสาวจุฑารัตน์ ม่วงรักษ์ แกนนำเยาวชน นำข้อมูลจากการสำรวจเรื่องโรคเรื้อรังเรื่องหนี้สิน เรื่องการใช้สารเคมี มารวบรวมและร่วมกัน วิเคราะห์สถาณการณ์ปัญหาชุมชนในแต่ละเรื่อง

ปัญหาที่พบจากการสำรวจจัดเก็บข้อมูล มีดังนี้

• มีผู้ป่วยเรื้อรังรายใหม่มากขึ้น
• ภาระการเป็นหนี้ของคนในหมู่บ้านมีหนี้สินร้อยละ 80 ของครัวเรือนทั้งหมด
• มีการใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรร้อยละ 95
  

ได้ข้อสรุปปัญหา การใช้สารเคมีในชุมชน ที่ชุมชนคาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่งโดยใช้แผน กิจกรรม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภัยอันตรายของสารเคมี การสาธิตทำปุ๋ยหมัก การทำน้ำสมุนไพรไล่แมลง การทำน้ำยาเอนกประสงค์ สร้างการมีส่วนร่วมให้สมาชิกได้ร่วมกันทำ

นักเรียน 5 คน วัยทำงาน 10 คน  ผู้สูงอายุ 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• กลุ่มเก็บข้อมูลที่ได้รับมอบหมายงาน พร้อมคณะกรรมการและแกนนำ ร่วมกันลงมือลงพื้นที่ตามโซนที่มอบหมายกันไว้ เพื่อสำรวจข้อมูลตามแบบฟอร์มที่จัดทำขึ้น

• ทางคณะกรรมการและแกนนำได้รับความร่วมมือจากคนในพื้นที่ ในการให้ข้อมูล ทำให้เป็นที่พอใจของคณะทำงานทุกคน
• ได้ฐานข้อมูลโรคเรื้อรังในชุมชน ภาระหนี้สิน และการใช้สารเคมีในการทำเกษตร
• ผู้เก็บข้อมูลได้มีโอกาสพูดคุยกับคนในชุมชน ทำให้ได้รู้ถึงความสามารถของแต่ละบุคคล ที่ชุมชนไม่เคยทราบ และสามารถชักชวนบุคคลเหล่านั้น มาร่วมกันพัฒนาโครงการ

เด็กวัยเรียน 5 คน วัยทำงาน 10 คน ผู้สูงอายุ 5 คน

ปัญหา  มีประชาชนส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจเหตุผลของการสำรวจข้อมูล แนวทางแก้ไข  คณะเก็บข้อมูลอธิบายให้ประชาชนทราบถึงเหตุผลที่ละเอียด ชัดเจน

ไม่มี

ไม่มี

คณะกรรมการและแกนนำ ร่วมลงทะเบียนเข้าประชุม หัวหน้าโครงการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูลและรายละเอียดหัวข้อของข้อมูลที่จะต้องเก็บจากชุมชน เพื่อได้ทราบปัญหาและสถานะการณ์ของชุมชน คณะกรรมการและแกนนำได้รับฟัง ก็เริ่มเสนอความความคิดเห็น และได้ช่วยออกแบบเครื่องมือในการเก็บข้อมูล

• คณะกรรมการ กลุ่มแกนนำและเยาวชน ได้ร่วมกันออกแบบเครื่องมือ โดยมีประเด็นการเก็บข้อมูลในเรื่อง 1. ผู้ป่วยเรื้อรังในครัวเรือน 2. หนี้สินในครัวเรือน3. การใช้สารเคมีในการทำเกษตร
• คัดเลือกกลุ่มบุคคลในการจัดการเก็บข้อมูล และได้ทำความเข้าใจให้ตรงกันและไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้คัดเลือกผู้จัดเก็บข้อมูลซึ่งเป็น กลุ่มเด็กในวัยเรียน และกลุ่มทำงานที่มีความคล่องแคล่วในเรื่องการอ่านและและการเขียน
  
• ได้แบ่งโซนการเก็บข้อมูลให้กับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกในการเก็บข้อมูล จำนวน 4โซน ๆ ละ 5 คน 1.โซนหน้าสถานีรถไฟและทุ่งโพธิ์ 2.โซนทุ่งคา 3.โซนไทรทอง 4.โซนใสตีน
  
• เกิดการมีส่วนร่วมของแกนนำชุมชน เด็ก เยาวชน
  
• เด็ก เยาวชน รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เกเร ติดเกมส์

เด็กวัยเรียน 5 คน  วัยทำงาน 10 คน ผู้สูงอายุ 9 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

• คณะกรรมการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย 1.นางปิยะนันท์ นกเพชร ผู้รับผิดชอบโครงการ 2. นายจรัญ คงเหลือ ผู้ใหญ่บ้าน 3.นางยินดี สมสุข เจ้าหน้าที่การเงิน 4.น.ส.อารี เสรีสมบูรณ์ ข้อมูลวิชาการ 5.นายสมบูรณ์ อ่อนจันทร์ ประสานงาน 6. นางสาวฉวีวรรณ พรหมจันทร์ประชาสัมพันธ์ 7.นางทองคำ นานวล ฝ่ายกิจกรรม 8. นายสมัคร ใหม่นวล ปราชญ์ชาวบ้าน 9. นายสุเทพ พึ่งเสือ ปราชญ์ชาวบ้าน 10. นางสาวณฐพรรัต นานุพงค์ อสม. 11. นายสมภักดิ์ สมสุข อบต. 12. นางวรรณาโสดา อสม. 13.นางดรุณี ทองแกมนาค ประธาน อสม.หมู่ที่ 2 14.นางกฤษ นามนัส อสม.
• ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงรายละเอียดโครงการ กิจกรรมที่จะมีดังนี้ - กิจกรรมประชุมประจำเดือนทุกเดือน - กิจกรรมพัฒนาศักยภาพการจัดเก็บข้อมูล - กิจกรรมฝึกทำและวิเคราะห์บัญชีครัวเรือน - กิจกรรมปฏิบัติการทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง ทำน้ำยาเอนกประสงค์ เพาะเมล็ดผัก -การกำหนดกฏกติการ่วมกันฯลฯ
• คณะกรรมการร่วมกันแสดงความคิดเห็น

• คณะกรรมการเข้าใจรายละเอียดโครงการ
• มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบงานต่อเนื่อง โดยผู้ใหญ่บ้านเสนอจะช่วยทำการประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนทราบในวันประชุมหมู่บ้าน เพื่อหวังให้ชาวบ้านได้เข้าใจและให้ความร่วมมือ ก่อนที่จะมีกิจกรรม ประชุมชี้แจงโครงการให้ประชาชนทราบ นางปิยะนันท์ นกเพชร ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้มอบหมายหน้าที่ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการ เชิญผู้ที่มีคุณสมบัติในการจัดเก็บข้อมูล เข้าร่วมกิจกรรมคัดเลือกตัวแทนเก็บข้อมูล ฝ่ายประสานงาน ติดต่อเรื่องสถานที่และอาหาร ฝ่ายข้อมูลวิชาการเรื่องวัสดุสำนักงาน
• สร้างการมีส่วนร่วมในการทำงานของแกนนำชุมชน

วัยทำงาน 11 คนผู้สูงอายุ 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

มีการติดตั้งป้ายเขตปลอดบุหรี่ในศาลาหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ในการจัดประชุมกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ และประชุมหมู่บ้าน ส่วนอีกป้ายนำไปติดตั้งไว้หน้าโรงเรียน

มีการติดตั้งป้ายเขตปลอดบุหรี่ในศาลาหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ในการจัดประชุมกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ และประชุมหมู่บ้าน ส่วนอีกป้ายนำไปติดตั้งไว้หน้าโรงเรียน

ผู้รับผิดชอบโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

โครงการฝึกการลงบันทึกใน www ตนใต้สร้างสุข ให้เป็นปัจจุบัน ด้วยตนเอง โดยมี ทีมพี่เลี้ยงนครฯ และ สจรส. มอ. คอยให้คำแนะนำ

หัวหน้าโครงการลงบันทึกใน www ตนใต้สร้างสุข ได้ และเข้าใจการทำโครงการมากขึ้น

หัวหน้าโครงการ และเจ้าหน้าที่ IT

1. อินเตอร์เน็ต
2. เจ้าหน้าที่ IT ไม่มาร่วมกิจกรรม 

1. แก้ปัญหาเรื่องอินเตอร์เน็ต
2. ชี้แจงให้โครงการเข้าใจว่าการบันทึกกิจกรรมต้องทำอย่างเป็นปัจจุบัน และ ต่อเนื่อง

1. เจ้าหน้าที่ IT ต้องมาร่วมกิจกรรม
2. โครงการต้องมีอินเตอร์เน็ตส่วนตัวมาด้วย เพื่อให้ลงบันทึกได้สะดวก

รับฟังแนวทางการบริหารจัดการโครงการจาก ผศ.ดร.พงเทพษ์ และทีมงานของ สจรส.มอ ลงมือปฏิบัติการเกี่ยวกับการรายงานผลต่างๆ ผ่านเว็บไซด์คนใต้สร้างสุข

หัวหน้าโครงการและเจ้าหน้าที่ IT ได้รับความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการโครงการ และการจัดทำรายงานต่างๆ ผ่านระบบเว็บไซด์ คนใต้สร้างสุข ซึ่งสามารถนำไปขยายผลและนำไปใช้ในการดำเนินโครงการได้เป็นอย่างดี

ตัวแทนคณะทำงานจำนวน 2 คน

• อินเตอร์เน็ตไม่เสถียร ผู้แทนโครงการยังขาดทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ สถานที่ไม่อำนวยความสะดวก

• พื้นที่ใหม่ต้องการคำแนะนำจากพี่เลี้ยง สจรส และ สสส. มาก และยังไม่เข้าใจการทำรายการต่าง ๆ

การจัดสถานที่ในการปฐมนิเทศควรดีกว่านี้

-