แบบการติดตามประเมินผลการดำเนินกิจกรรมของโครงการ (Process Evaluation)
กิจกรรม | ระยะเวลา | เป้าหมาย/วิธีการ | ผลการดำเนินงาน | ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ||
เพื่อให้เกิดกลไกการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและสามารถสร้างความรู้ความตระหนักร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากร | 1 ก.ค. 2566 |
|
|
|
|
|
|
เพื่อให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ | 1 ก.ค. 2566 |
|
|
|
|
|
|
การบริหารจัดการโครงการ | 13 ก.ค. 2566 |
|
|
|
|
|
|
เพื่อให้แกนนำมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขภาวะตนเอง โดยการปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารทะเลปลอดภัย จากพื้นที่ ตัวชี้วัดผลลัพธ์ | 1 ต.ค. 2566 |
|
|
|
|
|
|
ประชุมปฐมนิเทศโครงการย่อย แผนงานร่วมทุนสนับสนุนการสร้างสุขภาวะในพื้นที่ชุมชนประมงพื้นบ้าน 5 จังหวัดชายฝั่งทะเล | 13 ก.ค. 2566 | 13 ก.ค. 2566 |
|
|
|
โครงการเสริมสร้างศักยภาพองค์กรชุมชนประมงพื้นบ้าน สู่สุขภาวะชุมชนบ้านตะเคียนดำ ได้จัดส่งผู้แทนเข้าร่วม 2 คน คือ ประธานกกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ และเลขานุการลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ ลักษณะกิจกรรม เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการ ผลที่ได้คือ
1. ได้รู้จักสมาคมรักษ์ทะเลไทย การดำเนินงานของสมาคมรักษ์ทะเลไทยมากขึ้น และรวมถึงการดำเนินงานของสมาคมภายใต้แผนงานร่วมทุนฯ รวมถึงกระบวนการดำเนินงานของโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าประสงค์ของโครงการ ข้อห่วงกังวลในการดำเนินกิจกรรม การรายงานผลผ่านเว็บไซต์ เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยทำ ประกอบกับมีข้อจะกัดเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ ทำให้อาจจะเป็นอุปสรรคในการดำเนินโครงการ แต่ก็ยังดีที่โครงการมีการจัดระบบพี่เลี่ยง เพื่อช่วยให้ความรู้และคาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ |
|
ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์ | 18 ก.ค. 2566 | 18 ก.ค. 2566 |
|
ออกตรวจดูพฤติกรรมการทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ตามมาตรการเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้ง |
|
การดำเนินกิจกรรม "ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์" เป็นมาตรการต่อเนื่องที่ระบุไว้ในโครงการและเป็นความประสงค์ของชุมชน ซึ่งกำหนดให้อย่างน้องเดือนละ 2 ครั้ง ต้องออกทำการเฝ้าระวัง การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และเพื่อต้องการเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ ห่างจากฝั่งในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช การออกตรวจครั้งนี้ เป็นการออกเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ และแจ้งประชาสัมพันธ์กับชาวประมงที่ทำการประมงอยู่ในเขตชายฝั่งที่พบเจอ เรื่องการกำหนดพื้นที่เป็นเขตอนุรักษ์ เพื่อให้ชาวประมงได้รับรู้ และช่วยประชาสัมพันธ์ต่อไปยังเพื่อนๆชาวประมงที่เข้ามาทำการประมงทั้งในและนอกหมู่บ้านต่อไป ผลลัพธ์ที่เกิด 1. พบว่าในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น ช่วงเวลา 19.00 - 20.00 น. ไม่มีเรือประมงที่ทำการประมง เรือส่วนมากทำการประมงอยู่ตั้งแต่เขต 1,000 เมตร ออกไป เป็นจำพวกเรืออวนปลา 2. พบว่าในเขตพื้นที่ระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น มีธงอวนอยู่จำนวนมากแต่ไม่พบเห็นเรือประมงในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะเป็นเครื่องมือประเภทอวนปู และกุ๊งกิ๊ง (สำหรับจับหมึกสาย) ครั้งต่อไปจะออกสำรวจในช่วงเวลากลางวัน |
|
เวทีประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ | 19 ก.ค. 2566 | 19 ก.ค. 2566 |
|
|
|
จำนวนผู้เข้าร่วม 35 คน ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ ชี้แจงวัตุถุประสงค์ของการจัดการประชุมครั้งนี้ 1. เพื่อต้องการฟื้นฟูกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ กลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ เกิดการรวมตัวกันเพื่อต้องการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง รวมถึงการจัดการทรัพยากรในทะเลและชายฝั่งให้คงความสมบูรณ์ เมื่อปีพ.ศ.2551 และต่อมาซึ่งได้จดทะเบียนเป็นองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น ด้านทะเลชายฝั่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมประมง แต่เนื่องจากการบริหารจัดการของกลุ่มขาดความต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มไม่ได้ดำเนินกิจกรรมมา 5 ปี ซึ่งหลายคนเห็นว่าเจตนาการรวมกลุ่มนั้นดีและอยากให้เกิดการดำเนินการต่อ จึงเป็นที่มีของการประชุมคณะกรรมการและสมาชิกในวันนี้ เพื่อรวมกันพิจารณาออกแบบแนวทางในการทำงาน โดยที่ประชุมมีมติร่วมคือ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ในการบริหารจัดการกลุ่ม และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนให้เกิด อีกทั้ง จัดการการบริหารจัดการภายในกลุ่มให้เกิดประสิทธิภาพ อาทิเช่น กองทุนเครื่องมือประมง และกองทุนเครื่องมือซ่อมแซมเรือ เป็นต้น สำหรับในส่วนของสมาชิกก็ให้ทุกท่านช่วยกรอกใบสมัครสมาชิกใหม่ เพื่อต้องการคัดสรรคนที่มีใจรักพัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง หลังจากที่ได้เริ่มดำเนินการชาวประมงในชุมชนเริ่มตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง เราพการจัดการกลุ่มครั้งนี้เกิดการมีส่วนร่วมของ ผู้นำศาสนา เครือข่ายเยาวชนปบ้านตะเคียนดำ ผู้นำท้องถิ่น (อบต.ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน) และชาวประมงในชุมชน ทำให้สามารถกู้ความเชื่อมั่นของผู้คนกลับขึ้นมาอีกครั้ง และมีการจัดการอย่างเป็นระบบมากขึ้น
|
|
ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์ | 25 ก.ค. 2566 | 25 ก.ค. 2566 |
|
ออกตรวจดูพฤติกรรมการทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ตามมาตรการเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้ง |
|
การดำเนินกิจกรรม "ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์" เป็นมาตรการต่อเนื่องที่ระบุไว้ในโครงการและเป็นความประสงค์ของชุมชน ซึ่งกำหนดให้อย่างน้องเดือนละ 2 ครั้ง ต้องออกทำการเฝ้าระวัง การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และเพื่อต้องการเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ ห่างจากฝั่งในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช การออกตรวจครั้งนี้ เป็นการออกเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ และแจ้งประชาสัมพันธ์กับชาวประมงที่ทำการประมงอยู่ในเขตชายฝั่งที่พบเจอ เรื่องการกำหนดพื้นที่เป็นเขตอนุรักษ์ เพื่อให้ชาวประมงได้รับรู้ และช่วยประชาสัมพันธ์ต่อไปยังเพื่อนๆชาวประมงที่เข้ามาทำการประมงทั้งในและนอกหมู่บ้านต่อไป หลังจากที่ลองออกตรวจครั้งที่ผ่านมาพบว่าในเขตพื้นที่ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง เครื่องมือประมงที่พบเห็นมากคือ ประเภทอวนปู และกุ๊งกิ๊ง (สำหรับจับหมึกสาย) จึงเปลี่ยนเวลาออกสำรวจในช่วงเวลากลางวัน (ตอนเช้า) ซึ่งครั้งนี้จึงได้ออก ในช่วงเวลา 07.00 - 08.00 น. ซึ่งการออกดำเนินการแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ผลลัพธ์ที่เกิด 1. พบว่าในเขตทะเลชายฝั่งตั้งแต่ 100 - 1000 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น มีการทำการประมงประเภทอวนปู 14 ลำ กุ๊งกิ๊งจับหมึกสาย 11 ลำ ได้มีการพูดคุยและแจ้งเรื่อง การกำหนดพื้นที่เป็นเขตอนุรักษ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างหารือและจะจัดเวทีประชาคมให้ได้รับทราบร่วมกันอีกครั้ง จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ด้วย จากการที่พูดคุยเรือทุกลำเห็นด้วยหากจะจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ |
|
เวทีประชาคมการจัดทำกฎกติกาและกำหนดเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลชุมชน | 4 ส.ค. 2566 | 4 ส.ค. 2566 |
|
|
|
จำนวนผู้เข้าร่วม 36 คน
กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการชี้แจงวัตถุประสงค์และความจำเป็นของการจัดทำแนวเขตอนุรักษ์ โดยประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ จากนั้นได้กำหนดรูปแบบการรับฟังความคิดเห็นและร่วมกันกำหนดเขตอนุรักษ์ชายฝั่งบ้านตะเคียนดำ 2 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 วันนี้ เวทีประชาคมการจัดทำกฎกติกาและกำหนดเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลชุมชน กฎและข้อบังคับการใช้ประโยชน์ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ 1. ห้ามใช้เครื่องมือทุกชนิดสำหรับในเขตอนุรักษ์และห้ามทำการประมงทุกชนิด 2. เขตอนุรักษ์สิ่งที่ทำได้ คือ การตกเบ็ดริมตลิ่ง รุนเคยโดยใช้ในแรงงานคน และการหว่านแห 3. แสดงแนวเขตโดยการจัดทำป้ายเป็นสัญลักษณ์ 4. แนวเขตจะใช้สัญลักษ์ของผ้าธงสีแดง ผูดติดกับไม้ไผ่ บทลงโทษ
1. กระทำผิดครั้งแรก ว่ากล่าวตักเตือนโดยคณะกรรมการกลุ่ม ลักษณะรูปแบบบ้านปลา
เนื่องจากสภาพพื้นที่ชายหาดบ้านตะเคียนดำ มีลักษณะเป็นหาดทราย ระบบนิเวศคล้ายกับพื้นที่อำเภอหัวไทร ดังนั้นจึงใช้รูปแบบบ้านปลาเช่นเดียวกับพื้นที่หัวไทรคือ ซั้งกอ/ซั้งเชือก โดยใช้ทุ่นแกลลอน ผูกเชือก และถ่วงด้วยอิฐคาน ระหว่งกลางจะใช้ภู่เชือก สลับกับ ทางมะพร้าว จัดวางกระจายในเขตพื้นที่อนุรักษ์ คุณสมบัติของซั้งกอและซั้งเชือก ซั้งกอ : จะไม่มีภู่เชือก แต่จะใช้ทางจากหรือทางมะพร้าว ผูกระหว่างเชือกเลี้ยง ข้อดีคือ : เชื้อปลาหรือสัตว์น้ำจะเข้ามาอาศัยเร็ว ข้อเสีย : อายุการใช้งานสั้น ซั้งเชือก : จะใช้ภู่เชือกผูกติดระหว่างสายเลี้ยง 2 - 3 ภู่ สลับด้วย ทางจากหรือทางมะพร้าว ข้อดีคือ : อายุการใช้งานซั้งเชือกได้หลายปี ข้อเสีย : เชือกมีสารเคลือบต้องใช่เวลานานปลาถึงจะเข้าไปหลบภัยหรืออยู่อาศัย ที่ประชุมมีมติให้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 แผนปฏิบัติการเฝ้าระวังการใช้เครื่องมือประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ให้เป็นไปตามกติกาชุมชน
มาตรการเฝ้าระวังดำเนินการ 2 รูปแบบคือ |
|
ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์ | 6 ส.ค. 2566 | 6 ส.ค. 2566 |
|
ออกตรวจดูพฤติกรรมการทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ตามมาตรการเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้ง |
|
เป็นการออกตรวจครั้งแรกหลังจากที่มีการจัดทเวทีประชาคม เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่อนุรักษ์ โดยการดำเนินกิจกรรม "ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์" เป็นมาตรการต่อเนื่องที่ระบุไว้ในโครงการและเป็นความประสงค์ของชุมชน ซึ่งกำหนดให้อย่างน้องเดือนละ 2 ครั้ง ต้องออกทำการเฝ้าระวัง การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และเพื่อต้องการเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ ห่างจากฝั่งในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช มาตรการเฝ้าระวัง ตามแผนงานที่กำหนด 2 รูปแบบ คือ แบบที่ 1 : มาตรการเฝ้าระวังของชุมชน ให้เรือประมงในพื้นที่ที่ออกทำการประมงในช่วงเวลาที่ต่างกัน คอยตรวจสอบดูแล การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะกระทบกับพื้นที่เขตอนุรักษ์ แบบที่ 2 : มาตรการเฝ้าระวังของกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ ด้วยการออกตรวจอย่างน้อย เดือนละ 2 ครั้ง ผลลัพธ์ที่เกิด
1. พบว่าในบริเวณเขตพื้นที่อนุรักษ์ กว้าง 500 เมตร ห่างจากฝั่ง 200 เมตร ยังมีเครื่องมือประมงประเภทอวนปู และกุ๊งกิ๊ง สำหรับจับหมึกสายอยู่ ทั้งนี้เป็นเพราะยังไม่ได้มีการจัดทำสัญลักษ์ แสดงระยะแนวเขตพื้นที่ให้ชัดเจน ซึ่งจากการที่ได้เข้าไปสอบถามชาวประมงที่อยู่ในบริเวนนั้น เขาสำท้อนว่าหากจะจัดวางแนวเขตวันไหนให้แจ้ง จะได้จัดเก็บเครื่องมือให้ |
|
เวทีอบรมให้ความรู้การจัดทำธนาคารปูม้า | 25 ส.ค. 2566 | 25 ส.ค. 2566 |
|
|
|
สืบเนื่องจากกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ที่ริเริ่มจะจัดทำธนาคารสัตว์น้ำ (ปูม้า) แต่ขาดความรู้เรื่อง การเพาะพันธุ์และขยายพันธุ์ปูม้า ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการจัดเวทีในครั้งนี้เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ให้กับชุมชน โดยผู้ที่มาให้ความรู้เรื่องการจัดทำธนาคารปูม้า คือ นายวิรชัช เจ๊ะเหล็ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านหัวไทร ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ริเริมจัดทำธนาคารปูม้าของจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบกับนอเวศชายหาดของ อำเภอหัวไทรนั้นมีลักษณะคล้ายกับของบ้านตะเคียนดำ ดังนั้นทั้งรูปแบบบ้านปลา และการเพาะเลี้ยงจึงนำของหัวไทรมาเป็นตัวอย่าง โดยในเวทีจะเป็นการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้มากกว่าการอบรมให้ความรู้อย่างเดียว เพราะเป็นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและสามารถแลกเปลี่ยนกันอย่างไม่เก้อเขิน ซึ่ง นายวิรชัช ได้ลำดับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3 ส่วนคือ
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ในเวทีมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสาชาวเลกันได้เข้าใจมากขึ้น เพราะวิทยากรก็เป็นชาวประมง เกิดคามร่วมมือระหว่างกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำกับสมาคมประมงพื้นบ้านหัวไทร ในการร่วมกันปกป้องดูแลรักษาทรัพยากรหน้าบ้าน |
|
ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์ | 26 ส.ค. 2566 | 26 ส.ค. 2566 |
|
ออกตรวจดูพฤติกรรมการทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ตามมาตรการเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้ง |
|
การดำเนินกิจกรรม "ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์" เป็นมาตรการต่อเนื่องที่ระบุไว้ในโครงการและเป็นความประสงค์ของชุมชน ซึ่งกำหนดให้อย่างน้องเดือนละ 2 ครั้ง ต้องออกทำการเฝ้าระวัง การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และเพื่อต้องการเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ ห่างจากฝั่งในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช มาตรการเฝ้าระวัง ตามแผนงานที่กำหนด 2 รูปแบบ คือ แบบที่ 1 : มาตรการเฝ้าระวังของชุมชน ให้เรือประมงในพื้นที่ที่ออกทำการประมงในช่วงเวลาที่ต่างกัน คอยตรวจสอบดูแล การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะกระทบกับพื้นที่เขตอนุรักษ์ แบบที่ 2 : มาตรการเฝ้าระวังของกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำ ด้วยการออกตรวจอย่างน้อย เดือนละ 2 ครั้ง ผลลัพธ์ที่เกิด 1. พบว่าในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น ไม่พบเห็นเรือทำการประมงในช่วงเวลาดังกล่าว 2. สำหรับในเขตพื้นที่อนุรักษ์ยังพบห็นธงอวนอยู่ในแนวเขต ทั้งนี้เป็นเพราะยังไม่มีการทำสัญลักษ์แสดงเขตพื้นที่อนุรักษ์ไว้ชัดเจน |
|
จัดทำแนวเขตอนุรักษ์และบ้านปลา (ซั้งเชือก/ซั้งกอ) | 5 ก.ย. 2566 | 5 ก.ย. 2566 |
|
|
|
ลักษณะกิจกรรม : ประชุมเชิงปฏิบัติการ
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย
1. สมาคมประมงพื้นบ้านในถุ้ง
2. สมาคมรักษ์ทะเลไทย
3. ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สจ.เริงวุฒิ เชาวลิต ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น 1. ชาวประมงในพื้นที่เกิดความภาคภูมิใจ ที่เห็นหลายเครือข่ายองค์กรให้ความสำคัญและมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนครั้งนี้ 2. กลุ่มเครือข่างองค์กรต่างๆที่เข้าร่วมพร้องให้การสนับสนุนในทุกมิติทั้ง งบประมาณ ความรู้ ความร่วมมือ และรวมถึงมาตรการป้องกัน |
|
ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์ | 9 ก.ย. 2566 | 9 ก.ย. 2566 |
|
ออกตรวจดูพฤติกรรมการทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ตามมาตรการเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้ง |
|
เป็นการออกตรวจครั้งแรกหลังจากที่ได้มีการจัดทำแนวเขตอนุรักษ์และบ้านปลา โดยการดำเนินกิจกรรม "ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์" เป็นมาตรการต่อเนื่องที่ระบุไว้ในโครงการและเป็นความประสงค์ของชุมชน ซึ่งกำหนดให้อย่างน้องเดือนละ 2 ครั้ง ต้องออกทำการเฝ้าระวัง การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และเพื่อต้องการเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ ห่างจากฝั่งในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช
ผลลัพธ์ที่เกิด
1. พบว่าในบริเวณเขตพื้นที่อนุรักษ์ ไม่มีการใช้เครื่องมือประมงในเขต เพราะได้มีการจัดทำสัญลักษณ์ไว้ชัดเจน และมีบ้านปลาวางอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์และด้วย |
|
ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์ | 21 ก.ย. 2566 | 21 ก.ย. 2566 |
|
ออกตรวจดูพฤติกรรมการทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ตามมาตรการเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้ง |
|
การออกตรวจครั้งที่ 2 หลังจากที่มีการจัดทำแนวเขตอนุรักษ์บ้านปลาแล้ว โดยการดำเนินกิจกรรม "ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์" เป็นมาตรการต่อเนื่องที่ระบุไว้ในโครงการและเป็นความประสงค์ของชุมชน ซึ่งกำหนดให้อย่างน้องเดือนละ 2 ครั้ง ต้องออกทำการเฝ้าระวัง การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และเพื่อต้องการเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ ห่างจากฝั่งในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช
การออกตาวจในคืนนี้ได้รับการแจ้งมาจากกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านว่ามีเรือประมงประเภท อวนลาก เริ่มเข้ามาวนเวียนในพื้นที่ คณะกรรมการจึงได้ออกเฝ้าระวัง ผลลัพธ์ที่เกิด
1. พบว่าในบริเวณเขตพื้นที่อนุรักษ์ ไม่มีการใช้เครื่องมือประมงในเขต เพราะได้มีการจัดทำสัญลักษณ์ไว้ชัดเจน และมีบ้านปลาวางอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์และด้วย |
|
เวทีพัฒนาศักยภาพสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่ง | 26 ก.ย. 2566 | 26 ก.ย. 2566 |
|
|
|
การจัดเวทีพัฒนาศักยภาพสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงชายฝั่ง ได้รับความอนุเคราะห์จาก นายจิรวิช จุลบัษปะ ประมงอำเภอท่าศาลา เป็นวิทยากร ในครั้งนี้
1. ให้ความรู้การจัดกิจกรรมอนุรักษ์ในรูปแบบที่เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่
วิทยากรกล่าว : จากการได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำก่อนหน้านี้ และได้ทราบเจตนาของกลุ่มและความเป็นมาพอสมควร และต้องขอชื่นชมกลุ่มประมงพื้นบ้านตะเคียนดำมาที่จัดลำดับการดำเนินงานได้เป็นขั้นตอนที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น การหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการจัดทำกิจกรรมและการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ แนวเขต/บ้านปลา ให้สอดคล้องกับนิเวศของพื้นที่ และรวมถึงการศึกษาเรียนรู้ถอดบทเรียนการทำงานกับพื้นที่ที่มีการจัดทำกิจกรรมในลักษณะนี้มาก่อน ในะื้นที่ที่เหมือนกัน อย่างเช่น พื้นที่หัวไทร ดังนั้นประเด็นนี้จึงไม่ต้องแนะนำอะไรมากนัก
ปิดท้ายด้วยกิจกรรมการร่วมกันปล่อยลูกปูม้าลงสู่ทะเลร่วมกัน ซึ่งเป็นลูกปูม้าของกลุ่มประมงพื้บ้านตะเคียนดำ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น สมาชิกในกลุ่มประมงเกิดความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎหมายประมงที่มีผลต่ออาชีพมากยิ่งขึ้น เกิดการพูดคุยจนนำไปสูการหาแนวทางหรือมาตรการสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มที่ชัดเจนมากขึ้น |
|
ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์ | 2 ต.ค. 2566 | 2 ต.ค. 2566 |
|
ออกตรวจดูพฤติกรรมการทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ตามมาตรการเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้ง |
|
การออกตาวจในวันนี้ได้รับการแจ้งมาจากกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านว่ามีการวางอวนในเขตพื้นที่อนุรักษ์จำนวน 1 ลำ คณะกรรมการจึงทำการออกตรวจตามมาตรการ ซึ่งได้พบเห็นเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่จำนวน 1 ลำ อยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และได้เข้าทำการว่ากล่าวตักเตื่อน พร้อมทั้งให้เก็บอวนออกจากพื้นที่ และจากนั้นได้ขึ้นทะเบียนประวัติ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการกระทำความผิดตามกฎระบียบว่าด้วยการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เขตอนุรักษ์ และได้แจ้งไปยังผู้นำในชุมชน เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลต่อไป |
|
ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์ | 23 ต.ค. 2566 | 23 ต.ค. 2566 |
|
ออกตรวจดูพฤติกรรมการทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ตามมาตรการเฝ้าระวัง เดือนละ 2 ครั้ง |
|
การดำเนินกิจกรรม "ออกตรวจและเฝ้าระวังการทำการประมงบริเวณแนวเขตอนุรักษ์" เป็นมาตรการต่อเนื่องที่ระบุไว้ในโครงการและเป็นความประสงค์ของชุมชน ซึ่งกำหนดให้อย่างน้องเดือนละ 2 ครั้ง ต้องออกทำการเฝ้าระวัง การใช้เครื่องมือประมงที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และเพื่อต้องการเก็บข้อมูลประเภทกลุ่มเครื่องมือประมงที่ใช้ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านตะเคียนดำ ห่างจากฝั่งในระยะ 500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช
การออกตาวจในคืนนี้ได้รับการแจ้งมาจากกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านว่ามีเรือประมงประเภท อวนลาก เริ่มเข้ามาวนเวียนในพื้นที่อีกครั้ง คณะกรรมการจึงได้ออกเฝ้าระวัง ผลลัพธ์ที่เกิด
1. พบว่าในบริเวณเขตพื้นที่อนุรักษ์ ไม่มีการใช้เครื่องมือประมงในเขต เพราะได้มีการจัดทำสัญลักษณ์ไว้ชัดเจน และมีบ้านปลาวางอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์และด้วย |
|