คนสร้างสุข

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการจำนวน 3 คน

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการจำนวน 3 คน ร่วมจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ ได้รายงานฉบับสมบูรณ์เพื่อให้ สจรส.ม.อ.ตรวจปิดโครงการ

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการจำนวน 3 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

นัดประชุมและสาธิตการทำน้ำหมักชีวภาพ วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ 3 สูตร 1.สูตรผลไม้ 2.สูตรผัก 3.สูตรสัตว์
วิธีการ -ประชุมเชิงวิชาการและปฎิบัติการ สูตรการทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อให้ทราบส่วนผสมของน้ำหมัก -แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการจัดหาจัดซื่อวัตถุดิบส่วนผสมของน้ำหมัก -จัดเตรียมสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ในการสาธิตการทำน้ำหมัก วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1. ถังขนาด 200ลิตร จำนวน 6 ลูก 2. กากน้ำตาล 3. เศษผลไม้/เศษผัก 4. สารพด.2 -นัดสมาชิกมากวนน้ำหมักทุกๆ 7 วัน (มีการจัดเวรสลับกันรับผิดชอบ และจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงของน้ำหมัก)

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการออกเยี่ยมสมาชิกกลุ่มเป้าหมายที่ทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ จากที่ครั้งที่แล้วที่ได้นัดกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ และสาธิตการทำ ทุกคนจึงนำความรู้ที่ได้รับจากการที่ได้มาเรียนรู้ร่วมนำไปปฎิบัติที่บ้านของตนเอง เช่นบ้าน นายประดิษฐ เนาวพันธ์ บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่3 ตำบลดุสิต มีองค์ความรู้ในการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพเป็นอย่างดี และรู้วิธีใช้กับพืชผักต่างๆ และยังทำน้ำหมักใล่แมลงแนะนำให้สมาชิกในกลุมทำใช้กับพืชผักใช้ได้ผลดีปลอดสารพิษ

เด็กวัยเรียน 20 คน วัยทำงาน 30 คน ผู้สูงอายุ 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ร่วมกิจกรรม ของ สสส. สจรส.มอ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์( หาดใหญ่) - การจัดการงานวิจัยเชิงระบบและเชิงนโยบาย - การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพ - การบูรณาการองค์ความรู้และพัฒนาศักภาพบุคลากร และร่วมจัดงานนิทรรศการ

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน ร่วมเดินทางจาก อำเภอภ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงหอประชุมนานาชาติ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมงานสร้างสุขภาคใต้ โดยสถาบันการจัดการระบบสุขภาพ สจรส.ม.อ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ การจัดการงานวิจัยเชิงระบบและเชิงนโยบาย การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพ การบูรณาการองค์ความรู้ และพัฒนาศักภาพบุคลากรภายในงานมีการจัดบูธนิทรรศการ ของอำเภอต่างๆทั่วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ มีหลากหลายที่น่าสนใจ เช่นฝ่ายมีชีวิต การทำนาข้าว และสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของแต่ละชุมชน

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน

ไม่มี

-ไม่มี

-ไม่มี

ส่งเอกสารรายงานให้ สจรส.มอ.ตรวจ และแก้ไขความถูกต้อง

คฌะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการจำนวน 2 คน ส่งเอกสารรายงานให้ สจรส.มอ.ตรวจ และแก้ไขความถูกต้อง ได้รับคำแนะนำให้ปรับแก้เอกสาร จัดทำเป็นชุดกิจกรรม ก่อนส่งรายงานให้ สจรส.ม.อ.ตรวจอีกครั้ง

คฌะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการจำนวน 2 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

1. ผู้รับผิดชอบโครงการร่วมกับคณะกรรมการ จัดทำรายงานผลการดำเนินงาน งวดงานที่ 2 มีพี่เลี้ยงช่วยตรวจสอบรายงานและหลักฐานการเบิกจ่าย ได้ส่งมอบเอกสารให้ทีมงานจาก สจรส.มอ. ตรวจสอบเอกสารอีกครั้ง
   
2. วางแผนการจัดทำกิจกรรมสุดท้ายในวันที่ 3-5 ตุลาคม 2559 การเข้าร่วมงานคนใต้สร้างสุข
   
3. นัดจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์และปิดงวดงาน ส่งเอกสารให้ สสส วันที่ 15 - 16 ตุลาคม 2559

1. ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้ส่งมอบเอกสารให้ทีมงานจาก สจรส.มอ. ตรวจสอบเอกสาร
   
2. ได้จำนวนคนเข้าร่วมงานคนใต้สร้างสุข
   
3. นัดจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์และปิดงวดงาน วันที่ 15 - 16 ตุลาคม 2559

คณะกรรมการโครงการ

-

-

-

สัมภาษณ์และสนทนากลุ่มกับกลุ่มผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน แกนนำเกษตรกร และแกนนำเด็กและเยาวชน จากนั้นลงพื้นที่ติดตามผลในแปลงตัวอย่าง บ้านตัวอย่างการปลูกพืชผักในสวนยางพารา

ผลการดำเนนิงานได้ตามวัตถุประสงค์ มีผลการดำเนินงาน ดังนี้ 1. เกิดการเรียนรู้เรื่องการจัดการพื้นที่ว่างในสวนยางพารา สร้างรายได้ ลดหนี้ ด้วยการปลูกพืชผักระหว่างร่องยางยางพารา ได้แก่่ ข้าวโพด พริก ตะไคร้ มะเขือ เป็นต้น 2. เกิดการรวมกลุ่มของชาวบ้านเพิ่มมากขึ้น พบว่าชาวบ้านได้ร่วมกันทำงานเพื่อหมู่บ้านมากขึ้น
3. ผู้รับผิดชอบโครงการได้ใช้กลยุทธ์การลงแขกตามละแวกบ้าน จัดสรรงบให้เจ้าของบ้านเป็นผู้จัดการดูแลให้เพื่อนบ้านได้เรียนรู้ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์
4. มีผู้ใหญ่เป็นแกนนำสำคัญ และมีกำนันเป็นผู้สนับสนุนการดำเนินงานในโครงการอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มเป้าหมายและคณะกรรมการโครงาการ

-

-

-

รวบรวมเอกสารกิจกรรมโครงการทั้งหมด

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครการจำนวน 3 คน ร่วมกันจัดทำรายงานเตรียมเอกสาร ภาพถ่าย ใบสำคัญรับเงิน รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม เหื่อส่งรายงาน

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครการจำนวน 3 คน

-

-

-

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ 3 คน จัดเตรียมเอกสาร และภาพถ่ายกิจกรรม จัดทำรายงานกิจกรรมที่ทำมาทั้งหมดเพื่อให้คณะพี่เลี้ยงที่รับผิดชอบ ตรวจ เช่น ใบลงทะเบียนใบสำคัญรับเงิน แบบสรุปรายงานการใช้เงิน

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ 3 คน ร่วมกันจัดเอกสารสรุปการดำเดินงาน ลงรายงานในเว็บไซต์ และลงภาพถ่ายกิจกรรม

คณะกรรมการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ร่วมกันสรุปผลการดำเนินกิจกรรมตลอดทั้งโครงการ ว่าแต่ละกิจกรรมเป็นไปตามแผนหรือไม่  มีปัญหาอุปสรรคและต้องปรับปรุงการดำเนินงานอะไรบ้างและสุดท้ายแล้วเราได้อะไรบ้าง

เกิดกลุ่มสภาผู้นำชุมชน 1 กลุ่ม ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมโครงการและร่วมกันคิดวางแผนในการพัฒนาชุมชนทำให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆเพิ่มมากขึ้นมีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทำกิจกรรมโครงการเช่น การใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์มีการปลูกข้าวไร่ การปลูกพืชผักสวนครัวโดยใช้น้ำหมักปุ๋ยหมักชีวภาพแทนใช้สารเคมีทำให้ครัวเรือนมีพืชผักปลอดสารพิษบริโภคในครัวเรือนและมีการรวมกลุ่มกันเพื่อนำผลผผลิตไปแปรรูปและจำหนา่ยสร้างรายได้ให้ครัวเรือน จากการเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือนทำให้คนในชุมชนรู้จักการทำบัญชีครัวเรือนทำให้รู้จักการประหยัดอดออมมากขึ้น มีการวางแผนการดำเนินชีวิต ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ในครัวเรือน ได้เกิดกลุ่มใหม่ขึ้นมาในชุมชนอีกหนึ่งกลุ่มคือกลุ่มผลิดเครื่องแกง ได้เห็นว่าหลายคนได้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมกันอย่างมีความสุข บดเครื่องแกง หุงข้าว ทำแกงเพื่อลองเครื่องที่บดใหม่ว่ารดชาดเป็นอย่างไร ใครมีผักเอาผักมา ใครมีปลาเอามาแล้วแกงกินข้าวร่วมกันสนุกทุกครั้ง มีการนัดบดเครื่องอาทิตย์ละครั้ง บดครั้งละ30-40 ก.ก.ซึ่งนำวัตถุดิที่ปลูกเองในชุมชนมาเป็นส่วนผสม เช่นดีปลีสดดีปลีแห้ง ข่า ตะไคร้ ขมิ้น ทำให้คนในชุมชนได้นำมาขายให้กับกลุ่ม สำหรับส่วนผสมอื่นที่ที่ไม่มีในชุมชนตอนนี้ทางคณะกรรมการกลุ่มสั้งซื้อของมาจากตลาดหัวอิฐ เช่น พริกไทยดำ กระเทียมเล็ก กระเทียมใหญ่ เห็นว่าหลายคนที่ไม่เคยเข้ามาร่วมทำกิจกรรมตอนนี้กลับกลายเข้ามามีส่วนร่วมทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆอย่างมีความสุข

วัยทำงาน 34 คน

-

-

-

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกลุ่มต่างๆ   กลุ่มที่ 1 กลุ่มข้าวไร่   กลุ่มที่ 2 กลุ่มพืชผักสวนครัว   กลุ่มที่ 3 กลุ่มน้ำหมักและปุ๋ยหมักชีวภาพ   กลุ่มที่ 4 กลุ่มทำขนมและน้ำยาอเนกประสงค์

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกลุ่มต่างๆ   กลุ่มที่ 1 กลุ่มข้าวไร่ เกิดจากวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และการมีส่วนร่วมพัฒนาพื้นที่ว่างในแปลงยางพาราและปาล์มน้ำมันให้เกิดประโยชน์เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว จากการลงพื่นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้พบว่าในชุมชนมีการทำข้าวไร่มีประมาณ 20 ครัวเรือน มีเนื้อที่เพราะปลูกในแปลงยางพาราและปาล์มน้ำมันประมาณ 150 ไร่ ทำให้คนในชุมชนมีข้าวปลอดสารพิษใว้บริโภคในครัวเรือนและเหลือได้จำหน่าสร้างรายได้ให้เกิดครัวเรือน นอกจากนี้มีการนำผลผลิตจากเข้าไร่มาแปรรูปเป็นข้าวเม่า ข้าวหลาม สามารถสร้างรายได้ให้ครัวเรือน จากการร่วมกันถอดทบเรียนสรุปได้ว่าคนในชุมชนยังมีความต้องการบริโภคข้าวไร่แต่ข้าวไร่ยังมีปริมาณไม่เพียงพอ จึงมีการวางแผนที่จะขยายพื้นที่การทำข้าวไร่ให้มากขึ้น   กลุ่มที่ 2 กลุ่มพืชผักสวนครัว เกิดจากวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และการมีส่วนร่วมพัฒนาพื้นที่ว่างในแปลงยางพาราและปาล์มน้ำมันให้เกิดประโยชน์เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว  จากการลงพื่นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้พบว่าครัวเรือนในชุมชนหมู่ที่ 3 มีจำนวน 117 ครัวเรือนมีการปลูกพืชผักสวนครัวไม่ต่ำกว่า 10 ชนิดต่อครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 90 ที่มีพืชผักบริโภคในครัวเรือน มีการร่วมกลุ่มกันผลิตเครื่องแกงโดยการนำผลผลิตที่มีในชุมชนเช่น พริกสด  ขา ตะใคร้ ขมิ้น กระชายมาเป็นส่วนผสมในการผลิตเครืองแกง สามารถสร้างรายได้และลดรายจ่ายให้ครัวเรือน   กลุ่มที่ 3 กลุ่มน้ำหมักและปุ๋ยหมักชีวภาพเกิดจากวัตถุประสงค์เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนจากการลงพื่นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้พบว่าในชุมชนมีพื้นที่เพราะปลูกเช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน พืชผักต่างๆ มีการใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ชึ่งทำใหมีค่าใช้จ่ายในการลงต้นทุนสูง จึงทำให้มีการรวมกลุ่มเพื่อเรียนรู้วิธีการลดต้นทุนการผลิตโดยการร่วมกลุ่มกันทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ในการทำการเพราะปลูกซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตให้ครัวเรือนได้เป็นจำนวนมาก มีการตั้งกลุ่มผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพมีการแต่งตั้งกรรมการกลุ่มในการบริหารจัดการ  มีการวางกฎระเบียบ มีการเปิดรับสมาชิกและมีการลงหุ้นและมีการจำหน่ายปุ๋ยมีการปันผลคืนให้แก่สมาชิก   กลุ่มที่ 4 กลุ่มทำขนมและน้ำยาอเนกประสงค์เกิดจากวัตถุประสงค์เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนจากการลงพื่นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้พบว่ามีการตั้งกลุ่มเพื่อผลิตขนม มีการนำผลผลิตในชุมชนเช่น กล้วย มันเทศ มาแปรรูปสามารถสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือน

สภาเด็กและเยาวชน 20 คน วัยทำงาน 65 คน ผู้สูงอายุ 25 คน

-

-

-

  สภาผู้นำและคณะกรรมการหมู่บ้านร่วมติดตามประมวลผลตามบ้านและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแปลงผัก ลงติดตามผลตามบ้านพร้อมเก็บข้อมูล

จากการที่สภาผู้นำและคณะกรรมการหมู่บ้านร่วมติดตามประมวลผลตามบ้านและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแปลงผัก ลงติดตามผลตามบ้านพร้อมเก็บข้อมูล พบว่าคนในชุมชนเริ่มมีความเข้าใจในกระบวนการพัฒนาชุมชนแบบยังยืนและการทำบัญชีครัวเรืองรายรับรายจ่ายหลังจากเข้าร่วมทำกิจกรรมของโครงการที่มีการจัดเวทีแลกแปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินชีวิต เช่น การลดการสูบบุหรี่ การลดต้นทุนการผลิตที่มีต้นทุนสูงคือมีการใช้ปุ๋ยหมักแทนการใช้ปุ๋ยเคมี ทางชุมชนมีการขับเคลือนการดำเนินงานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ปราชณ์ชาวบ้าน สภาผู้นำชุมชน องค์กรภาคีเครือข่าย มาสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่คนในชุมชน เช่น การลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้ การประหยัด การดำเนินชีวิต การอนุรักษ์ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้คนในชุมชนพออยู่พอกิน

เด็กวัยเรียน 10 คน วัยทำงาน 46 คน สภาผู้นำชุมชน 10 คน

-

-

-

สภาผู้นำและคณะประธานกลุ่มบ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านร่วมกันติดตามประเมินผมตามบ้าน เป็นการแลกเปี่ยนเรียนรู้ในแปลงพืชผัก และติดตามการทำบัญชีครัวเรือน การทำน้ำยาอเนกประสงค์ การทำสบู่สมุนไพร และการทำน้ำหมักชีวภาพ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน  รายละเอียดขั้นตอนปฎิบัติจริง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแปลงปลูกพืชผัก ผลจากการเรียนรู้ประชาชนในชุมชนในกลุ่มเป้าหมายที่เข่าร่วม มีความเข้าใจและสามารถอธิบายในขั้นตอนการปลูกพืชผักได้ ในขั้นตอนการเตรียมดินและการนำน้ำหมักชีภาพและปุ๋ยหมักชีวภาพมาใช้  การขยายพันธ์ รายละเอียดขั้นตอนการติดตามการทำบัญชีครัวเรือนพบว่าหลายคนในกลุ่มเป้าหมายได้ลองทำบัญชีครัวเรือนเพื่อวางแผนการใช้จ่าย เพื่่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง ทุกคนในกลุ่มให้ความร่วมมือดี ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแสดงความคิดเห็น

เด็กวัยเรียนจำนวน 10 คน วัยทำงานจำนวน 46 คน คณะกรรมการหมู่บ้านจำนวน 10 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

จากการทำกิจกรรมโครงการทำให้เกิดกลุ่มต่างๆในหมู่บ้าน และคนในชุมชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตเช่น การใช้จ่าย การใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี มีการใช้ลดลง และคนในชุมชนมีสุขภาวะที่ดีในหลายๆด้าน  คณะกรรมการประชุมสรุปผลการทำกิจกรรมเพื่อสรุปโครงการในกิจกรรมครั้งต่อไป

คณะกรรรมการร่วมกันสรุปผลการดำเนินงานและนำข้อสรุปไปเสนอที่ประชุม

จำนวน 22 คน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยสอบต.หัวหน้าเขตบ้านผู้ทรงคุณวุฒิ ประธานสภาเด็กและเยาวชน

-

-

-

แบ่งหมวดการเรียนรู้ออกเป็น 3 หมวดคือ
หมวดที่ 1  เรียนรู้การเตรียมดิน
หมวดที่ 2  การใช้น้ำหมักและปุ๋ยชีวภาพ
หมวดที่ 3  นำเมล็ดพันธุ์พืชและพันธุ์ช้าวไร่มาให้ผู้ร่วมประชุมดู
   

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้การเตรียมดิน การปลูกข้าวไร่ โดย นายเขียว รักษา ผู้ที่มีประสบค์การในการทำข้าวไร่ให้ผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับประสบค์การในการทำข้าวไร่ทั่ประสบค์ความสำเร็จซึ่งทำให้ภายในครัวเรืองของนายเขียว รักษา ไม่ต้องซื่อข้าวสารจากท้องตลาดมาบริโภค ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของตนเองได้เป็นจำนวนมากและในแต่ละปีจะมีการขัดแยกเมล็ดพันธุ์เพื่อการเพาระปลูกในปีต่อไปโดยไม่ต้องเสียจ่ายใช้จ่ายในการซือเมล็ดพันธุ์

เนื่องจากนายเขียวรักษาเป็นประธานชมรมผู้สูงอายุ เขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพพรรณราชลเขต สามารถพูดชักชวนเพื่อนบ้านให้เปลี่ยนแปลงแนวคิดเกี่ยวกับการทำข้าวไร่ในพื้นที่ว่างในแปลงยางพาราและปาล์มน้ำมันกันใากขึ้น เรียนรู้การใช้น้ำหมักและปุ๋ยชีวภาพโดย นาย ไพศิลป์ สุขเกิด ซึ่งเป็นประธานปุ๋ยหมักชีวภาพ ได้อธิบายถึงคุณค่าของน้ำหมักและปู๋ยหมักที่สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ดี

เด็กวัยเรียน 20 คน วัยทงาน 60 คน ผู้สูงอายุ 20 คน สภาผู้นำชุมชน 20 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

แบ่งกลุ่มคณะกรรมการสำรวจการปลูกผักสวนครัวแต่ละครัวเรือน จำนวน 117 ครัวเรือน  แบ่งกลุ่มคณะกรรมการ จำนวน 5  กลุ่มๆ 3 คนใช้ระยะเวลา 3 วัน

จากการลงพื้นที่สำรวจการปลูกผักตามบ้านพบว่าส่วนใหญ่มีการปลูกผักเกือบทุกหลังคาเรือนคิดเป็นร้อยละ 90 โดยที่ครัวเรือนมีการปลูกผักสวนครัวมากกว่า 10 ชนิดและมีการประชุมวางแผนการทำกิจกรรมครั้งต่อไปโดยให้แต่ละกลุ่มมาประชุมสรุปผลการทำกิจกรรมตลอดทั้งปีเพื่อถอดบทเรียน

จำนวน 22 คน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย สอบต. หัวหน้าเขตบ้าน ผู้ทรงคุณวุฒิ ประธานสภาเด็กและเยาวชน

-

-

-

ลงพื้นที่เรียนรู้ในแปลงยางพาราของนาง วาสนา  รักษา (จำนวน 12 ไร่)  เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในการทำข้าวไร่ ในแปลงยางพารา โดยเรียนรู้วิธีการเตรียมดิน การเลือกพันธุ์ข้าวและวิธีการปลูกข้าวโดยวิธีการหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว 

กลุ่มเป้าหมายได้รู้วิธีการและขั้นตอนการปลูกข้างไร่ ซึ่งข้าวไร่ได้ปลูกแซมในร่องสวนยางพารา ข้อดี คือ ประหยัดน้ำ มีความทนทาน เป็นข้าวพันธุ์พื้นบ้าน ปลอดภัย ไม่ใช้สารเคมีในการปลูก

กลุ่มเป้าหมายเด็กวัยเรียน วัยทำงาน ผู้สูงอายุ ผู้นำชุมชน ปราชณ์ชาวบ้าน

-

-

-

เรียนรู้บ้านตัวอย่าง ที่มีการปลูกกล้วยหอมทอง ผักสวนครัว ข้าวไร่ และการเลี้ยงสัตว์  โดยใช้น้ำหมัก ปุ๋ยหมักชีวภาพที่ผลิตขึ้นเองใช้ในการทำการเกษตรทำให้ผลผลิตที่ได้เป็นผลผลิตที่ปลอดสารพิษ และเพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน

คณะกรรมการได้วางแผนการแบ่งกลุ่มเพื่อลงพื้นที่สำรวจการปลูกผักในกิจกรรมต่อไป

ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย อบต. ประธานกลุ่ม อสม. กลุ่มผู้สูงอายุ คณะกรรมการหมู่บ้าน

-

-

-

09.30-10.00 น. ประชุมแบ่งกลุ่มออกเป็น 2  กลุ่มๆละ 50 คน พร้อมลงทะเบียนและรับอาหารว่างลงพื่นที่บ้านตัวอย่างจำนวน 2 ครัวเรือน  โดยมีการแยกกลุ่มกันลงตามบ้านเป็น 2 กลุ่มคือตอนเช้าลงบ้าน นางแย้ม  คงศรีรัตน์ 1 กลุ่ม  บ้านนายประเสริฐ    ชุมมี 1 กลุ่ม 12.00-13.00 น.    รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน 13.00-15.00 น.    ทำการสลับเปลี่ยนตามฐานการเรียนรู้ 15.00-16.00น.    มาสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกันพร้อมรับประทานอาหารว่าง

ฐานที่ 1. บ้านนาง แย้มคง  ศรีรัตน์ เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชผักสวนครัวเช่น มะนาวในปล่องซีเม้นจำนวน 30 ปล่อง  กล้วย
ฐานที่ 2. บ้านนาย ประเสริฐ  ชุมมี  เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชผักผลไม้บริเวณบ้านและการเลี้ยงสัตว์เพื่อการบริโภคในครัวเรือน มีขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด มีไข่ให้บริโภคในครัวเรือนทุกวันและมีการปลูกผักเขลียงจำนวน 400 พุ่มรวมกับพืชชนิดอื่นๆในเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่และเรียนรู้การขยายพันธุ์เขลียงโดยวิธีการชำกิ่ง และมีการปลูกพริกไทยดำให้ขึ้นตามต้นไม้ที่มีอยู่แล้วในบริเวณบ้านแทนการทำค้าง มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตสามารถสร้างรายได้ให้ครัวเรือนต่อวันไม่ต่ำกว่า 200 บาท 

กลุ่มเป้าหมายเด็กวัยเรียน วัยทำงาน ผู้สูงอายุ

-

-

-

09.30-10.00 น. ประชุมแบ่งกลุ่มออกเป็น 2กลุ่มๆละ 50 คน พร้อมลงทะเบียนและรับอาหารว่างลงพื่นที่บ้านตัวอย่างจำนวน 2 ครัวเรือนโดยมีการแยกกลุ่มกันลงตามบ้านเป็น 2 กลุ่มคือตอนเช้าลงบ้าน นางเยาวศรีศรีธร 1 กลุ่มบ้านนายประดิษฐ์เนาวพันธ์ 1 กลุ่ม 12.00-13.00 น.รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน 13.00-15.00 น.ทำการสลับเปลี่ยนตามฐานการเรียนรู้ 15.00-16.00น. มาสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกันพร้อมรับประทานอาหารว่าง

ฐานที่ 1 บ้าน นางเยาวศรี  ศรีธร ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกผักสวนครัวบริเวณบ้านในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ โดยมีการปลูกผักสวนครัวไม่ต่ำกว่า 20 ชนิด เช่น ยอดแมะ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้ครัวเรือนต่อวันไม่ต่ำกว่า 200 บาท ฐานที่ 2 บ้านนายประดิษฐ์    เนาวพันธ์  ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชผักสวนครัวบริเวณบ้านในเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่โดยมีการปลูกผักสวนครัวไม่ต่ำกว่า 30 ชนิด มีการปลูกพืชผักผลไม้แบบผสมผสานและได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากนายประดิษฐ์    เนาวพันธ์ เกี่ยวกับการทำน้ำหมักชีวภาพและวิธีการใช้น้ำหมักชีวภาพ นอกจากนี้ได้มีการซักถามข้อส่งสัยในขั้นตอนการปลูกพืช การจัดการผลผลิตที่ได้รับ ทำให้เกิดรายได้ให้ครัวเรือนทุกวัน สรุป จากการลงเรียนรู้กับบ้านตัวอย่างที่มีการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงพอประมาณส่งผลให้ครัวเรือนไม่มีหนี้สินมีสุขภาวะที่ดีถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่มาเรียนรู้ เพื่อจะนำไปประยุกค์ใช้ในชีวิตของตนเองเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

กลุ่มเป้าหมายเด็กวัยเรียน 22 คน วัยทำงาน 68 คนผู้สูงอายุ 20 คน

-

-

-

ได้เชิญ ภาคีร่วม คือ พัฒนาชุมชน อำเภอถ้ำพรรณรามาให้ความรู้การทำบัญชีครัวเรือน และการทำอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว แบ่งกลุ่ม เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 50 คน ร่วมกันเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือน แบบใหม่คือการมาร่วมกันทำพร้อมกันของคนในครอบครัว แต่ละครอบครัวทำแล้วนำมาเสนอในที่เวทีเรียนรู้ และร่วมกันทำกติกาของครัวเรือนและมีกติกากลุ่ม คือ

1. ทุกครัวเรือนต้องลดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยได้อย่างน้อย 1-2 รายการ
   

2. มารวมกลุมกันทำน้ำยาเอนกประสงค์ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
   

3. ติดตามผลกันเองในกลุ่ม และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในกลุ่มต่อเนื่อง 4 ครั้ง

1.กลุ่มเป้าหมายที่มาร่วมเรียนรู้ได้เข้าใจขั้นตอนการทำบัญชีครัวเรือน ร้อยละ 80
2.ครอบครัวกลุ่มเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยได้ ร้อยละ 60

ชาวบ้านที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก

-

-

-

คณะกรรมการและผู้เข้าร่วมทั้ง 4 กลุ่ม ลงพื้นที่บ้านตัวอย่าง จำนวน 6 ครัวเรือน จำนวน 4 วัน โดยมีการสลับฐานการเรียนรู้กันจนครบทุกครัวเรือน

คณะกรรมการและผู้เข้าร่วมทั้ง 4 กลุ่ม ได้เรียนรู้วิถีการดำเนินชีวิตจากบ้านตัวอย่างเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้

วันที่ 1 จำนวน 2 ครัวเรือน ประกอบด้วยบ้านนาวเยาวศรีศรีธร เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชผักสวนครัว บ้านที่สองบ้านนายนายประดิษฐ์เนาวพันธ์ปลูกพืชผักสวนครัวบริเวณบ้านมีมากกว่า 30 ชนิด

วันที่ 2 จำนวน 2 ครัวเรือนประกอบด้วยบ้านนายประเสริฐชุมมีมีเรียนรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์เช่น เลี้ยงปลา เป็ด ไก่ เพื่อบริโภคในครัวเรือนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงสร้างรายได้ให้ครัวเรือนเช่น ผักเขลียง พริกไทยดำ อื่นๆบ้านที่สองบ้านนางแย้ม คงศรีรัตน์ รัตน์ เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชผักสวนครัวบริเวณบ้านและการปลูกมะนาวในท่อซีเม้นจำนวน 30 ลูก

วันที่ 3 จำนวน 1 ครัวเรือน คือบ้านนาย ไพศิลป์สุขเกิดเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกกล้วยหอมทองในพื้นที่ว่างในแปลงยางพารา ปลูกใหม่

วันที่ 4 จำนวน 1 ครัวเรือนคือบ้านนางวาสนา รักษา เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าวไร่ในพื้นที่ยางปลูกใหม่

จำนวน 22คน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ ผู้ช่วย 4 คน สอบต. 2 คน หัวหน้าเขตบ้าน 4 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน คณกรรมการสภาเด็กและเยาวชน 7 คน

-

-

-

ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะกรรมการร่วมกันสรุปผลลัพธ์ และเสนอนวัตกรรมจากผลการดำเนินงาน ร่วมแลกเปลี่ยนกับพื้นที่อื่นๆ นำข้อสรุปบันทึกในรายงาน

1. คณะกรรมการร่วมกันดำเนินงานได้ตามแผนงานที่กำหนด
   
2. มีนวัตกรรม "กล้วยรังนก" เกิดขึ้นจากความคิดของคณะกรรมการที่คิดจะแปรรูปผลิตภณฑ์ เพิ่มมูลค่าผลิตผล ได้เชิญ กศน. มาสอนให้ และผู้ร่วมโครงการทำได้ ส่งผลให้มีความสุข มีรายได้เพิ่ม
3. คณะกรรมการสามารถแก้ปัญหาได้ดี จากเหตุการณ์ที่ประชาชนมีภาระกิจการประกอบอาชีพประจำวัน ถ้าจะมารวมตัวกันเป็นจำนวนมากจะทำได้ยาก ดงันั้นเพื่อให้การจัดกิจกรรมเป็นไปตามแผน และประสบความสำเร็จตามที่เขียนไว้ คณะกรรมการจึงได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขึ้นตามกลุ่มบ้าน เป็นกลุ่มย่อย ครอบคลุมทั้งหมู่บ้าน เกิดผลดีต่อทุกฝ่าย เพราะทุกคนสะดวก ไม่ต้องเดินทางไกล สามารถนำทรัพยากรมาร่วมได้ง่าย มีการบริจาคสิ่งของมาร่วมทำกิจกรรมกันมากขึ้น อีกทั้งเกิดความรู้สึกว่าเป็นดครงการของทุกคน ตามกลุ่มบ้านตัวเอง

ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะกรรมการ

-

-

-

เรียนรู้เชิงวิชาการจากภาคีเครือข่าย กศน.ตำบลดุสิต ปราชณ์ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ประธารศุนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีตำบลดุสิต ได้ให้ความรู้เรื่องการทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ โดยนำวัสดุแกลบ ขี้วัว ซึ่งเป็นวัสดุที่หาได้ในชุมชน พร้อมทั้งสาธิตลงมือทำร่วมกัน

กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้ร่วมกันและนำความรู้ขั้นตอนการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ เริ่มตั้งแต่การผสมวัสดุ แกลบ ขี้วัว เมื่อผสมแล้ว นำมาหมักไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ ก่อนใส่กระสอบแบ่งให้สมาชิกนำไปใช้

เด็กวัยเรียน20 คน วัยทำงาน 44 คนผู้สูงอายุ 20 คน สภาผู้นำ 20คน

-

-

-

    จัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทำกิจกรรม และแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละกลุ่ม

ได้เกิดกลุ่มได้มีการวางกฎระเบียบกติกาภายในกลุ่มได้มีการจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อปฏิบัติประกอบด้วย มูลวัวมูลไก่มูลสุกรอย่างละ 50 กระสอบ คุยมะพร้าว 1 รถหกล้อและคณะกรรมการได้มีการวางแผนในการลงพื้นที่เรียนรู้บ้านตัวอย่างในกิจกรรมครั้งต่อไป

สมาชิกสภาผู้นำ

-

-

สรุปผลการทำน้ำหมักชีวภาพและวางแผนการทำปุ๋ยหมักชีวภาพในกิจกรรมครั้งต่อไป

คณะกรรมการทำแบบสรุปประชุมทำรายงานการลงพื้นที่ เพื่อติดตามผลการทำน้ำหมักและประชุมวางแผนการทำกิจกรรมทำปุ๋ยหมักชีวภาพ
- วางแผนเพื่อให้เกิดกลุ่มการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ - ให้มีการคัดเลือกคณะกรรมการกลุ่มการทำปุ๋ยหมักจำนวน 15 คน
- การแบ่งกลุ่มจำนวน 4 กลุ่มๆละ 25 คน - เครือข่ายภาคี กศน ตำบลดุสิตมาให้ความรู้ในการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ

ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ประธานกลุ่มผู้สูงอายุ ประธานกลุ่ม อสม. คณะกรรมการหมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 20 คน

-

-

ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงิน และหลักฐานการจัดกิจกรรม พร้อมดูความสมบูรณ์ของรายงานผลกิจกรรมในงวดที่ 1

เอกสารการเงินต้องกลับไปแก้ไขบ้างบางส่วน รายงานผลกิจกรรมบางกิจกรรมไม่สมบูรณ์ต้องปรับแก้เพิ่มเติม

ผู้รับผิดชอบโครงการ นายศิษธิพร ชุมมี ฝ่ายการเงิน นายชาญวิช คงศรีรัตน

-

-

-

เวลา 09.00 ทุกคนมารวมตัวกันที่ศาลาหมู่บ้านและลงทะเบียนเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพ เวลา 10.00. เปิดการประชุมเรียนรู้ร่วมกันจากปราชชาวบ้านในชุมชน นายประดิษฐ เนาวพันธิ ในการทำน้ำหมัก 3 สูตร
วัสดุอุปกรณ์ 1.ถังน้ำหมักที่มีฝาปิดสนิท ขนาด 60 ลิตร จำนวน 25 ถัง 2. กากน้ำตาล ขนาด 30 ลิตร 5ถัง 3.สาร พด. 2 4 .เศษผลไม้เศษผักหอยเชอรี่ปลา
เรียนรู้ร่วมกันแล้วลงมือปฏิบัติ เพื่อเป็นตัวอย่าง 1 ถัง วิธีทำ สูตรน้ำหมักชีวภาพจากเศษอาหาร 1.นำถังมาล้างทำทำความสะอาด 2 . นำเศษอาหารเศษผลไม้ เศษผักมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ 3. คลุกเคล้าผักผลไม้ที่สับเป็นชิ้นเล็กๆแล้ว จำนวน 3 กิโลกรัม ทิ้งไว้สักครู่4. เอากากน้ำตาล 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 10 ลิตร คนให้เข้ากัน 5 นำเศษผักผลไม้ที่เตรียมไว้ลงถังและเทกากน้ำตาลที่ละลายกับน้ำไว้แล้วไส่ลงถัง คนให้เข้ากัน ปิดฝาให้มิดชิด 7 วัน เปิดและใช้ไม้คนดูว่าย่อยสลายแล้วหรือไม่ เมื่อทุกคนเข้าใจแล้วจึงแบ่งกลุ่มกันรับผิดชอบ 2 ครัวเรือนต่อ1 ถัง แบ่งกากน้ำตาลให้ 5 ลิตรต่อ1 ถังพร้อม สาร พด. 2 และแจกเอกสารวิธีทำน้ำหมัก 3 สูตร โดยมีคณะกรรมการลงติดตามทุกๆ15 วัน

ได้เกิดกลุ่มทำน้ำหมักชีวภาพ 1 กลุ่ม ทุกคนเรียนรู้และนำไปปฏิบัติจริงได้ นัดแนะการทำงานต่อ และมีผู้ติดตามผลให้ทำ มีคณะกรรมการคอยช่วยให้ได้ทำทั้งหมู่บ้าน ผู้ใหญ่กำชับเรื่องการทำอย่างจริงจังเพื่อประโยชน์ของทุกคน

กลุ่มผู้นำชุมชน 6 คน กลุ่ม อสม. 14 คนกลุ่มสภาเด็กเยาวชน 8 คน กลุ่มผู้สูงอายุ 10 คน กลุ่มปลูกผัก 12 คน

-

-

-

เวลา 13.00 ประธานเปิดประชุม แจ้งที่ประชุมทราบเรื่องโครงการที่ทำกิจกรรมในหมู่บ้านและวางแผนในการทำกิจกรรมในครั้งต่อไปตามแผนที่วางไว้ นัดประชุมสาธิตการทำน้ำหมักชีวภาพ

คณะกรรมการได้ร่วมประชุม และวางแผนในการทำงาน เรื่องเตรียมกิจกรรมน้ำหมัก นัดประชุมสาธิตการทำน้ำหมักชีวภาพโดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้และแบ่งกลุ่ม 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน เรียนรู้การทำน้ำหมัก 3 สูตร วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ได้แก่ ถังขนาด 200 ลิตร จำนวน 6 ใบ กากน้ำตาล เศษผลไม้เศษผักของที่หาได้ในชุมชนมาร่วมกันเรียนรู้และแบ่งกลุ่มไปปฏิบัติในครั้งต่อไป

ผู้นำชุมขน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ส.อบต. ประธาน อสม. ประธานผู้สูงอายุ ประธานสภาเด็กและเยาวชน

-

-

-

เวลา 09.00 ทุกคนมาพร้อมกันที่ศาลาหมู่บ้าน นำวัสดุอุปกรณ์ที่จัดซื้อมาพร้อมกัน เวลา 10.00 คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ศรีวิชัย ทุ่งใหญ่ เดินทางมาถึงเริ่มการเรียนรู้การทำขนมกล้วยรังนก
ส่วนผสม1 .เนื้อกล้วยน้ำว้าดิบหั่นเป็นเส็้นเล็กๆ 400กรัม 2.น้ำตาลมะพร้าวตรามิตรผล150 กรัม 3.เกลือป่นเสริมไอโอดีน3 กรัม 4. น้ำมันปาล์มสำหรับทอด วิธีทำ 1.การเตรียมเนื้อกล้วยน้ำว้า ใช้กล้วยน้ำว้าดิบแก่จัด สดไม่เน่าเสีย ผลแข็งมีเปลือกสีเขียวทั้งหมด นำมาตัดขั้ว ล้างให้สะอาด ตัดหัวท้าย กรีดเปลือกตามความยาวของผลและเอาเปลือกออกให้หมด หั่นเป็นเส้นเล็กๆ
2. การทอด นำเนื้อกล้วยน้ำว้าที่หั่นเป็นเส้นเล็กๆ มาทอดในน้ำมันปาล์มร้อนประมาณ 1 นาที ใส่น้ำตาลมะพร้าวและเกลือลงไป คนให้เข้ากัน ทอดต่อจนกรอบแต่ไม่เกิน 10 นาที แล้วตักขึ้น 3. การทำขึ้นรูป นำกล้วยรังนกที่ตักขึ้นจากน้ำมันมาวางบนใบตอง แล้วใช้ช้อนส้อมหรืออุปกรณ์อื่นๆจัดเป็นรูปร่างและขนาดของกล้วยรังนกตามที่ต้องการ วางให้เย็น 4. การบรรจุเมื่อกล้วยรังนกมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภมิห้องให้บรรจุในภาชนะที่ป้องกันความชื้นและอากาศได้เพื่อชะลอการเหม็นและการชื้นของกล้วยรังนก

ทุกคนตั้งใจเรียนรู้และลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง ทุกคนทำได้เข้าใจขั้นตอนและวิธีทำเพราะมีพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว ผลจากการอบรมทำให้เกิดแรงบันดาลใจ และเห็นแนวทางในการสร้างอาชีพเสริมจึงเกิดกลุ่มทำขนมขึ้น 1 กลุ่ม

กลุ่ม อสม. ผู้นำชุมชน กลุ่มสตรี กลุ่มเยาวชน

-

-

-

1. อธิบายรายละเอียดสมุดบัญชีครัวเรีอนพร้อมซักถามข้อสงสัย
2. สาธิตการทำน้ำยาอเนกประสงค์พร้อมซักถามข้อสงสัย

1. ได้เรียนรู้วิธีการทำบัญชีครัวเรีอน
2. ได้เรียนรู้วิธีการทำน้ำยาอเนกประสงค์ โดยการทดลองปฏิบัติร่วมกับวิทยากร ด้วยวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้เข้าร่วมอบรมเห็นพ้องกันว่าสามารถมาร่วมกันทำ และแบ่งกันนำกลับไปใช้ที่บ้านได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ส่วนหนึ่ง

กลุ่มผู้สูงอายุกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มอสม. กลุ่มสภาเด็กและเยาวชน

-

-

-

เมื่อได้เวลาที่ได้กำหนด ทุกคนพร้อมกันที่ไร่ นางปราณีย์  สุดรัก บ้านเลขที่ 193    หมู่ที่ 3 ตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช เก็บข้าวไร่ในร่องปาล์มน้ำมัน จำนวน 7 ไร่ ช่วงเที่ยงพักกินข้าว และนั่งคุยวางแผนที่จะทำกิจกรรมต่างๆที่วางไว้ในโครงการและคุยวางแผนว่าจะขหายพื่นที่ปลูกข้าวไร่เพิ่มในปีต่อไป เวลา 16.00น  ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านเจ้าของไร่ได้เก็บผักที่ปลูกไว้ให้เป็นของฝากและกล่าวขอบคุณทุกคน

นางปราณีย์ สุดรัก ทำข้าวไร่ในร่องปาล์มน้ำมันด้วยวิธีหว่าน จำนวน 7 ไร่ พันธิ์ข้าวมะลิ 3 เดือน ได้ผลผลิตข้าวเปลือก ประมาณ 120 ถัง นอกจากนั้นยังปลูกผักสวนครัวในร่องปาล์มน้ำมัน หลากหลายชนิดไม่ต่ำกว่า 10 ชนิด เช่น พริก ตะไค้ร แส้ มะเขือ บวบ ข่า บอนหอม แหะ โหระพา มันขี้หนู บัวบก แมงลัก กระเพรา โดยปลูกดาวเรืองแซมเพื่อช่วยไล่แมลง นอกจากเก็บกินแล้วยังเก็บขายมีรายได้เข้าครอบครัวทุกวัน ไม่ต่ำกว่าวันละ 200-300 บาท เป็นตัวอย่างให้กับหลายคนที่สนใจ สรุปว่าทุกคนที่มาร่วมเก็บข้าวได้ศึกษาการปลูกผักในร่องปาล์มน้ำมัน จะได้นำความรู้ไปปฎิบัติ

กลุ่มทำข้าวไร่ 10 คน กลุ่มผู้สูงอายุ 12 คน กลุ่มผู้นำชุมชน 10 คน กลุ่มเด็กเยาวชน 3 คน

-

-

-

เวลา 09.30 ทุกคนเริ่มเดินทางมาเก็บข้าวไร่ของนางวรรณีโสดา บ้านเลขที่ 113/2 หมู่ที่ 3 ตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช เวลา 12.00 ทุกคนพักรับรับประธานอาหารร่วมกัน เวลา 13.00 ทุกคนเริ่มลงเก็บข้าวไร่ เวลา 16.00 นางวรรณี โสดา พูดขอบคุณทุกคนที่ได้มาช่วยกันเก็บข้าวไร่ในวันนี้ค่ะและได้นัดหมายลงแขกไร่คนถัดไป และแยกย้ายกันกลับบ้าน

นางวรรณี โสดา ทำข้าวไร่ในร่องยางพารา จำนวนพื้นที่ 15 ไร่พันธ์ข้าวชื่อพันธ์ข้าวดอกพยอมโดยวิธีหว่าน ระยะเวลาตั้งแต่หว่านจนถึงได้เก็บเกี่ยวใช้เวลา 4 เดือน นางวรรณี กับคนในครอบครัวเริ่มเก็บเกี่ยวมาหลายวันแล้วจึง นัดลงแขกให้เพื่อนๆได้มาช่วยเก็บข้าวไร่ในวันที่ 9 ธันวาคม พศ.2558
ผลผลิต ที่ได้ เป็นข้าวเปลือกประมาณ ไร่ละ 30ถัง พื้นที่จำนวน 15ไร่ได้ประมาณ 450ถังเปลือก สาเหตุที่ได้ผลผลิดน้อยเพราะหญ้ารกทำให้ต้นข้าวขยายการแตกก่อได้ไม่เต็มที่ ขาดการดูแลที่ไม่ทั่วถึงและช่วงที่ฝนตกหนักลมแรงทำให้ต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องล้มเสียหายเป็นจำนวนมาก

กลุ่มผู้สูงอายุ11 คน กล่มทำข้าวไร่ 10 คน กล่ม อสม. 5คน กลุ่มสภาเด็ก 5 คน

แนวทางในการทำข้าวไร่จะต้องกำจัดวัชพืชเพราะจะไปแย่งอาหารในดินต้นข้าวจึงไม่สมบูรณ์

-

-

เวลา 13.00น ทุกคนมารวมกันลงทะเบียน ประธานเปิดประชุมชี้แจงที่ประชุมทราบ และขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกัน ทำกิจกรรมในวันสำคัญ เนื่องในวัน 5 ธันวา 2558
ผู้รับผิดชอบโครงการที่ได้รับงบประมาณมาทำกิจกรรมในชุมชน วางแผนในการทำกิจกรรมในครั้งต่อไป เวลา 16.00น เลิกประชุม

คณะกรรมการชุดทำงาน 20 คน ได้มาร่วมประวางแผนในการทำงานร่วมกัน และได้วางแผนในการทำกิจกรรมครั้งต่อไปเรื่องการทำบัญชีครัวเรือน และเรียนรู้การทำน้ำยาเอนกประสงค์เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน

สภาผู้นำ 20 คน พี่น้องในชุมชน 3 คน

-

-

-

เริ่มลงทะเบียน เวลา09.00 น. เริ่มเรียนรู้การเขียนแบบรายงานของโครงการและการทำบัญชีการเงินของโครงการ การหักภาษี เรียนรู้การดำเนินการโครงการตามแผน การเตรียมเครื่องมือการเขียนรายงาน เช่นคนจดบันทึก สมุด ปากกา เครื่องบันทึกเสียง กล้องบันทึกภาพ การสนทนากลุ่มอย่างสร้างสรรค์ การจัดวงสนทนา รวบรวมข้อมูลประเด็นหลักที่จะคุยประมวลผลและวิเคราะข้อมูลเขียนด้วยการเค้าโครงเรื่องก่อนการประชุม การถอดบทเรียน ได้เรียนรู้ การเขียนผลการดำเนินกิจกรรม และการเขียนผลวิเคราะห์เชื่อมโยงสุขภาวะ หมายถึง ทางกาย ทางจิต ทางปัญญา ทางสังคม

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการมีความรู้เกี่ยว กับการเรียนรู้การเขียนแบบรายงานของโครงการและการทำบัญชีการเงินของโครงการ การหักภาษีในการทำกิจกรรมของโครงกาและการทำบัญชีการเงินของโครงการ การหักภาษี เรียนรู้การดำเดินการโครงการตามแผน การเตรียมเครื่องมือการเขียนรายงาน เช่นคนจดบันทึก สมุด ปากกา เครื่องบันทึกเสียง กล้องบันทึกภาพ กานสนทนากลุ่มอย่างสร้างสรรค์ การจัดวงสนทนา รวบรวมข้อมูลประเด็นหลักที่จะคุยประมวนผลและวิเคราะข้อมูลเขียนด้วยการเค้าโครงเรื่องก่อนการประชุม การถอดบดเรียน ได้เรียนรู้ การเขียนผลการดำเนินกิจกรรม และการเขียนผลวิเคราะห์เชื่อมโยงสุขภาวะ หมายถึง ทางกาย ทางจิต ทางปัญญา ทางสังคม

คณะกรรมการ

-

-

-

เมื่อถึงเวลาที่กำหนดพี่น้องในชุมชนเริ่มเดินทางกันมาเข้าร่วมประชุมตามที่ได้รับหนังเสือเชิญเข้าร่วมประชุมที่ศาลาหมู่บ้าน ทุกคนที่มาถึงลงทะเบียนประธานเปิดประชุม ประธานเชิญผู้รับผิดชอบโครงการ ปลดหนี้ด้วยวิถีพอเพียงบ้านคลองเล ชี้แจงถึงกิจกรรมโครงการที่กำหนดไว้ กิจกรรมเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือนครั้งที่ 1เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนเรามาเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือนและทำน้ำยาเอนกประสงค์ใช้ในครัวเรือน และการทำบัญชีครัวเรือนให้พี่น้องในชุมชนทำกันแบบง่ายๆ ได้ชี้แจง วิธีลงรายรับ วิธีลงรายจ่าย ที่ประชุมเสนอเรื่องจัดตั้งกลุ่มทำข้าวไร่และเลือกคณะกรรมการขึ้น 1 ชุด ที่ประชุมเห็นด้วยเพราะที่ผ่านมาเราจะได้ทำกันเป็นระบบและจะได้ช่วยกันคิดช่วยกันทำตามกิจกมรรมที่ได้รับงบสนับสนุน การลงแขกเก็บข้าวไร่ได้รับเงินเป็นค่าอาหาในการประกอบเลียงหลายครั้งแล้ววางแผนงานไว้ครั้งต่อไป มาประชุมรับสมุดบัญชีครัวเรือน และซื้อวัสดุในการทำน้ำยาเอนกประสงค์มาเรียนรู้ขั้นตอนการทำและลงมือทำแบ่งกันไปใช้ในครัวเรือน ผู้ใหญ่บ้านสรุป แล้วปิดประชุม

ผู้เข้าร่วมประชุมที่ศาลาเอนกประสงค์หมู่บ้าน จำนวน 42 คน ได้เรียนรู้วิธีลงรายรับ วิธีลงรายจ่าย ได้ตั้งกลุ่มปลูกข้าวไร่ 1 กลุ่ม และได้คณะกรรมการ 1 ชุด จำนวน 15 คน

ผู้สูงอายุ 15 คน อสม.15 คน กลุ่มสภาเด็กและเยาวชน 12 คน

-

-

-

ลงเรียนรู้วิธีปลูกมันเทศในร่องแปลงยางพาราและลงแขกขุดมันและเก็บผลผลิต
เวลา 9.00 น - 10.00 น เรียนรู้วิธีขั้นตอนการปลูกมันเทศในร่องแปลงยางพารา จากนายเฉลิม กระฐินหอม ปราชชาวบ้าน เวลา 10.00 น - 12.00 น ลงแขกขุดมันและเก็บผลผลิต ของนายไพศิลป์ สุขเกิด
เวลา 12.00 น 13.00 น พักเที่ยงรับประทานอาหาร เวลา 13.00 น - 15.00 น คัดแยกขนาดหัวเล็ก-หัวใหญ่ออกกันเพราะราคาแตกต่างกันและใส่ถุงแล้วชั่งน้ำยกขึ้นรถนำไปส่งตลาดเป็นลำดับต่อไป

เรียนรู้วิธีการปลูกมันเทศในร่องยางพารา พื้นที่ปลูก5 ไร่ มันเทศพันธ์แครอลวิธีขั้นตอนการปลูก ใช้รถไถปรับพื้นที่และยกเป็นร่องหลังจากนั้นนำยอดมันขนาดความยาว 30 ซ.ม. ที่เตรียมไว้นำลงปลูก หลังจากปลูกเสร็จประมาณ 10-15 วันเริ่มไส่ปุ๋ย และฉีดพ่นยาบำรุงทางใบเพื่อให้ยอดมันสมบูรณ์ ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือนถึงจะเก็บผลผลิดได้
ต้นทุน ค่าปรับพื้นที่ไร่ละ 900 บาท ค่ายอดพัธ์มันเทศ ไร่ 2000 บาท
ค่าปุ๋ย ไร่ละ 500 บาท ค่ายาฉีดไร่ละ 300 บาท รวมต้นทุนปลูก 1ไร่ 3700 บาท ผลผลิดที่ได้รับไร่ละ2500-3000 กิโล ราคาขึ้นอยู่กับท้องตลาด

วัยสูงอายุ 12 คน วัยกลางคน 10 คน วัยเด็กและเยาวชน 10 คน

-

-

-

ลงแขกเก็บข้าวไร่ของ นางสุภา ชุมไชยโย บ้านเลขที่ 216 หมู่ที่ 3 ตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ปลูกข้าวไร่ในแปลงยางพารา จำนวน 4 ไร่ ข้าวเจ้าด้วยวิธีหว่าน เริ่มเวลา09.30นเริ่มเก็บ พักรับประทานอาหารเที่ยง เวลา13.00น เก็บเกี่ยวเสร็จเรียบร้อยเวลาประมาณ 15.30น

ได้เรียนรู้การปรับพื้นที่นาข้าว ต้องใช้ปุ๋ยชีวภาพร่วม และจัดเตรียมพันธุ์ไว้ในปีต่อไป วางแผนปรับพื้นที่ต่อเนื่องทุกปี

กลุ่มทำข้าวไร่ 10 กลุ่มผู้สูงอายุ 5 คน กลุ่ม อสม. 2 คนกลุ่มสภาเด็ก 5 คน กลุ่มสตรี 8 คน

-

-

-

ลงแขกร่วมกันเก็บข้าวไร่ ของนายชิษนุพงค์ ระกำ บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 3 ตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำข้าวไร่ในสวนยางพาราโดยการปลูกข้าวเจ้าพันธ์ุสังหยด จำนวน 4ไร่

09.30 น เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวไร่ 12.00 น พักรับประทานอาหารร่วมกัน 13.00 น เริ่มเก็บเกี่ยวช่วงบ่าย 15.00 น เก็ยข้าวไร่จำนวน 4 ไร่หมดเรียบร้อย

ผลผลิตข้าวไร่ ของนายชิษนุพงค์ ระกำ จำนวน 4 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 95  ถัง

กลุ่มทำข้าวไร่ 10 คน กลุ่ม อสม. 5 คน กลุ่มผู้สูงอายุ 10 คน กลุ่มสภาเด็กเยาวชน 6 คน กลุ่มสตรี 4 คน

-

-

-

ลงแขกร่วมกันเก็บข้าวไร่ ของนางผ่อง ชัยยัง บ้านเลขที่ 141 หมู่ที่ 3 ตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำข้าวไร่ในสวนยางพาราโดยการปลูกข้าวจ้าวพันธ์หอมมะลิจำนวน 5 ไร่ ข้าวเหนียวพันธ์เหนียวดำ จำนาน 5 ไร่ รวมแล้วเป็นจำนวน 10ไร่

09.30 น พร้อมกันที่ไร่ข้าวไร่ และเริ่มเก็บเกี่ยวจนถึงเวลา 12.30 น พักรับประทานอาหารร่วมกัน
13.30 น เริ่มเก็บผลผลิตต่อรอบบ่าย จนหมดในเวลาประมาณ 16.00 น

นางผ่อง ชัยยังทำข้าวไร่ในสวนยางพาราโดยการปลูกข้าวจ้าวพันธ์ุหอมมะลิจำนวน 5 ไร่ ข้าวเหนียวพันธ์ุเหนียวดำ จำนาน 5 ไร่ รวมแล้วเป็นจำนวน 10ไร่

• ข้าวจ้าวพันธ์ุหอมมะลิจำนวน 5 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 130 ถัง
• ข้าวเหนียวพันธ์ุเหนียวดำ จำนาน 5 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 130 ถัง

ข้าวเหนียวดำตอนนี้ นางผ้อง ตำเป็นข้าวม่าวขายมีรายได้ให้กับครอบครัวทุกวัน วันละ 500-1000 บาท ข้าวม่าวที่เป็นข้าวเปลือก 1 ถัง ตำเป็นข้าวม่าวได้ 30 กระป๋อง กระป๋องละ 30 บาท

กลุ่มทำข้าวไร่ 10 คน กลุ่ม อสม. 4 คน กลุ่มผู้สูงอายุ 10 คน กลุ่มสภาเด็กเยาวชน 2 คน กลุ่มสตรี 2 คน

-

-

-

ลงแขกเก็บข้าวไร่ในแปลงยางพารา ยางพาราอายุ 1 ปี เข้าไร่ของนายเขียว รักษา นางประเสริฐ รักษา บ้านเลขที่ 87 หมู่ 3 ตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำข้าวไร่ในแปลงยางพาราในเนื้อที่ 5 ไร่ พันธ์ข้าว ข้าวเจ้า และข้าวเหนียว โดยใช้วิธีหว่าน กลุ่มเป้าหมายที่ได้มาร่วม 35คน กล่มทำข้าวไร่ 15 คน กลุ่มผู้สูงอายุ 10 คน กลุ่ม อสม. 5 คน กลุ่มสภาเด็กและเยาวชน 5 คน มีการคัดแยกพันธ์ข้าวเจ้า และข้าวเหนียวไว้ทำในปีต่อไปและมีการนัดหมายลงแขกเก็บข้าวไร่ในครั้งต่อไป ในวันที่ 12 พย. 58 เริ่มเก็บเกี่ยวเวลา09.30 น โดยแบ่งงานกันตามความเหมาะสม คือ กลุ่มทำข้าวไร่ 15 คน กลุ่มผู้สูงอายุ 10 คน กลุ่ม อสม. 5 คน รวม 30 คน เป็นผู้เก็บเกี่ยว และกลุ่มสภาเด็กและเยาวชน 5 คนเป็นผู้เก็บรวบร่วมเพื่อนำผลผลิตขึ้นรถ พักรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน เวลา 12.00 น

ได้เก็บข้าวไร่จำนวน 5 ไร่เสร็จเรียบร้อย ได้ผลผลิตโดยประมาณ 200 กระสอบ

  กล่มทำข้าวไร่ 15 คน กลุ่มผู้สูงอายุ 10 คน กลุ่ม อสม. 5 คน กลุ่มสภาเด็กและเยาวชน 5 คน

-

-

-

วาระที่ 1 ประธานสภาผู้นำชุมชนแจ้งที่ประชุม           -  การเบิกจ่ายงบประมาณของโครงการที่ได้รับงบประมาณมาจาก สสส. วาระที่ 2  ผู้ใหญ่บ้านแจ้งข้อราชการเพื่อทราบและพิจารณา           -  แจ้งเรื่องจัดเตรียมสถานที่ลอยกระทง           -  โครงการตำบลละ 5 ล้านบาท หมู่ที่ 3 ซ่อมแซมถนน 2 สาย           -  เตรียมเอกสารเพื่อลงทะเบียนยางพารา           -  ลงทะเบียนกิจกรรมปั่นจักรยาน Bike  for  Dad 2015 วาระที่ 3  ผู้รับผิดชอบโครงการ ปลดหนี้ด้วยวิถีพอเพียงบ้านคลองเล    ชี้แจงกิจกรรมครั้งต่อไป (กิจกรรมที่ 4 )           -  กิจกรรมที่ 4 วิเคราะห์บัญชีครัวเรือนนำไปปฎิบัติ           -  ลดรายจ่ายให้กับครัวเรือนโดยเรียนรุ้การทำบัญชีและร่วมกลุ่มทำน้ำยาอเนกประสงค์            

1. ร่วมกันวางแผนกิจกรรมครั้งต่อไป
2. นัดหมายเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือนและทำน้ำยาอเนกประสงค์เพื่อใช้ในครัวเรือน
3. ร่วมกลุ่มสมาชิกกลุ่มปลูกข้าวไร่เพื่อลงแขกเก็บข้าวไร่ของสมาชิก (เริ่มครั้งแรก วันที่ 08/11/ 58 ของนาย เขียวรักษา)

1.นายสมพร  บำรุงพล 2.นางสมทรง  สรรเพชร 3.นายศิษธิพร  ชุมมี 4.นางสุรัตนวดี  ทักกระจ่าย 5.นายทักษิณ    กามูณี 6.นายพิศิษฐ์  คงศรีรัตน์ 7.นายอนันต์  กิติยะ 8.นายศิริพงษ์    ศรีมณี 9.นายอพิสันต์    ชูมณี 10.นายไพศิลป์  สุขเกิด 11.นายชำนาญ  อ่อนรัตน์ 12.นางสาวกรรณิการ์  เพชรเชนทร์ 13.นายไพศาล  เนาวพันธ์ 14.นายชาญวิช  คงศรีรัตน์ 15.นางเยาวศรี  ศรีธร 16.นายสวาท  ชุมไชยโย 17.นายสว่าง  ชาพงษ์ 18.นายภูรัตน์  สิทธิรักษ์ 19.นายพีรพงษ์  ชะเดช 20.นายสุโชติ    สิทธิรักษ์ 21.นายปรีชา  บุญโญ 22.นายเอกชัย  สิทธิรักษ์

-

-

-

ผู้รับผิดชอบโครงการ คณะกรรมการหมู่บ้าน กลุ่มเป้าหมาย พี่เลี้ยง ตัวแทนหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กศน. รพ.สต. เกษตร ปราชญ์ชาวบ้าน นำโดยผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน ชี้แจงความเป็นมาของโครงการ การดำเนินงานตามกิจกรรมในโครงการ ให้ผุ้เข้าร่วมกิจกรรมได้เสนอแนะ และแสดงความคิดเห็นกับข้อตกลงของหมู่บ้าน เพื่อพัฒนาหมู่บ้าน ให้เป็นชุมชนน่าอยู่ พี่เลี้ยงโครงการร่วมวางแผนการจัดกิจกรรมตลอกปี ให้สอดคล้องกับวีถีของชาวบ้าน แลันัดแนะการทำกิจกรรมในครั้งต่อไป จากนั้นพี่เลี้ยงได้สอนการบันทึกข้อมูลในระบบ ทางเวปคนใต้สร้างสุขให้เลขานุการของโครงการฝึกปฏิบัติการบันทึกรายงานในวันที่จัดกิจกรรม

1. คณะกรรมการหมู้บ้านมีความเข้าใจการจัดกิจกรรมในโครงการเป็นอย่างดี
2. มีปราชญ์ชาวบ้านมาร่วม มีความรู้หลากหลาย เช่น การทำข้าวม้าว การปลูกหัวมัน การปลูกสมุนไพร เป็นต้น ปราชญ์ได้ช่วยเสนอแนะ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในที่ประชุม และนัดแนะไปเรียนรู้กันต่อเนื่องที่บ้านปราชญ์
3. พบว่ามีทีมสภาผู้นำ มีความพร้อมในการขับเคลื่อนงาน ทีมสภาผู้นำเป็นบุคคลที่ชาวบ้านเชื่อถือ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
4. มีการชี้แจงรายละเอียดกิจกรรมทั้งหมด พร้อมกับระบุการใช้จ่ายงบประมาณ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเกิดความมั่นใจในการร่วมพัฒนาหมู่บ้านเป็นอย่างดี
5. เลขานุการมีความสามารถในการบันทึกข้อมูล บันทึกได้ตามที่พี่เลี้ยงโครงการได้แนะนำ
6. มีการจัดเก็บหลักฐานรายงานการเงินได้ถูกต้อง

ผู้รับผิดชอบโครงการ คณะกรรมการ กลุ่มเป้าหมาย พี่เลี้ยง ตัวแทนหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กศน. รพ.สต. เกษตร ปราชญ์ชาวบ้าน

-

-

ให้กำลังใจ และชื่นชมความพร้อมของสภาผู้นำ

ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม เริ่มพูดคุยชี้แจงโครงการโดยผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้ใหญ่บ้าน พิธีกร พี่เลี้ยงโครงการ ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้สนับสนุนหมู่บ้าน ตัวแทนชุมชนต้นแบบ ประธานสภาผู้นำชุมชน ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้ร่วมกันวางแผนการดำเนินงานตามกิจกรรมที่กำหนดไว้ในสัญญา และลงมติการทำงานร่วมกัน

1. มีการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำและกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม แบ่งกลุ่มกิจกรรม 4 กลุ่มตามความถนัดของผู้ที่สนใจ กลุ่มทำน้ำหมักชีวภาพ/ปุ๋ยหมักชีวภาพสมาชิกจำนวน 25 คน กลุ่มปลูกผัก/ปลูกข้าวไร่สมาชิกจำนวน 25 คน กลุ่มเลี้ยงสัตว์สมาชิกจำนวน 25 คน กลุ่มทำน้ำยาอเนกประสงค์/ขนม/อาหารสมาชิกจำนวน
   
2. มีการเสนอแนะและร่วมวางแผนการจัดกิจกรรมต่อไป
3. ได้แนวทางการทำกิจกรรมจากพี่เลี้ยง ได้แก่ การจัดทำบัญชีครัวเรือนแบบใหม่ การพัฒนากลุ่มอาชีพ การบริหารจัดการโครงการ เป็นต้น
4. สรุปผลการดำเนินงานของแต่ละกิจกรรม จัดทำปฏิทินตลอดโครงการ

ผู้สูงอายุ สภาเด็ก อสม.กลุ่มอาชีพ กลุ่มแม่บ้าน พี่เลี้ยงโครงการ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน  ได้ไปสั่งทำป้ายชื่อโครงการและป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี

มีการติดตั้งป้ายสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ที่ ศาลาเอนกประสงค์หมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆของหมู่บ้าน รวมถึงเป็นถสานที่ทำกิจกรรมของโครงการด้วย

คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ 2 คน 

-

-

-

ลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม ประชุมชี้แจงโครงการ คัดเลือกสภาผู้นำ

ได้คณะทำงานสภาผู้นำ คณะทำงานมีความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการและกิจกรรมต่างๆที่จะดำเนินการ กลุ่มเป้าหมายประกอบ นายสมพร บำรุงพล นายศิษธิพร ชุมมี นางสมทรง สรรเพชร นายเอกชัยสิทธิรักษ์ นางสุรัตนวดี ทักกระจ่าง นายทักษิณ กามูณี นายชำนาญ อ่อนรัตน์ นายศิริพงษ์ ศรีมณี นายชาญวิชคงศรีรัตน์ นายอพิสันต์ ชูมณี นายประดิษฐ์ เนาวพันธ์ นายอนันต์ กิติยะ นายไพศิลป์ สุขเกิด นางสาวกรรณิการ์ เพชรเชนทร์ นายภูรัตน์ สิทธิรักษ์ นายฤชากรณ์ สิทธิรักษ์ นายนคร ศรีมณี นางแฉล้ม แสงระวี นายสิทธิ์ สิทธิรักษ์ นางวรรณา ทรงสง่า

กลุ่มเป้าหมายประกอบ นายสมพรบำรุงพล นายศิษธิพรชุมมี นางสมทรงสรรเพชร นายเอกชัยสิทธิรักษ์ นางสุรัตนวดีทักกระจ่าง นายทักษิณกามูณี นายชำนาญอ่อนรัตน์ นายศิริพงษ์ศรีมณี นายชาญวิชคงศรีรัตน์ นายอพิสันต์ชูมณี นายประดิษฐ์เนาวพันธ์ นายอนันต์กิติยะ นายไพศิลป์สุขเกิด นางสาวกรรณิการ์เพชรเชนทร์ นายภูรัตน์สิทธิรักษ์ นายฤชากรณ์สิทธิรักษ์ นายนครศรีมณี นางแฉล้มแสงระวี นายสิทธิ์สิทธิรักษ์ นางวรรณาทรงสง่า

ครั้งต่อไปประชุมชี้แจงรายละเอียดโครงการแก่ชาวบ้านในพื้นที่

-

-

เรียนรู้การใช้แว็ปไซค์ และสร้างปฏิทินโครงการ

มีความรู้ในการใช้แว็ปไซค์ มีปฏิทินโครงการเกิดขึ้น

คณะกรรมการโครงการ 2 คน

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี