- เพื่อถอดบทเรียนการทำงาน และหาแนวทางการดำเนินงานโครงการ
- เชิญวิทยากร คือ คุณเกียววะลี มีสิทธิ์ จากกลุ่มยุวชนสร้างสรรค์จังหวัดสุราษฎร์ธานี และคุณอารีย์ คงแจ่ม จากมูลนิธิสัมมาชีพ มาเป็นวิทยากรถอดบทเรียนในการทำงานโครงการ
- ก่อนการพูดคุย มีการโชว์ชุดที่ใช้ในการรำมโนราห์ ที่ครูภูมิปัญญา นางผ่องศรี นวลวัฒน์ ได้ซื้อลูกปัดมาทำเองเพื่อใช้ในการแสดงของเยาวชน เนื่องจากชุดมโนราห์มีราคาแพง 7000 - 10000 บาท และยังสามารถถ่ายทอดให้เยาวชนร้อยลูกปัดเพื่อจัดทำชุดมโนราห์ของตัวเองด้วย โดยมีน้องนักศึกษาสาขาพัฒนาชุมชน ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี ที่ลงพื้นที่มาศึกษาชุมชน และมโนราห์กิ๊ฟ มโนราห์ตัวน้อย ลูกสาวของนายนิพนธ์ นวลวัฒน์ ผู้รับผิดชอบโครงการ และนางผ่องศรี นวลวัฒน์ ครูภูมิปัญญามโนราห์เป็นนนางแบบให้
ผลการถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก มีดังนี้
- กิจกรรมที่ได้ดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
- การชวนเยาวชนไปบำเพ็ญประโยชน์ ทำความสะอาดวัด 4 ครั้ง ทั้งกวาดขยะ ล้างห้องน้ำวัด ตกแต่งต้นไม้กิ่งไม้ เก็บขยะ (ร่วมสร้างวัดให้น่าอยู่ น่ามอง)
- ชวนลูกหลานเข้าวัดทำบุญ 3 ครั้ง
- รณรงค์แต่งกายชุดไทย เข้าวัด งานลอยกระทงตอนปี 58
- งานแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชาญ
- การทำขนมพื้นบ้าน ทั้งข้าวต้มมัด ขนมลา และขนมต้มใบพ้อ
- การสืบสานศิลปะการรำมโนราห์
- ผลสำเร็จที่ได้จากการทำงาน
- เกิดคณะมโนราห์ ชื่อ คณะผ่องศรีอำนวยศิลป์ ที่มีมโนราห์ 3 รุ่นคือ รุ่นยุวชน (เด็กน้อยอนุบาล)รุ่นเยาวชน (ประถม มัธยม) และรุ่นครูภูมิปัญญา ที่เป็นทั้งนางรำและนักดนตรี ช่วยกันทำหน้าที่สืบสานการรำมโนราห์และถ่ายทอดสู่เยาชนคนอื่นๆ ทั้งเยาวชนในชุมชน และเยาวชนในโรงเรียน ในชั่วโมงลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
- เกิดโรงมโนราห์ที่ใช้สำหรับการซ้อมของเด็กๆ และทำพิธีกรรมทางศาสนา
- เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคน 3 วัย ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน ผ่านกิจกรรมมโนราห์ ทำให้คนในชุมชนสามัคคีกันมากขึ้น
- เสริมสร้างความสัมพันธ์ของครอบครัวลูกมาซ้อมรำ พ่อแม่ต้องมาส่ง ลูกได้แสดง พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้อง ตามไปดู ไปให้กำลังใจ
- เป็นการสืบสานภูมิปัญญา วัฒนธรรมไม่ให้สูญหาย
- ส่งเสริมการออกกำลังกายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ให้มีการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
- ภาคีเครือข่ายการทำงาน องค์กรที่หนุนเสริม
- พี่น้องในชุมชนใกล้เคียงที่ทราบข่าวว่ามีมโนราห์เด็ก ก็จะรับไปแสดง เช่น หมู่ 4 หมู่ 7 หมู่ 12
- วัดกงตาก ให้เยาวชนได้แสดงในงานวัดแห่ผ้าหลวงพ่อชาน วัดหัวหมาก ให้แสดงในงานวัด
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกงตาก
- เทศบาลตำบลช้างซ้าย
- ชมรมผู้สูงอายุตำบลช้างซ้าย
- เพื่อนบ้านต่างอำเภอ เช่น อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา
- แนวทางการขยายผลการดำเนินงานโครงการ
- การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์มโนราห์ของบ้านกงตากให้เป็นที่รู้จัก โดยน้องๆ นักศึกษาสาขาพัฒนาชุมชน ปี 3 มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี รับปากจะช่วยทำเว็บเพจประชาสัมพันธ์ให้ และจะเขียนโครงการพัฒนามาต่อยอดเรื่องมโนราห์
- การจัดทำชุดมโนราห์เพิ่มให้ครบตามาจำนวนนักแสดง ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 6 ชุด ถ้าต้องแสดงเต็มวง ต้องเช่าชุดแสดง ชุดละ 200 บาท
- พัฒนาทักษะมโนราห์ในเรื่องการขับกลอน เพราะตอนนี้รำได้อย่างเดียว
- ถ่ายทอดทักษะการร้อยลูกปัด ทำชุดมโนราห์ให้กับเยาวชน หรือผู้ที่สนใจ เพราะสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนที่ทำเป็นได้
- พัฒนามโนราห์ให้สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้
- ปัญหา อุปสรรคในการทำงาน
- เรื่องเทคโนโลยี การใช้คอมพิวเตอร์ ยังไม่สามารถทำได้ ต้องให้เยาวชนช่วยทำ แต่ทุกคนก็ติดงาน ต้องทำงาน ทำให้รายงานมักล่าช้า
- ทีมงานที่มียังต้องหากำลังเสริมมาช่วยทำงานเพิ่มขึ้น
- ความรู้สึกของคนในชุมชน
- ครูภูมิปัญญารู้สึกดีใจ ภูมิใจที่ฝึกลูกหลานจนสามารถออกแสดงมโนราห์ สร้างรายได้ต่อครั้งต่อคน ไม่ต่ำกว่า 1000 บาท
- ผู้ปกครองดีใจที่เห็นลูกหลานรำมโนราห์ได้ ตามไปให้กำลังใจทุกครั้งที่แสดง ถึงแม้จะอยู่คนละอำเภอก็ตาม ดีใจที่เห็นเยาวชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ดีกว่าไปขับรถเล่น
- เยาวชนชอบมโนราห์ มาฝึกทุกวัน ได้ฝึก ได้รำ กลายเป็นความชอบ หลังเลิกเรียนตอนเย็น หรือเสาร์อาทิตย์ ต้องมารอซ้อมรำมโนราห์
- เยาวชนชอบเข้าวัด เพราะกิจกรรมสนุก ได้ทำความสะอาดวัด ได้เล่น
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- มโนราห์เยาวชน
- ครูภูมิปัญญามโนราห์
- นักดนตรีมโนราห์
- นักศึกษาสาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี
- ทีมวิทยากรและพี่เลี้ยงโครงการ
- ระหว่างจัดเวที ฝนตกหนัก โรงมโนราห์เล็ก พอเพียงพอกับจำนวนคน ต้องหาผ้าเต้นท์มากางเป็นพื้นที่นั่งพูดคุย
-
-
- เพื่อจัดทำกติกาในการสืบสานประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงามของชุมชน
- เชิญวิทยากรจากมูลนิธิสัมมาชีพ นางสาวอารีย์ คงแจ่ม มาช่วยในการจัดทำกติกาชุมชน
- ก่อนเปิดเวทีพูดคุย ได้มีการโชว์การแสดงมโนราห์ 2 ชุด คือ ชุดยุวชน และชุดเยาวชน พร้อมกับโชว์การออกนายพรานของคุณยายมาลี นวลวัฒน์
- ปัจจุบันครูภูมิปัญญา นางผ่องศรี นวลวัฒน์ ได้นำมโนราห์ไปถ่ายให้กับนักเรียนในโรงเรียนบ้านกงตากในชั่วโมง ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เพื่อให้เยาวชนได้สืบสานวัฒนธรรมการรำมโนราห์ต่อไป
- มีการระดมความคิดเห็นเพื่อสร้างเป็นกติกาของกลุ่มในการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของคนในชุมชนกงตาก โดยมีข้อเสนอดังนี้
- ให้มีการการแต่งกายด้วยผ้าไทยในงานบุญ งานวัดของชุมชน
- ให้มีการแสดงมโนราห์ของเยาวชนในงานบุญงานวัดในชุมชน
- สนุบสนุนให้เยาวชนได้มีเวทีในการแสดงมโนราห์
- ให้มีการซ้อมมโนราห์ และดนตรีในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ที่โรงมโนราห์คณะผ่องศรีอำนวย
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- มโนราห์เยาวชน
- ครูภูมิปัญญามโนราห์
- นักดนตรีมโนราห์
- นักศึกษาสาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี
- ทีมวิทยากร
-
-
-
- เพื่อจัดทำรายงานปิดโครงการ - เพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนโครงการงวดที่ 3
- เข้าพบพี่เลี้ยงที่ ม.อ. เพื่อให้ช่วยตรวจสอบรายงานกิจกรรม เอกสารการเงินโครงการ
- พี่เลี้ยงโครงการช่วยตรวจสอบการบันทึกข้อมูลรายงานกิจกรรมในเว็บไซด์ โดยมีการปรับแก้เนื้อหารายงานเพิ่มขึ้นจากเดิม
- พี่เลี้ยงช่วยตรวจเอกสารการเงินโครงการ และแนะนำการปรับแก้รายงานให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การใช้เงิน
- สามารถพิมพ์เอกสารรายงานทั้งหมดส่งให้ สจรส. มอ. ได้
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้รับผิดชอบโครงการ
- การเงินโครงการ
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมรวมใจ
- แจกถุงดำ ให้ทุกคนช่วยกันเก็บขยะในริเวณวัดให้สะอาด แจกไม้กวาดให้ทุกคนช่วยกันวาดลานวัด กวาดใบไม้ในวัด
- หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เด็กๆ เยาวชนที่มาวัดในวันนี้ ช่วยกันทำความดีถวายพ่อ ด้วยการช่วยกันทำความสะอาดวัด โดยใครที่มีไม้กวาด ก็ให้ช่วยกันทำความสะอาดวัด กวาดใบไม้ ใครไม่มีก็ให้ถือถุงดำเดินเก็บขยะ ภายในรอบๆ บริเวณวัด เสร็จแล้วก็รับประทานอาหารว่างร่วมกัน
- หลังจากทำความดีกันเรียบร้อยแล้ว ก็ไดให้ทุกคนได้เรียนพุทธศาสนา ด้วยการมานั่งฟังธรรม เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทำให้เยาวชน และคนในชุมชน มีความรู้ ความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของประเพณีพื้นบ้าน ประเพณีทางศาสนาในชุมชน และเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา และประเพณีวัฒนธรรมมากขึ้น
- เด็กๆ รู้สึกดีใจ เมื่อ รับประทาน อาหารแล้ว ก็ช่วยกัน ทำความสะอาดวัด กวาดใบไม้ และเก็บขยะ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เด็ก 30 คน
- วัยทำงาน 30 คน
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมรวมใจ
- ให้ผู้สูงอายุ และเด็กๆ นำปิ่นโตมาวัด ทำบุญร่วมกัน
- วันนี้ช่วงเช้า ได้มีการเชิญชวนให้ผู้สูงอายุ พ่อแม่ผู้ปกครอง ชวนลูกหลานหิ้วปิ่นโตมาถวายเพลพระที่วัดกงตาก โดยเด็กๆ ที่ไม่ได้มากับผู้ปกครอง ให้เตรียมปิ่นโตมา ทางโครงการจะจัดหาอาหารสำหรับถวายเพลพระให้ เพื่อที่ทุกคนจะได้มีอาหารถวายพระ และรับประทานร่วมกันตอนเที่ยง
- มีการปฏิบัติ พิธีกรรมทางศาสนา จุดธูปเทียนบูชาพระ สวดมนต์ ฟังธรรมร่วมกัน โดยพระสิทธิโชค มหาวีโร ให้เกียรติพูดคุย สั่งสอนเยาวชนให้เข้าใจหลักศาสนา เป็นการร่วมสืบสานพระพุทธศาสนาให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้เยาวชนได้ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไป
- หลังพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จสิ้น ได้มีการรับประทานอาหารร่วมกัน ทั้งอาหารที่ทุกคนหิ้วปิ่นโตมาถวายพระ และอาหารที่ทางโครงการจัดให้เด็กๆ ได้ถวายพระ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของคนในชุมชน สร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนสองวัยด้วย
- เด็กๆ มีความร่วมมือ ร่วมใจ ในการเข้าวัด ทำบุญ เยาวชนได้เรียนรู้ ถึงกิจกรรม ทางพระพุทธศาสนา
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เด็ก 30 คน
- วัยทำงาน 30 คน
-
-
-
- เพื่อพัฒนากลไกสภาผู้ชุมชนมาทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานในชุมชน
จัดประชุมสภาผู้นำชุมชน เพื่อรายงานความก้าวหน้า ติดตามการดำเนินงานโครงการ และวางแผนการจัดกิจกรรมในแต่ละครั้ง ตามระเบียบวาระ ดังนี้
- วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- วาระที่ 2 สำนักงาน ส.ป.ก. ลงมาตรวจสอบ
- วาระที่ 3 เรื่องวัฒนธรรมนำสุขบ้านกงตาก
ผลการประชุม คือ
วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบการถือปฏิบัติเพื่อแสดงความไว้อาลัยแด่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทางอำเภอขอแจ้งปฏิบัติอันเกี่ยวตามที่สำนึกนายกรัฐมนตรีแจ้ง ดังนี้
- 1.1 ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป
- 1.2 ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ของรัฐไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี โดยติดโบว์สีดำที่แขนเสื้อ สำหรับประชาชนทั่วไปตามความเหมาะสม และจัดกิจกรรมทางศาสนาทุกศาสนาตามประเพณีของศาสนาตามความเหมาะสม
- 1.3 จัดสมุดลงนามถวายความอาลัย ตกแต่งสถานที่ด้วยผ้าขาวดำ ให้สมพระเกียรติ และขอความร่วมมือภาคเอกชน และสถานที่บริการงดการแสดง และความบันเทิง เป็นเวลา 30 วัน
วาระที่ 2 ด้วยสำนักงาน ส.ป.ก. จะลงมาตรวจสอบ การถือครองที่ดินทำกิน ว่ายังมีการทำประโยชน์ในที่ดินทำกินอยู่หรือไม่ โดยให้นำเอกสิทธิ์ผู้ถือครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่ 11 พ.ย. ณ ศาลาหมู่บ้าน
- 2.2 ขอเชิญชาวบ้านร่วมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวันที่ 17 พ.ย. 59 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 12.00 น. รพ.สต.บ้านกงตาก
- 2.3 ตามที่รัฐบาลได้มอบโครงการประชารัฐที่ประชุม มีมติจัดทำโครงการ ซ่อมแซ่มปรับปรุงถนนสายต้นบก ความยาวประมาณ 1300 ม-1500 ม ความหนา 10ซม.
วาระที่ 3 เรื่องโครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก ซึ่งเกี่ยวกับ การอนุรักษ์ ประเพณี วัฒนธรรมของหมู่บ้าน ใกล้จะปิดโครงการแล้ว แต่กิจกรรมยังเหลืออยู่บ้าง ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวบ้าน ให้พาเด็กๆ มาเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คนวัยทำงาน 37 คน
- ผู้สูงอายุ 30 คน
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมรวมใจ
- การเชิญชวน ให้ เด็กและเยาวชน ช่วยกันทำความสะอาดวัด กวาดใบไม้ บริเวณรอบๆ วัด
- รู้จักอนุรักษ์และรักษา ประเพณีวัฒนธรรม ซึ่งวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของคนไทยทุกคน และทำให้เด็กๆ และเยาวชนหันมาเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้นละเยาวชนหันมาเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้น
- เด็กและเยาวชนได้ช่วยกันทำงานจิตอาสา ช่วยกันดูแล ทำความสะอาด เก็บกวาดต้นไม้ ใบไม้ เก็บขยะ วัด ลานวัด รอบๆ บริเวณวัดให้สะอาด น่าเข้า
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เด็กและเยาวชน
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมรวมใจ
- ชาวบ้านถ่ายทอดภูมิปัญญา การทำขนม ที่มีส่วนสำคัญ ในการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมในเทศกาลสำคัญๆ ของชุมชน พร้อมถ่ายทอดความรู้ แง่คิด คติ แต่ขนมแต่ละชนิด ให้เยาวชนได้เรียนรู็
- ในเทศกาลชักพระ คนเฒ่าคนแก่จะมาช่วยกันทำขนมต้มใบพ้อ (แทงต้ม) โดยเป็นภูมิปัญญาการทำขนมพื้นที่ที่มีส่วนสำคัญในการสืบสานประเพณีวัฒนธรรม โดยเป็นการลงแรงช่วยกันโดยกลัวเหนื่อย เพราะได้มีการพบปะพูดคุยกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งมีความสามารถ และทำขนมไปวัดเองตลอด
- เยาวชนได้ซึมซับความรัก ความสมัคคีของคนในชุมชน ได้รับการถ่ายทอด เรียนู้ภูมิปัญญการทำขนมพื้นบ้านที่มีความสำคัญกับประเพณีพื้นบ้านของคนใต้
- การทำขนมในครั้งนี้ ทางโครงการได้จัดซื้อวัสดุในการทำมาให้ เช่น ข้าวเหนียว มะพร้าว ใบพ้อ แต่ให้ทุกคนในชุมชนมาลงแรงช่วยกันห่อ ลงแรงทำ อย่างผู้ชายก็ช่วยกันขูดมพะร้าว คั้นกระทิ ผัดข้าวเหนียว ใขณะที่ฝ่ายหญิงทำหน้าที่ห่อ หน้าที่ต้ม จนได้ข้าวต้มใบพ้อกว่า 1000 ห่อ ถือเป็นการระดมแรงงานช่วยกันทำงานเพื่อชุมชน เสร็จแล้วทุกคนก็ได้ได้ขนมต้มไว้ทำบุญร่วมกัน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เด็ก จำนวน 15 คน
- ผู้สูงอายุ จำนวน 15 คน
-
-
-
- เพื่อพัฒนากลไกสภาผู้ชุมชนมาทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานในชุมชน
จัดประชุมตามระเบียบวาระ คือ
- วาระที่ 1 การจัดงานประเพณีชักพระ
- วาระที่ 2 การแต่งกายเพื่อไว้อาลัย
- วาระที่ 3 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก
ในเวทีประชุม มีการปรึกษาหารือกัน ดังนี้
- วาระที่ 1 การจัดงานประเพณีชักพระ ร่วมกัน ปรึกษา พูดคุย เรื่องการจัดกิจกรรม ชักพระ มีการปรับปรุงเรือพนมพระ โดยให้ตกแต่ง เชด้วยผ้า สีขาวดำ และ การแห่ขบวน เรือ โดยให้ แต่งกายชุดสีขาวดำ เพื่อเป็นการถวายการไว้อาลัย
- วาระที่ 2 การแต่งกายเพื่อไว้อาลัย ให้คนในชุมชนแต่งกายชุดสีขาวดำ เพื่อไว้อาลัยตามความสะดวก หากไม่มีสีดำ ให้ใส่สีสุภาพ
- วาระที่ 3 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก จะปิดโครงการในเดือนพฤศจิกายน 2559 ซึ่งได้ขอขยายเวลามาจากเดือนตุลาคม เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้ทัน โดยตอนนี้มีเยาวชนนำมโนราห์สามารถออกงานได้แล้ว
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คนวัยทำงาน
-
-
-
- เพื่อแลกเปลี่ยนรู้รู้การดำเนินงานโครงการร่วมสร้างชุมชนน่าอยู่ภาคใต้
- เข้าร่วมประชุมเรื่องนวัตกรรมในการสร้างเสริมสุขภาพ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ. หาดใหญ๋ จ. สงขลา
- การชมการแสดง ของกลุ่มเด็กและเยาวชน
- มีการเข้าร่วม ประชุม เสวณา การแลกเปลี่ยนความรู้ และ อื่นๆ ประเด็น ชุมชนน่าอยู่ ผู้รับผิดชอบห้องย่อย / วิทยากรประจำห้อง นายไพทูรย์ ทองสม นายเสณี จ่าวิสูตร นางกำไล สมรักษ์ นายอภิวัฒน์ ไชยเดช และ รศ. ดร. จีรเนาว์ ทัศศรี
วันที่ 3-5 ตค 2559ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ. หาดใหญ๋ จ. สงขลา มีการประชุมเสวนา ถึงโครงการต่างๆ ได้รับรู้ถึงการทำงานและเตรียมแผนงานขั้นตอนต่างๆ จากผู้ร่วมเสวนาโดยมี อ.ไพทูรย์ ทองสม อ.เสณี จ่าวิสูตร อ.กำไล สมรักษ์ อ.อภิวัฒน์ ไชยเดช รศ. ดร. จีรเนาว์ ทัศศรี พูดถึงแนวทางหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสและมีข้อเสนอ
- สนับสนุนให้มีการประชาสัมพันธ์แนวทางการดำเนินงาน ชุมชนน่าอยู่ให้ทั่วถึงในระดับชุมชนท้องถิ่น
- นำเสนอบทเรียนพื้นที่ดัวอย่างดำเนินงานชุมชนน่าอยู่เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้การพัฒนากลุ่มผู้นำชุมชน ให้มีกลไกการดำเนินงานสร้างชุมชนเข้มแข็ง
- สนับสนุนให้เกิดช่่องทางการสื่อสารเพื่อประชาสัมพันธ์นวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์ชุมชนน่าอยู่ให้ทั่วถึงในระดับท้องถิ่นและการสื่อสารให้สังคมได้เห็นกระบวนการขับเคลื่อนชุมชนอย่างเป็นระบบ
ข้อเสนอจากห้องการพัฒนาเด็กเยาวชนและครอบครัว
ข้อเสนอ สสส.
- สนับสนุนให้มีการจัดการฐานข้อมูลเครือข่ายคนทำงาน เรื่องเด็กและเยาวชน
- สนับสนุนให้มีการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามรถของเครือข่ายคนทำงานทั้งในเชิงประเด็นและเชิงพื้นที่รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือวิธีการและความรู้ในการทำงานเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน
- เพิ่มแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อใช้ศิลปวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือการพัฒนาสุขภาวะของเด็กและเยาวชน
- สนับสนุนการศึกษาหรือการถอดบทเรียนวิธีการที่ได้ผลในการทำงานพัฒนาเด็กเยาวชน เช่น project bese ,case studyฯลฯ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการจำนวน 2 คน
- นายนิพนธ์ นวลวัฒน์
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมรวมใจ
- ชาวบ้านถ่ายทอดภูมิปัญญา การทำขนม ที่มีส่วนสำคัญ ในการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมในเทศกาลสำคัญๆ ของชุมชน พร้อมถ่ายทอดความรู้ แง่คิด คติ แต่ขนมแต่ละชนิด ให้เยาวชนได้เรียนรู็
- เยาวชนและคนในชุมชนได้เรียนรู้ภูมิปัญญา การทำขนมพื้นบ้านที่มีส่วนสำคัญ ในการสืบสานประเพณี วัฒนธรรมในเทศกาล สำคัญๆ ของชุมชน ได้รับการถ่ายทอดให้เยาวชน ได้เรียนรู้ โดยมีการทำขนมลา ซึ่งจะเตรียมไว้ใช้ในงานส่งตายายที่จะมาถึง โดยเด็กๆ อาจไม่ได้ลงมือทำมากนัก เพราะต้องใช้ไฟ และความสามารถในการทำ แต่เด็กๆ ก็ได้เรียนรู้ถึงวัตถุดิบที่ใช้ วิธีการทำ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- เด็ก จำนวน 10 คน
- วัยทำงาน 20 คน
- ผู้สูงอายุ จำนวน 10 คน
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมรวมใจ
- การเชิญชวน เด็กและเยาวชน ให้นำปิ่นโต มาวัด และรับประทานอาหารร่วมกัน
แล้ว ช่วยกันทำความสะอาดวัด กวาดใบไม้ บริเวณรอบๆ วัด
- ทำให้เด็กและเยาวชน รู้จักอนุรักษ์และรักษา ประเพณีวัฒนธรรม ซึ่งวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของคนไทยทุกคนและทำให้เด็กๆ และเยาวชนหันมาเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้น
- เด็กและเยาวชนช่วยกันล้างทำความสะอาดห้องน้ำของวัด ทำให้ห้องน้ำสะอาด ให้ผู้ที่เข้าวัด ฟังธรรม ได้ใช้ห้องน้ำที่สะอาด เป็นการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนในการรักษ์ความสะอาด มีจิตอาสา
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- กลุ่มเด็กและเยาวชน จำนวน 15 คน
- วัยทำงาน 30 คน
- ผู้สูงอายุ จำนวน 15 คน
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีวัฒนธรรมเป็นกิจกรรมรวมใจ
- ประชาสัมพันธ์เชิญชวนทำบุญเนื่องในวันรับตายาย
- ให้พ่อแม่ลูก ตายาย มาวัดทำบุญร่วมกัน
- จัดกิจกรรมตามประเพณี
- วันที่ 17 กันยายน 2559 ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ตามประเพณีคนใต้ ถือเป็นวันรับตายาย คือ การต้อนรับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วที่ทางสวรรค์หรือนรกให้โอกาสกลับบ้าน กลับมาเยี่ยมลูกหลานปีละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 15 วัน คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 10 จนถึงแรม 15 ค่ำเดือน 10 ซึ่งเป็นวันส่งตายาย หรือส่งเปรต ดังนี้ พี่น้อง คนในชุมชน พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลูกหลาน ที่ยังมีชีวิตอยู่จะชวนกันเข้าวัด ทำบุญ ถวายอาหารเพล ทำขนมหวาน คาว ข้าวปลาอาหารที่บรรพบุรุษชอบไปวัด ทำบุญร่วมกัน ภายในวัดจึงเต็มไปด้วยคนหลายวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงคนเฒ่าคนแก่ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่ดีงามของชุมชน
- วัดกงตากวันนี้ เต็มไปด้วยผู้คนที่เข้ามาทำบุญ กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เช้า ทุกคนทยอยหิ้วปิ่นโตมาวัด มีการจัดเตรียมอาหารไว้รับรองผู้มาทำบุญ มีพิธีกรรมทางศาสนา สวดมนต์ ฟังธรรม ตักบาตร ถวายภัตตาหารเพล
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- เยาวชน
- ผู้สูงอายุ
- ประชาชนทั่วไป
-
-
-
- เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งวดที่ 3
- รับฟังการชี้แจงงานสร้างสุข
- จัดทำรายงานโครงการให้สมบูรณ์
- ตรวจสอบเอกสานการเงิน
- ฟังการชี้แจงงานสร้างสุขภาคใต้ ปี 2559 ที่จะจัดขึ้นที่หอประชุมนานาชาติ ม.อ. โดยนางสาวกัญนภัส จันทร์ทอง พี่เลี้ยงโครงการ โดยแจ้งเรื่องการเดินทาง การจองห้องพัก ที่ทางชุมชนต้องดูแลตนเอง ใช้งบที่ สสส. ให้ มีตัวแทนจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 ชุมชน คือ บ้านเขาปูน และบ้านถ้ำผุด จัดนิทรรศการในงาน ที่เหลือเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในห้องชุมชนน่าอยู่ และชมนิทรรศการของหน่วยงานอื่นๆ เช่น สปสช. สช.
- พี่เลี้ยงช่วยตรวจสอบรายงานการเงิน และรายงานผลการดำเนินงานโครงการ แต่เนื่องจากชุมชนมาช้า เพราะติดงานเทศกาลรับตายายในชุมชน ทำให้ไม่สามารถทำรายงานและตรวจเอกสารการเงินได้ทัน พี่เลี้ยงจึงนำไปตรวจให้ต่อที่สำนักงาน
- กิจกรรมมีความล่าช้า มีอีกหลายกิจกรรมที่ยังไม่ได้ดำเนินงาน พี่เลี้ยงแนะนำให้ขยายเวลาไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2559
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- นายนิพนธ์ นวลวัฒน์
- นางสาวมณีนุช นวลวัฒน์
-
-
-
- เพื่อพัฒนากลไกล สภาผู้นำชุมชน ทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานชุมชน
- เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน โดยใช่ประเพณีเป็นกิจกรรมร่วมใจ
ประชุมคณะกรรมการหมูบ้าน คณะทำงานโครงการ กลุ่ม อสม. กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มกิจกรรมต่างๆ ที่มีในชุมชน และแจ้งข่าวสารความเคลื่อนไหวของบ้านเมือง ตามระเบียบวาระการประชุม ดังนี้
- วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- วาระที่ 2 วาระเพิ่มเติม
ในการประชุมหมู่บ้านประจำเดือนกันยายน 2559 ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งข้อมูลข่าวสาร และความเป็นไปของสังคมให้คนในหมู่บ้านทราบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- วาระที่ 1 พระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมงกุฎราชกุมาร จะเสด็จมาทรงมอบปริญญาบัตร ให้นักศึกษาที่จบการศึกษา มหาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 25 - 27 กันยายน 2559 นี้
- วาระที่ 2 การลงทะเบียนทหารกองเกิน ท่านใด ที่มีบุตรหลาน ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปให้ ไปแสดงตน เพื่อลงทะเบียน ทหารกองเกิน ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2559 หลักฐาน ที่จะต้องนำไปแสดง ตอเจ้าหน้าที่
- บัตรประจำตัว ประชาชน
- ทะเบียนบ้าน ของผู้ลงทะเบียน ทหารกอกเกิน และบิดามารดา
- ใบมรณบัตร ในกรณี บิดาหรือ มารดา เสียชีวิต
- สูติบัตร (ถ้ามี)
- วาระเพิ่มเติม
- เรื่องการให้ความช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ โดยมีพนักงานของเหมืองแร่ เข้าร่วมประชุม และอธิบาย ถึงขั้นตอน ของการให้ความช่วยเหลือ
- เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมกงตาก ร.ต.ท. ปราศรัย บุญถึง ได้เข้าร่วมประชุม และรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ
- เจ้าหน้าที่ของเกษตรอำเภอเข้าร่วมประชุม เพื่อให้ชาวบ้านได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ได้ปรับปรุงรายละเอียดในทะเบียนเกษตรกรของแต่ละรายการให้เป็นปัจจุบัน
- โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก ที่ได้รับทุนจาก สสส. พี่เลี้ยงนัดหมายให้เข้าร่วมประชุม และจัดทำรายงานความก้าวหน้า รายงานการเงิน ในวันที่ 17 กันยายน 2559
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- แกนนำชุมชน
- ผู้ใหญ่บ้าน
- ชาวบ้าน
-
-
-
- เพื่อรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ
- เพื่อวางแผนการทำงาน
- ประกาศเชิญชวน ให้คนเข้าร่วม ประชุม
ผู้ใหญ่ชี้แจงการประชุม รายงานความก้าวหน้าตามวาระการประชุม
- วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- วาระที่ 2 เรื่องการออกเสียงประชามติ
- วาระที่ 3 เรื่องวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระราชินี
- วาระที่ 4 เรื่องโครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก
ผู้ใหญ่ชี้แจงการประชุม รายงานความก้าวหน้าตามวาระการประชุม ดังนี้
วาระที่1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- การแข่งขันกีฬา ประจำปี อำเภอกาญจนดิษฐ์ ซึ่งจะจัดแข่งขันในวันที่4-5 สิงหาคม 2559 ผู้ใหญ่บ้านได้เชิญชวนชาวบ้าน ไปเที่ยวชมการแข่งขัน
- การให้ความช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จากการทำเหมืองแร่ โดยทางเหมืองจะรวบรวม หนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบส่งไปยังกองช่างของเทศบาลตำบลช้างซ้าย เพื่อทำการประเมินความเสียหาย และจะให้ความช่วยเหลือโดยการซ่อมบำรุงในจุดที่เสียหาย
- การขอใช้พื้นที่ศาลาประชาคมในการจัดงานต่างๆ ผู้ใหญ่บ้านได้ย้ำให้ผู้ที่ขอใช้สถานที่รับผิดชอบในเรื่องความสะอาดเรียบร้อยของสถานที่ด้วย และมีอัตราค่าบำรุงสถานที่ คือ งานขนาดกลาง 2,500 บาท งานขนาดใหญ่ 3,000 - 4,000 บาท
- ชาวบ้านคนใดที่มีที่ดิน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ สามารถมาขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทยได้ หากท่านใดสนใจที่จะขึ้นทะเบียนให้ไปรับแบบฟอร์มจากผู้ใหญ่บ้าน
วาระที่ 2 การออกเสียงประชามติผ่านร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งรายชื่อของคณะกรรมการ ประจำหน่วยให้ชาวบ้านได้ทราบ และเชิญชวนให้ชาวบ้านมาลงประชามติในวันดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น.
- วาระที่ 3 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบมรราชินินาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 ผู้ใหญ่บ้านได้เชิญชวนให้กลุ่มแม่บ้าน และชาวบ้านเข้าร่วมพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรที่สำนักงานเทศบาลตำบลช้างซ้าย เวลา 19.00 น. และได้เชิญชวนชาวบ้านร่วมพัฒนาสนามกีฬาหมู่บ้าน ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
- วาระที่ 4 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก ได้รับงบประมาณโครงการงวดที่ 2 แล้ว ได้ดำเนินงานโครงการไปแล้วบางส่วน แต่มีภาระงานมาก ทำให้กิจกรรมล่าช้า
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้าน
- แกนนำชุมชน
- คณะทำงานโครงการ
- ประชาชน
-
-
-
- เพื่อรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ
- เพื่อวางแผนการทำงาน
ผู้ใหญ่บ้าน ประธานการประชุม จัดการประชุมตามระเบียบวาระ คือ
- วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- วาระที่ 2 เรื่องการลงทะเบียนทหารกองเกิน
- วาระที่ 3 เรื่องทะเบียนราษฎร์
- วาระที่ 4 เรื่องการออกเสียงประชามติ
- วาระที่ 5 เรื่องโครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก
ผู้ใหญ่บ้าน นายยงยศ สุบรรณ์ ประชุมชาวบ้าน ตามวาระคือ
วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ
- นายชวลิตร โรจน์รัตน์ ข้าราชการ มาดำรงตำแหน่งใหม่ (ตำแหน่งปลัดอาวุโส ย้ายมาปฏิบัติงาน ที่ทำการ ปกครองอำเภอกาญจนดิษฐ์ ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2559
- บ้านศรีควนทอง หมู่ที่ 8 ตำบลช้างซ้าย ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับจังหวัด ในการลงการประกวดคัดเลือก หมู่บ้านดีเด่นและเป็นตัวแทนจังหวัด เข้าประกวดในระดับเขต
- นายชวลิตร โรจน์รัตน์ ข้าราชการ มาดำรงตำแหน่งใหม่ (ตำแหน่งปลัดอาวุโส ย้ายมาปฏิบัติงาน ที่ทำการ ปกครองอำเภอกาญจนดิษฐ์ ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2559
วาระที่ 2 การลงทะเบียนทหารกองเกิน
- ชายไทยที่เกิด พ.ศ. 2542 ให้มาแสดงตน ลงบัชีทหารกอกเกิน ภายใน พ.ศ. 2559
- ชายไทยที่เกิด 2539 ให้มารับหมายเรียก (สด 35 ) ภายใน พ.ศ. 2559
- ชายไทยที่เกิด พ.ศ. 2542 ให้มาแสดงตน ลงบัชีทหารกอกเกิน ภายใน พ.ศ. 2559
วาระที่ 3 เรื่องทะเบียนราษฎร์ โดยเทศบาลตำบลช้างซ้าย ได้เปิดให้บริการให้กับประชาชนที่ต้องการขอทะเบียนบ้านใหม่ ย้ายเข้า- ย้ายออก การแจ้งตาย ( กรณีที่มีคนตายในเขตของเทศบาล ตำบลช้างซ้าย ) ตั้งแต่เดือนเมษายน 2559
- วาระที่ 4 การเผยแพร่การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญผู้ใหญ่บ้าน ได้อธิบายถึงสาระ สำคัญของร่างรัฐธรรมนูญให้ชาวบ้านในที่ประชุมได้รับทราบ และเชิญชวนให้มาออกสิทธิในว้นที่ 7 สิงหาคม 2559
- วาระที่ 5 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก ให้ทีมงานประชุมนัดหมายเพื่อจัดทำกิจกรรมให้สอดคล้องกับโครงการ และทันตามเวลา
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้าน
- แกนนำชุมชน
- คณะทำงานโครงการ
- ประชาชน
-
-
-
- เพื่อรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ
- เพื่อวางแผนการทำงาน
- ประกาศวันประชุม
- เชิญชวนคนเข้าร่วมประชุม
ผู้ใหญ่บ้านประชุมตามวาระการประชุม
- วาระที่ 1 เรื่องการแข่งขันกีฬา
- วาระที่ 2 เรื่องผลผลิตทางการเกษตร
- วาระที่ 3 สถานการณ์ปัญหายาเสพติด
- วาระที่ 4 การสำรวจครอบครัวตัวอย่าง
- วาระที่ 5 เรื่องโครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก
นายยงยศ สุบรรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ชี้แจงผู้เข้าร่วมประชุม ตามวาระ ดังนี้
- วาระที่ 1 การจัดการแข่งขัน กรีฑา นักเรียน นักศึกษา ประชาชน อำเภอกาญจนดิษฐ์ กำหนด จัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคม ณ สนามกีฬาโรงเรียนกาญจนดิษฐ์
- วาระที่ 2 การป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด ซึ่งหากผู้จำหน่ายทุเรียนรายใด จำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ หรือทุเรียนอ่อนออกสู่ตลาดจะมีความผิด ฐานฉ้อโกง และจะถูกดำเนินคดี ตามกฎหมาย
- วาระที่ 3 สถานการณ์ ปัญหา ยาเสพติด จากสถิติ การจับกุม ในช่วงเดือนที่ผ่านมา อำเภอ กาญจนดิษฐ์ มีการจับกุมคดี ยาเสพติด รวม 43 คดี รัฐบาลเลยจัดกิจกรรมการ รณรงค์ ที่เกิดผลเป็นรูปธรรม ในโรงเรียน โรงงานสถานประกอบการ และชุมชน ต่างๆ
- วาระที่ 4 การสำรวจ และค้นหา ครอบครัวตัวอย่าง โดยจะให้ชาวบ้านในที่ประชุม ได้นำเสนอ ครอบครัวที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
- วาระที่ 5 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก ได้นำเอาประเพณีสำคัญของคนกงตากมาดำเนินงาน คือ การแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชานวัดกงตาก ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้าน
- คณะกรรมการหมู่บ้าน
- คณะทำงาน
- ประชาชน
-
-
-
- เพื่อพัฒนากลไกล สภาผู้นำชุมชน ทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานชุมชน
- เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน โดยใช้ประเพณีเป็นกิจกรรมร่วมใจ
ผู้ใหญ่บ้านประชุม ตามวาระ ดังนี้
- วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ
- วาระที่ 2 เชิญชวนชาวบ้านเข้าร่วมการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานด้วยใจ
- วาระที่ 3 การจัดทำโครงการเพื่อรองรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล
- วาระที่ 4 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก
วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ
- เรื่องการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดยให้ชาวบ้านได้ใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามัติ ในวันที่7 สิงหาคม 2559
- เรื่องการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดยให้ชาวบ้านได้ใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามัติ ในวันที่7 สิงหาคม 2559
วาระที่ 2 เชิญชวนชาวบ้านเข้าร่วมการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานด้วยใจ ไปกำจัดยุงลายด้วยกัน โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกงตาก อ.กาญจนดิษฐ์ ได้จัดกิจกรรมปั่นด้วยใจ ไปกำจัดลูกน้ำยุงลายด้วยกัน เพื่อลดอัตรการเกิดไข้เลือดออกของประชาชนในพื้นที่ โดยมีกำหนดการในวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 เวลา 07.00 น. ณ รพ.สต.บ้านกงตาก
- วาระที่ 3 การจัดทำโครงการเพื่อรองรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท โดยจะมีการจัดทำประชาคม เพื่อคัดเลือกโครงการตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่
วาระที่ 4 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก ได้จัดกิจกรรมแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชานวัดกงตากไปในวันที่ 6 พฤษภาคม 2559 เป็นประเพณีสำคัญของคนกงตาก จึงมีคนเข้าร่วมกว่า 200 คน โดยสามารถสรุปผลการจัดกิจกรรมของวัดกงตาก ในวันที่ 5-6 พฤศภาคม ได้ดังนี้
- เงินทำบุญกองทราย 15,000 บาท
- เงินทำบุญผ้าห่มพ่อท่าชาญ 717 บาท
- แห่ผ้า 5,543 บาท
- ดอกไม้ถวายพระ 6,930 บาท
- บังสกุล 3,242 บาท
- จับไข่ปลา ผู้สมทบทุน 41,450 บาท
- ตักบาตร 108 7,990 บาท
- ค่าเก้าอี้ ค่าแผง 2,840
- รวมรายรับไม่หักค่าใช้จ่าย 83,712 บาท ถวายวัด
- วาระเพิ่มเติม เชิญชวนชาวบ้านบริจาคโลหิต ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 ณรพ.สต. บ้านกงตาก
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้าน
- คณะทำงาน
- ประชาชน
-
-
-
- เพื่อเสริมสรา้งความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีวัฒนธรรมเป็นกิจกรรมรวมใจ
- มีการจัดขบวน แห่ผ้า จากชุมชน เข้าวัด พร้อมบอกเล่าถึงประวัติ ความสำคัญของกิจกรรม ให้เยวชน และคนในชุมชนทราบ
ให้มีการถือ ปิ่นโต เข้าวัด ทำบุญ และ รับประทาน อาหารร่วมกัน ในการอนุรักษ์ ประเพณี วัฒนธรรมของชุมชน
- ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี มีงานประเพณีสำคัญของคนกงตาก และชุมชนในละแวกใกล้เคียง คือ "งานบุญแห่ผ้าห่มหลวงพ่อท่านชาน" โดยทุกคนในชุมชนจะพร้อมในกันจัดหาจีวร ผ้าหลวง เพื่อนำมาห่มถวายหลวงปูชาน เตรียมข้าวปลาอาหารมาทำบุญถวายพระ เป็นความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนที่ปีหนึ่งจะมีงานนี้แค่ครั้งเดียว
- การแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชาน ให้ชาวบ้าน คนในชุมชน ชุมชนใกล้เคียงช่วยกันถือผ้าเหลือง ที่มีความยาวกว่า 500 เมตรมีขบวนกลองยาวนำหน้า มีนางรำ เพื่อให้งานครึกครื่้น สนุกสนาน เดินขบวนไปตามถนน ทุกคนช่วยกันถือชายผ้า เดินเข้าไปในวัด เพื่ออประกอบพิธีสมโภช และนำไปห่มให้หลวงพ่อชาน
- งานแห่ผ้าห่มหลวงพ่องาน มีการจัดกิจกรรม 2 วัน คือ วันที่ 5-6 พฤษภาคม 2559 กลางคืนมีกิจกรรมสนุกสนาน มีการละเล่น ของร้านค้าจำหน่ายสินค้าเพื่อการกุศล และมีการแสดงมโนราห์ของกลุ่มเยาวชนที่ได้ฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดีให้พี่น้องได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- แกนนำชุมชน
- เยาวชน
- ผู้สูงอายุ
- ชาวบ้านทั่วไป
-
-
-
- เพื่อสรุปผลการดำเนินงานโครงการ และออกแบบวางแผนการทำงานต่อยอดโครงการ
ประชุมเตรียมความพร้อม ตามวาระ
- วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- วาระที่ 2 การจัดทำแผนพัฒนา 3 ปี
- วาระที่ 3 งานแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชาน
ที่ประชุมหมู่บ้าน มีการประชุมตามระเบียบวาระ มีสาระคำคัญคือ
วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- แนะนำข้าราชการมาดำรงตำแหน่งใหม่ คือ นายพิทักษ์ แย้มมยาสุจริต นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.บ้านนาเดิม อ.ชัยบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559
- ผู้ใหญ่บ้านได้เชิญชวนพี่น้องตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง โดยมีพระภิกษุ สามเรร จำนวน 66 รูป จากวัดถนนควนสุบรรณ ในวันอาทิตย์ ที่ 10 เมษายน 2559
- แนะนำข้าราชการมาดำรงตำแหน่งใหม่ คือ นายพิทักษ์ แย้มมยาสุจริต นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.บ้านนาเดิม อ.ชัยบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559
วาระที่ 2 การจัดทำแผนพัฒนา 3 ปี พ.ศ. 2560 - 2562 โดยมีการจัดทำประชาคม และได้เรียงลำดับตความต้องการของชาวบ้านดังนี้
- โครงการติดตั้งโคมไฟสาธารณะ ซอยหนองค้อ ซอยดอนเนียง ซอยดอนกลาง
- โครงการก่อสร้างฝายน้ำล้นบ้านดอนกลาง
- โครงการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมไฟส่องสนาม
- โครงการก่อสร้างถนน คสล. สายบ้านนายพิษณุ - ถนนสายหลัก กว้าง 4 เมตร ยาว 800 เมตร
- วาระที่ 3 เรื่องงานแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชาน โดยปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 พฤษภาคม 2559 ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และทำตามหน้าที่ของตนเอง
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้าน
- แกนนำชุมชน
- คณะทำงานโครงการ
- ชาวบ้าน
-
-
-
- เพื่อพัฒนากลไกล สภาผู้นำชุมชน ทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานชุมชน
- เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน โดยใช่ประเพณีเป็นกิจกรรมร่วมใจ
มีการประชุมคณะทำงาน และแกนนำชุมชนตามระเบียบวาระ คือ
- วาระที่ 1 การขอมีบัตรประจำตัวประชาชน
- วาระที่ 2 เรื่องการลงบัญชีทหารกองเกิน
- วาระที่ 3 ปัญหาภัยแล้ง
- วาระที่ 4 การจัดการแข่งขันกีฬาประจำปี 2559
- วาระที่ 5 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก
ผู้ใหญ่บ้าน ประธานในการประชุม ได้ประชุมตามระเบียบวาระ ดังนี้
วาระที่ 1 การขอมีบัตรประจำตัวประชาชน กรณีบัตรหาย หลักฐานที่ต้องนำมาแสดง ได้แก่
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- หลักฐานเอกสารที่มีรูปถ่ายของผู้มีบัตร และเป็นหลักฐานที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น บัตรประจำตัวประชาชน (ที่ถ่ายเอกสารเก็บไว้) ใบอนุญาตขับขี่ หนังสือเดินทาง หรือบัตรประกันสังคม เป็นต้น
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
วาระที่ 2 เรื่องการลงบัญชีทหารกองเกิน ในปี พ.ศ. 2559
- ผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งในที่ประชุม ให้ชายที่มีสัญชาติไทย ที่เกิด พ.ศ. 2542 ไปลงทะเบียนทหารกองเกินกับสัสดีอำเภอ
- การรับหมายเรียก (สด. 35) ทหารกองเกิน (ผู้ที่ลงบัญชีไว้แล้ว) ที่เกิด พ.ศ. 2539 ให้มารับหมายเรียกใน พ.ศ. 2559
- การตรวจเลือกทหาร ประจำปี 2559 อำเภอกาญจนดิษฐ์จะทำการตรวจเลือกในวันที่ 4-5 เมษายน 2559 ณ ศาลาประชาคมอำเภอกาญจนดิษฐ์
- ผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งในที่ประชุม ให้ชายที่มีสัญชาติไทย ที่เกิด พ.ศ. 2542 ไปลงทะเบียนทหารกองเกินกับสัสดีอำเภอ
วาระที่ 3 ปัญหาภัยแล้ง
- เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน ผู้ใหญ่บ้านได้เตือนให้ชาวบ้านใช้น้ำโดยประหยัด และให้เฝ้าระวังในเรือนของฝืนไฟ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณบ้านหรือในสวนต่างๆ
วาระที่ 4 การจัดการแข่งขันกีฬา ประจำปี 2559
- ทางเทศบาลตำบลช้างซ้ายมีการจัดการแข่งขันกีฬาประจำปี โดยมีกีฬา 4 ประเภท คือ ประเภทเยาวชน ประเภทประชาชนชาย ประเภทประชาชนหญิง และประเภทผู้นำท้องถิ่น ท่องที่ โดยมีกำหนดการแข่งขันในวันที่ 1-12 เมษายน 2559 และในวันที่ 12 เมษายน จะมีการแข่งขันทำอาหารของแต่ละหมู่บ้านด้วย
วาระที่ 5 โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก
- เมือ่ช่วงวันเด็กเดือนมกราคมที่ผ่าน ทางทีมสื่อของ สสส. ลงมาถ่ายทำสื่อในพื้นที่บ้านกงตาก มีการถ่ายทำการรำมโนราห์ของกลุ่มเยาวชนเพื่อนำไปใช้ในการเผยแพร่
- เมือ่ช่วงวันเด็กเดือนมกราคมที่ผ่าน ทางทีมสื่อของ สสส. ลงมาถ่ายทำสื่อในพื้นที่บ้านกงตาก มีการถ่ายทำการรำมโนราห์ของกลุ่มเยาวชนเพื่อนำไปใช้ในการเผยแพร่
วาระเพิ่มเติม
- การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินเป็นโฉนด ทางผู้นำได้อธิบายถึงขั้นตอนของการออกเอกสารสิทธิ์
- การขอรับบริจาคเงินเพื่อนำไปซ่อมแซมบูรณะโรงธรรมของวัดกงตาก เนื่องจากทางวัดกงตากกำลังซ่อมแซมบูรณะโรงธรรม จึงขอเชิญชวนให้ชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคด้วย
- ทางเกษตรอำเภอและกรมปศุสัตว์ มีนโยบายส่งเสริมการเลี้ยงแพะบนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ โดยจะต้องมีการทำโรงเรือนและปลูกหญ้าที่จะนำมาเป็นอาหารของแพะ โดยจะมีกงทุนให้เกษตรกรกู้ยืม เพื่อนำไปลงทุน หากชาวบ้านคนใดสนใจให้ไปติดต่อกับทางเกษตรอำเภอ
- นายสิทธิชัย สุบรรณ์ ได้เสนอให้มีการเลี้ยงเป็ดเนื้อในชุมชน เพื่อส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้แก่ชุมชน มติที่ประชุมเห็นชอบด้วย
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้ใหญ่บ้าน
- แกนนำชุมชน
- คณะทำงาน
- ประชาชน
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีวัฒนธรรมเป็นกิจกรรมรวมใจ
- สืบค้นภูมิปัญญาการรำมโนราห์
- จัดหาอุปกรณ์
- จัดหาเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมเรียนู้ภูมิปัญญา
- ครูภูมิปัญญาถ่ายทอดภูมิปัญญหารรำมโนราห์สู่เยาวชนที่สนใจ
- จากการได้ไปเรียนรู้การทำขนมพื้นบ้านในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่า ในชุมชนบ้านกงตากมีครูภูมิปัญญาที่สามารถรำมโนราห์ได้ คือ นางผ่องศรี นวลวัฒน์ และมีการถ่ายทอดการรำมโนราห์ให้กับเยาวชนบางคนในพื้นที่อยู่ ซึ่งสามารถออกแสดงในงานวันเด็กแห่งชาติ 2559 ที่ทางเทศบาลตำบลช้างซ้ายจัดได้อย่างสวยงาม เพื่อให้เกิดการสืบทอด อนุรักษ์ และฟื้นฟูภูมิปัญญาที่มีอยู่ในชุมชน คณะทำงานโครงการจึงความอนุญาตจากทางพี่เลี้ยงโครงการ จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมเรียนรู้ภูมิปัญญาการรำมโนราห์แทนการทำขนมพื้นบ้าน เพราะมองว่ามีความสำคัญและกำลังจะสูญหายไป นอกจากนี้ยังพบว่า เยาวชนในพื้นที่ให้ความสนใจมากขึ้น จำนวนกว่า 25 คน สามารถสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนได้อย่างหลากหลาย เพราะมีผู้ใหญ่บางคนสนใจเข้าร่วมกิจกรรม มาเล่นดนตรีให้ ทั้งกลอง ทับ เยาวชนบางคนก็สนใจที่จะเล่นดนตรี อย่างโหม่ง กลอง เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชน ในตอนเย็นๆ วันเสาร์ อาทิตย์ โรงมโนราห์จึงกลายเป็นศูนย์รวมของคนในชุมชนทั้งคนเฒ่าคนแก่ ลูกเด็กเล็กแดง เด็กได้รำมโนราห์ ผู้ใหญ่ได้เล่นดนตรี ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกาย กลายเป็นความสัมพันธืของคนสามวัยที่เกื้อกูและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
- การรื้อฟื้นมโนราห์ เพื่อเชื่อมโยงนำไปสู่กิจกรรมสำคัญของชุมชน คือ งานประเพณีแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชาน พระคู่บ้านคู่วัดกงตากมาแต่โบราณ ที่เคยมีการรำมโนราห์ถวาย แต่ปัจจุบันหายากขึ้น เมื่อสามารถฝึกหักเยาวชนในชุมชนได้ ก็จะสามารถนำมโนราห์ไปรำถวายได้ในเดือน 6 ที่จะถึงนี้
- นอกจากการรำมโนราห์แล้ว นางผ่องศรี นวลวัฒน์ ยังมีความสามารถในการร้อยลูกปัด ตัดเย็บชุดมโนราห์ ซึ่งคิดว่า จะนำมาถ่ายทอดให้กับเยาวชนด้วย จึงมีการถ่ายทอดความรู้ในการทำลูกปัด ปักชุดมโนราห์ให้กับเยาวชน โดยทุกคนได้ทำชุดของตนเองเพื่อนำไปใช้ในการแสดงในโอกาสต่อไป
- เยาวชนที่ผ่านการฝึกรำมโนราห์มีโอกาสได้ออกแสดงในงานต่างๆ หลายงานที่ทางหมู่บ้าน และทาง อบต. จัด ทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้สืบสานวัฒนธรรมของคนกงตากให้อยู่คู่กับคนกงตาก
- ติดตามเข้าชมความสามารถการรำมโนราห์ การเล่นดนตรีของเยาวชนบ้านกงตากได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=UWowH4z79ac
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงานโครงการ
- ครูภูมิปัญญา
- เยาวชน
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีวัฒนธรรมเป็นกิจกรรมรวมใจ
- ค้นหาวิทยากร
- เชิญวิทยากร ครูภูมิปัญญามาบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของบ้านกงตากให้เยาวชนได้เรียนรู้
ในกิจกรรม "ฟังผู้เฒ่าเล่าประวัติความเป็นมาบ้านกงตาก" ได้เชิญคนเฒ่าคนแก่ในชุมชนที่อยู่ในชุมชนบ้านกงตากมานานกว่า 60 ปี คือ ยายยอง วิชัยดิษฐ์มาเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของบ้านกงตากให้เยาวชนได้รู้ถึงรากเหง้า ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของบ้านเกิดตนเอง โดยบ้านกงตากมีประวัติความเป็นมา คือ
- ในสมัยก่อนบ้านกงตากเต็มไปด้วยป่าเขา มีแม่น้ำลำธารหลายสายไหลผ่าน เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์มาก และที่มาของ "บ้านกงตาก" เนื่องจากมีสัตว์ชนิดหนึ่งมี ลักษณะคล้าย กบ เรียกว่า "ตัวกง" หรือบางที่เรียก "หมาน้ำ" เพราะจะร้องเสียงคล้ายหมาเห่า แต่มีขนาดใหญ่กว่ากบ ผิวหนังขุรขระ เมื่อตอนถึงฤดูผสมพันธุ์ หรือน้ำหลาก ก็จะส่งเสียงร้องดังไปทั่วหมู่บ้านชาวบ้านเลยเรียกต่อๆ กันมาว่า "บ้านกงตาก"
- ชาวบ้านเชื่อว่ากงเป็นสัตว์แห่งโชคลาภ หากกงขึ้นบ้านใครแล้วเจ้าของบ้านจะมีโชคลาภอยู่เสมอ แต่เมื่อมีการเจ็บป่วยขึ้นภายในบ้านหรือมีเรื่องไม่ดีภายในบ้านกงจะไม่อยู่ภายในบ้านนั้นอีก ดังนั้น ถ้ากงเข้าไปในบ้านใครเจ้าของบ้านจะจับอาบน้ำทาแป้งให้กงที่เข้าไปอยู่ในบ้านนั้นมันจะเข้าไปอยู่เองไม่จำเป็นต้องจับไปเลี้ยงไว้เพราะกงจะไม่อยู่อาหารการกินก็ไม่ต้องหาให้
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- เยาวชน
- ครูภูมิปัญญา
- แกนนำชุมชน
-
-
-
เพื่อตรวจรายงานและเอกสารทางการเงิน ส่งเพื่อเบิกงวด 2
แลกเปลี่ยนเรื่องราวการจัดกิจกรรมในพื้นที่ การแจ้งวิธีการ การบันทึกของกิจกรรมต่างๆ เพื่อตรวจรายงานและเอกสารทางการเงิน ส่งเพื่อเบิกงวด 2
โครงการเด่นการสืบสานศิลปะการรำมโนราห์ สามารถดำเนินการเป็นไปตามแผน พี่เลี้ยงช่วยสนับสนุนลงบันทึกกิจกรรมต่างๆ และเอกสารมีความถูกต้อง
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
ผู้รับผิดชอบโครงการ คณะทำงานโครงการ สจรส.มอ. และพี่เลี้ยง
-
-
-
- เพื่อประชุม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสิ่งที่เป็นปัญหา แก้ข้อสงสัยความไม่เข้าใจเกี่ยวกับ การทำโครงงาน
- การเข้าร่วมการประชุม โดยพร้อมกัน
- แลกเปลี่ยนเรื่องราวการจัดกิจกรรมในพื้นที่
- การแจ้งวิธีการ การบันทึกของกิจกรรมต่างๆ
- ชุมชนกงตากบอกเล่าเรื่องราวการดำเนินงานโครงการในพื้นที่ ว่ามีการจัดกิจกรรมหลายกิจกรรม แต่ที่ประสบความสำเร็จ คือ การสืบสานศิลปะการรำมโนราห์ โดยตอนนี้มีเยาวชนที่ผ่านการฝึกฝนการรำมโนราห์ในพื้นที่สามารถออกไปแสดงภายนอกชุมชนได้แล้ว โดยงานแรกที่แสดง คือ การต้อนรับสื่อจาก สสส. และรำในงานวันเด็กของ อบต.
- คณะทำงานได้รับความรู้เพิ่มเติมและรายละเอียดเกี่ยวกับการทำโครงการมากขึ้น โดยพี่เลี้ยงแนะนำการเขียนรายงาน ให้มีการเติมรายงานในส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นายนิพนธ์ นวลวัฒน์
- นางสาวมณีนุช นวลวัฒน์
- นางสาวปณิตา ปานแป้น
- ยังไม่ค่อยเข้าใจ รายละเอียด มากเท่าไร
- แนวทางแก้ไข ต้องการให้พี่เลี้ยงดูแลเพิ่มเติมให้
ไม่มี
ไม่มี
- เพื่อเยาวชนและคนในชุมชนมีส่วนร่ยวมในการดูแล ทำนุบำรุงศาสนา และเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของชุมชน
- เพื่อทำให้วัดเป็นสถานที่ เป็นศูนย์รวมของคนในชุมชน
- ประสานงานโรงเรียนให้นำเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม
- เชิญชวนคนในชุมชนเข้าร่วมกิจกรรม
- ช่วยกันทำความสะอาดบริเวณวัด
- คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนวัดกงตากกว่า 100 คน ร่วมกับคนในชุมชน ช่วยกันทำความสะอาดวัด ไม่ว่าจะเป็นการเก็วกวาดขยะ รอบๆ บริเวณวัด การตั้งแต่งต้นไม้ การทำความสะอาดกุฏิพระ ทำให้บริเวณวัดสะอาดขึ้น น่าเข้าไปใช้ นอกจากจะได้ความสนุกสนาน ได้ออกกำลังกายแล้ว ยังทำให้เด็กได้รู้สึกเป็นเป็นเจ้าของวัด และเห็นถึงคุณค่าของพุทธศาสนาด้วย
- หลังจากช่วยกันทำความสะอาดวัดเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เด็ก ๆ ได้เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา ฟังการสวดมนต์ และร่วมถวายอาหารเพล ก่อนที่จะได้รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันในวัด
- การส่งเสริมให้เยาวชนและคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแล ทำนุบำรุงวัดให้สะอาดน่าอยู่ และทำให้วัดเป็นสถานที่ เป็นศูนย์รวมของคนในชุมชนที่ใครก็สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- ครูและนักเรียนโรงเรียนวัดโกงตาก
- คนในชุมชน
-
-
-
- เพื่อถ่ายทำสื่อในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการ
- สื่อถ่ายทำเยาวชนรำมโนราห์
- สัมภาษณ์แกนนำ ผู้รับผิดชอบโครงการ
- เยาวชนได้แสดงการรำมโนราห์ให้สื่อถ่ายทำ ทำให้เห็นว่า จากการฝึกฝนที่ผ่านมาร่วมเดือน เยาวชนสามารถรำมโนราห์ได้อย่างสวยงาม
- ชุมชนเกิดความตื่นตัว ที่มีสื่อมาถ่ายทำ ทำให้เกิดความตั้งใจในการทำงานมากขึ้น
- เด็กๆ กล้าแสดงออก และมีโอกาสได้รำมโนราห์โชว์เป็นครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน
- ส่ือจาก สสส.
- เยาวชน
-
-
-
- เพื่อรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ
- เพื่อวางแผนการทำงาน
จัดประชุมตามระเบียบวาระต่อไปนี้
วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- การประดับเครื่องหมายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
- เรื่องงานวันเด็กแห่งชาติ
วาระที่ 2 เรื่องเพิ่มเติม
- เรื่องกองทุนหมู่บ้าน
- เรื่องตำรวจประจำป้อมกงตาก
ผลการประชุม มีดังนี้
วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- การประดับเครื่องหมายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ของนายอภิวัช ปานแป้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ช้างซ้าย องกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี แต่งตั้งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558
- เรื่องงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2559 ของเทศบาลตำบลช้างซ้ายได้จัดกิจกรรมวันเด็ก จึงฝากให้ทางผู้นำหมู่บ้านได้แจ้งและเชิญชวนชาวบ้านในหมู่บ้านไปร่วมงาน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 มกราคม 2559 ตั้งแต่เวลา 08.00 - 12.30 น.
วาระที่ 2
- เรื่องกองทุนหมู่บ้าน ชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ค้างชำระกองทุนหมู่บ้านให้มาดำเนินการปรับหนี้ใหม่ ในวันที่ 25 มกราคม 2559 ณ ศาลาหมู่บ้าน เวลา 13.00 น.
มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ดังนี้
- นายพรชัย ซัวต๋อ ประธาน
- นายชาญชัย จันทร์อุ่น รองประธาน
- นางสารภี ศรีเจริญ เหรัญญิก
- นางนาตยา สุบรรณ์ รองเหรัญญิก
- นายสุพรรณ ทิวาแพ ประชาสัมพันธ์
- นางบุปผา เพชรคง
- นางอริสา แซ่เฮง
- นางพัทฑนันท์ คนเพียร
- นายสงคราม รักนพรัตน์
สรุปผลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจประจำป้อมกงตาก ร.ต.ท.ปราศรัย พุ่มดำ หัวหน้าป้อมกงตาก ซึ่งมีเขตรับผิดชอบใน 8 หมู่บ้านของตำบลช้างซ้าย และ 4 หมู่บ้านของตำบลช้างขวา ในระยะช่วงเวลาของ 7 วันอันตราย ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น ทั้งอาชญากรรม และอุบัติเหตุ
- แจ้งเรื่อง สื่อ จาก สสส. จะลงมาถ่ายทำกิจกรรมการสืบสานศิลปะการรำมโนราห์ของกลุ่มเยาวชน ในวันที่ 9 มกราคม 2559 โดยนายนิพนธ์ นวลวัฒน์ และทีมงาน ได้เตรียมความพร้อมให้เยาวชน โชว์การแสดงมโนราห์
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- แกนนำชุมชน
- คณะทำงานโครงการ
- ผู้สูงอายุ
-
-
-
- เพื่อให้ลูกหลานได้รู้จักการเข้าวัดทำบุญ และได้ฟังคำพระสอน
- เพื่อปลูกฝังด้านศาสนา
- ประสานงานโรงเรียนให้นำเยาวชนมาร่วมกิจกรรม
- ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนในชุมชนเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา
- มีผู้คนสนใจในกิจกรรมนี้มาก มีทั้งครู นักเรียน ประชาชน และผู้สูงอายุ และทุกคนที่เข้าร่วมให้ความร่วมมืออย่างมาก มากันเกือบทั้งหมู่บ้านกว่า 500 คน ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทำให้กิจกรรมนี้ผ่านไปด้วยดี โดยทุกคนจะมาร่วมพิธีตั้งแต่เช้า จูงลูกจูงหลานมาจับจองสถานที่ในการจัดวางสิ่งของใส่บาตร มีการจัดเตรียมข้าวสารอาหารแห้งมาเตรียมใส่บาตรพระภิกษุที่ได้นิมนต์มาจากวัดกงตาก วัดท่าไทร วัดควนสุบรรณ จำนวนกว่า 30 รูป คนที่ได้ตักบาตร ต่างรู้สึกมีความสุข โดยขณะใส่บาตร จะมีนักเรียนคอยอำนวยความสะดวกในการถ่ายเทส่ิงของใส่บาตรลงตระกร้า ลงกระสอบ เพื่อให้ทุกคนได้ตักบาตรอย่างสะดวก ครบถ้วน
- การตักบาตรปีใหม่ ถือเป็นการเริ่มต้้นสิ่งใหม่ๆ ที่ดี การชวนลูกหลานมาทำบุญใส่บาติร่วมกัน ทำให้ลูกลานได้ซึมทราบประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงามของชุมชน และจะได้ช่วยกันสืบสานประเพณีนี้ไว้ต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คนในชุมชน
- เด็กนักเรียน
- คนวัยทำงาน
- ผู้สูงอายุ
ไม่มี
-
-
สร้างความเข้าใจการเขียนรายงานและการจัดทำเอกสารการเงิน
คณะทำงานโครงการ
วิทยากร นางสาวกัญณภัส จันทร์ทอง ได้ให้ความรู้ดังนี้ 1.เรื่องการเสียภาษี และการจัดทำบิลภาษี ในการเสียภาษี หัก 10 บาท ต่อ 1% แต่หากในการจัดซื้ออุปกรณ์ไม่ถึง 1000 บาท ไม่ต้องจัดเก็บภาษี หากจัดเก็บภาษี จะต้องนำภาษีที่เก็บได้ไปส่งสรรพากรไม่เกิน วันที่ 7 ของทุกเดือนหากพ้นกำหนดจะต้องเสียค่าปรับ การเขียนรายงานให้ลงตามงบประมาณที่ใช้จริง การจัดซื้อวัสดุสำนักงาน ต้อง ใช้ บิลที่จดทะเบียน ลงนามผู้ซื้อ ของโครงการ ค่าตอบแทนวิทยากร 600 บาทต่อ 1 ชั่วโมงการเช่าหรือเหมารถ การจ้างทำป้ายไวนิวการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมให้อยู่ในความเหมาะสม 2.สิ่งที่ใช้ในการทำกิจกรรมของชุมชน กล้อง สำหรับบันทึกภาพเพื่อบันทึกเรื่องราวหรือภาพถ่ายในการจัดทำกิจกรรม เรื่องบันทีกเสียงหากบันทึกเสียงไว้สามารถนำมาเปิดเวลาในการจัดทำรายงานย้อนหลัง กระดาษในการจดบันทึกเลขานุการจะต้องจดบันทึกสิ่งที่ทำในการจัดการอบรมในครั้งนั้นๆ เพื่อจะนำข้อมูลมาสรุปผล และจัดทำข้อมูลไปลงในอินเตอร์เน็ต
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะทำงานโครงการ
-
-
-
- เพื่ออบรมการจัดทำรายานและเอกสารการเงิน
- 8.30 น.ลงทะเบียนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้านการเขียนรายงาน เอกสารการเงิน และภาษี
- 9.00 น.วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนะนำตัวและ นางสาวกัญณภัสจันทร์ทอง อบรมการลงข้อมูลในอินเตอร์เน็ต การทำเอกสารการเงิน การหักภาษีและการเสียภาษีให้สรรพกร 100 บาท ต่อ 1 %
- 12.00 น. พักทานอาหารกลางวัน
- 13.00น. การเขียนรายงานถอดบทเรียน การลงหลักฐานการทำกิจกรรม ผลผลิต ผลลัพย์ผลผลิตผลกระทบที่จะเกิดขึ้น การลงวัตถุประสงค์ให้เหมือนสัญญาต้นฉบับ
- 15.00 น.กลับบ้าน
- วิทยากร นางสาวกัญณภัส จันทร์ทอง ได้ให้ความรู้ดังนี้
1.เรื่องการเสียภาษี และการจัดทำบิลภาษี
- ในการเสียภาษี หัก 10 บาท ต่อ 1% แต่หากในการจัดซื้ออุปกรณ์ไม่ถึง 1000 บาท ไม่ต้องจัดเก็บภาษี หากจัดเก็บภาษี จะต้องนำภาษีที่เก็บได้ไปส่งสรรพากรไม่เกิน วันที่ 7 ของทุกเดือนหากพ้นกำหนดจะต้องเสียค่าปรับ
- การเขียนรายงานให้ลงตามงบประมาณที่ใช้จริง การจัดซื้อวัสดุสำนักงาน ต้อง ใช้ บิลที่จดทะเบียน ลงนามผู้ซื้อ ของโครงการ ค่าตอบแทนวิทยากร 600 บาทต่อ 1 ชั่วโมงการเช่าหรือเหมารถ การจ้างทำป้ายไวนิวการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมให้อยู่ในความเหมาะสม
2.สิ่งที่ใช้ในการทำกิจกรรมของชุมชน
- กล้อง สำหรับบันทึกภาพเพื่อบันทึกเรื่องราวหรือภาพถ่ายในการจัดทำกิจกรรม
- เรื่องบันทีกเสียงหากบันทึกเสียงไว้สามารถนำมาเปิดเวลาในการจัดทำรายงานย้อนหลัง
- กระดาษในการจดบันทึกเลขานุการจะต้องจดบันทึกสิ่งที่ทำในการจัดการอบรมในครั้งนั้นๆ เพื่อจะนำข้อมูลมาสรุปผล และจัดทำข้อมูลไปลงในอินเตอร์เน็ต
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- มณีนุช นวลวัฒน์
- ปณิตา ปานแป้น
- นายนิพนธ์ นวลวัฒน์
- นางผ่องศรี นวลวัฒน์
-
-
-
- เพื่อพัฒนากลไกสภาผู้ชุมชนมาทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานในชุมชน
- ประกาศเชิญชวนให้คนเข้าร่วมประชุม
- ประชุมตามวาระ ดังนี้
วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ
- แนะนำข้าราชการมาดำรงตำแหน่งใหม่
- ระเบียบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
- การจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์
- การซ้อมใหญ่กิจกรรมปั่นจักรยาน
- โรคไข้เลือดออก
วาระที่ 2 เพิ่มเติม
- การย้ายมารับตำแหน่งหัวหน้าป้อม
วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ
- แนะนำข้าราชการมาดำรงตำแหน่งใหม่ นายกล้าณรงค์ ยติธรรม เดิมตำแหน่งนายอำเภอไพรขึง จ.ศรีสะเกษ ย้ายมาดำรงตำแหน่งนายอำเภอกาญจนดิษฐ์ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558
- ทางสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้มีการจัดระเบียบให้มีกำนันผู้ใหญ่บ้านอยู่เวรที่อำเภอ โดยผู้ใหญ่บ้านม.4 อยู่ในวันพฤหัสบดี
- การจัดพิธีถวายดอกไม้จันทร์ ด้วยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพงานสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพรสังฆราช โดยให้มีการจัดพิธีถวายดอกไม้จันในวัดอำเภอละ 1 แห่ง โดยอำเภอกาญจนดิษฐ์จัดที่วัดท่าไทรตำบลท่าทองใหม่ที่ 16 ธันวาคม 2558
- การซ้อมใหญ่ัจักรยานเฉลิมพระเกียรติปันเพื่อพ่อ โดยจังหวัดได้มีการซ้อมใหญ่ ในวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2558 ณศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- การประชาสัมพันธ์การระบาดโรคไข้เลือดออก โดยให้ อ.ส.ม.และทางโรงเรียนวัดกงตากร่วมกันดินขบวนเพื่อรณรงค์เพื่อป้องกันและกำจัดลูกน้ำยุงลาย
วาระที่ 2 เพิ่มเติม
- การรับตำแหน่งเป็นหัวหน้าป้องกันประจำป้อมกงตากของ ร.ต.ท. ปราศภัย บางถึง ได้เข้าร่วมแนะนำตัว
- โครงการวัฒนธรรมนำสุขคนกงตาก ตอนนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณมาแล้ว ทางนายนิพนธ์ นวลวัฒน์ ได้ดำเนินการชี้แจงโครงการในเวที และเริ่มดำเนินงานโครงการแล้ว ขอให้ทุกคนให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คณะทำงาน
- แกนนำชุมชน
- คนในชุมชน
ไม่มี
-
-
- เพื่อปรึกษาหาทางแก้ไขปัญหาในแต่ละกิจกรรม
- ออกประกาศให้ทุกคนทราบว่ามีประชุม
- ได้ข้อชี้แนะวิธีแก้ไขปัญหาหลายมุมมองหลายความคิด ได้วิธีแก้ได้มากขึ้น
- ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบเรื่องงบประมาณโครงการที่ได้จาก สสส. ซึ่งโอนมาแล้ว จำนวน เพื่อที่ได้นำมาใช้ในการดำเนินงานโครงการ โดยในเดือนพฤศจิกายน 2558 ไม่มีแผนจัดกิจกรรม แต่เดือนตุลาคม 2558 ได้เข้าร่วมประชุมกับ สสส.
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คนในชุมชนวัยทำงาน
-
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีวัฒนธรรมเป็นกิจกรรมรวมใจ
- ชวนผู้รู้ คนเฒ่าคนแก่ในชุมชน มาบอกเล่า เรื่องราว ตำนาน ประวัติศาสตร์บ้านกงตากให้เยาวชนในชุมชนได้เรียนรู้ และจัดทำเป็นความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ชุมชนเก็บไว้เป็นข้อมูล
เด็กรู้และเข้าใจประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อชาน จากคำบอกโดยประวัติหลวงพ่อชานจากคำบอกเล่า มีดังนี้
- วัดกงตาก ก่อตั้งมาประมาณ 100 ปี โดยมีพระสงฆ์รูปหนึ่งเดินทางมาจากจังหวัดพังงา มีชื่อว่าหลวงพ่อแสง มาพำนักที่บ้านกงตาก ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีวัด ชาวบ้านจึงได้นิมนต์หลวงพ่อแสงมาอยู่ที่บ้านกงตาก และได้ชักชวนกันแผ้วถางป่าเพื่อตั้งสำนักสงฆ์เป็นที่ตั้งโรงเรียนต่อมาชาวบ้านเล็งเห็นว่า วัดยังไม่มีพระประธาน จึงปรึกษากับหลวงพ่อแสง จึงได้จัดสร้างพระพุทธรูปโดยนำอัฐิหลวงพ่อชาญบรรจุไว้ โดยมีพระลูกวัด ชื่อ พระยก เป็นพระที่มีฝีมือในการปั้น พ.ศ. 2512จึงกลายเป็นพระที่เคารพศรัทธาของคนกงตาก เพราะเป็นพระศักดิ์สิทธิ สามารถบนบานศาลกล่าว แล้วจะได้ตามปรารถนา ในทุกปี ชาวบ้านจึงได้จัดพิธีแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชาญ ในทุกวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 เพื่อแสดงความเคารพ
หลังจากการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อชาน ที่ประชุมได้มีความคิดเห็นว่า ควรมีการฝึกหัดมโนราห์ให้กับเยาวชน เพราะมีนางมโนราห์อยู่ในชุมชนแล้ว คือ นางผ่องศรี นวลวัฒน์ เพื่อที่จะใช้แสดงในช่วงพิธีงานบุญแห่ผ้าหลวงพ่อชานในเดือน 6 ต่อไป โดยคนในชุมชน ร่วมสมทบทุนกันเพื่อจัดทำชุดมโนราห์
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมาย (4)
ประกอบด้วย
- กลุ่มครู
- นักเรียน
- บุคคลทั่วไป
- ปัญหา ตรงกับวันที่มีการเรียนการสอน
- แนวทางแก้ไข จัดให้ตรงวันเสาร์ อาทิตย์
-
-
- เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีวัฒนธรรมเป็นกิจกรรมรวมใจ
- การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน การช่วยกันทำขนม ไทย ขนมโบราณ เช่น ขนมต้ม เพื่อช่วยอนุรักษ์และรักษาประเพณี เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จักวัฒนธรรมและประเพณีมากขึ้น
- มีการนำครูภูมิปัญญา คือ นางเยื้อง และนางยอง ซึ่งเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่มีฝีมือในการทำอาหารมาครูภูมิปัญญาในการถ่ายทอดการทำขนมต้มใบพ้อให้กับเยาวชนในชุมชน โดยจะนำมาขนมที่จะช่วยกันทำในวันนี้ไปใช้ในงานชักพระของหมู่บ้าน และของตำบลช้างซ้ายโดยในวันนี้ทั้งชุมชนมีการร่วมแรงร่วมใจกันลงขันลกแขกทำขนมต้มใบพ้อ โดยใช้ข้าวเหนียวกว่า 20 ถัง (1 ถุง = 15 กิโลกรัม) ซึ่งบางส่วนทางโครงการได้สมทบเพื่อนำมาถ่ายทอดความรู้ ทักษะให้กับเยาวชน โดยส่วนที่เหลือคนในชุมชนได้ร่วมกันสบทบ ทำให้ได้ขนมต้มจำนวนมากเพื่อให้คนในชุมชนได้นำไปทำบุญกันถ้วนหน้า
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การทำขนม โดยมีครูภูมิปัญญาคอยสาธิตการทำให้ดูที่ละขั้นตอน เด็กๆ สามารถทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง สวยงามบ้าง ไม่สวยงามบ้าง แต่ก็เป็นความพยายาม ความตั้งใจ และทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างเด็กๆ ผู้สูงอายุในชุมชน และคนในชุมชนที่ช่วยกันร่วมแรงร่วมใจห่อขนม เพื่อนำไปใช้ในงานประเพณีสำคัญของชุนในงานชักพระต่อไป
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- ผู้สูงอายุ
- เยาวชน
-
-
-
- เพื่อทำป้ายรณรงค์การไม่สูบบุหรี่
- ไปที่ร้าน ออกแบบป้าย ไปรับป้ายมา ติดป้าย ที่จัดทำโครงการ ที่วัดกงตาก
- การได้ ป้ายรณรงค์การสูบบุหรี่ ป้ายวัฒนธรรมนำสุข และป้ายรณรงค์ ลดเหล้า
- ผลที่ได้รับคือ ทำให้ บุคลในชุมชน หันมาสนใจ ในกิจกรรมมากขึ้น
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- คนที่เข้าร่วมกิจกรรม คนในชุมชน 110 คน
ไม่พบปัญหา
-
ไม่มี
- เพื่อเสริมสร้างควมรัก ความสามัคคีของคนในชุมชนโดยใช้ประเพณีวัฒนธรรมเป็นกิจกรรมรวมใจ- เพื่อช่วยสืบสานประเภณีและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับศาสนา
- ใช้รถยนต์ประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่เชิญชวนผู้สูงอายุ และวัยทำงาน ที่เดินทางไปทำบุญที่วัด แต่งกายด้วยชุดพื้นบ้าน
- ให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมแต่งกายพื้นบ้าน เข้าวัดทำบุญมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุในชุมชน ทางโครงการมีแผนจะจัดทำไวนิลเชิญชวนการแต่งกายชุดพื้นบ้านไปวัด
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
กลุ่มคนในชุมชนเป็น
- วัยทำงานจำนวน 25 คน
- ผู้สูงอายุจำนวน 25 คน
ไม่มี
-
-
เพื่อสร้างความเข้าใจโครงการกับชุมชน
ประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการให้คนในชุมชนรับทราบโดยพร้อมเพรียงกัน
โครงการวัฒนธรรมนำเสนอโดยนายนิพนธ์ นวลวัฒน์ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการมีจุดประสงค์เพื่อรักษาวัฒนธรรมพื้นบ้านให้คงอยู่ในชุมชน ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการจาก สสส. จำนวน 135,800.00 บาท โดยทาง สสส. จะจ่ายเงินเป็นงวดๆ มีการเปิดบัญชีรองรับแล้ว รอการโอนเงิน และดำเนินงานโครงการ โดยกิจกรรมสำคัญ คือ ฟังผู้เฒ่าเล่าเรื่องประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านกงตาก ชวนลูกหลานสืบตำนานหลวงพ่อชานสู่การบอกเล่าเรื่องราว ชวนลูกหลานเข้าวัดทำบุญ ร่วมสร้างวัดให้น่าอยู่ น่าเข้า จำนวน 4 ครั้ง ทำขนมพื้นบ้านสืบสานประเพณี จำนวน 4 ครั้ง งานบุญแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชาน เวทีจัดทำกำหนดกติกาการสืบสานประเพณี/วัฒนธรรมในชุมชน รณรงค์รณรงค์การแต่งกายพื้นบ้าน และประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางศาสนา ถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการ
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะทำงาน อสม. กลุ่มผู้สูงอายุ
-
-
-
- เพื่อสร้างความเข้าใจโครงการ
จัดเวทีประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการให้คนในชุมชนรับทราบโดยพร้อมเพรียงกัน ประชุมชี้แจงการทำงาน ตามวาระต่อไปนี้
วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
1.1 โครงการตำบลละ 5 ล้าน
1.2 ผู้ว่าคนใหม่
1.3 การจัดงานชักพระทอดผ้าป่า
1.4 แจ้งการเปลี่ยนชื่อสถานศึกษา
1.5 การแสดงตนขอรับหมายเรียกทหาร
1.6 เรื่องประชาสัมพันธ์โครงการอุดหนุนเด็กทารก
- วาระที่ 2 เพิ่มเติม
วาระที่ 1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
- ผู้ใหญ่บ้านแจ้งให้ชาวบ้านทราบเรื่องโครงการตำบลละ 5 ล้าน ซึ่งหมู่ที่ 4 ได้ยื่นทำโครงการ ซ่อมปรับปรุงศาลาหมู่บ้าน ซึ้งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการและรออนุมัติจากทางอำเภอ
การเข้ามารับตำแหน่ง
- ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏ์ธานี คนใหม่ นาย วงค์ศิริ พรหมชนะ
- รองผู้ว่านายสมเกียรติ รัตนเจริญพรชัย
- ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏ์ธานี คนใหม่ นาย วงค์ศิริ พรหมชนะ
- การจัดการประเพณีชักพระทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวประจำปี 2558 จ.สุราษฎร์ธานี จะจัดวันที่ 24 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2558 วันรับสมัครเรือพระ วันที่ 1 ตุลาคม - 22 ตุลาคม 2558 ณ ที่ทำการอำเภอกาญจนดิษฐ์
- แจ้งเปลี่ยนชื่อสถานศึกษาทางกระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศให้วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์แห่งที่ 2 เปลี่ยนชื่อเป็นวิทยาลัยเทคนิคกาญจนดิษฐ์
เรื่องการแสดตนเพื่ออธิบายกาเรียกรับราชการทหารใน ม.4 มีรายชื่อผู้ต้องไปแสดงตน คือ
- นายโยธิน ปิยะเดช
- นายภูรินทร์ ราชฉวาง
- นายศราวุธ ศรีฟ้า
- นายจักรี ศรีคงแก้ว
- นายวรายุทธ โท๊ะเตรี๊ยะ
เรื่องประชาสัมพันธ์โครงการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- เด็กแรกเกิดต้องมีคุณสมบัติเกิด 1 ตุลาคม 2558 - 30 กันยายน 2559
- ไม่ได้รับสิทธิอื่นจากหน่วยงานรัฐ
- บุตรมีสัญชาติไทย
- อยูในครัวเรียนอยากจนหรือเสี่ยงยากจน
- เด็กแรกเกิดต้องมีคุณสมบัติเกิด 1 ตุลาคม 2558 - 30 กันยายน 2559
เรื่องการให้รายละเอียดเพิ่มเติมของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนมีบ่อน้ำหรือแหล่งน้ำในพื้นที่
- ชี้แจงเรื่องกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้าน สำหรับหมู่บ้านที่ยังไม่ยุบโครงการโดยชี้แจงการคืนเงินโดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย
เรื่องโครงการวัฒนธรรมนำเสนอโดยนายนิพนธ์ นวลวัฒน์ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการมีจุดประสงค์เพื่อรักษาวัฒนธรรมพื้นบ้านให้คงอยู่ในชุมชน ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการจาก สสส. จำนวน 135,800.00 บาท โดยทาง สสส. จะจ่ายเงินเป็นงวดๆ มีการเปิดบัญชีรองรับแล้ว รอการโอนเงิน และดำเนินงานโครงการ โดยกิจกรรมสำคัญ คือ
- ฟังผู้เฒ่าเล่าเรื่องประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านกงตาก
- ชวนลูกหลานสืบตำนานหลวงพ่อชานสู่การบอกเล่าเรื่องราว
- ชวนลูกหลานเข้าวัดทำบุญ
- ร่วมสร้างวัดให้น่าอยู่ น่าเข้า จำนวน 4 ครั้ง
- ทำขนมพื้นบ้านสืบสานประเพณี จำนวน 4 ครั้ง
- งานบุญแห่ผ้าห่มหลวงพ่อชาน
- เวทีจัดทำกำหนดกติกาการสืบสานประเพณี/วัฒนธรรมในชุมชน
- รณรงค์รณรงค์การแต่งกายพื้นบ้าน และประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางศาสนา
- ถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการ
สำหรับท่านที่มีที่ดินยังไม่มีเอกสารสิทธิต้องเร่งจัดทำเอกสารสิทธิ หน่วย ส.ป.ก. โดยการแจ้งชื่อและเบอร์โทรที่นายนิพนธ์นวลวัฒน์ผู้ช่วยผูใหญ่บ้าน
- ได้มีการแต่งตั้งกรรมตรวจสอบเงินล้าน
- นายดิแรก แจ่มจรัส
- นายนิพนธ์ นวลวัฒน์
เกือบได้ตามเป้าหมาย (2)
ประกอบด้วย
- คณะกรรมการหมู่บ้าน
- คณะทำงาน
- อสม.
- กลุ่มผู้สูงอายุ
- ยังไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดโครงการมากนัก มีแผนจะเชิญพี่เลี้ยงมาชี้แจงอีกครั้ง
-
- พี่เลี้ยงร่วมชี้แจงโครงการ
- เพื่อรับทราบการทำรายงานผ่านเว็บไซด์ เรียนรู้การทำกิจกรรมและเรียนรู้การบันทึกรายการกิจกรรมต่างๆ
วันที่ 3 ตุลาคม 2558
- 12.30 – 13.00 น. โครงการชุมชนน่าอยู่ลงทะเบียน
- 13.00 – 13.45 น. กระบวนการติดตามสนับสนุนโครงการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ภาคใต้ การทำงานร่วมกันระหว่าง สจรส.ม.อ. ทีมสนับสนุนวิชาการ (พี่เลี้ยง) และผู้รับผิดชอบโครงการ
โดย ผศ.ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ สถาบันการจัดการระบบสุขภาพภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- 13.45 - 14.15 น.การสังเคราะห์ผลของโครงการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ภาคใต้ โดย คุณถนอม ขุนเพ็ชร์
- 14.15 – 14.30 รับประทานอาหารว่าง
- 14.30 - 16.30 น. การเข้าใช้งานระบบเวบไซต์คนใต้สร้าง www.happynetwork.org โดย คุณภานุมาศ นนทพันธ์ และคุณสุทธิพงษ์ อุสาหพงษ์สิน
16.30 - 18.00 น. ผู้รับผิดชอบโครงการกรอกข้อมูลรายละเอียดโครงการลงในเว็บไซต์
- รายละเอียดโครงการ (วัตถุประสงค์ ตัวชี้วัด กิจกรรม และงบประมาณ)
- แผนภาพเชิงระบบโครงการ
- กำหนดปฏิทินการดำเนินงานใน 1 ปี
- รายงานผู้รับผิดชอบ
18.00 - 19.00 น. รับประทานอาหารเย็น
19.00 – 20.00 น. ผู้รับผิดชอบโครงการกรอกข้อมูลรายละเอียดโครงการ ลงในเว็บไซต์
- รายละเอียดโครงการ (วัตถุประสงค์ ตัวชี้วัด กิจกรรม และงบประมาณ)
- แผนภาพเชิงระบบโครงการ
- กำหนดปฏิทินการดำเนินงานใน 1 ปี
- รายงานผู้รับผิดชอบ
วันที่ 4 ตุลาคม 2558
- 08.30 – 10.00 น. การบริหารจัดการโครงการ การรายงานผลผ่านเว็บไซต์ การทำรายงานโครงการ และ รายงานการเงิน (การเก็บหลักฐาน และเอกสารการเงิน) โดย อ.กำไล สมรักษ์ และนางสุดา ไพศาล
10.00 – 12.00 น. ผู้รับผิดชอบโครงการกรอกข้อมูลรายละเอียดโครงการ ลงในเว็บไซต์ (ต่อ)
- รายงานผู้รับผิดชอบ
- ทำรายงานบันทึกกิจกรรมประชุมปฐมนิเทศโครงการ
12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
- 13.00 – 14.00 น. สรุปกิจกรรมและแผนการทำงานร่วมกับ สจรส.ม.อ. และทีมสนับสนุนวิชาการ (พี่เลี้ยง)
ผศ.ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ สถาบันการจัดการระบบสุขภาพภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ชี้แจงกระบวนการติดตามสนับสนุนโครงการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ภาคใต้ การทำงานร่วมกันระหว่าง สจรส.ม.อ. ทีมสนับสนุนวิชาการ (พี่เลี้ยง) และผู้รับผิดชอบโครงการ มีสาระสำคัญ คือ
- ภาระกิจของ สสส คือ ชุมชนมีสุขภาพดี มี การเก็บภาษี จากเหล้าและบุหรี่ 100 ละ 2 เปอร์เซ็น มาเป็นกองทุนเพื่อนำมาพัฒนาชุมชน
เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของชุมชน ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง จัดการตนเองได้
และพัฒนาสุขภาวะของชุมชน ทำให้ชุมชนน่าอยู่
อ.กำไล สมรักษ์ และนางสุดา ไพศาล สอนการบริหารจัดการโครงการ การรายงานผลผ่านเว็บไซต์ การทำรายงานโครงการ และ รายงานการเงิน (การเก็บหลักฐาน และเอกสารการเงิน) มีสาระสำคัญ คือ
- การอธิบายการส่งข้อมูลเข้าเว็บไซต์ การเข้าสู่ระบบ ของ สสส ขั้นตอนการบันทึกข้อมูลลงเว็บไวต์ ต่างๆ การปรับตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ การบริหารจัดการโครงการให้ประสมความสำเร็จ
รายงานการเงิน การจัดทำเอกสารประกอบการเบิกจ่าย ค่าใช้จ่ายในกรณีต่างๆ การเก็บเอกสารใบเสร็จการเงินต่างๆ
คุณถนอม ขุนเพ็ชร์ แนะนำการสังเคราะห์ผลของโครงการร่วมสร้างชุมชนให้น่าอยู่ภาคใต้ มีเนื้อหาสำคัญ คือ
การบริหารจัดการโครงการสู่ความสำเร็จ
ก่อนทำกิจกรรม -การเตรียมทีมงาน -เตรียมกิจกรรมที่จะทำ
การเตรียมภาพถ่ายประกอบ ทุกครั้งได้เรียนรู้ การบันทึก การดำเนินการในเว็บ คนใต้สร้างสุข สามารถใช้สื่อได้ถูกต้องเหมาะสม
บรรลุผลตามเป้าหมาย (3)
ประกอบด้วย
- นายนิพนธ์ นวลวัฒน์ ผู้รับผิดชอบโครงการ
- นางสาว มณีนุช นวลวัฒน์
- นางสาว ผ่องศรี นวลวัฒน์
-
-
• ต้องการให้ระบบ Internet สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น