directions_run

โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สร้างพื้นที่สวนยางพาราให้เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยชุมชนบ้านทุ่งแสงทอง

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สร้างพื้นที่สวนยางพาราให้เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยชุมชนบ้านทุ่งแสงทอง
ภายใต้องค์กร Node Flagship จังหวัดพัทลุง
รหัสโครงการ 65-00232-0023
วันที่อนุมัติ 2 พฤษภาคม 2565
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 พฤษภาคม 2565 - 30 เมษายน 2566
งบประมาณ 105,870.00 บาท
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ ......กลุ่มเกษตรกรสวนยางแปลงใหญ่บ้านทุ่งแสงทอง
ผู้รับผิดชอบโครงการ นายอนุวัตร เคว็จดำ
เบอร์โทรผู้รับผิดชอบโครงการ 0883887196
อีเมล์ผู้รับผิดชอบโครงการ
พี่เลี้ยงโครงการ นายอรุณ ศรีสุวรรณ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 1 พ.ค. 2565 30 ก.ย. 2565 1 พ.ค. 2565 30 ก.ย. 2565 42,348.00
2 1 ต.ค. 2565 31 มี.ค. 2566 1 ต.ค. 2565 31 ส.ค. 2566 52,935.00
3 1 เม.ย. 2566 30 เม.ย. 2566 10,587.00
4 0.00
รวมงบประมาณ 105,870.00
stars
3. ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
แผนงานอาหารและโภชนาการ
stars
4. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

กลุ่มเกษตรสวนยางแปลงใหญ่ สกย.บ้านทุ่งแสงทอง จำกัด เกิดจากนโยบายของการยางแห่งประเทศไทยที่สนับสนุนให้เกษตรกรรวมตัวกันในลักษณะกลุ่มซึ่งที่มาของสมาชิกต้องเป็นสมาชิกของสกย.ฯโดยมีวัตถุประสงค์ในการทำกิจกรรมของกลุ่มคือ -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกลดค่าใช้จ่ายในการผลิต -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกพัฒนายกระดับคุณภาพผลผลิต -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกสร้างและพัฒนากลไกการตลาดในการจำหน่ายผลผลิต -เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้สมาชิกบริหารจัดการองค์กรให้มีความเข้มแข็ง สกย.บ้านทุ่งแสงทอง จำกัด ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2538 ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 292คน มีพื้นที่สวนยางพาราของสมาชิกทั้งหมด 2,107ไร่ พื้นที่ทั้งหมดที่เป็นส่วนยางพาราของสมาชิกตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลตะโหมดจำนวน2หมู่บ้านและตำบลคลองใหญ่จำนวน2หมู่บ้านสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบผสมสันเนินกระจายสลับกันไปการทำการเกษตรส่วนใหญ่พี่งพาธรรมชาติเพราะยางพาราเป็นพืชที่ไม่จำเป็นต้องจัดการมากมายไม่ต้องใช้น้ำในการผลิตมากมาย สวนยางพาราของสมาชิกจำนวน1,600เป็นสวนยางพาราที่เปิดกรีดแล้วอายุการกรีดอยู่ที่1-20ปี 350ไร่เป็นสวนยางพาราที่มีอายุการกรีดเกิน25ปีและเกษตรกรเตรียมที่จะล้มยางเพื่อเริ่มปลูกรอบใหม่ ส่วนอีก157ไร่เป็นสวนยางพาราที่ยังไม่เปิดกรีดมีอายุที่2-6ปี กิจกรรมที่สกย.ดำเนินการอยู่เป็นกิจกรรมธุรกิจซื้อ/ขาย แปรรูปน้ำยางสดของสมาชิกและกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการทำสวนยางพารา เช่นจำหน่ายปุ๋ยให้กับสมาชิกรวมถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิกในการลงทุนประกอบอาชีพและใช้จ่ายในครัวเรือน ปัจจุบันสกย.มีทุนดำเนินการที่เกิดจากการลงหุ้นของสมาชิกจำนวน4,500,000บาท ใช้ในการลงทุนซื้อขายน้ำยางสดจากสมาชิก จำนวนน้ำยางสดของสมาชิกมีปริมาณต่อวันที่5,000กก.คิดเป็นน้ำยางแห้งอยู่ที่1,500กก.คิดเป็นมูลค่า75,000บาทต่อวัน ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้แยกออกเป็นของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรสวนยางแปลงใหญ่จำนวน1,500กก.คิดเป็นน้ำยางแห้ง450กก.คิดเป็นมูลค่า25,000บาท ซึ่งกลุ่มแปลงใหญ่มีสมาชิกทั้งหมด32คนมีโครงสร้างการทำงานในรูปคณะกรรมการกลุ่ม กลุ่มแปลงสวนยางใหญ่มีเนื้อที่สวนยางพาราทั้งหมด353ไร่ ในปีที่ผ่านมากลุ่มสวนยางแปลงใหญ่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกคือกิจกรรมอบรมให้ความรู้กับสมาชิกในการพัฒนายกระดับอาชีพและผลผลิตน้ำยาง รวมถึงการอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกในการสร้างอาชีพแก่สมาชิกของกลุ่ม   สภาพปัญหา   ช่วงเวลา10ปีที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนยางพาราต้องเผชิญกับปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำลงมามากเพราะสาเหตุอาจมาจากการที่ภาครัฐสนับสนุนให้มีการปลูกยางพารามากเกินไปและรวมถึงระบบการจัดการคุณภาพยางพาราที่ส่งผลต่อการตลาดด้วย จึงส่งผลกระทบแก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราเป็นวงกว้าง จากการร่วมกันพูดคุยเราค้นพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากปัญหาที่เป็นปรากฎการณ์เพียงอย่างเดียวแท้จริงแล้วปัญที่เกษตรกรส่วนใหญ่เผชิญอยู่ในปัจจุบันพบว่า   สาเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมและความเชื่อของคน คือ คนนิยมปลูกยางพาราเป็นพืชเชิงเดี่ยวเพราะมีความเชื่อว่าการกรีดยางพาราเพียงอย่างเดียวยังสามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอดได้ เพราะคนขาดความรู้ความเข้าใจในการสร้างรูปแบบสวนยางพาราแบบผสมผสาน คนขาดความตระหนักที่จะจัดการต่อการร่วมกันพันธุ์พืชท้องถิ่นให้อยู่คู่กับชุมชน คนไม่เชื่อว่าหากมีการสร้างสวนยางรูปแบบใหม่จะนำไปสู่การสร้างรายได้และลดรายจ่ายครัวเรือนได้ รวมทั้งการที่คนในชุมชนมัวมุ่งอยู่กับการหาเงินจนไม่มีเวลามาเรียนรู้การสร้างสวนยางพาราในรูปแบบใหม่   สาเหตที่เกิดจากกลไกและระบบที่หนุนเสริมเชิงนโยบายคือ ในชุมชนยังไม่มีแปลงต้นแบบในการสร้างรูปแบบการจัดการสวนยางพาราในรูปแบบพืชร่วมยางให้คนในชุมชนได้เรียนรู้ ขาดการส่งเสริมและหนุนเสริมจากองค์กรภาครัฐและภาคท้องถิ่น คนในชุมชนมีความรู้แต่ขาดการจัดการให้เกิดการเรียนรู้ของคนในชุมชนชนอีกทั้งในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาภาครัฐมีนโยบายในการสวนยางพาราที่ทำลายพันธุกรรมพืชในชุมชนเองก็ขาดการสร้างการเรียนรู้และขาดการจัดการให้ชาวสวนยางพารามุ่งสร้างสวนยางพาราแบบสวนยางพาราเชิงเดี่ยวด้วยกับการพัฒนาที่มาพร้อมการทำลายจากโครงการของหน่วยงานภายนอกและเกิดจากความไม่รู้เท่าทันของประชาชนในการประกอบอาชีพ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้เริ่มสูญหายไปจากอย่างรวดเร็ว และนับวันยิ่งหายไปจากพื้นที่ อาจจะด้วยจากสาเหตุที่มาจากประชาชนในพื้นที่ทำการเกษตรปลูกยางพาราในลักษณะเชิงเดี่ยวที่มุ่งเน้นกำไรเป็นตัวเงินมากกว่าการดำรงไว้ซึ่งความหลากหลายของพืชพันธ์ต่างๆ ด้วยอาจจะเข้าใจว่าการเกษตรปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียวจะให้ผลตอบแทนที่มากกว่า แต่ในทางกลับกันพบว่าแนวทางการทำการเกษตรแบบผสมผสานปลูกพืชหลายอย่างนั้นทำให้เกิดรายได้จากส่วนต่างๆได้มากกว่าและทำให้ปัจจัยการผลิตจำพวกปุ๋ยนั้นน้อยกว่าและไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืช อีกอย่างที่สำคัญคือการใช้ปุ๋ยเคมีโดยขาดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง จะเป็นสาเหตุที่สำคัญในการนำไปสู่ความเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วของดินและแหล่งน้ำ ทั้งเป็นการทำลายความหลากหลายของพืชพันธุ์ต่างๆในพื้นที่สวนยางพาราและในชุมชนด้วย จนนำไปสู่เรื่องปัญหาสุขภาพของคนในพื้นที่ที่ได้รับการบริโภคพืชผักที่มีสารตกค้างปนเปื้อนเหล่านี้ทั้งทางตรงและทางอ้อมเพราะเมื่อพื้นที่สวนยางพาราถูกสร้างวิธีคิดให้ปลูกยางเพียงอย่างเดียวจึงทำให้พืชอาหารโดยธรรมชาติที่เคยเจริญงอกงามและมีความหลากหลายทางด้านพันธุกรรมหายไปด้วย ผู้คนจึงต้องพึ่งพาพืชอาหารจากแหล่งผลิตอื่นซึ่งไม่สามารถรู้ได้ถึงกระบวนการผลิตและความปลอดภัยในการผลิตของพืชอาหารเหล่านั้นส่งผลให้ไม่สามารถรับรองได้ถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพในการบริโภค   ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคายางพาราที่ตกต่ำและประชาชนคิดได้เพียงว่ารายได้นั้นมาจากยางพาราเพียงอย่างเดียว เมื่อเกิดปัญหาราคายางพาราตกต่ำ รวมถึงต้นทุนในการผลิตที่สูงมากทั้งต้นทุนที่เกิดจากการซื้อปุ๋ยมาใช้ในสวนยางพารา ต้นทุนในการขนส่งน้ำยางพารา ต้นต้นในการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางไปประกอบอาชีพกรีดยางของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ดังกล่าวนั้น ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกรรายย่อยยังคงประสบปัญหาความยากจนรายได้ไม่เพียงพอในการดำรงค์ชีวิตในปัจจุบันรวมทั้งการที่เกษตรกรต้องเป็นหนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายประจำในครัวเรือนและหนี้ที่เกิดจากกระบวนการผลิตภาคการเกษตรในการทำสวนยางพาราซึ่งปัจจุบันสมาชิกยังเป็นหนี้กับสกย.จำนวน2500,000บาท จึงเกิดการพูดคุยรวมตัวกันของกลุ่มคนที่อยากเห็นการพัฒนายกระดับการประกอบอาชีพของเกษตรกรและการเรียนรู้ให้รู้เท่าทันและสามารถรักษาทรัพยากรพืชท้องถิ่นเอาไว้พร้อมทั้งเป็นทางออกให้เห็นว่ามีรายได้ที่เกิดขึ้นจากการปลูกพืชผสมผสานอย่างอื่นในแปลงที่มากกว่ายางพาราเพียงอย่างเดียวด้วย ทางกลุ่มเกษตรกรสวนยางแปลงใหญ่ได้หันมาสนใจผลักดันขับเคลื่อนการสวนเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติโดยการใช้พื้นที่สวนยางพารามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าการกรีดเอาน้ำยางเพียงอย่างเดียว จึงคิดสร้างให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ความหลากหลายทางพันธุกรรมพืชในสวนยางพาราให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยใช้กลุ่มคนที่สนใจนี้เป็นเครื่องมือกลไกในการขับเคลื่อนกระบวนการทำงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ผ่านกระบวนการร่วมคิดร่วมปรึกษาหารือและร่วมกันวางแผนการทำงานและสร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ขยายแนวคิดที่เป็นรูปธรรมปฏิบัติการแล้วไปสู่ชุมชนในระยะต่อไป ทั้งส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ที่ทำสวนอยู่แล้วและผู้คนที่อยู่ในชุมชนที่สนใจได้หันมาตระหนักและร่วมกันสร้างเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติให้มากขึ้น และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในชุมชนโดยใช้การฟื้นฟูและอนุรักษ์ให้กลับมาได้ใช้ประโยชน์ และคาดหวังกันว่าพื้นที่ที่เข้าร่วมการเรียนรู้ในปีนี้จะกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรในสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและสามารถจัดการหมู่บ้านตนเองได้ในระยะยาวต่อไปได้      โครงการเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติโดยการใช้พืชร่วมยางพารา จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้เชื่อมโยงการทำงานระหว่างผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งภาคประชาชนในพื้นที่ ภาครัฐที่เข้ามาหนุนเสริม และผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการสร้างการเรียนรู้ให้เกิดการทำงานที่ง่ายขึ้น ทั้งยังจะเป็นการสร้างพื้นที่การพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการปฏิบัติการจริงในพื้นที่ การสร้างแรงกระตุ้นและเสริมสร้างศักยภาพการทำงานโดยผ่านเครื่องมือกลไกต่างๆเช่น การลงเก็บข้อมูลสำรวจในพื้นที่จริง การออกแบบการทำงานสร้างกลไกกติกาที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมจากผู้เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง การพัฒนาพื้นที่ปฏิบัติการให้เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ เป็นต้น และเชื่อว่าในระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการนี้นั้นจะเห็นมิติการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่อย่างแน่นอน  อีกทั้งกลุ่มสวนยางแปลงใหญ่บ้านทุ่งแสงทองได้รับงบสนับสนุนจาก กยท. ในการสร้างการเรียนรู้เรื่องการจัดการองค์กรให้แก่สมาชิกจนสมาชิกส่วนหนึ่งเกิดการเรียนรู้และสามารถพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ทักษะอื่นในการประกอบอาชีพสวนยางพาราและความรู้อื่นๆที่จะสามารถยกระดับและสร้างรายได้เสริมและลดรายจ่ายในครัวเรือนให้กับสมาชิกกล่มสวนยางแปลงใหญ่ตื่นรู้และมีความคิดที่จะริเริ่มการประกอบอาชีพในการทำสวนยางพาราในรูปแบบใหม่โดยทางกลุ่มมีความคาดหวังว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบในการประกอบอาชีพการทำสวนยางพาราจะเป็นทางออกทางรอดของสมาชิกในชุมชนที่จะนำพาครอบครัวให้อยู่รอดได้ในภาวะที่เกิดความถดถอยและราคายางพาราที่ตกต่ำลงไปทุกขณะ แต่ภายใต้การหนุนเสริมของภาครัฐยังไม่ให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่สวนยางพาราเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยให้แก่เกษตรกรมากนัก อีกทั้งเกษตรกรเองก็ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการสร้างสวนยางพารามาเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยให้แก่ครัวเรือนและชุมชน ในขณะที่มีเกษตรกรส่วนหนึ่งพยายามที่จะเริ่มเปลี่ยนสวนยางพาราของตัวเองหันมาปลูกยางพาราแบบป่าร่วมยางแต่ก็ยังประสบปัญหาเรื่องความรู้ด้านวิชาการ ความรู้ด้านพันธุกรรมพืชที่จะสามารถนำมาปลูกร่วมกับยางพาราได้ อีกทั้งพันธุ์พืชในชุมชนหลายชนิดก็เริ่มสูญหายไปจากการทำสวนยางแบบเดี่ยวจึงประสบปัญหาการหาพันธุ์พืชมาปลูกได้ รวมทั้งข้อจำกัดในการใช้น้ำในการปลูกด้วยเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ร่วมโครงการเป็นพื้นที่สวนยางพาราที่อยู่บนที่สูงไม่มีแหล่งน้ำและการจัดการน้ำที่นำไปใช้ในการดพาะปลูกด้วย ทางกลุ่มจึงมีความเห็นร่วมกันที่รับสนับสนุนงบประมาณจากสสส.เพื่อสร้างการเรียนรู้ให้แก่สมาชิกกลุ่มเพื่อให้เกิดการปฏิบัติการเป็นรูปธรรมและประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

กลุ่มเกษตรสวนยางแปลงใหญ่ สกย.บ้านทุ่งแสงทอง จำกัด เกิดจากนโยบายของการยางแห่งประเทศไทยที่สนับสนุนให้เกษตรกรรวมตัวกันในลักษณะกลุ่มซึ่งที่มาของสมาชิกต้องเป็นสมาชิกของสกย.ฯโดยมีวัตถุประสงค์ในการทำกิจกรรมของกลุ่มคือ -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกลดค่าใช้จ่ายในการผลิต -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกพัฒนายกระดับคุณภาพผลผลิต -เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สมาชิกสร้างและพัฒนากลไกการตลาดในการจำหน่ายผลผลิต -เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้สมาชิกบริหารจัดการองค์กรให้มีความเข้มแข็ง สกย.บ้านทุ่งแสงทอง จำกัด ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2538 ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 292คน มีพื้นที่สวนยางพาราของสมาชิกทั้งหมด 2,107ไร่ พื้นที่ทั้งหมดที่เป็นส่วนยางพาราของสมาชิกตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลตะโหมดจำนวน2หมู่บ้านและตำบลคลองใหญ่จำนวน2หมู่บ้านสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบผสมสันเนินกระจายสลับกันไปการทำการเกษตรส่วนใหญ่พี่งพาธรรมชาติเพราะยางพาราเป็นพืชที่ไม่จำเป็นต้องจัดการมากมายไม่ต้องใช้น้ำในการผลิตมากมาย สวนยางพาราของสมาชิกจำนวน1,600เป็นสวนยางพาราที่เปิดกรีดแล้วอายุการกรีดอยู่ที่1-20ปี 350ไร่เป็นสวนยางพาราที่มีอายุการกรีดเกิน25ปีและเกษตรกรเตรียมที่จะล้มยางเพื่อเริ่มปลูกรอบใหม่ ส่วนอีก157ไร่เป็นสวนยางพาราที่ยังไม่เปิดกรีดมีอายุที่2-6ปี กิจกรรมที่สกย.ดำเนินการอยู่เป็นกิจกรรมธุรกิจซื้อ/ขาย แปรรูปน้ำยางสดของสมาชิกและกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการทำสวนยางพารา เช่นจำหน่ายปุ๋ยให้กับสมาชิกรวมถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิกในการลงทุนประกอบอาชีพและใช้จ่ายในครัวเรือน ปัจจุบันสกย.มีทุนดำเนินการที่เกิดจากการลงหุ้นของสมาชิกจำนวน4,500,000บาท ใช้ในการลงทุนซื้อขายน้ำยางสดจากสมาชิก จำนวนน้ำยางสดของสมาชิกมีปริมาณต่อวันที่5,000กก.คิดเป็นน้ำยางแห้งอยู่ที่1,500กก.คิดเป็นมูลค่า75,000บาทต่อวัน ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้แยกออกเป็นของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรสวนยางแปลงใหญ่จำนวน1,500กก.คิดเป็นน้ำยางแห้ง450กก.คิดเป็นมูลค่า25,000บาท ซึ่งกลุ่มแปลงใหญ่มีสมาชิกทั้งหมด32คนมีโครงสร้างการทำงานในรูปคณะกรรมการกลุ่ม กลุ่มแปลงสวนยางใหญ่มีเนื้อที่สวนยางพาราทั้งหมด353ไร่ ในปีที่ผ่านมากลุ่มสวนยางแปลงใหญ่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกคือกิจกรรมอบรมให้ความรู้กับสมาชิกในการพัฒนายกระดับอาชีพและผลผลิตน้ำยาง รวมถึงการอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกในการสร้างอาชีพแก่สมาชิกของกลุ่ม   สภาพปัญหา   ช่วงเวลา10ปีที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนยางพาราต้องเผชิญกับปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำลงมามากเพราะสาเหตุอาจมาจากการที่ภาครัฐสนับสนุนให้มีการปลูกยางพารามากเกินไปและรวมถึงระบบการจัดการคุณภาพยางพาราที่ส่งผลต่อการตลาดด้วย จึงส่งผลกระทบแก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราเป็นวงกว้าง จากการร่วมกันพูดคุยเราค้นพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากปัญหาที่เป็นปรากฎการณ์เพียงอย่างเดียวแท้จริงแล้วปัญที่เกษตรกรส่วนใหญ่เผชิญอยู่ในปัจจุบันพบว่า   สาเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมและความเชื่อของคน คือ คนนิยมปลูกยางพาราเป็นพืชเชิงเดี่ยวเพราะมีความเชื่อว่าการกรีดยางพาราเพียงอย่างเดียวยังสามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอดได้ เพราะคนขาดความรู้ความเข้าใจในการสร้างรูปแบบสวนยางพาราแบบผสมผสาน คนขาดความตระหนักที่จะจัดการต่อการร่วมกันพันธุ์พืชท้องถิ่นให้อยู่คู่กับชุมชน คนไม่เชื่อว่าหากมีการสร้างสวนยางรูปแบบใหม่จะนำไปสู่การสร้างรายได้และลดรายจ่ายครัวเรือนได้ รวมทั้งการที่คนในชุมชนมัวมุ่งอยู่กับการหาเงินจนไม่มีเวลามาเรียนรู้การสร้างสวนยางพาราในรูปแบบใหม่   สาเหตที่เกิดจากกลไกและระบบที่หนุนเสริมเชิงนโยบายคือ ในชุมชนยังไม่มีแปลงต้นแบบในการสร้างรูปแบบการจัดการสวนยางพาราในรูปแบบพืชร่วมยางให้คนในชุมชนได้เรียนรู้ ขาดการส่งเสริมและหนุนเสริมจากองค์กรภาครัฐและภาคท้องถิ่น คนในชุมชนมีความรู้แต่ขาดการจัดการให้เกิดการเรียนรู้ของคนในชุมชนชนอีกทั้งในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาภาครัฐมีนโยบายในการสวนยางพาราที่ทำลายพันธุกรรมพืชในชุมชนเองก็ขาดการสร้างการเรียนรู้และขาดการจัดการให้ชาวสวนยางพารามุ่งสร้างสวนยางพาราแบบสวนยางพาราเชิงเดี่ยวด้วยกับการพัฒนาที่มาพร้อมการทำลายจากโครงการของหน่วยงานภายนอกและเกิดจากความไม่รู้เท่าทันของประชาชนในการประกอบอาชีพ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้เริ่มสูญหายไปจากอย่างรวดเร็ว และนับวันยิ่งหายไปจากพื้นที่ อาจจะด้วยจากสาเหตุที่มาจากประชาชนในพื้นที่ทำการเกษตรปลูกยางพาราในลักษณะเชิงเดี่ยวที่มุ่งเน้นกำไรเป็นตัวเงินมากกว่าการดำรงไว้ซึ่งความหลากหลายของพืชพันธ์ต่างๆ ด้วยอาจจะเข้าใจว่าการเกษตรปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียวจะให้ผลตอบแทนที่มากกว่า แต่ในทางกลับกันพบว่าแนวทางการทำการเกษตรแบบผสมผสานปลูกพืชหลายอย่างนั้นทำให้เกิดรายได้จากส่วนต่างๆได้มากกว่าและทำให้ปัจจัยการผลิตจำพวกปุ๋ยนั้นน้อยกว่าและไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืช อีกอย่างที่สำคัญคือการใช้ปุ๋ยเคมีโดยขาดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง จะเป็นสาเหตุที่สำคัญในการนำไปสู่ความเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วของดินและแหล่งน้ำ ทั้งเป็นการทำลายความหลากหลายของพืชพันธุ์ต่างๆในพื้นที่สวนยางพาราและในชุมชนด้วย จนนำไปสู่เรื่องปัญหาสุขภาพของคนในพื้นที่ที่ได้รับการบริโภคพืชผักที่มีสารตกค้างปนเปื้อนเหล่านี้ทั้งทางตรงและทางอ้อมเพราะเมื่อพื้นที่สวนยางพาราถูกสร้างวิธีคิดให้ปลูกยางเพียงอย่างเดียวจึงทำให้พืชอาหารโดยธรรมชาติที่เคยเจริญงอกงามและมีความหลากหลายทางด้านพันธุกรรมหายไปด้วย ผู้คนจึงต้องพึ่งพาพืชอาหารจากแหล่งผลิตอื่นซึ่งไม่สามารถรู้ได้ถึงกระบวนการผลิตและความปลอดภัยในการผลิตของพืชอาหารเหล่านั้นส่งผลให้ไม่สามารถรับรองได้ถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพในการบริโภค   ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคายางพาราที่ตกต่ำและประชาชนคิดได้เพียงว่ารายได้นั้นมาจากยางพาราเพียงอย่างเดียว เมื่อเกิดปัญหาราคายางพาราตกต่ำ รวมถึงต้นทุนในการผลิตที่สูงมากทั้งต้นทุนที่เกิดจากการซื้อปุ๋ยมาใช้ในสวนยางพารา ต้นทุนในการขนส่งน้ำยางพารา ต้นต้นในการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางไปประกอบอาชีพกรีดยางของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ดังกล่าวนั้น ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกรรายย่อยยังคงประสบปัญหาความยากจนรายได้ไม่เพียงพอในการดำรงค์ชีวิตในปัจจุบันรวมทั้งการที่เกษตรกรต้องเป็นหนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายประจำในครัวเรือนและหนี้ที่เกิดจากกระบวนการผลิตภาคการเกษตรในการทำสวนยางพาราซึ่งปัจจุบันสมาชิกยังเป็นหนี้กับสกย.จำนวน2500,000บาท จึงเกิดการพูดคุยรวมตัวกันของกลุ่มคนที่อยากเห็นการพัฒนายกระดับการประกอบอาชีพของเกษตรกรและการเรียนรู้ให้รู้เท่าทันและสามารถรักษาทรัพยากรพืชท้องถิ่นเอาไว้พร้อมทั้งเป็นทางออกให้เห็นว่ามีรายได้ที่เกิดขึ้นจากการปลูกพืชผสมผสานอย่างอื่นในแปลงที่มากกว่ายางพาราเพียงอย่างเดียวด้วย ทางกลุ่มเกษตรกรสวนยางแปลงใหญ่ได้หันมาสนใจผลักดันขับเคลื่อนการสวนเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติโดยการใช้พื้นที่สวนยางพารามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าการกรีดเอาน้ำยางเพียงอย่างเดียว จึงคิดสร้างให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ความหลากหลายทางพันธุกรรมพืชในสวนยางพาราให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยใช้กลุ่มคนที่สนใจนี้เป็นเครื่องมือกลไกในการขับเคลื่อนกระบวนการทำงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ผ่านกระบวนการร่วมคิดร่วมปรึกษาหารือและร่วมกันวางแผนการทำงานและสร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ขยายแนวคิดที่เป็นรูปธรรมปฏิบัติการแล้วไปสู่ชุมชนในระยะต่อไป ทั้งส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ที่ทำสวนอยู่แล้วและผู้คนที่อยู่ในชุมชนที่สนใจได้หันมาตระหนักและร่วมกันสร้างเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติให้มากขึ้น และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในชุมชนโดยใช้การฟื้นฟูและอนุรักษ์ให้กลับมาได้ใช้ประโยชน์ และคาดหวังกันว่าพื้นที่ที่เข้าร่วมการเรียนรู้ในปีนี้จะกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรในสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและสามารถจัดการหมู่บ้านตนเองได้ในระยะยาวต่อไปได้      โครงการเกษตรผสมผสานแบบธรรมชาติโดยการใช้พืชร่วมยางพารา จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้เชื่อมโยงการทำงานระหว่างผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งภาคประชาชนในพื้นที่ ภาครัฐที่เข้ามาหนุนเสริม และผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการสร้างการเรียนรู้ให้เกิดการทำงานที่ง่ายขึ้น ทั้งยังจะเป็นการสร้างพื้นที่การพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการปฏิบัติการจริงในพื้นที่ การสร้างแรงกระตุ้นและเสริมสร้างศักยภาพการทำงานโดยผ่านเครื่องมือกลไกต่างๆเช่น การลงเก็บข้อมูลสำรวจในพื้นที่จริง การออกแบบการทำงานสร้างกลไกกติกาที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมจากผู้เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง การพัฒนาพื้นที่ปฏิบัติการให้เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ เป็นต้น และเชื่อว่าในระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการนี้นั้นจะเห็นมิติการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่อย่างแน่นอน  อีกทั้งกลุ่มสวนยางแปลงใหญ่บ้านทุ่งแสงทองได้รับงบสนับสนุนจาก กยท. ในการสร้างการเรียนรู้เรื่องการจัดการองค์กรให้แก่สมาชิกจนสมาชิกส่วนหนึ่งเกิดการเรียนรู้และสามารถพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ทักษะอื่นในการประกอบอาชีพสวนยางพาราและความรู้อื่นๆที่จะสามารถยกระดับและสร้างรายได้เสริมและลดรายจ่ายในครัวเรือนให้กับสมาชิกกล่มสวนยางแปลงใหญ่ตื่นรู้และมีความคิดที่จะริเริ่มการประกอบอาชีพในการทำสวนยางพาราในรูปแบบใหม่โดยทางกลุ่มมีความคาดหวังว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบในการประกอบอาชีพการทำสวนยางพาราจะเป็นทางออกทางรอดของสมาชิกในชุมชนที่จะนำพาครอบครัวให้อยู่รอดได้ในภาวะที่เกิดความถดถอยและราคายางพาราที่ตกต่ำลงไปทุกขณะ แต่ภายใต้การหนุนเสริมของภาครัฐยังไม่ให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่สวนยางพาราเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยให้แก่เกษตรกรมากนัก อีกทั้งเกษตรกรเองก็ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการสร้างสวนยางพารามาเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยให้แก่ครัวเรือนและชุมชน ในขณะที่มีเกษตรกรส่วนหนึ่งพยายามที่จะเริ่มเปลี่ยนสวนยางพาราของตัวเองหันมาปลูกยางพาราแบบป่าร่วมยางแต่ก็ยังประสบปัญหาเรื่องความรู้ด้านวิชาการ ความรู้ด้านพันธุกรรมพืชที่จะสามารถนำมาปลูกร่วมกับยางพาราได้ อีกทั้งพันธุ์พืชในชุมชนหลายชนิดก็เริ่มสูญหายไปจากการทำสวนยางแบบเดี่ยวจึงประสบปัญหาการหาพันธุ์พืชมาปลูกได้ รวมทั้งข้อจำกัดในการใช้น้ำในการปลูกด้วยเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ร่วมโครงการเป็นพื้นที่สวนยางพาราที่อยู่บนที่สูงไม่มีแหล่งน้ำและการจัดการน้ำที่นำไปใช้ในการดพาะปลูกด้วย ทางกลุ่มจึงมีความเห็นร่วมกันที่รับสนับสนุนงบประมาณจากสสส.เพื่อสร้างการเรียนรู้ให้แก่สมาชิกกลุ่มเพื่อให้เกิดการปฏิบัติการเป็นรูปธรรมและประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

stars
5. กรอบแนวคิดและยุทธศาสตร์หลัก

สร้างพื้นที่สวนยางพาราให้เป็นแหล่งอาหารปลอดภัย และสร้างรายได้เสริมแก่เจ้าของสวนยางพารา

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อสร้างกลไกการจัดการพืชร่วมยางแบบมีส่วนร่วม

1.มีคณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการสวนยางแปลงใหญ่กับสหกรณ์ชาวสวนยางที่สามารถชักชวนเกษตรกรมาร่วมดำเนินการและสามารถเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับ กยท.ได้ 2.มีสมาชิกกลุ่มที่ร่วมโครงการไม่น้อยกว่า30รายและมีพื้นที่ร่วมดำเนินการในโครงการไม่น้อยกว่ารายละ2ไร่ 3.มีกติกาของกลุ่มที่เกิดจากการมีส่วนร่วม

0.00
2 เพื่อให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการผลิตพืชอาหารปลอดภัยในสวนยางพารา

1.เกษตรกรมีความรู้เรื่องการปลูกพืชร่วมยาง 2.มีแผนการปลูกพืชร่วมยางรายแปลงที่เหมาะสมกับอายุยางและสภาพพื้นที่สวนยาง 3.มีการรวมกลุ่มผลิตปุ๋ย/สารทดแทนสารเคมีและนำไปใช้ในแปลง 4.มีแปลงต้นแบบของสมาชิกในพื้นที่โครงการ

0.00
3 เพื่อให้มีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง

1.มีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของกลุ่มตามแผนและกติกาไม่น้อยกว่า3ครั้ง 2.มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกไม่น้อยกว่า3ครั้ง 3.มีบทเรียนการปลูกพืชร่วมยางจากพื้นที่ดำเนินการโครงการ

0.00
4 เพื่อเพิ่มพื้นที่ผลิตพืชอาหารปลอดภัยในสวนยางพารา

1.มีการปลูกพืชอาหารในพื้นที่สวนยางพาราของสมาชิกที่ร่วมโครงการเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า5ชนิด 2.มีพื้นที่ร่วมโครงการที่มีการปลูกพืชอาหารปลอดภัยเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า60ไร่ 3.มีการลดปริมาณการใช้สารเคมีในสวนยางพาราที่ร่วมโครงการไม่น้อยกว่าร้อยละ30

0.00
5 เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางพารามีรายได้เพิ่มขึ้นและรายจ่ายในครัวเรือนลดลง

1.สมาชิกสามารถมีรายได้จากสวนยางพาราเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า1,000บาทต่อเดือน 2.รายจ่ายในครัวเรือนของสมาชิกลดลงไม่น้อยกว่า1,000บาทต่อเดือน 3.เกิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าพืชอาหารปลอดภัยในชุมชนอย่างน้อย 1จุด 4.มีการประสานความร่วมมือในการรับซื้อ จำหน่ายผลผลิตพืชอาหารปลอดภัยกับหน่วยงานภาคราชการไม่น้อยกว่า 1หน่วยงาน

0.00
stars
7. กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
stars
8. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 594 103,320.00 37 108,518.00
5 พ.ค. 65 ค่าเปิดบัญชีธนาคาร 0 0.00 500.00
9 พ.ค. 65 ปฐมนิเทศน์ผู้รับทุน 3 450.00 432.00
18 พ.ค. 65 จัดทำป้ายโครงการ 1 1,000.00 1,000.00
6 มิ.ย. 65 เวทีเปิดโครงการและเรียนรู้ข้อมูลและสถานการณ์ 32 6,900.00 6,900.00
15 มิ.ย. 65 ประชุมคณะทำงานครั้งที่1 10 1,500.00 1,500.00
15 มิ.ย. 65 ประชุมคณะทำงานครั้งที่2 10 1,500.00 1,500.00
18 มิ.ย. 65 กิจกรรมศึกษาดูงาน 30 14,100.00 14,100.00
6 ก.ค. 65 กิจกรรมเวทีสรุปผลการศึกษาดูงานและวางแผนการปลูกรายแปลง 30 5,900.00 5,900.00
24 ก.ค. 65 กิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกครั้งที่ 1 30 0.00 0.00
28 ก.ค. 65 ประชุมคณะทำงานครั้งที่3 10 1,500.00 1,500.00
18 ส.ค. 65 . กิจกรรมออกแบบแปลงปลูกรายแปลง 30 5,900.00 5,900.00
19 ส.ค. 65 ประชุมคณะทำงานครั้งที่4 10 1,500.00 1,500.00
10 ก.ย. 65 กิจกรรมจัดทำเรือนเพาะชำ 30 13,050.00 13,050.00
12 ก.ย. 65 สมัชชาพัทลุงมหานครแห่งความสุข 5 0.00 432.00
20 ต.ค. 65 กิจกรรมเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักและสารทดแทนสารเคมี 30 15,100.00 15,100.00
27 ต.ค. 65 กิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิก ครั้งที่1 30 0.00 0.00
29 ต.ค. 65 ประชุมคณะทำงานครั้งที่5 10 1,500.00 1,500.00
30 ต.ค. 65 . กิจกรรมประเมินผลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนา(ARE) 15 2,350.00 2,350.00
9 พ.ย. 65 . กิจกรรมเยี่ยมเยียนติดตามแปลงของสมาชิก ครั้งที่1 8 2,640.00 2,640.00
10 พ.ย. 65 ติดตามประเมินผลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนา ระดับหน่วยจัดการ ครั้งที่1 3 0.00 864.00
15 พ.ย. 65 ประชุมคณะทำงานครั้งที่7 10 1,500.00 1,500.00
23 พ.ย. 65 ประชุมคณะทำงานครั้งที่6 10 1,500.00 1,500.00
24 พ.ย. 65 กิจกรรมหนุนเสริมการปลูก 30 0.00 0.00
15 ธ.ค. 65 ประชุมคณะทำงานครั้งที่8 10 1,500.00 1,500.00
21 ธ.ค. 65 . กิจกรรมสร้างพื้นที่แบ่งปันผลผลิตในชุมชน 50 0.00 0.00
24 ธ.ค. 65 กิจกรรมเยี่ยมเยียนติดตามแปลงของสมาชิก ครั้งที่2 8 2,640.00 2,640.00
15 ม.ค. 66 ประชุมคณะทำงานครั้งที่9 10 1,500.00 1,500.00
15 ก.พ. 66 ประชุมคณะทำงานครั้งที่10 10 1,500.00 1,500.00
23 ก.พ. 66 กิจกรรมประเมินผลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนา ครั้งที่2 15 2,350.00 2,350.00
23 ก.พ. 66 . กิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกครั้งที่2 30 0.00 0.00
15 มี.ค. 66 ประชุมคณะทำงานครั้งที่11 10 1,500.00 1,500.00
24 มี.ค. 66 กิจกรรมเยี่ยมเยียนติดตามแปลงของสมาชิก ครั้งที่3 8 2,640.00 2,640.00
24 มี.ค. 66 กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานและจัดนิทรรศการโชว์ผลงานโครงการ 50 9,300.00 11,300.00
20 เม.ย. 66 ประชุมคณะทำงานครั้งที่12 10 1,500.00 1,500.00
30 เม.ย. 66 ค่าบริการอินเตอร์เน็ต 0 1,000.00 1,000.00
30 พ.ค. 66 ติดตามผลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาระดับหน่วยจัดการ ครั้งที่2 3 0.00 300.00
15 ส.ค. 66 งานสมัชชาพัทลุงมหานครแห่งความสุข 3 0.00 1,120.00

 

stars
9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

 

stars
10. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 14:22 น.