คนสร้างสุข

ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 กล่าวคือ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป เกินกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด และในปี 2565 ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged society) คือมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศ และอีก 9 ปีข้างหน้า ในปี 2574 จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่า 28% ของประชากรทั้งประเทศ  จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับปัญหาในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน ทั้งในด้านความคิด ความเข้าใจ และค่านิยมต่างๆ ซึ่งก่อให้ผู้สูงอายุเกิดความน้อยใจ ความเครียด ความคับข้องใจ ประกอบกับวัยสูงอายุเป็นวัยที่มีภาวะสุขภาพเสื่อมลง มีโรคเรื้อรังทางกายเพิ่มมากขึ้น รวมถึงปัญหาการสูญเสียสิ่งสำคัญของชีวิต เช่น การสูญเสียคู่ชีวิตเพราะตายจาก การสูญเสียบุตรเพราะแยกไปมีครอบครัว การสูญเสียสถานภาพหรือบทบาททางสังคม ตลอดจนการสูญเสียการเป็นที่พึ่งของครอบครัว สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้สูงอายุ ประกอบกับปัจจุบันสังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ผู้สูงอายุได้รับการดูแลเอาใจใส่จากบุคคลใกล้ชิดน้อยลง สังคมก้มหน้าเริ่มเป็นภัยมืดที่น่ากลัวสำหรับสัมพันธภาพในครอบครัว ลูกหลานเริ่มให้เวลากับสมาร์ทโฟนมากกว่าการสนทนาซึ่งกันและกัน ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางความรู้สึกและบรรยากาศความเงียบในครอบครัวมีเพิ่มยิ่งขึ้น ผู้สูงอายุจึงแยกปลีกตัวมาอยู่ในมุมของตนเองตามลำพัง ยิ่งส่งผลให้ผู้สูงอายุว้าเหว่ ท้อแท้และเบื่อหน่ายในชีวิต แยกตัวออกจากสังคม มีภาวะซึมเศร้าและความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองลดลงจนเกิดความรู้สึกสิ้นหวัง อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางจิตใจที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุได้แก่ บุคคลในครอบครัว ชุมชน และท้องถิ่น ที่ต้องเข้าใจให้ถึงก้นบึ้งความรู้สึกของผู้สูงอายุ

ตำบลป่าแก่บ่อหิน มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 580 คน มีผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพทางกาย ด้วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 120 คน โรคเบาหวาน จำนวน 70 คน และเริ่มมีผู้สูงอายุเป็นโรคซึมเศร้าที่แพทย์วินิจฉัยแล้ว จำนวน 5คน และผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 10 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่มีสภาวะเครียดจากปัญหาในชีวิตประจำวัน สภาวะเครียดคือต้นเหตุของโรคหลายๆ อย่างสำหรับผู้สูงวัย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคทางเดินอาหาร  เป็นต้น ชมรมผู้สูงอายุตำบลป่าแก่บ่อจึงได้จัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า ผู้สูงอายุต้องมีคุณค่าและมีศักยภาพ ควรได้รับการส่งเสริม สนับสนุนให้มีส่วนร่วมทำประโยชน์ให้สังคม รวมทั้งให้กำลังแก่ผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน ที่ไม่สามารถออกมาเจอสังคมภายนอกได้ ทั้งนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขทั้งกาย ใจ สังคม ปัจจุบันชมรมผู้สูงอายุตำบลป่าแก่บ่อหิน มีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 372 คน บริหารงานชมรมโดยคณะกรรมการชมรมผู้สูงอายุ บทบาทสำคัญคือการส่งเสริมการเรียนรู้ให้ผู้สูงอายุแบบองค์รวม และเพิ่มโอกาสในการรวมกลุ่มในลักษณะเครือข่ายหรือชุมชน ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีร่วมร่วม ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมสร้าง และร่วมในการดำเนินการ ส่งผลให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงได้เสนอโครงการภายใต้กลยุทธ์ การสร้างเครือข่ายเพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เอาความเหงา ความเศร้า ความทุกข์มาปลอดปล่อยและมารับรอยยิ้ม รับกำลังใจ และความอบอุ่นจากเพื่อน จากชุมชน จากเครือข่าย ภายใต้ชื่อโครงการ “ชุมชนห่มรัก” ห่มรักให้ผู้สูงวัย ด้วยเครือข่ายสายใยชุมชน