คนสร้างสุข

ติดตามโครงการงวด 2 และสรุปรายงานโครงการ จำนวน 2 วัน ร่วมกับผู้ืรับผิดชอบโครงการ และเจ้าหน้าที่การเงินโครงการ เพื่อ 1. ตรวจสอบบันทึกรายงานกิจกรรม ภาพถ่าย ให้ครอบถ้วน ถุกต้อง 2. ตรวจสอบรายงานเอกสาร หลักฐานการจ่ายเงิน งวดที่ 2 ของโครงการ และบัญชีการเบิกถอนเงิน 3. จัดทำรายงานส่งสสส.ได้แก่ รายงาน ส1 ส3 ส4 และรายงายนการเงิน ง 1 งวด 2 ง2
4.ช่วยเหลือโครงการแก้ไข บันทึกรายงาน

ติดตามโครงการงวด 2 และสรุปรายงานโครงการ จำนวน 2 วัน ร่วมกับผู้ืรับผิดชอบโครงการ และเจ้าหน้าที่การเงินโครงการ พบว่า ผู้รับผิดชอบและเลขา เข้าร่วมครบทั้ง 2 วัน 1. ตรวจสอบบันทึกรายงานกิจกรรม ภาพถ่าย ให้ครบถ้วนโดยพี่เลี้ยง พบว่า  ถุกต้อง และมีคุณภสพปานกลาง 2. ตรวจสอบรายงานเอกสาร หลักฐานการจ่ายเงิน งวดที่ 2 ของโครงการ และบัญชีการเบิกถอนเงิน โดยเจ้าหน้าที่ สจรส.พบว่าครบถ้วนถูกต้อง 3. จัดทำรายงานส่งสสส.ได้แก่ รายงาน ส1 ส3 ส4 และรายงายนการเงิน ง 1 งวด 2 ง2  จัดพิมพ์ส่งแล้วเสร็จ 4.ช่วยเหลือโครงการแก้ไข บันทึกรายงานตามความเหมาะสม

ผู้ืรับผิดชอบโครงการ และเจ้าหน้าที่การเงินโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้าที่การเงิน พร้อมด้วยพี่เลี้ยงโครงการ ร่วมประชุมพร้อมกันทั้งจังหวัด เพื่อรวบรวมและสรุปรายงานโครงการส่ง สสส.

ผูรับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้ที่การเงิน ช่วยกันแก้ไขบันทึกกิจกรรมตรวจสอบความเรียบร้อยและส่งตรวจเอกสารการเงินแก่เจ้าหน้าที่ สจรส.พบว่าเอกสารหลักฐานบางกิจกรรมยังไม่ครบถ้วนให้จัดส่งเพิ่มเติม

ผูรับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้ที่การเงิน 

ไม่ม่ี

ไม่มี

ไม่มี

จัดกิจกรรมบางไทรสร้างสุข นำผลโรงงานอาชีพแต่ละคน มานำเสนอในรูปจัดนิทรรศการมีชีวิต ผลลัพธ์โครงงานแต่ละกลุ่มบ้าน นำผลงานเด่นๆ องค์ความรู้ และนวัตกรรมด้านอาชีพ ที่เกิดจากการพัฒนาโครงงานและจากการโน้มนำศาสตร์แห่งพระราชา สู่เกษตรสร้างสุขบ้านบางไทร ในวันปิดโครงการ โดยเน้นการร่วมกันให้เด็กเขียนเรียงความให้ผู้ปกครองกลุ่มที่ร่วมโครงการ รับฟังและตั้งมั่นในเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียงให้เยาวชนเรียนรู้การดำนินการวิถีพอเพียง และทำการเปิดศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในบ้านบางไทร และประชาสัมพันธ์กิจกรรมศูนย์เรียนรู้ให้ทราบทั่วกัน เพื่อให้กลุ่มชาวบ้านทั้งหมดที่ไม่ได้ร่วมในโครงการรับรู้รับทราบกิกรรมและเกิดความตระหนักในการใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง

จัดกิจกรรมบางไทรสร้างสุข นำผลโรงงานอาชีพแต่ละคน มานำเสนอในรูปจัดนิทรรศการมีชีวิต ผลลัพธ์โครงงานแต่ละกลุ่มบ้าน นำผลงานเด่นๆ องค์ความรู้ และนวัตกรรมด้านอาชีพ ที่เกิดจากการพัฒนาโครงงานและจากการโน้มนำศาสตร์แห่งพระราชา สู่เกษตรสร้างสุขบ้านบางไทร ในวันปิดโครงการ โดยชาวบ้าน และเด็ก ๆรวมทั้งเครือข่ายคณะครูอาจารย์ โรงเรียนวัดบางไทร ช่วยกันนำ ผลผลิตจากไร่ จากแปลง ที่บ้าน และของศูนย์เรียนรู้ของเด็กๆที่โรงเรียน มาจัดนิทรรศการ
อย่ายงาม และมีส่วนร่วม โดยผู้เข้าร่วมคนนึงเล่าว่า แม่สอนเค้าให้ทำเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้นแบบมาตั้งแต่วัยเยาว์ และร้องเป็นเพลงให้ฟังดังนี้ ผักส่วนครัวปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพ เพลงพริกมะเขือข่าตะไคร้ไม่ครวจะไปซื้อที่ ปลูดให้งามอย่าให้ขาด กลืนกราดอยู่ในส่วนครัวเหลือกเก็บ เอาตามชอบใจจะเกงอะไรก็ไม่ต้องกลัวแกงพริก แกงไก่ แกงคั่ว มีผักส่วนครัว ไม่ต้องกลัว เห้ ๆ ๆไปทำงานเย็นกลับมาพวนดินลอบรั้วด้วยผักกะทิ่นถัวพูหน้ากินปลูกเอาไว้ข้าง ๆชะอมหน้ากินปลูกเอาไว้ข้าง ๆ ส่วนผู้อำนวยการได้ให้ความเห็นว่าประโยชน์ของโครงการในการโน้มนำแนวคิดพ่อหลวงมาดำเนินการมีผลต่อการปลูกฝังเด้กๆและครอบครัวไม่ให้ฟุ้งเฟ้อ การมีหลักสูตรปรับชีวิตพิชิตหนี้ และการจดบช.ครัวเรือน ทำให้เด็กรับรู้ปัญหาเศรษฐกิจและรู้จักสำนึกในการอดออมและการใช้จ่าย ครูสุ บอกว่า กิจกรรมที่นำเด็กมาเรียนรู้ร่วมกับผู้ปกครองในหลักสูตร ทั้ง 6 ครั้ง ทำให้ โรงเรียนใช้การเรียนการสอนแบบเน้นทักษะชีวิต ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ได้ตามเป้าหมาย ส่วนผญบ.สุทัศน์ บอกว่าโครงการนี้ ทำให้เกิดการรวมกลุ่มที่ดี มีการประชุมต่อเนื่อง ทุกเดือน และมีงบประมาณดำเนินการชัดเจน โปร่งใส ทำให้คนทำงานมีกำลังใจ อบต.ชัยวัฒน์ ให้ความเห็นว่า กิจกรรมรวมกลุ่มลงแขก เป็นกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จน้อย เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยว่าง ได้ช่วยกันเฉาพะกลุ่มบ้านใกล้เรือนเคืยง และใช้การจ้างวานแทน แต่กะด๊ที่มีในโครงการนี้ เป็นการช่วยรื้อฟื้นเด็กรุ่นหลังให้เห็นวิธีการลงแขกเกี่ยวข้าว และลงแขกปลูกข้าว ปลูกผัก คุรลุงประธานอสม. บอกว่า กิจกรรมทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักสมุนไพรไล่แมลงทำให้ ภูมิปัญญาที่มีในรุ่นท่านไม่สูญหาย และได้เส่ขานให้เด็กๆจดจำและบันทึกไว้เป๋นสูตรพิเศษเพื่อไล่แมลง ส่วนนักเรียนที่มาร่วมโครงการ ได้เขียนเรียงความและชนะการประกวด ได้รับรางวลับ ทั้ง 4 คน ประทับใจและภูมิใจมากที่มีส่วนร่วมในการบอกเล่าการทำเกษตรแบบพอเพียงในครอบครัว

วัยเรียน  30  คน  วัยทำงาน 30 คน วัยสูงอายุ 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ได้ติดตามผลการดำนินกิจกรรมโดยคณะกรรมการทำงานและพี้เลี้ยงโครงการเพื่อประเมินคุณค่า และบทเรียนของผู้เข้าร่วมโครงการ ในด้าน องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ ความรู้ที่เกิดจากการร่วมกันแลกเปลี่ยนนวัตกรรมด้านการเกษตรอินทรีย์ในบ้านบางไทร และการนำภูมิปัญญามาใช้ประยุกต์ในการจัดการมีเรื่องใดบ้างประเิมนคุณค่าแต่ละกิจกรรม และการพัฒนาต่อเนื่อง  ชุมชนหมู่บ้านบางไทร  ได้เรียนรู้เรื่องอะไร ในชุมชน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเน้นให้ชุมชนเกิดการับรู้ผลการดำเนินโครงการ

• ผู้เข้าร่วมโครงการและประชนทราบผบการดำเนินกิจกรรม ทางด้านการเข้าร่วมโครงการ สสส. โดยมีการเข้าร่วมเรียนรู้กับเด็กและผู้ใหญ่
  
• ได้เรียนรู้ปัญญาเศษรกิจพอเพียงและเข้าเรียนรู้การปลูกผักเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ ทำนำยาสมุนไพร เพาะเห็ดกินเอง ทำน้ำสมุนไพรแทนน้ำอัดลมโดยเฉพาะในโรงเรียนไม่มีขาย เป็นการสร้างเสริมสุขภาพ การมาร่วมกลุ่มช่วยให้ได้รวมกลุ่มได้มาศักษาด้านต่าง ๆ ด้านสุขภาพการทำผักไว้กินเองทำให้สุขภาพดีการร่วมกลุ่มทำสิ่งแตกต่างที่เราเคยทำ การลงแขก ที่ปรับพื้นที่ช่วยกันทำเด็กจะได้เห็นการร่วมกับผู้ให๋ญ่ จะเห็นได้การลงแขกจะทำเสร็จเร็ว ภายใน 2-3 ชั่วโมงแทนที่จะทำเป็นวัน ๆมีการปลูกผักของเด็กแบ่งเป็นรอง ปลูกผักกินองทำเองไม่ได้สารเคมีการได้ชักชวนให้หันมาใช้สมุนไพรเพื่อข้างเคียงหันมาทำเกษตรอินทรีย์ทำให้ไม่มีสารตกค้าง โดยเฉพาะต้นคะน้าจะเป็นตัวที่มีสารตกค้างมากที่สุดด้านเศรษฐกิจบ้านเราปลูกผักส่วนครวไว้กินเองจะลดรายจ่ายในแต่ละเดือนสมุดซื้อ ใบมะกรูด 5 บาทกินไม่หมดต้องทิ้งแต่เมื่อปลูกไว้กินเองเวลาต้องการ ผักส่วนครัวมาไว้กิน ลดแต่ละเดือนประมาณ 300 บาทการทำบัญชีครัวเรือนทำให้เด็กได้เห็นเศรษฐกิจครอบครัวเป็นอย่างไร

ผลการประเมินผลลัพธ์ตามตัวชี้วัด

• ครัวเรือนร้อยละ 50 มีแผนชีวิตพิชิตหนี้ มีรายได้เพิ่มเฉลี่ย 500 บาท ต่อเดือนปละ ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย ได้ ร้อยละ 20
• เกิดกลุ่มเกษตรอินทรีย์ในบ้านบางไทรมีสมาชิกอย่างน้อย 30 คน
  
• เกิดแปลงพืชผักต้นแบบปลอดสารพิษในบ้านบางไทร อย่างน้อย 10 แปลง เกิด 30 แปลง และเลือกเป็นแปลงตัวแย่าง 10 แปลง
• เกิดสภาผู้นำขับเคลื่อนบ้านบางไทรมีการประชุมทุกเดือน และมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่ายโรงเรียนวัดบางไทร และอบต.บางศาลา
• เกิดข้อตกลงคนบางไทรร่วมใจปลูกผักปลอดสารพิษ
  
• มีการเข้าร่วมการประชุมกับ สสส. สจรส.ม.อ. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนครั้งที่จัด
• มีการจัดทำป้าย "สถานที่นี้ปลอดบุหรี่" ติดตั้งในสถานที่จัดกิจกรรม
• มีการถ่ายภาพการดำเนินงานทุกกิจกรรม
• มีการจัดทำรายงานส่ง สสส. ตามระยะเวลาที่กำหนด

วัยทำงาน  20  คน  วัยผู้สูงอายุ 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

สรุปผลการดำเนินโครงการ  และปิดโครงการทำเอกสารรูปเล่ม สสส.  รวบรวมชุดความรู้ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำโครงการและหลังการทำโครงการ  และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลดังกล่าวให้ชุมชนรับทราบ

ผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าหน้าที่การเงินร่วมประชุม สรุปผลการดำเนินโครงการและปิดโครงการทำเอกสารรูปเล่ม สสส.รวบรวมชุดความรู้ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำโครงการและหลังการทำโครงการและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลดังกล่าวให้ชุมชนรับทราบ

ปัญหาที่พบ เอกสารการเงินไม่ครบถ้วน

ผู้รับผิดชอบโครงการ  กรรมการ และจนท.การเงิน

ไม่มี

ปรับปรุงเอกสารและเพิ่มเติมให้ครบ

ทำป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ รับทุน ถ่ายภาพกิจกรรม และจัดทำรายงานตามข้อตกลงของผู้รับทุน กับ สสส.

• เกิดป้ายโครงการและป้ายกิจกรรมโครงการพร้อมป้ายปลอดบุหรี่ อย่างละ 1 ป้าย

คณะทำงานโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ได้เข้าร่วมโครงการ สสส. ได้ร่วมกลุ่มแลกเปลี่ยนและร่วมกันแก้ไขปัญาหาการทำ่โครงงานและโครงการโดยภาพร่วมกันเสาะหาตลาดของชุมชน  โดยการจับมือกับชุมชนใกล้เคียง หาตลาดรับซื้อ และจำหน่ายสินค้าจำหน่ายผลผลิตปลอดสารพิษ โดยการร่วมกันหาผักกันในกลุ่มที่ใครปลูกอะไรเอามาร่วมกัน ไปขายตลาดนัด นำผักพื้นบ้าน สมุนไพร ผักส่วนครัว มาผสมกัน มีใบมะกรูด ตะไคร้ พริกสด โหระพา ตำลึง มะเขือ มันแกว ถั่วฝักยาว และหน่อต่าง ๆ  ไข่ไก่  ไข่มดแดงหาตามบ้านขายได้ที่มีแถวบ้านที่ปลูก และหาได้นำร่วมกัน และออกตลาดนัดขายได้ ผักปลอดสารพิษในชุมชน จะมีทุกวันพุธของสัปดาห์ 

ผลที่ได้จาการทำโครงการ สสส.ได้ทราบวิถีการปลูกผักข้างริมรั่วบ้านในกลุ่มได้ทำตามข้อตกลงการใช้ปุ๋ยหมักแทนสารเคมี ได้ผลบ้าง โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงสารเคมี ผลผลิตที่ได้งอกงาม การทำกิจกรรมของสสส. ถือว่าดีขึ้น กินทุกอย่างที่ปลูก เช่นปลูกผักส่วนครัวไว้กินทุกบ้านและทำแบบเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ เมื่อได้นำผลผลิตไปขาย จะขายได้กว่าแผงผักที่ขายในตลาดผลที่ดีกลุ่มที่เข้าร่วมได้ขายผักปลอดสารพิษทำให้มีรายได้เสริมเมื่อกลุ่มกันก็ได้แลกเปลี่ยนกันผลผลิตใครมีอะไรก็แบ่งกัน และเมื่อเกิดตลาดนัดปลอดสารพิษในชุมชน และคนทั่วไปในหมู่บ้านและใก้ลเคียงได้เกิดการรับรู้มีตลาดในพื้นที่และได้ร่วมกันส่งเสริมแนะนำเพื่อนบ้านให้มาร่วมกิจกรรมแนวทางการลดเลิกการใช้ผักปลอดสารพิษ

วัยทำงาน 20  ผู้สูงอายุ  30คน

การหาตลาดเพิ่มเติม

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน เข้าร่วมงานสร้างสุขภาคใต้ วันที่ 3-5 ตค.59 เนื่องจากมีภาระกิจต้องเลี้ยงดูบุตร จึงต้องเดินทางไปกลับ 

ผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน เข้าร่วมงานสร้างสุขภาคใต้ วันที่ 3-5 ตค.59 ผลลัพธ์ คือ ผู้ร่วมกิจกรรมได้เดินทางแลกเปลี่ยนเรียนรู้และได้มีประสบการรณ์ในกาจัดกิจกรรมและร่วมกิจกรรมระดับชาติ เกิดความรู้จากการร่วมกิจกรรมห้องชุมชนน่าอยู และบริเวณบูทหน้างาน

ผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

โครงการได้ติดตามโครงงาน ที่ได้ทำ ของแต่ละกลุ่ม มีกลุ่มเลี้ยงไก่ได้เลี้ยงแบบไว้กินเองที่เหลือก็ขาย กลุ่มปลูกข้าวก็ในกลุ่มทำไว้กินเองไม่ได้ขายมีอยู่เล็กน้อยส่วนมากซื้อข้าวกิน และกลุ่มปลูกผักได้ปลูกขาย และไว้กินเอง

• ผลการติดตามโครงงานอาชีพของผู้ร่วมโครงการ ส่วนใหญ่ได้ทำแบบแปลงใหญ่ก็ได้ปลูกแบบใช้นัำหมักชีวภาพปลอดสารอินทรีย์กันมากขึ้น และได้ปลูกผักริมรั่วไว้กินและที่เหลือไว้แบ่งขาย เมื่อได้นำมูลสัตว์มาหมักไว้นำไปใส่ต้นไม้ส้มโอ พริก จะส่วยมากกลุ่มเลี้ยงปลาได้เลี้ยงปลาซื้อปลาตัวนิ้วมาเลี้ยงได้ทำลูกไร่ให้ปลาตัวเล็กกินตอนเตรียมบ่อได้นำขี้แพะใส่กระสอบแช่น้ำไว้จะเกิดลูกไรไว้เป็นอาหารปลาตัวแล็กประมาณ 1เดือนถึงจะให้อาหารเลี้ยงปลาแบบใช้นำหมักชีวภาพใส่ในบ่อตลอดทำให้ปลาไม่มีกลิ่น ปรับสภาพน้ำสวย
• แต่ละครัวเรือนเมื่อได้ดำเนินแบบเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว โดยเฉพาะปลูกผักส่วนครัวไว้ข้างริมรั้วบ้าน แต่ละครัวลดรายจ่ายผักส่วนครัว ประมาณ 300 บาท ต่อเดือนและการทำเกษตรอินทรีย์นายนิยมวิชัยวิชัยดิษฐได้ทำการช่วยเหลือกันทั้งบ้าน เลี้ยงปลานิล แบบใช้น้ำหมักปรับสภาพบ่อ ขี้แพะไว้ทำลูกไร และปลูกผักลดค่าปุ๋ยอินทรีย์โดยการใช้ขี้แพะ มาหมักไว้กับหญ้า แล้วนำไปใส่ใต้ต้นไม้ ทำให้ผลผลิตสวยมากและน้ำเต้า (ฟักทอง) ผิดฤดูออกผลผลิตมาสวยมากและปลอดสารพิษ

วัยเรียน 20 คน วัยทำงาน 20คนผู้สูงอายุ 10คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ครัวเรือนที่สนใจร่วมทำปุ๋ยชีวภาพน้ำหมัก/สมุนไพรไล่แมลง จำนวน 50 คน โดยแบ่งกลุ่ม 3 กลุ่มบ้าน สลับกันทำ และแบ่งปันกันใช้ในกลุ่มโดยใช้เศษวัสดุในชุมชนเป็นจุดสาธิตแบ่งไปใช้ทุกครัวเรือนที่เข้าร่วมกิจกรรม ครัวเรือนที่สนใจร่วมทำปุ๋ยชีวภาพน้ำหมัก/สมุนไพรไล่แมลงโดยใช้เศษวัสดุในชุมชนเป็นจุดสาธิตแบ่งไปใช้ทุกครัวเรือนที่เข้าร่วมกิจกรรม วธีการดังนี้ วนผสม : ผัก ผลไม้หรือเศษอาหารเหลือทิ้ง 1 ส่วน + กากน้ำตาล หรือ น้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน

• ครัวเรือนที่สนใจร่วมทำปุ๋ยชีวภาพน้ำหมัก/สมุนไพรไล่แมลงโดยใช้เศษวัสดุในชุมชนเป็นจุดสาธิตแบ่งไปใช้ทุกครัวเรือนที่เข้าร่วมกิจกรรม มีวิธีการดังนี้ ส่วนผสม : ผัก ผลไม้หรือเศาอาหารเหลือทิ้ง 1 ส่วน + กากน้ำตาล หรือ น้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน วิธีผสม : ผสมส่วนผสมเข้าด้วยกันทิ้งไว้ 7 วัน (น้ำหมักจะเริ่มเป็นสีน้ำตาลไหม้ มีกลิ่นหมออมปรี้ยว ถ้าน้ำหมัก มีสีน้ำตาลอ่อน และกลิ่นบูดแสดงว่าใส่น้ำตาลไม่พอให้เพิ่มกากน้ำตาลลงไปอีก กลิ่นบูดจะค่อย ๆ หายไปหมักต่อไปเรื่อย ๆ ) ตวงน้ำหมักใส่ขวดหรือภาชนะเก็บในที่มืด ในห้องธรรมดาจะเก็บไว้ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี
• การใช้ประโยชน์
  

1. ปุ๋ยชีวภาพแห้ง ส่วนผสม : เศษวัสดุจากพืช 10 ปิ๊บ + แกลบ 10 ปื๊บ + มูลสัตว์ 10 ปี๊บ + รำอ่อน 10 ปื๊บ + น้ำหมักพืช 1 ช้อนแกง + กากน้ำตาล 4 ช้อนแกง + น้ำ 1 ถึง ฝักบัว (18 ลิตร) วิธีผสม : นำส่วนผสมแห้งทั้งหมดคลุกให้เข้ากันนำน้ำผสมน้ำหมักพืชและกากน้ำตาล รดให้ทั่้ว ตรวจสอบความชื้นของปุ๋ย โดยกำไว้ในมือ เมื่อปล่อยมือออกจะจับเป็นก้อนหลอม ๆ พอแตะก้อนแล้วแตกเป็นใช้ได้ แล้วเกลี่ยกองปุ๋ยให้เสมอกันให้สูงจากพื้นไม่เกิน 30 ซ.ม คลุมด้วยกระสอบป่านใหมิดชิด ถ้าผสมปุ๋ยในช่วงเช้า ตอนเญ้นให้ัทดสอบดูโดยสอดมือเข้าไปในกองปุ๋ยจะร้อนมาก และในวันรุ่งขึ้นจะเริ่มมีเส้นใยขาว ๆ ปรากฎบนผิวกองปุ๋ยแสดงว่า จุลินทรีย์เริ่มทำงานทิ้งไว้ 3 วัน แล้วเปิดกระสอบป่านออกคลุกกับปุ๋ยให้ทั่วอีกครั้งหนึ่ง แล้วปิดกระสอบไว้ตามเดิม อีก 3-4 วัน ต่อมา ให้ทดสอบดูอีก ถ้าปุ๋ยมีความเย็นถือว่า ใช้ได้ ถ้ายังมีความร้อนอยู่ให้ทิ้งไว้ต่อไปอีกจนกว่าจะเย็นจึงสามารถนำไปใช้ได้
2. ทำปุ๋ยคอกหมัก วิธีทำ : นำมูลสัตว์ แกลบเผา และรำละเอียดมาผสม เข้าด้วยกัน นำน้ำหมักพืชและกากน้ำตาลผสมน้ำรดกองปุ๋ยที่ผสมคลุกให้ทั่วให้มีความชื้นระดับเดียวกับการทำปุ๋ยชีวภาพ (ุปุ๋ยแห้ง) เกลี่ยกองปุ๋ยบนพื้นให้หนาไม่เกิน 15 ซ.ม. คลุมด้วยกระสอบป่าน ทิ้งไว้ 3-5 วัน โดยไม่ต้องกลับเมื่อปุ๋ยเย็นลงนำไปใข้ได้
   
3. สูตรทั่วไป ส่วนผสม : น้ำหมักพืช กากน้ำตาลเหล้าขาว น้ำส้มสายชู อย่างละ 1 ขวด (ขวดกลม และน้ำสะอาด 10 ขวด วิธีทำ : ส่วนผสมให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ 15 วัน (ควรมีฝาปิดมิดชิด) ระหว่างการหมัก (ช่วง 15 วันแรก) ให้เปิดฝาคนทุกวันเช้า - เย็นเพื่อไม่ให้เป็นตะกอนนอนก้นและเพ่ื่อระบายแก๊สออกครบกำหนดให้นำใปใช้ได้ หัวเชื้อนี้สามารถเก็บได้นาน 3 เดือนโดยไม่ต้องเปิดฝาระบายแก๊สเป็นครั้งคราว การใช้ ประโยชน์: นำหัวเชื้อยาขับไล่แมลงนี้ไปผสมกับน้ำในอัตราส่วน 5 ช้อนแกง กากน้ำตาล 5 ช้อนแกงปผสมกับน้ำ 10 ลิตร จากนั้นนำส่วนผสมไปฉีดพ่นต้นไม้สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง หรือตามความจำเป็น (ใช้บ่อย ๆ ได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อพืชและคน)โดยฉีดพ่นในช่วงเย็นสำหรับพืชที่กำลังแตกใบอ่อนให้ใช้สอัตรส่วนที่เจือจากลงโดยหัวเชื้อที่ผสมน้ำแล้วหากใช้ร่วมกับพืชสุมนไพรต่าง ๆ เช่น สะเดา ข่า ตะไคร้หอม ยาสูบโดยนำหัวเชื้อยาขับไล่แมลงใส่เพิ่มลงไปอีก 5 ช้อนแกง (ต่อนำ 10 ลิตร) จะทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

กลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการ กลุ่มละ 15 คน ร่วมกันช่วยทำปุ๋ยหมัก และสมุนไพร่ไล่แมลง แทน การใช้สารเคมี

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เพื่อเป็นการสนับสนุนให้คำแนะนำกำลังใจแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ลงติดตามในโดรงการอาชีพ การทำการเกษตรอินทรย์ปลอดสารพิษ โดยเน้นเศษฐกิจพอเพียง ของโครงการ สสส. นายจิตทวนช่วยบ้านเลขที่ 19หมู่ท่ี่ 2ตำบลบางศาลาอำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อได้เรียนรู้เพิ่มเติมได้เน้นเกษตรปลอดสารพิษ ปลูกผักข้างรั่วไว้กินเอง และได้เข้าเรียนรู้การเพาะเห็ดและปลูกผักตามฤดูกาล เช่น พริก น้ำเต้า ผักคะน้า ผักชี ได้ทำการเกษตรที่และหันมากินของพื้นบ้านที่ปลูกริมรั้วข้างบ้าน โดยไม่ต้องซื้อท้องตลาด เพื่อเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้

ติดตามแปลงพริก นายจิต ทวนช่วยบ้านเลขที่19 หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ปลูกพริกไว้ขายตามฤดุกาล และได้ปลูกผักริมรัั่วบ้านไว้กินผักส่วครัว ได้ใช้ปุ๋ยหมักเกษตรอินทรีย์ชีวภาพ ได้ทำตามข้อตกลงกัน ผลผลิตไม่ใช้ยาฆ่าแมลงกันมากขึ้น ทีมกรรมการได้ลงตรวจยื่มแปลงผัก ผลผลิตที่ได้งอกงาม การพูดคุยทำกิจกรรมนี้ดีขึ้น และได้แนะนำเพื่อนบ้านให้หันมาใช้ปุ๋ยหมัก และได้แบ่งขายทำให้สุขภาพของครัวครัวเม่ื่อได้กินผักที่ปลูกโดยเกษตรอินทรีย์ทฤษฎีใหม่ทำให้ปลอดสารพิษและสุขภาพแข็งแรง โดยเน้นการกินอาหารพื้นบ้านแบบวิถีชีวิต และทำน้ำสมุนไพรไว้กินแทนน้ำอัดลมผลจากการรู้จักเกษตรอินทรีย์ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้มีเงินออมทุกเดือนของออมทรัพย์หมู่บ้าน

ผุ้ใหญ่บ้าน  อบต. เจ้าหน้าที่อบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

กรรมการได้ติดตามแปลงเกษตรบ้านนางวยุกา พันธ์เลิศ บ้านเลขที่ 27หมู่ที่ 2ตำบลบางศาลาอำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อได้เข้าร่วมกลุ่มโครงการสสส.โครงการนำศาสตร์พระราชสร้างสุขสู่บ้านบางไทรได้ร่วมเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในการเรียนรู้บัญชีครัวเรือน รู้จักการออมและนำเกษตรอินทรีย์มาใช้ในการทำการปลูกผัก โดยการจะทำนำหมักไว้ตลอด น้ำหมักไล่แมลง น้ำหมักบำรุงผักกินใบ ไว้ใช้ในการรดน้ำ และฉีดไล่แมลง จากน้ำหมักพืชสมุนไพร ปลูกผักผสมผสานเข้าด้วยกันไว้ข้างรั่วริมบ้านไว้กิน และพีชสมุนไพรไว้ด้วยกัน ปลูกใส่ในกระถาง และที่ดินก็จะปลูกไว้ตลอดเหมือนกันแต่น้ำท่วมเป็นเวลานาน ก็จะตายไป เมื่อน้ำแห้งก็จะปลูกไม่ และน้ำเห็ดไว้ในกระถางและเอาฝ่าผลัดลมที่ไม่ใช้มาปิดไว้และนำผ้าชุมน้ำคุมไว้

ผลการติดตามบ้านนาง วยุกา พันธ์เลิศ บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราชครัวเรือนทำแปลงผักพริก น้ำเต้า ผักตามฤดูกาล เป็นคนที่ชอบในโครงการเศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้ว ได้เข้าร่วมโครงการสสส. ได้มีข้อตกลงทำตามและใช้ปุ๋ยหมัก ทำน้ำหมักไว้ใช้ตลอดในการรดผัก ริมรั้วข้างบ้าน มีทุกที่กินได้ ผักสวนครัว โดยไม่ต้องซื้อตลาด ลดรายจ่ายไปเดื่อนประมาณ 300 บาทเป็นเงินออมของครอบครัว ทีมกรรมการได้ลงแปลงผักผลผลิตที่ได้สวยงอกงามโดยมั่นใจนำผลผลิตมากินแบบอย่างมันใจในการปลอดภัยจากสารเคมีการพูดคุยทำกิจกรรมของ สสส. ดีขึ้นมากและได้ความรู้เพิ่มเติม และการรวมกลุ่มกันเป็นการทำให้มีความสุขทางจิตใจและสุขภาพที่ได้มีทำกิจกรรมด้วยกัน

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พนักงานอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ประแผนการกิจกรรมครั้งที่ผ่านมาการติดตามแปลงผักและจัดแนวทางในกิจกรรมแนวทางต่อไปในการทำงานของงวดที่ 2 และแปลงผักที่ได้ทำกัน และได้ประ่ชุมวางแผนกิจกรรมต่อไป

กลุ่มแกนนำได้มีความรู้และพัฒนาตัวเองในการประชุม และหาแนวทางไปในทางเดียวกัน และได้รู้จักการทำเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ และนำมาเสนอความคิดและหาแนวทางการทำกิจกรรม จะติดตามโครงการแปลงสาธิต และการเข้าโครงการ สสส. ที่จัดติดตามผลการดำเนินโครงการเพื่อประเมินคุณค่า และบทเรียนของผู้ร่วมโครงการในด้านเพิ่มความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่กับกิจกรรมที่ได้เข้าร่วมกันทำ และรู้จักเสียสละ ร่วมกันแลกเปลีี่ยนความคิดกันทางด้านการเกษตรอินทรีย์ในบ้านบางไทร และได้นำภูมิปัญยามาประยุกต์ใข้กิจกรรมบางอย่างร่วมกับเด็กวัยเรียน เพื่อเน้นให้ชุมชนมีความคิดในทางเดียวกัน

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อาจารย์ และพนักงาน อบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้รับผิดชอบโครงการ และการเงินโครงการผู้รับผิดชอบโครงการเข้าร่วมประชุมพร้อมกันทั้งจังหวัดเพื่อรับการประเมินติดตามโครงการงวด 2

โครงการได้ทำกิจกรรมล่าช้ากว่าแผน การบันทึกยังไม่ครบถ้วนเนื่องจาก ภาพถ่ายบางส่วนหาย และต้องทำส่ง สสส.ให้ทันภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2559

ผู้รับผิดชอบโครงการ และการเงินโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ร่วมติดตามและประเมินติดตามโครงการงวด 2 ดังนี้ 1. ความก้าวหน้าของกิจกรรมที่ได้ทืำไปแล้ว และอุกสรรคปัญหา ช่วยเหลือในการบันทึกกิจกรรมให้เป็นปัจจุบัน 2. ร่วมวางแผนกิจกรรมที่ยังไม่ได้ดำเนินการ เพื่อการช่วยเหลือ

จากการติดตามพบว่า บางไทรได้ทำกิจกรรมไปบางส่วน สอดคล้องกับแผน แต่พบว่ากิจกรรมการติดตามในพื้นที่ได้ติดตามไปแล้วบางส่วน แต่ไม่ค่อได้เก็บหลักฐานภาพถ่ายไว้ในการบนทึกกิจกรรมจึงให้แก้ไขโดยการวางแผนทีมติดตามและเตรียมอุปกรณ์เก็บหลักฐานให้ การบันทึกล่าช้าและไม่เป็นปัจจุบันไม่ครอบถ้วน จึงแนะนำให้ทบทวนและบันทึกเพิ่มเติม
เอกสารการเงินไม่เรียบร้อย ยังไม่ส่งตรวจ ให้โครงการไปแก้ไขและจัดทำให้ถูกต้องและตรวจอีกครั้งตอนปิดงวด

พี่เลี้ยงและผู้รับผิดชอบ 2 คน

แนะนำตามบันทึก

รีบดำเนินการกิจกรรมให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน

ได้ติดตามแปลงเกษตรบ้าน นางจารึก มุสิเกตุ หมู่ 2 ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าการทำนำยาเอกประสงค์ใช้ในครัวเรือนเป็นที่ชอบและยอมรับกันทำแบ่งกันไปใช้ จะร่วมกันทำและแบ่งไปใช้ เป็นประจำ ของกลุ่ม และได้ปลูกผักปลอดสารพิษ ไว้กินเอง และปลูกผักตามฤดูกาลเป็นอาชีพเกษตกรเช่น ข้าวโพดพริก น้ำเต้า ผักชี ผักคะน้า โดยหันมาเน้นผักปลอดสารพิษ ด้อีกอย่างหนึ่งที่มีราคาแพง

ผลการติดตามบ้านนางจารึก มุสิเกตู หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา แปลงผัก พริก ผักตามฤดูกาลผลผลิตที่ได้เข้ามาร่วมกลุ่มได้เป็นไปในทางเดียวกันได้ใช้น้ำหมักและปุ๋ยหมักตามข้อตกลง โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงได้ผลผลิต ที่งอกงาม และได้นำผลผลิตที่ได้ปลูกปลอดสารพิษไว้กินเองโดยเน้นเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้บัญชีครัวเรือนเพิ่มเติมและนำมาใช้ในการออมของครัวเรือนและ ปลูกผักปลอดสารพิษไว้ขายและปลูกผักริมรั่วไว้กินเองทำให้สุขภาพแข็งแรงและมีจิตใจแจ่มใจ มีคุณธรรมในการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มลดรายจ่ายผักส่วนครัวเดือนหนึ่งประมาณ 200 บาทต่อเดือนเป็นเงินออมได้ และได้ทำกิจกรรมกับสสส.นี้ดี คือได้เพิ่มความรู้และรวมกลุ่มกันแบ่งปั่นความคิดกันและคอยแนะนำเพื่อนบ้านหันมาทำเศรษฐกิจพอเพียง

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พนักงานอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ได้ติดตามแปลงเกษตรบ้านนางทับทิบ ปิ่นงาม เลขที่ 32 หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจะเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก แต่ได้นำเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช้ในครอบครัว โดยการปลูกผักริมรั้วปลอดสารพิษไว้กินเองโดยไม่ชื้อผักท้องตลาดมากินและเลี้ยงปลาข้างบ้านครอบครัวจะหาปลาและหาปลาไหล ไข่หมดแดง ไว้ขาย กินเองลดค่าใช้จ่ายในประจำวันได้มาก ทำให้ครอบครัวรู้จักการทำบัญชีครัวเรือนและออม ไว้เป็นเงินเหลือครอบครัว

ผลการติดตามบ้านนางทับทิบ ปิ่นงาม ได้ปลูกผักกาด พริก ผักดอก ผักตามฤดูกาลโดยหันมาใช้ปู๋ยหมักได้ทำตามข้อตกลง และผลผลิตที่ได้รับสวยงอกงามการพูดคุยทำกิจกรรม สสส. นี้ดี ผลผลิตที่ได้ในการเข้าโครงการและการสรุป จะปลูกผักไว้กินเองหมุนเวียนตลอด ปลอดสารพิษไว้กินเองในครอบครัว ทำให้ครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขทางด้านจิตใจโดยเด็กก็จะรักในการปลูกผักปลอดสารพิษร่วมกับพ่อแม่และมีจิตใจมีคุณธรรมกับพ่อแม่ปู่ย่าเมื่อผลผลิตในการปลูกผัก หาปลา หามดแดง ปลาไหล ได้ขายและได้นำผลผลิตมาขายที่ อบต. จะเห็นได้ว่าเด็กจะมีความสุขเมื่อนำมาขายได้ก็จะดีใจ จะเป็นรายได้เสริมตามฤดูกาล ประมาณเดือน 3,000.-บาท และครอบครัวได้เรียนรู้บัญชีครัวเรือน ทำน้ำยาอเนกประสงค์ไว้ใช้เด็กได้รู้จักเรียนรู้และออมเงินกับโรงเรียนทุกวัน

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พนักงานอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

กรรมการโครงการ และภาคีเครือข่าย ร่วมประชุม และรับการติดตามโครงการงวดที่ 2 จากพี่เลี้ยงในพื้นที่

กรรมการโครงการ และภาคีเครือข่าย ร่วมประชุม และรับการติดตามโครงการงวดที่ 2 จากพี่เลี้ยงในพื้นที่ในเรื่องต่อไปนี้ 1. เร่งรายงานความก้าวหน้าและกิจกรรมในโครงการบนเวบไซส์เพื่อการติดตามจากสสส. 2. งบงวด 2 มาแล้วให้ไปเบิกถอนมาตามระเบียบเพื่อดำเนินการตามแผนงานกิจกรรม 3. วางแผนกิจกรรมบางไทรสร้างสุข ร่วมกับกรรมการโครงการ โดยเน้นการจัดกิจกรรมปลายเดือนกันยายน เพื่อสามารถนำผลลัพธ์มาจัดนิทรรศการได้ 4. การร่วมงาน คนใต้สร้างสุขให้แจ้งชื่อผุ้ร่วมกิจกรรมโดยเป็นตัวแทนกรรมการโครงการ จำนวน 2 คน โดยใช้งบประมาณจากโครงการในเรื่องค่าที่พัก จำนวน 1 ห้อง และค่าเดินทาง รถ 1 คัน ได้แก่ นางสมใจ กาญจนหิรัญ และ นางเสาวภา ทิพย์แก้ว วันที่ 3-5 ตค.59 ที่หอประชุมนานาชาติ มองหาดใหย่

กรรมการโครงการ และภาคีเครือข่าย

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

สภาผู้นำ ประชุมคณะกรรมการเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อวางแผนกิจกรรมการจัดนิทรรศการศูนย์เรียนรู้

กรรมการโครงการวัยทำงาน10ผู้สูงอายุ5คน รวม 15 คน มีครูโรงเรียนวัดบางไทร และพี่เลี้ยงโครงการเข้าร่วมประชุม สภาผู้นำ ประชุมคณะกรรมการเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อวางแผนกิจกรรมการจัดนิทรรศการศูนย์เรียนรู้ สรุปมติที่ประชุมดังนี้

1. กิจกรรมนิ?รรศการ จัดที่ศูนย์เรียนรู้รร.วัดบางไทร
   
2. ผู้ร่วมกิจกรรม จำนวน 90 คน ให้แจ้งกลุ่มเป้าหมายทราบ
3. จัดในวันที่ 30 กันยายน เพื่อปิดโครงการ

กรรมการโครงการวัยทำงาน  10  ผู้สูงอายุ  5  คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ติดตามเยี่ยมบ้านนางอำนวย เรืองอ่อน หมู่ที่ 2 ตำบางศาลา  อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช นำมาใช้ในการปฏิบัติเป็นการปลูกผักกินเองปลอดสารเคมี ยึดหลักคุณธรรม โดยการปลูกผักข้างบ้านไว้กินเอง ทำน้ำหมักไว้ใช้ตลอด โดยการเลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ไว้ผสมผสานกับพืชสมุนไพร และผักพื้นบ้านต่าง ๆ อย่างเต็มรูปแบบ พื้นน้ำท่วมนาน เลยปลูกผักใส่ภาชนะที่ไม่ใช้แล้วเมื่อน้ำมาก็ยกขึ้นที่สูง  ที่ปลูกตามพื้นดินก็จะไม่เหลือเพราะน้ำท่วม แต่ความรักและชอบในการทำเศรษฐกิจพอเพียง เป็นที่ชอบและเมื่อน้ำลดก็จะปลูกต่อ และเป็นตัวอย่างโครงการ นำศาสตร์พระราชสร้างสุขสู่บ้านบางไทร

ผลการติดตามบ้านนางอำนวย เรืองอ่อน หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ปลูกผักเกษตรอินทรีย์โดยการเข้าเรียนรู้กับโครงการ สสส.ผลผลิต ที่ได้ใช้น้ำหมัก และปุ๋ยหมัก ได้ทำตาข้อตกลงไม่ใช้ยาฆ่าแมลงใช้น้ำหมักชีวภาพและปุ๋ยหมักทีมกรรมการได้ลงตรวจยื่มแปลง ผลผลิตมีครบผักส่วนครัวสมุนไพร ได้ผลผลิตที่สวยงาม ตามเศรษฐกิจพอเพียงที่ได้จากการเรียนรู้โครงการสสส. และเปิดใจกว้างร่วมเรียนรู้กับเพื่อนในกลุ่ม และเด็กผู้สูงอายุได้ปลูกผักผสมผสานหลายอย่างเข้าด้วยกันในพื้นที่นิดเดียว รวมทั้งผักส่วนครัว สมุนไพร เลี้ยงสัตว์ผลลัพธ์คือการปลูกผักไว้กินเองโดยปลอดสารพิษ โดยจะเห็นได้ชัดเจนจากการไม่ชื้อผักท้องตลาดกิน ปลูกผักกินเอง เลี้ยงไก่ไข่ไว้กินในครัวเรือน และปลูกผักอย่างสวยงาม และสุขภาพแข็งแรง ทั้งครอบครัวและคนในครอบครัวก็รักในการปลูกผักเกษตรอินทรีย์การพูดคุยกันได้ทำบัญชีครัวเรือนและทำน้ำยาเอกประสงค์ไว้ใช้ ผักส่วนครัวประหยัดเดือนประมาณ 400 บาท ทำกิจกรรมสสส. นี้ดี เรียนรู้เพิ่มขึ้นและทั้งครอบครัวชอบในการทำเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีความสุขและเป็นครอบครัวที่มีสุขภาพที่สมบูรณ์ทางด้านเศษฐกิจพอเพียง ทำให้ทางด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีและมีคุณธรรม

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พนักงานอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เกิดกลุ่มเยาวชนได้เรียนรู้วิถีพอเพียง และเกิดนิสัยรัการอบจากการทำเข้าเรียนบัญชีครัวเรือน โดยการได้ฟังแนวคิดและวิธีการจดบันทึก และนำไปจดบันทึก การทำบัญชีรายจ่ายและนัดหมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลจากการทำ กันที่แต่ละครั้งได้เป็นไปในทางเดียวกันและเมื่อโครงการ สสส. นำศาสตร์พระราชาสร้างสุขสู่่บ้านบางไทร ได้เข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นกลุ่ม ได้ทำกิจกรรมการออม เพื่อให้เกิดการรรักการออมในครัวเรือน

กลุ่มเยาวชนสามารถทำรายการรับ-รายจ่ายได้ ให้กับตัวเอง และครอบครัว ผลผลิตเกิดกลุ่มเยาวชนได้เรียนรู้วิถีพอเพียงและเกิดนิสัยรักการอบ เมื่อได้เข้าร่วมโครงการสสส. เพื่อเน้นเศรษฐกิจพอเพียงโดยเน้นแนวคิดหลักบางไทรเกษตรอินทรีย์

นักเรียน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ อบต. ชาวบ้าน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ได้เข้าร่วมโครงการ สสส. ได้มีความคิดในการปลูกผักไว้กินเองโดยปลอดสารพิษ เป็นเกษตรอินทรีย์ โดยการที่ปลูกผักตามฤดุกาล และได้เปลี่ยนตัวเองโดยการเปล่ี่ยนการปลูกผักปลอดสารพิษ ปลูกน้ำเต้า ปลูกพริกและหันมาปลูกผักแบบผสมผสาน ปลูกมะเขือไว้ขายโดยไม่ใช้สารเคมี โดยใช้นักหมัก และปุ่ยชีวภาพ ผักก็สวยงามมีการทำน้ำหมักไว้ใช้ในการปลูกผัก โดยใช้น้ำหมักผสมน้ำแล้วรดต้เนไม้ โดยไม่ใช้สารเคมีและเลี้ยงปลาโดยใช้น้ำหมักใส่ลงในบ่อปลาปรับสภาพน้ำเลี้ยงไก่ไว้กินด้วย

สมาชิกมีโครงการพัฒนาอาชีพของตัวเองสร้างได้รายเสริม และสุขภาพของเกษตรกรด้วย แปลงผักปลูกน้ำเต้า พริก ตามฤดูกาล ของนายอภิญาทองขำบ้านเลขที่ 29หมู่ที่ 2ตำบลบางศาลาอำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ปลูกผักส่วนครัวข้างบ้าน ได้ทำตามข้อตกลงไม่ใช้ยาฆ่าแมลงได้และทำเกษตรอินทรีย์ได้พัฒนาจากการใช้สารเคมี ได้เปลี่ยนตัวเองทำเกษตรอินทรีย์ชีวภาพ ได้ปลูกผักข้างบ้านไว้กินเองและแบ่งขายโดยไม่ใช้สารเคมีเลย มันใจไว้กินเองและแบ่งขายตามบ้านเมื่อเข้าโครงการ สสส.ทำกิจกรรมนี้ดี ได้ร่วมกลุ่มเด็ก และผู้ใหญ่เข้าเรียนรู้ร่วมกันทำให้รู้จักคุณธรรมจิตใจที่ดีขึ้นของเด็กที่มีต่อผู้ใหญ่และได้ร่วมกันทำกิจกรรมอย่างมีความสุขทางด้านสุขภาพและจิตใจ

วัยทำงาน 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

การวิเคราห์รายจ่ายของครัวเรือน และการวางแผนหลักประกันด้านเศรษฐกิจและสุขภาพ  โดยให้รู้ในการใช้จ่ายและควรมีการออมก่อน จ่ายในสิ่งที่จำเป็นและสิ่งไม่จำเป็นให้ลดลง และรู้จักในการกินเพื่อสุ่ขภาพ และออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรง และรู้หลักของครอบครัวในการใช้จ่ายที่มีการว่างแผน จากการทำบัญชีครัวเรือน และได้มีการออมวางแผนไว้เป็นการประกันด้านสุขภาพของตัวเองและครอบครัวไว้

ทำให้กลุ่มเป้าหมายได้เกิดความตะหนักที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการพัฒนาแผนและเป้าหมายชีิวิต ไปในแนวทางที่ดี และทำให้ครับครอบมีความอบอุ่นจากการวางแผน ครองครัว เป็นไปในแนวทางเศรษฐกิจ พอเพียง ของ สสส. มีการออมก่อนที่จะจ่าย  และได้วางแผนในกิจกรรมต่อไป

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อาจาย์  พนักงานอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เมื่อได้มีการเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ นำศาสตร์พระราชาสร้างสุขสู่บ้านบางไทร ได้มีการปลูกผักตามฤดูกาล พริก และน้ำเต้า เพียงอย่างเดียว โดยนางมะลิวัลย์จันทมาศ บ้านเลขที่ 30/1 หมุ่ที่ 2 ตำบลบางศาลาอำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อได้เข้ามาร่วมกิจกรรม สสส. ร่วมเรียนรู้กิจกรรมต่าง ๆ และสละเวลาในการเข้าร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ได้หันมาปลูกผักเกษตรปลอดสารพิษไว้กิน โดยการปลูกผักส่วนครัวไว้กินเอง โดยการยกร่องแปลงผักและแบ่งผักหลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน และเก็บผักข้างทางไปปรุงอาหารโดยไม่ต้องซื้อผักท้องตลาดกิน

นางมะลิวัลย์ จันทมาศ ปลูกพริก น้ำเต้า ผักตามฤดูกาลได้ทำตามข้อตกลงในการใช้น้ำหมัก และปุ๋ยหมัก เมื่อมีการปลูกผักตามฤดูกาลเมื่อก่อนจะใช้สารเคมีมาก แต่เมื่อเข้าร่วมโครงการได้เน้นการปลูกผักปลอกสารพิษ และได้ผลการผลิตที่สวยงาม และลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้ โดยการไม่ใช้สารเคมี เม่ื่อมีการเรียนรู้กับ สสส. และได้หันมาดูแลสุขภาพและครอบครัวในการกินอาหารที่ปลอดสารพิษลดลงปลูกพริกปลูกน้ำเต้าเด็กในครอบครัวก็รู้จักการทำปุ๋ยหมักชีวภาพไว้ใช้การปลูกผัก และได้ช่วยพ่อแม่ปลูกผักไว้กินเองโดยมั่นใจการกินที่ปลอดภัยจากสารพิษ การพูดคุยทำกิจกรรมนี้ดี ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากการทำน้ำยาเอนกประสงค์นำมาใช้ลดรายจ่ายลง การฝากเงินกับกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้านทุกเดือน เป็นการออมของครอบครัว และเด็กได้รู้จักการออมกับโรงเรียน

ผู้ใหญ่บบ้าน อบต. พนักงานของอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ผู้ใหญ่บ้าน อบต.  พนักงานอบต.เยาวชน เด็กนักเรียน ร่วมกิจกรรมการออม และการสร้างรายได้โดยเน้นแนวคิดการทำโครงงานเพื่อพัฒนาอาชีพ การปรับเปลี่ยนการคิดและการวางแผนรายจ่ายครัวเรือน และการวิเคราะห์รายจ่ายในครอบครัว และการวางแผนหลักกันด้าเศรษฐกิจสุขภาพ

  ผู้ใหญ่บ้าน อบต.  พนักงานอบต.เยาวชน เด็กนักเรียน ร่วมกิจกรรมการออม และการสร้างรายได้โให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความตะหนักที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการพัฒนาแผนและเป้าหมายชีวิตในการได้ความรู้แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ในแนวคิดเกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพียงนั้นเป็นการได้ปรับเปลี่ยนและพึงพาตนเอง ทาง่ด้สนทรัพยกร ด้านการผลิต ด้านเทคโนโลยี ด้านสังคม และด้านจิตใจ อะไรที่ได้เรียนรู้และทำเองได้ก็ทำ ไม่ต้องซื้อหาจากตลาด ทำให้รายจ่ายครอบครัวลดลงและเพิ่มรายได้เป็นแผนประกันหลักสุขภาพทางด้านเศรษฐกิจของครอบครัว

ผู้ใหญ่บ้าน อบต.  พนักงานอบต.เยาวชน เด็กนักเรียน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

เมื่อได้มีการเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ โดยเข้าร่วมกิจกรรม นายสุชาติห่อหุ้มบ้านเลขที่ 2 หมู่ 2ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเกษตรกรที่ปลูกผักตามฤดูกาลตลอดทั้งปี พริก น้ำเต้าแต่เมื่อได้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการ สสส. ได้มีการปลูกผักแบบผสมผสานเข้าด้วยกัน และได้เตรียมแปลงผัก โดยการแบ่งแปลงผักปลูกผักหลายชนิด เช่น ปลูกมะเขือ ข้าวโพด ถั่ว โดยนำไปขาย และข้างบ้านได้ปลูกผักส่วนครัวไว้กิน โดยการปลูก ถั่วฝักยาว บ๊วบ และได้หาปลาไว้กินเองและขายโดยไม่ต้องซื้อที่ตลาดเป็นรายได้เสริม

ผลผลิตที่ได้ร่วมเรียนรู้กับกิจกรรม สสส. ติดตามแปลงข้าวโพดนายสุชาติ ห่อหุ่ม เมื่อข้าวโพดในแปลงได้รับผล และได้ตกลงทำตามข้อตกลงไม่ใช้สารเคมีบ้างครั้งหน่อยกินมากเหมือนกัน แต่ได้ทำกิจกรรมนี้ดี จึงหันมาใช้น้ำหมัก และปุ๋ยหมักชีวภาพมากขึ้น และได้ชักชวนเพื่อนบ้าน แบ่งน้ำหมัก และน้ำหมักสมุนไพรฆ่าแมลง ให้เพื่อนข้างบ้านหันมาปลูกผักปลอดสารพิษสามารถเก็บและแบ่งขายได้ในหมู่บ้านและพนักงานอบต. ก็จะซื้อกลับบ้านโดยการหันมาซืื้อผักปลอดสารพิษ และได้เข้าร่วมกิจกรรมเปิดใจกว้างในการเรียนรู้และแรกความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ส่วนมากจะทำแต่งาน แต่เมื่อเข้าร่วมกิจกรรม สสส.นี้ดี ได้แบ่งหน้าที่กันเม่ื่อเข้าร่วมก็จะมีความสนุนสนานเมื่อมีการนัดหมายก็จะเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กและกลุ่มทุกคนกันเป็นอย่างดี และได้มีการทำน้ำสมุนไพรกินกัน และอาหารพื้นบ้านและแบ่งปันกัน และทำให้มีจิตใจที่มีความสุขและสุขภาพที่ดีขึ้นเมื่อร่วมกันทำกิจกรรมและได้พูดคุยกันโดยการร่วมกลุ่มกัน เพื่อสุขภาพจิตและร่างกายที่ดี

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พนักงานของอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

่แผนการสอน แผนชีวิตสู่แผนชุมชน ประกอบด้วยหารากฐานความจริงของครอบครัวและค้นห้าจุดร่วมที่กำหนดทิศทางแผนชีวิต สอนให้รู้จักวางแผ่นการดำเนินชีวิตครอบครัวเป็นอย่างไรเปิดใจกว้างในการเข้าร่วมสู่ชุมชน ร่วมกันทำกิจกรรมและเป็นในทางเดียวกัน โดยการร่วมกันพัฒนาชุมชน โดยการร่วมกันทำกิจกรรมต่าง ๆ และเป็นไปในทางเดียวกัน โดยการร่วมกลุ่มกันพัฒนาหมู่บ้าน รักษาลำคลอง มีส่วนกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ

วัยทำงาน 30 คน ผู้สูงอายุ 15คน มาเข้าร่วมกิจกรรม ตามที่ได้แบ่งหมอบหมายก็จะรับผิดชอบ และมีการนัดหมายกันทำกิจกรรมของโครงการและกับหน่วยงานของ สสส. ผูอบต.โดยการร่วมกิจกรรม โครงการรักน้ำ รักป่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถ ในการตอบสนองโครงการต่าง ๆ โดยการเข้าร่วมกิจกรรม เป็นพัฒนาชุมชน ผลที่เกิดขึ้นได้เห็นว่าเมื่อมีการร่วมตัวกันตามนัดหมายและทำกิจกรรมร่วมกัน และมีจุดมุ่งหมายในทางเดีย่วกัน โดยยืดถือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตย์ เป็นจุดเดียวกัน

วัยทำงาน 30 คน ผู้สูงอายุ 15 คน

ไม่มี

w,j,u

ไม่มี

ขั้นตอนการทำกิจกรรมการเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ ได้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการได้ดำเนินการเกษตรปลอดสารพิษ โดย นางแช่มซ้อย  เสนา  บ้านเลขที่    หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนัง  จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้วางแผนการปลูกผักปลอดสารพิษ โดยการยกรอง เป็นการปลูกผักผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยการเลี้ยงปลาในบ่อตามธรรมชาติ และปลูกผักเน้นเป็นหลักเลยคือปลูกพริกขายเป็นอาชีพได้ส่งลูกเรียนหนังสือ แต่ตอนนี้ได้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทำการยกรองการปลูกผักผสมผสานหลายอย่าง แปลงผักกาด คะน้า หน่อไม้ฝรั่ง ผักบุ้ง บั๊วบ มะเขือ แตงกวา มะนาว มะมวง มีแก้วมังกร หน่อยหน่า มะพร้าว ผสมกันทุกอย่าง โดยการแบ่งเวลาลงแปลงผัก ช่วงเช้าและช่วงบ่าย 3 โมงเย็น เป็นเวลาที่ไม่ร้อนมากนัก ปลูกผักได้ขายบ้าง และแจกด้วยเมื่อใครไปที่บ้านเพราะว่ามันมากกินไม่หมด 

นางแซ่มซ้อย เสนา ได้ปลูกผักผสมประสานกันหลายอย่างร่วมกันในที่แปลงเดียว และปล่อยปลาตามธรรมชาติได้ทำตามขอตกลงไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ผลที่ได้สวยงามถึงแม้หน่อยจะกินบ้าง แต่คุณป้าทำใจ พร้อมที่จะปลูกใหม่ โดยไม่สารเคมีผลผลิตที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรม สสส. นี้ดี ได้มีความรู้เพิ่มเติมและได้ร่วมช่วยกิจกรรมเพื่อให้ หมู่บ้านเป็นหมู่บ้านรักสุขภาพ โดยเน้นกินผักและเลี้้ยงปลาไว้กินเอง เมื่อต้องการกินปลาทอดแห ได้ปลาสด โดยการไม่ต้องซื้อของที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การปลูกผักได้ขายหน้าบ้านเป็นผักปลดสารพิษ มีความสุขทางจิตใจอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้มีกำลังใจในการปลูกผักปลอดสารพิษ และเป็นการดูแลสุขภาพของครอบครัวไปด้วย เมื่อมีผักออกมาก ได้ร่วมกลุ่มกันทำขนมจีนกินกัน โดยเฉพาะผักหน่อได้เก็บจากแปลงผักที่ปลูกและมีการเตรียมการเพาะถั่วงอกก่อนล่วงหน้าถึงจะทำขนมจีน เพราะเป็นการปลอดภัยจากสารพิษ ด้วยการผลิตด้วยมือเราเอง และเก็บผักสมุนไพรตามบ้านโดยไม่ต้องซื้อผักจากตลาดเลย การทำทฤษฎีใหม่ ทำให้ลดรายจ่ายเดือนประมาณ 1,000 บาท โดยการนำหลักเศษรฐกิจพอเพียงมาใช้ ทำให้มีเงินออมฝากกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้านทุกเดือน และทำมีความสุขต่อสุขภาพจิตใจของตัวเอง และครอบครัว เพื่อนบ้านอีกต่างหากเมื่อได้มีการร่วมกลุ่มกันได้แบ่งปั่นกัน

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พนักงานอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

สภาผู้นำ ประชุมคณะกรรมการเดือนละ 1 ครั้ง  เพื่อตืดตามและวางแผนการดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง โดยเน้นการสรุปผลการจัดการเรียนหลักสูตรปรับชีวิตพิชิตหนี้

สภาผู้นำ ประชุมคณะกรรมการเดือนละ 1 ครั้งเพื่อตืดตามและวางแผนการดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง ในกิจกรรมต่อไปนี้ สรุปผลการจัดการเรียนหลักสูตรปรับชีวิตพิชิตหนี้ พบว่า

1. ผู้มาร่วมกิจกรรมยังมาน้อยกว่าที่กำหนดไว้ ขอให้ทุกคนที่ตกลงเข้าร่วมกิจกรรมรับผิดชอบแจ้งให้ผู้เข้าร่วมมาร่วมกิจกรรมชุมชนเพื่อร่วมพัฒนา
2. วิทยากรที่มาให้ความรู้ มีความสามารถและประสบการณ์
   
3. กลุ่มที่เข้าร่วม มี 3 วัย สูงอายุ ผู้ปกครอง และเด้ก ทำให้กลุ่มหลากหลาย สนุกสนาน

กรรมการและผู้รับผิดชอบโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

หมวดชีวิตสร้างสุข บ้านบางไทร ประกอบด้วยแผนการสอนเพื่อสร้างแนวทางความคิดการวางแผนชีวิตและการปฏิบัติการตามแผนชีวิตภาคสนามด้วนการการทำการพัฒนาอาขชีพ สร้างรายได้ ให้กับชุมชน

การร่วมกลุ่มแกนนำได้มีการนัดหมายในแต่ละครั้งที่ทำกิจกรรม โดยการให้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเองโดยการมีการมาตามนัดหมายและร่วมกลุ่มกันทำกิจกรรม โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ และมีการวางแผนครอบครัวและการดูแลสุขภาพของตัวเองและครองครัวโดยร่วมกลุ่มไปในแนวคิดเดียวกันโดยการแลกเปลี่ยนความและเห็นได้ว่ามีการปิดใจกว้างในการทำงานร่วมกัน และช่วยกันในการดำเนินชีวิตแบบแต่แรก โดยการจะเห็นได้มีการแลกเปลี่ยนของกินกัน และมีการทำอาหารแบบแต่แรก มีการสอนให้เด็กรู้อาหารพื้นบ้านไทย โดยเห็นได้ชัดเจนจากเด็กนักเ่รียนหันมาดื่มน้ำสมุนไพร โดยเฉพาะนำ้ดอกอัญชัญมะนาว เมื่อทำร่วมกิจกรรมต่าง ๆ จะหมดก่อนอาหารพื้นบ้านก็ได้ร่วมกลุ่มทำกันและแบ่งปั่นกันทุกคน จะเห็นได้ว่าจะทำอาหารแบบดั้งเดิมมารับประทานกันมากขึ้น โดยการจะเห็นได้ว่าเก็บผักและผลไม้แบบแต่แรกมาสอนให้เด็กและวัยทำงาน ผู้สูงอายุ หันมากินผักและสมุนเดิม ๆ ผักหน่อจะหันไปแบบแต่แรก เช่น ยอดจิก ใบมะกา ยอดเม่า ปลีกล้วยผักบุ้งตามคู่นา โดยเฉพาะผักริมรั้วต่าง ๆ น่ารับประทานมากเดี่ยวนี้ และทำให้จักการอออม โดยจะมีการออมกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้าน และโครงการวันละบาทของ อบต.ก็เข้าร่วมกันด้วย

ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พนักงานอบต.

ไม่มี

ไม่มี

ไมม่

เพื่อบ้านบางไทรได้มีการเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ ของโครงการเพื่อพ่อแบบเศรษกิจพอเพียง โดยการทำการเกษตรที่ผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยการเตรียมบ่อปลานิล และปลอยปลาลงไปโดยไม่ต้องใช้เครื่องตีน้ำปล่อยแบบธรรมชาติ และข้างบ่อได้ทำการปลูกผักสวนครัวทุกอย่าง โดยการทำการยกร่องพอประมาณเพื่อเว้นทางไว้เดิน โดยการปลูกผัก กาด 1 ร่อง มะเขือ ถั่วฝักยาว บ๊วบ ใบมะกูด ตะไคร้ และด้านข้าง ชมพู่ไร่เมล็ด ส่วนข้างบ้านได้มีการปลูกสมุนไพร ต่าง ๆ ไว้ข้างบ้านเช่นกัน 

ผลผลิตที่ได้จากการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ติดตามแปลงบ่อปลา นายชัยวัฒน์ รักดี บ้านเลขที่ 9หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา อ.ปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช บ่อปลานิลไว้ขายตามบ้านและแม่ค้ามารับโดยการทำเกษตรกรไม่ปลูกพืชอย่าง เดียว โดยผสมผสานกันหลายอย่าง เมื่อผลผลิตที่สวยงาม โดยได้ทำตามข้อตกลงไม่ใช้สารเคมี ได้หันมาใช้น้ำหมักชีวภาพในการเลี้ยงปลาได้ขายตามบ้าน โดยได้ราคาไม่ต้องกลัวแม่ค้ากดราคาจะแบ่งขายอยู่เรื่อย ๆ และทำแปลงผักอย่างละนิดไว้กินเองและแบ่งปันกัน โดยหยึดหลักเกษตรปลอดสารพิษและได้ร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี เมื่อร่วมกลุ่มได้สละเวลาตัวเองเข้าทำกิจกรมอย่างดี และคอยให้กำลังกันในกลุ่มทำกิจกรรม และได้มีการปลูกผักมาฤดู โดยปลอดสารพิษ ปลูกพริก น้ำเต้า ได้ลดต้นทุนในการผลิตลง เมื่อไม่ใช้สารเคมีในการทำเกษตร เมื่อได้ร่วมกิจกรรมของ สสส. ได้เพิ่มความรู้และทำให้การปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพของครอบครัวได้

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พนักงานอบต. กลุ่มเกษตรที่เข้าร่วมกิจกรรม

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

กลุ่มผู้นำครัวเรือนได้เรียนรู้การ ปรับคิดเปลี่ยนแผนชีวิตพิชิตหนี้  โดยเน้นแนวคิดการทำเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ โดยการพัฒนาอาชีพ การปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตปรับเปลี่ยนความคิดและการวางแผนวีชิต และสุขภาพ การออมการทำบัญชีครัวเรือน และการลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย และอบายมุข เพื่อให้สอดคล้องกับภาระกิจของ สสส. มาแนะนำการจัดการสอนหลักสูตรต่าง แผนชีวิตเป้าหมาย และได้มีการร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดกันในที่ประชุม 

กลุ่มเป้าหมายได้เข้ามาร่วมกิจกรรมเกิดความคิดแตกต่างกันและแนวคิดความตะหนักที่จะปรับปลี่ยนพฤติกรรมการพัฒนาแผนและเป้าหมายชีวิต โดยการร่วมกลุ่มกันและทำกิจกรรมร่วมกันเกิดความคิดไปในแนวทางเดีียวกัน และได้ว่างแผนการดำเนินชีวิตการทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกผักกิน หันมาดูแลสุขภาพ โดยการทำเกษตรปลอดสารพิษ เพื่อลดต้นทุนรายจ่ายเพิ่มรายได้ รู้จักออม โดยการต้องคิดว่าออมเท่าไรถึงจะจ่ายเท่าไร โดยเห็นได้จริงเด็กเกิดมีการออมขึ้น และหันมาดูแลสุขภาพตัวเองตามผู้นำครัวเรือน

แกนนำชุมชน และผู้นำครัวเรือน พนักงานอบต.บางศาลา

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ประชุมสภาผู้นำติดตามโครงการเดือนเมษายนที่ผ่านมา

สภาผู้นำ ติดตามเรื่องการเข้าร่วมกิจกรรมปรับแผนชีวิตพิชิตหนี้

กรรมการโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

กรรมการโครงการจำนวน 15 คน ร่วมกันประชุม เพื่อติดตามผลการดำเนินการในแปลงตัวอย่าง 10 แปลง

ผลการดำเนินการในแปลงตัวอย่าง 10 แปลง มีรายการดังนี้ 1. นาข้าวสั้น จำนวน 2 แปลง 2. ปลูกดีปลี จำนวน 2 แปลง 3. เลี้ยงปลานิล หมอเทศ 2 ราย 4. เลี้ยงไก้บ้าน 1 ราย 5. ปลูกผักกาด ผักสวนครัว จำนวน 3 ราย โดยแต่ละรายได้ดำเนินการไปแล้ว และมีการเก็บเกี่ยวผลแบ่งกินในครอบครัวและขาย

กรรมการโครงการ และ เจ้าของแปลง

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จัดกิจกรรมรวมครัวเรือนร่วมเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ สร้างสุข สู่บ้านบางไทร โดยทีนายกอบต.บาทศาลา นำทีมพัฒนาชุมชน มาให้ความรู้แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ในแนวคิดเกี่ยวกับ การใช้ชีวิตประจำของตัวเอง ทางเศษฐกิจพอเพียงนันเป็นเรื่องพึ่งพาตัวเองทั้ง 5 ด้าน คือ ด้านทรัพยากร ด้านการผลิต ด้านเทคโนโลยี ด้านสังคม และด้านจิตใจ อะไรที่ทำเองได้ก็ทำ เช่นปลูกผักไว้กินเอง เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ไม่ต้องซื้อหาแล้วเราก็เอาเกษตรทฤษฎีใหม่เข้ามา เปลียนจาการเกษตรเชิงเดี่ยวซึ่งปลูกพักอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว หันมาปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์แบบผสมผสานในพื้นที่เดียวกันโดยไม่พึ่งสานเคมี เพื่อสุขภาพของตัวเองและครอบครัว โดยให้พึ่งพาตัวเอง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำเกษตรและลดการใช้สารเคมี โดยการเข้าร่วมกลุ่มกันทำกิจกรรมและแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน แบบวิถีชีวิตชุมชนแต่แรก ที่คนทำอาชีพทำนาทำไร่ ผลัดเปลี่ยน โดยการแบ่งกันกินปลูกผักริมรั้วสามารถออมเงินค่าใช้จ่ายได้

ครัวเรือนได้เรียนรู้การทำเกษตรปลอดสารพิษ แบบวิถีชีวิตคนแต่แรก ได้ปลูกผักริมรั้ว แบบผสมกันหลายอย่าง รวมกันในที่เดียวกับการ เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา โดยเน้นการทำเษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ ซึ่งสามารถนำมาแรกเปลีี่ยน และขายได้โดยผู้ซื้ออย่างมันใจในการบริโภค ผักปลอดสารพิษ  ครัวเรือนได้เรียนรู้กับสังคมในปัจจุบัน จึงหันมาใช้ชีึวิตแบบดังเดิมกันมากเพื่อสุขภาพของครอบครัว โดยการปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ทำเอง  คนในชุมชนได้มีการร่วมกลุ่มแลกเปลี่ยนกัน เช่นปลูกผลักอย่างละนิดริมรั้วข้างบ้านได้แบ่งปันกัน

มีผู้ใหญ่บ้าน  วัดใช้สถานที่  สมาขิกอบต.เข้าร่วม ผอ.โรงเรียน พนักงานอบต. นายกอบต.สนับสนุนวิชาการด้าเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการใชชีวิตแนวคิดเกษตรอินทรีย์

ธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ราบ

ไม่มี

ไม่มี

กลุ่มเกษตรกรได้เข้าโครงการเกษตรอินทรีย์พิชิตหนี้ มีเงินออม โดยนายธรรมนูญ คุ้มรักษา บ้านเลขที่ 27หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา ได้เข้าร่วมการเรียนรู้กับโครงการ สสส. และได้มีแนวทางได้ไปทำการเกษตรปลอดสารพิษ โดยการเน้นหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยการหันมาใช้วิถีวีชิตแบบแต่แรก โดยการหันมาปลูกผักกินเองโดยการปลูกผักลงในอุปกรณ์ที่เหลือใช้งาน เพื่อที่จะได้พ้นน้ำ เพราะน้ำท่วมนานหลายเดือน เดินสะพานเข้าบ้าน โดยการปลูกผักในกระถางและปลูกได้ทุกที่ของภาชนะ เพื่อเป็นการหนี้น้ำเพราะน้ำจะท่่วมนานกว่าที่อื่น ๆ ทำเป็นที่สูงไว้ ทำนาข้าวนาปีไว้กินเอง

นายธรรมนูญ คุ้มรักษา หมู่ที่ 2 ได้ทำนาข้าวไว้กินเอง และได้ทำการปลูกผักแบบปลอดสารพิษและเพื่อหนี้น้ำเมื่อน้ำท่วม โดยการปลูกในภาชนะและกระถาง ผลผลิตที่ได้ก็มีผักปลอดสารพิษกินตลอดเวลาสามารถนำมาปรุงอาหารเมื่อน้ำท่วม และมีการแบ่งปั่นข้าง ๆ บ้าน มะเขือที่ปลูกไว้ปลอดสารพิษ บ๊วบยาว ผักกาดขาว ปลูกในที่ไม่กว้างก็สามารถได้รับผลผลิตที่สวยและต้นใหญ่หน้ารับประทาน เมื่อมีการเรียนรู้กับกิจกรรม สสส. ก็ได้เข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมเป็นอย่างดี และรับผิดชอบในการทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย และได้เกิดมีการแบ่งปันกันในกลุ่มมือมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้สละเวลาในการทำกิจกรรมโดยการทำน้ำสมุนไพร และน้ำยาต่าง ๆ ของกิจกรรมก็เข้าร่วมอย่างดี และได้เกิดกิจกรรมในครอบครัวที่อบอุ่นแบบเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นสิ่งครอบครัวนี้ชอบอยู่ก่่อนแล้ว และได้เรียนรู้เพิ่มเติมเข้าไปทำให้ครอบครัวได้ปลูกผักกินเองตลอด ลดรายจ่ายจากการทำเกษตรอินทรีย์แต่ละเดือน

กลุ่มแปลงผักสาธิต เข้าร่วมกิจกรรม ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ และผู้ใหญ่บ้าน อบต.

ฝนตกน้ำท่วมต้องเดินสะพานเข้าไปในบ้าน

ไม่มี

ไม่มี

สมาชิกในกลุ่มที่ได้เข้าร่วมได้เข้าเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ นำศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาแผนชีวิตพิชีิตหนี้ มีเงินออม โดยนางคำปันจันทร์แก้ว บ้่านเลขที่ 12 หูม่ที่ 2 ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ยึกหลักเศษรฐกิจพอเพียง โดยการปลูกผักผสมผสานเข้าด้วยกัน ไม่เหมื่อนเมื่อก่อนปลูกอะไรก็จะปลูกอย่างเดียว โดยการหันมาปลูกผักส่วนครัวและเลี้ยงปลาไว้ข้างบ้านไว้กินเอง และแบ่งขายโดยปลูกผักปลอดสารพิษ จะเตรียมแปลงผักเป็นรอง และปลูกผักอย่างละรองไม่เหมื่อนกัน และถัดกันไปไม่ตรงกัน เพื่อที่จะได้แบ่งระยะเวลาในการเก็บผลผลิต โดยยืดหลักโครงการนำศาสตร์พระราช เพื่อพัฒนาแผนชีวิตพิชิตหนี้โดยการที่ผลผลิตจะออกไม่พร้อมกัน เช่นปลูกข้าวโพดก็จะเก็บมาต้มขายตามบ้านและ ที่อบต. เป็นประจำพนักงานและชาวบ้านก็จะซื้อกัน ต้มขายหมดทุกวัน และผักกาด คะน้า ถั่ว ปลูกข้างบ้านริมรั่มจะสามารถแบ่งมาขายได้ ู

นางคำปัน จันทแก้ว หมู่ที่ 2 แปลงข้าวโพด การเข้าร่วมโครงการได้เกิดการเรียนรู้หลายอย่างและเปิดใจกว้างในการเข้าร่วมกิจกรรม ได้ทำตามข้อตกลงในการไม่ใช้สารเคมี และหันการใช้น้ำหมักชีวภาพและปุ๋ยหมักผลผลิตที่ได้ก็งอกงาม ถึงบ้างครั่้งหน่อยจะลงก็ตาม ก็จะปลูกใหม่กันต่อ การพูดคุยทำกิจกรรมนี้ถือว่าดี ได้เรียนรู้แบ่งปั่นกันโดยสละของตนเองมาเพื่อเข้าร่วมกลุ่มกัน โดยการทำนำสมุนไพร อาหารพื้นบ้าน น้ำยาล้างจาน ทำขนมสมุนไพร ตามพื้นบ้าน จะเห็นได้ว่านางคำปันจันทร์แก้ว เม่ื่อมาเข้าร่วมกลุ่มแล้วจะกล้าแสดงออกและให้ความร่วมมือในการร่วมกลุ่ม จะอาสาหาของต่าง ๆ ที่ตามบ้านตนเองมี เข้ามาร่วมกิจกรรม และเป็นคนใจเย็น เมื่อร่วมกลุ่มทำทุกอย่างกับเพื่อนในกลุ่ม และเด็กนักเรียน การได้ทำการปลูกผักผสมผสานกันทำให้มีรายได้ เพิ่มขึ้นจากการปลูกแบบอย่างเดียวตลอด เช่น ปลูกพริก ปลูกน้ำเต้า เมื่อถึงฤดูกาล แต่เมื่อมาเข้ากลุ่มได้เรียน รู้เพิ่มเติม ของโครงการ สสส. จะเห็นได้ว่าการปลูกผักปลอดสารพิษ มีรายได้เพิ่มเติมเมื่อเก็บผลผลิตได้วันต่อวันละนิดเมื่อขายหมดทุกวันก็จะเห็นผลรายได้ ถึงว่าจะน้อยนิดก็มีความสุขกับการขายผักปลอดสารพิษ เพื่อสุขภาพของครองครัวและลูกค้าที่ชื้อไปรับประทานอย่างมีความสุขกับผลผลิตที่ปลอดสารพิษและครอบของนางคำปัน จะเป็นครอบครัวที่ขยัย ถึงจะเป็นเกษตรกรก็มีความในการปลูกผัก และทำให้ตนเองชอบในการปลูกผักตลอด และทำให้มีรายได้วันละนิด ก็มีความสุขกับการได้ขยายผัก

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อาจาย์โรงเรียน กรรมการและสมชิกในกลุ่ม

ปรับพื้นที่และเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ

ไม่

ธรรมชาติ ในพื้นที่ก็มี

คณะกรรมการร่วมกันดำเนินตามโครงการ จัดทีมกรรมการโครการลงพื้นที่ตามโครงงานอาชีพ เลี้ยงสัตว์ ปลูกผักของ นายนิยม  วิชัยดิษฐ  บ้านเลขท่ี  34 หมู่ที่ 2 ตำบลบางศาลา อำเภอปากพนัง จัังหวัดนครศรีธรรมราช  ทำเกษตรอินทรีย์ผสมผสานกันการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยการปลูกผักเลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์  โดยการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในการทำบ่อปลา และปลูกผักริมบ่อปลา หลายอย่างผสมผสนากันไม้ยืนต้นและแปลงผัก โดยการปลูกผักไม่ตรงตามฤดู ตัวอย่าง เช่น น้ำเต้าจะปลูกไม่ตรงฤดูกาล และผักส่วนครัวไว้ริมบ่อโดยไม่ใช้สารเคมีไว้กิน เป็นการปรุงอาหาร เลี้ยงไก่ไว้กินเอง กินเศษอาหารที่เหลือไว้ให้ไก่กิน และเลี้ยงแพะ จะทำแบบทฤษฎีใหม่ 

นายนิยม วิชัยดิษฐ บ้านเลขที่ 34 ม.2 แปลงบ่อปลานิลและปลูกผักส่วนร่วมไว้รอบบ่อปลา โดยได้ทำตามข้อตกลงไม่ใช้สารเคมีกิจกรรมที่ได้เรียนรู้เกษตรทฤษถีใหม่ นำศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาแผนชีวิตพิชิตหนึ้ มีเงินออมโดยการยึดหลักเศษรฐกิจพอเพียง ของนายนิยมวิชัยดิษฐ เป็นแบบอย่างได้ เพราะเป็นคนชอบทำการเกษตร เลี้ยงปลา ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์โดยจะเห็นได้ชอบทางด้านนี้ เมื่อมีการเรียนรู้และได้เข้าอบรม ของ สสส. เพิ่มเติมจากแต่ก่อนได้เข้าใจและได้เรียนรู้ต่าง ๆ ของโครงการและเปิดใจกว้างในการเข้ากลุ่มกับสมาชิก และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และจะเข้าร่วม กลุ่มทำกิจกรรมต่อเนื่องนี้ถือว่าดี ได้ผลผลิตที่งอกงามซึ่งผลที่เกิดจากทำเศษรฐกิจพอเพียง เลิกใช้สารพิษเห็นได้ชัดเจนในการทำเกษตรอินทรีย์ โดยปลูกผัก เพื่อสุขภาพโดยการกินผักปลอดสารพิษ เลี้ยงปลาโดยใช้น้ำหมักใส่ในบ่อ และขี้แพะไว้ทำอาหารตอนปลาตัวเล็กได้เป็นเดือนโดยการลดต้นทุนอาหาร มีปลาปลอดสารพิษไว้ขายและกินเองอย่างสบายใจโดยปลอดภัย และครอบครัวเกษตรกรก็สุขภาพดีขึ้นปลอดภัยจากสารพิษ และทำให้มีการประหยัดในการทีรซื้อสารเคมีมาใช้อย่างมากทำให้ดินเสียหาย และท่านเป็นคนใจดีเมื่อมีใครมาซื้อปลาในบ่อท่านจะแบ่งขายตลอดเวลาไม่ว่าอะไรถึงแม้จะว่าเราจะซื้อ 1 กิโล 2 กิโล ไม่ได้กำหนดว่าจะซื้อเท่าไรจะขายให้ทั้งนั้น โดยคนในชุมชนสามารถไปซื้อได้ตลอด เมื่อเพื่อนมาบ้านโดยกระทันหันสามารถมีปลาให้เพื่อนกินโดยการทอดแห่แและตอนหนี้ก็ได้มีการประหยัด ปลูกทุกอย่างที่กิน กินที่อย่างที่เลี้ยงไว้ และมีเงินออมของครอบครัวมากขึ้น

ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อาจรย์ กรรมการ และสมาชิกในกลุ่ม

ธรรมชาติมีมั่ง

ไม่มี

พื้นที่เวลาน้ำท่วม แต่ท่านก็จะทำตลอด

กรรมการโครงการและภาคีเครือข่ายสภาชุมชน ร่วมประชุมเพื่อและรายงานความก้้าวหน้าโครงการ และงบประมาณ ที่ได้ดำเนินการไปในงวดที่ 1

กรรมการโครงการและภาคีเครือข่ายสภาชุมชน ร่วมประชุมเพื่อและรายงานความก้้าวหน้าโครงการ และงบประมาณ ที่ได้ดำเนินการไปในงวดที่ 1 ดังนี้

1. งบประมาณที่ได้รับในงวดที่ 1 ดำเนินการไปไม่หมด โดยได้ดำเนินการประมาณ 70 %
2. งบประมาณที่เหลือ ไช้ดำเนินการต่อในกิจกรรมตามแผน คือการลงแขกปรับพื้นที่ และจัดทีมร่วมติดตามแปลงตัวอย่างที่เข้าร่วมโครงการ
3. เนื่องจากในงวดที่ 1 ผลลัพธ์ โครงการดำเนินการล่าช้า ทำให้เกิดผลเสียในเรื่องการรายงานกิจกรรมล่าช้าไม่เป็นไปตามแผน จึงให้เร่งดำเนินการในกิจกรรมที่เหลือ
   
4. รอบงบประมาณงวดที่2

กรรมการโครงการและภาคีเครือข่ายสภาชุมชน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ทีมกรรมกาโครงการติดตามโครงงานอาชีพและแปลงผัก โดยแบ่งตามการติดตามความถนัด เช่นกลุ่มเลี้ยงสัตว์ กลุ่มปลูกผัก กลุ่มทำนา กลุ่มทำเห็ด ตามโครงงานผู้เข้าร่วม ลงติดตามประมาณ 15 ครั้ง  เพื่่อสนับสนุนให้คำแนะนำให้กำลังแก่ผู้เข้าร่วมโครงงานอาชีพ 1. ลงบ้านผู้ใหญ่ ม.2 เลี้ยงปลานิล  ของบ่อปลา ปลูกผักส่วนครัว มีมะเขือ ถั่วผักยาว  ผักกาดขาว ป๊วบ ไม้ยืนต้น ชุมพู่  ฝรั่งไร่เมล็ด อ้อย กล้วย มะพร้ว 2.บ้านนางคำเป็น  จันทร์แก้ว  ปลูกผักส่วนครัว และปลูกผักปลูกน้ำเต้าขาย พริกขาย เลี้ยงไก่บ้าน

สมาชิกโครงการพัฒนาอาชีพสร้างรายได้เสริม  มีปลาและผักไว้ขายได้ ไว้กินเอง แบบเศรษฐกิจพอเพียง 

กรมการ 10 คน  ภาคีเครื่อข่าย 5 คน

สินค้าราคาถูก ปลานิล

ไม่มี

พี่เลี้ยงให้คำแนะนำปรึกษาอยู่ตลอด

1.โครงการคัดเลือกพื้นที่แปลงผักในหมู้บ้านจากการที่มีการเรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกัน
2.จัดทำตารางการช่วยกันปรับพื้นที่แต่ละแปลง โดยการหมุนเวียนวันละ 1-2 แปลง โดยใช้เวลาช่วยกัน 10 วัน
3.หลังจากนั้นทำตารางลงแขกปลูกผักสวนครัว และนาข้าวกันต่อเนื่องอีก รวม 10 วัน
4. การทำใช้ลักษณะหมุนเวียนกันไปช่วย โดยใช้วิถีชีวิตชุมชนแต่แรก โดยไม้ต้องจ้าง และในโรงเรียนแบ่งหน้าที่เด็กทำงานกันโดยการดูแลแปลงผักโดยการแต่งหญ้า รดน้ำแปลงผัก แปลงของครอบครัวตนเองร่วมกับผู้ปกครอง 5. ค่าวัสดุได้สนับสนุนเป็นค่าเมล็ดพันธ์และป้ายติดชื่อแปลงตัวอย่างจำนวนแปลงละ 300 บาท

มีแปลงผักเกษตรพร้อมปลูกผักพืชสวนครัวจำนวน 10 แปลงดังนี้ ทั้ง 10 คนสลับสับเปลี่ยนช่วยกันทุกวันต่อเนื่องกัน ช่วยกันทำแปลงผักได้เป็นแปลงสำหรับการปลูกผัก และผู้เข้าร่วมโครงการสามารถรวมกันลงแขงแบบวิถีชุมชนแต่แรก ร่วมกับเด็กให้เด็กได้เรียนรู้วิถีการลงแขกแบบชาวบ้าน เป็นการร่วมสามัคคี สนุกสนานร่วมกัน

นักเรียน วัยทำงาน และ ภาคีเครือข่าย

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

พี่เลี้ยงโครงการ ผู้รับผิดชอบ และการเงินโครงการ ร่วมกันจัดทำรายงานและตรวจสอบเอกสาร เพื่อแก้ไข จัดพิมและ ปิดงวด

รายงานมีความถูกต้อง แต่บีนทึกไม่ครบถ้วน และขาดคุณภาพการรายงาน ให้แก้ไขรายงานเพิ่มเติม ส่วนเอกสารหลักฐานการเงิน เรียบร้อย และรวบรวมพิมส่ง 

พี่เลี้ยงโครงการ ผู้รับผิดชอบ และการเงินโครงการ

เงินรับงวด 1 ยังดำเนินการไม่หมด ให้เร่งดำเนินการ ในเดือน กุมภาพันธ์

ทำตามข้อเสนอแนะ ทีมสนับสนุน

เก็บรวบรวมรายงานและจัดพิมพ์เอกสาร ป้อนข้อมูลและโครงการที่ทำต่าง ๆ เข้าเว็บไซต์สรุปยอดการใช้จ่าย

เก็บรวบรวมข้อมูลและหลักฐานร่วมกับพี่เลี้ยงและสสส.ตรวจโครงการทางเว็บไซต์ของโครงการ เอกสารหลักฐานที่ปิดงวดที่ 1 ยังมีข้อบกพร่องเกี่ยวกับเอกสาร ได้นำไปแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์

จำนวน 2คนผู้รับผิดชอบโครงการ

มีการร่วมกลุ่มที่ สสส. กำหนดให้มาร่วมมีความรู้และประสบการณ์อยากให้มีโครงการอีก

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางจาก ต.บางศาลา อ.ปากพนัง มา อ.ท่าศาลา  ตามระยะทางไปกลับ ประมาณ 145 กม จึงขอเบิกค่าใช้จ่าย วันละ 680 บาท

จัดกิจกรรมร่วมเรียนรู้ผลิตอาหารและน้ำสมุนไพเพื่อสุขภาพโดยการนำภูมิปัญยาด้านอาหารเป็นยาและสมุนไพรในพื้นที่มาทำน้ำนำอัดลม ชา กาแฟ ที่ปัจจุบันเข้าสู่หมู่บ้านอย่างมากมาลดความเสี่ยงในการบริโภค น้ำหวานสมุนไพร น้ำดื่มชีวจิต เพื่อลดสารพิษในร่างกาย น้ำดอกอัญชันการทำน้ำดอกอัญชันมะนาวส่วนผสม 1.ดอกอัญชัญประมาณ 50 ดอก2. น้ำสะอาด6 ลิตร3. น้ำตาล 3 ถ้วยตวง4. มะนาว 1 ทัพพี5. เกลือเล็กน้อย วิธีทำ1.นำดอกอัญชันมาล้างใ้ห้สะอาดด้วยน้ำเปล่าเลือกเอาเฉพาะดอกที่มีสีน้ำเงินเท่านั้น2. ต้นน้ำเปล่าให้เดือด แล้วใส่ดอกอัญชันลงไป รอประมาณ 3-5 นาทีน้ำจะกลายเป็นสีน้ำเงินอมม่วง3. ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาเฉพาะน้ำเท่านั้น แล้วใส่น้ำตาลทราย และเกลือลงไป คนให้ละลายเข้ากันน้ำตะไคร้ใบเตยส่วนผสม1. ตะไคร้ประมาณ 30-40 ต้น2. น้ำสะอาด 4 ลิตร3.น้ำตาล 2 ถ้วยตวง4.เกลือเล็กน้อย 5. ใบเตยประมาณ 20-30 ใบ

มีการนำภูมิปัญญาด้านอาหารเป็นยา โดยปราชญ์ชาวบ้านนายประสิทธิ์ ช่วยไทร มาเป็นผู้ให้คำแนะนำ และผู้เข้าร่วมโครงการได้นำสมุนไพรในพื้นที่มาทำน้ำดื่ม แทนน้ำอัดลม ชา กาแฟ ที่ปัจจุบันเข้าสู่หมู่บ้านอย่างมาก เพื่อมาลดความเสี่ยงในการบริโภค น้ำหวานสมุนไพร น้ำดื่มชีวจิต เพื่อลดสารพิษในร่างกาย

1. น้ำดอกอัญชัน เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณชั้นเลิศช่วยบำรุงสายตา บำรุงสุขภาพและช่วยให้ผมดกดำ มีลักษณะเป็นดอกไม้สีน้ำเงินหรือสีม่วงอ่อนสามารถนำสีของดอกอัญชันมาสกัดเป็นสีประกอบอาหารหรือขนมต่าง ๆนอกจากนั้นแล้วเพราะนอกจากจะมีสรรพคุณและประโยชน์ฺต่อร่างกายมากมายแล้วยังช่วยดับการกระหายความร้อนได้เป็นอย่างดีอีกด้วยการทำน้ำดอกอัญชันนี้นไม่ยากเลยใคร ๆ ก็ทำได้
   
2. น้ำตะใคร้ใบเตย เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณได้หลายอย่าง น้ำตะไคร้ใบเตยช่วยดับร้อนแก้กระหายได้เป็นอย่างดี ช่วยในการบำรุงและรักษาสายตาช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงมี่ส่วนช่วยการบำรุงสมองและเพ่ิมสมาธิ มีส่วนเป็นยาช่วยในการนอนหลับเมื่อได้เรียนรู้วิธีการทำออกมาสำเร็จได้รับประทานแล้วมีผลตอบรับว่าดี และแบ่งกันไปและทุกบอกว่าจะนำไปทำกินที่บ้านกินดี

วัยเรียน20คนวัยทำงาน 20 คน ผู้สูงอายุ5 คนภาคคีเครือข่าย 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ประชุมวางแผนการนั่งคุยปรึกษาหารือกันว่าจะทำกันอย่างไรกับกิจกรรมที่ผ่านมา ได้พูดคุยกันในเรื่องกิจกรรมการทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาอเนกประสงค์ เพื่อนำมาใช้เองในครอบครัวและการทำบัญชีครัวเรือนในการทำให้รู้จักการออมและวางแผนในกิจกรรมการทำน้ำสมุนไพรครั้งต่อไป แบ่งกันหน้าที่กันในกิจกรรมทัดไปวางแผนจะทำกิจกรรมตามลำดับกิจกรรมแต่เกิดฝนตก เลยเลื่อนทำกิจกรรมอย่างอื่นก่อนตามลำดับไม่ได้

สรุปกิจกรรมที่ผ่านมาโดยสมาชิกแต่ละครัวเรือนที่ได้เข้ามาเรียนรุ้กิจกรรมต่าง ๆ ได้มีความรู้และความร่วมมือในการทำงานและเข้ากลุ่มกันในการทำงาน และได้รู้ตัวเองการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและวางแผนการจ่าย โดยการรู้จักออมก่อนที่จะจ่าย และสามารถดำเนินชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงและการทำน้ำยาที่ผลิตไปใช้แล้วมีผลตอบรับที่ดี และจะทำแบ่งกันไปใช้ในชุมชน

คณะกรรมการ ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เข้าร่วม 7 คน ผู้สูงอายุ 2 คน ภาคคีเครือข่าย 4 คน และ อสม. 2 คน

วางแผนจะลงแปลงผักเกิดฝนตกลมแรง คลื่นสูง

ไม่มี

รายละเอียดกิจกรรมการทำน้ำยาล้างจาน ส่วนผสม1. N70 (1 กิโล)2. F24 (ครึ่ง กิโล)เป้นตัวขจัดคราบ3. ผงฟอกเพ่ิ่มฟอง1ขีด4.เกลือแกง(1กิโล)ทำให้หนืด5.น้ำสะอาด10กก.6. หัวน้ำหอม10ชีชี มีกลิ่นหอม ผงฟอกใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ถ้ามีมะนาว มะกูด แทน F24 ได้วิธีทำ 1.ผสมเกลือกับน้ำ 3 กิโล/ลิตรคนให้เกลือละลายก่อน2.นำ N70 ลงในภาชนะอีกที่หนึ่ง กวนให้เข้ากันไปในทางเดียวกันประมาณ 5 นาที3. นำน้ำเกลือ 1กิโล/ลิตร ผสมลงไป กวนไปทางเดียวกัน ประมาณ 5 นาที4. เติม F26 ลงไป กวนไปในทางเดียวกัน6.นำน้ำที่เหลือ 7 กิโล/ลิตรผสมลงไปกวนทางเดียวกัน ประมาณ 10 นาที8.เติมน้ำหมอ9. พักไว้อย่างน้อย 6 ชม. จึงนำใส่ขวด รายละเอียดการทำน้ำยาล้างห้องน้ำ สูตร 10 ลิตร ส่วนผสม 1. ขจัดครบ LAB 60 (1กิโล)2.NP-9(1กิโล)3.น้ำสะอาด8กิโล4. TPA200CC.5.น้ำหมอ2ออนซ์ 6.กันบูด 15 CC.วิธีทำ 1. นำ1+2ผสม กวนให่้เข้ากันแล้วค่อย ๆ เติม น้ำกวนให้เข้ากัน3. เติม 4+5 กวนให้เข้ากัน3. เติมกันบูด กวนให้เข้ากันและบรรจุใส่ภาชนะ

ผลผลิตที่ทำน้ำยาสามารถทำให้เกิดการเรียนรู้โดยการเราแบ่งออกเป็นกลุ่ม และทำน้ำยาโดยแต่ละกลุ่มมีความสามารถไม่เท่ากัน ทำให้ได้เกิดการเรียนรู้จากกลุ่มอื่น ๆเพื่อได้เกิดการเรียนรู้จากกลุ่มเพื่อนด้วยที่วิทยากรสอนเด็กจะรับรู้ได้ไม่เท่ากันและเกิดความคิดที่ไม่เหมือนกัน และได้แบ่งปันความรู้ความสามารถ เข้ารวมกิจกรรมกับผู้ใหญ่ทำให้เกิดความร่วมมือกันในการทำน้ำยาล้างจาน สามารถทำได้ถึง 12 ลิตรต้นทุนประมาณ 200 บาท ลดทุนกว่าไปซื้อของท้องตลาดน้ำยาล้างห้องน้ำ ทำแต่ละครั้งได้ 10 ลิตร ต้นทุนประมาณ 300 บาท สามารถทำได้ถึง 10ลิตรเมื่อร่วมมือกันทำเสร็จสามารถมองเห็นได้ว่าลดต้นในการผลิตมาก และสามารถผลิตจากวัสดุธรรมชาติบ้านเราก็ได้ เช่น มะนาว มะกรูด นำมาทดแทนได้ทำให้รู้จักการแบ่งปัน หลักเศรษฐกิจพอเพียง

เด็กวัยเรียน  25 คน  วัยทำงาน 20  คน ผู้สูงอายุ 10 คน ภาคภาคี  7 คน

ไม่มี

ไม่มี

กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือน1.จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยน - รายรับ-รายจ่าย-เงินออมเราต้องรู้ว่าจะต้องออมเท่าไรก่อนถึงจะจ่าย1ปี มี 12 เดือน2.ความสำคัญของร่างกายการเรียนโดยการเรียกสมาธิของกลุ่มที่เรียนโดยการให้สมาชิกตบมือ 12,123,12,12,1 3.ฝนตกให้ตบมือ,ฟ้าร้องให้ตบน่าขา ,ฟ้าแลบให้พูดคำว่าเปรี้ยง4.ปีมี 12,12ปีเท่ากับ1ทศวรรษคนแต่แรกการเผ้าดูดวงจันทร์ว่าเป็นรูปอะไรในแต่ละปี 1ปี มี 12 เดือน1 ปีชวด เท่ากับ (หนู)2ปีฉูล เท่าากับ (วัว)3ปีขาล เท่ากับเสือ4ปีเถาะ เท่ากับ (กระต่าย)5ปีมะโรง เท่ากับ (งูใหญ่)6ปีมะเส้ง เท่ากับ (งูเล็ก)7ปีมะเมีย เท่ากับ (ม้า) 8ปีมะแม เท่ากับ (แพะ)9ปีวอก เท่ากับ (ลิง)10ปีระกา เท่ากับ(ไก่)11ปีจอ เท่ากับ (หมา)12ปีกุลเท่ากับ (หมู)5.ตราประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชตรงกลางเป็นรูปพระธาตุล้อมรอบด้วย 12 นักสัตว์ 6.เงินมีประโยชน์หรือให้โทษใครจะเลือกใครระหว่างเงินกับชีวิตสรุปทุกคีนเลือกชีวิตปัจจุบันจะเลือกเงินเป็นหลักเงินคือพระเจ้าเศรษฐกิจปัจจุบันคือเงินเป็นหลัก คนมีเงินเท่านั้นถึงจะสบายแต่เศรษฐกิจสมัยก่อนจะเป็นเศรษฐกิจ เชิงคุณธรรม คือคนเกี้ือหนุนอุดหนุนจุนเจือเมื่อก่อนเงินไม่มีก็อยุ่ได้คือการแบ่งปันกันและแรกเปลียนกันในปัจจุบันเงินยกระดับให้มีค่าหมดทุกอย่างการมองคนก็เป็นเงินไปหมดใครมีเงินทุกคนมองเป็นพระเจ้าการทำบัญชีครัวเรือนสอนให้ทำบัญชี การออมเท่าไรถึงจะจ่ายให้ไปทำจดบันทึกบัญชีรายรับ รายจ่าย และเงินออม

เกษตรกรสามารถรู้จักการออมของตัวเองและทำรายรับ-รายจ่าย  การรู้การปรับเปลี่ยนแผนชีวิต  โดยเน้นแนวความคิดการทำงานเพื่อพัฒนาอาชีพ การปรับการคิดและการวางแผนชีวิต และสุขภาพ การออมการทำบัญชีครัวเรือน และการลดรายจ่ายฟุ่มเฟื่อยและอบายมุขเพื่อให้สอดคล้องกับภาระกิจของ สสส. แนะนำหลักสูตร แผนชีวิตและเป้าหมาย  เพื่อให้บ้านบางไทรร่วมเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่  นำศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาแผนชีวิตหนี้  มีเงินออม

วัยทำงาน 20 คน  นักเรียน 20คน  สูงอายุ 5 คน  ภาคภาคี 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

หมวดที่ 1หมวดปรับฐานความคิดประกอบด้วยเแผนการสอนเพื่อสร้างฐานความคิดเกี่ยวกับการศึกษาอดีตจนถึงปัจจุบัน การมองชีวิตตนเองต่อครอบครัวและกรณีศึกษาบุคคลต้นแบบเกี่ยวกับการทำกิจกรรมของ สสส. เกี่ยวกับการเรียนรู้ทั้งหมด 1.วินัยของเด็กไทยกับญี่ปุ่น วิถีความคิดที่แตกต่าง และทดสอบความสามารถและความไหว เช่นให้ตอบมีคำว่า นก น้ำ รู อากาศ ให้ตอบด้วยความไหว จะเห็นได้ว่าแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างและมีสมาธิ มีความมันใจในตัวเอง ที่แตกต่างกันโดยมีการฝึกการฟัง คิดวิเคราะห์ตอบคำถาม เช่นการทดสอบของหมอจริงหรือหมอปลอมการมีความรู้กับไม่มีความรู้ให้เรียนรู้ตัีวเองว่าจะทำอย่างไรการบนสิ่งศักดิ์สิทธ ขอจนช่วยไม่ไหวสสิ่งที่จะช่วยให้ดีที่สุด คือให้เรารู้จักตนเอง 1.ให้รู้จักพิณิจวิเคราะห์เราว่าอยู่ในระดับไหน2. ให้ประเมินสุขภาพตัวเองอยู่ในระดับไหน คือความรู้จักในความเป็นตัวตน3. ความสนใจเชียวชาญในแต่ละบุคคลไม่เหมือนกันด้วยความถนัด4. งานที่เราทำบางอย่างทำไมเราต้องถอยก่อน คนบางคนถึงทำอยู่ได้5. กิจกรรทางสังคมเราทำอะไรตรงไหนประเมินว่างานสังคมของเราได้รู้ว่าอย่างไรแต่ท้ายที่สุดเราต้องอยู่กับสังคม6.ประเมินอารมณ์ตัวเราเองไม่ฟังความคิดของใครเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ในการประเมินของตัวเองไม่ การที่จะทำงานในชุมชนของเราได้และ รวมกันทำกจิกรรมต่อการอยู่รวมกันอย่างเช่นมีกิจกรรมการร่วมกลุ่มกันให้ทำกิจกรรมการต่อกระดาษใครต่อได้สูงสุด เด็กและผู้ใหญ่ร่วมกันช่วยกันต่อกระดาษโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มโดยมีกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เท่ากัน จำนวนสก๊อดแทปที่่เท่ากันแต่ละกลุ่มมีความสามารถไม่เท่ากันบางกลุ่มทำได้เร็จและแข็งแรง บางกลุ่มไม่แข็งแรงเปรียบเทียบชุมชนฐานในชุมชนไม่เหมือนกันจะทำให้ชุมชนแข้มแข็ง จะต้องมีบ้าน วัด และชุมชนถึงจะทำให้แข็มแข้งเหมื่อนสาามเสา ราชการ เอกชน ประชาชนแข็มแข้งได้โดยชุมชนความคิดที่แตกต่างเราทำอะไรก่อนหน้าหลังแบ่งงาน และรวกันคิดและความรับผิดชอบ

การที่ทำให้คนคนหนึ่งรู้จักตนเองและครอบครัวของตัวเองและชุมชนและการทำงานกับสสส.การทำให้เรารู้จักประเมินตัวเองว่าอยู่ที่ไหนและตัวเองเป็นคนแบบไหน
1. ทำให้เรารู้ตัวเองว่าจะทำอย่างไร2. รู้จักครอบครัวตนเองและชุมชนและการจะทำงานกับสสส.3. รู้จักคิดและวิเคราะห์ 4. ได้ความสามัคคี 5. ความรวมมือ6.ความตั้งใจ7.ความพยายาม8.ความแสดงความคิดเห็นแตกต่างกัน9.ความคิดสร้างสรรค์10.ความภาคภูมิใจในความสำเร็จ

วัยทำงาน  25  คน  ผู้สูงอายุ  5  คน  วัยเรียน 20  คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

สภาผู้นำประชุมคณะกรรมการนัดครั้งที่ 5 ต่อไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยสรุปกิจกรรมต่าง ๆ โดยการทำกิจกรรมที่ 3 หลักสูตรที่ 1 บทนำหลักสูตรแผนชีวิตสู่แผนชุมชนหมวดที่ 1 หมวดปรับฐานความคิดประกอบด้วยแผนการสอนเพื่อสร้างฐานความคิดเกี่ยวกับการศึกษาอดีตจนถึงปัจจุบันการมองชีวิตตนเองต่อครอบครัวและกรณีศึกษาบุคคลเป็นต้นแบบ และกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือน

ได้เข้ารวมประชุมกรรมการทั้งหมด เข้าร่วมด้วย

1. ได้ประชุมชี้แจงโครงการกิจกรรม หลักสูตรแผนชีวิตสู่แผนชุมชน
2. และได้วางแผนงบประให้ทราบในกิจกรรม
3. ได้หมอบหมายงานให้คณะกรรมการช่วยกันทำงาน
4. คณะกรรมได้มีบทบาทหน้าที่เพื่อช่วยเหลือและวางแผนกิจกรรมและแบ่งงานกันไป
   
5. ติดตามและประเมินผลกิจกรรมที่ผ่านมาและนัดกิจกรรมครั้งต่อไปเด็กและผู้ใหญ่เข้ากันได้ดีเมื่อมีการแบ่งกลุ่มกันทำงาน

คณะกรรมการโครงการและสภาชุมชนวัยทำงาน 10คนผู้สูงอายุ5คนภาคภาคี 5คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

สร้างหลักสูตร กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ปรับคิดเปลี่ยนแผนชีวิตพิชิตหนี้ โดยเน้นแนวคิดการทำโครงงานเพื่อพัฒนาอาชีพ การปรับการคิดและการวางแผนชีวิต และสุขภาพ การออมการทำบัญชีครัวเรือน และการลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยและอบายมุข เพื่อให้สอดคล้องกับภาระกิจของสสสรมาแนะนำการจัดหลักสูตร แผนชีวิตและเป้าหมาย จากนั้นนัดแลกเปลี่ยน เดือนละ 4 ครั้ง ต่อเนื่อง 3 เดือนรวม จำนวน 12 ครั้งและให้สมาชิกไปดำเนินการ เพื่อพัฒนาโครงงาน ของแต่ละครอบครัว โดยมีทีมแกนนำติดตามรายเดือน และแลกเปลี่ยนกันในวันประชุมกรรมการโครงการ โดยมีหลักสูตรดังนี้ (1)  บทนำหลักสูตรแผนชีวิต สู่ แผนชุมชน:  ประกอบด้วยแผนการสอน 3 หมวด คือ (2)  หมวดที่ 1 :  หมวดปรับฐานความคิด :  ประกอบด้วยแผนการสอน เพื่อสร้างฐานความคิดเกี่ยวกับการศึกษาอดีต-ปัจจุบัน การมองชีวิตตนเอง / ครอบครัว และ กรณีศึกษาบุคคลต้นแบบ (3)  หมวดที่ 2 :  หมวดค้นหาความจริงของชีวิต :  ประกอบด้วยแผนการสอน เพื่อศึกษาวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลตนเองและครอบครัว  และการคิดแบบนอกกรอบเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์ (4)  หมวดที่ 3 :  หมวดชีวิตสร้างสุข :  ประกอบด้วยแผนการสอน เพื่อสร้างแนวคิดการวางแผนชีวิต และการปฏิบัติการตามแผนชีวิตภาคสนามด้วยการ ทำโครงการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ (5) แผนการสอน :  แผนชีวิตสู่แผนชุมชน : ประกอบด้วยการค้นหารากฐานความจริงของครอบครัว และค้นหาจุดร่วมที่กำหนดทิศทางแผนชีวิตของตนเอง และกลุ่ม อสม. ร่วมกัน (6) โจทย์ใบงาน : การวิเคราะห์รายจ่ายของครัวเรือน : การวิเคราะห์รายจ่ายในครอบครัว และการวางแผนหลักประกันด้านเศรษฐกิจและสุขภาพ (7) ตัวอย่างการสร้างต้นแบบชีวิตให้กับ อสม.

ให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความตระหนักที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการพัฒนาแผนและเป้าหมายชีวิตบทนำหลักสูตรแผนชีวิตสู่แผนชุมชน โดยการนำโครกงรนำศาสตร์พระราชาสร้างสุขสู่บ้านบางไทร ม.2 ตำบลบางศาลา

1. ให้เปิดสมองรับรู้สิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตอย่าทำตัวเป็นกบในกะลา
2. ไม่มีใครที่รู้ทุกเรื่องและไม่มีใครที่ไม่รู้อะไรเสียเลย
3. เป็นความคิดที่ดีเด็กและผู้ใหญ่ได้มาเรียนรู้ร่วมกันได้เข้าใจกิจกรรมที่ชุมชนได้สร้างปรับวิถีความคิดที่ใหม่ขึ้นมาเรียนรู้ร่วมกัน
   
4. ตัวอย่างทีประเทศญี่ปุ่นมีบัญญัติ 10 ประการแต่ของไทยเดียวนี้มี 12 ประการก็มีข้อแตกต่างกันประเทศญี่ปุ่นสอนให้รู้ว่าเขารวยก็ไม่มีคนรับใช้โดยพ่อแม่ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองในขั้นพื้นฐานของเด็ก
5. เด็กในโรงเรียนญี่ปุ่นหลังรับประธานอาหารทุกครั้งต้องแปรงฟันทุกครั้งเหตุผลในการรักษาความสะอาดของตัวเองและผู้อำนวยการโรงเรียนในญี่ปุ่นจะกินข้าวก่อนเด็กนักเรียนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงเพราะจะได้รู้ว่าอาหารเป็นพิษหรือไม่
6. คนทำความสะอาดในประเทศเขาเรียกว่า นายช่างสุขภาพหรือคนทำความสะอาดเป็นใหญ่และมีความสำคัญ
   
7. การใช้โทรศัพท์เขาเน้นการใช้ เช่น สถานที่โรงพยาบาล บนรถเมล์ชุมชนที่มีคนมากห้ามใช้โทรศัพท์
8. ปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักคุณค่าของข้าวทุกเมล็ดมีคุณค่าไม่เหมือนของไทยเรารู้จักคุณค่าของข้าวทุกเมล็ดน้อยลงทุกวัน
9. การตรงต่อเวลาเป็นสำคัญคนไทยทำตามใจชอบ
10. ญี่ปุ่นเป็นต้นแบบในการศึกษาก็เหมือนปลูกพืชต้องเตรียมดินจะกินก็ต้องเตรียมอาหารจะพัฒนาการต้องเตรียมการจะพัฒนาคนก็ต้องเตรียมตน
11. เรามีการบูรณาการคือการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเด็กและผู้ใหญ่เข้ามาร่วมเรียนรู้กันโดยการให้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อกล้าแสดงออกร่วมกันข้างหน้าร่วมกับวิทยากรสรุปแล้วคนเราต่างกันตรงที่คิดชีวิตจึงแตกต่างการมองชุมชนของเราสุดท้ายแล้วอย่างมองแต่เรื่องเดิม ๆ

จำนวนวัยทำงาน23คนวัยเรียน27คนภาคภาคี5คน

ไม่ค่อยกล้าพูด และแสดงออก

ไม่มี

ไม่มี

การมาเข้าร่วมประชุมกับพี่เลี้ยงกับ สสสสจรสในการเขียนรายงานการเงิน และการหักภาษี ณ ที่จ่าย และการบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ การรวมประชุมกับพี่เลี้ยงสสสสจรส การเขียนรายงานการเงินและการหักภาษีหัก ณ ที่จ่ายและการบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ

ผู้รับผิดชอบโครงการ มีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติการต่อไปนี้ได้ถูกต้อง

1. การบันทึกรายงานกิจกรรม
2. การหักภาษีณที่จ่าย
3. เรียนรู้การทำงานบนเวบและการเชื่อมโยงการบันทึกรายงาน งบประมาณแต่ละกิจกรรม และการเขียนรายงานแบบมีผลลัพธ์คุณภาพ

ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะทำงาน

ไม่มี

ไม่มี

ขอเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไปกลับ วันละ 680 บาท เนื่องจากระยะทาง ไป กลับ จำนวน 145 กม

ดูแลช่วยเหลือสนับสนุนผู้รับผิดชอบโครงการเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และทักาะใรการเขียนบันทึกรายงานกิจกรรมได้ถุกต้อง โดยวิทยากรกระบวนการจาก สจรส.ในช่วงเช้าโดยคุณไพทูรย์  วงศ์สม
ช่วงบ่าย

ผลสรุปสำคัญมีดังนี้ 1.ช่วงเช้าเรียนรู้และฝึกทักษะการลงรายงานบันทึกกิจกรรม ลง รูปภาพ และการเขียนเชิงปริมาณ และคุณภาพ การเลือกภาพที่สื่อกับกิจกรรม โครงการเข้าใจและสามารถทำได้ 2.ชวงบ่าย เรียนรู้เรื่องการหักภาษีณ ที่จ่่าย  ผู้รับผิดชอบมีความรู้ความเข้าใจพอสมควร

ผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน พี่เลี้ยง 1 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

วางแผนการจัดกิจกรรมตามแผนงานในโครงการอย่างน้อย 15 คน ภาคีเครือข่ายในชุมชน 5 คน และติดตามประเมินผลและสรุปผลกานดำเนินงานกิจกรรมของโครงการจำนวน 12 ครั้งกำหนดรายละเอียดกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมประชุมและทำความเข้าใจในกิจกรรมโครงการของ สสส. ให้คนในชุมชนมีการร่วมกลุ่มกันไม่ให้ใช้สารเคมีทำให้สุขภาพที่ดีไม่มีสารตกค้างในเลือดนำไปสู่การเกิดโรคต่าง ๆ ได้ ทำให้คนในชุมชนมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงและใช้สมุนไพรแทนสารเคมี

ทำการชี้แจงเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ กลุ่มและวางแผนการทำงานในกิจกรรมต่อไป เกี่ยวกับเรื่อง การเข้าร่วมหลักสูตรแผน ปรับคิดเปลี่ยนแผนชีวิตพิชิตหนี้ โดยเน้นแนวคิดการทำโครงงานเพื่อพัฒนาอาชีพ การปรับการคิดและการวางแผนชีวิต และสุขภาพ การออมการทำบัญชีครัวเรือน และการลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยและอบายมุข เพื่อให้สอดคล้องกับภาระกิจของสสสรมาแนะนำการจัดหลักสูตร แผนชีวิตและเป้าหมาย จากนั้นนัดแลกเปลี่ยน เดือนละ 4 ครั้ง ต่อเนื่อง 3 เดือนรวม จำนวน 12 ครั้งและให้สมาชิกไปดำเนินการ เพื่อพัฒนาโครงงาน ของแต่ละครอบครัว โดยมีทีมแกนนำติดตามรายเดือน และแลกเปลี่ยนกันในวันประชุมกรรมการโครงการและได้ ลงกำหนดวันเข้าร่วมเรียนรู้ แผนชีวิต 6 ครั้ง กลุ่มเป้าหมาย นักเรียน 30 คน ผู้ใหญ่และกรรมการ 50 คนได้แก่ (1) การปรับฐานความคิด :กรณีศึกษาบุคคลต้นแบบ ในวันศุกร์ ที่ โรงเรียนวัดบางไทร (2) ค้นหาความจริงของชีวิต
(3) หมวดชีวิตสร้างสุข :ทำโครงการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้
(4) แผนชีวิตสู่แผนชุมชน : ค้นหาจุดร่วมที่กำหนดทิศทางแผนชีวิตของตนเอง และกลุ่ม อสม. ร่วมกัน
(5) การวิเคราะห์รายจ่ายของครัวเรือน
(6) แผนชีวิตและสุขภาพ

ที่ประชุมยอมรับและตกลงตามที่ประชุม นัดประชุมครั้งต่อไป 6 มกราคม 2559

กรรมการ 10 คน ภาคีเครือข่าย 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

พี่เลี้ยงโครงการ เข้าร่วมประชุมทำความเข้าใจกรรมการโครงการสสส. ในประเด็นการสร้างชุมชนน่าอยู่  โดยเน้นประเด็นต่อไปนี้ 1.คนในชุมชนลดการใช้สารเคมีกำจัดสัตรูพืช โดยห้นมาใช้สมุนไพรกำจัดศัตรูพืชแทน และยังช่วยลดต้นทุนในการผลิต 2. คนในชุมชนมีการร่วมกลุ่มกันไม่ใช้สารเคมีทำให้สุขภาพดีไม่มีสารตกค้างในเลือดนำไปสู่การเกิดโรคต่าง ๆ 3. คนในชุมชนมีการทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อความรั้กความสามัดคีมากขึ้นในการรวมกลุ่มจัดทำกจิการเสวนา การออกกำลังกาย 4. คนในชุมชนได้ปรับเปลี่ยนวิถีตัวเองมีการใช้จ่าย โดยการรู้จักประหยัดและใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น และหารายได้เสริมในคีรัวเรือน 5. ทำความเข้าใจแผนงานกิจกรรมและวัตถุประสงค์กิจกรรม แต่ะอย่าง 6. สร้างพลัง และสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ต่อ ทีมกรรมการโครงการเพื่อการขับเคลื่อนที่ดี

ในการประชุมกรรมการชุมชนโดยเน้นรูปแบบสภาชุมชนน่าอยู่ พี่เลี้ยงโครงการได้สังเกตการประชุม และมีส่วนร่วมในการทำความเข้าใจในประเด็นการสร้างชุมชนน่าอยู่ และคลี่กิจกรรม งบประมาณโครงการทั้งหมด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมเป้นกรรมการ 15 คน  และภาคีเครือข่าย จาก อบต.บางศาลา  ได้แก่ นายก อบต. บางศาลา และ ส.อบต. นวก.การเงินและการบัญชี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางไทร และอาจารย์ ที่รับผิดชอบการจัดกิจกรรมของเด็ก 2 คน และมี อ.สุธรรม แก้วประดิษฐ์ ซึ่งได้รับเชิญมาเป็นผู้จัดหลักสูตรพัฒนาแผนชีวิตพิชิตหนี้ ของโครงการ ผลสรุปสำคัญมีดังนี้ 1. ผู้เข้าร่วมประชุมมีความดข้าใจและมีส่วนร่วมในการประชุมอย่างดี 2. ภาคีเครือข่าย จาก โรงเรียนวัดบ้างไทร และอบต.บางศาลา มีความพร้อม และมีส่วนร่วมในการสนับสนุน โดย ผอ.รร.วัดบางไทร สนับสนุน อาคาร สถานที่ และการประชุม การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ และ ให้มีเด้กนักเรียนชั้น ม1-ม3เข้าร่วมโครงการต่อเนื่อง 30 คน 3. นายกอบต.บางศาลา สนับสนุนด้สนวัสดุที่สามารถสนับสนุนได้ รถยนต์ในการเข้าร่วมประชุม และ ทีมวิชาการ ในการช่วยเหลือในการพัฒนาแผนชีวิตพิชิตหนี้ 4. สรุปเรื่องการเรียนแผนชีวิตพิชิตหนี้ 6 ครั้ง เรียนที่ รร.วัดบางไทร ทุกวันศุกร์ จัดครั้งแรก ทั้ง วัน  ครั้งต่อไป จัดเวลา เวลา 13.00-16.30
5. มติที่ประชุม กรรมการสภาชุมชน ร่วมประชุมกันทุกวันที่ 5 ของเดือน ช่วงบ่าย  

กรรมการโครงการบ้านบางไทร 15 คน และภาคีเครือข่าย 5 คน

ไม่มี

ไม่มี

ให้บันทึกรายงานการประชุมแนบ เพื่อเป็นหลักฐาน เนื่องจากมีภาคีเครือข่ายร่วมประชุมด้วย

จัดเวทีชี้แจงกิจกรรมของโครงการ แก่ชาวบ้านบางไทรโดยเน้นแนวคิดหลัหบางไทรเกษตรอินทรีย์ คนเปลี่ยนคิด ชีวิตหมดหนี้ โดยเชิญผู้มีส่วนผลักดันชุมชนมาร่วมประชุมด้วยพร้อมรับผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน50ราย และทำข้อตกลง ในการเข้าร่วมโครงการต่อเนี่อง

ชุมชนรับทราบที่มาที่ไปของงบประมาณและกิจกรรมที่ต้องร่วมกันดำเนินการตามที่ตั้งไว้ และเมื่อประชุมแล้วมีจำนวนคนทำงานและวัยเรียนมีการตอบรับที่จะร่วมเรียนรู้โดยที่จะมีส่วนร่วมกันและจะทำแปลงผักประมาณ จำนวน 10แปลงและจะมีการร่วมกับการร่วมกันลงแขกตามแปลง และเรียนรู้กิจกรรมต่าง ๆ

วัยทำงาน 20 คนวัยเรียน20วัยสูงอายุ10 คน และภาคี 4 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1.ร่วมประชุมชี้แจงเรื่องรายละเอียดกิจกรรมโครงการแก่ชาวบางไทร 2. สังเกตการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนด้านแนวคิด วิชาการแก่โครงการ 3. ช่วยชี้แนะระเบียบ เทคนิกการทำกิจกรรม และให้กำลังใจ

1.ร่วมประชุมชี้แจงเรื่องรายละเอียดกิจกรรมโครงการแก่ชาวบางไทร โดยเน้นการชี้แจงกิจกรรมออกมาเป็นปฏิทินโครงการ
2. สังเกตการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนด้านแนวคิด วิชาการแก่โครงการ พบว่า ครู นักเรียน ให้ความร่วมมือและเข้าร่วมโครงการโดยเพิ่มเป็นหลักสูัตรเศรษฐกิจพอเพียงในคาบว่างแก่เด้กที่ร่วมโครงการ จำนวน 30 คนด้วย ส่วนแกนนำที่เข้าร่วมโครงการให้ความสนใจ 3. ช่วยชี้แนะระเบียบ เทคนิกการทำกิจกรรม และให้กำลังใจ พบว่าโครงการยังเชื่อมโยงกิจกรรมแต่ละกิจกรรมไม่ได้ ชี้แนะโดยการยกตัวอย่างชุมชนที่ประสบความสำเร็จ โดยอ.สุธรรม แก้วประดิษฐ์ ร่วมเพิ่มเติมข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจ

แกนนำโครงการ นักเรียน 50 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

สภาผู้นำ ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2 เดือน เพื่อวางแผนการจัดกิจกรรมตามแผนงานในการจัดประชุมชี้แจงโครงการแก่ชาวบ้านในหมู่2 รับทราบ เกี่ยวกับรายละเอียดวิธีดำเนินโครงการ  งบประมาณ และการมีส่วนร่วมในโครงการของครัวเรือน ของกรรมการ และภาคีเครือข่ายในชุมชน โดยแบ่งงานที่รับผิดชอบให้แก่กรรมการโครงการ ทั้ง 15 คนร่วมไปจัดการตามความสามารถและความเหมาะสม

สภาผู้นำ ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 58 โดยมีข้อสรุปการประชุมดังนี้

1. ได้รวมกับกรรมการทั้งหมด15คนภาคภาคี5คน
2. ได้มีการวางแผนการประชุมคณะกรรมการ
3. ได้ชี้แจงโครงการและรับทราบที่มาของงบประมาณและกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ
4. กำหนดการประชุมแผนปฏิทินกิจกรรมของสภาผู้นำให้สอดคล้องกับการดำเนินกิจกรรมได้ตามแผน

กรรมการโครงการและสภาชุมชน วัยทำงาน 10คนผู้สูงอายุ5คน

มีบ้างเล็กน้อยฝนตกๆ

ไม่มี

ไม่มี

1.สภาผู้นำ ประชุมคณะกรรมการเดือนละ 1 ครั้ง  โดยครั้งแรกมีการคัดเลือกและแต่งตั้งกรรมการและบทบาทหน้าที่ เพื่อวางแผนการจัดกิจกรรมตามแผนงานในโครงการอย่างน้อย 10 คน และเชิญภาคีเครือข่ายในชุมชน อีก 5 คน ร่วมประชุม และติดตามประเมินผลและสรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมของโครงการจำนวน 12  ครั้ง

ผลสรุปในการประชุมครั้งที่ มีดังนี้

1. ประชุมสภาผู้นำ คณะกรรมการโดยมีการประชุมครั้งแรกเพื่อคัดเลือกแต่งตั้งคณะกรรมการ
   
2. ได้รวมประชุมกับกรรมการทั้งหมด15คนและเจ้าหน้าที่อบต.เข้าร่วมด้วย
3. ได้ประชุมชี้แจ้งโครงการกิจกรรมต่าง ๆและงบประมาณของโครงการให้คณะกรรมการทราบ
4. ได้หมอบหมายงานให้คณะกรรมการช่วยกันทำงานและว่างแผนการดำเนินการของกิจกรรม
5. คณะกรรมการมีบทบาทหน้าที่เพื่อวางแผนการจัดกิจกรรมตามแผนโครงการ
6. วางแผนร่วมประชุมและติดตามประเมินผลและสรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมโครงการ

กรรมการโครงการ15คน ภาคีเครือข่ายในชุมชน5คน

ฝนจะตกตลอดช่วงนี้มีปัญหาเล็กน้อย

ไม่มี

ไม่ม่

ผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้บันทึกข้อมูลโครงการ และพี่เลี้ยงโครงการ  เข้าร่วมปฐมนิเทศเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม การลงบันทึกข้อมูล การรวบรวมหลักฐานและการวางแผนการประชุมก่อนจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง พร้อมทั้งชี้แจงระเบียบการดำเนินโครงการตามข้อตกลงและสัญญาโครงการที่สสส.อนุมัติ โดยมีกิจกรรมดังนี้ วันที่ 1 ทีมสนับสนุนวิชาการร่วมชี้แจงข้อตกลง ระเบียบ การดำเนินการด้านเอกสาร การเงิน การทำบัญชี และการบันทึกข้อมูลบนเวบไขต์ วันที่ 2 ให้ทีมโครงการฝึกทำลงข้อมูลจริง และมีพี่เลี้ยงโครงการคอยให้การช่วยเหลือแนะนำ

ผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้บันทึกข้อมูลโครงการ และพี่เลี้ยงโครงการ  เข้าร่วมปฐมนิเทศเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม การลงบันทึกข้อมูล การรวบรวมหลักฐานและการวางแผนการประชุมก่อนจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง พร้อมทั้งชี้แจงระเบียบการดำเนินโครงการตามข้อตกลงและสัญญาโครงการที่สสส.อนุมัติ โดยมีกิจกรรมดังนี้ วันที่ 1 ทีมสนับสนุนวิชาการร่วมชี้แจงข้อตกลง ระเบียบ การดำเนินการด้านเอกสาร การเงิน การทำบัญชี และการบันทึกข้อมูลบนเวบไขต์ วันที่ 2 ให้ทีมโครงการฝึกทำลงข้อมูลจริง และมีพี่เลี้ยงโครงการคอยให้การช่วยเหลือแนะนำ ผลสรุปสำคัญมีดังนี้ 1. ทีมงานมีความพร้อมและรับผิดชอบในการร่วมกิจกรรมตามแผนครบ 2. ทีมงานมีความเข้าใจและสามารถบันทึกข้อมูลโครงการ 3. ทีมงานยังเชื่อมโยงแผนงานจริงกะการลงบันทึกปฏิทินไม่เท่าที่ควร

ผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้บันทึกข้อมูลโครงการ และพี่เลี้ยงโครงการ

การเชื่อมต่อไวไฟ ไม่ต่อเนื่อง

ไม่มี

การวางแผนการประชุมวันเวลาในการจัดกิจกรรม

อบรมการรายงานทางเวบไซต์ การบันทึกข้อมูล เข้าร่วมปฐมนิเทศเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม การลงบันทึกข้อมูล การรวบรวมหลักฐานและการวางแผนการประชุมก่อนจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง พร้อมทั้งชี้แจงระเบียบการดำเนินโครงการตามข้อตกลงและสัญญาโครงการที่สสส.อนุมัติ

ผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้บันทึกข้อมูลโครงการ และพี่เลี้ยงโครงการเข้าร่วมปฐมนิเทศเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม การลงบันทึกข้อมูล การรวบรวมหลักฐานและการวางแผนการประชุมก่อนจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง พร้อมทั้งชี้แจงระเบียบการดำเนินโครงการตามข้อตกลงและสัญญาโครงการที่สสส.อนุมัติ
ผลสรุปจากการจัดกิจกรรม พบว่า 1. ทีมโครงการมีความรับผิดชอบ และเข้าร่วมกิจกรรมตามแผน 2. ทีมโครงการมีความรู้ความเข้าใจพอสมควร 3. การลงมือปฏิบัติจริงทำได้พอสมควร มีบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ และพี่เลี้ยงจะคอยสนับสนุนในพื้นที่ต่อไป

ผู้รับผิดชอบโครงการ  และผู้บันทึกข้อมูล

ระบบสัญญาอินเตอร์เน็ตจากมือถือใช้ไม่ดี

ควรจะมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ดี

ให้สัญญาณอินเตอร์เน็ตให้ดี