คนสร้างสุข

ตำบลแหลมสอม มี 11 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมดของตำบล จำนวน 46,875 ไร่ มีพื้นที่ทำการเกษตรจำนวน 32,800 ไร่ จำนวนประชากรปี 2565 มีจำนวน 5,787 คน โดยในสมัยก่อนสภาพพื้นที่ในหมู่ที่ 7 ตำบลแหลมสอม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง พื้นที่จำนวน 60 % ประชากรใช้ประกอบอาชีพทำนา โดยอาศัยน้ำฝนเป็นหลักใน การทำ ปัจจุบันสภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไป ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในการ ทำนา ประกอบกับที่ผ่านมา ได้มีหน่วยงานส่งเสริมการปลูกยางและปาล์มในพื้นที่นาข้าวที่หยุดพักการทำนาแล้ว พื้นที่ที่ใช้ในการทำนาส่วนใหญ่จึงเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นพื้นที่สำหรับการปลูกยางพาราและสวนปาล์มแทน โดย เหลือพื้นที่ที่ใช้ในการทำนา คือ แปลงนาโปหนับ ที่มีจำนวนพื้นที่ จำนวน 7 ไร่ เพียงแปลงเดียว ส่วนที่ 2: รายละเอียดโครงการ 3 9 2 0 3 0 0 5 2 4 7 1 8 1 6 ในปีผลิต 64/65 ตำบลมีการปลูกข้าว จำนวน 7 ไร่ ได้ผลผลิตทั้งหมด 1,500 กิโลกรัม (ข้อมูลโดยตรง จากเกษตรกร) สามารถคำนวณเป็นข้าวสารได้ทั้งหมด 1,050 .กิโลกรัม และข้อมูลการบริโภคข้าวภายในตำบล ต่อ 1 ปีโดยประชากรในตำบลแหลมสอมมีจำนวน 5,787 คน สามารถคำนวณเป็นข้าวสารที่ต้องบริโภคในจำนวน 1 ปี เท่ากับ 480,321 กิโลกรัม (นำจำนวนประชากรคูณปริมาณข้าวสารที่คนไทยบริโภคเฉลี่ยต่อคนต่อปีมีค่า กลางเท่ากับ 83 กิโลกรัมต่อปี) เมื่อทราบปริมาณข้าวสารที่ต้องบริโภคทั้งปีกับที่ผลิตภายในตำบลต่อปีเราจะทราบ อัตราส่วนที่เราสามารถผลิตได้ในตำบลเท่ากับร้อยละ 1.2048 ของปริมาณข้าวสารที่ต้องการบริโภคทั้งหมด ซึ่ง ในกลุ่มมีสมาชิก 23 ราย พื้นที่ปลูกข้าวนาและข้าวไร่ 7 ไร่ และจากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า ข้าวในตำบลแหลม สอมยังขาดแคลนอีกจำนวนมาก จึงทำโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์เพิ่มสมาชิก และให้สมาชิกเดิมเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าว โดยวิธีการปลูกข้าวนาปรัง และข้าวไร่ เพื่อให้มีข้าวเพียงพอต่อความต้องการของตลาด มีการแก้ปัญหาร่วมกัน ประสานความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร,สถานีพัฒนาที่ดิน,กรมชลประทาน,รพ.สต และ หน่วยงานต่าง ๆ จัดให้มีการศึกษาดูงาน แปลงนา การท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อประยุกต์ใช้ในนาโปหนับต่อไป นายหนับ หะหมาน เจ้าของที่นา และเยาวชนกลุ่มหนึ่ง ที่มีความสนใจในการทำนาได้รวมกลุ่มกันร่วมกัน ทำนามาโดยตลอด โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้เห็นวิถีชีวิตและวิธีการของการทำนา มีน้ำจากคลอง ส่งน้ำของชลประทานปะเหลียน จึงสามารถทำนาได้ปีละ 2ครั้ง ข้าวที่เป็นผลิตผลจากนาโปหนับ เป็นข้าวที่มีคุณภาพ ปลอดจากสารเจือปน ได้นำใช้บริโภคในครัวเรือน รวมไปถึงสมาชิกในชุมชนบ้านหน้าลาและบ้านนาทุ่ง ส่งผลให้ ชาวบ้านในชุมชนมีสุขภาพที่แข็งแรง และข้อมูลจากการปลูกข้าวไร่ของ นางดะ แก้วเกิด ซึ่งได้ประกอบอาชีพ การทำไร่ตั้งแต่อายุ 7 ปี ได้บริโภคข้าวที่เป็นผลผลิตจากการทำไร่ของตนเอง ปัจจุบันอายุ 85 ปี ยังคงมีสุขภาพ แข็งแรง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ กลุ่มลูกหลานมีสุขภาพดี เป้าประสงค์ในอนาคต ทางวิสาหกิจชุมชนนาโปหนับ มีความมุ่งหวังจะขยายพื้นที่ในการปลูกข้าวให้มาก ขึ้น เพื่อให้ประชากรในพื้นที่ได้บริโภคข้าวที่มีคุณภาพจากวิสาหกิจชุมชนนาโปหนับอย่างเพียงพอ โดยไม่มีการนำ เข้าข้าวจากพื้นที่ภายนอก ประกอบกับในบางที่ ชาวสวนยางพาราที่ทำการขอทุนสงเคราะห์สวนยางในช่วงปีแรก ได้รับการสนับสนุนจากการยางแห่งประเทศไทยในการเพิ่มพื้นที่เพื่อให้ใช้ในการปลูกข้าวไร่ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทางวิสาหกิจชุมชนนาโปหนับยังขาดงบประมาณที่จะมาใช้สนับสนุน ให้กับผู้ที่สนใจที่ จะปลูกข้าวไร่ โดยมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวไร่ให้ได้ จำนวนพื้นที่ 20% สำหรับปีนี้ และขยายต่อไปให้เพียงพอ สำหรับ คนตรัง ที่จะได้บริโภคข้าวดีที่มีคุณภาพ เพื่อสุขภาพดี สุขภาพจิตดี มีกำลังแรงใจในการทำสิ่งดีดี อันจะ นำไปสู่สภาพสังคมและเศรษฐกิจที่ดีต่อไป