รายงานกิจกรรมงวดที่ 1
รายงานการพัฒนาโครงการ
โครงการสร้างท้องถิ่นน่าอยู่ ชุมชนเข้มแข็ง สิ่งแวดล้อมยั่งยืน
ด้วยการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลชุมโค
การเก็บข้อมูลเบื้องต้น
ข้อมูลชุมชน โดยทั่วไป
ชายฝั่งทะเลตำบลชุมโค มีความยาวประมาณ 5 – 6 กิโลเมตร ประกอบด้วยพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านแหลมแท่น หมู่ที่ 6 บ้านบ่อเมา - หินกบ และหมู่ที่ 5 บ้านบางจาก ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่งขนาดกลาง และขนาดเล็ก บริเวณชายฝั่งห่างออกไปประมาณ 3,000 – 5,000 เมตร เป็นแนวปะการังน้ำตื้นซึ่งประกอบไปด้วยทรัพยากรชายฝั่งอาทิ แนวโขดหินปะการัง หอยมือเสือ ดอกไม้ทะเล ปะการังน้ำตื้น และสัตว์ทะเลนานาชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน เม่นทะเล ปลิงทะเล ฯลฯ
ถัดจากชายฝั่งทะเลก็เป็นส่วนของบนบก มีพื้นที่ที่เป็นดินเลนที่สามารถเพาะปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายเลนได้ในบางพื้นที่ทั้ง 3 หมู่ แต่จะไม่เป็นพื้นที่ดินเลนที่เป็นแนวเดียวกัน จะมีเป็นช่วง ๆ เช่น จุดบริเวณบ้านแหลมแท่น บ้านหินกบ และบ้านบางจาก พันธุ์ไม้ที่เหมาะสมน่าจะเป็นแสม ลำพู เนื่องจากชาวบ้านได้ทดลองปลูกโกงกางไปแล้วแต่ขึ้นไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ถัดจากชายฝั่งทะเลไปบนบกประมาณ 2 กิโลเมตร จะเป็นลำคลองบางมูลซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นป่าชายเลนที่หลากหลาย เช่น โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่
ต้นจาก ต้นตาตุ่ม แสม ลำพู ฯลฯ
ด้วยพื้นที่ดังกล่าวนี้มีทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่หลากหลาย จึงเหมาะกับการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่งเนื่องจากมีพื้นที่ที่สามารถเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนได้ แต่เนื่องจากยังมีสภาพเสื่อมโทรมจึงทำให้มีปัญหาการลดน้อยลงของทรัพยากรสัตว์น้ำชายฝั่ง ฉะนั้นชุมชนทั้ง 3 หมู่บ้านจึงต้องมีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวร่วมกันก็จะสามารถทำให้ตำบลท้องถิ่นมีความอุดมสมบูรณ์และกลายเป็นตำบลท้องถิ่น
น่าอยู่ได้อย่างเต็มรูปแบบ
การศึกษาข้อมูลสถานภาพชุมชนรอบพื้นที่การดำเนินโครงการฯ นั้น ได้เป็นการศึกษาเบื้องต้นในลักษณะการสอบถามพูดคุยกับชาวบ้านถึงลักษณะทางประชากร เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมของชุมชน แล้วนำผลจากการสัมภาษณ์ดังกล่าวมาประมวลและสรุปออกมาเป็นภาพรวมของแต่ละหมู่บ้าน ดังต่อไปนี้
บ้านบ่ออิฐ หมู่ที่ 1 ตำบลชุมโค
ลักษณะทางกายภาพ
• ที่ตั้ง : หมู่ 1 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร
ทิศตะวันตก ติดต่อกับหมู่ที่ 1 ต.บางสนโดยมีลำคลองบางสนกั้นกลาง และหมู่ที่ 2 ต. ชุมโค
ทิศเหนือ ติดต่อกับหมู่ที่ 6 บ้านบ่อเมา – หินกบ
ทิศใต้ ติดต่อกับทะเลอ่าวบางสน
ทิศตะวันออก ติดต่อกับทะเลอ่าวไทย หรืออ่าวบ่อเมา
• ประวัติการก่อตั้งหมู่บ้าน : ไม่มีการบันทึกข้อมูลที่เป็นทางการที่เป็นประวัติศาสตร์อันชัดเจน มีเพียงข้อมูลที่จำสืบมาแต่ สมัย พ.ศ. 2500 ประชาชนเรียกกันติดปากว่า บ้านบ่ออิฐ – บ้านแหลมแท่น เดิมมีประชากร อาศัยอยู่แถบชายฝั่งทะเล จำนวนไม่มากนัก ตั้งแต่บริเวณกลางอ่าวบ่อเมา มาจรดปากอ่าวคลองบางมูล บ้านแหลมแท่น มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร และมีพื้นที่เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ยื่นออกไปสู่ชายฝั่งทะเล ยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร เรียกกันว่า แหลมแท่น ซึ่งบริเวณแหลมแท่นนี้ มีความเชื่อกันว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า “เจ้าที่แหลมแท่น” อาศัยอยู่ หากใครลบหลู่ หรือพูดจาเป็นการหมิ่นประมาท ผู้คนนั้นจะได้รับการลงโทษจากเจ้าที่ โดยมีความเป็นไปต่าง ๆ นานา ในสมัย พ.ศ. 2500 ทั้งหมู่บ้านบ่ออิฐมีประชากรอาศัยอยู่ ประมาณ 50 ครัวเรือน เศษ และทุกครัวเรือนในบ้านบ่ออิฐ จะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันเสมือนพี่เสมือนน้อง สภาพหมู่บ้าน ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่งอยู่แถบชายฝั่งทะเลอ่าวบ่อเมา ด้านหลังเป็นป่าดิบ ส่วนที่สองอยู่บนเนินเขาแหลมแท่น ด้านล่างเป็นทะเลอ่าวบางสน ส่วนที่สามอยู่ริมคลองบางมูลทอดยาวมาจนถึงบริเวณสนามบินพานิช จ. ชุมพร ซึ่งเรียกว่า “บ้านท่าต้นตาล” จึงทำให้วิถีชีวิตของประชาชนบ้านบ่ออิฐ ต้องอาศัยการหาอยู่หากินแบบประมงชายฝั่งทะเลและแนวฝั่งคลอง และประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าวควบคู่กับประมงชายฝั่ง เป็น 50 : 50 โดยประมาณหลังจากอำเภอ ปะทิวโดนพายุไต้ฝุ่นเกย์ในปี 2532 ทำให้สวนมะพร้าวของชาวบ้านถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ประชาชนจึงต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยหันมาเป็นปลูกต้นปาล์มน้ำมันแทน โดยการสนับสนุนจากภาครัฐ ส่งเสริมการทำการเกษตรปาล์มน้ำมันและยางพารา เนื่องจากเห็นว่า เป็นอาชีพที่สามารถทำให้ประชาชนฟื้นคืนเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น และที่ดินแถบชายฝั่งทะเลถูกแบ่งขายให้กับนายทุนไปบางส่วน จึงทำให้มีคนต่างถิ่นเข้ามาอาศัยอยู่มากเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบัน ประชากรเพิ่มเป็น 141 ครัวเรือน มีสมาชิกในหมู่บ้าน 456 คน (โดยประมาณ)
• แหล่งท่องเที่ยว : ที่สำคัญและเป็นที่รู้จักมี 2 แห่ง ได้แก่
1. แหลมแท่น จุดเด่นคือ เป็นเนินเขาไม่สูงมากยื่นออกไปในทะเล มีหาดหิน และจุดชมวิวที่สวยงาม ปัจจุบันขาดการพัฒนาจากหมู่บ้านจึงทำให้มีการรกร้าง และไม่ค่อยมีใครไปเที่ยวเพราะขาดการพัฒนา แหลมแท่นเคยได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อปี 2525 ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามยิ่งของอำเภอปะทิว
2. หาดบ่อเมา ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างบ้านบ่อเมาหมู่ที่ 6 ต. ชุมโค ซีกซ้ายเป็นบ้านบ่อเมา ซีกขวาเป็นบ้านแหลมแท่น ห่างจากตัวเมืองปะทิวประมาณ 10 กิโลเมตร ริมหาดมีหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งสามารถติดต่อเรือประมงขนาดเล็กไปดำน้ำชมปะการังได้ที่เกาะไข่ หาดบ่อเมา เป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแหลมแท่นได้อย่างสวยงามมาก
• ความต้องการของชุมชน : คือ อยากให้ประชากรมีอาชีพที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพได้ทุกครอบครัว
ปัจจุบัน พื้นที่ริมชายฝั่งทะเลของหมู่ที่ 1 บ้านบ่ออิฐ ได้ถูกเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิมไปบ้างเป็นบางส่วน เนื่องจากประชาชนที่อาศัยอยู่แถบชายฝั่งทะเลได้ถูกภัยพายุไต้ฝุ่นเกย์ในปี 2532 ทำให้ประชาชนประสบปัญหายากจน จึงจำเป็นต้องแบ่งที่ดินขายให้กับกลุ่มนายทุน
ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่พบในหมู่บ้าน
- มีการทำลอบปูใช้เองในกลุ่มประมงชายฝั่ง
- มีหมอทำขวัญนาค คือ นายนิโรจน์ นิลสถิตย์
- การเลี้ยงปลากระชังคลองบางสน
ภาพพื้นที่โดยทั่วไป
ป่าชายเลนบริเวณลำคลองบางมูล หมู่ที่ 1 ต. ชุมโค
บริเวณชายหาดอ่าวบ่อเมา – แหลมแท่น ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
บ้านบางจาก หมู่ที่ 5 ตำบลชุมโค
ลักษณะทางกายภาพ
• ที่ตั้ง : หมู่ 5 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร
ทิศตะวันตก ติดต่อกับหมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ต. ชุมโค
ทิศเหนือ ติดต่อกับหมู่ที่ 6 ต. ปากคลอง
ทิศใต้ ติดต่อกับหมู่ที่ 6 ต. ชุมโค
ทิศตะวันออก ติดต่อกับทะเลอ่าวไทย หรืออ่าวบางจาก
• ประวัติการก่อตั้งหมู่บ้าน : ตามประวัติเคยเล่าต่อกันมาว่า มีชาวประมงกลับมาจากหาปลาในทะเล และนั่งพักเหนื่อยบนขอนไม้ขนาดใหญ่ ในมือถือมีดปลายแหลมมาด้วย ด้วยความเคยชินเมื่อนั่งบนขอนไม้ แล้วเอามีดปักลงที่ขอนไม้ดังกล่าว ปรากฏว่า มีเลือดไหลออกมาตรงบริเวณที่ปักมีด ชาวประมงตกใจมาก เมื่อมองดูอีกครั้งพบว่าเป็นตัวพญานาค จึงวิ่งกลับไปบอกเพื่อนบ้านว่าเจอพญานาคให้ไปดูกัน เมื่อไปถึงพบว่า ไม่มีแล้ว และอยู่มาไม่นาน ชาวประมงคนดังกล่าวก็เสียชีวิตลง เขาจึงสันนิฐานว่า พญานาค อาศัยอยู่บริเวณเขาใหญ่ อ่าวบางจากแห่งนี้ ซึ่งในปัจจุบันชาวบ้านยังมีความเชื่อกันว่า บริเวณเทือกเขาใหญ่แห่งบ้านบางจากนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตอยู่ บ้านบางจากถูกก่อตั้งมาพร้อม ๆ กับอำเภอปะทิว มีพื้นที่เป็นพื้นที่ติดกับชายฝั่งทะเล ที่มีบรรยากาศที่สวยงามมาก จำนวนหลายอ่าวด้วยกัน เช่น อ่าวยายไอ๋ อ่าวคอรัลบีช อ่าวทุ่งซาง และอ่าวยาง อ่าวบางจาก ด้วยสภาพพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นภูเขาริมชายฝั่งทะเลสลับกับหาดทราย จึงทำให้พื้นที่บริเวณนั้น ๆ มีความสวยงาม เมื่อคลื่นกระทบกับภูเขาหิน แล้วไหลเข้าสู่ฝั่ง และลักษณะของภูเขาโอบฝั่ง (ซ้าย ขวา) จึงทำให้บริเวณนั้นจะไม่ค่อยโดนลมแรงเท่าไร ในหน้าที่มีลมพายุ เรือประมงบริเวณนั้นสามารถนำเรือจอดหลบลมบริเวณด้านในของภูเขาได้อย่างสบาย
ลักษณะทางเศรษฐกิจ-สังคม
• กลุ่มที่ก่อตั้งในหมู่บ้าน : ในหมู่บ้านมีการจัดตั้งกลุ่ม อสม กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มประมงชายฝั่ง
• กลุ่มอนุรักษ์หอยมือเสือ โดยมีการจัดตั้งอุทยานหอยมือเสือบริเวณชายฝั่งอ่าวบางจาก ปีที่เริ่มก่อตั้ง
กลาง ปี 2550 โดยการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลชุมโค (สมัยนั้น) และได้รับการสนับสนุน นักวิชาการจากศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จ .ชุมพร
• แหล่งท่องเที่ยว : ที่สำคัญและเป็นที่รู้จักมี 3 แห่ง ได้แก่
• อ่าวยายไอ๋ จุดเด่นคือ มีสำนักสงฆ์ถ้ำยายไอ๋ อยู่บริเวณหน้าถ้ำ บริเวณถ้ำ สามารถเดินขึ้นไปด้วยบันไดธรรมชาติ สูงประมาณ 500 เมตร เมื่อขึ้นไปถึงภายในถ้ำ เมื่อมองตรงขึ้นไป และสังเกตให้ดีจะมองเห็นเป็นลักษณะคล้ายผู้หญิงนอนกางมุ้งอยู่ นอกจากนี้ยังมองเป็นภาพต่าง ๆ ได้อีกหลายมุมด้วยกัน อ่าวยายไอ๋ เป็นอ่าวที่มีจุดชมวิวสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 25 เมตร มีทิวทัศน์สวยงาม ด้านหน้าอ่าวมีแนวปะการังยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ถ้ำยายไอ๋ เป็นเนินเขาไม่สูงมากนักทอดขนานกับแนวทะเล เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม
• อ่าวทุ่งซาง เป็นชายหาดเล็กๆที่มีเขาขนาบทั้งสองด้าน กับตรงกลางอ่าวอีกหนึ่งจุด ทำให้แบ่งเป็นสองฟาก ทรายสะอาดน้ำใส เนื่องจากไม่มีตะกอนดินจากปากแม่น้ำเข้ามาปน ชายหาดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของบ้านบางจากแห่งนี้ จุดเด่นของอ่าวทุ่งซาง คือ ภายในร่องถ้ำของภูเขา จะมีน้ำจืดไหลออกจากถ้ำ ลงสู่ทะเล ทำให้กลายเป็นร่องน้ำจืดอยู่ภายในถ้ำนั้น ซึ่งเมื่ออาบน้ำทะเลเสร็จแล้ว สามารถอาบน้ำจืดตรงบริเวณนั้นได้ แต่ปริมาณน้ำจะไม่มากนัก สันนิฐานว่า คงเป็นน้ำที่ค้างอยู่บนภูเขา เนื่องจากเป็นภูเขาที่สูงพอสมควร แล้วค่อย ๆ ไหลซึมลงมาเรื่อย ๆ จนลงสู่พื้นดินบริเวณดังกล่าว
• อ่าวคอรัลบีซ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หาดทุ่งไข่เน่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของเอกชนที่ซื้อต่อจากคนในพื้นที่แล้วมาสร้างเป็นร้านอาหารและที่พัก มีสระว่ายน้ำขนาดเล็กไว้บริการ ซึ่งเป็นที่เดียวในพื้นที่ของหมู่ที่ 5 ต. ชุมโค ที่มีร้านอาหารและที่พักไว้บริการ แต่บริเวณชายหาดดังกล่าวยังคงเป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าเยี่ยมชมวิวทิวทัศน์ความสวยงามของอ่าวแห่งนี้ได้
• เพิ่มเติมแห่งที่ 4 อีกแห่งหนึ่งคือ อุทยานหอยมือเสือ ที่ทางกลุ่มอนุรักษ์หอยมือเสือบ้านบางจากได้ร่วมกันก่อตั้งขึ้นมา โดยนำเอาหอยมือเสือมาปล่อยในบริเวณดังกล่าวร่วม 1,000 ตัว ซึ่งกำลังมีความสวยมาก ตั้งอยู่บริเวณท่าจอดเรือบ้านบางจาก ห่างจากอ่าวคอรอลบีช ประมาณ 800 เมตรทางด้านทิศใต้ บริเวณดังกล่าวสามารถนั่งเรือประมงขนาดเล็กไปมองด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน (ถ้าน้ำทะเลใส)
• ความต้องการของชุมชน : คือ ไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือนิวเคลียร์ในพื้นที่ เนื่องจาก มีโครงการของ กฟผ. ว่าจะมีโครงการสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวในพื้นที่บ้านบางจาก จึงทำให้ชาวบ้านรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าขึ้น
อ่าวยายไอ๋ อ่าวคอลรอลบีซด้านทิศใต้ อ่าวคอลรอลบีซด้านทิศเหนือ
บ้านบ่อเมา-หินกบ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมโค
ลักษณะทางกายภาพ
• ที่ตั้ง : หมู่ 6 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร
ทิศตะวันตก ติดต่อกับหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 9 ต. ชุมโค
ทิศเหนือ ติดต่อกับหมู่ที่ 5 บ้านบางจาก ต. ชุมโค
ทิศใต้ ติดต่อกับหมู่ที่ 1 ต. ชุมโค
ทิศตะวันออก ติดต่อกับทะเลอ่าวไทย หรืออ่าวบ่อเมา
• ประวัติการก่อตั้งหมู่บ้าน : ที่มาของบ้านบ่อเมา และหินกบ ไม่ปรากฏแน่ชัดนัก รู้เพียงแต่ว่ามีการก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยก่อน พ.ศ. 2500 ซึ่งในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ.2485 นั้น มีทหารญี่ปุ่นมาอยู่ในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่มีใครเข้ามาอยู่ในพื้นที่เลย สภาพเดิมเป็นป่าทึบติดกับชายฝั่งทะเล ไม่มีไฟฟ้าใช้ น้ำประปาใช้ จะใช้ตะเกียงในยามค่ำคืน และขุดบ่อน้ำใช้เองทุกบ้าน รองน้ำฝนไว้ดื่ม เมื่อมีประชาชนมาอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ถึงกับหนาแน่นนัก และสมัยนั้นคนนิยมเลี้ยงช้างไว้ลากซุง เนื่องจากมีไม้ใหญ่จำนวนมาก จึงตัดไม้เพื่อไปทำบ้านพักอาศัย มุงด้วยหลังคาใบจาก จะใช้ไม้ทำพื้นกับเสา ส่วนบ้านที่มีฐานะหน่อยก็มุงสังกะสี ช้างลากซุงห่างจากฝั่งทะเลประมาณ 300 – 500 เมตร เกิดเป็นทางยาวแนวขนานกับชายฝั่งทะเล จึงทำให้เกิดเป็นทางช้างเดิน จึงเรียกกันว่า ทางช้าง ผู้คนจึงใช้เส้นทางนั้นเป็นทางติดต่อสื่อสารกันระหว่างบ้านต่อบ้าน พาหนะที่ใช้เป็นรถจักรยาน และเดินไปมาหากัน อาชีพในอดีตก็ทำการประมงชายฝั่งโดยไม่ต้องใช้เรือ เรียกว่า อวนเข็น ปลาที่ได้จะเป็นปลากระบอก ปลาสิกุล ปลาแป้น ปลาทราย และปลาอื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อเข็นอวนมาได้มากเกินที่จะปรุงอาหารในวันนั้นก็นำไปขายกับเพื่อนบ้าน ด้วยวิธีการเดิน ถ้าเหลือก็จะนำไปย่างหรือทำเค็ม ไว้กิน หรือขายได้อีก และเมื่อถึงฤดูที่เรียกว่า กุ้งเคย กุ้งตัวเล็ก ๆ มาก ๆ ก็จะใช้เกียรติ (คล้ายผ้ามุ้ง) ไปเกียรติกุ้ง เพื่อนำมาทำกะปิ (หรือเรียกว่า เคย) คนในสมัยนั้นไม่มีรายได้หลักที่แน่นอน จะมีบ้างก็คนที่ทำสวนมะพร้าว พอมีรายได้รายเดือนมาเลี้ยงครอบครัวได้ เพียงแต่การประมงแบบอวนเข็น มีรายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง ผู้คนจึงมีฐานะค่อนข้างยากจน แต่ก็มีกินเนื่องจากทรัพยากรมีเพียงพอต่อชีวิตประจำวัน ใช้ชีวิตแบบ พอเพียงอย่างแท้จริง
ต่อมาในปี 2518 เป็นสมัยที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมท เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายเงินผันให้กับ ชาวบ้านได้มีรายได้ โดยการตัดถนนเข้าหมู่บ้านใช้แรงงานจากคนในพื้นที่ จึงเกิดเป็นถนนลูกรังแทน ทางช้างเดิน ถนนดังกล่าวใช้แรงงานคนในการเทลูกรังและเกลี่ยให้เรียบ จึงเรียกถนนเส้นดังกล่าวว่า ถนนคึกฤทธิ์ และมีการพัฒนาเรื่อยมาจนกลายมาเป็นปัจจุบันนี้
ลักษณะทางเศรษฐกิจ-สังคม
• กลุ่มที่ก่อตั้งในหมู่บ้าน : ในหมู่บ้านมีการจัดตั้งกลุ่ม อสม กลุ่มประมงชายฝั่ง กลุ่ม ธกส.
• ศาสนา : ชาวบ้านนับถือศาสนาพุทธ มีวัด 1 แห่ง คือ วัดหินกบ ชาวบ้านใช้ประโยชน์ในการประกอบพิธีทางศาสนา เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา และทำบุญในวันพระ และจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน
• ประชากรและการถือครองที่ดิน : จำนวนครัวเรือนทั้งหมดในหมู่บ้านประมาณ 866 ครัวเรือน ประชากรประมาณ 1,232 คน ส่วนการถือครองที่ดินในหมู่บ้าน ครอบครัวละประมาณ 5 – 20 ไร่ เป็นโฉนดที่ดิน
• อาชีพและรายได้ : รายได้หลัก มาจากภาคการเกษตร ได้แก่ การทำสวนปาล์ม สวนยางพารา ประมาณ ร้อยละ 70 และประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง ร้อยละ 30 ของครัวเรือน ส่วนรายได้รองและเสริม มาจากการค้าขายและการรับจ้างทั่วไป รายได้ต่อครัวเรือนเฉลี่ยคิดเป็นประมาณ 15,000-35,000 บาท/เดือน รายได้ต่อปี :
• ทรัพย์สินอื่น ๆ :
เรือประมงพื้นบ้าน มีประมาณร้อยละ 30
รถจักรยานยนต์ มีประมาณร้อยละ 90
รถยนต์ มีประมาณร้อยละ 80
เรือประมงขนาดใหญ่ ไม่มี
เรือประมงเล็กจนถึงขนาดกลาง จำนวน 50 – 70 ลำ
ร้านค้า มีประมาณ 10 ครอบครัว
• ปัญหา อุปสรรคในการประกอบอาชีพ : มาจากการขาดเงินลงทุน การมีพื้นที่ทำกินลดลง การลดลงของทรัพยากร โดยเฉพาะสัตว์น้ำ พ่อค้าคนกลางกดราคา น้ำมันและสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันราคาแพงขึ้น
• พื้นที่สาธารณะประโยชน์ : มีพื้นที่สาธารณะมี 3 แห่ง ได้แก่ ป่าพรุบริเวณสนามบินพานิชจังหวัดชุมพร บริเวณนี้เป็นแหล่งจุดชมนกอีโก้ง หรือนกเป็ดน้ำ , ป่าพรุหนองยายสี มีกระจูด และกก เป็นจำนวนมาก และสระน้ำหมู่บ้าน ใกล้กับสนามบินพานิชชุมพร อยู่กลางป่าพรุเช่นเดียวกัน
• แหล่งท่องเที่ยว : ที่สำคัญและเป็นที่รู้จักมี 2 แหล่ง ได้แก่
เกาะไข่ เป็นแหล่งปะการังน้ำตื้น ที่สามารถดำน้ำชมปะการังและชีวิตใต้ทะเลได้แบบ สน๊อคเกิ้ล โดยมีเรือประมงขนาดเล็กและกลางไว้บริการบริเวณชายฝั่ง ค่าบริการลำละ 1,000 บาท นั่งได้ 8 คน ปะการังบริเวณเกาะไข่ นี้ได้ถูกพายุไต้ฝุ่นเกย์พัดถอนรากถอนโคนมาเกยอยู่บนหาดเกาะไข่เป็นจำนวนมาก เมื่อ ปี พ.ศ. 2532 ปัจจุบันกำลังฟื้นตัวมีความสวยงามขึ้นมาบ้างแล้ว นอกจากนี้ยังมีหอยมือเสือ เม่น ปลิง ดอกไม้ทะเล และสัตว์ทะเลสวยงามเป็นจำนวนมาก
หาดบ่อเมา ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างบ้านแหลมแท่นหมู่ที่ 1 ต. ชุมโค ห่างจากตัวเมืองปะทิวประมาณ 10 กิโลเมตร ริมหาดมีหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งสามารถติดต่อเรือประมงขนาดเล็กไปดำน้ำชมปะการังได้ที่เกาะไข่ หาดบ่อเมา เป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแหลมแท่นได้อย่างสวยงามมาก
• ความต้องการของชุมชน : คือ อยากให้ประชากรมีอาชีพที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพได้ทุกครอบครัว
นอกจากนี้ยังมีแหล่งบ้านเช่า และหอพักอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากในพื้นที่นี้เป็นที่ตั้งของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวิทยาเขตชุมพร ซึ่งมีนักศึกษามาจากต่างจังหวัดมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงต้องมีบ้านเช่าและหอพักเพื่อรองรับนักศึกษาดังกล่าว
ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่พบในหมู่บ้าน
มีการสานเสื่อกระจูดขาย คือ นางเผียน ป้อมแดง ปัจจุบันอายุ 95 ปี ยังสานเสื่อขายอยู่
ภาพประกอบ
บริเวณบ้านหินกบ หมู่ที่ 6 ซึ่งชุมชน
ชาวประมงร่วมกันทำแนวกันลม โดยนำ
ต้นโกงการมาปลูกในพื้นที่ เพื่อเมื่อโตขึ้นก็จะ
เป็นแนวกันลมให้กับชาวประมงชายฝั่งได้
การจัดเวทีประชาคมหมู่บ้าน/ เวทีประชุมต่าง ๆ
ถ้าเป็นการประชุมประจำเดือนแต่ละหมู่ก็จะจัดหมู่ใครหมู่มัน โดยการนำเอาวาระที่ได้รับจากการประชุมหัวหน้าส่วนราชการอำเภอมาชี้แจงความเคลื่อนไหวให้กับชาวบ้านได้รับทราบร่วมกัน แต่ถ้าเป็นการประชุมกลุ่มประมงชายฝั่ง ก็จะเป็นการจัดประชุมร่วมกันทั้ง 3 หมู่ สถานที่มีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไป ซึ่งบางครั้งก็จะใช้สถานที่ของส่วนราชการ เช่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร หมู่ที่ 6 ต. ชุมโค หรือบางครั้งอาจจะใช้โรงเรียนบ้านบ่ออิฐหมู่ที่ 1 ต. ชุมโค แล้วแต่จะตกลงร่วมกัน
ประชุมจัดทำแผนประมงชายฝั่งรวมกันทั้ง 3 หมู่บ้าน โดยเชิญวิทยากรจากประมงมาให้คำแนะนำ
ประชุมพัฒนาโครงการ ร่วมกันที่ เทศบาลวังไผ่ อ. เมือง จ. ชุมพร
Relate topics
- วัตถุประสงค์ 5
- ธนาคารอารมณ์ดี
- วันที่ประชุมของภาคใต้ตอนบน
- แบบเสนอโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ ปี 2555 (เฉพาะภาคใต้)
- ร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่
- ลงพื้นที่ติดตามโครงการเยาวชนสานฝัน คุ้มกันชุมชน
- ลงพื้นที่ติดตามโครงการถักทอพลังสร้างสรรค์เยาวชนสู่ชุมชนศรียาภัย จ.ชุมพร
- จังหวัดชุมพร จัด เวที สมัชชาสุชภาพปี 2554 "สมัชชาคนชุมพร..กำหนดอนาคตตนเอง"
- โครงการสร้างคนพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ สู่บ้านควนน่าอยู่
- โครงการเสริมศักยภาพการบริหารจัดการหมู่บ้าน เพื่อบ้านช่องสะท้อนน่าอยู่ ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร