directions_run

โครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์


“ โครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ”

ชุมชนไทดำไทรงาม ตำบลท่าข้าม,บ้านทับชัน ตำบลกรูด,บ้านท่าสะท้อน อำเภอพุนพินและตำบลทรัพย์ทวีอำเภอบ้านนาเดิม

หัวหน้าโครงการ
นายจันทรัตน์ รู้พันธ์

ชื่อโครงการ โครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ

ที่อยู่ ชุมชนไทดำไทรงาม ตำบลท่าข้าม,บ้านทับชัน ตำบลกรูด,บ้านท่าสะท้อน อำเภอพุนพินและตำบลทรัพย์ทวีอำเภอบ้านนาเดิม จังหวัด สุราษฎร์ธานี

รหัสโครงการ 55-01848 เลขที่ข้อตกลง 55-00-0864

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2555 ถึง 30 กันยายน 2556


กิตติกรรมประกาศ

"โครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ชุมชนไทดำไทรงาม ตำบลท่าข้าม,บ้านทับชัน ตำบลกรูด,บ้านท่าสะท้อน อำเภอพุนพินและตำบลทรัพย์ทวีอำเภอบ้านนาเดิม

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ



บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ " ดำเนินการในพื้นที่ ชุมชนไทดำไทรงาม ตำบลท่าข้าม,บ้านทับชัน ตำบลกรูด,บ้านท่าสะท้อน อำเภอพุนพินและตำบลทรัพย์ทวีอำเภอบ้านนาเดิม รหัสโครงการ 55-01848 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 ตุลาคม 2555 - 30 กันยายน 2556 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 191,600.00 บาท จาก เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

 

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติโดยชุมชน

กิจกรรม/การดำเนินงาน

    กลุ่มเป้าหมาย

    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้

    ผลที่คาดว่าจะได้รับ

     


    ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

    วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
    ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
    กิจกรรมของโครงการ
    ผลผลิต*
    ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

    1. ทำความเข้าใจเกี่นวกับโครงการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ประชุมคณะทำงานครั้งี่1

    วันที่ 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดเวทีชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • มี อสม. เยวชน อบต. ผู้ใหญ่บ้าน รพ.พุนพิน ครูโรงเรียนบ้านไทรงามและโรงไฟฟ้าสุราษร์ธานีที่สนใจเข้าร่วมเวที ประมาณ 50 คน
    • คนในชุมชนเข้าใจแนวทางดำเนินงานด้านการจัดการภัยพิบัติมากขึ้น

     

    0 0

    2. ประชุมปฐมนิเทศผู้รับทุนโครงการ

    วันที่ 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • อบรมการรายงานทางเว็บไซณ์และอบรมรายงานการเงิน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • คณะทำงานเข้าใจการทำรายงานการเงิน การทำเอกสารการเงิน และการรายงานผลการดำเนินงานโครงการทางเว็บไซด์

     

    0 0

    3. ออกแบบโจทย์คำถามการเก็บข้อมูล

    วันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ประชุมออกแบบสอบถามในการลงพื้นที่เก็บข้อมูล
    • นำเสนอตัวอย่างแบบสอบถามในที่ประชุม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ได้แบบสอบถามเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลชุมชนด้านภัยพิบัติที่สามารถใช้ได้จริงและเกิดผลต่อชุมชน โดยในแบบสอบถาม ข้อมูลสำคัญที่ต้องมี คือ ที่ตั้ง จำนวนผู้อาศัย เด็ก ผู้พิการ คนชรา หญิงตั้งครรภ์ และพาหนะ ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็ต้องใช้ในการวางแผนการช่วยเหลือต่อไป
    • ได้แผนในการลงพื้นที่เก็บข้อมูลในชุมชน

     

    0 0

    4. ประชุมชี้แจงโครงการ

    วันที่ 9 ธันวาคม 2555 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ชี้แจงโครงการเพื่อทำความเข้าใจโครงการร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน อบต. อสม. กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์สุราษฎร์ธานี เยาวชนสืบสานภูมิปัญญาไทดำและแกนนำชุมชน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อสม. กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์สุราษฎร์ธานี เยาวชนสืบสานภูมิปัญญาไทดำและแกนนำชุมชน เข้าใจโครงการมากขึ้น
    • ผู้เข้าร่วมมีความเข้าใจในโครงการฯมากขึ้นและขับเคลื่อนงานได้

     

    0 0

    5. เก็บข้อมูลครัวเรือน ครั้งที่1

    วันที่ 12 ธันวาคม 2555 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ทีม อสม. เยาวชน และนักเรียน ลงพื้นที่เก็บข้อมูลทั่วไป ม.4 บ้านท่าสะท้อน เช่น คนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านน แพฯลฯ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ทีม อสม. เยาวชน และนักเรียน ลงพื้นที่เก็บข้อมูลทั่วไป ม.4  บ้านท่าสะท้อน เช่น คนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านน แพ ฯลฯ
    • ได้ทราบถึงจำนวนประชากรในชุมชนที่เป็นคนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านแพ ฯลฯ ชัดเจนและแน่นอน
    • จากการเก็บข้อมูล ม.4 บ้านท่าสะท้อน จำนวน 28 ครัวเรือน พบว่า มีประชากรรวม 130 คน แบ่งเป็นเพศชาย 62 คน เพศหญิง 58 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 17 คน เป็นเล็ก อายุไม่เกิน 5 ขวบ จำนวน 13  คน เป็นผู้พิการจำนวน 1 คน ลักษณะการปลูกสร้างบ้านเรือนส่วนใหญ่ เป็นบ้านยกพื้น มีใต้ถุนสูง มีเรือพาหนะเพื่อใช้ในการเดินทาง ประกอบอาชีพ และช่วยเหลือเมื่อประสบภัยทางน้ำ จำนวน 52 ลำ มีแพสำหรับการพักอาศัย จำนวน 21 ลำ จากการสำรวจพบว่า ชุมชนนี้มีระดับสูงสุดที่ท่วมเมื่อเดือนมีนาคม 2554 สูงประมาณ 4 -8  เมตร
    • ตอนประสบภัย คนในชุมชนอพยพในพักที่สะพานข้ามแม่น้ำตาปี

     

    0 0

    6. เก็บข้อมูลครัวเรือน ครั้งที่2

    วันที่ 18 ธันวาคม 2555 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ทีม อสม. เยาวชน และนักเรียน จำนวน 40 คน ช่วยกันลงพื้นที่เก็บข้อมูลทั่วไป ม.2 ไทรงาม ทับชัน เช่น คนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านน แพฯลฯ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ทีม อสม. เยาวชน และนักเรียน จำนวน 40 คน ช่วยกันลงพื้นที่เก็บข้อมูลทั่วไป ม.2 ไทรงาม ทับชัน เช่น คนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านน แพ ฯลฯ
    • ได้ทราบถึงจำนวนประชากรในชุมชนที่เป็นคนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านแพ ฯลฯ ชัดเจนและแน่นอน
    • จากการเก็บข้อมูล ม.2 ไทรงาม ทับชัน จำนวน 73 ครัวเรือน พบว่า มีประชากรรวม 298 คน แบ่งเป็นเพศชาย 156 คน เพศหญิง 142 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 38 คน เป็นเล็ก อายุไม่เกิน 5 ขวบ จำนวน 36  คน เป็นผู้พิการจำนวน 1 คน ลักษณะการปลูกสร้างบ้านเรือนส่วนใหญ่ เป็นบ้านยกพื้น มีใต้ถุนสูง มีเรือพาหนะเพื่อใช้ในการเดินทาง ประกอบอาชีพ และช่วยเหลือเมื่อประสบภัยทางน้ำ จำนวน 106 ลำ มีแพสำหรับการพักอาศัย จำนวน 43 ลำ จากการสำรวจพบว่า ชุมชนนี้มีระดับสูงสุดที่ท่วมเมื่อเดือนมีนาคม 2554 สูงประมาณ 3 - 5 เมตร
    • เป็นการสำรวจข้อมูลพื้นที่เฉพาะฝั่งที่เป็นชุมชนไทยพุทธ
    • ตอนประสบภัย คนในชุมชนอพยพในพักที่ศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านทับชัน และโรงเรียนบ้่านไทรงาม

     

    0 0

    7. เก็บข้อมูลครัวเรือน ครั้งที่3

    วันที่ 21 ธันวาคม 2555 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ทีม อสม. เยาวชน และนักเรียน จำนวน 40 คน ช่วยกันลงพื้นที่เก็บข้อมูลทั่วไป ม.7 ต.ท่าข้าม เช่น คนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านน แพ ฯลฯ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ทีม อสม. เยาวชน และนักเรียน จำนวน 40 คน ช่วยกันลงพื้นที่เก็บข้อมูลทั่วไป ม.7 ต.ท่าข้าม เช่น คนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านน แพ ฯลฯ
    • ได้ทราบถึงจำนวนประชากรในชุมชนที่เป็นคนป่วย ผู้สูงอายุ คนป่วยนอนที่ เด็ก คนท้อง เรือ บ้านแพ ฯลฯ ชัดเจนและแน่นอน
    • จากการเก็บข้อมูล ม.7 ต.ท่าข้าม จำนวน 247 ครัวเรือน พบว่า มีประชากรรวม 908 คน แบ่งเป็นเพศชาย 460 คน เพศหญิง 448 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 55 คน เป็นเล็ก อายุไม่เกิน 5 ขวบ จำนวน 87 คน เป็นผู้พิการจำนวน 8 คน ลักษณะการปลูกสร้างบ้านเรือนส่วนใหญ่ เป็นบ้านกว้าน ชั้นเดียว มีเรือพาหนะเพื่อใช้ในการเดินทาง ประกอบอาชีพ และช่วยเหลือเมื่อประสบภัยทางน้ำ จำนวน 217 ลำ มีแพสำหรับการพักอาศัย จำนวน 45 ลำ จากการสำรวจพบว่า ชุมชนนี้มีระดับสูงสุดที่ท่วมเมื่อเดือนมีนาคม 2554 สูงประมาณ 3 - 5 เมตร
    • ตอนประสบภัย คนในชุมชนอพยพในพักที่ศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านทับชัน และโรงเรียนบ้่านไทรงาม

     

    0 0

    8. สรุปผลการสำรวจข้อมูลเก็บข้อมูล

    วันที่ 25 ธันวาคม 2555 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ให้น้องๆ ทีมเยาวชนสืบสานช่วยสรุปข้อมูลที่ไปลงพื้นที่เก็บข้อมูล โดยการนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้ลง excell เพื่อจัดทำข้อมูลให้เป็นระบบ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ให้น้องๆ ทีมเยาวชนสืบสานช่วยสรุปข้อมูลที่ไปลงพื้นที่เก็บข้อมูล โดยการนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้ลง excell เพื่อจัดทำข้อมูลให้เป็นระบบ
    • ได้ข้อมูลครบทั้งชุมชนและชัดเจนได้ข้อมูลครบทั้งชุมชนและชัดเจน
    • ยังไม่สามารถเก็บข้อมูล และทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ เพราะเยาวชนขาดความรู้เรื่องการจัดการข้อมูล ต้องหาคนที่มีความชำนาญมาช่วยทำ

     

    0 0

    9. ประชุมติดตามโครงการร่วมกับ สจรส. มอ.

    วันที่ 15 มกราคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดทำรายงานความก้าวหน้าโครงการผ่านทางเว็บไซด์

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ได้จัดทำรายงานโครงการทางเว็บไซด์
    • แนะนำการจัดทำรายงานการเงิน

     

    0 0

    10. ประชุมวางแผนงานเกี่ยวกับการวางระบบน้ำและการปลูกพืชปลอดสารพิษ

    วันที่ 19 มกราคม 2556 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดประชุมเพื่อวางแผนการวางระบบน้ำในการส่งเสริมอาชีพเสริมร่วมกับแกนนำ สมาชิก และเยาวชน
    • จัดทำแผนที่ทำมือเพื่อวางระบบน้ำใช้อย่างถูกต้อง
    • นัดหมายลงมือทำเพื่อสร้า้งการมีส่วนร่วมกับคนในชุมชน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ได้แนวทางและผนผังการวางแผนการจัดการน้ำใช้สำหรับการส่งเสริมอาชีพเสริมกับชุมชนที่ชัดเจน ซึ่งทำให้เกิดความพร้อมในการดำเนินงาน ได้แก่การเพาะปลูก  การทำปุ๋ยหมัก  การปลูกพืชสาวนครัว เป็นต้น
    • ได้ความร่วมมือจากคนในชุมชนในการเสนอแนะความเห็นและร่วมแรงร่วมใจที่จะมาร่วมปฏิบัติการซึ่งมีการวางแผนการดำเนินงานให้เสร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์

     

    0 0

    11. ประชุมระดมความเเห็นเรื่องอาชีพเสริม

    วันที่ 20 มกราคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดประชุมระดมความคิดเห็นกล่มย่อยเป็นโซนแต่ละหมู่บ้าน
    • จัดประชุมวงใหญ่แกนนำแต่ละชุมชน
    • จัดเวทีรวมระดมความเห็นเรื่องอาชีพเสริมเพื่อฟื้นฟูความเป็นอยู่ของครอบครัวและชุมชน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ประชุมคณะทำงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประมาณ 20 คน เพื่อระดมความคิดเห็น
    • ได้ข้อเสนอแนะเรื่องการสร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชนโดยใช้พื้นที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนเป็นแหล่งสาธิตด้านอาชีพเสริมด้านเกษตรปลอดสารและให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมเรียนรู้ ปฏิบัติให้มากยิ่งขึ้น
    • ได้แนวคิดในการทำอาชีพเสริม คือ ชุมชนต้องคิดอย่างรอบคอบคำนึงถึงระยะเวลา วัตถุดิบ และการจำหน่าย
    • ได้อาชีพเสริมที่ชุมชนสนใจร่วมกัน ได้แก่ การปลูกพืชล้มลุกระยะสั้น ( แตงกวา บวบ ฟัก เป็นต้น ) การเพาะเห็ด การปลูกข้าว การเลี้ยงปลา การทำปุ๋ยหมัก ฯลฯ

     

    0 0

    12. พี่เลี้ยงลงพื้นที่ติดตามโครงการ

    วันที่ 23 มกราคม 2556 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • สอนทักษะการทำรายงานทางเว็บไซด์ให้กับทีมงานโครงการ 3 คน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • มีทีมงานเข้าร่วมอบรมเสริมทักษะการทำรายงานทางเว็บไซด์ 3 คน
    • ทีมงานสามารถทำรายงานคามก้าวหน้าโครงการ รายงานกิจกรรม รายงานการเงินทางเว็บไซด์ได้ ทำให้สามารถช่วยกันทำรายงานให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

     

    0 0

    13. พัฒนาพื้นที่ปลูกพืชปลอดสารพิษ

    วันที่ 26 มกราคม 2556 เวลา 10:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ตัวแทนชุมชนจำนวน 20 คน ลงพื้นที่พัฒนาพื้นที่สาธิตการปลูกผักปลอกสารพิษ ( อาชีพเสริม )
    • วางแผนผังจัดการใช้ประโยชน์พื้นที่ในศูนย์กู้ภัยชุมชนเพื่อสร้า้งความมั่นคงด้านอาหารและสร้า้งรายได้ด้านอาชีพเสริมในครัวเรือน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ชุมชนได้มีส่วนร่วมลงพื้นที่พัฒนาพื้นที่สาธิตการปลูกผักปลอกสารพิษ (อาชีพเสริม) โดยการตัดหญ้า พวนดิน ปลูกกล้วยน้ำหว้า ปลูกมะพร้าว  เป็นต้น
    • ได้วางแผนผังจัดการใช้ประโยชน์พื้นที่ในศูนย์กู็ภัยชุมชนเพื่อสรา้งความมั่นคงด้านอาหารและสร้า้งรายได้ด้านอาชีพเสริมในครัวเรือน โดยมีการจัดวางผังดังนี้
    1. การปลูกหญ้าวัว ส่งเสริมการเลี้ยงวัวพื้นบ้าน จำนวน 15 ไร่
    2. การปลูกผักปลอดสารพิษส่งเสริมอาชีพเสริม จำนวน 13 ไร่

     

    0 0

    14. ประชุมระดมความคิดเกี่ยวกับอาชีพเสริม

    วันที่ 27 มกราคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ฝึกอาชีพเสริมหลังเกิดภัยพิบัติและเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชนให้เกิดขึ้นจริง
    • เวทีระดมความเห็นด้านอาชีพเสริมสำหรับเยาวชน
    • ค่ายฝึกทักษะการเย็บลายผ้าไทดำ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • จัดกิจกรรม 2 วัน คือวันที่ 26 - 27 มกราคม 2556 เพื่อให้การอบรมสามารถประสบผลสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 40 คน
    • ฝึกอาชีพเสริมหลังเกิดภัยพิบัติและเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชนและทีมเยาวชน
    • เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจในการทำอาชีพเสริมเพื่อช่วยเหลือครอบครัวและชุมชนมากขึ้น
    • เยาวชนได้ฝึกทักษาะการเย็บลายผ้าไทดำเพื่อพัฒนาเป็นการทำอาชีพเสริมเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ในครอบครัว
    • เยาวชนได้สืบสานภูมิปัญญาและพัฒนาเป็นอาชีพได้ในอนาคต
    • ได้แผนการดำเนินงานพัฒนาทักษะด้านอาชีพให้กับเยาวชนอีกหลากหลายได้แก่ การทำปุ๋ยหมัก การปลูกข้าว การเพาะเห็ด เป็นต้น
    • เยาวชนได้เห็นบทบาทของกลุ่มเยาวชนในการมีช่วยเหลือชุมชนยามเกิดภัย

     

    0 0

    15. ประชุมคณะทำงานครั้งที่2

    วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดเวทีประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าในการดำเนนินงานที่ผ่านมา
    • ระดมความคิดเห็นและวางแผนการดำเนินงานในช่งถัดไป

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • คณะทำงานและชุมชนเข้าใจโครงการฯและพร้อมทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้เห็นกระบวนการทำงานที่ผ่านมา ดังนี้
    1. การสร้า้งความเข้าใจการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ โดยใช้เวทีพูดคุย การประชุมวงย่อยกับตัวทนแต่ละโซนพื้นที่แต่ละหมู่บ้าน
    2. การสร้า้งความเข้าใจเรื่องอาชีพทางเลือกให้กับชุมชนและเยาวชน
    3. การระมความเห็นการออกแบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลในชุมชน
    4. การลงพื้นที่เก็บข้อมูลและสังเคราะห์ข้อมูลทำให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือกันอย่างรวดเร็วมากขึ้น
    • ได้แผนในการดำเนินงานในระยะต่อไป คือ
    1. การฝึกอบรมเชิงปฏิการการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ
    2. การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอชีพเสริม อาชีพทางเลือกสำหรับเยาวชน
    3. การจัดตั้งศูนย์กู้ภัยชุมชน
    4. การทำแผนกู้ภัยชุมชน
    5. การจัดตั้งกองทุนอาชีพเสริมและภัยพิบัติ
    6. การประชุมคณะทำงานและภาคีที่เกี่ยวข้อง

     

    0 0

    16. เวทีตรวจสอบข้อมูลและจัดทำแผนที่ชุมชน

    วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดประชุมสมาชิกจำนวน 70 คน 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 ,4 ทรัพย์ทวี ตำบลทรัพย์ทวี หมู่ที่ 2 ตำบล กรูด หมู่7 ตำบลท่าข้ามและหมู่ที่ 4 ตำบลท่าสะท้อนตรวจสอบข้อมูลและการจัดทำแผนที่GPSเพื่อได้ข้อมูลและแผนที่ที่ถูกต้อง
    • ฝึกทักษะเยาวชนให้ลงข้อมูลในGPS

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • จัดประชุมสมาชิกจำนวน 70 คน 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 ,4 ทรัพย์ทวี ตำบลทรัพย์ทวี หมู่ที่ 2 ตำบล กรูด หมู่7 ตำบลท่าข้ามและหมู่ที่ 4 ตำบลท่าสะท้อนตรวจสอบข้อมูลและการจัดทำแผนที่GPSเพื่อได้ข้อมูลและแผนที่ที่ถูกต้อง
    • ได้ข้อมูลและแผนที่ที่ถูกต้อง คือแผนที่ทางน้ำของชุมชน ระดับน้ำ กลุ่มคนที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ และข้อเสนอด้านอาชีพเสริม
    • แกนนำชุมชนและเยาวชนสามารถจัดทำแผนที่ GPS และมีความเข้าใจในการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ให้สอดคล้องกับภูมินิเวศน์ของชุมชนได้มากขึ้น
    • ชุมชนได้รับรู้ข้อมูลความเสียหาย  ผลกระทบและได้มีส่วนร่วมในการจัดการป้องกันภัยพิบัติ

     

    0 0

    17. ประชุมเตรียมงานวัฒนธรรมไทดำ

    วันที่ 8 มีนาคม 2556 เวลา 13:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จำนวนคนผู้เข้าร่วม 50 คน -ประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานวัฒนธรรมไทดำ
    • ระดมความเห็นเสนอแนะความคิดเห็นในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับเยาวชนชุมชนผ่านงานสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมไทดำ ประจำปี 2556
    • นำเสนอการเตรียมการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสื่อสารงานสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมไทดำ ประจำปี 2556

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ชุมชนได้มีส่วนร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานวัฒนธรรมไทดำ
    • ได้ความเห็นเสนอแนะความคิดเห็นในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับเยาวชน ชุมชนผ่านงานสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมไทดำ ประจำปี 2556 ดังนี้
    1. ให้เยาวชนจัดกระบวนการเรียนรู้เรื่องภาษาไทดำในทุกกิจกรรมให้สื่อสารกันมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นจากคำทักทาย  หมวดร่างกาย ของใช้ในชีวิตประจำวัน  ผักและผลไม้ เป็นต้น  นอกจากนั้นจัดให้มีหลักสูตรเรื่องการเย็บลายผ้า  พร้อมทั้งให้บอกคุณค่าความหมาย ความสำคัญของแต่ละลายได้ซึ่งจะทำให้เยาวชนมีความภาคภูมิใจในการเรียนรู้ภูมิปัญญาเรื่องลายผ้ามากขึ้น
    2. จัดพื้นที่นำเสนอให้เยาวชนได้แสดงออก เล่าเรื่อง สรุปการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นและประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองและคนในชุมชนได้ทราบในวงกว้างขึ้น
    • ได้แบ่งหน้าที่ รับผิดชอบ ในการประสานสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมไทดำ ประจำปี 2556
    • นำเสนอการเตรียมการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสื่อสารงานสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมไทดำ ประจำปี 2556ดังนี้
    • การสือสารผ่านหนังสือทำมือการจัดกิจกรมของเยาวชน
    • ประมวลภาพกิจกรรมน้ำท่วมและกิจกรรมที่ผ่านมาของชุมชน
    • สื่อวีดีทัศน์
    • ได้แนวทางในการระดมทุนเพื่อการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทดำ
    • ได้รูปแบบการจัดงานวัฒมนธรรมไทดำ โดยการมีการจัดงาน 2 วัน คือวันที่ 14 - 15 เมษายน 2556 วันแรกจะเป็นการนำเสนอบทเรียนการทำงานด้านการฟื้นฟูภูมิปัญญาโดยเยาวชน ร่วมกับชุมชนและเสวนารากเหง้าปู่เหง้าเยาย่า และพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ไทดำ
    • วันที่ 2 เป็นการละเล่นของไทดำและฟ้อนแคน และงานเลี้ยงโต๊ะไทดำเพื่อการจัดระดมทุนศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทดำ

     

    0 0

    18. งานวัฒนธรรมไทดำ

    วันที่ 14 เมษายน 2556 เวลา 08:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    งานวัฒนธรรมไทดำ เป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันที่ 14-15 เมษายน ภายในงานได้จัดกิจกรรมต่างๆดังนี้ - พิธีการเปิดศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทดำอย่างเป็ฯทางการ -เสาวนาเรียนรู็รากเหง้าลูกหลานไทดำ - มีผู้เข้าร่วมงานซึ่งเป็นคนในชุมชนและเครือข่ายจำนวน 300 - 400  คน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    -การจัดงานเปิดศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทดำ (อย่างเป็นทางการ )    งานเปิดศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทดำ (อย่างเป็นทางการ )ซึ่งจัดขึ้นในช่วงวันสงกรานต์ 14 – 15 เมษายน 2556  เพื่อสื่อสารให้คนในชุมชนและภายนอกได้ศึกษาได้เห็นถึงคุณค่าภูมิปัญญาไทดำ จากการศึกษาค้นคว้า และจัดกระบวนการเรียนรู้สืบทอดของเยาชนร่วมกับชุมชน ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ทำให้หลายภาคส่วนที่ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงานและเยี่ยมชม ได้ความรู้ ความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการสร้างการเรียนรู้จากฐานภูมิปัญญามากขึ้น พร้อมด้วยมีการเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเติมเต็มข้อมูลประวัติความเป็นมา และทิศทางการก้าวต่อไปในสืบสานภูมิปัญญาไทดำ ซึ่งมีอาจารย์พิเชฐ  สายพันธ์  อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำมาร่วมเป็นวิทยากรในครั้งนี้ด้วย  นอกเหนือจากนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลท่าข้าม มีข้อเสนอและสนับสนุนให้จัดกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดความต่อเนื่อง ภายในศูนย์เรียนรู้ฯ( ซึ่งจะมีการนัดหมายเปิดเวทีด้านความร่วมมือกันต่อไป ) 

     

    0 0

    19. เยียมบ้านผู้สูงอายุ

    วันที่ 4 พฤษภาคม 2556 เวลา 10:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุ ม.7 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีพื่อสร้างความสนิทสนมกับผู้สูงอายุและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุ ม.7 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งหมด 32 คน

     

    0 0

    20. เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ

    วันที่ 5 พฤษภาคม 2556 เวลา 10:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุ ม.2 ต.กรูด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีพื่อสร้างความสนิทสนมกับผู้สูงอายุและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุ ม.2 ต.กรูด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งหมด 24 คน

     

    0 0

    21. ฝึกทักษะอาชีพเสริมให้เยาวชน

    วันที่ 10 พฤษภาคม 2556 เวลา 08:30 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    ฝึกทักษะอาชีพเสริมให้เยาวชน
    - การปลูกผัก
    - ความรู้ความเข้าใจเรื่องอาชีพเสริมและอาชีพที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่น้ำท่วม -ทดลองฝึกอาชีพเสริม

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • เยาวชนได้ความรู้เรื่องการทำอาชีพเสริมซึ่งสามารถทำได้ทั้งรายบุคคลและรายกลุ่ม - 

     

    0 0

    22. ฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการสุขภาพผู้สูงวัย

    วันที่ 17 พฤษภาคม 2556 เวลา 08:30 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ได้มีการตรวจสุขภาพของผู้สูงอายุและผู้สนใจในพื้นที่ชุมชนไทดำ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • มีผู้สูงอายุและผู้ที่สนใจในพื้นชุมชนไทดำมาตรวจสุขภาพและฟังคำแนะนำการดูแลสุขภาพจากเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลพุนพิน  จากหมู่ที่ 2 ต.กรูด ,หมู่ที่ 4 ต.ท่าสะท้อน และหมู่ที 7 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งหมด 70 คน

     

    0 0

    23. ฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการสุขภาพผู้สูงวัย

    วันที่ 19 พฤษภาคม 2556 เวลา 09:00 - 16.00 น. น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ให้ความรู้ ความเข้าใจและฝึกทักษะในการดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้นในการเตรียมพร้อมเผชิญยามเกิดภัยพิบัติ -การระดมความเห็นการเกิดภัยพิบัติและเพิ่มเติมความเข้าใจภัยพิบัติน้ำท่วม -พระสงฆ์เทศนาเรียนรู้ รู้จักหลักธรรมสำคัญในการดำเนนิชีวิต

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ผู้สูงอายุและเยาวชนมีความสามารถในการเตรียมพร้อมเผชิญยามเกิดภัยพิบัติ  ในด้านต่างๆ ดังนี้
    1. การดูแลตัวเองเบื้องต้น และสามารถแนะนำผู้อื่นได้
    2. ความรู้ความเข้าใจและการเตรียมพร้อมเผชิญยามเกิดภัยพิบัติ
    3. การใช้หลักศาสนธรรมกับการเตรียมพร้อมทั้งก่อนเกิด ขณะเกิดและเกิดภัยพิบัติ
    • ผู้สูงอายุและเยาวชนมีความเข้าใจและสามารถวางบทตนเองต่อการเตรียมพร้อมเผชิญยามเกิดภัยพิบัติ
    • เกิดอาสามาสมัครจิตอาสา ในการจัดกิจกรรมสร้างการเรียนรู้เตรียมพร้อมเผชิญยามเกิดภัยพิบัติ  และกู้ภัยในชุมชนเพิ่มมากขึ้น
    • อสม.ได้ร่วมวางแผนการติดตามการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
    • เกิดกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัยของชุมชน

     

    0 0

    24. ฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการสุขภาพผู้สูงวัยและเยาวชน

    วันที่ 13 มิถุนายน 2556 เวลา 09:00 - 17.00 น. น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • พูดคุยและสร้างความเข้าใจเยาวชนมีความเข้าใจเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วมโดยการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากเครือข่ายกล่มจัดการภัยพิบัติบ้านท่าเรือ และคลองยัน -ฝึกทำแผนที่ระบบภูมิศาสตร์ในชุมชนไทดำโดยการลงพื้นที่สำรวจสภาพจริงและทดลองทำแผนที่ทำมือชุมชน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • เยาวชนมีความเข้าใจเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วมโดยการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากเครือข่ายกล่มจัดการภัยพิบัติบ้านท่าเรือ และคลองยัน ทำให้เกิดเครือเฝ้าระวังภัยด้านภัยพิบัติมากขึ้น -เยาวชนได้ทำแผนที่ระบบภูมิศาสตร์ในชุมชนไทดำโดยการลงพื้นที่สำรวจสภาพจริงและทดลองทำแผนที่ทำมือชุมชน

     

    0 0

    25. พัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและกู้ภัยชุมชน

    วันที่ 20 มิถุนายน 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • การพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์เรียนรู้และกู้ภัยชุมชน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์เรียนรู้และกู้ภัยชุมชน ส่วน ต่างๆได้แก่  การตัดแต่งกิ่งไม้  การปรับปรุงซ่อมแซมบันได  ห้องน้ำ และสนามหญ้า
    • ได้วางแผนการปรับปรุงและเพิ่มเติมข้อมูลของชุมชนในการช่วยเหลือคนในชุมชนยามเกิดภัยพิบัติ
    • ได้เผยแพร่ข้อมูลการเกิดภัยพิบัติ และการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติของชุมชนโดยการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และกู้ภัยชุมชน

     

    0 0

    26. ประชุมคณะทำงาน

    วันที่ 3 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ได้ชี้แจ้งและทำความเข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่จะต้องทำในชุมชนไทดำ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • เข้าใจเกี่ยวกิจกรรมที่ตองทำในชุมชนไทดำมากขึ้นและปฎิบัติงานได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น

     

    30 15

    27. เวทีระดมความคิดเห็วทางกองนเพื่อวางแนทุนการจัดการอาชีพทางเลือก

    วันที่ 5 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ประชุมคณะทำงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อวางแผนจัดการจัดกองทุนอาชีพทางเลือกของชุมชนไทดำ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ได้สร้างความเข้าใจหลักการ  กระบวนการ  วิธีการ  และงบประมาณในการจัดกองทุนอาชีพทางเลือก
      โดยมีหลักการที่ได้ระดมความเห็นร่วมกันคือ
    • เป็นกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในชุมชน
    • เป็นการใช้เงินหมุนเวียน ( โดยไม่มีดอกเบี้ย )
    • ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกให้สามารถเข้าร่วมสมทบทุนกับชุมชนได้
    • บริหารจัดการโดยชุมชน

     

    50 50

    28. ประชุมคณะทำงานวางแผนการจัดการกองทุนอาชีพทางเลือก

    วันที่ 8 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • สมาชิกกลุ่มอาชีพได้ทำความเข้าใจกฎกติการ่วมกัน
    • เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกลุ่มอาชีพที่ได้ปฎิบัติจริงและเกิดผลสำเร็จ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • มีกลุ่มอาชีพที่หลากหลายในชุมชนที่แต่ละคนหรือครอบครัวมีความถนัด
    • ช่วยสร้างรายได้ของคนในชุมชนและเกิดแนวคิดเรื่องการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นในท่ามกลางปัญหาภัยธรรมชาติที่คาดการณ์ไม่ได้

     

    30 50

    29. ประชุมคณะทำงาน จัดตั้งศูนย์กูภัยชุมชน

    วันที่ 11 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ประชุมคณะทำงานจัดตั้งศูนย์กู้ภัย

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. ได้สร้างความเข้าใจหลักการ  กระบวนการ  วิธีการ  และงบประมาณในการจัดตั้งศูนย์กู้ภัย     โดยมีหลักการที่ได้ระดมความเห็นร่วมกัน ดังนี้
    • เป็นศูนย์กู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยในชุมชนอย่างทันท่วงที
    • เป็นศูนย์กู้ภัยที่ให้ความรู้ความเข้าใจด้านภัยพิบัติกับชุมชน
    • เป็นการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกให้สามารถเข้าร่วมเรียนรู้และแลกเปลี่ยนกับชุมชน

      2. ได้ทราบบทบาทของคณะทำงานชัดเจนมากขึ้น ในการประสานงานและปฏิบัติการกู้ภัย

      3. ได้ปรึกษาและวางแผนการจัดตั้งศูนย์กู้ภัยและระดมทุนในการขับเคลื่อนการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติและการสร้างอาชีพทางเลือกอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกันยายน 2556

     

    150 0

    30. รับสมัครและจัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าดูและระวังภัย

    วันที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:00 - 15.00 น. น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดเวทีแลกเปลี่ยนการทำงานอาสาสมัครกู้ภัย โดยเชิญวิทยากร ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และระดมความคิดเห็นบทบาทและความสำคัญของงานกู้ภัย
    • รับสมัครอาสาสมัครกู้ภัยของแต่ละหมู่บ้าน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • อาสาสมัครมีความเข้าใจในการเป็นอาสาสมัครกู้ภัยมากขึ้น โดยในการจัดประชุมครั้งนี้ได้เชิญวิทยากรมาร่วมบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการกู้ภัย เพื่อสรา้งแรงบรรดาลใจให้อาสาสมัครทุกคน
    • ชุมชนไทดำมีอาสมัครกู้ภัยประจำหมู่บ้าน และมีจิตอาสาที่พร้อมให้ความช่วยเหลือยามเกิดภัยพิบัติ โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้
    • รายชื่อตัวแทนครอบครัวที่สมัครเป็นจิตอาสาชุมชนช่วยเหลือในยามเกิดอุทกภัย หมู่ที่ 2 ตำบลกรูด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
    1. นายนพวัลย์        ราชแขวง 089-5914430
    2. นายสายชล        ทองดอนหับ 089-7270623
    3. นายสำเภา          รัตนา 087-0127274
    4. นายสมบัติ          บัวแก้ว -
    5. นายจำเริญ          รัตนา 089-5871216
    6. นายสังวาล        ถ้อยทัด 089-8715509
    7. นางสาวอรอุษา  ยองสาร 089-5933411
    8. นายชัยยา            พันชูแร่ 087-2804493
    9. นางอารีย์          พันชูแร่ 087-2804493
    10. นายปรีชา        แสงทอง 087-2743889
    11. นายสมบูรณ์    ศรีสุวรรณ -
    12. นายสุนิรัน      ยองสาร 087-8974068
    13. นายอภัย        เพชรทวน 086-2784219
    14. นายเอกชัย    พึ่งยาง 080-1421459
    15. นายจันทร์รัตน์  รู้พันธ์ 084-1839858
    16. นายศุภพงค์  แค้นคุ้ม 088-4429565
    17. นายสุรชัย  สระทองแอ 084-7199157
    18. นางเพลินจิตรา  เพียรเสมอ 082-4276808
    19. นางสุภาพร  บัวแก้ว 081-4777486
    20. นายสมศักดิ์  บูชา 084-4469871
    21. นายสุราษ  ถิ่นท่าเรือ -
    22. นายไมตรี  เพชรติ่ง 082-2825763
    23. นายวิชัย  เกลี้ยงบุญอาน 087-2777614
    24. นายสมศักดิ์  สระทองบุญ -
    25. นายหิรัญ  สระทองบุญ -
    26. นายเจณรงค์  เพชรติ่ง 081-6077089
    27. นายสุวิทย์  แก้วพินิจ 088-3830383
    28. นายอาธร  สระทองเยาว์
    • รายชื่อตัวแทนครอบครัวที่สมัครเป็นจิตอาสาชุมชนช่วยเหลือในยามเกิดอุทกภัย  หมู่ที่ 4 ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    1. นายธนากร  นะมะ 086-2676904
    2. นายมะหนาด  สระทองบุญ 084-3045915
    3. นายธงชัย  สระทองเยาว์ 087-0617702
    4. นายปรีชา  จ้อยทอง -
    5. นายสงบ  ตรีอินทอง 085-7851807
    6. นายสังเวียน  ถ้อยทัด 081-6769477
    7. นายสมเหียะ  สระทองไหม 081-4779375
    8. นายกิตติ  พุ่มมาลี
    • รายชื่อตัวแทนครอบครัวที่สมัครเป็นจิตอาสาชุมชนช่วยเหลือในยามเกิดอุทกภัย  หมู่ที่ 7 ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    1. นายจินต์  ชื่นชมน้อย 082-8183977
    2. นายทวีศักดิ์  พ่วงโสม
    3. นายมงคล  แซ่โค้ว 089-5896699
    4. นางสาวนัสรินทร์  พรมจันทร์
    5. นายวีระศักดิ์  จันทร์ผ่องศรี 089-5911320
    6. นายอุสเซ็นส์  รำมะสิทธิ์
    7. นายธรรมรงค์  สัมฤทธิดิ์ 083-6439709
    8. นายรุ่งโรจน์  แซ่ตั้ง
    9. นายฉะโอน  แจ่มแจ้ม 089-2902572
    10. นายณรงค์  แซ่ตั้ง
    11. นายจำรัส  แซ่โค้ว 086-1202957
    12. นายณรงค์  บุญศรี
    13. นางสายพิณ  สามงามทอง 087-2715069
    14. นายสุชาติ  สุขอนุเคราะห์
    15. นายบุญรือ  พลอยทองคำ 085-7853175 ุ16. นายสมบัติ  อินแฉล้ม
    16. นายประวิทย์  คุ้มเมือง 086--495969
    17. นางละม้าย  อำพล
    18. นางจินดา  สวัสดิ์ปาน 087-4174127
    19. นายบุญส่ง  แตงสุข
    20. นางสาววันเพ็ญ  แซ่โค้ว 086-2784455
    21. นายปรีชา  ฮะทะโชติ
    22. นางศรี  ฮะทะโชติ 086-2829915
    23. นายสมหวัง  ไม่รู้จบ
    24. นายสุรินทร์  สวนมา 084-8407519
    25. สมชัย  พร้อมประเสริฐ
    26. นายบุญช่วย  พร้อมประเสริฐ 084-8449325
    27. นายพินิจ  ดวงราม

     

    40 66

    31. รายงานความก้าวหน้าโครงการ

    วันที่ 4 สิงหาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • รายงานผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
    • ตรวจสอบการบันทึกรายรับรายจ่าย ความถูกต้องของใบสำคัญรับเงินของโครงการฯและภาพร่วมผลการใช้จ่ายเงินโครงการฯ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • คณะทำงานมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการบันทึกรายงานผลการทำกิจกรรมมากขึ้น คือต้องเพิ่มเติมและเล่ารายละเอียดการดำเนินงานให้เห็นภาพการดำเนินกิจกรรมและต้องมีภาพประกอบกิจกรรมทุกครั้ง
    • ได้เข้าใจเรื่องการทำบัญชีรับจ่ายเงินมากขึ้นและสามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขได้

     

    2 2

    32. ประชุมคณะทำงาน

    วันที่ 13 สิงหาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดประชุมคณะทำงานโครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติเพื่อสรุปทบทวนการดำเนนนิงานที่ผ่านมา
    • เตรียมงานการจัดอบรมอาสาสมัครกู้ภัยครั้งที่ 1

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • สรุปการดำเนนิงานที่ผ่านมา โดยมีคุณครูสักรินทร์  ทิพ์พินิจ  นายจันทรัตน์  รู้พันธ์ ได้นำเสนอการดำเนินงานที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมือจากคนในชุมชนระดับหนึ่ง และยังต้องมีการประชาสัมพันธ์ เพิ่มขึ้น ส่วนการประสานงานกับภายนอกเพื่อสร้างความร่วมมือและส่งเสริมชุมชนเรื่องการสร้า้งกองทุนกู้ภัยและอาชีพเสริม ขณะนี้มีการประสานงานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตตำบลเขาหัวควาย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการส่งเสริมชุมชนด้านอาชีพเสริม การทำปุ๋ยหมัก และการเก็บข้อมูลต่างๆด้านภัยพิบัติได้นำข้อมูลไปลงในโปรแกรม GIS เพื่อความสะดวกในการค้นข้อมูล ตำแหน่ง พิกัดที่ต้องการความช่วยเหลือได้อย่างสะดวกและแม่นยำ
    • การออกแบบและวางแผนการฝึกอบรมอาสมัครกู้ภัย ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 21 สิงหาคม 2556 เนื้อและกระบวนการจะมีการฝึกการปฐมพยาบาลผู้ป่วยและผู้ประสบภัย การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย/ผู้ประสบภัย การผูกเงื่อนที่จำเป็นต้องใช้ยามเกิดภัยพิบัติ และการปฏิบัติการช่วยเหลือทางน้ำ จากวิทยากรที่เชี่ยวชาญจากศูนย์ป้องกันสาธารณะภัยจังหวัดสุราษฏร์ธานี

     

    30 20

    33. ฝึกอบรมอาสาสมัครกู้ภัย ครั้งที่1

    วันที่ 21 สิงหาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ความรู้ความเข้าใจเรื่องภัยพิบัติ
    • บทบาทการเป็นอาสาสมัครกู้ภัย
    • ทักษะการใช้อุปกรณ์กู้ภัย

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. อาสาสมัครและคนในชุมชนได้ความรู้เรื่องการกู้ภัย  มีความเข้าใจเรื่องภัยพิบัติมากขึ้นและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยมีเนื้อหาสรุปดังนี้ ความหมายของภัยพิบัติ
    • ราชบัณฑิตยสถานได้อธิบายไว้ว่า คำว่า ภัยพิบัติ (อ่านว่า ไพ-พิ-บัด) ประกอบด้วยคำว่า ภัย หมายถึง สิ่งที่ทำให้กลัว หรืออันตราย กับ คำว่า พิบัติ หมายถึง ความฉิบหาย หรือหายนะ ภัยพิบัติ หมายถึง อันตรายที่นำไปสู่หายนะ หรือหายนะที่เป็นอันตราย มีทั้งที่เกิดจากภัยธรรมชาติและเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุไซโคลน ภูเขาไฟระเบิด เป็นภัยธรรมชาติที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ เครื่องบินตก เรือล่ม รถไฟตกราง สงคราม เป็นภัยพิบัติที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ คำว่า ภัยพิบัติ อาจใช้ว่า พิบัติภัย (อ่านว่า พิ-บัด-ไพ) ก็ได้ เช่น ทุกประเทศควรมีระบบป้องกัน บรรเทา และฟื้นฟูผลอันเนื่องมาจากพิบัติภัย
    • ภัยพิบัติ (Disaster) หมายถึง ภัยที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือจากการกระทําของมนุษย์ และส่งผลกระทบหรือสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนในสังคมหรือชุมชน โดยชุมชนที่ประสบภัยพิบัติไม่สามารถจัดการกับภัยพิบัติที่ เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง
    • อุทกภัย คือ ภัยหรืออันตรายที่เกิดจากน้ำท่วม หรืออันตรายอันเกิดจากสภาวะที่น้ำไหลเอ่อล้นฝั่งแม่น้ำ ลำธาร หรือทางน้ำ เข้าท่วมพื้นที่ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ได้อยู่ใต้ระดับน้ำ หรือเกิดจากการสะสมน้ำบนพื้นที่ซึ่งระบายออกไม่ทันทำให้พ้นที่นั้นปกคลุมไปด้วยน้ำ
    • โดยทั่วไปแล้วอุทกภัยมักเกิดจากน้ำท่วม ซึ่งสามารถแบ่งเป็นลักษณะใหญ่ๆ ได้ 2 ลักษณะ คือ 1) น้ำท่วมขัง/น้ำล้นตลิ่ง เป็นสภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเนื่องจากระบบระบายน้ำไม่มีประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำและบริเวณชุมชนเมืองใหญ่ๆ มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเกิดจากฝนตกหนัก ณ บริเวณนั้นๆ ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน หรือเกิดจากสภาวะน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณท้ายน้ำและมีลักษณะแผ่เป็นบริเวณกว้างเนื่องจากไม่สามารถระบายได้ทัน ความเสียหายจะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรและอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนใหญ่ สำหรับความเสียหายอื่นๆ มีไม่มากนักเพราะสามารถเคลื่อนย้ายไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย 2) น้ำท่วมฉับพลัน เป็นภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในพื้นที่ เนื่องจากฝนตกหนักในบริเวณพื้นที่ซึ่งมีความชันมาก และมีคุณสมบัติในการกักเก็บหรือการต้านน้ำน้อย เช่น บริเวณต้นน้ำซึ่งมีความชันของพื้นที่มาก พื้นที่ป่าถูกทำลายไปทำให้การกักเก็บหรือการต้านน้ำลดน้อยลง บริเวณพื้นที่ถนนและสนามบิน เป็นต้น หรือเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น เขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำพังทลาย น้ำท่วมฉับพลันมักเกิดขึ้นหลังจากฝนตกหนักไม่เกิน 6 ชั่วโมง    และมักเกิดขึ้นในบริเวณที่ราบระหว่างหุบเขา ซึ่งอาจจะไม่มีฝนตกหนักในบริเวณนั้นมาก่อนเลยแต่มีฝนตกหนักมากบริเวณต้นน้ำที่อยู่ห่างออกไป เนื่องจากน้ำท่วมฉับพลันมีความรุนแรงและเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วมากโอกาสที่จะป้องกันและหลบหนีจึงมีน้อย ดังนั้นความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลันจึงมีมากทั้งแก่ชีวิตและทรัพย์สิน สาเหตุของการเกิดอุทกภัยจากธรรมชาติ มีดังนี้
    • ฝนตกหนักจากพายุหรือพายุฝนฟ้าคะนอง เป็นพายุที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลาหลาย ชั่วโมง มีปริมาณฝนตกหนักมากจนไม่อาจไหลลงสู่ต้นน้ำลำธารได้ทันจึงท่วมพื้นที่ที่ อยู่ในที่ต่ำ มักเกิดในช่วงฤดูฝนหรือฤดูร้อน ฝนตกหนักจากพายุหมุนเขตร้อน เมื่อพายุนี้ประจำอยู่ที่แห่งใดแห่งหนึ่งเป็นเวลานานหรือแทบไม่เคลื่อนที่ จะทำให้บริเวณนั้นมีฝนตกหนักติดต่อกันตลอดเวลา ยิ่งพายุมีความรุนแรงมาก เช่น มีความรุนแรงขนาดพายุโซนร้อนหรือไต้ฝุ่น เมื่อเคลื่อนตัวไปถึงที่ใดก็ทำให้ที่นั้นเกิดพายุลมแรง ฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างและมีน้ำท่วมขัง นอกจากนี้ถ้าความถี่ของพายุที่เคลื่อนที่เข้ามาหรือผ่านเกิดขึ้นต่อเนื่องกัน ถึงแม้จะในช่วงสั้นแต่ก็ทำให้น้ำท่วมเสมอ
    • ฝนตกหนักในป่าบนภูเขา ทำให้ปริมาณน้ำบนภูเขาหรือแหล่งต้นน้ำมาก มีการไหลและเชี่ยวอย่างรุนแรงลงสู่ที่ราบเชิงเขา เกิดน้ำท่วมขึ้นอย่างกะทันหัน เรียกว่าน้ำท่วมฉับพลัน เกิดขึ้นหลังจากที่มีฝนตกหนักในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือเกิดก่อนที่ฝนจะหยุดตก มักเกิดขึ้นในลำธารเล็กๆ โดยเฉพาะตอนที่อยู่ใกล้ต้นน้ำของบริเวณลุ่มน้ำ ระดับน้ำจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับเทือกสูง เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
    • ผลจากน้ำทะเลหนุน ในระยะที่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ในแนวที่ทำให้ระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด น้ำทะเลจะหนุนให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นอีกมาก เมื่อประจวบกับระยะเวลาที่น้ำป่าและจากภูเขาไหลลงสู่แม่น้ำ ทำให้น้ำในแม่น้ำไม่อาจไหลลงสู่ทะเลได้ ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งและท่วมเป็นบริเวณกว้างยิ่งถ้ามีฝนตกหนักหรือมีพายุเกิดขึ้นในช่วงนี้ ความเสียหายจากน้ำท่วมชนิดนี้จะมีมาก
    • ผลจากลมมรสุมมีกำลังแรง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้เป็นมรสุมที่พัดพา ความชื้นจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่ประเทศไทย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เมื่อมีกำลังแรงเป็นระยะเวลาหลาย วัน ทำให้เกิดคลื่นลมแรง ระดับน้ำในทะเลตามขอบฝั่งจะสูงขึ้น ประกอบกับมีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ยิ่งถ้ามีพายุเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ก็จะยิ่งเสริมให้มรสุมดังกล่าวมีกำลังแรง ขึ้นอีก ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดจากประเทศจีนเข้าสู่ไทย ปะทะขอบฝั่งตะวันออกของภาคใต้ มรสุมนี้มีกำลังแรงเป็นครั้งคราว เมื่อบริเวณความกดอากาศสูงในประเทศจีนมีกำลังแรงขึ้นจะทำให้มีคลื่นค่อนข้าง ใหญ่ในอ่าวไทย และระดับน้ำทะเลสูงกว่าปกติ บางครั้งทำให้มีฝนตกหนักในภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ลงไปทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง
    • ผลจากแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด เมื่อเกิดแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟบนบกและภูเขาไฟใต้น้ำระเบิด เปลือกของผิวโลกบางส่วนจะได้รับความกระทบกระเทือนต่อเนื่องกัน บางส่วนของผิวโลกจะสูงขึ้นบางส่วนจะยุบลง ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ในมหาสมุทรซัดขึ้นฝั่ง เกิดน้ำท่วมตามหมู่เกาะและเมืองตามชายฝั่งทะเลได้ เกิดขึ้นบ่อยครั้งในมหาสมุทรแปซิฟิก
    • สิ่งของที่ต้องนำติดตัวเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ตราประทับ, เงินสด, สมุดบัญชี, ไฟฉาย, ถ่านไฟฉาย, ไฟแช็ค, ที่เปิดกระป๋อง, มีด, กล่องปฐมพยาบาล, เทียนไข, เสื้อผ้า, ถุงมือ, ผ้าห่ม, หมวกกันน็อค, ผ้าหนาสำหรับคลุมป้องกันศรีษะ, น้ำดื่ม, ขวดนม, อาหาร, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, วิทยุ (แนะนำให้ใช้ชนิดที่สามารถรับข้อความจากสถานีวิทยุได้)  หากมีของที่สามารถใช้แทนกันได้ในบ้าน ก็สามารถนำมาใช้ได้ สิ่งสำคัญคือการเตรียมสัมภาระต่างๆให้พร้อม
    • สิ่งของที่ควรเก็บสะสมไว้ยามจำเป็น ปกติแล้วกว่าอาหารจะถูกเริ่มแจกจ่ายจะใช้เวลา 3 วัน จึงควรเตรียมเสบียงอาหารและน้ำดื่มสำหรับ 3 วัน ( 1 คน 1 วัน 3 ลิตร) ครอบครัวที่มีเด็กทารก และผู้สูงอายุ ควรเตรียมนมผง และอาหารที่ทานง่าย ผ้าอ้อม ยาต่างๆเอาไว้ด้วย  ชุดปฐมพยาบาล, น้ำดื่ม ( 1 คน 1 วัน 3 ลิตร), อาหาร (ขนมปังแห้ง, ข้าวที่สามารถทานได้เมื่อเติมน้ำร้อน, อาหารกระป๋อง, อาหารแห้ง เป็นต้น) , หม้อ, เตาแก๊สพกพา, เสื้อผ้า, ถุงนอน, ผ้าห่ม, อุปกรณ์กันฝน, ถ่านไฟฉายสำรอง, อุปกรณ์สำหรับเขียน
    • เงือนเชือก
    1. เงื่อนพิรอด  เป็นเงื่อนที่มีประโยชน์มากในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะการต่อปลายเชือก 2 ข้างเข้าด้วยกัน ซึ่งเงื่อนนี้จะแน่นมาก แต่สามารถแก้ออกได้อย่างง่ายดาย ประโยชน์

    - ใช้ต่อเชือกขนาดเท่ากัน เหนียวเท่ากัน - ใช้ผูกปลายเชือกเส้นเดียวกัน เพื่อผูกมัดห่อสิ่งของและวัตถุต่างๆ - ใช้ประโยชน์ในการปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เช่น ผูกชายผ้าพันแผล ผูกชายผ้า ทำสลิงคล้องคอ เป็นต้น - ผูกเชือกรองเท้าผูก 2. เงื่อนบ่วงสายธนู  เป็นเงื่อนที่ไม่รูด ไม่เลื่อนเข้าไปรัดกับสิ่งที่ผูก ตัวบ่วงจะคงที่ ประโยชน์ - ใช้ผูกสัตว์ไว้กับหลักหรือต้นไม้ เป็นเงื่อนที่ไม่รูดและไม่เลื่อนเข้าไปรัด กับหลัก เหมาะสำหรับการผูกล่าม เพราะสามารถหมุนรอบได้ - ใช้ผูกเรือกับหลัก เมื่อเวลาน้ำขึ้นหรือน้ำลงบ่วงจะเลื่อนขึ้นลงได้เอง - ใช้คล้องกันธนูเพื่อโก่งคันธนู - ใช้คล้องคนให้หย่อนตัวจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำแทนเงื่อนเก้าอี้ - ใช้ผูกปลายเชือก ผูกถังตั้งหรือถังนอน - ใช้เป็นบ่วงคล้องช่วยคนตกน้ำลากขึ้นมาจะไม่รูดเข้าไปรัด เวลาลากต้องจับต้นคอคนตกน้ำให้หงายขึ้นเพื่อให้จมูกพ้นน้ำ 3. เงื่อนตะกรุดเบ็ด  เป็นเงื่อนที่ใช้งานต่างๆ ได้มากมาย เช่น ผูกสิ่งของต่างๆ ผูกเหล็ก ผูกรั้ว ผูกตอม่อในการสร้างสะพาน ผูกแขวนรอก ผูกสมอเรือ ผูกบันได ผูกเบ็ด ประโยชน์ - ใช้ผูกเชือกกับเสาหรือหลักเพื่อล่ามสัตว์เลี้ยงหรือแพ - ใช้ผูกบันใดเชือก บันใดลิง - ใช้ในการผูกแน่น เช่น ผูกประกบ ผูกกากบาท - ใช้แขวนรอก , ใช้ผูกเต้นท์ - ใช้ทำหอคอย , ใช้ผูกเบ็ด - ใช้ผูกตอม่อสร้างสะพาน

    • การกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (Basic life support, BLS) เป็นขั้นแรกของการช่วยเหลือผู้ที่หัวใจหยุดเต้น เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนในการกู้ชีพ การตรวจสอบว่ามีการหยุดเต้นของหัวใจ (Immediate recognition of cardiac arrest) และการเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน (Activation of the emergency response system)
    1. การนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพ (Early cardiopulmonary resuscitation, CPR)
    2. การรักษาด้วยไฟฟ้า (Rapid defibrillation)
    3. การกู้ชีพขั้นสูง (Effective advanced life support)
    4. การดูแลหลังได้รับการกู้ชีพ (Integrated post-cardiac arrest care)
    • ขั้นตอนในการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน  เพื่อให้การกู้ชีพมีประสิทธิภาพสูงสุด แนวทางสำหรับการกู้ชีพขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลทั่วไปมีรายละเอียดดังนี้  เมื่อพบกับผู้ที่ไม่รู้สึกตัว ให้ตรวจสอบว่ามีการหยุดเต้นของหัวใจหรือไม่ โดยเคาะที่ไหล่ ตะโกนเรียก หรือสังเกตการหายใจ หากผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการเรียก หยุดหายใจ หรือมีลักษณะการหายใจแปลกๆ(เช่น หายใจเฮือกๆ) ให้ถือว่าผู้ป่วยมีการหยุดเต้นของหัวใจ ขั้นตอนนี้มีความสำคัญมาก ความตกใจ ความตื่นเต้น ความไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร เป็นการประวิงเวลาที่ผู้ป่วยควรได้รับการช่วยเหลือ และทำให้โอกาสที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เมื่อตรวจสอบแล้วว่าผู้ป่วยเรียกไม่รู้สึกตัว หยุดหายใจ หรือหายใจแปลกๆ ให้รีบแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน
    • หลังจากแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินแล้ว ให้เริ่มทำนวดหัวใจทันที การนวดหัวใจจะทำให้เลือดในร่างกายหมุนเวียน ทำให้สมองและหัวใจได้รับเลือดและออกซิเจน วิธีนวดหัวใจคือประสานมือแล้วกดตรงๆ ลงไปที่กลางหน้าอกให้ลึกอย่างน้อย 5 เซนติเมตร หรือ 2 นิ้ว ในอัตราเร็ว มากกว่า 100 ครั้งต่อนาที และปล่อยให้หน้าอกคืนกลับสู่ตำแหน่งเดิมทุก ครั้งก่อนที่จะกดครั้งใหม่ ระหว่างการกดควรมีช่วงหยุดให้น้อยที่สุด (push hard, push fast, fully recoiled, minimally interrupted) สำหรับผู้ที่ไม่เคยฝึกฝนการกู้ชีพ ให้ใช้วิธีการนวดหัวใจแบบ hands-only คือ ใช้แต่เพียงมือกดหน้าอกเท่านั้น โดยไม่ต้องผายปอดหรือช่วยหายใจ จนกระทั่งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินมาถึง จึงทำการผายปอดร่วมกับการนวดหัวใจ และพิจารณาให้การรักษาด้วยไฟฟ้า
    • การกู้ชีพขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กมีขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป ในการช่วยเหลือผู้ที่หัวใจหยุดเต้น มักจะเกิดความรู้สึกตื่นเต้น กังวล และไม่กล้าให้ความช่วยเหลือด้วยเหตุผลต่างๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการไม่เคยฝึกฝนมาก่อน แต่จะเห็นได้ว่าขั้นตอนในการกู้ชีพขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลทั่วไปเป็นสิ่งที่ ทำได้ไม่ยากนัก การตรวจสอบความรู้สึกตัวและการหายใจ การเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และการนวดหัวใจกู้ชีพ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยคืนชีวิตให้กับผู้ป่วยที่เราพบได้

     

    30 40

    34. ฝึกอบรมอาสาสมัครกู้ภัย ครั้งที่2

    วันที่ 28 สิงหาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ฝึกอบรมอาสาสมัครกู้ภัย ครั้งที่ 2 เรื่องการกู้ภัยทางน้ำ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • อาสมัครกู้ภัยในชุมชนได้เรียนรู้แผนที่ชุมชน ซึ่งทำให้ทราบตำแหน่ง สถานที่สำคัญในชุมชนที่สามารถเป็นแหล่งพักพิง และศูนย์กู้ภัยยามเกิดภัยพิบัติได้ ได้แก่  วัดดอนมะลิ โรงเรียนบ้านไทรงาม โรงเรียนบ้านทับชันฯ เป็นต้น
    • อาสาสมัครในชุมชนมีความรู้เรื่องการกู้ชีพทางน้ำมากขึ้น ซึ่งมีประเด็นหลักในการจัดฝึกอบรมดังนี้             *การใช้อุปกรณ์กู้ชีพทางน้ำ  ได้แก่ เรือ แพ  ชูชีพ  และการประยุกต์ใช้อุปกรณ์ที่ช่วยในการลอยน้ำได้
      • การเตรียมอุปกรณ์ยังชีพ  ได้แก่ การก่อไฟ  การปรุงอาหาร  ยารักษาโรค ข้าวสาร อาหารแห้ง  เป็นต้น
      • การเคลื่อนย้ายอพยพคนให้ไปที่ปลอดภัย  ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายจากลำดับคนที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ได้แก่ เด็ก คนชรา ผู้พิการ ภิกษุ สามเณร เป็นต้น

     

    30 30

    35. ฝึกอบรมอาสากู้ภัย ครั้งที่3

    วันที่ 30 สิงหาคม 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ฝึกอบรมอาสาสมัครกู้ภัย ครั้งที่ 3 เรื่องการใช้วิทยุสื่อสารในสถานการณ์ภัยพิบัติ

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • อาสาสมัครได้ฝึกทักษะการสื่อสาร ( วิทยุสื่อสาร ) ยามเกิดภัยพิบัติ โดยมีเนื้อหาในการฝึกอบรมดังนี้ หลักปฏิบัติในการติดต่อสื่อสารและการเตรียมการก่อนการเรียกขาน
      1. ต้องจดบันทึกหรือเตรียมข้อความที่จะพูดไว้ก่อน เพื่อความรวดเร็ว การทวงถามถูกต้อง และเป็นหลักฐานในการติดต่อของสถานีตนเองอีกด้วย
      2. ข้อความที่จะพูดทางวิทยุ ต้องสั้น กะทัดรัด ชัดเจน และได้ใจความ
      3. ก่อนพูดต้องฟังก่อนว่าข่ายสื่อสารนั้นว่างหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เกิดการรบกวนการทำงานของสถานีอื่น โดยต้องใช้นามเรียกขานที่กำหนดให้เท่านั้น
      4. ตรวจสอบนามเรียกขานของหน่วยงานหรือบุคคลที่จะต้องทำการติดต่อสื่อสารก่อน
      5. การเรียกขานหรือการตอบการเรียก ต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติของข่ายสื่อสารการเรียกขาน การเรียกขานต้องครบองค์ประกอบ ดังนี้     - “นามเรียกขาน”  ของสถานี, บุคคลฯ ที่ถูกเรียก
            - “จาก”     - “นามเรียกขาน” ของสถานี, บุคคลฯ ที่เรียก     - “เปลี่ยน”

    การตอบรับการเรียกขาน       การตอบในการเรียกขาน ครั้งแรกต้องตอบแบบเต็ม  ซึ่งประกอบด้วย       ก.  “นามเรียกขาน” ของสถานี, บุคคลฯ ที่เรียก
          ข.  “จาก”       ค.  “นามเรียกขาน” ของสถานี, บุคคลฯ ที่ถูกเรียก       ง.  “เปลี่ยน”
    *ตัวอย่างที่  1 (ศูนย์ฯ เรียก)  เขตไทรงาม  401  จาก  อุบัติภัย เปลี่ยน ลูกข่ายตอบ)  อุบัติภัย จาก เขตไทร  401  เปลี่ยน หรือ (ลูกข่ายตอบ)  จาก เขตไทรงาม  401  ว.2 เปลี่ยน (ตอบอย่างย่อ) หรือ (ลูกข่ายตอบ)  เขตไทรงาม  401  ว.2 เปลี่ยน (ตอบอย่างย่อ)

    ขั้นตอนการติดต่อสื่อสาร

    1. การติดต่อสื่อสารโดยทั่วไปเรียกศูนย์ฯ  ที่สังกัด

    - การเรียกขาน / การตอบ - ใช้นามเรียกขานที่กำหนด 2. แจ้งข้อความ / วัตถุประสงค์ / ความต้องการ - สั้น กะทัดรัด ชัดเจน ได้ใจความ - ใช้ประมวลสัญญาณ ว. ที่กำหนด 3. จบข้อความลงท้ายคำว่าเปลี่ยน

    ข้อปฏิบัติและมารยาทในการใช้วิทยุสื่อสาร
        1.ใช้ข้อความสั้น ๆ กะทัดรัดได้ใจความ ไม่ใช้ข้อความเกินความจำเป็นและไม่ควรเปลี่ยนแปลง โค้ด ว. ไปลักษณะเชิงพูดเล่น เช่น ว.4 ทางน้ำ
        2.ต้องใช้ภาษาราชการหรือภาษาไทยกลางเท่านั้น ไม่ใช้ภาษาท้องถิ่นถึงแม้คู่สถานี (ผู้ที่เรากำลังติดต่อทางวิทยุด้วย) จะเป็นคนท้องถิ่นเดียวกันและเพราะผู้ฟังอื่นไม่เข้าใจได้ทั้งหมดเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งเชื้อชาติเป็นทางให้เกิดความแตกแยกสามัคคี
        3.ต้อง ใช้เฉพาะความถี่ที่ที่หน่วยงานของตนได้รับอนุญาตเท่านั้นเพราะการออกนอกความ ถี่อาจไปรบกวนความถี่ต่างข่ายงานทำให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานอื่น ๆ ได้ (ข้อนี้เป็นการผ่อนผันระหว่างฝ่ายปกครองกับข่ายตำรวจ สภ.อ.พาน เพื่อการประสานงานร่วมกัน )
        4. ต้องขออนุญาตสถานีควบคุมข่ายก่อนเมื่อจะติดต่อสื่อสารกันโดยตรง การติดต่อโดยตรงระหว่างลูกข่าย ต้องแจ้งแม่ข่ายทราย ไม่สมควรเรียกเข้าต่างข่ายงานด้วยตนเอง (ยกเว้นกรณีฉุกเฉินรอไม่ได้) เพราะนามเรียกขานอาจซ้ำกับลูกข่ายนั้นฯ
        5. ต้องไม่ใช้ช่องสื่อสารในขณะที่ยังมีการรับ ส่งข่าวสารกันอยู่ ไม่ควรเรียกแทรกเข้าไปในขณะที่การรับส่งข่าวสารในความถี่นั้นฯ ยังไม่เสร็จสิ้นเพราะอาจทำให้เสียหายต่อทางราชการ (ยกเว้นการแจ้งเหตุซึ่งสามารถกระทำได้ทันทีจะได้กล่าวถึงในช่วงต่อไป) ผมถึงบอกว่าก่อนที่จะติดต่อทางวิทยุให้ยกขึ้นมาแนบหูฟังดูก่อนว่าคลื่นความถี่ของคู่สถานีที่เราต้องติดต่อนั้นว่างหรือไม่
        6. ต้องไม่ส่งเสียงเพลง เสียงดนตรี หรือรายการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือเสียงแปลกประหลาดออกอากาศ หรือชอบทำคีย์ค้างบ่อย ๆ เป็นประจำ คงเป็นการจงใจให้ค้างเป็นแน่ ๆ การประชาพันธ์บนความถี่ทำได้เฉพาะสถานีควบคุมข่าย และโดยพนักงานวิทยุที่ปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
        7. ต้องไม่วิจารณ์ บุคคล การเมือง การค้า ศาสนา หรือส่งข้อความที่เป็นการละเมิดกฎหมายบ้านเมือง การวิจารณ์ย่อมเกิดข้อขัดแย้ง การพูดหรือวิจารณ์ในส่วนที่มีผลประโยชน์ผู้เสียผลประโยชน์เกิดความแค้น อาจก่อให้เกิดการรบกวนช่องความถี่สื่อสารโดยการจงใจ
        8. ต้องไม่แอบอ้าง หรือใช้นามเรียกขานของคนอื่น และไม่ให้ผู้อื่นนำนามเรียกขานของตนเองไปใช้ ( ข้อนี้ยังมีตำรวจบางนายซึ่งไม่ทราบข้อปฏิบัติและมารยาทในการใช้วิทยุสื่อสารการะทำอยู่ ซึ่งไม่ควรเอาอย่าง)
        9. ต้องไม่ให้ผู้อื่นหยิบยืมเครื่องมือสื่อสารของตนเองไปใช้ ยกเว้นการนำเครื่องกองกลางไป
    ปฏิบัติงานชั่วคราว โดยได้ดำเนินการเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วเท่านั้น
        10. ต้องพกพาวิทยุสื่อสารในลักษณะเหมาะสม เปิดเครื่องได้ก็ควรกระทำ และอีกสาถนการณ์หนึ่งหากตัวเราเข้าไปอยู่ในบริเวณที่กลุ่มมิจฉาชีพ หรือญาติของผู้ที่ประกอบการผิดกฎหมายและเราเปิดวิทยุเสียงดังแล้วคนร้ายย่อมได้ยินและรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้
        ท่านที่มีและใช้วิทยุอยู่พึงระลึกอยู่เสมอว่าไม่มีความลับบนความถี่จะกดคีย์ให้คิดก่อน เพราะว่าหากท่าน ว. ส่งข้อความไปแล้วทุกคนที่มี ว. และเปิดในย่านความถี่นั้นฯ ก็สามารถรับฟังข้อความของท่านได้ เพราะฉะนั้นก่อนที่ส่งข้อความออกไปทาง ว. ให้คิดก่อนว่าต้องการพูดกับใคร เรื่องอะไร อยู่ในย่านความถี่ใด มีอยู่บ่อย ๆ ว.เปิดย่านความถี่ตำรวจพาน แต่ส่ง ว. เป็นว่า ขออนุญาต ไชยา ... เรียกอยู่นั่นแหละเป็น สิบกว่าครั้ง ก็มันต่างคลื่นความถี่ จะ ว. 2 ได้ยังไง ( หวังว่าต่อไปกรณีนี้ในส่วนของตำบลม่วงคำคงจะไม่มีให้ได้ยินอีกนะครับ) การแจ้งเหตุสามารถแจ้งได้ทันทีโดยทำได้ดังนี้ ขออนุญาตแจ้งเหตุ พาน จาก ม่วงคำ .. ว.2 เมื่อ พานตอบ ว.2 แล้วก็แจ้งเหตุเป็นข้อความ (ว.8) เข้าไป แต่ต้องเป็นเหตุด่วน เหตุร้าย เหตุเร่งด่วนจริง ๆ ถ้าหากไม่เป็นกรณีเร่งด่วนให้ย่านความถี่ว่างก่อนค่อยเรียกเข้าไปในย่านความถี่นั้น ๆ ก่อนแจ้งเหตุต้องดูให้ดี รู้ให้จริงชัดเจนว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ถ้าจะให้แน่นอนไปดูที่เกิดเหตุด้วยตนเองก่อนให้ชัดแล้วค่อยแจ้งทาง ว. ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน หรือเหตุเร่งด่วน จริง ๆ เพราะว่าหากเป็นเหตุเล็กๆ น้อยๆ ไม่รุนแรงสามารถตกลงรอมชอมกันได้ หรือไม่มีเหตุเกิดขึ้นจริง จะได้ไม่เสียเวลา และเกิดความเสียงหายต่อทางราชการได้) เช่นเดียวกันการแจ้งเหตุทาง ว. ให้ใช้ข้อความสั้น ๆ ฟังแล้วเข้าใจง่าย ใช้ขอความสั้น ๆ กะทัดรัดได้ใจความ หรือจะใช้รหัส ว. แทนก็ได้
    รหัสการแจ้งเหตุทางวิทยุ
    เหตุ 100 ประทุษร้ายทรัพย์
    เหตุ 111 ลักทรัพย์
    เหตุ 121 วิ่งราวทรัพย์
    เหตุ 131 ชิงทรัพย์
    เหตุ 141 ปล้นทรัพย์
    เหตุ 200 ประทุษร้ายต่อร่างกาย
    เหตุ 211 ทำร้ายร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ
    เหตุ 231 ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส
    เหตุ 241 ฆ่าคนตาย
    เหตุ 300 การพนันเป็นบ่อน
    เหตุ 510 วัตถุต้องสงสัยเกี่ยวกับระเบิด
    เหตุ 511 ได้เกิดระเบิดขึ้นแล้ว
    เหตุ 512 วัตถุระเบิดได้ตรวจสอบแล้วไม่ระเบิด
    เหตุ 600 นักเรียนจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท
    เหตุ 601 นักเรียนรวมกลุ่มมีสิ่งบอกเหตุเชื่อว่าจะก่อเหตุ
    เหตุ 602 นักเรียนก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว
    เหตุ 603 นักเรียนก่อเหตุยกพวกทำร้ายซึ่งกันและกัน
    เหตุ 604 นักเรียนก่อเหตุยกพวกทำร้ายซึ่งกันและกันถึงตาย
    เหตุ 605 นักเรียนก่อเหตุยกพวกทำร้ายซึ่งกันและกันมีวัตถุระเบิด
    รหัส ว.
    ว.0 ขอรับคำสั่ง ต้องการทราบ ให้บอกด้วย
    ว.00 คอยก่อน
    ว.1 ขอทราบที่อยู่
    ว.2 ได้ยินหรือไม่
    ว.3 ให้ทวนข้อความซ้ำอีก
    ว.4 ออกไปปฏิบัติการตามปกติ
    ว.5 ปฏิบัติการลับ
    ว.6 ขออนุญาตติดต่อทางวิทยุ
    ว.7 ขอความช่วยเหลือ
    ว.8 มีข่าว ข้อความยาวที่จะส่งทางวิทยุ
    ว.9 มีเหตุฉุกเฉิน เหตุด่วนสำคัญ ให้ทุกสถานีคอยรับคำสั่งจากศูนย์ รถวิทยุมีเหตุฉุกเฉินเหตุด่วนขออนุญาตใช้ไฟแดงและไซเรน
    ว.10 หยุดรถปฏิบัติงาน สังเกตการณ์ติดต่อทาง ว. ได้
    ว.11 หยุดรถไม่เกี่ยวกับหน้าที่ แต่ติดต่อทาง ว. ได้
    ว.12 หยุดรถ ปิดเครื่องวิทยุ
    ว.13 ให้ติดต่อทางโทรศัพท์
    ว.14 เลิกตรวจ เลิกปฏิบัติการ
    ว.15 ให้ไปพบ
    ว.16 ทดลองเครื่องรับ – ส่ง วิทยุ
    ว.16 – 1 ฟังไม่รู้เรื่อง มีเสียงรบกวนมาก
    ว.16 – 2 รับฟังไม่ชัดเจน
    ว.16 – 3 รับฟังชัดเจนพอใช้ได้
    ว.16 – 4 รับฟังชัดเจนดี
    ว.16 – 5 รับฟังชัดเจนดีมาก
    ว.17 จุดอันตราย ห้ามผ่าน (บอกสถานที่)
    ว.18 นำรถออกทดลองเครื่องยนต์
    ว.19 สถานีวิทยุอยู่ในภาวะคับขัน ถูกยึดหรือถูกโจมตี ไม่สามารถป้องกันตนเองได้
    ว.20 ตรวจค้น
    ว.21 ออกจาก
    ว.22 ถึง
    ว.23 ผ่าน
    ว.24 เทียบเวลา แจ้งเวลา
    ว.25 จะไปที่ใด ที่หมายใด
    ว.26 ให้ติดต่อทางวิทยุให้น้อยที่สุด
    ว.27 ติดต่อทางโทรพิมพ์
    ว.28 ประชุม
    ว.29 มีราชการอะไร
    ว.30 ขอทราบจำนวน (คน สิ่งของ อาวุธ)
    ว.31 ความถี่วิทยุช่อง 1
    ว.32 ความถี่วิทยุช่อง 2
    ว.33 ความถี่วิทยุช่อง 3
    ว.34 ความถี่วิทยุช่อง 4
    ว.35 เตรียมพร้อมออกปฏิบัติงาน
    ว.36 เตรียมพร้อมเต็มอัตรา
    ว.37 เตรียมพร้อมครึ่งอัตรา
    ว.38 เตรียมพร้อมหนึ่งในสาม
    ว.39 การจราจรคับคั่ง
    ว.40 มีอุบัติเหตุทางรถ
    ว.41 มีสัญญาณไฟจราจรเสีย
    ว.42 ขอให้จัดยานพาหนะนำขบวน
    ว.43 จุดตรวจ ด่านตรวจยานพาหนะ (บอกสถานที่)
    ว.44 ติดต่อทางโทรสาร
    ว.45 ตรวจสอบบุคคล
    1. พบข้อมูล
    2. ไม่พบข้อมูล
    รหัสหรือโค้ด ว. ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ ตั้งแต่ ว.0 ถึง ว.46 นอกเหนือจากนั้นให้ใช้เป็นรหัสตัวเลขแทน โดยไม่มีคำว่า ว. นำหน้าตัวเลข เช่น ที่ทำงานใช้ รหัส 01 บ้านพักใช้รหัส 02 รถยนต์ใช้ 03 ห้องประชุมใช้รหัส 04 ที่เคยใช้ 60 ควรใช้คำว่า ญาติ , เพื่อน , พ่อ , แม่ ฯลฯ
    61 ควรใช้คำว่า ขอบคุณ
    62 ควรใช้คำว่า เสบียง หรือสิ่งของ (ให้ระบุชื่อสิ่งของนั้นฯ)
    63 ควรใช้คำว่า บ้านพัก หรือ 02
    64 ควรใช้คำว่า ภารกิจส่วนตัว
    51 หรือ 605 ควรใช้คำว่า รับประทานอาหาร
    100 ควรใช้คำว่า ภารกิจส่วนตัว
    28 (สองแปด) ควรใช้คำว่า ว.สอง ว.แปด
    ว.10 (ว.หนึ่งศูนย์) ควรใช้ ว.10 (ว.สิบ)
    ว.21 (ว.ยี่สิบเอ็ด) ควรใช้ ว.21 (ว.ยี่สิบหนึ่ง)
    ว.40 (ว.สี่ศูนย์) ควรใช้ ว.40 (ว.สี่สิบ)
    กำลังโมบาย ควรใช้คำว่า 03 หรือยังอยู่ในรถ , กำลังขับรถ , ทำหน้าที่พลขับ
    ล้อหมุน ควรใช้คำว่า 21 (ว. ยี่สิบหนึ่ง) หรือ เคลื่อนที่
    ไม่มีความลับในความถี่ จะกดคีย์ให้คิดก่อน

     

    30 40

    36. ฝึกทักษะอาชีพทางเลือก

    วันที่ 6 กันยายน 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ระดมความเห็นเรื่องอาชีพเสริมในชุมชน และลดรายจ่ายคนในชุมชน
    • ความสำคัญของการทำบัญชีรับจ่ายและการหารายได้เสริมให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชนไทดำ
    • ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ น้ำยาเอนกประสงค์

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเริ่มต้นกระบวนการโดยมีวิทยากรการปูพื้นความเข้าใจปัญหาเรื่องเศรษฐกิจในครอบครัวโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ซึ่งสามารถลดรายจ่ายได้ ได้แก่  น้ำยาล้างจาน แชมพู  ผงซักฟอก สบู่ ฯลฯ จากนั้นระดมความเข้าใจเรื่องอาชีพเสริมคืออะไร และอาชีพอะไรบ้างที่สามารถสร้า้งรายได้ในครอบครัว โดยมีความคิดเห็นในเวทีดังนี้
      1. อาชีพเสริมคือ
    • การสร้า้งรายได้เพิ่มจากอาชีพหลัก
    • การลดรายจ่ายในครอบครัว
    • การสร้า้งอาชีพใหม่ที่หลากหลาย
    • การสร้า้งอาชีพที่เพิ่มจากอาชีพประจำที่มีอยู่แล้ว เพื่อจะเพิ่มช่องทางการทำเงิน หรือเพิ่มรายได้ ให้มากยิ่งขึ้น หรือให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต
    1. สรา้งรายได้โดยวิธีการ / อาชีพเสริมที่สนใจอยากทำ

    3.ปฏิบัติการทำน้ำยาเอนกประสงค์

    เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1. ถังพลาสติกสีเข้มมีฝาปิดมิดชิด  1 ใบ
    2. เครื่องชั่งน้ำหนัก
    3. ถ้วยตวงน้ำ 1 ใบ
    4. ช้อน ไม้พาย สำหรับคน 1 คัน 5. ผ้าขาวบางสำหรับกรอง 1 ผืน
    6.น้ำด่าง ( หมักจากขี้เถ่า 5คืน ) 10 ลิตร 7. เกลือแกง  1 กิโลกรัม 8. N70  1 กิโลกรัม

    วิธีการทำ - กวน N70 จากใสๆ ให้กลายเป็นสีขาวขุ่น - เติมน้ำเกลือและกวนให้เข้ากัน -เติมน้ำด่างและกวนให้เข้ากันจนกว่านืดและข้นทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อให้ฟองหมดแล้วบรรจุใส่ถังหรือขวดที่เตรียมไว้


        การทำแชมพูมะกรูด

    การทำแชมพูมะกรูด 100% ไร้สารพิษ มะกรูด เป็นสมุนไพรพื้นบ้านมีสรรพคุณลด อาการคัน รังแค ผมแห้ง ทำให้ผมดกดำเป็นเงางาม สามารถใช้สระล้างสารพิษจากการย้อม ยืด และโกรกผม ให้หลุดออกไป แชมพูมะกรูด 100% ตามแนวเศรษฐกิจ พอเพียง มีวิธีการผลิตที่ง่ายและรวดเร็ว สามารถทำใช้ ได้เองในครัวเรือน ส่วนผสม มะกรูดแก่จัดตามจำนวนที่ต้องการ วิธีทำ 1. นำมะกรูดไปย่างไฟให้พอเหลือง ผ่าควักเอาเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้น ขนาดพอเหมาะ 2. เติมน้ำพอท่วม แล้วปั่นให้ละเอียด 3. กรองเอาเฉพาะน้ำโดยใช้ผ้าขาวบาง จากนั้นนำมาตั้งไฟให้พออุ่น เพื่อฆ่าเชื้อ แล้วกรอกใส่ขวดขณะยังอุ่นอยู่

     

    50 40

    37. จัดทำแผนกู้ภัยชุมชน

    วันที่ 10 กันยายน 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • การจัดการประชุมจัดทำแผนกู้ภัยของชุมชนในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน  40 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากชุมชนและเพื่อนเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • จากการประชุมสรุปเนื้อหาจากการประชุมไว้ดังนี้ แผนการกู้ภัยเฉาะหน้า
    1. จากการจัดประชุมเพื่อจัดทำแผนกู้ภัยชุมชนทำให้ได้ทราบข้อมูลของชุมชนด้านการช่วยเหลือตามเนื้อหาดังนี้
    • เส้นทางการอพยพในหมู่ที่ 2  ตำบลกรูด  อำเภอพุนพิน  จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่  โรงเรียนบ้านทับชันฯหรือศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงทับชันสามัคคี  วัดประชาวงศาราม
    • บ้านเรือนที่ต้องการรับการช่วยเหลือเร่งด่วนคือ นางลอย  ทองบ่อ , นางเรียม  พึ่งยาง นางปิ่น  สระทองแพ, นายนพวัลย์  ดอนไพรวัลย์, นายเหลา  แก้วแหวน ,นางสาวรัตนพร  บุญสวัสดิ์,นายไหมทอง  กำมณี, นายชัยยันต์  แร่อ่อน  ซึ่งเป็นบ้านเรือนที่มีระดับน้ำที่ความสูง 4- 5 เมตร
    • เส้นทางการอพยพในหมู่ที่  7  ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน  จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่  โรงเรียนบ้านไทรงาม  ถนนสายเอเชีย 41
    • บ้านเรือนที่ต้องการรับการช่วยเหลือเร่งด่วนคือ นายมานะ  อินทแพทย์ นายบวรนันท์  อินทแพทย์  นายเดี่ยว  บัวแก้ว นายแดง  เพชรติ่ง นายสายนต์  ถ้อยทัด  ซึ่งเป็นบ้านเรือนที่มีระดับน้ำที่ความสูง 4- 5 เมตร
    • เส้นทางการอพยพในหมู่ที่  4  ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน  จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่  โรงเรียนบ้านไทรงาม  ถนนสายเอเชีย 41
    • บ้านเรือนที่ต้องการรับการช่วยเหลือเร่งด่วนคือ นายใย  พุ่มมาลี  นายไมตรี  เพชรติ่ง  นางจันทร์จิรา  เพชรติ่ง นางไลย  สระทองฮะ  สมศักดิ์  สระทองบุญ  นายสมศักดิ์  มีจั่นเพชร

    • ได้แผนระยะยาวในกู้ภัยของชุมชน             - การจัดกระบวนการให้ผู้สูงอายุและคนในชุมชนเพื่อเพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ เดือนละ 1 ครั้ง

      • การปรับแก้แผนผังภูมิทัศน์และโครงสร้างพื้นฐานเชิงนโยบาย เช่น เส้นทางการระบายน้ำของชุมชน
      • การเผยแพร่ข้อมูลชุมชนผ่านแผนที่ GIS กับเครือข่ายในเขตภัยพิบัติ

     

    40 40

    38. ประชุมคณะทำงาน

    วันที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • จัดเวทีประชุมแลกเปลี่ยนการจัดการกองทุนว่ามีผลดีกับชุมชนอย่างไร และช่วยกันเสนอแนวทางจัดตั้งกองทุนที่ยั่งยืน
    • รับฟังความคิดเห็น เสนอสภาพปัญหาความจำเป็นของชุมชนต่อภาคีหน่วยงานเพื่อร่วมสนับสนุนกิจกรรมชุมชน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • ชุมชนได้นำเสนอข้อมูลกิจกรรมที่ได้ร่วมดำเนินการแก่ผู้ร่วมประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจ
    • ชุมชนได้มีศูนย์กู้ภัยชุมชนที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งด้านข้อมูลและอุปกรณ์การช่วยเหลือ รวมทั้งจัดตั้งกองทุนภัยพิบัติโดยชุมเพื่อชุมชน

     

    30 0

    39. จัดตั้งศูนย์กู้ภัยชุมชนและจัดกิจกรรมระดมทุน

    วันที่ 16 กันยายน 2556 เวลา 10:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • มีการจัดกิจกรรมดำเนินการจัดตั้งศูนย์ที่มีประสิทธิภาพสายพิบัมารถรับมือภัยพิบัติ 2 โซน ที่มีเตียงสำหรับผู้ประสบภัยและมีเครื่องมือเครืองใช้ เช่น เรือสำหรับอพยพประชาชนและสิ่งของเครื่องใช้โดยได้ระบบความร่วมมือและสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิต โรงไฟฟ้าเขาหัวควาย อบต.ท่าข้ามและผูใหญ่บ้าน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    1. เกิดความตระหนักภายในชุมชนในเรื่องภัยพิบัติ แม้เหตูการจะเว้นว่าง
    2. เกิดกระบวนการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน

     

    150 0

    40. ร่วมงาน "คนใต้สร้างสุข"

    วันที่ 28 กันยายน 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • ชมนิทรรศการผลการดำเนินงานโครงการอื่นๆ
    • พูดคุย สอบถาม แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานโครงการร่วมสรา้งชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ภาคใต้

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • สามารถนำแนวทางการทำงาน ประสบการณ์การทำงานในลักษณะเดียวกันจากพื้นที่อื่นๆ ในภาคใต้มาปรับใช้ในการทำงานด้านพัฒนาชุมชน

     

    2 2

    41. จัดทำรายงานสรุปปิดโครงการ

    วันที่ 30 กันยายน 2556 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

    • บันทึกการทำกิจกรรมในพื้นที่
    • ตรวจสอบเอกสารการเงิน รายงานการเงิน

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    • รายงานการเงินเสร็จสมบูรณ์
    • รายงานผลการเำเนินงานโครงการ รายงานปิดโครงการยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากยังบันทึกกิจกรรมของโครงการไม่เรียบร้อย จึงยังไม่สามารถจัดทำรายงาน ส.3 ได้

     

    2 3

    * ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
    ** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


    ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

    ผลการดำเนินโครงการ

    สรุปผลการดำเนินโครงการ

    ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
    บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
    บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
    ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

     

    ผลผลิตโครงการ

    วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
    1 เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติโดยชุมชน
    ตัวชี้วัด : - ศูนย์ข้อมูลและข้อมูลพื้นฐานของชุมชนที่มีความพร้อม สามารถใช้เป็นฐานในการจัดการภัยพิบัติและเผยแพร่ความรู้ให้กับชุมชน - อาสาสมัครในการป้องกันภัย ช่วยเหลือจัดการภัยพิบัติในชุมชน - แนวทางในการรับมือและแก้ไขปัญหายามเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม - สมาชิกในชุมชนจำนวน 40 ครัวเรือน มีอาชีพเสริมที่เหมาะสมกับสภาพภูมินิเวศชุมชนที่มีน้ำท่วมขัง

     

    ผู้เข้าร่วมโครงการ

    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
    จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)

    บทคัดย่อ*

    โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติโดยชุมชน

    ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่

    ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

    หมายเหตุ *

    • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
    • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

    ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

    ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

     

     

     


    ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ

    แบบประเมินคุณค่าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ

    ชื่อโครงการ โครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ

    รหัสโครงการ 55-01848 รหัสสัญญา 55-00-0864 ระยะเวลาโครงการ 1 ตุลาคม 2555 - 30 กันยายน 2556

    แบบประเมินคุณค่าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นการคุณค่าที่เกิดจากโครงการในมิติต่อไปนี้

    • ความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพและนวัตกรรมเชิงระบบสุขภาพชุมชน
    • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีผลต่อสุขภาวะ
    • การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะ
    • ผลกระทบเชิงบวกและนโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะชุมชน
    • กระบวนการชุมชน
    • มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่

    1. เกิดความรู้ หรือ นวัตกรรมชุมชน

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. ความรู้ใหม่ / องค์ความรู้ใหม่
    • หลังประสบภัยพิบัติ ชุมชนได้รับการอบรมเรื่องการจัดการข้อมูลด้วยเทคโนโลยี การทำข้อมูลด้วย GIS ซึ่งสนับสนุนโดย พอช. ทำให้มีความรู้เรื่องการจัดการข้อมูล
    • คนในชุมชนมักทักษะ ความรู้ในการเตรียมความพร้อมและการช่วยเหลือในสถานการณ์น้ำท่วมมากขึ้น
    • ข้อมูล แผนที่ดาวเทียม
    • เครือข่ายอาสาสมัคร
    • พัฒนาข้อมูลให้ครอบคลุุมทั้งพื้นที่ และเชื่อมโยงข้อมูลกับพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อทำแผนแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. สิ่งประดิษฐ์ / ผลผลิตใหม่
    • การใช้เสาไฟฟ้าเป็นตัวทำระดับน้ำท่วมในพื้นที่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เตือนภัยให้คนในชุมชน
    • ใช้เทคโนโลยีทางแผนที่จัดทำข้อมูลชุมชน และการจัดการภัยพิบัติชุมชน
    • เสาไฟฟ้าในชุมชน
    • ข้อมูลระดับน้ำท่วม
    • แผนที่เตือนภัยชุมชน
    • ใช้เทคโนโลยีในการจัดการปัญหาชุมชนด้านอื่นๆ
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. กระบวนการใหม่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. วิธีการทำงาน / การจัดการใหม่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. การเกิดกลุ่ม / โครงสร้างในชุมชนใหม่
    • มีกลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยพิบัติในชุมชน ทั้ง 3 หมู่บ้านกว่า 60 คน ที่แบ่งโซน แบ่งพื้นที่ในการดูแลเมื่อเกิดภัยพิบัติ
    • เกิดคณะกรรมการกองทุนการจัดการอาชีพทางเลือกในชุมชน เพื่อระดมทุนมาใช้ในยามที่เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติ
    • อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยพิบัติ
    • คณะกรรมการกองทุนการจัดการอาชีพทางเลือก
    • เสริมทักษะอาสาสมัครเฝ้าระวัภัยพิบัติให้สามารถทำงานได้จริง ทำงานได้ในทุกสถานการณ์ภัยพิบัติ และมีการเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ
    • ฝึกทักษะทางเลือกอาชีพใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับบริบทชุมชนให้กับคนในชุมชน เพื่อใช้เป็นอาชีพเสริมในยามเกิดภัย
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    6. แหล่งเรียนรู้ใหม่
    • มีการจัดพื้นที่ในบริเวณศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านทับชัน เป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องภัยพิบัติ อาชีพเสริม ภูมิปัญญาไทดำ
    • ศูนย์กู้ภัยชุมชนบ้านทับชัน (โรงเรียนบ้านทับชัน)
    • ใช้แหล่งเรียนรู้เป็นพื้นที่กลางในการจัดกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน เพื่อรวมคน และให้ศูนย์เกิดประโยชน์สูงสุด
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    99. อื่นๆ

     

     

     

    2. เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เอื้อต่อสุขภาพ

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
    • มีการให้ความรู้ และการดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ วิธีการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ โดยใช้มิติทางศาสนา
    • เจ้าหน้าที่ รพ.สต.
    • ให้ความรู้คนทั้งชุมชนถึงภัยที่ส่งผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพในของน้ำท่วม เพื่อให้คนในชุมชนรู้เท่าทัน และเตรียมความพร้อมในการรับมือได้อย่างถูกต้อง และสามารถอยู่ร่วมกับน้ำได้อย่างมีความสุข
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. การบริโภค

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. การออกกำลังกาย

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. การลด ละ เลิก อบายมุข เช่น การพนัน เหล้า บุหรี่

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. การลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ การขับรถโดยประมาท

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    6. การจัดการอารมณ์ / ความเครียด

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    7. การดำรงชีวิต / วิถีชีวิต เช่น การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเอง
    • ชุมชนมีการเตรียมความพร้อมในการดำรงชีวิตในสถานการณ์น้ำท่วมโดยการใช้ภูมิปัญญามาช่วยในการทำบ้านลอยน้ำ ทำบ้านแพ การเตรียมยานพาหนะทางน้ำไว้ในครัวเรือน
    • บ้านแพ บ้านลอยน้ำ ยานพาหนะทางน้ำ
    • ถ่ายทอดภูมิปัญญาการทำบ้านแพ รณรงค์ให้คนในชุมชนใช้วิถีคนน้ำในการอยู่ร่วมกับน้ำ เช่น ทำบ้านยกพื้นสูง ทำบ้านแพ
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    8. พฤติกรรมการจัดการตนเอง ครอบครัว ชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    9. อื่นๆ

     

     

     

    3. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ (กายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ)

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. กายภาพ เช่น มีการจัดการขยะ ป่า น้ำ การใช้สารเคมีเกษตร และการสร้างสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนที่ถูกสุขลักษณะ
    • มีการสร้างสภาพแวดล้อมในชุมชนให้เอื้อต่อสุขภาพและการอยู่ร่วมกับน้ำท่วมมากขึ้น เช่น มีการจัดการคลองให้โ,่ง สามารถระบายน้ำได้คล่อง มีการเตรียมบ้านพักให้พร้อมสำหรับการอยู่อาศัยในสถานการณ์น้ำท่วม รณรงค์งดใช้สารเคมีในการเกษตร การประกอบอาชีพ เพื่อไม่ใช้ไปทำบายทรัพยากรทางน้ำ เป้นต้น
    • บ้านแพ ส้วมลอยน้ำ
    • ควรส่งเสริมการสร้างสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนให้สามารถรองรับภัยพิบัติได้ โดยไม่เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินมากนัก เช่น จัดการข้าวของในครัวเรือนที่ไม่จำเป็น เพื่อลดปริมาณขยะเวลามีน้ำท่วมขัง
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. สังคม เช่น มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ลดการเกิดอุบัติเหตุ ครอบครัวอบอุ่น การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อเด็ก เยาวชน และกลุ่มวัยต่าง ๆ มีพื้นที่สาธารณะ/พื้นที่ทางสังคม เพื่อเอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชน มีการใช้ศาสนา/วัฒนธรรมเป็นฐานการพัฒนา
    • ชุมชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น เวลามีสถานการณ์หรือมีแน้วโน้มที่จะเสี่ยง ก็จะมีการแจ้งเตือนภัย เตรียมความพร้อมในทันที
    • อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยพิบัติ
    • เตรียมความพร้อมสำหรับคน สัตว์ และสิ่งขอให้ตอบสนองกับสถานการ์ภัยพิบัติ และมีการซักซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอ
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. เศรษฐกิจสร้างสรรค์สังคม /สร้างอาชีพ / เพิ่มรายได้
    • มีการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ที่ใช้การเรียนรู้ และพื้นที่ตามบริบท ตามสถานการณ์ทีเกิดขึ้นในชุมชน เช่น น้ำท่วม ไม่สามารถประกอบอาชีพหลักได้ ห็หันมาประกอบอาชีพเสริม เช่น เพาะเห็ด ปลูกผักในกระถาง การฟื้นหัตถกรรมภูมิปัญญาไทดำ
    • สินค้าภูมิปัญญาไทดำ
    • ถ่ายทอดภูมิปัญญาและงานหัตถกรรมที่มีในชุมชนสู่กลุ่มเยาวชนและคนที่สนใจเพื่อเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพ
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. มีการบริการสุขภาพทางเลือก และมีช่องทางการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. อื่นๆ

     

     

     

    4. การพัฒนานโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อสุขภาวะ

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. มีกฎ / กติกา ของกลุ่ม ชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. มีมาตรการทางสังคมของกลุ่ม ชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. มีธรรมนูญของชุมชน

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. อื่นๆ เช่น ออกเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่น ฯลฯ

     

     

     

    5. เกิดกระบวนการชุมชน

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. เกิดการเชื่อมโยงประสานงานระหว่างกลุ่ม / เครือข่าย (ใน และหรือนอกชุมชน)
    • การดำเนินงานโครงการที่ผ่านมา คณะทำงานได้เชื่อมโยงภาคีเครือข่ายทั้งภายในและภายนอกชุมชน หนุนเสริมกิจกรรมและการทำงานของชุมชนอย่างตอ่เนื่อง เช่น พอช. โรงเรียนบ้านไทรงาม การไฟฟ้าฝ่ายผลิต อ.พุนพิน รพ.สต. กู้ชีพกู้ภัย อ.พุนพิน
    • ทักษะการทำงานที่เกิดจากการหนุนเสริมของภาคีเครือข่าย เช่น การจัดการข้อมูลด้วยโปรแกรม GIS พอช. ทักษะของอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยพิบัติของทีมกู้ภัย
    • ประสานงานการทำงานกับภาคีเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอ และบูรณษการการทำงานของภาคีเครือข่ายให้สอดคล้องกับการทำงานของชุมชน
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. การเรียนรู้การแก้ปัญหาชุมชน (การประเมินปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการ และการประเมิน)
    • ชุมชนเกิดการเรียนรู้การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระ้บบ โดยเิรมต้นจากการจัดทำข้อมูล การวิเคราะห์ ประเมินผลกรพทบของปัญหาจากข้อมูลที่มี การวางแผนการทำงานให้สอดคล้องกับข้อมูลและบริบทชุมชน การปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาของชุมชน รวมไปถึงการร่วมกันประเมินผลการดำเนินงาน ซึ่งคณะทำงานมักจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนและประชุมกันอย่างสม่ำเสมอ
    • การประชุมคณะทำงาน
    • เวทีรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ
    • กระบวนการแก้ปัญหาชุมชน เป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน จึงจำเป็นต้องอาศัยกระบวนการนี้ในการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่มีในชุมชน
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. การใช้ประโยชน์จากทุนในชุมชน เช่น การระดมทุน การใช้ทรัพยากรบุคคลในชุมชน
    • โครงการนี้ใช้ประโยชน์จากทุนที่มีในชุมชนอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะทุนทรัพยากรบุคคล เนื่องจากต้องใช้คนในการดูแลคนด้วยกัน นอกจากนี้ยังช่วยกันระดมทุน เพื่อใช้ในการเสริมสร้างทักษะทางอาชีพให้กับคนในชุมชนด้วย
    • มีการใช้ทรัพยากรอื่นๆ มาช่วยในการจัดการภัยพิบัติชุมชน เช่น ภูมิปัญญาการทำบ้านแพ บ้านลอยน้ำ การรวบรวมข้อมูลเรือ แพ เพื่อนำมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
    • อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยพิบัติ
    • กองทุนการจัดการอาชีพทางเลือก
    • การดำเนินงานโครงการให้ประสบผลสำเร็จ ต้องวิเคราะห์ทุนทางสังคมของชุมชนให้รอบด้าน แล้วเลือกใช้ทุนที่มีในขุมชนอย่างเหมาะสม และไม่พึ่งพาทุนจากภายนอกมานัก
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่มและชุมชนที่เกิดจากโครงการอย่างต่อเนื่อง
    • มีการขับเคลื่อนงานด้านการจัดการภัยพิบัติในชุมชนไทดำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการเตรียมความพร้อมอาสาสมัคร การจัดเตรียมอุปกรณ์รับมือภัยพิบัติการจัดการข้อมูล และการเตรียมศูนย์กู้ภัยให้มีความพร้อมอยู่เสมอ
    • ศูนย์กู้ภัยชุมชน
    • งานด้านการจัดการภัยพิบัติ อาจไม่เกิดสถานการณ์ทุกปี แต่ชุมนต้องมีความพร้อมเสมอ โดยเฉพาะเรื่องแผนเตรียมความพร้อม ที่ต้องมีการซักซ้อม และกระตุ้นให้คนในชุมชนเกิดความตระหนักอยู่เสมอ
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. เกิดกระบวนการจัดการความรู้ในชุมชน
    • การทำงานโครงการทำให้เกิดกระวนการจัดการความรู้ในชุมชน โดยคณะทำงานเริ่มจากการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ใช้ข้อมูลในการทำงาน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้สามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาของชุมชนได้อย่างแท้จริง
    • กระบวนการจัดการข้อมูล
    • นำความรู้ที่มีในชุมชน โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิตร่วมกับน้ำ สร้างเป็นหลักสูตรท้องถิ่น หลักสูตรการเรียนรู้ให้กับเยาวชน เพราะในช่วงสถานการ์ดังกล่าว เยาวชนถือเป็นบุคคลอ่่อนแอที่ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่ถ้าเยาวชนช่วยเหลือตัวเองได้ ก็จะมีเวลามากขึ้นในการไปช่วยเหลือคนอื่น
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    6. เกิดทักษะในการจัดการโครงการ เช่น การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ การทำแผนปฏิบัติการ
    • คณะทำงานมีทักษะในการจัดการโครงการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการจัดการข้อมูลที่เป็นระบบ และสามารถนำข้อมูลมาใช้ในการแก้ปัญหาชุมชนได้อย่างตรงจุด
    • ข้อมูลชุมชน
    • แผนพัฒนาศูนย์เตือนภัย
    • พัฒนาฐานข้อมูลใ้ห้มีความเป็นปัจจุบัน และถ่ายทอดความรู้เรื่องเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลให้กับกลุ่มเยาวชน
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    7. อื่นๆ

     

     

     

    6. มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    1. ความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง / กลุ่ม / ชุมชน
    • คณะทำงาน อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยพิบัติ รู้สึกภูมิใจที่ได้เข้าร่วมโครงการ และเป็นอาสาสมัคร เพราะได้ช่วยเหลือคนอื่น ชุมชน
    • อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยพิบัติ
    • พัฒนาศัยภาพกลุ่มอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยให้เข้มแข็ง บริหารจัดการกลุ่มได้เอง และกระตุ้น สร้างแรงจูงใจอยู่เสมอ และสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานด้วยการยกย่องคนทำดี
    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    2. การเห็นประโยชน์ส่วนรวมและส่วนตนอย่างสมดุล
    • คณะทำงาน เยาวชน และอาสาสมัครที่เข้ามาทำงานมีความเสียสละ เห็นประโยชน์ส่วนร่วม และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตนอย่างสมดุล ช่วยงานตามกำลังความสามารถและทรัพย์สินที่มี
    • การทมทบทุนในกองทุนการจัดการอาชีพ

    -

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    3. การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และพอเพียง
    • คนในชุมชนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย พอเพียง สอดคล้องกับบริบทชุมชนในสถานการณ์น้ำท่วม
    • วิถีชีวิตคนริมคลอง ริมน้ำ

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    4. ชุมชนมีความเอื้ออาทร
    • ในขณะเกิดสถานการณ์และหลังเกิดสถานการณ์ ชุมชนมีความรัก ความเอื้ออาทรกันมากขึ้น มีการแบ่งปัน ช่วยเหลือกันมากขึ้น
    • การหยิบยืมอุปกรณ์ พาหนะในการกู้ภัย เช่น เรือ แพ เสื้อชูชีพ

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    5. มีการตัดสินใจโดยใช้ฐานปัญญา

     

     

     

    คุณค่าที่เกิดขึ้น
    ประเด็น
    ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
    ใช่ไม่ใช่
    6. อื่นๆ

     

     

     

    โครงการชุมชนคนไทดำเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ จังหวัด สุราษฎร์ธานี

    รหัสโครงการ 55-01848

    ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

    ................................
    ( นายจันทรัตน์ รู้พันธ์ )
    ผู้รับผิดชอบโครงการ
    ......./............/.......

    vertical_align_topไปบนสุด