ถอนเงินดอกเบี้ยคืน อบจ.
ถอนเงินดอกเบี้ยคืนอบจ.สตูล จำนวน 27.61 บาท
จัดทำเอกสารและบันทึกรายงานของโครงการ
เอกสารและรายงานโครงการเสร็จสมบูรณ์
- ทำหนังสือเชิญวิทยากร /ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
- ประสานพี่เลี้ยงโครงการ
-เตรียมสถานที่ - เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการทำกิจกรรม
- กิจกรรมเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยแบ่งกลุ่มเป็น 5 กลุ่ม โดยให้สมาชิกมีการถอดบทเรียนเกี่ยวกับการทำโครงการ
- ใครคือแกนนำของกลุ่ม กี่คน
- เพียงพอหรือไม่ - ควรมีหรือไม่ ถ้ามี ควรมีบทบาทเช่นไร - มีวิธีการคัดเลือกอย่างไร 2. อะไรบ้างที่ทำได้ดีแล้ว - สิ่งที่ชัดเจน คืออะไร - ทำกิจกรรมไปแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง - อะไรที่ทำไปแล้ว ไม่ได้ประโยชน์ ไม่ควรทำอีกในรอบต่อไป 3. มีอะไรบ้างที่ช่วยให้งานเสร็จ - ด้านคน - วิธีการ - สิ่งสนับสนุน - อะไรบ้างที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน 4. สิ่งใหม่ๆ ที่ค้นพบจากการทำกิจกรรม ที่ไม่เคยมีมาก่อน (อาจไม่เหมือนกันแต่ละคน - ด้านสิ่งแวดล้อม ทางสังคมเช่น เครือข่าย กลุ่ม ค้นพบภูมิปัญญา - วิธีการ องค์ความรู้ นวัตกรรม - การเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ - การเปลี่ยนแปลงด้านการเงิน - การจัดการด้านข้อมูล และอื่นๆ 5. โครงการต่ออีก ควรทำต่อไปอีกหรือไม่ ถ้าทำต่อ อะไรคือ ความต้องการ - ความต้องการสิ่งสนับสนุน - หน่อยงาน/องค์กร/ความรู้ - อื่นๆ 6. สิ่งที่อยากจะบอกทีมงานมีอะไรบ้าง
- แกนนำปลูกผักอยากได้แกนนำปลูกผักเพิ่มในอีกหลายๆโซน
- ขอให้มีการเพิ่มชนิดของผักมากขึ้นจากผักของโครงการ 4 ชนิด (ผักเคล จิงจูฉ่าย บัวบก เสาวรส )
- สมาชิกร่วมมือ มีความกระตือรือร้น
- เสนอแนะให้มีการทำบัญชีครัวเรือน
- ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย เช่น สำนักงานเกษตรอำเภอ อบต. สาธารณสุข
- เกิอความสำนึกในการเลือกบริโภคอาหารต่างๆ มากขึ้น
- ได้เกิดความสัมพันธ์ พบปะ กับเพื่อนๆในชุมชนเดียวกันมากขึ้น ที่มีเป้าหมายเดียวกันในการดูแลรักษาสุขภาพ การปลูกผัก มีความสนใจในสุขภาพของคนในครอบครัวมากขึ้น
- ควรมีการโครงการอย่างต่อเนื่องในปีถัดไป
- ควรมีการปลูกผักในพื้นที่ส่วนร่วม
- แจ้งคณะทำงาน จำนวน 10 คน เพื่อเตรียมการจัดกิจกรรมที่ 6 เวทีถอดบทเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสรุปผลโครงการ
- ร่วมสรุปผลการเยี่ยมติดตามสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3
- ได้รูปแบบการจัดกิจกรรม
- สรุปแบบติดตามเยี่ยมบ้าน
- ติดตามความก้าวหน้าการเยี่ยมบ้านสมาชิก
- ซักประวัติ พฤติกรรมการบริโภค
- ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน วัดรอบเอว คำนวนค่าดัชนีมวลกาย
- ติดตามการปลูกผักของโครงการ เช่น ผักเคล จิงจูฉ่าย เสาวรส และบัวบก -ปัญหาอุปสรรคในการปลูกผักของโครงการ
สมาชิกสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค เพิ่มการบริโภคผักมากขึ้น ส่งผลให้สมาชิกมีค่าดัชนีมวลกายเกิน 25 ลดลง 19 คนจาก 40 คนของการเยี่ยมครั้งที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 40 รอบเอวเกิน 80 ซ.ม.ในผู้หญิงและ 90 ซ.ม .ในผู้ชายลดลง 16 จาก 50 คนของการเยี่ยมครั้งที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 32
- กำหนดวัน เวลา และสถานที่
- แจ้งสมาชิกมาร่วมน้ำหมักชีวภาพเพื่อบริโภคจากผลไม้ในท้องถิ่น
- ให้สมาชิกเตรียมผลไม้และอุปกรณ์ที่ใช้ทำการทำน้ำหมัก
สมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รู้กระบวนการในการทำน้ำหมักชีวภาพ และได้น้ำหมักชีวภาพคนละ 1 กระปุก
- ทำหนังสือแจ้งกำหนดการเยี่ยมกับสมาชิก
- ซักประวัติส่วนตัว และประวัติโรคประจำตัว พฤติกรรมการบริโภค ผักที่บริโภคเป็นประจำ
- แกนนำ ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน วัดรอบเอวให้กับสมาชิก พร้อมกับคำนวนดัชนีมวลกาย
- สำรวจชนิดผักที่ครัวเรือนปลูกไว้เพื่อบริโภค
ผลจากการติดตามเยี่ยมครั้งที่ 1 พบว่า สมาชิกที่มีค่าดัชนีมวลกายเกิน 25 มีจำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 50 ของสมาชิกทั้งหมด รอบเอวเกิน 80 ซ.ม. ในผู้หญิง และเกิน 90 ซ.ม.ในผู้ชาย จำนวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 62.5 ของสมาชิกทั้งหมด
มีสมาชิกที่เป็นผู้โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จำนวน 27 คิดเป็นร้อยละ 33.75 คน
- แจ้งคณะทำงาน กำหนดวัน เวลา และสถานที่
- ร่วมออกแบบแบบติดตามเยี่ยมบ้านและทำความเข้าใจและฝึกการลงข้อมูล
- ร่วมประชุมกำหนดรูปแบบการลงเยี่ยมติดตาม
- ทำความเข้าใจกับแบบสอบถาม
- ทำความเข้าเกี่ยวกับการเก็บภาพ
- ร่วมกำหนดการส่งรายงาน
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัดรอบเอว วัดความดัน และการคำนวณค่าดัชนีมวลกาย
- ได้แบบสอบติดตามเยี่ยม
- แกนนำสามารถคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ได้ และสามารถแปลผลได้ถูกต้อง
- แกนนำสามารถวัดความดันโลหิต และวัดรอบเอวได้และสามารถแปลผลได้ถูกต้อง
- จัดทำหนังสือเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมประชุม
- จัดทำหนังสือเชิญวิทยากร
- จัดเตรียมสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ เอกสารประกอบการประชุม
- อบรมให้ความรู้แกนนำปลูกผัก แกนนำ อสม. กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง และผู้สนใจ จำนวน 80 คน เรื่อง
4.1เรื่องสรรพคุณของผักแต่ละชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิ ผักเคล ผักจิงจูฉ่าย บัวบก เสาวรส
4.2 ทำไมต้องทำน้ำผักปั่น 4.3 ร่วมสาธิตการทำน้ำผักปั่น 4.4 ถอดบทเรียนการเลี้ยงผักเคล ปัญหา อุปสรรคของการปลูกผักเคล ปัญญาศัตรูพืช ปลูกผักเคลระบบปิดหรือเปิดดีกว่า ปัญหาเรื่องการเตรียมดิน
- แกนนำปลูกผัก แกนนำ อสม. กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง และผู้สนใจ จำนวน 80 คน มีความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณของผักแต่ละชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิ ผักเคล ผักจิงจูฉ่าย บัวบก เสาวรส
ทำไมต้องทำน้ำผักปั่น - ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทำน้ำผักได้ รู้สูตรในการทำน้ำผักปั่น รู้สรรพคุณของน้ำผักปั่น
- ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมรับรู้ถึงปัญหาอุปสรรคของการปลูกผักเคลให้เข้าสภาพของชุมชนนั้นๆ และทำให้สามารถรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้
-เดินทางไปถอนเงินเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย
ถอนเงินคืนจำนวน 500 บาท
จัดตั้งศูนย์เรียนรู้เรื่องการบริโภคผักให้เป็นยา ของชุมชน จำนวน 1 ศูนย์ ที่ บ้านเลขที่ 346 หมู่ที่ 4 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู
มีป้ายศูนย์การเรียนรู้ จำนวน 1 ป้าย มีป้ายบอร์ดให้ความรู้ จำนวน 5 ป้าย
- จัดทำหนังสือเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมประชุม
- จัดทำหนังสือเชิญวิทยากร
- จัดเตรียมสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ เอกสารประกอบการประชุม
- อบรมให้ความรู้แกนนำปลูกผัก จำนวน 35 คน เรื่องการปลูกผัก การดูแลรักษาแปลงผัก การใส่ปุ๋ย และองค์ความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเชิญวิทยากรจากบ้านสุขภาพสตูล
- อบรมให้ความรู้ เรื่อง การบริโภคผักให้เป็นยาที่สามารถลดโรคเรื้อรังในระดับครัวเรือน เช่น ผักเเคลใบหยัก สีเขียว สีม่วง รวมถึงสรรพคุณของผักด้านต่าง ๆ ของพืชผักเหล่านี้
- กิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการ โดยการจัดทำเอกสารประกอบการประชุมเรื่องการกินผักให้เป็นยา
- แกนนำ อสม./แกนนำปลูกผัก จำนวน 35 คน มีความรู้เกี่ยวกับการปลูกผัก การดูแลรักษาแปลงผัก การใส่ปุ๋ย และองค์ความรู้อื่น ๆ
ชี้แจงการสำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 80 คน พร้อมจัดทำแผนที่ผังครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมกับการประเมินภาวะสุขภาพ อื่น ๆ เช่น วัดรอบเอว หาค่า BMI วัดความดัน วัดส่วนสูง เป็นต้น
- คณะทำงานจำนวน 10 คน ได้ร่วมกำหนดรูปแบบการสำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมายจำนวน 80 คน พร้อมรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย
เดินทางเข้าร่วมประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 1
เดินทางเข้าร่วมประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 1 จำนวน 2 คน
ประชุมเชิงปฎิบัติการเพื่อคัดเลือกตัวแทนจากผู้ที่มีจิตอาสาและมีภาวะผู้นำจากหมู่บ้าน ชี้แจงโครงการ และร่วมกันกำหนดบทบาทหน้าที่ ของแกนนำที่จำต้องดำเนินงาน ชี้แจงสถานการณ์ของผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง ในพื้นที่ จำนวน 35 คน 1. ทำหนังสือเชิญประชุม 2. ทำหนังสือเชิญวิทยากร 3. จัดเตรียมเอกสาร/สถานที่/วัสดุอุปกรณ์ ในการประชุม 4. ประชุมเชิงปฎิบัติการ 4.1 ชี้แจงที่มา วัตุประสงค์ สถานการณ์โรคเรื่อรัง การดูแลสุขภาพตนเอง 4.2 คัดเลือกแกนนำคณะทำงาน จำนวน 35 คน 4.3 กำหนดบทบาทหน้าที่ของแกนนำ 4.4 บรรยายการดูแลสุขภาพตนเองในเดือนรอมฎอน 5. สรุปกิจกรรม
-ได้แกนนำจำนวน 35 คน -บทบาทหน้าที่ของแกนนำ ได้แก่ การติดตาม แกนนำ อสม. ทำหน้าที่ ติดตาม แกนนำปลูกผัก ทำหน้าที่
จัดทำตรายางชื่อโครงการ
ตรายางชื่อโครงการ จำนวน 1 อัน
จัดทำป้ายโครงการและป้ายบันไดผลลัพธ์
ป้ายโครงการ จำนวน 1 ป้าย ป้ายบันไดผลลัพธ์ จำนวน 1 ป้าย
พี่เลี่ยงโครงการร่วมชี้แจงแนวทางการดำเนินการแก่คณะทำงาน
คณะทำงานโครงการได้เห็นทิศทางเป้าหมายของโครงการไปในทางเดียว
เดินทางจัดทำ MOU ณ อบจ.สตูล
ผู้รับผิดชอบโครงการจำนวน 2 คน เข้าร่วมลงนาม MOU