- พฤติกรรมมารดาขาด Health Literacy ไม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพตนเอง มีภาวะซีด ไม่รับประทานยาบำรุงเลือด และทำให้ตัดสินใจเข้ารับบริการล่าช้า
- มารดาเสียชีวิตและเด็กไม่ได้รับวัคซีน เป็นปัญหาที่มีปัจจัยกำหนดคุณภาพชีวิตที่มีความสัมพันธ์กับความยากจน และความเชื่อทางศาสนา
- ระบบบริการ ข้อมูลย้อนหลัง ๕ ปี ของเขต ๑๒ พบว่า จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล เป็นจังหวัดที่มีอัตราส่วนมารดาตายสูงเกินเกณฑ์กำหนดทุกปี เกิดจากการวินิจฉัยและรักษาล่าช้า
- สาเหตุซับซ้อนมากขึ้น ปัจจุบันสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดการตาย ๑) เป็นโรคที่ไม่ควรท้องก็ยังท้อง ๒) ปัญหาแม่แก่และแม่เด็ก และแม่ที่เกิดหลายๆ คน อยู่ที่ตัวหญิงตั้งครรภ์เอง คนวัยทำงานเป็นโรคเบาหวานความดันมากขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น ที่จะเป็นโรคความดันและชัก ในขณะตั้งครรภ์ ๓) ปัญหายาเสพติดในหญิงตั้งครรภ์ ๔) สาเหตุการดูแลในครอบครัวที่ไม่ดีพอ โดยต้องค้นหาหญิงตั้งครรภ์ในชุมชน ๕) ระบบบริการ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มีภาคประชาชนหลายๆ ส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือ ๖) ปัญหาเรื่องเด็ก คือ การระบาดโรคหัด มีการเจาะเลือดหาวิตามิน A เด็กในเขต ๑๒ เตี้ยผอม มีการวิจัยพบว่าช่วงหัดระบาดเด็กขาดวิตามิน A มีการรณรงค์การจ่ายวิตามินเอ เพื่อทำซ้ำและออกมาตรการ การส่งเสริมประชาชนตั้งแต่อุ้งเชิงกรานจนถึงเชิงตะกอน ทำอย่างไรให้เกิดการดูแลลูกให้เติบโตแข็งแรง และการดูแลในเรื่องไอคิว ในพื้นที่ตชด.พื้นที่ กปด ถิ่นธุรกันดารของพระเทพ โครงการส่งเสริมเด็กในพื้นที่ถิ่นธุรกันดาร ซึ่งเด็กส่วนหนึ่งเข้าไม่ถึงระบบบริการ
- ยาฝังเว้นระยะการมีบุตร มีการฝังยากึ่งถาวร เป็นการลดแม่ตาย ตอนนี้มีการซื้อให้กับแม่ทุกวัย โดยให้ฟรีทุกโรงพยาบาลโดยศูนย์อนามัยจัดซื้อ ได้รับงบประมาณจาก สปสช.
- ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนทุกชนิดในกลุ่มเด็กตามเขตรอยต่อชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อยู่ที่ร้อยละ ๓๐-๖๐ ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เกิดจากการกลัวผลข้างเคียงของวัคซีน และประสบการณ์ทางลบเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน ความรู้ ความเข้าใจที่มีต่อวัคซีน และพฤติกรรมการให้บริการของเจ้าหน้าที่
- ความเชื่อ โดยเฉพาะในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือฉีดแล้วเด็กไม่สบาย ซึ่งจะส่งผลต่อพ่อแม่ ทำให้การหยุดงานหรือการประกอบอาชีพที่ทำไม่ได้ เมื่อฉีดแล้วทำให้กระทบต่ออาชีพ และความเชื่อว่าวัคซีนไม่ฮาลาล
- โรคติดต่อที่ป้องกันด้วยวัคซีน ๗ จังหวัดใต้ล่าง ปี ๖๐-๖๕ โรคติดต่อที่สำคัญ ได้แก่ หัด คอตีบ ไอกรน มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในช่วงปี ๖๓-๖๔ เป็นโรคที่ติดต่อทางเดินหายใจเป็นหลัก ในเรื่องของการควบคุมของวัคซีนได้รับน้อย ตั้งแต่ปี ๖๕ ตั้งแต่เมษา-มิถุนายน ลดลง ๓ โซน ตรังพัทลุง ได้รับค่อนข้างดี สตูลสงขลาได้รับค่อนข้างดีและกลาง ๆ ขณะพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ได้รับค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กได้รับน้อย การให้บริการเชิงรุกในช่วงโควิดมีน้อย เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีภาระ และผู้ปกครองปฏิเสธวัคซีน
- วัคซีนต้องฉีดใหม่เสมอ แผนงานด้านควบคุมโรค ขวบปีแรกต้องพาเด็กไปรับวัคซีนอย่างน้อย ๗ ครั้ง ขวบปีแรกเป็นวัคซีนที่สำคัญสูงสุด หลังจากนั้นเป็นวัคซีนกระตุ้น หากยังเก็บตกไม่ได้ในช่วง ๓-๕ ปีจะมีวัคซีนเสริม ในกลุ่ม ๗-๑๒ ปี ในพื้นที่ ๓ จังหวัดต่ำสม่ำเสมอและตกถ้วนหน้าทุกอำเภอ ร้อยคนต้องได้เก้าสิบคน หัดและเยอรมันคางทูมครั้งที่ ๒ ในโซนพัทลุงตรังสตูล พบปัญหาในพื้นที่ที่เป็นเกาะ และสงขลา ๔ อำเภอ โดยมีอำเภอที่ต่ำสุดในระดับประเทศ ได้แก่ ตำบลบาเจาะ ในพื้นที่ศรีสาคร เจาะไอร้อง จ.ปัตตานี อ.ทุ่งยางแดง ปัจจัยสำคัญ ๑) เจ้าหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ๒) เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการต้องมีใจจดจ่อและทำอย่างต่อเนื่อง ๓) เครือข่ายภาคประชาชน ผู้นำทางจิตวิญญาณ ต้องให้ความร่วมมือ
- สคร.เขต ๑๒ มีการประกวดการฉีดวัคซีน
- ประเด็นหลักคือการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีน และเรื่องของปัญหาการเชื่อมโยงหน่วยบริการสาธารณสุข โดยการกำหนดรูปแบบการส่งต่อในหน่วยบริการ มีแม่ข่ายในการรับจากหน่วยงานในพื้นที่ ระบบการส่งต่อ คือพยายามไม่ให้ออกนอกระบบสาธารณสุข เนื่องจากคำนึงถึงขอบเขตการให้การบริการ และขอบเขตสิทธิในการรักษา แต่การรับรู้ของผู้ปฏิบัติที่ยังไม่เข้าใจที่ตรงกัน โดยเขตสุขภาพ ๑๒ต้องมีการสื่อสารให้มีการเปิดกว้างในการส่งต่อ นโยบายคือไม่ต้องมีใบส่งตัว ใบส่งตัวคือใบที่บอกว่าคนไข้ได้รับการดูแลอย่างไรมาแล้ว เป็นประเด็นสำคัญ คือการส่งต่อตามศักยภาพตามความจำเป็น โดยไม่คำนึงถึงภูมิศาสตร์
- ปัญหาไม่ใช่เพียงประเด็นแม่และเด็ก เช่น ประเด็นเด็กมีพัฒนาการช้า นมอนามัยไข่ ต้องการให้เด็กโตอย่างสมส่วน ซึ่งสิ่งที่แจกไปไม่ทั่วถึงไม่ตอบสนอง เด็กเองมีหลายกลุ่มคือเด็กที่ไม่ได้อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กที่ออกจากระบบพัฒนาของศูนย์เด็กเล็ก การแก้ปัญหาควรมองภาพรวมที่ครอบครัว และเน้นการวัดผลความสำเร็จต้องวัดไปที่ตัวเด็ก ว่าเป้าหมายมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน ระยะสั้น กลาง ไกล อีคิวเป็นอย่างไร มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นหรือไม่
- สปสช.เขต 12 มีการจัดทำข้อมูลที่ทำเพื่อลดปัญหา มีความพยายามในการทำรายงานประจำปี โดยนำเรื่องของข้อมูลที่มีไปสู่การประเมินผลอย่างน้อย ๖ เดือน ไปใช้ประโยชน์ได้
- มีการจัดตั้งศึกษาธิการจังหวัดทุกพื้นที่ มีการติดตามพฤติกรรมของเด็ก มีกิจกรรมการช่วยเหลือในการดูแลเด็กวัยรุ่นที่ไม่พึงประสงค์ การจัดทำกิจกรรมกลุ่มจังหวัดได้รับการจากสาธารณสุขในเรื่องสุขภาวะของแม่ ทำโครงการเสนองบประมาณกลุ่มจังหวัดในการดูแลสุขภาวะอนามัยในการเตรียมความพร้อมการเป็นแม่ การดูแลเด็ก
join_inner
เป้าประสงค์ร่วม
1 | ยกระดับคุณภาพชีวิตในแม่และเด็ก ดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสามารถเข้าถึงบริการ วางแผนครอบครัว ชะลอการตั้งครรภ์ไม่พร้อม |
2 | พัฒนาระบบบริการ ลดการเสียชีวิตของแม่และเด็ก ลดภาวะซีดในหญิงมีครรภ์ เพิ่มการเข้าถึงระบบสุขภาพแบบเชิงรุก/พัฒนาเด็กด้านพัฒนาการ โภชนาการ วัคซีนและการดูแลสุขภาพช่องปาก |
join_right
เป้าประสงค์เฉพาะ
1 | เพิ่มรายได้ ลดความยากจนในกลุ่มครอบครัว ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ |
2 | ผลักดันนโยบายเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า เข้าถึงสิทธิเบี้ยเลี้ยง/เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด |
project version 4.4.01 release 2022-02-13. ช่วยเหลือ